ตอนที่ 13 มีอะไรอุ่นๆมาวางไว้บนปาก อุ่นจนต้องลืมตาขึ้นมองทั้งๆที่รู้สึกว่า เพิ่งหลับไปเมื่อกี้ วันนี้มันใส่เสื้อช๊อปคงมีใครชมมันเยอะแล้ว ว่ามันเท่ห์มากแค่ไหน ผมยิ้มทันทีที่ลืมตามาเจอมัน ดีจังที่เป็นมึง มึงรู้มั๊ย..
“ เป็นไง "
“ ห้องมึงสบายมากอะ " หลับเพลินจนไม่อยากตื่นเลย ผมเอนตัวไปเอาหมอนมันมากอดเอาไว้แน่นกลิ่นมันคุ้งอยู่ในหมอนใบนี้ สูดลมหายใจเข้าลึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ สุขจนอยากจะหลับอีกสักรอบแต่โดนมันตบหัวเบา ไม่เจ็บครับเลยไม่ใส่ใจ
“ หิวยัง "
“ หิว แต่กูอยากกินไก่อีก มึงจำได้มั๊ย ไก่ที่เราไปกินด้วยกัน "
“ สยามนะ " มันทวนเสียงผมเลยหันไปมอง แค่งงว่า สยามแล้วทำไมว่ะ ก็ไปดิ บีทีเอสก็หน้าคอนโดมึงตรงนี้เอง แต่ผมเองก็ต้องเงียบครับ คำตอบอยู่ที่หน้ามัน มุมปากมันมีรอยเหมือนโดนต่อย
“ มึงไปทำอะไรมาว่ะ " บางทีคำตอบก็เป็นสิ่งที่ผมรู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องถามก็ได้
“ กู ... " มันลากเสียงยาวเหมือนไม่รู้จะอ้างผมว่าอะไร
“ กินข้าวไข่เจียวดีกว่าว่ะ มึงทำนะ "
“ เออ " เห็นมันเดินออกไป จะบอกว่าหงุดหงิดก็ไม่ใช่ เพราะมันก็เจ็บไปแล้ว น่าจะไปมีเรื่องกับไอ้พี่เทมแน่ ไม่เข้าใจว่ามันจะมาอะไรมากมายกับคนแบบผม ที่ไม่ได้กังวลเรื่องนั้นขนาดนั้น ถ้าใจของผมสบายใจแล้วทุกอย่างคือจบ คิดแบบนั้นเสมอ
“ หอมเหี้ยๆ น่ากินว่ะ " ผมสูดลมหายใจตามกลิ่นออกไป ยอมรับเลยครับท้องผมร้อง น้ำลายไหลไม่อายอะไรทั้งนั้น เดินไปตักข้าวพูนๆชามหยิบช้อนหยิบส้อม มารอมันบนโต๊ะแล้วครับ
“ เออ ไม่ตักเผื่อกูเลยนะ " ทำเป็นไม่ได้ยินครับ พอมันวางไข่เจียวหมูสับผมก็ลงมือกินไม่รอมันเลยครับ
“ มึงนี่น่าไปเปิดร้านข้าวไข่เจียวที่ม.กูนะ ขายดีแน่สัด "
“ ม.มึงเค้ากินกับข้าวธรรมดากันด้วยเหรอว่ะ "
“ก็คนเหมือนมึงนะ " ผมมักพูดแบบนี้กับมันเวลาที่มันมักชอบบอกผมว่า ของแบบนั้นที่มหาลัยผมไม่ใช้ อันนั้นเด็กที่มหาลัยผมไม่กิน ของที่มันดูไม่แพงทั่วไป หรือข้างถนน จริงๆเรียนเอกชนก็ไม่ได้หัวสูงเสมอไปนะ ยืมกู้เรียนก็มี เด็กทุนก็มี แค่ส่วนใหญ่มันกลบคนส่วนน้อยก็แค่นั้น
“ โกรธกูอีกละ "
“ กูโกรธมึงมาตั้งแต่เมื่อกี้นะ รู้สึก "
“ น่า... " ลากเสียงยาว เป็นอารมณ์ว่า ไม่น่าใส่ใจตามสไตส์มัน เป็นคำพูดที่บอกผมว่า อย่ากังวลไปเลย
“ ฮิม ที่กูไม่สน ไม่ใช่ว่ากูเห็นด้วยกับมึง แต่ที่กูไม่พูดเพราะกูไม่อยากมีปัญหากับมึง มึงอย่าโง่เรื่องแค่นี้ ไปเจ็บตัวทำไม ไร้สาระ "
