Special Part..............Ep.1.2…..“เมาจูบ”
[ Tan x Knight ] ? [ Knight x Tan ]
“Knight Part”“ไปแล้วนะครับ” เห็นแม่กำลังยุ่งอยู่ในครัวเพราะต้องคอยสั่งแม่บ้านให้จัดเตรียมยกสำรับอาหารมาวางเพื่อทานอาหารเย็นกัน ส่วนพ่อนั่งดูแฟ้มเอกสารรออยู่บนโต๊ะโดยมีน้องสาวตัวแสบของผมนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ
“อ้าว จะไปแล้วหรอ ไม่กินข้าวเย็นก่อนล่ะ”
“พอดีผมนัดพวกไอ้ปอนด์ไว้ก่อนครับ แล้วเดี๋ยวต้องแวะไปรับไอ้นนท์ด้วยมันบอกว่าขี้เกียจขับรถไปเอง” ตอบพ่อไปส่วนผมสนใจแกล้งไอ้นิวมากกว่า เอาแต่ไลน์กับเพื่อนจนไม่สนใจพี่ชายแบบนี้ต้องสั่งสอนซักหน่อย กล้าเมินพี่แบบนี้ต้องโดนดีไอ้ตัวแสบ
“โอ้ยยยยย! นิวเจ็บนะพี่ไนท์ ผมนิวยุ่งหมดแล้ว หน้าม้าแตกเลยเห็นไหม” หึ เห็นมันทำหน้ามุ่ยแล้วสบายใจขึ้นมาทันที แกล้งยีหัวมันแรงๆไปจนผมกระจุยกระจายปิดท้ายด้วยการหยิกแก้มมันไปสามทีติด โทษของการเมินพี่ชายตัวเองสมควรโดนแล้ว
“แกล้งกันเป็นเด็กไปได้ แล้วนี่ไนท์จะไม่กินข้าวเย็นก่อนหรอ แม่ทำของโปรดให้ไนท์ด้วยนะ” ผมเดินเข้าไปกอดเอวแม่หลวมๆก่อนจะหอมแก้มไปสองฟอดใหญ่ๆ ใครว่าผู้ชายแมนๆแสดงความรักกับครอบครัวไม่เก่งยกเว้นผมไว้คนนะครับ เพราะเรื่องแบบนี้ผมไม่อายแล้วก็ทำเป็นประจำแทบทุกวันอยู่แล้ว
“น้อยๆหน่อยไอ้ไนท์ นั่นเมียพ่อนะเว้ย!” หือ? มีหวงๆ ได้ข่าวเมียพ่อก็เป็นแม่ผมเหมือนกันนะครับ เปิดศึกกันเลยไหม ผมไม่ยอมแพ้แน่ๆสำหรับเธอคนนี้ ยักคิ้วกวนๆส่งให้พ่อไป นี่ถ้าอยู่ใกล้ผมคงโดนแฟ้มเอกสารฟาดกบาลเข้าให้แล้ว
“ไนท์รีบครับแม่ ต้องแวะซื้อของกับไอ้นนท์ด้วย” จริงๆก็หิวนะครับ แต่ผมมีภารกิจใหญ่หลวงรออยู่ ถ้าทำไม่สำเร็จผมได้โดนพวกมันรุมยำตีนแน่ๆ
“เพี๊ยะ! เรื่องเหล้าเบียร์ก็เพลาๆกันหน่อยแม่รู้ทันพวกแกนะ” โดนฟาดเข้าที่แขนไปหนึ่งที โกหกไม่เคยได้เลยสินะแม่ผม รู้ด้วยว่าของที่ไอ้ต้นมันมอบหมายหน้าที่อันทรงเกียรติให้ผมไปซื้อคืออะไร
“มันเป็นผู้ชายปล่อยๆมันบ้างก็ได้คุณ เข้าค่ายแบบนี้จะไม่ให้มีเลยมันจะสนุกอะไร” ถูกต้องที่สุดครับพ่อ พูดโดนใจผมเลย อันเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์และวงไพ่นั้นถือเป็นของคู่กันกับชายเรา ถ้าขาดไปชีวิตคงเหี่ยวเฉาเน่าตายกันพอดี
“คุณก็เป็นซะแบบนี้ เจ้าเนลมันถึงได้เคยตัวไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องซักเท่าไหร่ไงคะ” เอาแล้วไงแม่ผมเปิดประเด็นดราม่า ส่วนไอ้เนลที่ว่ามันคือพี่ชายของผมเองครับ มันแก่กว่าผมห้าปีตอนนี้ทำงานแล้ว เพราะเสือกยึดมั่นในอุดมการณ์อันแรงกล้าของตัวเอง เรียนจบไม่ทันไรมันก็ประกาศตัวว่าไม่อยากช่วยงานที่บริษัทพ่อเลยขอไปเปิดบริษัทออแกไนซ์เป็นของตัวเอง แถมยังเป็นคู่แข่งบริษัทพ่อของตัวเองอีกต่างหาก เจริญเลยบ้านผมพ่อกับพี่ชายแข่งกัน แต่มันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพ่อหรอกนะครับ แค่มันเลือกที่จะเดินบนเส้นทางของตัวเอง และพ่อผมท่านก็เข้าใจ เพราะยังไงครอบครัวก็คือครอบครัว ถึงแม้แตกต่างแต่เราก็ยังรักกัน
“พูดถึงมันแล้วผมก็อยากหัวเราะให้สะใจ เพิ่งแย่งลูกค้ารายใหญ่ของมันมาได้ ป่านนี้คงไปนั่งร้องไห้กระซิกๆอยู่แถวไหนแล้วมั้ง ฮ่าๆๆๆ” เป็นแบบนี้ประจำ ท่านประธานเขาชอบแกล้งลูกของตัวเองให้เดือดร้อนครับ ยิ่งเดือดร้อนลำบากมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น เป็นวิธีการแสดงความรักของท่านประธานเขา
“คุณก็ชอบไปแกล้งลูกอยู่เรื่อย”
“งั้นผมไปแล้วนะครับ ไว้เจอเนลบอกมันให้โทรหาผมด้วยพอดีมีเรื่องจะคุยกับมัน” ผมบอกไปก่อนจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางไว้ขึ้นมาถือ
“อย่าลืมของฝากนิวนะพี่ไนท์”
“เออไม่ลืม เดี๋ยวจะเก็บยอดหญ้าสดใหม่จากท้องไร่ท้องนามาฝากให้น้องสุดที่รักกิน ฮ่าๆๆ”
“ไอ้พี่บ้า! เขาไม่ใช่กระต่ายนะ!” ควาย! พี่หมายถึงควายไอ้นิว แถซะให้ตัวเองน่ารักเชียว แต่นั่นน้องสาวผมซะอย่าง พี่มันโคตรพ่อโคตรแม่หล่อขนาดนี้ แล้วน้องมันจะไม่โคตรพ่อโคตรแม่สวยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมละครับ ครอบครัวอะไรวะโคตรของโคตรหน้าตาดีกันทั้งบ้าน
“เดินทางดีๆล่ะ อย่าไปทำลูกสาวบ้านไหนท้องนะเว้ย” พ่อเห็นผมเป็นคนยังไงถึงได้อวยพรแบบนี้ ผมเป็นคนดีนะครับ อัศวินมีหน้าที่ปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า ผมไม่รังแกใครก่อนหรอกครับ ถ้าคนนั้นมันไม่เลวแบบสุดขั้วจริงๆ
“เข้าค่ายให้สนุกนะไนท์ แล้วอย่าไปทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีล่ะ” แม่ตะโกนบอกผมตามหลัง ผมหันไปยิ้มให้ท่านเป็นการปิดท้าย ก่อนจะเดินผ่านประตูออกมาได้ไม่ทันไรเฟอร์รารี่สีแดงก็ขับเข้ามาเฉี่ยวปาดหน้าผ่านเข้าไปจอดในโรงรถซะก่อน ความเร็วขนาดนี้ถ้ามึงชนกูมีเละคาที่เลยนะเว้ย บ่นถึงไม่ทันไรมันตายยากจริงๆครับพี่ชายผม
“ไงไนท์กี้ มึงกำลังจะไปไหนวะ?” ไนท์กี้ส้นตีน กูชื่อไนท์เฉยๆ ไอ้เชี่ยเนลมาถึงก็กวนกูเลยนะมึง แล้วเป็นหัวหน้าเขาได้ไงวะแต่งตัวไปทำงานแบบนี้ เดฟยีนส์สีดำเข่าขาด เสื้อยืดคอวีสีขาวทับด้วยแจ็คเก็ตหนังสีดำ มีแว่นตาเรแบนสีชาห้อยไว้ที่คอเสื้อ กูก็เพิ่งจะเคยเห็นประธานบริษัทเขาไปทำงานกันสภาพนี้ บริษัทมึงอยู่รอดมาจนป่านนี้ได้กูว่าปาฏิหาริย์แล้ว
“กูไปเข้าค่าย ว่าแต่มึงเถอะทำไมวันนี้กลับบ้านได้?” ทุกทีกูเห็นสองเดือนมึงกลับที นี่คงจะมาหาเรื่องทะเลาะกับพ่ออีกตามเคย แกล้งกันไปแกล้งกันมา เงินทุนที่บริษัทมึงใช้หมุนอยู่ก็มาจากบริษัทพ่อทั้งนั้น ไม่รู้จะแข่งกันทำเพื่อ?! เรือล่มในคลอง ทองหายหมดเพราะไม่มีใครยอมใครนี่แหละ!
“พ่อมึงเล่นกูอีกแล้วว่ะ ตัดหน้าคว้าลูกค้ารายใหญ่กูไปเฉย เซ็งชะมัด!” พ่อกูก็พ่อมึงเหมือนกันนะครับ กูก็เห็นพ่อทำแบบนี้ทุกทีที่ว่างจากการไปดูงานที่ต่างประเทศ
“มึงยังไม่ชินอีกหรอ เดี๋ยวพอพ่อกลับไปดูงานที่ฮ่องกงก็เบื่อจะแกล้งมึงแล้ว” แต่จนกว่าจะถึงวันนั้นบริษัทมึงจะยังอยู่รอดหรือไม่นั้นกูก็ไม่สามารถคาดเดาได้
“เออ แล้วมึงกลับวันไหน?”
“อีกสี่-ห้าวันถึงจะกลับ เนลบริษัทมึงรับเด็กฝึกงานไหม?”
“ทำไมวะ มึงจะให้ใครมาฝึก?”
“พี่รหัสกู พอดีแกหาที่ฝึกงานอยู่แล้วกูเห็นว่าพี่แกฝีมือดีเลยอยากให้ลองไปสมัครที่บริษัทมึง”
“กูไม่ชอบให้ใครใช้เส้นสาย ถึงเป็นพี่รหัสมึงกูก็ไม่เว้น ให้มันมายื่นเอกสารได้แต่กูจะเป็นคนสัมภาษณ์มันเอง ผ่านไม่ผ่านมันขึ้นอยู่กับอารมณ์กูล้วนๆ เข้าใจ!” มีผู้บริหารแบบมึงกูอยากจะเอารองเท้านาบหน้าวันละสามเวลาหลังอาหาร จะเป็นพนักงานบริษัทมึงได้คงต้องใจเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นคงด่ามึงฉิบหายวายวอดไปแล้ว
“อือ เดี๋ยวกูบอกพี่รหัสกู มึงก็อย่ากวนพี่แกมากละ พี่แกเป็นคนดี กูขอย้ำ พี่เขาเป็นคนดี ไม่เหมือนมึง เข้าใจนะ?”
“กูไม่สน ดีแค่ไหน...ถ้ากูพอใจจะ “ร้าย”...ใครหน้าไหนก็หยุดกูไม่ได้ทั้งนั้น!” เจตนามึงชัดเจนมาก กูคิดผิดรึเปล่าวะถึงได้อยากโยนคนดีๆเข้าปากมารร้ายแบบมึง แต่เอาเถอะ พี่รหัสกูเป็นคนดีก็จริง แต่...มึงไม่สงสัยอะไรเลยหรอวะ...ว่าคนมีฝีมือขนาดนั้นทำไมไปที่ไหนเขาถึงไม่รับ...ไว้มึงได้เจอ...มึงจะเข้าใจเอง
“กูว่ามึงร้ายได้ถูกคนแล้ว กูไปก่อนล่ะ”
“ไนท์กี้อย่าลืมของฝากกูด้วยนะ” มันอะไรกันวะพี่น้องบ้านนี้ กูบอกว่ากูไปเข้าค่ายไม่ได้ไปเที่ยว ปวดประสาทโว้ยยยยย!
“มึงจะเอาตีนกูไหมล่ะเนล?”
“กูไปคุยกับพ่อมึงก่อน เดี๋ยวบอกให้คุณสมพรไล่ให้พ่อมึงกลับไปทำงานที่ฮ่องกงเร็วๆเลยดีกว่า” พูดจบมันก็เดินตรงเข้าบ้านไปโดยไม่หันมาสนใจอะไรผมอีก แต่...พ่อกูก็พ่อมึงนะ ส่วนสมพรที่มึงพูดถึงก็แม่มึงเหมือนกันไอ้เชี่ยเนล! กูคิดตามกูยังงงเลย แล้วตกลง พ่อกู พ่อมึง แม่กู สมพร คือใครอะไรยังไงกูสับสนฉิบหาย?! รบกวนคราวหลังมึงช่วยเรียกให้เหมือนที่คนปกติเขาทำด้วยนะ!
“อย่าลืมเรื่องฝึกงานพี่รหัสกูนะเว้ย!” ตะโกนย้ำตามหลังมันไป มันไม่ตอบอะไรกลับมาแต่ยกมือทำสัญญาณว่ามันรู้แล้ว ผมก็เข้าไปนั่งในBMWของตัวเอง เอากระเป๋าเสื้อผ้าโยนไว้ที่เบาะหลังก่อนจะตรงไปรับไอ้นนท์ก่อนแล้วค่อยไปซื้อของกัน
นาฬิกาบอกเวลาเกือบๆตีหนึ่งแต่พวกเราก็ยังไม่ได้ไปไหน เพราะความเอาแต่ใจของไอ้เหนือ มันอยากให้ปอนด์ไปขึ้นรถคันเดียวกับมัน เถียงกันอยู่นาน ผมสงสารไอ้ปอนด์เพราะมันเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว ยอมลงทุนไปแลกเหรียญบาทกับไอ้ต้นไว้ตั้งแต่เมื่อสามวันที่แล้ว แถมยังช่วยขนลังเหล้าลังเบียร์ขึ้นรถไปแอบไว้กับพวกผมอีกด้วย...อยากเดินเข้าไปช่วย...อยากออกหน้ารับแทนแค่ไหน...สถานะเพื่อนสนิทแบบผมคงทำได้แค่มองดูจากตรงนี้เท่านั้น
“มึงไม่เป็นไรนะ?” ไอ้นนท์เดินเข้ามากอดคอผมหลังจากที่บทสรุปคือปอนด์ต้องยอมไปนั่งรถคันเดียวกับมัน ภาพของปอนด์ถูกมือแกร่งโอบไหล่เดินขึ้นรถไปด้วยกันทำเอาผมเจ็บที่หัวใจ...ทำไม...ขอแค่ได้อยู่ใกล้...ขอแค่ได้จ้องมองปอนด์จากมุมนี้...แค่ในฐานะเพื่อนสนิท...ไอ้เหนือมันก็ให้ผมไม่ได้...มึงมันโคตร “ร้าย”
“ขอเหล้าให้กูหน่อย จัดหนักเพียวๆโซดาไม่ต้องน้ำแข็งก้อนเดียวพอ!” รถออกมาได้ซักพัก เพลงก็ถูกเปิดอย่างครึกครื้น ทั้งวงเหล้า วงไพ่ วงแดนซ์ มีให้เลือกสรรอย่างครบครัน ใครสนใจเลือกทางไหนก็ค้นหาแนวทางของตัวเอง ส่วนกลุ่มของพวกผมยึดพื้นที่ชั้นหนึ่งประจำกันอยู่ด้านล่างหน้าห้องน้ำกลิ่นหอมฉุยยามลมโชยมา ทั้งวงเหล้าสุรา+ไพ่ จัดไปแบบเน้นๆ
“งั้นเชิญมึงยกขวดเหล้ากรอกปากเลยเถอะ โซดาไม่ต้องน้ำแข็งก้อนเดียว ห่า อยากจะน็อคตายตั้งแต่แก้วแรกเลยรึไงวะ?!” ไอ้ต้นด่าผมทันทีก่อนจะส่งแก้วเบียร์ให้ผมแทน เป็นแบบนี้ทุกทีสั่งอีกอย่างเสือกได้อีกอย่าง ครั้งก่อนที่หอไอ้ปอนด์กูสั่งเบียร์แต่ได้เหล้า พอสั่งเหล้ากูกลับได้สปาย ฉิบหายมึงอยากตายคาตีนกูใช่ไหม?! อารมณ์กูยิ่งหม่นๆอยู่
“เชี่ยธามมึงอย่าโกงๆๆ สัด! กูเห็นนะมึงแอบดูไพ่กูตอนกูหันไปรับแก้วเหล้าจากไอ้ต้น” เริ่มได้ไม่ทันไรก็เปิดศึกด่ากัน โกงกันเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกมัน แต่เรื่องด่ากันผมก็ยังไม่เข้าใจ จะอะไรนักหนากับเงินแค่ไม่กี่บาท หรือเพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคอต่อให้เสียแค่บาทเดียวก็ขอให้ได้ด่าก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง?
“กูอยากร้องเพลงว่ะ” หมดแก้วแรก ยื่นมือไปรับแก้วที่สองต่อ ผมต้องบอกไอ้ต้นไปว่าขอเบียร์ ผมถึงจะได้แดกเหล้า
“เอาแล้ว หล่อโคตรพ่ออยากร้องเพลง ขอพวกกูหาที่อุดหูก่อนนะ” พูดเกินไปแล้วไอ้แบท เสียงกูออกจะไพเราะ จำได้แม่นเลย วันงานโรงเรียนตอนกูอยู่ม.ปลายปกติกูเล่นตำแหน่งเบส แต่ตอนนั้นคิดอยากจีบสาวเลยขอร้องนำซักเพลง ร้องยังไม่ทันถึงท่อนฮุกกูก็ได้รองเท้ากลับบ้านไปฝากแม่ตั้งหลายคู่ สุดยอดเลยใช่ไหมล่ะพลังเสียงกู
“มึงอยากร้องอะไรมึงร้องเลย เชิญตามสบาย” ไอ้นนท์มึงมันเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ เข้าอกเข้าใจกู หันไปว่าจะกอดทำซึ้งก็ถึงกับอึ้งอยากเปลี่ยนเป็นต่อยหน้ามันซักหมัดแทน ทิชชู่จุกอยู่ในรูหูทั้งสองข้างนั่นคืออะไร? ทำแบบนี้มึงด่ากูเหมือนไอ้แบทยังดีซะกว่า
“ไอ้นนท์แม่งกวนตีน” กระดกเหล้ากรอกปากแก้วที่สองจนหมด รับรู้ได้ว่าเริ่มมึนๆ
“ร้องไปๆ อยากร้องเพลงอะไรมึงก็ร้องเลย เดี๋ยวพวกกูร้องต่อให้ถ้ามึงไปต่อไม่ได้” ไอ้คิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนเริ่มรำคาญ มันเลยตัดปัญหาโดยการตามใจผมให้จบๆไป
“พยายามจะทำวิธีต่างๆ ให้เธอนั้นรักฉัน...พยายามทุกวัน มอบให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ...เหมือนเดินบนสะพานที่มีปลายทางคือใจของเธอ...ยังคงคิดและหวังจะนำเอารักแท้นี้ไปให้~~~~~” ผมเปิดท่อนแรกก่อน พร้อมรอคนมาสานต่อท่อนต่อไปให้เพราะยังกระดกเหล้ากรอกปากตัวเองอย่างเมามันส์อยู่
“แต่ทำไม เดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที...แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป...อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร~~~~~ กูว่ามันก็ไม่มีอะไรให้คิดยากเลยนะ สิ่งที่มึงต้องทำคือไปขึ้นรถซะ แล้วถ้าเส้นทางมันยาวนักก็จัดเครื่องบินแม่งเลย” ไอ้ต้นเป็นคนร้องท่อนนี้ให้พร้อมเสนอความคิด มันพูดจบทุกคนก็เห็นด้วยชอบอกชอบใจชนแก้วกันใหญ่ อืม...เป็นความผิดกูเองที่เลือกเพลงนี้
“ใจของคนหนอคน...ก็ไม่รู้จะห้ามยังไงให้ลมไม่เปลี่ยนทิศ...และชีวิตจะห้ามยังไงให้เธอไม่ไป ไม่มีทาง~~~~~” เอาละเพลงนี้น่าจะไปรอด กูหนีมา Big Ass แล้ว หลังจาก getsunova กูล่มไม่เป็นท่า
“เรามาไกลเท่านี้ก็ดีเหลือเกิน...ขอบใจนะที่เคยมีกัน...มันถึงเวลายอมรับความจริง...เรามาไกลเท่านี้ก็เกินที่ฝัน ตั้งเท่าไร~~~~~ อ้าว ห่า ตอนแรกทำท่าจะเป็นจะตายบอกอีกไกลแค่ไหนจะใกล้กัน พอมาไกลเท่านี้เสือกบอกดีเหลือเกิน เกินที่ฝันแล้ว มันบ้าป่าววะ ถอดใจง่ายฉิบหาย!” อืม เพลงเขาแต่งมาดีๆคนที่เสือกนำมาต่อกันนั่นแหละที่บ้า เชิญมึงเล่นไพ่ต่อไปเถอะไอ้ธาม ทางที่ดีก็อย่าเสือกพูดอะไรขึ้นมาอีกก่อนความอดทนของกูจะหมดลง
“พวกมึงช่วยร้องเฉยๆแบบไม่ต้องออกความเห็นต่อได้ไหมวะ?” ผมโวยวายด่าพวกมันไป
“เริ่มเมาแล้วดิเชี่ยไนท์ จากนี้จับตาดูมันไว้อย่าให้ไปเกรียนใส่ใครที่ไหนล่ะ เดี๋ยวแม่งเป็นเรื่อง” ใครเมา กูยังไม่เมา! แล้วไอ้นนท์มึงทำไมถึงมีสามหัววะ?
“ยังๆๆ กูยังไม่เมา ขอเหล้าต่อ จัดมาไอ้ต้น” ส่งมาแบบฉับไวกรอกใส่ปากได้อย่างต่อเนื่อง แก้วแล้วแก้วเล่าจนเวลาผ่านไปนาน ถึงจังหวัดไหนแล้วไม่รู้ รู้แค่ผมแหกปากร้องเพลงดังลั่นไม่หยุด โหยหวนจนทุกคนแทบอยากเอาตีนมากระแทกปากให้หยุดร้อง แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดผมได้
“ขอให้ความรักมีแต่ความสุขใจ...ไม่ว่าสิ่งไหนเข้ากันหมดทุกอย่าง...ขอให้ความรักเขาและเธอไม่มีจืดจาง...มีเขาเคียงข้างไม่มีความทุกข์ใด~~” หือ? ใครเอาแก้วเหล้ากูไปไหนวะ แก้วกูหายไปหนายยยยยยย! ใครมันบังอาจขโมยแก้วของกูไป มันต้องตายสถานเดียว!
“ไอ้ไนท์มึงจะทำอะไร?”
“แก้ว...แก้วกูไปหนายยยยยยยยยยย!” คว้าไปไม่เจอ เจอแต่อะไรไม่รู้นิ่มๆเด้งๆสองก้อนกลมๆ อุ่นมือดีเหมือนกัน ดึ๋งๆ เด้งดึ๋งดั๋ง ฟิตปั๋งดีจริงๆ
“จุกเชี่ยๆ กะ...แก้วมึงก็อยู่ในมือซ้ายที่มึงถืออยู่นั่นไง...แล้วก็ช่วยเลิกขยำไข่กูเล่นได้แล้วสัด กูจุก!” ถึงว่าแก้วกูทำไมเล็กลง ที่แท้จับเป้าไอ้คิมอยู่นี่เอง
“โทษทีๆ มองไม่ถนัด” แต่...ปวดฉี่ว่ะ
“ไอ้ไนท์ทำไร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” มือใครวะมาจับตัว จับแขน จับขาเต็มไปหมด ปล่อย! กูจะฉี่
“กูจะฉี่”
“นี่มันที่นั่งกู! ไอ้ธามมึงรีบไปบอกคนขับให้แวะปั๊มด่วนๆ ก่อนพวกเราจะไม่มีที่ให้นอนเพราะโดนไอ้ไนท์มันฉี่ใส่ ส่วนมึงทนไว้ก่อนไอ้ไนท์ ใจเย็นๆถึงปั๊มแล้วค่อยปล่อย โอเคนะ” เอาโอเลี้ยงแทนได้ไหม? กำลังอยากซัดคาเฟอีนพอดี หนังตาหนักๆมองไม่ชัดเป็นภาพซ้อนกันยังไงก็ไม่รู้ สงสัยต้องตัดแว่นซะแล้ว
“เวรเอ้ย! เมาแล้วเกรียนทุกทีสิให้ตาย” ทุเรียน? ไม่ชอบว่ะกลิ่นแรง ว่าแต่ใครมันอยากแจกทุเรียนเอาตอนนี้วะ? มันใช่เวลาไหม?!
“.......................” เป๋ซ้าย เซขวา หน้าคะมำ จากนั้นเหมือนรถหยุดวิ่ง
“ถึงแล้วหรอวะ?” ถามไอ้นนท์ที่จับแขนผมอยู่ พันตัวกูเป็นหนวดปลาหมึก พวกมึงเป็นอะไรกันวะเนี่ย
“ยัง! เดี๋ยวกูพามึงไปเข้าห้องน้ำก่อน” อืมๆ กูปวดฉี่อยู่สินะ เกือบลืมไป
มีต่อนะจ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
