บ้านไม้ที่ดูจากภายนอกว่าใหญ่แล้วพอได้เข้ามาด้านในมันโอ่โถงกว่าที่คิดข้าวของเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประดับตกแต่งเกือบเจ็บสิบเปอร์เซ็นต์ทำจากไม้ แถมยังเป็นงานฝีมืออีกด้วยเขาไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้นักแต่ก็พอจะมองออก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับกลิ่นของน้ำกะทิที่กินกับขนม ความสงสัยเฉลยเมื่อเห็นเจ้าใบไม้หอมๆ ชื่อว่าใบเตยพับเป็นรูปดอกไม้น่ารักปักแทรกอยู่ในแจกกันดอกไม้ตามมุมต่างๆ ของบ้าน ถ้าจะให้เดาคงเป็นฝีมือของอาณกรไม่ก็ผู้หญิงที่พิกเล็ตเรียกว่าเมี่ยงนั่นเอง
เจ้าตัวน้อยจูงมือเขาเดินไปเรื่อยๆ พลางแนะนำถึงส่วนต่างๆ ของบ้านที่เขาเพิ่งผ่านมาเมื่อครู่เป็นส่วนของห้องโถงหรือห้องรักแขกดูท่ามันจะไร้การต้อนรับแขกมานานสังเกตได้จากรอยฝุ่นจางๆ บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้ม พิกเล็ตพาเขาเข้ามาอยู่ในครัว ห้องนี้มีการใช้งานทุกวันเพราะข้าวของอุปกรณ์ทำครัวมีร่องรอยการใช้งานอย่างชัดเจน ทั้งกระทะ ตะหลิว จาน ชาม ช้อน มีด เขียงและอีกสารพัดวางไว้เป็นระเบียบแต่ง่ายต่อการหยิบจับใช้สอย ในห้องครัวไม่ได้มีแค่เขากับพิกเล็ตยังเด็กสาวคนนึงยืนอยู่ในนั้น เด็กผู้หญิงอายุราวสิบเจ็ดถึงสิบแปดปี ผิวเข้ม ตาคม ผมสีดำรวบเป็นหางม้าง่ายๆ ที่ท้ายทอย เจ้าตัวมองมาที่เขาแล้วก้มหน้าหลบ ดูเหมือนว่าหน้าของเธอจะซับสีเลือดเสียด้วย เขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแต่คิดว่าเด็กคนนี้กำลังอายเขาเป็นแน่
“พี่เมี่ยง นี่พี่มะรุมฮะ พี่มะรุมเป็นหมอ รักษาพ่อเสือด้วย” เสียงใสของเด็กชายแนะนำตัวให้ผู้สูงวัยกว่าตนได้รู้จักกันคร่าวๆ
เมี่ยงเงยหน้ามองคุณหมอหน้าใสอีกรอบ เคยได้ยินพิกเล็ตกับคุณออยพูดถึงอยู่บ้าง ไม่คิดว่าตัวจริงจะทั้งหล่อทั้งน่ารักขนาดนี้ ผิวขาวจัดยิ่งกว่าหยวกกล้วย ตากลมสดใสเป็นประกาย เส้นผมสีน้ำตาลเข้มตัดเป็นทรงยากกว่าคนแถวนี้นิดหน่อยแต่ไม่ได้รกรุงรังจนน่าเกลียด ตัวสูงกว่าเธอแค่ไม่กี่เซนติเมตร โดยรวมผู้ชายคนนี้น่ารักน่ามองกว่าเธอเสียอีก เด็กสาวยกมือกระพุ่มไหว้คนที่คิดว่าน่าจะมีอายุมากกว่าตน แต่จะให้เดาอายุจริงๆ คงไม่ง่ายนักเพราะคุณหมอคนนี้หน้าเด็กชะมัด
“ผมขอยืมครัวหน่อยนะครับ สัญญาว่าจะไม่ให้เลอะ” เสียงทุ้มนุ่มฟังเพลินหูบอกกลับมา เมี่ยงพยักหน้าตาปรอยมองปากจิ้มลิ้มขยับตามคำพูดโดยไม่ได้ฟังสิ่งที่เขาพูดสักนิด
“ทำไข่ม้วนกันเถอะฮะ อาออยกลับมาจะได้กินด้วยกัน”
เมี่ยงเลี่ยงหลบออกมาเมื่อคุณหมอหน้าใสลงมือทำมื้อเย็นเพิ่มเติมจากที่คุณออยสั่งไว้ ส่วนนั้นเธอทำเสร็จหมดแล้วตั้งบนเตาไม้คอยเท่าบางอย่างก็เก็บใส่ตู้กับข้าวเอาฝาชีปิดไว้อย่างดี เธอคอยมองร่างเล็กๆ ของคุณหมอมะรุมหยิบนู่นจับนี่ บางครั้งก็ใจเต้นรัวเมื่อชายหนุ่มหันมาถามถึงอุปกรณ์บางชิ้นที่หาไม่เจอ...ผู้ชายอะไรน่ารักจริงๆ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาไข่ม้วนหน้าตาสวยงามก็วางเรียงอยู่ในจานทรงแบน พิกเล็ตดีใจตาวาวเด็กชายดูตื่นเต้นมากเพราะมีส่วนร่วมในอาหารจานนี้ด้วย เมี่ยงไม่เคยเห็นไข่ม้วนมาก่อนยื่นมามองเสียจนปลายจมูกแทบจะติดจาน สูดเอาความหอมแปลกๆ นอกจากหน้าตาจะไม่เหมือนไข่เจียวหรือว่าไข่ดาวแล้วกลิ่นมันยังหอมน่ากินกว่า แถมมีสาหร่ายแผ่นเขียวๆ ม้วนซ้อนอยู่กับแผ่นไข่อีกด้วย เด็กสาวเหลือบตาขึ้นมองคุณหมอหนุ่มราวกับจะขออนุญาตและได้รอยยิ้มอ่อนโยนตอบกลับมา
“ผมแบ่งไว้ให้เมี่ยงกับคนอื่นๆ แล้วไม่รู้ว่าจะพอกินหรือเปล่า แบ่งกันกินนะครับ”
เมี่ยงดีใจจนซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่มิด คุณหมอคนนี้นอกจากจะรูปร่างหน้าตาน่ารักแล้วยังนิสัยดีอีกต่างหาก อยากจะวิ่งออกไปป่าวประกาศอวดให้เจ๊กลอยกับคนอื่นๆ ได้ฟัง แต่ก็กลัวว่าคุณหมอจะตกใจเสียก่อนเลยได้แต่ยิ้มกว้างอวดฟัน
ขาวตัดกับสีผิวให้ไปแทน
“แล้วพ่อของพิกเล็ตอยู่ไหนละครับ พี่ยังไม่เห็นเลย” ไม่ได้คิดถึงแค่ถามหาตามมารยาทเท่านั้น วรทย์กัดปากตัวเอง..ทำไมต้องคิดถึงด้วยล่ะ ต้องบอกว่าไม่ได้อยากรู้แค่ถามไปตามมารยาทถึงจะถูก
“พ่อนอนข้างบนครับ ห้องของหนูก็อยู่ข้างบนห้องของอาออยด้วย พี่มะรุมอยากไปดูไหมครับ”
วรทย์สั่นหัวทันทีใครจะอยากไปเจอหน้าคนที่ด่าเขาป่าวๆ ว่าเป็นตุ๊ดเป็นกระเทย ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าที่จริงแล้วตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชายแต่ไอ้หมอนั่นก็ไม่สิทธิ์มาชี้ชะตาให้เขาเป็นนู่นเป็นนี่ได้ตามใจ คิดถึงตรงนี้ก็เผลอขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ ไม่อยากเจอหน้าเลยแต่ดันเข้ามาอยู่ในบ้านของนายเสือเสียแล้วหวังว่าหมอนั่นคงไม่อยากกินไข่ม้วนขึ้นมาจริงๆ หรอกนะ
ยังไม่ได้ถามอะไรต่อ รถกระบะที่อาณกรขับออกไปก็มาจอดที่เดิม ร่างเล็กลงจากรถแล้วเดินลงเข้ามาในบ้าน
“เย้ อาออยมาแล้ว เดี๋ยวหนูไปตามพ่อก่อนนะ”
“ห๊ะ!”
หมอหนุ่มตัวเล็กร้องเสียงดังไม่รู้ตัว อาณกรที่เพิ่งเข้ามามองหน้าอาคันตุกะด้วยความสงสัย ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัวรีบกลับเกลื่อนสีหน้าด้วยการแกล้งกระแอมแล้วยิ้มแหยๆ ให้เขา พิกเล็ตวิ่งปร๋อขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้านทิ้งให้ผู้ใหญ่สองคนยืนคุยกันที่หน้าห้องครัว
“ทำเสร็จแล้วหรือครับ ผมมาทันพอดีใช่ไหม”
“เอ่อ...ครับเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นรบกวนช่วยหารถไปส่งผมด้วยนะครับ”
“อ้าวทำไมละครับ อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนเดี๋ยวผมไปส่งเอง อุตส่าห์มาทำให้จะหนีกลับไปได้ยังไง”
“แต่ผม เอ่อ กลัวว่ามันจะมืดแล้วจะลำบาก..” วรทย์อยากจะค้านด้วยเหตุผลที่พอจะนึกได้ แต่มันฟังไม่ขึ้นเลยสักข้อ ไม่กล้าบอกกับอาณกรหรอกว่าที่ไม่อยากกินมื้อเย็นด้วยเพราะว่ากลัวจะเจอหน้าเจ้าของบ้าน
“ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ถ้ากลัวว่าจะมืดก็นอนที่นี่ห้องหับมีว่างอยู่”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ”
“จะเกรงใจทำไมกันครับคุณหมอ เรามันคนกันเองนี่นา”
วรทย์หลับตาลงหลุดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้นึกโกรธพิกเล็ตที่ทำหน้าที่ลูกได้อย่างดีเยี่ยมถึงว่าพ่อจะไม่ชอบหน้าเขาสักนิด สันหลังของเขาเสียววาบเหมือนมีใครเอาน้ำแข็งมาลูบให้ เขายืนอยู่ที่เดิมตาเปิดขึ้นเมื่อสองฝีเท้าเข้ามาใกล้ ไออุ่นที่ไม่ได้รู้สึกอุ่นเข้ามาใกล้ยิ่งเพิ่มความเสียวสันหลังให้มากขึ้นไปอีก แล้วมันก็หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ได้เคลื่อนผ่านร่างไปเขาเดาได้ทันทีว่าเจ้าของไออุ่นประหลาดยืนซ้อนอยู่ด้านหลังแถมไม่ได้ห่างจากเขาอีกด้วย
พิกเล็ตเดินอ้อมร่างสูงใหญ่ของพ่อมาหยุดตรงหน้าอาออยยิ้มกว้างพร้อมโอ้อวดถึงกิจกรรมในห้องครัวให้ฟัง เด็กชายได้คำชมชุดใหญ่อาณกรวางมือบนหัวเล็กๆ ของหลานชาย พิกเล็ตเป็นเด็กเข้มแข็งไม่ว่าจะผ่านเรื่องดีหรือร้ายก็จะยิ้มอย่างสดใสได้เสมอ
“ไปกินข้าวกันดีกว่า อาหิวแล้ว...เมี่ยงเอ๊ย! จัดโต๊ะเร็วเผื่อคุณมะรุมกับพี่เสือด้วยนะ”
ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินมันปลิดเอาความหวังของเขาหลุดไปด้วย ที่สุดก็ไม่อาจปฏิเสธอาหารมื้อเย็นที่ไร่เคียงฟ้าได้ เขาจำต้องทนโดนสายตาดูแคลนแกมรังเกียจของเจ้าของบ้านไปพักใหญ่ ตากลมมองสองอาหลานที่จูงมือกันเดินผ่านหน้าไปไม่ได้หันไปมองหรอกว่าไปที่ไหนกันเพราะกลัวว่าถ้าหันไปแล้วจะเจอกับเจ้าของบ้านที่ยังยืนอยู่ด้านหลังเขาไม่ยอมไปไหนเสียที มันนานหลายสิบวินาทีแล้วที่ทั้งคู่ยังยืนอยู่อย่างนั้น วรทย์สูดเอาอากาศเข้าปอดโชคร้ายที่มันติดเอากลิ่นที่ไม่ใช่ใบเตยเข้ามาด้วย กลิ่นเหมือนครีมอาบน้ำปนกับกลิ่นยาเป็นกลิ่นที่ไม่น่าดมสักนิด ไหล่เล็กยกสูงและปล่อยลงก่อนที่เจ้าของจะหมุนร่างกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่เกลียดขี้หน้าเขาจนได้ ตาหยุดที่อกกว้างมัดกล้ามโผล่สาบเสื้อที่แยกจากกันหมอนี่ใส่เสื้อเชิ้ตแต่ติดกระดุมไม่ครบเม็ดมันจะเปิดไว้ทำไมสามเม็ด คิดว่าตัวเองเซ็กซี่นักหรือไง
“ไงคุณหมอมาหาผมถึงบ้านเลยหรือไง คิดถึง?”
เจ้าของบ้านพูดขึ้นน้ำเสียงดูใจดีไม่อย่างน่าขนลุก ฟังดูมันเหมือนกำลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้วรทย์เงยหน้าจากแผงอกหนามองผ่านลำคอแข็งแกร่ง สันคางบึกบันจนไปถึงใบหน้าคมสันตามฉบับหนุ่มใต้ หนวดเคราที่ไม่ได้ผ่านการกำจัดขึ้นเป็นไรเขียวรอบสันกรามและเลยขึ้นไปเหนือริมฝีปาก นายเสือวันนี้ดูดิบเถื่อนและน่ากลัวกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลเสียอีก เขารู้ซึ้งถึงคำว่าเข้าถ้ำเสือก็ตอนนี้นี่เอง
“ทำไมฉันต้องคิดถึงนาย” คนตัวเตี้ยกว่าครึ่งศอกกลั้นใจตอบกลับไป พยายามไม่จ้องตาดุๆ นั่น ที่โรงพยาบาลเขาทำหน้าที่ของหมอ แต่ที่นี่เขาเป็นแค่แขกที่หลงเข้ามาเท่านั้น
“จะไปรู้รึ นึกว่าอยากเจอหน้า พวกตุ๊ดพวกเกย์มันชอบผู้ชายตัวใหญ่อย่างผมไม่ใช่หรือไง”
“อะ ไอ้”
พศินมองตากลมของไอ้หมอตัวเล็กที่คล้ายกับว่ามีกองไฟเล็กๆ อยู่ในนั้น หน้ามันเปลี่ยนสีจากขาวจนซีดเป็นแดงเข้มขึ้น มันถลึงตาใส่เขาสะใจชะมัดที่ทำให้มันโกรธได้ ร่างสูงทิ้งน้ำหนักไว้ที่ขาข้างนึงเอียงคอมองหน้าขาวๆ ที่ถมึงทึงขึ้นตามอารมณ์ ไอ้ที่ปวดตุบๆ ที่หัวเพราะนอนมากไป หายไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเพียงแค่เห็นแผ่นหลังของไอ้หมอตุ๊ดคนนี้ ขอบคุณพิกเล็ตที่ส่งมันมาให้ถึงที่ ที่จริงเขาก็นับวันรออยู่ว่าวันไหนมันจะมาตรวจอาการเขาเตรียมจะอาละวาดใส่มันอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะมาเร็วอย่างนี้ คืนนี้เขามีอะไรเล่นแก้อาการลงแดงแล้ว
“ไปกินข้าวกันเถอะครับคุณหมอ ผมอยากจะกิน ไข่ ของคุณหมอจะแย่แล้ว”
***
รีบมาปั่นเพราะทิ้งไว้นานเหลือเกินขอโทษด้วยนะคะ ที่นานมากกว่าจะมาอัพให้อ่านกัน อย่าโกรธกันนะคะ คาดว่าตอนนี้อาจจะมีบทถึงใจ แต่จะแบบไหนรอกันหน่อยนะคะ >3<