รักSMของหนุ่มดอกไม้ ตอนที่ 59 (จบ) p.12 (26/04/2558)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักSMของหนุ่มดอกไม้ ตอนที่ 59 (จบ) p.12 (26/04/2558)  (อ่าน 135914 ครั้ง)

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่น็อตจะหลุดนะ 5555

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
5555555555555
รอมานานกว่าจะได้ยินคำๆนี้  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ BlackArrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
หมียักษ์เอ้ย อุตส่าทนมานาน  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
สะกิดต่อมดมโหได้แล้ว
แต่สิทธิ์จะยั้งอารมณ์ได้มั้ยน้า

ออฟไลน์ iyng1338

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
หุๆๆ เสร็จหนูเดียร์

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :laugh :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:ในที่สุดสิทธิ์ก็หลุดจนได้ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
รักSMของหนุ่มดอกไม้ โดย Zore

ตอนที่ 6

ไม่นะ!

สิทธิ์ ได้แต่นั่งถลึงตามองอีกฝ่าย นึกอยากเอาหัวลงไปโขกโต๊ะสักร้อยรอบ ทั้งที่อุตส่าห์ท่องบทสวดทุกบทที่นึกออกเพื่อไม่ให้ตัวเองสติแตก แต่สุดท้ายกลับหลุดปากต่อว่าอีกฝ่าย แถมยังแรงมากเสียจนเดียร์ค้างไปเลยด้วย

ก่อนที่สิทธิ์จะได้แก้ตัว อีกฝ่ายก็หันหน้าหนีเขาเสียก่อน เป็นเหตุให้สิทธิ์ออกอาการช็อคอย่างแรง เพราะนี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากจะให้เกิด

“ร้องไห้ด้วยครับ” บริกรแสนดีกระซิบแจงรายละเอียดจนคนหน้าซีดอยู่แล้วยิ่งซีดหนัก “ถ้างั้น เดี๋ยวผมจะเอารายการไปทำก่อนนะครับ”

พอเหลือกันสองคน ก็บังเกิดความเงียบและความอึดอัดขึ้นทันใด สิทธิ์ได้แต่เลิกลั่กเพราะไม่รู้จะสรรหาคำใดมาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้…

โดยหารู้ไม่ว่าที่จริงแล้ว อีกฝ่ายกำลังปลื้มปิติเสียจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

นี่ล่ะ…นี่มันใช่เลย! เสียงทุ้มตะคอกแรงเสียดแก้วหูที่แสน ทรงพลัง ใบหน้าหงุดหงิดน่ากลัวที่เพียงแค่เห็นก็หนาวไปถึงสันหลัง ดวงตาเรียวที่ฉายแววเกรี้ยวกราด พร้อมจะระเบิดอารมณ์ใส่ใครก็ตามที่อยู่ใกล้อา…สมกับที่สู้รอจริงๆ…ขออีกทีจะได้ไหมหนอ…

“เอ่อ…เดียร์” เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างหวาดหวั่น “เมื่อกี้ฉันหงุดหงิดไปหน่อยน่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าเดียร์นะ…เอ่อ…ฉัน…ฉันขอ…”

“ไม่เป็นไรครับ”

สิทธิ์ ได้แต่อ้าปากค้างเมื่อโดนตัดบท ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาที่ดูนิ่งเงียบนั้นไม่ได้ทำให้คนเห็นรู้สึกดีขึ้นแม้ แต่น้อย แต่อาจเพราะน้ำเสียงสะบัดที่เหมือนไม่แยแส อีกทั้งโดนขัดจังหวะก่อนเขาจะได้พูดจบ เลยทำให้รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา แต่ชายหนุ่มก็พยายามตั้งต้นท่องบทสวดให้ตัวเองใจเย็นอีกครั้ง และทำเป็นเมินสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ โดยหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายจงใจทำ

บรรยากาศที่ควรจะเต็มไปด้วยความรื่นเริงและแสนหวาน กลับกลายเป็นความ อึดอัดอึมครึมแทน สิทธิ์พยายามไม่คุยเพราะกลัวตัวเองจะหลุดโกรธออกมาอีกครั้ง เพราะเขาเห็นอีกฝ่ายดูนิ่งผิดจากก่อนหน้า จึงคิดว่าอีกฝ่ายเองก็คงจะไม่พอใจจนไม่อยากจะพูดเหมือนกัน

อันที่จริงแล้ว เดียร์พยายามระงับอารมณ์ชื่นมื่นที่ทำท่าจะปะทุออกมา ขืนพูดออกมาตอนนี้ มีหวังเผลอฉีกยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง แล้วต้องหลุดปากขอให้อีกฝ่ายตะคอกใส่อีกเป็นแน่ รับรอง เจ๊ง

และแล้ว การเดินทางของวันนี้ก็ได้สิ้นสุดลง สิทธิ์ขอตัวขึ้นห้องไปก่อน ปล่อยให้เด็กหนุ่มแสนงามอยู่ภายในห้องนั่งเล่นคนเดียว

“…ไม่มีสัญญาณแฮะ”

เดียร์ ชูมือถืออยู่ตรงระเบียงบ้าน ก่อนจะเก็บกลับเข้ากระเป๋า ใบหน้านิ่งออกอาการขยุกขยิก ดวงตากลมกวาดมองไปรอบบริเวณเพื่อดูว่ามีใครอยู่ตรงนั้นหรือไม่ จากนั้นก็เดินขึ้นห้องด้วยความไวแสง ก่อนปล่อยยิ้มร่าออกมาแบบไม่เกรงใจใคร

บ้าเอ๊ย รู้สึกดีเกินไปแล้ว!

พอ ได้แสดงอารมณ์ภายในใจจนโล่งก็หยิบมือถือของตนขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้มีสัญญาณ ขึ้นให้หนึ่งขีดพร้อมกับเสียงเตือนข้อความเข้าที่สั่นดิกอยู่เกือบสิบนาที

คุณได้รับ 150 ข้อความ

เดียร์ เผลอสำลักเมื่อเห็นจำนวนข้อความที่เยอะเป็นกระตั๊กพอเห็นชื่อผู้ส่งก็ถึง บางอ้อ เพื่อนแสนมาโซผู้เป็นลูกน้องแสนดีของพี่ชายตนนี่เอง

เด็ก หนุ่มกดดูข้อความซึ่งมีเนื้อหาใจความใกล้เคียงกันหมดว่าตอนนี้เขาอยู่ไหนให้ โทรกลับด้วย เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ขืนบอกสิรับรองว่าคุณพี่ได้ตามมาถึงที่แน่และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขา อยากให้เกิด…เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัย จึงต้องกดปิดโทรศัพท์ไว้กันชาใช้จีพีเอสตามมา…

ดูท่าทางจะไม่มีเวลาเอื่อยเฉื่อยแล้วสินะ

ร่าง บางหันไปมองประตู ในหัวนึกสารพัดว่าจะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายหัวเสียขึ้นไปอีก และด้วยเหตุฉะนี้ จึงต้องดอดออกไปดูสถานการณ์ของอีกฝ่ายก่อน จะได้เตรียมการถูก

ตอน แรกเดียร์กะจะเคาะประตูและทำทีว่าตัวเองไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่โดนตะคอก แต่เมื่อได้ยินเสียงคุยอยู่ด้านใน เขาจึงเปลี่ยนใจ มาแอบฟังก่อนแทน

“ผมรู้สึกไม่ดีจริงๆนะครับ เขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยกับเรื่องพวกผม…”

โถ พ่อคนดี แค่ตะคอกใส่ฉันทีเดียวก็รู้สึกผิดแล้วเหรอ จะอ่อนไหวไปไหนหา ตัวก็โตอย่างกับยักษ์ปักหลั่น แล้วฉันก็ไม่ใช่คนดีศรีสังคมที่ไม่ควรดึงลงมาแปดเปื้อนกับการแก้แค้นนี่สัก หน่อย…เพราะ ฉะนั้น อย่าบังอาจคิดกลับลำเอาตอนนี้เชียวนะโว้ย ไม่อย่างนั้นฉันได้กลับไปลงนรกขุมเอาอกเอาใจอีกแน่ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ทำๆต่อไปเหอะน่า จะจับฉันกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ไม่ให้ติดต่อกับผู้คนจนเหมือนบุคคลสาบสูญไปเลยก็ได้ ฉันไม่แจ้งตำรวจแน่ สาบานเลยเอ้า

“อาว่าผมควรจะเลิกดีไหม”

ไม่ดีโว้ย!

สิทธิ์ สะดุ้งจนตัวลอยเมื่อได้ยินเสียงดังปังอยู่ที่ประตู ต้นเหตุได้แต่ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่ไม่ได้เตรียมการไว้ เดียร์รีบลุกขึ้นแล้วทำหน้านิ่ง รออีกฝ่ายเปิดประตูออกมา

“…มีอะไรหรือ”

“คือ…ห้องผมน่ะครับ…” ดวงตากลมช้อนมอง แลดูน่ารักชวนหลงดี หากไม่มีประโยคถัดไปตามมา “มันมีฝุ่นน่ะครับ พอดีผมแพ้ฝุ่นมีสักนิดเดียวก็นอนไม่หลับแล้ว”

มัน เป็นความฝันของผมน่ะครับ ที่จะได้ทรมานด้วยการจามไม่หยุดจนน้ำตาเล็ดเพราะฝุ่น แต่คงเพราะฝ่ามรสุมมาเยอะกระมัง ต่อให้เจอฝุ่นโปะเข้าหน้าก็ไม่เป็นอะไร

“เอ๋งั้นหรือ” ชายหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความยุ่งยากใจ นี่ก็ดึกแล้วแม่บ้านที่อยู่ด้วยน่าจะหลับไปแล้ว อีกทั้งเขาเองก็ไม่อยากไปรบกวนด้วย แต่ปัญหาคือจะให้ทำเองก็ใช่ว่าจะสามารถ แถมยังไม่ชอบสุดๆเลยอีกต่างหาก

ก่อนหน้าก็ดันทำให้กลัวไปแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรให้ประทับใจขึ้น มีหวังอีกฝ่ายคงเมินจนเขาต้องใช้วิธีสุดท้ายที่ไม่อยากจะใช้สุดๆเป็นแน่…ถึงจะเตรียมอุปกรณ์ไว้ครบครันแล้วก็เถอะ

“งั้นมานอนห้องฉันแทนไหม…”

ตาม เรื่องตามราวก็คงดูไม่แปลกหรอก ถ้าชายสองคนจะนอนห้องเดียวกัน ยกเว้นเสียแต่ว่าระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเกินกว่าเพื่อนและไม่ใช่ญาติ อีกทั้งชายคนหนึ่งนั้นก็แลดูงามเกินหน้าเกินหน้าผู้หญิงส่วนใหญ่จนชวนให้ใจ คนมองหวั่นไหวนี่ละ

