ภายในลิฟท์ที่เงียบนั้น สมองของผมเอาแต่คิดแค่ว่าทำไมมันไม่เคยบอกอะไรกับผมเลย ทำไมต้องปิดบัง เรื่องที่พี่เฟย์ทำงานที่เดียวกับมัน ผมไม่เคยรู้ ไม่เคยรู้เลยว่าตลอดเวลาที่มันออกงานต่างจังหวัดมันไปกับใคร และคงจะไม่รู้ต่อไป ถ้าวันนี้ไม่ได้วิ่งลงมาเจอ ลงมาเจอมันที่ต้องไปกับเค้า คนที่หัวเราะเยาะผมด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ มันดูน่ารัก เพราะเธอเป็นคนสวย เป็นคนสวยที่นิสัยดี มีเหตุผล ฉลาด แล้วก็เป็นผู้กญิง สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือ ไม่ว่าเราจะพยายามมากเท่าไหร่ เราจะไม่สามารถดีได้เท่าเค้าคนนั้น อีกครั้งที่สมองผมเกิดคำถามที่ว่า ถ้ามันบริสุทธิ์ใจกับพี่เฟย์จริง ทำไมต้องปิดบัง
“ กูว่ามันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะเว้ย มึงคิดมากไปเองนั่นละ " ไอ้ไฟพูดขึ้นตอนที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้มันฟัง วันนี้มันขับรถมาส่งผมแต่ก่อนจะส่งมันชวนไปเดินห้างก่อน
“ แล้วมึงจะไปซื้ออะไรวะ "
“ เนคไท "
“ เนคไท " ผมทวนคำพูดของมัน ไอ้ไฟพยักหน้าลง " มึงใช้ด้วยเหรอว่ะ หรือว่ามึงจะไปงานกับคุณหญิงแม่ของมึง "
“ กูไม่ได้ซื้อใช้เอง " มันบอกตอนที่เอาท้ายรถเข้าจอดในล๊อค
“ แล้วซื้อให้ใครว่ะ พี่เทม " มันพยักหน้า ไอ้ไฟหันมามองผม
“ มันสมัครงานที่สถานทูตอเมริกาได้แล้ว " ผมเห็นรอยยิ้มในแววตาของมันตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ มันคงดีใจไม่แพ้คนที่ได้งาน แต่ว่า..
“ พี่เทมก็ทำงานสถานทูตอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่ะ "
“ ก็ใช่ แต่ตอนนั้นมันทำที่สถานทูตอังกฤษ คือมึงเข้าใจมั๊ย พ่อมันเป็นท่านทูตประจำอังกฤษคนเค้าก็เลยมองว่า มันได้เส้น มันเลยอยากพิสูจน์ตัวเองมั้ง กูก็ไม่รู้หรอก มันเรื่องภายใน อีกอย่างเทมมันไม่ค่อยเอาเรื่องงานกลับมาบ้านว่ะ คือพอเข้าห้องมันจะไม่เอ่ยเรื่องงานให้กูได้รู้เลย "
“ ก็ดีนะมึง ไอ้ฮิมก็ไม่พูด แต่เพราะมันเหนื่อยจนพูดไม่ออก "
“ ปีหน้าก็จบแล้ว มึงคิดว่าจะทำอะไร " ไอ้ไฟหันมาถาม ผมมองกระเป๋าของตัวเอง มีเอกสารบางอย่างอยู่ในนั้น
“ ไฟ มึงไปสอบชิงทุนไปเรียนต่อโทกับกูมั๊ย "
“ ฮ่าๆๆๆ ไอ้เหี้ย มึงมาชวนใครเนี้ยไอ้หยุ่น มึงมาชวนกูเหรอ กูเนี้ยอะนะ " มันชี้หน้าเข้าหาตัวเอง " ลำพังไอ้ที่เรียนอยู่ยังไม่รอดเลย "
“ แต่เท่าที่กูดูมันก็สอบง่ายนะมึง อาจารย์เรียกกูไปคุยวันนี้ถามว่าสนใจมั๊ย เกรดมึงก็สูงขึ้นมากเลยนะ ก็ถึงขั้นต่ำที่เค้าให้สอบ " เป็นทุนเรียนต่อปริญญาโทที่ญี่ปุ่น เกี่ยวกับด้านการทำอนิเมชั่นเป็นมหาลัยที่เปิดสอนเกี่ยวกับด้านนี้โดยเฉพาะ และมีแค่ไม่กี่คนที่จะสอบผ่าน
“ แล้วมันสอบอะไรบ้างว่ะ "
“ สอบวาดรูป แล้วก็พื้นฐานอนิเมชั่น ภาษาอังกฤษ แค่นั้นอะ " มันพยักหน้า ผมยื่นใบสมัครกับข้อมูลให้มัน " กูขออาจารย์มาเผื่อมึงด้วย ถ้ามึงจะสอบ พรุ่งนี้กรอกแล้วไปส่งพร้อมกู "
“ มึงจะไปเหรอว่ะ " ผมพยักหน้า " ไม่ใช่ว่าโกรธพี่ฮิมแล้วจะไปนะมึง ไอ้หยุ่น "
“ ไม่ใช่ โกรธเดี๋ยวก็ดีกัน แต่กูอยากเรียนต่อเพราะชอบจริงๆ ถ้าไม่ได้ทุนก็ก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว " มันพยักหน้าครั้งสุดท้ายเราลงจากรถ เดินเข้าห้างที่ในทุกวันคนมันก็ยังเยอะเหมือนเดิม
“ งั้นกูจะไปสอบด้วยแล้วกัน แต่ถ้ากูได้มึงไม่ได้นี่ มีฮานะ "
“ กูว่ายากว่ะ สอบกันตั้งกี่คน "
“ แล้วถ้าไม่ได้มึงคิดจะเรียนต่อรึเปล่า " ผมพยักหน้า บอกแล้วว่าเรียนเพราะชอบยังไงก็อยากจะเรียนต่ออยู่แล้ว อยากไปเมืองนอกด้วย " กูเคยคุยกับไอ้ฮิมไว้ ว่าจะไปเรียนต่ออเมริกาด้วยกัน มันเองก็จะไปเรียนโทวิศวะต่อ "
“ ดีนะ..กูก็อยากเรียนต่อ แต่กูยังไม่รู้เลยว่ะ ว่าจะได้จับดินสอวาดรูปที่กูรักไปอีกนานแค่ไหน "
“ ทำไมมึงพูดแบบนั้นว่ะ จะตายรึไงว่ะ "
“ พ่อกูก็แก่ลงทุกวันมึง แล้วบริษัทใครจะทำต่อว่ะ ไฟท์แม่งก็แต่งงานเป็นท่านทูตที่สวิซไปแล้ว มันคงไม่กลับมาแล้วละ งั้นใครจะดูแลว่ะ ถ้าไม่ใช่กู "
“ ก็จริงของมึงนะ คนเรามีภาระหน้าที่แตกต่างกันว่ะ " มองดูมันเป็นแล้วก็นึกย้อนมองตัวเอง ผมมีโชคดีในความโชคร้าย โชคดีคือสามารถทำงานที่ตัวเองรักได้แต่ต้องดิ้นรนหาเงินเอง สร้างฐานะเอง ต่างกับมันที่มีฐานะดีอยู่แล้ว ไม่ต้องดิ้นรนหาเงินเอง แต่ไม่สามารถทำงานที่ตัวเองรักได้
“ เอาเหอะ กูก็ไปสอบเล่นๆ ไม่ได้หรอก โง่ๆอย่างกู "
ทำไมมันถึงชอบดูถูกตัวเองนักว่ะ ทั้งๆที่ตัวมันก็โคตรจะเก่ง จากคนที่เรียนไม่เก่งเลย แต่มันความขยันบวกด้วยความใส่ใจที่พี่เทมคอยจี้มันตลอดเข้าไปจากเกรดหนึ่งที่เกือบถูกรีทาย ตอนนี้มันได้เกรดสามกว่าเข้าไปแล้ว
“ มึงสีอะไรดีว่ะ " ไฟถามผมออกมาตอนที่มองไปมันมีให้เลือกเป็นร้อย
“ ไม่ทราบว่าซื้อใช้เองรึเปล่าครับ " พนักงานผู้ชายถามมันที่ส่ายหน้า
“ ซื้อให้พ่อครับ " ผมหลุดขำกับคำตอบของมัน " แต่ว่าพ่อผมยังวัยรุ่นนะ "
“ สีแดงมั๊ยมึง แดงเลือดหมู แดงเข้มๆออกน้ำตาลๆ หรือไม่สีน้ำเงิน มันเข้ากับสูทสีดำได้ง่ายนะ "
“ งั้นเอาสองเส้น เส้นสีแดงนี้ กับสีนำ้เงินอันนี้ครับ " สวยทั้งสองสีเลยครับ สีแดงเลือดหมูกับสีน้ำเงินเข้ม " ห่อให้ด้วยนะครับ "
“ พ่อมึงนี่ หน้าเด็กดีนะ " มันยักคิ้ว
“ มึงเดี๋ยวแดกข้าวกันก่อนนะ เดี๋ยวกูไปส่ง ยังไง พี่ฮิมก็ไม่อยู่ห้องใช้มั๊ยละ " ผมพยักหน้า ถอนหายใจออกมาก็กอดคอ " มึงแม่ง พอมึงเศร้านี่โคตรจะไม่ใช่มึงเลยอะ "
“ กูไม่ได้เศร้า "
“ แต่ก็กำลังคิดมากอยู่ " ไอ้ไฟบอก ผมถอนหายใจออก
“ มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกกูว่ะมึง หรือว่ามันจะคบกับพี่เฟย์อยู่ " นั่นคือสิ่งที่ผมคิดจริงๆ ดูงี่เง่าก็จริง แต่ก็อดคิดไม่ได้
“ มึงคิดมากว่ะ ถามเลยจะได้รู้เรื่อง "
“ เป็นมึง มึงถามเหรอว่ะ " ไอ้ไฟเงียบมันเกาหัวตัวเอง
" ก็ไม่ใช่กูด้วยอะนะ พูดยากว่ะ ว่าถ้าเกิดกับกู กูจะทำไง "
“ แย่นะมึง ว่ามั๊ย เวลาที่กูหึงมันกับพี่เฟย์กูรู้สึกว่าตัวเองโคตรแย่ กูมีเหี้ยอะไรดีว่ะ กูเทียบกับพี่เฟย์ไม่ติดเลย ยิ่งกูคิดว่า เค้าดีมากเท่าไหร่ เหมาะสมกับไอ้ฮิมเท่าไหร่ กูก็ยิ่งรู้สึกแย่ กูมีอะไรดีว่ะ "
“ กูว่ามึงต้องมีเหละ แค่มึงไม่รู้ " มันตบไหล่ผมเบาๆ " คิดมากๆ แดกข้าวกัน ข้าวแกงกระหรี่มั๊ยมึง หรือฟูจิ "
“ มึงอยากแดกไร " ผมถามมันที่หันซ้ายทีขวาที กับสองร้านที่อยู่ตรงข้ามกัน
“ ข้าวแกงกระหรี่แล้วกัน กูไม่ค่อยได้แดก "
นั่งกินข้าวกันจนอิ่ม ก่อนจะกลับบ้านไอ้ไฟมาส่งผมที่คอนโด ระหว่างทางหรือว่าทั้งวันของวันนี้ไม่มีเสียงโทรศัพท์หรือไลน์สักข้อความจากไอ้ฮิม น่าแปลกที่มันไม่คิดจะโทร ทั้งๆที่ปกติมันคงเคลียร์กับผมก่อนไปด้วยซ้ำ เดินมาถึงห้องเห็นไฟเปิดสว่างอยู่ ผมขมวดคิ้ว
“ ก่อนออกก็เปิดแล้วนี่หว่า " ไขกุญแจเข้าไป ผมถอนหายใจกับคนที่ยืนอยู่ในห้อง เจ้าของห้องที่วันนี้ไม่โทรมาหาผมสักสาย " ไหนว่ากลับพรุ่งนี้ไงว่ะ "
“ ไปไหนมา ทำไมมึงถึงกลับเอาป่านนี้ "
“ ไปซื้อของเป็นเพื่อนไอ้ไฟ " ผมบอกมันก็เดินเข้ามาใกล้
“ กูโทรไปถามไอ้ไฟนะ " พยักหน้าลงอีกครั้ง
“ เชิญเลย " ยื่นโทรศัพท์ให้มัน " กูไม่ปิดบังเรื่องไร้สาระพันนี้หรอก เพราะกูไม่ใช่มึง "
“ นี่ เรื่องของเฟย์นะ " ผมยกมือขึ้นห้ามมัน ไอ้ฮิมมีสีหน้าหนักใจอยู่ในแววตานั้น
“ ทำไมมึงปิดกูว่ะ "
“ กูไม่อยากให้มึงคิดมาก ว่ากูทำงานที่เดียวกับมัน กูไม่อยากให้มึงกังวล แต่กูก็ไม่ได้คิดว่าจะไม่บอก กูจะบอกแต่ยังไม่ได้บอก "
“ แล้วมึงรออะไรอยู่ว่ะ รอให้กูเห็นเองเหรอ " จ้องหน้ามัน ไอ้ฮิมเดินเข้ามาใกล้ มือมันจับไหล่ผม " ทำไมต้องพี่เฟย์อีกแล้วว่ะ ทำไมชีวิตของมึงต้องมีเค้าตลอดด้วย ตั้งแต่ตอนเรียนนี่ยังจะติดตามมาถึงตอนทำงานอีกเหรอว่ะ ทำไมว่ะ เค้าชอบมึงมากเลยเหรอว่ะ ถึงคอยทำอะไรๆ ติดตามมึงไปตลอดแบบนี้ "
“ กูบอกแล้ว ระหว่างกูกับเฟย์คือเพื่อนจริงๆ กูไม่ได้คิดอะไร แล้วอีกอย่าง มันมาสมัครงานที่นี่เพราะว่า ไอ้เต๋อเห็นว่ามันกำลังหางานทำอยู่ แล้วตำแหน่งมันก็ว่าง มึงไม่ต้องคิดมากหรอก "
“ มึงจะมาห้ามกูไม่ให้คิดได้ไงว่ะในเมื่อกูคิด " ผมดันมือที่จับไหล่ของผมออก " ทำไมว่ะ ทำไมถึงต้องมีคนที่ดีขนาดนั้นอยู่ใกล้ๆตลอด คนที่เค้าสวย การศึกษาดี มีฐานะ คนที่เค้าเหมาะสมกับมึงขนาดนั้น ทำไมมึงต้องมีเค้าอยู่ใกล้ด้วยตลอด ด้วยว่ะ "
“ ไอ้หยุ่น.”
“ แล้วพอเทียบกับกูแล้ว กูมีเหี้ยอะไรดีบ้างว่ะ กูเป็นแค่เด็กโง่ๆคนนึงที่มึงเจอบนบีทีเอส แถมยังเป็นผู้ชาย คนที่มึงต้องคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา คนที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไร คนที่ต้องมีมึงอยู่ใกล้ๆแบบกู แล้วกูมีอะไรดีว่ะมึง กูแม่งไม่มีอะไรเลย " ผมก้มหน้าลงต่ำ ลำคอมันแห้งไปหมดจนแทบจะพูดอกมาไม่ได้อีกแล้ว ขาที่เดินเข้ามาใกล้ของฮิม ผมถอยห่างออกไป มือมันคว้าจับมือของผมไว้ ก้มหน้าลงมามองผม
“ มึงคือคนที่กูรัก นั่นคือ ข้อดีของมึง " เงยหน้ามองมันที่ถอนหายใจออกมา " ถึงกูจะห้ามความคิดของมึงไม่ได้ แต่สี่ปีที่ผ่านมา ถ้ากูคิดว่าเฟย์ดีแบบที่มึงคิด ถ้าความใกล้ชิดมันทำให้กูรักเฟย์ได้ แล้วละก็กูคงทิ้งมึงไปนานแล้วละ ไม่ต้องมารอจนถึงวันนี้หรอก แล้วแบบนี้มึงจะคิดมากทำไม "
“ กูงี่เง่า " นั่นคือความคิดของผมในตอนนั้น ก็อย่างที่ฮิมมันพูด มันก็จริงอย่างที่มันบอก ถ้ามันเห็นพี่เฟย์ดีกว่า มันคงเลิกกับผมนานแล้ว
“ กูขอโทษ กูผิดเอง ที่ไม่บอกมึงเรื่องเฟย์ แต่เพราะกูไม่อยากให้มึงคิดมาก เวลามึงกังวล มึงจะทำงานไม่ค่อยได้ นอนก็ไม่หลับ งานไม่เสร็จ แล้วอีกอย่างวันนี้ที่กูไป กูไม่ได้ไปกับมันสองคนไอ้เต๋อก็ไปแต่ที่มันต้องขับมารับกูก่อน ก็เพราะคอนโดกูมันถึงก่อน " มันจ้องหน้าผมที่ตอนนี้หลบตามันไปแล้ว
“ แล้วทำไมมึงกลับเร็วว่ะ ไหนบอกกลับพรุ่งนี้ "
“ งานเคลียร์เสร็จก่อนกำหนด เลยรีบกลับ " มันดึงตัวผมที่มันจับอยู่เข้ามากอด " สีหน้ามึงตอนกูไป ดูไม่ค่อยดีเลย กูไม่ค่อยอยากอยู่ เลยรีบทำงาน "
“ โทษที " ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงงี่เง่า ไม่รู้ทำไมถึงชอบคิดมากเรื่องของพี่เฟย์ ไม่รู้ทำไมพอเป็นเค้าแล้ว ผมกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักเหตุผลอะไรเลย ไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีเหตุผลเป็นคนที่คิดตามแต่ใจตัวเอง
“ ไม่เป็นไร กูเข้าใจ อีกอย่างกูก็คงทำงานแค่ปีเดียว รอมึงเรียนจบแล้วไปเรียนต่ออเมริกาด้วยกัน " มันพูดออกมาพร้อมอ้อมกอดที่กอดผมเอาไว้แน่น เหมือนที่ผมเองก็กอดมันเอาไว้แน่นเหมือนกัน ทั้งๆที่ในใจก็พยายามคิดหาเหตุผลสักข้อที่ทำให้ต้องเป็นแบบนั้น
" กูรักมึง " บางที.. นั่นอาจจะเป็นเหตุผลเดียวที่ผมมี
..........................
คิดถึงฮิมหยุ่น กันบ้างมั๊ย รู้สึกเทมไฟถี่เหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา
แต่ยกให้เค้าหน่อยเพราะ ตอนแรกของเค้าไม่ค่อยมี นะจ้ะ
มาถึงฮิมหยุ่นที่ก็เป็นหนึ่งในตอนพิเศษ อีกหนึ่งตอน
เมื่อไหร่หนังสือจะเสร็จ ? คำถามนี้อยู่ในหัวทุกคน หนมเลยจะบอกว่า
“ แบบร่างหน้าปกเสร็จแล้วคร่าทั้งสามปกเลย ตอนนี้รอลงสีแล้วปกจริงออกมาก่อน แล้วถึงจะเปิดจองได้ “
หวังว่าทุกคนคงยังไม่ลืมนะเค่อะ TT อย่าเพิ่งลืมนิยายเรื่องนี้นะเค่อะ
ด้วยรัก

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์กันนะคร่าาาาา

นิยายยังไม่ได้พิมก็ลงตอนพิเศษมันต่อไป เอิ้กกกก
ฝากแท็ก #BTSสถานีรัก ด้วยนะคะ