:: LOVE (extra) HIGH STORY | เรื่องนี้ รัก-มัน-เยอะ (ได้อีก) :: จบบริบูรณ์ :)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :: LOVE (extra) HIGH STORY | เรื่องนี้ รัก-มัน-เยอะ (ได้อีก) :: จบบริบูรณ์ :)  (อ่าน 51700 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แล้วไงต่อละคะคุณแจ็ค

ออฟไลน์ FlapJack

  • ชีวิตคือการผจญภัย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-3
    • FLAPJACK SPACE

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
เย้ ๆ แป๊ะจองทั้งนิยาย ทั้งหนังสือจ้า
เดี๋ยวกลับมาอ่านน๊า
===========o:o=========
อิอิ ที่แท้คุณโบ๊ท์ก็โดนเจ้าเปี๊ยกแกล้งนี่เอง นึกว่าจะเคลิ้มตามคุณโบ๊ท์
จนแม่ตุ้มมาเห็นซะแล้ว ไม่งั้นคุณโบ๊ทคงได้สู่ขอเจ้าเปี๊ยกจริง ๆซะที
ฮาวิธีหนีของเจ้าเปี๊ยก ใช้ลิ้นเลียเนี่ยนะ(จั๊กจี๊แทน)ไม่รู้จักคุณโบ๊ทซะแล้ว
คราวนี้เจ้าเปี๊ยกโดนเอาคืนซะเขินไปเลย (คนอ่านเขินกว่า  :-[ ) แล้วคุณโบ๊ทก็นะเปี๊ยกยิ่งกลัวแม่ตุ้มรู้อยู่
ยังมาออดอ้อนเปี๊ยกอีก ถึงจะดูน่าสงสาร แต่ยังไงเปี๊ยกต้องใจแข็งไว้นะ แบบกลับคอนโดค่อยว่ากัน  :z1:
อย่างน้อยคุณโบ๊ทก็ยังได้หอมเปี๊ยกไปหนึ่งฟอด แถมเปี๊ยกยังทำตัวน่ารักง้อคุณโบ๊ทซะด้วย
อย่างงี้คุณโบ๊ทจะโกรธลงได้ไงเนอะ รอติดตามตอนต่อไปและเป็นกำลังใจให้คุณแจ๊คเหมือนเดิมค๊า  :pig4:  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2013 15:12:58 โดย Lily teddy »

ออฟไลน์ sakkriengkai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
:L2:   เต็มบทซะที.. หลังจากที่รอมาแสนนาน 5555+  :กอด1:

+1 ต่อไป  :angry2:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
มาแล้ว ๆ ๆ  :hao7:   แหม๊ ทำซะลุ้นใจหายใจคว่ำ นึกว่าแม่ตุ้มมาเจอซะอีก
ที่แท้ แสบต้าร์แผลงฤทธิ์นี่เอง ค่อยยังชั่วหน่อย แต่แสบต้าร์นะ กำลังฟินเชียวทำงี้ได้ไง
สุดท้ายก็หนีไม่พ้นนะ โดนคุณโบ๊ท สำเร็จโทษจนได้ ฮาตรง
' กีต้าร์รู้สึกได้ถึงพลังงานอะไรบางอย่างที่ชูชันขึ้นมาทิ่มหลังเขาอย่างแข็งขัน'  :m20:
แต่ที่คุณโบ๊ทขอ เราเข้าข้างน้องต้าร์นะ คุณโบ๊ท ต้องเข้าใจสิ ที่นี่ไม่ใช่ที่คอนโด จะทำอะไรก็ต้องเกรงใจคุณแม่
แล้วคุณแม่ก็ยังไม่รู้เรื่อง เราเป็นน้องต้าร์ เราก็คงกังวลเหมือนกันแหละ ยังจะมางอนน้องอีกนะคุณโบ๊ทนี่
แต่ก็ดีที่ง้อง่าย ที่จริง น้องต้าร์ แค่ยื่นแก้มให้หอมทีเดียว ไม่ต้องทำอะไร ก็คงหายงอนแล้วมั้งใช่มั้ยจ้ะ
คุณแม่ตุ้มอ่ะ มาดูทีวีอะไรตอนนี้ล่ะเนี่ย ค้างเลยเห็นมั้ยคะ
รอตอนต่อไปนะจ้ะ  ขอบคุณค่า  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ดีใจจะมีรวมเล่ม รออุดหนุนแน่นอนค่ะ :impress2:

Mulberry

  • บุคคลทั่วไป
RE: :: LOVE (extra) HIGH STORY :: Flowers [เต็มบท 100%]
«ตอบ #96 เมื่อ08-09-2013 19:54:08 »

อร๊ายยยยย หวานเจี๊ยบเลยอะ ชอบฉากกระแซะกันหน้าอ่างล้างหน้า สวีทสุดๆ :impress2:
เฮียโบ๊ทก็ง้อง่ายเหลือเกิน เจอเปี๊ยกต้าร์น่ารักเข้าหน่อยละใจอ่อนเชียว 555555

กะแล้วว่าคงไม่ดราม่าหรอก เดาถูกด้วยอะ ดีใจ เพราะทุกทีจะโดนเฮียแจ๊คหลอกตลอดเลย  :katai2-1:

รอตอนต่อไปค่ะ รอหนังสือด้วย อยากได้ค่าาาาา  :กอด1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ก็เพราะงี้แหละ น้องต้าร์เลยไม่อยากให้คุณโบ๊ทตามมา
เก็บอาการไม่มิดหรอก ถ้ายังตอดเล็กตอดน้อยอยู่อย่างนี้

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15

ออฟไลน์ Dekngooh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 : 222222:
รอคอยตอนต่อไป
 :hao4:
แอบลุ้นอ่ะ ว่าแม่ตุ้มจะได้รู้จักลูกเขยเร็วๆนี้มั้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ FlapJack

  • ชีวิตคือการผจญภัย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-3
    • FLAPJACK SPACE
LOVE (extra) HIGH STORY – extra 06 – Secret Base



หลังมื้อเช้าตอนสายๆ กีต้าร์และโบ๊ทก็ตามแม่ตุ้มเข้าสวนไปตรวจกิจการซึ่งเป็นกิจวัตรที่แม่ตุ้มทำทุกวัน เดินเลาะไปตามเรือกสวนของที่มีผลไม้หลากชนิดปลูกแบ่งเป็นโซนๆ ไปโดยมีเพียงคันดินที่ก่อขึ้นมาแบ่งเป็นเขตของแต่ละโซน สวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่ไม่น้อย แต่แม่ตุ้มก็เดินแบบนี้แทบทุกวัน แกบอกว่าถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ดีกว่าอยู่เฉยๆ ทำตัวแก่ไปวันๆ... มิน่าละ แม่ตุ้มถึงแข็งแรงและจิตใจแจ่มใสทั้งๆ ที่วัยก็เข้าเลข 4 กลางๆ ไปแล้ว

แม่ตุ้มพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกชายคนใหม่(?)เดินสำรวจสวน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเดินไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายนะ สวนกว้างขนาดนี้ถ้าเดินเรื่อยเปื่อยคงได้ขาลากหรือไม่ก็พากันหลงเอาได้ ฮ่า ฮ่า... ที่ว่าไม่ได้ไร้จุดหมายนั่นก็เพราะว่าแม่ตุ้มพาเดินตามเส้นทางที่ต้องเดินไปดูงาน เช่น โซนต้นลิ้นจี้ที่ต้องห่อกระดาษเพื่อป้องกันแมลงวันสีทองมาวางไข่ โซนต้นกระท้อนที่ต้องเร่งรดน้ำและใส่ปุ๋ยบำรุง รวมถึงโซนต้นแก้วมังกรที่เพิ่งเริ่มปลูกได้ไม่นานมานี้... เดินดูไปก็แนะนำลูกชายให้รู้จักกับคนสวนและคนงานต่างๆ ที่แม่ตุ้มรับเลี้ยงดูแลอยู่ ส่วนใหญ่ก็คนท้องถิ่นที่นี่แหละ หลายๆ คนก็เป็นคนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยก่อนคุณยายจะเสีย พอแม่ตุ้มมาดูแลต่อก็ไม่หนีจากไปไหน อยู่ช่วยกันดูแลไร่สวนแห่งนี้เป็นอย่างดีเรื่อยมา...

เดินไปก็สอนลูกไป ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ การทำสวน รวมถึงการบริหารดูแลคนให้ลูกชายฟัง ถึงแม้ไอ้เจ้ากีต้าร์มันจะทำเกรียนใส่แม่ เล่นมุขขัดจังหวะบ้าง กวนอวัยวะเบื้องล่างบ้าง แต่โดยรวมก็นับว่าตั้งใจฟังดีอยู่ไม่น้อย... ส่วนโบ๊ทก็เดินตามฟังตลอด มีถามคำถามบ้างตามความอยากรู้ และที่สำคัญคือเขาได้เห็นกีต้าร์ทำตัวน่ารักกับแม่ตุ้มอยู่ตลอด พอกวนจนแม่ตุ้มทำท่าจะงอน ไอ้เจ้าเปี๊ยกก็เข้าไปอ้อน ถูๆ ไถๆ จนแม่ตุ้มงอนไม่ลงจนได้... แหม่ ท่าทางประมาณนี้มันคุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้ ใช่ไหมละคุณชายโบ๊ท ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แม่ลูกทั้งสาม(?)คนพากันตะลอนทัวร์สวนไปกว่า 3 ชั่วโมง กลับเข้าบ้านปั๊ป ไอ้เจ้ากีต้าร์ก็ทิ้งตัวลงไปนอนแผ่ลิ้นห้อยอยู่บนโซฟาทันที ป้าเอียดรู้ดีว่าเวลาบ่ายแก่ๆ แบบนี้อากาศร้อนไม่ใช่เล่นๆ เลยยกน้ำหวานเย็นๆ มาเสิร์ฟให้ดื่มให้ชื่นใจ หายร้อนไวเป็นปลิดทิ้ง นอนเลื้อยอยู่สักพักก็โดนแม่ตุ้มไล่ให้ไปล้างมือล้างเท้าเพราะใกล้ได้เวลาของว่างยามบ่าย


“คุณโบ๊ท... มานี่ๆๆๆ”


กีต้าร์เรียกหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงให้เดินตามไปทางห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากห้องนั่งเล่น เมื่อมองดูว่าพ้นสายตาแม่ตุ้มแล้ว ก็ล้วงมือเข้าไปควานหา “อะไรสักอย่าง” ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ควานอยู่อึดใจก็ชักมือออกมาพร้อมไอ้ “อะไรสักอย่าง” ที่อยู่ในกำมือก่อนจะยกขึ้นอวดด้วยสีหน้าสุดแสนจะภูมิใจนำเสนอ


“อะไรอ่ะ”


หนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงนึกสงสัย และเริ่มตื่นเต้นเมื่อร่างเล็กแบมือ เผยให้เห็นใบไม้ที่พับหลวมๆ ไว้คล้ายห้ออะไรสักอย่าง


“ทีเด็ดเลย รับรองคุณโบ๊ทไม่เคยเห็น”

“อะไร หนอนเหรอ”

“ไม่ช่ายยยยยย... โหยยยยย แค่หนอนอ่ะ เด็กๆ ต้องไอ้นี่ รับรองว่าเด็ด”


ว่าแล้วก็ค่อยๆ แกะห่อใบไม้ออก เผยให้เห็น(ซาก)แมลงวันสีทองที่สภาพศพยังอยู่ในสภาพดี ถึงแม้ขาเล็กๆ ของมันจะบิดๆ งอๆ ไปแล้วก็ตาม... ดูจากสภาพแล้วคาดว่าจะตายเพราะโดนฟาดด้วยวัตถุแข็งแบบเฉียบพลัน ไม่ทันได้เตรียมใจ


“เฮ้ย! ไอ้เปี๊ยก เก็บมาทำไมเนี่ย สกปรก” โบ๊ทดูปร๊าดเดียวก็รู้ว่าไอ้ตัวที่อยู่ในมือของกีต้าร์นั้น อดีตเคยเป็นแมลงวันมาก่อน

“บ้าดิ ผมไม่ได้เก็บมาซี้ซั้วนะ ผมตีมันเองคามือเลย ไม่สกปรกหรอกมั่นใจได้... แล้วนี่ไม่ตื่นเต้นบ้างเลยเหรอไงห๊ะ” กีต้าร์ถามด้วยสีหน้าที่ออกแนวจะผิดหวังเล็กๆ ที่โบ๊ทไม่ตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาภูมิใจนำเสนอ

“ไม่ตื่นเต้นเว้ย นี่มันแมลงวันเหอะ สกปรก ทิ้งๆ ไปเลย”

“ไม่สกปรกหรอก นี่มันแมลงวันสีทองนะ มันกินแต่ผลไม้ในสวน ไม่ได้ไปกินอึเหมือนแมลงวันแบบที่เจอในกรุงเทพสักหน่อย” กีต้าร์พูดไปก็ก้มมองซากแมลงวันในมือไป

“ขึ้นชื่อว่าแมลงวันมันก็สกปรกเหมือนกันนั่นแหละ”

“ไม่เหมือนสักหน่อย”

“แล้วเอ็งรู้ได้ไงว่าไอ้ตัวนี้มันไม่ได้กินอึมาก่อนมากินผลไม้?”

