Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐  (อ่าน 566915 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
 :katai2-1: พี่เสือใจกล้าดีนะ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
พี่เสือมาดสุขุมหนักแน่น ทำเราแข้งขาอ่อนอยากจะทรุดซบลงตรงอกพี่สักครั้งจัง


 :กอด1:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
หวานมากกกกกกกกก ฟ้าหลังฝน หมอมะรุม เปียกปอนเลย อิอิ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เก็บความสุขของคนที่เรารักไว้ อิจฉาหมอมะรุมจัง มีครอบครัวอบอุ่นมากกกก

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แนะนำกะที่บ้านแล้วๆๆๆๆ :katai2-1:
หวานป๊ายยยยยย :hao7:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เป็นครอบครัวที่น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ Baruda

  • มีความสุข
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

conankungkub

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ยเดี๋ยวๆๆๆๆๆๆ ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อย

ปืน รักกับใครอะไรยังไง ด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
พี่เสือออออออออออออ >//////<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เกินอาทิดแล้วน้าส์ :hao5: คิดถึงจะแย่แล้ว  :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ตอนที่ ๒๖ อวสาน


    เพราะเผลอตอบตกลงที่ทำหน้าที่ผู้จัดการไร่เคียงฟ้าทำให้เขาต้องตื่นมาแต่เช้าเพื่อนำคนงานเข้าไร่ไปดูปาล์มที่แก่พอตัดได้แทนพี่ชายที่หนีไปเที่ยวกรุงเทพฯ กิจวัตรประจำวันที่ทำมาตลอดหลายปีคือการขับรถเก่าๆ เข้าไร่พร้อมกับคนงานอีกเกือบสิบคนที่นั่งอยู่ในกระบะท้าย ดวงตากลมหวานอมเศร้ามองไปยังเบื้องหน้าเส้นทางคุ้นเคยที่หลับตาก็ขับได้โดยไม่ชนต้นไม้ข้างทาง เสียงนกร้องดังเป็นระยะๆ มันเพราะยิ่งกว่าเพลงจากศิลปินคนไหนเสียอีก ยังคิดอยู่ว่าถ้าหากต้องกลับไปกรุงเทพฯ จริงๆ เขาจะทนฟังเสียงแตรรถแทนเสียงนกร้องได้สักกี่วัน

   “ออยจะทำงานอยู่ที่ไร่เคียงฟ้าไปอีกกี่ปีก็ได้จ้ะ ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่ตอนนี้พวกเรากำลังสนุกกับโปรเจคใหม่ รู้ไหมทำ book online สนุกมาก แม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลาเลยล่ะ”

   น้ำเสียงมารดาของเขาไม่มีวี่แววว่าจะเสียดายหรือเสียใจเลยแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะพี่เสือโทรไปกล่อมท่านก่อนหน้านี้แล้ว คนเป็นลูกอย่างเขาเลยถูกปล่อยลอยแพ

    “พ่อสบายนะครับ ความดันยังสูงอยู่ไหมครับ”

   “โอ๊ย! ไม่ต้องห่วงไปหรอกจ้ะ รายนั้นน่ะอยู่ในการดูแลของหมอตลอดเวลา แต่เออ ลุงหมอน่ะจะปลดเกษียณแล้ว ออยพอจะรู้จักหมอเก่งๆ ไหม แม่อยากได้มาดูแลพ่อแทนลุงหมอ”

   ในตอนนั้นเขาคิดไม่ออกว่าจะหาใครมาแทนลุงหมอที่เป็นนายแพทย์ประจำตัวของบิดาเกือบสิบปี แต่หลังจากวางสายเขาก็กระหวัดคิดถึงใครบางคนขึ้นมา คนที่ไม่น่าลืม คนที่เคยให้เป็น one night stand และที่สำคัญยังเป็นหมออีกด้วย เขาเอาความคิดนี้เก็บไว้รอให้มีโอกาสแล้วค่อยลองเลียบๆ เคียงๆ ถามอีกที

   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายสมาธิอย่างน่าหงุดหงิด มือเรียวควานหามันในกระเป๋ากางเกงแล้วเลื่อนหน้าจอรับโดยไม่ดูว่าเป็นสายของใคร

   “ครับ”

   “คุณอยู่ที่ไหนน่ะ”

คิ้วสวยขมวดน้อยๆ ยกโทรศัพท์ออกจากหูเพิ่งดูเบอร์ที่เพิ่งเมมเก็บไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน 

‘คิมหันต์’

   “คิดว่าที่ไหนล่ะ” เขาไม่ได้ตั้งใจจะยียวนแต่ถ้าคนถามย้อนคิดดูสักนิดว่าในเวลาแบบนี้เขาควรจะอยู่ที่ใด

   “อย่างนั้นรออีกสิบนาทีผมกำลังจะไปถึงแล้ว”

   “เดี๋ยวคุณว่าอะไรนะ! เฮ้ย! อย่าเพิ่งวางหูซิ”

   คนโทรมาวางสายไปแล้วไม่รอให้เขาสักถามอะไร อาณกรย่นจมูกใส่โทรศัพท์ก่อนจะโยนมันลงที่เบาะว่างด้านหน้า เขาไม่อยากให้ไอ้คุณหมอตัวสูงนั่นมาหาแต่ใจกลับเต้นรัวคล้ายจะยินดี ผู้จัดการไร่เคียงฟ้าสะบัดหัวแรงๆ ไม่มีทางเป็นไปได้เขาจะไปดีใจทำไม ก็แค่คนที่เผลอนอนด้วยเท่านั้น

   เขารู้ซึ้งถึงคำว่ารอเก้ออย่างแท้จริง ไอ้คนที่บอกว่าอีกสิบนาทีจะมาถึงแต่จนป่านนี้ใกล้จะเที่ยงเข้าไปทุกทีทว่าเขายังไม่เห็นแม้แต่เงา ริมฝีปากสีสดเม้มเป็นเส้นตรงเพ่งสายตาฝ่าแสงแดดที่เป็นประกายระยิบ พยายามไม่มองไปที่ท้ายไร่แล้วบังคับให้สมาธิจดจ่อกับงานตรงหน้าแทน แต่หางตามันไม่รักดีคอยแต่จะมองหาร่างสูงของใครบางคนอยู่เป็นระยะ

   “คุณออยมองหาใครอยู่หรือเปล่าครับ”

   “เปล่า!”

   เขาหันไปตอบคำถามดินที่ทำหน้าสงสัยพลางส่งสายตาไปที่ท้ายไร่ตามเขา แต่ดูเหมือนลูกน้องตัวเอ้ของพี่เสือจะไม่เชื่อ

   “นัดใครไว้หรือเปล่า”

   “ก็บอกว่าเปล่าไง ว่างงานหรือไง โน่นไปช่วยเขาตัดปาล์มเลย”

   นิ้วเรียวชี้ไปเบื้องหน้า ทว่ามันกลับไปพุ่งตรงที่ร่างสูงที่กำลังเดินงุ่มง่ามอยู่ในร่องต้นปาล์ม ความหงุดหงิดที่ทับถมอยู่เกือบสองชั่วโมงดูเหมือนจะเลือนหายไปชั่วคราว ใบหน้าขาวสะอาดคมสันเข้ามาในระยะสายตามากขึ้นไม่ต้องเสียเวลาพิจารณานานเขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือ ‘คิมหันต์’ แต่พลันความขุ่นมัวก็เข้ามาครอบงำอารมณ์ได้อีกครั้ง ดวงหน้ามนเชิดสูงหันหลังหนีภาพที่เห็น

   “นึกอยู่แล้วเชียว งานนี้ไอ้ปืนกินแห้วแน่ๆ”

   ปากอิ่มทำท่าจะเอ่ยถามคนช่างสังเกตว่าเกี่ยวอะไรกับปืน ทว่าเสียงของคนที่เพิ่งเดินมาถึงก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน

   “ร้อนชะมัด อ้าว! ดิน สวัสดีตอนสายครับ”

