“ซันๆ มึงมีเสื้อแขนยาวเปล่าวะกูลืมหยิบมาจากคอนโดอ่ะ”ตอนนี้รถเคลื่อนออกจากบ้านไอ้ดินมาได้เกือบๆชั่วโมงละคิดว่าน่าจะใกล้ถึงชลบุรีแล้วล่ะ
พวกผมตอนนี้เริ่มสลบกันไปหลายรายแล้วครับ ไอดินมันนอนเอนเบาะฟังเพลงเพื่อชีวิตของมันไป ไอ้แพะก็หลับๆตื่นๆ ตื่นมาหาไรแดกอ่ะมัน ไอ้กี้ก็หลับเอาหัวพิงไหล่พี่มุธไว้ เป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆอยากจะถ่ายรูปส่งไปให้พ่อแม่มันดูเหลือเกิน ส่วนพี่มุธก็นั่งเขี่ยไอแพดเล่นๆยังไม่หลับสงสัยคงจะทำงานอยู่ละมั้ง
ส่วนพี่ซันกะพี่ทายที่จริงพี่แกก็หลับแล้วนะครับ แต่เหมือนว่าพี่ซันแกจะหนาวเพราะตอนนี้แกตื่นขึ้นมาสะกิดพี่ซันยิกๆถามหาเสื้อแขนยาว อย่างงี้แหละอากาศตอนเช้าในรถตู้แม่งโคตรเย็น แต่สงสัยพี่แกจะไม่สบายด้วยมั้ง เห็นพี่แก่เล่นใส่แขนยาวปิดแขนปิดคอมาแต่ก็ยังถามหาเสื้อแขนยาวอีกสงสัยจะหนาวจริง
“กูไม่มีวะมีตัวเดียว มึงเอาของกูไปก็ได้ป่ะ”พีซันแกส่ายหัวแล้วทำท่าจะลุกขึ้นมาถอดเสื้อโค้ทที่แกใส่อยู่ให้ แต่พี่ทายร้องห้ามซะก่อน
“ไม่เป็นไร กูยังไหว”พี่ทายแกว่างั้น พี่ซันก็พยักหน้าก่อนพี่แกจะหลับต่อ กูว่าพี่แกมึนๆนะเนี่ย
“เอานี่ไปใส่ก่อน”แต่จู่ๆพี่มุธแกก็ยื่นเสื้อโค้ทแขนยาวส่งไปให้พี่ทายข้างหน้า พี่ทายแกหันกลับมามองของในมือหน่อยๆก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ ผมมองพี่แกแล้วก็ขำอยู่ในใจเป็นกูกูก็ไม่กล้าใส่วะ โหดซะขนาดนั้นแม่ง ฮ่าๆๆ
“ขอบคุณฮะ แต่ไม่ดีกว่า”พี่ทายว่าเสียงนิ่งก่อนจะหันหน้ากลับไปแล้วก็เอนหลังทำท่าว่าจะนอนต่อ
แต่ดูเหมือนพี่มุธคงไม่ได้ยินที่พี่ทายบอกเพราะพี่แกเล่นโยนเสื้อคลุมหัวพี่ทายไว้ก่อนจะพูดเสียงนิ่งๆ ที่แบบว่าเป็นกูกูก็คงเอามาใส่ว่า
“ใส่ซะ อย่าให้พูดเป็นรอบที่สาม”
เอาเป็นว่าจบที่รอบสองพอเถอะ ผมไม่อยากคิดตามพี่มันเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อีพี่มุธแม่งยิ่งบ้าๆอยู่ขยันชอบแกล้งคนอื่นเป็นงานอดิเรกไม่แปลกใจที่วิสกี้แม่งถึงหัวเสียอยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปสามชั่วโมงเศษๆ เราก็เคลื่อนเข้าสู่จังหวัดจันทบุรีกันเรียบร้อยแต่ยังไม่ถึงที่พักหรอกนะครับ เพิ่งเข้าเขตจังหวัด ตอนนี้ก็เกือบๆสิบเอ็ดโมง ได้เวลาทานอาหารกลางวันพอดี กิจกรรมแรกที่เราจะทำกันก็คือไปไหว้ญาติๆไอ้ดินกันก่อนแล้วก็ถือโอกาสนี้กินข้าวที่บ้านมันซะเลย แล้วเย็นๆเราค่อยมุ่งหน้าไปที่พักกัน
