SOTUS : พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่งกฎของปีหนึ่งข้อที่ 4 : ห้ามลืมสิ่งที่พี่ว้ากเตือนโดยเด็ดขาด “ป้ายชื่อของคุณไปไหนครับ”
สำหรับคนอื่นนี้คงเป็นประโยคคำถามธรรมดา แต่สำหรับเด็กปีหนึ่งที่ถูกเรียกให้ลุกขึ้นยืนกลางห้องประชุมเชียร์วิศวะ คำถามนี้คงเป็นเหมือนกับคำสั่งประหาร ยิ่งเมื่อถูกนัยน์ตาดุของเฮดว้ากปีสามอย่างอาทิตย์มองเขม็ง ก็ยิ่งทำให้คนโดนจ้องรู้สึกอึดอัด คล้ายอีกฝ่ายมีนัยน์ตาเมทริกซ์สามารถเจาะทะลุไปถึงการกระทำทุกอย่างได้ สุดท้ายจึงจำต้องบอกความจริงไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ผะ...ผมลืมเอามาครับ”
อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับคำตอบมักง่าย ...ไม่ใช่ว่าปลง แต่เป็นการหมดความอดทนที่จะต้องย้ำเตือนถึงเรื่องเดิม ๆ
“คุณคิดว่าผมให้ป้ายชื่อคุณไว้ห้อยเล่นขำ ๆ เหรอครับ คุณรู้มั้ยว่าป้ายชื่อมันสำคัญยังไง มันเป็นการบอกให้เพื่อนให้พี่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ที่คุณไม่ได้เอามา แสดงว่าคุณไม่อยากให้พวกผมรู้จักคุณใช่มั้ย!!”
คนถูกตวาดสะดุ้งโหยง รีบส่ายหัว ละล่ำละลักปฏิเสธ
“มะ...ไม่ใช่ครับ”
หากคำแก้ตัวกลับไม่ได้ช่วยอะไร เมื่ออาทิตย์หรี่ตาลงคล้ายกำลังพิจารณา ก่อนเอ่ยข้อสรุปเอาเอง
“ถ้าไม่ใช่เหตุผลนี้ ...ก็คงเป็นเพราะคุณคิดว่าเพื่อนของคุณทุกคนรู้จักคุณดีหมดแล้ว คุณถึงไม่จำเป็นต้องห้อยป้ายชื่อเอาไว้สินะครับ งั้นผมจะขอพิสูจน์ดูหน่อยว่ามีคนรู้จักคุณจริง ๆ รึเปล่า ...พวกคุณเงยหน้าขึ้นมามอง ทราบมั้ยครับว่าเพื่อนคนนี้ชื่ออะไร!!”
ท้ายประโยคเฮดว้ากหันไปตะโกนถามนักศึกษาปีหนึ่งซึ่งนั่งเรียงกันเป็นแถว ทว่ากลับไม่มีใครยอมเปิดปาก ทุกคนนิ่งเงียบสนิท อาจไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่รู้จักชื่อเพื่อนคนนี้ แต่ด้วยกลัวอิทธิฤทธิ์ของพี่ว้ากจึงไม่มีใครกล้าสอด เพราะสุดท้ายยังไงคนทำผิดก็ต้องโดนทำโทษอยู่ดี การเสนอตัวเองเข้าไปยุ่งด้วยจึงเท่ากับการเอาคอขึ้นเขียงไปให้พี่ว้ากเชือดฟรี ๆ แล้วแบบนี้ใครมันจะอยากหาเรื่องซวยกัน
“ไม่มีใครรู้จักเพื่อนคนนี้เลยเหรอครับ! ไม่มีใครคบเขาเป็นเพื่อนเลยใช่มั้ยครับ!”
น้ำเสียงตอกย้ำอย่างดูถูก ทำให้คนถูกประจานหน้าเสีย ถึงเป็นผู้ชายแต่โดนกดดันหนักขนาดนี้ก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน คนทำผิดก้มหน้าน้ำตาคลอเตรียมรับบทลงโทษสุดโหดจากพี่ว้าก หากยังไม่ทันที่อาทิตย์จะอ้าปากกลับมีเสียงดังแทรก
“เขาชื่อ ‘เอ็ม’ ครับ!”
คำพูดผ่าเอากลางวงขัดจังหวะ จนเฮดว้ากต้องรีบหันขวับไปตะคอกถาม
“ใครเป็นคนตอบ!”
“ผมเองครับ”
เจ้าตัวยกมือรับ ก่อนลุกขึ้นยืนให้อีกฝ่ายเห็นชัด ๆ จนอาทิตย์ต้องเบิกตากว้าง ทันทีที่พบว่าไอ้ตัวสอดนั่นคือใคร
...มันมาอีกแล้วไอ้พวกพ่อพระปกป้องเพื่อน แต่เป็นเหมือนมารร้ายในชีวิตของพี่ว้าก
...0062 ก้องภพ!
ถึงจะเป็นคู่ปรับกันมาหลายหน แต่อย่าคิดว่าเขาจะสะทกสะท้านอะไร ตรงข้ามกับเริ่มรู้สึกท้าทายมากกว่าปกติด้วยซ้ำ ...ในเมื่อเหยื่อมาหาถึงที่ก็ต้องเล่นกลับคืนเสียหน่อย เดี๋ยวจะเสียน้ำใจกัน... เขาจึงเบนเข็มไปเอ่ยถามเป้าหมายใหม่
“คุณรู้จักเพื่อนคนนี้ใช่มั้ย!”
“รู้จักครับ”
เสียงตอบมั่นใจชัดเจน สร้างความหมั้นไส้อย่างไม่มีเหตุผลให้กับพี่ว้าก
...อวดเก่งดีนักนะมึง ไหนดูสิว่าจะรู้ดีจริงรึเปล่า
“เอาบัตรประชาชนของคุณมาให้ผม”
เอ็มที่ถูกสั่งสะดุ้ง รีบล้วงกระเป๋าตังค์อย่างลนลาน หยิบบัตรประชาชนส่งมาให้คนขอซึ่งรับมามอง พลางเหยียดยิ้มอย่างท้าทาย ก่อนจะจัดการเปิดเกมส์รัวคำถามใส่ไม่ยั้ง
“เพื่อนของคุณคนนี้ชื่อจริงว่าอะไร!”
“คธาวุฒิ ครับ”
“นามสกุล!”
“หทัยประเสริฐ ครับ”
“เกิดวันที่!!”
“12 ธันวาคม พ.ศ.2538 ครับ!”
...แม่ง มึงแดกทะเบียนราษฎร์เข้าไปเรอะ!!
อาทิตย์อยากจะร้องโวยวายอย่างหงุดหงิดโมโห ...ถามไปตั้งเยอะ เสือกตอบได้ตรงอีก ทำได้ยังไงวะ! เอ๊ะ...หรือว่ามันคงอาจรู้จักกันมาก่อนแล้วก็ได้ เลยไม่แปลกที่ไอ้เด็กนรกนั้นจะมั่นใจถึงได้กล้าตอบคำถามเขาได้ตรงเป๊ะทุกข้อ
...หึ แต่แค่นี้คิดเหรอว่าเขาจะยอมปล่อยไปง่าย ๆ ถ้าเอาคืนไม่ได้ อย่ามาเรียกเขาว่า อาทิตย์!
“คุณนั่งลงได้แล้ว! ดูเหมือนเพื่อนคุณจะรู้จักคุณดีนะ แต่ผมอยากจะรู้ว่าเพื่อนคุณจะรู้จักคนอื่นดีแบบคุณมั้ย?”
แม้คนรอดตัวอยากจะถอนหายใจโล่งอก แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะรู้ดีแก่ใจว่าคนที่จะโดนเล่นงานถัดไปเต็ม ๆ ก็คือเพื่อนสนิทที่ช่วยตัวเองไว้ ยิ่งเพื่อนคนนี้ถูกหมายหัวไว้ตั้งแต่วันแรก ๆ โทษฐานคิดปีนเกลียวพี่ว้าก เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะโดนทำโทษหนักหนากว่าคนอื่น และสิ่งที่คิดไว้ก็เป็นความจริง เมื่อได้ยินเสียงเฮดว้ากตะโกนสั่งอย่างดุดัน
“ทุกคนหันป้ายชื่อกลับให้หมด!!”
ถึงจะไม่เข้าใจเหตุผลในตอนนี้ แต่คำสั่งของพี่ว้ากถือเป็นประกาศสิทธิ์ จำต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ และทันทีที่บรรดาน้อง ๆ พลิกป้ายชื่อกลับหลังจนครบทุกคน เสียงตะโกนสั่งก็ดังมาอีกระลอก
“รหัส 0023 ยืนขึ้น!”
เจ้าของรหัสรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เป็นน้องผู้หญิงตัวเล็กหน้าหมวย ๆ ท่าทางของมือที่กำชายเสื้อไว้แน่นบ่งบอกถึงความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ความจริงแล้วน้องไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะคนที่เขาจะเล่นงานน่ะคือไอ้คนอวดรู้นั่นต่างหาก
อาทิตย์เดินไปหาน้องผู้หญิงที่ยืนอยู่อีกฝั่งไม่ไกลจากก้องภพ แล้วหันไปสบดวงตาคมซึ่งมองตรงมาทางเขา พลางเอ่ยคำถาม
“ไหนคุณตอบผมสิว่าเพื่อนของคุณคนนี้ชื่ออะไร”
ก้องภพนิ่งอึ้ง คล้ายคนถูกหมัดฮุกใส่จนจุก เข้าใจแจ่มแจ้งทันทีถึงวิธีที่อีกฝ่ายจะใช้จัดการเขา แต่ถึงอย่างไรตัวเองก็ไม่มีสิทธิปริปากบ่น เหลือแค่ต้องตัดสินใจเดินไปตามเกมส์เท่านั้น ร่างสูงจึงสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเอ่ยประโยคตอบออกมา
“ชื่อ ‘มะปราง’ ครับ”
เสียงพูดแม้จะไม่มั่นคงเท่าตอนแรก แต่ก็แฝงความชัดเจนเอาไว้ จนอาทิตย์ต้องรีบพิสูจน์ความจริง
“คุณหันป้ายชื่อให้ผมดูสิ!”
น้องผู้หญิงพลิกป้ายชื่อกลับมาให้เห็นอักษรซึ่งเขียนไว้อย่างชัด เป็น...มะปราง...จริง ๆ ตามที่พูดทุกประการ
...เออ...รอดไปนะมึง แต่อย่าคิดว่าเขาจะยอมจบ
“รหัส 0038!!”
คราวนี้เป็นน้องผู้ชายร่างท้วมยืนขึ้นจากแถวด้านซ้ายตามคำสั่ง อาทิตย์รีบก้าวพรวดไปยังอยู่ห่างออกไป พร้อม ๆ กับที่ยิงคำถามใส่ซ้ำ
“เพื่อนคุณคนนี้ชื่ออะไร!”
“โอ๊ค ครับ”
ไม่ต้องรอให้เจ้าของชื่อตอบว่าจริงมั้ย เพราะเขาเป็นฝ่ายเอื้อมมือมาพลิกป้ายชื่อของน้องเอง และก็ต้องทวีความหงุดหงิดเพิ่มเป็นสองเท่าที่เห็นตัวอักษรชัด ๆ
...ว่ะ! มันจะตอบได้หมดเลยรึไง!! นักศึกษาวิศวะปีหนึ่งภาคอุตสาหการมีตั้งสองร้อยกว่าคน ไม่มีทางที่มันจะรู้จักทุกคนจริง ๆ หรอก ตราบใดที่มันไม่ใช่นางงามมิตรภาพ มันก็ต้องมีบ้างแหละคนที่หลุดรอดไปได้
“รหัส 0151!!”
น้องผู้หญิงปีหนึ่งใส่แว่น รวบผม ท่าทางเรียบร้อย ยืนตัวตรงนิ่งตามคำสั่ง รอฟังเสียงเรียกชื่อจากปากของอีกฝ่าย
ทว่ามันกลับมีเพียง....ความเงียบ
...นั่นไง! เขาเจอจุดอ่อนจนได้แล้ว
“ทำไมไม่ตอบ! เพื่อนของคุณคนนี้ชื่อว่าอะไร!”
อาทิตย์ย้ำหนักลงไปอีกครั้ง มองคนมีท่าทีอึกอัก ก่อนเอ่ยไปตามความจริง
“ผมไม่ทราบครับ”
...หึ...ในที่สุดมึงก็ไม่ได้รู้ทุกอย่างจริง ๆ แล้วยังจะมาพูดอวดดีต่อหน้าเขา คราวนี้คงถึงตาของเขาบ้างที่จะต้องสอนให้มันรู้สำนึก ไม่ใช่สั่งลงโทษหรอกครับ ไอ้ให้ไปวิ่ง ไปสก็อตจั๊ม ปั่นจิ้งหรีด มันง่ายเกินไป... สำหรับไอ้พวกกล้าอวดเก่ง เขามีวิธีที่แสบสันต์กว่านั้น
“ผมขอป้ายชื่อของคุณด้วย”
อาทิตย์เดินไปขอป้ายชื่อจากน้องผู้หญิงที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ คาดว่าคงจะใจเสียไม่น้อยที่เพื่อนจำชื่อตัวเองไม่ได้ แต่ก็ต้องหยิบป้ายชื่อนั้นขึ้นมาส่งให้พี่ว้าก ซึ่งจัดการโบกโชว์ให้นักศึกษาปีหนึ่งเห็นโดยทั่วกัน
“ผมบอกคุณแล้วนะครับว่าการที่ผมให้ป้ายชื่อกับพวกคุณ ก็เพราะอยากให้พวกคุณทุกคนให้ความสำคัญกับเพื่อน แต่นี่ขนาดแค่ชื่อคุณยังจำไม่ได้ แล้วผมจะให้ป้ายนี้ไปเพื่ออะไร...”
เขาหยุดประโยคไว้เพียงแค่นั้น หยิบป้ายชื่อซึ่งทำจากกระดาษแข็งสีส้มห้อยเชือกเอาไว้ ชูให้ทุกคนเห็นชัดด้วยสองมือ ก่อนกระแทกเสียงใส่รุนแรง
“ในเมื่อคุณไม่เห็นค่ามัน ไอ้ของแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมี!!”
กระดาษแข็งถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนในห้องประชุม ทุกสายตาจับจ้องไปที่การกระทำนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ โดยเฉพาะกับก้องภพที่ยืนนิ่งค้าง มองป้ายชื่อของเพื่อนที่เขาไม่รู้จัก กลายเป็นเศษกระดาษค่อย ๆ ร่วงหล่นลงบ่นพื้น ...ทีละชิ้น ...ทีละชิ้น...
“...จำไว้ นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกคุณยังไม่ให้ความสำคัญกับเพื่อนของคุณมากพอ”
อาทิตย์ปล่อยกระดาษจากมือทั้งหมดลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี แล้วเดินกลับเข้าประจำตำแหน่งของตัวเอง พร้อมกับพูดปิดท้าย
“หน้าที่ของผมในวันนี้จบแค่นี้ และพรุ่งนี้ผมหวังว่าจะเห็นป้ายชื่อจากพวกคุณทุกคน แต่ถ้าคุณคิดว่าเพื่อนของคุณรู้จักคุณดีแล้วก็ไม่ต้องเอามันมาอีก! เข้าใจมั้ย!!”
“เข้าใจครับ/ค่ะ!”
เสียงตอบรับอย่างพร้อมเพรียงดังขึ้นเป็นคำตอบ เขาพยักหน้ารับ แล้วพาพวกกลุ่มว้ากของตัวเองเดินออกจากแถว เพื่อให้พวกสันทนาการเข้ามารับหน้าที่ปรับอารมณ์ของน้องใหม่ เพราะเมื่อกี๊เขายอมรับไปว่าตัวเองเล่นแรงพอสมควร แต่นี้คือหน้าที่ขอพี่ว้ากซึ่งจำต้องทำ ถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพราะการคุมคนเป็นร้อยให้มีระเบียบก็จำต้องอาศัยความกลัวและความกดดันเป็นส่วนสำคัญเหมือนกัน
ดังนั้น แม้จะถูกใครมองว่าเป็นพี่ว้ากเลือดเย็น อำมหิต ไร้หัวใจขนาดไหนก็ต้องรักษามาดเอาไว้ ไม่ให้รุ่นน้องบางคนมันกล้าคิดปีนเกลียว ไม่เคารพเชื่อฟังเขาอีก
และดูคล้ายกับสิ่งที่เขาทำลงไปจะได้ผลไม่น้อย เพราะรุ่นน้องที่ถูกเขาเพ่งเล็งยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ เหมือนกับคนรู้สึกอึ้งทำอะไรไม่ถูก ด้วยตัวเองเป็นสาเหตุให้เพื่อนต้องเสียป้ายชื่อไป
...นี่แหละคือผลของการบังอาจหยามเกียรติของรุ่นพี่ เลยต้องโดนเลือกเป็นเหยื่อที่จะต้องถูกทำร้ายความรู้สึกให้เจ็บปวดมากที่สุด!
อาทิตย์มองก้องภพด้วยสายตาเยาะเย้ยขณะกำลังจะเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ ห้องประชุม แต่แล้วอยู่ ๆ อีกฝ่ายก็เริ่มขยับ ร่างนั้นวิ่งแตกจากแถวเดี่ยว ๆ โดยไม่สนใจใคร ตรงมาหาน้องผู้หญิงที่ถูกฉีกป้ายชื่อ ซึ่งเจ้าตัวกำลังก้มหน้าเช็ดน้ำตา เขาเห็นก้องภพเก็บป้ายชื่อที่กระจายร่วงเต็มพื้นมากอบไว้ในมือ แล้วเงยหน้าถามคนร้องไห้
“ขอโทษนะ เธอชื่ออะไรเหรอ”
คนถูกถามสะดุ้งตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบออกมาพร้อมน้ำเสียงสะอื้น
“...ระ..เรา...ชะ...ชื่อ...เมย์”
ก้องภพพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะทำสิ่งที่อาทิตย์ไม่อยากเชื่อสายตา เมื่อก้องภพหยิบเอาป้ายชื่อที่คล้องคอตัวเองออกมา แล้วล้วงปากกาเขียนอะไรบางอย่างที่ด้านหลังของป้าย เสร็จแล้วจึงยื่นให้อีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม
“อ่ะ...เราให้”
ตัวอักษรคำว่า ‘เมย์’ พร้อมรหัส ‘0151’ ปรากฏชัดบนป้ายชื่อด้านหลัง คนได้รับนิ่งอึ้งไปด้วยความตื้นตัน ตรงข้ามกับอาทิตย์ซึ่งนิ่งอึ้งไปเหมือนกัน แต่เป็นการอึ้งที่เต็มไปด้วยอารมณ์โมโหพุ่งทะยานขึ้นสูงจนตัวสั่น
...มันกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง ...กล้าทำได้ยังไง!
เขารีบก้าวเท้ากลับตรงดิ่งเข้าไปหา เอื้อมมือไปกระชากร่างสูงที่ยืนอยู่ให้หันกลับมาเผชิญหน้า ก่อนตะคอกเสียงดังลั่น
“คุณทำอะไร ก้องภพ!!"
ทั้งน้ำเสียงและแววตาดุดันอย่างกับจะกินเลือด ทำให้ก้องภพรู้ดีว่าคู่สนทนาโกรธมากแค่ไหน แต่ก็ยังเลือกตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบอย่างใจเย็น
“ผมให้ป้ายชื่อของผมกับเขาครับ”
“คุณให้ไปทำไม!! ใครสั่งให้คุณทำ!!”
“ไม่มีครับ แต่ผมผิดเองที่จำชื่อเพื่อนไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบ”
คำอธิบายส่งผลให้อาทิตย์ชะงัก หยุดนิ่ง จ้องสบดวงตาคมอย่างตรง ๆ
...มันไม่มีแววตาของความท้าทาย มีเพียงความเด็ดเดี่ยวแบบคนตัดสินใจได้แล้วสะท้อนกลับมาเท่านั้น
เขาจึงผ่อนอารมณ์ลงร้อนลง เปลี่ยนมันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าถ้าคุณให้ป้ายชื่อกับเพื่อน คุณก็จะไม่มีป้ายชื่ออีก”
“รู้ครับ”
ในเมื่อเข้าใจกติกาแล้ว แต่ก็ยังเลือก แสดงว่าเจ้าตัวยอมเสี่ยงโดนลงโทษ ดังนั้นเฮดว้ากอย่างเขาก็คงต้องจัดไปตามความต้องการ
“ถ้าคุณไม่มีป้ายชื่อ ผมจะถือว่าคุณผิดกฎของรุ่น นับจากวันนี้คุณไม่ต้องมานั่งร่วมประชุมกับเพื่อนคนอื่น ให้แยกไปนั่งเดี่ยว และถ้าเกิดเพื่อนของคุณโดนลงโทษอะไร คุณจะต้องทำเป็นสองเท่า เข้าใจมั้ย!!”
“ครับผม!”
ได้ยินเสียงก้องภพตอบกลับดังไม่สะทกสะท้าน แม้บทลงโทษจะรุนแรงกว่าครั้งไหน ๆ ก็ตาม
อาทิตย์จึงหันหลังกลับ คราวนี้ไม่ได้เดินออกไปยืนข้างแถวน้อง ๆ แต่เดินตรงออกไปนอกห้องประชุมเชียร์
...เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงตัวเองเป็นแบบนี้ รู้แค่ว่าเขาไม่อาจทนอยู่ในห้องประชุมเชียร์ได้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ปฏิบัติตามหน้าที่ของพี่ว้ากทุกประการ และก็สั่งลงโทษรุนแรงไปตามความเหมาะสม
แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังแพ้....แพ้ไอ้ท่าทางจริงจังที่ตั้งใจจะช่วยเพื่อนของมัน
เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า...นอกจากเขาจะเกลียดความกวนตีนที่ทำเอาอยากเตะปากมันวันละหลายรอบแล้ว
....เขายังเกลียดสายตาเด็ดเดี่ยวคู่นั้นของก้องภพอีกด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
TBC
...ทำไมตอนนี้มาอย่างซีเรียส?
คือ...ความจริงเราก็อยากจะเสนอมุมเกี่ยวกับการว้ากแบบอื่น ๆ บ้างเนอะ
จะมายิงมุกเสี่ยวใส่กันตลอด สักวันน้องก้องภพต้องโดนพี่ว้ากฆาตกรรมแน่ ๆ
เราคิดว่าส่วนหนึ่งที่ได้จากการรับน้อง มันคือการฝึกให้รักเพื่อนพ้องกันนี่แหละ
เหตุการณ์นี้ Base on true story นะ ไอ้ฉีกป้ายชื่อเนี่ย มีจริง ๆ จะให้มามุ้งมิ้งตอนนั้นคงบิ้วไม่ขึ้น
เอาเป็นว่าแค่พี่อาทิตย์ยอมรับก้องภพได้หน่อยนึง ก็ถือว่าน้องปีหนึ่งทำแต้มได้แล้ว
เพราะศึกชิงเกียร์ครั้งนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่จะจับใครทำเมียอย่างเดียว
มันคือการให้พี่ว้ากยอมรับเข้ารุ่นเป็นส่วนหนึ่งของวิศวะด้วย
ก็ต้องขออภัยที่อาจไม่ได้หวาน ไม่ได้กุ๊กกิ๊กกันพอสมควร
ไปง่าย ๆ เรื่อย ๆ แบบที่ควรจะเป็นกันดีกว่าเนอะ แล้วไว้ค่อยมาลุ้นกันว่าพี่อาทิตย์จะเอาคืนได้มั้ย
...ใครรักใคร อยู่ฝ่ายไหนก็ช่วยส่งเสียงเชียร์กันดัง ๆ นะคะ เจอกันใหม่ตอนหน้าจ้า
รัก
BitterSweet