ตอนที่ 7งานเลี้ยงหรูหรา แอร์เย็นเฉียบ วงดนตรีบรรเลงเพลงแนวจีนโบราณเข้ากับอาหารจีนราคาแพงบนโต๊ะกลมอย่างพอดิบพอดี แพนด้าอยู่ในชุดสูทดำสนิทตัดกับผิวขาวซีด ยิ่งทำให้ดูขี้โรคมากขึ้นไปใหญ่
“หยุดทำหน้าเบื่อโลกอย่างนั้นซะทีน่า อาหารอร่อยๆ เสียรสชาติหมด” ดวงตาชั้นเดียวที่แต่งแต้มด้วยใต้ตาดำคล้ำเหลือบไปมองริมฝีปากสีแดงสดด้านข้าง จากที่เบื่อโลกอยู่แล้วก็ยิ่งเบื่อมากยิ่งขึ้นไปอีก เขาเบะปากไปอีกด้าน ใช้ตะเกียบคีบถั่วลิสงเข้าปากเคี้ยวกรุบๆ
“เฮ้อ เมื่อไหร่เสี่ยจะมา จะให้นั่งอยู่แต่กับนายซิ่วแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่”
“หนวกหูน่า ไม่อยากนั่ง ก็ออกไปเต้นรำกลางฟลอร์คนเดียวดิ บ่นอยู่ได้” ด้วยแม่เลี้ยงใหม่อายุไม่ห่างกันมากนัก ความสัมพันธ์ของสองคนเลยเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า อาป๊านี่ก็ไม่รู้จะมาตัณหากลับอะไรตอนแก่ คว้าเมียเด็กมาอยู่บ้านเดียวกับเขา วันๆ เลยได้แต่แขวะกันไปแขวะกันมา
“นายนี่มัน!!” เจ้าหล่อนยื่นปากแดงๆ จนปากจู๋ กอดอกพิงพนักดังปุ “เป็นไรไป ทำไมวันนี้ไม่เห็นจะต่อปากต่อคำเหมือนทุกวัน”
จะว่าไป เหมือนจะเกลียดกัน เถียงกันไม่ยอมหยุด แต่แพนด้ากับคุณแม่เลี้ยงก็ไม่ได้เกลียดกันจริงๆ หรอก...ก็แค่อยู่บ้านแล้วเหงา เลยต้องหาเพื่อนเถียงเท่านั้นเอง
แพนด้าฟุบหน้าลงกับโต๊ะจีน ใช้มุมผ้ากันเปื้อนฝั่งที่ยังไม่เลอะซับน้ำตา “หุบปากเลยอาเจ๊ ไม่อยากเสวนาด้วย”
สาวเจ้าเอียงหน้ามองหาใบหน้าซีดๆ ที่ฟุบนิ่ง พลันก็เอะใจขึ้นมาได้ “ฮุๆๆ อกหักล่ะสิ ถึงได้สิ้นท่าอย่างนี้ นายหึงแพนด้าใช่มั้ยล่ะ”
ความหมายจริงๆ ของอีกฝ่ายก็คงจะแค่หยอกเล่น เข้าใจว่าที่หายไปแรมเดือนนี่ไปดูแลแพนด้าที่สวนสัตว์มา พอแพนด้าตัวเมียถูกส่งมาแทน ไอ้แพนด้าคนนี้มันเลยตกกระป๋อง
แต่คำพูดที่ไม่รู้อะไรเลย กลับจี้หัวใจแพนด้าซะจนน้ำตาตกใน...ใช่สิ จะเรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ เขาหึงแพนด้า จะแพนด้าจริง ชุดหมีแพนด้าห่าเหวอะไรนั่นเขาก็หึงหมดแหละ เพราะมันแท้ๆ ทำให้พี่ใหญ่จำเขาไม่ได้!