“เอ่อ ฉันหมายถึงว่า เปลี่ยนห้องกันน่ะๆ” สิทธิ์บอกเลิกลั่กทำอย่างกับว่าอีกฝ่ายเป็นสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาก็ไม่ปาน

เด็กหนุ่มชะเง้อมองห้องด้านใน…ซึ่ง ดูแล้วชวนให้พิศวงยิ่งนัก เขาจำได้ว่าเมื่อตอนกลางวันยังสะอาดพอๆกับห้องเขาอยู่แท้ๆ ไยบัดนี้จึงกลายสภาพเหมือนมีพายุเข้าก็ไม่ปานกันได้ละหนอ แล้วเมื่อกี้เขาก็บอกไปแล้วว่าแพ้ฝุ่น ยังจะกล้าเสนอให้เขาอยู่ห้องนี้อีกนะ…ถึงดูๆแล้วจะน่าอยู่พิลึกดีก็ตาม เพราะปกติก็นอนทั้งที่มีของวางระเกะระกะเต็มที่นอนเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่งั้นนอนไม่หลับกันพอดี

และ ดูท่าทางจะรู้ตัวแล้วว่าเผลอนำเสนอของที่แย่กว่า ถึงได้ยิ้มเฝื่อนและพยายามโบกมือไปมาเพื่อปิดบังห้องที่สวยงามไม่ให้เด็ก หนุ่มเห็น แม้จริงๆแล้วแค่ยืนเฉยๆก็จะแทบมิดแล้วก็ตาม

“งั้นไม่เป็นไรก็ได้ครับ ผมคงขออะไรมากเกินไป” ว่าแล้วก็หนีหายเข้าห้องทันที ปล่อยให้ร่างสูงได้แต่ยืนกะพริบตาปริบๆด้วยความงง

อะไรวะ

สิทธิ์ ยั้งปากทันก่อนจะได้สบถออกมา ชายหนุ่มกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่ใกล้ระเบิด ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอคนเอาแต่ใจแบบนี้ แต่ที่ผ่านมา เขาไม่เคยต้องมาอดทนคอยเอาใจแบบนี้ต่างหาก ลองมางอแงดูสิ พ่อวีนใส่จนหนีกันแทบไม่ทัน

แต่รายนี้ ขืนปล่อยให้หนีแผนก็เจ๊งกันพอดีแม้ที่จริงจะลังเลอยากยกเลิกแผนการบ้าๆนี่อยู่ก็ตาม…แต่พอได้เห็นนิสัยที่ชวนหงุดหงิดนั่นแล้ว ความเห็นใจก่อนหน้าเริ่มระเหยไปจนสิ้น

เนื่องจากไม่ใช่คนที่จะไปง้อใครก่อน เลยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อสถานการณ์แบบนี้ดี สิทธิ์ได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะกดมือถืออีกครั้ง

“เมื่อครู่นี้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างกังวล

“ไม่มีอะไรหรอกครับอาวัฒน์ พอดีผมเผลอกระแทกประตูน่ะ” สิทธิ์บอกพร้อมกับหัวเราะมากเกินไปจนอีกฝ่ายรู้ทันทีว่าสิทธิ์โกหก “คือถ้าเราจะง้อใครซักคนเนี่ย เราควรจะทำยังไงดีหรือครับ”

เงียบนานมาก

“จำเป็นต้องทำขนาดนั้นด้วยหรือครับ”

ชาย หนุ่มยิ้มค้าง อยากจะถามเหลือเกินว่าอารมณ์เสียอะไรถึงได้ตอบด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ขนาดนี้ แต่เพราะกลัวจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เลยปล่อยผ่านไปเสีย

“อาก็รู้ว่าผมตั้งใจให้แผนนี้สำเร็จแค่ไหนนี่นา” สิทธิ์ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ผมจนปัญญาจริงๆ อาช่วยผมหน่อยเถอะครับ”

“แล้วไปทำอะไรเข้าละครับ”

สุด ท้ายคนในสายก็อ่อนใจยอมเป็นที่ปรึกษาให้จนได้ สิทธิ์ก็เริ่มพรรณนาตั้งแต่การดินเนอร์ที่แสนจะดึกและหิวโซจนกระทั่งเรื่อง ก่อนหน้า หลังจากเล่าจบ วัฒน์ก็ให้คำตอบทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สิทธิ์ได้แต่อ้าปากค้าง

“ก็ บอกตรงๆไปเลยสิครับว่าไม่ชอบ ถ้าอดทนต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องตบะแตกกันเข้าสักวัน ถึงตอนนั้น มันจะแย่กว่าที่เป็นอยู่นะครับ”

“แต่ ขืนทำแบบนั้นแล้วเขาไม่ยอม ขอเลิกผมเลยล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างกังวลไม่สมกับรูปร่าง

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คนฟังหวังอยู่เหมือนกัน ใครที่ไหนมันจะไปเห็นด้วยกับแผนทำให้ศัตรูพ่ายด้วยการลักพาตัวน้องเขามาทำร้ายกัน…แอบนึกเสียดายเมื่อครู่ที่ไม่มีโอกาสได้เชียร์ให้อีกฝ่ายรีบๆล้มเลิกแผนนี่ไปเสียก่อน

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วละครับ ผมคงช่วยได้เท่านี้ละ” หนุ่มใหญ่พยายามไม่ให้ความช่วยเหลือมากไปกว่านี้

สิทธิ์ มองโทรศัพท์ในมือตนหลังจากวางหูไป ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่อีกฝ่ายกระทำกับตน ก่อนจะบีบมือถือแน่นแบบพอประมาณเพราะกลัวจะพังคามือ

เอาเถอะ ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆละก็…

ร่างสูงเดินออกจากห้องไปยังหน้าประตูห้องของเดียร์ แล้วพยายามเคาะอย่างเบามือ

“มีอะไรหรือครับ”

…เขา ยอมรับอยู่อย่างว่าอีกฝ่ายมีหน้าตาเป็นอาวุธสุดๆ แค่ได้เห็นใบหน้าเนียนใสที่โผล่มาจากช่องว่างของประตู ก็เล่นเอาความโกรธเมื่อครู่ปลิวสะบัด

“ฉันเป็นห่วงกลัวเดียร์นอนไม่ได้” ชายหนุ่มยิ้มกว้าง…ซึ่งแน่นอนว่ามันดูเสแสร้งเสียจนเด็กสามขวบก็ดูออก “เดี๋ยวฉันจะทำความสะอาดห้องให้เอง”

ก็เข้าแผนน่ะสิ

“จริงเหรอ…แต่คุณสิทธิ์ดูเหนื่อยมากเลยนะ ผมว่าอย่าดีกว่า”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันยินดี” ว่าจบก็พรวดพราดออกไปแบกสารพัดเครื่องมือทำความสะอาดเข้ามาในห้อง “เดียร์ไปรออยู่ข้างล่างก่อนนะ เดี๋ยวฝุ่นมันจะกระจายเอา”

เด็กหนุ่มยักไหล่ให้และเดินลงมาที่ห้องนั่งเล่นทันที เขาไม่อยากเห็นอีกฝ่ายทำท่าทรมานนัก เพราะมันจะทำให้ตนรู้สึกริษยาเอาเสียเปล่าๆ…ซึ่งก็ทำให้รู้สึกเจ็บปวดไปอีกแบบ…อา…โหยหา แต่กลับทำได้แค่มอง…โอว…แต่มันไม่พอหรอก…ต้องโดนเองสิถึงจะสะใจสุด

กินเวลากว่าสามชั่วโมงที่คุณชายหมดไปกับการทำความสะอาดห้อง…ซึ่ง ที่จริงมันก็สะอาดอยู่แล้ว เดียร์สะดุ้งลุกออกจากเก้าอี้ยาวเมื่อได้ยินเสียงดังตึงตังลงมา พอเห็นสภาพอีกฝ่ายก็ได้แต่เลิกคิ้ว เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายไปทำความสะอาด หรือไปลงดงโจรป่ามากันแน่ สะบักสะบอมเกินกว่าเหตุชัดๆ

“เรียบร้อยแล้วนะ” สิทธิ์ยิ้มกว้างที่ดูอย่างไรก็กำลังฝืนอยู่ชัดๆแถมสภาพร่างกายก็ไม่ชวนให้คล้อยตามเลยสักนิด

แต่ตอนนี้ผลงานเป็นยังไงก็ช่างมัน ต้องให้กำลังใจเป้าหมายก่อน

“ขอบคุณครับ ได้นอนสักที”

แน่นอนว่าช่วงท้ายที่พูดออกไปลดเสียงให้เบาลง แต่ก็ดังพอจะกระทบใบหูของอีกฝ่าย จากนั้นก็เดินลิ่วขึ้นไปชั้นสอง และปิดประตูปัง

ร่างสูงมองตามหน้าเหวอ นี่หรือคือผลตอบแทนที่สู้อุตส่าห์ทำเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบสุดๆ

“พี่เป็นยังไง น้องแม่งเป็นอย่างนั้นจริงๆ” เสียงทุ้มลอดผ่านไรฟันด้วยความคั่งแค้นไม่มีอีกแล้ว ความเห็นใจใดๆ“คอยดูเถอะ รับรองว่าฉันจะต้องเอาคืนให้สาสมแน่”

แน่ นอนว่าสิทธิ์ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายรอเวลานั้นอยู่นานแล้วและก็กำลังครึกครื้น อยู่กับห้องนอนที่กลายสภาพเหมือนมีฝูงช้างคลั่งวิ่งผ่านเข้ามา

 

ชา นิ่วหน้ามองจอมือถือของตน ซึ่งไม่มีข้อความหรือการโทรเข้าใดๆให้เห็นสักแอะ นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกร้อนใจ ความจริงเขาไม่ได้เป็นห่วงอีกฝ่ายนักหรอก เพราะมั่นใจว่ารายนั้นไม่มีทางเป็นอะไรไปง่ายๆแน่ แต่ที่ทำให้เขาต้องคอยพะวงดูมือถือทุกสามวินาที ก็เพราะเจ้านายจอมวีนนั่นต่างหาก

วิ นไม่ได้โวยวายจะคลั่งตายเพราะไม่ได้ติดต่อกับน้องชายเกินสิบสองชั่วโมงแต่ อย่างใด สิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ทำประจำโดยสิ้น เชิง วินนอนห่อเหี่ยวเหมือนคนโดดเดี่ยวที่เพิ่งโดนแฟนทิ้งอยู่บนโต๊ะทำงานใน บริษัท ซึ่งเวลานี้มีเพียงเขากับคนติดตามหน้านิ่งอยู่เพียงสองคนเท่านั้นบนตึก มีเพียงไฟในห้องเจ้านายที่เปิดไว้เท่านั้น ส่วนด้านนอกปิดไฟจนมืดสนิท แถมยังเปิดประตูทิ้งไว้ให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศชวนขนลุก ว่าจะมีบางสิ่งโผล่มาจากความมืดหรือเปล่า…

