47. พี่เสือ กระต่ายน้อยกับสิงคโปร์ 2
วันนี้อากาศเย็นลงนิดหน่อย พี่เสือพากระต่ายไปห้าง Vivo City เพื่อนั่ง MRT สายพิเศษข้ามไปยังเกาะ Sentosa
ห้าง Vivo City มีร้านขายขนมสีสันสดใสจนกระต่ายน้อยล่องลอยไปยืนเกาะกระจก เอาหน้าแนบ ลำบากพี่เสือต้องลากคอเสื้อเจ้าตัวน้อยให้ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด
ป้านกบอกว่า ยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์เล็กนิดเดียว แค่ครึ่งวันก็พอ พี่เสือก็เห็นด้วย ถ้าเวลาเหลือค่อยพากระต่ายน้อยไปเดินเล่นแถวๆ Little India แถวๆ นั้นมีห้างใหญ่ชื่อมุสตาฟา เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ขายของสารพัดอย่าง ที่คุณแม่ชอบใจคือราคาของน้ำหอมที่นี่จะถูกกว่าที่อื่น
สถานี Sentosa Express นั้นอยู่ชั้นบนสุด ตอนนี้กระต่ายใช้บัตร MRT เป็นแล้ว มือน้อยแปะบัตรดังป๊าบกับเครื่อง เดินเข้าไปอย่างอารมณ์ดี มีพี่เสือสะพายขวดน้ำเดินตาม
พี่เสือใช้เวลารอรถตรวจดูสัมภาระ พาสปอร์ตเก็บไว้ในเซฟของโรงแรม สบายใจไปแล้ว ที่เหลือคือน้ำดื่ม กระเป๋าเงินและบัตร MRT ส่วนของน้องพี่เสือรีบลากคนตัวน้อยที่ตื่นเต้นจัดเข้าห้องน้ำ จัดยาพ่นให้หนึ่งครั้งแล้วเดินจูงมือกันขึ้นรถ
คนบนรถแน่นขนัด เป็นนักท่องเที่ยวเสียส่วนใหญ่ พี่เสือเลยยิ่งวิตก จับไหล่เจ้าตัวบางให้ชิดผนัง เอาตัวเองบังอีกชั้น ท่าทางหวงก้างยิ่งกว่าแม่งู
"กระต่าย อย่ามัวแต่เหม่อนะ"
เด็กน้อยตัวขาวแก้มแดงเงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้าแรงๆ แต่อีท่าแบบนี้พี่เสือไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่ เลยสำทับอีกครั้ง "จับมือพี่ไว้ คนเยอะ หลงมาจะลำบาก"
"อื้อ"
"ระวังหมวกด้วย ใส่หมวกตลอด แดดแรง รู้ไหม ?"
"อื้อ"
พี่ชายยังไม่ทันสั่งอะไรเลย รถไฟก็หยุดที่สถานี Waterfront แล้ว พี่เสือเลยรีบกระชับเป้ จูงเด็กน้อยลง
เดินตามป้ายมาไม่นาน ก็ถึงลูกโลกสีฟ้าสดใส มีนักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปบางตา พี่เสือถอนหายใจเบาๆ แล้วชวนน้องถ่ายรูปจนพอใจ กระต่ายก็กระโดดโลดเต้นไปยังร้าน Candylicious ร้านขายขนมหวานที่ตกแต่งสดใส มีต้นไม้ออกผลเป็นขนมหวานอยู่หน้าร้าน
"ว้าวว พี่เสือๆ ขนมๆ" น้องเล็กรีบกระโดดเกาะพี่ชาย แบมือขอตังค์ทันทีที่เห็นลูกกวาดและขนมหวานมากมายในร้าน พี่เสือเลยต้องรีบจูงน้องออกจากร้านดูดทรัพย์
"ไว้ขากลับค่อยซื้อ ตอนนี้เข้าไปก่อน"
กระต่ายมองชอกโกแลตห่อโตแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อก พยักหน้ารับเศร้าๆ
"เอาล่ะ ไปทางไหนดี ?" พี่เสือกางแผนที่ ใส่แว่นกันแดดตัวตลกที่กระต่ายร้องจะเอาเมื่อสักครู่ ซึ่งพี่ชายก็บ่นอุบอิบก่อนจะย่อมควักเงิน แล้วยอมเป็นคนใส่แต่โดยดี
"ซ้ายไปเมืองเชร็ค ขวาไปทรานฟอร์มเมอร์"
กระต่ายดูดน้ำในกระติกดังพรืด พยักหน้ารัวๆ แล้วชี้ไปยังด้านซ้าย "ยักษ์ตัวเขียวๆ อ่ะเหรอ ?"