“ก็...”

“หืม?”

“ก็...”

“ห๊า?”

“ก็... ก็มันกินผลไม้อ่ะ แมลงวันพันธุ์นี้มันกินแต่ผลไม้ คุณโบ๊ทเข้าใจป่าววะ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ ไอ้เปี๊ยกเอ้ย... มั่วได้อีก... ทิ้งไปเลย ทิ้งลงชักโครกไปเลยนะ แล้วล้างมือสะอาดๆ ด้วยละ”

“...แม่ง” กีต้าร์หุบยิ้ม หรี่ตา แสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ยอมทิ้งซากแมลงวันสีทองลงโถก่อนจะกดชักโครกพร้อมเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“ดีมากไอ้น้อง” โบ๊ทเห็นคนหน้ารั้นโดนขัดใจแล้วก็อดรู้สึกสนุกไม่ได้ เลยขอยั่วร่างเล็กอีกสักหน่อย ไม่พูดเปล่า ใช้มือเปียกๆ ไปยีหัวที่มีผมชี้ๆ ของไอ้เจ้าเปี๊ยกมันเล่นก่อนจะชิงเดินออกจากห้องน้ำไปก่อน

“เดี๋ยวปั๊ดจับแมลงวันยัดปากเลยนี่!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ”

.

.

.

ของว่างยามบ่ายวันนี้คือเงาะกระป๋องกับน้ำแข็งใส ซึ่งช่วยดับร้อนยามบ่ายได้เป็นอย่างดี... ด้วยความหอมหวานของเงาะกระป๋อง ความกรุบกรอบของน้ำแข็งใส และกลิ่นหวานชื่นใจของน้ำหวานสีแดง... ทำให้กีต้าร์ดูมีความสุขกับการกินสุดๆ แถมยังไประรานเงาะในถ้วยของโบ๊ทเขาอีกซะงั้น เลยได้มีสงครามเล็กๆ โชว์ให้แม่ตุ้มได้ดูได้หัวเราะ แต่ท้ายที่สุดแม่ตุ้มก็ทนกับความเกรียนของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนตัวเองไม่ไหว เลยไปเปิดเงาะกระป๋องมาให้กินให้หนำใจกระป๋องใหญ่ๆ เลยทีเดียว


หลังจากที่ชื่นใจกับขนมหวานกันแล้ว แม่ตุ้มและป้าเอียดก็ชะแว้บให้ลุงดำพาหนีเข้าเมืองไปจัดการธุระที่ธนาคารและจ่ายตลาด ทิ้งให้สองหนุ่มอยู่เฝ้าบ้าน... กีต้าร์พาดร่างจับจองโซฟาตัวยาวนอนดูโทรทัศน์ชิลๆ แกว่งขาไปมาราวกับแมวแกว่งหาง ตาสลืมสลือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ โบ๊ทเห็นก็นึกขำกับภาพตรงหน้า กะว่าพอหลับแล้วจะแอบถ่ายรูปโพสเฟซบุคสักหน่อย



~Ma cosa hai messo nel caffè. Che ho bevuto su da te? C'è qualche cosa di diverso adesso in me~



“เชี่ย!”


เสียงโทรศัพท์ของกีต้าร์ดังขึ้นพร้อมสั่นครืดๆ อยู่บนโต๊ะรับแขกหน้าโซฟา ทำเอากีต้าร์สะดุ้งจนเผลอสบถออกมาซะเต็มปากก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายโดยที่ไม่ได้มองว่าใครโทรมา เพราะมัวแต่ค้อนใส่คุณชายโบ๊ทหน้าทะเล้นที่แอบหัวเราะตอนสะดุ้ง


“ฮัลโหล”

“ไอ้เปี๊ยกกกกก มึงอยู่ไหนเนี่ย”

“อ้าว ไอ้เชี่ยที มึงกลับมาแล้วเหรอ”

“เออดิ เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้เอง”

“เป็นไงวะ สิงคโปร์ ได้เที่ยวบ้างปะเนี่ย”

“ไม่ได้เที่ยววะ ไม่ค่อยมีเวลา ก็เลยได้ไปแค่เซ็นโตซ่า ยูนิเวอร์แซล สิงคโปร์พลายเออร์ ไปดูเมอร์ไลออน มารีน่าเบย์แซ...”

“พอเลยไอ้สลัด”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

“ไหนมึงบอกไม่ได้เที่ยวไง นี่แม่งไปทั่วเกาะแล้วมั้ง สาดดดดด”

“ฮ่าๆๆๆๆ แล้วมึงอ่ะ กลับกรุงเทพวันไหนวะ”

“คงอีกสามสี่วันวะ... ว่าจะนอนเล่นอยู่กับแม่อีกสักหน่อ.... เฮ้ยยยยยย มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่ไหน!”

“โหยยยยยย มันยากมากเลยนะมึงการที่กูและคนอื่นๆ จะรู้ว่ามึงกับพี่โบ๊ทแอบไปสวีทอยู่ไหนกัน... แค่เปิดเฟซบุคเขาก็รู้กันหมดแล้วเพราะพี่โบ๊ทมันเช็คอินบ้านมึงไง ไอ้ฟาย”

“...เชี่ย” อันนี้ไม่ใช่สบถนะ แต่แอบหลอกด่าหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ฮ่าๆๆๆๆ เออ กลับมาวันไหนก็โทรหากูนะ เอาไว้ไปหาไรกินกัน จะได้เอาของฝากไปให้มึงกับไอ้โจด้วย”

“เยี่ยมมากไอ้เพื่อนเลิฟ”

“แหม่ๆๆๆ พอบอกว่ามีของฝากละรักกูขึ้นมาเชียวนะสาด”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“เออ งั้นแค่นี้นะมึง คุยกับมึงแล้วหาสาระอะไรไม่ได้ เปลืองค่าโทรศัพท์กู”

“ไอ้สลัด อย่างกับมึงมีสาระนักนี่ โทรมากวนตีนกูเนี่ย ห๊ะ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“เชี่ยนี่ กวนตีนตลอด เดี๋ยวเหอะ กูจะไปแดกฮะเก๋าบ้านมึงให้หมดเลย ไม่ต้องให้เหลือไว้ขายเลย แล้วกูจะไม่จ่ายตังค์ด้วย”

“ฮ่าๆๆๆ เออ มึงมาเลย แต่ถ้าจะแดกต้องห่อฮะเก๋าเองนะมึง”

“เออ กูยอม กูห่อเป็นแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ”

“เออๆ งั้นแค่นี้นะมึง กลับมาแล้วโทรบอกกูด้วยนะ”

“อือ ไว้เจอกันนะมึง”

“บาย”

“บายๆ”


กีต้าร์วางสายโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี กำลังนึกคิดถึงไอ้เพื่อนเกรียนทั้งสองคนอยู่พอดีเลย แล้วไอ้เจ้าทีก็โทรมา เหมือนมันรู้กันเลยเนอะ


ร่างเล็กนอนแกว่งขาเล่น ดูโทรทัศน์อยู่อีกสักพักก็นึกอะไรขึ้นได้ ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ลุกพรวดขึ้นจากโซฟาแล้วออกปากชวนหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงให้วิ่งตามออกไปนอกบ้าน... กีต้าร์วิ่งนำไปทางกลุ่มคนงานที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะใต้ต้นไม้กลางลานหน้าบ้านพักคนงาน... พอไปถึงก็เอ่ยปากขอยืมจักรยานสองคัน ให้ตัวเองคันนึง ให้รุ่นพี่ร่างสูงคันนึง

พอได้จักรยานแล้ว กีต้าร์ก็ปั่นนำรุ่นพี่คนสนิทเข้าไปตามทางมุ่งหน้าไปที่ท้ายสวนโดยที่ไม่บอกโบ๊ทสักคำว่ากำลังพาไปไหน... โบ๊ทอยากถามเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ถาม คิดเอาว่าตามไปดูเองก็ตื่นเต้นดี

สองหนุ่มปั่นกันไปตามทาง ลงทางลาดผ่านต้นไม้น้อยใหญ่เข้าไปยังท้ายสวน ผ่านไปสักยี่สิบนาที กีต้าร์ก็พารุ่นพี่ร่างสูงมาถึงที่หมาย


ร่างสูงหยุดปั่นจักรยาน ทิ้งเท้าข้างหนึ่งลงยันพื้นเพื่อพยุงจักรยานไว้ ทอดสายตาไปกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า... ภาพที่เห็นคือศาลาไม้ริมน้ำที่มีต้นไทรต้นใหญ่คอยแผ่กิ่งก้านเป็นร่มเงาให้อยู่ข้างๆ... ถัดไปคือแม่น้ำสายเล็กที่คุณยายให้ขุดเพื่อผันน้ำจากทะเลสาบดอยเต่าเข้ามาใช้รดน้ำต้นไม้ในสวน แสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ส่องกระทบผิวน้ำใสเป็นประกายสีส้ม... เรียบง่าย แต่สวยงามลงตัว


“เอ้า จะยืนเป็นพระเอก MV อีกนานไหมครับคุณชาย”


สงสัยมัวจะยืนอิ่มกับภาพสงบตรงหน้านานไปหน่อย เลยเจอไอ้เจ้าเปี๊ยกแซวซะเลย... โบ๊ทส่ายหัวพร้อมรอยยิ้มไปกับคำแซวของกีต้าร์ก่อนจะจูงจักรยานไปจอดเทียบข้างกับจักรยานอีกคันแล้วเดินเข้าศาลาไป

กีต้าร์ถอดรองเท้า พับขากางเกงขึ้น แล้วทิ้งตัวลงนั่งที่บันไดศาลา หย่อนขาลงแช่น้ำเย็นๆ ก่อนจะใช้มือตบลงบนพื้นที่ข้างๆ แล้วแหงนหน้ามองรุ่นพี่ร่างสูง เป็นนัยว่า “นั่งลงตรงนี้สิ”... ร่างสูงไม่ดื้อเลยสักนิด ถอดรองเท้า พับขากางเกง แล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมรอยยิ้ม


“น้ำเย็นมากเลยเนอะ” โบ๊ทเอ่ย

“ใช่ ที่นี่น้ำเย็นตลอดปีนะ”

“ก็แหงดิ น้ำที่ไหนไม่เย็นบ้างละ ฮ่ะๆๆๆ”

“เอ้า ก็กรุงเทพไง น้ำไม่เย็น”

“เอ็งรู้ได้ไงว่าน้ำกรุงเทพไม่เย็น เห็นปกติไม่ค่อยอาบน้ำ”

“ฮึ่ยยยยย ผมอาบเหอะ ก็เห็นอยู่ว่าผมอาบทั้งเช้าทั้งเย็นเลยนะ”

“ก็ถ้าโบ๊ทไม่บังคับ เอ็งก็ชอบเนียนหลับทั้งๆ ที่ไม่อาบน้ำเหอะ”

“ไม่ได้ว่าจะเนียนสักหน่อย ก็มันง่วงอะ... ก็งีบก่อนไง เดี๋ยวค่อยลุกขึ้นมาอาบตอนดึกๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ อย่ามาแถเลยนะเปี๊ยก เอ็งหลับแล้วไม่ตื่นแน่ๆ ไม่มีทางเลยแหละ”

“ลองไหมละ เนี่ยกลับกรุงเทพแล้วลองเลย ดูสิผมจะตื่นขึ้นมาอาบไหม”

“ก็ได้... แต่ถ้าเอ็งไม่ตื่นขึ้นมาอาบนะ โบ๊ทจะอุ้มเข้าห้องน้ำไปอาบให้เองเลย เอาไหม”

“...เชี่ย”

“ฮ่าๆๆๆๆ เอาไหมละ แบบนี้”

“ไม่เอาเฟ้ย”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

“โหยยยย อุตส่าห์พามาฐานลับนะเนี่ย รู้งี้ไม่พามาซะก็ดีหรอก”

“ห๊า? นี่นะเหรอฐานลับของเอ็ง”

“ใช่ นี่แหละฐานลับตอนผมเด็กๆ”

“ฮ่าๆๆๆ เปิดโล่งขนาดนี้เรียกว่าฐานลับได้เหรอ หืม?”

