ตอนพิเศษ Jigsaw.วันเสาร์ ตื่นนอนอาบน้ำลงมากินข้าว ตาลาไตก็เห็นฟางก้มหน้าก้มตาอยู่กับจิ๊กซอว์ ไอ้ตัวต่อหลายพันชิ้นที่ครอบครองพื้นที่มุมหนึ่งของหน้าครัว
เออนะ ขนาดจะเล่น ฟางก็ยังคงเป็นฟางที่แอบหลบอยู่มุมหนึ่งของบ้านเพื่อที่จะเล่นของเล่นอยู่ดี
ส่วนคิ้วคมนั่นก็ขมวดแน่นอยู่ตลอดเวลา
...เกมนี่มันเครียดขนาดนั้นเชียวหรือ...
“ฟาง วันนี้ไปไหนหรือเปล่า”
“ไม่ครับ วันนี้ฟางอยู่บ้าน”
“งั้นมากินข้าว วันนี้พี่ไปมหาวิทยาลัย”
“พี่กินก่อนเลย เดี๋ยวฟางไปกิน” ฟางบอกโดยที่ไม่หันมามองพี่สักนิด
“ไปเอามาจากไหนน่ะ”
“ห๊ะ” ฟางเงยหน้ามองคนถาม
ตาลาไตชี้ไปที่กองตัวต่อที่มุมห้อง “นั่นน่ะ ไปเอามาจากไหน”
“ซื้อมา” ตอบแล้วฟางก็หันไปหยิบชิ้นส่วนเล็กๆ ขึ้นมาวางทาบลงไป แล้วก็เอาไปรวมไว้ที่กองด้านข้าง
ดูท่าทางแล้วนี่จะเป็นงานหนัก เพราะชิ้นส่วนที่ต่อเป็นรูปร่างยังไม่ถึง 10 ชิ้น
“เล่นมาตั้งแต่กี่โมงเนี่ย” พี่ถามไปเรื่อย ขณะกินอาหารเช้า
“ก็ทำข้าวให้พี่เสร็จก็เทกล่องเล่น สัก....” หนุ่มตัวผอมเงยหน้ามองนาฬิกาที่ผนัง “สัก 7 โมงได้มั๊ง”
“อ๋อ...” งั้นก็ประมาณครึ่งชั่วโมง
แต่จนพี่กินข้าวเช้าเสร็จ ฟางก็แค่ยืดตัวขึ้นมาทุบไหล่แล้วก็ก้มหน้าจมอยู่กับตัวต่อ ยังไม่ลุกขึ้นมากินข้าว
“ฟาง พี่ไปมหาวิทยาลัยแล้วนะ”
“ครับ”
ฟางขานรับแต่สายตายังมองภาพที่กล่องสลับกับตัวต่อในมือ
ส่วนตาลาไตหันไปมองอาหารเช้าบนโต๊ะอีกที
“ฟาง มากินข้าว พี่จะไปมหาวิทยาลัยแล้ว”
“ครับ”
“ครับก็ลุก” น้ำเสียงพี่เข้มขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าเป็นเวลาปกติฟางจะต้องรีบลุกมากินข้าว หรือไม่ก็ไปเตรียมเปิดประตูให้
แต่วันนี้ ขนาดจะหันมามองยังไม่หันมาเลย
“ฟาง ต้องให้ดุกันมั้ยเนี่ย”
“เดี๋ยวฟางก็ลุกไปกินเองน่ะแหละ”
“กี่เดี๋ยวแล้วเนี่ย ลุกเดี๋ยวนี้!” ตาลาไตก้าวเข้ามาดึงแขนผอมๆ ให้ลุกขึ้น
“พี่อะ” ฟางร้อง แต่พอเริ่มบ่น ตาลาไตก็บ่นไม่หยุด
“กี่ขวบกันแล้ววะเนี่ย”
“อะๆๆ งั้นฟางไปเปิดประตูบ้านให้พี่ แล้วกลับมากินข้าวก็ได้” ฟางแกะมือแข็งๆ แล้วรีบคว้ากุญแจบ้านไปเปิดประตู แต่ตาลาไตยังบ่นอยู่
“ตื่นแต่เช้ามาก็เล่นจนไม่รู้เวล่ำเวลา ข้าวไม่กิน หนังสือไม่อ่าน แล้วพอพี่ไปทำงานก็ไม่กินข้าว เล่นแต่เกมนี่แหละ”
คุณน้าข้างบ้านกำลังรดน้ำต้นไม้ได้ยินเสียงตาลาไตบ่นเรื่องฟางเล่นเกม ก็ยื่นหน้ามาแสดงความเห็น
“เด็กๆ ก็งี้แหละติดเกม”
“ตื่นมาแต่เช้าเพื่อเล่นเกม” คนตัวโตหันไปฟ้อง
“เอาน่า” คุณน้าโบกมือ “ถือเสียว่า ยังอยู่ในบ้าน ถ้าออกไปข้างนอกสิเหนื่อยใจ ฟางเดี๋ยวถ้าจะไปตลาดน้าฝากซื้อของด้วยนะ”
“ครับ” ฟางยิ้มแป้น ตาลาไตก็เลยชี้บอก
“งั้นปิดประตูให้พี่แล้วก็ออกไปซื้อของเลยนะ เพราะถ้าลองกลับไปเล่นเกมละก็ไม่ได้ซื้อของแน่ๆ”
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่อดีตนายตำรวจคาดไว้ เพราะเมื่อกลับมาในตอนบ่าย อาหารเช้ายังวางอยู่บนโต๊ะ เสื้อผ้าเมื่อวานก็ยังอยู่ในตะกร้าข้างเครื่องซักผ้า
และฟางก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม มีเพียงแก้วน้ำอัดลมวางอยู่ข้างตัว
“ฟาง”
“ครับ”
ฟางสะดุ้งหันไปมองนาฬิกาแล้วเหลียวมองไปรอบตัว วินาทีถัดมาคือพุ่งไปที่โต๊ะอาหาร เก็บอาหารเททิ้งแล้วรีบล้างจาน
“ทำงานอยู่”
“ใช่ ทำงานอยู่” พี่กอดอกทำหน้านิ่งมองคนที่รีบทำงานทุกอย่างภายใน 2 นาทีรวมถึงผ้าที่ลงไปอยู่ในเครื่องซักเรียบร้อย
งานเฉพาะหน้าเสร็จแล้วก็จริง แต่ฟางก็รู้ตัวว่าวันนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกไปจากเล่นตัวต่อทั้งวัน
หนุ่มตัวผอมยิ้มแหยเมื่อเดินมายืนประสานมือยิ้มแห้งๆ อยู่ข้างหน้าพี่
“พอพี่ออกไปทำงานแล้วฟางออกไปซื้อของหรือเปล่า”
ฟางรีบพยักหน้าเร็วๆ แล้วจ๋อยเหมือนเดิมเมื่อพี่ถามคำถามต่อไป
“กินข้าวหรือเปล่า”
ฟางส่ายหน้า
“ขึ้นไปเก็บห้องข้างบนหรือเปล่า”
ฟางส่ายหน้า
“อ่านหนังสือ ทำรายงานของตัวเองมั้ย”
ส่ายหน้าอีกที
“แบบนี้เรียกว่าติดเล่นหรือเปล่า”
ฟางก้มหน้า “ขอโทษครับ”
“ขอโทษใคร”
“ขอโทษพี่”
“พี่เกี่ยวอะไร”
“อ้าวก็...”
ปกติก็เชื่องช้าอยู่แล้ว พอโดนพี่ซักถี่ยิบชักเริ่มงงตัวเอง เมื่อกี้ตอบพี่ไปว่าอะไรนะ
“ฟางมัวแต่เล่น ไม่กินข้าว ไม่ทำการบ้าน ไม่ทำรายงานของตัวเอง ใครหิว ใครทำสอบไม่ได้ ใครไม่มีงานส่งอาจารย์ พี่หรือเปล่า”
ฟางลูบท้ายทอย “มันเพลิน”
“ขนาดจิ๊กซอว์ยังขนาดนี้ นี่ถ้าเล่นเกมคอมพิวเตอร์ พี่ไม่ต้องเอาคอมพ์ออกไปทิ้งเลยหรือไง”
“พี่อะ ก็มันยาก”
พี่ส่ายหน้า “ไม่หรอก”
“ยากจริงๆ นะเนี่ยยังได้ไม่เท่าไหร่เลย” ฟางชี้ไปที่ตัวต่อที่มุมห้อง ที่แทบไม่มีอะไรเพิ่มเติมจากเมื่อเช้า
....เออ มันก็เล่นอึดเหมือนกันนะ เป็นคนอื่น ถ้าต่อไม่ได้คงเลิกเล่นไปแล้ว...