“ มึงไม่ไร้สาระสำหรับกู "
เงียบ..ทุกอย่างเงียบสงบ เรามองหน้ากันสักพักเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอของผม.. ผมไม่ได้ไร้สาระสำหรับมัน.. งั้นก็หมายความว่า ผมเป็นคนสำคัญของมัน คนของสำคัญงั้นเหรอ.. คนของหัวใจงั้นสินะ.. หัวใจของผมหยุดเต้นอยู่ตรงนี้ สบสายตาที่เด็ดเดี่ยวของมัน สายตาที่มองมาเพียงแค่ผมคนเดียวเท่านั้น ผมก้มหน้าลงรู้สึกไข่เจียวตรงหน้าอร่อยอย่างบอกไม่ถูก
“ อะ เอาไป " ผมตักไข่เจียวราดซอสพริกไว้แล้วให้มันบนจาน ท่าทางที่ดูมันเหมือนงง ยังไม่กินสักที " ทำไมไม่กิน "
“ อะไร ? "
“ ขอบใจนะมึง ที่เห็นว่ากูก็สำคัญ " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลงกินข้าวตรงหน้า หัวใจในช่วงอกเต้นแรง มันคงเหมือนกับผม เห็นรอยยิ้มนั่นแล้วรู้สึกดี แม้จะมีรอยซ้ำๆ แต่มันก็เป็นเหมือนสิ่งที่บอกบางอย่างกับผม
คนที่เห็นความสำคัญของเรา ในช่วงเวลาที่เราคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร.. คนที่แคร์เรา แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผมว่า.. มันก็ น่ารักดีนะ
...............................................
คืนนี้เป็นอันว่าต้องนอนที่นี่ตามคำชวนของคุณชายเค้าครับ น้องสาวมันไปนอนบ้านเพื่อนเพราะทำรายงาน จริงรึเปล่าหว่า ไม่อยากถามครับเดี๋ยวมันต่อย ไอ้ฮิมนั่งทำการบ้านอยู่ข้างๆผม ส่วนผมก็ดูละครช่องน้อยสีครับ ไม่ได้เล่นคอมก็ติดละคร
“ เป็นเหี้ยอะไรว่ะ " ผมหันไปสนใจมันหน่อยครับ เห็นกดคอมรัว สงสารเลยครับ ปุ่มนี่แทบมองไปเห็นอักษรอะ มึงใช้ได้ไงว่ะ สัด
“ นั่นคอมเหรอว่ะ "
“ เออ "
“ กูคิดว่าแท่งโลหะพับได้เมื่อสองร้อยล้านปีก่อน "
“ สัด " สถบแบบนั้นแต่ก็ไปสนใจคอมของมันต่อ เห็นคอมมันค้างครับ ขึ้นตัวอะไรสักอย่าง ท่าทางหงุดหงิดน่าดู " ยังไม่ได้เซฟด้วย ห่าเอ้ย " เริ่มมีขยี้หัวตัวเองแล้วครับ ผมเลยตัดสินใจย้ายไปนั่งข้างมัน
“ มากูดูให้ " แปลกครับ พอผมจับคอมแล้วเหมือนมีผีสิง มือมันจัดการทุกอย่างได้เอง อัตโมมัติ คลิกสองสามที ผมก็กดเซฟงานของมันให้มันทำต่อได้เลยครับ
“ มึงทำได้ไงว่ะ " อึ้งไปเลยสิครับน้องฮิม ท่าทางมันบอกผมแบบนั้นครับ
“ ก็กูเรียนคอม มึงเสือกเปิดเยอะ หน้ามันเยอะคอมมึงเก่ามันก็ค้าง ไวรัสก็มี เสือกไม่ล้าง แปลกมั๊ยที่คอมมึงจะค้างนะ รีบทำงาน เดี๋ยวกูล้างให้ "
“ เรื่องจริงเหรอว่ะ กูคิดว่ามึงกับเพื่อนพูดเล่นๆ "
“ เรื่องไรว่ะ "
“ ก็เรื่องที่มึงสอบได้มหาลัยกูแต่ไม่เอา ไปเอาอันนี้แทน "