“ได้ดิ ก็ศาลานี้มันอยู่ท้ายสวน ไม่มีคนมาหรอก นอกจากฤดูปลูกลำใย เพราะแถวๆ นี้เป็นโซนปลูกลำใย”

“อ้าว แล้วถ้าไม่ปลูกลำใยก็จะไม่ปลูกอย่างอื่นก่อนเลยเหรอ”

“ก็ปลูกนะ แต่ส่วนใหญ่จะปลูกกล้วย เพราะคุณยายบอกว่าให้ดินมันได้พักระหว่างที่รอปลูกลำใย พอปลูกกล้วยเสร็จก็โค่นต้นให้กลายเป็นปุ๋ยลงดินไปเลย”

“แล้วทำไมต้องเป็นกล้วยล่ะ”

“ก็กล้วยมันปลูกง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะ ไม่ต้องบำรุงเยอะ ผลที่ได้ถ้าดีก็ขายบ้าง แจกบ้าง”

“อ้อ แล้วเอ็งชอบกินกล้วย เลยแอบมาใช้ที่นี่เป็นฐานลับ ว่างั้น”

“ไอ้บ้า ไม่เกี่ยว คุณโบ๊ทนั่นแหละชอบกินกล้วย... ไอ้ลิงภูเขาเอ้ย”

“ฮ่าๆๆๆๆ แล้วฐานลับมีไว้ทำอะไร”

“เอาไว้หนีแม่ เอาไว้หนียาย ฮ่ะๆๆๆๆ”

“อ้าว หนีไมอ่ะ”

“ก็ตอนเด็กๆ ถ้าโดนดุก็ปั่นจักรยานหนีมาอยู่นี่ เพราะมันไกล แม่กับยายไม่ตามมาดุ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“แต่แถวนี้ก็อันตรายนะต้าร์ ตอนเด็กๆ ตกน้ำไปจะทำไง”

“จะไปตกอะไรละ ผมไม่โดดลงไปหรอก อย่างมากก็นั่งเอาขาแช่น้ำแบบนี้แหละ”

“ฮ่าๆๆๆๆ เอ็งนี่มัน ดื้อจริงๆ เลยนะ”

“คุณโบ๊ทเองก็ดื้อไม่แพ้ผมหรอก หึ” กีต้าร์กล่าวพลางใช้ไหล่ชนไหล่ร่างสูง ร่างสูงก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่หัวเราะออกมาเล็กๆ ก่อนจะฉวยมือของกีต้าร์ไปจับไว้... กีต้าร์ไม่ขัดขืน ไม่ชักมือหนี ปล่อยให้มืออุ่นจับอยู่อย่างนั้น...


สองหนุ่มนั่งแกว่งขาเล่นกันอยู่สักพักก็ชวนกันเล่นงมเหรียญ... ว่าแล้วก็ถอดเสื้อ ถอดกางเกง เหลือเพียงบ๊อกเซอร์คนละตัว โยนเหรียญห้าบาทลงน้ำแล้วพากันกระโจนลงไปดำผุดดำว่ายแข่งกันหาเหรียญ... เล่นสนุกได้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงว่าจะอันตราย เพราะน้ำไม่ลึก แถมน้ำใสและไหลเอื่อย จึงเล่นได้หายห่วงครับพี่น้อง

โบ๊ทและกีต้าร์เล่นกันอย่างสนุกสนาน มีแกล้งกันบ้าง ขี้โกงกันบ้าง แต่ก็ล้วนเพื่อเพิ่มความสนุกให้แก่กันและกัน... เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นเป็นระยะสลับกับเสียงผิวกายกระทบน้ำยามดำผุดดำว่าย... พอโบ๊ทจะคว้าเหรียญ กีต้าร์ก็พุ่งเข้ารวบตัวไม่ให้หยิบเหรียญได้... พอกีต้าร์เอื้อมมือจะหยิบเหรียญ โบ๊ทก็ดึงแขนดึงขาเอาไว้ไม่ให้หยิบได้... เล่นกันอยู่อย่างนี้ไปได้สักพักใหญ่ๆ เกมก็เปลี่ยนจากดำน้ำงมเหรียญเป็นมวยปล้ำน้ำแทนไปโดยปริยาย ซึ่งก็เป็นผลมาจากการที่สองหนุ่มเขาแกล้งกันนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
เวลาผ่านไปจนพระอาทิตย์ลอยต่ำ อากาศเริ่มเย็น และที่สำคัญคือ ตัวเริ่มเปื่อยซีดกันแล้วทั้งสองหนุ่ม ว่าแล้วก็เลยพากันขึ้นจากน้ำ


“คุณโบ๊ท อย่าเพิ่งใส่เสื้อ” กีต้าร์ร้องห้ามเมื่อเห็นรุ่นพี่คนสนิททำท่าสะบัดเสื้อเตรียมสวม

“อ้าว ไมอ่ะ หนาวนะเนี่ย”

“ตัวยังเปียกอยู่เลย ถ้าใส่เสื้อก็จะเปียก แล้วก็จะยิ่งหนาวนะ”

“เออ ก็จริงของเอ็ง”


โบ๊ทพาดเสื้อไว้ที่เดิมแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ กีต้าร์บนบันไดศาลาที่เดิม... ดูๆ แล้วก็นึกขำร่างเล็กอยู่นิดๆ ดูสิ นั่งกอดอกแถมสั่นนิดๆ ด้วย คงจะหนาวสินะ... ว่าแล้วก็พาดแขนแกร่งโอบไหล่บางแล้วกระชับเข้าหาตัวเล็กน้อยเพื่อช่วยให้อุ่นขึ้น... กีต้าร์หันมามองแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เลยกลายเป็นนั่งกอดกันอยู่อย่างนั้น


“คุณโบ๊ท... ชอบไหม” กีต้าร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งกอดกันเงียบๆ มาได้สักพัก

“หืมมมม เอ็งอะเหรอ... อืมมมม ดื้อไปนิด แต่ก็ชอบมากนะ”

“ไอ้บ้า ไม่ได้หมายถึงผมสักหน่อย... หมายถึงที่นี่อะ”

“ฮ่ะๆๆๆ หมายถึงบ้านแม่ตุ้มเนี่ยเหรอ”

“ใช่... แหม่ เรียกเป็นแม่ของตัวเองไปเลยนะคุณ”

“ฮ่าๆๆๆๆ ก็ใช่สิ ลูกเขยก็ต้องเรียกว่าแม่สิ” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงเบียดไหล่เข้าหาไหล่เล็กเบาๆ

“แหวะ”

“ฮ่าๆๆๆ กลับเข้าเรื่องก่อน... ถ้าถามว่าชอบไหม บอกได้เลยว่าชอบนะ บ้านแม่ตุ้มสวยมาก สวนนี่ก็ใหญ่มาก แถมมีลูกเจ้าของสวนเกรียนมากด้วย”

“ฮ่าๆๆๆๆ ไหนว่าจะเข้าเรื่องไง ไหงวกมาหาผมได้ละ”

“ก็เอ็งเป็นเหตุผลข้อใหญ่ข้อนึงที่ทำให้โบ๊ทชอบที่นี่ไง...”

“...” กีต้าร์เขินสิ่งที่ได้ฟัง เลยได้แต่อมยิ้ม เสตาหนีไปที่อื่น

“เขินเหรอ”

“เปล่าสักหน่อย”

“...” โบ๊ทยิ้มกว้างไปกับแก้มแดงระเรื่อของชายหนุ่มรุ่นน้องข้างกาย

“...”

“ต้าร์...”

“หืม”

“โบ๊ทมีความสุขมากเลยนะ”

“...”

“...”

“...ผมก็... มีความสุขมากเหมือนกัน” กีต้าร์ก้มหน้าก้มตาพูด เสียงแผ่วเบาด้วยความเขินอาย

“...” โบ๊ทยิ้มอุ่นให้กับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะกระชับอ้อมกอดและฉวยมือของกีต้าร์มาจับไว้...


นิ้วโป้งถูไปบนหลังมือซีดๆ ของร่างเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะสอดนิ้วเรียวประสานเข้ากับนิ้วของร่างเล็กข้างกาย... เมื่อกีต้าร์เงยหน้าขึ้น ก็พบกับแววตาอบอุ่นของร่างสูงที่ต้องมองอยู่ก่อนแล้ว... แววตาที่แทนคำพูดร้อยพัน... แววตาคมที่สะกดให้อยู่นิ่ง... แววตาที่ชวนให้ใจเต้น ตึกตัก ทุกครั้งที่จ้องมอง...
 

ภาพสุดท้ายเป็นภาพของหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาร่างเล็ก... เอียงหน้าให้ได้องศาแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน เนิบช้า ไม่รุกเร้า ไม่เร่งรีบ โดยมีพระอาทิตย์ลอยต่ำ ส่องแสงสีส้มจัดกระทบผิวน้ำใสเป็นประกายวิบวับ สะท้อนเงาของสองหนุ่มที่แนบชิดอยู่เคียงกันใต้ศาลาที่มีป้ายเขียนไว้ว่า...



“โปรดติดตามตอนต่อไป”




ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
จิ้ม ๆ อุ๋ยวันนี้มาตั้งแต่บ่ายด้วยดีใจจังค่ะ
เดี๋ยวไปอ่านก่อนนะค่ะ  :oni1:
.......................>.<.........................
ตอนนี้สองหนุ่มเค้าก็ยังหวานน่ารักกันตลอดเหมือนเดิม
ถึงตอนต้นเปี๊ยกของเราจะแอบโหดฆ่าได้แม้แต่แมลงวันสีทองตัวเล็ก ๆ
มีการเอามาอวดคุณโบ๊ทด้วย แต่นั่นสิมันดูน่าภูมิใจนำเสนอยังไงอะเปี๊ยกกับซากแมลงวันเนี่ย
แค่เพราะมันกินผลไม้ไม่กินอี๊เหรอ แถมน่าจะเอาไปทิ้งใต้ต้นไม้ให้มันเป็นปุ๋ยมากกว่ากดลงชักโครกนะ
แล้วตอนนี้มีทีโทรมากวนด้วย นึกถึงเวลาอยู่กะเพื่อนก็สนุกตลกดี แต่เวลาอยู่กับแม่ตุ้มเปี๊ยกก็มีความสุขอีกแบบอะเนอะ
ตอนนี้เปี๊ยกพาคุณโบ๊ทไปฐานทัพลับด้วยอย่างงี้คุณโบ๊ทก็ได้รู้เรื่องลับ ๆ ของเจ้าเปี๊ยกเพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้วสิ
นึกภาพตามแล้วบรรยากาศคงดีเนอะมีศาลาให้นั่งจุ่มขาเล่นน้ำด้วย ที่สำคัญยังได้อยู่กะคุณโบ๊ทสองคนด้วย
ดูมีความสุขจัง น่าอิจฉาสองหนุ่มจริง ๆ รอติดตามความน่ารักของสองหนุ่มต่อไปและเป็นกำลังใจให้คุณแจ๊คเหมือนเดิมค่ะ  :pig4:  :L2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2013 15:13:25 โดย Lily teddy »

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ชอบบรรยากาศ ศาลาริมน้ำจังเลยอ่ะ นึกภาพตามนะ โหย อยากไปอยู่ตรงนั้นบ้างจัง
ที่แท้ ที่นี่เป็นฐานลับของแสบต้าร์เรอะเนี่ย ฮะ ๆ คิดเหมือนพี่โบ๊ทอ่ะ
เปิดโล่งกว้างซะขนาดนี้ ฐานลับ มันน่าจะแบบถ้ำเล็กๆ รึบ้านต้นไม้ อะไรแบบนี้นะ
โอ้ย ๆ เล่นน้ำกันสนุกอยู่สองคน อิจฉา ๆ ชอบจริง ๆ นะ ศาลาริมน้ำอย่างเนี้ย
อยากลงเล่นน้ำเย็น ๆ บ้างจังเลยอ่ะ เล่นกันพอครึกครื้น ก็จบลงที่ฉากโรแมนติกเชียว
แหม จูบอ่อนโยน ภายใต้แสงสีส้มของพระอาทิตย์ ที่กำลังจะลาลับของฟ้า โรแมนซ์ที่ซู้ด  :m1:
แล้วก็ โปรดติดตามตอนต่อไป  ใครเป็นคนเอาป้ายนี้มาติดที่ศาลาเนี่ย อย่าให้รู้นะ ชิชิ
น่ารักน่าหยิก ตลอด ๆ เลยคู่เนี้ย  รอตอนต่อไปนะจ้ะ ขอบคุณค่า  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
ตอนนี้กีตาร์ ทำตัวเกรียนได้น่ารักได้ใจสุดๆๆๆๆๆ  :-[

Mulberry

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ เปี๊ยกต้าร์คะ แมลงวันสีทองเนี่ยมันน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอคะ ท่าทางดูภูมิใจนำเสนอขนาดนะ 55555

ตอนนี้แม่ตุ้มเป็นใจ เปิดโอกาสให้หนุ่มๆ เขาสวีทกันริมน้ำ วิ๊ดวิ๊ว :impress2:
ชอบบรรยากาศที่ศาลาค่ะ ดูน่าสนุก ส่วนตอนจบก็นะ หวานจนคนอ่านเขินเลยค่าาาาา :-[

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เป็นฐานลับที่สวยมากค่ะ
บรรยากาศกำลังดีเชียวถ้าไม่มีประโยค “โปรดติดตามตอนต่อไป”

ออฟไลน์ tender

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
คู่นี้สีสันตลอด   o13

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
น่ารักเวอร์ หวานเวอร์ แอร๊ยยย อิจฉาไม่ไหวแล้วนะ :o8:
ชอบตอนสวีตกอดกันกลมอยู่สองคน โรแมนติกจังเลย สองคนนี้ไปอยู่ที่ไหนก็สร้างโลกส่วนตัวกันเสมอ :z1:
ตอนต่อไปกีต้าร์จะพาคุณโบ๊ทไปเที่ยวไหนอีกคะเนี่ย :impress2:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
น่ารักจิงๆน้าสองหนุ่ม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ FlapJack

  • ชีวิตคือการผจญภัย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-3
    • FLAPJACK SPACE
LOVE (extra) HIGH STORY – extra 07 – Eventually


กว่าสองหนุ่มจะพากันปั่นจักรยานกลับจากศาลาริมน้ำก็ใกล้ได้เวลาอาหารเย็นพอดี ขากลับปั่นสวนกับลุงดำที่กำลังขับรถไปเก็บที่โรงรถก็เลยรู้ว่าแม่ตุ้มกับป้าเอียดกลับมากันแล้ว


“นี่ไง กลับมากันแล้ว พากันไปซนที่ไหนมาล่ะลูก” ทันทีที่สองหนุ่มก้าวขาเข้าบ้าน แม่ตุ้มที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์ก็เอ่ยถามหลังจากที่กลับมาบ้านแล้วไม่เห็นวี่แววของลูกชายและรุ่นพี่คนสนิท

“ไปเล่นน้ำที่ศาลาท้ายสวนมานะแม่” ลูกชายตัวเล็กตอบเสียงเจื้อยแจ้วสดใสพลางเดินไปหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ แม่ แต่ก้นยังไม่ทันหย่อนถึงเบาะก็...