“เอ๊า ตื่นๆๆ”ผมตะโกนเรียกทุกคนเมื่อเห็นว่ารถมันเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านไอ้ดิน ทุกคนก็สลึมสะลือ แม่งตั้งแต่ออกจากกรุงเทพนี่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยเหอะ นอนกับนอน
“เชี่ยเหนือ หูกูจะแตกห่า”ไอ้แพะมันลุกขึ้นมาผลักหัวผมทีนึงก่อนจะแทรกร่างเบียดพวกผมเพื่อที่จะได้ลงรถก่อน เลวจริงๆแต่พวกผมก็ต้องขำเมื่อเห็นสีหน้ามันตอนเห็นพี่มุธเป็นอะไรที่ฮามาก สงสัยมันจะเกรงๆพี่มุธจริงๆนะเนี่ย
“อ้าวไอ้แพะช่วยอาจารย์ถือของหน่อยดิวะ ฮ่าๆ”ผมตะโกนแซวมัน มันก็หันมาชูนิ้วตรงกลางให้ผม ก่อนที่มันจะหันกลับไปทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมเหมือนเดิม ผมล่ะฮา
“อาจารย์ครับผมช่วยครับ”โคตรนอบน้อมผิดกับสันดานมันโดยสิ้นเชิง ไม่รู้กูจะขำหรือกูจะฮาดี กร๊ากกกกก
“ไม่เป็นไร ไม่หนัก”พี่มุธว่าเสียงนิ่ง แต่พี่แกดูเท่มากเลยนะ ถ้าไม่รู้จักคิดว่าเป็นนายแบบมากกว่าเป็นอาจารย์ซะอีก
ไอ้แพะก็ก้มหัวปรกๆ ดูกี่ทีก็ฮาจริงๆ
พวกผมเดินเข้ามาในบ้าน ก็เห็น พี่ป้าน้าอาของไอ้ดินครบ สงสัยเขาจะรู้มั้งว่าพวกผมจะมาก็เลยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเชียว ผมชอบนะมันดูอบอุ่นดีถึงจะไม่เจอกันบ่อยๆก็เถอะ
“มาๆลูก มากันเหนื่อยๆมาพักก่อนมา”ป้าพิม พี่สาวของแม่ไอ้ดินเดินเอาน้ำเย็นๆมาให้พวกผมก่อนจะชี้ไปที่แคร่ตัวยาวเพื่อให้พวกผมได้ไปนั่งกัน
“ขอบคุณมากครับ”พวกผมก็ไหว้ขอบคุณ ก่อนจะยกขันน้ำเย็นชื่นใจขึ้นดื่มจนหมด
คือบ้านญาติไอ้ดินนี่ยังอยู่กันอย่างพอเพียงอ่ะ แต่ใครจะรู้ว่าเขารวยมากๆสวนผลไม้นี่มีหลายร้อยไร่ ถ้ารวมๆกันคงเป็นพันไร่แน่ๆ แถมยังแบบทำรถรางให้คนได้เข้าไปชมสวนผลไม้ของแกด้วย รวยโคตรๆ
นั่งกันไม่นานกับข้าวก็ถูกยกมาวางเต็มแคร่ที่พวกผมนั่ง พวกผมเจ็ดคนก็ได้แต่มองตามน้ำลายสอ ก็แน่ล่ะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนี่หว่า งั้นตอนนี้ขอพวกผมลงมือกันก่อนล่ะครับ
“ดิน มากี่วันลูก”ป้าพิมคนเดิม เดินมาถามไอ้ดินพร้อมลูบหัวมันราวกับว่าเห็นมันเป็นเด็กน้อยตัวเล็กที่น่าทะนุถนอม ผมมองตามนี่ขนลุกเลยนะ ไม่ใช่ไรกูปวดขี้ กร๊ากกก
“มาห้าวันครับ แต่ไม่ได้มาค้างที่นี่นะ ผมแค่แวะมาหาแต่สัญญาว่าจะมาบ่อยq”มันอ้อนครับมันอ้อน ถึงว่ามารยาทมันเรียบร้อยกว่าไอ้แพะ เกี่ยวป่ะ กร๊ากกกก
“มาบ่อยๆชวนพ่อแม่เรามาหาป้าบ้าง”ไอ้ดินพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับมากินข้าวต่อ
คืออาหารที่วางตรงหน้าก็ดูธรรมดานะแต่รสชาตินี่บ่องตงว่าแซ่บเว่อร์ กินจนทุกอย่างเกลี้ยงพวกผมก็เดินไปกินผลไม้ในสวนป้าแก ไม่ถือวิสาสะนะครับเพราะป้าพิมเขาอนุญาติ กินจากต้นโคตรหวาน สดมากจนพวกผมนี่โคตรปริ่ม กินจนเงาะกับลองกองหมดไปเป็นต้นๆก็เดินกลับมา ได้เวลาแล้วครับ ไอ้เวลาผจญภัยกันจริงๆแล้ว
“กลับแล้วครับ สวัสดีคร๊าบบบ”พวกผมลาเสร็จก็มาขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าสู่ทะเลจันทบุรี
ที่ๆเราไปคนยังไม่ค่อยรู้จักหรอกขนาดตอนปีที่แล้วที่ผมมาผมยังไม่รู้จักเลย แต่ตอนนี้จำได้ขึ้นใจละครับนั่นคือ หาดเจ้าหลาว....
เป็นหาดที่ยังคงความสะอาดไว้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ คงเป็นเพราะว่ายังไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะด้วยล่ะหาดทรายเลยยังเป็นสีขาวบริสุทธ์อยู่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะครับถ้ามีคนมาเยอะกว่าเพราะฉะนั้นพวกเราต้องทิ้งขยะให้ลงถังนะครับ
ส่วนที่พักของพวกผมก็ได้ห้องดีสุดๆติดทะเล มีระเบียงเล็กยื่นไปบนหาดทรายเวลากลางคืนน้ำจะขึ้นสูงจนถึงระเบียงเลยครับ สวยมาก ราคาห้องก็ไม่แพงนะเพราะว่าไอ้ดินมันจ่าย กร๊ากกก
ตอนแรกไอ้ดินมันจองเอาไว้แค่สามห้องเพราะเข้าใจว่ามากันแค่หกคน แต่ไม่ใช่ครับมีพี่มุธแล้วก็ เพื่อนพี่ทายมาอีกสี่คนเท่ากับทริปนี้มีสิบเอ็ดคนเพราะงั้นต้องจองห้องเพิ่มสองห้องส่วนพี่มุธก็มานอนกับผมแล้วก็วิสกี้
พวกผมแยกย้ายกันไปตามห้องของตัวเองเพื่อที่จะได้เอาของไปเก็บ บรรยากาศแบบนี้ผมโคตรชอบ มาเที่ยวทะเลกับเพื่อนสนิทในบรรยากาศเงียบสบายคนไม่พลุกพล่านเป็นส่วนตัวแบบนี้ผมโคตรของโคตรชอบ จนเมื่อมีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะสวีทกับทะเลของผม ผมจึงต้องหันไปมอง
“เดี๋ยวมึงนอนเตียงนั้นไป กูนอนกับพี่มุธเตียงนี้เอง”ไอ้กี้มันชี้ๆมาที่เตียงเพื่อทำการตกลงเพราะห้องผมนอนกันสามคนเลยอาจจะอึดอัดไปบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาแต่ก่อนนอนออกจะบ่อยเพราะว่ามีพี่วอดก้าอีกคน มานอนเบียดผมโคตรอบอุ่นอ่ะบ่องตง
“เออ หรือให้กูนอนกะมึงก็ได้นะ พี่มุธตัวใหญ่เดี๋ยวเขาอึดอัด”ผมยื่นข้อเสนอให้มันใหม่ เพราะว่าถ้าผมนอนกะมันจะเบียดน้อยกว่าไง พี่มุธแกตัวใหญ่ ตัวสูงนอนกับไอ้กี้น่าจะเกิดปัญหาตอนพลิกตัวบ้างล่ะกูว่า
“เอาไงมึง ไอ้ตัวปัญหา”ไอ้กี้หันไปถามพี่มัน แขวะได้แขวะดีตอนบนรถตู้กูยังเห็นมึงซบเขาหลับอยู่เลยนะเว้ย
“หึ เอาตามไอ้เหนือว่า กูไม่อยากเบียดกับมึงไอ้น้องนอกคอก”พี่มันว่าแล้วผลักหัวไอ้กี้จนมันล้มลงกับเตียง ไอ้นี่เขายอมซะที่ไหนวิ่งเข้าไปเตะพี่มันทันที หลังจากนั้นสองคนเขาก็มวยปล้ำกันครับ ผมล่ะหน่าย มาดคุณครูหลุดหายไปกับท้องทะเลแล้วสินะ
“หึหึ”ผมขำเบาๆก่อนจะเดินออกไปที่ริมระเบียงเพื่อสูดอากาศบริสุทธ์ คนน้อยจริงๆครับแต่ผมชอบนะมันดูเหมือนเกาะส่วนตัวเลย คอยดูนะกูจะเล่นน้ำให้ตัวดำเลย เอาให้กลับบ้านไปแม่กูพากูไปปล่อยเพราะนึกว่าลูกเก็บมาเลี้ยง ฮ่าๆๆๆ บ้าได้อีกกู
ไม่รู้ว่าผมยืนสูดกลิ่นทะเลเข้าปอดไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว แต่ทะเลก็ยังสวยเหมือนเดิม พอหันกลับเข้ามาในห้องก็เห็นสองพี่น้องเขาหลับไปแล้ว คนละเตียงเลยนะแม่ง ไม่แบ่งกูเลย แต่ช่างเหอะพี่มุธเขาดูเพลียๆเหนื่อยก็ปล่อยเขาไป ส่วนไอ้กี้ถ้าไม่อยากโดนมันถีบอย่าไปปลุกมันตอนมันยังนอนไม่อิ่ม
คร๊ากกก กกกก
อย่างนี้ล่ะครับ ได้กลิ่นทะเลแล้วท้องมันร้องโครกคราก รู้สึกอยากกินกุ้ง หอย ปู ปลา ก็นะมาทะเลทั้งทีจะให้มานั่งกินหมูกินไก่ก็มาไม่ถึงทะเลนะซี้
“เอาไงดีวะ พวกนั้นแม่งนอนกันอยู่แน่ๆ”ผมก็ได้เผรยกับตัวเอง หิวนะแต่ก็ไม่กล้าไปกินคนเดียว เพราะผมมั่นใจมากว่าไอ้พวกเพื่อนผมมันคงยังไม่ตื่นกันแหงๆ จริงๆจะสั่งจากรีสอร์ทมากินก็ได้ แต่ผมว่ามันไม่ได้บรรยากาศ อยากไปนังริมทะเลที่เขาขายอาหารทะเลแบบสดๆอ่ะแบบนั้นจะได้อารมณ์กว่า
ผมมองนาฬิกา ตอนนี้กำลังจะหนึ่งทุ่ม ผมไปหาอะไรรองท้องก่อนก็ได้ เดี๋ยวสักสองสามทุ่มค่อยออกไปหาอะไรกินกัน
.
.
.
ตอนนี้ผมมานั่งอยู่ในส่วนของห้องอาหารเรียบร้อยแล้วครับ นักท่องเที่ยวมีพอสมควรเลยล่ะ อาหารก็อร่อยดีตอนนี้ผมกำลังนั่งกินข้าวต้มทะเลอยู่เงียบๆคนเดียว รองท้องไปก่อนแล้วเดี๋ยวไปจัดเต็มตอนมืดๆอีกที
ผมเลือกโต๊ะติดริมหาดครับ ได้บรรยากาศดีนั่งกินไปฟังเสียงคลื่นไป นั่งไปได้พักนึงข้าวต้มยังหมดไม่ถึงครึ่งถ้วยเลยด้วยซ้ำผมก็เห็นพี่ทายแกเดินเข้ามาในห้องอาหารเหมือนกัน
“เฮ้ยพี่”ผมตะโกนเรียกพี่มันเสียงดังลั่น สงสัยจะไม่ใช่แค่พี่มันคนเดียวแล้วล่ะที่ได้ยิน คนอื่นนี่หันมามองกันพรึ่บพรับๆ กูเริ่มอายละเนี่ย
“อ้าวเหนือ ทำไมมาคนเดียวคนอื่นๆล่ะ”พี่ทายแกนั่งลงตรงข้ามผมก่อนจะถามซะยาวเหยียด
“หลับมั้ง ไม่รู้เหมือนกันไม่ได้โทรตามอ่ะ ผมหิวเลยออกมากินก่อน”ผมบอกพร้อมตักข้าวต้มเข้าปาก งั่มๆ อร่อยเชี่ยๆ
พี่ทายแกก็พยักหน้าก่อนจะสั่งข้าวต้มทะเลเหมือนผมอีกที่นึง เพราะพี่แกก็หิวเหมือนกันเห็นแกว่างั้น
“นี่พี่ทายผมถามจริง พี่มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่า”ผมถามพี่ทายเพราะเห็นสีหน้าตอนแกกินข้าวแล้วดูรอบตัวพี่แกมันเศร้าแบบบอกไม่ถูก พี่แกบอกหิวแต่ก็สั่งมานั่งเขี่ยๆจนกุ้งกะหมึกจะเละรวมกับข้าวอยู่แล้ว
ส่วนผมตอนนี้ผมกินหมดแล้วครับ จะว่าไปผมก็เริ่มอิ่มแล้วเหมือนกันนะเนี่ยแต่ถ้าได้ไปกินอาหารทะเลผมสู้จนพุงแตกอ่ะ เอาดิ
“ทำไมหน้ากูมันบ่งบอกขนาดนั้นเลยหรือไง”พี่ทายวางช้อนในมือลง ก่อนจะเงยหน้ามาถามผมน้ำเสียงชวนหาเรื่องนะแต่หน้าตาแกก็ยังดูอมทุกข์จนผมสงสาร
“เออดิ”ผมตอบกลับสั้นๆ แต่ก็สังเกตอาการพี่แกอยู่นะ พี่แม่งโคตรเก็บอาการไม่เก่งปากบอกไม่แต่ว่าในใจนี่คงสาหัสเอาเรื่อง
“ช่างแม่งเหอะ แดกให้กูด้วย จ่ายด้วยล่ะ อย่าคิดชิ่งนะมึง”พี่มันเอาถ้วยข้าวต้มของตัวเองมาวางไว้ตรงหน้าผม แถมยังมีชี้หน้าขู่ว่าไม่ให้ผมหนีไปไหนทั้งๆที่ตัวเองแม่งชิ่งหนีขึ้นห้องไปแล้วทิ้งกูไว้จ่ายเงินกับเก็บของเหลือของมึงสินะ
ไอ้พี่เวร
แต่ผมก็กินนะเสียดายของ กร๊ากกกกก
นักเขียนขอเม้ามีหลายคนบอกว่ายังไมทรู้ว่าพระเอกเป็นใคร
เฉลยจ้า....พี่เขียนนั่นเอง
แนนคงเขียนงงไป นักอ่านบางท่านยังงงๆอยู่ว่าใครเป็นพระเอกกันแน่ ฮ่าๆๆๆ
แต่หลายคนก็เดาถูกนะคะ เก่งมั่กๆ
แล้วก็มีหลายคนสงสัยว่าพี่มุธกะพี่เพทายเนี่ยมีซัมติงอะไรกันหรือเปล่า
หืมมมมม? ทำไมคิดงั้นล่ะคะ แต่ยังไงก็ลุ้นๆกันปายยยยยย
อีกอย่างเรื่องนี้คู่รองยังไม่เปิดตัวนะคะ มันจะมาแบบงงๆ ฮ่าๆๆๆ
TBC__________________