Existence : ผู้นำ & ธาม
-----------------
ตอนที่ 17.1เขาผิดเองที่คิดว่า “บ้านของธาม” จะเหมือนบ้านคนทั่วไป ที่ที่น้องพากเขามาซุกหัวนอนก็คือร้านของธามนั่นแหล่ะ เรียกว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจก็ว่าได้ เพราะธามเปิดร้านขายเสื้อช่วงสายๆ และมีออเดอร์เข้ามาตลอด ทั้งลูกค้าในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศ เขาไม่ได้สอบถามเรื่องธุรกิจอะไรมากนัก เพราะ “พาร์ทเนอร์” ของธามดูเหมือนจะหวงข้อมูลทางธุรกิจมาก
หรือคิดอีกที “อาหลู” น่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่หวงธามมากๆ มากกว่า
เช้าวันนี้เขาทดลองเดินห่างจากซอยร้านของธามไปไกลกว่าเมื่อวานเพื่อสำรวจดูว่าย่านการค้านี้มีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง หากน้องเขาจะฝังตัวอยู่ที่นี่ จะมีเหตุผลที่สมควรที่เขาสามารถหาเจอกี่ข้อกัน?
“นำ นำจะไปไหนน่ะ ทางนั้นไม่มีอะไรแล้ว”
“หรอครับ? ก็เห็นว่ายังมีตึกอยู่”
“อืม เป็นบ้านคนแล้ว กลับเถอะ เดี๋ยวอาหลูรอ”
“ให้อาหลูรอบ้างไม่ได้หรอครับ” คำถามนี้เขาต้องการคำตอบจริงๆ หลายวันมานี้ทำให้เขารู้ว่า อาหลูคนนี้เหมือนกับอาชีพผู้เขียนบทและผู้กำกับมากๆ หมอนั่นกำกับธามแทบทุกอย่าง ลามมาถึงเขาด้วย ซึ่งมันค่อนข้างน่ารำคาญ และเขาก็ไม่เห็นเหตุผลที่ต้องทำตามสิ่งหมอนั่นต้องการให้ทำ
“ก็อาหลูยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย”
“อาหลูน่าจะทำอาหารกินเองได้”
“ธามพาพี่นำไปเดินให้รอบกว่านี้หน่อยสิ พี่นำเริ่มเบื่อๆ แล้วนะครับ”
“นะ ไปเที่ยวกันเถอะ”
“ไปกัน 2 คนนะครับ”
น้องนิ่งคิดครู๋เดียวก็พยักหน้า ผู้นำแอบยิ้ม นาทีนี้เองที่เขาได้รู้จักกับมุมเจ้าเล่ห์ของตัวเอง
--------------ที่เที่ยวที่เด็กชายธามพาเขามาหาความเพลิดเพลินเป็นที่เที่ยวระดับเวิลด์คลาสมากๆ ทั้งโลกนี้ หากใครมาถึงถิ่นประเทศไต้หวันจะต้องไปเที่ยวที่นี่กันทั้งนั้น มันคือตึก 101 ชั้น ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่เห็นว่าน้องภูมิใจนำเสนอมากๆ เขาก็เลยไม่พูดอะไร พวกเขาลงจากรถแท็กซี่ สภาพการแต่งตัวก็ไม่สมควรได้รับการตอบรับที่ดีจากคนรอบข้างมากนัก แต่หน้าตาพอจะถูไถได้บ้าง
“ขึ้นไปแป๊บนึงนะ แล้วก็ลงมาทานข้าวกันข้างล่าง แต่อย่ากินอะไรแพงนะ ธามไม่ได้พกบัตรมา มีแต่แคช”
“ครับ” ผู้นำรับคำว่าอย่างง่าย เขาเงยหน้ามองตึกสูงแล้วอดดึงความทรงจำตอนไปยืนมองตึกคู่ที่มาเลเซียมาเทียบกันไม่ได้ ความรู้สึกที่ได้รับจากการมอง 2 ตึกก็ไม่ได้ต่างกันเลย แต่ครั้งนี้ดูจะมีอะไรให้จำมากกว่าเพราะคนที่มาด้วยกันนี่แหล่ะ
“ธามครับ” เขาเรียกเมื่ออีกฝ่ายเดินนำขึ้นบันไดเลื่อนไปฉิวๆ เด็กผอมคนนี้หันตัวมามองแล้วเลิกคิ้วใส่ ผู้นำไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าก่อนจะหันมองทางอื่น
ผอมจัง เขาอยากพูดคำนี้ แต่เดี๋ยวน้องจะหน้าบูดเพราะไม่พอใจคำวิจารณ์เสียเปล่าๆ
“นี่นำ”
“ครับ”
“อยู่มากๆ วัน ชอบอะไรบ้างไทเป”
“ถามทำไมครับ”
“just answer”
“ถ้าไม่รู้ว่าจะเอาคำตอบไปใช้ทำอะไร พี่นำก็ไม่ตอบ”
“อยากรู้อันเดียว”
“อยากรู้เท่านั้นต่างหาก พูดให้ถูกคือ แค่อยากรู้ครับ”
“ที่นี่ไทแป ไม่ต้องภาษาไทยด้วยซ้ำ ธามดีให้มากแล้ว”
“โอเค โอเค” ผู้นำยกมือยอมแพ้ เขาก้าวขึ้นมาบนขั้นบันไดที่เสมอกัน และเมื่อก้าวพ้นบันไดเลื่อนทั้งคู่แล้ว ผู้นำก็ถามย้ำอีกครั้ง
“แล้วอยากรู้ทำไมว่าพี่นำชอบอะไรในไต้หวันบ้าง”
“ถ้าชอบเยอะ นำก็อยู่ที่นี่เลย ด้วยกับธาม”
“แต่บ้านพี่นำคือประเทศไทยนี่ครับ บ้านธามก็ด้วย”
“no. mine is here.”
“ดื้อ เมื่อกี้จะถือว่าไม่ได้ยิน ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า ไปทางไหนต่อครับ เราต้องขึ้นไปชั้นสูงสุดใช่มั้ย? พี่นำว่าขึ้นลิฟท์ดีกว่าครับ”
“โอ๊ะ นี่ไง ป้ายบอกไว้ เดินวนขึ้นบันไดเลื่อนพอดีหมดแรง”
“มาทางนี้เถอะธาม”
เด็กดื้อทำหน้าหงุดหงิดใส่เขา แต่ก็เดินตามแรงจูง เขารู้ว่าธามกำลังคิดอะไร เปรียบไปก็เหมือนต้นไม้เมืองร้อนที่ได้โผล่มาหายใจเหนือดินครั้งแรกที่ประเทศสุดหนาวในหน้าร้อนพอดี แน่นอนว่าต้นไม้ย่อมดีใจและคิดว่าเจอที่อยู่ที่ควรแล้ว
แต่ความจริงแล้วก็อยู่ได้แค่ช่วงเดียว เหมาะกันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป ประเทศหนาวนั้นจะกลายเป็นสุสานต้นไม้ต้นน้อยนั้นในที่สุด ดินที่เคยโอบอุ้มรากไว้จะกลายเป็นผืนดินที่ตรึงรากต้นไม้ไว้ให้ยืนต้นตาย
ธามอยู่ที่นี่ไม่ได้ โดยเฉพาะอยู่คนเดียว
ติ๊ง
เสียงลิฟต์ดึงผู้นำออกจากความคิด เขาเดินนำออกไปรอธามหน้าลิฟต์เพราะน้องตัวบางและโดนเบียดไปยืนในสุด แหล่งนักท่องเที่ยวแห่งนี้ทำให้พวกเขาไม่ดูแปลกแยก ซ้ำธามก็ยังใช้นิสัยเดิมคือขโมยฟังไกด์ แต่รอบนี้ซาวน์แทร็คเป็นภาษาไทยที่เขาคุ้นหูเป็นอย่างดี
“ตามเขาไปก็ได้มั้ย”
“ครับ ตามก็ตาม”
“ธามเดินให้ทันพี่ เดี๋ยวก็โดนเบียดหลง”
“ที่นี่บ้านธาม ไม่หายหรอก”
“ประเทศไทยต่างหากบ้านธาม”
“ไทเป”
“ไม่รู้ ไม่ได้ยิน” เขายียวนแล้วเร่งฝีเท้าตามกลุ่มนักท่องเที่ยวภาษาคุ้นหูไป เขาแอบยิ้มเมื่อธามรีบวิ่งมาขยำเสื้อด้านหลังเขาไว้แล้วเดินตามติดตลอดเวลา
ขึ้นมาด้านบนก็ชมวิวโดยรอบ พวกเขาใช้เวลาสุนทรีย์กันไม่นานก็ชักชวนกันลงมากินข้าวด้านล่างที่เป็นส่วนของห้างสรรพสินค้า ธามเป็นคนเลือกร้านแล้วก็จัดการสั่งอาหารให้เขา โดยรวมแล้วดูอร่อยดี แต่พอน้องแนะนำเขาก็ไม่แตะจานนั้นเลย
“เนื้อกวาง”
--------------หน้าพี่นำตลกดี ทั้งที่เป็นเนื้อไก่ แต่พอบอกว่าเป็นเนื้อกวาง พี่นำก็ไม่กล้ากินอะไรเลย อยู่กับพี่นำที่นี่มันสนุกตรงนี้แหล่ะ ตรงที่ธามรู้มากกว่าพี่นำ ที่นี่ธามดูแลพี่นำได้หมดเลย
“ยิ้มอะไรครับ? หรือว่าแกล้งอะไรพี่ หือ?” รู้ทันอีกแล้ว เซ็งจริงๆ ธามอมลมจนแก้มกลม เขาส่ายหน้านิดๆ แล้วก็กินข้าวต่อ พอรู้สึกใกล้อิ่มแล้วอาหารจานโม้ไม่พร่องไปเสียที ธามก็ตัดสินใจบอกพี่ชาย
“นำ”
“ครับ”
“จริงๆ คือเนื้อไก่น่ะ chicken จริงๆ”
“ไม่กวางหรอก”
“นั่นไง” พี่นำจิ้มจมูกเขาจนบี้แล้วก็บีบแก้มต่อ ธามคลำแก้มตัวเองป้อย แสดงสีหน้าเจ็บปวด พี่นำเลยคลึงแก้มเบาๆ แล้วก็ทดลองกินอาหารจานโม้ เคี้ยวหยับๆ กรอกตาไปมาแล้วก็ยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะยกนิ้วโป้งให้
“อร่อยใช่มั้ย? ไก่ผัดซีอิ๊วดำๆ ใส่ลูกบางอย่างธามไม่รู้ ป้าณาสั่งให้แม่บ้านทำบ่อยๆ”
“ครับ อร่อยดี”
“งั้นก็อยู่ที่นี่สิ ธามจะหาให้กินทุกวัน”
“บ้านเราอยู่ที่ไทยครับ”
“เราอยู่ที่นี่กันไม่กี่วันก็กลับแล้ว”
“นำ! พูดอยู่ได้ว่ากลับ บ้านธามคือที่นี่ ธามจะอยู่ไทเป ดีมากสุดแล้ว”
“อยู่ที่ไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นตราบใดที่ธามป้องกันตัวจากอันตรายไม่ได้”
“ตอนนี้ก็ต้องโอเคอยู่แล้วเพราะอยู่กับพี่นำ กับเพื่อน”
“แต่ถ้านายสุพิสุทธิ์มา ธามจะทำยังไง หนีหรอ? หนีได้ทุกครั้งมั้ยครับ”
“หนีแล้วทำยังไงต่อ หนีได้นานแค่ไหน”
“ที่เราทำอยู่ตอนนี้ก็คือการหนี”
“ธามคิดว่าเขาไม่มีทางหาเจอ แต่ถ้าเขาเจอล่ะ ถ้าพี่กลับไปแล้วแล้วเขาเจอธามล่ะครับ”
“ใครจะช่วย”
“ธามทำได้”
“ยังไงครับ”
“ธามรู้ว่าจะซื้ออาวุธได้ที่ไหน เท่านี้พอใช่มั้ย”
“ไม่พอครับ และเป็นความคิดที่ไม่ได้เรื่อง คิดสั้นๆ”
“มีปืนหรืออาวุธแล้วยังไง เขาทำอันตรายมาก็ยิงเขา ทำร้ายเขา เดี๋ยวเขาก็รักษาหาย หรือจะยิงให้นายนั่นตาย ธามก็ติดคุก ติดอยู่กับบ่วงบาปในใจ ชีวิตจะเป็นยังไงต่อดี หือ?”
“.................”
“ธามยังห่างไกลจากคำว่าเข้มแข็งเยอะมาก ทั้งตัว ทั้งใจ”
“กลับไปให้พี่นำดูแลเถอะนะครับ”“กลับไม่ได้”
“นำไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าจะแย่ ธามแย่เองดีแล้ว”
“เด็กโง่”
“จะให้พี่ปล่อยคนที่พี่รักถูกรังแกอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทั้งตัว ทั้งความรู้สึก พี่นำอยากดูแลเอง”
“ขออนุญาตได้มั้ยครับ”รอบตัวจอแจ แต่ธามได้ยินพี่นำพูดชัดเจน ใครต่อไปใครเดินผ่านหน้าผ่านหลังจนมัวตา แต่ธามมองเห็นตัวเองในแววตาพี่นำชัดเจน และธามเชื่อพี่นำทุกคำ แต่ธามเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้
“แต่ว่า”
“ปัญหาคืออะไรครับ บอกพี่นำมาตรงๆ ได้มั้ย?”
ธามถอนหายใจ เขาดื่มนำหลังจากรวบช้อน ใช้ทิชชู่ซับปากไม่นานก็พยักหน้าตัดสินใจ
“แซนบอกว่าจะฆ่าทุกคนแน่ๆ ถ้าธามยังอยู่ที่ไทย กับจู ก็ฝีมือแซน”
พี่นำนิ่งไปแป๊บเดียวก็เคลื่อนมือมากุมมือธามไว้ จากนั้นก็เลื่อนมือนั้นมาลูบหัวและลูบแก้ม
“เขาขู่อะไรอีกมั้ยครับ”
“แซนไม่คู”
“ขู่ครับ”
“อือ อือ แซนไม่ขู่ แซนทำแน่ ดูจูสิ”
“โอเค เขาทำแน่ แล้วเขาบอกว่าจะทำอะไรอีกมั้ยครับ”
“นำเอง เขาก็จะทำ ถ้าธาม....”
“ถ้าธามทำไม”
“ถ้าธาม...รักนำ”
“แล้วสำหรับธาม พี่นำอยู่ในอันตรายมั้ยครับ”
“อืม”
“แสดงว่ารักพี่”“...........”
“ใช่มั้ย?”
“ธามไม่ได้พูดอะไรเลย”
“ก็ได้ พี่นำขี้ตู่เก่งอยู่แล้ว”
“ขอบคุณที่บอกนะครับ อย่างน้อยพี่นำก็ได้รู้ว่าเขาไม่คิดจะทำอันตรายธาม”
“แค่อยากครอบครองเท่านั้น ซึ่งพี่จะทำลายฝันเขาเอง”
อะไรของพี่นำกันล่ะเนี่ย?
ธามขมวดคิ้วนิดๆ แล้วก็สะดุ้งขึ้นมาเอง เขาโก่งตัวไปเกาะไหล่พี่นำซึ่งนั่งตรงกันข้ามแล้วย้ำ
“ธามไม่ได้พูดอะไรเลยนะเรื่องรักนำ”
“ธามไม่ใช่”
“ครับ พี่นำคิดเองได้อยู่แล้ว”
“ไม่ใช่นะนำ ไม่ใช่”
“ไม่ใช่ we’re brother”
“นำ! นำหัวเราะมั้ย ไม่เอา ธามไม่ใช่!”
“ครับ พี่นำบอกแล้วไงว่าพี่นำคิดเอาเอง”
“นามมมมมมมม” ธามงอแงอยู่ครู่หนึ่งก็กระแทกตัวนั่งลงตามเดิม ดูจากสีหน้าพี่นำก็รู้ว่าพี่นำรู้แล้ว ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่นำรู้ผิดๆ ธามไม่ได้รัก...ธามไม่ได้พูดออกมาก็เท่ากับว่าธามไม่ได้รัก....
ใช่มั้ย?
พี่นำขี้โกง!“อิ่มรึยังครับ ป่านนี้อาหลูของธามชะเง้อรอคอยาวแล้ว”
“รู้มัยว่าคนคอยาว คนไทยเรียกว่าอะไร?”
“.............” ธามขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า เขาครุ่นคิดและเดาไปว่า
“ห่านสินะ”
“ไม่ใช่ครับ คอยาวเป็นเปรตต่างหาก”
“เป็ด? เป็ดคอสั้นกว่าห่านอีก”
“ห่านสิ”
“เปรตครับ เปรต ลากเสียงยาวๆ เลย”
“เป็ด”
“ดื้อ!” พี่นำย่นจมูกใส่แล้วก็เรียกพนักงานเช็คบิล ธามเคยตัวนั่งสบายๆ อยู่ครู่เดียวก็รู้ตัวว่าควรเป็นคนจ่ายค่าอาหาร แต่พี่นำก็จัดการเรียบร้อยไปแล้ว
เฮ้อ... แล้วอยู่ใกล้ๆ พี่นำแบบนี้ ธามจะโตได้ยังไงกัน
เดินพ้นสถานีรถไฟมาไม่ไกลนักธามก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จริงๆ แล้วย่านไนท์มาร์เก็ตนี้จะเงียบเหงามากในเวลากลางวัน ในเมื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นตลาดกลางคืน แต่ตอนบ่ายต้นๆ แบบนี้ เจ้าของร้านค้าต่างๆ มักเริ่มออกมาใช้ชีวิต บ้างก็ข้าวกลางวันกิน บ้างก็เตรียมของ จัดพื้นที่ด้านหน้าเพื่อรอนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มทยอยมากันตั้งแต่หัวค่ำ
แต่ไนท์มาร์เก็ตในบ่ายวันนี้เงียบปิดปกติ เงียบเหมือนมีแขกที่พวกเจ้าของร้านไม่อยากต้อนรับมาเดินเตร่สร้างความไม่สบายใจ
“ธาม!” เสียงเรียกมาจากร้านที่รู้จักกันดี ธามหันมองและถอยห่างเพราะคนที่เรียกเขามีสีหน้าตื่นๆ เขาถามด้วยภาษาจีนท้องถิ่นว่าหายไปไหนมา จากนั้นก็เล่าเรื่องตามลำดับเหตุการณ์และบอกว่าเป็นห่วงเขากับอาหลูมากจริงๆ
ตัวธามน่ะไม่น่าเป็นห่วงหรอก แต่อาหลูไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยสักนิด!
“ไปกันเถอะนำ”
“หือ? เกิดอะไรขึ้นหรอครับ”
“แซนเจอเราแล้ว”
“อ้อ...ดีเลยครับ พี่นำก็อยากเจอเขาเหมือนกัน” พี่นำตอบด้วยเสียงหนักแน่น พี่ชายคนนี้คว้ามือธามไปกุมไว้แล้วเดินนำกลับไปที่ร้าน ธามไม่รู้ว่าพี่นำหนักหัวใจบ้างรึเปล่า แต่ธามรู้สึกหนักมาก หนักจริงๆ
ธามไม่อยากเจอแซนเลย แลกกับอะไรก็ยอม
Tbc 17.2 ขออภัยในการมาต่อช้า และเนื้อเรื่องหมอนำกับน้องธามไม่คืบหน้าสักเท่าใด ซาจะรีบขมวดค่ะ T^T
