บทที่ 11.1
[Save’s part]
“เซฟตื่นได้แล้วจะลงแล้ว”
มือใหญ่เขย่าตัวผมเบาๆ (ผมหมายถึงเบาของมัน-*-) เออๆตื่นก็ได้วะ>O<
“หือO.o”
ผมลืมตามองนอกหน้าต่าง ไอสีขาวๆของเมฆหมอกยังคละคลุ้งอยู่เหนือทะเลสีน้ำเงินเข้ม วันนี้เรามาญี่ปุ่นกัน มาทำไรก็ไม่รู้มันลากผมมา ไอ้เจแปนนิสบอยข้างๆผมน่ะ เพิ่งรู้ว่าเครื่องบินแล้วมันวืดๆ หูอื้อคิระมันเลยให้ผมนอน ผมดีดหูเล็กๆของเพื่อนตัวเองที่หลับชิงแชมป์ตรงเบาะข้างหน้า
“ไอ้เตี้ย-*-!!”
ไอ้หัวหงอกขู่ผมฟ่อๆที่ทำไอ้น้ำตื่น แค่ดีดหูแม่งทำยังกะผมเอาพระบาทปลุกแฟนมัน-*-
“ถึงแล้วหยอออ-o-~”
ไอ้น้ำถามเสียงงัวเงีย
“ไอ้คิระมึงจะให้ลงเลยหรอวะ!” ไอ้หัวหงอกถาม
คิระพยักหน้าแล้วส่งแพคอะไรสีเหลืองๆให้ไอ้หงอก ร่มชูชีพหรอO.o?
“ทำไมต้องใส่ร่มชูชีพอ่ะ”
ผมถาม แต่คิระมันไม่ตอบก้มหน้าก้มตาติดโน่นเหน็บนี่
ปึง!
ประตูข้างเครื่องบินลำเล็กที่ผมนั่งอยู่เปิดออก ตัวผมแทบจะปลิวออกไปข้างนอกดีนะมีสายรัดเอวอยู่ ร่างสูงโปร่งเดินออกไปยืนหมิ่นเหม่อยู่หน้าประตู
“จะทิ้งฉันไว้นี่หรอ ฉันลงสนามบินแล้วเดินเอ๋อเลยนะเฮ้ย-o-;”
เพิ่งเคยมาครั้งแรก พูดก็ไม่ได้ อ่านก็ไม่ออก-_-;
“..ก็ไม่ได้ทิ้งนี่..”
มันพูดเบาๆแล้วเดินมาปลดสาดคาดเอวตรงเบาะผม อย่าบอกนะว่า-o-!! คิระดึงแขนผมให้ลุกขึ้น กูไม่ไป มึงจะทำอะไรกูTOT
“ไม่เอา>O<!!”
ผมลากผมออกมายืนชมพูเขาเขียวขจี ที่มีถนนวนขึ้นไปด้านบน ลมจากทะเลพัดตีหน้าผมจนหัวยุ่ง ถึงจะสวยมากแล้วกูไม่ลงนะแบบนี้ พากูไปลงสนามบินเถอะ ถ้าตกน้ำไปนี่ฉลามนะเว้ย>O<!!
“..คิระT^T”
กูสั่นไปหมดแล้วเนี่ยเดี๋ยวฉี่ไหลยิ่งกลั้นๆไว้อยู่นะ
หมับ!
วืดดดดดดดดด~
O.O!!
คนตัวใหญ่กอดเอวผมแน่นแล้วทิ้งตัวลงจากเครื่องบิน ลมจากด้านล่างลู่ผิวผมสวนขึ้นไปบนอากาศ หัวใจผมมันตกวูบลงไปข้างล่าง เหมือนลำไส้ ตับ ม้ามในตัวผมมันย้ายลงไปที่กันหมดเลย ผมมองเครื่องบินที่ลอยอยู่เหนือหัว ตกลงแล้ว...ผมตกลงมา กำลังลอยอยู่อากาศ....
“ว้ากกกกกกกกกกกก!!! อ๊ากกกกกกกกก!!! TOT!!”
ตกแล้วๆ!! ตกเร็วด้วยม่ายยยยยยยยย แรงโน้มถ่วงมากไปแล้ว ว้ากกก ผมตวัดแขนขากอดคิระแน่น ขืนไม่จับมีหวังหล่นลงปากฉลามแน่ๆ ม่ายยยยยยย>O<!!
“..เอาขาลงหน่อยเดี๋ยวร่มกลางไม่ได้...” คิระพูดเสียงดังเล็กน้อย
“เอาลงแล้วหล่นขึ้นมาทำไงล่ะ>O<!!”
“อยากหล่นคู่หรือไง”
“ไม่เอาๆ>O<!!”
“เอาลงอยากให้ฉันถีบนายออกหรือไง”
“หา!!!”
เออสิ!! ได้กันแล้วนี่!! ถึงกล้าพูดแบบนี้น่ะห๊ะ!! ผมลดขาที่กอดอกมันลงมาที่เอวมัน มือมันจะหลุดแล้วอ่ะ มึงกางซะทีเหอะ!!
พรึ่บ!
ร่มข้างหลังคิระดีดออกทำให้ผมยิ่งอยู่กลางอากาศนานขึ้นกว่าเดิม มันน่าดีใจมั้ยเนี่ยได้ชมวิวเหนือยอดตึก ไม่สิเหนือยอดภูเขาเลยป่าวเนี่ย
“มองข้างหน้าโน่นสิ”
ผมเอาคางเกยไหลมันอยู่มันจะให้ผมเอาหัวบิด180องศาไปดูที่มันชี้ เดี๋ยวกูตกขึ้นมาทำไงอ่ะ ภารเยอะนะถ้าตายไปใครจะเลี้ยงหมา แมวที่บ้านอีก 3 ตัว ให้อาหารนกหน้าบ้าน ล้างรถให้พ่อ ซักผ้าให้แม่ ทำความสะอาดห้องให้พี่ เฮ้อ~
“คิระ?”
ผมเรียกมัน ทำไมมุมมองผมมันแปลกไป ผมเห็นต้นไม้เป็นป่าแล้วก็มีทางที่ปูด้วยหิน มันเริ่มต่ำลงๆ
“ลงเดิน”
เดิน!! มันแงะตัวผมให้เอาขาลง ไม่เอากูไม่ลง!!
“จะให้ขาฉันหักหรือไง...อยากมีแฟนขาหักหรอ”
“ชิ! หักตายไปเลย”
ผมยอมเอาขาลงจากเอวมันแต่มือยังล็อกไว้แน่น คิระดึงตัวผมให้หันออกมาทางที่ดูด้วยอิฐด้านหน้า ผมมองบ้านทรงยุโรปขนาดใหญ่ตรงหน้า ที่ทางเดินยาวมีคนใส่ชุดเมดกับชุดพ่อบ้านอยู่สองฝั่ง แถวๆปลายแถวเป็นพวกผู้ชายตัวใหญ่ใส่ชุดยูกาตะ อะ...ไอ้เจแปนนิสบอยนี่เป็นลูกคุณหนูหรอเนี่ยOoO!!
“ก้าวเท้า”
ผมก้าวเท้าเดินกลางอากาศ พอถึงพื้นแล้วร่างกายผมมันก็กายไปข้างหน้าอัตโนมัติ มือใหญ่พยุงไม่ให้ผมล้ม ถ้าล้มหน้าฟาดไปคงไม่ดีเท่าไหร่
“Okearinasaimase,Kira-sama!!” (ยินดีต้อนรับกลับมาครับ/ค่ะ ท่านคิระ)
ทุกคนที่ยืนเรียงแถวก้มหัวลงอย่างพร้อมเพรียง ผมมองหน้าคิระที่ยังสงบนิ่งไม่ฮือไม่อือตอบ ผมเคยได้ยินในการ์ตูนอยู่เลยรู้ว่าแปลว่าอะไร
“ไม่พูด tadaima หรอ” ผมถาม
“ขี้เกรียจ”
“เสียมารยาท-o-!”
“จะให้คนพาไปห้องพัก..”
“แล้วนายจะไปไหน!”
“ไปคุยธุระนิดหน่อย..”
ผมมองหน้านิ่งเรียบ คิ้วเข้มโค้งชนเข้าหากัน นี่นายกำลังกังวลหรือไม่สบายใจอะไรหรือป่าว ถึงหน้ามันจะอ่านยากแต่ผมก็พออ่านออก
“..เรามาเที่ยวกันใช่มั้ย” ผมถาม
มาเที่ยวทั้งทีทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า
“เดี๋ยวไปหาที่ห้อง”
มือใหญ่วางทาบหัวผม คิระหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับพ่อบ้านชุดดำ พ่อบ้านคนนั้นก็เดินมาหาผม
“เฮ้ยยยยยยยยย!!!”
“ม่ายอ้าววววววววTOT!!”
ผมหันไปมองข้างหลัง ไอ้น้ำกอดไอ้หัวหงอกแน่นไม่ยอมปล่อยเลย ผมไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าพวกมันจะลงพื้นกันท่าไหน
“ปล่อยเด้!!”
“ไม่เอา!! ปล่อยก็ตกเซ่TOT!!”
“เดี๋ยวก็ตายคู่หรอกโธ่เว้ย!!”
ไอ้หัวหงอกบ่นก่อนจะกระตุกเชือกเบาๆ พวกมันเลยหล่นซวบลงบนต้นไม้ ผมรีบวิ่งไปดูว่าพวกมันเป็นไงบ้าง เสียงเงียบไปขนาดนี้ ไม่น่ารอด-o-!
“ฮือออออ เฟียสอ่ะ!! ฮือๆ”
ดูเหมือนจะยังไม่ตาย-.- เสียงมาก่อนตัวอีก ผมเงยหน้ามองไปบนยอดไม้เห็นไอ้น้ำห้อยตัวลงมาจากกิ่งไม้ ขามันโดนเชือกพันไว้ ถ้าหล่นลงมาก็...
“อย่าเพิ่งขยับนะเว้ย>O<!!” ผมตะโกนบอก
วืบ~
มีดสั้นสีดำลอยผ่าหูผมไปตัดเชือกที่พันขาไอ้น้ำ ร่างเล็กๆร่วงลงมาจากต้นไม้ ผมนี่แทบกรี๊ด
“ม่ายยยยยยยยย!!”
ผม ไอ้น้ำและก็ไอ้หงอกแหกปากพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ตุ้บ!
ร่างเล็กๆนอนหลับตาปี๋อยู่ในอ้อมแขนใหญ่ ไอ้น้ำลืมตามองพ่อบ้านที่วิ่งเข้ามารับไว้
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ”
สำเนียงแปลกๆเหมือนคนพูดไม่ชัดถาม
“มะ..ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ”
ไอ้น้ำบอกพลางยิ้มเล็กน้อย พ่อบ้านค่อยๆวางไอ้น้ำให้ยืนบนพื้น แต่น้ำมันทรงตัวไม่ค่อยอยู่เลยเซไปปะทะแผงอกของพ่อบ้านคนนั้นเข้า
“ขะ..ขอบคุณครับ”
พ่อบ้านโอบเอวไอ้น้ำไว้ให้ทรงตัว ส่วนไอ้น้ำก็เนียนยืนให้เขากอด กระผมสัมผัสได้ถึงคอสโม่ขนาดมหาศาลชนิดที่ว่าสามารถฆ่าปลาในแปซิฟิคได้ภายใน 5 นาทีเลย -_-;;
“ขาดความอบอุ่นหรือไงห๊ะ!!”
จอมมารตาแดงกร่ำกระโดดลงมาจากกิ่งไม่สูง ย้ำ! สูง! ความหึงทำให้คนเราทำได้ทุกอย่างจริงๆ
“อ่ะ! คะ..คือเขาแค่ช่วยT^T”
“แล้วจะเกาะอีกนานมั้ย!!”
“ปล่อยแล้วนี่ไงT^T”
“ถ้าไม่บอกจะปล่อยมั้ย!! ถ้าไม่บอกก็คงพากันไปไหนต่อไหนแล้วใช่มั้ย!!”
“ใจเย็นๆสิ กลัวนะTOT”
ไอ้เชี่ยนี่หึงโหดมากเลย น้ำมึงคิดดีแล้วหรอคบกับมัน -o- มึงถอยไม่ได้แล้วด้วยนะมันเอาน้ำกรดมาสาดมึงแน่
“ใจเย็นๆนะครับ^^”
คุณพ่อบ้านพูด แต่ไอ้ตาแดงนี่มันคงไม่เย็นแล้วล่ะครับมันของขึ้น
“ขอโทษที่แนะนำตัวช้านะครับ ผมโอริยะ ยูกิเรียกยูกิก็ได้ครับ^^”
ยูกิ~ ชื่อเท่มากเลย อะเระ พูดไทยได้...
“พูดไทยได้ด้วยหรอ*o*” ผมถาม
“ครับ เคยอยู่ที่ไทยมา 3 ปีครับ^^”
“ผมชื่อน้ำค้างนะครับ เรียกน้ำเฉยๆก็ได้^^”
ผมได้ยินเสียงหมาขบฟันกรอดๆ
“น้ำ แฟนมึงตะไบเล็บกับต้นไม้แล้วนะ-o-;” ผมบอก
“เฮือกOoO!!”
มันทำตาตกไม่กล้าหันไปมองข้างหลัง อย่าหันไปเลย สายตาแม่งนี่....ถ้าตามันยิงเลเซอร์ได้ยูกิคุงคงพรุพรุนหมดแล้วล่ะ
“ผมทราบแล้วครับว่าพวกคุณชื่ออะไรนายน้อยบอกไว้หมดแล้วครับ เดี๋ยวผมจะนำทางไปที่ห้องพักนะครับ เชิญทางนี้เลยครับ^^”
ยูกิผายมือให้พวกผมเดิน ผมเดินตามแผ่นหลังกว้างไปในบ้าน...หรือจะเรียกคฤหาสน์ เข้ามาข้างในนี่ทองกระแทกตาตั้งแต่หัวบันไดยันขอบประตู เพดานนี่สูงไปไหนก็ไม่รู้ มีรูปเหมือนเทวดานางฟ้าอยู่บนเพดานด้วย พื้นก็ปูนหินอ่อนขัดเงาวับจนเห็นหน้าผมเองสะท้อนที่พื้นเลย ผมไม่กล้าเหยียบเลยกลัวพื้นเลอะ
“คุณเฟียสนอนห้องข้างๆคุณหนูนะครับเลี้ยวขวาได้เลยครับ ส่วนพวกคุณสองคนนอนห้องทางโน่น”
“ทำไมฉันต้องนอนแยกกับน้ำ!” ไอ้หงอกถาม
“นายน้อยบอกเกรงว่าถ้าให้นอนด้วยกันจะส่งเสียงรบกวนคนในบ้านตอนกลางคืน พลอยให้พวกสาวใช้ทำงานไม่ได้ด้วยน่ะครับ^^”
ผมมองหน้าไอ้น้ำที่เจอสีแดงข้างแก้ม ชัดเจน...
“ทั้งสองท่านเชิญทางนี้ครับ^^”
ถึงจะบอกว่าสองแต่ตัวที่สามก็ยังคงเดินตามเรามา ยูกิเปิดประตูห้องเชิญพวกผมเข้าไปข้างใน ห้องคล้ายๆห้องนอนคิระที่ผมเคยไปเลยมีหน้าต่างสูงๆมองเห็นวิวด้านนอกที่เป็นสวนดอกไม้ ห้องนี้มีสองเตียงวางอยู่ข้างๆกัน มีจอทีวีขนาดใหญ่ เครื่องเกมและชั้นหนังสือการ์ตูนด้วย
“ชอบมั้ยครับ”
ยูกิก้มลงถามผม
“ก็..โอนะ-///-”
มีตุ๊กตาเคโรโระตัวใหญ่ด้วยอ่ะ ชอบมากเลยล่ะ ไอ้น้ำขึ้นไปกระโดดบนเตียงส่วนผมก็แว้บไปเกาะขอบหน้าต่าง อิบ้านนี้มันอยู่บนเขา ไกลลิบๆนั่นผมเห็นบ้านทรงญี่ปุ่นด้วย
“เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำชากับของว่างมาเสิร์ฟให้นะครับ”
“ขอบคุณครับ”
ผมบอกแล้วยูกิก็โค้งให้ผมก่อนเดินออกไป
“เฮ้ย! กลับห้องไป” ผมไล่ได้หงอก
“ยุ่งไรเตี้ย!!”
ปากหมาบรรลัยมาก ไม่ได้เตี้ยเว้ย!! เขาเรียกไซส์พกพา-*-
“น้ำมานี่ดิ๊!”
ไอ้น้ำกระพริบตามองคนเรียก มันอุ้มตุ๊กตาจากเตียงเดินมาหาไอ้หน้ายักษ์
“อะไร?” ไอ้น้ำถาม
“ไป..เดินเล่นกันมั้ย ก็เอ่อ..พาหมาไปเดินเล่น..ล่ะมั้ง-///-”
“มึงไปจีบกันไกลๆ-*-!!”
ผมบอกแล้วกระโดดเอาหมอนมาอุดหูนอน ผมได้ยินเสียงเปิดประตูออกไปสงสัยจะไปสวีทกัน ดูผมสิโดนหลอกให้มาเที่ยว แต่ต้องมาอยู่ในห้องไอ้คิระนะไอ้คิระ!! ผมนอนกลิ้งไปมาบนเตียงไม่รู้จะทำอะไรดีนะ พรุ่งนี้คงได้ไปเที่ยวล่ะมั้ง นอนเอาแรงหน่อยแล้วกัน เหนื่อยชะมัดเลย
แสงแดดลอดผ่านกระดาษเข้ามาภายในห้อง ร่างสูงโปร่งนั่งนิ่งต่อหน้าผู้อวุโส สายตาโดยรอบต่างจับจ้องมายังลูกชายคนเล็กแห่งตะกูลคิริว แรงกดดันทำให้ร่างสูงรู้สึกลำบากใจและกังวลไม่น้อยแต่ก็พยายามฝืนแสดงท่าทีสงบนิ่งตามเดิม
“คิดอะไรเป็นเด็กๆไปได้!”
“ก็เพราะว่ายังเด็กล่ะมั้งเลยไม่รุ้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ!”
“เสียเวลา ปิดประชุมซะดีกว่า”
ผู้อวุโสหลายท่านทำหน้าเบื่อหน่ายและเริ่มลุกออกจากที่ประชุม
“มีมารยาทกันหน่อย เพราะแบบนี้เด็กถึงเอาเป็นถึงเอาเป็นเยี่ยงอย่าง”
น้ำเสียงสั่นแต่ทรงอำนาจดังออกมาจากหญิงชราผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหญิงใหญ่ หรือคุณย่า คนที่นึกจะลุกออกต้องรีบนั่งลงตามเดิมด้วยความเกรงกลัว
“รู้ใช่มั้ยถ้ายกเลิกการหมั้นจะเกิดอะไรขึ้น...”
ใบหน้าหล่อก้มหัวลงเป็นการตอบรับคำถามของคุณย่า
“ที่คิริว มีกฎอยู่ว่าลูกน้องคือเพื่อนพ้อง สิ่งที่เธอทำมันเป็นการพาเพื่อนพ้องตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือไง”
ร่างสูงก้มหน้านิ่ง จริงอย่างที่ย่าเขาพูดทุกประการ การที่เขาหมั้นกับลูกสาวของอีกพรรคเป็นการช่วยให้ทั้งสองพรรคสงบศึกกันหลังจากที่เคยสู้กันมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งพรรคใหม่ๆ
“ก็บอกให้รอโทรุกลับมาแต่เจ้าคิระดันใจร้อน เป็นลูกผู้ชายฆ่าฟันกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ ฮ่าๆ น่าสนุกดีออก”
ใบหน้าหล่อคล้ายคลึงกับลูกชายหากแต่เพียงมีริ้วรอยเล็กน้อยหัวเราะขบขัน
“เวลานี้ไม่ใช่เวลาแห่งการฆ่าฟัน ฉันไม่อนุญาตใครเห็นพ้องด้วยให้ยกมือ”
คนในห้องมองหน้ากันไปมาก่อนจะยกมือขึ้นทีละคน สองคน และเกินกว่าครึ่งห้องในที่สุด ร่างสูงรู้ชะตากรรม เขาทำอะไรไม่ได้เลย เขาหวังให้ชีวิตตัวเองเป็นเหมือนพ่อและแม่ ถึงจะถูกกีดกันแต่ด้วยความพยายามของทั้งคู่จึงได้แต่งงานกัน
“...ผมไม่ละความพยายามหรอกครับ...”
ร่างสูงโปร่งเอ่ยเสียงหนักแน่น เขาก้มหัวก่อนจะลุกออกไปจากห้องประชุม ร่างสูงโปร่งก้าวเท้ายาวเดินกลับไปที่คฤหาสน์หลังโต ตอนนี้เขาอยากพบหน้าคนที่เขารัก อยากหาที่พึ่งพิง ที่ๆช่วยให้เขาสามารถลุกขึ้นมาพยายามต่อไปได้หลังจากต้องสิ้นหวังกับการประชุมครั้งนี้
แกร๊ก!
ร่างสูงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน คนรับใช้คนสนิทรีบถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“นายน้อยเป็นยังไงบ้างครับ...”
ใบหน้าหล่อก้มหน้าเล็กน้อย ยูกิพยักหน้าอย่างเข้าใจว่าผลการประชุมเป็นเช่นไร
“ผมไปก่อนนะครับ พยายามเข้านะครับ..นายน้อย”
ลับร่างสูงบางของคนสนิทร่างสูงนั่งลงที่ขอบเตียง มือใหญ่ลูบเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบาก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อน
“..คิ..ระ”
ดวงตาสวยเบิกขึ้นมองใบหน้าคมคายระยะใกล้
“ทำให้ตื่นหรอ..”
“ป่าวววว”
คนตัวเล็กลากเสียงยาวพร้อมกับอ้าปากห้าว ดวงตาหวานสบดวงตาสีเข้ม มือเล็กยกขึ้นมาลูบใบหน้าหล่อเบาๆ คิระหลับตาลงรับสัมผัสอุ่นจากฝ่ามือนุ่ม แค่นี้...แค่นี้เขาก็มีกำลังใจขึ้นเยอะแล้ว
“..ไม่สบายใจอะไรหรือป่าว” เสียงเล็กๆถามอย่างเป็นห่วง
ร่างสูงส่ายหน้าเบาๆ
“มีอะไรทำไมไม่พูดออกมาล่ะ..”
ใบหน้าหวานขมวดคิ้ว อยากจะตะโกนด่าคนข้างหน้าเต็มที่ แต่พอมองใบหน้าผิดหวังที่ถูกฉาบไว้ด้วยความนิ่งเฉยเสียงในคอกลับไม่ออกมา
ซวบ!
ร่างเล็กลุกขึ้นดึงคนตัวใหญ่มากอด มีอะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่าต้องปลอบใจเจ้าเด็กหน้าตายคนนี้ ใบหน้าหล่อหลับตาพริ้ม มือใหญ่ยกโอบรอบเอวบางแน่นราวกับโหยหายอ้อมกอดแสนอบอุ่นนี้
“..อยู่อย่างนี้ซักพักนะ..”
“ฉันจะอยู่ข้างนาย..คิระ”
...เรื่องที่ทำให้นายเป็นแบบนี้ มันเกี่ยวกับฉันใช่มั้ยคิระ...
ร่างบางคิดในใจก่อนจะก้มลงจูบเรือนผมสีเข้ม อยู่กับคนไม่พูดแบบนี้ร่างบางก็ต้องปรับตัวให้ถูก กับคน...ที่ไม่ยอมบอกอะไร เพราะงั้น...
...ถ้านายไม่บอก ฉันจะหาคำตอบเอง!!...
+++นักเขียน+++
ใครอยากกินซาลาเปาเอามานึ่งได้เลยนะ วันนี้เรามี "ซึ้ง"
ถุ้ย! มุกไม่ฮาพาแป้ก 555+ นักเขียนยังอัพช้าเหมือนเดิม แป๋ว~
คู่นี้กะเอาโรแมนติกค่ะจะเอากระติกไปใส่ชาเย็น(มุงเลยอะไรอินักเขียน)
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ จะพยายามปรับปรุงมุกตัวเองค่ะ55
สำหรับพี่พายุกับใครก็ไม่รู้จะบอกว่าคนเขียน.."ก็ไม่รู้สินะ"...
ว่ามันมี 1 หรือ 2คน หรือแฝด หรือ2บุคลิก แต่งแล้วมันเลยพล็อต55
