[เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)  (อ่าน 106370 ครั้ง)

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ





ขอยืนยันว่า เรื่องที่วินเขียน ล้วนเขียนขึ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตม.6
ความจริง 99.99% อีก 0.01% มาจากคำพูดที่อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง
เรื่องนี้เจาะเฉพาะกลุ่มจริง ๆ บางคนอาจชอบ หรือไม่ชอบก็ได้
เรื่องความรักของวัยรุ่น ชาย - ชาย
ไม่ว่าจะเพศไหน ทั้งหมดก็รัก เจ็บ และ ร้องไห้ด้วยกันทั้งสิ้น

เรื่องย่อ....
วิน...เด็กม.6 ที่ทางบ้านค่อนข้างยังไม่ค่อยปล่อยไปไหนนัก
ทำให้เขาไม่ค่อยได้รู้ว่าโลกภายนอก แท้จริงมันเลวร้ายเพียงใด
ครั้งแรกที่เขาเจอกับความรัก  บอกตรง ๆ ว่าตื่นเต้น ชอบ และเห่อเป็นธรรมดา
จากนั้นความรักก็เข้ามาอีก คนที่กำลังเห่อ และหลงระเริงกับตัวเอง
ที่คิดว่าตัวเองมีดีไปเสียหมด โดยเฉพาะหลงคิดไปว่าตัวเองหน้าตาดี เอาใคร ๆ อยู่
แต่ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่วินเอาอยู่คือ "แมท" แมทรักวินจริง ๆ และมาก ๆ
ครั้งหนึ่งแมทเอาชีวิตตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ วินไม่เคยให้อภัยตัวเอง และไม่เคย
คิดขออโหสิกรรมกับการกระทำอันโหดร้ายของตัวเองเช่นนี้

แต่วินก็ไม่เคยคลายรักที่มีให้แมทลงเช่นกัน แม้ว่าจะอย่างไร
กระนั้น แมทที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ถึงแม้เหตุผลมันจะคือ "รัก" และ "หวง" ทั้ง "หึง"
แต่การกระทำอันรุนแรง (ขึ้นเรื่อยๆ) มันทำให้วินอ่อนแอที่จะดิ้นรนต่อสู้กับความรักใหม่ ๆ ที่เข้ามา
ทั้งยังคุณแม่ของแมท ที่เมื่อจุดเริ่มต้นจากการไม่ชอบวิน จนเป็นเกลียด คุณแม่แกล้ง และทำร้ายวินสารพัด (มากมายจริง ๆ จนวินเองก็นับไม่ไหว)

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ม.6 จนถึงตอนนี้วินอยู่ปีสุดท้ายของชีวิตนักศึกษาแล้ว
การราวีของคนในบ้านแมท ยังไม่ยอมเลิกรา หรือลดละลง
ส่งผลให้ชีวิตของวินต้องพบเจอแต่ความระแวดระวังเสมอมา
วินไม่ทราบได้ว่าเมื่อใด จะเจอคุณแม่เล่นงาน และปัจจุบัน แมทยังคงรักวิน
และทำดีกับวินเสมอมา แต่คุณแม่ต่างหากที่ทำให้วิน ไม่สามารถกลับไปคบกับแมทได้อีก........
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2008 23:59:46 โดย MaWin »

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่1 ความรัก...ครั้งแรก

. . . เรื่องมันเริ่มช่วงที่วินย้ายเข้าโรงเรียนใหม่ตอนม. 6 เป็นโรงเรียนชื่อดังใช้ได้เหมือนกัน แต่เป็นสาขาแยกออกมาอีกแห่งหนึ่ง...งงมั้ย ก็มีชื่อซ้ำกันอยู่หลายแห่งไง
พูดง่าย ๆ ไม่ได้อยู่โรงเรียนต้นสังกัดน่ะแหละ  วินย้ายมาจากโรงเรียนเก่าที่เคยอยู่มาตั้งแต่ม. 1 – ม.5   จริง ๆ วินจะย้ายมาโรงเรียนนี้ตั้งแต่ม. 4 แล้ว แต่มีปัญหากับผู้อำนวยการคนเก่า เลยยุ่งยากเข้าไม่ได้ซะที    พอม. 6 ได้ผู้อำนวยการคนใหม่ ฝันก็เลย
เป็นจริงซะที     จริง ๆ วินไม่เห็นต้องเล่าเรื่องนี้เลย (เดี๋ยวคนมาอ่านจะรู้ตัวจริงซะเปล่า ๆ เพราะตอนนั้นม.6 มีเด็กใหม่แค่ 2 คนเท่านั้น...แต่ก็เอาเหอะ ม.6 ไม่ได้มีรุ่นเดียวนี่นา) เพราะที่จริงแล้ว แฟนคนแรก  วินไม่ได้เจอในโรงเรียน เพียงแต่วินไม่รู้จะเริ่มเรื่องยังไง
เลยขอเกริ่นหน่อย เพราะระยะเวลามันไม่ทิ้งกันมาก  แต่แฟนคนแรกคนนี้วินเจอกับเค้า
ก่อนที่จะเปิดเทอมขึ้นม.6 วินขอข้ามการเจอกัน และวิธีการคบกันของเราไปนะ (ต้องขอ
อภัยจริงๆ) เพราะถ้าพูดถึงหลาย ๆ คนจะรู้ทันที แม้แต่คุณพ่อคุณแม่ของวินเองก็จะรู้
เอาเป็นแค่ว่าเราตกลงคบกันที่โขดหิน  ที่พัทยา ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้ากำลังเป็น
สีส้ม คลื่นก็สงบสุด ๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งเลย (สาบานเลยว่า มันโรแมนติกขนาดนั้นจริงๆ)
วันที่ 12 เมษายน 2546  ช่วงนั้นเป็นช่วงสงกรานต์เราเลยไปเที่ยวกัน แต่กลับวันที่ 13 เพราะกลัวรถติด พอเราตกลงคบกัน ก็เดินเล่นอยู่ริมหาดอีกซักพัก
            วินขอเล่าย้อนไปอีกนิดนึงก่อนที่จะมาถึงวันที่เราคบกัน เราก็สบตาปิ๊ง ๆ กันมาได้
ซักพักแล้ว  เขาคงรวบรวมความกล้าขอคบเราวันนั้น ในช่วงที่คนอื่น ๆ รื่นเริงอยู่ใน
ห้องพัก  ไอเราสองออกมาเดินเล่นกัน (ไม่รู้แอบแยกมารึเปล่า...จำไม่ได้)
             กลับมาถึงวันที่ 12 เมษา 2546 ต่อ แฟนคนแรกของวินคือ “แมท” เป็นลูกคนรวย
(รวยใช้ได้เลยจริงๆ) พ่อกับแม่แยกทางกัน    ทำให้แมทเป็นคนมีปัญหานิด ๆ ซึ่งแรก ๆ ยัง
ไม่เผยออกมา  แมทอยู่กับแม่มาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งแมทเล่าว่า แมทจำความได้ตั้งแต่
อายุยัง 3 ขวบ เพราะเหตุการณ์รุนแรงในบ้านระหว่างพ่อและแม่ของเขาเองซึ่งเกิดขึ้น
บ่อยมาก
แมทสาบานว่าครั้งนึงพ่อเคยทำร้ายแม่จนเกือบพิการ แต่หมอตัดต่อ ช่วยไว้ได้ทัน
ทำให้แมทจำความได้เร็วกว่าเด็กปกติ (หรือว่าคนอื่นเค้าจำความได้กันประมาณนี้ แต่วิน
มันเด็กพิสดารก็ไม่รู้) เอาหละถึงแม้ว่าแมทจะรวยแค่ไหน วินก็ไม่เคยมองข้อนี้ของแมทเลย เพราะวินเองก็ฐานะปานกลางพออยู่ได้            แมทขับเบนซ์คอมเพรสเซอร์ มารับ
ทุกวันศุกร์ เพราะจะไปเดินห้าง หรือดูหนังกัน  สมัยวินอยู่ม.6 ที่บ้านไม่ค่อยปล่อยไปไหน
จะทำอะไรต้องบอกแผนที่บ้านทั้งหมดว่าวันไหนจะทำอะไร กลับบ้านกี่โมง และต้องเป็นไปตามนั้น
ถึงไหนแล้ว......... อ๋อ  และแมทก็เป็นลูกคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนของแม่ ทำให้ทั้งสองรัก
กันมาก และรู้ทุกอย่างของกันและกัน แม้แต่เรื่องที่แมทเป็นเกย์ และคบกับวิน แมทเป็น
ลูกที่ดี และพื้นฐานนิสัยดีมาก เป็นคนเพอร์เฟกท์  วินกล้าเอาหัวเป็นประกันว่าใคร ๆ
ก็ต้องชอบแมท ไม่ว่าหญิงหรือชาย  แมทเป็นทุกอย่างในเสปคของวิน (จนทุกวันนี้วินก็ไม่
อยากเชื่อว่า วินจะได้แฟนคนแรกซึ่งตรงตามที่ใจคิดทุกประการ) วินเป็นคนขาว เลยเบื่อ
คนขาว ๆ วินชอบคนผิวคล้ำ ๆ เนียน ดูสะอาด คิ้วเข้ม ๆ จนเกือบจะชนกัน เอาไงดี....
เพื่อช่วยให้ทุกคนนึกออก ให้นึกถึงดารา “พี่ใหญ่ ศิระ” หรือ “พี่ต้า V1 AF3” อย่างนั้นเลย
ทีเดียว
ซึ่งทุกครั้งที่วินเห็นพี่ต้า วินก็นึกว่าแมททุกที (อิอิ) แต่วินเองก็ไม่เบาหรอกนะ  (ไม่ได้ชม
ตัวเองนะให้ตายสิ 555) เพียงแต่วินมันไม่ใช่พิมพ์นิยม อาจจะสะดุดตาใครหลายคน
แต่คงน่าเบื่อ คนคงเบื่อง่าย (หน้าตาน่าเบื่อนั่นเอง นึกออกมั้ย)
วินถ้าไม่คบ ไม่คุย ไม่สนิทกันมาก ๆ เดินสวนกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าวินเป็นอะไร แต่ปัจจุบัน
หลาย ๆ คนก็รับรู้เพราะวินโตแล้ว แม้แต่คุณแม่ของวินก็รู้แล้ว แต่คุณพ่อนี่ก้ำกึ่งๆ คงยัง
แอบ ๆ หวังให้ลูกชายกลับใจมั้ง แต่ทั้งสองท่านก็รับได้แหละ  คุณแม่นี่ดูเหมือนจะพอใจ
ด้วยซ้ำที่ลูกชายของท่านจะได้ไม่ต้องแต่งงานแยกบ้านไปไหน

เอ้านอกเรื่องไปไกล กลับมาที่แมท   แมทเป็นทุกอย่างที่วินวาดฝัน มีหรือวินจะปล่อยให้
หลุดมือ (กรั่ก ๆ ๆ ) เดือนแรกเราคบกันสุดจะหวานแหวว เพื่อนสนิท มิตรสหายที่ใกล้ชิด
กัน ทุกคนรู้เรื่องของเราทั้งสิ้น แมทขับรถมารับวินทุกวันศุกร์ และเพื่อน ๆ มักพึ่งอานิสงส์
ติดรถไปลงที่ห้างด้วย               พอเราคบกันได้สัก ประมาณเดือนนิด ๆ ทุกอย่างยังเป็น
เหมือนเดิม แมทมารับทุกวันศุกร์ และมีเพื่อนติดสอยห้อยตามมา 2-3 คน ซึ่งพักหลังมัน
มาด้วยทุกศุกร์กันเลยทีเดียว
หลัง ๆ แมทจึงมักต่อรอง และหาวิธีอันแยบยล บอกให้เพื่อน ๆ ของวิน ลงจากรถและ
ล่วงหน้าเข้าห้างไปก่อนเสมอ  และในครั้งนั้น วินก็อยู่กับแมทสองคนบนรถ
นั่นคือครั้งแรกที่....... (นั่นแน่เด็กรุ่นใหม่ต้องไม่มีความคิดแบบนี้นะจ๊ะ) นั่นคือครั้งแรกที่
แมทแสดงท่าทีไม่พอใจ (เป็นครั้งที่ 1)   แมทจับพวงมาลัยด้วยสองมือแน่น  เงียบไปอึดใจ
หนึ่ง (อึดใจจริง ๆ ตอนนั้นรู้สึกอึดอัดพอควร) วินรวบรวมความกล้า (ซึ่งในครั้งนั้นใช้เพียง
น้อยนิด)
“แมทมีอะไร...เป็นอะไร...ทะเลาะกับพ่ออีกแล้วหรอ”  วินถามด้วยความเป็นห่วง เพราะ
วินมักได้ยินแมทคุยโทรศัพท์กับพ่อด้วยท่าทีอึดอัดใจเสมอ ๆ
“เปล่า...” แมทตอบสั้น ห้วนที่สุดตั้งแต่คบกันมา

วินงง และค่อนข้างตกใจ แต่ก็ถามต่อไป
“แมท...มีไรก็บอกวินดิ.... งั้นจะมีแฟนไว้ทำไม” วินใส่ความเน่าเต็มที่ในประโยคต่อมา
“วิน....” แมทเอ่ยขึ้น วินรอฟัง
แต่ในที่สุดแมทก็ไม่พูด แต่คลายมือแน่น ๆ ที่จับพวงมาลัยไว้ แล้วเอามาวางบนหน้าตัก
จำได้แม่นเลยว่าตอนนั้นแมทใช้ทั้งสองมือเกา ๆ ขีด ๆ ขาทั้งสองไปมา เบา ๆ เหมือน
ครุ่นคิด ซึ่งเป็นท่าทีที่วินไม่เคยเห็น และงง ๆ
“แมท - - อะไร แมท...มีอะไร - -นี่เรางงนะ” วินเปลี่ยนจากเรียกชื่อตัวเองว่า “วิน” เป็นเรา
“อ๋อ...เดี๋ยวนี้แมทกับวินห่างเหินกันขนาดนี้เลยหรอ” แมทใช้คำอย่างระวัง แทนที่แมทจะ
ใช้คำว่า “เราห่างเหินกันขนาดนี้” เป็นเรียกชื่อเราสองคนแทน
“อะไรแมท . . อะไรของแมท” วินเสียงแข็งครั้งแรกกับแมท
“แมทเป็นอะไร - -วินจะรู้ได้ไง อยู่ ๆ แมทมาหงุดหงิดใส่กันทำไม” วินกลับมาเรียกชื่อ
ตัวเองแทน “เรา” เหมือนเดิม เพราะรู้ตัวว่าเมื่อกี๊แมทหมายถึงอะไร
“เราไม่ได้เป็นอะไรหรอกวิน” ดูเหมือนแมทจะเอาคืนซะแล้ว

วินเงียบและเบือนหน้าหนีไปเลย หันไปมองกระจกข้างแทน ไม่พูด ตอนนั้นได้ยินแต่เสียง
หายใจของแมท  ณ วินาทีนั้น งงจริง ๆ มันเป็นอะไรของมัน คิดแบบนี้อยู่ในใจตลอด ด้วย
ความที่วินเป็นคนค่อนข้างใจเย็น กับเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่จำเป็น วินจะไม่มีเรื่องเด็ดขาดไม่
ว่าแฟนหรือเพื่อน