น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินแทนที่จะเงยหน้ามาด่าหล่อนอย่างทุกทีทำให้คุณแม่เลี้ยงแปลกใจและทำตัวไม่ถูก เมื่อเห็นคู่กัดเซื่องซึมไปจึงอดปลอบใจไม่ได้ “ไม่เอาน่าแพนด้า เงยหน้าขึ้นมามะ” มือบอบบางใต้ถุงมือผ้าไหมเชยคางเด็กหนุ่มขึ้น ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้ หลับจากนั้นก็คีบเป็ดปักกิ่งเข้าปากอย่างเอาใจ เมื่อมีอาหารรสเลิศมาจ่ออยู่ที่ปากหลังจากอดอยากมาเป็นเดือนอย่างนี้ เป็นใครก็คงอดใจไม่ไหว แพนด้าก็เหมือนกัน เขาสูดน้ำมูก ซับน้ำตา แล้วก็อ้าปากสวาปามเป็ดที่เจ้าหล่อนส่งให้เป็นระยะไม่หยุด
เอาวะ กินประชดรักแม่ม!!
+++++++++++++++++++++++++++++
“ผมมาหาคน ไม่ได้มาปล้นจี้!!” ขณะเดียวกันภายนอกงานเกิดสถานการณ์วุ่นวายขึ้น เมื่อใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงกรรมกรเดินคีบแตะหิ้วรองเท้าหนังหนึ่งข้างพยายามจะเข้าไปในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าสาวแพนด้าจากแผ่นดินใหญ่
แม้จะพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าโรงแรมจะยอมเชื่อก็หาไม่ รปภ.ที่เข้าเวรทุกนายบัดนี้กำลังตั้งกำแพงด้วยโล่ใบใหญ่ ในมือถือกระบองตำรวจเอาไว้เผื่อมหาโจรเกิดบ้าบุกเข้ามาแบบไม่ยั้ง แม้แต่รปภ.ผู้ทำหน้าที่โบกรถเข้าที่จอดยังก็ถูกเกณฑ์มาด้วย โบกกระบองส่องแสงได้ในมือตัวเองแวบวับเสียจนแขกที่จะเข้า
งานหวิดเข้าใจผิดขับรถชนกำแพงรปภ.ดับไปหลายคันแล้ว
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้” เนื่องด้วยรูปลักษณ์ที่ดูโหด เถื่อน ผมยาวประบ่ากับหนวดเครารกครึ้ม ดูอย่างไรก็ไม่น่าไว้ใจ ใครจะกล้าให้เข้าไปในโรงแรมได้เล่า แถมรองเท้าข้างเดียวที่หิ้วมาด้วยนั่นล่ะมันคืออะไร!? เจ้าของตายไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
อธิบายหาแพนด้าก็แล้ว หาเด็กหนุ่มตาคล้ำก็แล้ว หาคนที่น้องสาวเป็นลูคีเมียก็แล้วก็ยังไม่มีใครยอมฟัง สุดท้ายใหญ่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องกลับมาตั้งหลักใหม่ที่ต้นไม้หน้ารั้วโรงแรม
ฟ้ามืดสนิท ยุงเยอะแยะ อากาศร้อนอบอ้าว แต่ใหญ่ก็ไม่ท้อ
แล้วแสงไฟจากรถยนต์ก็ส่องโดนตัวเขาพอดี จ้าเสียจนต้องเบือนหน้าหนี ก่อนที่เสียงทักจะดังขึ้นมา “ไอ้ใหญ่ ลื้อมาทำอะไรที่นี่วะ!”
