กว่าจะได้กลับมาถึงบ้าน ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มกูรู้อยากจะหลับอย่างเดียวเลยตอนนี้ คิดไปแล้วก็รู้สึกเซ็งที่ตัวเองทำแบบนั้น เมื่อตอนเย็นผมนั่งคุยกับไอ้คีนจนพี่ดาสอนเสร็จแล้วมาหามัน พี่ดาพอเจอผมนั่งอยุ่ด้วยบวกกับรู้ว่าผมไม่มีเรียนแกเลยพาผมไปกินข้าว แต่กินร้านใกล้ๆไม่ได้ต้องพาไปกินร้านไกลๆ บรรยากาศดีอาหารอร่อยเพราะมันอยู่ใกล้ที่ทำงานแฟนเค้าก็เลยมากินที่นี่ กว่าแฟนพี่จะเลิกงานกว่าจะได้กินแล้วไหนจะขับรถกลับกันอีก ผมพลาดมาก แต่เรื่องนี้นะมันผ่านไปละไม่สำคัญอะไรเลย ถ้าเทียบกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก สามก๊อกก่อนจะเปิดประตู ขาผมก้าวเข้าไปก่อนจะพูดกับคนที่ได้แต่นั่งดูทีวีเงียบๆ " กลับมาแล้ว "
“ ฮิม ดูอะไรอยู่ว่ะ " ผมเดินเข้าไปใกล้ มันก็เอาแต่เงียบ เปิดเสียงทีวีให้ดังขึ้นเหมือนไม่อยากได้ยินเสียงผม นี่อย่าบอกนะ ว่ามันการแสดงออกที่จะบอกว่า ' งอนนะจ๊ะ ' “ ฮิม "
“ ไปไหนมา "
“ ก็ตามที่อาเนียบอก " รู้อยู่แล้วว่ายังไงอาเนียก็ต้องบอกมัน ไม่พลาดหรอกครับ อาเนียต้องบอกแน่ว่าผมไปกับไอ้คีน
“ กูอยากฟังจากปากมึง อยากรู้ว่าทั้งๆที่กูห้ามแล้วทำไมมึงไม่ฟังกูบ้าง!! ” มันตะคอกเสียงดังก่อนจะโยนรีโมทลงพื้นโชคดีที่มันเป็นพรม ทีวีปิดไปแล้ว ตอนนี้ทั้งห้องก็เลยเงียบ
“ กูไม่ได้ไปกับมันมึงจะเชื่อหรือไม่รู้นะ เพราะกูก็ทำแผลที่มึงต่อยมันที่หน้าคณะตัวเองด้วยซ้ำ แต่กูก็ยอมรับว่าที่กลับดึกกูไปกินข้าวกับพี่สาวมันมา "
“ งั้นช่วยบอกเหตุผลดีๆสักข้อที่มึงไปยุ่งกับมันหน่อย ช่วยบอกหน่อยว่า ที่กูขอร้องว่าให้มึงเลิกยุ่งกับมัน แล้วมึงไม่ทำตาม ช่วยบอกกูหน่อยว่าเหตุผลอะไร ที่มันสำคัญขนาดนั้น "
“ มึงต่อยไอ้คีนทำไม "
“ มึงตอบไม่ตรงคำถาม " ไอ้ฮิมจับไหล่ของผมแน่นบีบลงไปเหมือนโกรธจัด ใช่ มันกำลังโกรธ โกรธเพราะเรื่องของผมกับไอ้คีน
“ มึงต้องตอบคำถามกูก่อน ไม่งั้นกูก็ตอบคำถามมึงไม่ได้ แล้วปล่อยแขนกูฮิม กูเจ็บ " ผมดึงแขนตัวเองออกมันเองก็ถอนหายใจ สายตาที่จ้องมองผม มันกำลังโกรธ ทำได้คงต่อยผมไปแล้ว
“ สมควรแล้วนี่หว่า ปากหมาเองช่วยไม่ได้ กูบอกแล้ว อย่ามายุ่งกับมึง แต่มันฟังที่ไหน กูสั่งสอน กูจะตามไปอัดมันให้หนักกว่านั้นด้วยซ้ำ แต่อาจารย์ที่คณะ ห้ามกูไว้ก่อน "
“ ก็ดีแล้วที่เค้าห้ามมึงไว้ " ไม่งั้นแม่งตายคาตีนมึงแน่
“ แล้วมึงไปกับมันทำไม ไปทำอะไรบ้าง ไหนบอกกูมาสิ "
“ แค่ทำแผล "
“ ทำให้ทำไม ไม่ตายหรอก ไม่มีมือรึไงถึงต้องไปทำให้ "
“ มีเหตุผลหน่อยมึง นั่นเพื่อนกูนะ กูเห็นเพื่อนโดนต่อยจะให้ทำเหมือนไม่เห็นได้ไงว่ะ แล้วที่สำคัญมึงก็ต่อยเค้า "
“ ก็บอกว่าสมควรแล้ว มันสมควรมาก บอกไว้เลยนะ แค่นั้น น้อยไป "
“ ฮิมมึงใจเย็นๆหน่อยดิว่ะ ถึงกูจะไม่รู้ว่ามันพูดอะไรที่ทำให้มึงฟิวขาดแบบนี้แต่คีนมันก็เพื่อนกูนะมึง "
“ มึงก็เลิกคบมันสิ มึงจะได้ไม่ต้องเป็นเพื่อนมัน กูสั่งให้มึงเลิกคบมัน ไม่ต้องมีหรอกเพื่อนแบบมันนะ " ไอ้ฮิมถอนหายใจออกมาแรงๆ มันกำหมัดตัวเองแน่น " เพื่อนเหี้ยอะไร หวังจะเครมเพื่อนตัวเองว่ะ "
“ มีเยอะแยะ เหมือนพี่เนยที่หวังเครมมึงไง "
“ อย่าเอาเรื่องของมึงไปเปรียบเทียบกับเรื่องของกู "
“ แล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหน มึงไว้ใจนักไว้ใจหนาก็พี่เนยไม่ใช่รึไงว่ะ แล้วสุดท้ายเป็นไงตอนนั้นนะ "
“ มึงก็รู้นี่ แล้วที่กูห่วงมึงนักเพราะอะไร ก็เพราะกลัวมันจะซ้ำรอยเดิมไง "
“ มึงคิดว่ากูจะเหมือนมึงรึยังไง ไอ้ฮิม " เสียงของเราที่เถียงกันดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังแข่งกันว่าใครจะดังกว่ากัน
“ เออ กูกลัว เพราะมึงมัน..” เงียบลงตรงนี้มันทำได้แค่หันหน้าไปทางอื่น
“ เพราะกูโง่ใช่มั๊ย ไม่ทันคนอื่น "
“ ไม่ใช่ " มันเถียงเสียงเบา " เอาเป็นว่าถึงใครจะมองมึงแบบนั้น แต่กูไม่ได้มองว่ามึงแย่ในจุดนั้น กูเฉยๆกับมึงให้จุดนั้น กูหวงมึง มึงเข้าใจกูมั๊ย "
“ วันนี้ตอนกูทำแผลให้มัน มันบอกว่ามันชอบกู "
“ อะไรนะ " ไอ้ฮิมเดินเข้ามาจับแขนผมไว้แน่นทั้งสองแขน " มึงว่าอะไรนะ "
“ ไอ้คีนบอกว่ามันชอบกู ไอ้เหี้ยฮิม กูเจ็บ ไอ้สัด "
“ อย่ายุ่งกับมันอีก "
“ ห๊ะ..” เพราะมันก้มหน้าผมเลยได้ยินเสียงมันไม่ชัด
“ อย่า ยุ่ง กับ ไอ้ คีน อีก "
“ แต่นั่นมันเพื่อนกูนะเว้ย กูไม่ได้ชอบมันสักหน่อย แค่มันชอบกู คือต้องเลิกคบเลยเหรอว่ะ "
“ แล้วมึงจะยุ่งกับคนที่มันบอกว่าชอบมึง มึงจะให้กูอยู่เฉยๆรึไงว่ะ ไอ้เหี้ย " มือมันจับแขนของผมไว้แน่นเดินลากพาในห้องนอนปิดประตูเสียงดัง ร่างของผมโดนทุ่มลงเตียงในวินาทีถัดจากนั้น
“ ฮิม เดี๋ยวมึง " ผมเรียกมันไว้ แต่มันฟังกูที่ไหน ไอ้ฮิมล้มตัวลงมาทับตัวของผม มือมันล้วงเข้ามาในเสื้อ " พูดกับกูให้รู้เรื่องเลยนะมึง ปล่อยเว้ย " ผมผลักมัน ไอ้ฮิมเซไปด้านข้าง มันตั้งหลัก กำลังจะขึ้นมาคร่อมผมอีก ยันร่างมันไว้ง้างมือจะต่อย " กูต่อยจริงๆนะมึง "
“ เออ ต่อยกูเลย " มันดึงตัวของผมเข้ามา ขาฉีกออกค่อมขาของมันพอดี
“ มึงนี่แม่งเหี้ยอะไรว่ะ " ผลั่ก! ผมต่อยมันไปเต็มแก้มไอ้ฮิมเอียงหน้าไปตามแรงหมัด แต่หันกลับมารวดเร็วมือสองข้างจับมือผมไว้
“ นิ่งแล้วฟัง! ” ตะคอกใส่หน้าน้ำลายกระเด็นออกมาด้วยแต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจแล้ว “ เลิกยุ่งกับไอ้คีนซะ มึงรู้มั๊ยว่ามันพูดกับกูว่าอะไร " คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ " มันบอกว่า ถ้ามึงเป็นของกูได้มึงก็เป็นคนมันได้ มันหมายถึงว่ากูเอามึงได้ มันก็เอามึงได้ แล้วมึงจะให้กูอยู่เฉยๆรึไง ถ้ามึงถึงขั้นไปฟังมันพูดว่าชอบ มึงว่าคนแบบกูจะอยู่เฉยๆรึไงว่ะ !! " มันจับมือผมขึ้นมาเขย่าไอ้ฮิมกำลังโกรธ แต่ผมกลับนิ่งไปแล้ว เวลาแบบนี้ถ้าพูดอะไรออกไปก็เหมือนยิ่งจุดไปให้ลุก
“ มึงเป็นของกู มึงรู้มั๊ย กูรักมึงมากแค่ไหน " คำพูดของมันไม่ต่างจากเชือดที่มีหนามแล้วรัดตัวของผมไว้เอาไว้ นี่เหรอว่ะ คือความรัก ความรักที่ตอนนี้กลายเป็นโซ่ผูกขาของผมไว้ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่ามันรักผมมากแค่ไหน ผมรู้พอๆกับรู้ว่าตัวเองรักมันมากแค่ไหน
ความรักมีมากก็ไม่ดี มีน้อยก็ไม่ดี
จมูกโด่งไซร์ไปตามหลังคอ มันดมเหมือนคนที่คลั่งผมเอามากๆ มือมันปล่อยมือของผมที่เหมือนจะไม่ดิ้นหนี ผมไม่หนีหรอก ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมีอะไรกับมันสักหน่อย อีกอย่างก็ไม่รู้จะทำให้ตัวเองเจ็บปวดเพราะเรื่องของเพื่อนทำไม
สับสนครับ สมองสับสนมาก ถ้าวันนึงที่เพื่อนเข้ามาชอบเราแล้วเราไม่ชอบเพื่อนเพราะมีแฟนแล้ว เราจะไม่มีสิทธิเป็นเพื่อนกับคนนั้นเหรอครับ ไม่ว่ามันจะตายหรือเป็นอะไรก็ห้ามสนใจ เพราะมันมาชอบเรา ผมรักฮิมนะ รักจนบางทีไม่รู้จะพูดออกมาเป็นคำพูดอะไร ที่เปรียบเทียบความรู้สึกนั่นได้ มันก็เหมือนกัน มันก็รักผมมาก แต่ทำไมมันไม่ฟังเหตุผลของผมเลย ทำไมถึงเอาตัวเองเป็นใหญ่ทำเหมือนผมไม่มีความคิดอะไร เพราะผมโง่เหรอ เลยต้องทำแบบนี้ บางทีก็แค่อยากรู้
“ อึก "
จมูกทำหน้าที่ของมัน พร้อมมือที่ก็ปลดกางเกงของผมออก มือมันลูบไปตามส่วนนูนของก้นจนมาถึงปลายขา มันฉีกขาผมออกตั้งไว้บนไหล่ของมันข้างอีกข้างนึงวางอยู่ตรงนั้น มือมันลูบขึ้นไปที่ส่วนกลาง ลูบผ่านไปถอดเสื้อของผมออกโยนลงข้างเตียง ปากมันจูบไปตามเรือนร่างของผม จูบย้ำๆเหมือนสร้างอารมณ์ให้ตัวเอง แต่ไม่ได้สร้างอารมณ์ให้ผมเลย ผมไม่มีอารมณ์ไม่มีเลยสักนิด ทุกอย่างสงบนิ่ง ผมนอนนิ่งๆให้มันทำ ส่วนกลางของมันเริ่มพองขึ้น มันใช้นิ้วดันเข้ามา ผมกัดปากสนิทจนฟันแทบแตก
“ ไม่ร้องเหรอ " ผมไม่ตอบตอนที่มันดันนิ้วที่สองเข้ามาในตัวอีกครั้ง " เพราะมึงไม่มีอารมณ์ถ้ามึงยอมสัญญากับกูว่าจะเลิกยุ่งกับไอ้คีน เลิกเป็นเพื่อนกับมัน กูจะปล่อยมึง "
“ เพื่อนที่แอบชอบมึง ทำไมถึงยังคบกับมึงได้ว่ะ แล้วทำไมกูจะคบไม่ได้ "
“ มึงจะไม่ยอมกูใช่มั๊ย " มันดันส่วนกลางเข้ามาแบบไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว มือจิกไปตามผ้าปูนอนจนยู้ยี้ ไม่มีแม้แต่อารมณ์เป็นแค่ความต้องการเหมือนหมาติดสัตว์ที่พอถึงเวลาแล้วก็ต้องเอากัน มันสอดส่วนนั้นดึงเข้าออกอยู่ในร่างของผม มือมันจับมือสองข้างของผมขึ้นเหนือหัว ไม่มีแม้การระบายอารมณ์ทางใด แม้แต่ปากยังไม่โดนจูบ
“ เพื่อไอ้เหี้ยคีน มึงยอมขนาดนี้เลยเหรอว่ะ ห๊ะ ! " ยิ่งพูดมันก็ยิ่งดันมากขึ้น ช่องทางหลังของผมแสบ ฟันที่กัดกันชาไปหมด แต่ไม่อยากร้อง ไม่อยากร้องเลย กูจะร้องไปเพื่ออะไรว่ะ ตอนนั้นกูทำไปทำไมว่ะ แค่คิดว่าเพราะมันเป็นเพื่อนของผมเหรอ มันอาจเป็นความคิดโง่ๆของผมในความรู้สึกของคนอื่น
ครั้งนึงผมเคยคิดว่ามันเป็นคนมีเหตุผล แต่ตอนนี้มึงกลายเป็นคนงี่เง่าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ มึงไม่ฟังแม้เหตุผลของกูเลย เอาแต่คิดว่าตัวเองถูกอยู่แบบนั้น ทั้งๆที่ตัวเองก็ทำเหมือนกัน พี่เฟย์ยังคงเป็นเพื่อนที่ชอบมัน แต่น่าแปลกที่มันก็ยังคบได้แต่กับผมกับไม่ได้
ความรักที่มึงมีให้กูมากมาย ตอนนี้มันร้ายกูถึงขนาดนี้เลยเหรอว่ะ
“ อ๊ะ " ผมร้องออกมาตอนที่มันดันเข้าออกเร็วขึ้น มือของมันกดที่มือของผม น้ำตาของผมไหล มันเจ็บจนแทบทนไม่ไหว แต่มันไม่หยุด ผมรู้ว่ามันคงหยุดไม่ได้แล้ว ทุกอย่างรวดเร็วขึ้นอีก ผมไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว นอกจากร่างกายที่จะแตกกับคำพูดที่พร่ำอยู่ข้างหู
“ กูรักมึงมากขนาดนี้ทำไมแค่นี้มึงทำให้กูไม่ได้ว่ะ ทำไมว่ะ แม่ง "
“ อ๊าห์ " และสุดท้ายทุกอย่างก็ทะลักเข้ามาให้ร่างเหมือนแรงดันเต็มสูบที่ทำให้สมองเบาหวิว ผมถอนหายใจออกพร้อมมันที่ดึงส่วนกลางออกจากตรงนั้น
“ หรือเพราะมึงไม่เคยรักกูเลย ถึงไม่เคยรู้ว่ากูเจ็บ มากขนาดไหน กับการที่ต้องขอร้องมึง " มันพูดพร้อมกับลุกออกไป มือมันดึงผ้าห่มคลุมร่างของผมเอาไว้ ทุกอย่างมืดดับ ผมไม่มีแรงแม้จะตอบ แต่ในใจของผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงแค่ว่า
' กูรักมึงมากเลยแต่ฟังเหตุผลของกูหน่อยได้มั๊ย โง่ๆอย่างกูก็มีเหตุผลนะ '
ทุกอย่างตรงนั้นมันปวดจนแทบจะขยับไปไหนไม่ไหว ไม่เคยรู้สึกเลย ว่าความรักที่มีมากมายความสุขที่ผมเคยได้ลิ้มรสมาตลอดอีกด้านมันกลับทายาขมเอาไว้ ยาที่ถ้าเลือกได้คงไม่อยากกินอีกแล้ว แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกผมรู้ มีรักก็ต้องมีทุกข์ มีสุขก็ต้องทะเลาะกัน มันก็คู่กันไปแบบนี้เสมอ
ทั้งที่ตอนนี้ผมกำลังพยายามเข้าใจมันให้มาก แล้วมันละ จะพยายามที่จะเข้าใจผมบ้างมั๊ยนะ
............................................................
“ กูไม่ให้เจอ "
“ หมายความยังไงที่ไม่ให้เจอ " ผมได้ยินเสียงเอะอะอยู่ข้างนอกห้อง พยายามดันตัวเองขึ้นมาจากเตียง ใส่เสื้อยืดกางเกงนอนที่หาได้จากแถวๆนั้นก่อนจะเดินออกมา ไอ้ฮิมกำลังยืนคุยอยู่กับคนที่ผมมองไม่ชัดแต่จำเสียงได้
“ หมายความว่า นี่มันคอนโดกู กูจะมีสิทธิให้ใครมาก็ได้ แล้วถ้ามึงยังพูดไม่ฟัง " ไอ้ฮิมก้าวไปตรงหน้าของไอ้คีนที่แค่ยืนนิ่งๆ บนหน้ามันยังมีแผลอยู่เลย ไอ้ควายเอ้ย มึงจะมาทำไมว่ะ
“ มึงมา ทำไมว่ะคีน "
“ มาหามึง "
“ เข้าไปข้างใน " ไอ้ฮิมผลักผม มันหันมาส่งสายตาเชิงดุ ที่ว่าถ้ามึงไม่เข้าไป มึงตายแน่
“ มึงกลับไปเถอะ "
“ แล้วทำไม มึงโทรมขนาดนั้นว่ะ " ผมเลิกคิ้วก่อนจะหันมองตัวเองในกระจกที่สะท้อนอยู่แถวนั้น เหมือนผีตายซากเลยกู
“ นอนดึก "
“ นี่มันเรื่องส่วนตัวของพวกกู มึงออกไป " มันผลักไอ้คีนที่เหมือนจะดึงดันเข้ามา
“ พี่ทำอะไรไอ้หยุ่น "
“ นั่นมันก็สิทธิของกู คนของกู อย่ามายุ่ง กับของของกู " ผลั่ก!! เสียงหมัดฟาดลงไปไอ้คีนล้มลงไปกองบนพื้นตามคาด ไอ้ฮิมคว้ามาขึ้นมาอีก จะซัดลงไปอีกหมัด
“ ไอ้ฮิม อย่าทำไอ้คีน มึงปล่อยมันเถอะ เมื่อวานมึงก็ต่อยมันแล้ว " ผมดึงแขนมันไว้แต่ตอนนี้แรงมันเยอะมากจนผมเองยังช่วยไอ้คีนลำบาก ไอ้ฮิมสะบัดมือ ตัวของผมโดนผลักไปชนกับลูกบิดของประตูอย่างจัง " โอ๊ย! ”
“ หยุ่น " เหมือนสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ไอ้ฮิมหันมามองผม มันผลักไอ้คีนให้ล้มลงนอนก่อนจะดึงผมขึ้นมา " เป็นไงบ้างมึง "
“ เจ็บดิ ไอ้สัด มึงผลักกูชนประตูเต็มแรงอะ ไอ้เหี้ย " ผมว่าแต่เหมือนไอ้ฮิมจะสำนึก เปล่าครับ มันยกขาขึ้นสูง ถีบลงไปที่ท้องไอ้คีนแรงๆ ตอนที่มันเหมือนมีทีท่าจะเดินมาใกล้
“ เพราะมึง คนเดียวเลยไอ้สัดคีน "
“ โอ๊ย " ไอ้คีนร้องมันต้องเจ็บอยู่แล้วเต็มตีนขนาดนั้น
“ พอแล้วไอ้ฮิม "
“ มึงนั่นเหละเป็นเหี้ยอะไร ห้ามกูอยู่ได้ ปกป้องมันอยู่ได้ กูรำคาญ!! " มันตะคอกใส่ผม ก่อนจะหันไปหาไอ้คีน " กูรักไอ้หยุ่น ถ้ามึงพอจะยังมีสำนึก เลิกยุ่งกับของของกู ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด กูไม่สน ถ้ามึงมายุ่งกับของของกู รอบหน้า กูไม่ปล่อยให้มึงรอดแน่ กูไม่ได้ขู่ แต่กูทำจริง "
ปัง! เสียงประตูดังไปทั้งชั้น มันโยนผมลงบนโชฟาก้นที่เจ็บอยู่กระแทกลงกับขอบโซฟาอีกครั้ง ผมสะดุ้งมันก็ดูตกใจอยู่ไม่น้อย
“ มึง "
“ ทำไมว่ะ กูแค่อยากรู้ว่าทำไม " ผมถามมัน เป็นความสงสัยที่อยากรู้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ไม่ได้พูด " พี่เฟย์เคยเป็นแฟนกับมึง ปัจจุบันเค้ายังชอบมึงอยู่ แล้วทำไม มึงคบกับเค้าได้ว่ะ มึงรู้ว่ากูไม่พอใจ ไม่ชอบให้มึงไปอยู่ใกล้ๆพี่เฟย์ งั้นกูถามหน่อย ทำไมมึงถึงไม่คิดจะห่างกับพี่เฟย์ว่ะ เพราะเค้าเป็นเพื่อนมึง กูพูดถูกใช่มั๊ย มึงมั่นใจตัวเองว่ายังไงก็ไม่กลับไปชอบเค้า แล้วที่ไอ้คีนมันชอบกู แต่กูไม่ได้คิดอะไร เหมือนที่มึงก็ไม่ได้คิดกับพี่เฟย์ เราเหมือนกัน แต่ทำไม กูคบกับไอ้คีนเป็นเพื่อนไม่ได้ว่ะ ทำไมว่ะ ทำไมพอทีมึง มึงทำได้ทุกอย่าง แต่พอเป็นกูทำบ้าง กูทำไม่ได้เลย "
“ เพราะกูรักมึง "
“ กูก็รักมึง! อย่า เอาคำว่ารักมาอ้างกับกู ความรักไม่ใช่โซ่นะฮิม มึงจะขังกูไว้ให้ทำตามมึงทุกอย่างไม่ได้ แฟนกันนะเว้ยทำไมไม่เข้าใจกันว่ะ ทีกูเรื่องพี่เฟย์ยังเข้าใจมึงเลย หรือ เพราะกูโง่ มึงเลยต้องทำแบบนี้ " ไอ้ฮิมเงียบ มันเอาแต่จ้องหน้าผม ตาของมันแดง แต่ของผมก็แดง เราไม่น่าทะเลาะกันเลยว่ะ ทั้งๆที่ต่างคนต่างก็รักกันจะตาย
“ ถ้ามึงคิดแบบนั้น มึงคงไม่เข้าใจกูหรอก " เว้นเสียงไปสักพักเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง " งั้นเราห่างกันสักพักเถอะ "
“ ห๊ะ " เหมือนผมได้ยินไม่ถนัด ห่างกันสักพัก หมายความว่ายังไงว่ะ เหมือนเพลงนั้นที่ผมเคยฟังเค้าร้องกันรึเปล่า
“ เพราะมึงบอกว่ากูไม่มีเหตุผล กูก็บอกว่ามึงไม่เคยฟังอะไรกูเลย ถ้าคิดไม่ตรงกันแบบนี้ ถ้าไม่เข้าใจกันแบบนี้ ห่างกันสักพัก มึงกลับไปคิดทบทวนว่ากูทำไปทำไม กูก็เหมือน กูจะกลับไปคิดว่ามึงทำไปทำไม " มันถอนหายใจ น้ำตาของไอ้ฮิมไหลลงมาช้าๆในนาทีที่ผมกลับอ้าปากค้างจนทำอะไรไม่ถูก " ยิ่งอยู่แบบนี้ ทุกอย่างมันก็ยิ่งแย่ ทะเลาะกันไปก็มีแต่เสียความรู้สึกกันเปล่าๆ "
“ ฮิม " ผมเลือกที่จะเงียบดีกว่าที่จะต้องพูด การห่างกันสักพักคือการบอกเลิกกันในอนาคตไม่ใช่เหรอว่ะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมมึงไม่บอกกูมาตรงๆเลย แต่จะเลิกด้วยเหตุผลอะไร การที่กูดึงดันเรื่องไอ้คีนนะเหรอ เรื่องที่ผมดื้อไม่ฟังมัน ไม่ยอมมันเหมือนก่อน ไม่ใช่ลูกแมวที่ทำตามมันอีกแล้วอย่างงั้นเหรอ แต่ผมมีแค่คำถามเดียวเองนะ คือทำไมมันไม่ฟังเหตุผลผมบ้างละว่ะ เหตุผลที่ผมยกมาแต่มันเอาแต่เลี่ยง ความคิดที่เหมือนจะสับสน ผมถอนหายใจและตัดสินใจพยักหน้าไปในที่สุด " ก็ตามใจมึง "
ว่ากันว่าการห่างกันสักพัก ถ้าไม่กลับมารักกันใหม่ อีกครั้ง ก็ เลิกกันไปเลย ผมว่านี่อาจเป็นความคิดที่ดีนะ คือกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของกันและคิด การอยู่คนเดียวอาจทำให้คิดอะไรได้มากขึ้น มันก็ดีออก ผมเองจะได้หัดอยู่ห่างๆจากไอ้ฮิมเอาไว้บ้าง ไม่ต้องมีคนมาทำอะไรให้ ไม่ต้องมีคนดูแล ก็เผื่อสักวันต้องอยู่คนเดียวจะได้ลองทำอะไรเป็นบ้าง ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ทั้งๆที่มีข้อดีขนาดนั้น แต่พอมาคิดๆอีกทีทำไมหัวใจกูมันถึงสั่นขนาดนี้ว่ะ
วินาทีหลังจากนั้น น้ำตาของผมไหลออกมา มันไม่หยุดเลยสักนิด หลังมือของผมนั้นเปียกปอนไปหมด
.....................................................................
สงสารใครดี
สมน้ำหน้าหยุ่น หรือว่าจะเห็นใจฮิม มีคนอ่านเม้นท์ไว้ทวิตประโยคนึงว่า
ถ้าไฟดื้อเงียบ หยุ่นคงดื้อแสดงออก เห็นด้วยมากๆ
แต่หนมคิดว่าหยุ่นมีเหตุผลนะ แต่ฮิมไม่ฟังมันเลย ฮิมมักคิดว่าตัวเองถูกตลอด
ซึ่งเราก็มองว่าเพราะมันรักมาก มันก็เลยเป็นแบบนั้น อีกอย่างเลยคือ
หยุ่นยอมให้ฮิมตลอด วันนึงที่ไม่ยอมให้ก็เลยกลายเป็นอีกเรื่อง
แต่พี่ฮิมเด็ดขาดกว่าพี่เทม พี่เทมอาจจะทน แต่พี่ฮิมไม่
รักมีมากไปก็ไม่ดี มีน้อยไปก็ไม่ดี
พาสฮิมหยุ่น เป็นเหมือนเนื้อเรื่องซ้อนทับกับของเทมไฟนะคะ
เหมือนเกิดขึ้นในเวลาเดียว
หนมต้องขอโทษด้วยที่
เนื้อเรื่องมีดราม่ามากเกินไปแต่อีกประมาณไม่กี่ตอนจะจบแล้วจ้าอีกนิดนึงก็มีฉากหวานๆแล้วคร่า

และเนื่องจาก ศุกร์หน้า เป็นศุกร์วันวาเลนไทน์
หนมจะขอเอาตอนหวานๆมาอัพบ้าง จริงๆมันเป็นตอนที่เขียนไว้แล้วในสเปเชี่ยล
ก็เอามาลงให้อ่านก่อนจ้า
จะมีทั้งหมดสามคู่จ้า มี บอทไนท์ / ฮิมหยุ่น / เทมไฟ
อัพสามวันติดเลย ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
อย่าลืมมาอ่านกันเด้อออ
ใครมีทวิตหรือว่าเฟส ฝากแท็ก #BTSสถานีรัก ด้วยจ้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