“เดี๋ยว กางเกงเปียกหรือเปล่าเนี่ยกีต้าร์... พากันไปเปลี่ยนก่อนเลย เดี๋ยวโซฟาจะด่าง” แม่ตุ้มเอ่ยขึ้นเสียงสูงพลางรั้งแขนลูกชายไว้ เป็นเชิงห้ามว่าอย่าเพิ่งนั่ง ส่วนโบ๊ทที่กำลังจะนั่งลงที่เก้าอี้โซฟาอีกตัวเลยต้องชะงักไปด้วย

“โหยยยย นิดเดียวเองแม่ ตอนเล่นใส่บ๊อกเซอร์ เกงไม่เปียกสักหน่อย”

“แล้วบ๊อกเซอร์แห้งแล้วเหรอไง ห๊ะ”

“แห้งแล้ว นั่งผึ่งกันจนแห้งเลย ถึงกลับมาเย็นนี่ไง”

“ไหนดูซิ แห้งจริงหรือเปล่า” ไม่พูดเปล่า แม่ตุ้มใช้มือไปแตะที่ก้นลูกชาย

“ฮึ่ยยยยยย แม่ อย่าจับก้นดิ” กีต้าร์บิดก้นหนี หูแดงเล็กๆ เขินที่โดนแม่จับก้น

“จะมาเขินอะไร ตอนเด็กๆ อาบน้ำให้ทุกวัน จับอยู่ทุกวัน ฮ่ะๆๆๆๆ” แม่ตุ้มหัวเราะอารมณ์ดีที่เห็นลูกชายเขิน

“ก็นั่นมันตอนเด็กๆ นี่ ตอนนี้โตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะแม่”

“ฮ่ะๆๆๆๆ เราอะเหรอโตแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ”

“โหยยยย แม่อ่ะ!!!”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆ”

และแล้วพื้นที่ในห้องนั่งเล่นก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของแม่ตุ้มและคุณชายโบ๊ท ส่วนเสียงโวยวายก็คงไม่ต้องเดาว่าเป็นเสียงของใคร เพราะขี้โวยวายแบบนี้มีอยู่คนเดียวเนี่ยแหละ... ป้าเอียดที่กำลังเตรียมผักและเนื้อสัตว์สำหรับอาหารเย็นอยู่ในครัวได้ยินก็อดยิ้มไม่ได้


นั่งเล่นกันอยู่พักใหญ่ ทั้งสองหนุ่มก็โดนแม่ตุ้มไล่ให้ไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้ทันเวลาอาหารเย็น กีต้าร์อิดออดร่ำรี่ร่ำไรพอให้แม่ตุ้มบ่นเป็นพิธีอยู่สักพักเพราะยังไม่อยากอาบน้ำ แต่ก็ไม่ได้ผล แม่ตุ้มยืนยันว่ายังไงก็ต้องไปอาบน้ำก่อนกินข้าว เมื่อเถียงแม่ตุ้มไม่ชนะ ไอ้เจ้ากีต้าร์เลยเกรียนใส่ด้วยการแกล้งตายซะงั้น... แต่ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้มีเหรอที่แม่ตุ้มซึ่งเลี้ยงไอ้เจ้ากีต้าร์มาตั้งแต่สมัยเกรียนแรกเกิดจะรับมือไม่ได้ ว่าแล้วก็ยื่นคำขาดพร้อมออกบัญชาให้โบ๊ทหิ้วปีกไอ้เปี๊ยกไปอาบน้ำ ถึงกีต้าร์จะบ่นและโวยวายใส่ร่างสูง แต่ก็คงเดาได้ไม่ยากว่าโบ๊ทจะกล้าขัดคำสั่งแม่ตุ้มไหมละ ฮ่าๆๆๆๆ

หลังจากที่ลากร่างเปลี้ยของไอ้เปี๊ยกไปส่งถึงห้อง ร่างสูงก็เดินกลับห้องของตัวเองเพื่อไปอาบน้ำบ้าง ตอนแรกว่าจะเนียนเข้าห้องน้ำพร้อมไอ้เปี๊ยกแล้วนะ อุตส่าห์ถิดเสื้อเนียนๆ แล้วเชียว แต่ไอ้เปี๊ยกก็รู้ทัน เลยดันร่างสูงออกจากห้องไปเสียก่อน โบ๊ทเลยได้แต่ส่ายหัวเดินกลับห้องไปพร้อมกับเสียงหัวเราะเล็กๆ ในลำคอ


ประมาณสี่สิบนาทีผ่านไป โบ๊ทอาบน้ำเสร็จแล้วก็สวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นออกจากห้อง เขาแวะเคาะประตูเรียกร่างเล็กอยู่ครู่นหนึ่งแต่ไม่มีเสียงตอบรับเลยเข้าใจว่ากีต้าร์คงออกไปรอที่ห้องนั่งเล่นแล้ว ว่าแล้วขายาวๆ คู่นั้นก็พาเจ้าของเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น... แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นใคร มีเพียงโทรทัศน์ที่เปิดค้างไว้ เลยเดินเข้าไปดูครัวก็เห็นแม่ตุ้มกับป้าเอียดกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อเย็น


“กีต้าร์ออกมาแล้วหรือยังครับ” โบ๊ทเอ่ยถามแม่ตุ้มและป้าเอียด

“ยังเลย แม่ยังไม่เห็นนะ สงสัยยังอยู่ในห้อง โบ๊ทไปตามน้องหน่อยลูก อาหารใกล้เสร็จแล้ว จะได้มาช่วยกันยกไปตั้งโต๊ะ” แม่ตุ้มตอบพลางยกกระบวยจากหม้อแกงมาชี้ไปมาประกอบการพูด

“ครับ”

ว่าแล้วโบ๊ทก็เดินกลับไปที่ห้องของกีต้าร์ เคาะประตูอยู่อีกสักพักก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ เลยลองบิดลูกบิดประตูดูก็พบว่าไม่ได้ล็อคเลยเปิดเข้าไป...

สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือไอ้เปี๊ยกถอดเสื้อนอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง เปิดแอร์เย็นฉ่ำ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าประเด็นที่ว่า ไอ้เจ้ากีต้าร์มันยังไม่ได้อาบน้ำ ที่บอกได้ว่ามันยังไม่ได้อาบน้ำก็เพราะว่าดูท่าทางแล้วมันคอนข้างจะชัดเจนนะ... นอนถอดเสื้อแผ่หราอยู่กลางเตียงโดยที่เสื้อที่ถอดยังค้างอยู่ที่ข้อมือข้างซ้าย ส่วนข้างตัวข้างขวามีผ้าเช็ดตัวที่ยังแห้งสนิทพาดอยู่ กางเกงขาสั้นยังไม่แกกระดุมเสียด้วยซ้ำ เห็นขอบบ๊อกเซอร์ก็จำได้ว่าเป็นบ๊อกเซอร์ตัวเดียวกันกับที่ใส่เล่นน้ำที่ศาลาท้ายสวน

เห็นอย่างนี้ โบ๊ทก็อดไม่ได้ที่จะขอแกล้งร่างเล็ก ว่าแล้วก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปกดล็อคประตูห้อง แล้วเดินไปหย่อนตัวลงข้างๆ ร่างบาง... ตาคมจ้องไล้ผิวขาวละเอียดจากแผงอกลงไปถึงลอนกล้ามจางๆ ก่อนจะส่งมือแกร่งไปลูบเบาๆ ตามจุดที่สายตาไล้โลม ตอนแรกกะว่าจะแกล้งอะไรสักอย่างให้กีต้าร์โวยวายเล่นๆ แต่ภาพตรงหน้ามันชวนให้จินตนาการไปไกลกว่านั้นมาก... รู้ตัวอีกทีก็โน้มตัวลงไปจูบแก้มของร่างเล็กเบาๆ ย้ำๆ อยู่หลายครั้งก่อนจะเลื่อนไปฉวยโอกาสจูบคนหลับ

กีต้าร์ส่งเสียงอืออยู่ในลำคอ มือเริ่มไม่อยู่เฉย ยกขึ้นมาปัดป่ายไล่คนที่มากวนเวลานอน... มือแกร่งฉวยมือของร่างเล็กแล้วกดลงบนเตียงก่อนจะเข้าจู่โจมที่ซอกคอขาว


“ฮึ่ย!!!!!”


กีต้าร์อุทานทันทีที่ลืมตาตื่น ไม่ทันได้งัวเงียหรืออะไรทั้งนั้น เพราะสัมผัสหวามบนต้นคอนั้นมันเร่าร้อนอย่างชัดเจนในความรู้สึก... ในอารมณ์ตกใจ กีต้าร์เลยสะบัดข้อมือให้หลุดจากพันธนาการของมือแกร่งแล้วออกแรงผลักรุ่นพี่ร่างสูงจนล้มลงไปนอนอยู่ข้างๆ ก่อนที่กีต้าร์จะลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วหันควับไปค้อนคนฉวยโอกาสที่นอนยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่สะทกสะท้าน


“จะลักหลับผมเหรอ” กีต้าร์ถามตรง ไม่อ้อมค้อม ใจยังเต้นตึกๆ เลือดสูบฉีดขึ้นหูขึ้นหน้าจนแดงระเรื่อ

“เปล๊า ก็ปลุกดีๆ แล้วไม่ตื่นนี่ เลยต้องปลุกด้วยวิธีนี้” ร่างสูงแถไหลไปเรื่อย ทั้งๆ ที่ไม่ได้พยายามปลุกด้วยวิธีอื่นเลยสักนิด


กีต้าร์ฟังแล้วนึกหมั่นไส้... นอกจากจะตอบด้วยน้ำเสียงไม่รู้ร้อนแล้วยังทำหน้ายียวนกวนประสาทอีก... ว่าแล้วก็กำมือแล้วง้างขึ้นตั้งท่าจะทุบร่างสูง เพียงดูจากระดับสายตาโบ๊ทก็รู้ทันทีว่าไอ้เจ้าเปี๊ยกมันจะทุบลงที่ไหน ว่าแล้วก็รีบเลื่อนมือไปกุมเป้าตัวเองพร้อมเบี้ยงตัวหนีทันที... ไอ้เจ้าเปี๊ยกเลยทุบเตียงเปล่าไปเสียเต็มแรง

โบ๊ทฉวยโอกาสตอนกีต้าร์เสียสูญเล็กน้อย ตะหวัดขาเกี่ยวไปที่ตัวของร่างเล็กแล้วกดลงบนเตียงก่อนจะดีดตัวขึ้นคร่อมนั่งทับกลางลำตัวแล้วกดแขนกีต้าร์ลงบนเตียง


“เชี่ย!!!” กีต้าร์สบถที่ตัวเองเสียท่าจนกลับมาเสียเปรียบเต็มๆ

“ฮ่าๆๆๆๆๆ อ่อนเอ้ย” โบ๊ทหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี

“ปล่อย จะไปอาบน้ำ”

“ไม่ต้องอาบแล้ว ข้าวจะเสร็จแล้วเนี่ย แม่ให้มาตาม”

“มาตาม? แหม่... ไอ้หื่นเอ้ย!!”

“ฮ่าๆๆๆๆ ก็ช่วยไม่ได้อะ เอ็งมันยั่วนี่นา”

“ไม่ได้ยั่วสักหน่อย! ผมก็แค่งีบแปบเดียวอะ”

“แปบเดียวของเอ็งนี่มันนานเกือบชั่วโมงเลยไหม ห๊ะ?”

“...”