…
“เอ้า กินซะ จะได้มีแรงทำงาน” อาเจ็กประจำสวนสัตว์ยื่นบะหมี่ผัดแห้งให้เขาถ้วยหนึ่ง รอจนใหญ่ที่แสนจะหิวโหยกวาดอาหารตรงหน้าเรียบก็ถามขึ้นมา “ลื้อมาทำอะไรตรงนี้วะ”
“ผมมาหาแพนด้า”
อาเจ็กถอนหายใจออกดังเฮ้อ ดูดบุหรี่แท่งสั้นๆ เฮือกใหญ่จนหมดแล้วก็โยนทิ้งพื้นทราย เอาเท้าขยี้พลางปล่อยควันโขมง “ทำใจเหอะวะ แพนด้าอีจะมีเมียแล้ว อั๊วเข้าใจว่าลื้ออาลัยมัน ดูแลประคบประหงมอยู่ตั้งเดือน คงจะตัดไม่ขาดสินะ ถึงได้แอบมางานแต่งวันนี้”
ตามความเข้าใจของอาเจ็กคือใหญ่แค่อยากจะมาดูแพนด้าซึ่งจะพามาปรากฏตัวพร้อมเจ้าสาวเพื่อจัดงานแต่งในค่ำคืนนี้ ซึ่งชายหนุ่มก็เออออตามด้วยรู้ว่าอาเจ็กไม่รู้ความจริงของแพนด้าตัวปลอม
เขาเหลียวมองรอบตัว เห็นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์กำลังเตรียมงานกันวุ่นวาย ในกรงแพนด้าติดแอร์มีสัตวแพทย์คอยประคบประหงมอยู่ เมื่อเห็นแพนด้าพลันใหญ่บังเกิดความคิด เขาจับบ่าชายแก่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ผมลืมของสำคัญไว้ที่ตึกแสดงแพนด้า ขอยืมกุญแจอาเจ็กหน่อยครับ แล้วจะรีบเอามาคืน”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“และแล้วก็ถึงเวลามงคลฤกษ์ ที่จะให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้พบกันแล้วนะครับ!!”
เสียงพิธีกรชายพูดอย่างตื่นเต้น นักข่าวจากทุกสำนักข่าวพากันรัวชัตเตอร์กับปรากฏการณ์งานแต่งแพนด้าที่หรูหราที่สุดในประเทศไทย อาเสี่ยเจ้าของสวนสัตว์หมีน้อยยิ้มหน้าบานอยู่บนเวที ทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย
เสียงเพลงแต่งงานดังคลอ เป็นเวลาเดียวกับที่แพนด้าตัวผู้และเมียถูกเบิกตัวเดินมายังส่วนกลางของเวที
ระหว่างที่พิธีกรกล่าวคำมงคล แพนด้าหญิงนั่งกินใบไผ่ที่ผู้ดูแลยื่นให้อย่างมูมมาม แพนด้าฝ่ายชายกลับยืนนิ่ง
ไม่ไหวติง คอยแต่จะปัดใบไผ่ทิ้ง แล้วทอดสายตามองไปยังจุดจุดเดียว
จุดที่มีเด็กหนุ่มหน้าซีดตาคล้ำนั่งอ้าปากกินอาหารจากสาวสวยในชุดกี่เพ้า เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก และเมื่อสาวเจ้ามองมายังแพนด้า ก็เกิดอาการตื่นเต้นจนเกาะแขนเด็กหนุ่มคนนั้นเขย่า ใกล้ชิดกันจนแทบจะกอดกันอยู่แล้ว
โลกของใหญ่พังทลายลงอีกครั้ง
เขาลงทุนซิ่งมอเตอร์ไซค์กลับไปยังสวนสัตว์ คว้าเอาชุดแพนด้ามาใส่ สลับตัวกับแพนด้าตัวผู้ เพื่อลักลอบเข้ามาในงานเลี้ยง
ไม่มีแผนการณ์อะไรทั้งนั้น ไม่แคร์ว่าความลับจะแตก เขาแค่ต้องการเข้ามาในงานให้ได้เพื่อพบและทำความเข้าใจกับแพนด้าเท่านั้น
แต่ความพยายามทั้งหมดของเขา กลับทำให้เขาต้องมาพบกับภาพบาดใจ ภาพของแพนด้าที่กำลังหวานแหววกับสาวน้อยที่เขาไม่รู้จัก
ไหนบอกว่าชอบพี่ยังไงล่ะ! ทำไมถึงยอมให้คนอื่นนอกจากพี่ป้อนของกินให้ ทำไมยอมให้คนอื่นนอกจากพี่กอด...
“เอาล่ะครับ เราเริ่มจากการสัมภาษณ์เจ้าสาวก่อนนะครับ!” เสียงดำเนินรายการของพิธีกรแทบไม่เข้าหู สัตวแพทย์จากแผ่นดินใหญ่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนเจ้าสาว บรรยายประวัติและความปลื้มปิติในการดำเนินสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย เจ้าสัวซึ่งเตรียมทำหน้าที่เป็นตัวแทนแพนด้าฝ่ายชายยืนยิ้มหน้าบานอยู่ด้านข้างเขา มือก็คอยลูบขนเขาเป็นระยะ แต่ใหญ่ไม่สนใจ พิษรักแรงหึงของเขากำลังคุโชน!!
“ผ่านไปแล้วนะครับ สำหรับการสัมภาษณ์เจ้าสาว แหม่...พูดภาษาจีนอย่างนี้ ถึงกับฟังไม่ออกกันทีเดียวนะครับ! ไม่เป็นไรครับ เรามาต่อด้วยการสัมภาษณ์เจ้าบ่าวต่อเลยดีกว่า!!”
ไมโครโฟนยื่นถึงมือเจ้าสัว จนเมื่อมือเหี่ยวย่นกำลังจะรับไป มือใหญ่ที่มีขนหนาปุกปุยกับคว้าแย่งไว้เสียก่อน ทั้งเวทีเกิดอาการแตกตื่นเมื่อเข้าใจว่าแพนด้าเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา น่าหวาดเสียวว่าจะทำร้ายใครเข้า เจ้าสัวกระโดดสคิปถอยหลังไปสามเมตร ความเงียบที่แม้แต่เข็มตกก็ยังได้ยินเกิดขึ้นในห้องจัดเลี้ยง
หากแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด...แต่เป็นมากกว่าที่ทุกคนคาดไว้เสียอีก...เมื่อแพนด้าตัวนั้น ยกไมโครโฟนขึ้นจ่อปากตัวเอง แล้วก็พูดออกมาเป็นภาษามนุษย์!
“พี่รักแพนด้า”
...เงียบกริบ...
ก่อนที่ความโกลาหลจะบังเกิด ชัตเตอร์รัวกระหน่ำอีกครั้ง เสียงอื้ออึงดังกระหน่ำจนเจ้าสัวหน้าเขียว
“แพนด้าพูดได้!”
“บ้าสิ! แพนด้าที่ไหนจะพูดภาษาคนได้!”
“งั้นมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ”
“ก็ตัวปลอมไง!”
“ตัวปลอม?”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“โดนแหกตาเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่! แล้วตัวจริงอยู่ที่ไหน! แล้วมันจะพูดว่ารักแพนด้าทำไม”
“หรือเป็นพวกคลั่งไคล้แพนด้า?!”
“กรี๊ดดดด!!” ยังถกเถียงกันไม่จบดี เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นที่ด้านหลังห้องจัดเลี้ยง พร้อมๆ กับแพนด้าหนุ่มตัวจริงที่วิ่งห้อตะบึงเข้ามาในงาน หวังยึดตัวเมียคืนด้วยความหึงหวง
เกิดความฉิบหายขึ้นอีกรอบ ผู้คนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น เหลือก็เพียงแต่เด็กหนุ่มตัวเล็กที่อยู่ที่โต๊ะหน้าสุด ที่ตอนนี้ตะลึงลุกขึ้นยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูกไปเสียแล้ว ดวงตาของเขามองเห็นแพนด้าหญิงคว้าใบไผ่ขึ้นมากินแบบไม่สนใจสิ่งแวดล้อม เห็นแพนด้าชายควบตะบึงขึ้นเวที กระโดดขย่มแพนด้าหญิงแบบไม่ลืมหูลืมตา และเห็นชายร่างใหญ่หน้าตามหาโจรที่ถอดหัวแพนด้าออกโยนทิ้ง กระโดดกระโจนลงมาจากเวที หิ้วตัวเขาติดเอว พาหนีออกจากโรงแรมไป
ดวงตาชั้นเดียวหรี่ลงด้วยลมที่ตีเข้าหน้าอย่างจัง สองมือกอดเอวคนตัวใหญ่ในชุดหมีไว้ พี่ใหญ่ขี่มอเตอร์ไซค์ ไปที่ไหนก็สุดจะคาดเดา
ปลายทางจบลงที่สถานที่คุ้นเคย ใหญ่คว้ากุญแจที่ได้มา เปิดประตูสวนสัตว์เข้าไป พาเด็กหนุ่มไปยังริมน้ำ ที่เดิมที่พวกเขาจูบกัน...
ทั้งสองคนตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วน
“พี่...รักแพนด้า” ใหญ่เป็นคนเริ่มบทสนทนา เขากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก เค้นความกล้าแทบตายกว่าจะเอ่ยประโยคเดิมออกมาได้ เขาไม่รู้ว่าเขายังเหลือโอกาสอยู่อีกไหม ในเมื่อเด็กหนุ่มตรงหน้านี้มีเด็กสาวหน้าตาสะสวยคอยดูแลอยู่ข้างกายเสียแล้ว
แพนด้าพูดไม่ออก มันเป็นความรู้สึกอึ้งๆ บอกไม่ถูก
เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบ ใจแป้วๆ ของผู้ชายชื่อใหญ่ก็ดูจะฟีบลงไปอีกระดับหนึ่ง “พี่รักเราจริงๆ นะ พี่ขอโทษที่รู้ตัวช้า ขอโทษที่ทำเป็นไม่สนใจ” เขาคว้าผอมๆ ของเด็กหนุ่มเข้ามากอด เมื่อแพนด้าซุกเข้ามาในอกที่ห่อหุ้มด้วยชุดหมีใหญ่เบ้อเร่อ ก็เหมือนจะจมหายไปเลยทีเดียว
“พี่รักแพนด้า...แพนด้าที่เป็นคนคนนี้ พี่อยากบอกให้เรารู้ไว้ ถึงแม้ว่าแพนด้าจะมีคนอื่นแล้วก็ตาม”
เขาบรรจงแนบริมฝีปากลงบนหน้าผากมน จูบระไปที่ปลายจมูกโด่ง ใช้มือในชุดหมีป้ายน้ำมูกออกนิดหนึ่งก่อนที่ริมฝีปากสองคู่จะบรรจบกัน
เมื่อถ่ายทอดความรักจนพอใจแล้ว ใหญ่ก็ถอยออก
“...ไม่...” เป็นคำแรกที่ริมฝีปากแห้งแตกเอ่ยขึ้น คำปฏิเสธนี้ทำเอาใหญ่แทบจะไม่อยากจะรับฟังต่อไป เขามองไปที่บ่อน้ำข้างตัว ตัดสินใจว่าจะกระโดดลงไปเพื่อหนีความจริงดีหรือไม่ และถ้าจะกระโดดจริง ควรจะถอดชุดแพนด้าก่อนเผื่อว่าชุดจะอมน้ำจนว่ายกลับขึ้นฝั่งไม่ไหวรึเปล่า
“ไม่ได้มีใครซะหน่อย” ยังตัดสินใจไม่ได้ แขนผอมๆ สองข้างก็พลันคว้าคอเขาเข้ามากอดไว้เสียก่อน แพนด้าพูดทั้งน้ำหูน้ำตาไหล ไม่รู้เกิดจากซาบซึ้งใจหรือจากภูมิแพ้กันแน่ แต่ใหญ่ขอเดาว่าเป็นเพราะอย่างแรกก่อนก็แล้วกัน
“คนนั้นน่ะเมียพ่อ ไม่ใช่คนของผมซะหน่อย ผมไม่มีใคร ผมมีแต่พี่คนเดียว ผมก็รักพี่เหมือนกัน! ผมรักพี่ รัก รักมาก รักก่อนที่พี่จะรักผมซะอีก พี่ต่างหากที่หนีผมไป!” บอกรักไปมา กลับกลายเป็นคำกล่าวโทษไปซะอย่างนั้น แพนด้าทุบลงบนหน้าอกเปี่ยมขน ซึ่งใหญ่ก็ไม่ได้หลีกหนีตอบโต้อะไร
“พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ พี่ผิดเอง พี่ไม่รู้ใจตัวเอง จนเมื่อจะเสียแพนด้าไป ถึงได้รู้ว่ารัก พี่รักเรานะ รักจริงๆ ต่อไปนี้จะไม่หนีไปไหนแล้ว รักมากนะ รักๆๆๆๆๆ”
หากบรรดาสรรพสัตว์ในสวนสัตว์ฟังภาษาคนออก คาดว่าคืนนี้คงอ้วกแตกเพราะคำบอกรักแบบคอมโบเซ็ทเป็นแน่นอน
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อน่ะเหรอ?
ก็ไม่มีอะไรมาก ใหญ่ถอดชุดแพนด้าออก เผยแผงอกชื้นเหงื่อใต้เสื้อกล้ามสีขาว ล่ำเสียจนแพนด้าหน้าแดง ชายหนุ่มถอดออกจนหมด ล้วงมือเข้าไปในกางเกง แล้วก็ควัก...
…
…
...รองเท้าหนังออกมา และบรรจงใส่ให้คนที่รัก...เพื่อให้มั่นใจว่า คนนี้จริงๆ ไม่ผิดตัวแน่นอนเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“มึงเลยต้องไปทำงานดัดสันดานในสวนสัตว์เดือนนึงเต็มๆ ทั้งๆ ที่เป็นความผิดกูแท้ๆ กูขอโทษนะเว้ย” ไอ้ป๋อง จุดกำเนิดแห่งเรื่องนี้กลับมาอีกครั้งด้วยใบหน้าใสปิ๊งไร้รอยแผลเป็น รอดตัวเพราะบาดเจ็บไม่พอ ยังถือโอกาสระหว่างเข้าโรงพยาบาลไปศัลยกรรมใบหน้าให้หล่อกว่าเดิมอีกต่างหาก ใหญ่เห็นแล้วใคร่อยากเอาตีนลูบหน้ายิ่งนัก โชคดีของป๋องที่ตอนนี้เขาอารมณ์ดีเลยรอดตัวไป
“ไม่เป็นไรว่ะ จริงๆ กูต้องขอบคุณมึงด้วยซ้ำ ที่ทำให้ชีวิตกูเปลี่ยนไป ไม่นึกเลยว่าจะมีใครมาคอยอยู่เคียงข้างคนหน้าตาแบบกู” คนหน้าตามหาโจรตอนนี้กลับมีออร่าสีชมพูกับดอกไม้น้อยใหญ่ลอยอยู่ในบรรยากาศรอบตัว เล่นซะป๋องที่หน้าตาปรับปรุงใหม่แต่ไร้แฟนเหมือนเดิมรู้สึกอิจฉาไม่ได้
“เออ ถ้าอย่างนั้นก็ดีไป เอ้า! ฉลองมึงพ้นโทษ ชนโค้กกันเว้ย!” ด้วยป๋องเจ็บแล้วจำ เลยไม่กล้าสั่งเครื่องดื่มมึนเมาเสียแล้ว หากแต่ใหญ่เองกลับปฏิเสธน้ำใจ แล้วสั่งเหล้ามาผสมลงไปแทนโดยไม่สนใจคำทักท้วงของผู้เป็นเพื่อน
ก็แค่อ่อนๆ ไม่ทำให้เมาหรอก…แต่มันทำให้ได้อะไรมากกว่านั้นเยอะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผ่านไปหนึ่งเดือน การทำงานในสวนสัตว์ทำให้แพนด้าสนใจอยากจะรับดูแลกิจการต่อจากป๊า ขั้นแรกคือต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าเรียนในคณะสัตวแพทย์ให้ได้ และระหว่างนั้นก็ฝึกงานในสวนสัตว์ไปพลางๆ ในช่วงเวลากลางวัน
จากเด็กล่องลอยกากเกรียนติดอินเตอร์เน็ต กลับกลายเป็นมีจุดหมายที่แน่วแน่ ทำให้อาป๊าปลาบปลื้มยิ่งนัก
ส่วนพี่ใหญ่น่ะเหรอ หลังจากนี้ชีวิตจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่านะ?
