!!! ฟินกับภาพ!!! อภินันทนาการจาก แฟนนักอ่านที่น่ารักคุณลักษ์ดีขึ้นรึยังฮะ? ขอให้สุขภาพกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงไว ๆ นะครับ
- - - - - - - - -
น้องดิ่งในสนาม


- - - - -
'โหล ดิ่งทำไรอ่ะ?

ดิ่งรอพี่โย่อยู่เนี่ยะ (คิดถึงด้วย)

พี่รออยู่ที่รถแล้ว ไปกินข้าวกัน

สุขสันต์วันเกิดครับคนดี

- - - - -
*At the pool
ดื่งลงมาได้แล้ว!

เค้าเขิลนิ... น้ำเย็นรึเปล่าไม่รู้?
... *ตู้ม* ... (โดดแบบตีโป่งลงคลอง)
อั๊ยยะ.. น้ำเย็นจังง่ะ!

555.. ทำไมมันน่ารักขนาดนี้!

สนามรัก..นักบอล
Part 31 “Rrrrrrrr!!!!” ริงโทนโทรศัพท์ปลุกลูกดิ่ง ซึ่งหลับอุตุอยู่บนเตียงให้ปรือตาตื่น หน้าหล่อใสกะพริบตาปริบๆ
คอยกวาดมองโดยรอบ รู้ทันทีที่นี่คือห้องนอนคอนโดโยโย่ ไม่เห็นเงาของสุดหล่อตัวโต
เหลียวมองมือถือส่วนตัวกำลังส่งเสียงตรงโต๊ะหัวเตียง รีบคว้ามากดดู ‘กุล’ เพื่อนเขาเอง
“ว่าไง..กุล”
[กูไปหามึงเมื่อวานเย็น แม่บอกมึงไม่ได้กลับมา ตกลงอาทิตย์นี้ไม่กลับบ้านเหรอดิ่ง กูนึกว่ามึงจะกลับมาเสียอีก]
“กูกลับวันนี้แหละ คงสายหน่อย มึงมีอะไรกับกูหรือเปล่า”
[กูตั้งใจชวนเตะบอล..ก๊วนเดิม]
“พวกมึงเตะกันไปเลย วันนี้กูมีธุระคุยกับแม่กูว่ะ ไม่สะดวกจริงๆ” ลูกดิ่งรีบปฏิเสธ เขาไม่สะดวกรับนัด
ยังไม่ได้บอกข่าวดีให้แม่รู้เรื่องที่เขามีชื่อติดนักเตะสโมสร ตั้งใจไปบอกด้วยตัวเอง
ได้ยินปลายสายเอ่ยปรามใครดังลอดเข้ามาในเครื่อง ‘เดี๋ยวดิพี่แจ..รู้หรอกน่า’
[มีคนฝากถาม พี่โย่มากับมึงเปล่าวะ] ลูกดิ่งไม่ต้องเดาว่าใครเป็นคนฝากถาม
“ไม่รู้ กูไม่ได้ชวน” เขาไม่ได้โกหก ยังไม่ได้บอกรุ่นพี่
[เออ..ไว้มาถึงโทรหากูด้วยแล้วกัน]
“อืม..” ลูกดิ่งรับคำรวบรัด เวลานี้เก้าโมงกว่าแล้ว ไม่รู้เจ้าของห้องไปอยู่ไหน
หลังวางสายจากเพื่อนร่างท้วม ค่อยมีเวลาสำรวจตัวเอง เสื้อผ้าที่สวมเป็นกางเกงบอลกับเสื้อยืดหลวมโครก
ไม่ต้องเดาอภินันทนาการจากใครเป็นคนเปลี่ยนให้เขา
แค่นึกว่าถูกจับถอดผ้า ลูกดิ่งถึงกับหน้าเห่อแดงเป็นริ้ว นี่เขาเมาจนไม่รู้เรื่องรู้ราว
พี่โย่พากลับคอนโดจับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ด้วย จำไม่ได้สักอย่าง คลับคล้ายคลับคลาว่าจอดรถเยี่ยวที่สุสานตรงไหนสักแห่ง
แล้วก็จำไม่ได้อีกเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
ลุกเข้าห้องน้ำอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จ ค่อยเปิดประตูโผล่ไปดู เห็นร่างล่ำสันสูงใหญ่นอนที่พื้นหน้าโซฟา
มีผ้าห่มนวมกับหมอนใบเดียว อย่าบอกรุ่นพี่ออกมานอนข้างนอก
ความรู้สึกละอายใจตามมาติดๆ เขาทำตัวแย่ถึงขนาดแย่งที่นอนเจ้าของห้อง
ปล่อยรุ่นพี่หอบหมอนผ้าห่มมานอนนอกห้องแทน สภาพรุ่นพี่เปลือยช่วงบน ไม่อยากคิดช่วงล่างมีอะไรสวมไว้ไหม
หรือนอนแก้ผ้าตามความเคยชิน ย่องเข้าไปใกล้ๆ นั่งยองเข่าเพ่งดูหน้าหล่อท่าทางหลับสนิท
เผลอจ้องอยู่นานเก็บรายละเอียดอย่างลืมตัว
พี่โย่..หล่อจนน่าอิจฉา คิ้วเข้มดกดำ รับจมูกโด่งเป็นสันใบหน้ารูปไข่ปากสวยสีสด ขนตายาวเคราดก
ภายใต้เปลือกตาหลุบปิดบดบังตาสีถ่าน ยามสายตาคมมองทีไร ไม่ใครต่อใครเป็นอันไม่กล้าสู้ตาด้วย
พี่โย่เป็นคนมีเสน่ห์สายตามีพลัง ลูกดิ่งยอมรับใจสั่นทุกครั้งเมื่อสายตาคู่นี้มองเขาอย่างวาบหวาม
บรรยายไม่ถูกแค่รู้สึกบังคับการเต้นของหัวใจลำบากชะมัด
“อืออ” เสียงครางคล้ายละเมอ มีขยับตัวเล็กน้อย ดึงสติลูกดิ่งคืนมา
“พี่โย่ครับ..พี่ครับ” เขาตัดสินใจปลุกให้ลุกไปนอนบนเตียง จะได้รู้สึกสบายตัวกว่านี้ อดแปลกใจนิดหน่อย
เตียงออกจะกว้างทำไมพี่เค้าไม่นอนด้วยกัน ลงทุนหอบหมอนผ้าห่มมานอนทำไมตรงนี้..ไม่เข้าใจจริงๆ?
“หือ..ตื่นแล้วเหรอเรา” ตาคมจ้องเขานิ่ง เล่นเอาชะงักไปเช่นกัน คำถามตามมาติดๆ
“ครับ..ทำไมพี่มานอนตรงนี้” ไม่รู้จะพูดอะไร รู้สึกเขินสายตาพี่
“หึหึ! ดีแล้วที่พี่ออกมานอนข้างนอก เพื่อสุขภาพร่างกายของดิ่งเอง
รู้ไหมคืนที่ผ่านมาพี่ต้องใช้ขันติมากเท่าไหร่ พี่ไม่คิดว่าจะอดทนได้ขนาดนี้”
ใครไม่เป็นเขาคงไม่รู้ หลังแบกรุ่นน้องเข้าลิฟต์ ขานั่นเมาหลับไม่รู้เรื่อง ต้องปล้ำลิงให้ดื่มโปรตีน
ซึ่งเขาชงให้อย่างลำบาก ถึงกับบีบคางจับกรอกกันเลย ไม่งั้นน้องตื่นมาปวดหัวเพราะอาการแฮงค์แน่
ที่ไม่มีอาการดังกล่าวเพราะดื่มโปรตีนป้องกันไว้ก่อน ส่วนใหญ่คนไม่เคยดื่มเมาแฮงค์ทุกราย
แต่โปรตีนที่เขาซื้อเก็บไว้แก้อาการเมาค้างชะงัดนัก
หนักหนาตอนถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวให้จะได้หลับสบาย นั่นแหละที่เขาต้องใช้ความอดทนจนเส้นเลือดขมับเต้นตุ๊บๆ
ผิวเนียนเต็มไม้เต็มมือดีจัง นอนเปลือยกายเหลือกางเกงในตัวเดียว ช่างล่อแหลมยั่วอำนาจฝ่ายต่ำเขาเสียเหลือเกิน
ยิ่งนอนหายใจเนื้อตัวอมชมพูเพราะฤทธิ์เหล้าเข้าอีก
เขาถึงกับเกือบพ่ายแพ้ไปแล้วด้วยซ้ำ แต่สำนึกส่วนดีคอยกระตุ้นเตือนไม่ให้ขาดสติ
ยอมตัดใจทำร้ายตัวเองในห้องน้ำแทน ใครรู้เข้าคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวเดินกันเลย
เทพบุตรแข้งทองช่วยเหลือตัวเองเพราะสะกดกลั้นไม่ยอมแตะต้องคนรักที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม อะไรจะสุภาพบุรุษปานนั้น
เขาไม่ใช่คนดีอะไร แต่ลูกดิ่งคือคนสำคัญของหัวใจที่เขาเลือกแล้ว จะใช้วิธีฉวยโอกาสเอาไม่ได้
หากจะมีอะไรกันจริง ต้องเกิดจากการยินยอมของน้องเอง ไม่หักหาญเป็นอันขาด ถึงได้ยอมหอบหมอนผ้าห่ม
หนีออกมานอนนอกห้อง ขืนยังนอนร่วมเตียงสูดกายหนุ่มผสมแอลกอฮอล์กระตุ้นอยู่ใกล้ๆ คงได้จับปล้ำลักหลับคนเมา
เสียหมาเป็นแน่ ไม่ใช่พระอิฐพระปูนจำต้องตัดใจหนีมาให้ห่าง ใช่จะข่มตาหลับลงง่ายๆ เพิ่งงีบได้ช่วงตี่สี่นี่เอง
“เออ..คะ..คือพี่ลุกไปนอนบนเตียงสบายกว่าไหม ผมต้องกลับบ้านไปหาแม่ ขอบคุณพี่มากครับ
ที่คอยดูแลผม..แหะๆ” น้องไม่กล้าสบตา หน้าใสสุกปลั่ง เมื่อนึกตามคำพูดพี่ เขาแอบชื่นชมความเป็นสุภาพบุรุษ
พี่ไม่ฉวยเอาเปรียบตอนเขาเมา ถ้าทำแบบนั้นเขาคงไม่มีปัญญาต่อต้าน ไม่รู้ยังจะกล้าคุยกันหรือเปล่าด้วยซ้ำ
“รอพี่อาบน้ำแป๊บ พี่ไปด้วย” โยโย่ขยับตัวผ้าห่มร่นลงกองหมิ่นเหม่เห็นไรขนแพลมเหนือหัวหน่าว
ลูกดิ่งเบือนสายตาหลบแทบไม่ทัน หูเหอหน้าคอแดงแปร๊ด โยโย่เห็นแล้วนึกขำอาการคนรัก ขยันอายเขาเหลือเกิน
ไม่อยากให้น้องอยู่ในภาวะลำบากใจ รีบตะปบผ้าห่มพันตัวลุกเดินหายเข้าห้องนอน ปล่อยลูกดิ่งถอนใจอย่างโล่ง
นั่งแหมะลงบนพรมเข่าอ่อนซะงั้น
ระหว่างรอโยโย่อาบน้ำ ลูกดิ่งขบคิดเรื่องราวเขาสองคนไปพลางๆ หลายสิ่งหลายอย่างพี่โย่แสดงให้รู้
ดูแลเขาเป็นอย่างดี เอาใจใส่ทุกเรื่อง สำคัญกล้ายอมรับว่าคิดกับเขายังไง คนอย่างพี่โย่มีพร้อมทุกอย่าง
กลับขอเขาเป็นแฟน..คนเป็นแฟนกันเรื่องนั้นคงหลีกไม่พ้น พี่ลงทุนหลบออกมานอนนอกห้อง ยอมอดทนเพื่อเขา
คิดถึงตรงนี้ถึงกับเม้มปากดูน่ากลัวจะห้อเลือด หน้าใสไม่ต้องพูดถึง..พร้อมใจกันแดงเถือก...
“ดิ่งครับ..ลูกดิ่ง” โยโย่เพิ่มน้ำหนักเสียง คนรักถึงได้รู้สึกตัวหันหน้ามามองเขาตาแป๋ว
“เหม่ออะไร..พี่เรียกไม่ได้ยิน”
“ผมเผลอคิดเรื่อยเปื่อย” พูดแล้วหลุบตาหลบ เห็นหน้าหล่อหลังอาบน้ำสวมยืดสีดำ
กางเกงยีนส์รัดท่อนขาแกร่งดูตึงเปรี๊ยะ ช่วงขายาวเอวสอบแผงไหล่กว้าง ดูดีไปหมด..ยิ่งหน้าหล่อมีประกายวิ้งค์ๆ เขาเขินซะงั้น
“ลุกเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ พี่วางไว้ให้บนเตียง” โยโย่สังเกตน้องสีหน้าแดงก่ำแล้วนึกสงสัย ขยันหน้าแดงใหญ่แล้วพักนี้
“ครับ” ลูกดิ่งว่าง่าย ลุกเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่รอพี่ซักไปกว่านี้ ยอมรับตรงๆ เขาไม่กล้าสู้ตาด้วยรู้สึกเขินเอามาก
ตั้งแต่พี่โย่เป็นแฟน เพิ่งมารู้สึกจริงจังก็วันนี้แหละ..แค่คิดแทบสะดุดขาตัวเอง..?
โยโย่จัดการต้มน้ำร้อนชงโอวัลติน ปิ้งนมปังทาเนยรอ ตัวเขากาแฟดำกับขนมปังอีกคู่
ลูกดิ่งกลับออกมาเหมือนเด็กฮิปฮอป ปัญหามาจากกางเกงสามส่วนของเขาเมื่ออยู่บนร่างลูกดิ่ง ไม่ได้ไซส์เดียวกัน
แต่เขาก็จนปัญญาหาเล็กสุดได้เท่านี้จริงๆ เสื้อที่เตรียมให้เป็นไซส์ xxL ปกติลูกดิ่งใส่ไซส์ M เจอข้ามไปอีกสามไซส์
เลยออกมาอย่างที่เห็น
“หึหึ!” เขาอดขำไม่ได้ น่ารักไปอีกแบบเหมือนเด็กฝรั่งใส่เสื้อตัวใหญ่
“ขำ’ไรครับ พี่จัดให้ผมเอง รัดเข็มขัดแล้วเนี่ยะ” ลูกดิ่งนึกเคือง มองเขาแล้วดันหัวเราะ
“เปล่า..น่ารักดีออก” โยโย่บอกตามที่รู้สึก คนฟังหน้าแดงทันควัน
“เพี้ยนอะไรมาชมผมน่ารัก หล่อก็ว่าไปอย่าง” ลูกดิ่งไม่ชินถูกชมน่ารัก ยิ่งออกจากปากของพี่โย่ด้วย
“คนอื่นคิดยังไงไม่รู้ สำหรับพี่ดิ่งน่ารัก” พอพี่ยืนยันคำเดิม
เขาคร้านจะเถียงด้วย ได้แต่ยืนเกาหัวเพราะไม่รู้ควรทำตัวยังไงดี
“โอวัลตินหนมปัง กินรองท้องก่อนค่อยไป” ดีโยโย่ไม่แกล้งให้รู้สึกประหม่าไปกว่านี้
ชวนทานโอวัลตินที่เตรียมไว้ ลูกดิ่งค่อยรู้สึกผ่อนคลาย ยอมนั่งลงตรงข้ามพี่ ยกโอวัลตินเป่าเบาๆ แล้วจิบตามช้าๆ
“ขอบคุณครับ อร่อยเห๊ะ!” น้องชมจากใจ โยโย่ชงโอวัลตินถูกปาก
“เต็มใจบริการครับ” พี่บอกเสียงนุ่ม สายตากรุ้มกริ่ม แม้รูปประโยคไม่ได้หวานหู
แต่ทำไมลูกดิ่งถึงรู้สึกหวานจนขนมปังที่กำลังเคี้ยวอยู่เหมือนใส่น้ำตาลมากเป็นพิเศษ
“แค่กๆ!!” เผลอสำลักจนได้ เดือดร้อนโยโย่ต้องรีบเทน้ำเปล่าให้น้องดื่มกลั้วคอ ทำหน้าที่ลูบหลังให้ด้วย
“ใจเย็น..อย่ารีบสิครับ เคี้ยวให้ละเอียดก่อน” มีอบรมอีก ดันเข้าใจลูกดิ่งรีบกิน กลับได้รับอาการค้อนให้มาแทน
ลูกดิ่งยังไม่สะดวกเอ่ยปาก แต่ในใจแอบบ่นพี่อย่างนึกเคือง ‘ผมสำลักคำพูดของพี่ ไม่ใช่เพราะเคี้ยวไม่ละเอียดสักหน่อย’
“ขอบคุณครับ ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว” ลูกดิ่งบอกไป ไม่อย่างนั้นโยโย่คงยืนลูบหลังเขาไม่หยุด
“ครับ” หนุ่มหล่อยกยิ้มอ่อนโยน ดิ่งน้อยเห็นความห่วงใยใจเต้นไม่เป็นส่ำ
บอกกับตัวเอง ‘สักวันเขาคงแพ้ความดีเข้าจนได้’
>
>
“มากันซะบ่ายเชียว เย็นนี้ต้องรีบกลับอีกหรือเปล่า แม่ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ด้วย เห็นดิ่งเงียบไปไม่ได้บอกแม่ว่าจะมา
ได้คุยกันวันพฤหัสก็ไม่โทรหาแม่อีก เลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้” ญาดาบอกลูกชาย สองหนุ่มมาถึงบ้านบ่ายโมงกว่า
“แม่ไม่ต้องลำบากเลยครับ ดิ่งกับพี่โย่แวะซื้อของสดมาเพียบ เย็นนี้ดิ่งแสดงฝีมือเอง
ก่อนอื่นแม่มานั่งตรงนี้ดิ่งมีข่าวดีจะบอก” ลูกดิ่งจูงมือแม่พามานั่งตรงโซฟา ญาดาตามใจลูกชายไม่อิดออด
ลูกชายนั่งกับพื้นกราบลงบนตักแม่อย่างนอบน้อม ค่อยเงยหน้าจ้องตาแป๋วอาบยิ้มละมุน บอกแม่ด้วยท่าทางมีความสุข
“แม่ครับ ดิ่งติดตัวนักเตะสโมสรแล้วครับ” ญาดายิ้มให้ลูก แววตาอ่อนโยนมีวาวน้ำรื้นอย่างห้ามไม่อยู่
“แม่ดีใจด้วย ดิ่งทำได้สำเร็จ ดีใจจริงๆ..ฮึก..ถ้าพ่อยังอยู่คงภูมิใจในตัวลูกมาก..ฮึก”
เธอรู้สึกตื้นตันใจ จนห้ามน้ำตาไว้ไม่ได้ ลูกดิ่งไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง เป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทตั้งแต่เล็กจนโต
“แม่ครับ..แม่ไม่ร้องนะครับ..ผมจะตั้งใจเก็บเงินดูแลแม่เอง แม่ไม่ต้องกลัวลำบากนะครับ”
คำพูดของลูก แสดงถึงความกตัญญู ทำเอาเธอถึงกับใช้ฝ่ามือปิดหน้าสะอื้นไม่หยุด
โยโย่ที่เดินถือของพะรุงพะรังขนจากท้ายรถเข้ามาเห็นพอดี ถึงกับชะงักไปเช่นกัน
“พอเนอะแม่เนอะ..พี่เขางงแล้วครับ ขอโทษครับพี่โย่ปล่อยให้พี่ถือของเข้าบ้านคนเดียว ผมนี่แย่จริง”
เสียงของลูก ทำญาดาได้สติใช้หลังมือเกลี่ยเช็ดน้ำตา มองหนุ่มหล่อตัวโตที่จ้องเธอกับลูกนิ่ง
“แม่ดีใจกับดิ่งนะโย่ ต้องขอบใจโย่มาก ที่ดูแลน้องจนติดทีมสโมสรตามที่เขาฝันเอาไว้”
ญาดายิ้มทั้งน้ำตาให้เพื่อนต่างวัยของลูก
“เป็นฝีมือของลูกดิ่งเขาเอง..ครับแม่” โยโย่รีบออกตัว
“แต่ถ้าไม่ได้โย่ น้องไม่แน่ว่าจะติด” โยโย่ได้ยินแบบนี้ เขาไม่แย้งอีก ความจริงลูกดิ่งมีสิทธิ์หลุดโผ
ไม่ใช่ไร้ฝีมือ..ปัญหาเป็นเพราะเขาที่ทำให้น้องไม่ติด แต่เขาเหนือกว่าจึงไม่มีใครบีบน้องได้สำเร็จ
“มาครับผมช่วย พี่ไปพักเถอะ..นอนน้อยยังต้องมาลำบากอีก บอกให้นอนคอนโดก็ไม่เชื่อ
เดี๋ยวผมโชว์ฝีมือให้ชิมรับรองติดใจแน่..ฮะฮ่าๆๆ” ลูกดิ่งอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เข้าไปแย่งของในมือพี่หันมายิ้มทะเล้น
เดินหายเข้าครัว ปล่อยโยโย่ยิ้มหวานลืมตัว มองตามจนน้องลับสายตา
กิริยานี้ไม่รอดพ้นการสังเกตของญาดา ผู้ผ่านร้อนหนาวมานานกว่า เธอสำรวจโยโย่โดยไม่พูดอะไร
กระทั่งหนุ่มตัวโตหันมาสบตาเข้า ถึงได้รู้ว่าเขาพลาดไปแล้ว
“แม่ครับ ผมมีเรื่องรบกวน..ขอคุยส่วนตัวได้ไหมครับ” คำขอโยโย่ ญาดารู้ไม่สามารถเลี่ยงได้
จึงพยักหน้าก่อนลุกยืน..เดินนำไปยังห้องเล็กติดห้องนอนของเธอ ใช้เป็นห้องทำงานไม่กว้างเท่าไหร่
“นั่งสิโย่” น้ำเสียงฟังปกติ โยโย่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามแม่ของคนรัก
“มีอะไรคุยกับแม่ เชิญเลยจ๊ะ” ญาดาเตรียมใจกับสิ่งที่จะรับรู้
“ผม..รักลูกดิ่งครับ” แม้เธอบอกตัวเองไว้แล้ว พอได้ยินตรงๆ อดใจเสียไม่ได้
ถึงกับชะงักไปพักใหญ่ ปล่อยโยโย่นั่งตัวเกร็งลุ้นรอ เธอจะพูดกลับมาว่ายังไง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” สุดท้ายเธอยอมเอ่ยปาก
“ตั้งแต่แรกครับ ผมไม่แน่ใจว่ารักน้อง สักระยะถึงรู้ตัวว่าผมรักลูกดิ่งครับแม่”
คำสารภาพอย่างลูกผู้ชาย ไม่มีหลบตาเธอ ตาคมเข้มฉายความจริงใจไม่ซ่อนเร้น เธอเป็นฝ่ายถอนหายใจเสียเอง
“โย่รู้ใช่ไหม ดิ่งเป็นลูกชายคนเดียว แล้วน้องก็เป็นผู้ชาย แม่จะไม่ตะขิดตะขวงใจสักนิด
ถ้าดิ่งหรือโย่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้หญิง ตรงข้ามกลับดีใจเสียอีก ที่ลูกมีคนดีมารักมาชอบพอ” เธอพูดตามที่รู้สึก
แม้จะหัวสมัยใหม่ไม่โบราณ แต่ให้ยอมรับง่ายๆ ทั้งที่ลูกดิ่งไม่มีวี่แววจะเบี่ยงเบน เธอเองทำใจลำบากจริงๆ
“ครับ..แต่ความรักที่ผมมีให้น้อง ไม่เกี่ยวกับเพศสภาพเลยครับแม่ ผมรักลูกดิ่งที่น้องเป็นน้อง
ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ต้องลูกดิ่งเท่านั้นที่ผมรู้สึกรักได้จากใจจริง” โยโย่กลับยืนกรานหนักแน่น
“แล้วน้องล่ะ คิดยังไงกับโย่” เธอหยั่งเชิงลองถามดูบ้าง
“ผมไม่แน่ใจครับ แต่ลูกดิ่งกับผมเราตกลงเป็นแฟนกันแล้วครับแม่”
ญาดาเอามือทาบอก สูดหายใจอย่างเหนื่อย เมื่อได้ฟังประโยคนี้
“โย่ไม่รู้น้องคิดยังไง แล้วไปทำอีท่าไหนถึงตกลงเป็นแฟนกัน แม่รู้จักลูกแม่ดี ดิ่งไม่ใช่คนเหลวไหล
สำคัญไปถึงไหนกันแล้ว” ท้ายประโยคติดเสียงแข็งอย่างไม่ตั้งใจ เธอกำลังวิตกกลัวเด็กสมัยนี้จะมือไวใจเร็ว
“แม่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิครับ ผมกับดิ่งเรายังไม่มีอะไร ถึงจะคบกันแต่ผมให้เกียรติน้องเสมอ
ที่ผมสารภาพกับแม่ เพราะคิดว่าถึงเวลาที่ต้องให้ผู้ใหญ่รับรู้ ผมไม่ได้ต้องการคบลูกดิ่งแค่นึกสนุก
ผมคาดหวังไกลกว่านั้น เพียงขอความเมตตาจากแม่ รับผมเป็นลูกอีกคนเถอะครับ
อนุญาตให้ผมกับดิ่งคบกันด้วยนะครับ..แม่” พูดจบลุกจากเก้าอี้คุกเข่าก้มหัวไม่เงยหน้า
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โยโย่ยอมคุกเข่าให้คนอื่น แม้แต่พ่อ ย่า กระทั่งแม่กับตาที่เสียไป
เขายังไม่มีโอกาสคุกเข่าตอนท่านยังมีชีวิตด้วยซ้ำ เว้นแต่ร่างไร้วิญญาณทำพิธีทางศาสนา
ที่เขาคุกเข่าอย่างหมดอาลัยตายอยาก
สำหรับผู้หญิงตรงหน้า ได้ชื่อแม่ของคนรัก ผู้หญิงที่เขาเคารพนับถือ เลื่อมใสจิตใจ
ถ่ายทอดมาถึงลูกดิ่งโดยไม่ต้องสงสัย เขายินดีคุกเข่าให้เธอ แค่เธอยอมรับความรักที่เขามีให้ลูกดิ่ง
สำหรับเขาถือว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
“ลุกขึ้นเถอะ อย่าทำแบบนี้..แม่ลำบากใจ” เธอขยับจับบ่าแกร่งทั้งสองข้าง
รั้งให้เขาลุกขึ้น แต่โยโย่ขืนตัวเอาไว้
“แม่ให้โอกาสผมพิสูจน์เถอะครับ รับผมไว้พิจารณาด้วย” เขายังคงมุ่งมั่นให้เธอรับปาก
ต่อด้านล่าง