ว่าที่จริงฟางก็ไม่เคยติดอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ละคร หรือหนังสือ โลกของฟางมีแค่บ้านนี้กับ....พี่...เท่านั้น
“พี่จะขึ้นไปอาบน้ำ เมื่อลงมา ต้องมีอาหารเที่ยงของฟางกับพี่ และฟางต้องกินพร้อมพี่”
ฟางเหลือบตามองกองตัวต่อที่มุมห้อง
“อย่าแม้แต่คิด ถ้าพี่ลงมาแล้วไม่เห็นอาหารวางบนโต๊ะ ฟางจะไม่ได้เจอมันอีก”
“ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ” ฟางต่อรอง ทั้งรอยยิ้มแปลกๆ ที่แสดงให้เห็นว่า พอพี่คล้อยหลังขึ้นไปฟางจะต้องเล่นตัวต่อแน่ๆ
“ลองดูมั้ย” พี่วางมาดดุอย่างต่อเนื่อง “ถ้าลงมาเห็นว่า ฟางอยู่ที่มุมนั้น พี่จะทำยังไง”
“ก็ได้ๆ” ฟางรีบหันไปเปิดตู้เย็นหยิบ กุนเชียงกับแตงกวาออกมา “ข้าวผัดกุนเชียงนะ แกงจืดเมื่อเช้ายังอยู่”
“มันอยู่เพราะใครไม่กินข้าวล่ะ”
“น่า พี่ไปอาบน้ำเถอะ แล้วลงมากินข้าว” ฟางรีบดันหลังพี่ขึ้นไปข้างบน
10 นาทีไม่ขาดไม่เกิน ฟางทำอาหารมื้อบ่ายเสร็จแล้วรีบเข้าห้องน้ำชั้นล่างอาบน้ำล้างหน้า ออกมาเห็นพี่ยืนอยู่ที่โต๊ะข้าวในครัว
“แฮ่..”
“ยังจะมาแฮ่ กี่ขวบกันเนี่ยเรา ต้องให้ดุเป็นเด็กๆ”
ฟางยิ้มเอาใจ รินน้ำใส่แก้วแล้ววางให้พี่ นั่งลงตรงข้าม
“พี่ไม่ได้กินมาจากมหาวิทยาลัยเหรอ”
“เปล่า ประชุมเสร็จเที่ยงครึ่ง เขาชวนกินข้าวก่อน แต่พี่มีลางสังหรณ์ว่าจะมีเด็กติดเล่นไม่กินข้าว ก็เลยกลับบ้าน ติดขนาดพี่เปิดประตูบ้านถอยรถ เดินเข้ามาจนถึงตัวยังไม่รู้เลย ถ้าเป็นขโมย ฟางคงบอกให้เขาขนของไปได้ตามสบาย”
ทั้งที่รู้ตัวว่าผิด แต่ฟางก็ยังทำหน้าเบี้ยวเมื่อตาลาไตกลับมาบ่นต่ออีกยก
นิ้วใหญ่ดีดเข้าที่หน้าผาก “ยังไม่สำนึกอีก”
“สำนึกแล้ว เนี่ยก็มาทำข้าวแล้วนี่ไง” ฟางลูบหน้าผากป้อย
“เออ กินข้าวได้แล้ว” พี่หันไปมองกองตัวต่อ “แล้วนึกยังไงถึงซื้อมา”
“กุ้งมันชอบเที่ยว เดลมันเลยซื้อเอาไปให้เล่น บอกว่าจะได้อยู่ห้องบ้าง ฟางก็เลยซื้อมาด้วย”
“แล้วมันกี่ชิ้นเนี่ย”
“5,000”
พี่เลิกคิ้วขึ้นสูง “เพิ่งหัดเล่น ทำไมซื้อเยอะ”
“ไม่รู้หรอก เดลมันหยิบยังไงก็ยังงั้นแหละ”
“เดลมันเลือกเยอะๆ เพราะจะให้กุ้งอยู่ห้อง แต่ฟางน่ะเพิ่งหัดเล่น ซื้อแบบ 250 ชิ้นก็พอ”
“เหรอ....” ฟางกัดช้อน “งั้นเอาอันนี้เก็บใส่กล่องแล้วไปซื้อใหม่ก็ได้”
“ฟาง.........” พี่ลากเสียง ฟางก็หัวเราะแหะๆ
ตั้งธงในใจอีกครั้ง ฟางไม่ใช่คนที่มีกิจกรรมอะไรในชีวิตมากมายนัก อยากให้เขาตั้งใจเรียนมันก็ใช่ แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็นับว่าฟางมีวิถีชีวิตที่ผิดจากคนในวัยเดียวกันมาก
“วันจันทร์มีงานอะไรต้องส่งหรือเปล่า”
“มีเก็บคะแนนบัญชีเบื้องต้น”
“งั้นให้เวลาอ่านหนังสือ 2 ชั่วโมง พี่จะทำงานบ้านเอง”
“แต่”
…ไม่ได้เลยนะ ให้พี่ทำงานบ้านเนี่ย ถ้าพ่อรู้ไอ้ฟางโดนตัดหัวเสียบประจานอยู่หน้าบ้านสวนแน่...
“อ่านหนังสือ ห้ามลุกจนกว่าพี่จะบอก นี่คือการทำโทษคนติดเล่นจนไม่ดูแลตัวเอง”
“ครับ แต่ขอล้างจาน กับเก็บผ้าจากเครื่องซักได้มั้ย”
“ไม่ได้ กินเสร็จ หยิบหนังสือไปอ่านที่โต๊ะทำงานพี่ พี่จะยึดครัว รวมถึงเครื่องซักผ้านั่นด้วย ที่ของฟางเหลือแค่โต๊ะทำงานเท่านั้น"
“โห พี่อะ โหด...”
“ไม่ได้อนุญาตให้คร่ำครวญด้วย กินเสร็จแล้วลุกไปหยิบหนังสือเลย”
ฟางกินข้าวเสร็จก็ขึ้นบ้านไปหยิบหนังสือลงมานั่งอ่านที่โต๊ะ หันมามองพี่ทำงานบ้านไปเรื่อย ตั้งแต่ล้างจาน เก็บผ้าในเครื่อง แล้วขึ้นไปกวาดถูห้องนอน เสร็จแล้วก็ลงมาล้างรถ
“ฟาง.......อ่านหนังสือ”
พี่ขานคำนี้เป็นระยะ
“พี่...เกิน 2 ชั่วโมงแล้วนะ”
“ยังไม่อนุญาตให้พูด”
“ก็แหม...”
“อ่านไป” พี่ฟอร์มเสียงดุ แล้วหันไปหัวเราะเบาๆ ให้กับถังน้ำ และรถคันเดิม
....ท่าทางจะต้องอยู่กันแบบพี่กับน้องไปอีกนาน....
พอ 4 โมงครึ่งพี่ก็เปิดตู้เย็น หยิบของสดออกมาวางเตรียมทำอาหารเย็น ฟางลุกมาชะโงกหน้ามอง
“ขอทำได้มั้ย”
ตาลาไตหันมามองคนหน้าจ๋อย “อ่านจบหรือยัง”
“จบแล้ว สอบเก็บคะแนนเอง”
“แล้วมันเป็นหน้าที่ของเราหรือเปล่า”
“ครับ” ฟางขายรับแล้วรีบชี้ไปที่ของสดที่พี่วางอยู่บนโต๊ะในครัว “นั่นก็หน้าที่ของฟางเหมือนกัน”
พี่ส่ายหน้าแล้วผายมือ “เอ้า เชิญ”
พอได้รับอนุญาตฟางก็รีบเข้ามาประจำที่ “กุ้งทำอะไร”
“กะเพรา พี่เห็นในกระถางที่ฟางปลูกไว้กำลังงามเลย”
“ได้เลย พี่ไปดูโทรทัศน์ดิ” ฟางดันหลังพี่ออกไปจากครัว
เอนตัวดูโทรทัศน์แล้วกลายเป็นผล็อยหลับไป จนฟางมาเรียกตอนเกือบ 6 โมงเย็น กลิ่นอาหารหอมไปทั่วบ้าน
“เหนื่อยละสิ” ฟางพูดยิ้มๆ เดินนำมาที่โต๊ะกินข้าว
นอกจากกะเพราที่พี่อยากกินยังมีหมูทอดกระเทียม ผัดบล็อกโคลี่แล้วก็แกงจืดผักกาดขาว
“โห” พี่ทึ่ง ขณะที่ฟางหัวเราะ
“อย่าเพิ่งท้วง ทุกอย่างมีแค่นี้แหละ รื้อๆ มามันมีอย่างละหน่อย เก็บหมูสับกับต้นหอมผักชีไว้ทำข้าวต้มพรุ่งนี้เช้า”
ตาลาไตยังทึ่งความประหยัดของฟางไม่เลิก “ถ้าพี่ไม่เอากุ้งออกมาผัดกะเพราฟางจะทำอะไร”
“ทำข้าวต้มกุ้งพรุ่งนี้เช้า”
พี่ล้างหน้าล้างมือแล้วลงมือกินข้าว คราวนี้ไม่ต้องให้สั่งฟางก็นั่งลงกินพร้อมกัน
“พักนี้ไม่เห็นออกไปเที่ยวกับเพื่อนเลย”
“ไปทีไร พวกมันจ่ายเงินให้ทุกทีเลยอยู่บ้านดีกว่า”
“ถ้าจะไปก็บอก พี่ให้เงินไปเที่ยว ขอแค่อย่าไปยุ่งกับยาเสพติด ไม่ไปร่วมอยู่ในกลุ่มที่เขามีเรื่องกันก็พอ”
ว่าที่จริง ตั้งแต่ฟางมาอยู่กรุงเทพฯ นับครั้งได้ที่ฟางไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นแค่ร้านเหล้า หรือร้านข้าวต้มใกล้มหาวิทยาลัย เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับหอพัก กลับบ้านตั้งแต่ยังไม่ 5 ทุ่ม อาจเพราะแต่ละคนไม่ใช่นักเที่ยว ดูจากโทรศัพท์ที่โทรมา มีแต่ถามเรื่องรายงานเรื่องการบ้านทั้งนั้น
“กินเบียร์กันคนละกระป๋องก็พากันเมาน้ำลายกลับบ้านดีกว่า ไม่มีตังค์ด้วยกันทั้งนั้น รวยสุดในกลุ่มก็คือไอ้เดลน่ะแหละ”
ฟางเล่าเรื่องเพื่อนแล้วหันไปมองกองตัวต่อที่มุมห้องเป็นระยะ
“กินเสร็จแล้ว เล่นได้หรือยัง”
“ได้ พี่เล่นด้วย”
ฟางมองหน้าพี่ แล้วมองไอ้กองตัวต่อที่มุมห้อง ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าพี่จะเล่นไอ้ของแบบนี้
พอล้างจานชามเสร็จ หันไปมองพี่กำลังขยับตัวต่อที่ฟางทำเสร็จแล้วไว้บนกระดาษหนา
“เอาโต๊ะตัวเล็กหน้าโทรทัศน์มา”
ฟางรีบไปยกโต๊ะมาตามคำสั่ง พี่ก็ค่อยๆ ประคองกระดาษวางบนโต๊ะ ซึ่งที่จริงพี่ไม่ต้องใช้ความสามารถพิเศษอะไร เพราะฟางต่อไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้น
เก็บของทุกอย่างวางบนโต๊ะ แล้วยกทั้งหมดกลับมาที่หน้าโทรทัศน์
พี่กับฟางนั่งกันคนละมุมโต๊ะ
ฟางหยิบตัวต่อสีฟ้าขึ้นมามองๆ แล้วก็วางลงไป แล้วก็หยิบอีกอันขึ้นมามอง แล้วก็วางลงไปใหม่
พี่ชี้ไปที่รูปบนกล่อง “ฟางต้องจัดหมวดหมู่สีก่อน ท้องฟ้าสีจะใสกว่าฟ้าของทะเล มีชายหาดสีน้ำตาล เขียวใบไม้ แยกตามสีของจิ๊กซอว์ แล้วก็แยกตัวที่มีขอบตัด เพราะมันคือขอบของรูปภาพ”
ฟางพยักหน้าหงึกหงัก ทำตามที่พี่บอก เริ่มจากกรอบของภาพพอเสร็จทั้ง 4 ด้าน หันไปมองพี่ปรากฏว่า ส่วนที่เป็นท้องฟ้าเสร็จไปมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
“โห พี่ไวสุดยอด”
พี่แค่ยิ้ม “ทำไมฟางเลือกรูปทะเล”
ฟางยิ้มเขิน “ก็...มันเป็นที่แรกที่เราไปเที่ยวด้วยกัน แล้ว....”
ตาลาไตแตะที่แก้มแดงเรื่อ “อาทิตย์หน้าไปเที่ยวกันอีกก็ได้”
ฟางพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า “มหา’ลัยพี่มีกีฬาไง”
“เออ ใช่” พี่มองตามคนที่หันไปหยิบตัวต่ออันใหม่ขึ้นมา
“ฟางต่อต้นไม้นะ”
ตาลาไตแตะปลายคางฟางหันมารับจูบ แล้วก้มลงหน้าผากแตะหน้าผาก
“ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเลยนะเรา”
“ก็พี่ต้องทำงานนี่นา”
ฟางเอียงหน้าเม้มริมฝีปากพี่เบาๆ “ไม่ได้ไปเที่ยวก็ไม่เห็นเป็นไร ฟางอยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีพี่” ริมฝีปากสวยจูบปลายคางพี่เรื่อยลงมาที่ลำคอ แล้วผละออก ยักคิ้วบางๆ แล้วหันไปหยิบตัวต่อ
“อ้าว....”
“อ้าวอะไร พี่ไม่มีหนังสือต้องไปอ่านหรือไง ไปอ่านหนังสือเลย เดี๋ยว 4 ทุ่มจะเรียกให้ขึ้นนอน”
ฟางทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
“อะไรของมันวะเนี่ย” พี่เริ่มจะบ่น แต่ฟางรีบชี้
“อย่ามาอะไรวะ สอนวิธีเล่นแล้วก็ไปอ่านหนังสือได้”
ตาลาไตอยากจับคนเริ่มฟัดให้จมเขี้ยว แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางตั้งใจของฟางก็ได้แต่หัวเราะหึหึ ลุกไปหยิบหนังสือมาอ่าน
ตื่นเช้าพี่ไม่ได้อยู่ในห้องนอนแล้ว ฟางรีบอาบน้ำล้างหน้าแล้วลงมาที่โต๊ะหน้าโทรทัศน์เป็นจุดแรก
“อะไรของเขาเนี่ย” ฟางเท้าเอวมอง
พี่จอดรถจักรยานหน้าบ้าน แล้วเข็นเข้ามาในบ้าน ฟางก็หันมาโวยทันที
“อะไรของพี่เนี่ย”
“ไม่ดีหรือไง วันนี้จะได้ไปพัทยากันไม่ต้องค้างก็ได้”
“ไม่!”
“อ้าว...”
“เนี่ย พี่มาต่อจนเสร็จได้ไง ฟางซื้อมาเล่นนะ ถ้าพี่จะเล่นพี่ก็ไปซื้อมาเองดิ”
พี่งง “ก็เมื่อวานใครอยากไปเที่ยว”
“อยากไปเที่ยว แต่มันคนละเรื่องกับที่พี่ต่อจิ๊กซอว์จนเสร็จนะ รื้อออกเลย แล้ววันนี้ฟางก็จะต่อใหม่ด้วย”
พี่หัวเราะขำ “ฟางเอ้ยฟาง”
“ไม่ต้องฟางเอ้ยเลย พี่อะ ทำจนเสร็จเลยอะ รื้อออกก็เสียดายเหมือนกันนะเนี่ย”
“แล้วเอาไง”
“ทำไมพี่ชอบขำเวลาฟางโวยวาย”
“เอ้า มาต่อเรื่องนี้แล้วโว้ย..” คราวนี้พี่ยิ่งหัวเราะอารมณ์ดี
“เรื่องเดียวกันแหละ” ฟางคว้าถุงของจากมือพี่ “ซื้อ’ไรมา”
“ปาท่องโก๋ กับนมสด”
พี่ตอบขณะที่เดินตามเข้าไปในครัว ฟางวางของแล้วหันไปเปิดตู้เย็น จะทำข้าวต้มมื้อเช้า แต่ก็กลับหยุดมองภาพตัวต่อที่พี่ต่อจนเสร็จแล้ว
“ทำไมไวจัง”
“ก็มันไม่ได้ยากอะไรนี่”
“รู้มั้ย ว่าไอ้การที่ทุกอย่างมันง่ายไปหมดสำหรับพี่น่ะมันน่าหมั่นไส้” น้ำเสียงอิจฉาจริงจังจนพี่หัวเราะอีกรอบ แล้วหยุดชะงักเมื่อมือผอมๆ ช้อนใบหน้าพี่ลงมาจูบ
“หมั่นไส้ อิจฉา แต่ก็รักมากที่สุดเข้าใจมั้ย”
คนตัวโตยิ้มกว้าง เข้าใจว่าฟางคงโกรธเพราะโดนพี่แย่งเล่นของเล่น แต่ที่ไม่ได้โกรธมากมายอะไรก็เพราะรู้พี่ตามใจ จะพาไปเที่ยวทะเล
ฟางดูดริมฝีปากพี่อีกครั้ง แล้วกระซิบข้างหู “ไม่ไปทะเลได้มั้ย”
“ได้สิ ฟางจะไปไหนหรือ”
“ขึ้นข้างบน”
“หือ” พี่เลิกคิ้วสูง มองนาฬิกามันยังไม่ 7 โมงเช้าเลย ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน
“กินข้าวก่อนไม่ได้หรือ”
“ไม่” ฟางหน้างอ “เมื่อคืนขึ้นไปก็นอนหันหลังให้ เช้านี้ก็ยังมาแย่งของเล่นอีก”
“อ้าว.....” พี่อยากอธิบาย แต่ตอนนี้ฟางไม่ได้อยากฟัง
“นับหนึ่งถึงสาม ไม่งั้นจะโกรธ”
“ฟังเหตุผลก่อนสิ”
“ไม่ฟัง หนึ่ง”
“ครับ ได้ครับ กลัวแล้วครับ อย่าเพิ่งโกรธนะ”
พี่รีบเดินไปปิดประตูหน้าบ้าน แล้วเดินตามน้องขึ้นไปข้างบน..............
*-*-*จบตอนพิเศษ*-*-*เคยเล่นอะไรเพลินจนไม่ได้ดูเวลาแบบฟางมั้ย ผมเป็นบ่อยมากกกกก ก็ปล่อยให้คนกลับมาเขาบ่นไป เพราะเขาก็บ่นไปทำไปทุกครั้งน่ะแหละ คิดว่าจะตั้งนาฬิกาไว้ ว่าจะเลิกเล่นก่อนเขากลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้ทำสักที
แล้วเคยโดนแย่งของเล่นแบบนี้มั้ย มันน่าโมโหที่สุดในโลก ยิ่งเวลาที่เขาหัวเราะขำที่เราโมโหนะ มันยิ่งอยากโดดขยุ้มคอ แต่เปลี่ยนเป็นใช้ให้ทำผัดซีอิ๊วให้กินดีกว่า <อิ่ม> ขืนลงไม้ลงมือแล้วเขาเป็นอะไรไป เราจะอด อะไม่ใช่สงสารพ่อแม่และเพื่อนๆ เขาน่ะ

ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
พี่ไจฟ์กับนายน้ำชา