“หึหึหึ นี่ถ้ายอมดีๆ ป่านนี้ก็ไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย เสียเวลาชะมัด ยิ่งเวลาน้อยๆ อยู่”

“ไอ้!!!”

“ฮ่าๆๆๆๆ ล้อเล่น ไป ออกไปกินข้าวก่อน แล้วค่อยเข้ามาอาบน้ำ”

“ก็บอกดีๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องชี้หน้าผมเลย”

“ห๊ะ?”

“...”

โบ๊ทนึกงงกับคำพูดของกีต้าร์ แต่พอมองไปตามสายตาของกีต้าร์แล้วก็ถึงรู้ว่าโบ๊ทน้อยของเขานั้นมันตื่นเต็มที่จนตุงกางเกงไปหมดแล้ว... โบ๊ทละสายตาจากเป้าตัวเองแล้วมองไปยังหน้าแดงระเรื่อของกีต้าร์ ไม่มองเปล่า เขาปล่อยมือจากแขนของกีต้าร์แล้วเลื่อนมาไล้นิ้วบนริมฝีปากของกีต้าร์แทน เป็นสัญญาณเชิญชวนกึ่งขอร้อง

กีต้าร์ไม่ค่อยเข้าใจสัญญาณที่ว่านั้นหรอก โบ๊ทเลยต้องส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นอีกด้วยการแหย่นิ้วกลางเข้าปากของกีต้าร์... ชัดเจนแจ่มแจ้งว่าต้องการอะไร...

“อย่า...” แต่ส่งนิ้วเข้าปากไปไม่ทันได้พ้นปลายนิ้ว กีต้าร์ก็ปัดมือออกแล้วหันหน้าหนี

“ทำไมละ เอ็งก็มีอารมณ์ไม่ใช่เหรอ” โบ๊ทพูดอย่างมั่นใจเพราะเขาเองรู้สึกได้ถึงสัมผัสร้อน ขึงขัง บนกลางลำตัวของกีต้าร์ที่เขานั่งทับอยู่

“ไม่ได้หรอก... เดี๋ยวแม่รอนาน เขาจะสงสัยเอา”

“...”

“...”


โบ๊ทไม่ดื้อดึงอะไรอีก ลุกออกมานั่งบนเตียงแต่โดยดี... สักพัก กีต้าร์ก็ลุกขึ้นมานั่งบ้าง ต่างคนต่างนั่งกุมเป้าตัวเอง หน้าแดงกันทั้งคู่... คงต้องสงบสติอารมณ์ตัวเองกันให้ได้ก่อน ถึงจะออกไปกินข้าวได้...

นั่งกันเงียบๆ อยู่สักพักก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบอารมณ์ได้ เลยเหล่ตามองกัน... มองกันไปมองกันมาก็เริ่มเขิน กีต้าร์เลยกระแทกไหล่ร่างสูงจนตัวโยน โบ๊ทก็ไม่ยอม กระแทกกลับ เลยกลายเป็นนั่งกระแทกไหล่กันอยู่อย่างนั้นก่อนจะเริ่มหลุดเสียงหัวเราะออกมากันทั้งคู่


กว่าจะพากันออกมากินข้าวได้ แม่ตุ้มกับป้าเอียดก็ช่วยกันตั้งโต๊ะจวนจะเสร็จแล้ว เลยโดนแม่ตุ้มเทศน์ไปกาพย์ใหญ่... โบ๊ทโดนเรื่องไปเรียกน้องแล้วยังพากันช้า ส่วนไอ้เจ้ากีต้าร์โดนเพิ่มเรื่องแอบหลับไม่ยอมอาบน้ำ ฮ่าๆๆๆ... หลังทานข้าว สองหนุ่มเลยโดนทำโทษให้ล้างจานและเก็บครัวให้เรียบร้อย... กระนั้นก็ยังเล่นกันแกล้งกันจนทำจานแตกไปหนึ่งใบ ยังดีที่ไม่บาดมือให้ได้แผลกัน ส่วนหลักฐานจานแตกนะเหรอ ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะเหลือ เพราะไอ้เจ้าต้าร์มันใช้สกิลที่ได้มาตั้งแต่เด็กเก็บกวาดทำลายหลักฐาน แถมเอาเศษจานที่แตกออกไปทิ้งในถังขยะใหญ่นอกบ้านอีกต่างหาก... บริสุทธิ์หมดจด

หลังจากนั้นก็พากันไปนั่งๆ นอนๆ ดูโทรทัศน์ แต่ดูไปได้ไม่นานก็โดนแม่ตุ้มยึดรีโมทไปเปลี่ยนดูละครหลังข่าวแถมยังไล่ให้ไปอาบน้ำอีกต่างหาก แต่มีเหรอที่กีต้าร์จะไปแต่โดยดี ว่าแล้วก็ไปนอนเบียดนอนอ้อนแม่ตุ้มอยู่อย่างนั้น แม่ตุ้มก็เล่นตัวพอเป็นพิธีแต่สุดท้ายก็ยอมให้ลูกชายนอนหนุนตักแต่โดยดี

สองแม่ลูกดูละครหลังข่าวด้วยกันอย่างออกรส กีต้าร์เริ่มติดละครโดยไม่รู้ตัว ช่วยกันวิเคราะห์วิจารณ์เหตุการณ์ในเรื่องอย่างสนุกปากกับแม่ตุ้ม ยังดีที่แม่ลูกเขาเห็นตรงกัน เพราะถ้าเห็นไม่ตรงกัน ต่างคนต่างเชียร์คนละฝ่าย มีหวังได้ต่อล้อต่อเถียงกันแน่ๆ และไอ้เจ้าเปี๊ยกอาจโดนกำลังภายในของแม่ตุ้มซัดกระเด็นตกโซฟาได้... ท่านอนยิ่งซัดง่ายๆ อยู่ด้วย... ส่วนโบ๊ทก็นั่งดูบ้าง ไม่ดูบ้าง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเป็นระยะตามประสาคนไม่สนใจละคร... ดูไปได้สักพักใหญ่ๆ ก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปแปรงฟัน


“กีต้าร์” แม่ตุ้มเอ่ยเรียกลูกชายหลังจากที่ละครพักโฆษณา

“หืม? ไรแม่”

“เวลาอยู่กรุงเทพ อย่าดื้อมากนักนะ เกรงใจพี่โบ๊ทเขาบ้างนะลูก”

“โหยยยย แม่อะ ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย”

“แม่ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกเรานะเหรอจะไม่ดื้อ อายุจะ 20 แล้วนะเรา จะทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่ได้แล้วนะ”

“แม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมโตแล้ว เชื่อผมสิ เชื่อผม... ผมอยู่กรุงเทพมาตั้งหลายปีแล้วนะ ผมก็อยู่ได้ เป็นเด็กดีไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรให้แม่ปวดตับซักหน่อย เห็นไหมล่ะ”

“อื้อ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แค่พูดเฉยๆ... ฮ่ะๆๆๆ”

“สบายใจได้ หายห่วง ฮ่าๆๆๆ”

“แหม ให้มันจริงเหอะน่า... แล้วอย่าไปทำสาวไหนเขาท้องป่องมาให้แม่ใจวายแล้วกัน”


*เฮือก!*


เจอประโยคนี้ของแม่ตุ้มเข้าไป กีต้าร์ถึงกับสะดุ้งเฮือกจนแม่ตุ้มเองยังสงสัย

“สะดุ้งทำไม... หรือทำไปแล้ว?”

“เปล่าๆๆๆๆๆ ยังแม่ ยังๆๆๆๆ ยังไม่เคยทำใครท้องทั้งนั้นแหละแม่” กีต้าร์ปฏิเสธพัลวัน

“แน่นะ? ไม่ใช่โผล่มาอีกทีมีหลานมาให้แม่อุ้มแล้วนะ จะทุบหัวให้”

“โหยยยย ไม่มีหรอกแม่”

“ฮ่ะๆๆๆๆๆ”

“แหะ แหะ”

“...”

“...”

“กีต้าร์...”

“หือ?”

“อยู่คนเดียว เหนื่อยไหมลูก” แม่ตุ้มถามอย่างอบอุ่นพร้อมลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน

“ไม่เหนื่อยหรอกแม่ ชินแล้ว” กีต้าร์ตอบพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาแม่ตุ้ม

“ทุกทีได้คุยแต่ทางโทรศัพท์ แม่ก็ไม่ถึงกับสบายใจไปซะหมด แต่พอเห็นกีต้าร์ยังดื้อยังซนแบบนี้แม่ก็สบายใจ”

“อ้าว ไหงงั้นละ ไหนบอกว่าไม่ให้ผมดื้อไงแม่”

“ฮ่ะๆๆๆๆ ไว้กีต้าร์มีลูกแล้วกีต้าร์จะเข้าใจ”

แม่ตุ้มพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะหันกลับไปสนใจละครหลังข่าว... ไม่รู้ว่าละครมันสนุกหรือเพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังนอนหนุนตักอยู่นี้ที่เป็นสาเหตุให้แม่ตุ้มมีรอยยิ้มอบอุ่นพะอยู่บนใบหน้าได้ตลอด... ส่วนไอ้เจ้าเปี๊ยกนะเหรอ ยังเหวออยู่กับคำว่า “มีลูก” อยู่เลย ฮ่าๆๆๆๆ


ละครหลังข่าวจบ แม่ตุ้มก็ขอตัวไปนอน ส่วนกีต้าร์ก็กลับห้องไปอาบน้ำเตรียมนอนเหมือนกัน... แต่พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องเจอกับลิงภูเขาตัวใหญ่ที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง

“อ้าว ละครจบแล้วเหรอเปี๊ยก”

“ใช่จบแล้ว และผมก็กำลังจะอาบน้ำและนอน”

“อือ”

“คือ ผมหมายถึงว่า อาบน้ำและนอน คนเดียว”

“อือ”

“คือ... คุณโบ๊ท นอนเล่นห้องผมได้ ไม่ว่านะ แต่ผมนอน คน เดียว... โอป่ะ?”

“...” โบ๊ทแกล้งไม่ได้ยินที่กีต้าร์พยายามย้ำ ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์เม้นท์เฟซบุคไปเรื่อย

“คุณโบ๊ททททท”

“หืม? ไรครับ”

“เข้าใจใช่ไหมเนี่ย”

“อือ รู้แล้วน่าว่ารังเกียจ ไม่ให้นอนด้วย” โบ๊ทแกล้งประชด

“เฮ้ยยยย ไม่ใช่เหอะ แต่ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ทำไรหรอกน่า”

“ไม่เอา เดี๋ยวแม่มาเห็น”

“ไม่ได้ทำอะไรกันสักหน่อย จะกลัวแม่เห็นอะไร หรือเอ็งคิดอะไรหื่นๆ อยู่?”

“บ้าแล้ว ไม่ใช่สักหน่อย โว๊ะ!!”

“ฮ่ะๆๆๆ ไปเลย ไปอาบน้ำ”

“รู้แล้วน่า”

ว่าแล้วกีต้าร์ก็ถอดเสื้อ แต่ระหว่างที่กำลังถอดเสื้อนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมายังแผ่นหลัง เมื่อหันไปดูก็เห็นว่าร่างสูงหลบตา แกล้งกลับไปจ้องจอโทรศัพท์มือถือ... เห็นเช่นนั้นแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัย เลยรีบคว้าผ้าเช็ดตัวและชุดนอนแล้วจ้ำเข้าห้องน้ำไป แต่ก่อนจะได้ปิดประตูห้องน้ำ รุ่นพี่คนสนิทก็ตะโกนเรียกเสียก่อน


“เปี๊ยก”

“ไร”

“ถ้าจะชักกะโด้วก็เรียกได้นะ เดี๋ยวเข้าไปช่วย”

“เชี่ยยยยย!!!”


*ปึง*


กีต้าร์ปิดประตูอย่างรวดเร็วราวกับว่ากลัวคำพูดของโบ๊ทจะตามเข้ามาทำให้หวั่นไหว... เพราะนอกจากที่เขาต้องคอยปรามโบ๊ทแล้ว เขาเองก็ต้องคอยบอกคอยห้ามตัวเองไม่ให้หลงไปกับสัมผัสหรือแววตาชวนหวั่นไหวด้วยเช่นกัน

กีต้าร์ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็ออกมา ใส่ชุดนอนเต็มยศ เหลือเพียงรอให้หัวแห้งก็กระโดดขึ้นเตียงได้... แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับทำให้ต้องเกาหัวยิกๆ เพราะภาพตรงหน้าคือหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงนอนพริ้มอยู่บนเตียง ห่มผ้าเรียบร้อย แถมปิดไฟแล้วด้วย เหลือไว้เพียงโคมไฟหัวเตียงฝั่งขวาที่เหลือไว้ให้กีต้าร์ใช้เป็นแสงสว่างส่องสู่เตียงอันแสบอบอุ่น(?)

กีต้าร์ครุ่นคิดพลางเดินไปเปิดพัดลมเป่าผมให้แห้ง แต่ผมสั้นๆ แบบนี้ไม่ได้ช่วยซื้อเวลาได้เยอะนักหรอก... เพียงไม่ถึง 3 นาทีผมกีต้าร์ก็แห้ง... กีต้าร์ปิดพัดลมแล้วเดินไปยืนที่ปลายเตียง จ้องมองไปยังหน้ายามหลับของหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูง เด็ดดอกไม้ในใจ

ปลุก...

...ไม่ปลุก

ปลุก...

...ไม่ปลุก

ปลุก...

...ไม่ปลุก

ปลุก...

...ไม่ปลุก

.


“อืม โอเค ไม่ปลุกก็ไม่ปลุก”

กีต้าร์งืมงำอยู่คนเดียวก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งขวาของเตียงที่โบ๊ทเว้นว่างไว้ก่อนจะหย่อนตัวลงนอนแล้วปิดไฟ...

แต่ปิดไฟได้ไม่ถึง 10 วินาทีกีต้าร์ก็เอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงอีกรอบ เพราะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ล็อคห้อง... กลัวว่าแม่จะเห็นว่านอนกอดกัน... เอ่อ จริงๆ แล้วไอ้เปี๊ยกก็ไม่ได้อยากหรือคาดหวังว่าโบ๊ทจะนอนกอดหรอกนะ แต่กันไว้ก่อนก็ดีกว่าใช่ไหมละ ฮ่าๆๆๆๆๆ


*กริ๊ก*
ประตูล็อคแล้ว


*แป๊ก*
ไฟหัวเตียงดับลงแล้ว


*หมับ*


“เห๊?”

“หึหึ”

“อ๊ากกกกกก ไอ้คุณโบ๊ทททททท ปล่อยนะ!!!!”

“ชู่วววววววว เดี๋ยวแม่ได้ยินนะเปี๊ยก”

“ไอ้!!!”

“มามะ ขอกอดหน่อยนะ หึหึหึ”

“เชี่ย!! อย่านะ อ๊ากกกกกกกกก”


ภาพสุดท้าย เห็นเงาตะคุ่มๆ คล้ายๆ คนสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ใต้ผ้าห่ม แรงสะบัดของผ้าห่มทำให้กระดาษโน๊ตบนโต๊ะหนังสือของกีต้าร์ปลิวหล่น ไม่ได้มีใจความสำคัญอะไรมาก แค่ลายมือหวัดๆ ที่เขียนไว้ว่า



“โปรดติดตามตอนต่อไป (จะจบแล้วนะ)”



-----------------------------------------------------------------

FlapJack Corner:

ตอนใหม่มาแล้ว ตอนแรกกะไว้ว่าจะแค่สั้นๆ เป็น interlude เชื่อมเวลาช่วงกลานคืนไปสู่เช้าวันรุ่งขึ้น แต่เขียนไปเขียนมามันได้ยาวอย่างกับเป็นตอนปกติของเนื้อเรื่องหลักเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆ เอาเป็นว่าถือว่าเป็นกำไรของชนกลุ่มน้อยก็แล้วกันเนอะ :hao3:

เจอกันตอนหน้าครับ ภาคพิเศษจะจบลงอย่างไร ไว้คอยมาดูกัน  :bye2:

Mulberry

  • บุคคลทั่วไป
เฮียโบ๊ทเจ้าเล่ห์+หื่นไปไหม แกล้งหลับเพื่อจะได้นอนกับเปี๊ยก 555555 :laugh:

น่ารักจริงๆ เลยนะคู่นี้ อ่านยังไงก็ชวนให้ยิ้มทุกทีเลย น่ารัก :impress2:

อะไรนะ! จะจบแล้วเหรอ ไม่จริงงงงงงงง :ling1:

ออฟไลน์ FlapJack

  • ชีวิตคือการผจญภัย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-3
    • FLAPJACK SPACE

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
อัลไรนะ จะจบแล้วว
ม่ายยยย :ling3:

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
 :monkeysad: เศร้าเลย จะจบซะแล้ว ตอนหน้าแม่ตุ้มคงได้ต้อนรับลูกเขยจริง ๆ แล้วสิ
หรือที่แม่ตุ้มจับได้เพราะคุณโบ๊ทบุกห้องเจ้าเปี๊ยกกันเนี่ย คุณโบ๊ทนี่เจ้าเล่ห์สุด ๆ อะ
แต่แม่ตุ้มคงดีใจที่ยังไงก็ไม่ต้องหัวใจวายเพราะเจ้าเปี๊ยกไปทำสาวที่ไหนท้องแน่นอน
แล้วถ้าตอนหน้าจบ บ้านคุณโบ๊ทจะได้ต้อนรับลูกสะใภ้ไหมอะ คุณโบ๊ทยังไม่ได้พาเจ้าเปี๊ยกไปไหว้พ่อแม่เลยนะ
อย่างงี้ต้องมีตอนพิเศษสิค่ะ รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้คุณแจ๊คเหมือนเดิมค๊า  :pig4:  :กอด1: 

Lazy_woman

  • บุคคลทั่วไป
 :haun4: :haun4: :haun4: เปี๊ยกเ้อ้ยยยย จนแล้วจนรอดจริงๆ เสร็จลิงภูเขาจนได้ :hao6:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คนนึงจ้องจะงาบอยู่ตลอดเวลา คงหลบพ้นหรอกนะ

ออฟไลน์ FlapJack

  • ชีวิตคือการผจญภัย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-3
    • FLAPJACK SPACE
LOVE (extra) HIGH STORY – 08 – Long Way to Go



“แม้ และถึงแม้วันเวลาผ่านเพียงไหน ฉันนั้นก็พร้อมที่จะไปกับเธอได้สุดทาง ที่ที่มีเธอและฉัน มันก็เป็นเหมือนใจกลาง ความรู้สึกดีๆ...”


กีต้าร์นั่งฮัมไปกับเพลงจากวิทยุพลางนั่งโยกหัวและเคาะนิ้วตามจังหวะอย่างสบายใจ หลังจากที่อ้อนแม่ตุ้มขอเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จ แถมได้พ๊อกเก็ตมันนี่มาอีกไม่น้อยให้ได้ไปกินไปช้อปให้หนำ ซึ่งจริงๆ แล้วแม่ตุ้มก็ย้ำนักย้ำหนาว่าเงินที่ให้ไปนี้ ให้เลี้ยงดูปูเสื่อโบ๊ทด้วยตามประสาเจ้าบ้านที่ต้องรับรองแขก(?)ของครอบครัว... แต่ไอ้แขกที่ว่าเนี่ย ตอนนี้กำลังทำหน้าที่เป็นสารถีพาลูกคุณแม่ไปเที่ยวนะครับ แหม่...

วีโก้สี่ประตู 4WD สีดำคันคุ้นตาขับออกจากอำเภอดอยเต่า มุ่งหน้าสูอำเภอเมือง ศูนย์กลางขอจังหวัดเชียงใหม่... โบ๊ทไม่ได้ขับเร็วมากนัก เพราะไม่คุ้นเส้นทาง เลยต้องคอยดูคอยขับตามป้ายไปเรื่อยๆ ส่วนไอ้เปี๊ยกก็ทำตัวดี ช่วยมองทางมองป้าย แต่ก็แอบมีกวนประสาทเล่นพอให้มีเรื่องมาเถียงกันอยู่เป็นระยะๆ... พอบอกทางผิดทั้งๆ ที่ย้ำนักย้ำหนาว่าข้ามั่นใจ ก็แกล้งหลับบ้าง แกล้งตายบ้าง จนโบ๊ทอดไม่ได้ ต้องลงไม้ลงมือให้ได้ร้องโอดโอยไปตลอดทาง


สองหนุ่มใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงก็เข้าเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แต่ตลอดทางที่ผ่านมาไม่ได้คิดไว้เลยว่ามาถึงแล้วจะไปเที่ยวไหนกันบ้าง เรียกได้ว่าไม่มีแผนอะไรเลย นอกจากรู้ว่าอยากมาเที่ยวนั่นเอง... แถมกีต้าร์เองก็ไม่ค่อยรู้ว่ามีอะไรเที่ยวบ้าง เลยโทรกลับไปถามแม่ตุ้ม แม่ตุ้มเลยได้หัวเราะอร่อยปากที่ลูกชายกับรุ่นพี่พากันขับไปตั้งไกลแต่ลืมนึกกันไปว่าจะไปไหนกันบ้าง ว่าแล้วก็แนะนำให้ไปไหว้พระกันที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ถือว่าไปนมัสการพระบรมธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดกันก่อน เพราะตั้งแต่มาถึงเชียงใหม่ก็ไม่ได้ไปไหนกันเลย อยู่แต่บ้าน เข้าแต่สวน

ร่างสูงเปิด GPS ในโทรศัพท์มือถือหาทางไปวัดพระธาตุฯ กีต้าร์เห็นก็เลยอดแซวไม่ได้ว่า “แล้วที่ผ่านมาตลอดทางทำไมไม่ใช้” แต่ก็โดนโบ๊ทสวนกลับด้วยคำถามเดียวกัน สรุปแล้วก็คือพลาดทั้งสองคนตั้งแต่ออกจากบ้านมานั่นแหละ ฮ่าๆๆๆ

สองหนุ่มแวะเข้าห้องน้ำและซื้อขนมที่ปั๊มน้ำมันก่อนจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่วัดพระธาตุฯ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ออกไปประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าแล้วกีต้าร์ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้...

“ตอนเอนท์อะ ผมเกือบเลือกมาเรียนที่ม.เชียงใหม่แล้วนะ” กีต้าร์เอ่ยขึ้น

“อ้าวเหรอ... อยากกลับมาอยู่กับแม่ละสิเรา”

“อืม ก็ประมาณนั้นแหละ แต่พอคิดไปคิดมา ถ้ามาเรียนที่นี่ก็ไม่ได้อยู่บ้านอยู่ดี เพราะบ้านอยู่ไกล ยังไงก็ต้องเช่าหออยู่คนเดียวเหมือนเดิม แถมต้องมาหาเพื่อนใหม่อีก เลยเปลี่ยนใจ อยู่กรุงเทพอย่างน้อยก็ยังมีไอ้ทีไอ้โจ”

“นี่ถ้าตอนนั้นเอ็งมาเรียนเชียงใหม่จริงๆ นะ รับรองเลยว่าเอ็งได้โสดไปตลอดชีวิตแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ”

“อ้าว ไหงงั้นล่ะ ไอ้คุณโบ๊ท” กีต้าร์โวยวายเสียงสูง

“ก็ถ้าเอ็งมาอยู่เชียงใหม่ แต่เนื้อคู่เอ็งอยู่กรุงเทพ แล้วจะได้เจอกันได้ยังไงละ หืม” โบ๊ทพูดพร้อมหันมายิ้มละมุนให้

“...” กีต้าร์คิดตามอยู่ชั่วอึดใจก็เข้าใจสิ่งที่โบ๊ทพูด ทำเอาเขินจนเถียงไม่ออก

“ฮ่าๆๆๆๆ หน้าแดงเชียว ไอ้เปี๊ยกเอ้ยยยย” โบ๊ทหัวเราะร่าพลางยื่นมือซ้ายไปยีหัวชี้ๆ ของร่างเล็ก

“ฮึ่ยยยยย อย่ายีดิ เสียทรงหมด” กีต้าร์โวยวายกลบเกลื่อนพลางปัดมือโบ๊ทออกเบาๆ... เล่นตัวพอเป็นพิธี

“ฮ่าๆๆๆๆ จะมาห่วงหล่ออะไร ไอ้คนไม่หล่ออย่างเอ็งเนี่ยห๊ะ”

“โหยยยยย ดูถูก!!! วันนี้มาเช็คเรทกันเลยไหม ท้าเลยเนี่ย”

“อย่าแม้แต่จะคิดน่าเปี๊ยก เอ็งก็รู้ว่าใครหล่อกว่า” โบ๊ทไม่พูดเปล่า เก๊กหน้าแล้วเอียงหน้าทำมุมหล่อ ตอกตะปูปิดฝาโลงโอกาสที่ไอ้เปี๊ยกจะต่อกร

“แม่ง...”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ อ่อนเอ้ยยยยย”

“รู้งี้มาเรียนเชียงใหม่ก็ดี จะได้ไม่ต้องเจอลิงกวนตีนแบบนี้”

“แล้วรู้ได้ไงว่าหนีมาแล้วจะไม่เจอโบ๊ท โบ๊ทอาจจะมาเที่ยวแล้วมาเจอเอ็งที่นี่ก็ได้นะ... รู้จักไหม พรหมลิขิตน่ะ”

“พรหมลิขิตอะไรละ แบบนี้ผมเรียกว่าโชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้งต่างหาก”

“งั้นก็ช่วยไม่ได้ เพราะโบ๊ทฟันธงว่าเอ็งจะต้องโดนฟ้ากลั่นแกล้งไปตลอดชีวิต ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“...แม่ง”

ถึงจะบ่นไปอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่คิดจะขัดขืนต่อโชคชะตาจริงๆ หรอกเนอะเปี๊ยก ฮ่ะๆๆๆๆ


รถวีโก้สี่ประตูสีดำแล่นผ่านสวนสัตว์เชียงใหม่ ไปตามถนนห้วยแก้วจนถึงอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย สองหนุ่มหยุดรถเพื่อไหว้และขอพรครูบาศรีวิชัยตามที่แม่ตุ้มย้ำนักย้ำหนาตอนที่กีต้าร์โทรถามที่เที่ยวก่อนหน้านี้ ใช้เวลาไม่นานสองหนุ่มก็ออกเดินทางต่อ ขึ้นเข้าคดเคี้ยวประมาณ 10 กิโลเมตร ระหว่างทางก็จอดรถลงไปดูวิว ถ่ายรูป เช็คอินกันที่จุดชมวิวดอยสุเทพก่อนขึ้นถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ

จากจุดชมวิว ขึ้นไปอีกไม่นานก็ถึงวัดพระธาตุฯ เมื่อจอดรถเส้นก็เดินผ่านร้านค้าของที่ระลึกที่เรียงรายอยู่ตลอดทางเข้าวัด แต่ไม่ใช่ว่าไปถึงแล้วสองหนุ่มจะได้เดินเข้าวัดไปไหว้พระกันสบายๆ นะ เพราะการจะขึ้นไปวัดพระธาตุฯ ได้นั้น จะต้องผ่านความยากลำบากด่านหนึ่ง นั่นคือบันไดนาคเจ็ดเศียร 300 ขั้นที่ไอ้เปี๊ยกเห็นแล้วถึงกับแอบเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวขึ้นบันได

“อะไรกันเปี๊ยก บันไดแค่นี้ถึงกับหน้าเหวอเลยเหรอ อ่อนวะ ฮ่าๆๆๆๆ” ร่างสูงเอ่ยแซวร่างเล็กที่ยืนมองขั้นบันได้อยู่ข้างกาย

“ฮึ่ยยยย แค่นี้เอง แข่งกันเลยไหมล่ะ ใครถึงก่อนเลี้ยงน้ำ... เริ่ม!!” กีต้าร์ท้า แต่ท้าเขาแล้วไม่รอคำตอบอะไรทั้งนั้น ฉวยโอกาสโกงออกวิ่งขึ้นบันได้ไปก่อน ทำเอาเด็กๆ ที่ใส่ชุดม้งขายของตรงตีนบันไดงงกันเป็นแถบว่าตัวอะไรเพิ่งวิ่งตัดหน้าไปแวบๆ


กีต้าร์จ้ำพรวดๆๆๆๆ นำร่างสูงขึ้นบันไดไปไกล แต่ก็นะ ไอ้เปี๊ยกมันม้าตีนต้น แรงดีตอนออกตัวแล้วไปตายตอนท้าย คราวนี้ก็เช่นกัน พุ่งขึ้นบันไดไปได้สักครึ่งทางก็หมดแรงเอาเสียดื้อๆ แต่จะหยุดพักก็กลัวแพ้รุ่นพี่ร่างสูง เลยขอแอบเหลียวกลับมามองสักนิด เผื่อนำโด่งจะได้พอพักหายใจได้สักแปบ แต่ภาพที่เห็นทำเอากีต้าร์ถึงกับแทบทรุดลงคาบันได เพราะร่างสูงที่ตอนนี้ควรจะกำลังจ้ำอ้าวไล่ตามเขามานั้น ตอนนี้กลับกำลังเดินขึ้นชิลๆ พร้อมกับยกโทรศัพท์มาทางเขา เหมือนกำลังถ่ายรูปหรือวีดิโออยู่... สรุปคือเหนื่อยฟรี...

แต่มีเหรอที่มาขนาดนี้แล้วไอ้เปี๊ยกจะยอมเสียฟอร์ม ว่าแล้วก็หันหลังให้ร่างสูงแล้วออกจ้ำก้าวยาวๆ (ยาวเท่าที่ขาสั้นๆ คู่นั้นจะยาวได้) ขึ้นบันไดไปเพื่อให้เป็นผู้ชนะ... ยังหวังในใจว่าโบ๊ทต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงน้ำ


โบ๊ทเดินขึ้นทีละขั้นสองขั้น ไม่ฝืนกำลังขาตนเองจนเกินไป เพื่อให้เดินขึ้นบันไดทั้ง 300 ขั้นนี้ได้โดยไม่ต้องหยุดพัก ในมือถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปวีดิโอไอ้เปี๊ยกแสบวิ่งขึ้นบันไดแล้วไปหยุดหอบอยู่กลางทาง... โบ๊ทยิ้มอยู่คนเดียวกับโทรศัพท์ หัวเราะเบาๆ ให้กับความเกรียนของหนุ่มรุ่นน้องร่างเล็ก

“ผมชนะ” กีต้าร์เอ่ยขึ้นทั้งๆ ที่เสียงยังฟังดูหอบอยู่เล็กๆ หน้ายังไม่หายซีดเลยด้วยซ้ำ

“อื้อ เอ็งชนะ... แล้วไง?” โบ๊ทตั้งใจถามกวนประสาท

“เอ้า ก็คุณโบ๊ทต้องเลี้ยงน้ำผมไง”

“อืมมมม... แต่โบ๊ทจำไม่ได้ว่ารับคำท้านะ เอ็งพูดเองเออเองแล้วก็วิ่งพรวดๆๆๆ ขึ้นมาเนี่ย”

“เฮ้ยยยยย อย่ามาเบี้ยวนะ กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ”

“แต่โบ๊ทไม่ใช่กษัตริย์นี่”

“...เชี่ย”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ โบ๊ทจะบอกว่าโบ๊ทไม่ใช่กษัตริย์ แต่แค่น้ำอะ โบ๊ทเลี้ยงก็ได้ มากกว่านี้ก็ยอม โอเคไหม หืมมม”

“โอเค ฮ่าๆๆๆๆ”


สองหนุ่มพากันเดินเข้าวัดไปนมัสการพระบรมธาตุสีทองเรืองอร่าม ยืนไหว้และอธิษฐานอู่สักพักก็เดินทักษิณาวัตร 3 รอบตามที่ได้ยินผู้ใหญ่แถวๆ นั้นบอกลูกหลานของพวกเขาให้ทำ... ทำแล้วจะเป็นสิริมงคล... เขาว่างั้น

สองหนุ่มเดินชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาเต็มที่ ไม่รีบร้อน เดินไปเรื่อย เดินไปรอบๆ แวะถ่ายรูปกับมุมต่างๆ ในวัดกันอยู่หลายชอต ตรงไหนมุมอับคนหน่อยโบ๊ทก็เปิดกล้องหน้าชูถ่ายคู่กับไอ้เปี๊ยกให้พอมีรูปคู่กันบ้าง แต่อย่าได้หวังว่าจะเป็นรูปแบบว่าหนุ่มหน้าตาดีถ่ายคู่กันหล่อๆ นะ เพราะไอ้เปี๊ยกมันชอบทำหน้าเกรียนใส่กล้องตลอดเลย โบ๊ทห้ามยังไงก็ไม่ฟัง บอกให้ทำหน้าดีๆ ถ่ายคู่กันก็ไม่ยอม โบ๊ทเลยปล่อยเลยตามเลย แล้วค่อยลงโทษด้วยการอัพรูปเกรียนๆ อย่างนั้นขึ้นเฟซบุคซะเลย... ซึ่งไอ้เปี๊ยกก็โวยวายนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่ ตัวเองทำเอง เขาบอกแล้วไม่เชื่อ ฮ่าๆๆๆๆ


สองหนุ่มใช้เวลาอยู่ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพอยู่นาน กว่าจะลงจากดอยกันได้ก็ค่ำ ไอ้เปี๊ยกบ่นหิว เลยแวะร้านก๋วยจั๊บหมูกรอบตรงตีนเขาเพื่อหาอะไรกินรองท้องก่อนไปจัดเต็มในตัวเมือง

ระหว่างรอก๋วยจั๊บ โบ๊ทก็เปิดโทรศัพท์หาข้อมูลร้านอาหารดังในตัวเมืองเชียงใหม่ นั่งจิ้มๆ ลากๆ หน้าจอโทรศัพท์อยู่สักพักก็รู้สึกเหมือนมีคนจ้อง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นกีต้าร์กำลังมองมาที่เขาพร้อมรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าใส แถมพอโบ๊ทเงยหน้าขึ้นมาแล้วกีต้าร์ไม่หันหน้าหนีด้วย โบ๊ทนึกสงสัยอยู่ไม่น้อยว่ากีต้าร์คิดอะไรอยู่ ถึงกล้าจ้องเขาแบบนี้ทั้งๆ ที่ทุกทีต้องหลบตา แต่ก็ไม่ได้ถาม เพราะถึงไม่รู้ว่าร่างเล็กกำลังคิดอะไร แต่ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่ส่งผ่านสายตานั้นมา

สองหนุ่มนั่งจ้องกันอยู่สักพัก ต่างฝ่ายต่างยิ้มจนเกือบหัวเราะ กลายเป็นการแข่งจ้องตากันไปโดยปริยาย สุดท้ายกลายเป็นโบ๊ทเองที่เริ่มเขินจนจะทนไม่ไหว เลยเล่นขี้โกงทำปากจู๋ แล้วส่งเสียง “จุ๊บ” ไปให้ร่างเล็กจนร่างเล็กหลุดหัวเราะออกมา เป็นอันว่าเกมจ้องตาจบลงด้วยเสียงหัวเราะของสองหนุ่ม

จากแผนเดิมที่จะแค่กินรองท้อง เปลี่ยนเป็นกินกันจนแน่นท้องเพราะหมูกรอบร้านนี้เขาอร่อยขั้นเทพ กรอบพอดีไม่แข็งจนเกินไป มันก็ไม่หนามาก มีพอให้ได้เคี้ยวชุ่มปาก ส่วนรสชาติก็กลมกล่อม ไม่เค็มเกินไป จิ้มกับน้ำจิ้มที่ออกหวานได้อย่างลงตัว สองหนุ่มเลยจัดเต็มกันจนอิ่มแปล้ เรียกได้ว่าไปกินอย่างอื่นไม่ไหวกันเลยทีเดียว... เอ่อ หมายถึงจัดเป็นมื้อใหญ่ๆ ไม่ไหวแล้ว แต่ไอ้เจ้าเปี๊ยกมันยังมีกระเพาะในส่วนของขนมขบเคี้ยว ของหวาน ของกินเล่นอยู่นะ แบ่งไว้แล้ว

หลังจากสองหนุ่มกินข้าวเย็นกันเสร็จ ก็มุ่งหน้าไปที่ถนนคนเดินแถวๆ ประตูท่าแพ ซึ่งเป็นที่หมายหลักของกีต้าร์เขาเลยแหละ ที่อยากมาเที่ยวในตัวเมืองก็เพราะถนนคนเดินนี่เลย... เมื่อขับกันไปถึงถนนราชดำเนินก็วนๆ หาที่จอดอยู่นานสองนาน เพราะช่วงเย็นๆ หัวค่ำแบบนี้คนออกมาเดินกันค่อนข้างเยอะ ที่จอดที่เป็นกิจลักษณะก็ไม่มี เลยต้องไปหาจอดริมถนนเอา... สุดท้ายสองหนุ่มได้ที่จอดริมถนนบริเวณท้ายตลาดที่ออกไปทางถนนสุเทพ เดินกันไกลพอสมควรแต่ก็โอเคเพราะฟ้ามืดแล้ว เดินได้ไม่ร้อน แถมอากาศก็เย็นสบาย

เมื่อเดินไปถึงทางเข้าถนนคนเดิน สิ่งที่พวกเขาเห็นคือแสงไฟสว่างเป็นแนวยาวตลอดสาย ร้านรวงเปิดกันเต็มแถวทั้งซ้าย ขวา และกลางถนน... คนค่อนข้างเยอะ แต่ยังไม่ถึงกับเดินเบียดกันมากนัก คิดว่าอีกสักชั่วโมงนึงคนคงจะแน่นกว่านี้ คนที่มาเดินมีทั้งคนไทย คนจีน ญี่ปุ่น และฝรั่งหัวทองที่ส่วนใหญ่แต่งกายด้วยกางเกงหรือเสื้อทรงพื้นเมืองตามประสานักท่องเที่ยว

โบ๊ทพาดมือไปแตะไว้บนไหล่ของกีต้าร์แทนการเดินกอดคอ เพราะคนค่อนข้างเยอะแบบนี้ เดินกอดคอกันคงเดินไม่สะดวกเท่าไร ไอ้เจ้าเปียกก็ไม่ขัดขืนอะไร แค่หันมามองแล้วยักคิ้วกวนประสาทให้สองที... สองหนุ่มเดินดูของไปตามทาง สลับเลนซ้าย-ขวาผ่านช่องตรงกลางที่ร้านค้าแบบกะดินกลางเลนเว้นไว้ให้ เดินชิลๆ ไม่รีบร้อน ค่อยดูของไปเรื่อย เท่าที่เห็นก็จะมีของพื้นบ้านอย่างชุดม้ง ชุดแม้ว โคมไฟฉลุลายช้าง ลายวัด เสื้อยืด เสื้อผ้าฝ้าย กางเกงชาวดอย สายผูกข้อเท้า แม็กเนทติดตู้เย็น โปสการ์ด สมุดโน๊ต รองเท้าแตะ รองเท้าสาน และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนราคาเท่าที่เห็นไอ้เจ้าเปี๊ยกถามก็รู้สึกว่าไม่แพงนะ แถมต่อได้พอสมควรเลยหละ