“เงียบทำไม !” เสียงดังเล็กน้อย ออกมาจากแมท (เป็นครั้งแรกอีกแล้ว)
“แมท วินไหว้หละ แมทเป็นอะไร” วินประนมมือไว้ที่อก ทำหน้าง้อ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยว่า
ตัวเองทำอะไรผิด
และแล้วเหตุผลที่วินไม่แม้แต่จะเคยนึกก็ออกมา
“ความเป็นส่วนตัวเราน้อยลงนะวิน” แมทบอก
“อะไร” วินถามสั้น ๆ เพราะงงสุดกู่ นี่มันอะไรกัน เราทำอะไรผิด
“วินพาเพื่อนมาด้วยทุกศุกร์เลย แล้วเวลาส่วนตัวเราไปไหนหมด วินไม่นึกถึงมันแล้วหรอ
..... แต่ก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย วินวางแผนไว้หรอ วินไม่ได้อยากอยู่กันสองคนแล้ว
หรอ” แมทสวดมาเป็นชุด เหมือนกับอั้นไว้นาน
“อ่าวแมท - - ก็เพื่อนกันทั้งนั้น” ตอนนั้นวินไม่รู้จะตอบยังไง
“วิน...” แมทเว้นวรรคไปอีกครั้ง มือกลับไปจับพวงมาลัย (วินไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของ
แมทมาก่อนไม่ว่าจะตอนเป็นเพื่อนกัน หรือตอนก่อนจะตกลงคบกัน)
“แมท...วินเวียนหัว - - เราไปกินข้าวกันแล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันเถอะ”  หลายคนคงเป็น
กับน้ำหอมปรับอากาศแบบก้อนบนรถ เวลาเราเครียด ๆ หรือไม่ต้องเครียด กลิ่นของมันชวนคลื่นเหียนมาก
“อะไรอีกอ่ะ  - - วินเปลี่ยนไปมากนะ” แมทเริ่มเสียงเบา และอ่อยลงเยอะมาก
“เห้ยแมท - - ไม่จริงนะ ... นี่แมทเป็นอะไรไป แค่วินพาเพื่อนมาแค่นั้นจริงๆหรอ” วินตกใจ
กับคำพูดนั้น คิดทันทีว่านี่ชีวิตรักครั้งแรกของเรามันจะสั้นแค่เดือนเศษ ๆ เท่านั้นหรอ
“แค่นั้นแหละวิน พาเพื่อนมา วินก็คุยแต่กับเพื่อน แมทจะทำ จะพูดอะไรกับวินก็ไม่เหมือน
ตอนอยู่กันสองคน มันทำให้แมทอดคิดไม่ได้ว่า วินไม่อยากอยู่กับแมทสองคนอีกแล้ว” 
พระเจ้าช่วยนี่แมทคิดอะไรของเขา เขาประมวลผลอะไรออกมาแบบนี้ได้อย่างไรกัน
“แมท - - นี่แมทคิดได้ไงเนี่ย....วินยังนึกไม่ถึงเลยนะ” และแล้วความคิดของวินก็ดัง
ออกมาเป็นคำพูดจริง ๆ
“แมทมันก็งี้แหละวิน - - รับได้มั้ยหละ”  ตาแมทจ้องวินเขมง สีหน้าจริงจัง ณ ตอนนั้นมันดู
ไร้เยื้อใยสุด ๆ
“แมท นี่จะหาเรื่องเลิกกันหรอ” วินรวบรวมความกล้าอีกอึดนึงถามไปน้ำเสียงตก ๆ ซึม ๆ
แมทเอื้อมมืออย่างเร็วมาจับที่ไหล่ซ้ายของวิน แต่เบา ๆ แล้วน้ำตาหยดแหมะ หยด
เบ้อเริ่ม แล้วพูดเสียงสั่น
“วิน... วินคือทุกอย่างนะ - - แมทมองวินมาก่อนที่วินจะรู้จักแมทซะอีกนะ - - เลิกหรอวิน
... เป็นไปไม่ได้วิน แมทขอโทษวิน แมทผิดเองวิน  วินไม่ได้จะเลิกกับแมทนะ วิน ๆ ๆ ....”
คนโบราณช่างเปรียบเทียบว่า ‘ยกภูเขาออกจากอก’ ใครไม่เคยเป็น ต้องสัมผัส มันอย่าง
นั้นจริง ๆ ให้ตาย
วินไม่ได้สนใจเลยว่าที่แมทพูดหวานซึ้งแค่ไหน แต่ความมั่นใจว่าเรายังรักกันมันกลับมา
แมทซุกหน้ากับแขนเสื้อ ร้องไห้โฮ ณ ตอนนั้นวินไม่ได้รู้สึกหรอกว่ามันโอเว่อร์ หรือว่านี่คือ
เรื่องผิดปกติ รู้แต่ว่า เค้ายังรักเราแน่นอน …
วินไม่รู้จะทำอะไร ได้แต่จับบนผมของแมทเบา ๆ เหมือนลูบหัว แต่เหมือนไม่กล้าเท่าไหร่
ทำนองนั้น (แมทเป็นคนผมตรงและนิ่มมาก อีกข้อที่ทำให้วินปลื้มในตัวแมท...เวนกำ -*-)

“วิน - - ต่อไปนี้วันศุกร์ไม่เอาเพื่อนมาแล้วนะ” ตายจริง นี่เราลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย
“โอเค ๆ แมท วินจะบอกเพื่อน ๆ นะ” วินรับคำทันที หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด
“วินจะทำยังไง - - วินไม่กลัวเพื่อน ๆ โกรธหรอ” แมทถามกลับ ทำเอาเรางง ว่านี่ตกลงจะ
เอาไงว้ะ ฮึ !!!
“เอาเหอะแมท ช่างมันเถอะ เพื่อนวินเข้าใจอยู่แล้ว - - ถ้าแมทไม่สบายใจเรื่องนี้
เดี๋ยวไงวินบอกเพื่อน ๆ ได้” วินก็ตอบไปจนได้
“แล้ววินจะบอกเพื่อนหรอว่าเป็นเพราะแมทอึดอัดอ่ะ” แมทถามอีก
“ไม่หรอกแมท วินไม่ใช่คนแบบนั้นนะ วินต้องหาวิธีพูดอยู่แล้วแหละ”
“แมทรู้ว่าวินไม่ใช่คนอย่างนั้น - - แมทแค่กลัวว่าเพื่อนวินจะเข้าใจแมทผิด” แมทตอบ

สรุปก็คือแมทคิดว่าวินจะบอกเพื่อนว่าแมทอึดอัดอยู่ดีนี่หน่า !!!!?????

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2: มาปูเสื่อรอง๊าบ

หลังจากที่อ่านจบจากที่เว็บเด็กดีมาแล้ว

^^

อ่านกันได้นะคะเพื่อนๆ บอร์ดเล้าเป็ด

ดราม่าคะ เรื่องนี้ ขอบอก

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
เรื่องใหม่ หุหุ

เป็นกำลังใจให้นะครับบบบบบบบบบบ

จากเรื่องย่อ อยากจะบอกว่า

" รักจริงต้องหนีตาม " เอิ๊กๆๆ



_______________________________________________________
แว๊บบ.... กลับทู้ตัวเอง

anston

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1:มาลงชื่ออ่านเรื่องใหม่ด้วยคน..
เท่าที่อ่านเรื่องย่อ..สงสัยต้องได้เตรียมทิชชู่ไว้ซะแล้ว.. :m15:
แล้วมาต่ออีกน๊า..เป็นกำลังใจให้ค๊าบ :L2:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เห็นด้วยกะคุณ clearest ที่ว่า รักจริงต้องหนีตาม  :oni1:

ก็อุตส่าห์ได้เจอคนที่ใช่ทั้งที มันน่าเสียดายอ่ะ

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
มาลงเร็วๆๆเน้อ คอยติดตาม

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 2 คารม...ชนะทุกสิ่ง

เอาหละ วินไม่ได้บอกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เรื่องนี้ไม่มีพระเอก ไม่มีนางเอก แต่มีตัวร้ายแน่นอน ร้ายมากร้ายน้อย แค่นั้นเองที่แตกต่างกัน วินคนเขียนเอง ต้องทำใจก่อนเลย ว่าคนที่มาอ่าน อาจจะไม่ชอบการกระทำของวินในตอนต่อ ๆ ไปในอนาคตก็ได้
แต่นี่คือชีวิตจริง และเป็นบทเรียนให้ใครได้หลายคนจริง ๆ อยากให้คนที่ยังมีโอกาส (คนที่ยังเป็นวัยรุ่นนั่นเอง) ได้เรียนรู้ และปรับใช้บทเรียนของวิน  ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ร้ายแรงหรอก คงจะระดับหลาน ๆ ถ้าเทียบกับใครหลายคน แต่มันก็ช่วยให้ชีวิตไม่ต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ และประสบความสำเร็จในชีวิตได้ (เร็วขึ้น)

อ่ะ....ตอนที่ 2   

         วินไม่อยากจะเชื่อว่าแมทเปลี่ยนอารมณ์ ท่าที อาการได้อย่างรวดเร็วดั่งนักแสดง
แต่วินก็ไม่มีทางเลือกอะไรอีก เราถกเถียง และเงียบใส่กันในรถอยู่ราว ๆ 30 นาที จำได้ว่ายัยอั้ม (เพื่อนสนิทสมัยนั้น) โทรมา 1 ครั้ง แต่ไม่ได้รับ  . . .มาถึงวันนี้วินก็รู้สึกว่าวินเข้าใจแมทนะ เพราะช่วงนั้น วินพาเพื่อนไปด้วยทุกศุกร์แถมยังเดินห้างด้วยกัน มีบางครั้งพาไปกินข้าวหรือดูหนังกันอีกด้วยซ้ำ แล้วแมทก็ต้องเป็นคนเลี้ยงอีกต่างหาก. . .
 ไม่มีเวลาที่ส่วนตัวจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราเจอกันก็ไม่ได้บ่อยนัก

“ปะ!  ที่รัก. . . วันนี้อยากกินอะไรครับ” น้ำเสียงสดใส กลับมาอีกครั้งเรียกให้ออกจากรถ
แมทเป็นคนที่พูดเพราะ มีน้ำเสียงที่น่าฟัง และลงท้ายด้วยคำว่า ‘ครับ’ เสมอ นี่คืออีกข้อดีของเขาจริง ๆ  (แม่เขาสอนมาดี)
“อะไรก็ได้” วินตอบไปสั้น ๆ ยอมรับว่าตอนนั้นอารมณ์ยังขุ่นอยู่นิด ๆ
“ทำไมอ่ะ - - คราวที่แล้วแมทเลือกร้าน คราวนี้วินมั่งดิ” แมทความจำดีมาก แมทจดจำได้หมดว่ากิจกรรมของเรามีอะไรบ้าง ถึงตอนนี้วินเชื่อเต็มใจเลยว่า แมทไม่เคยมีใครเลยนอกจากเราตลอดช่วงเวลาที่คบกัน
“ไม่รู้ดิ - - วินเวียนหัวอ่ะ แมทมีลูกอมมั้ย”
น้ำหอมบนรถยังคงออกฤทธิ์ในโสตประสาทวินอยู่
“จริงหรอวิน... ไม่มีอ่ะ - - งั้นเดี๋ยวเข้าห้างแล้วไปนั่งตรงน้ำพุก่อนนะ . . . แล้ววินค่อยคิด ว่าวันนี้วินอยากกินอะไร - - ดีมั้ยครับ” คำพูดของแมททุกวันนี้วินไม่เคยลืม มันทั้งดี ทั้งเพราะ สุภาพทุกอย่าง
“อืม ๆ” ตอนนั้นวินคลื่นไส้จริง ๆ ไม่อยากพูด ไม่อยากตอบอะไร บวกกับอารมณ์ที่ยังค้างอยู่ ทำให้ตอบแมทไปเพียงสั้น ๆ

เราเดินเข้าไปในห้างอย่างเงียบ ๆ โดยแมทหันมามองหน้าวินตลอดเวลา คล้ายว่าจะเป็นห่วง เพราะสีหน้า ณ ตอนนั้นคงบอกไม่ถูกจริง ๆ แต่ไม่พูดอะไร จนมาถึงหน้าน้ำพุ
“วินนั่งก่อนนะ เดี๋ยวแมทมา” ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร วินพยักหน้าแล้วปล่อยแมทไปซะเฉย ๆ (ต้องเข้าใจวินนะ คนกำลังมึน แถมอารมณ์ไม่ดี ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า เออจะทำไรก็ไปทำเหอะ)

ไม่เกิน 2 นาทีแมทเดินกลับมาพร้อมซองกระดาษสีขาว ขนาดเท่า 1 ฝ่ามือครึ่ง 
แมทนั่งลงข้าง ๆ หยิบของในถุงกระดาษออกมา

“อ่ะ . . . จะได้หาย” แมทยื่นยาดม จำยี่ห้อไม่ได้รู้แต่มันสีแดง ๆ หัวแหลม ๆ อ่ะ มีหัวเดียวไม่เหมือนโป๊ยเซียน พร้อมกับ Fisherman’s Friend สีเขียว 1 ซอง
(พูดแล้วจะหาว่าเสร่อ วินรู้จักยาอมยี่ห้อนี้เป็นครั้งแรกวันนั้น เพราะแมท และซื้ออมมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ว่าจะไอ เจ็บคอ หรือมึนหัว...อดคิดถึงแมทไม่ได้เหมือนกัน - -,)