   “มันจะเที่ยงแล้วคุณหมอ” ดินตอบกลับไป คุณหมอตัวสูงรูปหล่อหัวเราะเบาๆ พลางวางตะกร้าใบใหญ่ที่หิ้วมาด้วยลงแล้วดึงเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อเช็ดเหงื่อที่เกาะพราวบนหน้าผาก แค่หล่อไม่พอยังสะอาดอีกด้วยยิ่งทิ้งห่างไอ้ปืนเพื่อนรักเขาไปอีกหลายก้าว แถมเจ้าตัวยังไปรับจ๊อบพิเศษที่กรุงเทพฯ อีก ไม่มีโอกาสได้ทำคะแนน มีหวังไม่แคล้วได้กินแห้วกระป๋องจริงๆ    

   “คุณหมอมาทำอะไรหรือครับ”

   “ธุระน่ะ”

   ดินอมยิ้มปรายตามองผู้จัดการไร่ตัวเล็กที่ยืนหันหลังให้ ธุระที่ว่าคงเกี่ยวกับคุณออยแน่นอน หนุ่มบ้านไร่ยักไหล่ถึงจะวางเดิมพันข้างเพื่อนและอยากจะช่วยแค่ไหนแต่เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเองงานนี้ไอ้ดินขอบายดีกว่า

   “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ วันนี้เมียทำต้มยำปลาช่อนมาให้ด้วยพูดแล้วน้ำลายไหล”

   หนุ่มบ้านไร่ตัวใหญ่เดินเลี่ยงห่างออกไปทิ้งให้คุณหมอตัวสูงกับผู้จัดการไร่ตัวเล็กไว้เพียงลำพัง

   คิมหันต์ไม่ได้หันไปมองหรอกว่าดินไปแอบกินข้าวกลางวันที่ไหน ที่เขาสนใจคือผู้ชายที่ยืนติดกับต้นมะขามเทศต่างหาก แผ่นหลังบอบบางตึงเรียบ บั้นท้ายเล็กกำลังดีเหมาะกับมือเรียวขาถึงจะไม่ยาวทว่ากลมกลึงในยามไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม แต่ถึงจะอยู่ใต้กางเกงยีนส์สีเข้มมันก็ยังน่ามองอยู่ดี เขาละสายตาจากเรียวขาพลางปัดจินตนาการลามกในสมองทิ้งไป แล้วรีบก้าวเข้าไปประชิดอีกฝ่ายก่อนที่จะคนตัวเล็กจะเดินหนีไปเสียก่อน เท่าที่สังเกตกิริยาดูเหมือนอาณกรจะมึนตึงไม่น้อย ถ้าเดาเหตุผลไม่ผิดน่าจะมาจากการที่เขามาถึงช้ากว่ากำหนดไปเกือบสองชั่วโมง พอได้คิดเข้าข้างตัวเองเขากลับรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด บางทีเขาจะอาจจะสำคัญกับอาณกรมากกว่าที่คิดก็เป็นได้

   “สวัสดีครับ” เขาเอียงคอยิ้มให้ อาณกรไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำ แต่มองเลยข้ามไหล่เขาไป

   “พี่ใหม่ ผมว่าต้นนั้นก็แก่แล้วนะ ตัดไปด้วย”

   เขาหัวเราะในคอเบาๆ ไม่ได้หงุดหงิดหัวใจกับอาการเมินเฉยที่อีกฝ่ายทำใส่เขา เพราะไอ้ท่าทางแบบนั้นมันฟ้องว่าเขามีอิทธิพลกับเจ้าตัวไม่น้อย

   “โกรธที่ผมมาช้าหรือ ขอโทษด้วยนะพอดีผมไม่เก่งเรื่องอาหาร หมอมะรุมก็ไม่อยู่เลยต้องให้เมี่ยงสอนอยู่นานเลย”

   “อาหาร? เมี่ยงเกี่ยวอะไรด้วย” คราวนี้คนตัวเล็กกลับมาสนใจเขา ถึงดวงตาคู่หวานจะติดขุ่นข้องอยู่ก็ตาม

   “มาดูนี่ซิ”

   เขาถือวิสาสะดึงข้อมือเล็กแล้วออกแรงลากอีกคนให้เดินตามกันมา อาณกรขืนกายเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยอมปล่อยให้เขาลากไปจนได้

   ตะกร้าสานใบใหญ่ที่ขอหยิบยืมมาจากน้ากลอยบรรจุทั้งถ้วย ชาม จานและมื้อเที่ยงที่เขาใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงลงมือปรุงด้วยตัวเอง แต่เพราะความสามารถอยู่ในระดับติดลบจึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากสองสาว เมนูง่ายๆ ไม่ยุ่งยากแต่ก็กินเวลาไม่น้อย คุณหมอตัวสูงดึงเอาผ้าใบผืนเล็กพิมพ์ลายการ์ตูนปูทับบนพื้นหญ้าใต้ต้นมะขามเทศ ก่อนจะนำเสนออาหารที่ทำด้วยตัวเองออกมาอวดโฉม

   “ผมไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไร ถามเมี่ยงก็บอกว่าคุณกินได้ทุกอย่าง”

   เขาบอกระหว่างที่จัดจานแล้ววางแซนด์วิชที่ทำจากขนมปังโฮลวีท ไข่ดาว แฮม มะเขือเทศและผักกาดแก้วตัดเป็นชิ้นดีคำ ส่วนอีกจานเป็นสลัดผักที่เขาลงทุนทำน้ำสลัดเอง ไก่ทอดสูตรน้ากลอย และซุปข้าวโพดครีมข้นกลิ่นหอม ตบท้ายด้วยขนมปังปิ้งเนย และน้ำส้ม

   อาณกรมองหน้าเขาสีหน้ายากแก่การคาดเดา ไม่อาจบอกได้ว่ามันคือความแปลกใจหรือสับสนกันแน่

   “ใครเขากินแซนด์วิชเป็นมื้อกลางวันกัน”

   “ผมไง” เขาตอบหน้าตาเฉย ที่จริงเขาเตรียมเมนูพวกนี้มาเพื่อเป็นมื้อเช้า แต่เพราะตื่นสายกอปรกับหาซื้อส่วนประกอบนานไปหน่อยมันเลยกลายเป็นมื้อกลางวันไปโดยปริบาย “เอาเถอะน่า จะกินมื้อไหนก็อิ่มได้เหมือนกัน ลองกินแซนด์วิชดูหน่อยซิขนมปังร้านนี้อร่อยมากเลยนะ ทำจากธัญพืชมันจะทำให้เราอิ่มนาน”

   เขาจิ้มแซนด์วิชหน้าตาดีจ่อตรงหน้าคนตัวเล็ก อาณกรไม่ยอมอ้าปากรับมันไว้ง่ายๆ ดวงตาสวยมองอย่างพินิจพิเคราะห์ราวกับมือเป็นของประหลาดที่อาจกินได้

   “คุณทำเองจริงๆ หรือ”

   “เกือบทั้งหมด แต่กินได้ท้องไม่ร่วงแน่นอนเพราะผมให้น้ากลอยกับเมี่ยงคอยสอนอีกที เอาซิ อร่อยนะผมชิมแล้ว”

   แววตาเคลือบแคลงแฝงไปด้วยความลังเล แต่หลังจากตัดสินใจอยู่พักใหญ่ก็ยอมอ้าปากรับเอาแซนด์วิชไปลองชิม อาณกรมองหน้าเขาตลอดเวลาที่เคี้ยวเจ้าแซนด์วิช ราวกับกลัวว่าเขาจะวิ่งหนีไปถ้าหลอกให้กินได้สำเร็จแล้ว ไม่ถึงนาทีเมนูแรกที่เขาลงมือทำด้วยตัวเองก็หมดลง ไม่มีการต่อว่าแต่ก็ไร้คำชมเช่นกัน

   “เอาอีกชิ้น”

   ถึงจะไม่คำเยินยอในรสฝีมือแต่การเรียกร้องขอกินอีกมันสร้างกำลังใจให้กับคนทำยิ่งนัก คุณหมอที่สละเวลาของวันหยุดมาทำอาหารครั้งแรกในชีวิตอมยิ้มจนแก้มตุ่ย จิ้มแซนด์วิชให้ผู้ชายตัวเล็กก่อนจะจ่อแก้วน้ำผลไม้ไว้รอท่า พอกลืนน้ำส้มเย็นๆ ไปก็ร้องหาสลัด ตามด้วยไก่ทอด และซุปข้าวโพดตามลำดับ ปิดท้ายด้วยขนมปังปิ้งเนยโรยน้ำตาลที่เขากล้ายืดอกอย่างภูมิใจว่าทำด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งสองสาว

   อาณกรตบท้องที่นูนขึ้นน้อยๆ ของตัวเองเบาๆ แม้จะกินไม่หมดแต่ก็พร่องลงไปเยอะ ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหาเพราะคนทำจัดการต่อเองได้

   “ใช้ได้ไหม”

   “อะไรล่ะ” คิ้วเรียวยกสูง เอียงคอมองเศษซากที่กินเหลือไว้ให้เขา

   “ทั้งหมด”

   “ก็…เอาไปแปดคะแนนก็แล้วกัน”

   “แปดเต็มสิบ ฝีมือผมใช่ได้ใช่ไหมล่ะ” พ่อครัวมือใหม่ตบหน้าอกตัวเองด้วยภูมิใจกับคะแนนที่ได้รับการประเมิน

   “เปล่า แปดเต็มหนึ่งร้อยน่ะ”

   ความภูมิใจถูกทำลายด้วยประโยคถัดมา คิมหันต์หัวเราะเบาๆ ไม่ได้โกรธหรือขุ่นใจที่โดนกดคะแนนต่ำ เพราะถึงจะให้คะแนนน้อยแค่ไหนเจ้าตัวก็กินเกือบหมดอยู่ดี

   หนุ่มบ้านไร่ยืดขาเหยียดยาวพลางเท้าแขนไปด้านหลัง เปลือกตาบางหรี่จวนจะปิดสงสัยเข้าทำนองพอหนังตาตึงหนังตาก็หย่อน ยิ่งได้สายลมเย็นจากจากทิวเขาช่วยเสริมมันชวนให้หลับพักสักงีบจริงๆ ใช่แต่อาณกรคนเดียวที่ง่วง เขาเองก็อยากจะพักผ่อนเหมือนกัน ร่างสูงล้มตัวลงนอนทั้งที่มือยังมีแซนด์วิชโดยมีหมอนเป็นท่อนขาอุ่นๆ ของคนตัวเล็ก

   “จะทำอะไรน่ะ มันหนักนะ”

   “ยืมนอนหน่อย ต้องทำอาหารให้คุณมันเพลียมากเลยรู้หรือเปล่า” เขาบอกพลางเคี้ยวเจ้าแซนด์วิชที่ทำเองกับมือ ถ้าสำหรับมือใหม่หัดทำนับว่าใช้ได้เลยทีเดียว

   “ถ้าเพลียแล้วทำทำไม ไม่มีใครขอสักหน่อย”

   “ผมเต็มใจทำ”

    พ่อครัวมือใหม่ยักคิ้วให้ เคี้ยวแซนด์วิชอีกสองสามทีแล้วก็ร้องขอน้ำส้มดื่มแก้คอแห้ง ได้ยินเจ้าของตักนุ่มบ่นอุบอิบว่าเรื่องมาก แต่ก็ยังช่วยประคองแก้วให้เพราะกลัวว่ามันไหลเข้าจมูกแทนปาก คุณหมอตัวสูงขยับศีรษะอยู่บนต้นขานุ่ม โชคดีที่อาณกรเป็นหนุ่มบ้านไร่ตัวเล็กไม่ค่อยมีกล้ามไม่อย่างนั้นหมอนพิเศษของเขาคงไม่นุ่มขนาดนี้

   เพราะต้องฝืนสังขารตื่นมาทำเรื่องไม่คุ้นเคยแต่เช้า ไหนจะเดินหิ้วตะกร้าที่หนักน้อยกว่าถุงปุ๋ยนิดหน่อยเดินตัดสวนปาล์มมาอีก พลังงานลดลงไปเกือบครึ่งเปลือกตาหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่ถึงสองนาทีทุกอย่างก็มืดลงปล่อยให้ภวังค์ความคิดปนรวมอยู่กับความฝันอันแสนหวาน

   คนที่เอาหัวหนุนอยู่บนหน้าขาหลับไปแล้ว เขาไม่เคยเห็นคิมหันต์หลับมาก่อนพอไม่ได้เห็นตาวาวๆ ที่ชอบประกายประหลาดถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วไอ้คุณหมอหน้ามึนคนนี้น่ารักไม่เบาแถมยังดูอ่อนเยาว์กว่าปกติอีกด้วย ผิวแก้มมีรอยตกกะนิดๆ คงเพราะเจ้าตัวชอบออกกำลังกายเลยโดนแดดทำร้ายไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับหยาบกร้าน ขนตายาวพอประมาณแต่ดำเข้มเช่นเดียวกับคิ้ว ริมฝีปากไม่บางไม่หนากำลังดี ทั้งหมดอยู่บนรูปหน้าเรียว โดยรวมแล้วคิมหันต์จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่ง อาจจะไม่ได้คมเข้มเท่าพี่เสือแต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ถ้าไม่นับรวมความหน้ามึนที่ทำให้เขาหงุดหงิดได้เสมอ

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ลมเอื่อยๆ พัดอ้อยอิ่งช่วยคลายความร้อน เส้นผมสีเข้มปลิวปรกบนหน้าผากเขาช่วยเกลี่ยให้แต่พอลูบไปลูบมาก็ชักจะเพลิน มือนุ่มไล้เบาๆ บนเรือนผมสีดำทำเหมือนคิมหันต์เป็นเด็กน้อยก็ไม่ปาน เจ้าของขานุ่มเผลอระบายยิ้มนึกขำในพฤติกรรมอุตริของไอ้คุณหมอบ้านี่ ตื่นมาทำอาหารให้เขาตั้งใจจะให้เป็นมื้อเช้าแต่กะเวลาผิดเขาเลยได้กินเบรกฟาสต์เอาตอนเที่ยง

   ถึงตอนนี้เขายังไม่แน่ใจเท่าไรนักว่าหัวใจที่บาดเจ็บเพราะรักไม่สมหวังมันหายดีแล้วหรือยัง แต่ความเจ็บปวดมันทุเลาลงเรื่อยๆ ทุกวัน เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่อาจสมหวังเลยทำใจได้เร็ว หรือเพราะมีใครบางคนมาป่วนหัวใจจนทำให้ไม่มีเวลาได้คิดอย่างอื่นมากนัก ตาหวานหลุบต่ำมองคนหลับ จะว่าไปแล้วเขากับคิมหันต์รู้จักกันน้อยมาก แค่เรื่องพื้นฐานทั่วไปอย่างเช่นอาหาร สี หรือรสนิยม พวกเขาไม่เคยถามไถ่กันเลย รู้แค่ต่างฝ่ายผิดหวังจากรักข้างเดียวเหมือนกัน

   แต่ถ้าถามว่าสำคัญไหม สำหรับเขาแล้วมันไม่จำเป็น สิ่งพวกนั้นเป็นปัจจัยภายนอกอีกไม่ช้าไม่นานพฤติกรรมทั้งหมดก็ถูกซึมซับและเรียนรู้ได้เอง ถ้าหากมีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น หนุ่มร่างเล็กพรูลมหายใจยาว ไม่รู้หรอกว่าเขาจะอยู่ที่ไร่เคียงฟ้าไปอีกนานแค่ไหน ถึงจะรักที่นี่ยิ่งกว่าบ้านของตัวเองแต่อนาคตคือสิ่งไม่แน่นอนถึงจะวางแผนเอาไว้ดิบดีแค่ไหนมันก็พลิกผันกันได้ นิ้วเรียวปัดปอยผมออกจากใบหน้าขาวสะอาด แล้วความรักล่ะมันจะยืนยาวแค่ไหน...ยิ่งเพศเดียวกันมันยิ่งเป็นไปได้ยาก ไม่มีหลักประกันอะไรสักอย่างเพราะต่างเพศแบบที่สวรรค์สร้างมาให้ยังเลิกรากันไป