“ ก็จริง " ผมตอบมัน
“ ทำไมมึงไม่เสียดายเหรอ "
“ ไอ้เหี้ยฮิมกูจะดูละคร แปปนึงได้ป่ะว่ะ เหี้ยกูลุ้นขี้จะแตกแล้วเนี้ย " มันเงียบปากของมันจนละครพักเบรคจริงๆครับ หันมองมันตอนโฆษณาอันแรกฉายนี้หน้าเม่งโคตรฮาอะ เหมือนมันจะตั้งใจจะถามผมมากๆ อะๆ ตอบพี่แกหน่อย
“ มึงไม่เสียดายเหรอ "
“ ไม่ "
“ ทำไม "
“ ก็กูไม่ชอบของมึงมันวุ่นวาย กฏเยอะกูรำคาญ กูชอบอะไรที่มันสบายๆ ฟรีๆ ตัวใครตัวมัน มากกว่าอารมณ์รุ่นพี่รุ่นน้องของมึง เท่านั้นเอง "
“ ประหลาดว่ะ "
“ คนเรานะมึง จะเก่งจะดี มันไม่ได้อยู่ที่ชื่อของมหาลัย มันอยู่ที่นี่ " จิ้มลงตรงหน้าผากสองสามที " สมอง "
“ หลักการไอ้สัด วันก่อนยังปากซีดตัวสั่น เพราะแค่บัตรบีทีเอสเงินหมดอยู่เลย ห่า "
“ เชี้ย " ด่ามันแล้วหันมาสนใจทีวีตรงหน้าต่อ พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าครับ แต่ไอ้ฮิมมันไม่มีเรียน สบายไปเลยสิมึง นั่งซ่อมคอมให้มันจนเสร็จ ลงโปรแกรมเป็นเรื่องง่ายๆของผมครับ อยู่บ้านสิงแต่ร้านคอมของบ้านไอ้เชน ซ่อมเป็นทุกอย่างรายได้หลักสมัยม.ปลาย
“ โอเคยังว่ะ "
“ โอเคละ กูว่ามึงซื้อใหม่เถอะ มันเก่ามากแล้วอะ " จากใจเลยครับ น่าสงสารมันเหมือนกัน บ้านก็มีตังค์ทนทำไมว่ะ
“ ไม่เอาอะ มันยังใช้ได้ อีกอย่างกูเพิ่งขอแม่ซื้อมือถือใหม่มา "
“ เออ แล้วแต่มึง "
“ มึงนอนได้ละ พรุ่งนี้เรียนเช้าไม่ใช่รึไง " พูดไปก็เดินมาตบหัวไล่ผม ทำตัวไม่ต่างจากพ่อกูเลย
“ กูยังไม่ง่วงว่ะ "
“ ไม่อดนอนไปเรียนนี่ไม่ใช่มึงใช่มั๊ย " น่าน รู้ทันกูอีก
“ เออ กูก็นอนก็ได้ว่ะ บ่นว่ะสัด " วันนี้สบายที่ชุดครับ ที่นอนไอ้ฮิมกว้างมาก ห้องมันตกแต่งโทนดำๆ เท่ห์มากรู้สึกน่านอนอย่างบอกไม่ถูก ล้มตัวลงนอน เอาหมอนมันมากอดก็ถูกตบหัวอีกที
“ สัดแล้วกูจะนอนกับอะไร เอาหมอนกูมา "
“ มึงมีอะไรให้กูกอดมั๊ยว่ะ กูติดหมอนข้าง "
“ แปป " มันว่าก่อนจะเดินออกไป ข้างนอกห้องสักพักครับ แต่ก็เห็นกลับมามือเปล่า
“ ไหนว่ะหมอน "
“ ไม่มี " หน้าตามันเฉยได้อีกครับ ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนข้างผม ที่ไม่รู้จะทำยังไงครับ เลยม้วนผ้าห่มเป็นก้อนๆแล้วจับกอดเม่งเลยครับ สบาย
ตกดึกก็ยิ่งรู้สึกสบายครับ อุ่นจนรู้สึกดี กลิ่นหอมเข้มๆที่ผมได้กลิ่นทำเอาไม่อยากตื่น มือของผมกอดหมอนในความคิดของตัวเองแน่นกว่าทุกคืนที่ได้กอดครับ ไม่ได้ลืมตาขึ้นมองด้วย แม้จะรู้สึกเย็นๆที่หน้าผาก แก้ม และริมฝีปาก..เป็นอีกคืนที่ ฝันดี
...............................................
“ อื้อออออ " ผมพลิกตัวอีกทีที่รู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างมาตีเบาๆที่หัวครับ หลับตานอนต่อไม่สนใจ มันก็ยังตีเบาๆไม่หยุด " อะไรว่ะ "
“ ตื่น จะสายแล้วมึง "
“ กูมีเรียน " ครับ ผมมีเรียน แต่ก็นอนนิ่งแบบนั้น " อีกห้านาที "
“ หมดเวลา " พ่อมึงสิกูยังไม่ได้หลับตาเลย เร็วไปไหนสัด สุดท้ายมันก็ลากผมลงจากเตียงได้สำเร็จครับ อาบน้ำเสร็จผมจึงได้มาพิจารณาว่า วันนี้มันแต่งตัวดูดี เกินไปหน่อยที่จะอยู่บ้าน
“ มึงจะไปไหนว่ะ "
“ ไปกับมึงไง " หน้าตามันเฉยได้อีก
“ ไปทำไม "
“ กูโทรถามไอ้ไฟเพื่อนมึงแล้ว มันบอกคราสนี้ เอาเพื่อนเข้าไปนั่งเรียนได้ อาจารย์ไม่ซีเรียส " ครับ กูอยากจะฆ่าไอ้ตัวต้นเหตุจริงๆ มึงจะไปบอกมันทำเพื่อ แค่นี้กูยังดังไม่พอรึไงว่ะ เหี้ยเอ้ยยยย
“ มึงจะไปทำว่ะ มีอะไรน่าไป "
“ วันนี้มึงอยากจะกินอะไร หลังเลิกเรียน " เดี๋ยวนะ นี่มึงกำลังพากูเปลี่ยนประเด็น
“ กูอยากกินซูชิว่ะ เอาอร่อยๆนะมึง "
“ เลิกเรียนกูพาไป ป่ะ ไปกันได้ละ..” สัดเนียนจูงมือกูออกจากห้องเลยครับ เหี้ยไง จริงๆเลย ชวนคุยเรื่องอื่นทีไรเรื่องเก่ากูลืมหมด เลยต้องเลยตามเลยครับ คราสนี้วิชาวาดภาพเบื้องต้นครับ ไม่ซีเรียสอะไรสักนิด อาจารย์แนวมาก ติดแค่มึงทนเสียงไอ้สองสาวปากนรกนั่นให้ได้เถอะ
“ ต๊ายยยยยยยยยยยยย ตายแล้ว เมื่อวานหนึ่งหนุ่ม วันนี้หนึ่งหนุ่ม นี้มึงกะคั่วจนไม่เหลือถึงกูเลยเหรอ " ปากมันครับ กล้าหาญชนิดที่กระเทยยังต้องอาย อีเนียมันรีบปรี่เข้ามานั่งข้างไอ้ฮิมเลยครับ ไอ้นี่ก็นิ่งซะ แปลกครับผมคิดว่า ยิ่งมันนิ่งเท่าไหร่มันยิ่งเท่ห์เท่านั้น
“ ตลก ไอ้สัด "
“ สุดยอดเลยว่ะมึง " ไอ้บอทครับ มันเดินมาสมทบเข้าใกล้ไอ้เนีย ก่อนจะเอาสันหนังสือตีหัวสาวๆคนละทีเป็นการทักทาย
“ เหี้ย ไอ้ห่า กูทำผมนานนะมึงวันนี้ เดี๋ยวกู ฆ่าเลย " ไอ้เหมือนจัดผมตัวเองใหญ่เลยครับ มันหวงผมของมันมากจริงๆ ผมหน้านี่เป๊ะทุกวัน
“ มึงอยากกินอะไรเปล่า เดี๋ยวกูไปซื้อให้ "
“ เอาที่มันอร่อยอะ "
“ ข้าวมันไก่ป้า " ไอ้เนียเสนอครับ
