Existence : ผู้นำ & ธาม
-----------------
ตอนที่ 21หยุดเสาร์-อาทิตย์ทั้งที พี่นำก็ไม่เคยได้หยุดพักเลย
หรือว่าที่ออกจากบ้านไปทุกวีคเอนนี่คือการไปพักผ่อนของพี่นำ ธามก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เขาตื่นแล้วมองรอบห้องอย่างเคยตัว ความเงียบที่แทรกผ่านเสียงเครื่องปรับอากาศมมาเป็นบางครั้งกำลังทำหน้าที่กล่อมให้ธามหลับลงไปอีกหน แต่เขาฝืนตาไว้
“นำ” ทั้งที่รู้ว่าพี่นำน่าจะไม่อยู่บ้าน แต่ธามก็ยังเรียก เมื่อไม่มีใครตอบธามก็พลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงแล้วล้างหน้าแปรงฟัน เขาคิดว่าเช้านี้จะฝากท้องที่ครัวจูเพราะพ่อครัวที่ทำอาหารถูกปากธามทุกอย่างไม่อยู่ทำหน้าที่
“จูๆๆๆๆๆ” แกล้งเรียกให้ดูน่าตกใจนิดหน่อย จูก็วิ่งเร็วๆ มาหา จับตัวธามได้ก็ลูบแขนลูบแก้มจนวุ่นวายแล้วก็ถามเสียงแบบวอรี่นิดหน่อย
“เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณธามของป้า”
“โถ ดูสิ ตัวก็เท่านี้ต้องมาเจอเรื่องอะไรวุ่นวายไปหมด” แล้วก็พูดอะไรอีกยืดยาวที่ธามไม่สนใจฟัง เพราะเรื่องที่จูพูด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ไต้หวัน แล้วก็ผ่านมาแล้วตั้ง 5 เดือน
แผลเป็นที่เคยชัดเจน กำลังจางหาย
ธามเชื่อว่ามันจะกลืนไปกับผิวเดิมได้ในสักวัน
“จู หิว มีอะไรกินได้มั้ย”
“มีค่ะ ป้าทำต้มตำลึงไว้ ทานได้มั้ยคะ กลัวจะเหม็นเขียว ถ้าไม่ได้เดี๋ยวป้าต้มซุปให้ใหม่”
“กินสิ ไปสิ กินที่ไหน”
“นี่อะไรหรอ” ธามถามเมื่อสังเกตเห็นของในมือป้าจู ดูแล้วน่าจะเป็นลิสต์อะไรสักอย่าง
“ของคุณหมอปันค่ะ”
“แกจดรายการอาหารของสัปดาห์หน้าไว้ให้ ป้าจะได้เลือกซื้อถูก”
“นี่ว่าจะไปซุปเปอร์สโตร์บ่ายๆ คุณธามไปด้วยมั้ยคะ”
“ไม่ ธามมีมูฟวี่ใหม่จนสูงเลย ดูไม่ทันตาม” สงสัยธามจะพูดอะไรงงๆ ป้าจูถึงได้ทำหน้าสงสัยแล้วก็หัวเราะอยู่คนเดียว เขาไม่อยากยืนคุยตรงนี้แล้วแม้ว่าร่มไม้จากต้นไม้ใหญ่ๆ จะให้ความชุ่มชื่นดีก็ตาม
“มาเถอะ กินสิ”
“ค่ะ ค่ะ ค่า” ป้าจูขานรับแล้วก็เดินนำธามไปที่ห้องครัว เหตุที่ต้องถามว่าวันนี้กินที่ไหน ก็เพราะว่าหากมาที่บ้านใหญ่ ถ้าไม่กินข้าวที่ห้องอาหารใหญ่ ก็กินที่ห้องครัว หรือไม่ก็กินที่ห้องทำงานลุงหมอ แล้วแต่ว่าใครจะอยู่กินข้าวกับธามบ้าง
คำตอบคือห้องครัวที่มีกลิ่นหอมๆ จากดอกไม้ด้านนอก ถามหลายรอบก็จำไม่ได้สักทีว่าต้นไม้นี้เรียกว่าต้นอะไร
“ต้มตำลึงค่ะ นี่ป้าต้มแบบใส่ใบลงไปเลย ถ้าเป็นคุณนำทาน จะชอบให้ทำเป็นน้ำซุปไว้ พอจะทานก็ค่อยใส่ใบตำลึงไป ปิดฝาไว้ 5 นาที เธอว่ากำลังดี ไม่นิ่มไป”
“จู นำไม่ใช่ผู้หญิง เธอไม่ได้ ผิดนะ” ถึงธามจะเพิ่งเรียนภาษาไทยมา 3 เดือนกว่าๆ แต่ธามก็รู้ จูมั่ว
“แหมคุณธาม ก็ป้าติดปากนี่คะ อีกอย่างคุณนำเธอก็เป็นเจ้านาย ใครๆ เขาก็เรียกเธอแบบนี้แหล่ะค่ะ”
“จูพูดผิด ธามเรียนมาแล้ว”
“เธอคือผู้หญิง”
“ค่ะ ค่ะ ป้าขอโทษ”
“นั่งสิคะ เดี๋ยวป้าตักข้าวตักแกงให้” เห็นว่าชอบธามหรอกนะ ธามจะไม่บังคับให้พูดภาษาไทยให้ถูกต้องก็ได้
เขานั่งตามที่ป้าจูบอก ระหว่างรอก็มองของกินอื่นๆ บนโต๊ะที่วางอยู่ระรานตา
ขนมครกรู้จักแล้ว หมูปิ๊ง ข้าวเหนียง ซอยล์มิลค์ โอ๊ะ ข้าวมันไก่
“จู!”
“ธามกินนี่ได้มั้ย”
ป้าจูหันมอง พอเห็นเป้าหมายธามก็ยิ้มให้แล้วแกะใส่จานให้อย่างตามใจ เขาชิมต้มตำลึมครั้งแรกก็รับรู้ได้ถึงความอร่อย มื้อเช้านี้จบลงพร้อมกับพุงธามที่ป่องเต็มที่
บอกป้าจูไว้ว่าจะดูมูฟวี่ ธามก็ทำตามที่พูด เขาเดินตามจู ดูจูทำงานบ้านที่แสนวุ่นวายจนโดนไล่ให้ “ไปเล่น” ก็เลยตามใจจู เดินกลับมาบ้านเล็กของตัวเอง
โซฟาตัวนี้พี่นำเลือกมาเอง มันใหญ่โต แล้วก็ดึงออกมาเป็นเตียงได้ด้วย ธามเลยนอนดูมูฟวี่ โดยมีขนมจากป้าจูที่วางบริการไว้ใกล้ๆ
สุดท้าย ธามก็ทนอาการง่วงอีกรอบของตัวเองไม่ไหว จนต้องยอมหลับทั้งที่ตื่นมายังไม่ถึง 6 ชั่วโมง
พี่นำกลับมาตอนสี่โมงเย็น
ธามถูกดุที่นอนตัวเบี้ยว อยากจะเถียงว่าธามไม่ใช่ไม้บรรทัดซะหน่อย จะให้นอนตรงๆ ได้ยังไง แต่ตอนนี้อยู่ใกล้มือพี่นำมากเกินไป เดี๋ยวโดนตี แต่ทั้งที่ดุธาม พี่นำก็เป็นคนที่ดึงตัวธามให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ แล้วก็นวดแขนนวดขา แถมยังเอาหน้ามาใกล้ๆ แล้วก็แหกตาธามอีกต่างหาก นี่พี่นำเล่นอะไร
“อื้อ! นำเล่นบ้า”
“แค่ดูว่าโอเคมั้ย”
“หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ นี่ทานไปกี่มื้อ ครบมั้ย? ธามไม่อ้วนขึ้นเลย พี่บอกให้กินเยอะๆ ไง” ตอบไม่รู้เลยว่าอะไรก่อน ธามขมวดคิ้วใส่แล้วลุกบิดขี้เกียจ เขาเหล่มองนำนิดเดียวก็คิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ ธามทิ้งตัวลงนั่งตักพี่นำแล้วก็เหนี่ยวคอไว้ เอาหน้าถูๆ กับหน้าอกแล้วก็อ้อน
“พีนำ”
“จะเอาอะไรครับ เรียกพี่นำซะด้วย”
“อยากไปเที่ยว”
“เที่ยวไหนดี”
“ทะเลไง พี่เจมบอกว่าทะเลเมืองไทยสวย”
“ไปนะ อยากไป ธามจะไปทะเล”
“พรุ่งนี้ได้เลยนะ!”
“เอาแต่ใจใหญ่แล้วนะครับ พรุ่งนี้พี่นำมีงาน”
“มีทุกงานวันเลย”
“บ้าหรอ! วันนี้ลุงหมอยังอยู่บ้านเลย นำบ้างาน!”
“เฮ้อ เคยบอกแล้วไงครับว่าเคสด่วน” พูดจบก็จ้องหน้า เวลาพูดเรื่องเคสด่วนทีไร ธามต้องเข้าใจพี่นำทันทีว่าเลี่ยงไม่ได้ ยังไงเคสด่วนก็ต้องมาก่อน สำคัญมากรึไง ไอ้เคสด่วน!
“หน้ามุ่ย”
“ไปเอาน้ำเย็นๆ ให้พี่นำดื่มหน่อยสิ”
“แล้วนี่ดูหนังหรอ เรื่องอะไรครับ ดูต่อมั้ย”
“ไปเรียนภาษาไทยกับพี่นำดีกว่า เอามั้ย”
เรียนภาษาไทยกับพี่นำ แปลว่ามีเซ็กส์แหล่ะ เคยบอกพี่เจมไปแล้ว พี่เจมบอกว่า “โห รหัสลับทำพี่อยากบ้าตาย” แต่ธามว่าก็ธรรมดานะ ตอนแรกธามก็ตั้งใจเรียน พีนำก็ตั้งใจสอนหรอก แต่พอเริ่มหน้าชิดกัน มันก็เลิกเรียนเลิกสอนทันที
“อยากมีเซ็กส์กับธามหรอ”
“เดี๋ยวตีตาย”
“ถ้าธามไม่ยั่วพี่ พี่สอนหมดไปแปดเล่มแล้วครับ”
“น้ำล่ะครับน้องธาม”
“ก็ได้” เขายินยอมและเดินไปหยิบขวดน้ำแช่เย็นมาส่งให้ พี่นำคลายเนคไทด์แล้วนั่งเลือกแผ่นมูฟวี่ พอเลือกได้ก็เปิดดูโดยมีธามนั่งกับเบาะโซฟาที่ดึงยาวออกไปแล้วเอนหัวพิงขาพี่นำไว้
“ธาม ทำไมอยากไปทะเลครับ”
“ธามอยากไปเที่ยวกับนำบ้าง”
“พี่ๆ ที่ออฟฟิศไปเที่ยวกัน ถ่ายรูปมาให้ธามดู”
“เด็กขี้อิจฉา”
“เด็กขี้ไม่อิจฉา เด็กอยากไปเที่ยวบ้าง แค่นั้น”
“โอเค” พี่นำหัวเราะต่อท้ายแล้วก็ให้การบ้าน
“พี่จะไปทะเลพรุ่งนี้ แต่ว่าธามชวนคนอื่นไปด้วยกันนะ อยากให้ใครไปบ้าง โทรไปชวนเลย”
อยากให้ใครไปบ้างหรอ? นับง่ายมากเลย
“พี่เจม พี่หนึ่ง พี่โปร แค่นี้”
“เพื่อนน้อยจังครับ”
“เพื่อนไม่มีเลย มีแต่พี่ อ้อนำ!”
“คิดได้รึยัง ให้อาหลูอยู่ที่ไหน ที่จะมาเยี่ยมธามเดือนหน้า”
“โรงแรมไงครับ เดี๋ยวพี่นำหาให้เอง ไม่ต้องห่วง”
“ตอนนี้ธามก็โทรถามพวกที่ธามอยากให้ไปด้วยกันนะ แล้วมาบอกพี่ว่าใครจะไปกับเราบ้าง นะครับ”
“อื้อ” เขารับคำแล้วล้วงกางเกงกระเป๋าพี่นำเพื่อหาโทรศัพท์ แต่แล้วก็ชักมือออกแล้วมองหน้าพี่นำอย่างตกใจ
“โดนหรอ?”
“ครับ อยากให้ตื่นหรอ”
“ไม่ คืนนี้ค่อยตื่นดีกว่า” เขาหัวเราะเมื่อพี่นำชูมะเหงกใส่ ธามปล่อยให้พี่นำดูมูฟวี่เรื่องที่ธามดูจบแล้ว ส่วนตัวเขาก็ไล่โทรชวนทุกคนที่ชอบอยู่ด้วยให้ไปทะเลด้วยกันวันพรุ่งนี้ แต่โชคร้ายชะมัด ทุกคนตอบเหมือนกันคือ “พูดให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยมานัดเดทพี่” อะไรกันเล่า!
-----------------ธามยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองยังป่วย
อาการนอนร้องไห้เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในวันที่น้องเดินถือแฟ้มเคสคนไข้ของเขามาหา เด็กคนนี้เปิดชี้ให้เขาดูชื่อที่เจ้าตัวอ่านออกเสียงว่า สุ พิ สุด ทิ นิ มิด กา นน แล้วถามเขาว่า “แซนใช่ถูกมั้ย ยุ่งอะไร นำทำอะไร”
เขาบอกแค่ว่า คนคนนี้คือเคสพิเศษที่เขาต้องดูแลด้วยตัวเอง ไม่ได้บอกไปตรงๆ ว่าคนนี้คือนายแซน แต่คิดว่าธามคงรู้
ผู้นำเลือกจะบอกเท่าที่ถาม เพราะเขาอยากรู้ว่าธามจะกล้าถามเขาแค่ไหน และน้องก็ไม่ถามอะไรอีกเลย ดูเหมือนจะลืมเรื่องนายแซนไปเลยด้วยซ้ำ จนอีกวันถัดมา เขาตื่นขึ้นกลางดึกและเห็นว่าธามยังเป็นเด็กที่นอนร้องไห้เหมือนเดิม
ไม่มากนักที่น้องจะละเมอออกมาเป็นคำ คืนไหนละเมอ คืนนั้นจะน้ำตาจะไหลมาก มีอาการสะอื้น แต่ธามไม่เคยได้สติหรือตื่นระหว่างที่หลับแล้วร้องไห้เลยสักครั้งเดียว
กลไกทางจิตของธามแข็งแกร่งเกินไป หรืออ่อนแอเกินไปจนเลือกใช้วิธีชะลอความเจ็บปวด เป็นแบบไหนกันแน่
การได้เจอ และได้รักษานายสุพิสุทธิ์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เขาทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นให้คุณลุงหมอที่เคยรักษานายแซน ไปเกลี้ยกล่อมนายพิสุทธิ์ให้ส่งลูกชายมารับการรักษาให้ถูกต้อง
วันแรกที่ได้เจอเขาในฐานะ “หมอคนใหม่” นายแซนด่าเขาสาดเสียเทเสีย แช่งพ่อแช่งทวดเขาจนผู้นำอดหวั่นไม่ได้ว่าทวดบนสวรรค์คงตัดเขาออกจากสายเลือดแล้วแน่ๆ โทษฐานหาเรื่องให้คนมาด่าบรรพบุรุษ
แต่เมื่อคุยกันในฐานะหมอและคนไข้ นายแซนก็ไม่ใช่คนเลวโดยสันดาน นายแซนก็แค่คนป่วยที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย กรรมก็ตกกับธามอยู่วันยังค่ำ
“มึงเอาน้องกูไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“เด็กนั่นมันอกตัญญู เลี้ยงไม่เชื่อง วันนึงมันก็ทิ้งมึงไป เหมือนที่ทิ้งกู”
“หมอ ธามสบายดีมั้ย ผมอยากเจอธาม”
แรกๆ เขาก็ไม่แยกไม่ค่อยออกว่านิสัยไหนคือของจริง นิสัยช่วงไหนคือป่วย แต่พอได้มอง ได้สังเกต และได้รับฟังคำสบถโดยไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ และไม่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวในความสัมพันธ์ด้วย ผู้นำเชื่อว่านายแซนรักธามจริงๆ รักมากเสียด้วย
ความรักนี่อันตรายจริงๆ
เขายังอดคิดไม่ได้เลยว่าหากเขารักธามมมาก จนหลงทำผิดวิธีไปเหมือนนายแซน เขาจะมีสภาพเป็นยังไง
ผู้นำถอดแว่นเพราะรู้สึกล้าตา เขาวางปากกาเมื่อจดบันทึกอาการของนายแซนเสร็จ เรื่องที่นายแซนพูดออกมาระหว่างรับการรักษาเมื่อกลางวันถูกอัดเสียงไว้ และเขาก็เพิ่งฟังถ้อยคำนั้นเพื่อถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ
เขาจับจ้องประโยคต่างๆ แล้วก็ขีดเขียนอาการทางการแพทย์แทรกลงไป จะได้จัดยาบรรเทาอาการให้ถูกก่อน เรื่องของต่อมฮอร์โมนนี่ละเลยไม่ได้เพราะอยู่ภายใน ตามองไม่เห็น ส่วนอาการที่เจ้าตัวแสดงออก ก็มีเทปบันทึกการรักษาเก็บไว้ที่ศูนย์จิตเวทเรียบร้อย
ไฟล์ที่บันทึกอาการของนายแซนระหว่างรับการรักษากับเขาถูกเปิดขึ้นในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ผู้นำเฝ้ามองสีหน้า สายตา อาการเกร็งมือ ท่านั่ง เขามองทุกๆ อย่าง มองเพื่อทำความเข้าใจ เพื่อจะได้เข้าถึงจิตใจนายแซนได้
หากเข้าถึงได้ เขาอยากบอกว่าตัวสำนึกที่ซ่อนอยู่ในจิตใจดำมืดว่า พอเถอะ ยอมรับเสียทีว่าความรักนี้ทำร้ายธามอยู่ แค่หยุดธามก็จะมีความสุขแล้ว แต่ดูเหมือนนายแซนจะยังไม่เข้าใจความรักในแง่มุมของการปล่อย เขาเข้าใจแค่ด้านของการได้มาเท่านั้น
ดูอาการเคสพิเศษจบก็เข้านอน ผู้นำไม่ปิดคอมพิวเตอร์เพราะคิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่น เขาอยากดูอาการนายแซนอีกรอบในไฟล์เดิม และอยากย้อนดูไฟล์ของครั้งก่อนหน้าในช่วงที่เสมองกำลังปลอดโปร่ง เผื่อจะคิดอะไรได้มากขึ้น
หมอหนุ่มปิดไฟ และเอนตัวลงนอนข้างๆ เด็กหนุ่มที่นอนขดตัวอยู่ตามถนัด เขาดึงแขนดันตัวให้เด็กคนนี้นอนยืดตัวสบายๆ และโอบกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาตัวเองลงเพื่อพักจากวันที่เหนื่อยล้า
-----------------ฮือออ
ปล่อยธาม
ปล่อยธามเถอะนะ
ธามไม่อยากอยู่ตรงนี้ ธามอยากหาแม่ ฮือออออออออออเสียงฮือดังแว่ววนในหัวแม้ว่าเขาจะตื่นแล้วก็ตาม ธามหายใจถี่กระชั้นพลางขมวดคิ้วเพ่งมองเพดานสีขาวผ่านความมืด เขารู้สึกเหนียวหน้าจึงใช้มือปาดแก้มตัวเอง ความเหนียวที่คิดว่าเป็นเหงื่อกลับหนืดน้อยกว่าที่คิด มันลื่นแก้มไปหมด เขาผุดลุกขึ้นนั่งและเช็ดแก้มตัวเองอีกหน ถึงได้รู้ตัวว่ากำลังร้องไห้
แล้วเขาร้องไห้ทำไม....
นั่นสิ ธามร้องไห้ทำไม?
“เป็นอะไรครับธาม” พี่นำตื่นจนได้ ทั้งที่พี่นำนอนดึกมาก กลับต้องมาตื่นกลางดึกเพราะธาม เขาส่ายหน้าแล้วก็มุดหัวลงหมอนหวังจะนอนต่อ แต่กลับถูกงัดตัวขึ้นมานั่ง หมอนำยืดตัวเปิดไฟและเอียงหน้าจ้องเขา
“ร้องไห้ทำไมครับ”
“ธามไม่รู้” เขาตอบแล้วทิ่มหน้าลงหมอนอีกรอบ แต่พี่นำก็งัดกลับขึ้นมาอีกที
“ไม่ลองนึกดูหรอครับว่าตัวธามร้องไห้ทำไม มีเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องร้องไห้”
เรื่องที่ทำให้ต้องร้องไห้หรอ?
เต็มไปหมดเลย แต่ไม่เคยร้องไห้แบบนี้เลย แบบทื่ตื่นมาแล้วถึงได้รู้ตัวว่าร้องไห้
เขาสั่นหน้าแล้วก็นอนอีกรอบ ครั้งนี้พี่นำไม่ดึงตัวธามขึ้นมาใหม่ แต่กลับนอนอยู่ข้างๆ พี่นำตะแคงตัวมองหน้าธาม มือก็ลูบแก้มเบาๆ
“เล่าให้พี่ฟังบ้างสิ”
“เล่าอะไร?”
“เล่าเท่าที่อยากเล่า เท่าที่นึกออก นะครับ”
“อืม” ธามพยักหน้ารับ เขาหลับตา อมยิ้มเมื่อพี่นำลูบแก้มเบาๆ กำลังจะเคลิ้มหลับไปอีกรอบ เสียงร้องไห้มันก็แว่ววนเข้ามา
ฮือออ ธามอยากหาแม่ แม่ธามไปไหน
แม่ ฮือออออออออ ปล่อยธาม แซนปล่อยธาม ปล่อยธาม
ธามไม่อยากอยู่ที่นี่ ธามจะหาแม่ ฮือออออ ปล่อยธาม แซนปล่อย ฮือ“ปล่อย!” เขาลืมตาผึงทันที หัวใจธามเต้นตึงตังไปหมด เขาจ้องหน้าพี่นำเขม็ง พี่นำก็มองเขาตาไม่กระพริบ
“ธาม เป็นอะไรครับ”
“แม่...ธามจะหาแม่ ธามไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่แซนไม่ปล่อย”
“ฝันหรอครับ”
“ไม่รู้สิ” ธามไม่รู้จริงๆ ว่ามันคือความฝัน หรือความจริงที่เคยเกิดขึ้น แต่ธามอัดอึดไปหมดทั้งที่ตรงนี้ไม่มีแซนมาจับมารั้ง และธามก็ใจหวิว เหมือนใจจะบินจากอกไปหาแม่
“นำ หัวใจหายเลย เหมือนจะหายไป”
“แซนใจร้าย ร้ายที่สุด ธามเกลียด!”
“โอเค หยุดที่เกลียดนายแซนก็พอครับ”
“พักไว้ แล้วรับรู้ใหม่ ว่าทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ไม่มีใครทำให้ธามอัดอัดได้ ถ้าธามไม่ยอม”
“นะครับ”
“นอนนะเด็กดีของพี่นำ”
“อื้อ” นอนก็นอน ธามหลับตา แต่ก็กลัวจะฝันอีกเลยลืมตามองพี่นำอีกครั้ง รอยยิ้มอบอุ่น ตาที่หยีลงระหว่างยิ้มทำให้ธามยิ้มตาม ลักยิ้มบนแก้มถูกห่มทับด้วยมือพี่นำอีกหน แค่นี้ธามก็ไม่กลัวอะไรแล้ว ไม่กลัวอะไรแล้วจริง
ฮือออออออออ
แซนปล่อย
ธามจะหาแม่ ปล่อยธาม
ธามหนาว อย่าทำแบบนี้ แซนอย่าทำแบบนี้
เอาปากออกไป เอามืออกไป ไอ้แซนบ้า ธามเกลียดแซน เกลียด เกลียด!!Cut ก่อนอื่นเลย
ขอโทษมากๆ เลยค่ะ

ตอนนี้มาต่อช้ามาก แล้วก็สั้นมากด้วย
เหตุผล...แม้จะเป็นข้ออ้างของคนทำผิด แต่เราก็มีเหตุผลน้าาา
คืองานยุ่ง แล้วก็ เรื่องพิเศษที่ทำอยู่ด้วย
ตอนต่อไป จะพยายามรักษาเวลา ไม่หายไปนานเกินไปอีก
แล้วก็ เราจะเครียดแล้วนะคะ พี่หมอนำ