วินหยิบทั้งยาดมและยาอมมา แล้วอารมณ์ขุ่นมัวก็หายไปสนิท ใบหน้าหล่อคมของแมท
รอยยิ้มจริงใจ มันทำให้ใจของวินมันสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก  คนมีความรักคงเข้าใจนะ
“ขอบคุณนะ”  วินยิ้มครั้งแรก หลังจากเหตุการณ์บนรถ
“อม สองเอฟดิวิน . . . หายแน่” แมทเรียกยาอมโดยย่อชื่อของมันจนเหลือแค่ FF แล้ว
เรียกว่า สองเอฟ (Fisherman’s Friend – FF) วินไม่เคยได้ยินใครเรียกแบบนี้เลยจนถึง
วันนี้
วินเอายาอมเข้าปากได้ไม่ถึง 10 วินาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก
“AUM” ชื่อเพื่อนตัวดีปรากฏขึ้น
“อั้มโทรมา” วินบอกแมท ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ ยังไม่ได้รับ
“รับสิครับ - - รับเหอะ” แมทพูดเพราะอีกแล้ว (ปลื้มจริง ๆ)
“เหวย . . . ไงเมิง” วินรับตามสไตล์
“เชี่ย . . . นี่เมิง –ตู๊ด- กันบนรถหรอว้ะ - - กรุอยู่ซิสเลอร์ บอกผะ-อัวเมิง มาเลี้ยงพวกกรุ
บัดเดี๋ยวนี้เลย”   ยัยอั้มเพื่อนรัก (สมัยนั้น) พูดจาหยาบคายเป็นชุดออกมาทางโทรศัพท์
โชคดีที่อัจฉริยภาพโทรศัพท์ไม่เหมือนปัจจุบัน ที่เสียงมันไม่กระหึ่มเผื่อแผ่ชาวโลกรอบข้าง
เหมือนปัจจุบัน ที่ขึ้น BTS ทีไร เห็นอาม่าโฟ่แตกกับคู่สนทนา ทำเอารู้หมดว่าเจ๊แกมี
ปัญหาอะไรกัน
ถ้าแมทได้ยิน ไม่อยากจะคิดเลยว่าแมทจะมองอั้มยังไง เผลอ ๆ จะมองวินยังไงที่มีเพื่อน
แบบนี้ ลืมบอกไปว่า  วินไม่เคยได้ยินคำหยาบจากปากแมทเลย แมทเป็นลูกที่ดี ท่าทีเป็น
ผู้ดีมีสกุล เรียนโรงเรียนดีใช้ได้ ไม่ใช่รัฐบาล ไม่ใช่เอกชน และไม่ใช่อินเตอร์ฯ (ขอบอกแค่นี้
หละนะ) วินเองก็ไม่รู้มาคบเพื่อนคนนี้ได้ไงเหมือนกัน (เวนกำ) ทางบ้านวินเองก็อบรมมา
ดีใช้ได้ไม่แพ้แมทเลย นามสกุลของพ่อและแม่ของวิน ถ้าพูดถึงนี่ ไม่มีใครไม่ร้องอ๋อ
แต่ไม่ใช่นามสกุลเส้นใหญ่ หรือมีคนทำงานการเมืองมีชื่ออะไรหรอก แค่มันเป็นตระกูล
ใหญ่ มีคนรู้จัก . . บอกเอาพอยาไส้ก็พอเนอะ
“ถ้าจะทำอย่างนั้นจะมาที่นี่ทำไม - - แล้วเราก็จะไปกินฟูจิหว่ะ” ปกติวินจะใช้คำของพ่อ
ขุนฯ แทนคำว่าเรา แต่ด้วยแมทอยู่ตรงนั้น ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ
“แหมคุณวิน...ผีผู้ดีทรงร่างเมิงเลยนะ - - ผะอัวเมิงอยู่ตรงนั้นอ่ะสิ” วินาทีนั้นอยากจะเดิน
ไปหาอีเพื่อนตัวดีนี่ที่ซิสเลอร์แล้วเอามันทำสลัดบาร์เสียตรงนั้นจริง ๆ
“เออ ไม่ไปอ่ะ กินกันไปเหอะ. . . ไม่ชอบซิสเลอร์ด้วยอ่ะ”
นี่คือเรื่องจริง ถ้าใครรู้จักวินจริง ๆ มาอ่านคงชัดขึ้นว่าวินคือใคร เพราะวินไม่ชอบซิสเลอร์
เอาซะเลย ในชีวิตนี้กินมาทั้งหมด 4 ครั้ง และล้วนจำใจไปกินทั้งสิ้น
“เออสัส” แล้วมันก็วางไป
“ทำไมหละ - - วินไม่ไปหรอ...เพื่อนอุตส่าห์ชวน” แมทถาม
แมทนี่ก็เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวก็อยากอยู่กันส่วนตัว เดี๋ยวอย่างนั้น เดี๋ยวอย่างนี้
ซึ่งเป็นมากขึ้น ในช่วงที่คบกันได้ซักพักนั่นเอง
“เวลาส่วนตัวอ่ะ - - เริ่มวันนี้แหละแมท...วินนึกออกแระ วินอยากกินกุ้งทอดเทมปุระ”
กุ้งเทมปุระใครจะชอบที่ไหนก็ตาม วินไปมาหมดแล้ว ชอบของฟูจิที่สุด (ขอค่าสปอนเซอร์
ด้วยถ้าผู้บริหารฟูจิได้มาอ่าน)
“อืมเอาดิ - - แมทก็อยากกิน. . . แต่วินหายปวดหัวแล้วใช่มั้ย” ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่า
ลูกอมสีหิมะเม็ดวิเศษนี้มันจะกลบกลิ่นน้ำหอมมฤตยูนั่นเสียหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว
(และในเวลาต่อมาอีกเช่นกันแมทหันมาใช้สเปรย์ฉีดรถแทนก้อนปรับอากาศนั่น ซึ่งหอม
กว่ามาก ๆ . . . แมททำเอาใจวินทุกอย่างจริง ๆ)
“เออแมท ยาอมนี่ดีนะ ซื้อได้ที่ไหนอ่ะ วินไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” วินปล่อยแมลงเสร่อ
ออกไปเต็มสตรีม
“อ่อ ฟิชเชอร์แมนเฟรน. . . กินได้หมดเลยนะวินเจ็บคอ ไอ มึนหัว ง่วงนอนอะไรก็ช่วยได้
หมด” ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่แมทว่าจริง ๆ ตอนวินเอนทรานซ์ ง่วงมากฟิชเชอร์แมนเฟรนเม็ด
เดียวตื่นไปถึงเย็นเลยทีเดียว 
“ร้านยาทั่วไปมีหมดแหละ เซเว่นก็มีนะแต่ต้องสาขาใหญ่ ๆ หน่อย  วัตสันก็มี”
แมทอธิบายเสร็จสรรพ

พอเราไปถึงฟูจิ ก็ต้องรอคิว (เหมือนปัจจุบันไม่มีเปลี่ยน ของเค้าอร่อยจริง) เวลาเราไป
ไหนที่ต้องรอคิว แล้วต้องจองด้วยชื่อ แมทจะจองชื่อว่า “มิน” ทุกครั้ง เป็นการเอาชื่อเรา
สองคนมาผสมกัน . . . คิดได้จริง ๆ อ่ะแมท ^^
วันนั้นเป็นวันศุกร์ คิวยาวมหาศาล แต่ด้วยความที่เรามาแค่สองที่ เลยได้ลัดไปหลายคิว
อยู่เหมือนกัน พอเข้าไปนั่ง ก็จัดการสั่ง อาหารก็มา
สรุปวันนั้นแมทไม่ได้สั่งกุ้งทอดเทมปุระ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองบอกก่อนหน้านี้ว่าอยากกิน
เหมือนกัน  แมทหันไปสั่งพวกข้าวปั้น ปลาดิบ ซึ่ง 1 ที่มีแค่คู่เดียว และก็ราคาไม่ต่ำกว่า
คู่ละ 50 ทั้งนั้น แมทสั่งมาหลายคู่เหมือนกัน จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่จำได้ว่ามีหน้ากุ้ง
กับปูอัด ซึ่งแมทสั่งประจำ ทุกครั้งที่เราไปทานอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม
(ไม่อยากจะรำลึกเลยแต่ก็ขอหน่อย การคบแมททำให้วินกินวาซาบิเป็น กินเผ็ดได้ กระทั่ง
เรื่องการแต่งตัว แมทเป็นคนเนี๊ยบมาก ชุดนักเรียน ถ้ายังไม่ถึงบ้าน เสื้อไม่มีหลุดออกจาก
กางเกงสีดำเข้มไม่มีด่างเรียบตึงเช่นเดียวกับเสื้อ เข็มขัดเงาวับทั้งหัวเข็มขัดทั้งสายเข็มขัด
วินก็ได้มาจนติดเป็นนิสัยจนถึงทุกวันนี้ . . . และอื่น ๆ อีกมากมาย)

สรุปวันนั้นก็จบลงด้วยดีแมทไปส่งวินที่ปากซอยบ้าน  เพื่อให้ดูเหมือนว่าวินเดินเข้าบ้าเอง
แต่จะดูลาดเลากันก่อนว่ามีแม่บ้านยืนกวาดหน้าบ้านหรือใครในบ้านออกมาหน้าบ้าน
รึเปล่า วินถึงจะลงจากรถ (แต่เพื่อนบ้านแถวนั้นคงเห็นแหละ)
อ้อ . . . ลืมบอกไปว่าทุกทีวินจะขับรถไปโรงเรียนเอง แต่ตั้งแต่คบแมท  ทุกวันศุกร์ วินจะ
ไม่ขับรถไปเรียน โดยจะนั่งรถไปกับน้องสาวซึ่งพ่อไปส่ง  (ซึ่งปกติพ่อจะไปส่งน้องตอนเช้า
ส่วนครึ่งชั่วโมงต่อมาวินจะขับรถตามไป เนื่องจากวินตื่นสายกว่าน้องสาวนั่นเอง แต่วัน
ศุกร์ก็ต้องตื่นเช้าขึ้นหน่อยแค่นั้น)

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
***ขอบคุณทุก ๆ คนเลยสำหรับกำลังใจ***
เป็นปลื้ม ๆ ^_^

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1:  ตามมาแว้ว แง้วววว

 หวานซ้า พี่จ๋าาา

มาช่วยดันกระทู้เจ้าค่า ฮี่ๆ   :m23:




 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






อาจารย์..สีฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาให้กำลังใจเรื่องใหม่ครับ

ต่อเร็วๆๆ นะ กำลังสนุกเลย
:L2: :L2:

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
น่ารักกันจังคู่นนี้ :o8:

ตอนต่อไปจะน่ารักแบบนี้ไหมน้า  :sad2:

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 3 เอาแล้วไง...ความหวั่นไหว


หลังจากถึงบ้านแล้ว ประมาณ 2 ทุ่ม อั้มก็โทรเข้ามาที่บ้าน
“เห่น...โล๊” สำเนียงอั้มประมาณนี้จริง ๆ
“เออว่าไง” วินตอบกลับไป
“เป็นไงมั่งเมิง วันนี้ไม่ได้เดินด้วยกันเลย ไม่ได้เม้าท์เลยหว่ะ กรุเจออีส้มดำด้วย”
ส้มดำจริง ๆ แล้วชื่อส้ม แต่เนื่องจากเรามีเพื่อนชื่อส้มถึง 3 คน จึงต้องดึงเอกลักษณ์มา
ต่อท้ายชื่อ ส้มดำเป็นเพื่อนเก่าอั้ม ซึ่งขณะนั้น ส้มดำเลิกคบกับอั้มไปแล้ว พร้อมทั้งอั้มยัง
ปฏิบัติการแฉความร้าย (ที่จริงมั่ง แต่งขึ้นเองมั่ง) ของส้มดำให้เพื่อน ๆ คนอื่นฟัง อั้มเป็น
คนที่มีภาวะเทพพูดอะไรคนฟังหมด ทำเอาส้มดำมีเพื่อนเหลืออยู่ 2 – 3 คนกันไปเลย
 (ซึ่งปัจจุบันอั้มหมดภาวะเทพไปแล้ว และเหมือนกรรมตามสนอง ไม่มีเพื่อนคนไหนเลยที่
คบอั้ม ยกเว้นเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัย และวิน ซึ่งยังติดต่อกันอยู่บ้าง)
“เออ...เดอะมอลล์มันบ้านเมิงรึไง - - มันถึงไปเดินเจอเมิงไมได้อ่ะ” วินรำคาญมากเวลา
อั้มเอาเรื่องส้มดำมาเล่าให้ฟัง (ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็โอเคเลย เพราะวินเบื่อเรื่องส้มดำแล้ว
อยากฟังเรื่องใหม่ 555)
“เอ้อออ...เพื่อนกันอ่ะ เอาเหอะ ๆ - - แล้วทำไมวันนี้โทรไปไม่รับ ทำไมลงมาจากรถช้า
แล้วทำไมไม่มาเจอกันไม่มากินข้าวด้วยกัน” อั้มเป็นคนแบบนี้เสมอ ๆ อยากรู้อะไรจะถาม
รวดเดียว ม้วนเดียวจบ ถ้าฟังไม่ทัน มันจะถามใหม่เหมือนอัดเทปไว้เลย
“เออ...เราก็ว่าจะบอกแกหว่ะ - - คือทุกวันศุกร์อ่ะ สงสัยพวกแกจะติดรถไปไม่ได้แระ”
วินเกริ่นแบบตรง ๆ
“ไมว้ะ” อั้มถามแบบสั้นๆ
“ก็วันนี้ ที่ลงจากรถช้า เพราะแมทไม่พอใจเราอ่ะที่ชอบพาเพื่อนมาด้วย” วินไม่ได้นึกถึงสิ่ง
ที่สัญญาหรือ คิดจะรักษาคำพูดที่ว่า ‘วินไม่ใช่คนแบบนั้น’ ไปได้อย่างไรกัน นี่วินกำลังจะ
ทำให้เพื่อน ๆ เกลียดแฟนตัวเอง
“เห้ย ! จริงหรอ - - แมทมันไม่ชอบพวกกรุหรอ” อั้มเสียงอ่อยไป
“ป่าว ๆ - - มันคงอึดอัดน่ะอั้ม... บอกว่าอยากมีเวลาส่วนตัวกับเรามากขึ้น อีกอย่าง
อาทิตย์นึงเราเจอกันครั้งเดียวเอง - - คงอยากมีความเป็นส่วนตัวกันน่ะ” วินยังคงสาธยาย
ตามความเป็นจริงไม่หยุด (เริ่มเห็นความไม่ซื่อตรงของวินแล้วใช่มั้ย อย่าเพิ่งเกลียดกัน
หละ อ่านกันไปก่อนนะ)
“อะไรว้ะ - - บนรถเมิงจะส่วนตงส่วนตัวอะไรกันมาก . . . เมิงทำอะไรให้แมทตอนขับรถ
หรอ เดี๋ยวก็รถคว่ำตาย ห.อ่า หรอก” อั้มเป็นคนที่พูดไม่คิด หรือคิดแล้วแต่จะพูดก็ไม่รู้
“ทำไมหัวเมิงถึงคิดแต่เรื่องแบบนี้ว้ะ. . . กรุไม่ใช่คนอะไรอย่างนั้นแน่นอน” และก็เป็น
อย่างที่วินว่า ไม่รู้ว่าเราทั้งสองคนไม่กล้าเริ่มต้น หรือยังไงถึงได้ไม่ทำอะไรกันเลยเถิดเลย
ตลอด 1 เดือนกว่า ๆ นั้น (เชื่อหรือไม่ว่ามากสุดแมทแค่จุ๊บปากเท่านั้น แม้แต่ French
Kiss เราก็ไม่เคยทำ)
“หย่ะ...พ่อคนเลิศเลอ เพอร์เฟกท์ พ่อคนไม่ฉาบฉวย” อั้มประชดประชัน
“มีอะไรอีกป่ะ จะไปอาบน้ำ” วินพูดกับอั้ม ทั้ง ๆ ที่วินสนิทกับอั้ม แต่มีหลายครั้งมากที่วิน
รำคาญอั้มจนแทบจะเดินหนีไปไกล ๆ หรือวางโทรศัพท์ไปเสียเดี๋ยวนั้น

วินต้องขอเล่านิดนึงว่ามาสนิทกับอั้มได้อย่างไร อั้มเคยเป็นเพื่อนเก่าสมัยประถม (ซึ่งตอน
นั้นแววแรงของเธอก็มีให้เห็นแล้วแพลม ๆ)
พอมาเจอกันตอนม.6 ในช่วงแรก ๆ ก็ยังไม่ได้สนิทกัน วินไปอยู่กับอีกกลุ่มนึง
แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เหมือนจะโกรธกันด้วยเรื่องจุกจิกซึ่งวินก็นึกไม่ออกแล้วว่าเรื่องอะไร
ประกอบกับเพื่อนของอั้มชื่อนิม สาวสวยประจำห้อง ขาวสวย ตาโต ผมสวยราวกับ
พรีเซนเตอร์ยาสระผม มากุ๊กกิ๊กกับวิน (ไม่ได้ชอบจริงจัง ก็แค่แบบกระแซะเด็กใหม่แค่นั้น)
ซึ่งในวิชาลีลาศอาจารย์จะเป็นคนจับคู่ชาย – หญิงให้นักเรียนทุกคน ซึ่งวินอยู่สายศิลป์
เป็นที่รู้กันว่าผู้ชายมันช่างน้อยนิด นักเรียน 50 คน มีผู้ชายรวมวินแล้ว 11 คน
ที่เหลือผู้หญิงก็เต้นด้วยกันเองพออาจารย์เรียกชื่อวิน  นิมก็ยกมือแล้วขออาจารย์ว่า
“หนูขอคู่กับวินได้มั้ยค่ะ” อาจารย์ก็ตกลง  จากนั้นท่าทีของเพื่อนทั้งห้องก็ฮือฮา ประมาณ
ว่า ‘นิมมันช่างกล้า’ แถมเรื่องบังเอิญที่อาจารย์ลีลาศดันสนิทกับพ่อของวิน อาจารย์จึง
ไม่ได้ขัดข้องอะไรมาก จากนั้นก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันตามประสาผู้หญิงม.ปลายในห้อง
พูดจากระแทกใส่กัน ว่านิมสารพัด   นิมก็ส่ง sms (ทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องเรียนด้วยกันแต่นั่ง
คนละแถว) มาบอกว่า “I’m really sorry that I brought you to this position”
อะไรทำนองนี้แปลประมาณว่า ‘เราขอโทษที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้’
จากนั้นวินก็ใกล้ชิดกับนิมมากขึ้นเพราะต้องเต้นลีลาศด้วยกันทุกสัปดาห์ ทำให้วินเข้าใกล้
อั้มมากเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนกัน      (ประมาณว่าเพื่อนในห้องไม่ชอบขี้หน้าสองคนนี้
เหมือนกัน) และวินก็สนิทกับอั้มในที่สุด    แต่พอนิมรู้ว่าวินไม่เล่นด้วย ก็เริ่มห่าง ๆ ออกไป
จะเล่นด้วยได้ไงก็เธอเล่นมีแฟนอยู่แล้วแถมตัวอย่างกับตึก ตัวใหญ่มากกก อยู่ม.5 เองตัว
ใหญ่กว่าเราซักสามคนได้มั้ง  จริง ๆ ก็ไม่ต้องอ้างอะไรหรอก ก็เพราะวินไม่ชอบผู้หญิง
ต่างหาก 555    แต่ตอนนั้นก็คิดว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้ซะอีกนะ เต้นรำด้วยกันทุกวัน
แถมนิมก็เป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่นิสัยไม่ต้องพูดถึง เพื่อนไม่ชอบทั้งห้องขนาดนั้น -*-
นั่นแหละทำให้วินต้องมาสนิทสนมกับอั้ม แต่อั้มก็ใช่ว่าจะมีข้อเสียไปซะหมด อั้มเป็น
เพื่อนที่แทบจะเรียกได้ว่า ‘คอยรับใช้’ แทบทุกอย่าง อั้มชอบบริการเพื่อน ทำให้เพื่อนเห็น
ให้ได้ว่าอั้มทำ อั้มทุ่มเท ประมาณนั้น แต่ก็ด้วยความที่อั้มเป็นคนที่มีปัญหาในการให้
ความจริงใจกับเพื่อน ขาดการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนไป ทำให้อั้มกับวินลดความ
สนิทสนมลงจนเป็นเพื่อนธรรมดาในเวลาต่อมา  ซึ่งสนิทกันน้อยกว่าตอนประถมเสียอีก

กลับมาที่เรื่องหลักของเราต่อ....
หลังจากครั้งแรกที่วินได้เห็นอาการแปลก ๆ และท่าทีกลับไปกลับมาวันนั้นของแมท
เวลาก็ช่วยทำให้วินมองข้าม และลืม ๆ มันไปจนไม่ได้นึกถึงมันอีกตลอดเวลาที่คบกัน
แต่วินก็ระวังมากขึ้น เรื่องการพาเพื่อนมาทำให้แมทอึดอัด ยังมีบ้างบางครั้งที่วินพาเพื่อน
มาด้วย แต่จะพามาก็เฉพาะเวลาจะติดรถไปลงระหว่างทาง ประมาณว่าแค่ทางสั้น ๆ เท่านั้น

ความสัมพันธ์ของวินกับแมทขยับขึ้นเมื่อย่างเข้าเดือนที่ 3 ตอนนั้นเราคบกันได้ประมาณ
เกือบสองเดือนแล้ว  วินเองก็จำไม่ได้ เพราะพอดีในไดอารี่ ช่วงเวลานี้ไม่ได้จดวันที่ เพราะ
เริ่มรู้สึกขี้เกียจบันทึก

ตอนนั้นกำลังย่างเข้าเดือนกรกฎาคมแล้ว 12 กรกฎาคม เราก็จะคบกันครบ 3 เดือน
แมทเป็นคนที่ซีเรียสกับวันครบรอบ (เดือน) ของเรามาก ทุก ๆวันที่ 12 ของทุกเดือน
แมทจะทำให้มันเป็นโอกาสพิเศษเสมอ โดยจะพาวินไปเลี้ยงข้าว และมีของขวัญทุกเดือน
(ซึ่งวินไม่คิดเลยว่าเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้แมทนำมันมาทำร้ายวินอย่างเจ็บปวดพอดูในเวลาต่อมา)

ในช่วงเวลานี้ของการคบกันของเราก็มีคนคนนึงเข้ามาในชีวิตวิน.. “ฟิว” เป็นนักเรียน
โรงเรียนเอกชน ชายล้วนขึ้นชื่อของกรุงเทพแห่งนึงเลยทีเดียว  ฟิวเป็นนายแบบโฆษณา
ตัวนึงในตอนนั้น คิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้จัก ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีงานถ่ายแบบหลายงาน
ทีเดียว และตอนนี้ก็ก้าวเข้ามาเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น  ฟิวชอบเต้น “เบรกแดนซ์”
(เขียนอย่างนี้รึเปล่า) เท่ห์ในสายตาหลาย ๆ คน (แต่ไม่ใช่สำหรับวินแน่นอน)
อย่างที่บอก วินชอบคนเรียบ ๆ เนี๊ยบ ๆ แบบแมทมากกว่า แต่ไม่รู้ยังไงฟิวก็เข้ามาในชีวิต
วินจนได้

ปุ้ยเป็นเพื่อนร่วมห้องม.6 อีกคนของวิน ซึ่งก็รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมเหมือนอั้ม เป็นคนที่
นำพาฟิวเข้ามาในชีวิต เนื่องจากในวันเสาร์นั้น ปุ้ยโทรมาชวนไปร้องคาราโอเกะที่ SF มา
บุญครอง ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ๆ เลย เป็นคาราโอเกะแบบห้องส่วนตัวที่ใคร ๆ ก็เห่อและแห่ไป
ร้องกัน   วินไปพร้อมอั้ม  เนื่องจากสายถนนอยู่ละแวกเดียวกัน (แต่วินก็ต้องไปรับเพื่อน
บังเกิดเกล้าคนนี้ถึงบ้านอยู่ดี) พอถึงห้องวินก็เปิดประตูห้องเลขที่ตามที่ปุ้ยบอกทุก
ประการ วินก็เห็นฟิวนั่งอยู่คนเดียวในห้อง
“โอ๊ะ...ขอโทษครับ ๆ” และรีบเปิดประตูออกไป เพราะคิดว่าเข้าห้องผิด
“เพื่อนปุ้ยรึเปล่าครับ” ฟิววิ่งตามออกมาหน้าตาตื่นปนยิ้ม
“ใช่ค่ะ” เสียงตอบฉะฉานจากอั้มตอบนายแบบโฆษณาร่างสูง หุ่นดีไป
“ห้องนี้แหละครับ ปุ้ยไปเข้าห้องน้ำ - - เดี๋ยวมา” ฟิวบอก
“อ่าวแล้วนัดกันเที่ยง นี่เที่ยงครึ่งแล้ว ยังมากันไม่ครบอีกหรอ” วินซีเรียสมากกับเรื่องเวลา
(ในขณะนั้น...เดี๋ยวนี้สายซะเองแล้ว) ถามไป โดยลืมไปว่า ไอตานี่เรายังไม่รู้จักเค้าด้วยซ้ำ
ก็แผลงฤทธิ์ไปแล้ว

ฟิวตอนนั้นในสายตาวิน ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ถึงมาก ๆ (แต่ไม่มากที่สุดแฮะ อิอิ)
แต่ด้วยความที่วินเพิ่งมีแฟนครั้งแรก คนแรก จึงยังไม่รู้จักคำว่า “เจ้าชู้” (ซึ่งฟิวก็สอนให้วิน
รู้จักในเวลาต่อมานั่นเอง) วินคิดอย่างเดียวเลยว่ามีแมทแล้ว วินไม่สนใจฟิวอย่างสิ้นเชิง
ไม่เลยแม้แต่จะคิด 
พวกเรานั่งกันอยู่สามคนอยู่พักใหญ่ ปุ้ย และเพื่อน ๆ อีก 7-8 คนก็เข้ามา
“อ่าววิน - - แกมาแล้วหรอ” ปุ้ยทำเสียงเล็กแหลมถาม ปุ้ยเป็นคนตัวเล็ก ๆ น่ารักใช้ได้
ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่เสน่ห์อยู่ที่ความตลกของเธอ (ปัจจุบันปุ้ยก็อยู่มหาวิทยาลัย
เดียวกับวิน เพียงแต่คนละคณะ ซึ่งเรายังไป – กลับด้วยกันบ่อย ๆ โดยปุ้ยจะติดรถวินไป
ลงที่บ้าน ซึ่งอยู่เพียงหมู่บ้านตรงข้ามกัน และทุกครั้งที่เราเจอกัน ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยพูด
ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยม.6)

“เออ ซักพักแล้วหละ - - ไปไหนกันมานานเชียว” ปุ้ยเป็นเพื่อนที่ดี วินจึงไม่ต่อว่าอะไรมาก
ที่ปล่อยให้นั่งรอเกือบ 10 นาที อย่างอึดอัดกับคนที่ไม่รู้จักในห้องอีก 1 คน
(ตอนนั้นวินไม่รู้เลยว่าฟิวเป็นนายแบบโฆษณา รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้เฉิดฉายมีราศีดีเท่านั้น
เพราะคงยังไม่มีชื่อเสียงเหมือนทุกวันนี้...แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมากนะ)
“พาเมย์มันไปเล่นเกมตรงเนี้ย - - แกนี่เพื่อนเรา ‘ฟิว’ พอดีพามันมาตัดผมที่ร้านประจชั้น”
ปุ้ยไม่เคยใช้ภาษาพ่อขุนรามฯ จะใช้คำว่าชั้น (ฉัน) กับแก เสมอ
“เมื่อกี๊ เพื่อนปุ้ยวีนด้วยว่า นัดเที่ยงแล้วทำไมยังไม่มา” ฟิวพูดกับปุ้ยเชิงตลก แล้วก็มอง
หน้าวินยิ้ม ๆ
วินยิ้มตอบแบบงง ๆ รู้สึกว่า ไอนี่มันกล้าดีเนอะ  กล้าทำอะไรแบบนี้กับคนที่เพิ่งพูดไป
ด้วยประโยคเดียว แถมเป็นประโยคที่ไม่ดีซะด้วยสิ
“เออ - - วินมันขี้วีน” อั้มโพล่งขึ้นมาแทรกระหว่างปุ้ยกับฟิว ขณะที่วินเอนตัวพิงกับโซฟา
ด้วยความเบื่อว่า วันนี้จะร้องเพลงกันมั้ย
“อ่อ...หรอครับ” ฟิวพูดตอบอั้ม แล้วหันมามองวินอีกครั้ง
จากน้ำเสียงทุ่ม ๆ จากหุ่น และท่าทางของฟิวแล้ว วินไม่ได้เอะใจหรือคิดเลยว่าฟิวไม่แมน
วินยิ้มตอบไป ทำหน้าแบบกำกึ่งยอมรับ – ไม่ยอมรับไป
“ท่าทางไม่เห็นเป็นแบบนั้นนะ - - เราว่า” ฟิวยังพูดต่อไปและมองหน้าอั้มสลับกับมอ
หน้าวิน
“ร้องเพลงเหอะ - - ไปฟังอะไรอิอั้ม...ฟังแล้วต้องเอามาหารสิบ” ปุ้ยตัดบท พาเอาทุกคน
หัวเราะเกือบตกเก้าอี้กับคำพูดของเธอ
พวกเรานั่งฟังปุ้ยร้องเพลง (ซึ่งจ่ายค่าห้องครึ่งนึง เพราะเธอรู้ตัวว่า ไมโครโฟน 2 ตัว 1 ตัว
ต้องเป็นของเธอ) กันอยู่นาน โดยมีอั้มนั่งอยู่ทางขวาซึ่งกันระหว่างวินกับฟิวไว้
และปาฏิหาริย์ก็ช่างกลั่นแกล้งวินให้ต้องเจอจุดเริ่มต้นของหายนะแห่งชีวิต
‘ยัยอั้มเกิดปวดฉี่จากการกินเป๊บซี่ไปเกือบเหยือก’

“เมิง...ปวด ย.เอี่ยว หว่ะ” ไม่มีประโยคไหนของอั้มที่ไม่มีคำหยาบคาย
“ก็ไปสิว้ะ - - วินมันเป็นพ่อเมิงรึไง จะให้มันเปลี่ยนผ้าอ้อมหรอ”
ปุ้ยวางไมค์ชั่วคราวหันมาตอบแทน (เนื่องจากอั้มพูดดังมากว่าเธอปวดฉี่)
“เออเดี๋ยวกรุมา” อั้มบอกแล้วพรวดข้ามเพื่อนๆ  ออกประตูไป
“ไม่ต้องรีบนะอิอั้ม ค่อย ๆ ปล่อย” ปุ้ยพูดใส่ไมค์ พอที่ให้อั้มได้ยิน

ตอนนั้นวินไม่รู้เลยว่าอะไรทำให้ปุ้ยต้องตอบรับแทนที่ไล่ให้อั้มไปเข้าห้องน้ำ หรือพูดว่าไม่
ต้องรีบกลับมา คิดเพียงแต่ว่าเป็นมุขตลกของเธอที่มีอยู่แล้วประจำเท่านั้นประกอบกับ
เป็นที่รู้กันว่าเพื่อน ๆ ในห้องไม่ค่อยชอบอั้มเท่าไหร่ พอ ๆ กับนิม  ซึ่งฟิวมาบอกทีหลัง
ว่าวันนั้นฟิวไม่ได้มาตัดผม ฟิวอยากเลิกกับแฟน เลยให้ปุ้ยหาแฟนใหม่ให้หน่อย  ถ้าเป็นปัจจุบันคงใช้คำว่า ‘กิ๊ก’แทนคำว่า ‘แฟนใหม่’ ของฟิวแน่ ๆ และที่ปุ้ยเข้าห้องมาช้า เพราะ
ก่อนหน้านั้น วินโทรหาปุ้ยว่าอยู่ห้องไหน ทำให้ปุ้ยรู้ว่าวินกำลังจะมาถึง จึงแห่กันออกไป
หมด กะให้วินอยู่กะฟิวลำพัง  แต่ผิดแผนที่วินพาอั้มมาด้วย     เพื่อน ๆ ไม่ได้เชิญอั้มไว้ใน
ตอนแรก วินพามาเอง
หลังจากอั้มออกไปได้ไม่ถึงนาที ฟิวก็กระเถิบเข้ามานั่งใกล้วิน โดยเว้นระยะห่างไว้
ประมาณ 1 คืบได้   ฟิวคงเห็นท่าทีงง ๆ ของวินเลยรีบชวนคุยกลบอาการตกใจของวิน

“วินเรียนที่เดียวกับปุ้ยหรอครับ” บอกตรง ๆ ว่าวินแพ้คนพูดเพราะจริง ๆ
“อาฮะ” วินตอบไปสั้น ๆ ในใจเริ่มสั่น และรู้ว่านี่มันไม่ปกติแน่ ๆ
“ทำไมเพิ่งเข้ามาตอนม.6 หละ” ฟิวถาม วินรู้ทันทีว่านี่ผิดปกติ นี่แสดงว่าฟิวกับปุ้ยต้องคุย
กันไว้ถึงวินก่อนหน้านี้ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่ย้ายโรงเรียนมาฟิว (คนนอก) ยังรู้
“ไปทำอะไรผิดมารึเปล่า” ฟิวแซวทำน้ำเสียงอย่างที่วินไม่มีทางได้ยินจากแมทแน่นอน
“จะถามอ้อม ๆ ว่าเราโดนไล่ออกรึเปล่าหรอ” วินตอกกลับไปทีเล่นทีจริงบ้าง
“ใช่ เราโดนไล่ออก เพราะเอาคัตเตอร์กรีดท้องเพื่อน มันมายั่วประสาท ตอนแรกก็โดนทัณ
บนฑ์ก่อน  แต่มีคดีใหม่ เพราะมีคนใหม่มากวนประสาทอีก เลยเอากรีดหน้ามันซะเลย - -
ก็เลยย้ายมานี่แหละ” วินใส่เป็นชุด หวังว่าฟิวจะรู้ว่าวินพูดเล่น
วินสาบานได้ตรงนี้เลยว่าตอนนั้นไมได้แม้แต่จะคิดสนใจอะไรในตัวฟิว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบหน้าเหมือนตอนแรก ๆ รู้สึกแต่ว่า...เออคุยกันได้

ไม่นานอั้มก็เข้ามา แล้วมองหน้าวิน และฟิวแปลก ๆ ที่กำลังคุยกันอยู่ แล้วไม่พูดอะไรเลย
แล้วก็ไปนั่งแทนที่ฟิว โดยมีฟิวมานั่งแทนที่อั้ม
อั้มเงียบลงไปเยอะมาก ทุกครั้งที่หน้าของวินพ้นหลังของฟิว จะทำให้อั้มมองวินได้ อั้มจะ
มองวินด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก วินมีลางสังหรณ์ลึก ๆ ว่าต้องทำอะไรซักอย่าง อั้มกำลัง
เข้าใจอะไรไม่ดีแน่ ๆ

ถึงคราววินปวดฉี่บ้าง เลยไปเข้าห้องน้ำ โดยที่วินเอ่ยปากชวนอั้มให้ไปเป็นเพื่อน เพราะ
อยากคุยกับเธอพอดี แต่อั้มปฏิเสธและบอกว่าปวดท้องประจำเดือน ซึ่งภายหลังอั้มเฉลยว่า จะดูซิว่าฟิวจะตามไปมั้ย
ซึ่งฟิวก็ตามมาจริง ๆ   ตอนแรกที่วินเข้าห้องน้ำยังไม่เห็นฟิว แต่พอเปิดประตูออกมา ฟิวก็
ยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า
“อ่าว”  วินอุทานขึ้น
“อ่าว...ครับ” ฟิวพูดตอบ พยักหน้าเชิงว่าทัก
ขณะที่วินล้างมือ ฟิวยืนพิงขอบอ่างอยู่ห่างไป 1 อ่างล้างหน้า   พอวินเช็ดมืออะไรเสร็จ
ก็ถามว่า
“มาทำอะไรเนี่ย - - ยืนเฉยๆหรอ”
 วินรู้ทันทีว่านั่นเป็นคำพูดแรกที่เปิดฉากอะไรต่อมิอะไรได้
“ป่าว มารอวิน” ฟิวตอบหน้าตาเฉยมาก ๆ
“ทำไม - -เพื่อน ๆจะกลับแล้วให้มาทวงตังค์ กลัววินชิ่งหรอ” วินยังพูดต่อไม่หยุดทั้ง ๆ ที่รู้
ว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย (แย่ที่สุด)
“ป่าว   - - “ ฟิวทำตากลอกไปกลอกมา ก่อนจะพูดคำที่ทำให้วินหน้าชาเหมือนถูกฉีดยา
ชาไปซัก 5 เข็ม
“วินน่ารักดีนะ - - รู้ป่ะ” ฟิวพูดอย่างหน้าตาเฉยอีกครั้ง
“.........” วินพูดไม่ออก มองหน้าฟิว แล้วก็ดึงทิชชู่อันใหม่มาเช็ดมือแบบอึ้ง ๆ ตอนนั้นรู้สึก
ว่ามันชาไปหมด หน้ารู้สึกร้อนเหมือนเป็นไข้ไม่มีผิด
“น่ารักจริง ๆ นะ - - หน้าเหมือนแฟนเก่าฟิวเลย… แค่วินดูดีกว่า” เขาพูดอย่างไม่สะทก
สะท้าน ไม่แม้แต่จะกลัวใครมาได้ยิน หรือไม่กังวลเลยว่าประตูห้องน้ำที่ปิด ๆ อยู่นั้นจะมี
ใครอยู่รึเปล่า หรือว่าเค้าเช็คหมดแล้วก่อนวินออกมาก็ไม่รู้
“กลับห้องเถอะ” วินกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ
ชีวิตดั่งฉากในละคร แขนเป็นมัดๆ ยาว ๆ ยื่นมาบังแล้วกวาดตัววินกลับเข้าไปในห้องน้ำ
อีกครั้ง วินทั้งตกใจ และสติสตังแทบไม่เหลือ นี่มันอะไรกัน เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ
“เดี๋ยวดิ - - เข้าไปก็ไม่ได้คุยแบบนี้” ฟิวจู่โจม เหมือนคนสบโอกาส
“ฟิว... ฟิวจะคุยอะไรกับเรา” เสียงวินตอนนั้นแหบ ๆ เบา ๆ เหมือนไม่มีเสียงเสียเฉยๆ
“วิน - - วินน่ารักจริง ๆ นะ……ฟิวขอเบอร์วินหน่อยสิ แต่ให้เพราะอยากให้นะ อย่าให้
เพราะอยากออกไปจากที่นี่” ฟิวพูดเหมือนไปอ่านนิยายอมตะที่ไหนมา ประโยคมันคุ้น
พิลึก หรือว่าเราเคยดูในละคร
“เอาโทรศัพท์มา” วินพูดห้วนๆ
“อยากให้รึเปล่า หรือว่าต้องให้” ฟิวยียวนมาก ๆ ตอนนั้น รู้สึกโกรธ งง ตกใจ และแอบ
ชอบใจอยู่ลึก ๆ (รู้ตัวเลย)
“อืมให้ ๆ อยากให้” วินตอบไป      “เอามาสิ”
ฟิวยื่นโทรศัพท์ให้ และวินก็กดเบอร์ให้ไป เมื่อวินยื่นโทรศัพท์ให้ฟิวไป ขณะที่กำลังจะ
ออกไปจากห้องน้ำ ฟิวก็เอาตัวเข้ามาขวางไว้อีกที ตามองที่โทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง แล้วก็เอา
โทรศัพท์แนบหู ไม่นานโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงวินก็ดังขึ้น
“โอเค - -ไม่มั่ว” ฟิวเอ่ยขึ้น เมื่อรู้ว่าวินไม่ได้ให้เบอร์ผิดไป
“วินเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวเข้าไปพร้อมกัน...คนอื่นจะสงสัย” ฟิวพูด พร้อมกับเดินเปิดประตู
เข้าห้องน้ำไป   ทำเอาเรางง ว่าทำไมต้องกลัวใครสงสัย นี่เราทำอะไรผิดไปจริง ๆ หรอ
อารมณ์นั้นงงมาก ไม่รู้ว่าตัวเองชอบฟิวแล้วรึยัง ชอบใจที่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรือว่า
อย่างไร...........


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เข้ามาทักทายเรื่องใหม่เคอะ

ยังไงจะเอาใจช่วยนะเคอะคุณน้อง

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาทักทายเรื่องใหม่เคอะ

ยังไงจะเอาใจช่วยนะเคอะคุณน้อง

ขอบคุณฮับ ^^

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2: เย่  ท่านพี่ฟิวมาแล้ว   เชียร์ท่านพี่ฟิวอ่า


พี่ฟิว สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a2:


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
:oni2: เย่  ท่านพี่ฟิวมาแล้ว   เชียร์ท่านพี่ฟิวอ่า


พี่ฟิว สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a2:


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ยูระใจเย็น....

ICEME

  • บุคคลทั่วไป
ปูเสื่อนอนรอ..

เรื่องนี้ถึงจะหวังแค่ไหนก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดละสิ เพราะว่ามันเป็นอดีตที่แก้อะไรไม่ได้แล้วอ่ะ

โฮๆ

อย่างน้อยก็ขอให้ความรักคงอยู่ต่อไป.. :a2:

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ปูเสื่อนอนรอ..

เรื่องนี้ถึงจะหวังแค่ไหนก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดละสิ เพราะว่ามันเป็นอดีตที่แก้อะไรไม่ได้แล้วอ่ะ

โฮๆ

อย่างน้อยก็ขอให้ความรักคงอยู่ต่อไป.. :a2:

น้องยูระ....
พี่วินฝาก น้องให้ความเห็นกับคุณ ICEME หน่อยจิ
ในฐานะคนเขียน มิกล้าเสนอความคิด 555

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
แรก ๆ วินคิดว่า อาจจะรู้สึกว่าเรื่องเดินไปอย่างปกติ
แต่จะเจ็บ ๆ แสบ ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ สัญญา ๆ

ติดตามและเป็นกะลังจายให้วินด้วย

ปล. ถูกต้องที่บอกว่า ความรักจะคงอยู่ต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
นึกว่ามาต่อ

อารมณ์เสีย

ชิส์


อิเจ้  เอิ้กๆ  :laugh:

anston

  • บุคคลทั่วไป
แปลกดีเหมือนกันเนอะ..คนมีแฟนแล้วมักจะเนื้อหอมผิดปกติ..
เห็นมาเยอะละ..สงสัยจะมีกลิ่นพิเศษเย้ายวนใจคน..
ฟิว..ต้องเป็นตัวแปรสำคัญระหว่างแมทกะวินแน่ๆเลย..
แล้วมาต่ออีกน๊า..

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่ามาต่อ

อารมณ์เสีย

ชิส์


อิเจ้  เอิ้กๆ  :laugh:

อย่านะ ๆ เดี๋ยวก็ลงเป็นปึกซะหรอก
ฮี่ ๆ ๆ  :m23:

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป
แปลกดีเหมือนกันเนอะ..คนมีแฟนแล้วมักจะเนื้อหอมผิดปกติ..



จิงนะ พี่ท่าน
อ่านมาหลายเรื่องอยู่
เป็นงี้ทุกที

 o7


ปูเสื่อนอนรอ..

เรื่องนี้ถึงจะหวังแค่ไหนก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดละสิ เพราะว่ามันเป็นอดีตที่แก้อะไรไม่ได้แล้วอ่ะ

โฮๆ

อย่างน้อยก็ขอให้ความรักคงอยู่ต่อไป.. :a2:

น้องยูระ....
พี่วินฝาก น้องให้ความเห็นกับคุณ ICEME หน่อยจิ
ในฐานะคนเขียน มิกล้าเสนอความคิด 555

กำสิ พี่วิน เค้าไม่ใช่เจ้าของเรื่องนิ

แต่ อืม อ่านจบแล้วอะ  บอกได้ว่า  เรื่องนี้ ครบทุกรสชาติ

อ่านไปเรื่อยๆ แร้วจะรุเอง อิอิ

บอกก่อนมากก่านี้ไม่ได้แล้ว เด๋วไม่หนุก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2008 00:42:18 โดย Yurameki »

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 4 ความผิด...ครั้งแรก

ทันทีที่วินไปถึงห้อง ก็เห็นอั้ม กลับมานั่งที่เดิมของเธอแล้ว พร้อมกับเอามือตบเบาะ 2 – 3
ที เพื่อบอกวินเป็นเชิงว่าให้รีบมานั่งตรงนี้ (ที่เดิมของวิน)
“มันตามเมิงไปใช่มั้ย” อั้มเป็นคนไม่เกริ่น ไม่มีวิธีซักถามที่ไม่ทำให้คนตกใจ
“ใครตามไปไหน” ในใจวินรู้อยู่แล้วว่าอั้มหมายถึงอะไร วินยังคงอึ้งไม่หายกับเหตุการณ์
เมื่อสักครู่
“ก็ไอดารานั่นไง - - พอเมิงลุกไป แป๊บนึงมันก็ตามไป” อั้มรู้ว่าฟิวคือนายแบบโฆษณา
“เห้ย ! - - เค้าเป็นดาราหรอ เล่นเรื่องอะไร” คำว่า ‘ดารา’ สำหรับวินทำให้คิดว่าต้องเป็น
นักแสดงจากละคร หรือภาพยนตร์
“ไอนี่...เล่นโฆษณา ‘...ชื่อผลิตภัณฑ์…’ ไงเมิง - - ไม่เคยดูหรอ” อั้มอธิบายต่อ
“เออไม่คุ้นเลย...สงสัยยังไม่เคยดู” วินตอบไปตามจริง
“มันคงเลิกฉายแล้วหละเมิง - - ระวังหน่อยก็ดีนะ กรุว่ามันไม่ธรรมดา อีกอย่างแมทก็รัก
เมิงมากไม่ใช่หรอ” อั้มสวดมาเป็นชุด ดูเธอมั่นใจมากราวกับว่าเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นใน
ห้องน้ำ
“เห้ยอั้ม...นี่เมิงคิดอะไร - - ไม่ใช่แระ” วินทำน้ำเสียงเล่น ๆ
อั้มยังคงมีสีหน้าจริงจัง และสายตาอั้มก็เปลี่ยนความสนใจจากวินไปที่ประตู และอั้มก็
เอนตัวลงนั่งดังเดิม
ฟิวเดินเข้ามาพอดี และมองวินแบบเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่เจอกันอย่างเห็นได้ชัด และ
ลงไปนั่งข้าง ๆ ปุ้ย ซึ่งนั่งอยู่ทางซ้ายของวิน
“กรุว่าแล้ววิน - - เมิงทำงี้ไม่ได้นะ....แล้วแมทหละ” อั้มเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่ถ้าไม่มีเสียงเพลง
หลาย ๆ คนก็คงได้ยิน (แต่ปุ้ยมาบอกตอนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ตอนเรากลับบ้านด้วยกัน
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ปุ้ยบอกปุ้ยได้ยินที่อั้มพูด และรู้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะฟิวมาเล่า
ให้ฟัง และปุ้ยก็ได้หันไปบอกฟิวเดี๋ยวนั้นว่า “วินมีแฟนแล้วนะ” แต่ฟิวเหมือนไม่สะทกสะท้านเท่าไรนัก คงเป็นเพราะตัวฟิวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ยังไม่สนใจเลย)

“อั้ม....เมิง” วินไม่รู้จะตอบอะไร
“เมิงกรุไม่โง่นะ” อั้มพูดสั้น ๆ และนั่งกอดอกเงียบ ๆ ต่อไป
ขณะเดียวกันโทรศัพท์วินก็ดังขึ้น เป็นเสียงเรียกของข้อความเข้า วินหยิบขึ้นมาดู ผู้ส่งขึ้น
เป็นเบอร์โทร ไม่ใช่ชื่อใน Contacts
“นี่เบอร์เรานะ...ฟิว”  ในข้อความบอกถึงเบอร์ไม่คุ้นเบอร์นี้ว่าเป็นของใคร
วินรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ายังไม่ทันได้เซฟเก็บหรือแม้แต่กดออกจากข้อความนั้น
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง (อันเงียบงันระหว่างวินและอั้ม) ทุกคนก็บอกว่าจะไปดูหนังกันต่อ

“วิน  แกต้องไปนะ เดี๋ยวก็สอบแล้ว ไปปลดปล่อยหน่อย” ปุ้ยพูดขึ้นชวน และช่วงนั้นก็เป็น
เดือนกรกฎา ซึ่งเรากำลังจะสอบกลางภาคกันระยะนั้น
ปุ้ยเป็นคนชอบเที่ยว แต่การเรียนเธอก็ไม่เคยเสียเลย ปุ้ยเป็นเพื่อนที่แยกแยะทุกอย่างได้
อย่างลงตัว มีความเป็นผู้ใหญ่ ถึงแม้จะดูตลกก็ตาม เธอก็พูดอะไรที่ทำให้คนเชื่อถือได้
เช่นกัน  และที่โรงเรียนแห่งใหม่ของวินที่นี่ เวลาสอบไม่ว่ากิจกรรมใด ๆ จะถูกชะลอตัว
หรือปิดลงไป เช่น ห้ามใช้สนามฟุตบอลเวลาพัก นอกจากวิชาเรียน ปิดสนามบาสฯ
แบดมินตัน ฯลฯ ทุกคนจะนั่งอ่านหนังสือที่ม้าหิน เป็นภาพที่ขลังและประทับใจมากเลย
ทีเดียว ซึ่งภาพบรรยากาศลักษณะนั้นก็ยังคงมีและเป็นมาถึงทุกวันนี้   เพราะเหตุนี้ทำให้
ปุ้ยเอามาเป็นเหตุผลเชิญชวนวินไปดูหนังกัน

“เอาสิ - - เรื่องอะไรหละ” วินรับคำทันที โดยไม่ได้หันไปถามอั้ม
“กรุไม่มีตังค์นะวิน” อั้มพูดออกมาพอให้หลาย ๆ คนได้ยิน
“ไปเถอะวิน . . . เดี๋ยวก็สอบแล้ว” ฟิวเอ่ยชวนเหมือนไม่ได้ยินอั้มพูดเมื่อกี๊นี้
“เออเดี๋ยวกรุเลี้ยงมึงเอง” วินพูดกับอั้ม (นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวที่วินต้องควักเงิน
ตัวเองเพื่ออั้ม)
“ดูเรื่องอะไรว้ะ” อั้มถามปุ้ย
“นีโม่” ปุ้ยตอบ
“การ์ตูนหรอ” อั้มทำท่าขยาด
“เอนิเมชั่นเว่ย” ปุ้ยตอบ
“สนุกหรอว้ะ” วินเป็นฝ่ายถามบ้าง
“สนุกแก..สนุก - - น่ารักด้วย” ปุ้ยยืนยันราวกับดูมาแล้วรอบนึง ประกอบกับช่วงนั้นไม่มี
หนังอะไรน่าดูเข้าฉาย วินจึงตกลงไปดู ซึ่งก็สนุกอย่างที่ปุ้ยว่าจริง ๆ ทำเอาวินต้องซื้อดีวีดี
แผ่นแท้มาเก็บไว้เลยทีเดียว ปลาตัวโปรดของวินคือ ‘ดอรี่’ เป็นตัวที่ทำให้วินประทับใจ
หนังเรื่องนี้มาก ๆ เลยทีเดียว

“กรุว่า กรุเดินเล่นรอเมิงดีกว่าวิน” อั้มพูดขึ้น
“เออตามใจ - - ถ้าแกไม่อยากดู วินก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินฟรี” ปุ้ยพูดใส่อั้ม น้ำเสียงเรียบ ๆ
“ทำไมอ่ะอั้ม ... ไปเหอะ หนังตั้งเป็นชั่วโมง” วินคะยั้นคะยอ
“ไม่อ่ะ ไปเหอะ” สีหน้าอั้มตอนนั้นเหมือนคนถูกรุม
“ไปเหอะ จะได้เอารอบก่อนบ่ายสาม…เดี๋ยวเสร็จเย็นเกิน”
ปุ้ยพูดพลางผลักประตูห้องคาราโอเกะออกไป
“เอาจริงหรออั้ม” วินพูดกับอั้ม  อั้มพยักหน้าขึ้นกึ่ง ๆ ไม่พอใจเท่าไรนัก
“ดูมั้ยวิน” ฟิวถามขณะกำลังจะออกจากห้องกัน
“ไม่รู้ดิ - - อั้มมันไม่ยอมดู” วินตอบไป
“เมิงไปดูเหอะ - - กรุว่าจะไปโบนันซ่า ว่าจะไปดูรองเท้า” ประโยคนี้คนที่รู้จักอั้มดี จะรู้ว่า
เธอไม่ได้หมายความเช่นนั้น อั้มมาสยามนับครั้งได้ และรู้จักเพียงชื่อโบนันซ่า และรู้ว่าคน
ชอบไปซื้อรองเท้ากันเท่านั้น อั้มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นโบนันซ่าต้องเดินไปทางไหน และที่
สำคัญ อั้มไม่ใช่คนชอบซื้อรองเท้า หรือเสื้อผ้า เพราะเสื้อผ้าไปเที่ยวหรือรองเท้า เธอใส่
ของแม่เธอเกือบทั้งสิ้น (รวมถึงวันนั้นด้วย)
วินลังเลมากที่จะทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว เพราะวินไปชวนอั้มมา แล้วจะทิ้งอั้มเสียเฉย ๆ ลึก ๆ
วินรู้ว่าในใจอั้มคงไม่อยากให้วินไปเสียเท่าไรนัก

“อั้มน่าจะไปนะ - - ถ้าวินเค้าอยากดู...ไปดูเป็นเพื่อนกัน” ฟิวเอ่ยขึ้น
“เพื่อนก็เยอะแยะแล้วนี่...ฟิวกับวินจะได้ทำความรู้จักกันด้วย - - ไปเหอะวิน” อั้มเริ่ม
แผลงฤทธิ์   และนั่นเองก็เป็นการจุดชนวนความเคืองให้วิน วินจึงรับคำไปดูหนังทันที
ทั้งที่จริง ๆ ถ้าอั้มไม่พูดประโยคนั้นเปอร์เซ็นต์ที่วินจะอยู่กับอั้มสูงกว่าไปดูหนังเสียอีก

“เอองั้นกรุไปนะ” วินหันไปพูดกับอั้ม และเดินออกจากห้องทันที
ฟิวเดินตามออกมาติด ๆ โดยปล่อยให้อั้มออกมาเป็นคนสุดท้าย (มาถึงวันนี้วินรู้ตัวเลยว่า
ตั้งแต่วินมีแฟนวินแคร์เพื่อนตัวเองน้อยลงมาก ทั้ง ๆ ที่อั้มก็ค่อนข้างทุ่มเท และคอยรับใช้
ทำนู่นทำนี่ให้วินเสมอ ๆ ในเวลานั้นวินอยากได้ หรืออยากไปไหน แค่โทรหาอั้มเท่านั้น
อั้มจะแต่งตัวรอให้วินไปรับที่บ้านและไปด้วยกันทันที......ขอโทษจริง ๆ นะเพื่อน)

วันนั้นเราดูหนังกันทั้งหมด 7 คน โดยมีวิน ปุ้ย ฟิว และเพื่อนอีก 4 คน โดยอั้มไม่ได้ดู และ
มีเพื่อนกลับไปก่อนอีก 2 คนวินนั่งตรงกลางระหว่างปุ้ยกับเพื่อนอีกคน  ปุ้ยนั่งคั่นระหว่าง
วินกับฟิวทางด้านขวามือ โดยวินเป็นคนบอกให้ฟิวเข้าไปนั่งก่อน และผลักให้ปุ้ยตามไป
จากนั้นวินจึงตามไป  เพราะเวลานั้นรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว คำพูด สีหน้า ท่าทางของอั้มที่มีต่อ
วินในเรื่องของแมทมันวนเวียนอยู่ในหัว แต่พอหนังฉาย ความสนุก และความฮาของดอรี่
ก็ดึงวินออกจากอารมณ์ขุ่นมัวชั่วคราว

เมื่อหนังจบ วินก็หยิบโทรศัพท์โทรหาอั้มทันที
“อยู่ไหนเนี่ย” วินถามอั้ม
“เออพอดี เมื่อกี๊กรุโทรหาพี่โซดาแล้วเค้าอยู่แถวสีลมพอดี กรุเลยกลับมากับเค้าแล้วอ่ะ - -
กรุไม่กล้าโทรบอกเมิงเพราะไม่รู้หนังจบเมื่อไหร่” อั้มพูดน้ำเสียงโทนเดียวกัน ออกแนวเย็น
ชาเล็กน้อย  (พี่โซดาคือแฟนของอั้มในขณะนั้นซึ่งคบกันได้ 6-7 เดือนแล้ว พี่โซดาเป็นคน
ท้วม ๆ ถึงอ้วน เป็นคนขาว หน้าตาหวาน ๆ ซึ่งก็เป็นสเปกของอั้มที่ชอบคนอ้วน ๆ ตอนนั้น
...แต่ปัจจุบันไม่รู้อย่างไร อั้มหันมาคบทอมแทนแล้ว แถมรวยอีกต่างหาก นี่คือข้อมูล่าสุด
ที่วินรู้จากอั้ม ไม่รู้ว่ายังคบกันอยู่รึเปล่าแล้วตอนนี้)
“อ่าว” วินพูดสั้น ๆ โดยตอนนั้นฟิวเดินมาอยู่ข้าง ๆ แล้วอ้อมมาข้างหน้าพอดี
“กลับด้วยกันมั้ยวิน” ฟิวถามเสียงดังพอให้อั้มได้ยิน
“นั่นไง - - เมิงมีเพื่อนกลับแล้ว” อั้มมีน้ำเสียงประชดประชันเบา ๆ
“แค่นี้นะอั้ม” วินโมโห  วินคบกับอั้มต้องใช้ฟางหลายเส้นเหลือเกินกว่าจะถึงเส้นสุดท้าย
“อืม” อั้มตอบสั้น ๆ และเป็นฝ่ายกดวางโทรศัพท์ไป
“ให้ฟิวไปส่งนะ” ฟิวเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไร..เราเอารถมา” วินจำไม่ได้ว่าตอนนั้นสีหน้าตัวเองเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าตอบไป
แบบนี้
“นั่นแหละ...ให้ฟิวนั่งไปส่ง” ฟิวเป็นคนพูดจาตอบกลับคนได้ฉะฉาน ไม่มีตก หรือติดขัด
“ปุ้ย กลับกะเรามั้ย” วินหันไปถามปุ้ยที่กำลังสาละวนอยู่กับฝาแก้วน้ำนีโม่อยู่ใกล้ ๆ
“เรากลับกะเมย์หว่ะแก - - เดี๋ยวจะไปทำซาคูกินกันที่บ้านเมย์” ปุ้ยตอบ
“หรอ....” วินรู้สึกผิดหวัง 
“นะ - - ให้ฟิวไปด้วยคน...อยากนั่งไปเป็นเพื่อน - - หรือเป็นอย่างอื่นก็ได้” ฟิวเป็นคนที่
คารมคมคาย แมทไม่เคยทำแบบนี้ แมทเป็นคนตรง ๆ และโรแมนติกอย่างตรงไปตรงมา
ไม่เคยใช้คำพูดอะไรแบบนี้มาก่อน ทำให้วินหลงไปชั่วขณะกับคำพูดนั้น
“อืมได้ ๆ” วินตอบตกลงไป

หลังจากลากับเพื่อน ๆ ฟิวก็เดินไปกับวิน ระหว่างทางจะไปถึงรถฟิวก็ชวนวินคุยสารพัด
หลายเรื่องมาก และคนก็มองฟิวกันเยอะอยู่พอใช้ได้ ทำเอาวินแน่ใจทันทีว่า มีแค่วินและ
คนไม่กี่คนหรอกที่ไม่รู้ว่าฟิวเป็นนายแบบโฆษณา แล้วทำไมเขาถึงกล้าเดินมากับเรา และ
แสดงท่าทีสนิทสนมขนาดนี้ วินคิดเรื่องนี้อยู่ในหัววนไปวนมา และโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“MATT” แมทเป็นคนที่ให้เกียรติวินมาก แมทรู้ว่าวินจะไปเที่ยวกับเพื่อน และดูหนัง
แมทคำนวนและกะเวลาอย่างพอเหมาะ และเลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อโทรหาวิน
(ที่รู้เพราะว่าเป็นเช่นนี้เสมอมา และแมทก็ให้เหตุผลกับวินตลอดว่าทำไม)
วินรู้สึกตกใจกึ่งรู้สึกตัว เหมือนออกจาภวังค์ที่ตอนนั้นมีแต่วินและฟิว และเหมือนนึกขึ้นได้
และเตือนตัวเองว่า ‘นี่แฟนเราโทรมา’ ขณะที่รับโทรศัพท์ วินจำความรู้สึกนึกคิดตัวเองได้ดี
ที่กำลังถามตัวเองว่า ‘นี่เรามาทำอะไรกับผู้ชายคนนี้’
“วิน - -  เสร็จรึยัง” เสียงสุภาพที่คุ้นเคยมาตามสายถามขึ้น
“พอดีเลยแมท... นี่วินกำลังจะกลับบ้าน” วินตอบ
“อย่าเพิ่ง แมทอยู่ พรอพพากันด้า” (Propaganda : สยามดิสคัฟเวอร์รี่) แมทบอก
ขณะนั้นวินอยู่มาบุญครอง จำไม่ได้ว่าบริเวณไหน แต่กำลังจะเดินไปที่จอดรถแล้ว
“แมทมาทำอะไร” วินถามไปสั้น ๆ
“มาซื้อของขวัญวันครบรอบให้วินอ่ะสิ ... ยังหาไม่ได้เลย แมทอยากพาวินไปเดินเล่น
แล้วเลือกกัน แมทว่าวินมาที่ลอฟท์ดีกว่า” (LOFT  ในสยามดิสคัฟเวอร์รี่ที่ไม่รู้เป็นอะไร
ทุกครั้งที่ไปสยาม วินจะต้องเข้าไปเดินดูของตลอด และไปบ่อยมากตลอดเวลาที่คบ
กับแมท)
“หรอแมท...วินกลัวจะกลับบ้านค่ำอ่ะ แมทน่าจะบอกก่อนวินจะได้ไม่ต้องดูหนัง”
วินตอบกลับไป ณ เวลานั้นรู้สึกกึ่งหนึ่งว่าต้องกลับบ้าน อีกส่วนหนึ่งก็ไม่อยากแยกกับฟิว
(แย่มั้ย...อย่างนี้หลายคนคงเรียกว่าเลวรึเปล่า)
“จริงหรอ....” เสียงแมทแผ่วลง
“อืมแมทน่าจะบอกก่อนจริง ๆ อ่ะ - - รู้ทั้งรู้ว่าที่บ้านวินเป็นยังไง แมทลืมสนิทเลย รู้แต่ว่า
กะจะมาเจอวิน เพราะนาน ๆ วินจะได้ออกจากบ้าน...แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เราเพิ่งเจอ
กันเมื่อวาน(วันศุกร์) เอง” แมทคนดีตอบกลับมา
วินรู้สึกผิดที่สุด ยิ่งได้ยินคำพูดของแมทที่เข้าใจวินคำนั้น ยิ่งรู้สึกตัวเองต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“งั้นเดี๋ยวแมทเดินไปดูของที่ลอฟท์เอง หวังว่าแมทคงเดาถูกว่าวินอยากได้อะไร”
แมทพูดต่อ
“ถ้าอย่างนั้น...ขับรัถกลับบ้านดี ๆ นะวิน - - โอเคนะครับ” แมทพูดคว่าโอเคนะเสมอเวลา
จะวางโทรศัพท์
“ไม่เอาดีกว่าแมท เดี๋ยววินไปหา” เหมือนวินจะคิดได้แต่ก็สายไป
“ไม่เป็นไรวิน แมทมาถึงลอฟท์แล้ว แมทอยากเลือกให้วินเองด้วย - - ถ้าเดือนนี้ไม่พอใจ
ไว้เดือนหน้าวินมาเลือกเองไง” แมทแสนดียังคงพูดต่อไป ทั้ง ๆ ที่การมาของเขาครั้งนี้ก็
เพื่อมาเจอเรา บ้านแมทและวินอยู่ห่างกันไม่มาก เรียกได้ว่าหมู่บ้านเดียวกัน แต่ถนนคน
ละสาย แต่บ้านของเราทั้งสองไกลจากสยามประมาณชั่วโมงครึ่ง ถึงสองชั่วโมง หรือไม่ก็
ต้องมาทางด่วนซึ่งเวลาเดินทางจะเหลือเพียง 30 – 45 นาที แมทคงจ่ายค่าทางด่วนบาน
เพื่อดั้นด้นมาที่นี่
“เจอกันวันศุกร์นะ แล้วเดี๋ยวแมทโทรหานะครับ”
“ก็ได้ ๆ แมท ... แมทก็อย่ากลับเย็นนะ” วินตอบไป ตอนนั้นวินจำอะไรไม่ได้มาก
เคยมีใครเป็นมั้ย ความรู้สึกนึกคิด มันวิ่งชนกันไปมา ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ วินคงต้อง
ฟอร์แมทตัวเองตรงนั้นเลย มันรวนไปหมดแล้ว และวินกับแมทก็วางโทรศัพท์ไป
และวันนั้น เราก็ไม่ได้เจอกัน ทั้ง ๆ ที่เราห่างกันแค่ระหว่างห้างมาบุญครอง กับ
สยามดิสคัฟเวอรี่

“แฟนหรอวิน” ฟิวถามหน้าตาเฉย วินเริ่มชินกับหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวของฟิวเสียแล้ว
“ใช่ - - ชื่อแมท เค้ามาซื้อของขวัญวันครบรอบที่สยามดิส’ ” วินตอบโดยรู้สึกว่าต้องทำ
อะไรสักอย่างเพื่อลบเลือนความรู้สึกผิด และมันก็ช่วยได้ แต่ก็ไม่หมดเสียเท่าไหร่
เพราะแมทไม่ได้รับรู้ว่าวินกำลังจะกลับกับใคร
“นี่คบกันครบปีแล้วหรอ?” สีหน้าฟิวตกใจพอควร
“ป่าว จะ 3 เดือน” วินตอบ
“แล้วครบรอบอะไร - - ครบรอบเดือนเนี่ยนะ” ฟิวมีสีหน้าเบาใจลง
“อืม...แมทเค้าก็เงี้ยแหละใส่ใจกับรายละเอียดปลีกย่อย” วินพูดอย่งไหลลื่นขึ้น
“เรียนที่เดียวกันป่ะ...ปุ้ยไม่เห็นเคยพูดถึง” ฟิวถามต่อ
“ป่าว เค้าเรียนอยู่ที่ ‘xxxxxxx’ “ วินบอกชื่อโรงเรียนไป
“อ๋อ เด็กในเมืองนี่ . . . ไม่ไกลจากฟิวมากนักด้วย” ฟิวเองก็ไหลลื่นไม่เบา

เราเดินมาถึงรถกันโดยฟิวชวนคุยเรื่องอะไรต่อมีอะไรสารพัดระหว่างทาง
“วินขับรถเข้ากับตัวเองมากอ่ะ” วินไม่เข้าใจหรอกที่ฟิวพูดมันวัดจากอะไร ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ไป

เวรกรรมและผีสางดลใจนั้นมีจริง ขณะที่วินขับลงเพื่อออกจากลานจอดรถในชั้นที่เตี้ยกว่า
วินเจอกับเบนซ์ คอมเพรสเซอร์สีดำเงาวับจอดอยู่ วินจำทะเบียนรถของแมทไม่ได้   แต่จำ
ได้ว่า ที่หน้ารถของแมทมีตุ๊กตาหมูสีชมพูวางอยู่ตรงหน้ารถ ซึ่งเป็นตุ๊กตาตัวแรกที่วินซื้อ
ให้แมทในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ที่คบกันเลย
(วินเป็นคนชอบหมูตั้งแต่ดูเรื่องเบ๊บ หมูน้อยหัวใจเทวดา หลังจากนั้นวินก็ชอบซื้อของที่เกี่ยวกับหมูน่ารัก ๆ มาเก็บไว้ กลายเป็นสะสมหมูไปเลย)
“เห้ย ...” วินชะลอรถช้าลงมาจนรถคันหลังที่ขับตามมาบีบแตรไล่
“อะไรวิน - - อะไร ๆ” ฟิวตกใจ นึกว่ารถเป็นอะไรไป
วินชะลอ และทิ้งระยะห่างไว้ ค่อย ๆ ขับเข้าไปเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของรถไม่ได้อยู่บนรถคัน
นั้น หรือกำลังเดินมาอยู่ในรัศมีบริเวณนี้ เมื่อแน่ใจวินจึงขับต่อไปได้  (แมทคงจะเอารถมา
จอดที่มาบุญครอง และเดินไปที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เหมือนที่เคยทำบ่อย ๆ)

“คันไหนอ่ะ ... รถแฟนวิน” ฟิวนี่ฉลาดไม่เบานะ
“เบนซ์สีดำเมื่อกี๊” วินตอบไป ในใจยังหวั่น ๆ อยู่ อยากขับไปให้พ้นรัศมีห้างจริง ๆ
“ไม่เห็นต้องตกใจอะไรเลยนี่ - - เราไม่ได้แอบคบกันซะหน่อย....” ฟิวพูดออกมาอีกครั้ง
“อืม ๆ” วินตอบไป ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“เราออกจะคบกันเปิดเผย…อ่ะฮ่าฮ่า”
ฟิวพูดต่อประโยคเมื่อครู่และหัวเราะเบา ๆ แสดงทีเล่นทีจริง
“ฟิว . . .” ท่าทางวินจริงจังขึ้นมา ทำเอาฟิวหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“เราไม่รู้ปุ้ยกับฟิวจะทำอะไรนะ - - แต่แฟนเราคนนี้ดีมาก เค้าดีกับเรามาก เราทำร้ายเค้า
ไม่ได้หรอก ถ้าฟิวคิดจะทำอะไร - - แต่ถ้าฟิวไม่คิดก็ดีแล้ว” วินพูดได้ยาวขึ้นหลังจากพ้นที่
คืนบัตรจอดรถ
“เราส่งฟิวที่หมอชิตนะ - - เราจะไปบ้านแมทต่อ” วินใจแข็งขึ้นมาแล้ว รวบรวมสติ และ
เรียกความถูกต้องกลับคืนมาได้ขณะนั้น
“ได้ ๆ ... เห้ยเราขอโทษนะ - - ไม่คิดว่าวินจะซีเรียสอ่ะ.....แต่เราชอบวินจริง ๆ นะ
วินน่ารักดี” ฟิวรีบขอโทษและมีสีหน้ารับผิด แต่ยังไม่วายที่จะต่อท้ายด้วยประโยคที่ทำให้
หวั่นไหว
“อืม . . ขอบคุณ เรารู้สึกดีนะ แต่ตอนนี้เรารักแมท รักมาก ถ้าเราทำผิดต่อแมทตอนนี้เรา
จะไม่ให้อภัยตัวเองเลย - - ฟิวคงเข้าใจ” วินพูดกับฟิวโดยไม่มองหน้า ตามองถนน เพราะ
วินไม่อยากให้สายตาแบบไหนก็ตามมาเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองในตอนนั้น

เราเงียบใส่กันจนถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยฯ ฟิวจึงขอลงตรงนั้น 
“เดี๋ยวเราลงตรงนี้แหละวิน - - วินจะได้ขึ้นทางด่วนข้างหน้าเลย” ฟิวหาข้ออ้างได้ดี
ทำให้วินไม่อึดอัดที่จะต้องปล่อยเขาลงตรงนั้น
“เออ ดีเหมือนกัน รถเริ่มติดแล้วด้วย” ตอนนั้นเกือบ 6 โมงแล้ว วันเสาร์รถเริ่มติดมากพอดี

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
เรื่องราวเริ่มน่าสนใจมากขึ้น

มาต่อเร็วๆๆน้าคราบบบบบบ

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อยามดึก หลังจากได้กำลังใจให้ลงต่อ....อิอิ

ตอนที่ 5 เข้าทางแม่

หลังจากฟิวก้าวลงจากรถไปไม่ถึง 2 นาที น้ำตาวินไหลออกมาแบบไม่ต้องรู้สึกอะไร
เพราะความรู้สึกมันประทังอยู่ลึก ๆ แล้ววินก็ร้องไห้มากขึ้น จนมีเสียงฮือ เสียงสะอื้น
ออกมาอยู่คนเดียวบนรถ   วินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแมททันทีที่ห้ามเสียงสะอื้น
ตัวเองได้ 
“ครับ” แมทรับโทรศัพท์
“แมท - - วินไปรอแมทที่บ้านนะ ตอนนี้กำลังจะขึ้นทางด่วน” วินบอกแมทไป พยายาม
กลั้นเสียงอมน้ำตาของตัวเอง
“ทำไมอ่ะวิน - - วินเป็นอะไรรึเปล่า” ไม่รู้ว่าเสียงของวินมันฟ้อง หรือแมทแปลกใจจริงๆ
“เปล่าแมท - - วินรู้สึกไม่ดีอ่ะที่ไม่ไปเจอแมท ... แมทอุตส่าห์มาหาแล้ว - -ให้วินไปนะ
แมทรีบกลับมาเลยนะ ตอนนี้วินติดอยู่ที่อนุสาวรีย์ฯ ถ้ายังไม่ได้ซื้อของ ค่อยซื้อก็ได้”
วินพูดทุกอย่างให้แมทยอมให้วินไป
“ดีซะอีกวิน - - เรื่องไรแมทจะไม่ให้มา เดี๋ยวแมทไปเลย ... เดี๋ยวนี้แหละ โอเคนะครับ”
“ได้ ๆ แล้วเจอกันนะ” วินตอบ ก่อนจะวางสาย

วินถึงบ้านแมทใน 1 ชั่วโมงต่อมา  วินจอดรถรออยู่ที่หน้าบ้านเยื้องประตูใหญ่บ้านแมทไป
นิดหน่อย   ไม่เกิน 5 นาที คุณแม่แมทในชุดกีฬาก็วิ่งเหยาะ ๆ ออกมาจากบ้าน 4 ชั้นอัน
ใหญ่โต รั้วบ้านแมทยาวมากจนเลี้ยวโค้งเป็นตัว L ฉะนั้นไม่ว่ายังไงคุณแม่ของแมทก็ต้อง
เห็นรถของวินจอดอยู่
“วิน...ลูก” น้ำเสียงใจดี และเป็นมิตรทักเข้ามา ขณะที่วินเปิดกระจกยกมือไหว้คุณแม่
“เข้ามารอในบ้านสิคะ ... แมทโทรบอกแม่แล้ว ว่าลูกจะมา...อีก 20 นาทีคงถึง เห็นว่าอยู่
บนทางด่วนแล้ว”   คุณแม่แมทมีท่าทีที่ต้อนรับวินที่สุด ท่าทางเป็นผู้ดีเต็มร้อย แม้ว่าคุณ
แม่แมทจะไม่ใช่คนผิวพรรณดีอะไรมากมาย และไม่ค่อยชอบแต่งเติมสีสันบนหน้าแต่จาก
บุคลิกท่าทางของคุณแม่แมทก็ดูอบอุ่นมากมาย

“อ่อ...หรอฮะ - - ครับ ๆ” วินทำอะไรไม่ถูก กับท่าทีเป็นมิตรเช่นนั้น และกำลังอึ้งที่แมท
เดินทางเร็วเหลือเกิน (นี่แสดงว่าพอวินโทรปุ๊บ แมทก็ออกมาปั๊บเลย ไม่ได้โอ้เอ้แต่อย่างใด)
วินก้าวลงจากรถ ไขกุญแจเพื่อล๊อคประตู กำลังจะก้าวเข้าไปในบ้าน
“เอามาจอดในบ้านสิลูก ถนนมันแคบเดี๋ยวโดนเฉี่ยวเอา” คุณแม่ช้าไปนิด วินดับเครื่องไป
แล้ว แต่ไม่เป็นไรสตาร์ทใหม่ก็ได้ โดยมีคุณแม่ผู้ใจดี เปิดประตูให้
ในลานจอดรถของบ้านแมท เหมือนบ้านคนรวยในละครไม่มีผิด มีโรงจอดรถแนวขวาง
พร้อมหลังคา ลานจอดเป็นหินอ่อนสีชมพูอ่อน ๆ สามารถจอดรถได้ไม่ต่ำกว่า 5 คัน แต่มี
เพียงรถคุณแม่เท่านั้นที่จอดอยู่ตอนนั้น ถ้ารวมของแมทก็คงมีแค่สองคัน  แมทบอกว่า
บ้านหลังนี้พ่อยกให้แม่หลังจากหย่ากัน เพื่อจะได้ไม่ต้องย้ายไปไหน และให้แมทได้อยู่
บ้านที่สุขสบาย
บ้านแมทใหญ่มาก มี 4 ชั้น รวมห้องใต้ดิน ซึ่งชั้นใต้ดินจะเป็นห้องอ่านหนังสือ และห้องดู
หนัง (Home Theatre) ชั้นแรกเป็นห้องรับแขก ห้องครัว ห้องทานข้าวที่โต๊ะนั่งได้ซัก 10คน ชั้นสองเป็นห้องของคุณแม่แมท  ห้องเสื้อผ้า(ต่างหาก)ของคุณแม่  ห้องกาแฟเล็ก ๆ
และห้องน้ำแยก และพื้นที่กว้าง ๆ ปูพรม มีทีวี โซฟาอยู่เหมือนบ้านอีกหลังอยู่บนชั้นสอง
ชั้นสามเป็นชั้นของแมท เป็นชั้นที่สวยและสบายที่สุดสำหรับวิน มีตู้เกมแบบหยอดเหรียญ
ที่เราเล่นกันในมาบุญครองเลย มีอยู่ 2 – 3 ตู้ มีพวกพินบอล และอะไรอีก วินก็ไม่รู้จัก
มีห้องนั่งเล่นเกม มีทั้งเกมเพลย์สเตชั่น (ไม่รู้ 1 หรือ 2 เพราะวินดูไม่เป็น ไม่เคยเล่นด้วย) ยังมีนินเทนโด และก็อะไรอีกไม่รู้เกลื่นกราด เหมือนกองขยะราคาแพง มุมนั่งอ่านหนังสือ
และชั้นวางหนังสืออีกสองสามหลัง และเก้าอี้สุดจะน่านั่ง ที่วินเคยไปถามราคาก็ตัวละ
เป็นหมื่น ปูพรมสีกรมท่า ผ้าม่านสีเข้าชุด ขอบสีทอง  และห้องนอนซึ่งใหญ่กว่าห้องของคุณแม่ประมาณครึ่งหนึ่ง
หัวเตียงมีกระจกบานใหญ่ (กลางคืนน่ากลัวมาก) เป็นเตียงสำหรับสองคน แต่วินคิดว่า
น่าจะนอนได้ซัก 4 คน และมีตู้เสื้อผ้าแบบ Build – in ในห้องนอน และมีลิ้นชักวางสำหรับ
นาฬิกาทั้งฟอสซิลและดิเซล ยี่ห้อโปรดของแมทอยู่ 8-9 เรือน (คบไปได้ซักพักมันก็เพิ่มไป
เป็นเกือบ 20 เรือน....ป่านนี้คงเป็นร้อยแล้วมั้ง)
คุณแม่ให้แม่บ้านซึ่งเป็นคนลาวชื่อ “แสงเดือน” (ไม่รู้คุณแม่ตั้งให้ใหม่รึเปล่า) นำน้ำแดง
ผสมน้ำรสหวานอ่อน ๆ มาเสิร์ฟ ระหว่างรอ คุณแม่ชวนคุยจนวินหายเขิน
“วินนี่ขาวเนอะลูก - - เป็นคนจีนรึเปล่า” คุณแม่แมทเป็นคนจีน แต่ผิวดำ แต่วินคนไทยแท้
“อ่อ เปล่าครับ - - คุณพ่อไทย คุณแม่ก็ไทยครับ” วินตอบ
“หรอลูก...ตาย ไม่น่าเชื่อ - - ผิวดี๊ดี หน้าใสมากเลยนะ” คุณแม่แมทชอบชมวินอยู่อย่างนี้
บ่อยครั้งที่วินไปที่บ้านแมทอยู่เสมอ วินรู้ว่าตัวเองเป็นคนหน้าใสก็ตอนนั้นแหละ
(แต่ตอนนี้ก็มีกะเค้าแล้วหละสิวหนะ แถมกระเริ่มมาอีกต่างหาก....เห้อสังขาร)
“แมทพูดถึงแต่ลูกบ่อย ๆ ตั้งแต่ก่อนคบกันอีกรู้มั้ย” นี่คุณแม่เตี๊ยมกับแมทไว้รึเปล่าเนี่ย
พูดเหมือนกันอย่างกับถอดคำประพันธ์มา
“อ่อครับ” วินหัวเราะหึๆ ไม่รู้จะตอบอะไรได้ จะบอกว่า ‘รู้ครับ’ ก็คงจะตรงไป
“เดี๋ยวแม่โทรถามแมทให้นะลูก” คุณแม่ทำท่าจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ไร้สายข้าง ๆ
“ไม่เป็นไรคุณแม่ เดี๋ยวเค้าจะรีบ” วินห้ามไว้ทัน
“เออจริงด้วยนะลูก - - เดี๋ยวเป็นอะไรไป แม่ต้องให้วินมาอยู่แทนแมทเลยนะ เพราะแม่มี
ลูกกะเค้าอยู่คนเดียว” คุณแม่ยิ้มให้วินอย่างเอ็นดูเหมือนเป็นลูกอีกคนหนึ่ง (วินก็ได้รับรู้
รสชาติของความรักลูกของคุณแม่ในเวลาต่อมานั่นเอง)

ตอนนั้นเกือบสองทุ่มแล้ว วินแปลกใจมากที่ทางบ้านไม่ได้โทรตาม วินเลยเป็นฝ่ายโทรไป
วินโทรเข้าโทรศัพท์มือถือพ่อ เพราะพ่อจะพูดง่ายกว่าแม่ (พูดง่าย ๆ ว่าแม่ดุนั่นแหละ)

“พ่อ - - วินอยู่บ้านเพื่อนนะ ไม่ต้องห่วง แถวบ้านเราเนี่ยแหละ” วินบอกพ่อ
“อ่าวหรอ...แม่เค้ากำลังจะโทรหาลูกเนี่ย ว่าจะฝากซื้อของที่สยาม” วินรู้สึกโล่งอกทันที ที่
ทั้งสองท่านยังคิดว่าวินอยู่สยาม นั่นหมายความว่า ท่านไม่ได้ว่าอะไร
“เปล่า กลับมานานแล้วอ่ะ” วินไม่ค่อยพูดครับกับพ่อแม่เท่าไหร่ มีแต่น้ำเสียงเท่านั้นที่
แสดงถึงความเคารพ
“แล้วจะกลับบ้านรึเปล่าเนี่ยฮะ” เสียงแม่เล็ดรอดเข้ามาจากโทรศัพท์พ่อ
“เดี๋ยวกลับแหละ พอดีวินรอเพื่อนอยู่ อยู่กับคุณแม่เค้า...โทรมาบอกจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” วินตอบฝากพ่อไป   จากนั้นก็วางสาย
“ที่บ้านคงหวงวินนะลูก - - ลูกชายคนเดียว ... วินมีพี่หรือน้องมั้ยจ๊ะ” คุณแม่ชวนคุยต่อ
“วินเป็นคนโตครับ มีน้องสาว 1 คน” วินตอบ
“อ่อ...” คุณแม่พยักหน้า
“แม่อยู่กับแมทสองคน เง๊าเหงาลูก - - ว่าง ๆ วินมานอนเป็นเพื่อนแมทบ้างสิ ทั้งแมทและ
แม่จะได้มีเพื่อน ลงไปร้องเพลงข้างล่างกัน” คุณแม่หมายถึงห้องดูหนังที่อยู่ชั้นใต้ดิน
“อ่อครับ” วินหัวเราะ พยักหน้ารับคำ
เราคุยกันอยู่ไม่นาน ก็มีเสียงแตรบอกยี่ห้อรถมาจอดอยู่หน้าบ้าน
“มาแล้ว” คุณแม่พูดขึ้น พร้อมลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่างบานใหญ่ใสแจ๋วข้าง ๆ
แมทรีบลงจากรถ พร้อมถุง 6-7 ใบ แล้วบอกให้คนขับรถของคุณแม่เอารถไปจอด (ไฮโซสุดๆ)

“แม่ครับ วินอยู่ไหนอ่ะ”
แมทยังไม่ทันเดินเข้ามาในห้องรับแขก แต่เจอคุณแม่อยู่ที่หน้าประตู เอ่ยถามขึ้น
“แหม - - ใจเย็นสิลูก อยู่ในห้องรับแขกโน่น” คุณแม่ตอบและเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชาย
แมทมีสีหน้าดีใจที่สุด ยิ้มกว้างมาให้ และมานั่งข้าง ยื่นถุงสีเหลืองของลอฟท์ใบใหญ่ให้
นี่เป็นครั้งแรกที่วินมาบ้านแมท  ก่อนหน้านี้มีแต่มาที่หน้าบ้าน ตอนแมทพามาเพื่อมาเอา
ของ และเป็นการแนะนำให้รู้จักเส้นทางบ้านของเขา
“อ่ะ ตอนวินโทรมา แมทก็ถึงรถพอดี” แมทยื่นถุงลอฟท์ให้ คำพูดแมททำให้วินนึกถึง
ขณะหนึ่งที่เห็นรถแมทจอดอยู่แล้วหน้าฟิวก็ลอยมาเตะความคิดวูบหนึ่ง
“อ๋อ ถึงว่ามาถึงเร็วเชียว” วินตอบ
“วินมาถึงนานรึยัง” เวลาแมทอยู่ต่อหน้าแม่จะไม่พูดเพราะหรือหวานมากเกินไปกับวิน
“ซักพักแล้วหละ เกือบ 20 นาทีละ” คุณแม่ตอบแทน
“แมทชวนวินค้างที่นี่สิลูกคืนนี้ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ก็ชวนเค้าไปที่โรงงานกัน” คุณแม่แมทเป็น
เจ้าของโรงงานผลิตสินค้าประเภทหนึ่ง เป็นโรงงานเล็ก ๆ อยู่จังหวัดสระบุรี
“ไม่ได้หรอกครับแม่ - - ที่บ้านวินเค้าหวงวินกว่าลูกสาวซะอีก” แมทยิ้มแล้วตอบคุณแม่ไป
“เดี๋ยวแม่โทรไปบอกที่บ้านให้เอามั้ยลูก” คุณแม่หันมาถามวิน หน้าตาชักชวน และต้อนรับที่สุด
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่” วินตอบอย่างสุภาพ
“เอาดิวิน แมทอยู่กะแม่สองคนเหงาจะตาย” แม่ลูกคู่นี้พูดประโยคเหมือนกันจริง
“ไม่ดีมั้งแมท - - ยากด้วย” วินตอบแมท
“ตามใจ - - งั้นอยู่กินข้าวกันก่อน....วันนี้มีอะไรกินอ่ะครับแม่” แมทหันไปถามคุณแม่
“เยอะเลยลูก ... วันนี้แม่ไปโลตัสกับแสงเดือนได้ของมาเพียบ...มีผัดผัก คะน้าหมูกรอบ
ต้มย้ำกุ้ง และเดี๋ยวให้แสงเดือนทอดไข่เจียวหมูสับให้” คุณแม่อธิบาย
คุณแม่พูดจบวินก็นึกได้พอดีว่าวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า ดูหนังก็กินแต่
ป๊อบคอร์นของปุ้ยไปนิดหน่อย พอคุณแม่พูดแค่นั้นทำเอาวินหิวขึ้นมาทันที
“นะวิน - - กับข้าวตรึมเลยวันนี้ อยู่กินกันก่อนเหอะ” แมทคะยั้นคะยอ
“ได้ดิ วินโทรบอกที่บ้านแล้วว่าอยู่บ้านเพื่อน” วินตอบ
“ดี ๆ - - แล้ววินจะไม่เปิดของขวัญหรอ” แมทถาม  วินลืมเสียสนิทว่าเมื่อครู่แมทยื่นถุง
ของที่ซื้อจากลอฟท์มาให้ (จริง ๆ ของในนั้นไม่ได้มาจากลอฟท์ แมทไปได้ถุงกับกล่องมา
จากไหนก็เป็นปริศนาอยู่มาจนถึงปัจจุบัน)
“อะไรอ่ะลูก ขอแม่ดูด้วยคน” คุณแม่แมทแสดงท่าทีใคร่รู้ จะว่าไปคุณแม่ของแมทมีความ
เป็นวัยรุ่นอยู่มากเลยทีเดียว
“ของขวัญวันครบรอบครับแม่” แมทตอบ
“ไหน ๆ เปิดเลยลูกวิน” คุณแม่เร่งวิน
วินจัดการดึงกล่องใบใหญ่พอสมควรออกมาจากถุง แมทไม่ได้ห่อของขวัญมา แต่กล่อง
เป็นสีน้ำตาลเลยไม่สามารถรู้ได้ว่าข้างในคืออะไร  วินค่อย ๆ ใช้นิ้วแซะเอาเทปกาวที่ผนึก
ไว้ออก  สีหน้าของแมทลุ้นสุด ๆ มองหน้าวินอยู่ตลอดเวลา เมื่อเปิดกล่องก็พบกับเศษ
กระดาษหนังสือพิมพ์เต็มไปหมด  วินหยิบเศษกระดาษออก และเห็นกล่องกระดาษสีขาว
เกลี้ยง ๆ เล็กเหมือนกล่องแก้วน้ำอยู่ เมื่อหยิบออกมาวินก็เปิดกล่องออก เป็นนาฬิกา
แท็ก ฮอยเออร์ (Tag Heuer) 2 เรือน หน้าปัดสีขาวมุกสวยมากกกก สายสีเงินเงาวับ
สวยเตะตาที่สุด
“ใส่คู่กันนะวิน” แมทพูด สีหน้าเบิกบาน ยิ้มกว้างสุด ๆ
“ฮี้ววว” คุณแม่ปรบมือชอบใจ (บอกแล้วว่าท่านวัยรุ่น)
วินไม่อยากจะรับเลย เพราะนาฬิกายี่ห้อนี้ได้ยินมาว่าราคาเป็นหมื่น และหลังจากนั้นวินก็
ไปเช็คราคาในอินเตอร์เน็ท ขายถูกสุดก็ 13,000 บาท
“แมท...” วินยิ้มกึ่งเกรงใจ แบบบอกไม่ถูก
“แมทให้นะวิน ใส่คู่กัน” แมทยังยิ้มไม่หุบ
“แมท - - นี่มันแพงมากนะ” วินกระซิบเบา ๆ ไม่รู้หรอกว่ามันราคาเท่าไหร่ รู้แต่ว่าแพง
แค่เกินพันวินก็ไม่อยากรับแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกลูก - - แม่ให้แมทเป็นคนรูดบัตรเองแหละ แมทเค้าโทรหาแม่ก่อนจะซื้อ
นี่เอง คิดซะว่าแม่ซื้อให้ลูกละกัน” คุณแม่แมทยิ้มกว้างพอ ๆ กับลูกชาย วินเองก็ไม่รู้ว่า
สีหน้าตัวเองตอนนั้นเป็นยังไง เพราะในใจก็ไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทางอย่างไรดี จะดีใจ
เกรงใจ หรืออย่างไรดี เพื่อเป็นการรักษามารยาท
แมทเป็นคนถอดนาฬิกา (Casio) เรือนเก่าของวินออก แล้วใส่เรือนใหม่ที่แมทซื้อให้ด้วย
มือเขาเอง
“แมทรักวินนะ” แมทพูดเบา ๆ ครั้งนี้เบาเสียจนคุณแม่ก็ไม่ได้ยิน (หรือได้ยินแต่ท่านไม่
แสดงความเห็นก็ไม่ทราบ)
“ขอบคุณนะแมท - - ขอบคุณมาก ๆ เลย” วินตอบ วินาทีนั้นเริ่มคิดเรื่องใหม่แล้วว่ากลับ
บ้านแล้วจะเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนดี เพราะถ้าที่บ้านเห็นคงไม่ค่อยดีเท่าไรนัก....

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ตอนแรกยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ
แต่มาแปะไว้ก่อน แหะๆ
 :m23:


anston

  • บุคคลทั่วไป
แมทน่ารักจริงๆเลย..ใส่ใจกับอะไรเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นคิดว่าไม่สำคัญ..
มีแฟนงี้รักตายเลยเนี่ยะ..
ส่วนแม่แมทตอนแรกๆทำไมใจดีงี้ล่ะ..
ไม่น่าเชื่อว่าต่อไปจะร้ายน่าดู..
คงต้องรอดูกันต่อไปเนาะ..
ขอบคุณนะที่มาต่อบ่อยๆ.. :pig4:

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
คุงแม่ไม่เห้นโหดร้ายเยยอะ  :a5:

มาต่อด่วนๆๆๆคับพี่วินนี่  :oni2:

ปล.มาลงเรื่องต่อ หลังจากคอมเม้นผมทุกทีเยย เลยมะทันได้อ่าน  :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด