Pet’ Chain พันธะนาการหัวใจนายจอมโหด (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Pet’ Chain พันธะนาการหัวใจนายจอมโหด (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)  (อ่าน 293770 ครั้ง)

ออฟไลน์ enzang2660

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตอนที่ 18.2

“ฮะ ๆ เร็วๆเข้าสิ”
   เสียงเด็กหัวเราะสดใส  ผมมองไปแผ่นหลังของเด็กผู้ชายสองคนที่วิ่งไล่กันอยู่บนสะพานไม้ข้ามแม่น้ำ  ภาพพร่าเลือนทำให้ผมมองเห็นอะไรไม่ชัด  ผมพยายามเพ่งสายตาไปยังเด็กทั้งสองแต่ตอนนี้บนสะพานกลับเหลือแค่เด็กเพียงคนเดียว
   ..เด็กอีกคนหายไปไหน!!..
   “พายุ!!”
   เสียงเด็กบนสะพานตะโกนลั่น  เอื้อมมือไปยังเวิ้งน้ำด้านหน้าเพื่อไขว่คว้าแขนเด็กอีกคนที่ตะเกียดตะกายอยู่บนผิวน้ำ
   “ช่วย!!...แฮ่ก...ด้วย!!”
   ผมอยากจะวิ่งเข้าไปหาแต่ดูเหมือนขาผมมันถูกตอกเอาไว้ให้ยืนดูเท่านั้น
   ..บ้าจริง!! เด็กกำลังจะจมน้ำ  ทำยังไงดี!...
   เด็กบนสะพานหน้าถอดสี  เขาลุกขึ้นกำมือแน่นมองหาอะไรบ้างอย่าง  แล้วเขาก็ตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยเด็กอีกคน
   
   หมับ

   เด็กที่ตกน้ำก่อนหน้ากอดรัดเด็กที่ลงไปช่วย  เด็กอีกคนพยายามถีบตัวออก 
   “พายุ...อย่า!”
   เด็กอีกคนเริ่มสู้แรงไม่ไหว  ร่างเล็กๆถูกกดลงไปใต้น้ำก่อนที่ร่างของเด็กที่ชื่อพายุซึ่งหมดแรงค่อยๆ จมหายไปด้วยกันใต้ท้องน้ำ
   ...ไม่!!!...

   แว้บ!

   แสงสีขาวสาดเข้าดวงตาผม  ภาพข้างหน้าถูกลบไปด้วยสีขาว  ผมลืมตามองประตูไม้ที่จู่ ๆ ก็โผล่มาอยู่ข้างหน้า  เสียงจ๊อกแจ๊กเหมือนคนคุยกันดังลอดออกมาจากหลังประตูไม้ไผ่  ผมเดินไปแอบมองลอดบานประตูที่แง้มอยู่เพราะอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน
   “ไม่!! ไม่นะภูผา  ฮือๆ”
   เสียงร้องไห้ครำครวญราวกับคนจะขาดใจตายบีบรัดหัวใจผม  ผู้หญิงคนที่ร้องไห้อย่าบ้าคลั่งเธอกอดร่างกายเปียกโชกไว้แน่นโดยมีผู้ชายอีกคนคอยปลอบประโลมด้วยสีหน้าทุกข์ใจไม่ต่างกัน 

   กึก!

   เด็กผู้ชายอีกคนซึ่งน่าจะชื่อพายุตัวกระตุกเกร็ง  ดวงตาที่ปิดสนิทเมื่อครู่เบิกขึ้นจนเห็นนัยย์ตาสีขาว  คนที่น่าจะเป็นพ่อกับแม่รีบเปลี่ยนฝั่งมาดูลูกชายอีกคนทำให้ผมได้เห็นใบหน้าของเด็กที่ชื่อภูผาเสียที
   ...เด็กสองคนนี้เป็นแฝดกันงั้นหรอ...
   “แม่หมอ!!  พายุ..พายุเป็นอะไร! นี่ลูกฉันจะตายอีกคนหรอ!!” ผู้เป็นแม่ตะโกนถามด้วยสีหน้ากังวลหนัก
   ยายเฒ่าที่ใส่ชุดคลุมสีขาวเอามือทาบหน้าผากของเด็กที่ชื่อพายุก่อนจะพรำพรึมอะไรบางอย่างแล้วเด็กคนนั้นก็สงบลง
   “วิญญาณอีกครึ่งกำลังจะตามกันไป” ยายที่เป็นแม่หมอบอก
   “..หมายความว่ายังไง  เจ้าสองคนนี้จะตายทั้งคู่หรอ..” แม่เด็กถามเสียงสั่น
   “เด็กที่เป็นแฝด  มันจะมีวิญญาณอยู่คนละครึ่ง  ถ้าอีกครึ่งดับไปอีกครึ่งที่เหลือก็ดับด้วย”
   แม่เด็กถึงกลับลมจับอีกรอบ  สามีต้องรีบเอายาดมมาให้เธอ
   “ถ้าจะให้เจ้าเด็กนี่มีชีวิตต่อจะต้องเรียกวิญญาณอีกครึ่งกลับมา”
   “ทำเลยแม่หมอ! ทำยังไงก็ได้ให้ลูกผมมีชีวิตอยู่ต่อ! ผมขอละช่วยลูกผมด้วย!” คนเป็นสามีพูด
   “ได้ ”
   แม่หมอสะกิดผู้ช่วยให้เอาสายสิญจน์ไปพันแขนของเด็กทั้งสองคน  ยายเฒ่ายกพานขึ้นมาสวดคาถาเสียงดังน่ากลัว  ขณะที่สวดข้าวของภายในห้องก็สั่นไหวเหมือนกับมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น  พอสวดจบทุกอย่างก็หยุดลง
   “ต่อไปนี้วิญญาณอีกครึ่งจะอยู่ในตัวเจ้าพายุ”
   ยายแก่บอกแล้วหยิบสร้อยแบบเชือกถักมาคล้องคอให้เด็กที่ชื่อพายุ
   “อย่าให้มันถอดออกล่ะ  ไม่งั้นอีกครึ่งที่ตายไปแล้วจะพาเจ้าพายุไปด้วย”
   บานประตูค่อยๆ ปิดลง  ผมชะเง้อมองอยากดูเหตุการณ์ต่อ  แต่ดูเหมือนจะจบลงแค่นี้
   “โอ้ยยย! อย่าเราเจ็บ!”
   ผมมองไปที่ถนนที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมา(อีกแล้ว) บนถนนลูกรังมีเด็กผู้ชายผิวขาวกับลังโดนรุมกระทืบอยู่  นั่นพายุสินะดูจะโตขึ้นหรือเปล่า  เจ้าเด็กพวกนั้น
   “หยุดนะเว้ย!!”
   ผมตะโกนออกไปแต่ไม่มีใครได้ยิน  ทำไมผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนดู บ้าจริง!!
   “กูบอกให้เอาเงินมาให้กูทุกวันไง!  ทำไมมึงแดกหมดวะ!”
   ไอ้เด็กหัวโจกเอากระเป๋านักเรียนฟาดแสกหน้าพายุอีกรอบ
   “แต่..แต่นี่มันเงินเรานะ..” พายุบอก
   “มึงไม่ต้องมาพูด! เอาเงินไปซื้อหนังสือ ถุ้ย! ปัญญาอ่อนหว่ะ!”
   “ก็..”
   “เอามา!!”
   ไอ้เด็กเกรียนนั่นดึงคอเสื้อพายุจนแทบลอย  สายตามันสะดุดอยู่ตรงสอยถักลายสวยที่คล้องคอพายุอยู่
   “สร้อยเท่ดีหนิ! กูขอละกัน!!”
   “อย่า!!”
   พายุยื้อสร้อยไว้ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเลยเกิดการแย่งกันไปมา

   กึก!

   สร้อยถูกกระชากขาดติดมือไอ้เด็กนั่นไป  มันผลักพายุกระเด็นล้มไปกองกับพื้น
   “ขาดหมดเลยเห็นมั้ยวะ!”
   แล้วมันก็ถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนจะพาพรรคพวกเดินออกไป
   “เฮ้ย! ไอ้นกหัวขวานมึงเจ๋งนักหรอ”
   เด็กที่โดนรังแกเมื่อครู่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดท้าทาย  บรรยากาศรอบตัวของพายุที่ดูอ่อนแอเมื่อครู่กลับกลายเป็นดุดันและน่ากลัว
   “มึงว่าไงนะไอ้กาก!! เดี๋ยวเจอดีหรอก!” ไอ้คนที่ดึงสร้อยไปหันกลับมา
   “ขอบใจที่ดึงสร้อยออกนะ โล่งขึ้นเลยเลย” รอยยิ้มยียวนผุดขึ้นบนใบหน้าฝกช้ำ
   “กวนตีนหรอมึง!!”
   “หึ”
   5 : 1 ไอ้เด็กพวกนั้นวิ่งเข้ามารุมพายุแต่ก็โดนซัดปลิว  ผมมองจิ๊กโก๋ตัวน้อยที่บ้าระห่ำกระโดดชกปากไอ้นกหัวขวานซะฟันกระเด็น 
   “แม่งผีเข้าหรือไงวะ! หนีก่อน!” ไอ้นกหัวขวานตะโกน
   “เดี๋ยว! สร้อยกู!!” พายุกระชากคอเสื้อไอ้หัวโจก
   “เอาไปเลย! ปล่อยกูด้วย!”
   “แค่นี้กลัวหรอ หึๆ”
   ดวงตาสีเข้มจ้องใบหน้าไอ้นกหัวขวานอย่างอำมหิตจนผมเองก็ขนลุกซู่  ทำไมพายุถึงน่ากลัวแบบนี้นะ
   “ปละ..ปล่อยกูเถอะ”
   “ครั้งนี้แค่สั่งสอน  ครั้งหน้ากูจะหักแขนหักขาพวกมึงทุกตัวเลย”
   ไม่ใช่แค่คำขู่ลอยๆ ผมรับรู้ได้  เด็กนี่น่ากลัวถึงขั้นทำคนไปนอนหยอดข้าวต้มได้แน่นอน 
   หลังจากพวกโก๋เกรียนเผ่นหนีไป  พายุก็นั่งมัดปมสร้อยคออย่างทุลักทุเล  มือเล็กยกสร้อยขึ้นมาดูก่อนจะสวมลงไป  แต่ก็ชะงักมือไว้ก่อน
   ..จะทำอะไร..
   ผมเห็นเขาเดินหาอะไรบางอย่าง  ก่อนจะไปคว้าเอาไม้เสียบลูกชิ้นมาขีด ๆ เขียน ๆ กับพื้นดิน
   
/ไม่ต้องห่วง  ฉันจะไม่ยอมให้ใครมารังแกนาย
                                                                         ภูผา/

   

   “ตื่นได้แล้ว”
   ใครอีกล่ะเนี่ย..  ผมปรือตาเพราะเสียงกระซิบข้างหู
   “อ่ะ!”
   ผมมองใบหน้าหล่อที่จ้องมองผมอยู่  อ่ะนี่มัน! พี่พายุ!  ไม่ใช่สิๆ  ...
   “คุณผี!!!”
   ผมกระโดดโหยงขึ้นไปบนพนักพิงโซฟา  ไปไกลสุดได้เท่านี้  มันติดกำแพงแล้ว!  ผมมองไปรอบด้านที่มืดสลัว ๆ ตรงข้างหน้าผมมีเตียงคนไข้อยู่  อ่า... ผมมานอนเฝ้าน้องปังแล้วเผลอหลับยาวสินะ  ดีนะน้องปังไม่ตื่นเพราะเสียงผม
   “กลัวอะไร” เขาถามผม
   “กลัวผีน่ะสิ” ผมบอก
   “เห็นแล้วใช่มั้ย  ที่ฉันให้นายดู”
   “เมื่อกี้..ในฝันนั่นน่ะหรอ! ของคุณหรอ! คุณเป็น..”
   “พายุเป็นน้องฉัน”
   เขาบอกแล้วดึงผมลงมายืนคุยกับเขา
   “ฉันอยู่กับพายุมาตั้งแต่เกิด  จนถึงวันนี้... ”
   เสียงเขาฟังดูหงอยเหงาเหมือนเด็กที่กำลังเจ็บปวดกับอะไรบางอย่าง
   “ที่ฉันมาหานาย เพราะฉันอยากให้นายไปบอกลาพายุแทนฉันที”
   บอกลา?
   “คุณจะไปไหน!” ผมถามพร้อมกับล็อกแขนเขาไว้
   “ไปที่ๆฉันควรไป..ตั้งแต่แรก”
   “เดี๋ยวสิ! ถ้าคุณไปพี่พายุก็จะ..”
   “เพราะตอนนั้นเรายังเด็กเลยต้องผูกวิญญาณไว้ด้วยกัน  แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”
   มือเย็นเฉียบจับแขนผมก่อนจะแทรกนิ้วประสานผ่ามือเข้ากับผม
   “การที่นายสัมผัสฉันได้  มันหมายความว่าฉันกำลังจะมีร่างที่แท้จริง”
   ร่างที่แท้จริง?
   “อีกนัยก็คือ วิญญาณฉันอาจจะมาแย่งร่างของพายุไป”
   “ไม่จริงน่า... คุณไม่ทำอย่างนั้นหรอกจริงมั้ย!”
   “ก็ไม่รู้สินะ? ฉันก็ยังอยากลัลล้าอยู่บนโลกนี้อยู่”

   ผลั๊วะ!

   ผมตีเข้าไปที่ไหล่เขา  มันไม่ตลกเลยนะ  ไม่ต้องมาพูดให้ขำเลย
   “เอ๋ ไม่ขำหรอกหรอ”
   “อย่ามาอ่านใจกันสิครับ!”
   “โอเค  ถ้านายรักพายุมากขนาดนั้นฉันก็จะไม่พรากเขาไป”
   ทำไมผมไม่รู้สึกดีใจซักนิดเลยนะ  ทำไมตัวเลือกต้องทีแค่ก.กับข. มีฮ.นกฮูกด้วยไม่ได้หรือไง  ถ้าขอก.เป็นพี่พายุไปคุณมาแทน  ข้อข.คุณไปพี่พายุอยู่  ผมอยากให้เพิ่มข้อฮ.ขึ้นมาด้วย  จะอะไรก็ได้ขอแค่คุณอยู่!
   “คุณไม่ต้องไป..ไม่ได้หรอ” ผมไม่อยากให้คุณไปหรอกนะ
   “จะยอมให้ฉันสิงร่างนายแทนมั้ยล่ะ”
   “เอาสิ!”
   ผมอ้าแขนหลังตา  เอาเลยเชิญสิงได้ตามสบาย  ผมทำท่านี้มันถูกหรือเปล่านะ
   “ถ้าสิงร่างคนที่เตี้ยกว่า  ฉันต้องเดินงอเข่ามั้ยเนี่ย~”

   ผลั๊วะ!

   “ตลกหรอครับ! ผมจริงจังนะรีบ ๆ สิงเขาสิ!”
   “ไม่กลัวฉันจะลวมลามร่างกายนายหรอ  บางทีตอนนายหลับฉันอาจจะลุกขึ้นมาถ่ายคลิปตัวเองในร่างนายก็ได้นะ ฮ่าๆ”
   ชักเริ่มหวั่น ๆ แล้วสิ-///- ถ้าคุณผีบ้านี่ทำขึ้นมาจริงๆ  ไม่สิ  ต้องทำอยู่แล้วแน่นอนเพราะขนาดตอนไม่สิงก็ยังชอบมาลวนลามเราเลย
   “ถึงยังไงก็ฝากบอกพายุด้วยว่า ฉันไปแล้ว...ดูแลตัวเองด้วย”
   กับคนที่อยู่ด้วยกันมานาน  แต่ต้องมาบอกลาผ่านคนอื่นมันน่าเศร้านะครับ  ที่ไม่สามารถสื่อความรู้สึกผ่านเสียงของตัวเองได้...
   “นี่! คุณเขียนลาเขาสิ เขียนใส่กระดาษไง*o*”
   ผมวิ่งแถ่ดๆ ไปลื้อลิ้นชักใกล้เตียงน้องปัง  หยิบเอาปากกากับสมุดฉีกออกมาให้เขา  โชคดีที่โรง’บาลนี้มีของแบบนี้ให้คนป่วยวาดรูปเล่นแก้เซ็งนะ
   “เอ้า! เขียนสิ”
   ผมยื่นให้เขา  คุณผีทำหน้าหน่ายๆส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะยอมหยิบไปเขียนหยิกๆ แล้วฉีกออกมาพับๆส่งกลับให้ผม
   “เดี๋ยว แบมือออกก่อน”
   อะไรอีกอ่ะ?  ผมแบมือที่กำเมื่อครู่  เขาดึงมือผมไปเขียนอะไรบางอย่าง 
“เขียนไรอ่ะขอดูหน่อยO.O” ผมชะโงก
“เดี๋ยวค่อยดู”
พูดจบเข้าก็ดันหน้าผมให้หันไปอีกข้าง  ซะงั้นน่ะ
“เสร็จแล้ว”
เขากำมือผมไว้แต่ไม่ปล่อย  แล้วจะดูยังไงล่ะเนี่ย?
“..ฉันขอกอดนายเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย”
เขาพูดเสียงแหบพร่าจนใจผมเต้นไม่เป็นกระซ่ำ  อะ..อะไรกันทำไมทำเสียงแบบนี้ล่ะ  ผมเงยหน้ามองดวงตาคมที่ทอดมองผมแน่วแน่  ดวงตาเขาดูเซ็กซี่จังเลย  ว้ากกกก ผมคิดบ้าอะไร! ผมไม่ได้คิดว่าปากเขามันดูน่าจูบหรอกนะ  ก็เขาเป็นผู้ชายนี่นา  แถมเป็นผีด้วย>////<
“เจอคำว่าผีทีไรอารมณ์ฉันดับวูบเลยนะ” เขาจ้องผมเขม็ง ลืมไปเขาอ่านใจได้นี่นา
“อย่าอ่านใจสิครับ>///<”
“กอดไม่ลงแล้ว”
“เอ้าจะกอดก็กอดสิครับ!”
ผมอ้าแขน
“ให้ตายสิ..ช่วยคิดลึกว่านี้หน่อยได้มั้ย”
เอ๋? ก็กอดไง  ผมก็กางแขนท่านี้แล้วมัน...ไม่ถูกหรอ?
“ช่วยไม่ได้  จริงๆฉันก็ทำใจแล้วล่ะ  พูดอ้อมๆกับเด็กซื่อบื้อมันไม่ได้ประโยชน์อะไร”
“ผมชักเริ่มโมโหแล้วนะครับ-_-*” คิ้วกระตุกเป็นลอนคลื่นแล้วนะครับ

หมับ!

คนตัวใหญ่ดึงผมเข้าไปกอดในอ้อมแขน  ผมเผลอซุกหน้าเข้ากับแผงอกด้วยความเคยชิน  ถึงแม้อ้อมกอดของเขาจะไม่อบอุ่น  มีแต่ไอเย็น ๆ ลอยออกมาให้ผมขนลุกเล่น  แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้ผมรู้สึกดี  ผมสอดมือกอดร่างหนาเอาไว้  แน่นขึ้น..แน่นขึ้นจนเขาร้องออกมาเบา ๆ
“จะตายรอบสองแล้วเนี่ย”
“..งั้นก็ตายไปเลย กอดแค่นี้เอง”
ผมบ่นอุบ  ผมได้ยินเสียงสูดลมหายใจดังฟอดอยู่บนหัวผม  ผมอยากจะยิ้มออกมาแต่ปากผมมันไม่ขยับเลย  ทั้งที่กอดเอาไว้แท้ ๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนเขากำลัง....จะหายไป
“คุณจะมาสิงร่างผมใช่มั้ย  ทำใจหน่อยนะคุณอาจต้องเดินงอเข่าจริงๆก็ได้”
ก็คุณตัวสูงกว่าผม  เรียกว่าสูงผิดชาวบ้านชาวช่องดีกว่า  ผมก็สูงนะแต่สูงได้แค่นี้แหละ
“ฟังดูลำบากเหมือนกันแหะ  นี่ฉันคิดผิดหรือเปล่านะ?”
ผมเงยหน้าจ้องเขาเขม็ง  ถ้าคิดจะไปโดยที่อื่นที่ไม่ใช่ร่างผม  ผมโกรธจริงๆด้วย
“ใครจะสิงใครกันแน่”
ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปาก  ผมผละตัวออกเล็กน้อย  ผมกอดเขาแน่นเกินไปหรอ  -///-  แต่มันก็ช่วยไม่ได้  ไม่ต้องมายิ้มเลย  ผมน่ะแพ้รอยยิ้มของคุณนะครับ.....คุณผี



“ไอ้ฟิล!!”
ใครอีกวะ โอ้ยปลุกกันอยู่นั่นแหละ
“อ้าวเจ้-o-”
มาตอนไหนกันเนี่ย
“ไม่ต้องมาอ้าว! พายุเป็นยังไงบ้าง” พี่ผมถาม
“พี่พายุ..อยู่ไอซียูครับ”
“แล้วแกมาหลับอย่างนี้ได้ยังไง  ถ้าปังจะเข้าห้องน้ำต้องให้หลานมันลากสังขารลงมาปลุกแกเลยมั้ย!”
“ขอโทษๆ”
ผมมองไปที่เตียงผู้ป่วยที่มีร่างเล็ก ๆ ขดตัวนอนหลับปุ๋ยอยู่  น้องปังแค่แขนหักเข้าเผือกเลยได้มานอนในห้องพัก  ผมก็เลยมาเฝ้าซักพัก  ถ้าเจ้มาผมจะได้ไปเฝ้าพี่พายุที่หน้าห้องไอซียูต่อ
“แกไม่ต้องออกไปนะ  ตอนนี้นักข่าวมาเต็มไปหมดเลย”
เจ้บอกแล้วเดินไปลูบหัวน้องปังที่หลับอยู่
“...ฟิลขอโทษนะ  ที่ทำให้น้องปังกับพี่พายุบาดเจ็บ”
“มันไม่เกี่ยวกับแกหรอก  ตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นอะไรแกก็อย่าคิดอะไรให้มันมาก”
แต่ดูพี่จะหน้าเครียดกว่าผมซะอีก
“ฟิลไปดูพี่พายุก่อนนะ”
“อือ ๆ ระวัง ๆ อย่าไปซ้อมนักข่าวเข้าละ”
“อ่า ถ้าไม่มาขวางทางเท้าผมน่ะนะ-__-”
ผมยันตัวลุกขึ้นจากโซฟาแต่มีผมมันรู้สึกเหมือนโดนอะไรตำ ผมเลยยกมือออกก็พบกระดาษแผ่นสีขาวที่พับไว้เล็ก ๆ
...ที่คุณผีฝากไว้นี่นา..
ตอนนี้เขาคงหลับอยู่ในตัวผม  ผมจะสื่อสารกับเขาแบบในหนังได้มั้ยนะ  แบบคุยกันในหัวอะไรแบบนี้
ผมหงายฝ่ามือดูสิ่งที่คุณผีเขียนไว้ให้ 
...ตัวเลือก ฮ.นกฮูกมันไม่มีอยู่จริง...
ผมกำหมัดชกใส่กำแพงอย่างเต็มแรง
“ฟิล!!”
บัดซบ!  สุดท้ายผมก็โดนผีหลอกจนได้หรอเนี่ย  ทำไมล่ะ...ทั้งที่คุณบอกแบบนั้นแท้ ๆ ทำไมคุณต้องหลอกผม  ผมเม้มปากแน่น  ผมไม่เคยรู้สึกโกรธและเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลย

/ขอโทษนะที่ฉันเลือกได้แค่ข้อ ข./

“ไอ้คุณผีบ้า!! ขอให้คุณโดนจับถ่วงหมอไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด!! บ้าๆๆๆๆ”
ผมทรุดเข่าลงอย่างอ่อนแรง  ตอนนี้ตัวผมมันอ่อนแอซะจริง  ทั้งที่ผมอ่อนแอแบบนี้  ทำไมคุณถึงไม่อยู่ปกป้องผมอย่างพี่พายุบ้างละ  คุณ...คุณมันใจร้าย!  ใจร้ายที่สุดเลย!!!




+++++++++++++++
วันนี้นั่งเล่นคอมเพลิน เกือบลืมพิมพ์ต่อ
กรรรมมมม  วันนี้มักน้อยอีกแล้วครับท่าน
ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ^O^

: คนเขียน :
~เรามากินมาม่าด้วยกันมั้ย  อยากกินก็รีบๆมา
นั่งเล่นหน้าคอมมันแสนน่าเบื่อ  แบบว่าเกิดหิวขึ้นมา
เลยคว้ามาม่ามากินนน~
~แม่ก็พร่ำบอกฉันทุกวัน ไม่ให้ฉันกิน
แล้วหนูจะกินอะร๊ายยยย~
~เรามากินมาม่าด้วยกันมั้ย (หรือจะกินไวไวก็ยังได้)~

คนอ่าน: ?????
คนเขียน : เอ็มเค บายยยย~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2014 09:04:21 โดย enzang2660 »

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เรื่องมันเศร้าเนาะ...

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :sad4: เนื้อเรื่องมันพาเศร้าหลายตอนติดกันแล้วนะ คนแต่ง แบบเศร้าทับถมหนักขึ้นๆ
ภูพาก็ไปแล้ว พายุก็ยังไม่รู้อาการ ยังอยู่ ICU รออ่านตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จะร้องงง :o12:

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
ฮรือออออ  พี่ภูผาไปแล้วแน่หรอออ  :ling3:  :ling1:
ไม่ยอมนะคุณเอ็นเอาพี่ภูผากลับมานะ ฮรืออออออออออออ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ภูผาไปแล้วเหรอ ม่ายยย
กรีดร้อง ต้องอยู่ทั้งสองคนสิ
ทั้งภูผา ทั้ง พายุ โอ๊ย สงสารฟิลอ่ะ

ออฟไลน์ enzang2660

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
บทที่19.1

   สองวันแล้วที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล  ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักพิเศษ  ทั้งที่น่าจะมีเตียงเดียวแต่เจ้ก็ขอโรงพยาบาลให้จัดเตียงสองพ่อลูกอยู่ห้องเดียวกัน
   “โทษทีนะพี่ขึ้นมาช้า”
   น้องปังวางมือถือละสายตามาทางผม  แอบเล่นคุกกี้รันอีกแล้วล่ะสิ
   “อันนี้ของน้องปังครับ” 
ผมยื่นบิสกิตให้แต่เจ้าตัวเล็กกลับเอามือมาแหวกถุงเซเว่นแล้วหยิบช็อกโกแลตของผมไป
“เอาอันนี้นะ~” 
น้องปังขอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  ผมก็ต้องยอมใจอ่อนให้ไปอยู่ดี  ลาก่อนเฟอริโร่~  ผมเดินไปเตียงข้าง ๆ
ร่างสูงนอนเหยียดยาวหายใจเข้าออกเนิบๆ หมอบอกว่าโชคดีที่สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือนมาก  แค่บาดเจ็บเล็กน้อย  หมอยังบอกเลยปาฏิหาริย์จริงๆ
   ...บาดเจ็บเล็กน้อยแต่สลบมาจะวันที่ 3 แล้วนะ..
   ผมจับมืออุ่นขึ้นมาบีบเบา ๆ ผมอยากให้พี่พายุลืมตาขึ้นมาเร็ว ๆ เพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก...สำคัญมากจริง ๆ
   “ม๊าแกะให้ปังหน่อย-o-”
   อ่ะ ลืมเลยว่าน้องปังแขนหัก
   “โทษทีนะ เอ้า!”
   ผมแกะกระดาษห่อแล้วยื่นให้  ริมฝีปากรูปกระจับรีบอ้าปากงับปั๊บทันทีเลย  เหมือนกำลังให้อาหารลูกนกอยู่เลยแหะ^^

   ปัง!!

   เสียงปิดประตูกระหึ่มไม่ต้องบอกเลยว่าใครมา  ผมหันไปอ้าปากด่ามันแบบไม่ออกจนแขกผู้มาใหม่เป็นอันงอนโยนของลงบนเตียง
   “ไอ้คาร์ล! มันโดนขาน้องเห็นมั้ยวะครับ!” ผมบอก
   “ยังไม่โดนเลยครับมึงก็  ห่างเป็นวาเลย” มันย้อน
   
   ก๊อบแก๊บ ๆ

   น้องปังรื้อ ๆค้นๆในถุงที่คาร์ลโยนมาก่อนจะงัดเอาน้ำอัดลมสีดำเข้มออกมา  ใบหน้าใสเอียงคอทำตาวิบวับใส่ผมก่อนจะเอ่ยถาม
   “ปังกินได้มั้ยอ่า*o*”
   “ซื้อมาให้คนเฝ้าไข้กินนะ  ไม่ใช่ซื้อมาให้คนไข้กิน” คาร์ลบอก
   “งื้ออออ -3-”
   ขอโทษทีนะ  ถ้าน้องปังยอมกินข้าวซะบ้างพี่ก็คงให้กินไปนานแล้ว  ขืนให้กินตอนนี้มีหวังกระเพาะพรุน
   “ไว้หายแล้วพี่จะเลี้ยงขวดใหญ่นะ  กินอย่างอื่นไปก่อนแล้วกัน^^” ผมบอก
   “ม๊าฮะ  มือถือม๊าแบตหมดแล้วอ่า  ปังอยากเล่นเกมต่อ-o-”
   “คาร์ล”
   ผมเรียกไอ้คุณเพื่อนบนโซฟา
   “เกี่ยวไรกับกูวะครับเนี่ย  เพิ่งชาร์ตเลยนะอย่าเล่นหมดละ”
มันบ่นแต่ก็ยอมส่งมือถือให้น้องปัง  ผมเก็บถุงขนมบนเตียงออกไปไว้ที่โต๊ะกาแฟก่อนที่พยาบาลจะเข้ามาบ่นเหมือนเมื่อวานอีก
“พี่คาร์ลชอบแบบนี้หรอ-3-”
น้องปังบ่นแล้วหันจอโชว์รูปผู้หญิงหุ่นสะบึ้มในชุดบิกินี่ตัวเล็กจิ๋วปิดได้แค่หัวนม
“ไอ้คุณเพื่อนนนนนนน!”
ผมยกหมอนฟาดเจ้าของมือถือไม่ยั้ง
“ทำไมมึงไม่เปลี่ยนหน้าจอก่อนวะ!!”
“กูลืมๆ! พอแล้วๆกูเจ็บ!”

แชะ!

ผมหันไปทางน้องปังที่กดมือถือถ่ายรูป  แล้วเจ้าตัวน้อยก็หันมาโชว์รูปหน้าจอใหม่ให้ผมกับคาร์ลดู  อ่า  อยากเอารูปนี้มาตั้งหน้าจอมือถือบ้างจัง  อยากกับตุ๊กตาBJDเลยอ่ะ ><
“รูปนี้ดีกว่าเนอะ^O^” น้องปังบอก 
“เปลี่ยนเป็นรูปหมาดีกว่านะ-o-” ไอ้คาร์ลบอก
“รูปปังไม่ดีตรงไหนฮับ-_-+”
“อย่ามาเปลี่ยนรูปจอคนอื่นตามใจชอบสิ^^;”
“อ๊ะ! เมมเต็มO.O”
“หา-o-”
“ต้องล้างเครื่องแล้วล่ะ-.-  เดี๋ยวปังล้างให้น้า~^O^”
“ไม่ต้องยุ่งเลย! เอามา!”
คาร์ลมาแย่งมือถือน้องปัง  แต่น้องปังไม่ยอมเลยแย่งกันไปมาแถมยังโวยวายกันเสียงดังอีก  ผมว่าอีกไม่นานพยาบาลต้องมาด่าแน่!
“..อื้อ”
ผมหันไปที่เตียงพี่พายุ  สองคนนั้นหยุดทะเลาะกันหันมามองพี่พายุเหมือนผม
“พี่พายุครับ”
ผมเรียกพี่เขา  พี่พายุขยับแขนเล็กน้อยก่อนจะปรือตามองเพดานห้อง
“หิวน้ำ..”
เสียงพี่เขาอู้อี้คงเพราะคอแห้ง  ผมรีบเอาแก้วน้ำใส่หลอดป้อนน้ำให้พี่พายุทันที
“เดี๋ยวกูไปตามหมอให้แล้วกัน”
ไอ้คาร์ลบอกพร้อมฉวยจังหวะน้องปังเผลอหยิบมือถือใส่กระเป๋ากางเกง
“ป๊า! ป๊าตื่นแล้ว!!”
น้องปังกระโดดลงจากเตียงแล้วมาเกาะเตียงที่พายุ
“...ปังไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย” พี่พายุพูดเสียงแหบ
“ฮะ  ปังไม่เป็นไร ”
“อย่าเพิ่งลุกนะครับพี่พายุ  รอหมอมาดูอาการก่อน”
“ป๊าหลับไปนานมากเลย  ปังกลัวพ่อจะไม่ตื่นขึ้นมาซะแล้ว  หมอฉัดยานอนหลับให้พ่อเยอะไปแน่ ๆเลย” น้องปังบ่นตามประสาเด็ก  ตอนแรกที่น้องปังเห็นพี่พายุไม่ฟื้นก็เอาแต่ร้องไห้นึกว่าพี่พายุตาย  ผมเลยต้องโกหกไปว่าหมดฉีดยาสลบให้เยอะไปหน่อยเลยยังไม่ตื่น
“พี่พายุครับ.. คือผม  มีอะไรจะบอก”
บอกตอนนี้จะดีมั้ยนะ แต่ถ้าไม่บอกตอนนี้ก็คง... หึ่มมมม ยังไงก็ต้องบอกล่ะน่า
“คุณภูผาน่ะ..”
ดวงตาคมเบิกกว้างเพมื่อได้ยินชื่อ  พี่พายุจับแขนผมแล้วเอ่ยบอกถาม
“ได้ยินชื่อนี้มาจากไหนน่ะ!”
“คือผมคุยกับเขา” บอกแบบนี้เลยแล้วกัน
“อ่า... ฟิลคงคิดว่าพี่บ้าเหมือนคนสองบุคลิกสินะ”
“เปล่านะครับ  คือเขาไม่ได้คุยในร่างพี่พายุ” ไม่เหมือนตอนเด็กๆที่ผมเห็นในฝัน  แต่มาเป็นตัว ๆเลย
   “เขาออกมาให้เห็นเลยหรอ”
   “ครับ  สรุปเขาเป็น..ผีใช่มั้ยครับ แต่เขาไม่กลัวพระ กลัวไม้กางเขนเลย”
   “พี่คงต้องเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังก่อนสินะ”
   “ถ้าเรื่องที่พี่พายุกับเขาอยู่ในร่างเดียวกันหลังจากจมน้ำ  อันนั้นผมรู้แล้วล่ะครับ”
   “เขาบอกฟิลหมดเลยหรอเนี่ย”
   ผมพยักหน้าเบา ๆ ส่วนพี่พายุก็ยิ้มเจื่อน ๆ
   “ป๊าฮับ ภูผาที่พี่ฟิลบอกเป็นน้าของปังใช่มั้ยฮับ” น้องปังถาม
   “ไม่ใช่ลุงหรอ” ผมถาม ก็ภูผาบอกพี่พายุเป็นน้อง
   “พี่ก็ไม่แน่ใจว่าพี่กับผาใครจะเกิดก่อนกัน  แต่พี่อยากเป็นพี่น่ะ”
   ครับ...  ปัญหาโลกแตกที่คู่แฝดมักจะเป็นกันทุกคู่คือ แย่งกันว่าใครออกมาก่อน  ผมเข้าใจแล้วล่ะ
   “แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้วล่ะ”
   พี่พายุถามด้วยท่าทางดีใจ  ถ้าผมบอกออกไปจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกพี่เขาหรือเปล่านะ
   “ฟิล..”
   ต้องบอก  ต้องบอกให้ได้  แต่ปากผมมันหนักจนแทบขยับไม่ได้!
   “เขา...เขาไปแล้วครับ”
   “ไปไหน”
   มันยากที่จะบอก  ผมรู้สึกกดดันมาก ๆ ทำไมตาบ้านั่นต้องบังคับให้ผมมาบอกด้วย  ผมล้วงหยิบกระดาษแผ่นยับออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้พี่พายุ
   “...เขา..ฝากมาให้”
   พี่พายุคลี่กระดาษไล่ตามองไปตามตัวอักษร  ใบหน้าขาวซีดเริ่มกลายเป็นเคร่งเครียด  ผมเห็นเส้นนูนๆปูดออกมาจากข้างขมับของพี่พายุด้วย  ผมรู้ว่าข้อความในนั้นมันคืออะไร  ต้องขอโทษที่เสียมารยาทเปิดมันอ่าน
 ข้อความที่คุณผีบอกก็คือ

/ลาก่อน ดูแลตัวเองด้วย  หวังว่าชาติหน้าจะได้เกิดเป็นพี่ชายนายอีก

ภูผา/

   เคร้ง!

   ร่างสูงลงจากเตียงทันที  ผมวิ่งไปคว้าเสาน้ำเกลือแต่คว้าไว้ไม่ทัน  พี่พายุพยุงตัวเกาะขอบเตียงพยายามจะวิ่งออกไปด้านนอก
   “เดี๋ยวครับ! พี่จะไปไหน” ผมตะโกนถาม
   “ไอ้น้องบ้า! ทำไมทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนวะ!”
   เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่พายุโมโหและพูดจาแบบนี้  พี่พายุกำหมัดแน่นไม่ละความพยายามที่จะลากตัวเองออกไปนอกห้อง
   “พี่พายุ! พี่เพิ่งหายอย่าเดิน..!”
   ร่างใหญ่ล้มคว่ำผมรีบเข้าไปประครองเขาเอาไว้  บอกแล้วว่าอย่าเดินไง  หน้ามืดล้มหัวฟาดไปจะทำยังไงล่ะ!
   “เรียกมาได้มั้ยฟิล!!”
   “ครับ?”
   “เรียกภูผาออกมา  หรือพี่ต้องหลับ! พี่ต้องหลับก่อนใช่มั้ย!”
พี่พายุกระโจนใส่ตู้ข้างเตียง  เขาพยายามกวานหาอะไรบางอย่าง  มันคือยานอนหลับ  เม็ดยาถูกเทใส่มืออย่างกับราดน้ำ  ถ้ากรอกเข้าไปทั้งกำมือแบบนั้นได้ไปอยู่ด้วยกันแน่!!
“หยุดนะครับพี่พายุ!!”
“ฮือออออ ป๊าจะทำอะไร!”
ผมเข้าไปดึงแขนพี่เขาท่ามกลางเสียงร้องไห้ของน้องปังที่ดูตกใจกับเหตุการณ์  แม่ง! เมื่อไหร่หมอจะมาวะ ผมจะบ้าแล้วนะเนี่ย!!

พลั่ก!

“ได้สติซะทีเถอะครับ!!”
ผมเหวี่ยงหมัดกระแทกใบหน้าหล่อจนร่างเขากระเด็นไปติดข้างเตียง
“เขาไปแล้ว!! พี่ก็ต้องทำใจนะครับ!! เขาเสียสละเพื่อพี่! ไม่ใช่ให้พี่มากินยาเป็นกำ ๆ แบบนี้!! ต่อให้พี่กินหมดกระปุ๊กนี่ก็เรียกเขากลับมาไม่ได้หรอกครับ!!”
ผมระบายความอึดอัดในใจออกมาเสียงดังลั่น ให้ตายเหอะพี่น้องคู่นี้บ้าด้วยกันทั้งคู่!!
“แต่ผายังไม่ตาย!! เขายังอยู่!!  จะให้เขาข้ามไปอีกฝั่งไม่ได้!!”
พี่พายุตะโกนเสียงดัง  บุรุษพยาบาลกรูเขามาล็อกตัวพี่พายุ
“ออกไปก่อนนะคะ”
นางพยาบาลดันตัวผมให้ออกไปนอกประตู  แล้วคุณหมอก็เดินเข้าไปข้างในอย่างเร่งรีบ
“ปล่อยผม!! ผมจะไปหาน้อง!!”

ปัง!

บานประตูปิดลงตรงหน้าผม  ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือพี่พายุกับลงมองมาที่ผมและพูดอะไรบางอย่าง  ซึ่งผมก็ไม่ได้ยิน 



วันถัดมาผมซึ่งควรจะนอนเฝ้าใครบางคนที่โรงบาลกลับนอนดูทีวีเกมโชว์ไร้สาระเรื่อยเปื่อย  ใครจะมีหน้าไปเจอกันล่ะ  เฮ้อ  เมื่อวานผมยังช็อกอยู่เลย  ไม่เคยเห็นพี่พายุเป็นบ้าได้ขนาดนั้น

ก๊อก ๆ

ผมมองไปที่ประตูกระจกหน้าบ้านก็พบร่างของใครบางคนท่ามกลางสายฝนเปียกปอน  ไม่ใช่แค่หนึ่งถ้านับรวมร่างเล็ก ๆ ข้างกายเขาด้วย
“มาได้ยังไงกันครับ!!”
ผมร้องอย่างตกใจแล้ววิ่งพรวดไปเปิดประตูรับพี่พายุกับน้องปังเข้ามา  ให้ตายสินี่หนีออกมาจากโรงพยาบาลหรอ!!
“ฟิล! ช่วยพี่หน่อยได้มั้ยพี่ขอล่ะ!” 
พี่พายุประนมมือจะกราบผม ผมต้องรีบยั้งไว้กลัวอายุสั้น
“ทำไมถึงหนีออกมาอย่างนี้ละครับ!”
“ถ้าไม่รีบไปตอนนี้  คงไม่ทันแน่ ๆ พี่ขอล่ะฟิลช่วยไปกับพี่หน่อยได้มั้ย!”
ลำบากใจนิดหน่อยนะครับที่มาขออะไรกะทันหันแบบนี้  แต่มันต้องเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวกับตาผีบ้านั่นแน่ๆ  พี่พายุถึงขั้นถ่อสังขารมาหาผมที่นี่
“ที่จะไปนี่ นานมั้ยครับ” ผมถามแล้วเหลือบมองรถแท็กซี่ด้านนอก
“ซักสองวัน”
“ก็ได้ครับ งั้นไปกันเลย”
กระเป๋าไม่ต้องเก็บแล้ว  รีบไปเลยดีกว่า



ผมลงจากรถสองแถวคันโทรม ๆ กวาดตามองไปยังทุ่งนาสีเขียวสุดลูกหูลูกตา  เลยขึ้นไปเป็นป่าเขาทึบมีสายรุ้งโค้งวาดอยู่ด้านบน  พี่พายุจูงมือน้องปังนำทางผมเข้าไปในหมู่บ้านเล็ก ๆ ชาวบ้านในนี้ดูจะตื่นคนเมืองพอสมควรเห็นออกมายืนมองกันเต็มไปหมด
ผมมองไปที่ต้นไม้ใหญ่ริมข้างทางดินลูกรัง  มันช่างดูคุ้นตาเหมือนผมเคยมาเหยียบที่นี้แล้วครั้งหนึ่ง  ผมเลยออกไปที่สะพายไม้ซึ่งทอดยาวเข้าไปในป่า  ผมเริ่มจะจำได้แล้วว่าที่นี่คือที่ไหน  แล้วที่ทำให้ผมชัวว์กว่านั้นว่ามันต้องใช่ที่ๆผมกำลังคิดอยู่แน่ๆ ก็คือประตูบานตรงหน้าผมตอนนี้นี่แหละ
“ฉันคิดแล้วว่าพวกคุณต้องมา”
ไม่ใช่คุณยายผมหงอกอย่างที่ผมคิด  แต่เป็นสาวน้อยอายุประมาณ 15 ที่เอ่ยปากต้อนรับ
“ขอรบกวนหน่อยนะครับ แม่หมอ”
พี่พายุเอ่ยกับเด็กสาวคนนั้น  เธอมองมายังผมก่อนจะยิ้มบาง ๆ
“ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านขอเราอีกครั้งนะคะ”
คำว่าอีกครั้งของเธอมันทำให้ผมขนลุกซู่ทั้งตัว  มะ..ไม่ได้หมายถึงผมหรอกใช่มั้ย อย่ามองมาทางนี้สิ
“ผมอยากขอให้แม่หมอช่วยติดต่อกับวิญญาณน้องผมให้หน่อยได้มั้ยครับ” พี่พายุออกปาก
“ให้เรียกผ่านคนตอนนี้ฉันคิดว่าคงไม่ทันแล้วล่ะต่อให้คุณพาคนที่สื่อกับเขาได้มาก็ตาม”
ผมสินะ?  ผมกลายเป็นพวกมีสัมผัสที่ 6 ไปซะแล้ว
“วันนี้ก็วันส่งผีเข้าป่าแล้ว  ฝาแฝดของคุณก็คงรอข้ามสะพานไปอีกฝั่งเหมือนกัน  เอาเป็นว่าซักหกโมงค่อยมาหาฉันอีกทีแล้วกัน”
“ขอบคุณครับ”
พี่พายุบอกแล้วพาพวกผมออกมา  ผมหันกลับไปมองแม่หมอยังสาวที่ยังส่งยิ้มให้ผมอยู่  พี่พายุคงไม่ได้พาผมมาเป็นอาหารเลี้ยงปอบอะไรทำนองนั้นแบบในหนังใช่มั้ย
“ไปที่บ้านพี่ก่อนแล้วกันนะ  แต่ไม่มีใครอยู่แล้วฝุ่นอาจจะเยอะหน่อย”
พี่พายุพาเดินมาที่บ้านไม้ชั้นเดียว  พอเปิดประตูเข้าไปทั้งที่มันควรจะมีฝุ่นฟุ้งแต่กลับสะอาดเรียบร้อย 
   สักพักก็มีคุณป้าเดินออกมาต้อนรับเราและยกของเข้าไปเก็บให้
      “ไม่ต้องครับป้า  เดี๋ยวผมทำเอง”
      “แม่หมอบอกว่าเอ็งจะมา  ข้าก็เลยมาทำความสะอาดให้”
      แม่หมอนี่หลอนดีจังนะครับ  รู้ทุกอย่างเลย-o-;;;
      “ขอบคุณมากนะครับ  ไว้คราวหน้าผมจะเอาของฝากมาให้”
      “ไม่เป็นไรหรอก  ช่วยกันๆ เอ็งก็ยังเป็นหลานข้า นี้ก็เหลนข้า น่าเกลียดน่าชังจริงๆเลย”
   คุณป้าหันมาเล่นหยอกน้องปังแล้วก็เดินออกไป   ผมเริ่มไว้เจ้าที่เจ้าทางรอบ ๆ บ้านก่อน  มาต่างจังหวัดกลัวเจอของดีเลยต้องขอขมาไว้ก่อน
   “เอ่อ..พี่พายุครับ  วันส่งผีเข้าป่าคืออะไรครับ” ผมถามขณะดึงฟูกออกมา
   “เป็นวันนี้คนตายของหมู่บ้านแถว ๆ นี้จะไปอีกโลกหนึ่งน่ะ  เชื่อกันว่าถ้าข้ามสะพานตรงนั้นไปก็จะไปอีกโลกหนึ่ง  ที่นี่เลยห้ามไม่ให้เข้าป่าตอนกลางคืนและเด็กก็ไม่ควรไปเล่นที่สะพานนั่น”
   สะพานที่พี่เคยตกน้ำนี่เอง
   “พี่พายุมีพระหรือเปล่าครับ” ผมกลัวผีครับขอของป้องกันหน่อย
   “ปังห้อยอยู่อกค์หนี่งน่ะ  ทำไมกลัวผีหรอ”
   “เปล๊า><”
   “เดี๋ยวลองไปดูบ้านอื่นให้นะ  ที่นี่เขานับถือผีน่ะ”
   เขามาผิดดงแล้วผมT^T  หมู่บ้านนับถือผีหรอ  แล้วทำไมคุณผีนั่นไม่กลัวพระล่ะ
   “ไม่มีทีวีดูเยยยย>O<” น้องปังบ่น
   “โทษทีนะปัง”
   พี่พายุบอกแล้วอุ้มเข้าตัวเล็กขึ้นมา  ดูท่าจะไม่มีไฟฟ้านะบ้านนี้  หลอนเอาโล่ไปหรือเปล่าTOT
   


   ประมาณหกโมงกว่าพวกผมก็ไปที่บ้านเล็กๆของแม่หมออีกครั้ง  บรรยากาศยามเย็นของที่นี่สวยมากครับ  โดนเฉพาะตรงสะพานข้ามแม่น้ำนั่น  ถ้าพี่พายุไม่บอกว่าไม่ควรเข้าไปใกล้ผมคงขอไปถ่ายรูปซะหน่อยแล้วล่ะ
   “เจ้าหนู  ไปเล่นในห้องโน่นก่อนไป  เจี๊ยบพาน้องไปสิ”
   แม่หมอบอกแล้วเด็กอีกคนก็พาน้องปังเข้าไปเล่นอีกห้องหนึ่ง  ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพี่พายุและแม่หมอ
   “คุณไปปิดหน้าต่างสิ”
เธอบอกผม  ผมก็ลุกไปปิดหน้าต่าง  บ้านอื่นในหมู่บ้านก็ปิดหน้าต่างเหมือนกันหมด  ดีจังหมู่บ้านนี้พอเย็นก็เข้าบ้าน ผมนึกว่าจะมาก๊งเหล้ากันซะอีก
“เอาล่ะ  ก่อนอื่นต้องไปตามวิญญาณนั่นกลับมาก่อนจะเป็นผีเร่ร่อนเต็มตัว”
“ผีเร่ร่อน?” ผมเผลอหลุดปาก
“คนที่ตายก่อนถึงกำหนดจะเป็นผีเร่ร่อน  เพราะไม่มีชื่ออยู่ในบัญชียมบาลเลยยังไม่มารับตัวไปยังไงล่ะ”
“แต่เขาตายไปแล้ว  ไปเอากลับมาจะไม่เป็นไรหรอ”
แบบนั้นมันไม่ฝืนชะตาเข้าไปอีกหรอ
“ฟิล ผาน่ะ...ยังไม่ตาย”
“ยังไม่ตาย!!!! แต่เขาให้ผมดู  เขาตายแล้วและก็ผูกวิญญาณไว้กับพี่พายุไง!”
“มิน่า.. ผามันไม่รู้นี้เอง”
อะไร?  ผมเริ่มงงไปหมดแล้วนะ? สรุปตายไม่ตาย แล้วมีวิญญาณได้ไง  อะไรกันเนี่ย!
“ก่อนจะทำพิธีเผาศพ  คืนวันที่สามอยู่ ๆ โลงของผาก็หล่นลงมาจากแท่น”
เหี้ยนโคตร!!
“ศพของผาไม่เน่า  ตัวก็ยังอุ่น ๆ เลยรู้ว่าผายังไม่ตาย  แต่แค่ไม่ตื่น..”
“เป็นเจ้าชายนิทราหรอครับ?”
“อืม  ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลในตัวเมือง  พี่จ้างพยาบาลพิเศษดูแลอยู่  เพราะพี่ไม่กล้าย้ายเขาไป  กลัวเขาจะกลับเข้าร่างไม่ถูก”
“ที่เขาไม่เข้าเพราะวิญญาณเข้าถูกผูกอยู่กับพี่หรือเปล่า”
“ตั้งแต่โลงหล่น  ที่บ้านพี่ก็รีบมาหาแม่หมอให้แก้แยกวิญญาณเราออกจากกัน  แต่ผาคงไม่รู้”
เขาถึงให้ผมเห็นถึงแค่นั้น  แค่วิญญาณผูกกัน  เพราะงั้นเขาถึงอยู่กับพี่พายุมาตลอดไม่ยอมกลับเข้าร่าง  และที่เขาบอกว่าผมสัมผัสเขาได้เพราะเขามีกำลังจะมีร่างกาย  มันไม่ใช่!!  ไม่ใช่ว่าจะมาแย่งร่างพี่พายุแต่เป็นร่างเขาเองน่ะแหละ เขามีร่างอยู่แล้ว!! เขาเข้าใจผิดขั้นโคม่าเกินไปแล้ว!!
“เรียกเขามาเลยไม่ได้หรอครับ!!” ผมรีบบอก
“อย่ารีบร้อนไป  ยังไงก็ได้ไปช่วยแน่ ๆ” แม่หมอบอก
“น้องฟิลไม่ต้องแล้วล่ะ  เดี๋ยวพี่จัดการเอง”พี่พายุบอก
เพราะเรียกไม่ได้  ผมก็หมดประโยชน์สินะ  ทำร้ายจิตใจผมอีกแล้วT^T
“คุณน่ะไปไม่ได้  ต้องให้เขาไปแทน”
แม่หมอชี้มาทางผม
“มันอันตรายหรือเปล่าครับ  ถ้าอันตราย...!”
“ถ้าทำตามที่ฉันบอกก็ไม่เป็นอันตรายหรอก”
พี่พายุเงียบ  เขาเป็นห่วงผมหรอ  ผมดีใจขึ้นมานิดนึงแล้วล่ะ^^
“พอสองยามฉันจะให้คุณออกไป  คุณก็แค่ไปที่สะพาน  ตามหาวิญญาณดวงนั้นแล้วกลับมาหาฉัน”
“คะ..ครับ”
“คุณต้องกำเหรียญนี่ไว้ในมือซ้าย  ห้ามหล่นเด็ดขาด  เข้าใจมั้ย”
“ครับๆ”
ผมรับเหรียญนากเจาะรูมาไว้ในมือ  แม่หมอมองหน้าผมแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม  เธอยื่นหน้าเข้ามาหาผมแล้วกระซิบบอกผมว่า
“ถ้าเหรียญหล่น...ไม่รอดแน่”



ได้เวลาทำภารกิจ  ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกผมกลัวว่าจะไม่ได้กลับมา  ที่บ้านผมยังมีอาป๊า  อาม้า เจ้ หมา แมว หนูแฮมเตอร์รออยู่อีกหลายชีวิต  แต่ยังไงผมก็ต้องช่วยเขาให้ได้!
“แม่หมอครับ  ผมขอเขียนจดหมาย..”
“ไปได้แล้ว!”
ก็แค่จะเขียนจดหมายลาตายเผื่อไม่กลับมาเองT^T
“ต้องกลับมานะน้องฟิล!”
“ครับ”
ผมเปิดประตูออกมาแล้วรีบปิดทันที(แม่หมอบอกแบบนั้น) ผมหันไปมองที่ถนนถึงกับเข่าทรุด
....โฮกกกกกก  กลับตอนนี้ทันมั้ย!!...
จะเรียกว่าอะไร  ขบวนกองทัพผีหรอ  ผมเห็นเหมือนซากศพกำลังเดินไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังสะพาน  บางคนถึงขั้นต้องลากขาที่แหว่งรุ่งริ่งเหมือนโดนบด  โอ้ยยย จะอ้วกครับ

บึก!

ผู้ชายชุดขาวตาแดงกร่ำเดินเข้ามาชนผม  เขามองหน้าผมอยู่ครู่ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม
....กูจะบ้าแล้ววววว นี่มันอะไรกันนนน...
ให้ไปเดินใน walking dead ยังดีซะกว่า!!  ผมกลืนน้ำขม ๆ เข้าไปในคอทำใจเดินผ่าสิ่งไม่มีชีวิตที่เป็นวิญญาณไปที่สะพานข้ามน้ำที่สว่างไสวไปด้วยแสงเทียน  แล้วไอ้คุณผีนั่นมันอยู่ที่ไหน!!  ออกมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!  จะช็อกตายอยู่แล้ว  ผมเบียดตัวเดินไปยังสะพาน  ผมกำเหรียญในมือไว้แน่นกลัวไอ้พวกนี้จะชนเอา

พรึ่บ!

สายลมพัดวูบเอาเทียนดับไปหลายดวง  ผมละอยากจะกรี๊ดแต่กรี๊ดไม่ออก  ขอทีเถอะ  ขอให้เจอเร็ว ๆได้มั้ย
“..คุณภูผา”
ผมใจเต้นรัวจนแทบจะระเบิด  ผมกลัวที่จะก้าวขาต่อแล้ว  ยิ่งพวกนั้นมาบนสะพานเยอะขึ้นผมยิ่งหืดขึ้นคอตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า  ถ้าผมถูกจับได้ว่าไม่ใช่ผีแล้วมายืนตรงนี้  ผมจะเป็นยังไง...

หมับ!

เฮือก!! มือโชกเลือดตะบบเข้าที่แขนผม  ผมอ้าปากค้างอยากจะหวีดร้องออกมาดัง ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย  ผม...ผมไม่มีแรงแล้ว  แขนขาผมมันไม่กระดิกเลย
สายตาผมปะทะเข้ากับร่างสูงที่เดินตาลอยผ่านผมไป 
“ภูผา!!”
ผมรีบดึงเข้าไว้และกระชากเขากลับมา  เขามองหน้าผมดวงแววตานิ่งเฉยก่อนจะเอ่ยถาม
“มาที่นี่ได้ยังไง”
“คุณกลับกับผมนะ!!” ผมบอก
“ไอ้เวรนี่! อย่ามาจับของคนอื่นสิวะ!”
ภูผายกเท้าถีบผีที่จับแขนผมแล้วดึงตัวผมเข้าไปแนบอก
“นี่ไม่ใช่ที่ของนาย! กลับไปซะ!” เขาดุผมเสียงเข้ม
“นี่ก็ไม่ใช่ที่ของคุณเหมือนกัน!!” ผมตวาดกลับ
“ปล่อยแล้วไปซะ!”
“ไม่!!”
ผมดึงแขนเขาไว้แน่น  ยังไงก็ต้องกลับไปด้วยกัน!!  ผมเสียเวลาเดินมาถึงขนาดนี้ฉี่จะราด อ้วกจะแตกอยู่แล้ว  ไม่ยอมกลับไปมือเปล่าหรอก
“ปล่อยสิวะ!!”

เพี๊ยะ!

เข้าปัดมือผมออกอย่างแรง

แกร๊ง!

จ่อม!

เหรียญโบราณในมือผมหล่นลงบนพื้น  แล้วกลิ้งตกลงไปในน้ำ  ทุกคนบนสะพานหยุดนิ่ง  ผมอ้าปากค้างตัวชาไปทั้งร่าง  ไม่จริงน่า..
...เหรียญตกไปแล้ว...
ทำยังไง  ผมน้ำตาเอ่อขึ้นเบ้าตา เดี๋ยวก่อนสิ  ผมยังไม่ได้เขียนจมหมายลาใครเลยนะ
ดวงตานับร้อยจ้องเขม็งมาที่ผม  ผมกลืนน้ำลายเอื้อก  รับรู้ถึงหายนะที่จะมาถึง  พระเจ้าคงทอดทิ้งผมแล้วสินะ  เสียงของแม่หมอคนนั้นดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหูผม
“ถ้าเหรียญหล่น...ไม่รอดแน่”





+++++++++++++++
ความรู้สึกของข้าน้อยตอนนี้คือ
"แต่งนิยายผีอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย><"
 :katai1:
รอติดตามตอนต่อไป! ภูผาจะกลับมาได้มั้ย? ฟิลจะรอดจากผีนับร้ยบนสะพานได้หรือเปล่า? :hao5:
และน้องปังจะโดนเปิดซิงก่อนวัยอันควรหรือไม่? :oo1:
(คาร์ล: เฮ้ย อันนี้ไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยวกับผมด้วย-.-)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ หวังว่าจะชอบตอนนี้กันนะคะ
 :katai4:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
“ถ้าเหรียญหล่น...ไม่รอดแน่”

ไม่รอดนี่คือ ไม่รอดจากภูผาใช่มั้ย :mew2:

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รอดนี่คือ ไม่รอดจากภูผาใช่มั้ย :mew2:

ผมชอบความคิดเห็นคุณจังแต่คุณพี่เอ็นคัฟฟ
มันค้าง ค้าง ค้าง ค้าง
ค้างคามาก   
ฟิลเตอร์จะเป็นยังไงนะ
 :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: อ๊ากๆๆๆ ตื่นเต้นแทนฟิลเตอร์เลย เหมือนดูหนังพวกเอนิเมะญี่ปุ่นที่มีวิญญาณล่องลอยไปมา เยอะๆ
เหรียญหล่นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะที่นี้ แล้วจะพาภูผากลับมาได้ไหม ค้างมากๆ รออ่านตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อ๊ากกก ตื่นเต้นๆๆๆ
ขอตอนต่อไปด่วนค่าาา

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
ตื่นเต้น ตื่นเต้น

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ลุ้นมากอ่ะ ขอให้สำเร็จทีเถอะนะ
ฟิลจะได้มีสามี2คน
หุๆ

ออฟไลน์ enzang2660

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตอนที่ 19.2


ได้เวลาทำภารกิจ  ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกผมกลัวว่าจะไม่ได้กลับมา  ที่บ้านผมยังมีอาป๊า  อาม้า เจ้ หมา แมว หนูแฮมเตอร์รออยู่อีกหลายชีวิต  แต่ยังไงผมก็ต้องช่วยเขาให้ได้!
“แม่หมอครับ  ผมขอเขียนจดหมาย..”
“ไปได้แล้ว!”
ก็แค่จะเขียนจดหมายลาตายเผื่อไม่กลับมาเองT^T
“ต้องกลับมานะน้องฟิล!”
“ครับ”
ผมเปิดประตูออกมาแล้วรีบปิดทันที(แม่หมอบอกแบบนั้น) ผมหันไปมองที่ถนนถึงกับเข่าทรุด
....โฮกกกกกก  กลับตอนนี้ทันมั้ย!!...
จะเรียกว่าอะไร  ขบวนกองทัพผีหรอ  ผมเห็นเหมือนซากศพกำลังเดินไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังสะพาน  บางคนถึงขั้นต้องลากขาที่แหว่งรุ่งริ่งเหมือนโดนบด  โอ้ยยย จะอ้วกครับ

บึก!

ผู้ชายชุดขาวตาแดงกร่ำเดินเข้ามาชนผม  เขามองหน้าผมอยู่ครู่ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม
....กูจะบ้าแล้ววววว นี่มันอะไรกันนนน...
ให้ไปเดินใน walking dead ยังดีซะกว่า!!  ผมกลืนน้ำขม ๆ เข้าไปในคอทำใจเดินผ่าสิ่งไม่มีชีวิตที่เป็นวิญญาณไปที่สะพานข้ามน้ำที่สว่างไสวไปด้วยแสงเทียน  แล้วไอ้คุณผีนั่นมันอยู่ที่ไหน!!  ออกมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!  จะช็อกตายอยู่แล้ว  ผมเบียดตัวเดินไปยังสะพาน  ผมกำเหรียญในมือไว้แน่นกลัวไอ้พวกนี้จะชนเอา

พรึ่บ!

สายลมพัดวูบเอาเทียนดับไปหลายดวง  ผมละอยากจะกรี๊ดแต่กรี๊ดไม่ออก  ขอทีเถอะ  ขอให้เจอเร็ว ๆได้มั้ย
“..คุณภูผา”
ผมใจเต้นรัวจนแทบจะระเบิด  ผมกลัวที่จะก้าวขาต่อแล้ว  ยิ่งพวกนั้นมาบนสะพานเยอะขึ้นผมยิ่งหืดขึ้นคอตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า  ถ้าผมถูกจับได้ว่าไม่ใช่ผีแล้วมายืนตรงนี้  ผมจะเป็นยังไง...

หมับ!

เฮือก!! มือโชกเลือดตะบบเข้าที่แขนผม  ผมอ้าปากค้างอยากจะหวีดร้องออกมาดัง ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย  ผม...ผมไม่มีแรงแล้ว  แขนขาผมมันไม่กระดิกเลย
สายตาผมปะทะเข้ากับร่างสูงที่เดินตาลอยผ่านผมไป 
“ภูผา!!”
ผมรีบดึงเข้าไว้และกระชากเขากลับมา  เขามองหน้าผมดวงแววตานิ่งเฉยก่อนจะเอ่ยถาม
“มาที่นี่ได้ยังไง”
“คุณกลับกับผมนะ!!” ผมบอก
“ไอ้เวรนี่! อย่ามาจับของคนอื่นสิวะ!”
ภูผายกเท้าถีบผีที่จับแขนผมแล้วดึงตัวผมเข้าไปแนบอก
“นี่ไม่ใช่ที่ของนาย! กลับไปซะ!” เขาดุผมเสียงเข้ม
“นี่ก็ไม่ใช่ที่ของคุณเหมือนกัน!!” ผมตวาดกลับ
“ปล่อยแล้วไปซะ!”
“ไม่!!”
ผมดึงแขนเขาไว้แน่น  ยังไงก็ต้องกลับไปด้วยกัน!!  ผมเสียเวลาเดินมาถึงขนาดนี้ฉี่จะราด อ้วกจะแตกอยู่แล้ว  ไม่ยอมกลับไปมือเปล่าหรอก
“ปล่อยสิวะ!!”

เพี๊ยะ!

เข้าปัดมือผมออกอย่างแรง

แกร๊ง!

จ่อม!

เหรียญโบราณในมือผมหล่นลงบนพื้น  แล้วกลิ้งตกลงไปในน้ำ  ทุกคนบนสะพานหยุดนิ่ง  ผมอ้าปากค้างตัวชาไปทั้งร่าง  ไม่จริงน่า..
...เหรียญตกไปแล้ว...
ทำยังไง  ผมน้ำตาเอ่อขึ้นเบ้าตา เดี๋ยวก่อนสิ  ผมยังไม่ได้เขียนจมหมายลาใครเลยนะ
ดวงตานับร้อยจ้องเขม็งมาที่ผม  ผมกลืนน้ำลายเอื้อก  รับรู้ถึงหายนะที่จะมาถึง  พระเจ้าคงทอดทิ้งผมแล้วสินะ  เสียงของแม่หมอคนนั้นดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหูผม
 “ถ้าเหรียญหล่น...ไม่รอดแน่”



“เวรเอ้ย!”
คุณผีสถบแล้วกระชากข้อมือผมหันหลังกลับไปยังหมู่บ้าน 

หมับ!

มือหยาบกร้านจับแขนผมแล้วกระชากจนตัวผมเซ  มืออีกข้างเลยหลุดออกจากคุณภูผา
“โอ้ย!!”
มือนับสิบกรูกันเข้ามาดึงทึ้งแขนผมทั้งสองข้าง  ความเจ็บแสบวิ่งแล่นเข้ามาในตัวผม  นี่ไอ้พวกนี้มันจะฉีกแขนผมหรือยังไงกัน!!
ร่างสูงหน้าเครียด  เขาพยายามปัดพวกผีที่ดึงแขนผมออก  วงแขนใหญ่รวบตัวผมไว้แล้วโจนทะยานไปที่หมู่บ้านอย่างรวดเร็วแบบทีเดียวถึง!
“ทำไมไม่ทำตั้งแต่ทีแรกล่ะครับ!!”
ผมว้ากใส่  ถ้ากระโดดทีเดียวถึงอีกฝั่งเลยก็น่าจะทำตั้งนานแล้ว  ปล่อยให้ผมโดนดึงอยู่ได้!
“ให้รู้ซะบ้างว่ามาที่นี่แล้วจะโดนอะไร!” เขาบอก
“มาช่วยคุณไง! รีบไปหาแม่หมอเร็ว!”
ผมต้องพาเขาไปในหมู่บ้าน 
..ตอนนี้มันจะดีหรอ...
ผีบนถนนที่เดินเอื่อย ๆ ออกตัววิ่งตรงมายังผมเป็นสิบ ๆตัว  นี่ยังไม่นับตัวที่อยู่บนสะพานที่กำลังตามลงมา  ทำไมมันต้องวิ่งมาหาผมล่ะ! จะมาดึงแขนผมหรอ!!
“ไป!!”
คุณผีดึงแขนผมวิ่งหนีกองทัพผี
“จะไปไหนครับ!!” ผมถาม
“พูดมาก! เก็บแรงไว้เถอะ!”
ผมพยายามก้าวเท้าให้ถี่เพื่อให้ตามเขาทัน  แต่กางเกงยีนส์มันวิ่งลำบากถ้ารู้ว่าต้องมาวิ่งสู้ฟัดแบบนี้ใส่กางเกงบอลมาก็ดีหรอก!
เขาพาผมวิ่งขึ้นเนินหินอย่างทุลักทุเล  เสียงร้องโหยหวนผสมกับเสียงร้องฮืออออ เหมือนซาวน์หนังผีดังไล่หลังผมมาเรื่อย ๆ
“ฟิลลูกแม่”
แม่! ผมหันหลังไปตามเสียงแม่แต่ก็โดนอีกคนหนึ่งตบแก้มผมสองข้างเรียกสติ
“อย่าหันไป! วิ่งไปข้างหน้า!”
“แต่เสียงแม่..!”
“แม่นายอยู่ในฝูงนั้นด้วยหรอ!”
เขาดึงผมต่อ  นั่นสิมาคงไม่มาวิ่งไล่ผมแบบนี้หรอมั้ง

ฟรุ่บ!

เสียงยอดไม้ไหว  ผมเงยหน้ามองด้านบนตาสัญชาตญาณและสิ่งที่ผมเห็นก็คือ  เงาดำ ๆที่กำลังโดดข้ามต้นไม้อยู่บนหัวผม  เวรแล้ว! ถ้าล้มตอนนี้ล่ะก็ซวยแน่ ๆ เลย

ตึง!

แล้วผมจะล้มทำไมวะเนี่ย!! บัดซบ!!
ร่างผมกลิ้งขลุกขลักลงไปติดโคนต้นไม้  ผมรีบตะกายตัวลุกขึ้นแต่คุณผีก็ดันกลิ้งลงมาทับผมซะได้! ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด   ดวงตาสีเข้มเปิดขึ้น  ขยับปากพูดอะไรบางอย่างแต่มันกลับมีน้ำสีแดงไหลพร่างพรูออกมา
..เลือด!!
ผมก้มมองต่ำลงมาที่กลางหน้าออกกลวงโบ๋ที่มีมือสีดำแห้งถูกดึงกลับไป
“คุณภูผา!!”
ร่างสูงโปร่งปล่อยตัวโถมใส่ผม  ทำให้ผมเห็นร่างดำเกรียมของตัวประหลาดที่อยู่ด้านหลัง  ดวงตาสีแดงจ้องเขม็งมองผมราวกับเป็นเหยื่อน่าลิ้มรส  มันยกเล็บแหลมยาวโชว์ขึ้นเหนืออากาศแล้วพุ่งเข้ามาหาผม!!  ผมหลับตาปี๋กลั้นหายใจอย่างหวาดหวั่น  ไอ้เล็บนั่นมันต้องกระซวกผมแบบที่กระซวกคุณผีแน่ ๆ!! 

ผลั๊วะ!!

“หลับตาหาพี่! ทำไมไม่วิ่ง!”
เฮือก! ผมลืมตาตื่น  มองไปยังร่างสีดำข้างหลังที่นอนกองอยู่  คุณภูผาดึงมือผมให้ลุกขึ้นและวิ่งอีกรอบ    ผมมองมือสีขาวซีดที่โชกไปด้วยเลือดสีแดงข้น  แม้ในดงต้นไม้มืดแต่ก็มองเห็นได้ชัดเจน
“กระท่อมล่ะ!!” ผมร้องอย่างดีใจ
มือใหญ่เหวี่ยงผมเข้าไปข้างในจนผมถลาไปนอนคลุกดิน

ปัง!

“นี่! เข้ามาด้วยกันสิ!!”
ผมทุบประตูแรง ๆ พอเขาเหวี่ยงผมเข้ามาเขาก็ปิดประตูขังผมเอาไว้ข้างใน
“รีบไปปิดหน้าต่างซะ!”
“คุณจะไปอยู่ข้างนอกทำไม่มันอันตราย!! เข้ามาสิครับ!”  ผมร้องเรียก
“บอกให้ไปปิดหน้าต่าง!!”
“คุณภูผา!! อั้ก!”
ผมรู้สึกเหมือนโดนของแข็งหนัก ๆ กระแทกเข้าที่หลัง  มือหยุบหยับเลื้อยขึ้นมากอดรัดผมจนผมหายใจไม่ออก  เสียงหัวเราะคิกคักดังอยู่ข้างหูผมก่อนจะตามมาด้วยลิ้นเย็นๆที่ตวัดเลียเข้าไปข้างในหู  ทำเอาเรี่ยวแรงผมหายไปหมด
“ปล่อย...”

กึด!

ฟันแหลมคมกัดลงบนหูผมอย่างไม่ปราณี
“อ๊ากกกกกกกกกกก!”

ปึง!

ผมได้ยินเสียงประตูเปิด  คุณผีรีบเข้ามาง้างปากยัยผีผู้หญิงที่กัดหูผม   ผมร้องไห้น้ำตาเล็ดมันเจ็บมาก  หูผมต้องขาดแน่ ๆ เลย!

ซวบ!

ไม้ไผ่ยาวถูกแทงเข้าไปในปากของผูหญิงคนนั้นจนทะลุออกไปที่สันหลัง  มือใหญ่ลากร่างของผีตัวนั้นออกไปเหวี่ยงทิ้งข้างนอกก่อนจะปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมดแทนผม
“ก็บอกแล้วไงว่า..!!”
“คุณภูผา!”
ผมกระโดดกอดร่างสูงใหญ่อย่างเต็มแรง 
“ผมกลัว..ผมกลัวว่าจะมีตัวอะไรเข้ามาทำร้ายผมอีก!  ผมกลัวถ้าไม่มีคุณ! ผมกลัวที่โดนทิ้งไว้อยู่คนเดียว! ผมกลัวนะครับ!!” ผมซุกหลังดึงรั้งเสื้อเขา  ผมไม่อยากให้เขาหายไปอีกแล้ว!

ปึงๆ

เสียงเคาะประตู หน้าต่างดังระงม  พวกมันข้างนอกคงต้องการจะเข้ามาข้างในให้ได้  มันจะเข้ามาฉีกร่างผมแน่ ๆเลย
คิดได้แบบนั้น  ผมก็ยิ่งซุกกายเบียดชิดเข้ากับแผงอกกว้าง  ตอนนี้ผมไม่กล้าขยับตัวไปไหนแล้ว  เขาคงปกป้องผมใช่มั้ย  เขาจะปกป้องผมใช่หรือเปล่า!
“ฉันไม่ใช่คนดีหรอกนะจะบอกให้” เสียงทุ้มพูดคลอข้างหูผม
ผมเงยหน้ามองดวงตาว่างเปล่าสีเข้มไร้แววตา  ความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมถอยหลังออกห่างตัวเขา  ดวงตาเขามันเหมือนผีพวกนั้นบนสะพาน
“รู้มั้ยทำไมไอ้พวกนั้นถึงตามนายมา  มันมีอยู่สองพวก พวกแรกคือพวกไม่อยากตายเลยอยากได้ร่างใครสักคนมาอาศัยอยู่  ส่วนอีกพวกเป็นพวกเร่ร่อนหิวโหยที่อยากได้อาหารมากิน”
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก  ร่างสูงก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผม  เขาหรี่ตามองผมด้วยดวงตาที่ผมคาดเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร
“แล้วฉันเป็นพวกไหนกันนะ”
ถามผมหรอ?  ถึงจะถามแบบนั้นก็เถอะ  เอ่อ...
“จริงสิ! ผมมีเรื่องต้องบอกคุณ!” ใช่เรื่องร่างของเขาไง
“จริง ๆ แล้วคุณยังไม่ตายนะครับ! พี่พายุบอกว่าคุณนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล! คุณยังไม่ตาย!”
เขานิ่งไป  เขาเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย!
“คิดว่าฉันต้องการร่างหรือไง”
เอ๊ะ... ผมลูบขนลุกชันบนแขนไปมา  ทะ..ทำไมบรรยากาศมันน่ากลัวแบบนี้นะ 

ตึง!

ร่างผมถูกผลักลงในนอนบนพื้นก่อนที่เข้าจะขึ้นมาอยู่ด้านบนตัวผม  ใบหน้าคมโน้มลงมาข้างแก้มผม  ลิ้นเปียกชื้นตวัดเลียเลือดที่ไหลซิบที่หูผมเมื่อครู่ก่อนจะเริ่มดูดมันเข้าไปในปากราวกับกินขนม
“...หวาน”
อึก! ผมสะบัดหน้าหนีแล้วยกมือผลักเขา  แต่ความไวของผมยังสู้เขาไม่ได้ 

กึก!

“โอ้ย!”
กระดูกผม!  เขาจับข้อมือผมกดไว้แนบพื้นทั้งสองข้าง  เขาขยับมือบีบข้อกระดูกผมจนผมรู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งแขน
“ปล่อยนะครับ!  นี่คุณจะทำอะไร! จะกินผมหรอ!” เขาจะทำแบบยัยผีตัวเมื่อกี้งั้นหรอ!
ริมฝีปากได้รูปเหยียดยิ้มยาวน่าสะพรึง  นี่เขาคิดจะทำจริง ๆหรอ  เสียแรงที่มาช่วยจริงๆ!!
ลิ้นยาวลากลงต่ำไปที่คอแล้วย้อนกลับมาที่ปลายคางเรียวแหลมของผม   นิ้วเรียวยาวกรีดลงที่เสื้อยืดคอกลมจนขาดเป็นทาง  ฝ่ามือเย็นเฉียบวางลงบนหน้าท้องผม  ลูบไล้ไปตามลูกระนาดตื้น ๆ บนหน้าท้องผม  ผมบิดตัวเมื่อปลายลิ้นได้เลื่อนลงมาถึงหน้าอก  ฟันแหลม ๆ ขบดึงเนื้อส่วนอกผม  มันรู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ และยังอยู่สึก...แปลก ๆ อีกด้วย  เขาจะค่อย ๆ ลิ้มรสก่อนจะแทะตัวผมไปจนถึงกระดูกสินะ
“อื้อ!”
“อย่าทำเสียงเร้าฉันแบบนั้นสิ”
ผมกัดฟันกรอด  เรี่ยวแรงผมมันหายไปไหนหมด! ทำไมผมขยับตัวไม่ได้เลย!
“ถะ..ถ้าไม่รีบกลับไป  พี่พายุต้องเสียใจมากแน่ๆ”
เขาชะงักชั่วครู่  ก่อนจะบีบสะโพกผมแรง ๆ
“อะไรๆก็พายุ  รักมันมากหรือไง” 
เขาพูดอะไรเนี่ย  มันไม่เกี่ยวว่ารักไม่รักเลยนะ! ผมแค่บอกเฉยๆ
“ที่มาช่วยฉันก็เพราะพายุอีกล่ะสิ” 
เขาพูดเสียงเรียบเย็น  แต่ทำไมฟังดูแล้วเหมือนกำลังน้อยใจอะไรบ้างอย่างอยู่
“ฉันไม่ยอมให้นายกลับไปหรอก  จะร้องไห้ก็เชิญเลย”
“คุณเลยจะกินผมสินะ”
ทำไมเห็นแก่ตัวแบบนี้
“ผมเริ่มคิดได้แล้วล่ะ  ว่าที่พายุพาผมมาที่นี่ มันเปล่าประโยชน์”
ทั้งที่ผมตั้งใจที่จะทำมัน  ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยง....แต่ผมก็โง่ที่ยอมมาช่วยผีบางตัวแถวนี้!  คิดว่าเพราะอะไร  แค่เพราะรู้จักกันงั้นหรอ  เปล่าเลย...
“ที่ผมมาอยู่ตรงนี้  ไม่ใช่เพราะพี่พายุเท่านั้น  แต่เพราะว่าผม...”
มันก็แค่ความแค่เอาแต่ใจ  ดื้อดึงของเด็กคนหนึ่งในสายตาคุณ
 “เพราะ....”
“เพราะอะไร”
เขาจ้องหน้าผมหาคำตอบ
“..ผมจะบอกถ้าคุณฟื้น”
ผมของตั้งเงื่อนไขแค่นี้แหละ
“นี้เป็นเงื่อนไขกันไม่ให้ฉันกินนายหรือเปล่า”
“ก็ไม่รู้สิครับ”
“รอนานหน่อยนะ ซักตี 3 ไอ้พวกนั้นถึงจะหายไป”
ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วเขาก็ลุกออกจากตัวผม
“เตรียมเหตุผลดี ๆ เอาไว้ตอบด้วยล่ะ”
ผมขยับยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวไปนั่งข้างเขา
“เป็นเหตุผลที่ดีเลยล่ะ”
สำหรับผมน่ะนะ  ผมมองตาเขา  ดูเหมือนเขาจะกลับมาสู่สภาพปกติแล้ว  รอดไปเรา...

จุ๊บ!

สัมผัสอ่อนนุ่มแตะลงที่ขมับผม  ผมเบิกตากระพริบปริบ ๆ มองหน้าเขาอย่างงุนงง  อะไรของเขาอยู่ดีๆก็ -////-

ปึงๆ

“ไอ้พวกเวร!!”
เกือบลืมไปเลยว่าพวกผีข้างนอกยังเคาะประตูอยู่
“จะไปไหนครับ!”
ผมรีบคว้าแขนเขาไว้เหมือนเห็นคน(หรือผีดี?) อารมณ์ร้อนหยิบไม้ซุงจะลุยเดี่ยวออกไปข้างนอก
“ไประบายอารมณ์!”
“ไม่ให้ไปครับ! คุณต้องอยู่กับผม”
ผมกอดแขนเขาไว้แน่น  คุณผีทำเสียงหึ่มๆในลำคอเล็ก ๆน้อย  ก่อนจะนั่งลงข้างผมตามเดิม
“ถ้าปล่อยแขนล่ะก็  ฉันออกไปบวกกับไอ้พวกนั้นแน่”
“ครับๆ”
จะจับไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยครับ...คุณผี


“อื้อ”
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเขาดวงตาผม  ผมขยับตัวลุกขึ้นจากพื้นปัดเนื้อตัวมอมแมมพลางส่ายตามองไปรอบกระท่อมเล็ก ๆ ที่ตอนนี้ไม่มีใคร  นอกจากผม
“คุณภูผา!”
ผมเปิดประตูพรวด  ลืมไปเลยว่าเมื่อคืนพวกผีมันอยู่หน้าประตู  แต่ช่างมันตอนนี้ไม่อยู่แล้ว  ต้องไปตามหาตาผีบ้านั่น!! หายไปไหนของเขา!
…หรือจะแอบเราออกไปแล้วข้ามไปฝั่งนั้น...
ผมรีบวิ่งไปที่สะพาน  ถึงทางจะคดโค้งลึกลับแต่ผมก็พาตัวเองออกจากดงไม้มาอยู่ที่หน้าสะพานได้
“น้องฟิล!!”
พี่พายุกลับมาจากสะพาน

หมับ!

“พี่ตามหาแทบแย่! นึกว่าฟิลจะเป็นอะไรไปซะแล้ว!!”
ร่างสูงสวมกอดผมไว้  ผมเบิกตาเล็กน้อยก่อนจะก่อนตอบพี่เขาเบา ๆ  พี่เขาไปหาผมในป่ามาหรอ
“พี่ขอโทษนะ! ที่ให้ทำอะไรแบบนั้น!”
พี่พายุบอกแล้วซบหน้าลงบนไหล่ผม
“พี่พายุครับ...ผม”
ผมไม่ควรกลับมาเลย  ผมไม่ได้กลับมาพร้อมกับข่าวดีแบบนี้  พี่จะโกรธผมมั้ย  จะผิดหวังในตัวผมหรือเปล่า..
“เลือด! ” พี่พายุร้องตกใจเมื่อเห็นเสื้อผม
“คือ ไม่ใช่ของผมหรอกครับ”
“...................”
“ของคุณภูผา”
“ภูผาล่ะ”
ผมเม้มปากแน่น  ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  ตื่นมาก็ไม่เจอเขาแล้ว  พี่พายุคอตกเล็กน้อย   เขาผิดหวังสินะที่ผมพาน้องชายเขากลับมาไม่ได้
“ฟิลขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไร  แค่ฟิลปลอดภัยพี่ก็ดีใจแล้ว”
มืออบอุ่นลูบหัวผม  เขาพยายามฝืนยิ้มแต่ผมดูออกว่าลึก ๆ แล้วเขากำลังเสียใจ
“พายุ!! มีข่าวจากโรงพยาบาลเรื่องไอ้ผา!”
ข่าวจากโรงพยาบาลหรอ!!



ตึก ๆ

เสียงฝีเท้าหนักหน่วงย่ำผ่านบานประตูเข้าไปในห้องผู้ป่วย  ร่างสูงโปร่งปล่อยมือลูกน้อยก่อนจะรีบถลาเข้าไปหาผู้ชายใบหน้าเสมือนเขาเวลาสะท้อนบนกระจก 
“น้องผมเป็นอะไรครับ!”
เขารีบร้อนถามความจากหมอและพยาบาลที่อยู่ในห้อง  ดวงตาสีดำสนิททอดมองร่างผอม  เขายกมือทาบเรือนผมสีดำเข้มที่ยาวปะบ่าของน้องชายด้วยความเป็นกังวล  ร่างสูงอีกร่าง หากแต่ดูบางกว่าก้าวเท้าเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียงเพ่งพินิจมองใบหน้าคมคายของเจ้าชายนิทราแล้วเอื้อมมือมาแตะบ่าของชายใส่แว่นเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ
“เมื่อครู่คุณภูผาเริ่มขยับเปลี่ยนท่านอน  ผมเลยให้พยาบาลโทรไปหาญาติให้มาดู” คุณหมอพูด
“น้องผมเปลี่ยนท่านอน...เขาฟื้นแล้วหรอครับ!” พายุร้องอย่างดีใจ
“อาจจะเป็นอย่างนั้นน่ะครับ”
“งั้นผมขอเอาเขาไปนอนที่บ้านได้มั้ยครับ  ที่กรุงเพทฯ”
“เรื่องจะย้ายคนไข้ อืม... ผมว่าเราไปคุยในห้องโน่นก่อนดีกว่านะครับ  ผมจะได้ดูเอกสารแล้วก้วิเคราะห์ว่าควรจะย้ายออกจากโรงพยาบาลตอนนี้ดีหรือไม่”
“ครับ”
พยาบาลผายมือเชิญพายุออกไปอีกห้อง

จึ๋งๆ

 นิ้วเล็กจิ้มไปบนแขนของชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่
“ทำไมคุณอาไม่ตื่นล่ะ”
เด็กน้อยเอียงคอแล้วพยายามสะกิดคุณอาให้ตื่น
“คุณอาเป็นเจ้าชายนิทรา  คงต้องรอให้เขาฟื้นขึ้นมาเอง” หนุ่มผิวขาวบอก
“เน้~ ม๊ะม๊าๆ จุ๊บคุณอาทีสิ*o*”
“หา!”
“ถ้าเป็นเจ้าชายนิทราก็ต้องให้เจ้าหญิงมาจูบใช่ม้า~”
“พี่ไม่ใช่เจ้าหญิงน่ะสิ^^;”
“ลองจุ๊บดูจิ! เอ้าเลย ปังไม่ฟ้องป๊ะป๊าหรอก>///<”
“น้องปัง-////-”
“อ๊ะ! เดี๋ยวปังไปถ่วงเวลาให้นะ รีบๆเข้าล่ะ^O^”
“เดี๋ยว!”
ไม่ทันจะจบประโยคเจ้าตัวเล็กก็วิ่งเตาะแตะออกไปหาพ่อเสียแล้ว  ร่างโปร่งบางถอนหายใจเล็กน้อย  เขายืนชั่งใจกับสิ่งที่น้องปังบอกให้ทำ
“จูบหรอ?”
มีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละที่จูบแล้วเจ้าชายจะฟื้นน่ะ  เขาคิดแบบนั้น
“อืม...”
ใบหน้าหวานขมวดคิ้วลังเล  ก่อนจะตัดสินใจโน้มคอลงไปประกบปากกับเจ้าชายนิทราเพียงเสี้ยววินาที
“ไม่เห็นตื่นเลย”
ใบหน้าหวานส่ายหัว  ไม่น่าทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นลงไปเลยจริง ๆ  ร่างโปร่งบางตัดสินใจเดินตามเจ้าตัวเล็กออกไปนอกห้อง   แต่มีบางอย่างฉุดรั้งข้อมือเขาไว้
“อ๊ะ!”
เขาหันกลับมามองมืออุ่นที่จับข้อมือเขาไว้  ดวงตาปิดสนิทค่อย ๆ เปิดขึ้นช้า ๆ เด็กหนุ่มก้าวเท้าไปชิดขอบเตียงมองคนข้างหน้าราวกับเห็นภาพในฝัน
“..จูบแค่นั้น... ใครจะอยากตื่นกัน”
ดวงตาใสมองริมฝีปากที่ขยับเอ่ยถอยคำออกมาแผ่วเบา  เพียงเท่านั้นความรู้สึกที่เอ่อล้นภายในก็พร่างพรูออกมาเป็นหยดน้ำตาแห่งความปิติ
“คุณภูผา!!”
เขาปาดน้ำตาที่จู่ ๆก็ไหลออกแล้วจับมือใหญ่ไว้
“ง่วงจัง”
ชายหนุ่มบอกแล้วตาเขาก็ค่อยๆปิดลงอีกรอบ
“นี่! อย่าเพิ่งหลับนะครับ!”
ไม่ทันการณ์เสียแล้ว  ชายหนุ่มปิดการรับรู้โดยการชิงหลับไปอีกรอบ
“นี่คุณ!  คุณไม่อยากฟังเหตุผลที่ผมจะบอกหรอ>O<!”
ใบหน้าหล่อเอียงคอปรือตาเล็กน้อย  แค่นั้นอีกฝ่ายก็รับรู้แล้วว่าคนตรงหน้ายังรอจะฟังคำตอบเขาอยู่
“เหตุผลก็คือ...คือ อ้า! อย่าเพิ่งหลับสิครับ><!”
“ฉันได้ยิน...เสียงยมบาลเรียก”
“คุณภูผา!!”
“ต้องไปแล้ว..”
“อย่าเพิ่งครับ!”
“..เขาเร่งฮันแล้ว”
“อย่าเพิ่งไป!! ผมชอบคุณนะ!!”
สิ้นเสียงสารภาพรักอันร้อนแรง  คนบนเตียงก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
“ยมบาลบอกไม่ต้องตายแล้ว”
“คุณภูผา...”
คนร่างบางไม่รู้จะโกรธก่อนหรือเขินก่อนดี  ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังโดนผีตัวนี่หลอกอีกจนได้  มือขาว ๆ หยิกลงไปที่แขนคนป่วยเพื่อแก้เผ็ด (ทำอะไรมากกว่านี้เดี๋ยวตายเอา)
“ผมจะไปบอกพี่พายุว่าคุณฟื้นแล้ว”
“พายุ..อีกแล้ว”
เสียงบ่นเบา ๆ ดังออกมาจากเตียงคนไข้  ฟิลเตอร์ขยับยิ้มเขาเริ่มจับไต้ได้แล้วว่าผู้ชายคนนี้แอบน้อยใจเวลาเขาพูดถึงพี่พายุ
“แล้วทำไมล่ะครับ พี่พายุๆๆๆๆๆ”
ใบหน้าหล่อขมวดคิ้ว  เขาไม่ขำกับท่าทางน่ารัก ๆ ที่อีกฝ่ายพยายามหยอก 
“ฉันให้รักพายุได้..แต่ไม่อณุญาตให้รักมากกว่าฉัน”
คำพูดซื่อตรงทำเอาคนฟังถึงกับหน้าไหม้อีกรอบ 
..ให้ตายสิ  ทำไมคุณผีพูดจาน่ารักแบบนี้...
ถึงคำพูดจะสนทางกับสีหน้าที่ปรับให้เรียบเฉย  แต่เด็กหนุ่มก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เลย  ใบหน้าหวานก้มลงจุมพิตที่หลังมือของอีกฝ่ายเบา ๆ
“ครับ ๆ”
คนป่วยอยากจะอ้าปากบอกต่อว่าให้จูบที่ปากแทนดีกว่าที่หลังมือ  แต่ตอนนี้คอแห้ง ๆ ของเขาเปล่งเสียงออกไปไม่ได้แล้ว  แต่ไม่เป็นไรหรอก  เพราะต่อจากนี้เขาจะมีโอกาสได้ทำอะไรที่มากกว่าจูบที่หลังมือแล้ว
...เตรียมใจไว้ได้เลย ฟิลเตอร์...





++++++++++++++++++++++++
เมื่อวานเน็ตหลุดตอนบ่ายค่ะ จบเลย-_-;;
วันนี้ก็หลุด ๆ งั้นรีบลงเลยแล้วกันนะคะ

 มาช้าไปนิดขอประทานอภัยนะเจ้าคะ><

Sulfur Love
http://www.keedkean.com/novel/KK0008779.html

มังฮวาน่าอ่าน แต่อ่านไม่ออก แนะนำค่ะ55+
V
V
http://cartoon.media.daum.net/webtoon/view/heavencouple#1

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
นั่นไง ไม่รอดจากภูผาแล้วละ ลางลอยมาใกล้ๆ แล้ว :mew3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น่ารักจังเลย

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
ฟิลล์รับศึกหนักแล้ว 5555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กรี๊ดดด~ นิยายผี >¤<

ออฟไลน์ enzang2660

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
บทที่ 20.1



กริ่ง ๆ

ผมเปิดประตูเข้ามาในร้านขนมปังสีขาว  กลิ่นไอหอมกรุ่นของผิวขนมปังสีน้ำตาลลอยเข้ามาปะทะจมูกผมทำเอาท้องผมร้องครวญครางออกมา
“ใจคอจะมากินฟรีทุกวันเลยหรือไง”
ผมย่นหน้าเล็กน้อยแล้วตวัดหางตาจิกคนพูด  ร่างสูงใหญ่ขยับตัวไปยกถาดเครื่องดื่มเตรียมเสิร์ฟ

โป๊ก!

“มันเจ็บนะครับ!”
ผมร้องบอก  ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มยียวน  ถ้าไม่ติดว่าหล่อเหมือนพี่พายุผมซัดไปแล้วนะเนี่ย
“ไปนั่งรอหลังร้าน”
“รู้แล้วน่า ๆ”
ผมเปิดประตูเข้าไปอีกห้องหนึ่ง  มันคือหลังร้านหรือจะเรียกว่าห้องพักพนักงานดีล่ะ  ผมลอบมองผ่านกระจกตรงประตูออกไป ก็เห็นว่าเขายังคงวุ่นวายกับการรับลูกค้าอยู่ 
หลังจากทำกายภาพบำบัดเดือนกว่า  คุณภูผาก็มาทำงานอยู่ที่ร้านพี่พายุในฐานะพนักงานเสิร์ฟ  หมอยังแปลกใจเลยว่าทำไมคุณภูผาถึงอ่านออกเขียนได้อย่างกับคนปกติ  เหตุผลนั้นถ้าผมบอกไปคุณหมออาจจะช็อกก็ได้  เอาเป็นว่าสุดท้ายเขาก็มาทำงาน  แต่ว่า...ตอนนี้โดนพี่พายุบังคับให้เรียนกศน.เพื่อเอาวุฒิม.3

ปึง

ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถาดสีเงิน  เค้กไอติมสีสันจืด ๆ ถูกว่าลงตรงหน้าผมพร้อมกับชานมเย็นสีชมพูหวานแหวว
“เอ่อ-o-”
ไอ้น้ำชมพูๆนี่มันอะไรกัน  เค้กไอติมนี่ก็ด้วย  ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแต่นี่มันหน้าหนาวนะครับ! แล้ววันนี้อุณหภูมิก็ลงมา 20 องศาเชียวนะ
“ชิมสิ” คุณภูผาบอกแล้วกระแทกตัวนั่งลงข้างๆผมอย่างหมดแรง
“ทำเองหรอครับ” ผมถาม
“อือ  ว่าจะขายช่วงหน้าร้อนน่ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะทำของแบบนี้เป็นด้วย*o*”
“อะไรที่พายุทำได้ฉันก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ”
“แล้วพี่พายุไปไหนครับ  ไม่เห็นเลยO.o”
“...................”
แล้วเจ้าประคุณจะเข้าโหมดเงียบทำไม ผมถามอะไรผิดหรอ
“อยู่กับฉันแล้วถามหาคนอื่นมันหมายความว่ายังไง”
ดวงตาเรียวเล็กหรี่มองผม  คอสโมอารมณ์บ่จอยลอยคละคลุ้งกดดันผมจนไม่กล้าตักไอติมเข้าปาก
“คือ..ก็ สงสัยเอง”
“ไปรับลูก”
“อ่อ”
ผมก้มหน้าตักไอติมแข็งๆเขาปาก  ก็อร่อยนะถ้าลดความหวานลงอีกนิดนึง
“เอาเค้กไอติมมาให้กินตอนอากาศหนาว ๆ แบบนี้ คุณนี่..ซาดิสม์จังเลยนะครับ-.-”
      ฟันผมนี่แปล๊บ ๆ เลย
      “กิน ๆ ไปเถอะ  แล้วรสชาติเป็นไง”
      “อื้ม โอเคครับแต่หวานไปหน่อย  ถ้าใส่พวกใบชา หรือกลิ่นวนิลาหน่อยก็น่าจะดีนะครับ”
      “อือ ใส่กลิ่นกล้วยแล้วกัน”
      เอ๋ ผมพูดคำว่ากล้วยตอนไหนหรอ-o- แต่เอาเถอะลองส่อะไรแปลกๆ เผื่อลูกค้าจะชอบ

      พรึ่บ!

เขาถอดผ้ากันเปื้อนสีดำคาดแดงออกเหลือแต่เสื้อเชิ้ตสีเลือดนกปกดำ  ผมว่าเชิ้ตตัวนี้เข้ากับเขาดีนะ  ผิวเขาค่อนข้างจะแทน....แทนที่จะขาว  ทำไมชอบไปตากแดดก็ไม่รู้ น่าจะอบผิวให้ขาวๆแบบพี่พายุ-..-
“มองอะไร อยากให้ถอดมากกว่านี้หรอ”
คิ้วหน้ากระตุกขึ้น  มือใหญ่เลื่อนลงไปที่ขอบกางเกงทำท่าเหมือนจะถอดมันออก
“ไม่ใช่นะครับ>///<”
“ถอดเสื้อกันหนาวได้แล้วมั้ง”
ถอดหรอ... ไม่ได้หรอก>///<  ผมขยุ้มคอเสื้อตัวเอง  คือวันนี้ผมไม่ได้ใส่เสื้อนักเรียนไว้ข้างใน   ใส่แค่กางเกงนักเรียนแล้วใส่เสื้อกันหนาวทับเลย-///-
“หึ”
“หัวเราะอะไรครับคุณภูผา”
“เรียกเรียกคุณซะทีได้มั้ย”
“ภูผา”
“เพื่อนเล่น?”
“ขอโทษครับ”
ผมหันไปดูดน้ำเข้าปาก  ให้ตายสิทำไมต้องทำเป็นดุด้วยเนี่ย

หมับ

“หวา!”
ร่างผมถูกดึงขึ้นไปนั่งบนตัก   ท่อนแขนใหญ่รวบเอวผมเข้าไปชิดกับลำตัวก่อนจะวางคางลงพาดไหล่ผม
“ทะ..ทำอะไรครับเนี่ยO///O” น้ำกระฉอกออกปากเลย 
“กินยังไงเลอะเทอะ”

แผล็บ~

ลิ้นอุ่น ๆ ตวัดเลียน้ำรสหวานที่ไหลออกมาข้างมุมปากผม   ผมได้แต่นั่งตัวเกร็งหลับตาปี๋  ก็ไม่รู้จะทำยังไงนี่ครับ  พอโดนเลียทีไรแขนขาผมมันชาขยับไม่ได้ทุกทีเลย
“อย่าเกร็งขนาดนั้นสิ”
“ก็...>///<”
“มันหนัก”
“งั้นก็ปล่อยผมลงสิครับ>///<”
“ไม่เอา มันหนาว”
พูดจบก็กอดผมเข้าไปอีก  หวา~  หัวใจผมมันเต้นแรงตุบตับๆยิ่งกว่าตอนวิ่งหนีคนไล่ฟันซะอีก  ถ้าขึ้นกอดแน่นกว่านี้เขาต้องรู้แน่เลยว่าผม..ตื่นเต้นขนาดนี้!

ซวบ

มืออุ่นสอดเข้ามาใส่เสื้อแจ็กเกต  ผมสะดุ้งงอตัวเมื่อนิ้วอุ่น ๆ สัมผัสโดนหน้าท้องของผม
“เอามือออกไปนะครับ>///<” ผมบอกแล้วดึงมือเข้าออก
“ใส่เสื้อกันหนาวตัวเดียวออกจากบ้านมันอันตรายนะ”
“มันแปลกตรงไหนล่ะครับ  ใคร ๆ เขาก็ทำกัน>///<” หรือเปล่า เอ๊ะ! หรือแค่ผมคนเดียว?
“ถ้าโดนใครทำมิดีมิร้ายจะทำยังไงล่ะ”
“จะมีใครที่ไหนนอกจากคุณล่ะครับ>O<//”
“พี่-ภู-ผา”
เขาพูดเน้นทีละคำ
“มะ..ไม่เอาอ่ะครับ  เรียกคุณก็ดีแล้ว-///-”
จะให้มาเรียกพี่แบบพี่พายุ  มันก็... มันไม่ชินนี่ครับ>///<

กึด

“อ๊ะ!  ทำอะไรน่ะครับ-///<”
มือใหญ่บีบตุ่มเล็ก ๆ บนหน้าอกผม   คนตัวใหญ่ทำหูทวนลม  สอดมืออีกข้างเข้าไปลูบคลำใต้เสื้อของผม  ปลายเล็บสั้น ๆ บาดลงไปที่ผมนมผม  เขาสะกิดมันไปมาสองสามทีร่างกายผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนมีใครเอาไฟมาลน
“ถ้าไม่ใส่เสื้อนักเรียนไปข้างในมันก็จะเป็นแบบนี้”
ผมก้มมองเสื้อตัวเองที่มีอะไรนูนขึ้นมาที่อกสองข้าง  ถึงมันจะไม่บางมากแต่ก็เห็นวงสีชมพูรำไรที่อยู่ใต้เนื้อผ้า
“อย่าทำแบบนี้นะครับ! คุณ..! อื้อ”
เขาบีบน้ำอีกผมอีกรอบ  ดูเหมือนจะแรงกว่าเดิมซะอีก  โอ้ยย มันเจ็บนะโว้ย!
“พี่-ภู-ผา”
เขาบอกพร้อมขยำเนื้อส่วนอกของผม  อะ..ไอ้ผีบ้า  ทำไมโรคจิตแบบนี้นะ
“คะ...ครับ  พี่ภูผา”
ผมเอียงคอเล็กน้อย  ไม่รู้พูดเบาไปหรือเปล่า  ได้ยินหรือเปล่า ผมไม่อยากพูดใหม่นะ-3-

วืดดด

ซิบถูกรูดลงพร้อมกับตัวผมที่ถูกจับให้นอนราบไปบนโซฟา  ผมเบิกตากว้างมองเสื้อตัวเองที่โดนดึงร่นไว้ข้างตัว  เผยให้เห็นผิวแดง ๆ เป็นทางยาวเพราะโดนจับอย่างรุนแรง  มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกโดยไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของผม 
..ซวยแล้ว>///<…
ผมเบี่ยงตัวจะกลิ้งลงจากโซฟาแต่ร่างสูงก็คร่อมเอาเข่าบล็อกข้างลำตัวผมเอาไว้  ริมฝีปากร้อนทาบลงมาปิดเสียงประท้วงของผมอย่างรู้ทัน  ริมฝีปากผมถูกดูดกลืนหายเข้าไปก่อนจะปล่อย  และดูดกลับเข้าไปอีกครั้ง  มันดำเนินต่อไปจนร่างกายผมรู้สึกอ่อนเปลี้ย  เขาจูบอ้อยอิ่งเนิบๆ ช้า ๆ เหมือนจะเร้าให้ผมตอบโต้ดูดริมฝีปากของเขาบ้าง   
...ใครจะไปทำกันเล่า!!..
ถึงจะคิดแบบนั้นแต่เมื่อริมฝีปากร้อนถอนออกไป  ผมก็รีบยกมือตวัดโน้มคอเขากลับลงมาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเขา   เมื่อสัมผัสถูกลิ้นชื้น ๆ ร่างกายผมก็เรียกร้องให้ดูดดื่มความชุ่มช่ำนั้นให้มากว่านี้อีก
“ผาออกไปรับลูกค้า..”
ผมสปริงตัวพรวดมองไปทางประตูที่มีร่างสูงโปร่งยืนอยู่  ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีดำเบิกขึ้นอย่างตกใจ  เพียงเสี้ยววินาทีพี่พายุก็เปลี่ยนกลับมาตีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อือ  จะไปเดี๋ยวนี้ละ”
พี่ภูผาขยับตัวออกแล้วคว้าผ้ากันเปื้อนมาใส่แล้วเดินออกไปนอกประตู   พี่พายุปรายตามองมาที่ผมเล็กน้อย  ไม่รู้ว่าเขากำลังตำหนิผมทางสายตาหรือเปล่า
“พี่พายุครับ!”
ผมพุ่งไปดึงแขนพี่เขา  พี่พายุยืนนิ่งมองหน้าผมครู่หนึ่งก่อนจะใช้มืออีกข้างดึงมือผมออก
“ขะ...ขอโทษครับ” ผมไม่น่าจะจับตัวเขาเลย

ฟืบ!

มือใหญ่ดึงเสื้อผมขึ้นแล้วรูดซิปปิด  ผมเงยหน้ามองเขาอ้าปากบอกขอบคุณ  แต่สิ่งที่เขาบอกกับผมกลับทำให้ผมรู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“...อย่าทำแบบนี้ที่นี่อีกนะครับ...”
เหมือนมีอะไรบางอย่างย้ายขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ  ผมได้แต่ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก  ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา  ใช่...ผมผิดเองล่ะ  ที่นี่ๆไม่ใช่ที่ๆจะมาทำอะไรแบบนี้
“อา~ ม๊ะม๊า~”
ผมทำอะไรลงไปกันเนี่ย!
“ผมกลับล่ะครับ! สวัสดีครับ!”
ผมคว้ากระเป๋ารีบเร่งออกไปจากร้าน  บ้าที่สุดเลย! เพราะไอ้ผีบ้านั่นทำให้ผมโดนพี่พายุมองด้วยสายตาเย็นชาแบบนั้น  แต่จะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้  ถ้าผมไม่เกิดคล้อยตามไปด้วยล่ะก็! ถ้าล็อกประตูตั้งแต่แรกล่ะก็! คงไม่ต้องให้พี่พายุมาเห็นผมในสภาพแบบนั้นหรอก!




ผิวกายสีขาวแลดูสะอาดเนียนนุ่มเหมือนได้รับการดูแลอย่างดี  กลางแผ่นอกขาวกระจ่างไหวกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจหอบถี่  ริมฝีปากอิ่มชุ่มสีแดงสดเผยอออกผ่อนลมหายใจหอบแห้งออกมา   เม็ดเหงื่อสีเงินไหลซึมออกมาจากหน้าผากมนลงมาที่ลำคอจนมาถึงกึงกลางอกที่สะกดสายตาให้หยุดนิ่ง  ถึงแม้จะไม่ได้อวบนวลจับแล้วดูเต็มไม้เต็มมือแต่เม็ดลูกเกดสีแดงดั่งเชอร์รี่สุกปลุกเร้าให้ร่างกายชายหนุ่มร้อนรุ่ม
“...พี่พายุครับ..”
เสียงแหบพร่าเบาบางราวเสียงกระซิบเอื้อยเอ่ย  ชายหนุ่มอดใจไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับต้องใบหน้างดงามราวกับภาพวาด  ใบหน้าหวานเอียงหน้ายิ้มพริ้มราวกับมีความสุขจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
...ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขเหลือเกิน...สุขจนลืมเรื่องบางอย่างไป


“พายุ…”
เสียงทุ้มเข้มดังเข้ามาในโสตประสาท
“พายุ!”
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อปรือตาหนักอึ้งมองชายหนุ่มอีกคนที่ยืนเรียกอยู่ตรงหน้า  ใบหน้าคมคายกระตุกคิ้วมองมาทางเขาก่อนจะยื่นมือมาตบแก้มเขา
“ตื่นยังวะ”
“อา ตื่นแล้ว”
ชายหนุ่มลุกขึ้นหยิบแว่นมาสวมแล้วมองไปยังนาฬิกาในห้อง
“ค่ำแล้วหรอ  ยังไม่ได้ทำอะไรให้ปังกินเลย” พายุบอก
“ฉันดูแลอาบน้ำให้แล้ว  ตอนนี้นั่งดูการ์ตูนอยู่” ถูผาบอก
“อ่อ ขอบใจนะ”
“หลับตอนเย็นแบบนี้ตะวันทับตาพอดี  ไปอาบน้ำไป”
“อือ”
ร่างสูงลุกจากเตียง  แต่ความรู้สึกเปียกชุ่มตรงหว่างขาทำให้เขาชะงักตัวก้มลงมองที่กางเกงตัวเอง
“ผา  ออกไปก่อนได้มั้ย” 
ชายหนุ่มพูดอย่างติดอาย  ชายฝาแฝดกระตุกยิ้มอย่างรู้สถานการณ์ดี
“ฝันถึงใครอยู่หรอ” ภูผาเอ่ยถาม
“เปล่า”
หนุ่มแว่นปฏิเสธพลางเอื้อมไปหยิบหมอนมาปิดบังที่หน้าขาเอาไว้
“ฟิลหรอ?”
ตัวเลือกถูกตัดเหลือใช่หรือไม่ทันที  พายุก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงกร่ำเอาไว้ เขาพยายามปรับสีหน้าให้เรียบเฉย  ทำตัวไม่ให้มีพิรุธมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะตอบกลับไป
“ไม่ใช่”
“หรอ?”
อีกฝ่ายยังถามยั่วยวน
“จะไปอาบน้ำแล้ว”
เขาตัดสินใจลุกพรวดไปยังห้องน้ำเพื่อตัดบทสนธนา
“ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้านายจะชอบฟิล”
“เปล่า”
“ไม่เห็นจะแปลกนี่ถ้าฝาแฝดจะชอบอะไรเหมือนๆกัน”
พายุยืนนิ่ง  ถึงภูผาจะพูดอนุญาตให้เขาชอบฟิลแต่เขาคงทำไม่ได้  แม้จะฝาแฝดจะชอบอะไรที่เหมือนกันโดยเฉพาะพวกเขา  แต่เรื่องคนรัก  ทำไมเขาต้องไปแย่งกับน้องตัวเอง
“ไม่เห็นจำเป็นที่ฝาแฝดต้องรักคนเดียวกัน”
“แล้วนายรักใครอยู่ล่ะ”
พายุหยุดคิดแต่ไม่กล้าที่จะตอบออกไป
“ถ้าชอบฟิล..”
“ฉันไม่ได้ชอบฟิล!”
“อ่อหรอ?”
ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปาก  มองคนร้อนตัวที่แสดงอาการร้อนลน
“งั้นอย่ามายุ่งกับฟิลของฉันแล้วกัน”
ภูผาจงใจเน้นคำว่า “ของฉัน” จี้ใจดำของพายุ  เขากระตุกยิ้มมองร่างสูงที่กำหมัดแน่นแล้วหัวเราะในลำคออย่างมีเลศนัย



++++++++++++++++
ก่อนจะเกิดศึกชิงนาย  อยากจะตัดไปคู่หลัก
แต่เดี๋ยววันจันทร์แล้วกันนะคะ
วันเสาร์อาทิตย์ไปต่างจังหวัด คงไม่ได้อัพนะคะ
บอกไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พึ่งอ่านตามทันคร้า~~~~!!!
ชอบคร้า ^[+++++]^

แต่เรื่องมันครบรสมากอ่ะ มีตั้งแต่ pet มาเฟีย โดดร่ม โดนน้ำพัด โชตะ ยั้น ผี!!!


ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กรี๊ดดด~ 3pเหรอ >///<

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
น่าน ศึกชิงฟิลจิเริ่มแล้ว อิอิ
กำลังคิดถึงคู่หลักพอดี รอๆจ้า
ปล.โล่งอกไปที ที่อิตาผีหื่นรอดมาได้ อิอิ สนุกมากๆ

ออฟไลน์ enzang2660

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
20.2
สิบห้านาฬิกาเป็นเวลาประจำที่ชายหนุ่มต้องไปรับบุตรชายที่โรงเรียนประถม  อากาศหนาวเย็นทำห้ลำคอของเขาเจ็บและระคาย  ชายหนุ่มยกมือปิดปากจามอย่างสุภาพจังหวะเดียวกันขณะเขาหลับตาเขาก็ถูกร่างของใครบางคนวิ่งเขามาชน
“อ๊ะ! ขอโทษนะครับ” เสียงหนุ่มแตกพร่านเอ่ยขอโทษ
“ฟิล..”
หนุ่มน้อยเบิกตากว้างเมื่อถูกเรียกชื่อ  เขาก้มหน้ากระอักกระอ่วนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายที่เขาไปเจอฉากสวีทของเขากับภูผาเมื่อวาน
“อ่า..สะ.สวัสดีครับพี่พายุ” สุดท้ายก็ตัดสิ้นใจเอ่ยทักออกไป
ชายหนุ่มมองเด็กตรงหน้าที่ดูเก้งๆกังๆ ก็อดนึกไม่ได้ว่าเมื่อวานเขาใช้คำพูดไม่ดีไปหรือเปล่า  เพราะหลายวันมาดีฟิลเตอร์ไม่โผล่ไปที่ร้านอีกเลย
“มาทำอะไรแถวนี้หรอ” เขาถามออกไป
“คือมาหาซื้อของไปจัดบอร์ดน่ะครับ”
ฟิลเตอร์ตอบเสียงเบาและเอาแต่ก้มหน้าหลบตาชายหนุ่มลูกเดียว
“ฟิล...”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียก  เขาเพียงแต่อยากจะถามว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงไม่ไปที่ร้าน  แต่เสียงประท้วงในหัวก็สั่งให้เขาสงบปากลง  เขาไม่ควรจะไปยุ่งกับของๆน้องชาย 
แต่การถูกหลบหน้าก็ทำให้เขารู้สึกจุก ๆ ในอกอยู่ไม่น้อย
“ไอ้ฟิล!!”
เจ้าของเรือนผมสีเงินสะดุดตา  บวกกับความสูงระดับนายแบบเรียกความสนใจจากสายตาคนรอบข้างที่เดินผ่านไปมา  ชายหนุ่มมองตามร่างสูงสะดุดตาที่เข้ามากอดคอหนุ่มน้อยใกล้ ๆ  พอคนร่างบางถูกกอดโดยไม่ทันตั้งตัวเขาก็เซเข้าไปหาเพื่อนชายทันที
“มารัดคอกูทำไมครับคุณมึง” ฟิลเตอร์พยายามใช้คำสุภาพ
“ปล่อยให้รอตั้งนาน!” เฟียสบ่นเสียงดัง
“อะไร ๆ แค่นี้ทำเป็นบ่น”
“ก็คิดถึงมึงชิบหายเลย!”
ฟิลเตอร์ย่นหน้าเล็กน้อยกับคำพูดประชดเสียดสีของเพื่อนสนิท  เลยอดหยอกกลับไปไม่ได้ว่า
“กูก็คิดถึงคุณมึงครับ แหม่!”
หารู้ไม่ว่าคำพูดเมื่อครู่ทำให้ใครบางคนแถมนี้ลอบกัดริมฝีปากตัวเอง  พายุข่มอารมณ์วุบวาบที่ตัว  การที่ฟิลเตอร์จะไปคุยอะไรกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเขา  แต่การที่ฟิลเตอร์มาทำอี๋อ๋อแบบนี้กับคนอื่นต่อหน้า... หรือแม้แต่รับหลังมันก็ไม่สมควรให้อภัย  คิดจะมาแกล้งปั่นหัวน้องชายเขาหรือไง
ร่างสูงกำหมัดแน่นมองดวงตาสีแดงฉานที่ปรายตามองเขานิ่ง ๆ ก่อนใบหน้าหล่อจะกระตุกยิ้มมีเลศนัยพร้อมกับกระชับร่างบางให้เข้ามาใกล้ตัว
“ขอตัวก่อนนะ”
ชายหนุ่มรีบบอกแล้วเดินออกไปทิ้งเด็กวัยรุ่นสองคนเอาไว้
“อะไรของมึงครับ เลิกรัดคอกูได้หรือยัง” ฟิลเตอรืบ่น
“ลุงเขาเป็นอะไรวะ มองหน้ากูแปลกๆ” เฟียสถาม
“มึงอย่ามาเรียกพี่พายุว่าลุงสิ-_-”
“เหมือนเขาจังหึงมึง  คนนี้อ่ะหรอแฟนมึง”
“ไม่ใช่คนนี้หรอก-o-”
แต่เอ๊ะ! หึงงั้นหรอ  ผู้ชายที่ชื่อพายุเนี่ยนะ  เด็กหนุ่มครุ่นคิด  เป็นไปไม่ได้หรอก  ผู้ชายคนนั้นไม่คิดจะมองเขาในฐานะอื่นนอกจากน้องชาย  บางทีเขาอาจกำลังโกรธแทนภูผาก็ได้ อันหลังนี่ฟังดูมีหลักการมากกว่า
“กูไม่น่าเล่นตามน้ำกับมึงเลยT^T” ฟิลเตร์บ่นเสียงอ่อย
“อะไรมึงอีก”
“ถ้าพี่พายุเอาไปฟ้องพี่ภูผาเรื่องเมื่อกี้กูซวยแน่เลย”
“เคลียร์กันเองกูไม่เกี่ยว  ไปจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้กูได้แล้ว”
“คิระอ่ะ ให้มันจ่ายดิ”
“มันบอกอยู่ใต้เบาะมอไซค์ขี้เกรียจออกมาหยิบ”
“แล้วมึงโทรไปอัญเชิญกูมาจากโรงเรียน ซึ่งแม่งก็ไม่ได้ใกล้กว่ามอไซค์ที่จอดอยู่หน้าร้านเลย”
“เหอะน่าๆ เร็ว ๆ”
“เชี่ยที่สุด-*-”
“โห่ กูอุส่าห์คิดถึงมึงเป็นคนแรก(ตอนกูไม่มีตังค์)”
“กูต้องซึ้งมั้ย”
“กระทะด้วยก็ดี”
ดวงตาสีอ่อนตวัดจ้องใบหน้ารูปสลัก จนคนถูกจ้องรู้สึกขนลุกชันทั้งตัว
“....ศพที่แล้วก็เล่นมุกนี้”
ฟิลเตอร์พูดเสียงเย็นด้วยใบหน้าเรียบเฉย  ร่างสูงปาดเหงื่อเล็กน้อยแล้วถอยหลังออกห่างเพื่อนตัวเอง  ก่อนจะพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
“..กูจะไม่เล่นอีกแล้ว”


      

   [Payu’s part]
      “ป๊ะป๊าฮับ~ ปังหิวน้ำอ่า>3<”
   เจ้าตัวน้อยของผมโบกมือเลอะดินไปมาพลางทำสีหน้าหิวน้ำแทบขาดใจ  ผมขยับยิ้มเบาบางก้มตัวอุ้มเด็กจอมซนขึ้นมานั่งพักที่ชานหน้าบ้าน
   “เดี๋ยวป๊าไปเอาน้ำมาให้  นั่งพักก่อนนะครับ”
   “ป๊ะป๊า...”
   มือนุ่มนิ่มทาบลงที่แก้มของผมทั้งสองข้าง  ดวงตากลมใสเอ่อคลอทำให้ผมรู้สึกใจไม่ดี
   “ป๊ะป๊าทะเลากับม๊ะม๊าหรอฮับ”
   ก็ไม่รู้สินะ  จู่ ๆ ฟิลก็หลบหน้า  แล้วจะให้ผมทำยังไง

   กรุ่งกริ่งๆ

   เสียงโมบายดังขึ้น  ในวันหยุดที่ร้านปิดแบบนี้ใครกันที่มาที่ร้าน  ผมลุกขึ้นไปดูข้างในก็พบกับร่างเพียวสูงในชุดลำลองสีฟ้าอ่อน  ซักพักผาก็เขามาดึงตัวให้เข้าไปในครัว  ตอนแรกน้องฟิลก็ขืนตัวอยู่เล็กน้อยแต่พอผายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เหมือนจะจูบก็เลยยอมถูกจูงไป
   “ม๊ะม๊า~”
   เจ้าตัวน้อยของผมรีบวิ่งตามไป  แต่ผมรีบจับไว้
   “ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวของอาผากับพี่ฟิลนะครับน้องปัง”
   “แต่ปังอยากไปหาม๊ะม๊า...”
   “ไม่ได้ครับ!”
   “ฮึก!”
   แย่แล้ว... ผมเผลอดุปังไปซะแล้ว 
   “น้องปัง!”
   เจ้าตัวเล็กวิ่งหนีผมขึ้นไปข้างบน  ผมรีบวิ่งตามไปแต่ถูกปิดประตูใส่หน้า

   กึกๆ!

   “น้องปังเปิดประตูนะครับ”
   ทำไมต้องล็อกประตูด้วยเนี่ย
   “ปังเกลียดป๊าแล้ว!”
   “น้องปังครับ...”
   “ปังเกลียดอาภูผาด้วย!”
   ไปกันใหญ่แล้วนะ  ผมทุบประตูร้องเรียกต่อแต่น้องปังก็เงียบไป 
   “น้องปัง!!!”
   “ไม่ต้องทุบแล้ว! ปังจะนอน!”
   “งั้นเปิดประตูให้ป๊าก่อน...นะครับ”

   แกร๊ก!

เจ้าตัวเล็กแง้มประตูเล็กน้อย  พอเห็นผมเขาก็ปิดประตูเข้าไป
“ป๊าห้ามเข้า! ปังให้ม๊าเข้าคนเดียว!”
กรรม... ทำไมเอาแต่ใจอย่างนี้นะ
“งั้นป๊าไปชงโอวันตินภูเขาไฟให้นะ”
ถึงไม่ตอบแต่ผมก้รู้ว่าปังคงอยากกิน  เพราะมันเป็นของโปรดนี่นา  แต่ว่าในครัว...
ก็ไม่ได้อยากไปรบกวนช่วงเวลาแห่งความสุข  งั้นผมไปเอาของแล้วออกมาทำข้างนอกแล้วกัน  ผมคิดว่าฟิลเองคงไม่อยากเห็นหน้าผมนาน ๆ ผมก็ไม่ได้อยากให้เขาก้มหน้าให้เมื่อยคอ
“พอเลยนะครับ!!”
เอะอะอะไรกัน!
“ผมทนไม่ไหวแล้วนะครับ! คุณมันบ้า! บ้าที่สุดเลย!”
ร่างสูงโปร่งวิ่งออกมาชนผมที่ยืนอยู่  ผมยกมือประคองร่างโซเซไว้แล้วอ้าปากถาม  แต่เสียงผมก็หลบเข้าไปอยู่ในคอ  ทำไมใบหน้าสวยตอนนี้ถึงเปียกปอนไปด้วยน้ำตาแบบนี้  มือขาวสะอาดยกขึ้นปาดขอบตาแดง ๆ แล้วดันตัวผมออกอย่างมีมารยาท
“ขะ..ขอโทษนะครับ ที่ผมชนพี่” เสียงสั่นเครือกล่าวออกมา
ผมมองไปยังคนที่ผิงขอบประตูที่ทำสีหน้าเรียบเฉยไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ฟิลเป็นอะไร” ผมถาม
น้องฟิลเม้มปากไม่ตอบเอาแต่ยกแขนเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตา
“ก็แค่แกล้งนิดหน่อยเอง” คนที่ดูจะเป็นตัวการตอบออกมา
“นิดหน่อย”
ผมพูดทวน  ผมก้มลงมองร่างไม่เล็กไม่ใหญ่  เพิ่งสังเกตว่าเสื้อเชิ้ตด้านในถูกปลดกระดุมออก  และเสื้อกันหนาวตัวบางๆข้างนอกก็ถูกดึงจนตะเข็บฉีก  ผมมองต่ำไปยังลำคอระหงที่มีรอยมือแดง ๆ ทาบอยู่ระหว่างคอกับช่วงไหลปลาร้า
...ออกมาในสภาพนองน้ำตา...
...เสื้อผ้าขาดวิ่น...
“ไอ้ผา!”
“อะไร? ก็แค่เล่นกันนิดหน่อย  ถามยอมกันดีๆก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก”
“ละ..แล้วทำไม..ผมต้องยอมด้วยล่ะ”
ไอ้น้องเวร! นี่มึงจะบังคับขืนใจฟิลงั้นหรอ!  ผมปรี่ไปกระชากคอเสื้อภูผา  มันปรายตามองผมแล้วกระตุกยิ้มกวนเส้นเอ็นที่เท้า
“ไม่ทราบว่าคุณพายุมาเดือดร้อนอะไรกับเรื่องนี้ด้วยครับ” มันพูดกวนโอ้ย
“แกทำอะไรฟิล!”
“ก็แค่เรื่องที่แฟนเขาทำกัน! มันแปลกตรงไหน  ถ้ายอมตั้งแต่แรก..”

ผลั๊วะ!

ผมเสยหมัดชกปามอม ๆ ทำไมมันพูดจาหมาๆแบบนี้วะ  ฉันไม่เคยสั่งสอนแกแบบนี้เลยนะเว้ย
“ฉันไม่ยอมโดนชกฝ่ายเดียวหรอกนะเฟ้ย!”

ผลั๊วะ!

หน้าผมสะบัดตามแรง  หมัดมันหนักไม่ใช่เล่นเลย!
“หยุดนะครับ! พี่ภูผา! พี่พายุ!”
น้องฟิลเข้าไปดึงแขนภูผา  แต่ตอนนี้มันบ้าน้องฟิลเลยโดนสะบัดปลิว
“ไอ้เวร! กูไม่ได้ยกฟิลให้มึงมาทำแบบนี้นะเว้ย!!”
ผมตะโกน  คิดว่าฉันยอมเพราะอะไร  ก็เพราะฉันรู้ดีว่าถ้าเป็นแกจะต้องดูแลฟิลได้  แต่ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะมาทำแบบนี้!! ไอ้น้องเวร!
“งั้นแกก็เอาไปดูแลเองแล้วกัน!”
มันดึงน้องฟิลขึ้นมาแล้วผลักใส่ตัวผม
“ไอ้!”
“พอเถอะครับ!”
ผมจะตามไปชกปากมันอีกสักรอบ  แต่แขนใครบางคนก็รั้งเอวผมไว้ 
“..อย่าทะเลาะกันเลยนะครับ พี่พายุกำลังเข้า...”
“เงียบซะ! ไม่งั้นฉันจะต่อยนาย”
ไอ้ผาหันมาขู่น้องฟิลจนปิดปาก
“ไอ้ผา!”
น้องฟิลกอดผมแน่นขึ้น  นี่เป็นห่วงผา กลัวว่าผมจะตามไปต่อยมันงั้นหรอ  ทำไมน้องเขาต้องปกป้องคนที่ทำไมดีกับน้องเขาด้วย
“ฟิลไม่เป็นไรนะ..”
ผมถาม  น้องเขาเงียบแต่พยักหน้าให้ผมรู้ว่าสบายดี  ผมกระชับแขนกอดร่างผอมบางเอาไว้แล้วจับหัวน้องเขาซบลงบนอก
“พี่ขอโทษแทนมันด้วยนะ  ถ้าอยากจะร้องก็ร้องออกมาเลย”
ผมลอบสูดดมสีแชมพูอ่อน ๆ ที่เรือนผมสีน้ำตาลละมุน  หยดน้ำอุ่นๆ ไหลลงผ่านเสื้อของผม  ผมยิ่งเจ็บปวดในใจเข้าไปอีก  ผมไม่อยากจะเห็นน้องฟิลร้องไห้เลย  ผมอยากจะเห็นรอยยิ้มสดใสเหมือนแสงตะวันนั่นอีกครั้ง  ผมประคองใบหน้าชื้น ๆ ขึ้นสบตาผม  สีตาใสที่เหม่อมัวไปด้วยน้ำตานั่นทำให้ผมรู้สึกสงสารจับใจ  ผมไม่น่าปล่อยฟิลให้อยู่กับคนอารมณ์ร้อนแบบผาเลย!
“พี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ฟิลร้องไห้อีก”
ผมสอดมือเข้าไปใต่ฝ่ามือนุ่มแล้วกำเอาไว้ให้เขารับรู้ว่าผมจะอยู่ข้างๆเขาแบบนี้  จะคอยปกป้องเขา  ไม่ให้เขาเสียใจอีก
..แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว..
“ถึงตอนนี้ฟิลจะรักใครอยู่ก็ตาม”
..ถึงคนๆนั้น จะไม่ใช่พี่..
“แต่ฟิลคือคนที่พี่..รัก”
ผมดึงร่างหอมกรุ่นเข้ามาแนบอกอีกครั้ง  หัวใจผมมันกำลังจะระเบิด  ไออุ่นจากกายอ่อนโยนทำให้ผมต้องกระชับวงแขนแสวงหาไออุ่น 

ตุบๆ

เสียงหัวใจหน่วงหนักเต้นถี่จนได้ยินเป็นจังหวะดนตรี  ผมยิ่งกอดฟิลอีก  ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

ตุบๆ

เสียงหัวใจดวงน้อยเต้นสลับกับของผม  ถึงแม้จะไม่สอดประสานไปพร้อมๆกัน  แต่มันก็เต้นแรงเหมือนกับหัวใจของผม
“พี่รักฟิลนะ”
ผมบอกแล้วฉวยโอกาสลิ้มรสริมฝีปากนุ่ม  รสหวานช่ำราวกับผลไม้ชวนให้ผมดื่มด่ำเข้าไปลึกขึ้น..ลึกขึ้น   ผมรู้สึกอิจฉาที่ผามีโอกาสได้ล้มรสชาติหวานละมุนนี้มากกว่าผม  ผมแทรกลิ้นชอนไชเก็บเกี่ยวความหวานหอมอย่างหิวกระหาย 
“อื้อ...ฮา”
เสียงหายใจขาดช่วงทำให้ผมจำจต้องปล่อยริมฝีปากแสนหวานออกก่อนที่คนในอ้อมแขนจะขาดอากาศหายใจเอา
ผมมองดวงตาหยาดเยิ้มราวกับภาพทับซ้อนในความฝัน  ความฝันที่อยู่ในหัวผม  มันเป็นความต้องกายส่วนลึกในจิตใจผมที่กระหายอยากจะครอบครอง  และครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยมันไปอีกแล้ว ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ปล่อยมือคู่นี้อีกเด็กขาด


+++++++++++++++++++++++++
เน็ตเพิ่งใช้ได้ตอนกลางคืน กร๊าซซซซซซซซซซ
ทรูหนูเป็นอะไรTOT ขออถัยที่มาช้า
และน้อยด้วย วันนี้เมายากันยุงค่ะ ปวดหัวเลยT^T
วาดน้องฟิลเตอร์มาให้ยล (ปล.นิ้วปาดค่ะ>//<)



ตอนหน้าคู่คิระเซฟ(เจ้าของเรื่องแท้จริง555)
เดี๋ยววกมาแก้ประเด็น 3Pคู่นี้ต่อ  รอติดตามด้วยนะคะ><

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มันยังไงกันเนี่ย?ยังไม่เคลียร์

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ไอ้ความสัมพันธ์แบบนี้คือ??

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แหนะ จิทำอะไรอิพี่พายุ
ไปตามภูผามาแจมด้วยสิ >.<
อิอิ
ตอนหน้าคิระกะเซฟมาแว้ว

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่พายุก็คู่กับ พี่สาวฟิลไง  ส่วนฟิลก็คู่กับคุณผี แค่เนี๊ยยยย

ออฟไลน์ MIIN_PD

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มารอ มารอ ไรท์เตอร์ต่อไวๆนะ  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด