Special Part..............Ep.1.4…“บางอย่าง”
[ Tan x Knight ] ? [ Knight x Tan ]
“Tan Part” เจอกันครั้งแรกถูกมันด่า...กวนตีนใส่...ปากร้าย...ไม่เคยให้ความเคารพ...สายตาดูถูก...อยากจะเข้าไปชกซักหมัด...อยากจะซัดให้ปางตาย...มองยังไงก็ไม่ถูกชะตา...เกลียด...เจอกันทีเป็นต้องชวนทะเลาะ...กวนตีนใส่ได้ตลอดเวลา...ปากหมากว่าใครทุกคนที่เจอ...อยากทำให้ใบหน้าหล่อๆนั่นได้นองเลือด...จำฝังใจว่า...แอลกอฮอล์คือสิ่งต้องห้าม...ห้ามเจอมันตอนเมาเป็นอันขาด...ถ้าไม่อยากให้ชื่อของตัวเองถูกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น...เกลียด...แต่ยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ...อยากอยู่ให้ห่างมากเท่าไหร่...กลับต้องเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม...เข้ามากอด...ออดอ้อน...คลอเคลีย...คอยนัวเนียอยู่ไม่ห่าง...ทำตัว “น่ารัก” เฉพาะแค่ตอน “เมา”...ทั้งที่ “จูบ” ...ทั้งที่มันเป็นฝ่ายจูบคนอื่นก่อนแท้ๆ...แต่เสือกบอกออกมาหน้าตาเฉยว่า “จำไม่ได้”... ไม่เคยเป็นแบบนี้...กับผู้หญิงมากมายที่ผ่านเข้ามายังไม่เคยทำให้รู้สึกได้มากเท่านี้...แล้วมึงเป็นใคร...ถึงทำให้กูเสียความเป็นตัวของตัวเองได้ขนาดนี้...มึงมัน...อัศวินตัวร้าย......................แบบนี้...........................มันน่าโมโห!
“มองอะไรอยู่วะ กูเห็นมึงยืนค้างท่านี้ไว้นานแล้ว ถ่ายแบบหรอมึง? มือหนึ่งหิ้วถังปูนอีกมือเท้าสะเอว สายตาคมเข้มมองตรงไปยังด้านหน้า เอียงทำมุม45องศาให้แสงแดดตกกระทบใบหน้าด้านข้าง สายลมสะบัดพัดผมปลิวไสวหอบกลิ่นอายของขี้เป็ดขี้ไก่ในเล้ามาเข้ารูจมูก มึงช่างเด่นเป็นสง่าเลยเพื่อนเอ๊ย หล่อเชี่ยๆเพื่อนกู”
“พูดมากนะมึง”
“แล้วมึงมายกถังปูนทำเชี่ยไรคร้าบ กูขี้เกียจจะโดนผู้หญิงเขาด่าว่าใช้งานมึงหนักแล้วนะเว้ย ห่า มึงสามคนคือสิ่งต้องห้ามเลยรู้ไหม?!”
“.......................” รำคาญเสียงไอ้โรม ขี้เกียจตอบ มันอยากพูดอะไรก็ให้พูดมา
“ห้ามใช้งานหนักเกินไป ห้ามให้ออกแดดเดี๋ยวผิวเสีย ให้แบกอะไรหนักๆก็ไม่ได้กลัวจะเหนื่อยเกินไป ห้ามใช้โน่นนี่นั่นโดยไม่จำเป็น และอีกมากมายสารพัดที่กูถูกสั่งไว้อย่างลับๆ พวกมึงมันมีไว้ตั้งโชว์ แค่ได้เห็นหน้าก็มีแรงฮึดทำงานอะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้น มึงกรุณากลับไปยืนหล่อๆใต้ต้นไม้กับไอ้เหนือและไอ้มินด้วยครับ”
“พูดจบแล้วใช่ไหม?” น่ารำคาญ
“ยัง! มึงยังไม่ตอบกูเลยว่ามึงมองใครอยู่ กูเห็นมึงจ้องตั้งนานสองนาน”
“เรื่องของกู มึงมาเสือกอะไรด้วย”
“นั่นแน่ๆ น้องไนท์ปีสอง ทุกทีเห็นตีกันฉิบหาย เกิดเปลี่ยนใจแล้วหรอวะ รักเกิดตอนวิ่งหนีผีกระสือด้วยกันใช่ไหม โคตรโรแมนติกเลยวะ ฮิ้ววววววววววววว~”
“ยุ่ง! มึงมีอะไรก็ว่ามา”
“มีไม่ตอบๆ แสดงว่ากูมาถูกทาง ฮ่าๆ เอาเถอะกูไม่เสือกแล้วก็ได้ กูแค่จะมาถามมึงว่ากระติกน้ำที่กูให้มึงกับไอ้น้องไนท์ไปเอาจากบ้านลุงชัยมาเพิ่มทำไมมันถึงขาดไปใบวะ ก็เห็นลุงแกบอกว่ามีใบใหญ่ด้วยนี่หว่า”
“ควายเอาไปตักน้ำแดกแล้ว” ถามไม่ดูสภาพเลยว่าตอนนี้กูอยู่ในสภาพไหน ชีวิตกูจะมีอะไรบัดซบไปกว่าการมาวิ่งหนีควายที่ดอนเกิบหายอีกไหมเนี่ย
“อะไรวะ ควาย ขโมยกระติกน้ำหรอ? ควายหมู่บ้านไหนวะ โหดสัด แม่งกูหลอน” เสือกเชื่อกูอีกไอ้โรม ทำไมรอบตัวถึงมีแต่คนชอบทำให้หงุดหงิดนักวะ
“ว่าแต่...มึงใช่ไหมที่ใช้ให้ไอ้เหนือตามไปดูพวกกู”
“เออ ก็กูกลัวมึงกับน้องจะตีกันจนไม่ได้งาน เห็นไอ้เหนือยืนหน้านิ่งหล่อแบบว่างโคตรๆอยู่กูเลยใช้มันไปดูพวกมึง ทำไมวะ?”
“ก็...ไม่มีอะไร แค่อยากบอกว่าทีหลังเวลามึงจะใช้ใครก็ช่วยดูนิสัยมันด้วย ไม่ก็ช่วยขยายความคำว่า “ให้ไปดู” เพิ่มเติมกับคนแบบมันอีกซักนิดก็ดีนะ” ขืนบอกว่าโดนควายไล่มา คงได้อายเพราะโดนไอ้โรมประจานเละแน่ๆ แล้วเรื่องอะไรกูจะบอกให้โง่
“เออๆ งั้นกูไปล่ะ เหล่หนุ่มเสร็จก็กลับฐานทัพด้วยนะครับ สาวๆเขาอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพราะไม่ได้เห็นหน้าแทนจ๋าสุดหล่อแบดบอยกันหมดแล้ว” พยักหน้ารับส่งๆไป เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นพูดน้อย เคร่งขรึม ลับหลังแม่งโคตรจะพูดมากแล้วก็กวนตีนสุดๆ เพราะแบบนี้ไง ถึงไม่อยากนอนร่วมเต็นท์กับมัน สู้ไปนอนกับไอ้เกรียนบางคน...เฮ้ย! กูคิดบ้าอะไรอยู่...มึงชักจะเข้ามาในความคิดกูเยอะเกินไปแล้วเชี่ยไนท์
“มึงวางยากูหรอไอ้ไนท์...............................กูถึงคิดแต่เรื่องของมึงอยู่ตลอดเวลา”
...........................................
.................................
.....................
............
.......
..
“กลุ่มข้างหลังสี่คนนั้นน่ะช่วยเงียบหน่อยนะครับ ต่อไปจะเป็นพิธีผูกข้อมือ ขอให้เข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบและอย่าส่งเสียงดังด้วยครับ”
“มึงเสียงดังทำไมวะไอ้ปอนด์”
“อ้าว เชี่ยธามโยนขี้ให้กู” ได้ยินเสียงไอ้เด็กโง่กับไอ้เด็กบ้าทะเลาะกันเสียงดังกว่าตอนมันคุยกันซะอีก
“ช่วยเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วอย่าส่งเสียงดังเหมือนพวกที่นั่งด้านหลังนั่นนะครับ” หึหึ มองหน้าไอ้โรมที่ได้รับพรไปแบบท่วมท้นใบหน้าจรดส้นตีนไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้ามันดี ตอนนี้เป็นงานพิธีผูกข้อมืออะไรซักอย่าง เพิ่งเคยเห็นเลยรู้สึกสนใจเป็นพิเศษแต่คงไม่มากเท่าไอ้มิน
“อยากได้พรกับเขาด้วยหรอวะไอ้เหนือ”
“.........................” มันไม่ตอบแต่หันไปจ้องไอ้น้องปอนด์แทน จะคุมไม่ให้ห่างตัวเลยหรือไงไอ้ขี้หวง ว่าแล้วก็เหลือบไปเห็นไอ้ตัวแสบ คิดอะไรเลวๆแกล้งมันซักหน่อยดีกว่า
“ทำเชี่ยอะไรของมึงวะ”
“..........................” ยักคิ้วกวนๆส่งให้มันไป ถึงมันอยากจะโวยวายมากกว่านี้แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้เพราะผู้ใหญ่อยู่กันเยอะ คว้าแขนมันได้ก็จับมันลากไปนั่งตรงหน้าตายายสองท่านที่รอผูกข้อมือให้พร้อมกัน เห็นหน้ามันเอ๋อๆงงๆแล้วอดขำไม่ได้ โวยวายแต่ก็ยอมถูกลากมาแต่โดยดี มึงมัน........น่ารักไปแล้วไอ้แสบ
“ทำอะไรวะไอ้แทน กูผูกหลังมึงก็ได้ไม่เห็นต้องผูกพร้อมกันเลย” มันกระซิบเบาๆข้างหูให้ผมได้ยินแค่คนเดียว เพราะคงอายแล้วก็เกรงใจคนอื่นๆ แบบนี้ยิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่
“หุบปากเถอะน่า ผูกเลยครับๆ” จับแขนมันยื่นออกไปให้สองตายายผูกด้ายสายสิญจน์ที่ข้อมือให้เคียงคู่กัน มันมองหน้าผมแบบเคืองๆ คงจะเจ็บใจที่โดนแกล้งแต่ทำอะไรไม่ได้ สองตายายยิ้มให้เรา
“หลานเชื่อในความรั่กไหม่?” ผมกับมันโดนถามคำถามบางอย่าง ภาษาถิ่นโคราชผมฟังออกบ้างเล็กน้อย ท่านคงถามว่าพวกเราเชื่อในความรักไหม?
“ครับ!...ไม่ครับ!” มันกับผมมองหน้ากันทันทีที่ตอบออกไป อะไรวะก็กูไม่เชื่อในความรัก ยังจะมามองหน้าแบบเคืองๆอีก มึงเชื่อก็เชื่อไปสิไม่ต้องมาอาฆาตกู
“โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ มาด่วยกั๋นทำไมตอบไม่เหมือนกั๋นเหล่า”
“ชริ เพราะแบบนี้มึงถึงฟันแล้วทิ้งเรี่ยราด มีเมียเกลื่อนกลาดไปทั่วใช่ไหมไอ้แทน” มันกระซิบพูดกับผมทันที มึงโกรธอะไรกูนักหนากับแค่กูตอบว่าไม่เชื่อในความรักวะ?!
“เป๋นแฟนกั๋นใช่ไหม่?” คำถามนี้น่าสนุก เห็นมันสะดุ้งทำหน้าตกใจแล้วเข้าทางผมเลย
“ใช่ครับ ผมกับมันเป็นแฟนกัน...........โอ๊ยยยยย!” เสียงร้องท้ายประโยคคือผมโดนมันศอกใส่สีข้างไปเต็มๆ มึงแม่งเล่นทีเผลอนะไอ้ไนท์ จุกมาถึงลิ้นปี่ แทบกระอักเลือด
“ไม่ใช่ๆๆๆนะครับ”
“แฟนผมมันขี้อายครับ โกหกผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ดีเลยนะครับที่รัก” ยิ่งเห็นมันโวยวายก็ยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่ ดูๆไปเวลามันเป็นแบบนี้ก็...................................................”น่ารัก” ไปอีกแบบ
“ไอ้แทน!” จ้องหน้าอาฆาตผมอีกแล้ว แต่ก็ช้าไปเพราะตอนนี้สองตายายจับข้อมือทั้งผมและมันผูกสายสิญจน์พร้อมกันเรียบร้อย
“เอ่อ...คุณยายครับทำไมสายสิญจน์ผมถึงน้อยกว่าของมันละ ผมขอเยอะกว่ามันได้ไหมครับ” เรื่องแบบนี้มึงยังอยากเอาชนะกูอีกหรอไอ้ไนท์ คนอะไรจะแพ้ไม่เป็นขนาดนั้น แล้วกูใคร กูแทนนะเว้ย! เรื่องแค่นี้ถ้ายอมแพ้มึงก็ไม่ใช่ไอ้แทนแล้ว
“คุณตาครับ ผมขอสายสิญจน์เพิ่มอีกได้ไหมครับ” พูดปุ๊บคุณตาก็ยิ้มโชว์เหงือกให้ทันทีเพราะฟันหน้าหายไปยกแผง จากนั้นก็คว้าสายสิญจน์จากพานบายศรีมาหนึ่งกำผูกให้ที่ข้อมือผม หึหึ เอาสิ ให้รู้กันไปว่าของใครจะเยอะกว่าใคร
“คุณยายครับผมขอสายสิญจน์ทั้งพานเลยนะครับ” มึงเล่นแบบนั้นเลยหรอวะ ที่ผูกไปแล้วก็จะไม่มีพื้นที่เหลือแล้วนะมึง แต่กูใคร กูแทนซะอย่าง! ยอมแพ้ง่ายๆก็ไม่ใช่ไอ้แทนแล้ว
“เอ่อ คุณตาครับ...”
“มึงสองคนด้านหน้าครับ ช่วยเหลือสายสิญจน์ไว้ให้คนอื่นเขาผูกด้วยนะครับ” เสียงไอ้โรมประกาศดังขึ้นก่อน ไม่อย่างนั้นผมคงได้สายสิญจน์ยกพานแบบไอ้ไนท์มันแล้ว เจ็บใจ เหมือนพ่ายแพ้ยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งมันยักคิ้วกวนตีนส่งให้อย่างผู้ชนะแล้วยิ่งโมโห ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!
“เอาคืนที่มึงแย่งไข่กูไอ้แทน”
“หรอ? กูว่าเรื่องแบบนี้มันใช้แข่งกันไม่ได้หรอกนะที่รัก.............ระวังไว้ให้ดี...คราวหน้ากูจะ “เอา” มากกว่าไข่มึง”
“สัด!”
“ที่รักทำไมหน้าแดงจังครับ อายพี่หรอครับ แฟนพี่น่ารักจัง มาๆกอดหน่อยเร็วคนดี”
“คู่ผัวเมียนั่นน่ะ ทำประเจิดประเจ้อไปรึเปล่าวะ เกรงใจพวกกูที่นั่งหัวโด่กันอยู่บ้าง ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว~” เสียงประสานดังจากปากทุกคน สะใจชะมัดที่แกล้งมันให้อายได้ หน้ามันแดงเป็นแตงโมเลย ให้ตาย...ทำไมมึงถึงน่ารักแบบนี้วะไนท์
“อย่าแซวแฟนกู แฟนกูเขินจนหน้าเปลี่ยนสีแล้วเห็นไหม มาๆที่รักไม่ต้องอายนะครับ”
“มึงพูดเชี่ยไรเนี่ย กูไม่อยู่แม่งแล้ว” ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดมันก็ทนไม่ไหว เดินสะบัดตูดลุกออกไปหน้าตาเฉย
“แกล้งน้องมันแรงไปเปล่าวะไอ้แทน มึงแม่งร้ายว่ะ” ไอ้มินเดินมาพูดกับผม อุตส่าห์สละเวลาอันมีค่าต่อการแสวงหาความรู้มาพูดกับกูได้แสดงว่าเรื่องนี้คงไปโดนใจมึงจริงๆ
“หึ ไม่เท่ามึงหรอกไอ้มิน ถอดหน้ากากแสนดีออกเมื่อไหร่ กูละสงสารเหยื่อมึงจริงๆ”
“กูว่ามึงทั้งคู่นั่นแหละที่ร้าย” เสียงไอ้เหนือดังแทรกขึ้นจากด้านหลัง มันก็ใช่ย่อย เห็นว่าผูกข้อมือกับไอ้เด็กโง่ด้วย
“กล้าว่าคนอื่นนะ มึงแหละตัวโคตรร้าย ปล่อยเด็กไปวิ่งเล่นได้แล้วหรอ ทุกทีเห็นแค่ใครมองก็แทบจะเข้าไปกระทืบเขาอยู่แล้ว หวงเหี้ยๆ”
“มันไปห้องน้ำ” ว่าแล้ว ทุกทีแค่ห่างตัวก็แทบจะงับหัวคนอื่นได้
“กูไปตามเชี่ยไนท์ก่อน ไม่รู้แม่งงอนกูจนเดินหลงไปในดงกล้วยแล้วรึเปล่า” ดูท่าผมจะทำมันอายสุดๆ คงต้องมีเคลียร์ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่จบง่ายๆ
“ไม่มากไปหรอวะสำหรับคนที่เกลียดกัน? แบบนี้มันเหมือน “ชอบ” มากว่ารึเปล่า?” รอยยิ้มราวเทพบุตรแต่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ เบื่อมึงจริงๆเลยไอ้มิน...ที่รู้ทัน
“เสือก!” พูดแค่นั้นก็รีบเดินไปหาไอ้ไนท์ทันที เดินไปไหนแล้ววะเนี่ย มืดก็มืด ไฟฉายก็ไม่ติดตัวไป
“ไอ้ไนท์มึงอยู่ไหน?....ไอ้ไนท์..................................เชี่ยไนท์!”
“เรียกหาพ่องส์หรอ?”
“ลามปามแล้วนะมึง เล่นถึงบิดากู มากไปๆ” เห็นมันยืนมองท้องฟ้าอยู่ไม่ห่างจากเต็นท์นอนมากนัก
“เงียบๆน่า กูจะดูดาว” หือ? หน้าอย่างมึงเนี่ยนะดูดาว โกรธกูจนเป็นบ้าไปแล้วรึเปล่าวะ?
“ไนท์มึงไม่สบายรึเปล่า?” เอามือทาบหน้าผากมันทันที ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า
“เอามือมึงออกไป แล้วช่วยยืนเงียบๆได้ไหม...มึงไม่เห็นหรอว่าที่นี่เงียบสงบแค่ไหน...ใช้ใจฟังสิ...ไม่วุ่นวาย...ไม่มีรถติด...ไม่ต้องเร่งรีบทำอะไร...ผู้คนก็รักใคร่สามัคคี...กินอยู่กันอย่างพอเพียง...กูชอบที่แบบนี้” มันหลับตาลง...ปล่อยให้สายลมพัดผ่านใบหน้า...รอยยิ้ม...ทำให้ละสายตาไปจากมันไม่ได้...เหมือนถูกสะกดให้จ้องมอง...กลมกลืนไปกับธรรมชาติ...แต่สวยงามดูน่าค้นหา...เรียบง่ายแต่ก็โดดเด่น...มึงคงเป็นเจ้าชายจริงๆสินะ..อัศวิน
“..........................” ยอมเงียบ...แต่ไม่ยอมละสายตาไปจากใบหน้ามัน
“ดาวเต็มฟ้าเลย ถ้าเป็นที่กรุงเทพคงไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้แน่ๆมึงว่าไหม”
“เออ........สวย” แต่เป็นคนตรงหน้ากูตอนนี้นะที่สวย
“มึงก็ชอบหรอ?” มันหันหน้ามาพูดกับผม
“อืม................ชอบ..........มั้ง”
“อะไรวะมีมั้งด้วย ดาวสวยขนาดนี้มึงต้องบอกว่าโคตรชอบเลยสิถึงจะถูก” หึ ไอ้เผด็จการ ต้องให้คนอื่นเห็นด้วยกับมึงทุกอย่างเลยรึไง แต่แบบนี้แหละ...กูถึงอยากเอาชนะ
“ไม่ได้...เพราะกูมีอะไรที่ชอบมากกว่าดาวบนท้องฟ้านั่น” หน้ามันดูสนใจขึ้นมาทันที
“อย่างมึงเนี่ยนะ...ก็ไหนว่าไม่เชื่อในความรัก?”
“อยากให้กูเชื่อ............มึงก็มาสอนกูสิ...ถ้าเป็นมึง กูอาจจะเชื่อก็ได้”
“เน่ากว่าปลักควายนอนอีก แหวะกูจะอ้วก” ทำมาว่ากู ตอนกูมองตาทำไมถึงไม่กล้าสบตาวะ เขินกลบเกลื่อนได้กวนส้นตีนโคตร
“มึงเขินก็ยอมรับมาเถอะ เขินพี่แทนหรอครับ น่ารักนะมึงเนี่ย” แกล้งมันอีกซักหน่อย นั่นไง หน้าเริ่มแดงอีกแล้ว กูรู้จุดอ่อนมึงแล้วไอ้ไนท์ เสร็จกูแน่มึง!
“ใครเขินมึงอย่ามั่ว ไปกวนตีนที่อื่นไป กูอยากอยู่คนเดียวเงียบๆอย่างสงบไร้ซาตานรบกวน!”
“รู้ว่าไล่แล้วกูไม่เคยไปก็ยังจะพูดซ้ำซาก เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำนะมึงเนี่ย”
“ไอ้แทน!”
“ครับ...อยู่ใกล้แค่นี้เองพูดเบาๆก็ได้ ไม่โกรธนะ กูแค่ล้อเล่นเอง ไม่พูดแล้วๆ เชิญดูดาวตามใจชอบเลยครับ.........................ขอแค่อย่าไล่ให้กูไปไหนก็พอ” มองสบตามันนิ่ง...อยากให้รู้ว่าประโยคท้ายจริงจังแค่ไหน
“.........................” มันไม่พูดอะไรอีก...เราไม่พูดอะไรกันอีก...มีเพียงเสียงของธรรมชาติ.....กลิ่นไอดิน...ดอกไม้...สายลม...กับดาวนับล้านๆดวงบนฟ้า...ที่สัมผัสได้...แต่กับผม...มีเพียงใบหน้าของคนตรงหน้าเท่านั้นที่ผมอยากสัมผัส...ยามหลับตาลงให้สายลมพัดผ่าน...แย้มยิ้มไปกับธรรมชาติ...งดงามกว่าทุกสิ่งที่เคยพบเจอ...เหมือนตกอยู่ในภวังค์...ลึกสุดของห้วงความปรารถนา...แม้เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง...ก็ไม่อาจละสายตาไปจากคนตรงหน้าได้เลย
“ฮัดชิ้ววววววววววววววววววววววววววว!” สะเทือนเลือนลั่นกู่ก้องไปยังทั่วท้องทุ่งนาป่าเขา
“มึงแม่งโคตรไม่มีความโรแมนติกเลยเชี่ยไนท์!”
“หือ? มึงด่ากูทำไม กูแค่จามเองนะ”
“มึงไม่ต้องพูดเลย แล้วเสื้อไม่เสือกใส่มา ใส่เสื้อกล้ามเดี๋ยวหวัดก็แดกหรอกมึง กี่โมงกี่ยามแล้วยังจะมาดูดาว ไสหัวไปนอนเลยนะมึง” กำลังบรรยากาศดีๆ จามซะขี้มูกปลิ้น กูหมดอารมณ์เลย!
“กูทำอะไรผิดวะ?” มันทำหน้างงๆเกาหัวเก้อๆ ก่อนจะโดนผมจับมือลากให้เดินกลับเต็นท์พร้อมกัน
“ไนท์....” เดินมาถึงหน้าเต็นท์ พวกไอ้นนท์คงกำลังเล่นไพ่กันอยู่
“อะไร?” มันหยุดหันมาถามผม หน้ามันยังมึนๆงงๆไม่หาย
“ห้ามมึงไปดูดาวกับใครที่ไม่ใช่กู...แล้วก็.........ฝันดี” ทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองไปแล้วสิ น่าอายชะมัด สู้หน้ามันไม่ไหว รีบเดินเข้าไปในเต็นท์ก่อนที่มันจะพูดอะไร
“เออ...........................ฝันดี” ให้ตายสิ! มึงวางยากูอีกแล้ว
“ชักช้านะพี่แทน ไอ้ไนท์ ไปไหนกันมาวะ?” ไอ้นนท์ถามขึ้นทันทีที่เข้าไปในเต็นท์
“ยิ้มหน้าบานกันมาเชียว มีอะไรดีๆรึเปล่าวะพี่?”
“เสือกแล้วไอ้ธามๆ จะเล่นไหมไพ่เนี่ย” ทั้งมันและผมไม่มีใครพูดอะไร มีแค่ไอ้นนท์ที่ช่วยพูดให้ไอ้ธามไม่ถามซอกแซกอะไรกันอีก คืนนั้นเล่นไพ่กับพวกมันอยู่จนดึกดื่น สุดท้ายก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม ตีกันจนเต็นท์จะพังกับเงินแค่ไม่กี่บาท แต่ที่เปลี่ยนไปคงเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ที่ส่งให้กันตลอดแม้มือจะฟาดกันอยู่ก็ตาม.................................ผมคงโดนมันวางยาเข้าให้แล้วจริงๆ...................คงเป็นยาเสน่ห์ซะด้วย...ถึงได้เห็นมันแม้ในความฝัน...ฝันดี...............คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆสินะ...เพราะตื่นมาก็พบว่าตัวเองนอนกอดกับมันอยู่...ละเมอท่าไหนไม่รู้ถึงไปนอนกอดกันได้ทั้งคืน...รู้แค่ตื่นขึ้นมาก็ตีกันจนเต็นท์พัง...กว่าจะสงบศึกกันได้...เจ็บตัวกันไปตามระเบียบ...ไม่นองเลือดซักวันคงจะขาดใจตาย
มีต่ออีกนะจ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
