ตอนที่ 19.2“ ไอ้เชี่ยย หยุ่น มึงไปต่อยเค้าทำไมว่ะ ไอ้บ้า กูตกใจหมด " ไอ้เนียดึงผมออกจากร้านให้มายืนสงบสติอารมณ์หน้าห้องน้ำครับ ช่วยกูได้มาเลย กลิ่นคุ้งจนกูไม่อยากคิดเหี้ยอะไรแล้วละ ผมหน้ามุ้ยครับผมรู้เลยต้องก้มๆหน้า
“ กูก็แค่หงุดหงิด "
“ หงุดหงิด ? มึงไปหงุดหงิดอะไรเค้า เรื่องของเขา เค้าก็แค่จีบมึงไม่ได้เป็นผัวมึงสักหน่อย ถ้าเป็นผัวมึงกูจะพอเห็นสม ที่มึงไปต่อยเค้าแบบนั้นนะ "
ชาครับ.. หมายถึงหน้าของผม ใช่...กูไม่ได้เป็นอะไรกับเขา แล้วกูไม่มีสิทธิหึงเขารึไงว่ะ จะให้กูแสดงออกยังไง กูหึงผู้ชายด้วยกันเอง ผู้ชายที่เสือกมาจีบกู แต่ตอนนี้เสือกไปนั่งจู๋จี๋กับผู้หญิงคนอื่น
“ เค้ามีสิทธิเลือกนะเว้ยหยุ่น เค้าจีบมึงถ้ามึงไม่โอเคกับเค้า เค้าก็ไปจีบคนอื่น มึงหึงเค้าแบบนั้น ไม่ได้นะเว้ย แฟร์ๆดิว่ะ มึงไม่เอาเค้าแต่หวงเค้า หวงก้างเหรอว่ะ ไม่แดกแต่ไม่ให้คนอื่นแดกอะ เห็นแก่ตัวว่ะ "
“ เชี้ยเนีย มึงเพื่อนกูรึเปล่า ด่ากูจัง "
“ ก็เพื่อนมึงนะสิ เลยบอกให้มึงรู้ตัวไว้บ้าง " มันยักไหล่ไม่ใส่ใจก่อนจะเดินนำผมออกจากห้าง
“ เนีย "
“ อะไร "
“ ถ้ากูเป็นแฟนมัน กูต่อยมันได้ใช่มั๊ย กูไม่ผิดใช่มั๊ย "
“ ต่อให้มึงตบอีนั่นก็ไม่ผิด เพราะพี่ฮิมเป็นผัวมึง "
“ แต่กูเป็นผู้ชาย"
“ ผู้ชายผู้หญิงมันไม่สำคัญ เลิกอ้างว่ามึงเป็นผู้ชายสักที ถ้ามึงจะรัก ไม่ต้องแคร์เหี้ยอะไรทั้งนั้น ถ้ามึงจะรักเค้า มึงแคร์แค่เค้าก็พอ "
“ พูดเหมือนผัวเป็นโหลเลยนะมึง "
“ กูถามมึงจริงๆเถอะ ถ้ามึงไม่มีเบลล์ ตอนนี้มึงจะรับรักพี่ฮิมมั๊ย "
“ กูคงกระโดดขึ้นเตียง นอนฉีกขาให้มันแล้วละครับ "
“ แล้วจะรอเหี้ยอะไรว่ะ.. “
ใช่..
' ถ้ามึงมีความสุขที่จะทำอะไรมึงก็ทำๆไปเถอะนะ ' ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋าตัวเอง กำโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้แน่น ใช่ครับ ผมบอกตรงๆว่าผมอยากพูด แต่ติดที่ว่าผมเองยังไม่กล้า .. ผมไม่ได้มีความกล้าถึงขนาดนั้น ที่จะพูดกับใครสักคนว่า เลิกกันเถอะนะ ทั้งๆที่เค้าก็ไมไ่ด้ผิดอะไร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากผมทั้งนั้น
ครืนนนน ครืนนน ครืนนนนน
โทรศัพท์ของผมดังแทบจะไหม้แล้วครับ ไม่ได้มีช่องว่างให้ผมได้กดตัดสายเลยครับ มาจากคนคนเดียว ไอ้ฮิม.. นี่ถ้ามือถือกูถูกๆกูเควี่ยงออกนอกห้องไปแล้วครับ ผมแยกทางกับอาเนียตั้งแต่ตอนนั้น มันถอนหายใจเสียอารมณ์ใหญ่ที่ผมไม่ยอมโทรไปหาเบลล์สักที บอกว่าถ้าอาทิตย์หน้าผมยังอยู่แบบนี้ ให้ระวังโทรศัพท์ไว้ให้ดี เพราะมันจะเป็นคนจัดการเอง
“ อะไรนักว่ะ มึงว่างนักรึไง " ผมตะคอกลงโทรศัพท์ทันทีที่กดรับครับ มันดังอยู่เกือบจะร้อยสายแล้วครับ นับว่าตั้งแต่เที่ยงวันนี้เลยก็ว่าได้
“ ก็มึงโกรธ "
ผมถอนหายใจได้ยินแต่ลมหายใจของมันที่เหมือนจะโล่งอกไปเพราะผมรับสายมันสักที ความจริงแค่ได้ยินเสียงผมก็ต้องหงุดหงิดแล้วครับ แต่ตอนนี้ พอมันพูดคำนั้นขึ้นมาจากที่รู้สึกว่าอยากจะด่า แต่ผมทำได้แค่เงียบ มึงโทรมากระหน่ำขนาดนี้เพราะคิดว่ากูโกรธ
ก็มึงแคร์กูขนาดนี้นะสิว่ะ มึงให้ความสำคัญกับกูขนาดนี้ไง.. แล้วจะไม่ให้กูสำคัญตัวเองได้ไงว่ะ เชี้ยยยเอ้ยยย ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด มันเป็นความรู็สึกที่หัวใจเราจับีบจนแน่น ความรู้สึกที่หายใจไม่ออก
“ มึงจะง้อกูรึไง "
“ เออดิ "
“ มึงเป็นอะไรกับกู "
“ อนาคตผัวมึง "
“ พ่อมึงสิ "
“ จะติดปากเอานะมึง " มันเหมือนจะด่าผมอีกแล้วครับ แต่พอมันคิดได้ว่าผมโกรธมันก็เลยต้องเงียบ " กูรอมึงอยู่ใต้หอ "
“ เพื่อ ? “
“ เพื่อให้มึงลงมา "
“ ตลก "
“ กูไม่ขำ ถ้ามึงไม่ลงมา กูบุกหอมึงแน่ "
“ คิดว่ามึงเข้าได้มึงก็เข้ามา " วางสายใส่แม่ง ไม่กลัวหรอกครับ หอผมรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดีในระดับนึง มีทั้งยามทั้งระบบคีย์การ์ด " คิดว่าขู่กูแล้วกูจะกลัวรึไงว่ะ สัด กูไม่อ่อน ขะ..”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก..
“ เอ้ยยยยยยยย เชี้ย! " ผมสถบทันทีก่อนจะถอยหลังตามสันชาตญาณทันทีเลยครับ ใครจะมาเคาะประตูกูเอาป่านี้ว่ะ กลืนน้ำลายที่เหมือนมันจะจุกคอ ผมก็กลัวนะ หันซ้ายหันขวาดูลาดเลา กุควรจะหยิบอะไรว่ะ ขวดน้ำ ถังขยะ หรือ เม้าส์คอม เมื่อกี้ที่พูดไปกูพูดอย่างงั้นละครับ ถ้าเป็นโจรมาบุกฆ่ากูไม่ตายฟรีเหรอว่ะ มีดสักเล่มกูยังไม่พกอะ
ก๊อก ก๊อก..
“ คะ คะ ใครครับ "
“ มีคนฝากของมาให้ค่ะ แขวนอยู่หน้าห้องนะค่ะ " เสียงผู้หญิงครับ กูละโล่ง เดินออกไปหน้าห้องเปิดประตูก่อนจะหยิบถุงบางอย่างที่ทำให้ผมต้องหลุดยิ้มออกมา ทั้งๆที่โกรธเจ้าของมันอยู่ เป็นของที่ผมคุ้นตาอยู่แล้วครับ ชาเขียวไข่มุกไม่มีน้ำแข็งคาดว่าน่าจะละลายมานานนับชั่วโมงแล้วครับเพราะมันคงฝากใครขึ้นมาไม่ได้ ฝาแก้วแตกต่างจากทุกทีที่ได้กิน มันมีภาพยิ้มครับ ยิ้มกว้างจนผมต้องยิ้มตาม
ผมไม่ได้เป็นคนใจแข็งแบบนั้นครับ ดึกมากแล้ว อีกไม่นานบีทีเอสจะหมดขบวนแล้ว อยากคุยให้เเม่งจบๆ ผมว่ามันตลกไปละจะมางอนกันข้ามวันช้ามคืน ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย ยิ่งแล้วใหญ่ เจ็บนะต้องย้ำคำนี้กับตัวเองบ่อยขนาดนี้.. ช่างเถอะครับ สมควรแล้วที่ใจผมไม่ด้านพอ
เดินลงมาข้างล่าง สอดส่องหาบางคนที่คาดว่าน่าจะอยู่ แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ไอ้ฮิมนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวเอาเสื้อช๊อปมาคลุมหน้าคุยโทรศัพท์เสียงดังจนผมที่อยู่ด้านในยังได้ยิน
“ ก็นอนคนเดียวไม่ได้รึไงเฮอร์ ปกติก็ทำนิ เดี๋ยวกลับไม่รู้เรื่องรึไง ง่วงก็นอนไปก่อน เออไม่ลืมหรอกน่า เออๆ แค่นี้ละ "
“ กลับบ้านไปมึง " ผมกดเปิดประตูก่อนจะเดินไปบอกมันที่ลุกเด้งขึ้นจากเก้าอี้ทันที บางทีกูก็ไม่ใช่ผีนะ
“ มึง ฟังกูก่อน " เงียบครับไม่มองหน้ามันทำทีไม่ค่อยอยากฟัง แล้วมันก็เล่าออกมาเอง " เฟย์เป็นเพื่อนกู ที่ชอบกูมาตอนปีหนึ่ง เพื่อนกูมันชอบแซวกัน แต่กูไม่ได้ชอบมัน เฟย์มันก็รู้ มันยังรู้เลยว่ากูชอบมึง ถ้ามึงไม่เชื่อมึงโทรไปหามันก็ได้นะเว้ย หยุ่นมึง..เป็นอะไร อย่าก้มหน้าดิว่ะ ”
เดี๋ยวนะ มึงผิดประเด็นแล้วละ.. ไหนมึงบอกจะอธิบาย อะไรมาสารภาพว่าชอบ ซะเฉยๆแบบนั้นละครับ แล้วมึงหลุดพูดออกมาง่ายๆแบบนั้น มึงคิดบ้างมั๊ยว่ากูจะเขินนะ สัด.. กูคนนะครับ จากที่ก้มหน้าผมยิ่งก้มหนักเข้าไปอีกครับ หน้าที่เริ่มแดงหูก็เริ่มแดงอีก ไมต้องเงยมันแล้วมึง ร้อนเว้ย!
“ มึง..”
“ กูฟังรู้เรื่องว่ะ เข้าใจแล้ว มึงไม่เป็นอะไรกับเค้าก็ไม่เป็นดิว่ะ " ผมผลักมันออกเพราะดูเหมือนมันจะเดินเข้ามาใกล้ อย่าครับอย่าแค่นี้กูก้ร้อนจนหน้าจะไหม้แล้ว
“ หายโกรธกูแล้ว "
“ คิดเองดิ " เงยหน้าบอกมันที่ถอนหายใจปลงได้อีก
“ มึงช่วยสนทนากับกูในแบบที่คนเค้าพูดกันได้มั๊ยว่ะ กูไม่เข้าใจ เงยหน้าขึ้นมาดิ "
“ เรื่องมึงดิ " ต่อปากต่อคำเป็นงานที่ผมถนัดครับ
“ เชี้ยนี่ " มันคงหมั่นใส้ผมครับ เห็นทำหน้าฟึดฟัดจะเข้ามาจับผมให้ได้แต่เรื่องอะไร กูรู้หรอก เลยถอยห่าง " หยุ่น กูจริงจังนะ ไม่อยากให้มึงเข้าใจผิด เรื่องกูกับเฟย์.. "
“ ฮิม.” ผมไม่ได้เงยมองมันเลยครับ ได้แต่ก้มหน้าลงรู้สึกว่าตัวเองต้องบอกมันออกไปสักทีครับ ความในใจของผม " กูไม่รู้ว่าทำไม กูถึงต้องหึงมึง กูหงุดหงิดที่เห็นมึงใกล้คนอื่น คนที่เหมาะสมกับมึง คนสวยๆพวกนั้น กูไม่ชอบ กูไม่ชอบให้มึงให้ความสำคัญกับใครมากกว่ากู กูไม่ชอบ กูไม่ชอบแต่กูทำอะไรไม่ได้ กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึง กูหึงมึงไม่ได้ "
“ ก็กูบอกว่าแล้วไง ว่าให้ตอบรับรักกู " มันเดินเข้ามาใกล้กอดผมไว้แน่น ผมกอดตอบผ่อนร่างตัวเองให้มันประครองไว้ เหนื่อยครับ ผมเหนื่อยใจ " กูดีใจ "
“ อะไรของมึง "
“ มึงหึงกู "
“ คิดไปเอง "
“ มึงให้ความสำคัญกับกู "
“ กูบอกว่า มึงคิดไปเองไง " ผมตอบเหมือนกันทั้งสองครั้ง ดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัน ชินแล้วครับกับกลิ่นนี้ ความรู้สึกแบบนี้ด้วย ผมกำลังจะกลายเป็นคนนิสัยเสีย ไม่อยากจะติดมันเหมือนติดหมอนเหม็นหรอกนะ
“ มึง..”
“ กลับบ้านไป น้องมึงคอยอยู่ "
“ มึงได้ยิน "
“ กูมีหูนี่หว่า "
“ เออ กูกลับก็ได้ แต่มึงเข้าไปก่อน " มันเชิดหน้ามาทางประตูเข้าหอ ผมผนักหน้าเป็นการตกลงหันหลังจะเดินไปแต่ก็โดนมันคว้ากลับมาอีกครับ เสียงทุ้มของมันแนบเข้ากับข้างหูผม " หายโกรธกูแล้วนะ "
“ เออน่า เซ้าซี้จริงเลยเว้ย "
“ หึ หมดความอนทนได้แล้ว กูรอแทบจะไม่ไหวแล้วนะ "
“ แล้วใครบอกว่ามึงอดทนคนเดียวว่ะ " ไม่ได้หันไปมองรอยยิ้มกว้างของมันหรอกครับ กลัวหมั่นใส้จนต้องกระโดดถีบยอดหน้า แต่ความจริง ผมเองก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน
ความอดทนของผม เหลือน้อยเต็มทีแล้วครับ
“ ยิ้มก็ได้ว่ะ " ข้อความใต้ภาพที่ผมเขียน ก่อนจะอัพภาพตัวเองกำลังยิ้มกว้างคู่กับฝาน้ำสีแดงครับ แท็กชื่อเจ้าของสินค้า พร้อมกับรับฟังคำสาปส่งมากมายที่พร้อมกันใจกันมา แบบที่ไม่ต้องร้องขอ
“ กระโดดขึ้นเตียงแล้วอ้าขาซะสัด เยอะจริง " ไอ้เนียครับ มึงประกาศเลยมั๊ยว่ากูอยากได้กับมัน
“ เอ้ยย มันได้กันแล้ว " ไอ้ไฟก็โง่มาแบบเหนือเมฆเลยครับ
“ เพื่อนมึงไม่ได้ง่ายนะครับ " ผมตอบมันสองคน แต่กลับมีบางข้อความเด้งขึ้นจนผมต้องลดระดับรอยยิ้มลง ข้อความเม้นท์ใต้ภาพที่มาจากเบลล์
“ มึงนอกใจกูเหรอหยุ่น แรดนะ "
“ เอ้ยยยยย ไม่ใช่เว้ย " จะส่งแต่ก็ต้องลบครับ ไม่สิ..ผมกำลังนอกใจเบลล์อยู่ มันไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด ผมคิดครับ คิดว่าเบลล์คงรู้ แต่แค่ไม่พูดอะไรออกมา เคยมีคนบอกผมว่า สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดของความจริง ก็คือ เรื่องน่าเจ็บปวดที่เราต้องรับให้ได้ ไม่รู้ว่าเบลล์จะเข็มแข็งแค่ไหน.. ถ้าผมตัดสินใจพูดมันออกไปจริงๆ ไม่ได้ตอบคำถามนั้นหรอกครับ ทำได้แค่หลับตาลงช้าๆ
ติ๊ก ติ๊ก..
“ อย่าคิดมาก.. คิดถึงแค่กูก็พอ " ไอ้ฮิมครับ..ทำให้ยิ้มตลอด แม้จะส่งมาแค่ข้อความ แล้วผมจะทนนั่งเฉยๆได้เหรอครับ
“ รู้ดี รู้มาก กูอ้วกจะแตก "
" ฝันดีครับ "
“ You too , See you in my dream “
เพราะฝันดีของผม..ในนาทีนี้ ก็ย่อมต้องมีมันอยู่ในนั้นครับ