“ กูเคยกินแล้ว " มันหันมาบอกผมแล้วก็ยิ้มให้ไอ้เนียที่ก็ยิ้มตอบครับ ผมว่ามันเป็นคนที่น่ารักมาก ดูแรงๆกล้าๆ แต่ความจริงมัน ใสมากครับ คุณหนู ขับรถมาเรียนตัวคนเดียวหรือนั่งบีทีเอส ชิวๆสบายๆ มันเป็นคนสวยแบบที่ผู้ชายมองต้องเหลียวแต่ไม่กล้าจีบเพราะความแรงของมันนั่นละ
“ กินขนมดีกว่า ไปสหกรณ์ " มันลุกขึ้นเดินตามผมออกไปครับ เราเลยได้ขนมสองสามอย่างมาจากร้าน แล้วเดินเอามากินที่เดิม
“ แล้วนี่ พี่ฮิมเรียนคณะอะไรเหรอค่ะ "
“ วิดวะ โยธาครับ "
“ ว๊ายตาย เท่ห์อะค่ะ ท่าทางจะยากโน๊ะ เรียนที่นั่นคงกดดัน มีแต่คนเก่งๆ "
“ ไม่เสมอไปหรอก ก็เหมือนกันนะ พี่ว่ามันก็มีทั้งคนเก่งคนไม่เก่ง "
“ ใช่ค่ะ หน้าอย่างมันจึงเป็นตัวเกร็งเกียรตินิยมของปีเราค่ะ หน้าตาโง่ๆแต่มันเก่งมากนะค่ะ สอบนี่ท๊อปตลอดอะ " ไอ้เหมือนสปอยชีวิตผมในรั้วมหาลัยให้ไอ้ฮิมฟังครับ เห็นมันหันมาเหล่เหมือนไม่เชื่อ
“ ให้กูจบปีหนึ่งก่อนเถอะเหี้ย "
“ พี่รู้มั๊ย วันที่มันมาเรียนที่นี่ครั้งแรก เม่งจาก สถานีเอกมัยมามหาลัย เม่งเดินทางสองชั่วโมงอะ เม่งงมทางอยู่ที่บีทีเอส โคตรบ้าอะ "
“ พ่อมึง "
“ แล้วมันนะ ก็ชอบเข้าห้องผิดด้วย ทำเหมือนพี่รู้ตลอด แต่ความจริงไม่เลยค่ะ " ได้ยินเสียงหัวเราะจากทั้งกลุ่มยกเว้นตัวกูครับ ผมไม่ชอบให้ใครรู้ว่าผมโง่ เกลียดพอๆกับใครขู่ฆ่าพ่อคัวเอง แต่จุดนี้ เลยได้แต่ทำหน้านิ่งๆ
“ เค้าไม่ชอบอย่าล้อเค้า พวกมึงนี่ ดูหน้าเพื่อนก่อน เดี๋ยวมันพ่นไฟใส่เรียงตัว "
“ มึงนั่นละตัวดี ไอ้เชี่ยบอท! ”
“ ฮ่าๆ ก็มึงน่ารักอะ พวกกูชอบแกล้งเพราะมึงเป็นแบบนี้ละ มึงน่ารักจะตาย โคตรน่าแกล้งอะ ดูทำหน้า " ไอ้เหมือนมันหยิกแก้มผมอีกแล้วครับ เออเอาซะให้พอพวกมึง
“ พี่ฮิม ว่าม่ะ มันน่ารักจะตายโน๊ะ วิ้วววววว "
“ อะไรของพวกมึง ไปๆ ไปเรียนสัด ได้เวลาแล้ว " ผมลุกขึ้นคนแรกเลยครับ เห็นท่าทางส่ายหน้าระอาของไอ้บอทที่กอดคอสองสาวขึ้นเรียน ตามด้วยผมกับไอ้ฮิมที่เดินตามหลัง แต่มันก็คว้ามือผมให้หยุดเดินไว้ “ อะไรว่ะ "
“ กูคิดเหมือนน้องเค้านะ "
“ อะ.. " หน้าแดงฉับพลันแถมยังไม่ได้เกิดจากความร้อนอีก เพราะมึงเลย
“ หึ.. มึงเขินน่ารักว่ะ " ท่าทางที่ไม่สนใจของมันน่าซัดหมัดมากครับ เห็นมันเดินออกไปแต่ใจผมยังเต้นแรงจนก้าวขาไม่ออกอยู่เลยครับ " ไหนมึงบอกว่ารีบ ไม่เข้าเรียนรึไง "
“ ไอ้เหี้ยเอ้ยยย " ยกนี้มันชนะผมครับ
ยิ่งกว่าคราสเชิญยิ้มอีกครับ ก่อนเข้าคราสกับหลังจบคราสนะ เพื่อนๆในห้องผมเงียบกริบพอเห็นมันครับ มันหล่อ แล้วก็ดูดี เป็นเหมือนของแปลกในถิ่นของเราครับ ห้องผมคนน้อยแบบนี้อีก ยิ่งไปกันใหญ่ครับ ใครหน้าแปลกมา รู้หมด
“ Grand Opening his name is him he is yun boy friend “ ไอ้เนียเสือกตอบทุกข้อสงสัยของทุกคนครับ เสียงปรบมือดังมาจากทุกทางจนผมได้แต่กุมขมับโดยมีไอ้บอทบีบไหล่อยู่ใกล้ๆ และไอ้ไฟก็ส่งยาดมมา
“ No! you misunderstood he is friend “
“ no! ” มาจากไอ้ฮิมเองครับ ทุกคนเลยพร้อมใจโห่สรรเสริญกันแบบพร้อมเพียง ไม่ได้เห็นใจหนังหน้ากูในคราสหน้าเลยนะ แสดด
“ พวกมึงจะไปไหนกันว่ะ เดี๋ยวกูไปส่งเปล่า " ผมมองหน้าไอ้ฮิมที่มันแค่ส่ายหน้า ความหวังดีจากเพื่อนผมที่มันก็พยักหน้าเข้าใจ
“ เสือกไอ้บอท เค้าจะไปจู๋จี๋กัน "
“ กูทราบครับอาเนีย แต่กูแค่อยากจะอำนวยความสะดวกให้ ไปส่งบีทีเอสอะไรแบบนั้น " มันเถียงทันทีเหมือนกันครับ ไอ้สองคนนี้
“ ความรักอะนะ ถึงมันจะลำบากแต่เค้าก็เต็มใจเพราะเค้าจะไปกันสองคน เข้าใจมั๊ย ควายอีกละ "
“ พวกมึง เพ้อเจ้ออะไรว่ะ กูบอกกี่ทีว่ากูเป็นเพื่อนกัน "
“ พี่ฮิมเล่าว่า เค้ากับมึงอยู่ด้วยกันเมื่อคืน " ไอ้เหมือนชี้หน้าผม แหม เร็วนักนะมึงมาเล่าเพื่อนกูตอนไหนว่ะ
“ แล้วไงก็เพื่อนกัน "
“ เค้าบอกด้วยว่าก่อนหน้านั้น เค้าจูบมึง "
“ พ่อมึงตาย! ไอ้เชี้ยฮิม มึงกลับเลยนะ สาด ปากหมาว่ะ " ผมหันไปหามันที่แค่ยักคิ้วให้กลุ่มเพื่อนผม ลากมันออกมาจากห้อง ที่ส่งเสียงโห่ร้องกันอย่างไม่อายใคร ถ้ากูทำได้กูขอล้างความทรงจำของมึงเดี๋ยวนั้นไอ้เพื่อนเหี้ย เพราะกูรับรองว่าเรื่องนี้ กูโดนแซวเป็นอาทิตย์แน่
“ มึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ "
“ เหี้ยย มึงบอกมันทำไมว่ะ "
“ แล้วทำไม มึงเขิน ? “
“ กูอายคน! อายที่จูบกับมึง “ แรงไปรึเปล่าคำพูดที่ตรอกหน้ามันกลับไปแบบนั้น มันหุบยิ้มทันที ทั้งๆที่เมื่อวานก็เป็นผมเองที่เริ่มจูบมันก่อน ปากกูบอกปาวๆว่าไม่ได้เป็น ไม่ได้เป็น แต่กูวิ่งไปจูบผู้ชายถึงห้อง เหี้ยไรว่ะกู
“ ไปกินซูซิเถอะ กูจะพาไปกินร้านอร่อย " มันเดินนำผมไปกดลิฟท์ครับ ด้านหน้าไม่มีใครอยู่แล้วเพราะมันเลยเวลาเลิกเรียนมาเกิน สิบนาทีแล้ว
“ โทษทีว่ะ " มันกดผิดไปเป็นชั้นห้าครับ ผมเลยกดเป็นชั้นหนึ่งอีกครั้ง ในตู้สี่เหลี่ยม ตอนนี้มันขึ้นไปที่ชั้นห้าก่อนแล้วครับ มันน่าอึดอัดถ้ายังต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ ผมไม่กล้ามองหน้ามัน เพราะมันเอาแต่ทำหน้านิ่งๆ รู้สึกหายใจไม่ออก ยังไงก็ไม่รู้ว่ะ เม่ง ลิฟท์จอดที่ชั้นห้า ไม่มีใครลงมันเลยปิดอีกครั้งแล้วก็ลงไปที่ชั้นหนึ่ง
“ ช่างเถอะ..”
“ เปล่า กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องอาย " ยิ่งหายใจลำบากขึ้นมาทันทีเลยครับ เวลาที่หันไปเห็นมันมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ผม ความรู้สึกมันสั่งมือของผมให้คว้ามือของมันเอาไว้เองโดยไม่พึ่งสมองเหมาะสมไม่เหมาะสมเอาไว้ก่อน ผมจับมือมันแน่นจนมันยังต้องหันเหล่ ร้อนตรงหน้าจนแทบจะไหม้ใจก็เต้นแรงก้มหน้าดีกว่ากู
“ กะ กู .. กูไม่ได้อาย แต่กูแค่ไม่อยากโดนแซว กูไม่ชอบ กู... “ เงียบไปสักพักก้มหน้าตัวเองจนสุด คำสารภาพไม่เต็มเสียงนัก " ... กูเขิน "
“ แต่กูว่า มึงน่ารัก ในเวลาแบบนั้นว่ะ " มืออีกข้างของมันเอื้อมมาสอดมือเข้ากับข้างแก้มของผมไว้ เอียงตามก่อนมันจะก้มหน้าลงมาใกล้ เราประกบจูบกันเบาๆคลอเคลียกับรูปปากนั้นด้วยรอยยิ้มจางๆ จูบที่ซ้ำและย้ำความรู้สึกหลายๆครั้ง ที่แม้อยากที่จะหยุดแต่ก็ยากเหลือเกิน อบอุ่นเกินไปจริงๆ
ตึ้ง! “ อุ คุณพระ! “ เสียงที่เราต้องละลายตาออกจากกันมามอง คนที่ผมคุ้นเคย สายตาของไอ้ฮิมมีรอยยิ้มให้กับสี่ชีวิตตรงหน้าลิฟท์ มันสวมกอดผมเอาไว้แน่น จูบเบาๆอีกที แล้วพูดกับ ไอ้เนีย ไอ้เหมือน ไอ้บอท ไอ้ไฟ ที่กดลิฟท์ลงไปชั้นหนึ่งแค่ว่า
" อย่าแซวนะครับ..หยุ่นเค้าอาย "พ่อมึงสิ ไอ้เชี้ยยยยย แล้วปล่อยมือออกจากเอวกูได้มั๊ย เพื่อนเม่งเข้าใจผิดหมดแล้ว สาดดดดดดด
ในวินาทีนั้น ผมอยากหายไปให้เร็วที่สุดเลยครับ
.............................TBC..............................
อย่าแซวนะ.. หยุ่นเค้าอาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

โอ๊ยยยยยยยย เบื่อคนน่ารัก ตะโกนดังๆ รักพี่ฮิมเว้ยยยยยย

ฝากติดแท็ก #BTS #สถานีรัก คู่กันด้วยนะคร่า