The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)  (อ่าน 206998 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
«ตอบ #270 เมื่อ22-07-2014 00:47:15 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
«ตอบ #271 เมื่อ22-07-2014 06:23:02 »

ตอนที่พี่นำกับน้องธามอยู่ด้วยกัน ก็น่ากุ๊งกิ๊งๆดีอยู่หรอก :o8:
แต่พอพูดถึงอิพี่แซน เครียดขึ้นมาทันที :katai1:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
«ตอบ #272 เมื่อ22-07-2014 16:35:57 »

ความลับที่รอวันเปิด พร้อมสะสางปมคาใจ :เฮ้อ:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 23 (14-08-14)
«ตอบ #273 เมื่อ14-08-2014 00:00:53 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 23



สารภาพเลยว่าธามตื่นเต้นมาก ถึงขนาดเก็บมือตัวเองไม่ได้ ต้องชี้นั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยแล้วถามพี่นำตลอดเวลานี่ทางนี้ไปไหน ป้ายนี้พาไปไหน เผื่อว่าธามต้องกลับคนเดียว ธามจะได้ไม่หลง
“ธามครับ เดินดีๆ”

“นี่ไม่ดีที่ไหน”
“นำๆ แล้วถ้าตรงไปทางนั้นล่ะ มีซบมั้ย บอดี้อ่ะ บอดี้”

“ศพครับ”
“แล้วที่นี่ก็เป็นศูนย์ผู้ช่วยจิตเพทย์ด้วย ไม่มีศพหรอกครับ ไม่เคยมีใครตายที่นี่เลย”

“เอ๊าะ! หมายถึงโรงพยาบาลคนบ้าหรอ”

“ก็คิดกันแบบนี้” พี่นำบ่นใส่ แต่น้ำเสียงไม่ดุ ธามก็เลยยิ้มสู่ เขาถูกพามาที่ห้องทำงานพี่นำ ในห้องกว้างๆ ที่มีเตียงนอนดูน่าสบาย มีชุดโซฟา มีห้องเล็กๆ ซ่อนอยู่หลังประตูที่แทบจะกลืนไปกับผนัง นั่นแหล่ะห้องทำงานของพี่นำ

“เข้าไปนั่งเล่นด้านในนะครับ เดี๋ยวพี่คุยกับพยาบาลแป๊บนึง”

“อื้อ” ธามรับคำและเดินไปเลื่อนประตู แต่ก็เลื่อนไม่ออก เขาทดลองเดินถอยหลังเผื่อว่าประตูจะติดเซ็นเซอร์เอาไว้แล้วอ่านค่าความร้อนใบตัวเขาไม่ออก แต่มันก็ยังไม่เปิดให้เขาเสียที ธามเลยจนปัญญา สุดท้ายก็ต้องพึ่งพาพีนำทุกเรื่อง

“นำ”

“กดข้างๆ ประตูสิครับธาม เห็นมั้ย ปุ่มกดเล็กๆ ไง”

“อ้อ”
“เล็กสินะ” เขาไม่ได้ยียวน ธามแค่อยากบอกพี่นำว่าปุ่มนี้มันเล็กเกินจะมองเห็นเท่านั้นเอง ทำไมต้องเดินวกเข้าห้องมาแล้วกดให้ แล้วก็ดันตัวเขาไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวด้วย ไม่พอรึไง ทำไมต้องกางแขนคร่อมธามไว้ด้วยเล่า ไม่ได้อยากหนีไปไหนเสียหน่อย

“กลัวมั้ยครับ” ธามมีอะไรต้องกลัวด้วยหรอ? ธามก็แค่มาเจอแซนเท่านั้นเอง พี่นำก็อยู่ด้วยไม่ใช่หรอ? พี่นำเคยพูดไว้ว่าจะปกป้องธาม ธามไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วนอกจาก...กลัวว่านำจะไม่ทำตามที่พูด

“ธามต้องกลัวอะไรด้วยหรอ?”
“มีอะไรหรอ”


“พี่คิดว่าธามไม่อยากเจอนายแซน กลัวว่าธามจะกลัวจนตัวสั่นหรือช็อกไป”
“เจอเขาได้แน่นะครับ”

“นำบอกจะปกป้องธามนี่ ธามไม่กลัวอะไรแล้ว”

“เก่งจริง” เก่งจริงของพี่นำ หมายความเท่ากับ จูบนะ สินะ นำนี่ไม่รู้จักอายเลย

“จูบบ่อย ปากช้ำ”

“ช้ำยังไงก็จะจูบ”
“รอในห้องก่อนนะครับ เดี๋ยวให้คนเอาน้ำมาให้ดื่มนะ”

“อื้อ” ธามรับคำ เขายกหัวเข่าขึ้นกอดแล้วเอนตัวพิงโซฟาแสนนุ่ม เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานอยู่เงียบๆ กล่อมธามได้ดีอีกแล้ว ไม่นานก็มีคนเดินเข้าห้องมา พอเจอธามก็ยิ้มให้ แล้วก็มองหน้าธามอยู่นานจนธามต้องขมวดคิ้วใส่

“อะไรครับ”

“น้องคุณหมอน่ารักจังนะคะ”
“รับนมหรือโกโก้เพิ่มมั้ยคะ” เด็กไปสินะ ธามโตแล้วด้วย! เขาเชิดหน้าขึ้นนิดเดียวแล้วก็บอกความต้องการ
“กาแฟครับ”

“พี่เอาโกโก้ให้นะคะ” กาแฟกับโกโก้ เหมือนกันก็แค่ตัวซีที่ขึ้นต้นไม่ใช่หรอ? แค่นี้แยกไม่ออกรึไง ธามหันหน้าอิงโซฟาแล้วก็เลิกสนใจคนในห้อง ไม่นานเธอก็ออกไป

ดูเหมือนพี่นำจะธุระเยอะ ป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับเข้ามาในห้อง ถ้าธามเดาเวลาไม่ผิด พี่นำหายไปร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว นี่ธามรอจนจะหลับแล้วนะ

ครืดดดดดดดดด
เสียงประตูค่อยๆ เลื่อนเปิดทำให้ธามกระพริบตาถี่ๆ ไล่ความง่วง วิวนอกหน้าต่างบนชั้น 5 ของอาคารหมดหน้าที่ในการสบตากับธามแล้ว เขาพลิกตัวหันมาทางประตู

ผู้ชายคนหนึ่งคืนตระหง่านอยู่ เขาก้าวพ้นประตูมาไม่มาก แต่ก็มีระยะพอจะทำให้ประตูอัตโนมัติเลื่อนปิดตัวเอง ในห้องนี้มีเพียงธาม และผู้ชายคนนี้เท่านั้น

“แซน”

- - - - - - - - - - -

แซนเดินไปรอบห้อง แล้ววนกลับมาหยุดที่หน้าโซฟา ธามยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม หันเพียงแค่หน้ามองตามจังหวะการเดินช้าๆ ของแซนเท่านั้น

“จะไม่ทักพี่บ้างหรอธาม”

“แซน สบายดีสินะ” อยากให้ทักก็ทัก แค่นี้ไม่เห็นตายเลย เดี๋ยวนำก็มา

“ไม่เลย ไม่สบายเอามากๆ”
“เพราะธาม”

ธามเกี่ยวอะไรด้วย เราไม่เกี่ยวกันแล้ว... ธามได้แต่โต้ตอบอยู่ในใจ

“เพราะรักธาม พี่ถึงเป็นแบบนี้”

“งั้นก็เลิกรักไปสิ ธามไม่ได้สนใจความรักของแซนอยู่แล้ว บอกไปตลอด”

“และเพราะต้องเลิกรัก พี่ถึงไม่สบายหนักกว่าเดิม”
“มันยากนะธาม การต้องปล่อยใครสักคนไป มันยากมากจริงๆ”

“...............”  ธามไม่พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ธามไม่อยากคุยอะไรกับแซนอีก เหตุการณ์ที่ไต้หวัน ภาพแซนที่ขาดสติเหมือนคนบ้ายังฝังหัวธามอยู่ ธามไม่อยากตกอยู่ในเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง

“ตอบพี่ได้มั้ย ทำไมถึงเป็นไอ้หมอนำ ทำไมเป็นพี่ไม่ได้”
“ทั้งที่เราผูกพันกันแล้ว ธามเป็นของพี่มาตลอด จนธามกลับมาที่ไทย มาเจอมัน”
“ทำไมถึงทรยศความรักของพี่”

“ธามไม่เคยรับความรักแซน! ไม่เคย”

“ธามรับไปแล้ว กี่ครั้ง กี่คืน ต้องให้พี่ทบทวนหรอธาม”

“ไม่จริง!”

“จริง ธามแค่งอนพี่เพราะพี่ทำแรง ก็เลยประชดพี่ด้วยวิธีนี้ ด้วยการหนีมาอยู่กับไอ้หมอนำ”

“ไม่จริง”

“จริง จำไว้ในธาม ไม่ว่าใครจะรักธามมากแค่ไหน หรือธามจะรักใครสุดหัวใจ”
“เจ้าของธาม ก็คือพี่”

“ไม่จริง!!!”
“ไม่จริง ไม่จริง”
“แซนหยุดพูด หยุดๆๆ ไม่อยากฟัง ไม่อยากฟังแล้ว แซนทุเรศ บ้า! แซนโกหก!!”

“จริง เพราะแบบนี้ไง พี่ถึงปล่อยธามไปไม่ได้หรอก”
“เราต้องรักกันไปจนตาย”

“ไม่จริง!!!”


“หยุดนะคุณสุพิสุทธิ์!” เสียงพี่นำดังกร้าวขึ้นขวางอารมณ์โมโหที่ปะทุกรุ่นขึ้นในใจธาม เขารีบเดินมาหาและเกาะเอวพี่นำไว้ ฝ่ายนี้หันมองเขาอย่างกังวลพลางสำรวจไปทั่วตัว
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยธาม เขาทำร้ายรึเปล่า”

“ไม่ทำ”
“แซนแค่พูดบ้า”
“ไม่อยากฟัง กลับกันเถอะ ปล่อยแซนบ้าไป”

“กูไม่ได้บ้า!!!” เสียงตวาดทำให้หัวใจธามกระตุก เขาเหล่มองแซนที่ยืนชิดหน้าต่างกระจกใสบ้างกว้าง แซนมีอาการหอบ  หลุกหลิกอย่างเป็นได้ชัด
“หมอ ผมพยายามแล้ว มันไม่ใช่ผม”
“หมอ ต้องพาธามหนีไป พ่อคงไม่ปล่อยไว้ เงินตั้งเยอะแยะ”
“หมอ ช่วยธามด้วยนะ”

“..............” ธามได้แต่ขมวดคิ้วมองแซนที่เพ้อเจ้อไม่หยุด ใจนึกหงุดหงิดที่แซนทำบ้าบอใส่ แต่พี่นำกลับโอบไหล่ธามและบีบหัวไหล่ไว้แน่น

“ช่วยเขาเถอะธาม”

“จะช่วยยังไง ธามไม่อยากยุ่งกับแซนแล้ว”

“อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่ชายธาม เป็นญาติกัน แล้วเขาก็รักธามจริงๆ”

“...............” แล้วธามต้องฝืนใจทำเพราะเหตุผลที่พี่นำยกมาด้วยหรอ เขาไม่เข้าใจพี่นำเลย ธามขมวดคิ้วใส่หมอคนเก่งและถอยออกห่าง เมื่อไม่เข้าใจ ธามก็ไม่จำเป็นต้องทำ เหตุผลเพียงเท่านั้นมันไม่เทียบกับความขยะแขยงที่ธามรู้สึกกับแซน กับลุงพิสุทธิ์ไม่ได้แม้แต่นิด

“ธามครับ”

“ไม่”
“นำอยากช่วยก็ช่วยไป นำคือหมอ ช่วยแซนคือหน้าที่ธาม แต่ธามไม่มีเหตุผลอะไรต้องช่วยแซน”

“ธาม พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริง ๆ เมื่อกี้ไม่ใช่พี่นะ ไม่ใช่พี่เลย”

“...............” อะไรอีกล่ะคราวนี้ เขางงหนักกว่าเดิมเมื่อจู่ๆ แซนก็พูดขอโทษด้วยสีหน้ารู้สึกผิดเหลือเกิน ธามยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและมองแซนก้าวสั้นๆ และช้าๆ มาประชิดตัว มือแซนสั่น แต่ก็ยังพยายามเอื้อมมาคว้ามือธามไปจับไว้ พลางยกมือของเราขึ้นแนบแก้มและหลับตา

“เฮ้ย!!” ยังไม่ทันที่ธามจะตั้งสติได้ พี่นำก็งัดตัวแซนออกและผลักลงกับพื้น มือธามคว้างอยู่กลางอากาศ หลังมือมีเลือดออกมาซิบเพราะถูกเล็บแซนขูดเอา ซ้ำยังมีรอยกัดอีกด้วย

นี่มันอะไรกัน

“คุณสุพิสุทธิ์ ผมเตือนแล้วว่าคุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องธาม ถ้าธามไม่อนุญาต”
“ถ้าธามไม่อยากฟัง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ยัดเยียดจินตนาการของคุณใส่หัวธาม”

“พี่ขอโทษ”
“ธาม ธาม” แซนดูไม่ได้เลย เหมือนคนบ้าไม่มีสติแล้วตอนนี้

“เขามี 2 บุคลิกน่ะ” พี่นำพูดพลางดึงมือธามไปลูบแผลถูกเล็บข่วน
“เป็นหนึ่งในอาการ สิ่งที่รู้สึกกับธามเขารู้ว่าผิด แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ กลายเป็นอีกคน อีกนิสัย เวลาที่เขาขาดสติและยอมแพ้ต่อความต้องการของตัวเอง เขาจะเป็นอีกคนที่ทำอะไรไร้เหตุผล เพียงเพื่อให้ธามเป็นของเขา”

“.................”