   ‘รักแท้ยังมีอยู่จริงหรือเปล่า’

    จนบ่ายคล้อยคนที่หลับไปถึงได้ตื่นขึ้น เปลือกตาหนักๆ ยกขึ้น และสิ่งแรกที่ได้เห็นคือชายเสื้อเชิ้ตสีเข้ม เขาตื่นเต็มตามองร่างบางที่กลายเป็นหมอนชั่วคราวให้เขา อาณกรนอนลงไปพื้นผ้าใบที่เขาเตรียมมา ตาหวานปิดสนิทมองเห็นขนตายาวเป็นแพ ริมฝีปากอิ่มสีสดเผยอขึ้นน้อยๆ ตอนหลับอาณกรดูคล้ายเจ้าหนูพิกเล็ตชะมัด...หรือจะให้ถูกพิกเล็ตเหมือนอาออยมากกว่า นึกแล้วก็แปลกใจพ่อตัวดำเป็นเหนี่ยง แถมใหญ่สูงใหญ่เหมือนยักษ์แต่ทำไมลูกชายถึงได้ออกมาขาวจั๊วะเหมือนไข่ปอก แถมดูท่าความสูงคงไม่ทิ้งห่างจากผู้เป็นอาเท่าไรนัก นี่ถ้าบอกว่าพิกเล็ตเป็นลูกของอาณกรเขาเชื่อหมดใจเลยทีเดียว

    คุณหมอหนุ่มยันกายขึ้น พอได้พักนิดหน่อยพลังงานก็เพิ่มพูนแถมยังได้นอนบนขานุ่มๆ ไอ้ที่ตื่นเร็วที่สุดในรอบสามปีมันคุ้มๆ สุดก็ตรงนี้นี่แหละ ท่อนขายาววางลงใกล้ๆ กับหัวไหล่เล็ก แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ อาณกรพลิกตัวนอนตะแคง ร่างกายมันคงรู้ว่าความหนักอึ้งที่กดทับอยู่หลายชั่วโมงมันหายไปแล้วเลยเปลี่ยนท่า แต่ดวงตาคู่หวานยังปิดสนิท หัวคิ้วสวยขมวดน้อยๆ เกิดมาจวนจะยี่สิบเจ็ดปี เพิ่งรู้ว่าคำว่าน่ารักมันก็ใช้ได้กับผู้ชายเหมือนกัน

    ปลายนิ้วยาวเกลี่ยเบาๆ ที่ผิวแก้มนุ่ม กลิ่นหอมเหมือนแป้งเด็กโชยจากเรือนกายเล็ก สงสัยคงเป็นแป้งกระป๋องเดียวกับที่พิกเล็ต บทรักเมื่อคืนนั้นยังตราตรึงอยู่ในความรู้สึก แม้เจ้าตัวจะย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ต้องการความรับผิดชอบ One night stand คืนเดียวแล้วแยกย้ายกันไป แต่สำหรับเขาแล้วหลังจบสงครามบนเตียงจบลงสายใยบางอย่างมันเชื่อมโยงพวกเขาเอาไว้แล้ว

   เขาไม่ต้องการรับผิดชอบตามที่เจ้าตัวต้องการพอๆ กับที่ไม่ต้องการให้ทุกอย่างจบลงเพียงแค่คืนนั้น ไม่ใช่แค่ติดใจในความหอมหวานของผิวกาย หรือบทรักอันร้อนแรง แต่อะไรบางอย่างในตัวของอาณกรมันดึงดูดให้เขาค้นหา ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยและท่าทางเข้มแข็งมันซ่อนความอ่อนหวานและอ่อนแอเอาไว้ อาจเพราะโชคชะตากระมังที่ทำให้เขาได้พบกับคนๆ นี้ อาจไม่ใช่รักแรก อาจไม่ใช่คนที่ประทับใจแต่เป็นคนที่เหมาะกับเขา คนที่ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร แค่ยอมรับในสิ่งที่ทำก็พออย่างวันนี้อาณกรยอมกินมื้อเที่ยงที่เขาลงมือทำเอง ถึงไม่มีคำชมทุกอย่างที่ทำมาก็เกือบหมด

   จมูกโด่งกดลงบนแก้มหอมแป้งเด็กอย่างอดใจไม่ไหวแล้วเขาก็เป็นพวกได้คืบจะเอาศอก แค่แก้มยังไม่พออยากจะได้มากกว่านั้น อุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาทำมื้อเที่ยงให้เขาค่าตอบแทนเป็นจูบตอนหลับก็คงไม่มากเกินไป

   กลีบปากนุ่มสีสวยถูกครอบครองแผ่วเบา เขาไม่ได้จาบจ้วงเอาแต่ใจเพราะกลัวคนปากแข็งตื่นขึ้นมาบีบคอเขาเสียก่อน ชายหนุ่มเลาะลิ้มชิมความหอมหวานจากน้ำส้มและขนมปังหอมๆ ติดอยู่บนปากนุ่มเหมือนเยลลี่ คิมหันต์ละเมียดกลืนเหมือนกินขนมหวาน แล้วก็ต้องหักห้ามใจก่อนที่จะเลยเถิด เป็นจังหวะเดียวกับที่เปลือกตาบางเปิดขึ้นพอดี

   “ทะ...ทำอะไรน่ะ!”

   มือน้อยยกขึ้นผลักเขา ร่างเล็กผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ตาหวานเบิกกว้างเกือบเท่าไข่ห่านลนลานคลานหนีโดยหันบั้นท้ายให้เขาแล้วไปหยุดที่โคนต้นจามจุรี นิ้วชี้มาทางเขาก่อนจะหันมองซ้ายขวาด้วยนัยน์ตาตื่นตระหนก

   “จูบแฟน” เขาตอบหน้าตาเฉยๆ นึกเสียดายก้นกลมๆ ที่แนบกับไปต้นไม้ใหญ่แล้ว

   “ใครแฟนคุณ!”

   “คุณไง คุณกินแซนด์วิชของผมแล้ว คุณต้องเป็นแฟนผม”

   “ไอ้บ้า!”

   แก้มใสแดงจัดเหมือนมะเขือเทศ เขาชอบตาหวานๆ ที่มีแววเก้อเขิน คนปากแข็งมักขี้อายเพิ่งเห็นกับตาก็วันนี้ แฟนใครไม่รู้ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งน่าหลงใหล ต้องขอบใจไอ้เสือที่มันตาถั่วมองข้ามคนน่ารักคนนี้ไปดวงซวยเลยตกไปอยู่ที่วรทย์ คุณหมอตัวสูงเคลื่อนไหวกายรวดเร็วพรวดเดียวถึงพ่อหนุ่มบ้านไร่ร่างน้อย ช่วงแขนยาวยกขึ้นขัดขวางการหนีกักตัวแฟนเอาไว้
   “ผมว่าผมชอบคุณเข้าให้แล้วล่ะ เรามาลองคบกันดูดีไหม”

   “ไม่!” คนตัวเล็กปฏิเสธทันควัน ก่อนจะบ่นอุบอิบเบายิ่งกว่าแมลงบินแต่ก็จับใจความได้ว่า “ผมอายกลัวโดนล้อ”

    “ใครจะล้อ ป่านนี้เขารู้กันหมดไร่แล้วมั้ง”

    เขาเกือบจะหลุดขำกับหน้าที่เหมือนกับจะมีระเบิดลงแต่เพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะอายมากไปกว่านี้เลยต้องกลั้นเอาไว้ก่อน ดวงหน้าผ่องใสราวกับไม่เคยโดนแดดทั้งที่ทำงานอยู่กลางแจ้งระเรื่อขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ตาหวานมองมาที่เขาชั่วอึดใจก่อนจะหลุบต่ำซ่อนแววหวั่นไหวเอาไว้ คิมหันต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกนิดปลายจมูกเฉียดกับพวงแก้มอุ่น

    “ผมชอบคุณจริงๆ นะ”

   “โกหก คุณมันพวกบ้ากาม” เสียงตัดพ้อเบาไม่ต่างจากเมื่อครู่ มือน้อยยกขึ้นหมายจะผลักอกเขาให้ห่าง

   แต่เพราะจับทางได้อยู่แล้วจึงรวบมือนุ่มๆ ไว้ไม่ได้ทัน อาณกรทำให้เขาแปลกใจหลายอย่าง ทำงานไร่แท้ๆ แต่ทั้งผิวขาว แถมมือยังนุ่มนิ่มเหมือนคนไม่เคยทำงาน จะมีก็แค่รอยกะจางๆ ที่โหนกแก้มแต่มันก็บางมากจนแทบจะมองไม่เห็นต้องจ้องกันในระยะประชิดชนิดที่ปลายจมูกชนกันถึงจะเห็น

   “ผมไม่ได้โกหก ผมชอบคุณ แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับผม” เขาถามเสียงนุ่มยกมือน้อยขึ้นจูบ เจ้าตัวทำหน้าเหวอดึงมือออกพัลวันแต่มันไม่ได้ไปไหนไกลเลยยังตกอยู่ในอุ้งมือของเขาอยู่ดี “ว่าไงออย คุณชอบผมบ้างหรือยัง”

   “ไม่รู้โว้ย!”

   คนขี้อายตะโกนบอก หน้าแดงแปร๊ดเหมือนกินเมะเขือเทศมาสักสิบโล คุณหมอหนุ่มอมยิ้มก่อนจะรวบร่างน้อยมากอดไว้แนบอก ถึงจะไม่มีคำพูดหวานๆ แต่อาการที่เขินจนแทบจะมุดลงไปในดินของอีกฝ่ายมันก็เป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี ถึงตอนนี้อาณกรจะยังไม่ได้รักเขาแต่เชื่อเถอะ อีกไม่ช้าไม่นานนี้หรอกไอ้หนุ่มบ้านไร่ตัวเล็กคนนี้ต้องหลงเขาหัวปักหัวปำยิ่งกว่าไอ้เสือบ้ากามตัวนั้นเสียอีก

   สาบานด้วยเกียรติของคิมหันต์ผู้ฟันแล้วไม่ทิ้ง!

……………….


    ดวงตาคมกริบเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้งที่เป็นฟ้าเดียวกันแต่ดาวที่นี่กลับไม่สุกสกาวเอาเสียเลย อาจเป็นเพราะแสงไฟที่มีมากเกินไปมันกลบแสงจากดวงน้อยให้เหลือเพียงแค่แสงริบหรี่บนผืนฟ้าสีดำสนิทเท่านั้น ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง หัวใจมันไม่เป็นสุขเอาเสียเลย แม้ว่าที่นี่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกปัจจัย มีห้องนอนที่นุ่มสบายเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ มีอาหารชั้นเลิศให้กินเกินสามมื้อด้วยซ้ำ ได้ใส่เสื้อผ้าชั้นดีตัดเย็บประณีต แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกถึงความสุขสบายอย่างแท้จริงเลยแม้แต่น้อย

   เกือบสองเดือนแล้วกระมังที่เขาต้องผันตัวเองจากไอ้ขี้ครอกเป็นบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวของนักธุรกิจหนุ่ม เบื้องลึกเบื้องหลังมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ โปรไฟล์ของเขาถูกจัดการเสียใหม่ด้วยฝีมือของภาคภูมิ นอกจากผู้ร่วมแผนการลงโทษคนผิดแล้วที่นี่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ‘นายปืน’ คนนี้คืออดีตขี้ค่าไร่เคียงฟ้า หน้ากากสวยหรูที่เขาต้องสวมไว้มันหนักขึ้นทุกทีจนอยากจะกระชากออกอยู่หลายครั้ง แต่เพราะใครคนนั้นมันทำให้เขายอมที่จะอดทน

   เพื่อ อาณกร เขาทนได้

    ทว่าเสี้ยวของหัวใจมันกลับไม่ยอมสงบลงเพราะคำบอกเล่าของเพื่อนรักเพื่อนตายเมื่อตอนหัวค่ำ

    “มึงมัวแต่หลงเมืองกรุง ไอ้หมอคีย์มันคาบคุณออยไปกินเรียบร้อยโรงเรียนหมอแล้วโว้ย”

    แม้เสียงไอ้ดินจะติดตลกแต่เขารู้ว่านั่นไม่ใช่การล้อกันเล่น เขาระแคะระคายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อนจะมาที่นี่ด้วยซ้ำแต่เขาเลือกที่จะหลอกตัวเอง เพราะอาณกรยังไม่เคยบอกกับใครว่าคิมหันต์คือคนรักของตัวเอง เขาก็ยังเชื่อว่าไอ้ปืนคนโง่จะยังมีความหวังต่อไป

   “นายมันโง่ ไม่มีหัวคิดเองเลยหรือไง”

   ชายหนุ่มยกยิ้มสมเพชตัวเอง ใครบางคนเคยบอกกับเขาอย่างนี้เหมือนกัน…ถ้าหากเป็นคนอื่นเขาจะทำแค่ยิ้มรับเพราะมันคือความจริง แต่ไอ้คนที่พูดใส่หน้าเขาคือคนที่เลวจนหน้าสิ่งใดเปรียบได้มันเลยได้ผลตอบแทนไปอย่างสาสม

   “อ๊ะ”

   เสียงอุทานที่ดังมาจากด้านหลัง แทบไม่ต้องเสียเวลาเดาเขารู้ได้ทันทีว่ามันเป็นเสียงของใคร เพียงแค่ปรายตาเขาก็เห็นเรือนร่างโปร่งบาง กลิ่นเหมือนลูกอมรสมิ้นท์ที่เคยกินปนกับกลิ่นดอกไม้กลางคืน กลิ่นที่เขาไม่เคยพิสมัยเลยสักนิด ปืนเบือนหน้ากลับ ตอนนี้แม้แต่เสี้ยวหน้าก็ไม่อยากเห็นถ้าไม่ใช่เพราะความชั่วของมันเขาคงไม่ต้องโดนชิงหัวใจไปอย่างนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียด

   “โทรศัพท์!”

    โทรศัพท์เครื่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบนๆ สีขาว เหมือนกับที่เขาใช้อยู่แต่ของเขามันเป็นสีดำ แน่นอนว่าของบรรณาการแพงเฉียดสามหมื่นพวกนี้มาจากผู้ร่วมลงโทษอีกคน ‘ภาคภูมิ’

    “ใคร”

   “ไอ้หมอ!”

   อีกฝ่ายกระแทกเสียงใส่ ใบหน้าขาวจัดมีแววเย่อหยิ่งและถือดี คิดแล้วก็น่าสมเพชทำเป็นจองหองพองขนแต่เมื่อคราใดได้รับบทลงโทษก็ครางร้องขอความเห็นใจ เขาจำใจรับโทรศัพท์จากมือขาวยกมันแนบหู

   “ครับ”

   “ทางนายเป็นยังไงบ้าง มีใครสงสัยอะไรหรือเปล่า”

   “ไม่มีครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี” เขาตอบเรียบๆ พลางมองเจ้าของโทรศัพท์ที่กอดอกรอคอย

    ใบหน้าบูดบึ้งง้ำงอแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มยกยิ้มเหยียดที่มุมปาก ใช่แต่คนบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างเขาที่ไหนที่โง่เง่า คนกรุงเองก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่ากันเท่าไรทุกคนที่บ้านหลังนี้หรือคนอื่นๆ เชื่อสนิทใจว่าเขาคือบอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณโยธิน กมลากร บางทีคนที่ทำเป็นฉลาดก็ตกเป็นเหยื่อของคนโง่ได้เหมือนกัน

    “ดีแล้ว คลินิกฉันกำลังจะเสร็จ อ้อ! เห็นว่าพี่เสือมากรุงเทพฯ นายอยากจะมาเจอหรือเปล่า”

   “ไม่ครับ” ปืนสั่นหัว

    “อืม” ปลายสายรับคำ “ถ้าไอ้โยมันตุกติกคิดจะตลบหลังเรา นายรีบบอกฉันทันทีเลยนะ”

   “ได้ครับ”

   การสนทนาจบแต่เพียงเท่านั้น เขาไม่ใช่พวกพูดมากถนัดไปทางลงมือมากกว่าส่วนอีกฝ่ายเน้นไปทางออกคำสั่ง แต่ยังไม่ได้ลงมือทำจริงจังเสียที คงเป็นเพราะยังวุ่นวายอยู่กับการเปิดกิจการใหม่แต่อีกไม่นานหรอกคนทำผิดอย่างโยธินจะได้รับโทษเพิ่มมากขึ้นจากน้องชายแท้ๆ ของพี่เสือ ส่วนเขาจะยอมทำหน้าที่ไปจนกว่าอาณกรจะนั่งให้หยุด

    เขาคืนโทรศัพท์ให้เจ้าของ มือเรียวคว้ากลับอย่างไม่สุภาพนัก โยธินเป็นแบบนี้แข็งกร้าว เย่อหยิ่ง จองหองและอวดดี ทั้งที่แท้จริงแล้วไม่มีอะไรให้น่าอวดสักอย่าง

   “คุยอะไรกัน”

   “ไม่เกี่ยวกับคุณ”

   “ทำไมจะไม่เกี่ยว เพราะเรื่องที่พวกแกคุยกันมันเกี่ยวกับฉันทั้งนั้น!”

   ปืนกระตุกยิ้ม มันจริงอย่างที่โยธินพูดนั่นแหละ การสนทนาระหว่างเขากับภาคภูมิไม่เคยมีอะไรมากไปกว่าการควบคุมและดูแลพฤติกรรมของคนผิดรวมไปถึงการลงโทษที่ได้ผลดีเกินขาด แค่เปลี่ยนแววตาที่ใช้มองคนอวดดีก็หงอเป็นหมา

   “มันก็จริง คุณภูมิบอกให้ผมดูแลคุณอย่างดีที่สุด ชนิดที่กระดิกไปไหนไม่ได้”

   “ไอ้พวกโรคจิต!” โยธินตะคอกแต่ระดับเสียงไม่ได้ดังไปกว่าการกระซิบ “เมื่อไรแกกับไอ้หมอบ้านั่นจะปล่อยฉันไปสักที!”

   “ทำเลวไว้ตั้งเยอะ จะปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไง เลือกเอานะครับว่าจะอยู่กับโรคจิตอย่างผมหรือเป็นหมาหัวเน่านอนในคุก”

    “ไอ้สัตว์!”

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
กำปั้นลอยหวือในอากาศหมายจะกระแทกใส่ปากฝั่งตรงข้าม แต่เพราะไม่ถนัดเรื่องเตะต่อยซ้ำสภาพร่างกายที่เสียเปรียบกว่าทำให้มือที่ชูสูงถูกคว้าเอาไว้ก่อนที่ผู้มีกำลังมากกว่าจะกระชากลำตัวโปร่งเข้ามาประชิดตัว

    “คิดหรือว่าหวัดง่อยๆ ของคุณจะทำอะไรผมได้” ชายหนุ่มแสยะยิ้ม มือแกร่งบีบข้อมือเล็กแน่นไปถึงกระดูกราวกับจะทำให้มันแตกยับตรงนั้น ยิ่งสะใจขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดจากคนอวดเก่งแต่เพียงชั่วประเดี๋ยวความจองหองก็กลับมาอีกหน

   “ปล่อยฉันนะ ไอ้สวะ!”

   “ปากดีจังนะ ไอ้สวะคนนี้ไม่ใช่หรือไงที่เป็นผัวคนแรกของคุณน่ะ”

   “ไอ้เหี้ย! สารเลว”

   “ยังน้อยกว่าคุณหลายขุม เพราะผมเลือกที่จะเหี้ยกับคุณคนเดียว”

    ร่างเล็กเต้นเร่ายกเท้าขึ้นจงใจจะเหยียบลงมาที่หลังเท้าของเขา แต่ความรวดเร็วมันต่างกันไม่ว่าจะออกอาวุธท่าไหนเขาก็รับได้หมดเรื่องกำลังหรือการต่อสู้โยธินด้อยกว่าเขาหลายเท่าตัว อย่าว่าแต่เรื่องใช้กำลังเลยแม้แต่รูปร่างก็ไม่มีทางเทียบกันได้ เขาคือชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ส่วนสูงในบัตรประชาชนมันเกินร้อยแปดสิบมาเล็กน้อย อกผายไหล่ผึ่งอย่างพวกทำงานหนัก ผิวกายดำคร้ามแดด ขณะที่ไอ้คนอวดขนาดตัวไล่เลี่ยกับอาณกร ไม่ต้องถามถึงกล้ามเนื้อไอ้คนที่เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องแอแค่เดินก็เหนื่อยจะเอากล้ามที่ไหนมางัดกับเขา

    ฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่วิธีการลงโทษของเขาคือการจองจำอิสรภาพของมันด้วยเซ็กส์ ถ้ามันคิดจะเล่นตุกติกเอาพวกลูกน้องของมันมาเล่นงานเขา ผลงานบนเตียงทั้งหมดจะถูกเผยแพร่ไปให้พ่อและพี่ชายรวมไปถึงทุกคนในโลกนี้รู้ทันที เขาเป็นคนโง่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี แต่เพราะได้กูรูดีอย่างภาคภูมิที่คอยแนะนำวิธีการบันทึกภาพทั้งเคลื่อนไหวและภาพนิ่งจากโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าภาพพวกนั้นจะถูกส่งต่อให้ภาคภูมิทันทีโดยไม่มีไว้ในเครื่องให้อีกฝ่ายแอบถ่ายเทไปได้ วิธีง่ายๆ ที่ได้ผลยิ่งกว่าคุ้ม โยธินกลายเป็นหมาที่ได้แต่ขู่ เขี้ยวบิ่นๆ หดกลับเข้าไปเพียงแค่หยิบเรื่องบนเตียงขึ้นมาอ้าง   

    อ่อนแอจนน่าสมเพช

    “ถ้ายังอยากลุกไปทำงาน ก็อย่ามายั่วโมโหผม”

   ตาเรียววาววับ ชั่ววูบเขาเห็นหยดน้ำรื้นในดวงตาคู่นั้นแต่แค่ชั่วกระพริบตามันก็เลือนหายไป ใบหน้าขาวซับสีเลือดจนแดงเรื่อ ร่างเล็กหยุดดิ้นเพราะรู้ซึ้งถึงคำขู่ดี ปืนปล่อยมือคืนอิสระจอมปลอมให้ โยธินหมุนกายแล้วรีบเดินหนีห่างไปทันที ตาคมจ้องมองแผ่นหลังเล็กที่ค่อยๆ ถูกความมืดของราตรีกลืนหายไป

   ปืนผ่อนลมหายใจบางเบา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอีกครั้ง แสงริบหรี่ของดวงดาวไม่ต่างจากความอบอุ่นในหัวใจ ยิ่งนานวันมันยิ่งเหลือน้อยลงทุกที…
……………….


    “พี่ช้างว่าหนูจะทาดอกไม้สีอะไรดี”

   “สีชมพูซิ”

    “สีเหลืองดีกว่า กิ่งแก้วชอบ”

   “สีชมพูดีแล้ว”

   “สีเหลือง!”

   “สีชมพู!”

   “หวา อย่าทะเลาะกันซิ เดี๋ยวพิกเล็ตลงทั้งสองสีเลยดีไหม”

   เด็กที่นั่งตรงกลางร้องบอกก่อนที่น้ำลายจากเพื่อนและพี่ชายที่นั่งประกบข้างๆ จะทำให้หัวเปียก มือเล็กๆ คว้าเอาดินสอสีชมพูมาลงที่กลีบดอกอันแรกแล้วเอาสีเหลืองระบายในกลีบที่สอง สรุปว่าดอกไม้ดอกเดียวมีถึงสองสีนี่ไม่นับรวมก้านที่เป็นสีเขียวเข้มและมีใบเป็นสีเขียวอ่อน ตามความต้องการของกิ่งแก้วและพี่ช้าง

    คุณหมอตัวเล็กละสายตาจากเด็กทั้งสามก่อนจะหย่อนเท้าลงแช่ในสายน้ำเย็น เสียงน้ำตกดังก้องไปทั่วบริเวณแต่กลับไม่น่ารำคาญ ถ้าหากว่าครั้งที่แล้วเขาไม่ซุ่มซ่ามลื่นไถลจนข้อเท้าพลิกคงได้เห็นมันไปแล้ว แต่การมาเยือนน้ำตกส่วนตัวของไร่เคียงฟ้าในครั้งที่สองนี้กลับมีความสุขมากกว่า เพราะคราวนี้ไม่ได้มีแค่เขาหรือพศิน แต่ยังมีเจ้าเด็กตัวแสบที่อิมพอร์ตมาจากกรุงเทพฯ อีกคน ทันทีที่ปิดเทอมเจ้าช้างก็ร่ำร้องให้แม่มาส่งที่ไร่เคียงฟ้าเพราะคิดถึงน้องชายคนใหม่ใจจะขาด

   ส่วนแม่มะลิ กับพ่อวรินทร รวมถึงพี่มะนาวอยู่พักผ่อนแค่สองวันเพราะเป็นห่วงบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วทิ้งเจ้าเด็กอ้วนดำเอาไว้จนกว่าจะเปิดเทอม วันหยุดแสนยาวสำหรับพิกเล็ตเลยพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะได้เพื่อนเล่นเพิ่มมาอีกคน

    “แซนด์วิชมาแล้ว เด็กๆ มากินกันเร็ว”

   เขาหัวเราะเมื่อเห็นเจ้าหลานตัวใหญ่เกินไววิ่งไปหาของกินก่อนใคร อาณกรและคิมหันต์ช่วยกันหิ้วตะกร้าสานใบใหญ่เข้ามาสมทบ สองหนุ่มต่างไซส์อาสาเป็นคนจัดแจงเรื่องอาหารในวันพักผ่อนที่แสนพิเศษ สถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหนน้ำตกส่วนตัวที่ทั้งสงบและสะอาด

    “มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ไปกินกับเด็กๆ”

   เสียงทุ้มต่ำติดแหบดังขึ้นเหนือศีรษะ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มที่ชะโงกอยู่เหนือตัว ปลายจมูกโด่งกดลงบนหน้าผากก่อนที่เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากพวกฝรั่งจะย่อกายลงนั่งบนก้อนหินข้างๆ กัน หย่อนเท้าเปลือยลงในสายน้ำเย็นฉ่ำ

   “ยังไม่หิว แล้วผมก็อยากกินข้าวยำฝีมือพี่เสือมากกว่า”

   “ปากหวานจริง เมียใครวะ!” คางของเขาถูกเขย่าเบาๆ

   “พูดอะไรอายเด็กมันบ้างซิ” เขาต่อว่าเสียงเบา เหลือบตามองเด็กๆ ที่ไปเกาะกลุ่มรวมตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ห่างออกไปหลายเมตร แล้วก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นพิกเล็ตเช็ดปากให้ช้างเพราะเจ้าเด็กอ้วนดำสวาปามจนปากเปื้อนไปหมด

    “อายทำไม เขารู้กันหมดแล้วว่าเราเป็นอะไรกัน”

    คนหน้าหนาอย่างพศินไม่รู้ร้อนรู้หนาว กอดเขาต่อหน้าคนงานทั้งไร่ก็ทำมาแล้ว อย่าว่าแต่กอดทั้งหอมทั้งจูบทำหมด เล่นเอาเขาอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีไม่ต้องพูดถึงการโดนล้อโดนแซว ดินทำเป็นประจำเช้าเย็นจนหลังๆ เขาเริ่มชินเสียแล้ว

    “คุณแพรวเป็นยังไงบ้าง”

   คิ้วหนาของพศินเลิกสูง “หาแฟนใหม่ได้แล้ว”

   “หืม? ทำไมเร็วจังยังไม่สามเดือนเลย”

    “ก็พี่บอกแล้ว คนอย่างแพรวไม่ได้รักหรอกนอกจากตัวเอง”

   เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ ที่ถามถึงคนรักเก่าของพศินเพราะเมื่อวันก่อนเพื่อนของคุณปยุตโทรมารายงานถึงความเป็นอยู่ของปาริน ถึงตอนนี้หัวใจของเขามันเข้มแข็งขึ้นมากแล้วเลิกระแคะระคายในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แม้ไม่มีอะไรเป็นหลักค้ำประกันแต่เขาเชื่อในหัวใจของพศิน เช่นเดียวกับพศินที่เชื่อในความรักของเขา

    “แล้วคุณโยล่ะ”

   “ยังจะเรียกมันว่าคุณอีก” ตาคมชำเลือง “มันทำกับมะรุมไว้ตั้งเยอะ ไม่ต้องให้เกียรติมันขนาดนั้นหรอก”

   วรทย์หัวเราะเบาๆ ระหว่างเขากับโยธินไม่มีความแค้นต่อกัน ถึงจะเกือบโดนข่มขืนแต่ไม่ก็ไม่เคยเก็บมาจำฝังใจ แต่ที่ไม่คิดจะห้ามปรามความคิดศาลเตี้ยของอาณกรเพราะคิดว่าความร้ายกาจที่โยธินก่อไว้กับพศินและพิกเล็ตควรได้รับการลงโทษบ้าง

    “ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ว่าแต่พี่เถอะ ยังคิดว่าเขาเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า”

   พศินนิ่งไปพักใหญ่ ใบหน้านิ่งเรียบจนยากจะคาดเดาคำตอบ “คำว่าเพื่อนมันลบกันไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ ถึงมันจะทำเลวกับพี่แค่ไหน แต่ยังไงมันก็ยังเป็นเพื่อนของพี่ ถึงมันจะไม่เคยคิดว่าพี่เป็นเพื่อนของมันก็ตาม”

   ชั่ววูบหนึ่งในดวงตาคมกริบคู่นั้นมันสะท้อนความเจ็บปวดออกมาให้ได้รู้สึก เขายกมือลูบแผ่นหลังหนาแผ่วเบา ความเจ็บปวดจากการโดนคนรักทรยศไม่หนักหนาเท่ากับโดนเพื่อนรักที่สุดหักหลัง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจตัดสัมพันธ์ได้ลง พศินก็เป็นเช่นนี้ แข็งนอกอ่อนใจ จริงใจและซื่อสัตย์

   แล้วจะไม่ให้เขารักได้อย่างไร

   พศินหันมามองเขาก่อนจะล้มกายเอนศีรษะวางลงบนตัก มือแกร่งดึงมือของเขามากุมไว้ยกขึ้นแล้วพรมจูบ

    “อย่านอกใจพี่นะ พี่คงทนไม่ได้ถ้ามะรุมทิ้งพี่ไป”

   คุณหมอหนุ่มอมยิ้มใบหน้าขาวระเรื่อด้วยเลือดฝาด ไม่ชินสักทีกับคำหวานๆ ของคนดิบเถื่อน ฟังทีไรจั้กจี้หูทุกที

   “ผมไม่ทิ้งพี่ไหนหรอกน่า ว่าแต่พี่เถอะถ้านอกใจผมเมื่อไร พ่อจะตัดให้แม้แต่ตอก็ไม่ให้เหลือ”

   คนตัวโตหัวเราะในคอ จูบที่ข้อมือหนักๆ “คนอย่างพี่ไม่เคยทิ้งใคร พี่ให้มะรุมพิสูจน์ทั้งชีวิตเลย”

   “ผมจะคอยดู”

   แม้ไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่าความรักครั้งนี้จะยืนยาวไปถึงนิรันดร และไม่มีพรหมลิขิตบทไหนบอกได้ว่าเขากับพศินคือคู่แท้แต่ด้ายสีแดงที่ผูกบนนิ้วก้อยของเขามันเชื่อมโยงไปถึงนิ้วก้อยของอีกคน ด้ายสีแดงที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหากแต่ต้องใช้หัวใจสองดวงมองถึงจะเห็นมัน วรทย์ลูบมือกับเส้นผมสีดำสนิท เขารักพศินเหลือเกิน รักทุกอย่างที่หล่อหลอมรวมเป็นผู้ชายคนนี้ รักโดยไม่มีข้อแม้และรักไปถึงเด็กชายตัวน้อยด้วย

    I do believe all the love you give

   ผมเชื่อในรักที่คุณมอบให้

    “เฮ้ย! ไอ้เด็กอ้วนดำ มึงทำอะไรวะ!”

   อารมณ์หวานๆ สะดุดร่วงหาย เมื่อจู่ๆ ศีรษะหนักๆ ก็ยกขึ้น เขามองไปตามนิ้วสีเข้มที่ชี้ไปยังกลุ่มเด็กๆ เห็นเจ้าช้างตัวดีกำลังหอมแก้มพิกเล็ตพอดี วรทย์หัวเราะแข่งกับเสียงฝีเท้าของคุณพ่อจอมหวงที่ตรงรี่ปรี่เข้าไปหมายจะจัดการหมูขโมยตัวใหญ่ แต่เจ้าช้างรู้ทันคว้ามือน้องวิ่งหนีไปก่อนโดยมีกิ่งแก้ววิ่งตามไปติดๆ เด็กทั้งสามส่งเสียงร้องกรี๊ดด้วยความสนุกและตื่นตื่น เลยกลายเป็นว่าผู้ใหญ่ตัวโตกำลังวิ่งเล่นไล่จับอยู่กับเด็กๆ แทน

   รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังไปทั่วไร่เคียงฟ้า วรทย์มองภาพแห่งความสุขด้วยรอยยิ้ม จนถึงตอนนี้เขาสาบานต่อหน้าแผ่นดินและผืนฟ้าว่าจะไม่มีวันทิ้งพศินและพิกเล็ตไปไหน…

    I’ll keep you safe don’t you worry

    ผมจะปกป้องคุณเอง คุณอย่ากังวลไปเลย


…อวสาน…
………………….


 :o12:โฮ จบแล้ว เป็นนิยายที่ใช้เวลาเขียนนานที่สุด (เพราะหล่อนดองนานนั่นเอง) :katai2-1:
จบแบบไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร อย่าถือสาหาความกันเลยนะคะ
แถมดันทิ้งท้ายคู่สามพีไว้เสียอีกพล็อตเรื่องมีแล้วขาดแค่ความขยันเท่านั้น
ตอนพิเศษของคุณออยกับหมอคีย์นั้นมีอยู่ในเล่มนะคะ แต่จะพยายามหาเวลามาแต่งตอนเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้อ่านพอให้หายคิดถึง
สำหรับเรื่องใหม่ (ที่ไม่ใช่สามพี) ตอนนี้แต่งได้ยังไม่ถึงครึ่งเพราะเพิ่งรวมเล่มเรื่องนี้เสร็จ ถ้าหากเป็นนักเขียนท่านอื่นคงเสร็จไปนานแล้ว แต่เนื่องจากเป็นอิป้าที่คอยแต่จะวอกแวก ก็เลยช้ากว่าเขา
สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรจะมอบให้นักอ่านที่รักทุกท่านนอกจากคำขอบคุณในทุกๆ คอมเมนท์ อ่านทุกข้อความเลยนะคะ รักนักอ่านทุกท่านมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ก็บอกว่าบ้านนี้เข้าแล้วหาทางออกไม่ได้ มันดีอย่างนี้นี่เอง
รักทุกคนมากๆ นะคะ  :mew1:


ป.ล. เรื่องความรักของพี่ปืนนั้นจะมีอยู่ในเรื่องต่อไปค่ะ (ซึ่งยังคิดชื่อเรื่องไม่ได้ ช่วยคิดหน่อยก็ดีนะ) :mew3:

ป.ล.2 ถ้าอยากพูดคุยกับข้าพเจ้าติดต่อได้ที่นี่เลยจ้า https://www.facebook.com/kwang.kornwarin

รูปการ์ตูนน่ารักๆ จากฝีมือน้องwanmai ค่ะ

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ Eliz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
จบแล้ว ใจหายเลยจ้า แต่ก็ขอบคุณคนแต่งที่มอบเรื่องดีๆ ให้ได้อ่านนะคะ

ชอบเรื่องนี้มากเลย แล้วจะรอตอนเป็นเล่มต่อไปค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
จบแล้วเหรอ อยากอ่านต่ออ่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Baruda

  • มีความสุข
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
หมอมะรุมพี่เสือรวมตัวแสบด้วย เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ

ออยกับหมอคิม ลงเอยกันแบบมีความสุข เป็นคู่รองที่ดีทั้งสองคนเลย

 :pig4: นักเขียน ชอบเรื่องนี้มาก สนุกครบรส แรกๆอ่านไปด่าเสือไปซะเยอะ เอิ้กๆ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
จบแล้ว น่ารักมากๆ <3

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจ
อยากอ่านตอนพิเศษของอาออยจัง ฮิ้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
จบแล้วววว นี่จะต่อเรื่องพิกเล็ตกับพี่ช้างเลยไหมคะ. 5555565.  แลดูกดดันคนเขียน

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
จบได้สมบูรณ์แล้วค่ะ ขอบคุณคนแต่งมาก ๆ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
จบแล้วประทับใจมาก

อยากได้ผู้ชายแบบพี่เสือ

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องค่ะ
ชอบเรื่องนี้มาก ถึงตอนแรกจะรู้สึกอยากฆ่าพี่เสือบ้ากามให้ตายก็เถอะ
แต่เนื่องจากช่วงหลังๆสุภาพขึ้น แถมยังดีกลัวเมีย เอ้ย...เคารพเมียมากขึ้น เราจะให้อภัย 555

คู่พิกเล็ตกับช้างนี่ยังไง อยากอ่านคู่นี้ต่อจังเลย  :o8:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เห็นอนาคตของพิกเล็กมารำไรเลยค่ะ  :katai3:

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ขอบคุณมากค่ะ จะติดตามไปทุกๆเรื่องๆค่ะ

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขอตอนพิเศษๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4:
คู่คีย์ออยก็ได้ คู่ปืนโยก็ได้ แอร๊กกกกกกกกกกกกกกก  :katai1:

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
อาออยกับหมอคีย์ มุ้งมิ้งๆอ่ะ >/////<

สงสารปืนเบาๆ

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
อ่่าจบแล้วววว

สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ




อย่างที่บอกว่าไม่ชอบอ่านสามพี แต่อยากอ่่านสามพีของปืนทำไมก็ไม่รู้>\\\<


จะรอนะคะ

ออฟไลน์ Vavaviz

  • oONaMMOo
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-4
จบแล้วอ้ะ~

ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ~ รออ่านเรื่องพิกเล็ต(?) อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด