บทที่ 4.2 (จบ)
หลังผ่านค่ายอันน่าปวดหัวผมกับไอ้น้ำก็มาเดินซื้อการ์ตูนแก้เครียด หลังเข้าค่ายเสร็จมันวันหยุดพอดีอ่ะครับ แต่ผมไม่อยากจะนอนคิดเรื่องนั้นออกมาเดินเล่นกับหมาดีกว่า
“ไอ้น้ำ!”
ผมเดินชะเง้อมองหาไอ้น้ำ นี่มันไปซื้อหนังสือตรงไหนวะหาไม่เจอ ชั้นวางหนังสือร้านนี้แม่ งจะสูงไปไหนวะเนี่ยเพื่อนผมยิ่งเตี้ยๆอยู่ ผมเลี้ยวเข้าโซนการ์ตูนสาวน้อยเมื่อเห็นแผ่นหลังเล็กๆของไอ้น้ำ
“น้ำมึงอ่าน....-o-”
ผมหยุดเท้าก่อนเงยหน้ามองชั้นหนังสือลึกลับที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์โชยออกมา กลิ่นนี้มันบ่งบอกมาก...ชัดเลย!! ผมค่อยๆย่องเบาๆเข้าไปทางด้านหลังไอ้น้ำแล้วชะโงกหัวลงไปอ่านหนังสือการ์ตูนที่มันอ่านอยู่
....น่ะ..นี่มัน-o-!!...
ผมจ้องมองภาพผู้ชายสองคนในท่าโยคะแบบใหม่ ไอ้คนตัวเล็กหน้าแบ๊วนอนตะแคงข้างเล็กน้อยส่วนไอ้คนตัวใหญ่ๆคาดว่าน่าจะเป็นครูฝึกเพราะมันใส่เสื้อวอร์ม ยกขาลูกศิษย์หน้าแบ๊วพาดบ่าตัวเองแล้วก็มีตัวอักษร “กึก” พลาดไว้ระหว่างช่องแคบมะละกา-o-…
...ผมจะพยายามคิดว่ามันเป็นท่าซิตอัพแบบใหม่แล้วกันนะ-///-...
พรึ่บ!
“ไอ้เชี่ยเซฟO////O”
ไอ้น้ำปิดหนังสือแล้วซ่อนไว้ด้านหลัง มันหันมาทำหน้าตื่นใส่ผมพลางโบกมือไปมาจะอธิบาย แต่โทษทีกูอ่านจบไปสองหน้าแล้วละ-////-
“กูเข้าๆ-///-” ผมบอก
“คะ...คือกูไม่ได้…T///T”
“มึงจะซื้อก็หยิบมากูจะได้เอาไปจ่ายตังค์”
“ไม่ได้จะซื้อนะๆ>///<”
“มาอ่านของเขาฟรีว่างั้น-_^”
“ไม่ใช่ๆ>///<”
ผมขี้เกรียจฟังมันพูดมากเลยหยิบเล่มที่เหมือนในมือมันมาแล้วยื่นหนังสือทั้งหมดในมือผมให้มัน
“มึงเอาไปจ่าย-///-” ผมบอก
“อะไรอ่ะ ทำไมต้องกูอ่ะ>///<”
“มึงอ่ะแหละ กูหยิบให้แล้วมึงเดินไปจ่ายเลย”
“กูอายนะเว้ย เป็นผู้ชายให้อ่านวายเนี่ยนะ>///<”
“อายอะไรกูเห็นมึงอ่านจนจบเล่มแล้ว เอาไปจ่ายเลยไป๊>O<!!”
ผมดันหลังให้มันเดินไปที่เคาเตอร์จ่ายเงิน ตั้งแต่คืนนั้นที่มันหายไปนอนไหนมาก็ไม่รู้มันก็เป็นแบบนี้แหละ ผมเข้าใจๆ แต่ไม่คิดว่าแค่โดนครั้งเดียวจะเปลี่ยนเพื่อนผมเป็นแบบนี้ซะได้ อยากรู้จริงๆว่าไอ้นั้นมันทำอีท่าไหนเพื่อนผมถึงได้เคะแตกแบบนี้>O<!!
“เอ่อ....”
คนขายมองหนังสือเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองหน้าผมสลับกับไอ้น้ำไปมา เฮ้ยๆๆ ผมกับมันไม่ได้จะ...กันนะครับ-o-!!
“ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษนะคะ แค่เพิ่มเงินอีก 5 บาทก็จะได้รับของแถมเลยค่ะ^^” คนขายบอก
“เอาครับๆ-.-” ผมชอบของแถมครับ พูดจบผมก็วางเหรียญ5หน้าเคาเตอร์
“ลองอ่านดูนะคะ>///<”
ผมพยักหน้าหงึกๆงงกับเจ้คนขายผมไม่รู้ว่าเจ้แกยัดอะไรใส่ถุงเพิ่มมาให้ ไอ้น้ำกับผมเดินออกมาจากร้านหนังสือน่าสะพรึงผมว่ามันชักยังไงๆนะหน้าคนขายมันฟินแปลกๆ-o-;;
“ไอ้น้ำกูขอถุงแปป-.-”
ผมดึงปากถุงอ้าออกแล้วล้วงลงไปหยิบหนังสือเล่มหน้าประมาณนิยายเวิ่นเว้อของสาวๆขึ้นมาดู จ่าย 5 บาทได้เล่มละ199เลยหรอวะ-o- ผมพลิกหงายหน้าปกขึ้นมาดูว่ามันคืออะไร
O////O!!! <<< หน้าไอ้น้ำ
-o-///!! <<< หน้าผม
เชดโด่โคอาลามาชเต้นแน่นอก!! น่ะ..นี่มันOoO!!
/เมื่อเมะรุกมาเคะจะรับยังไง/
แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าใครเขียน นักเขียนเรื่องนี้แน่ๆเลย!! (คนเขียน:หนูไม่เกี่ยวนะคะ-o-) ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้นะ แต่เปิดสารบัญดูหน่อยแล้วกัน-.-
“ถ้าเมะSเคะM เปิดหน้า30-o-!” ไอ้น้ำอ่าน
“มึงจะอ่านหรอ-///-“ ผมถาม
“ป่าวๆ ไม่ใช่นะ>////<”
จัดให้ตามคำขอเปิดหน้า30! พอเปิดมาเท่านั้นแหละผมกับไอ้น้ำแทบจะเอาหนังสือบ้าๆนี่ยัดลงถังเลย
มาแบบ4สีภาพประกอบพร้อมคำบรรยายเลย OoO!! มีตัวอย่างการมัดแบบต่างๆ แบบห้อยลงมาจากเพดาน
แบบขึงไว้กับขอบหน้าต่าง อือหืออออ!!!
“กูให้มึง!!” ผมบอกแล้วรับยัดหนังสือใส่มือไอ้น้ำ
“ไม่เอามึงจะบ้าหรอ>O<///”
“มึงอ่ะเอาไปศึกษา>///<”
“มึงเป็นคนจ่ายตังค์มึงเอาไปดิ>///<”
ไอ้น้ำกับผมพลัดกันดันหนังสือต้องห้าม ยังไงก็ไม่เอาอ่ะน่ากลัวชะมัด ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าต้องไปทำแบบนั้นกับไอ้ปลาตาย.....
...แล้วทำไมต้องคิดว่าทำกับมันด้วยฟ่ะ>O<///!!!...
“เฮ~ มาอ่านหนังสือแบบนี้กลางถนนนี่ เตรียมพร้อมดีจังนะ^^”
ผมกับไอ้น้ำสะดุ้งหันไปมองรอยยิ้มเปล่งประกายกระแทกตา คาร์ลนี่นา -o-!!
“มีเคล็ดลับแบบนี้นี่เองคิระถึงได้หวงนักฮ่าๆ^^” คาร์ลบอก
“บ้า! คิดเรื่องไรอยู่เนี่ย>O<” ผมด่า
“แหมๆอย่าโมโหสิครับ เสียดายใบหน้าน่ารักๆหมดเลย^^”
“อย่ามาชมว่าน่ารักได้ป่ะ-*-”
“งั้นชมว่าสวย^^”
“เคยตายมั้ย-*-”
“โหดจริ๊งงงง ฮ่าๆ ล้อเล่นน่าๆ^^”
โกรธจริงเว้ย-*- ผมก็รู้นะว่าหนังหน้าผมค่อนข้างจะเอนไปทางผู้หญิงเล็กน้อย แต่ให้คนอื่นมาชมว่าน่ารักผมรับตัวเองไม่ได้จริงๆ –o-!!
“อ่ะ! คิระ^^”
ผมหันไปตามสายตาของคาร์ลที่มองไปยังหน้าห้างหรู แล้วร่างกายผมก็สาปให้อยู่นิ่งมองเจ้าชายผู้สง่างามกับเจ้าหญิงแสนงดงามที่เดินเคียงข้างกันมา มือเล็กๆที่คล้องลำแขนใหญ่ไว้ราวกับจะแสดงตนเป็นเจ้าของนั่นทำเอาผมเผลอกัดปากตัวเองอย่างแรง ใบหน้าอ่อนหวานคลอเคลียด้วยลอนผมใหญ่ทำให้เธอดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาเข้าไปอีกไม่แปลกถ้าทั้งคู่จะถูกคนมองเป็นตาเดียว
..ก็เหมาะสมกันขนาดนั้น...
ผมมองใบหน้าหล่ออย่างอ่อนแรงรู้สึกหดหู่ยังไงก็ไม่รู้ ผมยังจ้องใบหน้าหล่ออยู่อย่างนั้นเพื่อหวังว่าบางทีหมอนั่นอาจจะหันมาเห็นผมก็ได้ และก็เป็นอย่างที่ผมคิด ดวงตาเข้มเหลือบผมเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะหันหน้ามองไปทางอื่น....ราวกับผมไม่มีตัวตน...
“กูกลับก่อนนะ..”
“ไอ้เซฟ!!”
ผมบอกพลางหมุนตัวเดินออกมา ไว้ไหว....อยู่ตรงนั้นผมหายใจไม่ออก เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่กลางอกผม มันตื้อไปหมดเหมือนโลกจะดับ ผมยกมือเสยจิกหัวตัวเองอย่างสมเพช ทำไมผมต้องรู้สึกเหมือนคนกำลังน้อยใจอยู่ด้วย ไม่เห็นมีเรื่องอะไรน่าน้อยใจเลยซักนิด... ผมคงใกล้จะบ้าแล้วสินะ
ผมเดินมองพื้นถนนที่ว่างเปล่า ไม่รู้ว่าผมเดินมาไกลจากตรงนั้นกี่ก้าวแล้ว ไม่รู้ว่ากลับบ้านถูกทางหรือป่าว ผมพยายามจะสลัดเรื่องนั้นทิ้งไปจากหัวแล้วนะ แต่มันก็ฝังในหัวผม คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวผม ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มาทำอะไรกับคิระ
...บ้าจริง!!...
ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะรู้หรือสนใจซะหน่อย!! เขาจะไปไหนกับใครก็เรื่องของเขาสิ!!
“..เสา..”
..เอ๊ะ!!...
ปึง!!
ผมสตั้นยืนมึน ใครแม่ งเอาเสามาตั้งตรงนี้วะ!! ถนนออกจะกว้างไปตั้งไกลๆตีนกูหน่อยก็ไม่ได้!!
“เจ็บมั้ย”
ฝ่ามืออุ่นวางทาบลงทับมือผมที่กุมหัวอยู่ ผมเงยหน้ามองใบหน้าคุ้นเคยที่มองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนทุกๆครั้งที่เจอกัน
เพี๊ยะ!
“ไม่ต้องมายุ่ง!!”
ผมปัดมือนั่นทิ้งแล้วเดินเบี่ยงหลบร่างสูงที่ยืนขวางหูขวางตาผม มือใหญ่ตะบบเข้าล็อกข้อมือผมไว้ให้ผมหยุด ผมหันกลับไปมองเขาอย่างไม่พอใจ วันนี้ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ
“ปล่อย...” ผมบอกเสียงต่ำ
“...ซื้อมาให้”
มือใหญ่ชูถุงขนมร้านดังให้ผมดู เหอะ!
“ไม่กิน!” ผมบอก
“..เป็นอะไร เจ็บมากหรอ..”
แปล๊บ!
เจ็บสิ!! เจ็บมากเลยด้วย!! ถ้าบอกว่าเจ็บแล้วมึงช่วยอะไรกูได้มั้ยละ!! บอกไปแล้วกูทำอะไรได้บ้างละห๊ะ!!
“จะกลับบ้านแล้วปล่อย!” ผมบอกพลางสะบัดมือ
“ไปส่ง..”
“ไม่ต้อง!! นายกลับไปหาผู้หญิงของนายเถอะ!”
อย่ามายุ่งกับฉันเลย... จะมาสนใจอะไรละ ทั้งที่ตอนนั้นนายเป็นคนเมินฉันเอง!!
“รินน่ะหรอ พาไปส่งแล้ว” คิระตอบ
“นายก็กลับไปได้แล้วฉันกลับบ้านเองได้มีตีน!”
“..เป็นอะไร”
ร่างสูงพลิกตัวผมให้หันไปเผชิญหน้าตรงๆ ผมก้มหน้าหลบสายตาคมที่จ้องผมแต่มือใหญ่ก็บังคับเงยหน้าผมให้สบตาเขาตรงๆ
“เป็นอะไร...เซฟ”
อย่าเรียกชื่อนะ!!
“ปล่อยได้แล้วจะกลับบ้าน!!” ผมเริ่มตะคอก
“อยากโดนลงโทษหรือไงถึงกล้าตะคอกใส่ฉัน”
“ตามใจนายเถอะ!!”
“มีอะไรก็พูดมา”
“อยากรู้แต่ไม่อยากถามเข้าใจมั้ย!!”
“ถ้าไม่ถามแล้วจะรู้หรอ”
“นายกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกันใช่มั้ยละ!!”
...ถามออกไปแล้ว..
หลุดปากพูดออกไปอยู่ดี ผมมองริมฝีปากสีจางที่เผยอออกเตรียมตอบคำถามผม ยิ่งผมรอคำตอบนั่นนานเท่าไหร่หัวใจผมก็ยิ่งเต้นรัว สิ่งผมผมอยากได้ยิน....ผมอยากได้ยินคำตอบว่า...
“....อืม....”
หัวสมองผมเบลอชาไปทั้งตัว ผมก้มหัวซ่อนใบหน้าตกใจเอาไว้ แขนขาผมมันอ่อนแรงทรงตัวไม่ค่อยจะอยู่ คำตอบเมื่อกี้ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวผมไม่ยอมหยุด
...ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว...
มาจูบผมทำไม มาทำรอยบ้าๆนี่ทำไม!!
“มะ...มีแฟนอยู่แล้ว...แล้วนายมาทำแบบนั้นกับฉันเพื่ออะไร” ผมเอ่ยถามเสียงสั่น
“.....ก็นายเป็นเพทของฉัน”
“เพทหรอ!! เพทกับเจ้านายต้องจูบกันเหมือนแฟนด้วยหรอ!!”
“...ถึงจะจูบแต่เพทกับแฟน...มันต่างกัน”
จะบอกว่าถึงจะทำแบบเดียวกันแต่ก็ต่างกันสินะ... ต่างกันตรงไหนละ ตรงที่ฉันไม่ได้เป็นเจ้าของหัวใจนายสินะ....
“เพทคือสัตว์เลี้ยงใช่มั้ย....สัตว์เลี้ยงกับคนไม่ควรทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ ไม่ควรจูบ...ไม่ควรทำรอยอะไรไว้ แค่มีปลอกคอนี่ที่มีชื่อนายอยู่....ก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับฉันแล้ว”
แค่นี้....เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องทำซักนิด
“...ทำกับฉันให้เหมือนสัตว์เลี้ยงหน่อยสิ...เจ้านาย..”
ผมเงยหน้าสบดวงตาคม ดวงตาผมมันพร่ามัวเพราะมันถูกล้อมไว้ด้วยน้ำตา
...อย่ามาทำแบบนี้อีกเลย...
อย่ามาทำให้เข้าใจอะไรผิดๆ อย่ามาทำให้หวั่นไหว....อย่ามาทำให้เสียใจจะได้มั้ย ฉันน่ะ...ไม่อยากหลงรักนายหรอกนะ ฉันไม่อยากจะเป็นแบบนั้น....
“ได้...ต่อไปนี้ฉันจะเลี้ยงนายเหมือนสัตว์ตัวนึง”
ถูกแล้ว...มันควรจะเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น!!
“กลับบ้านดีๆละ”
ผมก้มหัวปล่อยให้มือใหญ่ลูบหัวผมเบาๆ เสียงเท้าหนักๆเริ่มไกลออกไปพร้อมกับตัวผมที่ค่อยๆทรุดลงๆ ผมนั่งกอดเข่าตัวเองปล่อยน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่มีเหตุผล ไม่สิ...เป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากจะยอมรับซะมากกว่า ให้ตายสิทำไมคนเราต้องเกิดมามีหัวใจด้วยนะ.....ทรมาณชะมัด!!
+++คนเขียนเอี้ยนๆๆๆ+++
ดราม่าจังว้าตอนนี้>< ขอบคุณที่เม้นให้กำลังใจกันนะคะ
เค้าจำคนมาบ่อยๆได้แล้วละ55 วันนี้กลับมาช้าเหนื่อยจังเลย
ประชุมผู้ปกครองเนี่ย โฮกกก ขอตัวไปทำการบ้านต่อก่อนนะคะ
ฝันดีนะคะ อย่านอนดึกนะๆ><