"อืมม มีไลฟ์ มีของเล่น... เด็ก"
ยิ่งได้ยินว่าเด็กยิ่งคึก กระต่ายกระโดดโลดเต้นลืมร้านขายขนมเสียสนิท "มีเจ้าลาด้วย ?"
"อืม ด็องกี้ของกระต่ายไง"
"งั้นไปกันเถอะ! หนูอยากเห็นด็องกี้ ด็องกี้!"
พี่ชายเลยจูงมือน้องชายฝาแฝดไปยัง Far Far Away Land แค่เห็นสะพานเข้าปราสาทใหญ่โต กระต่ายก็สะบัดมือ วิ่งเข้าหาแล้ว กวักมือเรียกพี่ชายใหญ่
"พี่จ๋าๆ ถ่ายรูปๆ"
พี่เสือวิ่งตามแทบไม่ทัน กระต่ายถ่ายรูปจนพอใจแล้วเลยคว้ามือพี่ชายเข้าปราสาท "ข้างในมีอะไรเหรอ ?"
พี่เสือเปิดแผนที่ตอบ "หืมม โรงหนังสี่มิติ"
"ว้าวๆ หนูอยากดูหนัง" ผู้ปกครองเลยเช็กรอบแล้วเดินเข้าแถวพลาง สอนพลาง
"กระต่าย อย่าคึกนักสิ เดี๋ยวหลงกันนะ"
"ก็พี่เสือช้านี่นา" กระต่ายทำปากจู๋ คางยื่นให้ พี่เสือหัวเราะขำ เจ้าตัวเล็กเลยทำแก้มป่องให้อีก พี่ชายเอานิ้วจิ้มปากอิ่มจิ้มลิ้ม แล้วตบแก้มป่องๆ เบาๆ
กระต่ายแลบลิ้นล้อเลียน "พี่เสือแก่แล้วล่ะสิ"
"หืม ? ใครบอกว่าแก่ ? ไปขึ้นรถไฟเหาะพิสูจน์กันไหม ?" ว่าพลางจะอุ้มคนตัวเล็กออกจากแถวจริงๆ กระต่ายเลยกระโดดหนี หัวเราะร่า
"พี่เสือแก่ ไม่ยอมดูด็องกี้ ด็องกี้กับหนูแล้วนี่"
"กระต่ายต่างหากที่เด็ก เด็กน้อยๆ"
กระต่ายทำปากเชิด ค้อนวงโตให้ "หนูโตแล้วต่างหาก!"
พี่เสือส่ายหน้า โอบเอวเจ้าตัวเล็กหลวมๆ "โตก็โต เหนื่อยไหม คึกจัง ?"
แถวเริ่มเคลื่อน กระต่ายเริ่มคุ้นชินกับสัมผัสในที่สาธารณะแล้วจึงไม่เขินอายอีกต่อไป เลยซบไหล่พี่ชายออดอ้อน "ฮื่อ ยังเลย ถ้าหนูเหนื่อยพี่เสือต้องอุ้มนะ"
พี่ชายยิ้มทั้งปากทั้งนัยน์ตา "แน่นอนอยู่แล้วครับ"
ออกจากโรงหนัง อากาศเริ่มร้อนขึ้น กระต่ายดื่มน้ำจนหมดกระติกแล้ว เลยวิ่งปรื๋อไปหลบที่ร่ม ใช้พี่ชายไปซื้อน้ำมาใส่ เช่นเคย พี่เสือเดินกลับมาพร้อมเสียงบ่นราคาน้ำ กระต่ายทำหูทวนลมแล้วดื่มอีกปรื๊ด จึงมีแรงไปเล่นรถไฟมังกรเหาะต่อ
กระต่ายไม่กลัวรถไฟเหาะ เลยมาเกาะแขนพี่ชายชี้ไปยังโซนมาร์ดากัสการ์ที่เดินผ่านมาตั้งแต่ตอนแรก "ตะกี้พี่เสือบอกว่ามีล่องแก่ง"
"หืม ? ล่องแก่งเด็กน้อย" พี่ชายยังเย้าไม่เลิก น้องเล็กทำปากยื่นให้ แล้วฉุดมือพี่ชายไปเล่น
โซนนี้ตื่นตาน้อยกว่าปราสาทของกระต่าย น้องเล็กร้องจะขึ้นม้าหมุน พี่ชายทำหน้าปุเลี่ยนแต่ก็ยอมขึ้นเป็นเพื่อน เจ้าตัวดีหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ กลมกลืนไปกับเด็กประถมคนอื่นๆ
พี่เสือแอบเหงื่อตก จะมีใครหาว่าเขาลักพาตัวเด็กมาไหมนะ ? พาสปอร์ตก็อยู่ที่โรงแรมเสียด้วยสิ
ถัดจากนั้นมา ทั้งคู่ก็ขึ้นล่องแก่งเด็กน้อย ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นนัก มีหุ่นตัวละครกับเสียงสัตว์ปลอมๆ แต่กระต่ายก็สนุก
ทั้งคู่เดินไปจนถึงโซน The lost world กระต่ายวิ่งเข้าหาหุ่นไดโนเสาร์ ร้องบอก "พี่ไดโน่ๆ"
"นั่นสิ เหมือนจังเลย" พี่ชายเออออ ตอนเด็กๆ พี่เสือมีตุ๊กตาไดโนเสาร์ตัวหนึ่งชื่อพี่ไดโน่ กระต่ายชอบขโมยไปฟัดบ่อยๆ จนทะเลาะกันก็มี
ทั้งคู่เดินตรงไปยังเครื่องเล่นล่องแก่งยอดฮิต Rapids Adventure ซึ่งคนต่อคิวยาวมาก พี่เสือเลยพาน้องไปซื้อเสื้อกันฝนก่อน อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจึงจะใกล้ถึงคิว
"เมื่อยจังเลย" น้องเริ่มงอแง พี่เสือเลยให้น้องยืนอิง แล้วเอามือควานเข้าไปในเป้ เจอชอกโกแลตแท่งหนึ่งแล้วยื่นให้น้องน้อย กระต่ายเงียบลงไปพักหนึ่งก็งอแงอีก
"หิวน้ำแล้ว พี่จ๋า" พี่เสือเปิดกระติกน้ำให้ดื่ม กระต่ายดูดเบาๆ แล้วยื่นให้ "พี่เสือกินหน่อยสิ"
พี่ชายงับหลอดแล้วถอนหายใจ เจ้าตัวเล็กเหงื่อออกจนผมชื้นหมด เขาถอดหมวกของคนตัวเล็กออกแล้วพัดให้เบาๆ
"เช็ดหัวล้านหน่อยเร็ว"
กระต่ายหัวเราะ หยิบผ้าเช็ดหน้าในเอี๊ยมมาเช็ดหน้าผากตัวเอง มีพี่เสือช่วยพัดให้ทำให้ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย พี่ชายแอบฉวยโอกาสจุ๊บหน้าผากเบาๆ
คนตัวเล็กอมยิ้ม เขย่งตัวขึ้นเช็ดหน้าผาก รอบคอให้พี่ชายแล้วดุเสียงหวาน "พี่เสือก็เหมือนกัน ดูสิเปียกไปหมด"
ท่าทางน่ารักของทั้งคู่เรียกรอยยิ้มจากสาวสิงคโปร์ข้างๆ เธอยื่นหน้ามาถามด้วยสำเนียงซิงลิช "How long have you guys been married?"
พี่เสือหัวเราะในลำคอ "Not really long!"
เจ้าเครื่องเล่นนี่ทำเอาตัวเปียกตามความคาดหมาย ตามด้วยอาการมึนศีรษะเล็กน้อย พี่เสือพาน้องไปเป่าแห้งที่ห้องเป่าแห้ง กระต่ายเล่นลมร้อนจนสนุกไป
ต่อมาที่ Canopy Flyer ซึ่งเป็นกระเช้าชมวิว พี่เสือเสนอให้นั่งเพราะจะได้ตากเสื้อผ้าให้แห้งด้วย กระต่ายเห็นด้วย ทั้งคู่เลยนั่งหันหลังชมวิวกันเพลิน
ลงมาจากกระเช้าชมวิวก็บ่ายแล้ว กระต่ายบ่นหิว พี่เสือเปิดแผนที่ตามเคย เดินตามป้ายสักพักก็ถึง Discovery Food Court กระต่ายน้อยกินบะหมี่เกี๊ยวน้ำ พี่เสือกินข้าวมันไก่ ซึ่งก็รสชาติแย่พอกันทั้งคู่ แต่ด้วยความหิว กระต่ายเลยแอบจิ๊กไก่พี่ชายไปสองสามชิ้น กินเสร็จยังไม่พอใจ เจ้าตัวเล็กหันรีหันขวางเห็นพนักงานเข็นรถขายนาโช่ เลยกระตุกเสื้อพี่ชายยิกๆ
"พี่เสือๆ อะไรอ่ะ ?"
พี่เสือคว้าทิชชู่เช็ดปากให้น้อง "นาโช่ครับ"
ดวงตากลมโตเป็นประกาย "น่ากินจัง"
"กินไหม ? เดี๋ยวไปซื้อให้" พี่เสือรู้แกว กระต่ายส่ายหน้ายิก
"หนูไปเองๆ ตรงนี้เอง"
"หืม ? แน่ใจนะ"
"อื้อ ง่ายนิดเดียว ฮาวมัช วันพลีส" กระต่ายออกเสียงโชว์ด้วย ใครบอกลูกแม่จุ๋มเก่งอยู่คนเดียว พี่เสือหัวเราะแล้วยอมแพ้ ยื่นเงินให้
"ตังค์เราก็มีนี่"
"ใช้เงินพี่เสือดีกว่าาาา อร่อยกว่า" หัวเราะชอบใจแล้วกระโดดลงจากที่นั่งดังตุ๊บ พี่ชายตะโกนไล่ๆ มา
"อย่าไปไหนไกลนะ ซื้อเสร็จแล้วรีบเข้ามา"
ไม่นานนัก กระต่ายก็ตีหน้าเศร้ากลับมาพร้อมนาโชหนึ่งถาด พี่เสือขมวดคิ้ว "เป็นอะไรไป ?"
กระต่ายเงยหน้ามองพี่ชาย ตอบเสียงสั่น "มัน... ไม่อร่อยเลยอ่ะ..."
พี่เสือถอนหายใจแรง คว้าถาดนาโชมานั่งกินคนเดียว ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กเดินสำรวจในศูนย์อาหารตามใจชอบ
อิ่มแล้วจึงจูงมือน้องเข้าร้านขายของที่ระลึก ราคาของเล่นข้างในแพงจนพี่เสือขนหัวลุก ดีที่กระต่ายไม่ได้คลั่งไคล้ไดโนเสาร์เลยไม่ได้ร้องงอแงจะเอาอะไร มือใหญ่เลยจูงมือน้องไปยังโซนถัดไปด้วยความโล่งอก
พี่เสือกางแผนที่พร้อมคู่มือ เงยหน้าขึ้นมาบอก "กระต่าย เราต้องเอาสัมภาระไปฝากก่อน"
กระต่ายเคี้ยวตังเมที่เอามาจากเมืองไทยหยับๆ พยักหน้า พอไปถึงโซน Ancient Egypt กระต่ายก็ยิ่งตื่นเต้น
"โห ใหญ่จังเลย"
"อืม" รูปปั้นต่างๆ เลียนแบบมาจากอียิปต์ มีขนาดใหญ่โตจนน้องเล็กแหงนคอมองยอด กระต่ายรีบหันมาหาตากล้องส่วนตัว "ถ่ายรูปกันๆ"
พี่เสือฝากคุณป้าชาวอินเดียคนหนึ่งถ่ายรูปคู่ให้หลายช็อต คุณป้าใจดี โอบมือพี่เสือและกระต่ายไว้ เหมือนอวยพรอะไรสักอย่าง พี่เสือหัวเราะร่า บอกแธ๊งกิ้วไม่ขาดปาก กระต่ายได้แต่ทำหน้าเหรอเหรา พอสะกิดให้แปล พี่ชายก็อมยิ้ม ไม่ยอมท่าเดียว
กระต่ายเลยงอนตุ๊บป่องไปเครื่องเล่น Revenge of the Mummy คนเดียว พี่เสือรีบวิ่งตามมาคว้าแขนแทบไม่ทัน
"กระต่าย!"
"ฮึ!"
"นี่จะเล่นเหรอ ?"
กระต่ายทำหน้าเหรอหรา "อ้าวว ?"
"เป็นรถไฟเหาะ ลุยด่านผีสิงน่ะ"
กระต่ายแทบออกจากแถวไม่ทัน "แง้! หนูกลัวผี!"
"ไม่เป็นไรหรอก ผีปลอมน่ะ พวกมัมมี่อะไรแบบนี้ไง"
น้องเล็กเงยหน้ามองพี่ชายอย่างไม่ไว้ใจนัก "ไม่น่ากลัวนะ ?"
"อื้ม" พยักหน้าสำทับ ดวงตาแพรวพราว หึ... กระต่ายรู้หรอกว่าพี่เสืออยากเล่นน่ะ!
รถไฟเหาะไม่น่ากลัว แต่สเปเชียลเอฟเฟคนี่สิน่ากลัว! ขนาดนั่งติดพี่เสือแล้ว ยังเห็นมัมมี่สามมิติวิ่งไล่อยู่เลย ฉากที่ต้องเจอกับไฟก็รู้สึกร้อนๆ ด้วย พอกระต่ายลงมาจากรถไฟเหาะถึงกับเกาะแขนพี่ชายไว้เลย
พี่เสือลูบศีรษะเบาๆ จุ๊บกระหม่อมแล้วถาม "แล้วนี่จะไปเล่นรถไฟเหาะไหวเหรอ ?"
กระต่ายทำหน้าแหย "รถไฟเหาะ ?"
"อืม โซนไซไฟ"
กระต่ายพยักหน้ารับ "เอาก็เอา"
พอออกมาบ่ายคล้อย มีตัวละครแต่งคอสตูมให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป กระต่ายลืมความกลัวรีบวิ่งเข้าไปหาคลีโอพัตราสาวสวย พี่เสือวิ่งตามเจ้ากระต่ายน้อยแทบไม่ทัน
โซนไซไฟมี Battlestar Galactica CYLON เป็นตัวเด็ด รถไฟเหาะตีลังกาสุดมันที่พี่เสือตาวาวๆ ตั้งแต่อยู่เมืองไทย โดยขาทั้งสองข้างจะหย่อนลงให้ยิ่งเสียว กระต่ายได้แต่หน้าซีดเกาะชายเสื้อพี่ชายต่อแถว
"ฮืออ ไม่น่ากลัวนะ" ฟังเสียงกรี๊ดสิ...
พี่เสือส่ายหน้า "ไม่มีอะไรหรอก"
"ไม่หล่นนะ ?" กระต่ายกลัวนี่นา
พี่เสือหัวเราะ "ไม่หรอกๆ เร้ว ตาเราแล้ว"
พี่เสือช่วยดูน้องคาดเข็มขัดเรียบร้อย ตัวล็อกล็อกร่างแบบบางสนิทดีจึงวางใจ....
กระต่ายนั่งดมยาดมอยู่ข้างๆ พี่ชาย พิงศีรษะอิงไหล่กว้าง "ฮือออ"
"ไม่ตกหรอก เห็นไหม ?" ดีที่ไม่อ้วก เสือถอนหายใจ ปรายตาไปยังรถไฟเหาะอีกลำที่เสียวน้อยกว่า
"ไม่เอาแล้วนะ!" กระต่ายขู่ฟ่อ
"ทรานฟอร์เมอร์ล่ะ ?" พี่ชายถามเสียงอ่อย
"ไม่เล่นแล้ว! ไหนบอกจะพาหนูไปดูพาเหรด ?" พี่เสือยกนาฬิกา อืมม ก็ใกล้เวลาแล้วล่ะนะ
กระต่ายครางฮือๆ พี่ชายเลยจำใจเดินเลยเครื่องเล่นอีกอัน พาน้องไปยังโซน New York
พอเห็นร้านรวงที่จำลองมาจากเมืองนิวยอร์คสมัยก่อนกระต่ายค่อยมีชีวิตชีวาขึ้น รถสวยๆ สีสันสดใส กับโชว์ต่างๆ เรียกความสนใจจนกระต่ายแวะดูทุกที่ เจ้าตัวเล็กชอบใจตุ๊กตารางวัลออสการ์จำลองที่มีตำแหน่งประหลาดๆ ที่ตรงร้าน Mel ’s Drive-In ก็มีโชว์พี่สาวคนสวยสามคนใส่ชุดเมดฟูฟ่อง ร้องเพลงอยู่ กระต่ายไม่พลาดรีบวิ่งไปเกาะขอบเวทีดู พี่เสือชวนถ่ายรูปได้รูปสวยๆ หลายรูป
"มา คนเก่ง เช็ดเหงื่อก่อน" พี่เสือนั่งยองๆ หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อให้น้อง "ร้อนไหม ?"
กระต่ายพยักหน้า แล้วลูบท้อง "อื้อ หิวแล้วด้วย"
พี่เสือพยักหน้า พาน้องไปกินเซ็ทเบอร์เกอร์ด้านใน กระต่ายชอบการตกแต่งของร้านที่เหมือนในหนังยุคโบราณมาก ชี้ชวนพี่เสือดูนั่นดูนี่ไม่ขาดปาก
"เหมือนในหนังของคุณพ่อเลยเนอะ"
"ครับ กินอีกคำนะตัวเล็ก" พี่เสือหยิบเฟรนช์ฟรายจิ้มซอสมะเขือให้น้องเข้าปาก
"น่ารักจังเลยยย พี่สาวก็สวยด้วย"
"กินเบอร์เกอร์นะ" กระต่ายงับเบอร์เกอร์ตามเสียงหลอกล่อ พี่เสือแอบถอนหายใจ เพราะเล่นมาก เดินมาก กระต่ายเลยไม่งอแงเรื่องของกิน ยอมกินแต่โดยดี
อิ่มแล้วทั้งคู่จึงปักหลักลงแถวๆ หน้าร้าน รอดูพาเหรด กระต่ายเมื่อยพอดีกับพี่เสือที่นั่งลงกับพื้น ฉุดน้องเล็กให้นั่งตัก ก้นกลมๆ จะได้ไม่เปื้อน
กระต่ายชอบพาเหรดจนสะกิดให้พี่ชายถ่ายรูปเยอะๆ แต่พอออกจากสวนสนุกก็หมดแรง เดินลากขา เกาะไหล่พี่ชายหน้าตาเฉยจนกระทั่งถึงร้านขายขนมที่หมายตาไว้
คนตัวเล็กกระตุกแขนพี่เสือให้ไปถ่ายรูปคู่กับต้นลูกกวาดยักษ์หน้าร้านแล้วเจ้าตัวก็รีบวิ่งปร๋อเข้าร้าน ขากลับออกมากระต่ายก็หอบขนมกองโตออกจากร้านสมใจนึก และยังมีพี่ชายหอบหิ้วขนมหลายถุงเดินตาม พี่เสือเห็นว่ายังพอมีเวลา จึงพาน้องไปดูเมอร์ไลอ้อนที่สถานี Imbiah Station
เมอร์ไลอ้อนที่นี่ตัวใหญ่ แต่กระต่ายตื่นเต้นแป๊บเดียวก็ถ่ายรูปจนหมดท่าแล้ว พี่เสือหัวเราะเจ้าตัวดีที่เล่นจนหมดแรงแล้วพาน้องกลับมายังห้าง Vivo City
"กินอะไรดี ?"
กระต่ายขมวดคิ้ว เริ่มงอแงอีกแล้ว "ฮื้ออ หนูเหนื่อยแล้ว จะกลับแล้ว"
"ครับๆ กลับก็กลับ แล้วข้าวเย็นล่ะ ?"
กระต่ายส่ายหน้า หาวหวอด "ง่วงแล้ว ไม่กินแล้ว"
"งั้นสั่งรูมเซอร์วิสไหม ?" แพงไหม... แพง! แต่ทำยังไงได้ น้องเล็กสำคัญที่สุดนี่นา "หรือนั่งกินแถวนี้ แล้วไปพักที่โรงแรม คืนนี้ไปชอปปิ้งที่มุสตาฟา ?"
"มุสตาฟา ? มีขนมไหม ?" กระต่ายตาโตทันใด พี่เสือรีบพยักหน้า กระต่ายยิ้มยิงฟันตอบ "งั้นกินแถวนี้ก็ได้"
มื้อเย็นสองพี่น้องฝากท้องไว้ที่ฟู๊ดคอร์ทอีกครั้ง คราวนี้กระต่ายลองลักซาอีกทีกับชาไข่มุก พี่เสือกิน Nasi Padang หรือข้าวราดแกงมาเลย์ที่ข้าวหมักกับกะทิ ส่วนกับก็คล้ายๆ กับเมืองไทย
ลักซาหรือก๋วยเตี๋ยวเปอรานากันนั้นมีเส้นคล้ายขนมจีน แต่น้ำซุปเป็นแกงเผ็ดกะทิ ใส่เต้าหู้ทอด บางที่ใส่อาหารทะเล กระต่ายถูกใจจนกินเกลี้ยงชาม
ข้าวราดแกงของพี่เสือก็อร่อยดี ถึงสีจะเข้มแต่ไม่เผ็ดมาก กระต่ายถูกใจอีกแล้วเลยยิ่งอารมณ์ดี
สองพี่น้องขึ้นรถ MRT กลับโรงแรมเพื่อไปอาบน้ำ พักผ่อนแล้วคืนนี้พี่เสือจะได้พาน้องลุยห้างมุสตาฟาที่ขึ้นชื่อ
จาก Habour Front พี่เสือขึ้นสายสีม่วง 1 สถานี เพื่อไปเปลี่ยนสายที่ Outram Park เป็นสีเขียว หลังจากนั้นก็พากระต่ายน้อยที่หัวเริ่มซุกกับไหล่ตัวเองนั่งอีก 1 สถานี จนกระทั่งไปลงที่ Tanjong Pagar พอไม่ค่อยมีคน พี่เสืออุ้มน้องให้หัวพาดบนบ่า รวบบั้นท้ายกลมๆ ด้วยแขนข้างเดียว กระต่ายก็ว่าง่าย ซุกไหล่พี่ชายจนหลับไป
กระต่ายตื่นขึ้นมาอีกทีตอนสองทุ่มกว่า พี่เสืออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว กำลังพับเสื้อผ้ากับข้าวของแพ๊คใส่กระเป๋า กระต่ายสะบัดศีรษะอย่างงงๆ
"พี่เสือ ?"
"ตื่นแล้วเหรอคนดี ?" พี่เสือไม่สวมเสื้อ นุ่งแต่กางเกงสามส่วนตัวเดียวโฉบมาจุ๊บหน้าผากน้อย กระต่ายเอนตัวเข้าหาอย่างคนขี้อ้อน
"จะไปไหนดี ?"
พี่เสือหัวเราะ โอบเอวบางให้ลุกขึ้นจากเตียง "ดูสิ ไม่ทันตื่นก็จะเที่ยวอีก ไม่เรียกว่าเด็กจะเรียกว่าอะไร"
"ฮื้ออ ก็ไหนว่าจะไปห้างไง ?" กระต่ายแก้มป่อง ซุกใบหน้ากับกล้ามอกแน่นๆ อย่างสบายใจ
"ครับๆ ไปเดินห้างดีกว่า กระต่ายไปอาบน้ำป้ะ"
"กลับมาต้องอาบอีกไหม ?"
พี่เสือเลิกคิ้ว "อาบสิ ร้อนจะแย่ ต่ายน้อยทนไหวเหรอ ?"
กระต่ายย่นจมูก "ถึงว่า เหม็นพี่เสือ ฮ่าๆ!"
ห้างส่วนใหญ่ในสิงคโปร์ปิดเร็ว มีเพียงห้างมุสตาฟาที่ Little India เท่านั้นที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง พี่เสือเลยพาน้องเดินทอดน่อง ดูแสงสีของเกาะสิงคโปร์อย่างสบายใจ
นั่ง MRT จาก Tanjong Pagar ไป Little India ค่อนข้างไกล โชคดีที่ทั้งสองคนไม่รีบเร่งอะไรนัก พอเปลี่ยนสายที่ Outram Park เป็นสีม่วงก็นั่งยาวจนไปถึงสถานี Farrer Park กระต่ายจึงได้เห็นคนงานแขกหลายสัญชาติขึ้นๆ ลงๆ ตลอดสาย บางคนก็อุ้มลูกจูงหลาน บางคนก็มากับเพื่อนฝูง พวกเขาต่างคุยกันด้วยภาษาอังกฤษบ้าง ภาษาตัวเองบ้าง กระต่ายก็ลุกๆ นั่งๆ จากต้นสายกระต่ายได้นั่งพักขา พอกลางๆ เขากับพี่ชายก็ลุกให้เด็ก ผู้หญิง คนแก่นั่ง พอยืนสักครู่ ก็มีคุณพี่แขกใจดีสะกิดให้กระต่ายนั่ง กระต่ายดีใจเลยแธ๊งกิ้วไปเสียหลายคำ
กว่าจะถึงสถานี Farrer Park กระต่ายก็เมาคน จนต้องยืนนิ่งๆ ซบอกพี่ชาย
ขึ้นมาจากสถานี ก็พบกับถนนโล่งกับตึกรามบ้านช่องที่เปิดไฟสว่างไสว พี่เสือเดินเข้าซอยเล็กๆ ที่มีป้ายชี้ไปยังห้าง ทั้งคู่เดินสวนกับผู้คนมากมาย กระต่ายแปลกตากับผู้หญิงที่นุ่งส่าหรี่ ผมเปียยาวจนถึงสะโพก ทัดดอกไม้เป็นพวง พี่เสืออธิบายให้ฟังว่า คนที่นี่พูดภาษาอูรดูไม่ก็ภาษาทมิฬกัน ส่วนใหญ่อพยพมาทำงานบ้าง ตั้งหลักปักฐานบ้าง มีตั้งแต่ชาวศรีลังกา ปากีสถาน บังกลาเทศ ฯลฯ
กลิ่นเครื่องเทศ นมเนย กำยานแปลกใหม่สำหรับกระต่ายจนต้องจามฟิ้วๆ พี่เสือเอี้ยวมาดูแล้วรีบพาเข้าห้าง
สองพี่น้องแลกบัตรกับกระเป๋าแล้วเดินหาน้ำหอมให้คุณแม่ หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยก็พาน้องกระต่ายที่จามฟุดฟิดขึ้นชั้นบนหาซื้อขนมกิน
กระต่ายมองรอบข้างอย่างตื่นตา กระซิบถามพี่ชาย "นี่ห้างจริงๆ เหรอ ?"
พี่เสือไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะข้าวของระเกะระกะ วางเรียงไม่เป็นระเบียบเลย ของเยอะก็จริง แต่ดูไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ สองพี่น้องเดินเล่นดูเกือบทุกชั้น กระต่ายได้ชอกโกแลตกับขนมวงๆ ของอินเดียมาหนึ่งปี๊บ มืออีกข้างอุ้มตุ๊กตาเมอร์ไลอ้อนสีขาว
"จะอร่อยไหม ?" กระต่ายหันไปขอความเห็น พี่เสือถอนหายใจตอบ
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน"
หลังจากชอปปิ้งเสร็จ พี่เสือดูนาฬิกาแล้วไม่แน่ใจนักว่ายังมีรถ MRT อยู่หรือไม่ เลยลงไปที่ฟรอนต์ แลกตั๋วเอากระเป๋าคืนแล้วถามหา Taxi Stand
สองพี่น้องเดินหลงอยู่หนึ่งรอบ เดินอ้อมห้างเข้าสู่ตรอกเปลี่ยว กระต่ายอุ้มตุ๊กตาเมอร์ไลอ้อนที่ตั้งชื่อให้เสร็จสรรพว่าน้องไลอ้อนแน่น เกาะชายเสื้อพี่เสือไม่ยอมห่าง "มืดจังเลย"
มีเพียงเสาไฟด้านหน้าเท่านั้น พี่เสือขมวดคิ้ว แม้ป้านกจะการันตีว่าไม่มีอาชญากรรมในสิงคโปร์ แต่ก็กระซิบบอกว่าเคยมีข่าวคนไทยฆ่าแท๊กซี่ที่นี่เหมือนกัน ดังนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยเสียทีเดียว
มีเสียงล้งเล้งตามมา สองพี่น้องหันกลับไปดู คนงานชายเดินด้วยกันเป็นกลุ่ม พวกเขาหันมาหาสองพี่น้องแล้วส่งยิ้ม
พี่เสือคะเนด้วยสายตา เตรียมหาทางหนีให้น้อง คนทั้งกลุ่มแค่หกเจ็ดคน พี่เสือน่าจะสู้ไหว
พวกเขาก้าวเข้ามาใกล้ๆ ยิ้มยิงฟันขาวสะอาดตัดกับสีผิว กระต่ายตัวสั่น กลืนน้ำลายเอื๊อก
ผู้ชายคนหนึ่งก้าวข้าวมาตรงหน้า "ยู หล๊อสสต์ ?"
พี่เสือตะแคงหูฟัง ทำหน้ายุ่ง ยังไงก็ฟังสำเนียงแขกไม่ออก ผู้ชายคนนั้นจึงถามช้าๆ ขึ้นอีก "อิ๊งหลิ๊ดช์ ? สปี๊กก ?"
พี่เสือพยักหน้า ผู้ชายคนนั้นมองอย่างเอ็นดู ถามช้าๆ "หดู่ ยูว์ ลอสต์ ?"
คราวนี้ชัดเจน พี่เสือจูงมือน้องแล้วยิ้มเป็นมิตรให้ "เยส"
ทั้งกลุ่มนั้นพยักหน้าอย่างใจดี แล้วชี้ชวนให้เดินตาม "ฟอล์โหล่ะ มี"
ทั้งกลุ่มพาสองพี่น้องโผล่ยังถนนใหญ่ พี่เสือขอบคุณใหญ่ แล้วหยิบยาดมขวดใหม่ในกระเป๋าส่งให้แทนคำขอบคุณ ผู้ชายทั้งกลุ่มดูชอบใจกับขวดยาดมที่ทำจากโลหะ สลักลายไทยละเอียด
คนหนึ่งในกลุ่มอวยพรให้ส่งท้าย "ลั๊กกี้ เซฟทริป"
กระต่ายน้อยฟังออก ขอบคุณด้วยรอยยิ้มกว้าง
พี่เสือจึงเรียกแท๊กซี่ให้ไปส่งที่โรงแรมโดยปลอดภัย กระต่ายอมยิ้มไปตลอดทาง
"มีอะไร หืม ?"
กระต่ายยิ้มละไมตอบ "พวกเค้าใจดีจังเลย... ตอนแรกหนูกลัวแทบแย่แน่ะ แต่กลายเป็นว่าใจดีกว่าป้าที่ห้างหรูๆ อีก"
"นั่นสินะ..." พี่เสือกอดน้องให้กระชับขึ้น หอมแก้มเนียน
นี่คงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณพ่ออยากให้พวกเขามาเรียนรู้ด้วยตัวเอง...
...ที่ Little India คนงานต่างชาติมาขายแรงงาน กลับมีน้ำใจและยิ้มแย้มแจ่มใส แม้รูปร่างภายนอกจะน่ากลัว แต่สองพี่น้องสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร
อาจจะมากกว่าคนสิงคโปร์บางคนเสียอีก
....
// มีคนถามถึงโจ๊กกบ ไม่ได้กินค่ะ เกือบเหมือนกระต่ายเลย 555
ส่วนตัวเราชอบแขกมากกว่าคนสิงคโปร์แท้ๆ นะคะ นิสัยดีกว่าเยอะ แต่แขกนิสัยแย่ๆ ก็มีเนอะ แต่จากประสบการณ์ เราเจอแขกนิสัยดีตลอดเลยค่ะ

ช่วงนี้อัพเร็ว ไม่รู้จะขยันได้อีกกี่น้ำ
ขอบคุณที่แวะเขา้มานะคะ