เอี๊ยดดดดด!!!! โครม!!!!
เสียงล้อเบียดถนนดังลั่น มอเตอร์ไซค์ประหลาดที่ขับด้วยความเร็ว 20 กม.ต่อชั่วโมงถลาล้มลงที่หน้าด่านตรวจพอดิบพอดีราวกับจงใจอย่างไรอย่างนั้น
“เฮ้ย!! ไอ้ใหญ่ เป็นอะไรมากมั้ยวะ กูเตือนมึงแล้วไม่เชื่อว่าอย่าดื่มๆ ใหญ่! มึงอย่านอนยิ้มอย่างนี้ดิ กูใจไม่ดีนะเว้ยย!!” ผู้ที่ซ้อนมาด้วยเขย่าคนขับราวกับเสียสติ แต่ไอ้คนขับกลับดูบ้ามากกว่า เพราะมันนอนยิ้มเผล่รอคุณจราจรที่เคารพรักเดินเข้ามาหาอย่างไม่สะทกสะท้านเลย
และเมื่อป๋องเงยหน้าขึ้น ก็พบกับหลอดสีดำทะมึนคุ้นตาจ่อเข้ามาใกล้ปาก พร้อมกับคำพูดที่รื่นหูเหลือเกินสำหรับคุณหนุ่มมหาโจร หัวหน้าคนงานก่อสร้างที่คงจะโดนไล่ออกจากงานและต้องการหางานใหม่ในสวนสัตว์หมีน้อยเร็วๆ นี้
“...เป่าด้วยครับ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++
END
หายไปนานเลยค่ะ ไม่มีข้อแก้ตัว ขอโทษด้วยที่ไม่ต่อเนื่องนะคะ T^T
ระหว่างที่หายไป ไม่ได้อู้นะเออ นั่งแพ็คแอมเดอะวินเนอร์จนหลังขดหลังแข็งทีเดียว! (แอบอ่านนิยายท่านอื่นบ้างเล็กน้อย...ไม่กี่สิบเล่มเอ๊ง)
ว่าถึงเรื่องนี้ดีกว่า บอกแต่แรกแล้วว่าไร้สาระ เอาฮา และไม่ดราม่า เลยออกมาได้เป็นเรื่องไลท์ๆ แบบนี้แหละค่ะ ฉากหวานๆ เลยไม่ค่อยจะมีให้อ่านกันเท่าไหร่ ไม่รู้อ่านแล้วจะชอบกันรึเปล่า (แต่ก็หวังว่าจะชอบอะนะคะ อ่านแล้วอย่าคิดมากเน้อ มันไม่มีความสมจริงเลยซักนิดเดียว)
แล้วพี่ใหญ่ของเราก็คงจะได้สมัครเข้าไปทำงานในสวนสัตว์ และสมัครตัวเป็นลูกเขยของเจ้าสัวเร็วๆ นี้ล่ะนะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ในตอนก่อนหน้านี้นะคะ และพบกันอีกครั้งเมื่อมีโอกาสค่ะ เรื่องหน้าจะพยายามเขียนให้ได้เยอะในระดับหนึ่งแล้วค่อยลง ไม่อยากดองอย่างนี้แล้ว
ขอบคุณค่ะ
ลูกหมู
ปล.แอมเดอะวินเนอร์ ตอนนี้มีวางขายที่ That's Y แล้วนะคะ เป๊นอีกช่องทางในการจับจองเป็นเจ้าของค่ะ