“พี่ สมุดนี้ขายไงอ่ะ” กีต้าร์ย่อตัวลงนั่งยองๆ แล้วหยิบสมุดโน๊ตลายช้างขึ้นมาดูพลางเอ่ยถามคนขาย

“เล่มละ 10 บาท 10 เล่มร้อยเลยน้อง”

“...” กีต้าร์นึกตามอยู่สักพักก็หันไปมองหน้าโบ๊ทที่ยิ้มรออยู่แล้ว

“เออ ก็ถูกแล้วไง เล่มละ 10 บาท 10 เล่มก็หนึ่งร้อยไง งงไรวะเปี๊ยก”

“ก็พยายามนึกตามอยู่ว่ามันถูกกว่าซื้อเล่มเดียวเท่าไร”

“ฮ่ะๆๆๆๆ ไม่ถูกกว่าหรอก กี่เล่มก็เล่มละ 10 บาทเหมือนกัน” โบ๊ทหัวเราะเล็กๆ

“เอางี้น้อง พี่ให้ 10 แถม 1 เลย คิดไป 110 พอ” คนขายวัยหนุ่มเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกวน

“เอ้า มันก็เท่ากันไม่ใช่เหรอพี่”

“ฮ่าๆๆๆ พี่ล้อเล่น... เอางี้ พี่ให้ 10 แถม 1 ราคาร้อยเดียวเลย โอเคไหม”

“แต่ ผมไม่ได้อยากได้ 11 เล่มอะ”

“งั้นก็เล่มละ 10 บาท เลือกเอาเลยน้อง มี 10 ลาย เอากี่เล่มจัดมา”

“โอเค... คุณโบ๊ทเอาไหม”

“หืม เอาไปไมอะ”

“ผมว่าจะซื้อไปฝากไอ้โจกับไอที เผื่อถ้าคุณโบ๊ทอยากซื้อไปฝากพวกพี่เต็มก็จะได้ซื้อทีเดียวไปเลย... จะได้ขอต่อราคาเลยทีเดียวไง” กีต้าร์อธิบาย ส่วนท้ายประโยคนี้กระซิบให้ได้ยินแค่สองคน ฮ่าๆๆๆ

“อื้อ เอาดิ ซื้อไปฝากพวกมันก็ได้ ก็ไม่แพงดีนะ”

“งั้นเอาลายไรดี”

“นี่ไง ลายช้างปั่นจักรยาน”

“ฮ่าๆๆๆ ผมลายนี้ผมก็ชอบนะ ช้างส่งจดหมาย มีเขียนว่าเชียงใหม่ด้วย”

“อื้อ อันนี้ก็กวนดี ลายผู้ชายมีหนวด แม่งแก้มแดงด้วย ฮ่าๆๆๆๆ”

“นี่ๆ ลายนี้ๆ ช้างน้อย เอาไปให้ไอ้โจดีกว่า แซวแม่งเลย ไอ้เจี๊ยวเล็ก ฮ่าๆๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ น่าจะมีช้างเกรียนเนอะ โบ๊ทจะซื้อให้เอ็งเลย เปี๊ยกเอ้ย”

“ซื้อให้ตัวเองเหอะ ลิงเอ้ย!! นี่เอาไปเลย ช้างน้อย 5 เล่ม!!”

“ฮ่าๆๆๆ”

สองหนุ่มช่วยกันเลือกสมุดไปก็แซวก็เถียงกันไป จนเจ้าของร้านฟังแล้วยังอดยิ้มตามไม่ได้ คนอื่นๆ ที่เดินผ่านหน้าร้านถ้าได้ยินบทสนทนาก็อดหันมามองไม่ได้แทบจะทุกคน

หลังจากที่เลือกสมุดกันได้แล้ว สองหนุ่มก็พากันเดินไปตามทาง ไหลไปตามฝูงชน กวาดตาสอดส่องดูของจากร้านแบกะดิน... ร่างสูงมักจะมองหาขอแต่งห้อง เช่น รูปวาดสีน้ำมันลายพื้นบ้านหรือลายช้าง เชิงเทียน แจกัน แก้วน้ำ อะไรประมาณนี้ ส่วนไอ้เจ้าเปี๊ยกนะเหรอ มองหาแต่ของกิน ทั้งหมูยอนึ่ง ลูกชิ้นทอด เกี๊ยวซ่า ไข่ปาม (ไข่ปิ้งในกระทงใบตอง โรงหน้าต่างๆ เช่น ปลาหมึก ปูอัด มดแดง และผึ้ง) ขนมจีบ จิ้นทอด (หมูทอด)... เน้นแต่ของคาวล้วนๆ ซื้ออย่างละนิดอย่างละหน่อย รวมๆ กันแล้วมันก็เยอะอยู่พอตัว

“เปี๊ยก ไหนว่าอิ่มไง ก๋วยจั๊บกับหมูกรอบเป็นตัวๆ มันย่อยไปหมดแล้วเหรอไง ห๊ะ แล้วดูดิ ซื้อซะเยอะเลย จะกินหมดไหมเนี่... อุ๊บ!” โบ๊ทบ่นเล็กหลังจากที่ไอ้เจ้าเปี๊ยกมันแวะซื้อทาโกะยากิ แต่ยังไม่ทันบ่นได้จบประโยคดี ก็โดนไอ้เจ้าเปี๊ยกยัดจิ้นทอดชิ้นใหญ่เข้าปากซะงั้น

“เอ้า กินๆ เข้าไป ให้ชิ้นใหญ่เลย เคี้ยวนานๆ นะลุง ปากจะได้ไม่ว่างบ่น ฮ่าๆๆๆๆๆ” กีต้าร์พูดกลั้วหัวเราะก่อนจะจิ้มจิ้นทอดชิ้นพอดีคำเข้าปากไปเคี้ยวตุ้ยๆ

“โห โคตรเหนียวอะ ทีหลังถ้าจะป้อนก็ป้อนชิ้นเล็กกว่านี้ดิ เปี๊ยกเอ้ย” โบ๊ทพูดไปก็พยายามเคี้ยวไป ดูลำบากอยู่พอตัว แต่ก็ยังมีช่องให้พูดได้นะ

“แบบนี้เขาไม่เรียกว่าป้อนเว้ย เขาเรียกว่าอุดปากต่างหากล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“เดี๋ยวเหอะ จะเจอไส้กรอกอุดปาก”

“เชี่ย!!” กีต้าร์ได้ยินแล้วแทบสำลัก

“ฮ่าๆๆๆๆๆ” หัวเราะทีหลัง แต่ดังกว่าทุกทีสินะ คุณชายโบ๊ท

“เอ่อ ราดมายองเนสด้วยไหม” แม่ค้าสาววัยรุ่นหน้าตาจิ้มลิ้มอายุไล่เลี่ยกับสองหนุ่มเอ่ยถามขัดจังหวะ

“ราดครับ ขอเยอะๆ เลยนะครับ” กีต้าร์หันไปตอบก็เห็นว่าแม่ค้าหน้าตาน่ารักคนนี้กำลังยิ้มให้ ก็เลยตอบไปพร้อมยิ้มหวาน แต่คงจะหวานเยิ้มเกินไปนิดละมั้ง โบ๊ทเลยต้องกระแอ่มเสียงขัดจังหวะ ซึ่งก็ได้ผลนะ เพราะไอ้เปี๊ยกมันหันควับมาค้อนให้ทันทีเลยเชียว

“นี่ค่ะ ราดให้เยอะเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย”

“สี่สิบบาทใช่ไหมครับ นี่ เอาไปเลยไม่ต้องทอน ฮ่ะๆๆๆ” กีต้าร์ยื่นแบงก์ยี่สิบให้สองใบ... แหม่ ถ้าจะให้เขาทอนก็จะเกรียนเกินไปแล้วละนะกีต้าร์!

ก่อนจากร้านทาโกะยากิ ร่างเล็กยังแอบหันไปยิ้มหวานให้แม่ค้าหน้าหวานอีกยิ้มใหญ่ๆ ส่วนแม่ค้าก็ยิ้มกลับมาให้พร้อมโบกมือบ๊ายบายให้ด้วย ทำเอากีต้าร์แอบเพ้อเบาๆ ไปกับความน่ารักของแม่ค้าวัยรุ่นคนนั้น

“มากไปนะเปี๊ยก มากไป ออกนอกหน้าไปไหม ลืมไปรึเปล่าว่ามากับใคร ห๊ะ แบบนี้มันเรียกว่าเจ้าชู้ต่อหน้าต่อตาเลยนะ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะเอ็ง” โบ๊ทหมั่นไส้เลยต้องขอขัดอารมณ์ไอ้เปี๊ยกสักหน่อย

“เจ้าชงเจ้าชู้อะไร ผมไม่ได้ขอเบอร์เขาสักหน่อยนี่ ก็เขายิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบ ผิดตรงไหน”

“ก็ยิ้มธรรมดาๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องเยิ้มซะขนาดนั้นเลย”

“...” กีต้าร์ไม่ตอบอะไร แต่อมยิ้มพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์เล็กๆ ให้หนุ่มรุ่นพี่คนสนิท

“อะไร ยิ้มอะไร”

“หึงผมละสิ” กีต้าร์โน้มเข้าไปพูดเบาๆ ถึงจะแค่กระซิบ แต่น้ำเสียงนี่แสดงความเป็นต่ออย่างชัดเจน

“ใช่ และถ้าเอ็งยังไม่หยุดเกรียนนะ คนแถวนี้เขาได้รู้แน่ว่า เอ็ง-มี-เจ้า-ของ-แล้ว”

“โหยยยยยยย”

“อย่างอแง คราวนี้พูดจริงทำจริงด้วยนะ เตือนไว้ก่อน”

“เอ้อ ก็ได้ แล้วอย่าให้ผมเห็นว่าคุณโบ๊ทไปยิ้มให้ใครนะ จะโดนดี!”

“งั้นโบ๊ทคงจะยิ้มให้ทุกคนเลยดีไหม... แบบว่าอยากโดนดีอ่ะ”

“...ไอ้ลิงสลัด!”

“ฮ่ะๆๆๆ ไหนเอาทาโกะมากินหน่อย”

ว่าแล้วกีต้าร์ก็จิ้มทาโกะยากิชิ้นหนึ่งป้อนเข้าปากร่างสูงที่ยื่นหน้ามาเตรียมรอให้ป้อนไว้อยู่แล้ว แต่สงสัยลืมกันไปว่าข้างในของทาโกะยากิที่ทำเสร็จใหม่เนี่ย มันร้อนแค่ไหน... ภาพถัดมาเลยกลายเป็นภาพร่างสูงทุรนทุรายเพราะโดนทาโกะยากิลวกปาก โดยมีเสียงหัวเราะร่าด้วยความสะใจของร่างเล็กเป็นดั่งดนตรีประกอบ

ณ วินาทีนั้น เหมือนทุกคนและทุกสิ่งอย่างรอบตัวกลายเป็นสีขาวดำ ยกเว้นเพียงเขาสองคนที่ยังคงไว้ซึ่งสีสันที่เกิดจากรอยยิ้มกว้าง เสียงหัวเราะสดใส แววตาทะเล้น และปฏิกริยาทางเคมีระหว่างกันที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี ฉายเป็นภาพความอบอุ่นของชายหนุ่มสองคนที่มีความสุขร่วมกันอย่างแท้จริง

“เปี๊ยก เอ็งกินเลย 1 ชิ้น เร็วๆ” ร่างสูงกล่าวทั้งๆ ที่ลิ้นยังชาไม่หาย

“ได้ ไม่มีปัญหา แต่ผมไม่ยัดทั้งชิ้นแบบคุณโบ๊ทหรอกนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

ว่าแล้วร่างเล็กก็จิ้มทาโกะยากิแล้วผ่ากลางเพื่อที่จะเป่าให้ไม่ร้อนจนเกินไป เมื่อเป่าจนได้ที่ก็จิ้มขึ้นกินทีละชิ้นพลางยักคิ้วให้ร่างสูงหมั่นไส้เล่นๆ... จนจิ้มกินหมดชิ้นจึงเห็นว่ามีตัวหนังสือเขียนไว้บนถาดโฟมว่า



“โปรดติดตามตอนต่อไป”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2014 20:16:54 โดย FlapJack »

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
 ตามอ่านมาจากเรื่องยาว น่ารักดีค่ะ
:mew1: :mew3:

ออฟไลน์ FlapJack

  • ชีวิตคือการผจญภัย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-3
    • FLAPJACK SPACE
ตามอ่านมาจากเรื่องยาว น่ารักดีค่ะ
:mew1: :mew3:

 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด