The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)  (อ่าน 207011 ครั้ง)

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
«ตอบ #180 เมื่อ21-12-2013 23:54:37 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 15.1


แบบนี้มันหนักกว่าเดิมชัดๆ
เขาทบทวนท่าทีของธามอยู่หลายวันจึงกล้าฟันธงว่าธามป่วยกว่าเดิมเสียอีก
อาการเก็บงำความคิด ความรู้สึก แม้จะไม่แปลกไปจากเดิม แต่ระดับความเข้มของอาการก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งที่เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่ธามไว้ใจ และกล้าจะที่บอกเล่าความรู้สึกได้แล้วเสียอีก
พอสรุปผลออกมาเป็นแบบนี้แล้วอดน้อยใจไม่ได้จริงๆ
“เป็นไรวะ?”  ความเย็นจากแก้วอังลงตรงหลังมือเขา ผู้นำขยับมือหนีจากการรับหน้าที่ที่รองแก้วเหล้าของมือโปร เขาเหวี่ยงตามองเพื่อนก่อนตอบ

“ผมก็คิดอะไรของผมไปเรื่อย คุณนั่นแหล่ะเป็นอะไร? ทำไมถึงดื่ม”

“กูก็มีเรื่องกลุ้มบ้างสิวะ”

“คุณน่ะหรอเครียด โป๊ะเครียดเรื่องอะไรเนี่ย ให้ผมกับพี่หนึ่งช่วยมั้ย?”

“แล้วทำไมมึงช่วยกูไม่ได้ เอะอะอะไรก็พอร์ตร่วมกับไอ้หนึ่งมันตลอดนะพีช” มือโปรหันไปแขว่ะใส่พีชที่หวังดีผิดเวลาไปหน่อย  ผู้นำไม่ร่วมวงทับถมเพื่อนเพิ่ม เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแล้วถอนหายใจ จากนั้นก็ครุ่นคิดถึงวันสุดท้ายที่ธามอยู่กับเขา และการร่ำลาที่เขาค่อนข้างโหยหาครั้งนั้น

“มันต้องมีอะไรแน่ๆ” เขางึมงำความคิด แต่แล้วใจที่คิดถึงธามอยู่ก็กระเจิงไปหมดเพราะมือโปรชกหลังดังอั่กๆ
“โอ้ย!! กูเจ็บนะ!” หลุดจนได้ ก็ว่าจะไม่ใช้อารมณ์แล้วเชียว แล้วกระชากเสื้อเพื่อนแล้วดึงมันมาใกล้ๆก ก่อนจะถาม
“พวกคุณเล่นเหี้ยอะไรกันครับ กูไม่มีอารมณ์เล่นด้วย”

“ไม่ได้เล่นเว้ยนำ มึงดู ไอ้หมอ มึงดูไอ้โต๊ะนั้นดิ” มันกระซิบกระซาบแล้วชี้ไปยังมุมร้าน ผู้นำมองตามแล้วหันมาเหล่มันอีกครั้ง

“จะเอาผู้หญิงคนไหน มึงก็จัดการเองสิ กูไม่เกี่ยว”

“ไม่ใช่เว้ย! แล้วกูก็เลิกมั่วผู้หญิงแล้วด้วย”
“ที่กูให้มึงดูน่ะ ไอ้ตัวห่ากลางดงผู้หญิงนั่นต่างหาก”

“หือ?” นายแซน ผู้นำจ้องอีกฝ่ายเขม็ง เขาขอเปลี่ยนที่นั่งกับพีชเพื่อมองมันในมุมที่มันน่าจะไม่เห็นเขา
นายสุพิสุทธิ์จริงๆ ด้วย
ห้อมล้อมด้วยผู้หญิงแบบนั้น คงกำลังผ่อนคลายสุดๆ สินะ
เห็นแล้วเจ็บใจ ทำไมคนที่ทำให้ธามเป็นทุกข์ถึงกล้ามาเสวยสุขอยู่แบบนี้ มันน่าจะเตะให้ม้ามเคลื่อนที่สุด

“เอ้าเฮ้ย! เดี๋ยวไอ้แซนอะไรนั่นก็ท้องหรอก มึงก็จ้องมันซะ”

“จะให้ผมทำมากกว่าจ้องมันมั้ยล่ะ!” เขาสะบัดเสียงใส่มือโปร แต่ความขุ่นมัวยามเห็นหน้าหมอนี่ก็ไม่ได้คลายไปจากอารมณ์เขา ผู้นำขยับแว่นแล้วยกเหล้าขึ้นจิบอีกหลายอึก

ที่หนึ่งมาเสียที แต่วันนี้ไม่ยักกะหนีบเอาเจมมาด้วย แบบนี้ไม่เพลินเลย ผู้นำขยับเพิ่มพื้นที่ให้เพื่อนนั่งโซฟาแคบๆ ด้วยกัน ยินเสียงเพื่อนทักทายนิดหน่อยแต่เขาทำเพียงแค่พยักหน้าด้วยเท่านั้น

“ไอ้เจมล่ะ”

“ดีๆ หน่อย เรียกแฟนกูน่ะ”
“ไม่บังคับให้มึงไหว้ก็บุญแล้วนะโป๊ะ”
“น้องมันป่วย นอนพักอยู่บ้าน”

“แล้วมึงไม่พยาบาลหรอ? มานี่เดี๋ยวมันก็น้อยใจ”

“กูก็อยากให้น้อยใจว่ะ แต่รายนี้ไม่มี นี่แทบรำถวายตอนกูบอกว่าจะออกมาดื่มกับพวกมึง เจมชอบบอกว่ากูเป็นตังเม บางทีเจมก็รำคาญ กูน่าสงสารมั้ยวะ”

“ไม่ว่ะ กูว่าครั้งนี้เจมพูดถูก” แล้วโป๊ะก็ถูกที่หนึ่งสังหาร เขาฟังแล้วหัวเราะตามนิดหน่อย และคงผิดสังเกตมากๆ สำหรับที่หนึ่ง มันถึงได้ยื่นหน้ามาส่องตาเขา แล้วก็ถามซะตรงประเด็น

“เป็นอะไรนำ คิดถึงธามหรอ” นี่หน้าเขาอ่านออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? เขาไม่เคยบอกใครเลยเรื่องความรู้สึกที่มีให้ธาม กับธามเองเขาก็ไม่ได้บอก เขาคิดว่าเขาอยู่กับมันได้ ไม่ต้องบอกให้ใครรู้เขาก็มีความสุขได้ เขาแค่อยากให้ธามมีความสุขเท่านั้นเอง

“เอ่อ...”

“อ้ำอึ้งทำไมวะ? มีอะไรที่บอกพวกผมไม่ได้หรอ?”
“ไม่เอาน่า เพื่อนกัน คุณก็รู้ว่าโป๊ะกับพีชมันขี้เสือก มีอะไรก็เล่าๆ มา ทำทานให้เพื่อน”

“กวนตีนแล้วไอ้หนึ่ง มึงนั่นแหล่ะตัวอยากรู้เลย ตัวคิดแผนมานั่งกินเหล้าวันนี้ก็มึงนะ อย่าคิดว่ากูรู้ไม่ทัน เจมป่วยแล้วไม่ฟุ้งฟิ้งกับมึงล่ะสิ น้องมันเตะมา เลยมีเวลามากับพวกกู”

“ห่า! รู้ใจกูเสมอเลย เป็นเมียหลวงกูมั้ย? ให้เจมเป็นเมียน้อยคอยบำเรอกูอย่างเดียว มึงก็หาเลี้ยงกูไปเรื่อยๆ” ที่หนึ่งเขินแล้วตลกดีชะมัด ผู้นำหัวเราะหลายหึก่อนจะสบตามองเพื่อน 3 คนที่คบกันมาตั้งแต่ประถม

“ว่าไงนำ บอกได้รึยังว่ามึงแบกดาวเคราะห์ไว้กี่ดวง”

“แค่โลกดวงเดียวเอง” แล้วที่หนึ่งก็เป็นคนแงะปากเขาสำเร็จ มือโปรกับพีชขยับนั่งเตรียมตังฟังเขาเต็มที่ เห็นแล้วอยากยื้อให้มันอึดอัดกันชะมัด

“เอ้าเร็วดิ!” นี่แหล่ะ มือโปรมันน่ารักตรงเก็บอะไรไม่อยู่สักอย่างนี่แลห่ะ เขาส่งเสียงเออออว่ารู้แล้ว จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เขานึกสงสัยให้เพื่อนฟัง

ผลที่ได้ก็....

“น้องมันเกลียดมึงล่ะมั้งนำ มึงชอบบังคับมันนี่” โปร กูไม่เคยบังคับธามได้เลยสักอย่างครับ ที่ทำได้ก็แค่หาทางร่วมเท่านั้น

“ผมว่าธามต้องมีอะไรแน่ๆ คุณก็สืบสิ ถามจากเพื่อน จากญาติน้องธามดีมั้ย” พีช ขอบคุณนะที่ช่วย ก็ญาตินั่นแหล่ะที่ทำให้ธามเป็นแบบนี้

“นี่ธามไปกี่วีคแล้วนะนำ” ที่หนึ่งถามเข้าเป้ากว่าใครอีกตามเคย

“เดือนนึงแล้ว จัดการเรื่องเรียนไม่นานขนาดนี้หรอก”
“ผมเช็คคอร์สเรียนที่ยูธามแล้ว จบไปอาทิตย์นึงแล้ว แล้วคอร์สนี้ก็ไม่มีสอบด้วย ส่งรายงานก็จบ” 

“อืม...ห่วงใช่มั้ย?” ที่หนึ่งนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ เขาพยักหน้ารับทันควัน จานกั้นก็เป็นฝ่ายนิ่งไป เมื่อเพื่อนสวนมาว่า

“ก็ไปตามสิไอ้หมอ!”

ผู้นำจ้องที่หนึ่งเขม็ง เขาขยับแว่นพลางกระพริบตาปรับความคิด ครู่เดียวก็กระดกเหล้าต่อ เมื่อเพื่อนถามว่าเขาจะเอายังไง เขาก็แค่ยิ้มให้แล้วบอกความจริงให้กระจ่าง

“มิกเซอร์ที่นี่แพง คุณจ่ายก็แล้วกันโป๊ะ”


-----------------


ผู้นำปิดประตูห้องพ่ออย่างเบามือ หมอปันยังไม่นอน แต่อยู่ในชุดเตรียมนอนแล้วเรียบร้อย พ่อเขาเป็นแบบนี้เสมอ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังกวนเวลาทำงานของพ่อ เพราะพ่อใส่ชุดเตรียมนอนแล้วเรียบร้อย
หัวข้อที่คุยกันวันนี้เป็นเรื่องของธาม เขายอมรับว่ารู้สึกเกร็งเล็กๆ ตอนที่หมอปันถามว่า “พ่อให้นำเป็นธุระเรื่องธามแล้วไง ตัดสินใจเองไม่ได้หรอ”

ใจน่ะเต็มร้อย มั่นใจมาก แต่ปากขยับได้แค่ “ครับ”

หากหมอปันรู้ว่าเขาเป็นธุระเรื่องธามด้วยเหตุผลที่เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่หน้าที่พี่ชายเหมือนที่พ่อฝากฝัง เขาจะโดนฟาดหัวกี่ทีกันนะ?

ผ่านไปด่านแรก จะว่าไป สำหรับเขาก็ไม่เหลือด่านอะไรแล้ว นอกเสียจากใจธาม



เช้านี้เขาตื่นสาย เพราะตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเคลียร์คิวคนไข้ ทั้งคนไข้ประจำ และคนไข้ใหม่ๆ คิวบรรยายในมหาวิทยาลัยเขาไม่รับเพิ่มแล้ว งานวิชาการต่างๆ ก็ปฏิเสธไปหมด เพื่อให้ได้เวลาว่างที่ไม่มีงานเลยมาครึ่งเดือน
จะว่าเก่งก็ยอมรับว่าเก่ง แต่เวลาว่างที่ได้มา ก็ต้องแลกกับเวลาเพื่อนรวมงานคนที่ถูกล้ำเส้นไปคนละนิดละหน่อย เขาก็ไม่รู้ว่าหมอคนอื่นคิดกันยังไงกับการลางาน 2 อาทิตย์ของเขา ไหนจะตำแหน่งลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลนี่เอง ก็คงจะเสียหายไม่น้อย
แต่ช่างเถอะ ในชีวิตนึง เขาจะรู้สึกโหยหาใครคนหนึ่งแบบสุดหัวใจกี่ครั้งกันเชียว เชื่อว่าคนนี้เป็นคนแรก และจะเป็นคนสุดท้าย

‘ธาม  นิมิตตกานนท์’

เขาเลือกไฟล์บินกลางดึกเพื่อที่จะไปถึงไต้หวันแต่เช้า จะได้มีเวลาตามหาธามนานหน่อย

ที่หนึ่งปาคำว่า “บ้า” ใส่หน้าเขาตอนที่เขาบอกเรื่องการเดินทางไปหาธามที่ไต้หวันคนเดียว มีแต่เจมที่เข้าใจเขาและอวยพรให้โชคดี แต่คิดอีกที เจมอาจจะพูดสิ่งที่เขาคาดหวังว่าเพื่อนจะพูดก็ได้
เพราะแผนเดินทางของเขามีแค่ “ไปถึงก็รู้เอง”

มือโปรค่อนข้างกังวล มันคงลืมไปแล้วว่าตอนไปเรียนโทที่เมืองนอกเมืองนา เขาก็ไปแบบนี้เหมือนกัน หมอปันส่งให้ไปตายเอาดาบหน้า เขาจึงค่อนข้างชินกับการหาทางออกเอาตอนที่เจอทางตัน ซึ่งเพื่อนคงไม่เข้าใจ และไม่ได้มองว่าเป็นวิธีการที่ดี โดยเฉพาะพวกสายบริหารอย่างมือโปร

แต่เขาไม่สนอะไรแล้ว อยู่อย่างมีแบบแผนก็ไม่เจอวิธีที่ถูกที่ควรเสียที จะต้องรอให้ธามเรียนรู้การใช้ชีวิตเอง รู้จักเลือก รู้สิทธิตัวเองว่าเลือกได้ เขาต้องรอถึงเมื่อไหร่
ซอกหลืบและเรื่องราวในใจของธามมีมากเสียจนผู้นำคิดว่า ใช้เวลาทั้งชีวิตเขาก็หาความจริงไม่ครบถ้วน
เพราะงั้นก็ต้องเดินทางไปตามหาตั้งแต่ตอนนี้แหล่ะ!

ป้าจูช่วยดูแลของใช้ส่วนตัวให้เขานิดหน่อย แต่ฝากขนมไทยๆ ไปให้ธามเสียครึ่งกระเป๋า ลุงเผือกเองก็มาด้อมๆ มองๆ ที่หน้าบ้าน พอเขาลากกระเป๋ามาก็โถมตัวมาช่วยแล้วก็ฝากให้ภารกิจเพิ่มให้เขาอีก 1 อย่าง

“คุณนำครับ”

“ครับ” เขาตอบรับคนขับรถอย่างสุภาพตามนิสัย ลุงเผือกครุ่นคิดนิดหน่อยก่อนจะอ้อมแอ้มบอก

“ฝากความคิดถึงถึงคุณธามด้วยนะครับ ไปนานจนผมสงสัยยายจูแก แกคิดถึงของแกมากจริงๆ”

“ครับ ไม่รู้เจ้าตัวเขาจะอยากกลับมามั้ย” เขาเปรยตามที่คิด และสิ่งที่ลุงเผือกพูดก็ทำให้เขาคิดหนักกว่าเดิมเท่าตัว

“ก็ถ้าคุณธามเขารักทางนี้ เขาก็ต้องกลับมาสิครับ”
“เธอรักพี่เธอจะตาย ผมว่าต้องกลับมาอยู่แล้ว”

ธามรักพี่ของธามจะตายงั้นหรอ? ลุงเผือกไปเอาความมั่นใจพวกนี้มาจากไหนกันนะ

ถึงสนามบินอย่างปลอดภัย ผู้นำก็โทรรายงานตัวกับพ่อ หมอปันดูไม่ห่วงเรื่องงานของเขานัก แต่ห่วงน้องมากกว่า พ่อกำชับเขาว่า “อย่าบังคับน้องนะนำ อยากอยู่ที่ไหนก็ให้เขาอยู่ เราแค่ต้องการแน่ใจว่าธามอยู่อย่างมีความสุข”

เขาก็ต้องการเท่าที่หมอปันต้องการนั่นแหล่ะ อาจจะมากกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ เขาอยากเป็นผู้บันดาลความสุขให้ธาม

เพื่อนไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีใครมาส่ง พวกนี้โผล่มาแต่เท็กซ์เท่านั้น เขาไม่ฮึดฮัดใส่ใครนอกจากไอ้ที่หนึ่ง เพราะตอนที่มันคลั่งจะเป็นจะตาย บ่นว่าจะขาดใจถ้าไม่ได้ไปหาเจมที่อังกฤษแล้วเดือดร้อนเขาต้องบรรทุกผู้ชายตัวโตแต่ไร้สมองคิดว่า “คิดถึงก็ไปหา” มาส่งที่สนามบิน

แต่สุดท้าย มันก็ไม่สำนึกบุญคุณและตอบแทน ตอนนี้ที่หนึ่งเป็นยิ่งกว่างูเห่าที่ไม่น่าเอ็นดูสำหรับเขาไปแล้ว

กำลังบ่นถึงในความคิด มันก็โทรมาส่งเสียง เขาดูเบอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์ระหว่งยืนเคว้งอยู่คนเดียวในสนามบิน เบอร์เป็นของที่หนึ่ง แต่เสียงกลับเป็นของเจม

‘พี่นำครับ’
‘มานี่ พี่พูดกับเพื่อนพี่เอง เจม เจม เอามาสิ’
‘พี่นำไปไต้หวันหรอครับ เจมก็อยากไปเที่ยวไต้หวันเหมือนกัน นี่ถ้าบอกก่อน’
‘เจม หมาเจม พี่หนึ่งโกรธแล้วนะ’
‘โอ้ย สะดือ โอ้ยยย ไอ้เชี่ยพี่หนึ่ง’
‘โชคดีนะไอ้หมอ’

จบแล้ว คำอวยพรของเพื่อน

โป๊ะส่งมาบอกกันสั้นๆ ว่า ‘ที่นั่นมีอะไรน่าซื้อมาฝากก็เอาอันนั้น’
ส่วนพีช ที่เป็นความหวังเรื่องความเป็นคนมากที่สุดในกลุ่ม ส่งข้อความมาว่า ‘แฟนผมอยากได้ถั่วแดง’
หน้าผากเขามีคำว่า “ไปเที่ยวเล่น” แปะไว้รึไงนะ ไอ้พวกนี้!

ผู้นำส่ายหน้าน้อยๆ แต่ใบหน้าหมอจิตเวชกลับแต้มด้วยรอยยิ้มกรุ่นๆ เขาลากกระเป๋ามาที่เคาท์เตอร์เช็คอินแล้วก็จัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง จนมานั่งรอที่หน้าเกทก่อนเวลาร่วมชั่วโมง



3 ชั่วโมงครึ่งที่เขาหลับอยู่บนเครื่อง มาตื่นอีกทีก็ตอนอยากเข้าห้องน้ำ พอจัดการธุระเสร็จก็ถึงพอดี เขาได้นั่งริมหน้าต่าง เก้าอี้โอ่อ่าของชั้นเฟิร์สคลาสไม่ทำให้เขาอยากอยู่กับมันต่อ เขาอยากเจอธามใจจะขาด

สนามบินเถาหยวนไม่แออัดเหมือนที่เขานึกหวั่น แต่ด่านตรวจคนขาเข้าก็มีคนเยอะพอสมควร นักท่องเที่ยวเอเชียด้วยกันดูเยอะกว่านักท่องเที่ยวตะวันตก มี่กรุ๊ปทัวร์จากประเทศไทยด้วยเหมือนกัน วัดจาการคุยกันเซ็งแซ่ด้วยภาษาที่เขารู้จักดี

พอได้กระเป๋ามาแล้ว ภารกิจเอาตัวรอดของเขาก็เกิดขึ้น ผู้นำคุ้ยกระเป๋าหาข้อมูลของธามที่เขาหามาเตรียมไว้ให้ตัวเอง ทั้งข้อมูลที่อยู่จากนักสืบ ข้อมูลการเรียน เบอร์ที่อยู่ เบอร์มหาวิทยาลัย อาจารย์ประจำคณะวิชา ก็ประเทศนี้ไม่ได้เล็กมาก เทียบขนาดแล้วก็เหมือนเอาเชียงใหม่กับอุบลราชธานีมารวมกัน เขาคงไม่ได้หาธามเจอง่ายๆ และข้อมูลของมหาวิทยาลัยก็เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นจุดสตาร์ท

เอาล่ะ ตอนนี้เขามีเบอร์โทรศัพท์ที่ธามเคยใช้อยู่ตรงหน้า เขาต้องหาซื้อโทรศัพท์ที่ใช้กับที่นี่ได้เสียก่อน เขาก็ติดต่อตามประชาสัมพันธ์และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวทั่วไป เมื่อได้เครื่องพร้อมเบอร์และการเปิดใช้บริการแล้ว เขาก็ทดลองโทรหาธามทันที

“เหวย”

โอ๊ะ! เสียงธามจริงด้วย เขายิ้มปริ่มแล้วทักตอบ

“ธามครับ พี่นำเอง”

แล้วน้องก็เงียบไป แต่ยังไม่ได้วางสาย เขากำลังจะอ้าปากย้ำว่าเป็นใคร ธามก็ถามอีกครั้ง

“เหวย...หนี ห่าว”

“ครับ พี่นำเอง”

“นำ....”

“ใช่ พี่นำเอง ตอนนี้ที่นำอยู่ที่สนามบินเถาหยวน ธามมารับพี่นำได้มั้ย”

“นำจริงๆ หรอ”

“จริงสิครับ พี่นำมาหะ”

ตัดสายไปแล้ว เขาอึ้งเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าจะถูกตัดสัมพันธ์กันดื้อๆ แบบนี้ ทำใจอยู่ราว 2 นาที เขาก็โทรหาธามอีกคั้ง

แต่เขาติดต่อธามไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะตอนนี้ หรืออีก 4 ชั่วโมงถัดมา

น้อง...ไม่อยากเจอเขาแล้วจริงๆ หรอ?



-----------------



อยากจะตายบ้าที่สุดแล้ว
พี่นำจริงๆ หรอเนี่ย
พี่นำจริงๆ สิ ใช่มั้ย?


ธามนั่งกุมหัวใจตัวเองอยู่บนแท็กซี่ นี่เขารีบมาที่สนามบินเร็วที่สุดแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะต้องรอให้อาหลูปิดร้านให้เรียบร้อยดีก่อนก็ตาม

แต่แม้จะรีบ เขาก็มาถึงสนามบินหลังจากที่รับโทรศัพท์จากพี่นำเกือบ 4 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง

เขาไม่ได้ถามพี่นำว่าอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร มายังไง หรือมาเพื่ออะไร แต่รับโทรศัพท์แล้วได้ยินเสียงนำ หัวใจเขาก็เต้นรุนแรงเหมือนระเบิด

เมื่อจัดการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ธามก็เดินดุ่มๆ เข้าสนามบินด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะหาพี่นำให้เจอด้วยตาของเขาเอง

เดินวนอยู่ 3 รอบก็ไม่เจอเสียที เขาหยิบโทรศัพท์เตรียมโทรฯ หา แต่พลันเห็นผู้ชายสูงๆ ที่ร้านกาแฟเสียก่อน ธามหยุดยืนมองคนคนนั้นที่ถือแก้วกาแฟมานั่งที่โต๊ะ ข้างๆ เขามีกระเป๋าเดินทางและเสื้อโค้ทตัวหนาวางพาดอยู่ บนโต๊ะมีกาแฟหลายแก้วแล้วด้วย

พี่นำจริงๆ ด้วย
พี่นำของธามจริงๆ ด้วย
เขาไม่เคยพบใครแล้วอยากร้องไห้แบบนี้เลย ไม่เคยเลยจริงๆ


ธามเร่งฝีเท้าเดินไปหา เขาหยุดที่ผู้ชายสูงๆ ที่กำลังนั่งดมกาแฟระหว่างอ่านหนังสือเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศไต้หวัน ธามเคาะโต๊ะ 2 ครั้ง แล้วรอคอยอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองกัน

พี่นำจริงๆ ด้วย
ธามไม่รู้ว่าตัวเองน้ำตาไหลด้วยสาเหตุอะไรกันแน่
เขาพยายามเม้มปากตัวเองเพื่อกลั้นน้ำตา แต่มันก็ไหลลงอีกเม็ด อีกเม็ดจนได้
ผู้ชายที่นั่งดมกาแฟยื่นแขนยาวๆ มาเช็ดน้ำตาให้แล้วก็ดึงให้เขานั่งลงใกล้ๆ โอบเขาไว้แล้วพูดคำที่ทำให้กลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว

“พี่นำคิดถึง ก็เลยมาหา ธามคิดถึงพี่นำบ้างมั้ย?”

ธามจะตอบได้ยังไง
ธามตอบไม่ได้ ตอบไม่ได้จริงๆ


เขาทำได้เพียงก้มหน้าวางหน้าผากไว้ที่แนวไหล่พี่นำและกลั้นน้ำตาไว้กับตัวให้มากที่สุดเท่าที่คนอ่อนแออย่างธามจะทำได้


‘จะต้องให้บ้านนั้นตายสักคนสองคนมั้ยธาม
แค่ยัยป้าคนนั้นเกือบตาย ไม่ทำให้คิดได้เลยหรอว่าชีวิตธามเป็นของพี่’



Cut



ฮูเล่ย์!! มาเร็วเป็นประวัติการณ์ แต่คนอ่านที่เห็นจุดทศนิยมแบบนี้ คงรู้แล้วใช่มั้ยค่ะว่าครึ่งตอน ฮี่ๆ เราก็ใช้มุกเดิมกับช่วงที่ลงเรื่องที่หนึ่ง-เจม ตลอด

ขออภัยในความสั้น
เจอตอนใหม่ ปีหน้านะคะ >,,,,,,,,,,,,,,<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2013 10:34:58 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
«ตอบ #181 เมื่อ22-12-2013 08:53:10 »

ว๊ากกกกกกกก สงสารธามอ่ะ เพราะโดนขู่ไว้นี่เอง
แต่ดีใจนะที่พี่นำคิดได้ว่าจะต้องไปหาน้องดูแลธามด้วยนะนำ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
«ตอบ #182 เมื่อ22-12-2013 11:15:15 »

จริงๆควรจัดการไอ้คนที่ขู่นะแม่งไม่จบไม่สิ้นจริงๆ
ฮือออออออออออออพี่นำนี่สุดยอดพระเอกแห่งปีเลย ฉลาดแล้วยังสุขุม
สงสารธามจัง ไม่น่าเจอคนแบบไอ้เหี้ยแซนและคุณพ่อมหาปลัย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
«ตอบ #183 เมื่อ22-12-2013 23:14:54 »

เจอกันแล้ว น้ำตาจะไหล อย่าแยกจากกันอีกเลย :hao5:
หลังปีใหม่เลยเหรอคะ ใจจะขาด :katai1:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
«ตอบ #184 เมื่อ02-01-2014 23:56:46 »

จากที่โมโหโป๊ะอยู่กรุ่น ๆ
เจอประโยคสุดท้ายของแซนเข้าไป  อยากจะข่วนหน้ามันสักสิบรอบ  :katai1:  โหหห ไอ้นี่มันโคตรบ้า ส่งบำบัดด่วนนนนน 
สงสารน้อง  :m15:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
«ตอบ #185 เมื่อ03-01-2014 14:29:47 »

โอ้ยยย ไอ้ญาติบ้า นิสัยไม่ดีอยากได้เงินอยากได้น้องจนลืมคิดถึงจิตใจคนอื่นเลยหรอไงวะ ธามคิดถึงพี่นำจนจะแย่อยู่แล้วเห็นไหม

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #186 เมื่อ11-01-2014 02:54:23 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 15.2


ตอนแรกก็ตื่นเต้น ซึ้งด้วยนิดนึง แต่นำทำแบบนี้ ธามไม่สนุกด้วยหรอกนะ
ธามหันมองคนข้างๆ ที่นั่งกอดอกฮัมเพลงสบายใจ
ภายในรถยนต์คันเล็กของธาม มีพี่นำ มีกระเป๋าของพี่นำ และธามของพี่นำ ธามไม่ได้คิดไปเอง นี่พูดตามที่พี่นำพูดไว้ที่สนามบิน ก่อนจะบังคับเอาตัวมาให้ธามดูแลด้วยคำว่า
‘พี่มาให้เด็กในปกครองของพี่ได้ดูแล ก็ถ้าธามบอกว่าที่นี่คือบ้านธาม เจ้าบ้านก็ดูแลแขกด้วยนะครับ’

แล้วนำก็โยนกกระเป๋าไว้ข้างหลัง รถจะยุบเอานะ!
แล้วนำก็มานั่งอยู่ในรถ รอให้ธามหายงง รอให้ธามขึ้นมานั่งตรงคนขับ
พอได้ตามใจแล้ว นำก็สั่งอีก

‘พี่นำขออยู่ด้วยนะครับ’

นี่แหล่ะที่ทำให้หายตื่นเต้น แต่กลัวแทน
นำจะมาอยู่กับธามที่บ้านได้ยังไง ธามไม่ได้อยู่บ้านสักหน่อย
แล้วแบบนี้จะทำยังไงล่ะ?

“คิดอะไรครับ หน้ามุ่ยเชียว”

“หน้าธาม”

“รู้แล้วว่าหน้าหมาธาม แต่พี่นำเห็นแล้วว่าหน้ามุ่ย ไม่อยากให้พี่นำอยู่ด้วยหรอครับ? รังเกียจกันหรอ”

“ก็ใช่นำจะกลับมั้ย? กลับสินะ งั้นรังเกียจ”

“รังเกียจก็ไม่กลับ จนกว่าพี่นำจะได้สิ่งที่ต้องการ”

“แล้วนำต้องการอะไร?”

“ธาม”

“อะไร?”

“ธามไงครับ ที่พี่นำต้องการ”

ใจเต้นจนได้
ธามละสายตาจากหน้าพี่นำทั้งที่ยังไม่ได้มองให้พอใจนัก เขาตั้งอกตั้งใจขับรถและฝืนทนให้แก้มกระทบกับสายตาพี่นำแทนดวงตาตัวเอง แต่สุดท้ายธามก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว จนต้องหันไปถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหน่อยๆ
“นำมองอะไรอยู่เรื่อยได้ ไม่มองสิ”

“พูดว่าอย่ามองต่างหาก ถ้าพูดให้พี่นำเข้าใจไม่ได้ ธามก็ไม่ได้สิ่งที่ธามต้องการหรอกครับ เด็กเอาแต่ใจ”

“ธามไม่ใช่!” พูดเองก็หลุดขำเอง เขาเคยใช้คำพูดปฏิเสธนี้ผิดความหมายอยู่หลายครั้ง แต่พี่นำก็เข้าใจมันทุกครั้ง ครั้งนี้แน่ใจว่าใช้ถูกแล้ว พี่นำคงเข้าใจได้เสียทีว่าธามไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจ

“ธามเอาแต่ใจ เอาแต่ใจที่สุดก็ตอนที่ไม่ยอมกลับไปหาพี่ที่กรุงเทพนั่นแหล่ะ บอกได้มั้ยครับว่าทำไม”

“..............” ธามเรียนรู้มาแล้วว่าการเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ธามจะทำได้ ทั้งมองเงียบๆ คิดเงียบๆ อยู่เงียบๆ รักเงียบๆ เหงาเงียบๆ ร้องไห้เงียบๆ

“ตอบสิครับ พี่นำถามนะ เด็กดีไม่ใช่หรอ หรือจะเป็นเด็กไม่ดี”

“ธามเป็นเด็กดีที่เลือกเป็นไม่ดี งงสินะ เหมาะสมแล้ว!” เขาอมลมงับปากแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ

เถาหยวนอยู่ค่อนมาทางใต้ ส่วนไทเปบ้านธามอยู่ขึ้นไปทางเหนือ ราว 1 ชั่วโมงล่ะนะ แต่ถ้ารถไม่ติดก็คงไม่นานเท่านั้น แต่พอเริ่มเข้าเมืองก็เริ่มเห็นไฟท้ายสีแดงเป็นแถวยาว ธามถอนหายใจพร้อมผ่อนคันเร่งทั้งที่ขับอยู่ไม่เกินที่กฎหมายบังคับ เขาหันมองพี่นำที่มองวิวข้างทางไปเรื่อย พี่นำคงมีตาข้าง ถึงได้หันมาสบตาทันทีที่ธามหันมอง พี่นำยิ้มให้อย่างใจดีแต่ดวงตาพี่นำดูล้ามากเลย

“นำง่วงมั้ย นอนสิ”

“อีกไกลมั้ยครับ?”

“ไม่ไกลแล้วแต่ว่ารถติด นิดเดียวสิ คิดนะ หิวสินะ อยากกินอะไร”

“แล้วแต่ธามเลือกให้ครับ ธามต้องดูแลพี่นำสิ พี่เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกนะครับ”

“โอเค ธามจะดูแลนำเอง”
“งั้นนำพักไปก่อน”

วันนี้พี่นำเชื่อฟังธามดีมาก ถ้าพูดอะไรก็เชื่อแบบนี้คงดี ธามจะได้พูดทุกอย่างที่อยากพูดเพื่อให้พี่นำทำตามที่ธามคิดเอาไว้ แม้สุดท้ายแล้วจะอยู่ไกลกันมากๆ แต่มันก็คงดีสำหรับทุกคน

‘รักเงียบๆ ก็ได้’  ธามหวังว่าพี่นำจะเข้าใจความรู้สึกนี้

-----------------

ราวกับมือเย็นแล่นมาตีตัวเขา ผู้นำสะดุ้งเพราะรู้สึกหนาวยะเยือก เขาตื่นอย่างงัวเงียพลางมองรอบตัว เขายังอยู่ในรถของธาม กระจกด้านธามถูกเลื่อนลงมาจนหมดบาน มิน่า เขาถึงได้หนาวจนแทบจะสั่นเป็นโทรศัพท์ตอนปิดเสียง แล้วเจ้าตัวดีไปไหนซะแล้ว

ผู้นำลงจากรถ เขามองบรรยากาศที่ค่อนไปทางมืด แสงไฟที่ส้มไม่ต่างจากที่เมืองไทยทำหน้าที่ช่วยเหลือเขาให้มองเห็นอะไรต่อมิอะไรชัดตากว่าเดิม

“นำ! ตื่นแล้วหรอ ออกมาหนาวทำไม”
“มานี่สินำ นำมานี่” ปากก็เรียก กวักมือเรียกเขายิกๆ แต่นี่เขายังไม่ได้ขยับสักข้าง ระยะห่างระหว่างเขาและธามก็หดลง หดลงเรื่อยๆ เพราะธามเดินกึ่งวิ่งมาหาเขา

พอยืนให้ดูเต็มตา ถึงได้เห็นว่าธามดูแลตัวเองดีมาก อย่างน้อยเครื่องแต่งกายก็สมกับสภาพอากาศ ไม่เหมือนเขาที่มีสเวตเตอร์ตัวเดียวทับเสื้อยืดไว้ แถมไม่ติดกระดุมอีกต่างหาก

“จมูกแดงเลยนำ หนาวมากสินะ อ่ะ” เจ้าตัวดีใจดีกับเขาอีกครั้ง ผู้นำโค้งตัวนิดๆ เพื่อให้น้องคล้องผ้าพันคอให้เขาได้สะดวกขึ้น เมื่อแน่ใจว่าธามห่วงเขาจริงๆ ไม่ได้อยากรัดคอเขาให้ตาย ผู้นำก็ยิ้มพร้อมพูดขอบคุณ และฝ่ายที่จมูกแดงเป็นธามเสียเอง สงสัยจะ “หนาวมากสินะ” เหมือนกันล่ะมั้ง
“กินสเต็กก็แล้วกัน ร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ต์ มีของกินอย่างอื่นด้วย เผื่อนำไม่อิ่ม มาสิ” ชวนเขา แต่การกระทำคือการลากเขานั่นแหล่ะ ผู้นำอมยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามแรงดึงไป กอดคอน้องเดินแป๊บเดียวก็ถึงหน้าร้านแล้ว ข้างใจไม่อึกทึกมาก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีคน
“นำกินเนื้ออะไร หมู ไก่ วัว ปลา”
“เอาหมูก็แล้วกันนะ”
“&%)&^”
“อ่ะ นำไปหาอะไรกินก่อนมา ธามไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ไปสิ” ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่เขาก้าวเข้าร้านมาแค่ 2 ก้าว แล้วเจอกับพนักงาน และเขาก็ยืนขาตาย ก็ภาษาจีนกลาง จีนใต้ จีนเล็ก จีนใหญ่ จีนน้อย เขาหูไม่กระดิก มารู้ตัวอีกทีธามก็จัดการให้เสร็จสรรพแล้วใช้สายตาไล่ให้เขาไปหาอะไรกิน
“อายหรอ? โอเค ธามช่วย”

เมื่อพูดว่าช่วย น้องก็ช่วยจริงๆ อะไรที่เขาหยุดดูนาน ธามก็จะก้มหยิบจานในตู้ด้านล่างเคาท์เตอร์ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้แล้วตักสิ่งที่เขามองทันที ใจดีบ้างก็จะบอกว่ามันคืออะไร ทำจากอะไร แต่ถ้าใจดีน้อยก็จะใช้ตะเกียบคีบมาจ่อที่ปาก พอเขาอ้าปากเพื่อจะบอกว่า “เดี๋ยวกลับไปนั่งทานที่โต๊ะดีกว่า” เขาก็จำต้องรีบๆ เคี้ยวสิ่งที่ธามยัดเข้าปาก

ตักของกินเล่นๆ กันไม่นาน สเต๊กจานหลักของเขาก็มา อาหารที่ค่อนข้างคุ้นตาคุ้นชื่อทำให้เขารู้สึกสบายตัวขึ้น ผู้นำถอดเสื้อคลุมแล้วก็ลงมือกินสเต๊ก ส่วนธามเอาแต่นั่งเล็มก้อนขนมปังโป่งๆ นิ่มๆ ที่ครอบปากแก้วทรงอวบเอาไว้

“นำลองนี่” สเต๊กพร่องลงนิดหน่อยธามก็ชวนคุย น้องหยิบช้อนของเขา เจาะลงตรงกลางก้อนขนมปังที่เขางงว่ามันจะฟูทำไม แล้วทำไมถึงมาทรงตัวอยู่บนปากแก้วเหมือนเล่นกายกรรมแบบนี้
ช้อนแรกที่น้องตักขึ้นมาอวดเขา ทำให้ผู้นำได้รู้ว่าสิ่งที่ธามนั่งกินมาตลอดก็คือซุปข้าวโพดนั่นเอง และมันอร่อยมาก

กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มมากจนแทบเดินไม่ไหว เขาก็กินอะไรต่อมิอะไรไปตั้งมาก ของหวานที่ปกติไม่ค่อยกินเขาก็ยอมกินเพราะธามนำเสนอเหลือเกินว่าอร่อยอย่างนั้น รสชาติดีอย่างนี้ แล้วเขาจะขัดใจอะไรได้

“นำอิ่มมั้ย” บางที ธามก็ควรจะสังเกตอาการเดินตัวตรงไม่ได้ของเขาแล้วอนุมานเอาได้ว่าเขาอิ่มมาก ผู้นำนิ่งคิด แต่กลับหันไปพยักหน้าให้คำตอบ พร้อมกับคำพูดย้ำความว่า “มากๆ   เลยครับ”

“ดีแล้ว มื้อแรกน่ะต้องกินให้อิ่ม”
“เดี๋ยวธามพาไปที่บ้านนะ แล้วนำก็นอนพักผ่อน”

“แล้วธามล่ะครับ พูดเหมือนจะไปไหนต่อ ให้พี่นำไปด้วยสิ”

“ธามไปทำงาน”

“..........” ทำงาน? น้องทำงานอะไร? ก็เรียนเพิ่งจบไม่ใช่หรอ? ดีไม่ดียังไม่ได้รับใบประกาศฯ เลย หรือว่าได้งานแล้วตั้งแต่ยังไม่จบดี แล้วงานอะไรกันนะ?

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” ดูเหมือนคิ้วเขาจะดีดดิ้นประกอบความคิดมากไป ธามถึงได้ถามกันตรงๆ แบบนี้ ผู้นำส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วยิ้มให้

“ธามขายเสื้อผ้าน่ะ หุ้นกับเพื่อน”
“ในไนท์มาร์เก็ต ร้านดังนะ”
“ทำมาตั้งนานแล้ว” อ้ออ.. แบบนี้นี่เอง

แล้วธามหัวเราะอะไร?

เขาไม่ได้ถามถึงสาเหตุของอาการหัวเราะอวดลักยิ้มของน้อง ผู้นำเดินตามธามขึ้นไปที่รถ รอบนี้เขาใช้เวลามองข้างทาง และก็มีไกด์ธามคอยอธิบาย...ไม่สิ เรียกว่าอวด “บ้าน” ของตัวเองให้เขาได้รับรู้ว่าไต้หวันบ้านธามนั้น เป็นอยู่กันยังไงบ้าง

บ้านธาม... ไม่สิ บ้านคุณน้าวีณาใหญ่ใช่เล่นเลยนะ ดูภายนอกเหมือนตึก 5 ชั้นธรรมดา แต่พอเข้าไปด้านในแล้วถึงรู้ว่ามันโออ่ามากจนเกินว่าจะอยู่กัน 2 คนป้าหลาน  แล้วในช่วงที่ธามเรียนโรงเรียนประจำ คุณน้าก็อยู่คนเดียวน่ะสิ

“บ้านใหญ่นะครับ”

“อื้อ แต่อยู่จริงๆ แค่ชั้นเดียว ชั้นบน”
“ชั้น 2 ถึงชั้น 4 น่ะออฟฟิศของป้า”
“แต่ปิดแล้ว”

หดหู่จัง
เขาไม่รู้ว่าธามทำใจได้มากน้อนแค่ไหนเรื่องการจากไปของผู้ปกครองและญาติคนเดียวที่รักธาม

“แล้วทำยังไงต่อครับ”

“ลุงหมอเป็นทำธุระ หมายถึง เข้ามาจัดการ แล้วก็ขายต่อธุรกิจป้าไปแล้ว”
“ธามกลับมาถึงได้รู้ว่ามันโล่งไปหมดเลย”
“ธามว่าจะขายที่นี่ แล้วหาที่เล็กๆ อยู่”
“...คนเดียว...”

“จริงสิ หมอปันบอกว่าให้ทนายทางนี้จัดการเรื่องธุรกิจ แล้วก็มรดก เคลียร์เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ”

“ดีแล้ว”
“เหลือก็แค่ที่นี่ ถ้าขายได้ ก็ไม่มีอะไรแล้ว”

“อยากขายหรอครับ” เขาถามพลางหันมองหน้าน้องชาย เด็กชายธามก็ยังเป็นเด็กชายธามสำหรับพี่นำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอจ้องหน้าก็จะหลบตา พอถามย้ำก็จะยอมพูดความจริง
“ธามอยากขายหรอครับ”

“บ้านธามนะ อยากขายไม่ได้ ได้ยังไง!”
“แต่จะทำยังไงอีกได้ล่ะ ธามทำอะไรไม่ได้เลย ทำไม่ได้เลย!”

“โอเค” เขาดึงตัวน้องมากอดไว้เมื่อเห็นว่าเริ่มมีอาการเครียดกะทันหัน ผู้นำลูบหัวที่ซุกอยู่ตรงหน้าอกอย่างแผ่วเบาพลางกวาดตามองโดยรอบพื้นที่

ชั้นนี้คือชั้นที่ 4 มันเป็นที่โล่ง มีร่องรอยของการกั้นห้อง วางของและเฟอร์นิเจอร์ติดฝาผนัง สายไฟบนเพดานมีห้อยรุงรังอยู่บ้าง แต่ก็ดูไม่น่ากลัว ไฟที่ให้แสงสว่างมีเพียงที่เดียว คือที่กลางห้อง

ชั้นนี้ก็เหมือนชั้น 2 และ 3 ที่พวกเขาเพิ่งเดินผ่านขึ้นมา
ตอนที่กลับบ้าน ธามต้องเดินผ่านพื้นที่ว่างเปล่าทุกวันรึเปล่านะ แล้วธามมองสิ่งที่กลายเป็นอดีตด้วยความรู้สึกเศร้าแค่ไหนกัน

“ธามมีพี่นำนะครับ ธามได้อยู่คนเดียวซะหน่อย พี่มาอยู่ด้วยแล้วไง”

“เดี๋ยวนำก็กลับ พูดเยอะ!”

“ต้องพูดว่า พูดมากต่างหากครับ”

“อื้อ! นำพูดมาก!” ว่าเขาเสร็จก็ชกหน้าอก แล้วลากเขาขึ้นไปยังชั้น 5
และทันทีที่เปิดประตูบ้านบานใหญ่เข้าไป ผู้นำก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของสถานที่ที่ธามเรียกว่า “บ้าน”



“นำนอนห้องธามนะ ห้องป้าธามคลุมผ้าเอาไว้ ไม่อยากไปโดน” เขาคิดว่าเขาเข้าใจว่าธามอยากจะสื่อสารว่าอะไร แต่คำพูดดูเหมือนไม่สนใจใยดีเสียเท่าไหร่ เพราะภาษาไทยน้องไม่แน่น

“พี่นำนอนที่ไหนก็ได้”

“งั้นห้องน้ำสิ” ให้มันได้แบบนี้สิ ขนาดภาษาไม่ถูกต้องก็ยังหัวไวและปากไว เขาหัวเราะเศร้าแล้วแกล้งผลักหันธามเล่นเบาๆ รายนี้แกล้งเด้งตัวไป แล้วก็ดีดตัวกลับมาหามือเขาใหม่ เหมือนตุ๊กตาลุ้มลุก และ ‘น่ารัก’  เขาคิดถึงคำไหนไม่ได้เลยนอกจากคำนี้

“มาๆ ทางนี้ แล้วเทคแคร์นะ ธามคงกลับตอนเที่ยงคืน”

ตอนนี้ 3 ทุ่ม ไปแค่ 3 ชั่วโมงก็ยังจะไป เขาล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเสื้อผ้าที่ธามขายนั้น มันเป็นแนวไหน

ผู้นำพยักหน้ารับลูกเดียว เขาต้องวางท่าทีว่าจะอยู่ในโอวาสเอาไว้ก่อน พอได้ความไว้ใจเพิ่มแล้ว ค่อยล้วงเอาสิ่งที่ธามเก็บงำไว้ก็ยังไม่สาย

-----------------

กว่าจะบอกให้อาหลูเข้าใจได้ว่าพี่ชายคนนี้ของเขานั้นได้มายังไง ก็ทำให้ขายเสื้อไม่ได้สักตัวในคืนนี้
ธามขับรถกลับบ้านด้วยสภาพที่เหนื่อยล้าเหมือนปกติ แต่หัวใจเขาไม่ปกติเอาเสียเลย

ที่นี่ ที่ไต้หวัน ที่บ้านธาม แต่ธามจะได้กลับไปเจอพี่นำ พี่นำที่ธามไม่เคยได้เจอ ไม่คิดว่าจะได้เจอ และไม่กล้าอยากเจอในเวลาที่ “ตัวธาม” อยู่ใน “ที่ของธาม” แบบนี้
คิดแล้วก็ต้องแอบยิ้ม ไม่รู้ป่านนี้พี่นำจะหลับรึยัง แล้วอากาศหนาวจะเปิดฮีตเตอร์เป็นมั้ย? ถ้าหิวน้ำจะกล้าเปิดกินมั้ย? คิดแล้วตื่นเต้นชะมัดเลย

เขาถอยรถเข้าที่จอดรถแสนโล่ง ก่อนหน้านี้ ตอนที่ป้ายังอยู่ ตอนที่มีหลายคนเข้าออกที่นี่เพื่อทำงานในออฟฟิศ ธามไม่ค่อยได้เอารถมาจอดไว้เท่าไหร่เพราะไม่อยากให้คนมีรถคนอื่นต้องเดือดร้อน เขาอาศัยขี่มอเตอร์ไซค์เอา แต่ที่นี่ไม่อันตรายเหมือนเมืองไทยหรอก

จอดเสร็จดึงรั้วปิดนิดหน่อยแล้วเดินลงบันไดที่ลาดสู่ชั้นใต้ดินแต่ที่นี่นับเป็นชั้นที่ 1 ซึ่งเมื่อก่อนนี้เป็นเสมือนหน้าร้าน มีสินค้าของบริษัทป้ามาวางโชว์ไว้ให้พวกซัพพลายเออร์ทั้งหลายมาเยี่ยมดู
แต่เวลานี้ มันเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าเท่านั้น

เขารุดวิ่งขึ้นไปยังชั้น 5 กว่าจะแตะประตูได้ก็เล่นเอาขาล้าเลย เมื่อก่อนนี้ไม่รู้สึกเมื่อยเพราะใช้ลิฟท์ หรือถ้าเดินขึ้นก็ไม่เมื่อยอยู่ดีเพราะแวะทักทายคนนั้นคนนี้ไปตามประสาเด็กชายที่ใครๆ ก็รู้จัก

ธามไม่เคาะประตูส่งสัญญาณ เขาเปิดประตูเข้าไปแล้วมองหาพีนำทันที และก็เจอทันทีเหมือนกัน

“ยังไม่นอนหรอนำ”

“รอธามครับ”

ทำไมยิ้มก็ไม่รู้ สงสัยธามจะชอบที่มีคนอยู่รอ แต่ก็ใช่ว่าธามจะดีใจทุกครั้งที่มีคนมารอพบ อย่างน้อย ตอนที่เจอแซนอยู่ตรงหน้า สิ่งที่ธามรู้สึกมีแต่ความอึดอัดเสมอ

“ง่วงสินะ”

“ยังครับ ธามเหนื่อยมั้ย เกือบตี 1 แล้ว ควรพักผ่อนได้แล้วนะครับ”

“อ้อ อือ” เขารับคำ จากนั้นก็รี่ไปอาบน้ำทำความสะอาดตัว รู้สึกเหมือนกันว่าวันนี้ใช้เวลานานกว่าปกติ สงสัยกินเยอะไปเลยเหงื่อนออกมาก พอออกมา พี่นำก็ยังคงนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ตรงหน้ามีเอกสารอะไรสักอย่างซึ่งธามขี้เกียจชะโงกไปดู

“มานั่งนี่มา” แล้วทำไมต้องเชื่อด้วย แม้จะคิดค้าน แต่ขาธามกลับเดินพาตัวเองไปนั่งจุมปุ๊กอยู่ข้างๆ พี่นำ ซ้ำยังเอนตัวไปพิงไหล่พี่นำไว้อีกต่างหาก

“เหนื่อยมั้ยครับ”
“พี่นำมีเรื่องอยากคุยกับธามเยอะเลย แต่ธามคงเหนื่อยมาทั้งวัน เราคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้เนอะ”

“อือ นำพูดมาก”
“นำนิ่งๆ” พอเขาบอกให้นิ่ง พี่นำก็นิ่งและไม่พูดอะไรอีก ธามหลับตาพลางถอนหายใจ เขาไถลหัวที่เคยเกยไหล่มานอนหนุนอยู่บนตักพี่นำ ก่อนจะลืมตาสบมองกับใบหน้าที่ก้มมองเขาอย่างสงสัย แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้เหมือนเดิม
“นานเท่าไหร่” เขาถาม แต่นึกได้ว่าพี่นำคงงง ก็เลยพูดเพิ่มทั้งที่ตาแทบปิดแล้ว
“นำอยู่กับธามได้นานเท่าไหร่”

“ตลอดไป ถ้าตอบแบบนี้เชื่อมั้ยครับ”

“ไม่เชื่อ” ธามบอกแล้วจ้องหน้าพี่นำนิ่ง มีบางอย่างผุดขึ้นในหัว และเมื่อมันผุดขึ้นมแล้วธามก็โพล่งพูดออกไปทันที
“แต่ขอให้อยู่กับธามตลอดไป ได้มั้ย”

“ได้ครับ” เขายิ้มเมื่อได้ยินคำตอบ ธามส่งมือขึ้นไปลูบแก้ม จับหน้าพี่นำ เขาจำครั้งสุดท้ายที่ลูบใบหน้านี้ได้ดี คืนที่เขากอดพี่นำไว้แล้วร้องไห้เพราะไม่อยากจากกัน ไม่อยากอยู่คนเดียวอย่างเคว้งคว้างอีก แต่ก็ไม่มีทางเลือกไหนที่ดีกับใครหลายๆ คน และทำร้ายแค่ธามคนเดียวเหมือนทางนี้อีกแล้ว คืนนั้นเศร้ากว่าคืนนี้มาก อย่างน้อยๆ คืนนี้พี่นำก็กำลังยิ้มให้

ธามยกตัวขึ้นเกยตักพี่นำ ซึ่งมันทำให้ธามรู้สึกอุ่นมาก

“ธามครับ”
“พี่นำมาทวงสัญญา”

“สัญญาอะไร”

“สัญญาว่าจะกลับไปหาพี่นำ”

“............”

“สัญญาได้รึเปล่า”

“ถ้าไม่ได้ล่ะ”

“งั้นพี่นำคงต้องอุ้มธามกลับเมืองไทย”
“เพราะพี่อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีธาม”

ธามดีใจ ดีใจที่มีความสำคัญกับพี่นำ ดีใจที่ทำให้พี่นำอยู่ไม่ได้ ดีใจที่พี่นำอยากอยู่กับธาม
แต่เขาควรดีใจหรอ ถ้าดีใจ ถ้าอยู่กับพี่นำตลอดไป จะมีใครตายรึเปล่า?

ถ้านำตอบคำถามที่ลอยวนเวียนอยู่นี้ได้ ธามก็คงตอบได้เหมือนกัน ว่าจะอยู่กับนำตลอดไป


เขาไม่มีคำตอบให้พี่นำ ธามเม้มปาก หลบตา เขาคิดว่าพี่นำคงถอนหายใจเหมือนที่ชอบทำเวลาที่ธามขัดใจ แต่พี่นำกลับไม่ทำอย่างที่เขาคิดไว้

สิ่งที่พี่นำทำ เป็นสิ่งที่ธามไม่เคยคาดคิดไว้มาก่อนเลย

“จูบนะครับ”



CUT


สวัสดีปีใหม่ค่ะ!!!!!!

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #187 เมื่อ11-01-2014 06:44:24 »

เขากำลังจุ๊บกัน ตัดจบได้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #188 เมื่อ11-01-2014 06:48:56 »

ติดงอมแงมเลยยยย
สงสารน้องธามจริงๆ
ผ่านปัญหานี้ไปให้ได้น๊าา

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #189 เมื่อ11-01-2014 07:16:05 »

โฮ่ววววววว
สงสารน้องธามมมม
พี่นำคะ มาคราวนี้อย่าเสียเที่ยวเด็ดขาดนะคะ!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
« ตอบ #189 เมื่อ: 11-01-2014 07:16:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #190 เมื่อ11-01-2014 07:46:33 »

พออยู่ด้วยกันก็น่ารักมุ้งมิ้งเลย  :o8:
แต่ธามครับ ไม่ต้องรักพี่นำเงียบๆแล้วก็ได้นะ ยังไงพี่นำก็สัญญาแล้วนะว่าจะอยู่กับธามตลอดไป :กอด1:
สู้ๆนะธาม อย่าไปยอมให้ไอ้พ่อลูกคู่นั้นมันเอาเปรียบธามนะ  :mew2:

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #191 เมื่อ11-01-2014 10:39:14 »

ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มุ้งมิ้งมากอ่ะ ตอนนี้
จูบเลย จูบเลย กองเชียร์ลุ้นจนตัวโกร่งแล้ว :hao7:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #192 เมื่อ11-01-2014 16:10:05 »

โอ้ย!!! สงสารธาม  ไอ้บ้าแซน แม่งโรคจิต

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #193 เมื่อ12-01-2014 00:38:46 »

หงายตึง!!!!! จะจูบแล้วโอ้ยยยยยยยยย55555555555555
สวัสดีปีใหม่ค่าอิอิ
พี่นำทำไมรุกจัง ธามก็น่ารัก เลิกคิดมากได้แล้วววว

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
«ตอบ #194 เมื่อ14-02-2014 23:31:10 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 16



เขาไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่ ที่หัวใจเต้นไปกับคำพูดพี่นำคำนั้น

‘จูบนะครับ’ พี่นำพูดคำเดียว ธามก็หัวใจสั่นแทบบ้า เขาจำได้ว่าเงยหน้ามองพี่นำตาพอง พอพี่นำยื่นหน้ามาหาก็หลับตาแน่น สิ่งที่เกิดขึ้นถัดมาก็แค่
‘ที่พี่นำฝากไว้ พี่ธามเองก็ฝากไว้ คือจูบนะครับ’ แล้วพี่นำก็พูดอะไรก็ไม่รู้ ได้ยินแค่สัญญาๆ นี่แหล่ะ ที่ฟังไม่รู้เรื่องก็เพราะว่าพี่นำพูดยาวๆ วกไปวกมา แล้วอีกอย่าง...ธามอาย!

“อ่ะ อ้าว ไม่ทานล่ะครับ แค่นมอุ่นๆ ไม่อ้วนหรอก” ไม่ได้กลัวอ้วนซ้กนิด ธามยู่หน้าใส่แล้วก็หยิบแก้วนมขึ้นมาดื่มให้คนอุ่นให้ได้เห็น
“ดีมากครับ” พี่นำเอ่ยชม ซ้ำยังลูบหัวอีกต่างหาก ธามไม่ใช่ลูกหมานะ! แล้วทำไมธามต้องเอียงหัวไปซุกบ่าพี่นำแบบนี้ด้วย! ตัวธามเป็นอะไรเนี่ย!!
“อ้อนเอาอะไรครับ?”

“ไม่รู้”

“ดึกมากแล้ว ธามนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานกี่โมง ให้พี่นำช่วยปลุกมั้ย?”

“ตื่นเองได้ ธามตื่นเองเป็นตลอด”

“เป็นประจำต่างหาก”

“นำก็รู้เรื่องสิ!”  เขาขึ้นเสียงใส่แต่หัวกลับเอนต่ำลงจนกลายเป็นนอนตักอีกครั้งไปเสียได้ ธามไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ

“ฮึ หมาธามดื้อ ไปแปรงฟันนะครับ”

“นำจะหลับก่อนสินะ” ธามถามดักคอ แต่คำตอบพร้อมรอยยิ้มของพี่นำก็ทำให้ธามเชื่อสนิทใจ

“ไม่ครับ พี่นำจะรอ”

-----------------

ธามว่าง่ายมาก ตอนแรกเขาคิดว่าธามจะดื้อกว่านี่ รู้สึกจะนิ่งๆ ไปตอนที่เขาพูดถึงเรื่องจูบ จะว่าไป ตอนที่พูดก็ใจเต้นแทบแย่ กลัวเหมือนกันว่าน้องจะได้ยินเสียงตึกตักในอก แต่ธามคงไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก นี่ก็คงง่วงแล้วงอแงตามประสา

เด็กก็คือเด็ก แม้จะอายุ 21 ปีแล้ว แต่หากมองจากจุดยืนของเขา มุมมองของเขา ธามก็คือเด็กชายตัวเล็กที่เขาปล่อยให้ห่างตาไม่ได้จริงๆ
และมันก็ช่วยไม่ได้ ที่เมื่อตาจดจ้อง สมองก็มีเรื่องธาม ใจ...ก็มีแต่ธาม

นี่เขา “รักเด็ก” เข้าแล้วจริงๆ หรอเนี่ย?

นั่งคิดอะไรเรื่อยเปือยไม่นาน โทรศัพท์เขาก็ดัง แม้จะโรมมิ่งไว้แต่เขาก็ไม่อยากติดต่อใครให้เปลืองค่าใช้จ่ายนัก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมอง แล้วเปิดโน้ตบุ้คที่ปิดไปแล้วรอบหนึ่งก่อนธามจะกลับมาที่บ้านตึกนี้

ผู้นำได้ข้อความจากพ่อ เขาจึงเปิดเมลล์ตามคำสั่ง และก็ได้พบกับแผนการที่พ่อเขาเตรียมไว้ โดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าเป็นหนึ่งในตัวหมาก

“คิดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย คุณหมอปัน” เขาเอ่ยแซวพ่อตัวเองและเริ่มอ่านไฟล์ในเมลล์ที่พ่อส่งมาให้ ดูหลวมๆ ครั้งแรกจนครบแล้วผู้นำถึงรู้ว่า หน้าที่ของเขาที่ไต้หวันคือ “รับมือกับนายสุพิสุทธิ์”

ในเมลที่เขาได้รับเป็นข้อมูลจากนักสืบ มีภาพวงจรปิดในซอยบ้าน หน้าบ้าน เขาเห็นรูปเบลอๆ ของรถยนต์ที่เขาเคยนึกสงสัยว่าเปิดกระจกมองบ้านเขาทำไม น่าตกใจที่ไม่ได้มีรถคันนั้นแค่คันเดียวที่แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยหน้าบ้านเขา ดูจากภาพที่เห็น ก็ราวๆ 3 คัน

เป้าหมายคนพวกนั้นคือธาม
คนพ่ออาจจะต้องการชีวิต
แต่คนลูก ผู้นำมั่นใจว่าตรงกันข้าม อาจจะต้องการชีวิตธามเหมือนกัน แต่คนลูกไม่ได้ต้องการพรากลมหายใจ การควบคุมลมหายใจของธามต่างหากที่ชายชื่อสุพิสุทธิ์ต้องการ

ข้อมูลที่สำคัญที่สุดที่เขาได้รับก็คือ นายสุพิสุทธิ์เดินทางมาไต้หวันแล้ว เมื่อ 2 วันก่อน
เจ้านั่นมาถึงตัวธามรึยังนะ? มาก่อนเขาวันนึงด้วยซ้ำ แล้วถ้าธามพบเขาแล้ว ธามทำยังไง?

“อะไรตรงนั้นนำ”

“เฮ้ออ” ผู้นำถอนหายใจ เขาคิดว่าเขาควรปลงเรื่องภาษาไทยของธาม เขาละความสนใจจกโน้ตบุ้คเพื่อมองหน้า...เด็กที่มัดจุกน้ำพุที่กลางหัว และมีผ้าคาดตาคล้องไว้ที่คอ
“อะไรตรงนั้นครับธาม” ดูเหมือนน้องจะรู้ว่าอะไรที่เขาสงสัยคืออะไร เจ้าตัวดีขยี้จุกตัวเองพร้อมกับให้เหตุผล

“ธามไม่ชอบให้ผมปิดหน้าก็เลยมัดๆ ไว้ เวลาตื่นนะ ห้ามากเลย”

“ฮารึเปล่าครับ? ธามหมายถึงผมมันดูตลกใช่มั้ย”

“อื้อ” ตอบแบบไม่ใส่ใจเสร็จแล้วก็เดินมาจูงมือเขาเข้าห้องนอน

“นอนเตียงธามได้มั้ย บางๆ นะ หมายถึงมันไม่กว้างใหญ่ เยอะ ใหญ่ๆ อ่ะ นำรู้เรื่องมั้ย?”

“รู้ครับ พี่นำนอนได้ ธามนอนเถอะ พี่นำคิดว่าถ้าฟังภาษาไทยของธามมากกว่านี้ ต้องปวดหัวตายแน่เลย” พอว่าเข้าหน่อยก็เบ้หน้า เจ้าตัวดีผลักตัวเขาออกห่างแล้วก็ทิ้งตัวลงนอน แต่ก็เด้งขึ้นมาใหม่แล้วลากเขาไปนอนที่เตียง

“นอนได้แน่สินะ”

“ครับ นอนได้ ธามก็นอนได้แล้ว” เขากระตุกมือคนที่กอดอกมองเขานอนให้เทตัวลงนอนเคียงกัน และเพราะเตียงมันแคบนิดหน่อย เขาก็เลยต้องนอนเบียดๆ ธามเข้าไว้ แต่คิดในแง่ดี นอนแบบนี้อุ่นกว่านอนเตียงกว้างแล้วสุมผ้าห่มบ่มตัวตั้งเยอะ

เด็กดื้อตะแคงตัวหันมาหาเขา ลมหายใจเกร็งๆเป่ากระทบอก มันอุ่นกว่าลมจากฮีตเตอร์เสียอีก

“อึดอัดมั้ย?” ผู้นำถามเมื่อวาดมือพาดตัวธามไว้ เด็กดื้อสั่นหน้าแล้วก็ก่ายเขากลับ ให้มันได้แบบนี้สิ คงมองเขาเป็นหมอนข้างล่ะมั้ง เขากอดแน่นขึ้น ส่วนธามก็ซุกหน้าถูๆ ไปมากับอกเขา ไม่นานก็ดูผ่อนคลายแล้วก็หลับไปในที่สุด ก่อนจะหลับ ยังฝากคำถามไว้ให้เขาขบคิดอีกว่า “นำ เรากอดกันแบบอะไร?”

ใครจะไปรู้ ผู้นำเองก็ไม่เคยนอนกอดผู้ชายแล้วหลับ ทั้งชีวิตก็มีแต่น้องธามเท่านั้นแหล่ะที่พี่นำเคยแชร์เตียงตัว ตั้งแต่ตอนที่ธามยังเด็ก และตอนนี้ที่ธามคิดว่าธามโตแล้ว แต่ธามก็ยังเด็กอยู่ดี

เขาไม่คิดอะไรให้มากความ ผู้นำฝากจุมพิตบางๆ ไว้ที่หน้าผากและดมไรผมหอมๆ ก่อนจะหลับตาพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นช้าๆ

-----------------

เช้าแล้ว....
อืม....
เช้าแล้ว!!!
ธามเด้งตัวขึ้นและตัวโคลงทันที เขากระโดดลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งออกไปดูที่หน้าประตูห้องใหญ่ จ่อตากับรูเล็กๆ กลางประตูอยู่ร่วม 5 นาที เขาก็ถอนหายใจ

ไม่มีใคร...ดีจริงๆ
ธามอมยิ้มแล้วหันกลับไปยังห้องนอนที่เพิ่งวิ่งพรวดออกมา เขาสะดุ้งเพราะเจอกับพี่นำที่ยืนผมชี้โด่เด่มองมาทางเขาอย่างสงสัย

“มารอหนังสือพิมพ์หรอครับ?” พี่นำถาม ธามก็เลยพยักหน้าส่งๆ เขาหวั่นใจเหลือเกินว่าใครอีกคนจะโผล่มาในเวลาที่กำลัง...มีความสุข
“เช้านี้...” พี่นำพูดค้างไว้แล้วก็เดินไปที่ครัว จากนั้นก็ตะโกนถามธาม
“เราทานอะไรกันดีครับ?”

ธามอมยิ้ม เขาขยี้หัวตัวเองจนยุ่งกว่าเดิมแล้ววิ่งตามไปในครัวที่มีพี่นำยืนหันไปหันมา
“ธามทำให้ นำไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อสิ วันนี้อยากไปไหน ธามจะดูแลเอง”

“พูดเป็นเล่น เที่ยวหรอครับ?”

“ได้สิ ธามทำงานตอนกลางคืน”

“งานอะไร?”

“ถ้านำไม่เหนื่อยคืนนี้ ก็ไปกับธามสิ”

“โอเค” พี่ชายเขาพยักหน้ารับแล้วก็หายเข้าห้องน้ำไป หน้าที่เตรียมมื้อเช้าจึงเป็นของธามสมใจ

มื้อเช้าสุดเจ๋ง พี่นำเห็นปุ๊บต้องตาระเบิดวิ้งๆ แน่
มันคือแซนวิชไข่ดาวไม่สุกโรยหมูสับผัดซอส! ที่สำคัญ ไม่มีผักเลยด้วย!
เขากอดพองแก้มภูมิใจในมื้อเช้าหน้าตาดี ส่วนคนที่เขาตั้งใจทำมื้อเช้าให้กำลังนั่งจิบกาแฟดำกลิ่นเข้มข้นอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่หอบหิ้วมาด้วยจากประเทศไทย
ธามดันชามแซนวิชไปตรงหน้าพี่ชายใส่แว่น แต่ก็ได้รับแค่การ “มอง” เท่านั้น

“ไม่กินหรอ? นำไม่ชอบหรอ? ทำไมล่ะ งั้นกินอะไรดี? ทำเองเลยสินะ ได้เลยสิ โอเค!”

“ทานครับ แต่ขอพี่นำจิบกาแฟก่อน”
“น่าทานมากๆ เลย ขอบคุณมากครับธาม”

ทำไมต้องพูดเยอะแยะด้วย ถ้าบอกว่าทาน ก็คือกินสิ กินเลย กินตอนนี้ นี่ทำให้แล้วทำไมไม่กิน คงจะไม่ชอบจริงๆ นั่นแหล่ะ ถ้าไม่ชอบก็แค่พูดมา ธามไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ก็แค่เอาไปทิ้งเพราะกินเองทั้งหมดนี่ธามคงอ้วนท้องระเบิดตาย

“ไม่ต้องกินแล้ว! ไม่ให้” ธามบอกหน้าบึ้งแล้วก็ยึดจานคืน แต่พี่นำกลับยืดมือยาวๆ มาดึงจานไว้เสียก่นอ

“พี่บอกว่าจะทานไง โกรธเรื่องอะไรครับ”

“นำโกหก  นำไม่อยากกินล่ะสิ พูดมาเลย”

“ธามรู้ตัวมั้ยว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องการไว้ใจและเชื่อใจคนอื่น”
“ถ้าพี่นำบอกว่าจะทาน ก็คือทานครับ ไม่มีการโกหกเพื่อให้ธามสบายใจหรืออะไรทั้งสิ้น”
“แค่เชื่อคำที่พี่นำพูด มันยากหรอธาม”

“ไม่เชื่อใครทั้งนั้นแหล่ะ” ธามขมวดคิ้วใส่แล้วก็ดึงจานคืน แต่ครั้งนี้ทำสำเร็จ เขาใจเสียที่พี่นำไม่ยื้อแย่งหรืออธิบายอะไรเพิ่ม พี่ชายใส่แว่นคนนี้เพียงแค่ถอนหายใจและจิบกาแฟต่อเท่านั้น

อะไรกันเล่า!

“ก็แล้วธามต้องทำยังไง เชื่อมันทำกันง่ายหรอ ใครๆ ก็โกหกกันทั้งนั้น ธามไม่อยากเชื่อแล้ว”

“เริ่มจากเชื่อพี่นำ”
“เริ่มจากพี่นำคนเดียวก็ได้ ทั้งโลกนี้ธามไม่ต้องเชื่อใครถ้าไม่อยากเชื่อ เชื่อแค่พี่นำคนเดียวพอ”

“โลกใหญ่ นำแค่คนเดียว ง่ายออก ทำได้อยู่แล้ว แต่ว่า...”

“แต่อะไร?”

“แต่เชื่อนำแล้วได้อะไร คนอื่นก็เหมือนกัน เชื่อคนอื่นแล้วธามได้อะไร”

“ได้ใครสักคนที่สามารถเชื่อได้”
“หาเจอ 1 คนก็เพียงพอแล้วครับ”
“มานี่มา...พี่นำว่าเราต้องนิยามอะไรกันอีกเยอะเลย มานั่งข้างๆ พี่นำนี่”
“มาดูอะไรนี่”

“อะไร?” ธามถามอย่างสงสัย เขาเดินถือจานแซนวิชของโปรดไปหาพี่นำแล้วก็นั่งจุมปุ๊กอยู่ข้างๆ หน้าจอโน้ตบุ้คพี่นำคือรูปภาพมัวๆ แต่เห็นครั้งแรกก็รู้ว่าคือภาพหน้าบ้านลุงหมอ

“ตอนที่ธามอยู่ที่เมืองไทย มีคนตามธามตลอดเลย”
“เพราะแบบบนี้พี่ถึงไม่อยากให้ห่างตา ก็ไม่รู้ธามเข้าใจรึเปล่านะ แต่ถ้าเชื่อกันกว่านี้ หรือถ้าพี่ดูแลดีกว่านี้ ธามคงไม่ต้องไปเหยียบบ้านนั้นถึง 2 ครั้ง 2 คราหรอก”
“พี่นำขอโทษนะ”
“และที่พี่นำต้องตามมาถึงที่นี่ก็เพราะเป็นห่วง”
“ธามดูนี่” พูดจบก็เปิดรูปอื่นให้ดู มีรูปหน้าบริษัทที่โป๊ะด้วย รถคันเดียวกันนี่ตามติดธามไปทุกที่ ไม่สิ ไปจอดที่หน้าโรงพยาบาลลุงหมอ คลินิกลุงหมอด้วยอีกต่างหาก
“นายพิสุทธิ์กับลูกชายเขาไม่ใช่เล่นเลยนะครับ โป๊ะเคยพูดว่าพวกเขาเป็นมาเฟีย แต่พี่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เป็นใครไม่สำคัญเท่าเจตนาอะไร”

“เจตนาคืออะไร?”

“เจตนาคือ ความตั้งใจจะทำอะไรน่ะครับ”
“ดูนะ รูปสุดท้าย เขาตามธามไปที่สนามบินด้วย”
“และเขา...นายสุพิสุทธิ์ก็มาที่ไต้หวันแล้วด้วย”
“กลัวมั้ยครับ”

“................”

“ธาม”

“ซะ...แซนหรอ”
“มาที่นี่หรอ”
“ก็ไหนบอกว่า....”

“ครับ? เขาบอกอะไรธามหรอ”

“...............”

“ธาม ป่านนี้แล้วธามยังไม่ไว้ใจพี่นำอีกหรอ บอกพี่นำไม่ได้หรอครับ”
“เจตนาของพี่คือปกป้องธามนะ พี่นำเป็นห่วงมากนะ”
“ธามครับ”

“....นำ บอกแล้วจะแย่เพิ่ม ธามจัดการได้”
“งั้นนำกลับไทยวันนี้เลย กลับเลย”
“กลับเลยนะ เดี๋ยวธามช่วยเก็บของ”

“ไม่ครับ!”
“พี่ไม่หนี ธามก็ไม่ต้องหนี”
“ธามไม่ได้ทำอะไรผิด พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย นายคนนั้นไม่มีสิทธิ์มารุกรานกันแบบนี้”
“ทำไมการที่เขาไต้หวัน ต้องทำให้พี่จากธามไปด้วย ไม่มีเหตุผล”

“ก็แซน...”

“เขาทำไมครับ”

“นำ นำไม่ต้องมาตายที่นี่หรอก นำกลับไปเถอะ อย่าเดือดร้อนเพราะเข้าใกล้ธามเลย”
“ธามเป็นตัวซวยนะ อยู่กับใคร คนนั้นก็ตาย ป้าเองก็....”

“พี่นำไม่กลัว”

“แต่ธามกลัว!”

“ฟังสินำ ธามกลัว ธามเสียใครไม่ได้แล้ว ธามต้องเสียใจอีกไม่ไหวแล้ว”
“ถ้าใครตายอีกจะทำยังไง”
“ให้ธามหายไปจะง่ายกว่า แค่หายไปคนเดียว ธามหายไปคนเดียว โลกใหญ่ ไม่รู้สึกอะไรหรอก”

“แต่พี่นำรู้สึก และพี่นำไม่ยอม”
“ถ้าพี่ยังอยู่ข้างๆ ธาม ใครก็ทำอะไรธามไม่ได้”

“แล้วนำอยู่กับธามได้นานกี่วันกันล่ะ”

“ตลอดไปไงครับ พี่นำสัญญาไว้แล้ว”

ตลอดไป เท่ากับกี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่สิบปี
ตลอดไปนานแค่ไหนกัน นานกว่าชีวิตแซนรึเปล่า ขอให้นานกว่าด้วยเถอะ
ธามกัดแซนวิชแล้วยัดใส่ปากพี่นำแทน เขาเดินไปหน้าประตูใหญ่อีกครั้งแล้วก็ส่องที่ตาแมว เขามองตาแมวด้วยความรู้สึกกลัวน้อยลงได้ไม่กี่วัน ก็ต้องกลัวมากขึ้นอีกแล้วหรอ? เขายังไม่ได้พักจากความกลัว ความกังวลจนใช้ชีวิตไม่เป็นสุขเลย

“นำ แซนมาแล้วหรอ”

“หมอปันบอกอย่างนั้นครับ”

“โอเค...โอเค” ธามเดินกลับเข้าครัวมาดื่มน้ำ เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของใช้จำเป็น เสร็จแล้วก็บอกให้พี่นำพกแต่ของจำเป็นติดตัวไว้ เมื่อพีนำถามว่า “จะทำอะไรครับ บอกแล้วไงครับว่าพี่นำไม่หนี”

“ธามก็ไม่ได้หนี ไม่หนีแล้ว เบื่อ!”
“แต่ก็ใช่ว่าต้องอยู่รอนี่ ถ้าอยากเจอธามนัก แซนก็ต้องเหนื่อย เหนื่อยให้เท่ากับพี่ธามหนีจนเหนื่อยนั่นแหล่ะ”

แววตามุ่งมั่นดี น้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีความลังเลเจือปน
ผู้นำมองน้องชายที่เด็กกว่า 10 ปีเดินวุ่นวายเก็บของจำเป็นใส่กระเป๋าจนดูวุ่นวาย
น่าแปลกที่เขายิ้มพึงใจกับการ “ตั้งหลัก” ของธาม

“แล้วธามจะพาพี่นำไปอยู่ที่ไหนครับ”

“บ้านธามเอง”

“หือ?”

“อื้อ ไม่ผิดหรอก นี่บ้านป้า แต่ธามจะพานำไปอยู่ที่บ้านธาม”

ไม่ยักรู้ว่าเด็กคนนี้มีแอสเซ็ทเป็นของตัวเอง
แบบนี้น่าสนุกดี ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาคิดไปว่าพวกเรากำลัง “หนีตามกัน”


Cut


โซซอววววววเร่!
ขอโทษจริงๆ ค่ะ รอบนี้หายไปนานมากกก
ฮรืออออ ขอโทษจริงๆ
แอบหวังว่าจะมีผู้อ่านจำพี่นำกับน้องธามได้อยู่นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2014 17:59:20 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #195 เมื่อ15-02-2014 00:14:45 »

บ้านน้องธามอยู่ไหนน้อ หวังว่าอิพี่แซนจะตามไม่เจอตลอดไปนะคะ :z1:

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #196 เมื่อ20-02-2014 23:14:37 »

มารอค่าาาาาาาาาา
เกลียดอีแซมกรี้ดดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
«ตอบ #197 เมื่อ21-02-2014 04:25:32 »

สงสารธาม แซนนี่โรคจิตเกิ๊นนน
ขอให้มีทางออกดีๆ ด้วยเถอะธามเอ้ย
พี่นำดูแลน้องดีๆ นะ
ปล. ลืมเปลี่ยนวันที่หัวตอนอ่ะค่ะ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 17.1(19-03-14)
«ตอบ #198 เมื่อ19-03-2014 00:38:26 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 17.1


เขาผิดเองที่คิดว่า “บ้านของธาม” จะเหมือนบ้านคนทั่วไป ที่ที่น้องพากเขามาซุกหัวนอนก็คือร้านของธามนั่นแหล่ะ เรียกว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจก็ว่าได้ เพราะธามเปิดร้านขายเสื้อช่วงสายๆ และมีออเดอร์เข้ามาตลอด ทั้งลูกค้าในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศ เขาไม่ได้สอบถามเรื่องธุรกิจอะไรมากนัก เพราะ “พาร์ทเนอร์” ของธามดูเหมือนจะหวงข้อมูลทางธุรกิจมาก
หรือคิดอีกที “อาหลู” น่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่หวงธามมากๆ มากกว่า
เช้าวันนี้เขาทดลองเดินห่างจากซอยร้านของธามไปไกลกว่าเมื่อวานเพื่อสำรวจดูว่าย่านการค้านี้มีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง หากน้องเขาจะฝังตัวอยู่ที่นี่ จะมีเหตุผลที่สมควรที่เขาสามารถหาเจอกี่ข้อกัน?
“นำ นำจะไปไหนน่ะ ทางนั้นไม่มีอะไรแล้ว”

“หรอครับ? ก็เห็นว่ายังมีตึกอยู่”

“อืม เป็นบ้านคนแล้ว กลับเถอะ เดี๋ยวอาหลูรอ”

“ให้อาหลูรอบ้างไม่ได้หรอครับ” คำถามนี้เขาต้องการคำตอบจริงๆ หลายวันมานี้ทำให้เขารู้ว่า อาหลูคนนี้เหมือนกับอาชีพผู้เขียนบทและผู้กำกับมากๆ หมอนั่นกำกับธามแทบทุกอย่าง ลามมาถึงเขาด้วย ซึ่งมันค่อนข้างน่ารำคาญ และเขาก็ไม่เห็นเหตุผลที่ต้องทำตามสิ่งหมอนั่นต้องการให้ทำ

“ก็อาหลูยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย”

“อาหลูน่าจะทำอาหารกินเองได้”
“ธามพาพี่นำไปเดินให้รอบกว่านี้หน่อยสิ พี่นำเริ่มเบื่อๆ แล้วนะครับ”
“นะ ไปเที่ยวกันเถอะ”
“ไปกัน 2 คนนะครับ”

น้องนิ่งคิดครู๋เดียวก็พยักหน้า ผู้นำแอบยิ้ม นาทีนี้เองที่เขาได้รู้จักกับมุมเจ้าเล่ห์ของตัวเอง

--------------

ที่เที่ยวที่เด็กชายธามพาเขามาหาความเพลิดเพลินเป็นที่เที่ยวระดับเวิลด์คลาสมากๆ  ทั้งโลกนี้ หากใครมาถึงถิ่นประเทศไต้หวันจะต้องไปเที่ยวที่นี่กันทั้งนั้น มันคือตึก 101 ชั้น ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่เห็นว่าน้องภูมิใจนำเสนอมากๆ เขาก็เลยไม่พูดอะไร พวกเขาลงจากรถแท็กซี่ สภาพการแต่งตัวก็ไม่สมควรได้รับการตอบรับที่ดีจากคนรอบข้างมากนัก แต่หน้าตาพอจะถูไถได้บ้าง

“ขึ้นไปแป๊บนึงนะ แล้วก็ลงมาทานข้าวกันข้างล่าง แต่อย่ากินอะไรแพงนะ  ธามไม่ได้พกบัตรมา มีแต่แคช”

“ครับ” ผู้นำรับคำว่าอย่างง่าย เขาเงยหน้ามองตึกสูงแล้วอดดึงความทรงจำตอนไปยืนมองตึกคู่ที่มาเลเซียมาเทียบกันไม่ได้ ความรู้สึกที่ได้รับจากการมอง 2 ตึกก็ไม่ได้ต่างกันเลย แต่ครั้งนี้ดูจะมีอะไรให้จำมากกว่าเพราะคนที่มาด้วยกันนี่แหล่ะ

“ธามครับ” เขาเรียกเมื่ออีกฝ่ายเดินนำขึ้นบันไดเลื่อนไปฉิวๆ เด็กผอมคนนี้หันตัวมามองแล้วเลิกคิ้วใส่ ผู้นำไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าก่อนจะหันมองทางอื่น

ผอมจัง เขาอยากพูดคำนี้ แต่เดี๋ยวน้องจะหน้าบูดเพราะไม่พอใจคำวิจารณ์เสียเปล่าๆ

“นี่นำ”

“ครับ”

“อยู่มากๆ วัน ชอบอะไรบ้างไทเป”

“ถามทำไมครับ”

“just answer”

“ถ้าไม่รู้ว่าจะเอาคำตอบไปใช้ทำอะไร พี่นำก็ไม่ตอบ”

“อยากรู้อันเดียว”

“อยากรู้เท่านั้นต่างหาก พูดให้ถูกคือ แค่อยากรู้ครับ”

“ที่นี่ไทแป ไม่ต้องภาษาไทยด้วยซ้ำ ธามดีให้มากแล้ว”

“โอเค โอเค” ผู้นำยกมือยอมแพ้ เขาก้าวขึ้นมาบนขั้นบันไดที่เสมอกัน และเมื่อก้าวพ้นบันไดเลื่อนทั้งคู่แล้ว ผู้นำก็ถามย้ำอีกครั้ง
“แล้วอยากรู้ทำไมว่าพี่นำชอบอะไรในไต้หวันบ้าง”

“ถ้าชอบเยอะ นำก็อยู่ที่นี่เลย ด้วยกับธาม”

“แต่บ้านพี่นำคือประเทศไทยนี่ครับ บ้านธามก็ด้วย”

“no. mine is here.”

“ดื้อ เมื่อกี้จะถือว่าไม่ได้ยิน ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า ไปทางไหนต่อครับ เราต้องขึ้นไปชั้นสูงสุดใช่มั้ย? พี่นำว่าขึ้นลิฟท์ดีกว่าครับ”
“โอ๊ะ นี่ไง ป้ายบอกไว้ เดินวนขึ้นบันไดเลื่อนพอดีหมดแรง”
“มาทางนี้เถอะธาม”

เด็กดื้อทำหน้าหงุดหงิดใส่เขา แต่ก็เดินตามแรงจูง เขารู้ว่าธามกำลังคิดอะไร เปรียบไปก็เหมือนต้นไม้เมืองร้อนที่ได้โผล่มาหายใจเหนือดินครั้งแรกที่ประเทศสุดหนาวในหน้าร้อนพอดี แน่นอนว่าต้นไม้ย่อมดีใจและคิดว่าเจอที่อยู่ที่ควรแล้ว
แต่ความจริงแล้วก็อยู่ได้แค่ช่วงเดียว เหมาะกันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป ประเทศหนาวนั้นจะกลายเป็นสุสานต้นไม้ต้นน้อยนั้นในที่สุด ดินที่เคยโอบอุ้มรากไว้จะกลายเป็นผืนดินที่ตรึงรากต้นไม้ไว้ให้ยืนต้นตาย
ธามอยู่ที่นี่ไม่ได้ โดยเฉพาะอยู่คนเดียว

ติ๊ง
เสียงลิฟต์ดึงผู้นำออกจากความคิด เขาเดินนำออกไปรอธามหน้าลิฟต์เพราะน้องตัวบางและโดนเบียดไปยืนในสุด แหล่งนักท่องเที่ยวแห่งนี้ทำให้พวกเขาไม่ดูแปลกแยก ซ้ำธามก็ยังใช้นิสัยเดิมคือขโมยฟังไกด์ แต่รอบนี้ซาวน์แทร็คเป็นภาษาไทยที่เขาคุ้นหูเป็นอย่างดี

“ตามเขาไปก็ได้มั้ย”

“ครับ ตามก็ตาม”
“ธามเดินให้ทันพี่ เดี๋ยวก็โดนเบียดหลง”

“ที่นี่บ้านธาม ไม่หายหรอก”

“ประเทศไทยต่างหากบ้านธาม”

“ไทเป”

“ไม่รู้ ไม่ได้ยิน” เขายียวนแล้วเร่งฝีเท้าตามกลุ่มนักท่องเที่ยวภาษาคุ้นหูไป เขาแอบยิ้มเมื่อธามรีบวิ่งมาขยำเสื้อด้านหลังเขาไว้แล้วเดินตามติดตลอดเวลา

ขึ้นมาด้านบนก็ชมวิวโดยรอบ พวกเขาใช้เวลาสุนทรีย์กันไม่นานก็ชักชวนกันลงมากินข้าวด้านล่างที่เป็นส่วนของห้างสรรพสินค้า ธามเป็นคนเลือกร้านแล้วก็จัดการสั่งอาหารให้เขา โดยรวมแล้วดูอร่อยดี แต่พอน้องแนะนำเขาก็ไม่แตะจานนั้นเลย
“เนื้อกวาง”

--------------

หน้าพี่นำตลกดี ทั้งที่เป็นเนื้อไก่ แต่พอบอกว่าเป็นเนื้อกวาง พี่นำก็ไม่กล้ากินอะไรเลย อยู่กับพี่นำที่นี่มันสนุกตรงนี้แหล่ะ ตรงที่ธามรู้มากกว่าพี่นำ ที่นี่ธามดูแลพี่นำได้หมดเลย

“ยิ้มอะไรครับ? หรือว่าแกล้งอะไรพี่ หือ?” รู้ทันอีกแล้ว เซ็งจริงๆ ธามอมลมจนแก้มกลม เขาส่ายหน้านิดๆ แล้วก็กินข้าวต่อ พอรู้สึกใกล้อิ่มแล้วอาหารจานโม้ไม่พร่องไปเสียที ธามก็ตัดสินใจบอกพี่ชาย

“นำ”

“ครับ”

“จริงๆ คือเนื้อไก่น่ะ chicken จริงๆ”
“ไม่กวางหรอก”

“นั่นไง” พี่นำจิ้มจมูกเขาจนบี้แล้วก็บีบแก้มต่อ ธามคลำแก้มตัวเองป้อย แสดงสีหน้าเจ็บปวด พี่นำเลยคลึงแก้มเบาๆ แล้วก็ทดลองกินอาหารจานโม้ เคี้ยวหยับๆ กรอกตาไปมาแล้วก็ยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะยกนิ้วโป้งให้

“อร่อยใช่มั้ย? ไก่ผัดซีอิ๊วดำๆ ใส่ลูกบางอย่างธามไม่รู้ ป้าณาสั่งให้แม่บ้านทำบ่อยๆ”

“ครับ อร่อยดี”

“งั้นก็อยู่ที่นี่สิ ธามจะหาให้กินทุกวัน”

“บ้านเราอยู่ที่ไทยครับ”
“เราอยู่ที่นี่กันไม่กี่วันก็กลับแล้ว”

“นำ! พูดอยู่ได้ว่ากลับ บ้านธามคือที่นี่ ธามจะอยู่ไทเป ดีมากสุดแล้ว”

“อยู่ที่ไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นตราบใดที่ธามป้องกันตัวจากอันตรายไม่ได้”
“ตอนนี้ก็ต้องโอเคอยู่แล้วเพราะอยู่กับพี่นำ กับเพื่อน”
“แต่ถ้านายสุพิสุทธิ์มา ธามจะทำยังไง หนีหรอ? หนีได้ทุกครั้งมั้ยครับ”
“หนีแล้วทำยังไงต่อ หนีได้นานแค่ไหน”
“ที่เราทำอยู่ตอนนี้ก็คือการหนี”
“ธามคิดว่าเขาไม่มีทางหาเจอ แต่ถ้าเขาเจอล่ะ ถ้าพี่กลับไปแล้วแล้วเขาเจอธามล่ะครับ”
“ใครจะช่วย”

“ธามทำได้”

“ยังไงครับ”

“ธามรู้ว่าจะซื้ออาวุธได้ที่ไหน เท่านี้พอใช่มั้ย”

“ไม่พอครับ และเป็นความคิดที่ไม่ได้เรื่อง คิดสั้นๆ”
“มีปืนหรืออาวุธแล้วยังไง เขาทำอันตรายมาก็ยิงเขา ทำร้ายเขา เดี๋ยวเขาก็รักษาหาย หรือจะยิงให้นายนั่นตาย ธามก็ติดคุก ติดอยู่กับบ่วงบาปในใจ ชีวิตจะเป็นยังไงต่อดี หือ?”

“.................”

“ธามยังห่างไกลจากคำว่าเข้มแข็งเยอะมาก ทั้งตัว ทั้งใจ”
“กลับไปให้พี่นำดูแลเถอะนะครับ”

“กลับไม่ได้”
“นำไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าจะแย่ ธามแย่เองดีแล้ว”

“เด็กโง่”
“จะให้พี่ปล่อยคนที่พี่รักถูกรังแกอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทั้งตัว ทั้งความรู้สึก พี่นำอยากดูแลเอง”
“ขออนุญาตได้มั้ยครับ”

รอบตัวจอแจ แต่ธามได้ยินพี่นำพูดชัดเจน ใครต่อไปใครเดินผ่านหน้าผ่านหลังจนมัวตา แต่ธามมองเห็นตัวเองในแววตาพี่นำชัดเจน และธามเชื่อพี่นำทุกคำ  แต่ธามเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้

“แต่ว่า”

“ปัญหาคืออะไรครับ บอกพี่นำมาตรงๆ ได้มั้ย?”

ธามถอนหายใจ เขาดื่มนำหลังจากรวบช้อน ใช้ทิชชู่ซับปากไม่นานก็พยักหน้าตัดสินใจ

“แซนบอกว่าจะฆ่าทุกคนแน่ๆ ถ้าธามยังอยู่ที่ไทย กับจู ก็ฝีมือแซน”

พี่นำนิ่งไปแป๊บเดียวก็เคลื่อนมือมากุมมือธามไว้ จากนั้นก็เลื่อนมือนั้นมาลูบหัวและลูบแก้ม

“เขาขู่อะไรอีกมั้ยครับ”

“แซนไม่คู”

“ขู่ครับ”

“อือ อือ แซนไม่ขู่ แซนทำแน่ ดูจูสิ”

“โอเค เขาทำแน่ แล้วเขาบอกว่าจะทำอะไรอีกมั้ยครับ”

“นำเอง เขาก็จะทำ ถ้าธาม....”

“ถ้าธามทำไม”

“ถ้าธาม...รักนำ”

“แล้วสำหรับธาม พี่นำอยู่ในอันตรายมั้ยครับ”

“อืม”

“แสดงว่ารักพี่”

“...........”

“ใช่มั้ย?”

“ธามไม่ได้พูดอะไรเลย”

“ก็ได้ พี่นำขี้ตู่เก่งอยู่แล้ว”
“ขอบคุณที่บอกนะครับ อย่างน้อยพี่นำก็ได้รู้ว่าเขาไม่คิดจะทำอันตรายธาม”
“แค่อยากครอบครองเท่านั้น ซึ่งพี่จะทำลายฝันเขาเอง”

อะไรของพี่นำกันล่ะเนี่ย?
ธามขมวดคิ้วนิดๆ แล้วก็สะดุ้งขึ้นมาเอง เขาโก่งตัวไปเกาะไหล่พี่นำซึ่งนั่งตรงกันข้ามแล้วย้ำ

“ธามไม่ได้พูดอะไรเลยนะเรื่องรักนำ”
“ธามไม่ใช่”

“ครับ พี่นำคิดเองได้อยู่แล้ว”

“ไม่ใช่นะนำ ไม่ใช่”
“ไม่ใช่ we’re brother”
“นำ! นำหัวเราะมั้ย ไม่เอา ธามไม่ใช่!”

“ครับ พี่นำบอกแล้วไงว่าพี่นำคิดเอาเอง”

“นามมมมมมมม” ธามงอแงอยู่ครู่หนึ่งก็กระแทกตัวนั่งลงตามเดิม ดูจากสีหน้าพี่นำก็รู้ว่าพี่นำรู้แล้ว ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่นำรู้ผิดๆ ธามไม่ได้รัก...ธามไม่ได้พูดออกมาก็เท่ากับว่าธามไม่ได้รัก....
ใช่มั้ย?

พี่นำขี้โกง!

“อิ่มรึยังครับ ป่านนี้อาหลูของธามชะเง้อรอคอยาวแล้ว”
“รู้มัยว่าคนคอยาว คนไทยเรียกว่าอะไร?”

“.............” ธามขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า เขาครุ่นคิดและเดาไปว่า
“ห่านสินะ”

“ไม่ใช่ครับ คอยาวเป็นเปรตต่างหาก”

“เป็ด? เป็ดคอสั้นกว่าห่านอีก”
“ห่านสิ”

“เปรตครับ เปรต ลากเสียงยาวๆ เลย”

“เป็ด”

“ดื้อ!” พี่นำย่นจมูกใส่แล้วก็เรียกพนักงานเช็คบิล ธามเคยตัวนั่งสบายๆ อยู่ครู่เดียวก็รู้ตัวว่าควรเป็นคนจ่ายค่าอาหาร แต่พี่นำก็จัดการเรียบร้อยไปแล้ว

เฮ้อ... แล้วอยู่ใกล้ๆ พี่นำแบบนี้ ธามจะโตได้ยังไงกัน


เดินพ้นสถานีรถไฟมาไม่ไกลนักธามก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จริงๆ แล้วย่านไนท์มาร์เก็ตนี้จะเงียบเหงามากในเวลากลางวัน ในเมื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นตลาดกลางคืน แต่ตอนบ่ายต้นๆ แบบนี้ เจ้าของร้านค้าต่างๆ มักเริ่มออกมาใช้ชีวิต บ้างก็ข้าวกลางวันกิน บ้างก็เตรียมของ จัดพื้นที่ด้านหน้าเพื่อรอนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มทยอยมากันตั้งแต่หัวค่ำ

แต่ไนท์มาร์เก็ตในบ่ายวันนี้เงียบปิดปกติ เงียบเหมือนมีแขกที่พวกเจ้าของร้านไม่อยากต้อนรับมาเดินเตร่สร้างความไม่สบายใจ

“ธาม!” เสียงเรียกมาจากร้านที่รู้จักกันดี ธามหันมองและถอยห่างเพราะคนที่เรียกเขามีสีหน้าตื่นๆ เขาถามด้วยภาษาจีนท้องถิ่นว่าหายไปไหนมา จากนั้นก็เล่าเรื่องตามลำดับเหตุการณ์และบอกว่าเป็นห่วงเขากับอาหลูมากจริงๆ

ตัวธามน่ะไม่น่าเป็นห่วงหรอก แต่อาหลูไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยสักนิด!

“ไปกันเถอะนำ”

“หือ? เกิดอะไรขึ้นหรอครับ”

“แซนเจอเราแล้ว”

“อ้อ...ดีเลยครับ พี่นำก็อยากเจอเขาเหมือนกัน” พี่นำตอบด้วยเสียงหนักแน่น พี่ชายคนนี้คว้ามือธามไปกุมไว้แล้วเดินนำกลับไปที่ร้าน ธามไม่รู้ว่าพี่นำหนักหัวใจบ้างรึเปล่า แต่ธามรู้สึกหนักมาก หนักจริงๆ
ธามไม่อยากเจอแซนเลย แลกกับอะไรก็ยอม



Tbc 17.2



ขออภัยในการมาต่อช้า และเนื้อเรื่องหมอนำกับน้องธามไม่คืบหน้าสักเท่าใด ซาจะรีบขมวดค่ะ T^T  :mew2: :mew2: :mew2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2014 00:42:45 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
«ตอบ #199 เมื่อ12-04-2014 10:36:06 »

ตามมาจากเรื่องพี่หนึ่งค่ะ
พึ่งอ่านไปได้ห้าตอน
สารภาพ ปลื้มน้องธามค่ะ 55
น้องน่ารักมาก  :-[   ชอบที่น้องไม่ค่อยรู้ภาษาไทยค่ะ
เด็กคนนี้เวลาพูดไทยทีล่ะน่ารักก
พี่นำก็น่ารักค่ะชอบที่ดูแลน้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
« ตอบ #199 เมื่อ: 12-04-2014 10:36:06 »





ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
«ตอบ #200 เมื่อ13-04-2014 10:46:02 »

อ่านตามจนถึงตอนล่าสุดแล้วค่ะ
ควรเครียดไหมพี่แซนเป็นโรคจิตแบบนี้  แต่ไม่ค่ะ
ความน่ารักของน้องธามเอาไปเต็มเปา 
น้องน่ารักเกินไปแล้วววววววววววววววววววว   :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:  *จะอาววว

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
«ตอบ #201 เมื่อ13-04-2014 14:01:40 »

คิดถึงธามจังเลยค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
«ตอบ #202 เมื่อ13-04-2014 14:22:31 »

เมื่อไหร่จะมาต่อ :sad4:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #203 เมื่อ15-04-2014 00:32:45 »


Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 17.2



แล้วแซนก็ทำสิ่งที่ธามรังเกียจอีกจนได้
เขาแทบวิ่งไปหาเพื่อนที่นั่งตาช้ำม่วงอยู่ที่กลางร้าน ร้านเสื้อของเขาถูกรื้อรวกๆ จนข้าวของกระจัดกระจาย ธามถูกฉุดไว้และก็ถูกบังไว้อีกจนได้

“นำหยุดยุ่ง”

“ยังไงก็ต้องยุ่ง นายคนนี้มันจะเกินขอบเขตมากไปแล้ว”
“การระรานหรือรังแกคนอื่นที่อ่อนกำลังหรืออ่อนปัญญากว่า มันไม่เรียกว่าเป็นลูกผู้ชายหรอกธาม”
“ธามพูดภาษายังค่อยจะรู้เรื่อง ธามจะไปพูดให้นายนี่เข้าใจอะไรได้ อยู่เฉยๆเลย”

“แต่นี่เรื่องธาม”

“ธามกับพี่ก็เรื่องเดียวกัน”
“บอกให้อยู่เฉยๆ ไงครับ” พี่นำเอียงหน้ามาดุแล้วดันตัวธามไปติดประตูร้าน ส่วนตัวเองเดินอาดไปกลางวงคนแปลกหน้าที่ห้อมล้อมอาหาลูอยู่ ส่วนแซนยืนกอดอกมองธามอยู่ด้านในสุดของร้าน

“มาแล้วหรอธาม”

“มีอะไรก็คุยกับผม น้องไม่มีเรื่องอะไรต้องเจรจากับคุณอีก”
“แล้วก็ปล่อยเพื่อนธามซะด้วย ทำแบบนี้ผิดกฎหมายนะครับ”

“อย่ามาสู่รู้ได้มั้ยไอ้หมอ”
“ลื้อจะเป็นอีกศพไปด้วยเปล่าๆ อยากตายที่บ้านเกิดหรือที่นี่ล่ะ หือ!”

“............” ผู้นำพยายามสะกดความไม่พอใจเอาไว้ เขาเรียนมาแล้ว เขาเข้าใจว่าตรรกะของคนป่วยแบบนี้เป็นอย่างไร เขาไม่ควรเต้นตาม
“คุณสุพิสุทธิ์”
“สิ่งที่คุณทำมันผิด และไม่มีใครยอมรับหรอกครับ”
“หยุดรังแก หยุดคุกคามธามเสีย ต่างคนต่างก็มีชีวิต มีตัวตน คุณจะมาข่มเหงกันแบบนี้ไม่ได้ ธามมีสิทธิ์จะใช้ชีวิตของธาม”
“นี่ยังไม่นับข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยวผู้อื่นอีก”
“ดูเหมือนคุณจะทำร้ายเพื่อนของธามด้วย”

“โว้ยยย! หยุดพล่ามซะทีเถอะไอ้หมอ มึงไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรเลย!”

“ผมเกี่ยวครับ ผมเป็นพี่ชายธาม”

“ไอ้เหี้ย!!”
“มึงไม่ใช่ มึงไม่ใช่!! กูนี่ กูคนเดียวที่เป็นพี่ชายมัน กูเท่านั้นที่ดูแลมันได้ มึงไม่เข้าใจมึงอย่าเสือก!”
“อย่ามาเสือกเรื่องของกูกับน้องกู!”

“ธามก็เป็นน้องชายผมเหมือนกัน และผมไม่เคยทำให้ธามรู้สึกหวาดหวั่นจนต้องดิ้นรนหนีทุกทาง”
“และผมก็ไม่เคยตามทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบตัวธาม เพื่อสร้างเงื่อนไขมาขู่ธามแบบที่คุณทำ”

“กูไม่ได้ทำอะไรผิด! ได้ยินมั้ยว่ากูไม่ผิด”
“กูทำได้ กูเป็นพี่ กูหวังดีทั้งนั้น”
“ธามมันจะไปรู้อะไร”

“แล้วคุณรู้อะไรที่ธามไม่รู้ล่ะครับ” ผู้นำธามสวนไปทันที นายสุพิสุทธิ์ชะงักไป เขาหยุดโก่งคอตะคอกเสียงดัง ผู้ชายคนนี้เดินอาดๆ มาเผชิญหน้ากับเขาจนหน้าผากประชิดกัน

“อย่าเรียกว่ารู้เลย กูกำหนดได้ต่างหาก กูจะให้อยู่ หรือจะให้มันตายๆไปซะก็ได้”
“ธาม เป็น ของ กู!”

“ไม่ใช่ครับ” ผู้นำตอบเสียงนิ่ง เขาก้าวถอยห่าง และก้มมองสิ่งที่จ่ออยู่กลางอกเขา

ปืน

“ธาม ก็คือ ธาม”
“ชีวิตธาม ธามเป็นเจ้าของ ธามเป็นคนเลือก ธามเป็นคนอยู่กับผลของการกระทำที่ธามเลือก”
“คุณ ไม่มีสิทธิ์”

กริ๊ก

ผู้นำยังยืนนิ่งแม้หูได้ยินเสียงเบาๆ แต่ชัดเจน เขามองนัยน์ตานายสุพิสุทธิ์อย่างไม่หวาดกลัว คิดเพียงว่าคนตรงหน้าน่าสงสารจริงๆ ทำไมคนถึงเป็นพ่อไม่คิดจะให้ลูกชายได้รับการรักษาอย่างจริงจังนะ

“หยุดนะแซน อย่ายุ่งกับนำนะ” ธามเดินมาดึงพี่นำออกห่างจากแซน เขาโมโหจนอยากทุ่มของหนักทุกอย่างที่หาเจอใส่หัวแซน เผื่อจะหายไปจากโลกนี้เสียที

เมื่อดึงตัวพี่นำออก ธามถึงเห็นปืน และมันก็จ่อมาทางหน้าอกธามทันที

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ถ้าพี่อยากให้มันตาย มันก็ต้องตาย”
“และคนที่ผิด คนที่ทำให้พี่ต้องทำแบบนี้ ก็คือธาม”

“ไม่ใช่ครับ เขาเลือกทำเอง ธามไม่เกี่ยว” พี่นำพูดแก้ต่างให้ในขณะที่ธามคิดถึงหน้าจูขึ้นมาทันที เขาหันมองพี่นำอย่างลังเล แต่สายตาพี่นำก็ไม่เคยแสดงความไม่มั่นใจ

“แต่...”

“เขาผิด เพราะเขาเลือกทำผิด”
“เขายึดติดกับธามเกินไป ก็เพราะเขาอ่อนแอเอง เขาป่วย”

“กูไม่ได้ป่วย!”

ปัง!

เสียงปืนดังตัดสติทุกอย่าง ธามค้อมตัวก้มหัวหลบเสียง เขาหายใจถี่กระชั้นและลุกขึ้นยืนมองแซน และพี่นำ
ยังไม่มีใครเป็นอะไร และธามจะปล่อยให้ใครเป็นอะไรไม่ได้อีก
อาหลูที่ดูเหมือนจะเจ็บหนักตั้งหัวขึ้นมองธามอย่างโงนเงน เพื่อนธามยังถูกมัดติดเก้าอี้ไว้ มีคนคุมอยู่ 3 คน ข้างๆ แซนก็มีอีก 2 คน และธามล่ะ มีแค่ธามกับพี่นำเท่านั้นเอง

แล้วจะสู้อะไรเขาได้

“ว่าไงธาม”
“ชีวิตธามเป็นของใคร”

“ธามครับ เชื่อพี่นำสิ”

“ธาม ตอบสิ”

“ธาม...” เขาพูดเสียงสั่น ธามมองอาหลูที่มองธามแน่วแน่ อาหลูยิ้มให้ด้วย เขาหันมองพี่นำ พี่นำก็ยิ้มให้และหันไปตีหน้ายักษ์ใส่แซนแทน

ธามอยากเลือก ธามเบื่อกับเรื่องแบบนี้เต็มทน
ชีวิตเป็นของธามใช่มั้ย? ธามเลือกได้ใช่รึเปล่า

“ธามไม่ใช่ของของแซน”
“ไม่เคยใช่ ไม่มีวันเป็น”
“เลิกยุ่งกับธามได้แล้ว!”


ปัง!!!

ธามยืนตะลึง เขากลั้นลมหายใจอย่างลืมตัวและเริ่มระลึกรู้ ธามก็ก้มมองตัวเองเป็นอย่างแรก
แซนไมได้ยิงธาม แล้วแซนยิงใคร?
เขาหันมองพี่นำทันที ใบหน้านิ่งเรียบมองเขาและค่อยๆ ล้มลง พี่นำกุมท้องตัวเองที่มีเลือดแดงฉานแผ่กินพื้นที่เสื้อมากขึ้นเรื่อยๆ
“นำ!”
“พี่นำ!!!”

“หยุดจะธาม ถ้าไปหามันอีก แกตายแน่!”

“ตายเลย เอาเลย!!” สุดท้ายธามก็ระเบิดอารมณ์ออกมาจนได้ เขาจะไม่กลัวอีกแล้ว หากความกลัวทำให้พี่นำต้องเจ็บแบบนี้ ธามก็จะไม่กลัวอะไรอีก แม้แต่แซนก็เถอะ!
“ยิงเลย ยิงเลยสิ หมดเลย ให้หมดเลย”
“ทำสิ ทำเร็วๆ ถ้าแซนไม่ทำ แซนนั่นแหล่ะจะตาย!” ไม่พูดเปล่า ธามชกอีกฝ่ายจนหน้าหัน ปืนเล็กหลุดจากมือแซน และก็โชคดีที่ธามพุ่งไปตะครุบมันไว้ได้

เขารู้ว่าต้องซื้อปืนที่ไหนแต่ธามไม่รู้หรอกว่าปืนนี่มันยิงกันยังไง เขาเพิ่งจับมันครั้งแรกด้วยซ้ำ

“ธาม! เอาปืนพี่คืนมา ธาม เร็วสิ”

“ไม่!”
“กลัวสินะ กลัวถูกแล้ว”
“แซนต้องกลัว คนที่ไม่มีอะไรคือแซน คนที่อ่อนแอคือแซน คนที่ถูกรังแกคือแซน”
“แซนโดดเดี่ยว แซนไม่มีใครรัก”
“แซนต่างหากที่ตายไปแล้วทุกอย่างต้องดีขึ้น”

“หยุดนะไอ้ธาม!”

“ไม่ ธามไม่ใช่ ไม่หยุด”
“แซนบ้า แซนเป็นบ้า”
“ถ้าพี่นำเจ็บ ธามจะฆ่าแซนเอง ธามจะฆ่าให้หมดทุกคน จะทำแบบที่แซนทำ แซนจะได้รู้!!”

“กูต้องรู้อะไร! มึงนั่นแหล่ะต้องรู้ไว้ไอ้ธาม มึงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกู กูเป็นคนกำหนด กู กู กู!!!”

ปัง!! ธามตัดสินใจยิงปืนมั่วๆ แต่ปลายกระบอกหันไปทางแซนและพรรคพวก เขาหลับตาหลบเสียง เมื่อเห็นทุกคนชะงักก็ก้าวมาหาพี่นำทันที มือพี่นำยังกุมท้องตัวเองอยู่ และเลือดแดงเข้มก็ยังซึมกินเสื้อมากขึ้นเรื่อยๆ

“นำ!”

“ธามครับ ส่งปืนให้พี่นำ แล้วโทรเรียกรถพยาบาลให้พี่นำที”

“อื้อ!” เขารับพยักหน้ารับและส่งปืนให้ทัน ธามโทรศัพท์และหันกลับมามองแซนที่ยืนนิ่งมองธามอึ้งๆ ธามยังคงนั่งอยู่ข้างๆ พี่นำ แต่สายตาธามจับจ้องอยู่ที่แซน เมื่อปลายสายรับ ธามก็พูดด้วยภาษาไต้หวัน ในที่นี้ คงมีแต่พวกนักเลงกับอาหลูเท่านั้นที่เข้าใจได้ว่าธามโทรแจ้งตำรวจ
เมื่อพวกนั้นเข้าใจสถานการณ์ มันก็ทิ้งแซนไปทันที ธามโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลเป็นลำดับถัดมา เขายังจ้องแซนไม่วางตา เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับพี่ชายที่ธามขยะแขยงเต็มที

“ถ้าจะหนีก็ต้องไปตอนนี้ ถ้าตำรวจมา แซนจะต้องติดคุก”

“กูไม่กลัว!”

โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ธามก็ถูกล็อคคอไว้ มีดสั้นถูกหยิบมาจี้คอธามไว้ ส่วนลมหายใจจากแซนประกบอยู่ข้างๆ ซอกคอ
“มาก็ดี จับกูไปเลย ให้กูนอนในคุกที่นี่ ไม่ต้องกลับไปแบกรับอะไรอีก”
“พี่ตายได้ธาม พี่ตายได้”
“แต่ต้องแน่ใจว่าธามตายแล้วเท่านั้น”
“ถ้าพี่ตายก่อน ใครจะดูแลธาม”
“เด็กขี้หนาว เราเป็นเด็กขี้หนาว ถ้าพี่ไม่กอดไว้ธามจะหลับได้ยังไง”
“น้องธาม น้องธามไม่ต้องกลัวนะ”

“แซน!”
“แซนปล่อย แซน ธามเจ็บ!” ธามบอกตามที่รู้สึก ตอนนี้ปลายมีดสะกิดผิวที่คอจนได้เลือดแล้ว

“เจ็บหรอ”
“พี่ก็เจ็บเหมือนกัน น้องธามหนีพี่ทำไม ไม่รักพี่แซนแล้วหรอ ไม่อยากอ้อนพี่แซนแล้วหรอ”
“พี่จะไม่ให้พ่อตีธามอีก พี่จะรับผิดเอง พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ”

“แซน แซนพูดไม่รู้เรื่อง ปล่อยธาม ปล่อย!”

“พี่ปล่อยไม่ได้หรอก”
“ปล่อยก็หนีอีก”
“อย่างธามจะทำอะไรได้ น้องธามไม่รู้หรอกว่าข้างนอกมันน่ากลัว”
“เชื่อพี่สิ เชื่อสิ เชื่อ เชื่อ!!”
“ธามต้องเชื่อพี่ ต้องเชื่อพี่!”

“ไม่!! ปล่อย บอกให้ปล่อยไง!!”

“มึง! ไอ้ธาม”
“มึงหนีกู มึงทิ้งกู มึงมันเหี้ย มึงทิ้งกู ทิ้งกูไว้คนเดียว ทิ้งกู”
“ฮึ่ก...ฮือออออออออออออ ทิ้งกู”

ธามสะบัดตัวหนีและหันมองแซนที่มีท่าทางแปลกๆ เขาจับคอตัวเองและเจอความเหนียวหนืดและกลิ่นเลือดตัวเองทันที ธามแบมือแดงฉานเพื่อดูให้แน่ชัด เขามองหน้าแซนที่หลุกหลิกแปลกๆ

“แซน เอามีดให้ธาม”
“เอามืดมาให้ธามสิ”

“ไม่ มึงจะเอามาฆ่ากู”
“มึงรู้แล้วใช่มั้ย รู้แล้วก็หนีไป พี่ช่วยอะไรไม่ได้ พี่เสียใจ”
“พ่อไม่ปล่อยไว้แน่”
“พี่ขอโทษ พี่จะช่วยธามยังไงดี พี่ขอโทษ”

“แซน...เอามีดมา แซนไม่อยากเจ็บหรอก ส่งมาให้ธาม”
“ธามจะทิ้งให้เอง”

“โกหกล่ะสิ มึงรักมัน ชอบมันมากกว่ากู”
“มันสั่งให้ทำอะไรกูล่ะ มันอยากให้กูเจ็บ ไอ้หมอนั่นมันอยากให้กูเจ็บ มันขโมยน้องกู ไอ้หมอมันขโมยน้องกู”
“มันนั่นแหล่ะต้องตาย!” จู่ๆ แซนก็พุ่งไปหาพี่นำที่แทบจะนอนกองไปกับพื้น ธามรีบเอาเข้าขวางแล้วก็ถูกกระแทกล้มลงทันที
.
.
.

“....ธาม....” เขาลืมตาอีกครั้ง เขานอนราบกับพื้น พื้นค่อยๆ ลื่นขึ้น กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่วจมูก ธามไม่ชอบกลิ่นนี้เลย

“ธาม!!!” พี่นำเรียก ดีจังที่พี่นำไม่เป็นอะไร เขาดันตัวเองให้นอนหงาย รู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งอก คงล้มแรงแน่ๆ เลย
“ธามได้ยินพี่มั้ย ธาม ธาม”

“นำ”

“ธาม ธาม อดทนก่อนนะ เดี๋ยวรถพยาบาลก็มา”

“นำเจ็บมั้ย อย่าเจ็บนะ”

“เด็กโง่ พี่นำไม่เจ็บแล้ว พี่นำไม่เป็นไรแล้ว ธามครับ”
“ธาม ธาม ธาม!!!”
.
.
.
.
.
.
พี่นำ .... ธามเจ็บไปทั่วทั้งหน้าอกจริงๆ




TBC...


ฝากให้ติดตามกันจนจบด้วยค่ะ เข้าสู่ระยะสุดท้ายกันแล้ว >,<




ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #204 เมื่อ15-04-2014 00:59:34 »

 :sad4: ม่ายยยยยยย ธามมมมอย่าเป็นอะไรนะ :katai1:

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #205 เมื่อ15-04-2014 01:20:56 »

โอ้ยยยย ค้าง สงสารธาม :hao5:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #206 เมื่อ15-04-2014 06:55:06 »

มีแต่เลือด....เลือดเต็มไปหมดเลย อร๊าย กลัวเลือด :ling3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #207 เมื่อ15-04-2014 12:24:21 »

โอ้ยย ลุ้นๆ อย่านานเป็นเดือนน่ะค้า

apass

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #208 เมื่อ17-04-2014 12:05:36 »

เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ  อ่านรวดเดียวจบเลย

ชอบพี่นำ กับธามมากๆ

อยากอ่านอีกค่ะ

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
«ตอบ #209 เมื่อ17-04-2014 12:39:28 »

อยากจะประสาท แค่คนบ้าๆคนเดียวทำให้เรื่องราวใหญ่โต พ่อก็เห็นแต่สมบัติลูกก็อยากได้ ในสิ่งที่เค้าไม่อยากจะให้ มีแต่กลิ่นคาวเลือด

น้องน่าสงสาร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด