เขายังไม่ได้โทรหาหมอคีย์ ขณะเดียวกันหมอคีย์ก็ไม่ได้โทรหาเขาเช่นกันคงเพราะคิดว่ามันไม่ปลอดภัยหากจะโทรศัพท์ติดต่อกันในยามที่ฝนตกฟ้าร้องเช่นนี้ คุณหมอหนุ่มถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มกังวล ถึงตอนนี้เขาจะอยู่ในห้องพักส่วนตัวแต่ก็ยังหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี สายตาของพศินไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลยซ้ำยังพฤติกรรมที่ทำเอาขนลุกขนพองตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกันบนโต๊ะอาหาร มือเรียวยกขึ้นลูบแขนตัวเองคลายความหนาวที่มาจากภายในรู้สึกว่าเลือดในกายจะเย็นลงไปหลายองศา วรทย์ดึงผ้าม่านสีเข้มปิดให้สนิทยิ่งกว่าเดิมเขาไม่ชอบเส้นสายฟ้าที่แลบแปลบไปทั่วผืนฝ้าที่มืดครึ้มด้วยเมฆฝนนัก แต่ไม่ว่าจะปิดมิดยังไงมันก็ยังสร้างลำแสงวูบวาบในห้องได้อยู่ดี
ปัง! ปัง!
ร่างเล็กสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เมื่อประตูหน้าห้องถูกเคาะอย่างไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไรนัก พอตั้งสติได้ก็รีบไปเปิดประตูออก แต่แล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม ตาของเขาปะทะกับเงาดำใหญ่โตมันสามารถทาบทับร่างกายของเขาจนดำมืดไปด้วยกัน วรทย์ค่อยๆ ไล่สายตาไปยังเงานั่น แต่กลิ่นกายที่แทรกมากับกลิ่นฝนมันช่วยทำให้รู้ว่าเจ้าของเงาสีดำนั่นคือใคร
“คุณหมอ ผมอยากเหล้า”
เปลือกตาบางกระพริบรัวถี่ ร่างกายของเขาใหญ่โตเสียจนบดบังแสงไฟจากในห้องและทางเดินได้เกือบหมด เขาเห็นหน้านายเสือชัดเจนตอนที่ฟ้าผ่าลงมาอีกครั้งเขาเกือบหลุดอุทาน แต่ดันเงยหน้าไปเจอกับดวงตาคมใหญ่เข้าเสียก่อน
“ผมอยากเหล้า จะบ้าตายอยู่แล้ว!”
พศินตะคอกเสียงดัง ตาดุดันจ้องเขาอย่างเอาเรื่องราวกับกว่าอาการที่ตัวเองเป็นมันเป็นความผิดของเขา คนตัวเล็กกว่าครึ่งก้าวถอยหลังหนี หัวสมองคิดหาวิธีแก้อาการลงแดง
ร่างสูงใหญ่เดินตามเขาเข้ามาในห้องเมื่อเข้ามาอยู่กลางห้องเขาถึงได้เห็นว่าใบหน้าของนายเสือมีเหงื่อผุดเต็มไปหมด ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าอาการทั้งหมดมันเกิดจากการการหยุดกินเหล้า มันทำให้ลงแดง เมื่อตอนมื้อเย็นหมอนี่แทบจะไม่ได้แตะอะไรด้วยซ้ำนอกจากไข่ม้วนที่พิกเล็ตตักให้แต่ก็ไม่กี่ชิ้น เขาไม่แน่ใจว่านายเสือได้กินยาตามที่ให้มาบ้างหรือเปล่า
เขามองร่างเล็กของคุณหมอหนุ่ม มันหันรีหันขวางเหมือนทำอะไรถูกทั้งที่เป็นหมอแท้ๆ ต้องรู้วิธีการรักษาอาการคนลงแดงแต่ตอนนี้มันทำหน้าเหมือนคนเป็นคนป่วยเสียเอง
“คุณหมอจะไม่ช่วยผมหน่อยหรือครับ” คนคล้ายจะป่วยแสร้งทำเสียงอ่อน ตาหรี่ลงทำเป็นอยากเหล้าเสียเต็มประดา ที่จริงไอ้อาการลงแดงมันทุเลาลงไปตั้งแต่สามสี่วันก่อนแล้ว เขากินยาตามที่ไอ้หมอคนนี้นี่แหล่ะให้มา แต่ยาก็แรงเสียจนแทบจะทนไม่ไหวทั้งปวดหัว ร้อนหน้าร้อนตา คลื่นไส้อยากจะอ้วก แน่นท้องอีกด้วย เป็นอยู่นานเกือบสองชั่วโมง แต่พอผ่านมาได้ทุกอย่างก็ดีขึ้น ยาเม็ดนึงอยู่ได้เป็นอาทิตย์ถ้าอาการของเขาดีขึ้นหมอก็จะจ่ายยาอีกตัวให้ เรื่องนี้เขารู้ดีเพราะอาหมอบอกหลายต่อหลายรอบเพียงแต่ไม่อยากทำเท่านั้น
“แล้ว เอ่อ จะให้ผมช่วยอะไร” พศินเกือบหลุดขำกับคำถามโง่ๆ ของมัน
“ผมอยากกินเหล้า ผมอยากเมา คุณหมอช่วยผมหน่อยซิ”
จะว่าไปเขาก็นึกรังเกียจถ้อยคำสุภาพของตัวเองเหมือนกันถ้าไม่ใช่เพราะอยากเอาคืนมันละก็เขาไม่ยอมพูดจาน่าขนลุกอย่างนี้หรอก
“ถะ ถ้าอยากเมา ผมช่วยคุณไม่ไห้หรอก แต่ถ้าอยากเมา อ๊ะ!”
ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคดีแขนเขาโดนดึงจนทั้งตัวเซไปเกือบจะประชิดอกกว้างของอีกฝ่าย ลมหายใจร้อนผิดปกติเป่ารดใบหน้า นายเสือวันนี้ไม่น่าไว้วางใจที่สุดดูน่ากลัวกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลเสียอีก ตาเจ้าเล่ห์แฝงนัยบางอย่างไว้
“ถ้าผมอยากเมาคุณหมอจะช่วยผมใช่ไหมครับ”
คำพูดหวานหูแต่ไม่ได้น่าฟังสักนิด ยิ่งออกมาจากคนที่ด่าเขาเป็นโน่นเป็นนี่เมื่อวันก่อน แต่ถ้าเลือกได้เขาอยู่กับนายเสือคนนั้นจะดีกว่า วรทย์ขืนตัวไว้เต็มกำลังท่าทางอ่อนลงไม่น่าเชื่อถือ เขาสะท้านตั้งแต่โดนจับหน้าขาแล้ว หมอนี่จงใจปั่นหัวแกล้งกันชัดๆ พลันความคิดก็ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อน วันที่เขาโดนด่าเสียจนหูชา วันที่หมอนี่อาละวาดใส่ ตาจ้องเขาด้วยความเคียดแค้น...ไอ้ที่ทำอย่างนี้เพราะคิดว่าเขาเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เลยอยากจะเอาคืนด้วยวิธีนี้ซินะ
“ปล่อยผมด้วย ผมเป็นหมอรักษาให้หายเมาไม่ได้ทำให้เมา”
เปรี้ยง!
คนเป็นหมอตกใจจนเผลอวางขยับมือจากผลักไสเป็นโอบรอบต้นแขนแกร่งไว้แทน ฟ้าฟาดลงมาอีกครั้งคราวนี้ทั้งร่างเบียดชิดลำตัวแข็งแกร่งของคนเจ้าเล่ห์ทันที
พศินก้มลงมองศีรษะเล็กๆ ที่ซุกอยู่แนบอกเขารู้อยู่แล้วว่ามันตัวนุ่มเหมือนผู้หญิง ทั้งจากที่โรงพยาบาลและเมื่อตอนมื้อเย็นที่แกล้งจับขามันเล่น แผนบ้าๆ นี่เพิ่งคิดได้ตอนที่เห็นมันในบ้านเขานี่แหล่ะ แกล้งมันด้วยวิธีนี้เพราะคิดว่าพวกผิดเพศมันชอบผู้ชายอย่างเขา ถ้าทำให้มันอายได้คงสาแก่ใจไม่น้อย เขาเกือบจะยิ้มเยาะในความขี้กลัวผิดผู้ชายของมันแล้วแต่จมูกดันได้กลิ่นหอมเหมือนดอกไม้เสียก่อน ทำจมูกฟุดฟิดถึงได้รู้ที่มามันมาจากผมสีน้ำตาลของไอ้หมอมะรุมนี่เอง น่าจะเป็นกลิ่นของแชมพูแต่คนละกลิ่นกับที่เขาใช้ ไม่เพียงเท่านั้นจมูกที่ดียิ่งกว่าหมายังได้กลิ่นหอมอ่อนๆ อีกด้วยแต่บอกไม่ถูกว่ามันเป็นกลิ่นอะไร และมันก็จะมาจากไอ้ตัวเล็กนี่อีกเช่นกัน
ตึก ตึก
ใจเขาเต้นแรงผิดจังหวะ กลิ่นกายของผู้ชายที่เขารู้จักมันไม่ใช่แบบนี้ กลิ่นตัวผู้ชายที่เขาคุ้นเคยมีแต่กลิ่นเหงื่อ บุหรี่ เหล้า มันไม่ได้หอมเหมือนผู้หญิงเสียทีเดียว เพราะไม่ได้หอมจัดจนถึงขั้นฉุน ทว่าไอ้ที่โชยเข้าจมูกเขาตอนนี้มันไม่อาจบอกได้ว่ามันกลิ่นประเภทไหนกันแน่ หรือว่ามันจะเป็นกลิ่นของพวกผิดเพศ ฟ้าผ่าลงมาอีกครั้งร่างเล็กๆ ในอกเขาสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก ซุกหน้าอยู่แนบอก ตัวมันเล็กจริงๆ หัวอยู่คางเขาพอดี หรือคิดอีกทีอาจจะเป็นเพราะเขาตัวใหญ่เกินไป ส่วนสูงเกินร้อยแปดสิบห้าไอ้พวกในไร่มันแซวบ่อยๆ ว่าถ้าเขาไปเป็นนายแบบรับรองดังระเบิดแน่
“คุณหมอครับ คุณหมอกอดผมนานไปแล้วนะครับ”
เจ้าของแขนเล็กๆ ที่โอบตัวเขาอยู่นั้นผละออกแทบจะทันที แต่เขากลับไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ มือสอดเข้าคล้องกับเอวเล็กบาง ไอ้คุณหมอนี่มันหนักเท่าไรกันเอวถึงได้เล็กแบบนี้
วรทย์เงยหน้ามองคนไข้หนุ่ม ตาของนายเสือหวานฉ่ำอย่างน่าตกใจ แต่ที่น่าตกใจมากกว่าคือการที่เขาเผลอกอดหมอนี่เข้า ชายหนุ่มก่นด่าตัวเองที่มัวแต่ตกใจเสียงฟ้าร้องจนลืมไปว่าเจตนาของคนตรงหน้ามันไม่บริสุทธิ์สักนิด
“ขอโทษ ผมไม่ค่อยชอบเสียงฟ้าร้องเท่าไรนัก”
“เหมือนพิกเล็ตเลย ลูกผมกลัวฟ้าร้องตั้งแต่แม่มันหนีไป” แววตาของคนพูดเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้น แต่เพียงแค่กระพริบตาเท่านั้นมันก็หายไป กลัวมาอ่อนเชื่อมเหมือนเดิม “ลูกชายผมน่าสงสารคุณหมอว่าไหมครับ”
หนุ่มตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรแค่พยักหน้าเท่านั้น พิกเล็ตน่าสงสารจริงๆ แม่หนีไปพ่อดันติดเหล้างอมแงม ดีขึ้นมาหน่อยที่คราวนี้นายเสือยอมรับการรักษาแม้ว่าทีท่าจะมีเจตนาอื่นแอบแฝงก็ตาม
“พ่อมันก็น่าสงสาร ขาดคน...”
“พอเลยนายเสือ” มือเล็กผลักอกกว้างออกห่าง แต่มือสากนั่นยังไม่คลายจากเอว สาบานว่าจะไม่ยอมตกใจแล้วกอดใครเพราะเสียงฟ้าผ่าอีกแล้ว “ผมรู้นะว่าคุณต้องการจะแก้แค้นผม ถึงผมจะไม่ได้ชอบผู้หญิงแต่ไม่ได้หมายความว่าผมต้องชอบให้ผู้ชายมาโดนตัว”
คิ้วหนาของนายเสือยกสูง ไอ้คุณหมอนี่ก็ฉลาดเหมือนกันมันดูออกว่าเขาแกล้งทำดีกับมันเพื่อที่จะแก้แค้น หนุ่มใต้ยิ้มเยาะ เมื่อรู้ก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำเป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไป ตาฉ่ำปรือเปลี่ยนเป็นดุดันทันที
“อ้าว! กูจะไปรู้หรือ กูเห็นเพื่อนของเมียเก่ากูที่มันเป็นตุ๊ดน่ะชอบอ่อยผู้ชาย ชม้ายชายตาให้กู ให้ไอ้ดิน ไอ้ปืนกันทุกตัว กูก็นึกว่ามึงจะเป็นเหมือนพวกมัน หรือว่าปกปิดเอาไว้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง เสียเวลาเปล่าตุ๊ดยังไงก็ตุ๊ด ไม่มีทางสู้ผู้หญิงได้หรอก”
เพียะ!
ใบหน้าซีกซ้ายของคนปากดีชาวาบ แรงชกไม่ได้มากจนถึงหน้าหันแต่ก็ทำเอาเห็นดาวไปหลายดวง พศินให้ลิ้นดุ้กระพุ้งแก้มตัวเองเบาๆ มันมีรอยช้ำแต่ยังไม่ได้เลือด มันจ้องเขาตาเขม็งหน้าซีดๆ ของมันเปลี่ยนเป็นสีแดง มือที่ชกเขาเมื่อครู่ยังกำแน่น ท่าทางของมันไม่ได้กลัวสักนิดว่าจะโดนสวน
“นายไม่มีสิทธิ์มาว่าฉัน ฉันจะเป็นเพศอะไรก็ช่างแต่ฉันมีศักดิ์ศรี เป็นหมอรักษาคน และก็รักษานายด้วย นายควรให้เกียรติคนรักษานาย คนที่จะทำให้นายกลับมาดูแลลูกได้อีกครั้ง”
“ปากดีนักนะมึง” พศินพูดรอดไรฟัน มือยกขึ้นบีบแก้มนิ่มของมัน ตาลุกวาวด้วยโทสะเขามั่นใจว่าที่โกรธจนหน้าร้อนไม่ใช่เพราะอาการลงแดงแต่เป็นเพราะโกรธที่ทั้งโดนต่อยและโดนด่า ไอ้คนตัวเล็กกว่าดิ้นเร่าพยายามดึงมือเขาจากหน้าของมัน พศินแค่นยิ้มแรงเท่ามดจะมาสู้อะไรเขาได้ คืนนี้พ่อจะเอาคืนให้สะใจไปเลยมีทั้งแรงและกำลังที่เหนือกว่า แถมมันยังอยู่ในบ้านเขาไม่มีใครช่วยมันอีกด้วย “เก่งนักมึงก็หนีกูให้พ้นซิไอ้หมอแกงส้ม”
“อ๋มอื่ออะอุม” (ผมชื่อมะรุม)
“อะไร อยากโดนรุม พวกมึงนี่ชอบจริงๆ นะเลย ไอ้สวิงกิ้งเนี่ย อยากได้หรือไง กูเองก็อยากจัดให้นะแต่ขอโทษทีกูไม่นิยมประตูหลัง แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูไปตามพวกลูกน้องกูให้ว่ามีใครเงี่ยนพอจะเอามึงหรือเปล่า”
วรทร์ดิ้นแรงเหมือนปลาโดนทุบหัว เขาโกรธจนน้ำตาไหลถ้อยคำดูหมิ่นยังไม่หลั่งไหลไม่หยุด เขาเกลียดนายเสือสุดหัวใจ และเกลียดตัวเองที่ไม่อาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้ สองมือดึงมือที่บีบแก้มจนเจ็บไปหมดแต่มันไม่ขยับเลย มือที่โอบเอวรัดแน่นมากขึ้นด้วย เสียงฟ้าร้องไม่ได้ทำให้เขากลัวได้อีกแล้วตอนนี้โกรธจนเลือดขึ้นหน้าอยากจะฆ่าคนเสียเหลือเกิน
“ร้องไห้เลยหรือวะ โธ่มึง เป็นผู้ชายใครเขาร้องไห้กัน” พศินเยาะ สาแก่ใจยิ่งนักที่ได้เห็นน้ำตาของมัน คราวนี้มันคงรู้ว่าตอนที่มันหัวเราะเขา เขารู้สึกอย่างไร “ที่จริงกูกะจะลองจูบลองหอมมึงเหมือนกันนะ กะจะทำให้มึงดีใจเล่นแต่มึงมันดันจับได้ก่อนมึงเลยอดโดนกูหอมเลย”
“สัตว์!”
ถ้อยคำบริภาษชัดเจนโดยไม่ต้องแปล พศินเพิ่มแรงบีบมากขึ้นนิ้วมือสัมผัสกับไรฟันผ่านเนื้อแก้มเลยทีเดียว ไม่สนใจว่ามันจะเจ็บแค่ไหน มันบังอาจด่าเขา อย่างนี้ต้องโดนเอาคืนสองเท่า!
“โอ๊ย!”
วรทย์อุทานเสียงดังเมื่อทั้งร่างถูกเหวี่ยงลงบนพื้น ยังไม่ทันตั้งตัวหนีก็ถูกคร่อมเอาไว้เสียก่อน เขารีบชันกายขึ้นโดยใช้ศอกยันไว้กับพื้น มีเพียงแค่ศีรษะเท่านั้นที่ตั้งขึ้นมาได้ คนอยู่ด้านบนยิ้มเหี้ยมเกรียมมือที่เพิ่งปล่อยแก้มเขาเป็นอิสระไม่ได้ถึงนาทียกขึ้นบีบกรามแน่น ความเจ็บและรุนแรงมีไม่ได้น้อยไปกว่ากัน
“ปากดีอย่างนี้ คงใช้ปากเก่งด้วย กูเอามึงไม่ลง แต่ใช้ปากมึงให้กูก็น่าจะไหว”
*** ตัดกันซึ่งๆ หน้า ขอโทษนะคะที่อัพช้า เมื่อไรงานจะหมดสักทีไม่รู้ ตอนนี้กำลังแก้นิยายที่เพิ่งสำนักพิมพ์ไป (รอบที่4) งานเคร่งครัดมากเลยปลีกเวลามาแต่งให้ได้แค่ครึ่งเดียว (แถมยังดูงงๆ วกไปวนมาอีกด้วยช่วงนี้งานรุมเร้าจนงงไปหมด) อย่าโกรธกันนะคะ ตอนหน้าคุณหมอจะได้ใช้ปากจริงๆ หรือเปล่า ช่วยเมนท์ให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ ป.ล.เพิ่งแต่งเสร็จสดๆ ร้อนๆ ไม่เช็คคำผิดด้วย ขอโทษอีกครั้งเด้อค่ะ***