“ที่ห้องนี้มีกล้องวงจรปิด พี่จะให้เขาดู เพื่อให้ยอมรับตัวเองเสียทีว่าเวลาเขาขาดสติ ธามจะเป็นเหยื่อเสมอ”
“ถ้าเขารักธามจริงอย่างที่ปากว่า เขาจะต้องยอมไม่พบธามอีกจนกว่าจะหาย”
“และคนที่จะบอกได้ว่าเขาหายป่วย หรือยังไม่หาย ก็คือพี่นำ”

“แล้วทำไมไม่บอกธามก่อน”

“ก็พี่กลัวธามจะกลัวเขา กลัวธามอ่อนแอ”

“นำอยู่กับธาม ธามไม่อ่อนแอหรอก บอกไปตลอด”

“ครับ คนเก่ง”
“งั้นเรารอให้เขาคืนสติก่อนนะ แล้วค่อยเจรจา”
“พี่อยากให้เรื่องลงเอยด้วยดี”
“ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นญาติธาม เป็นพี่ชาย”
“อย่าตัดเขาออกจากชีวิตอย่างสิ้นเชิงเลยนะครับ”

“สิ้นเชิงคืออะไร”

“.............” พี่นำไม่ตอบ แต่อมยิ้มขำนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินไปประคองแซนที่ยังนอนกองกับพื้น เรียกชื่อธามซ้ำไปซ้ำมา ทั้งที่ธามก็ยืนอยู่ตรงหน้าแต่แซนดูเหมือนจะมองไม่เห็นธามเลย

หัวใจธามรู้สึกเพลียๆ แบบนี้สินะที่เรียกว่าสงสาร ถ้าตัดเรื่องเป็นญาติกันเลยต้องช่วย และแซนรักธามจริงๆ เลยควรช่วยออกไป ความสงสารนี่แหล่ะที่จะทำให้ธามยอมช่วยแซนได้

“ธาม...สงสารนะ”

“ครับ พี่นำก็สงสาร ถึงได้อยากให้ธามช่วย”
“เราควรทำสิ่งที่เราทำได้ให้ดีที่สุด แต่เขาจะดีขึ้นรึเปล่า จะเข้าใจปัญหาและยอมแก้ไขรึเปล่า มันอยู่ที่ตัวเขาแล้ว”

“อื้อ” เขารับคำพี่นำที่พยุงแซนมานั่งเหม่อซึมบนโซฟาแทน ธามขอออกไปรอด้านนอกห้องทำงานเพราะกลัวว่าแซนจะบ้าบอขึ้นมาอีก ปล่อยให้พี่นำอยู่กับแซนเพียงลำพัง แต่พี่นำบอกว่า เมื่อแซนพร้อมรับรู้เรื่องตัวเองเมื่อไหร่ ธามต้องกลับเข้าห้องอีกครั้ง

มื้อเที่ยงนี้ธามได้กินราดหน้าที่ผู้หญิงคนเดิมนำขึ้นมาให้ กลิ่นหอมฉุยทำให้ธามยิ้มแก้มบุ๋มขอบคุณเธอ และได้รับสายตาเยิ้มๆ กลับมา

กินไปไม่กี่คำพี่นำก็เดินออกมาจากห้องทำงาน หมอนำถอดแว่นถอดไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วนั่งลงโอบเอวธามไว้

“กินหรอ? หิวสินะ”

“ฮ่าๆๆ ตลกไม่เลิกจริงๆ ธาม” ไม่พูดเปล่า พี่นำจับคางธามแล้วเขย่าไปมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยอ้อน
“หิวมากเลยครับ ป้อนหน่อยได้มั้ย”

“อ้าปากสิ”
“กว้างสิ หมูใหญ่”

“อ้า......” พี่นำน่ารักที่สุดเลย ธามอมยิ้มพลางตักราดหน้าป้อน พี่นำเคี้ยวไม่นานก็ดื่มน้ำเปล่าตาม

“เอาอีกสินะ”

“ธามกินเลย พี่ให้เขาซื้อข้าวผัดมาไว้ให้ อีกเดี๋ยวก็ได้กินแล้ว” ธามพยักหน้าเข้าใจแล้วก็กินราดหน้าของตัวเองต่อ รอกันอยู่ไม่นานพี่นำก็ได้ข้าวผัดตามต้องการ และก็เผื่อแผ่มาป้อนธามให้กินไปด้วยกัน
“กินอีกครับ ผอมจนหัวโต ตัวเล็กนิดเดียว”

“บอดี้เฟิร์มสิ ใช่มั้ย”

“ไม่เฟิร์มหรอกแบบนี้ เขาเรียกก๋องแก๋ง”

“อะไรหรอ ไม่รู้จัก”

“แปลว่าน่ารักน่ะครับ” นำบ้า เยิ่นยอตลอด ธามกลอกตาไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็งับช้อนพูนดัวยข้าวผัดทุกครั้งที่มันจ่อปาก

แต่กินกันยังไม่ทันอิ่มดี แซนก็โผล่ออกมาจากห้อง ดูจากสีหน้าแล้วน่าจะเป็นแซนที่พูดรู้เรื่อง เพราะพอแซนเห็นหน้าธาม ก็ส่งสายตาหลากอารมณ์ทันที จริงๆ ธามก็อยากบอกเหมือนกันว่าธามไม่เข้าใจหรอกว่าสายตาสื่อถึงอะไรบ้าง

“ตื่นแล้วหรอครับ”

“ธาม”    ธามหันสบตาเมื่อถูกเรียก แซนไม่ตอลคำทักทายของนำ แต่กลับจ้องหน้าธามเขม็ง สบตาแล้วก็อดรู้สึกหวาดๆ ไม่ได้
“พี่ขอโทษนะ”
“พี่...ไม่ได้กินยาอีกเพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้ป่วย...มาก”

“ผมมีภาพวงจรปิด คุณจะดูมั้ยว่าคุณทำยังไงเวลาที่อยู่กับธามแค่ 2 คน”

แซนดูลังเล บางทีแซนอาจจะรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาก็ได้ ไม่ว่าจะทำเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี ที่ว่า 2 บุคลิกอะไรนั่น แซนอาจจะเอาไว้ปัดความผิดของตัวเอง

“เอาสิ ผมจะดู” ทั้งที่พี่นำยังกินไม่อิ่มดี แต่ก็รวบช้อน ปิดฝาครอบสีใส และดื่มน้ำ จากนั้นก็เดินนำแซนกลับไปในห้องทำงานอีกครั้ง

“มาสิครับ ธาม”

“อื้อ” เขารับคำแล้วรวบช้อนบ้าง ธามดื่มน้ำล้างปากแล้วเดินเข้าห้องตามที่ถูกเรียก เขารู้สึกใจสั่นๆ แปลกๆ


เสียงและภาพไม่ชัดนัก แต่ก็มองออกว่าเป็นธามกับแซน เสียงที่ได้ยินก็สร้างความเข้าใจได้ว่าในห้องเมื่อช่วงสายของวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ผู้นำขมวดคิ้วใส่แซนเมื่อได้ยินสิ่งที่แซนพูด และลูบหลังธามเบาๆ ตลอดเวลา
จนในจอ มีพี่นำเข้ามาในห้อง การดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจึงได้หยุดลง

“คุณหยุดตัวเองไม่ได้หรอ ไหนว่าเข้าใจแล้วว่าผิดชอบชั่วดีคืออะไร”
“ผมคิดว่าคุณจะยับยั้งอารมณ์ได้ดีกว่านี้”

“ขอโทษนะธาม”

“เอ่อ..ไม่เป็นไร” ธามไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนี้รู้สึกเห็นใจแซนจริงๆ ธามไม่รู้ว่ามันยากขนาดไหน แต่ดูเหมือนมันจะยากเกินไปสำหรับแซน

“ความรัก คุณเอามาอ้างไม่ได้ ใช่ว่าแค่รัก แล้วคุณจะทำอะไรกับธามก็ได้นะครับ”
“จำตอนเด็กไม่ได้หรอ เพราะความรู้สึกเกินควบคุมของคุณ ทำให้ธามป่วยเป็นปอมบวม แล้วก็ผวาอยู่เป็นเดือนๆ”
“เห็นมั้ยว่าคุณร้ายอะไรธามไว้บ้าง”
“สาเหตุที่ทำให้คุณไม่สามารถเข้าใกล้ธามได้อีก ก็คืออารมณ์ของคุณเอง”
“ถ้าคิดอยากจะหายจากอาการขัดแย้งในตัวเองตอนนี้ คุณก็ต้องยอมรับก่อนว่าสิ่งที่คุณเคยทำ หรือที่ทำอยู่ มันผิด”
“ผิดโดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆเลย”

“ผมรู้” เสียงแซนแหบพร่า ก้มหน้าตลอดเวลา เห็นแล้วยิ่งหดหู่

“เอ่อแซน”

“หือ?” ธามชะงักไปนิดเมื่อแซนตอบรับในทันที เขาบี้ปลายนิ้วลงกับเล็บตัวเองก่อนพูด

“ธามไม่โกรธแล้วนะ เพราะแซนป่วย”
“แต่ธามคง...ช่วยรักแซนไม่ได้”

ครั้งนี้ ธามมั่นใจว่าธามเข้าใจสายตาของแซนแล้ว มันเศร้าลงมากเมื่อได้ยินคำที่ธามพูด แซนยิ้มรับแล้วก็ก้มหน้า ก่อนจะพูดเพิ่ม ซึ่งทำเอาพี่นำถอนหายใจและบีบไหล่ธามแน่น

“หมอช่วยจัดยาให้ผมอย่างต่อเนื่องด้วย ผมจะมาพบตามนัด แต่จะไม่เจอธามอีก”
“และจะบอกพ่อ ว่าผมป่วยเอง”
“จะให้พ่อเลิกทำร้ายหรือโทษน้องเสียที”
“ผมแย่เองที่เข้มแข็งเท่าที่พ่ออยากให้เป็นไม่ได้”
“พี่แซนไปก่อนนะธาม”

“..............”

“พี่...ขอกอดธามเป็นครั้งสุดท้ายได้รึเปล่า”
“กอดลา”

ธามหันมองพี่นำที่หันมองอย่างชั่งใจ  สุดท้ายพี่นำก็พยักหน้า ธามจึงเดินไปหาอ้อมแขนของแซนที่ธามปฏิเสธมาตลอด

แซนกอดแน่นครู่หนึ่งและเปลี่ยนเป็นกอดหลวมๆ มือแซนลูบหัวธามเบาๆ  เป็นสัมผัสที่อ่อนโยนไม่ต่างจากที่พี่นำเคยมอบให้

“พี่ดีใจที่ธามเป็นเด็กดีของน้าวีณา แล้วก็หลานที่ดีของลุงหมอของธาม”
“พี่จะพยายามเป็นพี่ชายที่ดีของธามให้ได้”
“คงเลิกรักธามไม่ได้ง่ายๆ แต่พี่จะเป็นพี่ชายที่กอดน้องธามได้อย่างบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง นะ”

“อื้อ” ธามยิ้มให้และกอดแซนกลับ


พี่แซน พี่แซน
จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องเรียกหาพี่แซน เห็นภาพตัวเองวิ่งในสวนหน้าบ้าน ผมปลิวตามแรงลม ตัวธามในวัยเด็กเอื้อมคว้าไปข้างหน้าที่มีพี่ชายวิ่งถอยหลังยื่นมือรอน้องชายอยู่เหมือนกัน

พี่แซน พี่แซน
ธามไม่ต้องรีบ พี่แซนรออยู่ตรงนี้ ระวังล้มนะ
โอ๋ ไม่ร้องนะ พี่แซนเป่าให้ เพี้ยงหาย
ขี่หลังพี่กลับบ้านก็แล้วกัน


“คิดถึงจัง พี่แซน” เขาพูดลอยๆ เมื่อแซนเดินเศร้าและผิดหวังในตัวเองออกไปจากห้องแล้ว ธามกระพริบตาไล่น้ำตาแล้วหันมองพี่นำที่ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆ
“ธามคิดถึงพี่แซน”

“ครับ พี่แซนเขาก็คิดถึงธาม อีกเดี๋ยวเขาก็กลับมา” พี่นำกอดธามไว้แล้วเช็ดน้ำตาให้ด้วยเสื้อตัวเอง พวกเขานั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา ธามจ้องมองแก้วน้ำที่เหลือน้ำอยู่ไม่มาก ส่วนพี่นำนั่งมองประตูห้องทำงานตัวเองอยู่เงียบๆ

“เบื่อมั้ย ไปเที่ยวแถวนี้ก็ได้ มีห้างอยู่ไม่ไกลนัก เดี๋ยวเย็นๆ พี่ไปรับ”

“ไม่ ธามไม่อยากอยู่คนเดียว”

“งั้นเดี๋ยวพี่ยกโน้ตบุ้คมาให้เล่นเพลินๆ นะ”
“อีกราวชั่วโมง พี่จะมีนัด ดูแลตัวเองก่อนนะครับ”

“อื้อ” เขารับคำแล้วยิ้มให้ ธามผ่อนลมหายใจเบาๆ เมื่อได้โน้ตบุ้คสมใจ ธามก็ออนไลน์ในโปรแกรมแชทที่ชอบใช้คุยกับอาหลูทันที

ข้อความถูกส่งไปตั้งมาก แต่ดูเหมือนอาหลูจะไม่ได้อ่านเลยสักอัน แบบนี้ก็เป็นการระบายออกที่เปล่าประโยชน์น่ะสิ
จะบอกนำทุกเรื่องก็คงไม่ไหว รกหัวนำเปล่าๆ  ธามคงต้องขจัดความหม่นสมองด้วยตัวเอง
เขาเลือกเล่นเกมส์ แต่ก็เบื่อในไม่กี่วินาทีถัดมา และในที่สุดธามก็ลองเข้าเวบไซต์บริษัทที่ตัวเองก็เป็นในหนึ่งผู้ถือหุ้น ด้วยวิธีการรับมรดกจากป้าวีณา

บริษัทนี้เป็นบริษัทรับจ้างผลิตโออีเอ็มของแผงควบคุมด้วยวงจรไฟฟ้า เขาดูแผนผังบอร์ดบริหาร รายชื่อผู้ถือหุ้น ไม่มีข้อมูลของธามเลย แต่ชื่อของป้าวีณายังอยู่

ในบอร์ดบริหารลำดับรองลงมา มีรุปของแซนติดไว้ด้วย สุพิสุทธิ์ นิมิตกานนท์ กรรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ
ธามไม่รู้ว่ากว่าแซนจะได้ขึ้นมาสู่ระดับผู้บริหาร แซนต้องใช้ความพยายามแค่ไหน จริงๆ แล้วธามไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแซนเลยในช่วงที่ห่างกัน รู้เพียงว่าแซนทำตัวน่ารำคาญ ชอบบังคับ และชอบสัมผัสธามแบบแปลกๆ ซึ่งธามไม่ชอบ

แม้จะบอกครั้งแล้วครั้งเล่า แซนก็ยังทำให้ธามรำคาญเหมือนเดิม สุดท้ายก็กลายเป็นเกลียดแซน ไม่อยากเจอ ไม่อยากพบ ยิ่งกับลุงพิสุทธิ์ที่แวะมาหาป้าวีณาแบบนับครั้งได้ ธามยิ่งไม่ชอบ เพราะลุงชอบทำเหมือนรู้จักธามดีนักหนา ชอบพูดถึงพ่อกับแม่ธามแบบแย่ๆ แม้ธามจะจำไม่ได้ว่าพ่อกับแม่หน้าตาเป็นแบบไหน นิสัยเป็นยังไง แต่ธามก็รู้ว่าเป็นลูก ต้องรักและปกป้องพ่อแม่ตัวเอง

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ธามกลายเป็นคนไม่มีบ้าน หรือมีบ้านก็กลับไปไม่ได้ จนตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้แน่ชัด แต่จะให้หาสาเหตุและแก้ไข ธามไม่คิดทำ

เรื่องมันล่วงเลยมาจนป่านนี้แล้ว ธามพบเจอใครมากมาย ธามมีชีวิตของธาม และธามก็ใช้ชีวิตของธาม
แล้วชีวิตธามก็มีความสุขมากขึ้น เมื่อมีพี่นำอยู่ข้างๆ

“คุณหมอ คนไข้ที่นัดมาแล้วค่ะ” พยาบาลเลขาหน้าห้องโผล่มาบอก ไม่นานพี่นำก็เดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว เขาส่งยิ้มให้ธามนิดนึงแล้วก็เดินไปรับคนไข้ถึงหน้าห้อง

ผู้หญิงคนนี้สวยจัง
แต่ธามไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะเธอจับมือพี่นำของธามไว้ระหว่างเดิน ทางก็ไม่ไกล สว่างจ้า ไม่หลงอยู่แล้ว จับมือทำไมกันเล่า

เมื่อไม่พอใจ แต่ระบายออกไม่ได้ ธามก็ส่งภาษาไปถึงอาหลู คิดเสียว่าไม่เกิน 24 ชั่วโมงอาหลูก็ต้องอ่านข้อความและตอบกลับมา


ห้าโมงเย็นกว่าๆ พี่นำก็เสร็จงาน หมอนำเอาหน้าเพลียๆ มาซุกแก้มธามแล้วส่งเสียงหอมดังฟอด แล้วบอกว่าชื่นใจ อันนี้ต้องใช้กับน้ำดื่มไม่ใช่หรอ

“หิวมั้ย”

“อื้อ”

“กินอะไรดีครับ”

“ไปกินข้าวที่บ้านกันเถอะ ธามไม่อยากไปไหน”
“เบื่อแล้วง่วง”

“น้อยใจดีมั้ย นั่งรอพี่นำทำงานแป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว เด็กหนอเด็ก”

“ไม่เด็กนะ กลับสิ”
“วันนี้มือนำแย่ ไม่จับแล้ว!”

“โกรธหรืองอนอะไรครับ”

“........................” ทำไมนำไม่รู้สาเหตุ ต้องรู้สิ ก็นำรู้ทุกเรื่องนี่ ธามไม่บอกหรอก ให้ตายก็ไม่บอก

“หืม? บอกพี่นำหน่อยสิ นะครับ นะ”

“นำจับมือผู้หญิง ต่อหน้าธามเลย”
“นี่แฟนกันนะ”
“หลากใจ”

“หลายใจครับ พูดให้ถูก”

“หลากหลายใจ!”

“ไปกันใหญ่ โอเค กลับบ้านเนอะ เดี๋ยวแก้ตัวบนรถ”

“คนจัญไร”

“เฮ้ยยยยยยยยยย!”
“พี่นำทำผิดขนาดนั้นเลยหรอธาม ด่ากันเสียหายเลย”

“พี่เจมสอนแล้ว คนดีต้องแก้ไข คนจัญไรแก้ตัว!”  พี่นำกุมขมับแล้วนวดๆ พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ ตกลงธามพูดน่าปวดหัวหรือน่าขำกันแน่ งงแล้วด้วย

แต่ยังไม่ทันได้บอกความผิดเพิ่ม พี่นำก็กอดคอธามแล้วพาเดินออกจากห้อง ลงลิฟท์เพื่อไปที่รถตามที่พี่นำบอกแผนไว้แต่แรก
พี่นำขี้โกง โจร! ทำให้งงแล้วก็โอบแก้ตัว จัญไรที่สุด!


- - - - - - - - - - -


ชีวิตธามเหมือนจะปกติดี แม้เขาจะยังไม่วางใจจนต้องคอยตั้งนาฬิกาปลุกตัวเองให้ตื่นกลางดึกเพื่อเฝ้ามองอาการของน้อง แต่โดยรวมแล้วก็แทบไม่มีอาการผวาตื่น หรือนอนร้องไห้อีก จะมีละเมอบ้างแต่ผู้นำไม่คิดว่ามันเกิดจากสาเหตุเดิมอย่างนายแซน เพราะธามละเมอว่า ‘อื้อ นำ ไม่ไหวแล้ว’ ซึ่งเขาจะสรุปเอาว่าธามกำลังฝันถึงตอนที่เขาบังคับให้อ่านหนังสือภาษาไทยจนสมองเหนื่อยล้า

หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผู้นำเชื่อว่าธามจะกลับมาสดใดได้โดยไม่มีตุ่มตอร้ายซุกอยู่ในหัวใจอีก เขาคิดว่าอีกไม่นาน ธามก็จะกล้าใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น เห็นคุณค่าของลมหายใจตัวเอง เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองและภาคภูมิใจกับทุกการกระทำของตัวเอง

มันคงจะเกิดขึ้นจริงดังที่เขาหวังไว้ หากแต่ถูกขัดขวางโดยพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หัวสีที่เขาไม่ชอบอ่านนักแต่ป้าจูติดตามเป็นเรื่องย่อนิยายในเล่มนี้อยู่ รูปหน้า 1 และพาดหัวตัวใหญ่ แจ้งข่าวแก่เขาว่า นายสุพิสุทธิ์ ฆ่าตัวตาย

ผู้นำวางแก้วกาแฟแม้ว่าขอบแก้วและริมฝีปากเขายังไม่สัมผัสกันตามที่ตั้งใจ เขาถอนหายใจเสียงดังแล้วกุมขมับทันที

“เป็นอะไรเจ้านำ”

“พ่อครับ นายสุพิสุทธิ์เขา”

“หือ? เขามาวุ่นวายอะไรกับเจ้านำอีก เรามีหมายคุ้มครองอยู่ไม่ใช่หรอ จัดการให้ได้สินำ”

“ไม่ใช่ครับพ่อ เขาคงมาวุ่นวายกับธามไม่ได้แล้ว”

“อะไรของนำ พูดให้รู้เรื่อง”

“นายสุพิสุทธิ์ฆ่าตัวตาย”

ตุบ!
ราวกับการทำผิดพลาดโดยไม่เจตนาเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้นำแทบไม่อยากหันไปมองว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่เกิดจากอะไร เขาภาวนาให้ไม่ใช่อย่างที่กังวล

“ใครฆ่าตัวตายหรอนำ” แต่คำภาวนาของเขาก็ไม่ได้รับการสนใจ ผู้นำเป่าปากปรับสีหน้าก่อนหันไปหาเจ้าตัวดี วันนี้ธามแต่งตัวสดใส ผมก็เพิ่งตัดมาใหม่เมื่อวานนี้ด้วยเหตุผลว่า วันนี้มีนัดกับอาหลูที่จะมาเยี่ยมที่เมืองไทย เลยอยากหล่อกว่าเพื่อนซะหน่อย

“เอ่อออออ”

“บอกน้องไปสิ ปิดไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี”
“ธามโตแล้ว”

เขาไม่มั่นใจเลยว่าน้องจะเผชิญกับความจริงเรื่องนี้ได้ เขาหวั่นว่าธามจะโทษตัวเอง กลัวจะจมตัวเองไปกับความรู้สึกอ้างว้าง ผิดหวังในตัวเอง

“ใครหรอนำ”
“อ่านเองก็ได้ ธามอ่านออกเยอะเลย”
“ไหนหรอครับลุงหมอ ใครหรอ”

พ่อเขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ดันหนังสือพิมพ์ไปตรงหน้าธาม  เขาเห็นธามเกลี่ยตายตาโดยทั่ว คิ้วสีดำบางขมวดนิดๆ เพื่อเพ่งหาคำตอบที่ต้องการ

ธามไล่มือไปตามตัวหนังสือใหญ่บ้างเล็กบ้าง แต่แล้วก็หยุดกึกตรงรูปประกอบข่าว น้องยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาเพ่งจนชิดตา พึมพำอยู่ไม่นานก็วางมันลงแผ่กับพื้นโต๊ะอาหาร

“ซะ...แซนหรอ”
“ใช่แซนหรอ”
“จริงหรอ”

เขาและพ่อไม่ได้พูดอะไร หมอปันถอนหายใจเบาๆ และพยักหน้าให้คำตอบ ธามหันมองเขาบ้าง ทำให้ผู้นำเห็นเต็มตาว่าสีหน้าธามยามกลั้นน้ำยาไว้น่าสงสารแค่ไหน

“นำ”
“ทำไมแซนตายหรอ”
“ทำไม ธามอ่านไม่รู้หมด นำอ่านสิ มีอีกมั้ย นำอ่านให้ที อ่านสิ”

“เขาฆ่าตัวตายครับ”
“ในข่าวยังไม่ได้บอกสาเหตุ มีแต่การสันนิษฐานของตำรวจหลังจากฟังพยานและตรวจสอบปัจจัยแวดล้อม”

“ฆ่าตัวตาย  หรอ” ธามทวนคำแล้วก็หันหลังเดินออกจากห้องอาหารทันที ผู้นำรีบลุกตามไปและคว้าแขนธามไว้ได้ทันที่บันไดหน้าบ้านใหญ่ น้องไม่ได้หันมามองเขา แต่ขออนุญาตเขาเสียงแผ่วว่า “ขออยู่คนเดียวได้สินะ”

หรือว่าสุดท้าย ความพยายามทั้งหมดของเขาจะสูญเปล่า...ธามไม่ได้เข้มแข็งขึ้นเลย....
ธามยังเปราะบาง รับสิ่งเร้าใดๆ ไม่ได้ ไร้แรงจูงใจ ไร้ความต้องการ เป็นอย่างนั้นหรอ?
ที่เขาเฝ้ารักเฝ้าห่วง คอยสอนและคอยแทรกความคิด ไม่มีความรู้สึกไหนเข้าถึงธามได้เลย มันเป็นอย่างนั้นรึไง?

เขาปล่อยให้น้องได้อยู่คนเดียวสมใจ
ตอนนี้ผู้นำทำได้เพียงมองธามวิ่งกลับไปซ่อนตัวอยู่ในโลกใบเล็กแสนเปราะบาง เด็กที่ต้องการความช่วยเหลือกำลังจะกลายเป็นเด็กที่ยื่นมือมาปัดทุกความหวังดีออกไปให้ห่างอีกครั้งจริงๆ น่ะหรอ?

เขาอยากให้ความกังวลของเขาเป็นเพียงความคิดบิดเบี้ยวของเขาเอง อยากให้เขาคิดมากเกินไป
ผู้นำอยากนอนหลับอีกหน และตื่นอีกครั้งเพื่อเจอกับธามที่นอนกอดหนุนหน้าอกเขาอยู่ หวังไปว่าเจ้าตัวดีที่ตื่นอยู่แล้วผงกหัวมองเขาแล้วพูดคำที่ออกเสียงภาษาไทยชัดเจนว่า “อรุณสวัสดิ์นำ”

เช้าที่แสนสดชื่นแบบนั้น จะไม่มีอีกต่อไปแล้วจริงๆหรอน้องธาม

Tbc


แฮ่! ชิชะยังไม่จบสินะ

สำหรับนักอ่านที่อ่านเรื่องแรกของเรา "พี่หนึ่งน้องเจม" นั้น อีกเดี๋ยวก็คงมีข่าวดี

่ส่วนข่าวดีของพี่นำน้องธาม อีกไม่นานจะมาต่อตอนจบของเรื่องนี้แน่นอนค่ะ @_@
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2014 22:42:45 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ Fluckiiz78

  • " Be out, Be proud, Be who you are. "
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
«ตอบ #274 เมื่อ14-08-2014 20:36:38 »

ไม่หรอกพี่หมอนำ เราคิดว่าธามเข้มแข็ง ขึ้นมากเเล้ววว  :mew2:


ยังๆๆ ธามต้องกลับมาสดใส ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เเบบที่พี่หมอนำหวังไว้เเน่นอน

ยังไงก็อย่าลืมตอนจบนะค่ะ เรารออ่านอยู่น้าาา สนุกมากๆๆเลยเรื่องนี้  :katai2-1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
«ตอบ #275 เมื่อ14-08-2014 21:04:18 »

หน่วงทั้งนำและธามเลย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
«ตอบ #276 เมื่อ14-08-2014 21:43:31 »

เราหัวเราะขำกับพี่นำคนจัญไรมาก นุ้งเจมสอนอะไรนุ้งธามเนี่ย :laugh:
แต่กลับอึ้งไปเลยที่แซนฆ่าตัวตาย :a5:
สงสารแซนอ่ะ คนที่ฆ่าตัวตายเขาคงสิ้นหวังมากๆ น้องธามจะรู้สึกยังไงบ้าง น่าเป็นห่วงจัง :katai1:
ความพยายามของพี่นำต้องไม่สูญเปล่า น้องธามต้องเข้มแข็งกว่าที่คิดแน่ๆ แต่ให้เวลาน้องหน่อยนะ :กอด1:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
«ตอบ #277 เมื่อ14-08-2014 23:50:14 »

กำลังขำๆที่เจมสอนธามไป
เจอข่าวแซนตาย ธามต้องโทษตัวเองอีกแน่ๆ
โอ้ยยยยยยยยยยยยเมื่อไหร่จะผ่านพ้นอุปสรรค

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
«ตอบ #278 เมื่อ15-08-2014 10:57:54 »

สงสารธาม คงคิดว่าเป็นเพราะธามแน่เลยช่ายป่ะเนี้ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2014 17:54:50 โดย takara »

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
«ตอบ #279 เมื่อ15-08-2014 13:01:52 »

โธ่แซนไม่น่าเลยยย

ทำไมไม่อดทนละฮึ หายแล้วก็กลับมาหาน้องได้แล้ว

ถึงจะไม่ใช่ในรูปแบบคนรักแบบที่แซนต้องการ แต่น้องก็ไม่เกลียดแซนแล้วนะ


หรือว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
« ตอบ #279 เมื่อ: 15-08-2014 13:01:52 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
«ตอบ #280 เมื่อ15-08-2014 19:12:52 »

ขำ คนจัญไร ของน้องธามจริงๆ เด็กน้อยเอ๋ยยย สงสารธามนะ เพิ่งจะมีวันสดใสไม่ทันไร แซนก็มาฆ่าตัวตายซะแล้ว น้องคงโทษตัวเองอีก เห้อออ  สงสาร

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
«ตอบ #281 เมื่อ16-08-2014 00:52:56 »

สนุกมากเลยค่ะ เอ็นดูน้องจริงๆ น่ารักน่าสงสารมาก พี่นำนี่อบอุ่นสุดๆไปเลย รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #282 เมื่อ03-09-2014 20:29:33 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 24

 

ไม่ทานข้าวเลยค่ะ
เอาแต่นอนอยู่บนเตียง แต่ป้าดูของอันตรายให้แล้วนะคะ เก็บออกมาเรียบเลยค่ะ
คุณนำไม่เข้าไปดูอาการหน่อยหรอคะ
ป้าจู แม่บ้านเก่าแก่ถามเขาทุกวัน แต่ผู้นำเพียงแค่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ เขาไม่ได้แวะมานอนกับธาม ไม่ได้ใช้อยู่ชีวิตอยู่ที่บ้านเล็กแห่งนี้เกือบอาทิตย์แล้ว
เหตุผลสำหรับบอกคนอื่น อาทิ หมอปัน ป้าจู ลุงเผือก รวมไปถึงมือโปรที่ถามถึงธามอยู่ทุกวันก็คือ น้องขออยู่กับตัวเองสักพัก เขาไม่อยากให้ใครรบกวน
แต่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้ผู้นำตัดสินใจไม่พาตัวเองเข้าไปกวนเส้นขอบที่ธามขีดไว้ก็คือ เขากลัวว่าแม้แต่ตัวเขาเอง ธามก็ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้

“คุณนำคะ วันนี้ก็ไม่ทานค่ะ แต่ยืนเหม่ออยู่ตรงหน้าต่าง”

“ครับ” เขารับคำและมองถาดอาหารที่ป้าจูยกกลับมาเก็บ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว อีก 2 ชั่วโมงธามก็จะหมดโอกาสดูแลร่างกายตัวเองด้วยการกินข้าวเช้า

“คุณนำคะ”

“ครับ”

“ไปดูเธอหน่อยเถอะค่ะ ป้าสงสาร”
“ไม่พูดไม่จา ตอนเด็กที่คุณวีณาแกพามาใหม่ๆ คุณธามเธอก็เป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ”
“เงียบเชียบ ไม่พูดไม่จา ตางี้เศร้าจนป้าเศร้าตาม”

“ครับ นำจำได้” เขาตอบป้าแม่บ้านเก่าแก่ที่เลี้ยงดูเขามาแต่เด็ก และมีโอกาสได้ดูแลธามอยู่ช่วงหนึ่ง

“จำได้มั้ยคะว่าคุณนำไปชวนเธอเล่น ตื๊ออยู่ตั้งหลายวันกว่าจะยอมเรียกชื่อพี่นำ”
“แต่พอเรียกเท่านั้นแหล่ะ ไปไหนก็จะไปกับพี่นำพี่นำ”
“น่าเอ็นดูที่สุดเลยนะคะ คุณธามเนี่ย”

“ครับ นำจำได้” เขาตอบคำซ้ำๆ แต่ก็ไม่ได้ก้าวเดินเพื่อลดระยะห่างระหว่างเขาและธามตามที่ป้าแกหวัง

เขาไม่ได้ใจร้าย
หัวใจเขาก็เจ็บเหมือนกันที่ธามเอาแต่เสียใจ เอาแต่ทำตัวหดหู่อยู่แบบนี้
แต่ที่เจ็บกว่านั้นก็คือ “พี่นำ” คนนี้ ไม่สามารถเป็นหลักยึดเหนี่ยวความคิดให้ธามได้เลย หากธามนึกถึงเขามากกว่านี้อีกนิด ธามก็จะมีความสุขได้เหมือนเดิม
ผู้นำอดคิดไม่ได้ว่าน้องไม่ได้รักเขาเหมือนที่เขารักและเป็นห่วงอยู่ทุกวินาที ไม่มองเขาเป็นที่พึ่ง คิดแล้วอดน้อยใจไม่ได้จริงๆ

“คุณนำคะ ไปดูเธอหน่อยเถอะค่ะ ป้าล่ะเป็นห่วงเหลือเกิน”
“พูดอะไรไปเธอก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แค่หันมองหน้าป้า จะกระตุกปากยิ้มสักนิดยังไม่มีเลย โถ นี่คงเศร้ามากแน่ๆ นั่นก็พี่ชายคุณธามทั้งคนนี่คะ”

“ครับ ครับ นำรู้แล้ว เดี๋ยวนำดูแลเอง ป้าจูไปเถอะครับ”

“ค่ะ ค่ะ” พอเห็นเขาแข็งขันในการไปดูธามมากขึ้น ป้าจูก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ผู้นำถอนหายใจและถอดความกลัวจะเสียใจที่ธามไม่เห็นคุณค่าออกจากใจ เขาเดินขึ้นบันไดหินจนไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องธาม

จำได้ว่าตอนที่พาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่งห้องธามดูมืดมิด อับ ปกปิดโลก ธามแต่งห้องเหมือนหลุมหลบภัย แต่เขาก็แก้แบบ ตัดนั่นเติมนี่จนมันกลายเป็นห้องนอนคนปกติ และธามก็นอนในห้องนี้ได้โดยไม่บ่นอะไร ไม่รู้ว่าไอ้ห้องหลุมหลบภัยจะกลับมาอวดตัวกับเขาอีกไหม

ก๊อก ก๊อก
“ธามครับ พี่นำเองนะ”
“ธาม พี่นำเข้าไปนะครับ” เขาบอกและบิดลูกบิด น้องไม่ได้ล๊อคประตู ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ผู้นำหยุดปลายเท้าอยู่ที่หน้าประตูห้องเท่านั้น เขายืนมองธามที่ยืนหันหลังพิงกระจกบานใหญ่ และสบตาเขาอยู่ไม่หลบไปไหน

“ตื่นแล้ว ทำไมไม่ทานเข้าล่ะครับ ป้าจูบอกว่าธามไม่ทานข้าวเลย”
“กลัวจะไม่ป่วยหรอ”

“...............”

“ธาม อยากเล่าอะไรให้พี่นำฟังมั้ย”

“ธามอยากหาหมอ”
“ธามคิดว่าธามจะเป็นบ้า”
อะไรกันล่ะทีนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองป่วยเป็นโรคหวาดระแวง และเอนๆไปทางโรคซึมเศร้าด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับบอกว่าตัวเองใกล้บ้า

“ไม่บ้าหรอกครับ ธามจะบ้าได้ยังไง”

“ก็ธาม ธามไม่อยากทำอะไรเลย”
“ธามอยากรู้ว่าทำไมแซนถึงทำแบบนั้น แต่แซนตอบอะไรไม่ได้แล้ว”
“นี่นะ ลองหลับดูเผื่อจะได้เจอแซนบ้าง รู้ใช่มั้ยนำ สัญญาณน่ะ โกส สปิริท วอทเอเวอร์ยูคอล”

คงหมายถึงวิญญาณล่ะมั้ง ผู้นำพยักหน้า ธามพองตาใส่แล้วพุ่งมาจับแขนเขาไว้ทันที

“นำทำได้มั้ย ให้ธามเจอแซนได้มั้ย”

“อยากเจอเขาทำไมครับ”

“ธามอยากถาม แซนตายเพราะธามรึเปล่า ธามเกี่ยวมั้ย แซนไม่ต้องตายก็ได้ ธามไม่มีอะไรเลย ธามตายง่ายกว่า”
“ไม่มีใครเป็นอะไรเพิ่มถ้าธามตาย”

“แล้วพี่นำล่ะครับ”
“ถ้าเป็นธามที่ตายไป หรือเป็นธามที่ตัดสินใจจากทุกคนไปแบบนั้น พี่นำจะอยู่ยังไง”

“พี่นำเสียใจเป็นนะครับ พี่นำร้องไห้ได้เหมือนกัน ทำไมไม่คิดแบบนี้บ้าง”
“เขาตายไปแล้ว ประโยชน์อะไรจะไปนึกถึงอีก ชีวิตธามต้องเดินไปข้างหน้าต่างหาก” สารภาพเลยว่าที่พ่นพูดไปนั่นเขาเห็นเต็มตาว่าธามดูช็อคแต่เขาก็ยังไม่หยุดพูด คงเป็นความรู้สึกน้อยใจ หึง หวง ไม่อยากให้ธามให้ความสำคัญกับใคร หรืออะไร มากกว่าเขา

“แต่ธามอยากรู้”

“ถ้าไม่รู้แล้วจะมีชีวิตไม่ได้เลยหรอธาม”
“ธามจะอยากรู้ไปทำไม ถ้าธามเป็นสาเหตุจริงๆ ธามแก้ไขอะไรได้หรอครับ”
“ปล่อยเขาไปได้แล้ว”
“อย่าให้พี่ต้องพูดเป็นครั้งที่ 2”

“ทำไมนำพูดครั้งที่ 2 ไม่ได้” ธามผละออกห่างจากเขา ซึ่งผู้นำก็ไม่ได้ขืนดึงตัวกลับมา เขามองน้องถอยหลังไปนั่งบนเตียง อารมณ์ของเขาตอนนี้ขุ่นมาก จากที่สงสารธามและน้อยใจธาม ดูเหมือนความน้อยใจมันจะพุ่งสูงกว่าใจฝั่งที่สงสารเสียแล้ว เขาไม่ชอบที่ตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย

“เพราะถ้าพี่ต้องพูดครั้งที่ 2 นั่นแปลว่า พี่จะไม่พูดเรื่องนี้กับธามอีก”
“พี่ไม่พูดกับเด็กไม่รู้จักฟัง”

“ขู่สินะ”
“นำต้องช่วยธามไม่ใช่หรอ นำต้องช่วยกันหาคำตอบสิว่าแซนทำแบบนั้นทำไม”

“ไม่”
“มันเรื่องของเขา ปัญหาของเขา และวิธีแก้ปัญหาของเขาทั้งนั้น นายสุพิสุทธิ์ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่”

“แต่นำเป็นหมอที่รักษาแซนอยู่นี่นะ”

“วันสุดท้ายที่เขามาหาพี่ ธามก็อยู่ เขาขอยา พี่ก็จัดให้ พี่บอกอาการเขา บอกวิธีคิด วิธีรักษาตัวให้หายจากโรค ซ้ำยังพี่ยังพารางวัลที่เขาจะได้รับไปให้เห็นต่อหน้า พี่ทำทุกอย่างที่ควรทำแล้วครับ แต่เขาเลือกทางนั้น เขาเลือกเอง”

“แล้วถ้ามีใครบังคับแซนล่ะ”
“แซนไม่ฆ่าตัวตายหรอก แซนไม่ชอบเจ็บ”

“รู้จักกันดีสินะ”

“ก็พี่ชายธามนี่”

เจ็บจี๊ดๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งรู้สึกตัวเล็กลง นี่เขามีค่าน้อยกว่านายสุพิสุทธิ์หรอ ควรหาวิธีติดต่อกับวิญญาณดีมั้ย จะได้บอกข่าวดี เผื่อนายคนนั้นจะไปสู่สุขคติ

“แล้วรู้จักพี่บ้างรึเปล่า”
“หือ? ธามรู้จักพี่บ้างมั้ย”
“ทำไมพี่ต้องมายืนพูดเรื่องนี้อีก”
“พี่ชายตาย พี่เข้าใจว่าต้องเสียใจเป็นธรรมดา แต่ต้องเสียใจขนาดไม่กินข้าว ไม่พูดกับใคร ไม่ออกจากบ้านเลยหรอครับ”

“นำอยากให้ธามออกจากบ้านหรอ”

“ธามพูดไม่รู้เรื่อง”

“ก็นำพูดยาวๆ ธามไม่รู้เรื่อง”
“นำเป็นอะไร”

“พี่นำหึง”
“เลิกแสดงท่าทางว่าจะเป็นจะตายกับนายสุพิสุทธิ์สักที พี่รู้ว่าธามเสียใจ แต่เสียใจพอแล้ว”
“ถ้าทำไม่ได้ ถ้ายังจะเป็นจะตายอยากรู้สาเหตุอีก ก็ไปหาคำตอบเอาเอง”

“ไล่หรอ” อ่อนใจจริงๆ ใจอ่อนแล้วด้วยเหมือนกัน ผู้นำถอนหายใจ เขาเดินไปหาธามที่นั่งยกเข่าตัวเองมากอดไว้แล้วเอียงตัวลงนอน ก้อนกลมๆ ลี้หน้าไปซุกที่นอนเพื่อหนีมือเขาที่กำลังเอื้อมไปจับแก้ม

“อยากอยู่ไกลๆ พี่นำรึเปล่าล่ะ”

ส่ายหัว หรือถูหน้าเล่นกันแน่ มองไม่ค่อยออกเท่าไหร่

“ธาม ลุกขึ้น อาบน้ำแต่งตัว แล้วทานข้าวได้แล้ว”
“ไม่กินอะไรเลยแบบนี้อยู่ไม่ได้หรอกครับ”

“ธามดื่มน้ำ” ก็ยังจะเถียง สุดท้ายเขาก็จนปัญญา ผู้นำทิ้งความรู้สึกตัวเองไปก่อนและนั่งลงข้างๆ เขาลูบไหล่ธามไม่นานตัวดีก็พลิกมานอนหนุนตักกอดเอวเขาไว้

“นำหึงอะไร หึงคืออะไรนะ”
“ธามแค่ไม่เข้าใจ อยากรู้ว่าทำไมแซนต้องฆ่าตัวตาย”
“ถ้าเป็นเพราะธามจริงๆ ถ้าแซนตายเพราะธาม ธามจะทำอะไรได้บ้าง”

“ทำบุญครับ แต่เขาจะได้รับรึเปล่าเราไม่มีทางรู้หรอกธาม”
“พี่นำจะเข้าใจเอาว่า ที่ธามกำลังเป็นอยู่นี่ เพราะธามกลัวตัวเองจะมีความผิด ธามถึงพยายามหาคำตอบมาอธิบายการฆ่าตัวตายของเขา”
“แต่ธามฟังพี่นำนะ จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับธาม มันก็เป็นการตัดสินใจของเขาเองทั้งนั้น”
“หลักฐานเชิงประจักษ์ก็ยืนยันแล้วว่าเขาฆ่าตัวตายจริงๆ เขาเจตนาตาย”
“เขาทำพินัยกรรมยกหุ้นให้ธาม ยกบ้าน ยกรถให้ธาม”
“ถ้าถามพี่ว่าเขาทำแบบนั้นทำไม พี่ก็เชื่อว่าเขาทำเพราะเขารู้สึกผิดกับธาม และเขาอยู่กับความผิดที่เคยทำกับธามแบบนั้นไม่ไหว เขาถึงชดเชยและตายจาก มันเป็นมรดกที่ราคาแพงมาก ส่วนเขาจะตั้งใจฝากแมสเสจถึงธามว่ายังไง พี่ไม่อยากสนใจ และพี่ก็ไม่อยากให้ธามสน”

“ธามไม่สน แต่ธาม ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้แซนตาย”

“ดีครับ คิดแบบนี้ดีแล้ว ส่วนที่คิดต่อไปว่า ธามจะตายแทนง่ายกว่า นั่นหยุดคิดได้เลย พี่สั่ง”
“ความสัมพันธ์ของมนุษย์ทุกคน มีต้นกำเนิดและมีจุดจบ เราไม่ได้ผูกโยงกันด้วยด้ายสีแดงหรือบุญกรรมแต่ชาติปางไหน ถ้าธามอยากให้มันจบ ธามก็จบมันได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าธามอยากเริ่ม ก็เริ่มได้ด้วยตัวเอง”
“ธามเลือกได้ ทุกคนเลือกได้หมด ทั้งรักใคร เกลียดใคร จำใคร ลืมใคร เราจงใจทำกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรายอมรับกับตัวเองได้รึเปล่าว่าจงใจเกลียด จงใจลืม ตั้งใจเอาเปรียบ”
“ใครๆ ก็อยากเป็นคนดีครับ แต่เวลาทำเลวไปแล้ว คนส่วนมากก็จะหาเหตุผลให้การกระทำของตัวเองดูสมเหตุสมผล ทำแล้วไม่ผิด ไม่เลว ทำบ่อยๆ เข้า หลักคิดและคำจำกัดความของความดีก็เอนเอียงเข้าหาความต้องการส่วนตน”
“อย่างพี่แซนของธาม เขารู้ว่าเขาเลว เขายอมรับกับตัวเองได้ในที่สุดแล้วที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะรักธาม ใคร่ธาม ปรารถนาธาม เขาอ้างความเป็นพี่มาลดทอนความรู้สึกผิดชอบชั่วดี อ้างว่าทำเพราะห่วง จนในที่สุดก็อ้างความเจ็บป่วยของตัวเอง และเขาก็ถึงจุดที่ตระหนักรู้ว่าที่ผ่านมา เขาคิดบิดเบี้ยวไปมาก เขารู้สึกผิด เขามองหน้าใครบนโลกนี้ไม่ได้แล้ว แม้แต่พ่อตัวเอง แม้แต่ธาม เขาถึงขอจากไป”
“สิ่งที่ธามทำได้ในวันนี้ ก็คือใช้ชีวิตของธามซะ”
“ไม่ต้องผูกความรู้สึกกับเขา ไม่ต้องหาเหตุผลของการกระทำเขามากำหนดทิศทางการกระทำของธามเอง”
“พี่มองไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการหาคำตอบที่ธามสงสัย”
“จริงๆ แล้วแค่พี่นำพูดว่าธามไม่ผิด ไม่เกี่ยวกับธามหรอกครับ ธามก็คงสบายใจขึ้น แต่พี่ไม่พูด เพราะพี่ไม่ได้คิดแบบนั้น”
“พี่เองก็ไม่รู้ว่าก่อนตายเขาคิดอะไร และทำไมถึงคิดสั้นแบบนั้น แต่สิ่งที่พี่นำทำได้ ก็คือดูแลธาม ให้ธามก้าวเดินต่อไปได้ อย่างมีความสุขที่สุด”

“...................” ตัวดีเงยหน้ามองเขาแต่ยังนอนคาตักเขาอยู่ ดวงตากลมดำขลับแต่เศร้าสนิทสบมองตาเขา เรามองกันเนิ่นนานกว่าธามก็ตะแคงหน้าหนีไปแต่ก็ยังนอนหนุนตักเขาอยู่ดี

“ธาม...เข้าใจแล้ว”
“เดี๋ยวจะกินข้าวย้อนหลัง ธามขอโทษ”
“แต่ตอนนี้กอดธามหน่อยได้มั้ย”

ขี้อ้อน เสียงสั่นแบบนี้ฟังดูก็รู้ว่าอยากร้องไห้
ผู้นำไม่รู้ว่าที่พูดไปยาวๆ นั่นธามทำความเข้าใจทันมั้ย แต่คิดว่าคงจะงงๆ เพราะเขาพูดรัวเร็วตามอารมณ์ตัวเอง แต่ก็ช่างมันเถอะ ไม่เข้าใจทั้งหมดก็ไม่เป็นไร แค่เข้าใจเมนไอเดียให้ได้ก็พอ

พี่นำรักและอยากให้ธามมีความสุข เท่านี้แหล่ะที่เขาพยายามบอกอยู่ตลอดเวลา

เขาดึงตัวธามขึ้นมานั่งคร่อมตัก ลูกนกจากไต้หวันซุกหน้าลงกับซอกคอเขา ผู้นำรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆ จึงเดาว่าน้องร้องไห้
ไม่ร้องก็แปลก ธามคงตกใจที่จู่ๆ พี่ชายที่ทำท่าว่าจะกลับมาเป็นพี่ชายจริงๆ ก็มาฆ่าตัวตายหนี ไฟดวงสว่างๆ ที่มองหามานานมากและกำลังเดินเข้าใกล้เรื่อยๆ กลับดับวูบลง
วูบแรกก็คงอยากร้องแหกปากหาคนช่วย แต่กลับฉุกคิดได้ว่า หรือตัวเองจะเป็นสาเหตุให้ไฟดับ แล้วจะมีคนอื่นตกใจเหมือนตัวเองมั้ย กลัวไปสารพัด สุดท้ายก็จมตัวเองอยู่เงียบๆ อยู่กับความคิดที่วนเวียนไปมาอยู่กับปัญหาเดิมๆ

แต่พี่นำเปิดประตูเข้ามาแล้ว ธามเห็นมั้ย?
แสงอาจริบหรี่เพราะพี่นำไม่ได้เปิดไฟให้ธามเดินมาจ้องจมอยู่กับความสว่างเท่านั้น
พี่นำเปิดโลก เปิดฟ้า เปิดผ้าคลุมหัว
โลกนี้มีอะไรมากมายรอธามอยู่ แค่เปิดตา เปิดใจ กล้าเลือก กล้ามีความสุข
ธามแค่ต้องกล้าเท่านั้นเอง

แต่ตอนนี้พี่นำคิดว่าธามกล้าเกินไปนะครับ

“อะไรครับ”

“จูบหน่อยไม่ได้สินะ” ช่างบังคับเสียด้วย ผู้นำบี้ปากช่างพูดเล่นแล้วก็จูบตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง เขาระบายความรักลงบนกระดาษสีขาวที่มีจุดประสีน้ำตาลจางๆ กระจายอยู่โดยทั่ว

สีที่เขาเลือกแต่งแต้มกระดาษขาวกระดำกระด่าง ก็คือน้ำใสๆ ที่ไม่มีสีอะไรทั้งนั้น จุดประน้ำตาลเหล่านั้นยังคงอยู่ แต่เขาทำความสะอาดให้แล้ว

ธามเข้าใจความรักของพี่นำใช่มั้ยครับ?


-----------------

 

กว่าพี่นำจะพามางานศพแซน ก็วันก่อนเผาแล้ว พี่นำบอกว่าไม่รู้ว่าลุงพิสุทธิ์จะมีปฏิกิริยากับธามแบบไหน เลยไม่อยากให้ธามต้องมารองรับอารมณ์พ่อที่เพิ่งเสียลูกชายคนเดียวไป กลัวเขาจะโทษธาม และกลัวธามเชื่อเขาแล้วเฝ้าโทษตัวเอง

นำไม่รู้หรอก ธามเก่งขึ้นแล้ว เก่งขึ้นก็เพราะนำนั่นแหล่ะ
ลุงพิสุทธิ์ว่าอะไรธามก็ไม่สนทั้งนั้น พี่โป๊ะสอนไว้แล้วว่าถ้าโดนว่าให้ตอบกลับไปว่า “พ่อมึงสิ”

“ธาม ทางนี้ ถอดรองเท้าด้วยนะครับ” เขาหันตามเสียงเรียก ผู้คนมากมายอยู่ในห้องโถงวัด ธามลืมไปแล้วว่าเรียกว่าอะไรทั้งที่พี่นำเพิ่งบอกไปเมื่อกี้นี่เอง

“ดอกเดียวนะธาม” ไหนล่ะดอกไม้ ดึงเอาจากแจกันหรอ? ธามขมวดคิ้วเพราะไม่รู้เรื่อง แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งยื่นธูปมาตรงหน้า กลิ่นควันลอยเข้าจมูกจนธามต้องจามออกมา

“ฮัดชิ้ว! ขอบคุณครับ” เขาก้มหน้าขอบคุณ รับสิ่งที่ถูกหยิบยื่นมาให้แล้วมองพี่นำ ธามก้มไหว้ตามที่พี่นำทำ แล้วก็ยื่นธูปพี่นำไปปักๆ รวมกับอันอื่น
 
“ทักลุงพิสุทธิ์รึยังครับธาม”

“..............” ธามชะงักไปเมื่อถูกถาม เขามองตามสายตาพี่นำถึงได้รู้ว่าคนที่ยื่นธูปให้ก็คือลุงพิสุทธิ์ ธามยกมือไหว้แล้วก็นิ่งเงียบ

“จริงๆ จะพามาตั้งแต่วันแรกๆ แล้วครับ”
“แต่...”

“ช่างเถอะ มาก็ดีแล้ว จะได้ให้มันจบๆไป”
“เดี๋ยวสวดเสร็จแล้วมาพบหน่อยนะ แซนฝากของไว้ให้”
“พรุ่งนี้วันเผา วันถัดไปลอยเถ้ากระดูก”
“ช่วยพาธามมาร่วมพิธีด้วย”

“ครับ” พี่นำรับคำ แล้วก็พาธามไปนั่งที่เก้าอี้ที่จัดเรียงไว้หลายแถว

“นำ”

“ครับ”

“ลุงพิสุทธิ์ให้ไปเจอทำไมหรอ”
“คงอยากให้ธามยกหุ้นคืนสินะ ใช่มั้ย เอาไปเถอะ ธามไม่เอา”

“พี่นำก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรหรอก พี่จะอยู่ด้วย”

“อื้อ”

“ตอนนี้นั่งนิ่งๆ อย่ากระดิกขาครับ ไม่สุภาพ”
“พนมมือไว้ แต่ถ้าเมื่อยก็นั่งกุมมือตัวเองไว้ ไม่นานหรอก”

“โอเค” เขารับคำแล้วส่งยิ้มให้พี่นำมั่นใจว่าเรื่องง่ายๆ แค่นี้ธามทำได้ แต่ผ่านไปแค่ 5 นาที ธามก็เมื่อยจนต้องแอบยืดขา บิดตัว และก็ถูกพี่นำส่งสายตามาดุ ธามเลยต้องทนนั่งนิ่งต่ออีก 3 นาที แล้วก็บิดตัวแก้เมื่อยใหม่แม้ว่าจะถูกมองอีกหลายดุก็ตาม



เกือบ 2 ทุ่มแล้ว คนมาร่วมงานเริ่มไม่มีแล้ว ธามยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม พี่นำออกไปโทรศัพท์ ส่วนลุงพิสุทธิ์ยังคงยืนรับไหว้คนมาร่วมงานอยู่ ธามคิดว่าอีกครู่เดียวก็คงต้องคุยกัน

เขาหันมองรูปพี่แซนที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุม ธามไม่รู้ว่าทำไมถึงใช้รูปนี้ รูปที่แซนยิ้มนี้ไม่ควรมาเป็นตัวแทนของแซนที่ไม่อยู่ในโลกนี้อีกแล้วเลยจริงๆ
เจ็บมั้ย ทำไมถึงทำแบบนี้ แซนคิดอะไรอยู่ อยากเล่าให้ใครฟังมั้ย มันมืดมัวไปหมดใช่มั้ยแซน ไม่รู้จะออกทางไหน หันหลังกลับก็ไม่เจอทางเข้า
ไม่รู้ว่ามาถึงจุดที่มืดสนิทแบบนี้ได้ยังไง รู้เพียงว่ารอบกายไม่มีใครเลยจริงๆ
มันหนาวๆ กอดตัวเองทีก็ร้องไห้ที เป็นแบบนี้รึเปล่า
ตอนที่ธามเคว้งเพราะป้าจากไป ธามก็เป็นแบบนี้แหล่ะ
มือที่ช่วยธามไว้ ก็คือมือของลุงหมอ ถ้าลุงหมอไม่ติดต่อมา ธามคิดว่าธามก็คงมีจุดจบไม่ต่างจากแซนนัก

“ธาม” เขาสะดุ้งและผละสายตาจากรูปพี่แซนไปตามเสียงเรียก ลุงพิสุทธิ์ยืนเอามือไขว้หลัง ลุงมองหน้าธาม แล้วก็มองรูปพี่แซนสลับกัน ดูเหมือนลุงจะอยากร้องไห้ ถึงได้ก้มหน้าและนวดสันจมูกตัวเอง

“จะพูดเรื่องอะไร ครับ”

“แซนเขามีของไว้ให้ ควรรับไป อย่าให้เสียความตั้งใจแซน”

“ครับ” เขารับคำและยืนรอของที่ว่า แต่ธามยืนนิ่งอยู่นานมากกว่าลุงพิสุทธิ์จะขยับตัว ชายสูงวัยคนนี้ขยับเดินเข้ามาหาธามช้าๆ แม้ธามจะหวาดหวั่นอยู่บ้างแต่ธามก็ไม่คิดหนี

ธามจะไม่ให้แซนเสียความตั้งใจ


สิ่งที่พี่แซนฝากไว้ให้ ก็คือกอดอุ่นๆ หนักๆ และคำว่า “ขอโทษ”


ไม่เป็นไรแซน ได้ยินมั้ยแซน ไม่เป็นไร ธามไม่โกรธหรอก ก็เราเป็นพี่น้องกัน

“เรื่องหุ้นที่แซนเซ็นยกไว้ให้ เดียวจะให้ทนายจัดการก็แล้วกัน”
“เท่านี้แหล่ะ”  ลุงพิสุทธิ์ที่ตาแดงก่ำบอกกับธาม และผละออกไปทันที แต่ธามรีบคว้ามือไว้แล้วบอกความตั้งใจ

“ธามรับไว้ไม่ได้หรอก มันไม่ใช่ของธาม”
“ลุง....ดูแลต่อไปเถอะ”
“ธามไม่มีอะไรเกี่ยวกับพี่แซน ธามไม่เอาอะไรทั้งนั้น”
“ธามให้อภัยหมดเลย”
“มันจบแล้ว แซนกับธาม ไม่ติดค้างอะไรแล้ว”
“ลุง ก็ด้วย”

“แต่แซนตั้งใจไว้แล้ว”

“ธามไม่เอาแล้ว”
“ปล่อยธามเถอะครับ”


ธามคิดว่าลุงพิสุทธิ์น่าจะเข้าใจได้ ข้อผูกมัดเรื่องเงิน สมบัติ หุ้นในบริษัท และความรู้สึกต่างๆ ควรจบสิ้นลงเมื่อแซนจากไป
กับลุงเอง ธามก็ไม่เคยเกี่ยวด้วยแต่ต้นแล้ว ลุงเองก็ไม่อยากเกี่ยวกับธามเหมือนกันไม่ใช่หรอ


“แต่เราเหลือกันเท่านี้”

“ไม่เป็นไร ธามมีพี่นำแล้ว ธามอยู่ได้”
“ลุงเทคแคร์ตัวเองด้วย” ใจร้ายรึเปล่านะ ทำไมลุงพิสุทธิ์มองธามแปลกๆ

“ไม่เข้าใจหรอ”
“ธามเป็นนิมิตกานนท์คนเดียวที่เหลืออยู่ เป็นทายาท”

“..............”

“ไม่ว่ายังไง ธามก็เป็นนิมิตกานนท์”

“นิมิตกานนท์คืออะไรครับ”
“แค่นามสกุลไม่ใช่หรอ”
“ขอโทษที ธามก็แค่ธาม”
“ไม่ต้องมีนามสกุล ธามก็อยู่ได้”
“แล้วถ้าไม่มีนามสกุล คือไม่มีเงินของป้าวีณาด้วย ธามจะคืนให้ลุงหมดเลย”

“เจ้าธาม” เขาถอนหายใจ ทำไมอะไรๆ มันถึงได้วุ่นวายแบบนี้ ธามเป็นแค่ธามไม่ได้หรอ เขาชักสีหน้าใส่แต่กลับถูกดึงความสนใจไว้โดยพี่นำที่กำลังพุ่งมาหา

“มีอะไรรึเปล่าธาม”
“คุณพิสุทธิ์ ถ้ายังไงให้ทนายคุยกันก็ได้ครับ ธามยังเด็ก”

“ไม่ ไม่” ธามรีบพูดแทรกแล้วบอกความตั้งใจตัวเองก่อนที่พี่นำจะมาปกป้องเหมือนธามเป็นนกบินไม่เป็นเหมือนที่ผ่านมา
“ธามรู้เรื่องแล้ว บอกแล้วว่าไม่เอาที่แซนยกให้”
“ไม่เป็นนิมิตกานนท์ก็ได้ เงินป้าก็จะคืนให้หมด”
“ธามจะเป็นแค่ธาม”

พี่นำมองธามอึ้งๆ แต่แป๊บเดียวก็ยิ้มและพยักหน้ายอมรับ ลุงพิสุทธิ์ถอนหายใจแล้วยอมพยักหน้าเข้าใจ

“ไม่รับอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ธามก็คือนิมิตกานนท์อยู่ดี”
“คงมีการเปลี่ยนโครงสร้างบริหารเล็กน้อย แต่จะดูแลในส่วนที่ธามถือหุ้นที่รับมาจากวีณาก็แล้วกัน”
“อาจจะขายหุ้นส่วนธามไปให้ผู้ถือหุ้นอื่นๆ มีมาขอซื้อไว้เหมือนกัน ลุงจะจัดการตามสมควรก็แล้วกัน”

“งั้นก็...ขอบคุณครับ” พี่นำพูดแทนให้แล้วยกมือไหว้ ธามก็เลยทำตาม ในที่สุดก็ได้กลับบ้านเสียที แต่ว่า คืนนี้กลับไม่สิ้นลงง่ายๆ เมื่อพี่นำบอกว่า “อาหลูของธามมาถึงไทยแล้วนะ พี่ติดต่อโรงแรมให้แล้ว รถโรงแรมไปรับ จะไปเจอเลย หรือจะเจอพรุ่งนี้ครับ”

“เจอเลย!”

“..........” พี่นำไม่ได้ขัดใจ และขับรถเงียบๆ พาธามไปยังโรงแรมที่อาหลูพักอยู่  แต่ธามก็รู้สึกได้ว่าภายใต้ความเงียบนี้ พี่นำมีบางอย่างซ่อนอยู่


-----------------



ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
«ตอบ #283 เมื่อ03-09-2014 20:30:07 »

รักเด็กพูดไม่รู้ฟังมันเป็นแบบนี้นี่เอง
ผู้นำเองก็ไม่ได้อยากงี่เง่า และเขาก็รู้เท่าทันตัวเองดีว่าเขากำลังอยากงี่เง่าเต็มแก่
เขาปล่อยธามลงที่หน้าโรงแรมย่านลุมพินี คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองจนต้องมานั่งดื่มไวน์อยู่ในเลาจน์โรงแรม รอเวลารับธามกลับบ้านด้วยกัน ซึ่งเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าธามจะกลับบ้านกับเขารึเปล่า เพราะตอนที่ลงจากรถเขาไปแล้ววิ่งไปหาอาหลูที่พุ่งออกมาหาที่หน้าโรงแรมพอดี ท่าทางช่างระรื่นเสียจนเขาหึงขึ้นมาจนได้

“ฮัลโหลโปร ว่างมั้ย ออกมาดื่มกัน”
“ผมหรอ มารอธาม”
“โน่นนนน เจอคนไต้หวันก็ลืมผมแล้วมั้ง” อดฟ้องเพื่อนไม่ได้แฮะ มือโปรหัวเราะมาทางโทรศัพท์ นี่ถ้ามันอยู่ใกล้มือก็คงมีต่อยซัก 2-3 ที แต่นี่อยู่แกร่วอยู่คนเดียว ชกลมก็กลัวพนักงานหาว่าบ้า
“สรุปออกมาได้มั้ย ธามคงยาวเลย เผลอๆ ก็ไม่กลับบ้าน”
“มาดื่มเป็นเพื่อนหน่อย”
“ไม่อยากกวนที่หนึ่ง มันเหนื่อย”
“มึงก็เหนื่อยแหล่ะผมรู้ แต่ผมก็กวนคุณไง ออกมา เร็วๆ!” ผู้นำวางสาย เขาถอนหายใจและขอไวน์เพิ่ม นั่งจิบอยู่คนเดียวร่วมครึ่งชั่วโมง มือโปรก็โผล่หน้ามาด้วยสภาพ....
“คุณ...โอเครึเปล่าวะโปร?”

“ไม่โอเค กูโดนหลอกกกก แหกตากูร่วมปี ไอ้เหี้ย!” สัตว์ใหญ่สายพันธ์เลื้อยคลานเอนตัวตรงหน้าเขาพอดี ผู้นำขำในลำคอ นึกสงสัยเหมือนกันว่าหน้าไหนกล้ามาหลอกมือโปรได้ แล้วนี่ไม่โดนเตะตายตาตีนไปแล้วหรอ เพื่อนเขาคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมาก แต่ช่างหัวปัญหาของมือโปรก่อน ตอนนี้เพื่อนต้องมาฟังเขาปรับทุกข์

“เอาไร สั่งดิ”
“คุณจ่ายนะ วันนี้ผมเซ็งกว่า”

“แหมๆ ไอ้หมอ หัวหมอเกินไปนะมึง มึงกลุ้มเองแดกเหล้าแดกไวน์เองก็จ่ายเองสิครับ” มันว่าเขาแต่ก็สั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองตามที่เขาบอก ผู้นำรอให้เพื่อนได้ลิ้มแอลกอฮอลล์รสที่ชอบก่อนค่อยเกริ่น

“อาหลูมาไทย ธามก็เลยไม่สนใจผม”
“น้อยใจว่ะ หึงด้วย งี่เง่าเกินไปมั้ยวะ”

“มากว่ะ!”

“แต่ผมก็มีสิทธิ์งี่เง่ากับธามใช่มั้ย”

“ไม่ควรนะมึง”
“น้องมันเด็ก โคตรเด็ก แล้วนั่นก็ญาติเทียมไม่ใช่หรอ ที่มึงเคยบอกอ่ะว่าเขารักกันเหมือนพี่ชายน้องชาย”

“แต่ผมก็พี่ชาย ผมได้ธามแล้วด้วย ไอ้นั่นมันจะเป็นพี่ชายแบบที่ผมเป็นมั้ยวะ”

“พูดงี้มึงวอนไอ้ธามถีบปากมากไอ้หมอ”
“มึงต้องสนว่าธามรักใคร ไม่ใช่ใครรักธาม”
“และธามรักมึงไม่ใช่หรอ ควายยยยยยยยย”

“ก็ผมหึงนี่นา”
“ดื่มๆ” เขาไม่บ่นอะไรต่อ ใจคิดว่าผู้นำลำเอียงเข้าข้างธามเพราะธามทำงานได้ ใช้คล่องปาก พูดคุยเรื่องอื่นอยู่นานพอควรกว่าธามจะโทรหาเขา เพื่อบอกว่า “ธามค้างกับอาหลูนะ มีเรื่องคุยกันเยอะเลย”

บอกแล้วไงว่ารักเด็กพูดไม่รู้ฟังมันเจ็บปวด

กลายเป็นว่าธามติดอาหลูหนึบหนับ ถึงขั้นค้างอยู่กับอาหลูเป็นอาทิตย์ ไต้หวันพันธ์แท้นั่นก็เหลือเกิน เขาเคยส่งสัญญาณแล้วว่าเขาไม่โอเค โคตรของโคตรไม่โอเคที่ธามไปค้างกับมันเป็นอาทิตย์ แต่ก็ไม่เสือกกลับไต้หวันไปเสียที หรือไอ้นั่นมันจะมาอยู่ไทยถาวร ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะพาธามไปอยู่ขั้วโลกเหนือ เอาให้มันงมหาไม่เจอเลย!

ผู้นำหงุดหงิดเหมือนทุกๆ เช้าที่ผ่านมารอบอาทิตย์ ป้าจูเข้าหน้าเขาไม่ติด ซึ่งป้าคงประหลาดใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยอารมณ์เสียแล้วฟาดงวงฟาดงากับใครเลย เขาถูกสอนให้รู้เท่าทันอารมณ์และกลไกป้องกันทางจิตของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ใช้อารมณ์นำสติตัวเอง กับเคสธามนี่เขาคุมตัวเองไม่อยู่จริงๆ

“คุณนำจะไม่ทานมื้อเช้าจริงๆ หรอคะ ป้าทำของโปรดคุณด้วยนะคะ”

“ไม่ครับ”

“แล้ววันนี้คุณธามกลับมานอนบ้านมั้ยคะ”

“นำไม่รู้หรอก ช่างเขาเถอะ เด็กเอาแต่ใจ ไม่คิดถึงใจคนอื่น”

“โถ อย่าว่าน้องสิคะ ก็คุณนำว่าอยู่กับเพื่อนจากไต้หวัน เธอคงคิดถึงของเธอแหล่ะค่ะ”

“ป้าจูครับ ขลุกกันอยู่เป็นอาทิตย์มันเกินคิดถึงแล้วมั้ย?”
“อย่าพูดเรื่องนี้กับนำอีก ถ้าป้าอยากรู้ว่าเด็กโปรดของป้าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ถามกันเองเถอะครับ”
“นำไม่ยุ่ง” เขาทำแก้มป่องๆ ด้วย โอยยย สติเขาหายไปไหนหมด อีคิวที่เคยมีมันถูกใครทำลายไปนะ

สุดท้ายก็ทนหงุดหงิดตัวเองไม่ไหว ผู้นำตัดสินใจโทรหาธามเพื่อถามคำตอบเรื่องกลับบ้าน และถามเรื่องอาหลูว่าเมื่อไหร่จะกลับไต้หวันไปเสียที

คำตอบที่ได้มันน่าหงุดหงิดจนเขาอยากตบหน้าตัวเองที่เสร่อโทรหาถาม น้องตอบเขาว่า

“นำ ธามว่าธามจะกลับไต้หวันพร้อมอาหลู”
“นำคิดดีใช่มั้ย”
“มีเรื่องเรียนคุยกับนำด้วย ธามอยากเรียนต่อ ธามอย...”


ไม่ฟังแล้ว ไม่สนแล้ว ผู้นำรู้สึกเหมือนเห็นควันพุ่งออกจากจมูกตัวเอง เขาเดือดดาลจริงๆ
เขาหึงมากๆ อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของลูกนกไต้หวันตัวนี้มากๆ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ความเป็นพี่ชายที่ดีมันค้ำคอ

เขาอยากให้ธามใช้ชีวิต กล้าคิด กล้าตัดสินใจ น้องก็ทำแล้ว กล้ามากด้วยที่คิดจะไปอยู่ไกลตาเขาแบบนี้
เรื่องนี้ธามไม่ผิดเลยสักนิด เขาผิดเองที่หึง ผิดเองที่ไม่อยากห่าง ผิดเองที่อยากครอบครองธามไว้แต่เพียงผู้เดียวในโลก

นี่เขากำลังจะกลายเป็นนายสุพิสุทธิ์ช่างบังคับอย่างนั้นหรือ?
โอยยยยย เขาควรทำยังไงกับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองดี!!!




Tbc...


ตอนหน้า ความน่ารักของหมอนำกับน้องธามก็จบ(?) แล้วค่ะ

สัญญาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #284 เมื่อ03-09-2014 21:11:29 »

ปวดกระโหลกกับธามมาก ไม่เข้าใจอะไรซักอย่าง
สงสารนำจริงๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #285 เมื่อ03-09-2014 21:28:35 »

โถๆ พี่นำ น่าสงสารจริง :man1:
น้องยังเด็ก เข้าใจน้องหน่อยนะ แต่ตอนหน้าจบ ฮืออออ :hao5:

ออฟไลน์ Fluckiiz78

  • " Be out, Be proud, Be who you are. "
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #286 เมื่อ03-09-2014 21:43:30 »

พี่หมอนำ ผู้น่าสงสาร

ธาม แกช่วยเข้าใจอะไรหน่อยได้ไหมมมม ว่าพี่ เค้า หึง หวง ห่วง มากเเต่ไหนนนนนนนน

พี่นำจะทำไงต่อไปเนี่ยยย น้องจะกลับไตหวันอ่ะ อยากรู้ๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #287 เมื่อ03-09-2014 22:06:48 »

โถน้องธาม ฟังพี่หมอด้วยสิ พี่หมอหึงใหญ่แล้วนะ
ส่วนคุณหมอคะ ธามยังเด็กน้า ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทยเท่าไรด้วย พยายามอธิบายหน่อยสิคะ
เฮ้ออออ ไม่รู้จะสงสารใครดีเลย เอาเป็นว่า เอาใจช่วยทั้งสองคนให้กลับมาเข้าใจกันเร็วๆนะ
ไหนๆตอนหน้าก็เป็นตอนจบแล้ว ขอแบบหวานๆหน่อยนะคะ อิ อิ
ปล.ควรมีตอนพิเศษนะคะ ขอแนะนำ อิชั้นจะรอนะ :bye2:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #288 เมื่อ04-09-2014 12:20:44 »

ไม่ใช่พี่หมอยังหึงเลยอ่ะ555555555555
เฮ่อแอบสงสารแซน
ถ้าไม่คิดสั้นกลับตัวเป็นคนดีก็คงจะดี
ธามเอ้ยยยยยยยย เรียนที่ไทยก็ได้ม้างงง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #289 เมื่อ04-09-2014 12:43:28 »

เวรกรรม  เฮ้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
« ตอบ #289 เมื่อ: 04-09-2014 12:43:28 »





DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #290 เมื่อ04-09-2014 13:10:04 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
«ตอบ #291 เมื่อ06-09-2014 14:44:43 »

งานเข้า!!!!! :katai1:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ 27-09-14)
«ตอบ #292 เมื่อ20-09-2014 23:46:01 »

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 25


เมื่อความรู้สึกรักเกิดขึ้นแล้ว การหายไปของมันมักเกิดขึ้นยากกว่าเสมอ
เขาไม่ค่อยเชื่อตรรกะนี้เท่าไหร่เพราะเขาเชื่อในความสามารถในการควบคุมความรู้สึกตัวเอง เขาเรียนด้านจิตวิทยา เขาเป็นหมอโดยตรงด้านนี้ ดูแลผู้ป่วยมานักต่อนัก แต่วันนี้เพิ่งรู้ซึ้งถึงศักยภาพตัวเองว่า...เขาควบคุมความรู้สึกรักไม่ได้เลย

หากมันเป็นปัจจัยหลัก เป็นแกนโลก เป็นนิวเคลียสของจักรวาลแล้วล่ะก็...เขาก็คงเป็นเพียงธุลีในอวกาศเวิ้งว้างที่ไม่สามารถดิ้นหลุดจากแรงดึงดูดของมันได้

เขาแพ้หมดท่าจริงๆ

ผู้นำยืนกอดอกครุ่นคิดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนที่เปิดกว้างของธาม เขาไม่ก้าวล่วงเข้าไปแม้ว่าที่ที่ลึกกว่านี้ ใกล้กันกว่านี้ เขาก็ฝากร่องรอยไว้แล้วก็ตาม

“นำ ธามไม่เอานี่ไปนะ ที่ไต้หวันก็มี”

เขาไม่ตอบคำพูดลอยๆ นั้น ผู้นำทำเพียงแค่เก็บอาการไม่พอใจของตัวเองไว้เงียบๆ
เขาโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่มาร่วม 10 ปีแล้ว เรื่องแค่นี้เขาควรเข้าใจ ธามเลือกไปเรียนต่อที่ประเทศไต้หวันเพราะมีข้อได้เปรียบได้ภาษาและหลักสูตรที่แข็งแรงกว่าระบบการศึกษาของประเทศไทย ธามไปใช้ชีวิต ไปเรียนรู้โลก ไปพัฒนาตัวเอง เหตุผลทุกอย่างดูดีไปเสียหมด แล้วเขาจะใช้เหตุผลที่ว่า “พี่ไม่อยากให้ไป” มาหักล้างเหตุผลหน้าตาหล่อเหลาพวกนั้นได้อย่างไร เขาทำไม่ลง

“นำไปหาบ่อยๆได้ไม่ใช่มั้ย”
“อื่อออ ได้ใช่มั้ย พูดถูกแล้วนะ”
“นำ นำ นำ!”

“ครับ” ผู้นำตอบรับเมื่อสติเริ่มกลับมารวมศูนย์อยู่ที่คนในห้อง เขาก้าวเข้ามาในห้องและเลือกหย่อนตัวเองที่โซฟาข้างเตียงแทน ธามนั่งท่าเดิมอยู่บนเตียง สายตามองเขาอย่างสงสัย สุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหว ต้องถามที่มาของอาการ “ห่างเหิน” ของเขาจนได้

“นำเป็นอะไร ธามทำอันไหนที่ไม่ชอบสินะ ขอโทษหายเลยมั้ย”  เฮ้อออ ก็น่าแบบนี้เขาจะโกรธนานได้ยังไง ผู้นำยอมยิ้มแล้วส่ายหน้ายิ้มให้ เขาแกว่งสายตามองกระเป๋าเดินทางใบโตที่ธามสาละวนกับมันมาตั้งแต่เมื่อวาน

“รักไต้หวันมากเลยนะครับ” นี่ไม่ใช่การประชด แต่เป็นความพยายามเข้าใจในสิ่งที่ธามเลือกทำ หนุ่มรุ่นๆ ที่กอบกำหัวใจเขาไว้ทั้งดวงเพียงแค่ยิ้มอวดลักยิ้มแล้วตอบให้เขาชื่นใจชะมัด แน่นอนว่าความรู้สึกชื่นใจนี่เขาประชด ธามตอบยาวๆ ว่า “อื้มมมมม”

น่าตีที่สุด
ผู้นำยักไหล่พลางขยับมานั่งบนเตียงด้วย เขามองของในกระเป๋าเดินทาง หยิบนั่นนี่ดูบ้างแต่ก็คืนทุกสิ่งลงกระเป๋าเหมือนเดิม เว้นแต่กรอบรูปที่ธามรีบแย่งคืนเมื่อเห็นเขาถือมันไว้เหนียวหนึบ

“อันนี้ต้องมากับธาม”

“รูปเรานี่ครับ”

“เดี๋ยวจะคิดถึงไง อันนี้ต้องไปกับธาม”

“คิดถึงใครครับ อดีตหรอ?”

“คิดถึงนำไง” ไม่คิดว่าจะตอบตรงได้ขนาดนี้ ผู้นำอมยิ้ม เขาดึงกรอบรูปมาแนบอกแล้วถามอ้อนเพิ่ม

“รักพี่นำมากมั้ยครับ”

“มากสิ”

“มากแค่ไหน”

“อื่ออ มากไง”

“รักมากจนไม่ไปไต้หวันได้รึเปล่า”

“ไม่ได้” จบปึง! เขาเป่าปากแสดงอาการแง่งอน แต่ก็ยังนั่งบนเตียงธามเหมือนเดิม เด็กดื้อคนนี้หัวเราะเขาแผ่วเบาแต่ก็หยิบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าต่ออย่างไม่จักเหน็ดเหนื่อย ไร้ซึ่งอาการอ้อยอิ่ง มุ่งมั่นเสียใจเขาอดรู้สึกไม่ได้ว่าสิ่งที่ธามรักมากกว่าเขา ก็คือการเป็นอิสระจากเขานั่นเอง

หรือว่าที่ที่หนึ่งกับมือโปรพูดจะเป็นเรื่องจริง
เด็ก...เบื่อง่าย
ที่หนึ่งกับเจม ห่างกัน 5 ปี เขายังได้ยินมันบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าเจมเด็กเกินไป ไม่รู้จักโต มองโลกคนละมุมคนละองศากับมัน
มือโปรนี่ไม่ต้องพูดถึง แฟนแต่ละคนของเจ้านี่ไม่เคยใส่ยูนิฟอร์มอื่นนอกเหนือเครื่องแบบนักศึกษาทั้งที่อายุอานามมันก็เลข 3 ขึ้นต้นแล้ว
ธามกับเขา ห่างกันร่วม 10 ปี จะให้เข้าใจโลกมุมเดียวกัน รู้สึกต่อเรื่องเรื่องหนึ่งเหมือนกันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ว่า .... เขาพยายามเข้าใจธามมาตลอด ตอนนี้เริ่มอยากทวงถามบ้างเหมือนกันว่าธามไม่เข้าใจพี่นำบ้างหรอ?


-กูว่านะ ปล้ำอีก ปล้ำให้ช้ำไปเลย เอาให้อยู่หมัดจะไม่ได้หนีมึงไปไง- การกระทำนี้ก็โหดไปนะมือโปร เขาทำไม่ลงหรอก จะเอ่ยรั้งด้วยวาจายังไม่กล้าเลย
-ผมว่าคุณพูดตรงๆ ดีกว่า- แผนนี้น่าสนนะที่หนึ่ง แต่ขอใส่ในวงเล็บว่าถ้าธามฟังเรื่องตรงๆ ของเขารู้เรื่องล่ะก็
แล้วเขาควรทำอย่างไรต่อไปดีในวินาทีที่คนที่เขารักกำลังเก็บกระเป๋าเพื่อโผบินไปอยู่ในที่ที่ไกลกัน ทั้งยังจัดกระเป๋าด้วยสีหน้าแช่มชื่นอีกต่างหาก

“อื้อนำ”

“ครับ”

“จะไปหาธามเมื่อไหร่ ไปเร็วๆ นะ”

“อยากให้พี่นำไปหาหรอครับ?” เปิดช่องแล้วใช่มั้ยเด็กน้อย ผู้นำพยายามหุบรอยยิ้มของตัวเอง แต่ไอ้มุมปากมันไม่ค่อยอยู่ใต้อาณัติเขาสักเท่าไหร่เลย

“อื้อ”

“งั้นก็ไม่ต้องไปสิครับ จะได้อยู่ใกล้กันตลอด”

“จะไป” จบปึง! มุมปากเขาควบคุมได้ดีกะทันหัน มันตกวูบแทบชิดคางเหมือนที่ใจเขาวูบไปอยู่ตาตุ่ม คงหมดหนทางต่อรองอะไรแล้วล่ะมั้ง

บางทีเขาอาจจะเรียกร้องมากเกินไปก็ได้
ความรักที่แท้จริงไม่ควรมีความหวงมาเจือปน
หากเขารักธามจริง ก็ต้องปล่อยธามไป ห่างกันไกลก็ใช่ว่าต้องเลิกกันเสียเมื่อไหร่ เขาควรมองโลกในแง่นี้สินะ เขานี่มันโลกสวยจริงๆ

โอเค เขาเข้าใจก็ได้

“พี่ช่วยนะครับ” ผู้นำช่วยธามจัดเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า เขาเดินไปกวาดหนังสือที่น้องซื้อไว้มากองบนเตียง เมื่อถามธามว่าจะเอาไปด้วยไหม น้องก็พยักหน้า เขาจึงเดินไปหากล่องใส่เพื่อให้ของแต่ละอย่างอยู่รวมกันเป็นหมวดหมู่มากขึ้น

-----------------

อาหลูพูดไว้ไม่ผิดเลย
นำไม่ได้รักธาม หรือแม้จะรัก ก็ไม่ได้มากพอจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ใกล้กัน
นี่ไง นำช่วยจัดกระเป๋าเดินทางด้วย
ธามถอนหายใจระหว่างมองพี่นำเดินออกจากห้องไปหากล่องมาใส่หนังสือให้ เขาขมวดคิ้วขัดใจ เมื่อหาที่ระบายออกไม่ได้ ธามก็โทรหาอาหลูทันที

“ธามเอง นำไม่รักธามเหมือนที่ยูบอกเลย” เขาขึ้นต้นประโยคอย่างตรงประเด็น ธามลุกจากเตียงรกๆ ไปยังระเบียงห้องและระบายทุกอย่างให้อาหลูฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ

เมื่อได้ระบายความรู้สึกธามก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่พอหันมาเจอพี่นำยืนจ้องอยู่หน้าห้องก็เลยต้องสนใจพี่นำก่อน แม้ว่าปลายสายอย่างอาหลูจะกำลังรอฟังเรื่องตลกที่ธามเล่าค้างไว้ก็ตาม

“นำ อะไรอีกหรอ”

“ไม่มีครับ”

ปัง!

ก็ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ แล้วปิดประตูเสียงดังใส่ธามทำไม

“ยู” เขาเรียกอาหลูเสียงเศร้า ปลายสายหยุดเสียงหัวเราะไว้ทันที อาหลูถามเขาด้วยภาษาจีนไต้หวันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ธามพูดอพูดอะไรไม่ออกเลย นอกจากคำว่า “นำไม่อยากให้ไออยู่ที่นี่ ไอร้องไห้ได้รึเปล่า นี่อกหักใช่มั้ย”


-----------------

แทนที่จะได้ดูแลธามครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้เช้าก็บินแล้วแต่เขากลับมานั่งกินเหล้าอยู่กับมือโปร เพื่อนถามเขาว่าจัดการปัญหาความรักได้รึยัง ตอบยังไงให้ไม่ดูงี่เง่าดี เขายังไม่ได้ลงมือแก้ปัญหาเลย รู้แค่ว่าต้นเหตุของปัญหาก็คือตัวเขาเอง

ผู้นำลองทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ธามโตมาแบบหนึ่ง ธามมีช่วงเวลาที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วม น้องเองก็มีช่วงเวลาที่เข้าไม่ถึงความรู้สึกของเขาเหมือนกัน

มันก็เหมือนกับคนรักกันทุกคู่
ไม่มีคนรักกันคู่ไหนเข้าใจกันมาตั้งแต่เกิด ไม่มีคู่ไหนที่ไม่มีช่องว่างระหว่างกลาง ทุกคนต่างมีเลิร์นนิ่งเคิร์ฟของชีวิตตัวเองทั้งนั้น ทำไมเขาถึงรับไม่ได้ รู้สึกไม่พอใจ และหึงหวงธามมากขนาดนี้ นี่เขากำลังป่วยรึเปล่า มันต้องมีทางแก้ปัญหาสิ เขาต้องคิดให้ออกว่าจะประคับประคองความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันและกันเบี่ยงๆ แบบนี้ได้ยังไง

“คิดอะไรอยู่ไอ้หมอ”

“หรือว่าผมรักธามมากไป หรือว่าธามรักผมน้อยไป”
“จะทำยังไงให้เราเจอตรงกลางหรอโปร”

“อะไรวะ ฟังไม่รู้เรื่อง มึงเมาป่าวเนี่ย”

“กึ่มๆ” ผู้นำยอมรับแล้วลูบแก้มตัวเองที่รู้สึกร้อนวาบๆ

“มึงยังไม่ได้เคลียร์กับธามอีกหรอวะ? กูงงว่ะ พวกมึงโกรธกันเรื่องอะไร?”

นั่นสิ เขากับธามโกรธกันหรอ? ไม่น่าจะใช่ ใกล้เคียงที่สุดคงเป็น เขาไม่พอใจที่ธามให้ความสนิทสนมกับนายอาหลูนั่นจนเกินไป
แล้วอะไรที่เป็นมาตรวัดความใกล้ชิดเกินไป มาตรวัดนั่นก็คือเขาเอง
สรุปแล้วปัญหามันอยู่ที่เขาสินะ แต่จะให้เขาทำยังไงล่ะ ก็คนมันหึงนี่นา

“เอางี้นำ กูรู้ว่ามึงเก่ง มึงรักษาคนป่วยทางจิตมามาก แต่ตอนนี้มึงเลิกวิเคระห์ตัวเองด้วยปูมหลังห่าเหวนั่นเหอะว่ะ กลไกห่าเหวไรที่มึงพูดบ่อยๆ นั่นก็ด้วย ทิ้งๆ มันไปก่อน แล้วตอบกูแบบไม่ต้องฉุกคิดเลยนะ ภายใน 3 วินาที”

“อือๆ” เขาเออออตามนายมือโปร ด้วยหวังว่ามันจะมีวิธีหาคำตอบได้ดีกว่าวิธีเขา

“โอเค เริ่ม”
“แบงก์ 500 ใหม่สีอะไร ตอบ!”

“ม่วงสิสัด กี่รุ่นๆ ก็สีนี้อยู่แล้ว เล่นห่าอะไรเนี่ยโป๊ะ!” โธ่เอ้ย! คิดว่าจะช่วยอะไรได้ เขาผลักหน้าเพื่อนจนหงาย แต่มันก็เด้งกลับมาสู้ตากัน

“ทดสอบไงหมอ รอบนี้เอาจริงๆ แล้ว”
“ชอบอะไรในร่างกายธามมากที่สุด”

“หู”

“ธามน่ารักที่สุดเมื่อ”

“ยิ้ม”

“น่าฟัดที่สุดตอนที่”

“เพิ่งตื่น”

“น่าเตะที่สุดตอนที่”

“อยู่กับไอ้หลู”

“บิงโก!”
“มึงหึงไง แล้วมึงก็ทำห่าอะไรไอ้ตัวหึงนี่ไม่ได้ มึงก็หงุดหงิด แต่จะให้มึงบอกกับธามตรงๆ ว่ามึงหึงมึงทำไม่ได้ มันเสียฟอร์มหมอนำที่ต้องรู้จักควบคุมอะไรไปทุกความรู้สึก”
“ใช่มั้ย”

“อืมม น่าจะใช่”

“ไม่น่าจะหรอกไอ้หมอ มึงมันขี้หึง”
“แค่บอกน้องมันว่ารักมันชิบหาย ห่างจากมันจะต่ายห่า อยู่ไม่ได้ หายใจไม่สะดวก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ถึงหลับก็คงฝันว่ามันไปเสวยสุขกับไอ้หมาไต้หวันตัวนั้น พูดเท่านี้เองมึง”

“แต่มันดูไร้ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ แล้วก็ดูปล่อยอารมณ์เหนือเหตุผลนะโปร”
“น้องไปเรียน มันไม่มีอะไรเสียหาย”

“ควายยยยยย งั้นก็หึงอยู่ในซอกหลืบจักรวาลอยู่อย่างนี้หล่ะ กูไปแล้ว!”

“เดี๋ยวโป๊ะ!” ผู้นำรีบเหนี่ยวแขนเพื่อนไว้ก่อนจะถูกตีจาก
“กูทำได้หรอวะ”

“แล้วมึงเป็นมนุษย์รึเปล่านำ มึงไม่มีสัญชาตญาณดิบหรอวะ ความเถื่อน ฮอร์โมนที่พลุ้งพล่านเกิดกับมึงไม่ได้รึไง มึงคิดว่ามึงบวชอยู่หรอควายยยยยยยยยย!”

ก็จริง
ถ้าอย่างนั้น...เขาก็ควรเดินไปเคาะประตูห้องธามแล้วบอกว่า พี่หึง ก็คงจะไม่ผิดสินะ
เอาวะ ถ้ามันเป็นหนทางสุดท้าย...อีกทั้งวิธีการก็แสนง่าย พูด 2 คำเอง
พี่...หึง

-----------------

ตี 2 กว่าแล้ว ธามคงหลับไปแล้ว
ปลุกขึ้นมาฟัง 2 คำนั้นจะโดนเตะมั้ย รายนี้ยิ่งไม่ชอบให้กวนตอนที่หลับสนิทไปแล้วเสียด้วย
ผู้นำยืนลูบหน้าตัวเองอยู่หน้าห้องนอนน้องชายที่เขารักเกินจะปล่อยให้ห่างตัวห่างใจ เขารู้ตัวว่ากึ่มเหล้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับสติหลุด ผู้นำรัวหลังมือกับประตูอีกชุดก็แว่วได้ยินเสียงกุกกักจากข้างใน
ธามเปิดประตูมาหาด้วยสีหน้างัวเงีย พอเห็นว่าเป็นเขา น้องก็พ่นลมหายใจใส่และเดินกลับเตียง

“เดี๋ยวธาม” เขารั้งแขนธามไว้แล้วดึงกลับมาที่หน้าประตูเหมือนเดิม พวกเขายืนพิงประตูอยู่คนละฟาก กอดอกแน่นและยืนไขว้ขาเหมือนกัน ต่างกันที่ธามอยู่ในชุดนอน กลิ่นแป้ง ส่วนเขาอยู่ในชุดที่มีรองเท้าหุ้มข้ออยู่ยังไม่ได้ถอด และกลิ่นเหล้า

“เหมาหรอ”

“เมาครับ พูดให้ถูก”

“คงไม่เหมา รู้ด้วยว่าพูดผิด” พูดแล้วก็ยิ้มให้ น้องยื่นจมูกมาดมหน้าเขาฟุดฟิด ผู้นำจึงฉวยจูบจาบจ้วง เชื้อเชิญให้ปากเล็กนิ่มยอมคลอเคลียด้วยอยู่นาน

“นำดื่มทำไม” เป็นคำถามปลายเปิดใช่มั้ยนะ? เขากัดริมฝีปากพลางก้มหน้า กลิ่นเหล้ายังอยู่แต่จางไปมากแล้ว เขาจะถือเอาความเมาเป็นที่ตั้งและฉวยโอกาสทำสิ่งที่ตอนสติไม่โดนน้ำเหล้าหล่อเลี้ยงไว้คงไม่ทำ

“พี่...ไม่ชอบใจนิดหน่อย”
“ก็ไม่นิดหน่อยหรอกครับ”
“จริงๆแล้ว...พี่หึง” 

ตัวดีกระพริบตาปริบๆ และยิ้มให้เขาส่งท้ายก่อนเดินกลับไปนอนที่เตียง อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อกี้ธามแค่ละเมอ ผู้นำเดินตามไปยืนข้างเตียง เขาดึงมือธามมาจับไว้แล้วเอ่ยย้ำ

“หึงนะครับ”

“แล้วธามต้องทำยังไง”

“ทำให้พี่นำเลิกหึงได้มั้ยครับ”

“ทำยังไงล่ะ” ทั้งที่ยังนอนอยู่แต่น้ำเสียงกลับอ้อนจนเขาเข่าอ่อน ผู้นำนั่งลงบนเตียงพลางยิ้มบางๆ เขาปล่อยมือคนบนเตียงลงแล้ววางมือตัวเองประกบแก้ม 2 ฟากไว้ ธามอมยิ้มแต่รอบบนี้ไม่เห็นลักยิ้มเพราะมือเขาบังไว้

“ธาม อย่าให้อาหลูเขาเข้าใกล้ ได้มั้ยครับ”

“หืมมม” ค้านใหญ่ ผู้นำยังคงวางมือประกบแก้มธามไว้แบบนั้นระหว่างร้องขอเพิ่ม

“นะครับ พี่นำหึงจริงๆ  นอกจากพี่แล้ว ไม่อยากผู้ชายคนไหนอยู่ใกล้ธามอีก”
“ได้มั้ยครับ”

“ลุงเผือกล่ะ”

“โธ่! ธาม”

“นำหึงอาหลูหรอ?”
“โน โน! หลูกำลังจะแต่งงานแล้วจะไปอยู่ที่อเมริกา”

“ห๊ะ!” ผู้นำเข้าใจคำว่าสร่างเมากะทันหันก็ตอนนี้ เขาดึงมือตัวเองคืนมาแล้วดึงตัวธามให้ลุกขึ้นมานั่งคุยกันดีๆ ตัวยุ่งทำหน้างงๆ ท่าทางซีเรียสมากเสียด้วย

“นำหึงที่อาหลูจะแต่งงานหรอ”
“ธามจำที่พี่เจมเคยสอนได้นะ ธามรู้ว่าหึงคืออะไร”
“นำหึงอาหลูไม่ได้นะ นำรักอาหลูหรอ”

“ธามครับ ไปกันใหญ่แล้ว”
“พี่นำหึงธามต่างหาก”

“หึงทำไม ธามไม่ได้มีคนอื่นรักเลย”
“ธามรักนำไง”

สุดท้ายก็โดนเด็กสอน ผู้นำไม่พูดอะไรต่อ เขาขอให้ธามโทรหาอาหลูให้ที แต่เขาจะคุยเอง เมื่อได้คุยกับปลายสายโดยตรง เขาก็ถูกต่อว่าชุดใหญ่ กล่าวหาว่าไม่รักธามจริง ดูแลไม่ดี ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่จริงใจสารพัด แต่พอคุยกันแบบใจเย็นและรู้ว่าอาหลูกำลังจะแต่งงานแล้ว ผู้นำคิดว่าเขาคุยกับอาหลูรู้เรื่องแล้ว

“โอเค เอาเป็นว่าพี่ไม่หึงธามกับอาหลูแล้ว แต่เรื่องไปเรียนต่อ ยังไงก็จะไปหรอครับ”
“เรียนที่นี่ก็ได้ ภาคภาษาอังกฤษก็มี”

“ยูที่ไทเปดีกว่าที่ไทยแลนด์นะ” หยามหยันกันเกินไปนะครับ ถ้าจะเลือกยูด้วยระดับความน่าเชื่อถือด้านวิชาการ ก็ควรไปเรียนต่อที่ฝั่งตะวันตกไปเลย ไม่ใช่เอเชียด้วยกันแบบนี้ ผู้นำคิดว่าเหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น แต่ธามก็ไม่มีเหตุผลอื่นให้

“อยากอยู่ไกลจากพี่นำหรอ”

“จริงๆแล้วก็ ใช่นะ”
“ธามอยากโตกว่านี้ ดูแลตัวเองได้ ดูแลนำได้ด้วย”
“อยู่ที่ไทย นำก็ดูแลอยู่แบบนี้ ธามไม่ชอบทั้งหมดหรอกกนะ”

“แต่พี่หึงนี่ครับ”
“กลัวใครมาชอบ”

“คนชอบธามเยอะ สาวๆ ก็มี”
“แต่ธามรักนำคนเดียว ไม่สำคัญสินะ”

“สำคัญครับ สำคัญ” สกิลการสอนภาษาไทยของเจมคงดีเกินไปแล้ว เด็กคนนี้พูดจายอกย้อนเก่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผู้นำดึงหน้าเด็กช่างย้อนมาจูบหน้าผากเบาๆ

“ถ้ายังไงก็จะไปอยู่ห่างจากพี่นำ”
“เราก็ต้องมาตั้งกฎร่วมกันหน่อยแล้วครับธาม”
“เดี๋ยวพี่นำไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัว แล้วมาตั้งกฎกัน”

“ธามอาบให้”
“นะ”

รู้ทั้งรู้ว่าอาบน้ำให้หมายถึงอะไร แต่ก็เอ่ยออกมาเอง ผู้นำยิ้มมุมปากพลางถอดเสื้อเตรียมตัวอาบน้ำ ตัวดีก็นั่งจ้องไม่วางตา เขาเลยถามให้รู้สึกอายเสียบ้าง

“ไหนๆ ก็ต้องอาบน้ำ ธามทำให้พี่นำเหนียวตัวกว่านี้หน่อยได้มั้ย”

“แน่นอนสิ” ตอบไม่คิดเลยมั้งแบบนี้ เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วโถมตัวใส่ธามจนน้องหงายหลังลงเตียงอีกหน



ธามของพี่นำโตขึ้นมากแล้วใช่มั้ยครับ
น้องธามดูแลตัวเองได้แน่นอนใช่มั้ย
ทั้งตัว ทั้งใจ ธามดูแลเองได้แน่นอนใช่มั้ยครับ




-----------------


ร่วมปีที่ใกล้ชิดกันทำให้เขารู้สึกตัวเอียงโหวงยามยืนอยู่คนเดียวในสนามบินโอ่อ่า ผู้นำยกมือเช็ดปลายจมูกตัวเองเบาๆ แล้วหันหลังกลับ เขายืนมองธามจนลับตาไปแล้วเมื่อ 30 นาทีที่แล้ว แต่ก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จนกล้ามเนื้อขาเริ่มเมื่อยถึงได้ยอมย้ายตัวเอง แต่เขายังไม่ออกจากสนามบินแห่งนี้ ผู้นำเลือกนั่งเสียเวลาที่ร้านกาแฟก่อนเพื่อความแน่ใจ

เขาอยากแน่ใจว่าธามไปแล้วจริงๆ เอาให้ชัวร์เลยก็อยากรอจนกว่าเครื่องจะถึงสนามบินเถาหยวนที่ประเทศไต้หวัน แต่กลัวโดนพ่อด่าว่าประสาท เอาเป็นว่า ขอรอให้แน่ใจว่าเครื่องขึ้นอย่างปลอดภัยก็แล้ว

เขานึกย้อนถึงวันแรกที่ได้เจอกับน้องธามของพี่นำอีกครั้ง ภาพแรกที่พบกันไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะเด็กคนนี้ตาแข็ง หน้างอ ช่างเถียง ไม่ยอมพูดภาษาไทย แต่เมื่อมีหมวกใบใหม่ต้องสวม หมวกของผู้ดูแลธาม เขากลับรักเด็กคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น

แต่ทั้งที่รักแล้ว ทั้งที่รักกัน กลับต้องห่างกันอีกครั้ง ราวกับว่าเบื้องบนตัดสายพานของขวัญไว้เท่านี้ แต่โทษนะ เขาไม่เชื่ออะไรก็ตามที่พิสูจน์ไม่ได้เสียเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น เขาจะสร้างสายพานของเขาเอง

จิบกาแฟหมดแก้วแล้ว ผู้นำมองนาฬิกาและเดินออกมาดูบอร์ดไฟล์ท ไปแล้วจริงๆ สินะ เขายิ้มให้กำลังใจตัวเองเพื่อก้าวต่อไป

ถึงไม่ได้อยู่ใกล้กัน ความรักของเขาก็ยังเหนียวแน่น เขาเชื่อแบบนั้น



เช้าวันแรกที่ตื่นมาแล้วไม่มีธาม ยอมรับเลยว่าเหงา แต่เมลล์แรกที่ส่งเสียงแจ้งเตือนก็คือคนที่ทำให้เขาเหงานั่นแหล่ะ ผู้นำเปิดเมลล์อ่านแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตัวดีเมลล์มาบอกว่าถึงอย่างปลอดภัยแล้วแต่มาพักที่โรงแรมก่อน จากนี้ต่อไปก็จะไปยื่นเอกสารสมัครเรียนเอง หาคอนโดเอง เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ธามรวยมาก

ฮ่าๆๆๆ มันตลกตรงนี้นี่แหล่ะ โอเค โอเคครับ พี่นำเชื่อว่าธามรวยมาก

มีรูปส่งมาด้วย แต่เป็นรูปเท้าระหว่างก้าวเดิน ให้มันได้แบบนี้สิธาม

เมลล์ยามเช้าทำให้เขาอารมณ์ดี จนเลยเถิดมากินเมื้อเที่ยงกับมือโปร ซึงมันก็เก่งกล้าพอจะนัดที่หนึ่งที่งานรัดตัวมากินข้าวด้วยกัน พิเศษตรงที่ มื้อนี้ที่หนึ่งฉายเดี่ยว ผู้นำอดสงสัยไม่ได้ว่าที่หนึ่งมันจะเดินตรงๆ เป็นรึเปล่า เมื่อคนที่เคยเดินข้างๆ กันไม่อยู่เป็นเงา แต่มันก็เดินท่าปกติ เขาคงคิดถึงธามมากไปจริงๆ

“ยิ้มอะไรวะไอ้หมอ” มือโปรถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเงียบผิดปกติ ผู้นำยิ้มพลางสายหน้าปฏิเสธ แต่มือโปรก็ปากมากพอจะโพล่งเรื่องน่าอายฟ้องที่หนึ่ง

“อย่ากลบเกลื่อนเลย แล้วเมื่อคืนนี้ยังไงกัน คุยกันรู้เรื่องรึยังเรื่องที่หึงจนไม่อยากให้ธามมันไปเรียนต่อ”
“แล้วนี่น้องมันไปแล้วจริงๆ หรอวะ มึงโหวงๆ มั้ย”

“อื้อ ไปแล้ว”
“เรื่องหึงก็เคลียร์แล้ว กับอาหลูไม่มีอะไร เขากำลังจะแต่งงานแล้วไปอยู่อเมริกาด้วยซ้ำ ก็เลยมาลาธามที่นี่เพราะคิดว่าธามจะไม่กลับไปไต้หวันอีก”
“แต่ผมก็เรียนรู้เพิ่มนะ ว่าถ้าหึงก็แค่พูดอออกไป แล้วก็แก้ปัญหา”
“อ้ำอึ้งแล้วอึดอัด ผมกับธามเลยไม่ได้ลากันลึกซึ้งเลย”
“แต่ธามส่งเมลล์มาหาแล้วหล่ะ”

“อื้อ ผมว่าจะบอกเลย รักทางไกลมันไม่น่ากลัวหรอก คุณแค่ต้องหูตาไว แล้วก็ต้องแน่ใจว่ารอบตัวธามไม่มีใครเป็นภัยจริงๆ นอกนั้นก็วางใจได้”
“อีกอย่าง ที่นั่นก็บ้านธาม อย่างน้อยธามก็สื่อสารด้วยภาษานั้นมามากกว่า 10 ปี”
“อย่าห่วงเลยนำ ให้น้องไปเรียนรู้โลกตามเส้นทางที่เขาเลือกเถอะ”

“พูดเข้าท่า”
“ตอนเจมห่างไป คุณก็เป๋ไปร่วมเดือน ผมจำได้นะ” เขาย้อนที่หนึ่งกลับ มันเลยแย่งกุ้งที่เขากำลังจ่อช้อนไว้ไปต่อหน้าต่อตา มือโปรหัวเราะชอบใจที่เห็นเขากันเอง แต่แล้วมันก็หน้าบึ้งเมื่อเจอใครบางคน

“ผมไปก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกันนะไอ้หมอ ไอ้หนึ่ง”

“อะไรวะ เออๆๆ” ที่หนึ่งเป็นคนอนุญาตเพราะผู้นำกำลังมองตามสายตามือโปรอยู่ เขารู้สึกตะหงิดๆ กับท่าทางของมือโปร แต่เวลานี้ กินข้าวสำคัญที่สุด

“แล้วจะไปหาธามเมื่อไหร่” เขาคงปิดอะไรเพื่อนคนนี้ไม่ได้จริงๆ ผู้นำละสายตาจากใครก็ไม่รู้กลับมามมองหน้าเพื่อนที่อมยิ้มรู้ทัน

“ก็...”

“คืนนี้?”

“อื้อ”

“โธ่เอ้ยยยยยยยยยยย!”
“ทำเป็นแอคคูล เข้าใจโลก คุณโคตรคลั่งรักมากกว่าผมอีกนะผู้นำ”

“ก็ผมรักของผมนี่”
“จะอยากอยู่ด้วยกันใกล้ๆ ก็ไม่แปลกหรอก”

“ไปอยู่กี่วัน”

“อาทิตย์นึง”

“คุณมีเวลาว่างขนาดนั้นหรอ เฮ้ย! บอกเคล็ดลับเคลียร์งานหน่อย”

“ก็สารพัดจะแลกมานั่นแหล่ะ แต่ที่ศูนย์เพิ่งมีหมอใหม่มา 2 คน วางใจได้ เลยหยุดได้”

“ไปทำอะไรตั้งอาทิตย์นึง”

ผู้นำเหล่มองคนถาม เขายักไหล่แล้วกวักมือเรียกหูเพื่อนมาฟังคำตอบใกล้ๆ


“ไปรักธาม”


หากสิ่งเดียวที่ผมทำได้ คือการรักษาไว้ซึ่งความรู้สึกเปราะบางของเขา…
ผมก็จะรักเขาให้มากที่สุด ยาวนานที่สุด จริงใจที่สุด เพื่อปกป้องหัวใจเปราะบางดวงนั้นไว้ตลอดกาล



The End


จบแล้วค่ะ
ขอบคุณมากสำหรับผู้ติดตามอ่านทุกท่าน
เรื่องนี้เหมือนเรื่องเงียบๆ เลยนะคะ เราอ่านทวนเองเรายังรู้สึกว่าเสียงภายนอกไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ปัจจัยแวดล้อมมีน้อยมาก ส่วนมากจะเป็นเสียงความคิดของพี่นำของน้องธาม ตอนแรกก็กลัวว่าจะเบื่อฟิคชั่นเงียบๆ แบบนี้กัน เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ก็รู้สึกกลัวว่าคนอ่านจะเบื่ออยู่แหล่ะค่ะ แต่เราก็ดั้นด้นเขียนออกมาจนจบตามที่ตั้งใจแล้ว ก็หวังว่าจะส่งต่อความคิดความรู้สึกของมุมความรักพี่นำและน้องธามได้ถึงผู้ติดตามทุกท่านนะคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่า

เรื่องต่อไป (จะมีใครอยากอ่านอีกมั้ยเนี่ย)
แอบคิดไว้ว่าถึงเวลาของพี่โป๊ะแล้ว แต่ที่ผ่านมา 2 เรื่องเฮียเรทติ้งไม่ดีเลย ฮ่าๆๆ แต่ในหัวเรา (ซึ่งคงไม่มีใครเห็น) พี่โป๊ะตลกมากเลยนะคะ ถ้ามีคนอยากอ่านสัก 1-2 คน เราจะเขียนมุมของพี่โป๊ะออกมาบ้าง รับรองว่าต้องชอบเฮียแกไม่มากก็ไม่มี เอ้ย ไม่มากก็น้อยค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^_____________^

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #293 เมื่อ21-09-2014 00:18:59 »

จบแล้วเหรอ สนุกมากๆ
รอเรื่องพี่โป๊ะนะ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #294 เมื่อ21-09-2014 00:38:49 »

จบแล้ว ภาษาไทยธามพัฒนามาก5555
ใครหนอคือผู้โชคร้ายของพี่โป๊ะ5555555

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #295 เมื่อ21-09-2014 01:28:10 »

เราชอบนะคะ เป็นเรื่องราวที่ดีเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อไปน้า

ขอลงชื่ออยากอ่านเรื่องของพี่โป๊ะ 1 เสียงจ้า

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #296 เมื่อ21-09-2014 06:39:26 »

พี่นำขี้เก๊ก  :hao7:
รีบเรียนให้จบ รีบกลับมาอยู่ด้วยกันนะธาม :กอด1:
ลงชื่อรออ่านเรื่องเฮียโป๊ะค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #297 เมื่อ21-09-2014 07:21:13 »

อ๊ายยย จบแล้วหรออออ
ขอตอนพิเศษได้มั้ยคะ
พลีสสส

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #298 เมื่อ21-09-2014 08:01:37 »

ผู้นำ ต้องย้ายไปอยู่กับธามแล้วแหละ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
«ตอบ #299 เมื่อ21-09-2014 09:36:58 »

จบแล้ว แต่ทำไมเรายังรู้สึกหน่วงๆ สงสารแซนอยู่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด