“อื้อ...แฮ่ก หยะ...หยุด!! อื้ม”
ริมฝีปากหนากดปิดเสียงหวานที่ร้องห้ามปาม คนตัวเล็กดิ้นฝืนต่อต้านจนคนตัวใหญ่ต้องรวบแขนขึงไว้เหนือหัว ดวงหน้าขึ้นสีเบี่ยงหลบแนบหมอนแต่คนตัวใหญ่ก็ยังไม่ยอมแพ้เลื่อนใบหน้าไปกดจูบอีกครั้ง ลิ้นเปียกชื้นซอกซอนเข้าไปลิ้มรสหอมหวานภายในโพรงปาก ยิ่งชิมลึกก็ยิ่งหวานยิ่งกินมากก็ยิ่งต้องการ
กึด!
รสหวานหอมแปรแปลี่ยนเป็นรสคาวเลือด ร่างสูงถอนริมฝีปากออกพลางจ้องมองดวงตาตระหนกของลูกวางตัวน้อย เขาหัวเราะในลำคอก่อนตวัดลิ้นกลืนเลือดตัวเองลงไปในลำคอ
“...ฟะ..เฟียสผิดเองนะ...”
เสียงน้อยเอ่ยอย่างหวานหวั่น ดวงตาโตจับจ้องแววตาคมที่เปลี่ยนไปจากเดิม คนตัวเล็กข่มใจทำเป็นไม่เกรงกลัวเชิดใบหน้าขึ้นอย่างท้าทาย มือใหญ่ดันคางเชยใบหน้าหวานให้เงยมองหัวเตียง ลิ้นสากๆลากคงขาลำคอขาวฟันแหลมคมฝังขบลงบนเนื้อเนียนแรงๆจนคนตัวเล็กสะดุ้งร้องลั่น
“โอ๊ย!! เจ็บ...ฮือๆ เฟียส...”
ร่างสูงนึกอยากจะกัดเนื้อหอมหวานนี่ออกโทษฐานที่บังอาจมากัดลิ้นเขาแต่ก็เปลี่ยนใจเป็นลากคมเขี้ยวลงมาที่เนินอกสั่นกระพือ ริมฝีปากได้รูปครอบลงดูดกลืนยอดอกชูชันที่เชื้อเชิญสายตา
“ฮะ...อื้ม...”
ร่างเล็กบิดกายเพราะความรู้สึกชวนปั่นปวรที่เข้าแทรกแซงร่างกาย คนตัวใหญ่ดูดกลืนเม็ดออกสีสวยเข้าไปในปากอย่างรุนแรงพาเอาแผงอกเล็กยกตาแทบเข้าไปในปากด้วย เมื่อปล่อยออกเห็นรอยแดงเป็นวงใหญ่ใบหน้าหล่อยิ่งยิ้มอย่างสะใจก้มลงขบกัดหยอกล้อให้คนตัวเล็กร้องให้โฮอย่างบ้าคลั่งต่อ
“...ฮือๆ ไม่เฟียส..เจ็บ!! ฮือๆ”
ร่างสูงกดเข่าทับลงบนส่วนน้อยๆของร่างผอมบาง เขาขยับเข่าบดขยี้กระตุ้นให้ส่วนน้อยๆตั้งชันขึ้นท่ากลางเสียงร้องโอดครวญของคนถูกกระทำ
“อ๊า!!...ฮึก..ฮือๆ”
เสียงร้องไห้กลายเป็นเสียงสะอึกสะอื้น ภาพบหน้าหวานที่จมกองน้ำตาทำให้คนตัวใหญ่นิ่งกับการกระทำตัวเองไปชั่วครู่
...แกล้งบีบน้ำตาหรือป่าว หึ! ไม่น่าสงสารซักนิด!!...
ร่างสูงคิดในใจก่อนกระชากเสื้อผ้าชิ้นน้อยที่ปกปิดกายสั่นเทาออกแม้แรงเล็กๆจะพยายามต่อต้านแต่ก็สู้ไม่ได้ ตอนนี้ตัณหาครอบงำบังตาขุ่นเคืองนั่นหมดแล้ว
“ฮืออออ....อย่าเฟียส...”
มือเล็กแทบจะประนมไหว้ถ้าทำได้ นี่ไม่ใช่เฟียสคนที่รู้จักอีกต่อไปแล้วแววตาที่ไร้ความปรานีนั่นดุดันน่ากลัวจนทำเอาคนตัวเล็กขวัญเสีย ปลายนิ้วแทรกสอดเข้าไปในช่องทางสีสวยขยับทะลวงเข้าออกอย่างแรงจนช่องเล็กๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ใบหน้าใสกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดสีแดงไหลย้อม มันเจ็บมากกว่าจะบอกว่ารู้สึกดี นิ้วที่สอดใส่เข้าไปขูดกับผนังภายในจนเจ็บแสบไปหมด
“อ๊ะ...เฮือก!!...โรคจิต!!”
มือใหญ่ลากขาสวยเข้ามาชิดกับร่างตนจนคนตัวเล็กตกจากหมอน นิ้วเปียกชุ่มออกร่างสูงหันไปหยิบแพนตี้ตัวน้อยขึ้นมามัดแก่นเล็กๆไว้กันไปถึงจุดหมายก่อนที่เขาจะได้เริ่มบรรเลงรัก ใบหน้าหล่อค้อนขวับแทนคำขอบคุณในคำด่าถอ
“ฉันใจดีที่สุดในโลกแล้วจะบอกให้!!”
แก่นกายร้อนถูกจับยัดเข้ามาในช่องทางแคบ ร่างบางสะดุ้งดีดตัวแอ่นขึ้นพร้อมเปิดปากร้องอย่างเจ็บปวดหยาดน้ำตาใสเอ่อล้นออกมาอย่างพรูพรั่ง ริมฝีปากสวยสั่นเครือจนแทบไม่มีเสียงออกมา ปลายนิ้วเล็กจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บแต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยิ่งคนตัวใหญ่พยายามฝืนแทรกเข้ามาลึกมากเท่าไหร่ช่องแคบฝืดเคืองยิ่งร้าวแทบฉีกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ ช่องแคบที่บีบรัดตอดจนคนตัวใหญ่รู้สึกอึดอัดจนเผลอปล่อยเสียงครางเบาๆออกมา ร่างสูงขยับกายบรรเลงรักท่ามกลางเสียงร้องไห้น่าสงสารจากริมฝีปากเล็ก ความร้อนที่ลุกโหมทำให้คนตัวใหญ่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปยังคงวนเวียนกลืนกินร่างบอบบางแสนเย้ายวนนั่นอย่างไม่รู้จักอิ่ม ทดแทนเวลาที่เขาถูกปั่นหัวเล่นต้องเอาคืนให้สาสม!!
…เมื่อคืนมันอะไรกัน ฝันร้ายหรอ...
นึกว่าตกนรกไปแล้วซะอีก นี่ผมตายหรือยังนะทำไมขยับตัวไม่ได้อีกแล้ว ผมปรือตามองห้องที่แปลกไป ไม่ใช่ห้องสีส้มเหมือนพระอาทิตย์ตก ไม่มีหมีพู ไม่มีชั้นหนังสือการ์ตูน มีแต่ห้องสีหม่นเหมือนเส้นผมใครบางคนที่ผมจิกเอาไว้เมื่อคืน
...เที่ยง...
ผมจำได้ว่าเห็นนาฬิกาเรือนนี้ครั้งสุดท้ายมันขึ้นเลขสามนะ บ้าที่สุด!! ยันตีสามจะฆ่ากันหรือไง แต่เสียไปตั้งสองแสนคงกะเอาให้คุ้มสินะ... คิดว่าเขาจะช่วยผมขึ้นมาจากนรกที่ผมเผลอก้าวลงไปอย่างไม่รู้ตัว กลับกลายเป็นว่าช่วยฉุดผมลงไปอีก
“ตื่นแล้วก็อาบน้ำ!!”
ซาตานตัวร้ายกอดอกพิงประตูมองผม ผมเมินเสียงที่ได้ยินแล้วหลับต่อ ไม่มีแรงแม้แต่จะออกเสียงเลยครับคอผมแห้งแสบไปหมดเมื่อคืนทั้งร้องไห้ทั้ง... แหกปากหนักมากเจ็บคอ เปลือกตาก็หนักอึ้งตอนนี้ก็ยังตัวร้อนอยู่เลย ผมไม่ชอบเลยเวลาหายใจแล้วลมหายใจมันร้อน
พรึ่บ!
มือใหญ่กระชากผ้าห่มออกจากตัวผม ผมรีบขดตัวปกปิดของสงวนแต่...
“โอ๊ย!!....อือออ”
สะโพกผม... เจ็บโคตรไม่อยากกระดิกตัวเลย ไม่ใช่แค่เอวนะทั้งหลังเลยมั้ง อยากจะร้องไห้ชะมัด
“อย่าดื้ออยากโดนอีกหรือไง...”
เขากล่าวเสียงเรียบพลางไล่สายตามองเนื้อตัวแดงจ้ำของผมจนมาหยุดค้างอยู่ที่ก้นผม ผมรีบเอื้อมมือไปปิดเลย โรคจิต!!
“ลุกไหวมั้ยจะตายหรือยัง!”
ฟังดูเกือบหวังดีนะแต่ไม่ใช่ ปากร้ายที่สุด!!
“เงียบหาพี่หรือไงวะ!!”
คอกูแห้งเป็นพริกป่นล่ะ ไม่มีเสียงแล้ว!!
วืด!
มือใหญ่กระชากตัวผมที่HP เหลือศูนย์ปลิวกระเด็นเกือบตกเตียงดีที่ยังเมตตารับผมไว้นะ แต่จะดีกว่าถ้ามึงจะช่วยทำอะไรกูค่อยๆหน่อยตอนนี้ร้าวไปทั้งตัวล่ะ
“อ่อนแอชิบ!!”
ผมมองค้อนขวับ ลองให้กูเอาท่อนซุงตะบันก้นมึงบ้างมั้ยล่ะจะได้รู้สึก!!
“มองหน้า!! จะด่าไรพูดมาเลยดีกว่า!!”
“...ไอ้โรคจิต! อื้ม!!”
บอกให้ด่าแล้วเอาปากมาปิดปากกูเพื่ออะไร!!! ผมสะบัดหน้าหนีพลางเงื้อมือเตรียมตบแต่มันรู้ตัวดึงหัวหลบซะก่อน ผมหายใจหอบไม่ต่างกับปลาขาดน้ำ
“ลุกไปอาบน้ำ!! จะนอนให้หนอนแดกหรือไง!!”
“เกี่ยวไรกับนายล่ะ! ซื้อมาแค่คืนเดียวอย่ามาทำเป็นสั่งนะ!”
ผมพยายามใจดี?สู้เสื้อ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วครับหมดไปแล้ว หมดไปนานแล้วด้วย มันลุกคว้านาฬิกาหัวนอนมากดๆแล้วตั้งไว้ตามเดิม พอผมหันไปดู 19.00 ...
“ยังไม่เช้าเลยเว้ย!!”
แม่งคิดได้ เอ่อผมต้องยอมแพ้ใช่มั้ย
“..จะกลับบ้าน..” ผมบอก
“ยังกลับไม่ได้!!”
ผมเบะปาก อะไรกันนักกันหนา นี่ยังไม่พอใจอีกหรอหวังว่าวันนี้คงไม่บ้าไปชวนเพื่อนมารุมผมหรอกนะ เมื่อคืนก็บอกจะหาลูกค้าให้ผมยังโมโหไม่หายเลย
“อย่ามาร้องไห้ต่อหน้านะ...อย่าให้พูดซ้ำไปอาบน้ำ”
ผมเม้มปากก้มหน้างุด ลุกไหวกูไปล่ะไม่นอนรอให้มึงเดินมาว้ากใส่กูหรอก!
“...เหนื่อย หิวน้ำ เดินไม่ไหว”
ผมบ่นเบาๆมันลุกออกไปจากห้องเลย ก็ดี...ผมล้มตัวลงนอนกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ สงสัยต้องกัดลิ้นเรียกเลือดออกมากินประทังชีวิตก่อน โทรให้ใครมารับได้มั้ย มือถืออยู่ไหน อา....ตอนนี้อยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย ทำมันถึงซวยแบบนี้....
แกร๊ก!
ร่างสูงก้าวผ่านเข้ามาในห้อง มือใหญ่วางถาดอาหารลงที่โต๊ะข้างเตียงก่อนก้าวเท้ายาวๆเข้าห้องน้ำไป ผมละสายตาออกมามองเหยือกน้ำ ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ขอบเตียงเพื่อจะหยิบมายกกรอกปาก
“หยุดเลยนะ!!”
เสียงดุดังออกมาจากห้องน้ำผมรีบชักมือกลับนั่งหดคอตามเดิม มือใหญ่กระแทกกล่องพลาสติกใส่อาหารอันใหญ่ลงบนพื้นก่อนจะโยนผ้าขนหนูผืนเล็กลงไป
“เดี๋ยวหกเปียกห้องอยู่เฉยๆเลย”
เฟียสบอกแล้วรินน้ำใส่แก้วปักหลอดให้ผมเสร็จสรรพ
“เดี๋ยวกินข้าวก่อนแล้วค่อยกินยานอนเข้าใจมั้ย”
ผีเข้าผีออกตาบ้านี่ เมื่อคืนยังทำตัวโหดร้ายอยู่เลยทีตอนนี้ทำมาเป็นสงสารผม หรือจะเก็บไว้ใช้คืนนี้ต่อ....
“..เฟียส”
“อะไร!”
“...ไม่มีอะไร...”
ขอบใจแล้วกันที่ช่วยไม่ให้ผมต้องไปนอนกับตาลุงนั่น แต่ผมก็ยังโกรธอยู่ดีที่ทำแบบนี้....ไม่ใช่สิโกรธที่ไม่เชื่อที่ผมพูด ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะ...ทำไม
“เป็นบ้าอะไรร้องไห้อีกละ!!”
มันทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ ช็อกมากเลยรู้มั้ยที่นายพูดแบบนั้นใส่ นายพูดเหมือนจะยกให้ฉันไปนอนต่อกับคนอื่น พูดดูถูกไม่เชื่อใจฉันด้วย!!
“ชิ! กินเสร็จแล้วเรียกแล้วกันจะไปชงเกลือแร่มาให้!!”
ผมก้มหน้ารับเบาๆ เขามักทำอารมณ์เสียใส่ผมเสมอ ผมควรจะชินได้แล้วแต่ยิ่งว้ากใส่ผมก็ยิ่งร้องไห้
ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างนะ! ไหนบอกใจดีไง...ฮืออออ ไอ้ซาตานเอ้ย!
[Fiesta’s part]
เดาอารมณ์ยากชิบหาย!!
โครม!!
ผมเตะเท้าระบายความเครียดกับเคาเตอร์ครัว แม่งเจ็บแล้วกูจะเตะหาพ่อกูหรือไง!! เมื่อคืนก็ทำไว้แสบนักเช้ามามันน่าจับตีก้นให้เข็ดแม่งเสือกร้องไห้แต่เช้า กูทำอะไรผิดวะ!!
ติ๊ด..ติ๊ด
ผมเดินไปรับโทรศัพท์ก่อนกรอกเสียงลงไป
“ได้เรื่องว่าไง”
ผมฟังข้อมูลที่ออกมาตามสายก่อนจะวางหูโทรศัพท์ลง ผมก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลอะไรเพียงแค่ทำตามอารมณ์ก่อนแล้วค่อยหาเหตุผล ถึงจะผิดลำดับไปหน่อยแต่ก็ได้เรื่องเหมือนกันแหละ ผมเดินถือแก้วน้ำกลับเข้าห้องนอน ร่างผอมบางสะดุ้งกึกทิ้งช้อนลงชามข้าวต้มจนข้าวกระเด็นเลอะที่นอนผม...แล้วเอาเสื้อตัวโปรดกูมาใส่ด้วยนะเลอะเป็นวงเลย มันชอบทำตาตื่นๆเวลาเห็นผมไม่นานมันก็เริ่มใช้หางตามองผมแทน เดี๋ยวกูตบคว่ำ-*-
“กินเป็นเด็กไปได้!” ผมบอก
“เปิดประตูแรงแบบนั้น...”
“จะว่าเป็นความผิดฉันหรือไง!!”
โยนบาปมาหากูอีกนะเดี๋ยวก็แดกซะอีกรอบจะได้ไม่ต้องพูดมากครางอย่างเดียวพอ เมื่อคืนก็ลำบากตอนแรกหน่อยๆ มันยัดเข้าไปไม่ได้ช่องมันแคบเจลเจิลก็ไม่มีแม่งแหกปากลั่นจิกแขนผมเนื้องี้ลอกเลย
“พรึมพรำอะไร! แอบด่าฉันในใจใช่มั้ย!!”
ผมเหลือบตามองผมก่อนจะก้มลงเอาช้อนจิ้มข้าวต้ม เมื่อไหร่จะหมดกูช่วยบดให้เอามั้ย
“เอามานี่!!”
ผมคว้าช้อนจากมือมันมาตักข้าวจ่อมัน มันขยับตัวหลบเหมือนไม่อยากกินข้าวที่ผมป้อนซักเท่าไหร่
เคร้ง!
“ไม่แดกก็อาบน้ำ!”
ผมทิ้งช้อนลงชามแล้วดึงถาดขึ้นไปวางบนโต๊ะข้างเตียง หยิบหลอดมาปักให้มันกินเกลือแร่ด้วยรู้สึกจะเสียเหงื่อเยอะเมื่อคืน ผมเพลินไปหน่อยเลยได้นอนตีสาม ก็คิดแล้วมันหมั่นไส้!! ถ้าเมื่อคืนผมไม่สู้ราคาแล้วพ่อกับไอ้ลุงแก่ๆนั่นได้ไปล่ะ แค่คิดผมก็อยากจะแดกแม่งอีกรอบล่ะ
“...เดี๋ยวเช็ดตัวเอง...”
มันบ่นงุงงิงๆของมันแทบไม่ได้ยิน
“จะต่อเรื่องเมื่อคืนหรือจะอาบน้ำดีๆ”
มันตาเหลือกมองผม ไม่ต้องเช็ดมันล่ะตัวจับแม่งกดน้ำเขย่าๆเปล่าแห้งจบ
“..เช็ดตัว”
ดื้อไง-*- ผมไม่ฟังต่ออุ้มมันพาดบ่าเดินดุ่มๆเข้าห้องน้ำเปิดน้ำฝักบัวราดหัวมัน
“แค่กๆ...อะ..บ้า!”
ด่ากูอีก ผมเสยผมไปด้านหลังแล้วจัดการแก้ผ้ามันๆก็ใช้แรงอันน้อยนิดตีแขนผม ผมเพิ่งเห็นว่าขามันสั่นๆเหมือนยืนไม่ค่อยอยู่ ไม่ต่างกับลูกกวางแรกเกิดเลยขืนปล่อยไว้คงล้ม ผมเลยต้องเสียสละตัวเองเปียกน้ำเพื่อประคองเอวมัน ผมดันตัวให้มันเกาะกำแพงไว้ผมจะได้อาบน้ำให้มันสะดวกๆ
“ถ้าดิ้นมากจะปล่อยให้หัวโขกพื้น!”
ผมบอก ไม่ทันขาดคำแม่งยกเท้าเหยียบตีนผมเลย มันน่า...!! เดี๋ยวมึงแหก!!
“ไม่ต้องอาบแม่งล่ะ!!”
“ปล่อยนะ!”
ผมแหย่นิ้วเข้าไปในช่องแคบสีแดงสดที่เพิ่งผ่านการใช้งานมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะควานนิ้ววนข้างใน ตอนแรกหวังดีจะช่วยล้างข้างในให้ ตอนนี้ไม่ล่ะเดี๋ยวจะใส่เพิ่ม
“อ๊ะ!..อือ..ไอ้โรค..อ๊า!”
ประสบการณ์เกือบ 5 ชั่วโมงกูรู้หมดล่ะโดนตรงไหนมึงจะร้อง ในห้องน้ำก็ไม่เลวนะเสียงก้องดีสองแสนเอาให้คุ้ม ผมมองตาปรอยๆ ริมฝีปากสีแดงเหมือนลูกเชอร์รี่ที่เผยอออกเปล่งเสียงร้องบ่นด่าออกมา หน้าแม่งอีโรติกมาก แล้วมันขยับช่องรัดนิ้วผมด้วย ไม่รอดหรอกครับ
เสร็จศึกท่ามกลางน้ำฝักบัว ผมรู้สึกเหมือนไข้ขึ้นสงสัยจูบมันมากเลยติดไข้มา ช่วยไม่ได้ก็ปากมันแดงซะขนาดนั้น ผิวขาวๆเรียบเนียนไม่มีไฝมีฝ้าอะไรเลย ผมเลยต้องขบกัดอย่างหมั่นเขี้ยว นึกแล้วเดี๋ยวเอาอีกพอๆเดี๋ยวต้องหามมันไปโรง’บาลซะก่อน
“อยากกินอะไรมั้ยจะลงไปข้างล่าง” ผมถาม
แล้วทำไมต้องไปเอาใจมันนักวะ!! งงตัวเอง!!
“..ไสหัวไป”
ดูมันตอบกับผู้มีพระคุณ
“อีกรอบมั้ย!”
“ฮือๆ...ฮึก...ฮือออ”
มันโผล่ใบหน้าท่วมน้ำตาออกมาจากผ้า ผมแทบจะตีหัวตัวเองเวลาผมเห็นน้ำตามันผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ บอกให้มันหยุดๆก็ร้องเลยไม่รู้จะทำอะไร
“นอนพักไปอย่าซนล่ะ!!”
ผมกล่าวทิ้งท้ายแล้วเดินออกมาจากห้อง ให้พาผู้ชายกลับไปนอนบ้านแม่คงช็อกตาย ไม่มีทางอื่นนอกจากยืมห้องที่โรงแรมใช้ไปก่อน พ่อเป็นเจ้าของโรงแรมก็ดีอย่างงี้ล่ะสะดวกหลายอย่าง ผมก็ไม่ต่างจากพ่อที่ใช้โรงแรมค้างแรมกับคนอื่น เจ้าลูกกวางนั่นก็ไม่ใช่คนแรกที่นอนบนเตียงนั้น ผมถูกสอนมาให้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้มากที่สุด ง่ายๆว่าใช้หน้าตาหากินประมาณนั้น
...ลืมหยิบตังค์ เวร!...
ผมเดินกลับไปที่หน้าห้องตัวเองอีกรอบ ผมยืนนิ่งมองบานประตูที่ค่อยๆแง้มออกมา ยังมีแรงหนีอีกนะ รู้งี้น่าจะจัดหนักให้ลุกไม่ขึ้น ถ้ามันเปิดมาเจอผมจะทำยังไงนะ
แอ๊ด~
มันหยุดมองหน้าผม ผมก็ทำหน้านิ่งมองมันอย่างคาดโทษ มันทำเป็นมองเลยไปข้างหลังผมก่อนจะกระแทกประตูเข้าหน้าผม ไอ้กวางบ้าของหากินกู!!
หมับ!
“จะไปไหน!!”
ผมดึงประตูออกแล้วคว้าเอวมันไว้ มันดิ้นขลุกขลักๆในอ้อมแขนผม ถ้าจะเหยียบตีนกูอีกรอบมึงพลาดล่ะ ผมยกตัวผมลอยไว้ก่อนเลย!!
“..แฮ่กๆ ปะ..ปล่อย”
“ไม่!! จะหนีไปไหน!!”
“..จะ..จะเอามือถือไปให้เฉยๆ..เพื่อนนายโทรมา!!”
ผมปล่อยตัวมันลงพื้นพลางมองหน้า มันโกหกผมหรือป่าว มันรีบชูมือถือให้ผมดูผมก็รับมาแต่ยังไม่ปล่อยมันไปไหนหรอกนะ
“รู้ได้ไงว่ามือถือฉันอยู่ไหน”
ผมถามพลางหรี่ตาเค้นคำตอบ มันทำตาลอกแลกๆไม่ยอมสบตาผม
“จะเอาไปโทรให้คนมาช่วยหรอ รู้รหัสปลดล็อกหรือไง”
มันนิ่งไป แม่งโง่จริงๆน่ะแหละ ผมควรจะขำมันดีมั้ย มึงไม่มีรหัสปลดล็อกแล้วมึงจะโทรยังไง!! เพลียครับเป็นผมๆคงกระโดดเดดซีตาย
“โง่แบบนี้ถึงได้โดนเขาหลอก!!”
ผมว่าพลางดันหน้าผากมัน ถ้ามึงไม่มีกูมึงจะรอดมั้ย ทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย ผมว่าผมต้องผูกมัดมันแล้วล่ะ จะยอมหรือไม่ยอมช่างแม่ง
“ต่อไปนี้ต้องเป็น….!!”
กึก! ปากมันไม่ไป พอเห็นดวงตากลมใสนั่นจ้องฟังที่ผมพูดอย่างตั้งใจไปไม่เป็นเลย กรรม
“เอาเป็นว่าถ้าเป็นเด็กดีจะพากลับบ้าน!!”
ผมเอียงคอเหมือนจะงงๆกับคำพูดของผม แม่งเอียงคออีกแล้วววว คอมันอย่างขาวแล้วจะให้กูเอาตาไปมองที่ตรงไหน!!
“...อือ”
มันรับแล้วเดินเอื่อยๆกลับไปที่ห้อง ขานี่ก้าง 60 องศาได้ มันเหมือนตัวอะไรซักอย่าง ถ้าลำบากขนาดนั้นผมอุ้มมันไปนอนง่ายกว่า
“อ่ะ!”
มันร้องตกใจที่ผมช้อนตัวมันขึ้นมาจากพื้น
“จะพาไปนอน”
มันยอมอยู่นิ่งๆแถมเอนหัวพิงอกผม เคยรู้ตัวมั้ยว่าอ้อนคนเก่ง แต่คงเพราะใสซื่อแบบเด็กๆแบบนี้ถึงโดนหลอกเอาได้ ไม่สิ! ถ้าถูกคนแบบนั้นหลอกให้มาทำคงไม่เอ๊ะใจปฏิเสธที่จะทำหรอกมั้ง เก็บแรงไว้ตันหน้าคนซะหน่อยดีกว่า!!
ผมจอดรถมอไซค์หน้าบ้านหลังเล็กๆ ก่อนจะลงมายืนข้างล่างปล่อยให้คนนั่งซ้อนอยู่บนรถ มันไม่ลงเอง คงจะทำใจอยู่ล่ะมั้งขึ้นทีก็เจ็บลงนี่ยิ่งเจ็บกว่า ผมรู้ว่ามันลำบากที่นั่งรถมอไซค์หลังเสร็จกิจยามค่ำคืนถึงแม้จะพักฟื้นเต็มที่แล้วก็เหอะ ผมมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ถอนหายใจเฮือกๆมองพื้นเหมือนคนจะโดดตึกตาย เห็นแล้วมันนานไปผมเลยจับมันอุ้มลงมาซะเลย
“อะ...ขะ..ขอบใจ”
“เปลี่ยนเป็นเอาเงินสองแสนมาคืนดีกว่า”
“......”
มันเบะปากมองหน้าผม กูล้อเล่นมึงก็จริงจัง
“รีบเข้าบ้านเถอะ”
มันเดินไปเปิดประตูรั้วผมก็เดินตามมันเข้าไปข้างใน มันคงสงสัยว่าผมจะตามมันเข้าไปทำไม พอเปิดประตูเข้าบ้านผมก็เห็นเพื่อนมันนั่งรออยู่ตรงที่วางรองเท้าพร้อมกับเพื่อนผม ไอ้แมวผีนั่นพอเห็นเพื่อนกวางตัวน้อยของมันก็รีบกระโจนเข้าหาแทบล้มทั้งคู่ดีที่ผมยันหลังเจ้ากวางน้อยไว้
“มึงหายไปไหนมากูโทรไปก็ไม่รับ!!”
ไอ้ตัวเปี๊ยกแหกปากโวยวายพลางกอดเพื่อนมันไว้แน่น มันตวัดสายตามองมาทางผมก่อนจะทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
“แกพาเพื่อนฉันไปไหนมา!!”
หาเรื่องกันเลย ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเด็กเพื่อนกูๆโบกไปนานล่ะมาขึ้นเสียงใส่กูเนี่ย
“ถามเพื่อนแกดูสิ” พูดกับมันดีๆไม่ได้
“น้ำ!! มันทำอะไรมึงหรือป่าว!! มึงไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่วันศุกร์กูเป็นห่วงมึงนะ!!”
“ก็ทำไปเยอะนะ” ผมบอก
“เสือก!!”
แม่งน่าตบให้คว่ำ-*-
“ไอ้น้ำมึงร้องไห้ทำไม...”
บ่อน้ำตาแตกอีกละ รู้เลยว่าแดกน้ำวันนึงเป็นลิตรๆเพื่ออะไรอยู่แค่วันเดียวน้ำหมดตู้เย็นภายในสามชั่วโมง ไอ้เปี๊ยกจ้องหน้าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อผม มันเดินดิ่งเข้ามาคงอยากจะชกผมเต็มที่ ให้ทีนึงก็ได้อุส่าห์ห่วงเพื่อนขนาดนี้
ผลั๊วะ!
“ไอ้เชี่ยคิระ!!”
ไอ้เพื่อนเวร แม่งเสยหมัดใส่หน้าผมจังๆ เลือดกลบปากดีฟันไม่หลุด
“...เดี๋ยวเจ็บมือนะ...”
มันบอกพลางกุมมือเมียมันไว้ พวกมึงนี่......
“โอ๋กันมากไปละ!!”
ให้แม่งชกยังดีกว่าไอ้คิระเยอะ ไอ้เชี่ยนี่แรงเยอะผมเคยสู้กับมันตอนเข้ามาม.ต้น ผมทำมันแขนหักสองข้าง มันทำผมหัวเจาะกำแพงสมองเกือบไหล สรุปเข้าICUทั้งคู่
“แกนี่ดีนะเป็นห่วงเพื่อนดีจังเลย” ผมบอก
“ฉันจะแจ้งตำรวจจำแก!!” ไอ้เตี้ยบอก
“ไม่แจ้งซะล่ะ!”
“ถ้าคุณอาไม่ห้ามไว้แจ้งไปแล้วเว้ย!!”
“ลูกหายไปขนาดนี้ไม่แจ้งความแปลกหว่ะ!!”
ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ ดวงตาใสเบิกมองผมอย่างงุนงง ผมเดินเข้าไปหามันแล้วจับมือมันไว้แน่น ไม่ต้องร้องไห้แล้วมาถึงขั้นนี้ละ
“...น้ำ..”
ผมมองร่างผอมโปร่งสวมแว่นที่เบิกตากว้างตกตะลึงราวกับเห็นผี
“พ่อครับ...”
เจ้ากวางน้อยเรียก ผมรีบดึงแขนมันไว้ก่อนที่มันจะวิ่งไป
“เป็นพ่อภาษาอะไรวะ!!”
ผล๊วะ!!
“เฟียสหยุดนะ!!”
ไม่ทันแล้วผมสวนกำปั้นแบบจัดหนักใส่พ่อมัน น้ำโวยวายวิ่งพรวดเข้าไปดูพ่อที่ล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมทำให้สิ่งที่ถูก แค่ต่อยมันน้อยไป
“ขายลูกกินแบบนี้ได้ยังไง!!” ผมตะคอกเสียงดัง
“..ฟะ..เฟียสเข้าใจผิด”
“ไม่ผิดเว้ยกูไปถามเจ้าของร้านมาแล้ว!!”
ยอมรับความจริงเหอะถึงมันจะไม่น่าฟังเท่าไหร่ ผมเดินไปกระชากคอเสื้อตาลุงงี่เง่านั้นขึ้นมาเขย่าอยากจะซัดให้หมอบจริงๆ
“ทำอะไรเคยคิดบ้างมั้ย!! ถ้าน้ำถูกพวกโรคจิตวิปริตประมูลได้ไปจะกลับมาสภาพไหน!!”
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่บริษัทฉันจะเจ๊งแล้ว!! บ้านก็โดนยึดจะให้ฉันทำยังไง!!” ไอ้ลุงนั่นเถียง
“ชำแหละเครื่องในตัวเองไปขายซะไป!! ไม่ได้ยากอะไรเลย” ผมเถียงกลับ
“เฟียสหยุดได้แล้วนะ!!” น้ำโวยวายอีกรอบ
มันร้องไห้อีกแล้ว ผมไม่อยากเห็นน้ำตามันเลย แต่ผมก็ไม่รู้จะทำไงให้มันไม่ร้องไห้ มันคงโมโหผมเหมือนกันที่ตันหน้าพ่อมัน แต่พ่อมันก็น่าโมโหเหมือนกันน่ะแหละ!!
“ไปปิดบริษัทเส็งเคร็งนั่นแล้วไปทำงานที่นี่ซะคนอื่นจะได้ไม่ลำบาก”
ผมข่มใจให้เย็นพร้อมปานามบัตรพ่อให้ตาลุงนั่น ขืนผมอยู่ต่อผมได้ปรี๊ดแตกอาละวาดบ้านพังแน่ ใจเย็นไว้ๆ ที่เหลือมันเรื่องครอบครัวของเจ้านั่นมันแล้ว ผมตัดสินใจหันหลังเดินออกจากบ้านไป ทำอะไรมากไปก็พาลแต่จะทำให้น้ำเกลียดผมมากเข้าไปอีก แค่ไปข่มขืนมันก็มากพอแล้ว
ตึกๆ
“เดี๋ยวเฟียส!”
เท้าเล็กๆวิ่งออกมาหาผมหน้าบ้าน ผมไม่อยากจะหันกลับไปมอง ตอนนี้ผมอยากกลับบ้านให้เร็วที่สุดเดี๋ยวปรี๊ดแตก
“...ขอบใจนะ แต่เรื่องนี้...ขอคุยกับพ่อแค่สองคน บางทีเราอาจจะไม่ได้เรื่อง ทำอะไรก็ไม่ดี ไม่มีประโยชน์ เราว่าพ่อต้องมีเหตะผลที่ทำแบบนี้..”
เหตุผลบ้าบอ!!
“ผิดที่เราเองแหละ...เราเป็นภาระให้พ่อต้อง..”
“อย่าโทษตัวเองได้มั้ย!!”
ผมหันไปว้ากใส่มัน
“มองคนในแง่ดีเกินไปแล้วนะนายน่ะ... ไปโกรธคนที่ทำให้เจ็บไม่ใช่มาต่อว่าตัวเอง!!”
“นั่นมันพ่อฉันนะ!!”
“ชิ!!”
“...เฟียส”
“นายเป็นของฉันแล้วต่อไปนี้ฉันมีสิทธิในตัวนาย!! ฉันสั่งไม่ให้นายโทษตัวเอง!! ห้ามทำงานอันตรายแบบนั้นอีก!! ห้ามเด็ดขาดเข้าใจมั้ย!!”
มัดมือชกแบบนี้แหละ ปล่อยให้คนโง่หลงไปในดงคนฉลาดก็ตายพอดี คิดว่ามีใครคุ้มครองนายได้ดีกว่าฉันงั้นหรอ!!
“สิทธิอะไรของนาย..” เสียงเล็กๆถาม
“สิทธิในการเป็นสามีไง!!”
“จะตะโกนทำไมบ้าหรือป่าว…”
“ไม่รู้ล่ะ!! เรื่องของนายๆก็ไปเคลียร์ซะจะตัดพ่อตัดลูกอะไรก็เชิญแต่นายเป็นของฉัน”
“...ไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย...”
“เป็นแล้วเว้ย!!”
มันเบิกตากว้าง เป็นเมียก็ต้องเป็นแฟน จะรับผิดชอบมึงคนเดียวเนี่ยแหละ
“...แฟนที่ดีไม่ควรตะคอกใส่กันนะ กลับบ้านดีๆล่ะ..”
มันบ่นขมุบขมิบก้มหน้าหลบสายตาแล้วยิ้มบางๆก่อนจะวิ่งเข้าบ้านทิ้งให้ผมยืนเอ๋ออยู่คนเดียว เหอะ แฟนที่ดี เป็นไม่ได้ๆแต่แบบนี้รับไม่ได้ก็ต้องเอาเพราะกูยัดเยียดจบ!!
...คงต้องปล่อยให้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง...
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพ่อมันซะมากกว่า
ครืด~
/ฉุกเฉินโทรกลับด่วน..../
ไอ้พ่อเฮงซวยมีตังค์แต่ส่งฉุกเฉินให้โทรกลับ ทำไมถึงเจอแต่พวกไม่ได้เรื่องวะ!!
“ฮัลโหล”
(แกอยู่ไหน)
“บ้านแฟน”
(มีแฟนด้วยหรอ)
“เพิ่งคบกัน”
(ใช่คนที่แกประมูลตัดหน้าลูกค้าฉันหรือป่าว)
“ยุ่งน่ามีไรเปลืองตังค์ค่าโทรศัพท์”
(มีแฟนแล้วจะทำได้หรอ ก็งานแบบเดิมน่ะแหละ)
“ได้สิแฟนไม่รู้ซะหน่อย”
(ถ้าเขาจำได้ระวังเรื่องใหญ่นะ)
“ผมเซียนน่า ว่ามาเลยเมื่อไหร่ เท่าไหร่”
(ลูกสาวห้างCV center แค่ไปกินข้าวพาไปเที่ยว เริ่มหลังแกกลับมาจากญี่ปุ่นก็ได้)
“ได้เท่าไหร่ ต้องอยู่กับยัยนั่นกี่วัน”
(ก็สามอาทิตย์ ถ้าทำให้พ่อเขาเจรจาซื้อที่ดินแถวเขาใหญ่ให้ก็เอาส่วนแบ่งไป 7%)
“ผิดแล้ว 15% โอเค รับงานครับแค่นี้นะ”
ก็แค่จ๊อบง่ายๆ เรื่องแบบนี้ทำบ่อยอยู่แล้ว ไปก่อนนะเจ้ากวางน้อยแล้วคืนนี้จะโทรไปปลอบใจ ฉันจะคอยยืนอยู่ข้างๆนาย นายเป็นคนเดียวที่หยุดฉันได้เจ้ากวางน้อย..
++++++++++++++++
ไม่มีไรพูดมาก ฝนตกระวังเป็นหวัดค่ะ