“จบสิ้นแล้ว…ไม่เหลือแล้ว…” วินพึมพำกับตัวเอง ใบหน้ายังคงซบอยู่บนโต๊ะไม่ยอมขยับเขยื้อน

“คุณวิน ใจเย็นๆสิครับ เรายังไม่รู้สักหน่อยว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับเดียร์ บางที เขาอาจจะไปเที่ยวแล้วลืมโทรศัพท์… หรือไปที่ๆสัญญาณไม่ดี หรือไม่ก็ทำโทรศัพท์หายก็ได้” ชา พยายามปลอบเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ รู้อย่างเดียวคือปลอบแบบนี้มาตั้งแต่วินาทีที่วินรู้จากปากเจ้าของร้านดอก ไม้ว่าเดียร์ไปเที่ยว “ผมว่าคุณรีบจัดการเอกสารบนโต๊ะให้เสร็จเถอะครับ ไม่งั้นวันพรุ่งนี้พวกพนักงานได้วุ่นวายกันแน่”

“ฉัน…ทำ…ไม่…ได้…” หนุ่มแว่นยังคงสลดไม่เลิก “จะให้ฉันนั่งทำงาน…ในขณะที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเดียร์เป็นตายร้ายดียังไงเนี่ย…ฉัน…ทำไม่ลง…”

ได้ข่าวว่าเขาไปเที่ยวเท่านั้นนะครับ ถึงจะไม่รู้ว่าที่ไหนก็เถอะ อย่าทำเป็นว่าเดียร์เขาโดนลักพาตัวไปถ่วงอ่าวจะได้ไหม

คิด แล้วก็นึกหงุดหงิดเจ้าเด็กตัวต้นเรื่อง เขามั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเดียร์จงใจทำเป็นแน่ แต่ที่เขาโกรธไม่ใช่เพราะเด็กหนุ่มทำอะไรไม่รู้จักคิดหรือปรึกษา แต่เพราะดันทำให้วินเหมือนผีตายซากแบบนี้ต่างหาก เขาไม่ชอบใจสุดๆเวลาวินทำตัวเหมือนคนจะตาย และไม่สนใจเขาอย่างสิ้นเชิง

มันน่านัก

“ป่านนี้คงตายไปแล้วมั้ง”

ลุกขึ้นอย่างไวปานโดนไฟเผาก้น

“พูดบ้าอะไรของแก” วินมองตาขวาง ท่าทางห่อเหี่ยวปลิวหายไปกับสายลม เหลือไว้แต่ความโกรธดุจมารพิโรธ

“อ้าว ผมนึกว่าคุณหวังให้เป็นแบบนั้น เห็นเอาแต่พูดเหมือนกับเดียร์ตายไปแล้วนี่…”

ยัง เอ่ยไม่ทันจบก็ต้องเงียบไปเมื่อโดนอีกฝ่ายผลักจนกระแทกกับกำแพง แขนแกร่งขัดเข้าที่ลำคอจนหายใจลำบาก แต่สำหรับคนชอบความเจ็บปวด มันช่างหฤหรรษ์อย่างที่ฝันไว้ไม่มีผิด ชาไม่คิดจะเก็บอาการระรื่นเอาไว้ เพราะยิ่งยิ้ม ยิ่งทำให้อีกฝ่ายรุนแรงกับเขาจนร้าวไปทั้งตัว

“อย่ามายั่วโมโหฉันนะ!” หนุ่มแว่นตวาดลั่นแล้วกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย ก่อนจะผลักกลับไปที่กำแพง “เดียร์จะต้องไม่เป็นอะไร ฉันแค่เป็นห่วงว่าไปที่ไหนก็เท่านั้นถ้าขืนยังพูดมากอีกละก็ ฉันเล่นแกอ่วมแน่”

ทำเหมือนคนลาโลก คงไม่ได้ห่วงแค่นั้นหรอกระมังครับ…แต่เอาเถอะ ขอเพียงคุณกลับมาเป็นคนขี้โวยวายชอบทำร้ายร่างกาย ผมก็ไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว

“เอ้า แล้วนั่นจะยืนนิ่งหาพระแสงอะไร ไหนล่ะ เอกสารที่จะใช้พรุ่งนี้ รีบๆเอามาสิ จะได้รีบๆกลับบ้านสักที”

“ก็วางไว้ที่โต๊ะแล้วไงครับ”

วินหันกลับไปมองบนโต๊ะซึ่งมีเอกสารที่ว่าวางไว้อย่างเป็นระเบียบ จากนั้นเขาก็ปัดมันลงพื้นเอาดื้อๆ “มันตกลงไปแล้ว รีบๆเก็บสิวะ

สามารถโขกสับจิกกัดผมได้ทุกเวลาแม้จะหน้าแตก นี่สิเจ้านายแสนดีของผม

ชา ก้มลงไปเก็บมาให้ โดยที่ยังยิ้มพราย และแน่นอนว่าเขาก็ต้องก้มกลับมาเก็บอีกรอบเพราะโดนสันแฟ้มปาใส่หน้าแต่รอบ ที่สองเขาไม่ยิ้มแล้ว ไม่ใช่เพราะกลัวเจ้านายจะเอาแฟ้มปาใส่จนไม่เป็นอันทำงาน แต่เพราะกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องเจ้าน้องชายแสนน่ารักของวินที่ไม่รู้กำลัง วางแผนอะไรกันอยู่ต่างหาก

ต่อให้เป็นพวกเดียวกันก็เถอะ แต่ถ้าทำให้คุณวินเอาแต่กังวลเรื่องคุณจนไม่ยอมมาสนใจผม ผมเองก็คงอยู่เฉยไม่ได้หรอกนะ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
อยากทำร้ายชาบ้างอ่ะะะ  :z13: :z13: :z10:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
ชาจะทำยังไงน้า แต่หนูเดียร์เราก็ร้ายสุดอยู่ดี คิๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tsunsan

  • บุคคลทั่วไป
รอสิทธิ์ เอาคืนน้องเดียร์  :hao7:

สู้ๆๆนะคะคนเขียน

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
แซ่บ!!!

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
รักSMของหนุ่มดอกไม้ โดย Zore

ตอนที่ 7

บรรยากาศแสนหวานในบ้านหลังเล็กใกล้หาดทรายชวนให้รู้สึกสดใสเมื่อได้ยล…ยกเว้นเสียแต่ว่าจะอดนอนมาหนึ่งคืน

สิทธิ์แทบจะกระโดดหนี ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเปิดม่านรับแสงอาทิตย์เองแท้ๆ ดวงตาที่ผ่านการใช้งานโดยไม่ได้พักผ่อนของเขามันอ่อนแอเกินกว่าจะต้านแสงแดดไหว ทั้งที่เมื่อคืนก็เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ไม่รู้ทำไมกลับข่มตาหลับไม่ลง…โอเคว่าเตียงรกๆนี่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวก็จริง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่หรอก

แต่ไอ้ที่ทำท่าแบบนั้นหมายความว่าไงวะ โกรธ ไม่พอใจ งอน หรือเป็นปกติอยู่แล้ววะ เดาอารมณ์ไม่ถูกโว้ย

หลังจากพยายามทำให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่าด้วยการอาบน้ำ ชายหนุ่มก็เดินไปยังหน้าห้องนอนของเดียร์ นี่ก็แปดโมงกว่าแล้ว มนุษย์ปกติก็สมควรจะตื่นได้แล้ว ถึงเมื่อคืนจะนอนกันราวตีสามก็เถอะ

เงียบสนิท

สิทธิ์ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า เขาจึงเว้นช่วงไปทำอย่างอื่นราวสิบนาทีก่อนจะกลับมาเคาะอีกครั้ง ซึ่งผลที่ได้ก็เหมือนเดิม

หรือว่ายังหลับอยู่

ปกติตัวเองก็ตื่นตอนบ่ายสองบ่ายสามอยู่เป็นประจำเวลาที่ไม่ได้มีธุระสำคัญอะไรอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าคนอื่นจะใช้ชีวิตเหมือนตนด้วย…

ซึ่งอันที่จริงเดียร์ก็กำลังหลับอยู่นั่นล่ะ ปกติเขาเองก็ไม่ใช่คนตื่นสายอะไรหรอก แต่เพราะได้นอนบนเตียงอันแสนสบายเกิน เลยเพลินไปนิด และยังคงไม่มีท่าทีว่าจะตื่นแต่อย่างใดด้วย

เป็นอะไรหรือเปล่านะ…

คิดแล้วก็รู้สึกกังวล พอบิดลูกประตู ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล็อกห้องไว้ จึงคิดจะเข้าไปดู แต่แล้วก็ชะงักเสียก่อน

ไม่ดีมั้ง เกิดว่ากำลังอยู่ในสภาพที่ใครเห็นไม่ได้ละ…แต่หมอนั่นก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนี่หว่า จะไปคิดมากทำไม…แต่…เล่นสวยซะชวนสับสนขนาดนั้น ใครมันจะไปเชื่อว่าเป็นตัวผู้เหมือนกันละวะ…เผลอๆ เจ้าตัวอาจจะเป็นผู้หญิงจริงๆก็ได้ แต่ทำเป็นบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชาย จะได้ไม่มีคนมาจีบ…แล้วจะทำไปทำไมกันละวะ…แล้วเราจะคิดมากไปทำไมละว้อย!!!

“คุณสิทธิ์คะ ป้าเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้วนะคะ” เสียงหญิงวัยห้าสิบเอ่ยเรียกคนที่ยังคงยืนเหมือนหุ่นอยู่หน้าประตูห้อง “อ้าว เป็นอะไรไปหรือคะ ทะเลาะกันหรือ”

ชายหนุ่มยิ้มเจื่อน แล้วส่ายหน้าให้ “เปล่าหรอกครับ ผมแค่มาปลุกเดียร์ แต่ท่าทางจะยังไม่ตื่น”

“สงสัยคงจะยังเพลียมั้งคะ เหมือนเมื่อคืนจะกลับกันมาดึกด้วยนี่นา” นางยิ้มหวานให้ “ป้ารู้ว่าคุณสิทธิ์เองก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ ไว้มั่นใจว่าเป็นคนที่ใช่ แล้วค่อยทำก็ไม่สายหรอกค่ะ”

ผมว่า มันไม่ควรจะไปถึงขั้นนั้นด้วยซ้ำครับ อย่างน้อยที่สุดแล้ว ลืมเรื่องจดทะเบียนไปได้เลย…

เสียงเรียกเข้าดังแว่วออกมาจากห้องนอนขัดจังหวะบทสนทนาเสียก่อน สิทธิ์จึงขอตัวไปรับโทรศัพท์ในห้องและรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่ทำให้อาหารเช้าของหญิงวัยกลางคนเป็นหมันด้วยเหตุว่าเขาอาจจะไปนอนต่อ

“มีอะไรหรือครับอาวัฒน์” เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างงัวเงีย ก่อนจะตื่นเต็มตาหลังจากฟังอีกฝ่ายพูดจบ “ตอนนี้เลยหรือครับ…ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะออกไปที่สนามบินดูก่อนละกันว่ายังมีตั๋วขายอยู่หรือเปล่า…ครับๆ ไม่เป็นไรครับ”

พอวางหูไป สิทธิ์ก็ออกอาการเหมือนวิญญาณหลุดจากร่างอยู่สามนาที ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าเงิน แล้วเดินลงมาหานางซึ่งกำลังจะเตรียมตัวเข้าไปทำความสะอาดในห้องสิทธิ์

“ฝากบอกเดียร์ทีนะครับ ว่าผมอาจจะกลับมาก่อนหกโมงเย็น อย่างช้าก็เช้าพรุ่งนี้”

ว่าจบก็วิ่งฉิวออกไปจากบ้านทันที พลางนึกขอโทษนางอยู่ในใจที่ให้เธอเตรียมข้าวเช้าให้อย่างเสียเปล่าอีกแล้ว

 

เดียร์สะดุ้งตื่นขึ้นในยามบ่ายที่ร้อนระอุราวกับอยู่ในตู้อบไมโครเวฟที่กำลังเดินเครื่องด้วยแรงไฟแปดร้อยโวลต์ เด็กหนุ่มงัวเงียมองนาฬิกาแล้วก็ต้องตกใจ ที่เผลอนอนเสียเพลินและที่ชวนให้ข้องใจยิ่งกว่าคือการที่อีกฝ่ายไม่มาปลุกเขานี่ละ ทั้งที่เดียร์ก็จำได้ว่าสิทธิ์วางแผนเที่ยวไว้ยาวเป็นหางว่าวเอาไว้แล้ว

“ไงจ๊ะ ตื่นซะบ่ายเชียวนะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยทักเด็กหนุ่มที่เดินหน้าตื่นลงมา “พอดีคุณสิทธิ์มีธุระด่วน กว่าจะกลับมาก็เย็นๆ ไม่ก็พรุ่งนี้โน่นแน่ะ”

“งั้นหรือครับ…” ซึ่งอันที่จริงเขาก็ไม่แปลกใจนักหรอก “น่าเสียดายจังเลยนะครับ…”

ผมรึอุตส่าห์วางแผนไว้ตั้งมากมายที่จะทำให้เขาปรี๊ดแตกแท้ๆ…

“แหม ก็ใช่ว่าป้าจะไม่เข้าใจหรอกนะ เพราะสามีป้าเองก็งานยุ่งเหมือนกัน นานทีปีหนจะได้เจอกันสักที” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างที่ดูเหงาหงอย “ถึงเขาอาจจะมีเวลาให้ได้ไม่มากเท่าคนอื่นๆ แต่การที่เขาพาหนูมาที่นี่ แสดงว่าเขาจริงจังกับหนูมากเลยนะจ๊ะ เพราะงั้นก็อย่าไปโกรธเขาเลยนะจ๊ะ”

ผมจะโกรธเขาแค่เรื่องเดียวก็คือการที่เขาเอาแต่โอ๋ผมแล้วไม่ยอมลงไม้ลงมือกับผมสักทีนี่ละครับ

“ครับ”

เดียร์ยิ้มรับ ก่อนจะไปที่ครัวตามคำเชิญของอีกฝ่าย หลังจากเติมพลังเรียบร้อย เด็กหนุ่มก็ขอตัวขึ้นห้อง แต่ไม่ใช่ห้องของตัวเองหรอก

ห้องสิทธิ์ตอนนี้สะอาดเรี่ยมเร้ผิดกับเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง เดียร์รู้สึกอิจฉานางเล็กๆที่ได้มาทำความสะอาดในห้องที่รกอย่างกับรังหนู ท่าทางคงจะลำบากและใช้เวลาเอาการ กว่าจะให้ออกมาสวยงามได้ถึงเพียงนี้ เขาลองค้นในห้องอยู่พักหนึ่ง และก็ได้เจอในสิ่งที่เกินคาด ดูท่าทางคงจะรีบมาก ถึงได้เหลือสัมภาระเอาไว้เต็มแต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่เสื้อผ้า แล้วก็โน้ตบุ๊คหนึ่งเครื่อง ซึ่งดูแล้วท่าทางจะมีไฟล์งานสำคัญอยู่เอาการ เพราะพอเปิดเครื่องมาก็ต้องใส่รหัสก่อนเข้าจอแล้ว

เขานิ่งไปครู่ก่อนจะเดินออกไปหานาง ซึ่งกำลังเตรียมตัวทำอาหารเย็น “ป้านางครับ ผมถามเรื่องส่วนตัวของคุณสิทธิ์ได้ไหม”

หญิงวัยกลางคนละสายตาจากหม้อเพื่อรอฟัง

“คือ…” ร่างบางบิดไปมา แลดูเหมือนกำลังเขินอาย “คุณสิทธิ์เขาเกิดวันไหนหรือครับ”

อันที่จริงเขาก็ไม่คิดว่ามันจะถูกหรอก แต่เฮียหมีแกดันเล่นเอาวันเกิดมาเป็นรหัสเข้าจอโน้ตบุ๊คจริงๆเสียนี่ แถมพอลองต่อเน็ตเปิดเข้าเว็บดู ก็สามารถเข้าถึงอีเมล์ทุกฉบับโดยไม่ต้องเสียเวลาควานหารหัสให้มากความเลย เพราะมันบันทึกและล็อกอินเข้าอัตโนมัติให้เรียบร้อยจนตอนนี้เขารู้ถึงไส้ถึงพุงสิทธิ์จนเกลี้ยง

“หืม…” เด็กหนุ่มสะดุดเข้ากับอีเมล์ฉบับหนึ่ง จากคนส่งที่ใช้ชื่อว่าธนเดชข้อความช่วงแรกก็เหมือนจะเกี่ยวกับงาน แต่สามข้อความสุดท้ายนี่ กลายเป็นเรื่องของเขาล้วนๆ

 

[หัวเรื่อง] ด่วนและลับ

[ผู้ส่ง] ธนเดช

ผมว่าคงเหลือทางเดียวแล้ว ถ้าคุณต้องการจะหยุดยั้งไม่ให้ฝั่งโน้นมาเล่นงานเราอีก ผมรู้มาว่าวินมีน้องต่างแม่อยู่ และดูท่าทางเขาจะรักน้องคนนี้มาก ถ้าคุณไม่ต้องการจะทำจริงๆ ก็ไม่ต้องตอบกลับผม และลบอีเมล์นี้ทิ้งไป ถือเสียว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิด

 

จากนั้นเดียร์ก็เปิดเข้ากล่องส่งข้อความทันที ซึ่งแน่นอนว่ามีอีเมล์ตอบกลับเรียงตัวกันสวยงามและไม่มีลบทิ้งสักฉบับ พอได้อ่านข้อความจนจบทุกฉบับ เด็กหนุ่มก็ยิ้มพรายเขาจัดการเก็บข้าวของทั้งหมดไว้อย่างเรียบร้อย และเริ่มทำการควานหาของที่จะทำให้แผนการเดินไปได้อย่างสะดวกโยธิน

“เดียร์จ๊ะ”

ก่อนจะรีบผุดลุกและหนีออกจากห้องทันควัน

“มีอะไรหรือครับ” เด็กหนุ่มถาม พยายามแสดงอาการให้นิ่งที่สุดเท่าที่ทำได้

หญิงวัยกลางคนเลิกคิ้วมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้ “เป็นสาวเป็นแส้ ทำไมพูดจาเป็นผู้ชายไปได้ละจ๊ะ

…เปล่าครับไม่ได้เป็น…ก็อยากจะบอกอยู่หรอก แต่ในเมื่อคุณหมีเขาไม่บอกป้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผมจึงคิดว่าควรจะเงียบไว้ด้วยดีกว่าเผื่อบอกแล้วอาจจะทำให้ป้าหัวใจวายก็ได้

“มันติดแล้วน่ะครับ จะให้เลิกเลยก็รู้สึกแปลกๆ” เด็กหนุ่มทำท่าเขิน ซึ่งไม่ว่าจะตะแคงมองท่าไหนก็เห็นเป็นเพียงสาวน้อยขี้อายคนหนึ่งเท่านั้น “ว่าแต่ ป้าเรียกผมมาทำไมหรือครับ”

“อ๋อ เดี๋ยวป้าจะออกไปข้างนอกสักหน่อยน่ะจ๊ะ เลยจะเอากุญแจไว้ให้ เผื่อเราจะออกไปเที่ยว” ว่าแล้วเธอก็ยื่นกุญแจดอกเล็กให้ “ป้าอาจจะกลับมาเย็นๆนะจ๊ะ ถ้าหิวละก็ มีโจ๊กอยู่ในตู้เย็นนะ”

“ครับ ขอบคุณมากเลย…ครับ”

“จ้าๆ ป้าไม่ว่าแล้วครับ” นางเอ่ยแซวก่อนจะขอตัวออกจากบ้านไป

เดียร์เดินไปส่งหญิงวัยกลางคนถึงหน้าบ้าน พออีกฝ่ายลับตาไป เดียร์ก็หันกลับเข้าบ้านหมายจะชิ่งไปหาของต่อในห้องของสิทธิ์ แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปหาประตู ก็โดนกระชากแขนจนตัวลอย

“ให้ตายเถอะ น่ารำคาญชะมัด”

เดียร์หันไปมองต้นเสียง ซึ่งก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน เป็นหนึ่งในลูกน้องที่อยู่ใต้สังกัดชา และเป็นคนที่เด็กหนุ่มชอบเป็นอันดับต้นๆ

จริงอยู่ว่าวินรักเขาแทบตาย ส่วนชาเองก็เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเขา แต่ส่วนใหญ่คนที่รู้ถึงตัวตนของเดียร์ ไม่มีใครชอบหน้าเขาซึ่งเป็นลูกเมียน้อยเท่าไหร่นักหรอก ยิ่งโดยเฉพาะลูกน้องในสังกัดของมาริสา ต่อให้เจ้านายไม่สั่ง เหล่าผู้ใต้บังคับต่างก็ปรี่เข้ามารังแกเด็กหนุ่มแบบรู้งานกันถ้วนหน้า

หากไม่ติดคุณพี่ชายแสนดี ที่คอยราวีไม่เลิก ชีวิตนี้คงมีความสุขจนตาย

“พี่ดร”เด็กหนุ่มเลิกคิ้วมองชายที่ตัวสูงกว่าตนไปราวครึ่งหัว เขาไม่คิดว่าจะได้เจออีกฝ่ายที่นี่…แต่ก็พอจะเดาๆได้ว่าชายหนุ่มมาทำไม และรู้ได้อย่างไร

“อย่ามาเรียกว่าพี่นะ ใครอยากจะนับญาติกับคนอย่างแกกัน” เจ้าของชื่อด่าฉอดๆก่อนจะทำท่าขยะแขยงแสลงใจเหมือนกำลังจับก้อนอึ “คุณชาสั่งให้ฉันมาพาตัวเด็กงี่เง่าอย่างแกกลับบ้าน ชอบเรียกร้องความสนใจนักหรือไง ถึงได้ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปทั่วน่ะ กลับได้แล้ว”

“ไม่” และกรุณาดึงฉันแรงๆ…โอ้ว แรงบีบแห่งความชังนั้นน่าหลงใหล “ผมแค่มาเที่ยว ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรสักหน่อย”

“เที่ยว? กับคนที่เป็นศัตรูกับคุณวินน่ะนะ จะโง่ก็ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ แล้วนี่ไม่รู้เลยหรือไงว่าคุณวินกับคุณชาเขาพยายามติดต่อหาแกตั้งไม่รู้กี่รอบ กลับบ้านได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องลาก”

ก็อยากให้ลากกลับอยู่หรอก แต่ความรื่นเริงแค่วูบเดียว มันไม่น่าสนใจนี่นา

“ถึงพี่กับคุณสิทธิ์เป็นศัตรูกัน แต่ฉันไม่เกี่ยวนี่นา คุณสิทธิ์เขาไม่ใช่คนที่จะพาลไปทั่วสักหน่อย” มือบางสะบัดกลับ…ด้วยแรงที่มากจนชายหนุ่มถึงกับตกใจ “พี่ดรกลับไปเถอะ”

“บอกว่าอย่าเรียกฉันว่าพี่!” ผมสีน้ำตาลสะบัดไปตามแรงหัน นัยน์ตาวาวโรจน์ไปด้วยความโกรธ “อยากให้ใช้กำลังนักใช่ไหม ได้!ยังไงซะ คุณชาก็สั่งไว้แล้วว่าถ้าแกไม่ยอมกลับดีๆให้ใช้กำลังได้เลย”

ด้วยความที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงหนุ่มที่แลดูอ่อนแอ ไม่กล้าสู้คนมาตลอด ดรจึงเพียงแต่รุกเข้าหมายจะกระชากแขนบางเพื่อลากกลับ แต่สิ่งที่ได้รับทำเอาเขาหน้าเหวอ

“ช่วยด้วย คนโรคจิต จะปล้ำผู้ชายคร้าบบ”

แถวนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีคน แถมในจังหวะที่กำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พ่อคุณผู้น่ารักก็ชิ่งเข้าบ้านไปเสียแล้ว

“เฮ้ย…ปละ…เปล่านะครับ พอดีเพื่อนผมเขาชอบเล่นอะไรแผลงๆ” ดรหัวเราะเสียงแห้ง ก่อนจะเดินหน้าถมึงทึงไปที่ประตู ทีแรกจะตะโกนเรียก แต่พอรู้สึกได้ว่ายังโดนจ้องไม่เลิก เขาเลยพยายามเปลี่ยนอิริยาบถสุดชีวิต แต่อยู่ๆจะต้องมายิ้มให้คนที่รังเกียจมานานมันเป็นเรื่องหนักหนาเอาการอยู่ แต่ถ้าไม่ทำ หรือทำไม่เนียน มีหวังโดนเข้าใจผิดแบบไม่กล้ามาเดินแถวนี้ไปอีกนานเป็นแน่ “เฮ้เดียร์ อย่าเล่นแบบนี้น่า ฉันอายน้า”

คนอายเขาไม่ตะโกนพูดแบบนั้นหรอกครับพี่ดร จะแสร้งทำก็อย่าให้มันเวอร์นักสิ

เดียร์ไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายมายืนร้องเย้วๆจนเสียแผนอยู่แบบนี้แน่ เพราะงั้น เขาจึงเปิดเว็บในโทรศัพท์เพื่อหาเบอร์สน.ที่ใกล้ที่นี่ที่สุด แล้วโทรออก

 

ชาเลิกคิ้วมองมือถือที่สั่นกึกๆ ทีแรกนึกว่าเป็นข้อความจากน้องมีมี่ แต่กลับเป็นของลูกน้องที่เขาใช้ให้ไปเอาตัวเดียร์กลับมา และทันทีที่อ่านข้อความจบเขาก็รีบลบทันควัน เพราะกลัววินจะมาเห็นผลลัพธ์ที่แย่เกินรับไหวนี่

“อะไร เดียร์หรือเปล่า”

ชายหนุ่มหน้านิ่งกระตุกเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเจ้านายที่ออกอาการร้อนรนปนกังวล เขาเก็บมือถือกลับก่อนจะยิ้มเล็กน้อย “เปล่าครับ แค่เมล์ขยะน่ะครับ”

วินถึงกลับเหี่ยวลงทันตาจนชาผงะ เขารีบเข้าไปหมายจะช่วย แต่กลับโดนปฏิเสธเสีย

“ฉันแค่เหนื่อย ไม่ได้เป็นอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนิ่ม…แต่คนฟังกลับทำเหมือนวินเพิ่งด่าพ่อล่อแม่ก็ไม่ปาน “งั้นฉันไปจัดการงานที่เหลือก่อน นายช่วยเตรียมเอกสารที่จะใช้ประชุมตอนเย็นนี้ด้วยก็แล้วกัน”

ประธานบริษัทเดินสะโหลสะเหลกลับเข้าห้องทำงานของตน เหล่าพนักงานคนอื่นต่างพากันมองด้วยความแปลกใจปนเป็นห่วง เพราะภาพลักษณ์ของหัวหน้าตนที่มักเห็นเป็นประจำ คือการทำตาขวางอยู่เป็นนิจ และคอยโวยวายใส่ชาไปเสียทุกเรื่องจนชวนให้สงสารเลขาฯหนุ่มอยู่ร่ำไป

ชาเพียงแต่ถอนใจ เพราะนึกไม่ออกว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไรดี อย่างน้อยเขาก็อยากได้ตัวเดียร์กลับมาก่อนคืนนี้ แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว

 

สิทธิ์เดินเซเลี้ยวไปเลี้ยวมาเหมือนคนเมาทั้งที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปสักหยด การนั่งเครื่องบินเทียวไปเทียวมา เพื่อไปจัดการงานด่วนมากจนชวนหัวยุ่งแถมยังไม่ได้นอนซักงีบ ทำเอาเขาแทบจะหมดแรงเดิน กว่าจะกลับมาถึงบ้านพักโดยสวัสดิภาพก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่า

“บ้าเอ๊ย”

หนุ่มร่างยักษ์มองเวลาก่อนจะย่องเข้าไปในบ้านราวกับสามีที่แอบหนีเที่ยวมา แต่ยังดอดไปไม่ถึงห้อง อีกฝ่ายก็เปิดประตูออกราวกับรู้อยู่แล้ว

ใบหน้าเนียนเรียบนิ่งจนดูอารมณ์ไม่ออก แต่ดวงตากลมที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความดูถูกและผิดหวังอย่างโต้งๆ…ซึ่งปกติแล้วเขาก็คงจะรู้สึกผิดอยู่หรอก แต่ไม่ใช่ตอนที่กำลังง่วงและหงุดหงิดตอนนี้

“ฉันขอโทษนะ พอดีมีงานด่วนจริงๆ ฉันเองก็ไม่อยากจะให้เป็นแบบนี้หรอก” เสียงทุ้มดังห้วนออกมา พร้อมกับเบี่ยงร่างไป แต่อีกฝ่ายกลับมายืนขวางเสียนี่ “มีอะไรหรือไง”

“ผมจะกลับบ้าน”

“หา” จากที่เปลือกตาทำท่าจะปิดแหล่มิปิดแหล่ก็เบิกโพลงทันควัน ใบหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธ “กลับบ้าน ตอนนี้เนี่ยนะ จะรีบกลับไปทำไมละ”

“เพราะผมทนที่จะอยู่กับคนเลวที่คิดจะใช้ผมเพื่อทำร้ายพี่ผมไม่ได้น่ะสิ”

คราวนี้ละ ตื่นอย่างแท้จริง

สิทธิ์ได้แต่กะพริบตามองปริบๆ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายไปเอาข้อมูลจากไหนมาพูดกัน แต่สงสัยอยู่ไม่นาน พอเห็นสมุดในมือก็กระจ่าง นั่นเป็นสมุดที่เขาบันทึกแผนการทั้งหมดเอาไว้ เริ่มกันตั้งแต่คำนำยันบรรณานุกรมเลยทีเดียวชายหนุ่มได้แต่มองแล้วโทษตัวเองที่สะเพร่าทิ้งของสำคัญเอาไว้จนอีกฝ่ายหาเจอ…แม้จะรู้สึกตงิดๆนิดหน่อย เพราะไอ้สมุดนั่นน่ะ เขาซ่อนเอาไว้อยู่ในช่องซิบของกระเป๋าเสื้อผ้าของตน อีกทั้งยังยัดกางเกงในเอาไว้ป้องกันอีกต่อหนึ่ง ซึ่งหากไม่สังเกตหรือตั้งใจค้นหา คงจะไม่เจอหรอกแต่ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาถามถึงเรื่องนั้นเลยสักนิด เพราะมันมีเรื่องอื่นที่ชวนเครียดกว่า

“คุณหลอกผม” เสียงหวานสั่นระริกดวงตากลมรื้นไปด้วยน้ำตา“ผมน่าจะเชื่อพี่ตั้งแต่แรก ทั้งที่ผมอุตส่าห์คิดว่าคุณเป็นคนดีแท้ๆ สุดท้าย คุณแค่เข้าหาผมเพราะต้องการจะใช้ผมเป็นเครื่องมือทำร้ายพี่”

สติที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วขาดผึงทันทีที่โดนกล่าวหาในสิ่งที่ไม่ได้ทำ

“ทำร้าย?พูดผิดแล้วมั้ง”

มือหนาผลักร่างบางกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างไม่มีการเห็นใจพอเห็นอีกฝ่ายอ้าปาก มือหนาก็เข้าไปปิดเสีย ก่อนจะยกร่างเบาหวิวหอบหิ้วไปยังห้องนอนตน แล้วโยนลงเตียงอย่างไม่มีการถนอมแต่อย่างใดชายหนุ่มตามขึ้นไปคร่อมเดียร์ แล้วกดร่างอีกฝ่ายเต็มแรงจนเด็กหนุ่มหน้าเบี้ยว

“คนที่เลวน่ะ มันพี่เธอต่างหาก” เสียงทุ้มกดต่ำดังลอดไรฟันนั้นเต็มไปด้วยความคั่งแค้น “อย่างเธอ คงเห็นแค่ว่าหมอนั่นเป็นพี่ชายแสนดีงั้นสิ ฉันจะบอกอะไรให้นะ หมอนั่นน่ะ มันชั่วยิ่งกว่าฉันอีก”

“พูดบ้าอะไรของคุณอย่ามาพูดให้ร้ายพี่นะ…” ดวงตากลมจ้องมองด้วยความสงสัยเด็กหนุ่มพยายามขืนตัวหนี แต่ยิ่งออกแรงเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ใช้แรงที่เยอะกว่าต้านกลับ รังแต่จะทำให้รู้สึกเจ็บปวดเสียเปล่าๆ แต่กระนั้นเดียร์ก็ยังดิ้นต่อไปเรื่อยๆ ส่งผลให้สิทธิ์ได้แต่สมเพชอยู่ในใจ “…ปล่อยผมนะ!ผมจะกลับ”

“แล้วคิดว่าฉันจะยอมหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ หากแต่กลับเต็มไปด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว จนเดียร์สั่นระริก “จะโทษใครไม่ได้หรอกนะ นอกจากพี่ชายของเธอแล้วก็ตัวเธอเองที่ดันโง่หลงเชื่อฉัน”

“ไม่นะ…ไม่!!”

ตุบ

เดียร์เบิกตากว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ อีกฝ่ายไม่ได้จับเขาขึงพืดไว้กับเตียง และทำร้ายร่างกายด้วยแรงแค้นทั้งหมดที่มีจนสาแก่ใจอย่างที่วาดหวังจากนั้นก็ปิดท้ายด้วยการข่มขู่ให้ตนยอมทำตามคำสั่ง หากแต่ร่างสูงกลับฟุบลงทับตนเหมือนกับหมดสติไปดื้อๆ

“คุณสิทธิ์?” เด็กหนุ่มลองเรียกชื่ออย่างไม่แน่ใจนัก แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆกลับมาแม้แต่น้อย ร่างกายอุ่นและยังคงหายใจบอกให้รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ “อะไรวะ หลับเรอะ”

เขาอดสบถไม่ได้ จะมาหลับอะไรตอนเข้าด้ายเข้าเข็มกันละเนี่ย คิดแล้วยิ่งแค้นเป็นยิ่งนัก เพราะตอนที่นายหมียักษ์ดีแตก เขารึ อุตส่าห์กลั้นยิ้มจนตัวสั่นน้ำตาไหลพราก ดีใจที่จะได้เจอความหรรษาอย่างที่รอสักที

แล้วนี่มันอะไร! หลับคาเตียงก่อนซะงั้น ฉันไม่ได้รอให้นายแค่มาค่อนแคะฉันไม่กี่ประโยค บีบแขนฉันแค่ไม่กี่นาที แล้วหลับไปดื้อๆนะว้อย ตื่นขึ้นมาจัดการให้เสร็จๆก่อนซี่ ไหนจะทรมานฉันให้เจียนตายไม่ใช่รึ ไอ้โซ่แส้กุญแจมือที่อยู่ในลิ้นชักน่ะ เอามาใช้ซะสิ ไหนเห็นเขียนไว้ซะดิบดีว่าหลังจากทรมานฉันแล้วจะถ่ายคลิปส่งไปเย้ยพี่วินไม่ใช่เรอะ อย่างน้อยก็ทำให้มันเสร็จซักครึ่งก็ยังดีว้อย ถ้าเป็นคนปกติ ป่านนี้ชิ่งหนีไปนานแล้วนะ!

เดียร์ได้แต่ด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ ดวงตากลมมองไปรอบห้องก่อนจะกลับมาที่ชายหนุ่ม ซึ่งยังคงหลับเป็นตาย สภาพแบบนี้ใช่ว่าเดียร์จะไม่พอใจ แต่ลองอยู่นิ่งๆแบบนี้จนเช้าโดยไม่ทำอะไรเลยดูสิ อีกฝ่ายคงสงสัยแน่ๆ เพราะแค่ผลักร่างคนสักคนให้ออกไป โดยมีเวลาทั้งคืน มันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักหรอก

เด็กหนุ่มใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อหนีจากน้ำหนักแปดสิบกิโลกรัมด้วยความเสียดาย…ซึ่งกว่ายี่สิบนาทีเป็นเพราะมัวแต่เคลิบเคลิ้มกับแรงกดที่ทำให้อึดอัด หลังจากลุกขึ้น ก็ผลักให้อีกฝ่ายไปนอนด้านข้าง แล้วเปิดลิ้นชัก หยิบอุปกรณ์กักขังทรมานที่ครบครันออกมา

ช่วยไม่ได้ละนะ…

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ลุ้นๆ เอาไงต่อ

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
เดียร์จะพลิกมาทรมานสิทธิ์แทนรึเปล่า  :hao6:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:เริ่มสงสารสิทธิ์แล้วอะ o22 o22 o22 o22

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
แหวกแนวดีจริงๆ เรื่องนี้
ชอบตรงที่นายเอกจะโดนทรมาณแค่ไหนก็ไม่ดราม่า

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
ฮาจริงๆ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
แหวกดีจังง  :katai2-1:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
เดียร์จะทำอะไรล่ะนี่ ลุ้นๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
ได้อย่างที่ต้องการ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
555555 นายเอกขำมากอ่ะ เธอว้อนท์มาตั้งแต่ตอนแรกเลยนะ ยังไม่มีใครจัดเเลย ขำที่เธอพยายามยั่วนี่แหละ  :jul3:

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
ขำอ่ะ ทั้งสิทธิ์ ทั้งเดียร์
 มีแต่คนอัดอั้นตันใจ เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
รักSMของหนุ่มดอกไม้ โดย Zore

ตอนที่ 8

อันที่จริง…ก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะ…แต่พอคิดว่าฝั่งเราเองมีคนเดือดร้อนเพราะมันไปไม่รู้ตั้งกี่คน แล้วจะให้อยู่เฉยๆทนดูพวกลูกน้องพากันบาดเจ็บงั้นน่ะหรือ…คงทำไม่ได้หรอก…เพราะงั้น…เราก็แค่อยากจะให้มันรับรู้…ถึงสิ่งที่มันทำซะบ้าง ให้มันสำนึก แล้วเราก็จะหยุด…และพยายามไม่ให้มันเกินเลยกว่าที่เราหวัง…ใช่...ก็แค่ทำให้มันกับน้องผิดใจกันจนมองหน้ากันไม่ติด…เอาให้สาแก่ใจจนมันเจียนตาย แล้วเราก็ค่อยเลิก…ค่อยบอกความจริงกับเดียร์…นั่นคือสิ่งที่ต้องการ…

สายไปแล้วคร้าบ

“อ๊ะ”

สิทธิ์สะดุ้งพรวดเหมือนโดนเข็มแทงหลัง ดวงตาเรียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขารู้สึกเหมือนตนฝันร้ายมาก…แต่จำไม่ได้ว่าฝันอะไรแล้ว รู้แค่ว่ารู้สึกดีที่จำไม่ได้

“อือ”

แต่พอหันไปมองต้นเสียง และเรียบเรียงความทรงจำเบลอๆของเมื่อคืน เขาก็รู้แล้วว่ามีสิ่งที่แย่กว่าฝันร้าย ซึ่งอยู่ข้างๆตนนี่เอง ชายหนุ่มเกือบจะตกเตียง ตอนที่เห็นร่างบางที่โดนพันธนาการไว้ด้วยกุญแจมืออยู่กับเตียง อีกทั้งเสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยรอยฉีกขาด ผิวหนังขาวเนียนมีรอยแดงเป็นทางยาวจากเข็มขัดหนังของตนอยู่ทั่วกายคราบน้ำตาเป็นทางติดอยู่บนพวงแก้มแดงอมชมพูนั่น บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายได้พบกับเหตุการณ์รุนแรงน่าสะเทือนขวัญแค่ไหน

“บ้าเอ๊ย ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ” ชายหนุ่มนึกด่าตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์จนเรื่องราวมันเลยเถิดมาถึงตรงนี้…ตรงที่เขาไม่อยากจะให้มาถึงเลยสักนิด “หืม…”

สิทธิ์รู้สึกตงิดๆกับสิ่งที่เห็น เขาจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองหลุดโมโหออกไป แล้วก็บอกความจริงกับอีกฝ่ายก็จริง…แต่ไม่เห็นจะจำได้ว่าเอากุญแจมือมาขึงเดียร์อยู่กับเตียง…แล้วก็ไม่เห็นจะจำได้ว่าเอาเข็มขัดฟาดใส่ด้วย…

“…สงสัยจะโมโหแล้วก็ง่วงจัดเลยจำไม่ได้”

ใครมันจะกล้าคิดว่าอีกฝ่ายทำตัวเองกันบ้างล่ะ และชายหนุ่มก็มัวแต่ดีใจที่อีกฝ่ายไม่หนีไป เกินกว่าจะสงสัยเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้น เขาลุกขึ้นจากเตียง สำรวจพื้นที่โดยรอบ เนื่องจากเขาจำได้แค่ถึงตรงที่เอาเดียร์ขึ้นเตียง จึงต้องหาหลักฐานว่าเมื่อคืนได้ทำอะไรลงไปบ้าง

ผ้าปูเตียงยับยู่และหลุดลุ่ยออกมาบ่งบอกถึงความรุนแรงขณะอยู่บนเตียง…หมอนและผ้าห่มเทลงมานอนอยู่บนพื้นไม้…เก๊ะที่เก็บอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ยามเดือดร้อนเปิดอ้า…กุญแจมือที่เก็บสำรองไว้สามอันอยู่ที่แขนเดียร์หนึ่งอัน อีกสองอันห้อยอยู่บนเก๊ะ…เสื้อยืดสีเขียวอ่อนของเดียร์ขาดวิ่นคล้ายโดนฉีกโดยเฉพาะตรงกลางที่ผ่าจากคอเสื้อลงมาจนสุดเผยให้เห็นช่วงท้องที่มีรอยแดงเป็นทาง ส่วนช่วงบนยังคลุมอกทั้งสองพอให้คนมองข้องใจว่าอีกฝ่ายไม่มีอย่างที่ควรเป็นตามธรรมชาติอยู่แล้ว หรือแค่จอแบนแบบไม่ตั้งใจกันแน่…แต่โชคดีที่กางเกงยีนส์ยังอยู่ดีทุกประการ…นั่นทำเอาชายหนุ่มโล่งใจไปมาก ที่ยังไม่เผลอไปถึงขั้นนั้น…

ผู้ชาย…จริงเรอะ…

ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อนัก ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอผู้ชายหน้าสวย ลูกน้องของตนหลายคนก็หน้าตาออกไปทางน่ารักเยอะ แต่ไม่มีคนไหนร่างน้อยเอวบางผิวขาวเนียนนิ่มตาโตใสปิ๊งแบบนี้สักคน…

“อึก…”

สิทธิ์รีบชักมืออันแสนซุกซนของตนกลับมา หัวใจเต้นระรัวราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น(ทั้งที่มีเรื่องอื่นให้กลัวกว่านี้เยอะ)เมื่อครู่มือเขาเกือบจะเลิกเสื้อที่จะเปิดแหล่มิเปิดแหล่นั่นแล้ว

แต่…หมอนี่เป็นผู้ชาย กะไอ้แค่เห็นหน้าอกมันจะเป็นอะไรไปเล่า…แล้วเราจะไปอยากดูหน้าอกของผู้ชายด้วยกันทำไมวะเนี่ย!!!

หัวก็คิดแบบนั้น แต่ใจมันไปเสียแล้วนี่สิมือหนาตบเข้าหน้าตัวเองอย่างจังเป็นการเรียกสติ นี่ไม่ใช่เวลามาลักหลับอีกฝ่ายสักหน่อยเขาเดินไปที่ประตูก่อนจะชะงัก แล้วกลับมาที่เก๊ะ ล้วงเอาเทปกาวขึ้นมาปิดปากเดียร์ เผื่อเด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาในระหว่างที่เขาลงไปด้านล่าง

ซึ่งความจริงแล้ว เขาก็ตื่นตั้งกะไก่โห่แล้วละ นี่ขนาดเขาหลับทีหลังตั้งเยอะนะ ยังตื่นก่อนตั้งเกือบชั่วโมง

“…” เดียร์หรี่ตามองจนแน่ใจว่าสิทธิ์ออกจากห้องไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนล้า เมื่อครู่เขาทนกลั้นใจอยู่นาน ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายทำท่าจะลวนลามตน แต่เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ถึงความผิดปกติที่ไม่น่าจะเกิดนี่

ดีนะที่ไม่รู้ตัว

เขานึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ พลางคิดว่าจะทำสีหน้าท่าทางอย่างไรดีเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาในห้องดูจากความเป็นคนดีของพ่อหมีแล้ว ขืนทำหน้าหวาดกลัวเต็มไปด้วยน้ำตาละก็ พ่อคุณคงใจอ่อนแล้วเลิกแผนการในทันทีทันใดแน่

สิทธิ์วิ่งหน้าตั้งลงมาด้วยความเร็วสูง จนนางซึ่งกำลังวางสำรับอาหารถึงกับสะดุ้งจนเกือบทำขนมปังปิ้งตกพื้น

“วันนี้ป้าจะกลับแล้วนี่นา งั้นรีบไปเตรียมตัวเถอะครับ เดี๋ยวป้ากลับไปก่อนได้เลยนะครับ ผมจองตั๋วให้เรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกครับ เดี๋ยวพอจัดการอะไรเสร็จพวกผมก็จะกลับเหมือนกัน”

แต่คนฟังกลับแสดงสีหน้าบ่งบอกให้รู้ว่าไม่เชื่ออย่างแรง

“คราวก่อนตอนที่มาเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ คุณสิทธิ์ก็พูดแบบนี้เหมือนกันนะคะ แล้วสุดท้ายป้าก็ต้องกลับมาทำความสะอาดซะยกใหญ่ รอบนี้ป้าคงกลับก่อนไม่ได้หรอกค่ะ รู้หรือเปล่าคะว่าพวกราพวกคราบสกปรกน่ะ พอทิ้งไว้นานๆมันเอาไม่ออกนะคะ”

ผมยอมให้ราขึ้นเต็มบ้านดีกว่าให้ป้ามาเห็นสภาพเดียร์นะ…แต่ลองมาถึงขั้นนี้แล้ว จะปิดไปก็เหนื่อยเปล่า

“ที่จริง เดียร์ไม่ใช่เพื่อนผม…หรือแฟนผมหรอก” พอเห็นเจ้านายหนุ่มตีหน้าเครียด หญิงวัยกลางคนก็เริ่มหวาดหวั่นยิ่งสิทธิ์ยืนนิ่งทำท่าอึกอักอยู่เสียนานสองนานยิ่งทำให้หญิงวัยกลางคนลุ้นจนอยากเป็นลม“เขาเป็นน้องชายไอ้วิน”

“อะไรนะ น้องชาย?ผู้ชาย?” นางตกใจส่วนนั้นมากกว่าที่อีกฝ่ายเป็นน้องของคนที่สิทธิ์ชังน้ำหน้า “หนูเดียร์เป็นผู้ชายเหรอ หลอกป้าเล่นหรือเปล่าน่ารักกว่าลูกป้าอีกนะ”

ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้นอยู่หรอก…แต่ไปคุ้ยประวัติมา มันก็เขียนไว้ทนโท่ว่าชายทั้งแท่งน่ะสิครับ

“ลูกคนไหนละครับ…เอ๊ย เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ” ชายหนุ่มกลับเข้าประเด็นอย่างเหนื่อยใจ “ที่สำคัญคือ ผมตั้งใจจะหลอกน้องมันมาแก้แค้น ถึงได้พามาที่นี่”

สีหน้าของหญิงท้วมดูแย่ลงเมื่อได้รู้ความจริง และดูจะผิดหวังเอามากๆด้วย “ป้าก็คิดว่าคุณสิทธิ์จริงจัง ถึงได้พามา…”

เจ็บครับ…เจ็บโคตรเลยอะ เพราะงี้แหละ ผมถึงไม่อยากบอกป้าไง

“ป้าว่าเลิกเถอะนะ หยุดตอนนี้ก็ยังทัน แก้แค้นไปมามันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก” นางอ้อนวอน

“ไม่ได้หรอกครับ” สิทธิ์ยื่นคำขาด “ถึงผมจะเฉย แต่หมอนั่นไม่ได้เฉยด้วยสักหน่อย ถ้าไม่ถึงที่สุดผมไม่ทำแบบนี้หรอก ป้าก็รู้นี่ ว่า ทั้งเน ทั้งอารุต แถมยังคนอื่นๆตั้งหลายคน โดนไอ้วินมันลอบกัดจนต้องเข้าโรงพยาบาล ผมทนดูลูกน้องตัวเองโดนทำร้ายอยู่เฉยๆไม่ได้หรอกนะครับ”

เนื่องจากไม่ได้รู้เรื่องตื้นลึกหนาบางมากนอกจากเรื่องที่สิทธิ์ไม่ถูกชะตากับวิน เธอจึงยอมแพ้ เพราะไม่รู้จะกล่อมอย่างไรดี และเธอก็มั่นใจว่า คนที่รู้ดีกว่าเธอคงกล่อมจนปากเปียกปากแฉะไปแล้วแน่ๆ

“ถ้าคุณสิทธิ์พูดแบบนั้น ป้าก็จะไม่ห้าม” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยการตำหนิ จนสิทธิ์รู้สึกเหมือนกำลังโดนเทศนาและด่าทอยังไงชอบกล “แต่ป้าก็จะไม่กลับหรอกนะ คุณสิทธิ์ทำตามใจชอบเถอะ ป้าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ทำหน้าที่ของตัวเองพอ”

ไม่ได้ว่าเล้ย แต่ทำไมเจ็บชะมัด…

พอคุณแม่จำเป็นหายเข้าไปในครัว สิทธิ์ก็หลับหูหลับตาฟาดขนมปังปิ้งทาเนยที่แสนหอมฉุยจนเรียบทั้งแปดชิ้นพร้อมกับเบคอนทอดเกรียมทั้งที่ปกติเป็นของชอบของเขาแท้ๆ แต่วันนี้กลับรู้สึกว่ารสมันเฝื่อนชอบกล

จะว่าไป…หมอนั่นจะหิวไหมนะ…

คิดเสร็จก็หันไปเห็นอาหารอีกชุดซึ่งมีจำนวนเท่ากับคนทานปกติ แล้วเป็นห่วงอีกฝ่าย ยิ่งนึกถึงสภาพขาดๆวิ่นๆของเดียร์ที่ตัวเองจำไม่ได้ว่าไปทำได้อย่างไรนั่น ความรู้สึกผิดก็พุ่งขึ้นมาเหมือนน้ำพุก็ไม่ปาน

โดนหนักขนาดนั้นแล้วนี่ ขืนไม่ยอมให้กินข้าวอีก มีหวังได้เข้าโรงพยาบาลแหงมๆ

พออิ่มท้องก็ยกจานอาหารแล้วเดินขึ้นไปด้านบน โดยพยายามลบความรู้สึกผิดออกจากใบหน้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเมื่อเรื่องมันเดินมาทางนี้แล้ว ชายหนุ่มก็คิดว่าเขาควรจะไปให้สุดๆ เพราะไม่งั้น ตัวเองนี่ละที่จะใจอ่อนเสียเอง

สิทธิ์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายตื่นอยู่แล้ว เขาทำเป็นหน้าบึ้ง กระแทกจานบนโต๊ะข้างเตียง แล้วดึงเทปที่ปิดปากออกอย่างเบามือเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเจ็บ…อยู่ๆจะให้ใจดำเลยมันทำใจลำบากอยู่นะ…

“คุณมันเลวที่สุด ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง”

ก็เตรียมใจไว้แล้วละว่าต้องโดนด่าเพราะงั้นถึงได้เตรียมคำพูดมาเรียบร้อย

“ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ แต่ในเมื่อเธอรู้ความจริงแล้ว ก็ช่วยไม่ได้” สิทธิเอ่ยอย่างไม่หยี่ระต่ออารมณ์ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย “ที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอ และพี่ชายแสนดีของเธอก็ไม่อยู่คอยคุ้มกะลาหัวเธอแล้วด้วย เพราะฉะนั้นก็ทำตัวให้ดีๆถ้าไม่อยากโดนเหมือนเมื่อคืน”

ถึงฉันจะจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรไปบ้างก็เถอะ

“ทำไมผมต้องฟังคนที่ทำร้ายผมด้วย ปล่อยผมนะ ถ้าพี่วินรู้เรื่องนี้…คุณเดือดร้อนแน่!” ถ้าจะเสนอเรื่องดีๆกันขนาดนี้ แล้วไยผมต้องทำตัวเป็นเด็กดีกันละครับ “คุณมันเลวที่สุด ทำตัวเหมือนหมาลอบกัดอย่างที่พี่วินว่าไว้ไม่มีผิด”

พอเห็นอีกฝ่ายเถียงกลับอย่างไม่กลัวเกรงแถมยังด่าเขาฉอดๆไอ้ความรู้สึกที่ยังหวาดหวั่นต่อเรื่องที่เผลอและพยายามจะทำต่อไปนี้ มันก็หายไปเกลี้ยง

“ฉันเนี่ยนะหมาลอบกัดเธอน่าจะหันกลับไปดูตัวพี่ชายเธอมากกว่า หมอนั่นต่างหากที่มาทำร้ายพวกฉันจนต้องเข้าโรงพยาบาลไปตั้งหลายคน”

อืม เสียงทุ้มที่ตะคอกใส่หน้าก็ได้อารมณ์อยู่หรอก เสียแต่ว่าไม่ได้ด่าตัวเองนี่ละ ถึงได้ไม่รู้สึกอะไรสักนิด…ก็ไม่ได้เกลียดเรานี่นา เลยไม่รู้จะด่าอะไรสินะ…แย่จัง…งั้นเดี๋ยวจะช่วยให้นึกคำด่าออกมาให้เอง

“หึ คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดพล่อยๆจากปากคนเลวๆอย่างคุณหรือ” ดวงตากลมจ้องมองอย่างไม่สะทกสะท้านจนคนมองสะอึก และหงุดหงิดหนักขึ้น “ปากก็เอาแต่ว่าพี่วินแล้วสิ่งที่คุณทำมันต่างจากที่คุณว่าเมื่อกี้ตรงไหน บอกผมทีสิ”

สิทธิ์ชะงัก เขาได้แต่ขบกรามแน่นเพราะเถียงไม่ออกและเดียร์ก็ไม่ปล่อยให้เสียโอกาสแต่อย่างใด

“คนดีๆเขาไม่ใช้วิธีสกปรกอย่างการดึงคนอื่นเข้ามาเดือดร้อนกับเรื่องของตัวเองหรอก ถามหน่อยสิว่าผมไปเกี่ยวอะไรด้วย ผมไม่ได้ไปทำร้ายลูกน้องคุณสักหน่อยแล้วมาลงกับผมเนี่ยนะ ยังมีศีลธรรมหรือความเป็นคนอยู่หรือเปล่า…”

เดียร์หยุดปากไว้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าซีดเป็นกระดาษ นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาคาดเลยสักนิด เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนโฉดโหดทมิฬหินชาติ ที่ฟังความจริงแล้วจะยิ่งโกรธ แล้วอาละวาดเหมือนคนบ้า แต่ดันเป็นคนดีที่โดนด่าแทงใจดำแล้วดันสลด รู้สึกผิดจนอยากเอาหัวไปโหม่งหมอนแทน

“…ไอ้คนไร้น้ำยา ไอ้อ่อน ไอ้ดีแต่ปาก ไอ้ใจเสาะ…ใหญ่แต่ตัวแต่สมองเท่าเม็ดถั่ว” เด็กหนุ่มเริ่มทำการด่าเสียดสีและล้อเลียนแทน ซึ่งก็ได้ผล จากที่กำลังสลดจนทำท่าจะปลดกุญแจมือออก คิ้วก็เริ่มชนกัน และหันมามองตาขวางทันควันเดียร์จึงด่าต่ออย่างไม่ลดละโดยพยายามกลั้นขำสุดชีวิตเพราะไอ้ที่ด่าช่วงหลังนี่ ระดับเท่ากับเด็กประถมด่ากันนี่ “พ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอน หรือสอนแล้วแต่ไม่จำก็ไม่รู้”

“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ” สิทธิ์ตวาดลั่น ใบหน้าแดงจัดเพราะความโกรธ ที่โดนเล่นถึงบุพการี

“แล้วไง ผมไม่หยุด คุณมันงี่เง่า เอาแต่ใจ บ้าอำนาจ เห็นแก่ตัว!”

เพียะ!!!

เสียงตบดังขึ้นอย่างรุนแรง เด็กหนุ่มหันไปตามแรงที่ปะทะเข้าข้างแก้ม ผิวขาวอมชมพูเห่อแดงขึ้นเป็นรอยมือ ความเจ็บแสบค่อยๆแทรกซึมเข้าแทนที่ความชาอย่างรวดเร็วจนทำเอาห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่

มันต้องแบบนี้สิ! แรงตบหนักหน่วงไม่มีการยั้งมือและไร้ซึ่งความปรานีใดๆ นี่มันแรงกว่าที่เคยเจอเป็นไหนๆ…สุดยอด!!...อุ๊บ ไม่ได้สิ อย่าเผลอๆ ต้องนิ่งเข้าไว้ๆ

สิทธิ์ผงะนิดหน่อย เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าออกแรงไปเสียเต็มที่ แต่ความคิดเป็นห่วงก็ระเหิดไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเดียร์ไม่มีอาการเจ็บปวดอย่างที่กลัวชายหนุ่มจึงกลับมาตีหน้าเหี้ยมอีกครั้ง มือหนาบีบคางแน่น หวังจะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตอนนี้เดียร์อยู่ในฐานะอะไร

“ปากดีนักนะ” สิทธิ์กดเสียงต่ำ หวังดูให้น่ากลัว…โดยหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายกำลังซาบซ่านไปกับความรุนแรงที่เขาประเคนให้ชนิดถึงพริกถึงขิง และไม่รู้เลยว่าที่เด็กหนุ่มเม้มปากแน่น เพราะพยายามหุบยิ้มอยู่ “ลองพูดอีกสิ แล้วฉันจะตบให้แรงกว่านี้อีก”

“ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ไอ้ดีแต่ใช้กำลังไอ้ปอดแหก ไอ้นรกส่งมาเกิด ไอ้วันๆคิดแต่เรื่องชั่วๆ ไอ้สมองวัว ปัญญาอ่อน ไอ้@145)-**&^9”

สิทธิ์ชักคิดอย่างจริงจังว่าเมื่อครู่ตนคงเผลอยั้งมือไปแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่เจอเป็นชุดแบบนี้หรอก

“บอกให้หุบปากไงวะ!” ชายหนุ่มตวาด แล้วคว้าเข็มขัดที่อยู่ไม่ห่าง “ได้ พูดดีๆไม่ชอบใช่ไหม หา!”

เสียงลมดังหวีดหวิววูบ แล้วตามด้วยเสียงเข็มขัดหนังฟาดเข้ากับผิวกายอย่างจัง ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวไปกับความเจ็บปวดที่ได้รับ…

…โอ้ว…มันต้องแบบนี้สิ…อา…เจ็บจี๊ดถึงใจเลย…ฝืนหุบยิ้มนี่มันทรมานชะมัดเลยแฮะ…

“เป็นไงล่ะ รู้แล้วใช่ไหมว่าถ้าไม่ฟังที่ฉันพูดจะโดนยังไง” สิทธิ์แค่นเสียงใส่ โดยไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายไม่ได้ร้องสักแอะ ทั้งที่ชายหนุ่มฟาดเต็มแรงไปไม่รู้ตั้งกี่ที

สิทธิ์หวังว่านี่จะทำให้อีกฝ่ายกลัวสักที แต่แน่นอนว่าเขาคิดผิด(อยู่แล้วล่ะ)

“หึ มีปัญญาทำแค่นี้เองน่ะหรือ”ไม่มีแม้แต่เค้าความกลัวอยู่บนใบหน้าหวาน แถมเด็กหนุ่มยังยิ้มยกที่มุมปากทั้งยังจ้องกลับด้วยสายตาเหยียดหยามอีกต่างหาก

ฉุนสิ ใครมันจะทนฟังได้ เมื่อกี้ก็โดนเป็นชุดด้วย

“เธอท้าเองนะ”

“อ๊ะ…จะทำอะไรน่ะ” เสียงหวานสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายปลดกระดุมกางเกง “อย่าทำอะไรบ้าๆนะ”

อย่าช้า เร็วๆ!

“อะไร จะมากลัวอะไรตอนนี้ เห็นเมื่อกี้ยังใจกล้าปากดีอยู่ไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยเยาะ เมื่อเห็นร่างบางสั่นระริก “ไม่ด่าฉันอีกละ ด่าเลย เพราะสิ่งที่ฉันจะทำต่อจากนี้ มันก็คุ้มกับให้เธอด่าละนะ”

“ไม่นะ!” …อา…ตรงนี้เราต้องดิ้นสินะ…ต้องขัดขืนไม่ให้คุณถกกางเกงผมออกง่ายๆสินะ…ไอ้การต้องฝืนกิเลศในใจนี่มันยากเอาเรื่องเลยนะครับ ผมอยากนอนนิ่งให้ถอดเร็วๆอยู่หรอก เสียแต่ถ้าทำงั้นคุณคงจะประหลาดใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาเห็นอารมณ์ดีใจสุดขีดที่มันเผยอยู่บนใบหน้าผมในตอนนี้น่ะสิ “อย่า จะทำบ้าอะไรของคุณ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”

“อะไรกัน ตอนนี้เธอคบกับฉัน ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าคนคบกันเขาจะทำอะไรกัน” ยิ่งอีกฝ่ายดิ้น สิทธิ์ก็ยิ่งมีอารมณ์ และรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยตื่นเต้นและสุขใจที่ได้รังแกคนอ่อนแอกว่าก็คราวนี้ละ “ไหนขอดูหน่อย ว่าน้องที่ไอ้วินรักนักรักหนาจะลีลาดีสักแค่ไหนกัน”

ผมก็รอดูลีลาการใช้ความรุนแรงของคุณอยู่เหมือนกัน อย่าให้ผมต้องผิดหวังเหมือนที่ผ่านๆมานะครับ ไอ้แบบเพลินกับเรื่องบนเตียงจนลืมตบตีน่ะ ผมจะขัดใจสุดๆแล้วเผลอหน้ามืดทำรุนแรงกลับโดยไม่รู้ตัวมาหลายทีแล้วนะ…อย่างน้อยถ้าทำให้มันไปด้วยกันไม่ได้ ก็ทำสลับกันก็ยังดี

ก๊อกๆ

หมดอารมณ์ทันควัน…ทำไมถึงมาได้จังหวะแบบนี้นะ!

“ครับ!” สิทธิ์โดดออกจากเตียง แล้ววกกลับมาหยิบเทปกาวปิดปากเดียร์ ก่อนจะเดินไปแง้มประตู เหมือนลูกชายที่ไม่อยากให้คุณแม่เห็นของไม่สมควรในห้อง “มีอะไรหรือครับป้านาง

หญิงวัยกลางคนเลื่อนสายตาลงมองต่ำและเลิกคิ้ว เป็นการเตือนให้อีกฝ่ายรู้ว่า ชายหนุ่มเปิดซิบอ้าซ่าเอาไว้พอเจ้านายจัดการแต่งตัวเรียบร้อยก็เอ่ยขึ้นเสียงเนือย “เกิดเรื่องแล้วล่ะค่ะ คือว่า…”

“เฮ้ย!!ไอ้เกรียนหัวขวด เอาน้องฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะเฮ้ย!!”

เดียร์กลอกตา ถ้าเป็นไปได้ เขาละอยากลุกขึ้นไปหยิบรองเท้ามาปาใส่หน้าพี่ชายแสนรักที่มาช่วยได้ทันเวลาจนน่าแค้นใจจริงๆ

อีกแค่นิดเดียวแท้ๆ!!โธ่ว้อย ความสุขของฉัน!!

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
มารความสุข เยอะจริงๆ น้อง M   :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ eyerabbit

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-10
5555 โอ้ยทรมาน การต้องนั่งปิดปากกลั้นหัวเราะในหอสมุดมันทรมานจริง

ตอนนี้อ่านแล้วตลกสุดๆ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
เหมือนมีความสุขไปพร้อมๆกับเดียร์เลยอ่ะ   o22   อ่าาาาา มันคือความสุขสินะ หุหุหุหุ   :hao3:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
มาตามอะไรตอนนี้

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
ปัดโธ่!!!! อีกนิดเดียวแท้ๆ  :z10:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:ขัดใจที่สุดอะ :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด