50. พี่เสือ น้องกระต่ายกับความรักสีเทา
ช่วงนี้พี่เสือค่อนข้างสนิทกับไคโรเป็นพิเศษ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์พี่เสือที่ไม่ต้องเรียนพิเศษ พอเลิกงานแล้วก็จะไปหาไคโร
กระต่ายเองก็ชอบไปบ้านลักซอร์ เพราะบ้านลักซอร์กว้างขวาง อยู่ใกล้ห้าง โรงเรียนกวดวิชาและโรงเรียนพอดี หน้าบ้านยังเปิดร้านหนังสือมือสองและซีดีเพลง รวมไปถึงแผ่นเสียง ใบปิดหนัง เทปคาสเซทที่หายาก มีคุณป้านวลช่วยดูแลหน้าร้าน แต่คุณป้ามักจะบ่นว่าของไม่ค่อยได้ขายเท่าไหร่หรอก แต่เม - เมมฟิสน้องสาวคนเล็กที่เป็นคนผิวสี มีดวงตากลมโต ผมหยิก ท่าทางเฉลียวฉลาด เรียบร้อยมักจะปลอบใจว่าร้านตัวเองเป็นร้านขายของหายาก
เด็กๆ ชอบครอบครัวนี้มาก นอกจากป้านวลแล้ว ยังมีคุณยายบัว คุณตาบุญคอยดูแลบ้าน หลังบ้านยังมีลานคอนกรีตอเนกประสงค์ ที่พอเลื่อนเสาแป้นบาสมา ก็จะเป็นสนามบาส ยกเน็ตมาก็จะกลายเป็นสนามเทนนิส วันไหนพวกเด็กผู้ชายเบื่อๆ กันก็จะช่วยกันเก็บเน็ต หาอะไรมาติ๊ต่างว่าเป็นโกล เล่นฟุตบอลกันแทน แต่ที่เด็ดที่สุดที่ทั้งสอางค์ ลูกโป่ง กระเจี๊ยบ จัมโบ้และพี่เสือติดใจก็คือหน้าผาเทียมที่สูงชันและมีตัวเซฟตี้แข็งแรงแน่นหนา
พอทุกคนตกลงกันว่าจะเล่นหน้าผาเทียมทีไร กระต่ายได้แต่กระเง้ากระงอดทุกทีเพราะเจ้าตัวน้อยกลัวจะแย่ ไม่ได้ชอบเล่นโลดโผนเหมือนเพื่อนๆ เมมฟิสน้องนุชสุดท้องก็จะรีบเข้ามาปลอบรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าถึงห้าหกปีว่า
"พี่ต่ายน้อย ไปทำกับข้าวกับป้านวลนะคะ เมก็จะไปด้วย"
กระต่ายได้แต่ทำแก้มป่องกับน้อง "แต่ทำไมเค้าไปเล่นกันหมดล่ะ ?"
"เอ... กับซอนี่ชอบเล่นประจำอยู่แล้ว แต่พี่สอางค์นี่... ดูท่าไม่น่าเป็นคนชอบเล่นอะไรแบบนี้เลยนะคะ"
"นั่นสิ" กระต่ายพยักหน้ารับแล้วตะโกนบอกพี่ชายอย่างคนขี้งอน "ฮึ! พี่เสือทิ้งหนู!"
พี่ชายที่ปีนไปได้กลางทางได้ยินเสียงแล้วสะดุ้งโหยง มองลงมาเห็นสัตว์เล็กทำแก้มป่อง ตาพองอยู่ก็อดหัวเราะไม่ได้ รีบโรยตัวลงมาแล้วปลดอุปกรณ์เซฟตี้อย่างคล่องแคล่ว
"มาแล้วครับๆ กระต่ายน้อยมีอะไรเอ่ย ?"
"หนูจะกลับแล้ว!"
"เอ๋!?"
เมมฟิสเห็นท่าไม่ดีเลยเข้ามาช่วยพี่เสือ "พี่ต่ายน้อย ไปกับน้องเมนะ ป้านวลจะทำขนมจีบค่ะ ไปด้วยกันนะคะ"
"นั่นสิ พี่เสือก็อยากกินขนมจีบฝีมือต่ายน้อยนะ.... ไว้เผื่อวันหลังจะได้ทำให้พี่กินไง" พี่เสือรีบป้อนคำหวาน กระต่ายน้อยเลยยืนลังเลบ้าง
"เอ... แต่..."
"น่านะ ไปเถอะค่ะ ขนมจีบกุ้ง ขนมจีบปูฝีมือป้านวลเชียวนะคะ" ป้านวลเคยเป็นแม่ครัวให้ร้านอาหารมาก่อน ปัจจุบันเป็นทั้งแม่บ้านและแม่ครัวให้ครอบครัวลักซอร์ รวมถึงดูแลร้านหนังสือมือสองที่ไม่เคยได้กำไรด้วย
กระต่ายพยักหน้าในที่สุด "ก็ได้"
เมื่อร่างเล็กขาวสะอาดถูกเด็กน้อยผิวสีจูงมือไปแล้วพี่เสือจึงถอนหายใจเบาๆ กวักมือเรียกไคโรลงมา
"มันสลับกันป่าววะ ?" ไคโรโรยตัวลงมา เกาหัวแกรกๆ
"กระต่ายน่ะเหมือนเด็กแหละ เมยังจะเป็นผู้ใหญ่กว่า"
ไคโรพยักหน้า "เมเป็นผู้ใหญ่กว่าซออีก"
"กว่าแกด้วยแหละย่ะ!" ลักซอร์ค้อนปะหลับปะเหลือกให้น้องชาย
"เอาล่ะ เสือ มึงจะไปต่อมั้ย ?"
"เอาสิ" พี่เสือเดินไปหยิบของที่มุมห้องออกมา มีไคโรตามไปติดๆ ใบหน้าบูดบึ้งเหมือนเคย
"เสือจะสำเร็จมั้ยวะ ?"
"สำเร็จดิอางค์ ขอให้เป็นเรื่องต่ายน้อยเสือมันทำได้หมดแหละ" จัมโบ้ตอบ
"...แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกนะ"
"...กูว่าให้มันรีบๆ จีบให้ติดเหอะ กูเบื่อต้องมาห้อยโหนโจนทะยานกับพวกมึงแล้ว!" กระเจี๊ยบหน้าบูดที่สุดบ่น มีลูกโป่งพยักหน้าเสริม
"ใช่ นี่เพราะต้องกันต่ายน้อยออกไปนะนี่ กูถึงช่วย เฮ้อ มึงกูรู้กูเกลียดการออกกำลังจะตายห่า บ้านมึงนี่นะซอ ทำไมไม่ทำเหี้ยอะไรนอกจากออกกำลังเลยวะ ?"
ลักซอร์ทำหน้าปั้นยาก "กูก็ไม่รู้ว่ะ พ่อกับแม่กูชอบนี่หว่า สงสัยเพราะต้องขุดสุสานตลอดล่ะมั้ง"
กระต่ายกลับบ้านโดยมีพี่เสือหิ้วกล่องทัปเปอร์แวร์ใส่ขนมจีบตามมาติดๆ
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเจ้าตัวน้อยยังทำตาพอง งอนพี่ชายอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นเด็กน้อยที่ยิ้มแต้ อารมณ์ดีคนเดิมแล้ว
"พี่เสือๆ ป้านวลทำอาหารอร่อยมากเลยล่ะ!"
"ครับ" พี่เสือตอบรับ กระต่ายชินกับคำตอบสั้นๆ ของพี่ชายแล้ว ถึงพี่เสือจะไม่ค่อยตอบอะไรแต่กระต่ายน้อยรู้ดีว่าพี่กำลังฟังอยู่จึงพูดจ้อต่อไป
เล่าถึงวิธีทำขนมจีบ เล่าถึงคำชมของคุณยาย คุณตาว่ากระต่ายหัวไว ทำอาหารเก่ง เล่นเอากระต่ายตัวลอยเลย เพราะปกติแล้วไม่ค่อยมีคนชมกระต่ายว่าหัวไวเท่าใดนัก ผู้ใหญ่ชอบชมว่ากระต่าย 'น่ารัก' หรือ 'เป็นเด็กดี' เสียส่วนใหญ่ คำว่าหัวไว ฉลาดนั่นปกติจะชมพี่เสือเสียมากกว่า
จนถึงบ้าน พี่เสือหยิบไม้จิ้มพลาสติกออกมาจากครัว จิ้มขนมจีบปูมาหนึ่งลูก เดินดุ่มๆ ไปหากระต่ายน้อยที่นั่งตักคุณพ่อเล่าเรื่องวันนี้ไม่หยุดปาก
"แล้วก็นะ หนูก็เอาไปนึ่งล่ะ ระหว่างรอป้านวลสอนทำน้ำจิ้มด้วย..."
"กระต่าย" พี่เสือเรียกเบาๆ คนตัวเล็กหูผึ่งขานรับทันใด
"จ๋า ?" แล้วก็กระโดดลงจากตักคุณพ่อ เล่นเอาคุณพ่อท้วง
"หืม ? ไม่มาจ้อให้พ่อฟังแล้วเหรอ ?"
น้องน้อยหน้าแดงจัดตอบ "เดี๋ยวหนูมาเล่าต่อ จะไปอุ่นขนมจีบมาให้คุณพ่อชิมด้วยไง"
คุณพ่อได้แต่หัวเราะอย่างเหนื่อยใจ พอเป็นเรื่องพี่เสือ กระต่ายน้อยทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไปหาพี่ชายทันใด
พี่เสือจูงน้องเข้าครัว โชคดีที่วันนี้คุณแม่ไปนั่งคุยโทรศัพท์กับป้าเมย์อยู่หน้าบ้าน ไม่ได้อยู่ในครัว พี่เสือจึงยื่นขนมจีบบนไม้จิ้มให้น้อง
"หนูกินแล้ว" กระต่ายตอบอย่างฉงน แต่พี่เสือยิ้มพราว
"แปลกๆ ไปหน่อย กระต่ายเป็นคนทำนี่นะ อืมมม พี่จะบอกว่า.... จีบนะ"
"เอ๋ ?" หัวเล็กๆ หมุนติ้วอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะมองขนมจีบตรงหน้า สลับกับพี่ชายแล้วหน้าแดงจัด "อ๋า.... ขนมจีบ จีบหนู...."
พี่เสือป้อนขนมจีบให้ถึงปาก กระต่ายไม่มีทางเลือกนอกจากอ้าปากรับมาเคี้ยวตุ้ยๆ พี่เสือก้าวเข้ามาประชิด ใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ เล่นเอากระต่ายหน้าร้อนฉ่า
"จีบนะครับ ทีนี้เตรียมตัวได้เลย"
กระต่ายโดนขนมจีบอุดปากอยู่ ตอบไม่ได้และยังไม่ทันตอบก็โดนพี่เสือขโมยจูบที่แก้มไปแล้ว
"อี๊เอื๋ออ๊า!" คนถูกจีบอู้อี้พูด สีแดงบนแก้มนวลเนียนงดงามยิ่งกว่าผลไม้สุกใดๆ พี่เสืออดนึกอยากจะคั้นน้ำหวานออกมาไม่ได้
"หืม ? จะกินหรือจะเขินหรือจะว่าพี่เอาสักอย่างสิครับ" เสียงทุ้มล้อเลียน กระต่ายปากเล็กจะกินแล้วกลืนไปเลยเหมือนคนอื่นไม่ได้จึงได้แต่จ้องพี่ชายเขินๆ พี่เสือหัวเราะเสียงดังพอดีกับคุณพ่อตะโกนมา
"ต่ายน้อย ไหนบอกจะเอาขนมจีบมาให้พ่อชิม ?"
พี่เสือจึงกระซิบเบาข้างหูนิ่มว่า "ไปเร็วครับ เดี๋ยวคุณพ่อสงสัยนะ!"
วันเวลาผ่านไป เหมือนพี่เสือจะคลุกคลีกับไคโรจนสนิทสนมกันดี กระต่ายเองก็เบาใจ เพราะวันแรกที่เจอกันพี่เสือกับรุ่นน้องฮึ่มๆ ใส่กันเสียแล้ว
ทุกเย็นที่กระต่ายไปเรียนพิเศษกับกระเจี๊ยบ จัมโบ้ ลักซอร์ พี่เสือที่ไม่มีเรียนจะไปขลุกอยู่บ้านของไคโร กระต่ายเข้าใจเอาเองว่า พี่เสือคงไปเล่นกีฬา ที่บ้านนั้นมีกระสอบทรายเก่าๆ ด้วย
แต่อันที่จริงแล้ว...
"กูจะไปหาแนน" ไคโรสั่งเสียงห้วน นั่งจิบเบียร์ตั้งแต่เย็น จ้องหน้าพี่เสือเขม็ง
"เมียใหม่ ?" พี่เสือเลิกคิ้ว
"เออ"
"แล้วจะเอาไงต่อ ?" หนุ่มรุ่นพี่ตัวโตกุมศีรษะ มีอุปกรณ์อยู่ข้างกาย ไอ้รุ่นน้องหน้าบูดก็ถอนหายใจเฮือก
"เสี่ยว! คิดได้ไงวะ เกิดมาไม่เคยจีบสาวรึไง!"
"ก็ไม่เคยน่ะสิวะ ถ้าเคยกูจะลำบากใจแบบนี้รึไง!" เสือหนุ่มตวาดกลับ มือคว้ากระดาษกองหนึ่งโบกให้ไคโรดู "พี่สาวมึงเลือกมาให้เนี่ย"
ไคโรมองตามแล้วทำหน้าสยอง "นี่มึงเชื่อซอจริงๆ เหรอวะ ?"
"...."
ไคโรลุกขึ้นยืน มองรุ่นพี่อย่างอนาถใจ ภาพพจน์ตอนแรกที่ดูสุขุม ร้ายกาจพังทลายไม่มีเหลือ ตอนนี้ดูเป็นหนุ่มน้อยแรกรัก หูแดงไปหมด ไม่คิดไม่ฝันว่าชาตินี้จะได้เจอะเจอภาพอุบาทว์แบบนี้
"เออ.... ก็ได้!"
สัปดาห์ถัดมา กระต่ายนั่งทำการบ้านคณิตศาสตร์อยู่กับลักซอร์ในช่วงคาบว่างตอนบ่ายตามปกติ อากาศช่วงนี้ร้อนอบอ้าว ลักซอร์เลยหิ้วกระต่ายน้อยมานั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นมะขาม ลมพัดเย็นสบายดี ลักซอร์คนชวนน่ะม่อยหลับไปแล้ว ทิ้งไว้แต่กระต่ายน้อยเด็กดีนั่งทำการบ้านอยู่คนเดียว
พี่เสือกับจัมโบ้ไปไหนไม่รู้แล้ว กระต่ายหน้ามุ่ย เอามือขยี้ตา ใกล้จะหลับตามเพื่อนไป แต่แล้วเงาร่างดำๆ คุ้นๆ เดินตรงมาหา มือถือกีตาร์ตัวเก่าที่ได้จากเถ้าแก่เมื่อฤดูร้อน มีจัมโบ้ที่หัวเราะลั่นตามมาด้วย
"พี่เสือ ?" กระต่ายผงกศีรษะขึ้นดู ลักซอร์กระพริบตาปริบๆ มอง ริมฝีปากสั่นระริกอย่างกลั้นหัวเราะ
"เอาจริงรึนั่น ?"
"อะไรน่ะ ?" น้องเล็กลุกขึ้นยืนดูพี่ชายท่าทางเก้กังไม่สมกับเป็นพี่เสือมาดเท่เอาเสียเลย พี่เสือเดินเข้ามาใกล้กระต่ายจนเหลือแค่โต๊ะคั่น เขากระแอมเบาๆ ลักซอร์กับจัมโบ้ระเบิดเสียงหัวเราะแล้วพากันเก็บข้าวของหนี ทิ้งไว้แต่กระต่ายน้อย
"เอ๋ ? จะไปไหน ?"
"แฮ่ม" หูพี่เสือแดงจัด วางกีตาร์ไว้บนตัก "ต่ายน้อย"
"พี่เสือ เอากีตาร์มาทำไม ?"
"นั่งลงก่อนคนดี" รอจนเพื่อนตัวดีออกไปจนหมดแล้วพี่เสือค่อยพูดต่อ "คือ..."
"?" น้องเล็กหน้าเหรอหรา
เด็กหนุ่มเกาศีรษะอย่างเก้อเขิน เสือร้ายที่เจนจัดหายไปไหนเสียแล้ว ทิ้งแต่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่ง มือหนึ่งประคองกีตาร์ ลูบสายเบาๆ ก่อนจะรวบรวมลมหายใจ มือหยาบค่อยๆ แตะโน้ตตัวแรก เสียงทุ้มๆ ไม่ค่อยเข้ากับดนตรีนักลอยมา
"
คนน่ารัก ใครๆก็คงอยากรัก*..."
กระต่ายอ้าปากหวอ... พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เคยเห็นอยู่หรอกเล่นกีตาร์จีบสาวน่ะ เมื่อก่อนกระต่ายก็โดนแซวแบบนี้เหมือนกัน แต่นึกไม่ถึง...
...พี่ชายมาดหล่อ เงียบขรึมจะเป็นไปกับเค้าด้วย!
"ถ้
ามันไม่ผิดมากนัก ฉันขอรักเธอได้ไหม" หูพี่เสือไม่แดงแล้ว แต่ย้ายความร้อนผ่าวมาที่ใบหน้ากระต่ายแทน
"เ
ธอไม่รู้ ไม่รักไม่เป็นไร แค่มีเธอในใจก็พอ"
มือใหญ่เล่นโน้ตตัวสุดท้ายที่เล่นได้ อมยิ้มนิดๆ "ต่ายน้อย ?"
กระต่ายก้มหน้างุด เข้าใจแล้วทำไมสาวๆ ถึงเขินกันจังเลย "...."
เห็นน้องไม่พูดอะไร คนตัวโตได้ใจ เกากีตาร์ต่อ
"Boy you're so one in a million
You are"ร้องเสียงหลงไปนิด เอาเถอะ แค่จำคอร์ดได้ก็เก่งละ เสือมีพรสวรรค์ด้านดนตรีเสียที่ไหน เนื้อเพลงจำไม่ยาก แต่คอร์ดนี่สิ
"
**Baby you're the best I ever had
Best I ever had
And I'm certain that
There ain't nothing better
No there ain't nothing better than this"
กระต่ายอ้าปากค้างแล้วหุบ... ดวงตาเบิกโต หน้ายังแดงจัด
พี่เสือวางกีตาร์ลง เสียงทุ้มฮัมท่อนสุดท้ายอย่างจงใจ
"
Baby... You're the best I ever had..." ไม่ร้องเปล่าแปลให้ด้วย "ที่รัก... เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พี่เคยมี..."
ฟันขาวขบริมฝีปากล่างแน่น กลั้นยิ้มจนแก้มบุ๋ม ยิ่งเมื่อพี่ชายขยับเข้ามาใกล้ ลมหายใจร้อนๆ ยิ่งระอุ
"Boy you're so one in a million..."
"ฮื้อ!" กระต่ายช้อนตาขึ้นมอง หน้าคมอยู่ไม่ไกล เด็กน้อยไม่รู้จะทำยังไงดีกับหน้าร้อนฉ่าของตัวเองแล้ว ปากก็คอยจะยิ้มเรื่อยไป...
...นี่น่ะเหรอ...
ถูกจีบ!
หัวใจเต้นตึกตักเหมือนเพิ่งวิ่งระยะไกลมาหมาดๆ น่าอายที่สุด พี่เสือจะรู้ไหมนะ ?
"เป็นแฟนกันนะ ?" เสียงทุ้มหยอดคำหวานประโยคสุดท้าย
ปุ๊ง! เหมือนน้องเล็กระเบิดตัวเองด้วยความอาย หน้าร้อนยิ่งกว่าร้อน รีบร้อนลนลุกขึ้นยืน พูดไม่เป็นภาษา "อะ... อะไร..."
มือใหญ่คว้าหมับที่มือเล็ก "นะครับ... นะ"
กระต่ายกัดริมฝีปากแน่น มือหนึ่งกุมหน้าอกตัวเองไว้ กลัวเหลือเกินว่าหัวใจจะเต้นจนทะลุออกมา แก้มเนียนแดงจัดเหมือนคนมีไข้ ดวงตากลมโตไม่ยอมสบตาคนมาจีบที่หาญกล้าข้ามขั้นตอนจับมือถือแขนแม้แต่น้อย
จะทำไงดี....
จะทำไงดี...มือใหญ่ยังเกาะแน่น ลูบไล้นิ้วทีละนิ้วๆ อย่างแผ่วเบา กระต่ายแทบเคลิ้มไปกับสัมผัสเอาอกเอาใจ...
...พี่เสือขี้โกง...
...จะให้กระต่ายทำยังไงได้...
"พะ... พี่เสือ"
"ครับ" เด็กหนุ่มเงยหน้าด้วยความหวัง เกือบยกมือขาวบางมาจุ๊บแล้ว น้องเล็กตัวขาวสะอาดตอนนี้แดงระเรื่อน่ากินเหลือเกิน ริมฝีปากอิ่มขมุบขมิบไม่ได้ศัพท์
...หัวใจเสือก็เต้นรัว ใช่ว่ากระต่ายจะเป็นคนเดียว
อยู่ใกล้ชิดกันมาตั้งแต่เกิด มีวันนี้วันแรกที่เขาแน่ใจได้ว่า 'ตกลงหลุมรัก' อย่างถอนตัวไม่ขึ้นจริงๆ
"พะ... พี่เสือ... ปะ... ไป..."
"ไป ?" เสือกลั้นลมหายใจ ลุ้นตาม
"ไป..." กระต่ายก้มหน้างุด ก่อนจะตอบเสียงหวาน "ไป... ฝึกเล่นทั้งเพลงก่อนนะ!"
ฟ้าผ่าเปรี้ยง! กลางวันแสกๆ กระต่ายน้อยตัวขาวจ้อยเงยหน้ายิ้มหวาน แล้วรีบกระโดดหนีจนเห็นหลังไวๆ