23.3รถยนต์สีดำจอดเทียบปิดตรอกแคบเป็นเชิงเตือนให้ผู้ผ่านไปมารู้ว่าไม่ควรย่างกายเข้ามาในตรอกแห่งนี้ รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันจอดต่อท้ายรถคันหน้า ร่างของผู้ชายสูงโปร่งเริ่มทยอยลงมาจากรถ ด้านซ้ายเป็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยามปกติดูสุภาพเรียบร้อยและยิ้มแย้มแจ่มใสแต่ตอนนี้กลับดูเงียบขรึม ถัดมาเป็นหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงใบหน้าแผงแววขี้เล่นกำลังเกาะไหล่ผู้ชายหน้าดุดันเจ้าของนัยน์ตาสีเลือด
“นั่งรอดูตรงนี้เงียบๆเข้าใจมั้ย”
ผู้ชายร่างยักษ์จุ๊ปากเหลือบตามองร่างสูงที่เดินอาดๆเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวคนจำนวนนับยี่สิบร่วมที่ยืนล้อมอยู่รอบกำแพง
ดวงตาโฉบเฉียวมีประกายลุกโชน มองตรงมายังผู้ชายตัวใหญ่ผู้กำลังยกมือลูบเส้นผมเตี้ยเกรียนแนบหัว จิมขยับปากทักหัวหน้าแก็งค์โรงเรียนสีทมิฬด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ไม่ได้เจอกันนานนะ”
อีกฝ่ายไม่ตอบเพียงแต่คงสีหน้าเรียบเฉยเป็นเอกลักษณ์ หนุ่มผมสกินเฮดยักไหล่เล็กน้อยเขาไม่ได้คาดหวังจะได้ยินเสียงตอบกลับจากอีกฝ่ายอยู่แล้ว
“เซฟอยู่ไหน” คิระถามเสียงหนักแน่น
“ถามหาสัตว์เลี้ยงก่อนเลยหรอ โน่น! นั่งกินอมยิ้มอยู่”
มือสำรองของจิมเบนหน้าไปทางผู้ชายร่างเล็กที่ถืออมยิ้ม ดวงตาสีเข้มตกลงเล็กน้อย ในสถานการณ์แบบนี้คนที่มีอารมณ์มานั่งกินอมยิ้มได้คงมีแค่PETของเขาล่ะมั้งที่ทำได้
“คิระ!!”
เซฟพุ่งตัวจะไปหาคิระ ผู้ชายสองคนที่ยืนกำกับด้านข้างรีบตะบบดึงไหล่เล็กตรึงไว้กับที่
เหมือนจะลืมใครไปอีกคน เจ้าของเส้นผมสีแปลกเบี่ยงสายตาออกจากรุ่นน้องแดนทะเลทราย เขาหันไปคุยกับเพื่อนผู้ควบตำแหน่งหัวหน้าด้วยเสียงไม่พอใจ
“กูไม่ช่วยมันได้มั้ย!”
คิระปลายตามองเพื่อนตัวเอง
“การช่วยรุ่นน้องเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่”
“มันเคยนับเราเป็นรุ่นพี่?”
เด็กหนุ่มผู้ถูกกล่าวถึงนิ่วหน้าแสดงอาการไม่พอใจเช่นกัน
“วันนี้หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ ผมเบื่อที่จะต้องข้ามมาเหยียบถิ่นคนอื่นแล้ว” ฟิลเตอร์เอ่ยขึ้น
“เหอะ! กลัวจะโดนกระทืบตายหรือไง” ฝั่งตะวันตกเย้ยหยัน
“ก็กะเอาให้ตายนะ พอไม่ตายมันก็กัดไม่ปล่อยแบบนี้~”
คาร์ลทำเสียงล้อเลียนจนอีกฝ่ายเริ่มเคาะกำแพงปลุกระดมกำลัง ฝ่ายโฮม่าที่มาสบทบเดินแทรกตัวมายืนเป็นแบ็คกด้านหลังข่มกำลังฝ่ายตรงข้ามบ้าง
“นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะขอคิดบัญชีเรื่องที่พวกนายทำและเรื่องที่รุ่นน้องนายทำ” จิมประกาศ
“ตกลง” คิระตอบกลับ
“เรื่องนี้พวกแกไม่เกี่ยว! อย่ามายุ่งได้มั้ย!”
เวสป้าตะโกนเสียงดัง หัวหน้าฝั่งตะวันตกเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“นี่แกไม่รู้กฎโรงเรียนแกเลยหรือไง”
เวสป้าทำหน้างงเช่นเดียวกับเซฟที่เบิกตางงๆ มองรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนขาวดำไปมา
“รุ่นพี่ต้องรับผิดชอบเรื่องที่รุ่นน้องก่อไว้ ไม่ว่ารุ่นน้องม.4จะไปตีกับโรงเรียนไหน ถ้าต้องการชำระแค้นคืนต้องท้ารบกับรุ่นพี่เท่านั้น” ฟิลเตอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงเหมือนอัดอั้นมานาน
“และตอนนี้เราก็กำลังทำเหมือนทุกๆครั้ง คืนการตามชดใช้หนี้แทนแก” คาร์ลเสริม
ดวงตาสีอ่อนของฟิลเตอร์ฉายแววหดหู่และเหนื่อยล้า ไม่ต่างกับคาร์ล คิระหันไปสบตาเพื่อนเป็นเชิงบอกว่าอย่าทำหน้าอย่างนั้นเลย เพราะยังไงเรื่องเหล่านี้...
“มันเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่”
เฟียสพูดเสียงเรียบนิ่ง รุ่นน้องตัวดีเสหน้าหลบสายตาที่มองมา ทุกๆครั้งที่เขาออกไปก่อเรื่องสิ่งที่เขาหวังคือให้พวกโรงเรียนอื่นมาแก้แค้นคืน ทุกๆครั้งที่ได้รับชัยชนะนั่นหมายถึงเพื่อนร่วมทางจะเชื่อมั่นในตัวเขามากยิ่งขึ้น หลงระเริงว่าพวกอริเกรงกลัว เป้าหมายที่จะล้มระบบรุ่นพี่รุ่นน้องคงบรรลุในไม่ช้า ในเมื่อพวกเขาแข็งแกร่งขนาดนี้
..แต่ทั้งหมดกลับไม่ใช่...
“ห้ามใช้อาวุธ ฉันอยากวัดฝีมือ”
ฝั่งตะวันตกปลดอาวุธ สัญญาณมือสับลงเป็นธงประกาศการโจมตี
ฝุ่นละอองสีเทาจากพื้นถนนพวยพุงขึ้นในอากาศ มันเป็นตัวแทนของควันคุกกรุ่นแห่งสงครามลูกผู้ชาย เสียงหมัดกระทบเนื้อลั่นดังฟังดูน่ากลัวตักสลับกับเสียงกระดูกลั่น ร่างของใครบางคนถูกหมัดเหวี่ยงใส่จนล้มระเนระนาด เสียงคำรามร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสดังระงมราวกับที่นี่เป็นโรงฆ่าสัตว์ก็ไม่ปาน
หัวหน้าสองฝ่าย อสูรกายแห่งเขตตะวันตกและซามูไรเยือกแข็งผลัดกันออกมาหมัดสู้กันอย่างสูสี ฝ่ายฉายาอสูรเหวี่ยงหมัดซัดเข้าใบหน้าเรียบเย็นหากแต่พละกำลังอย่างเดียวคงไม่พอสำหรับซามูไรที่คล่องแคล่วว่องไวในการหลบหลีก
“คิระ!! ”
ร่างเล็กร้องตะหนกเมื่อชายคนรักถูกซัดเข้าที่กลางท้องจนตัวงอ ถึงแม้คิระจะสามารถสวนกลับไปได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้เซฟเบาใจขึ้นเลย
“เพราะนายคนเดียว!! ทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนแบบนี้!! นายจงใจที่จะให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้วใช่มั้ย!!”
เสียงตำหนิด่าทอพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากบาง ใบหน้าใสแดงเข้มโกรธจัดจนเส้นเลือดปูนโปนออกมา หนุ่มอาหรับเม้มปากแน่นกล่าวสวนกลับไปยังผู้ดูแลบ้าง
“ฉันไม่ได้อยากให้มันมารับผิดชอบซะหน่อย!!”
“เพราะพวกเขาเป็นพี่ยังไงล่ะ!! เขาถึงรับผิดชอบทำหน้าที่รุ่นพี่! ถึงแม้นายจะไม่เคยเคารพเขาเลยก็ตาม!! นายเอาแต่อยากจะล้มระบบนี้!! ตอนแรกฉันไม่เขาใจนายหรอก! แต่ตอนนี้ล้มไปซะก็ดีคิระจะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบแทนรุ่นน้องเลวๆแบบนาย!!”
ราวกับถูกหมัดชกจนหน้าชา เวสป้านิ่งเงียบกัดปากแน่น
“จิมแย่แล้ว!”
ยักษ์ใหญ่ล้มลงกระแทกกำแพง ชายหนุ่มเยือกเย็นเง้อหมัดซ้ำจังหวะเดียวกับที่เสียงจากปลายกระปอกปืนลั่นออกไป
ปัง!
ร่างสูงโปร่งทรุดหวบยกมือกุ้มข้างท้องตัวเอง เลือดสีแดงข้นไหลทะลักออกมาราวกับน้ำพุ ท่ามกลางความตกตะลึงร่างเล็กที่ถูกตรึงให้นั่งอยู่อ้าปากกรีดร้องไม่เป็นภาษา หยาดน้ำตาไหลพรากลงสองข้างแก้ม ร้องตะโกนเรียกชื่อชายคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง
“คิระ!! คิระ!!”
ร่างเล็กดิ้นสะบัดล้มลุกคลุกคลานเข้าไปในวงล้ม
“ยิงทำไมวะ!!” จิมร้องกร้าวหน้าลุกเป็นไฟ
“ตำรวจมารีบหนีเร็ว!!”
กองหลังร้องตะโกนบอก นักเรียนชายวิ่งหนีกันชุลมุน เฟียสกับเข้าพุ่งเข้ามาดึงปีกคิระหิ้วขึ้นไปบนรถยนต์ที่จอดไว้เพื่อปิดตรอก ร่างเล็กรีบวิ่งตามขึ้นรถไปอย่างร้อนรน
“ทำใจดีๆไว้นะ!” ฟิลเตอร์ร้องหลังจากขึ้นประจำตำแหน่งคนขับ
“มึงขับทะลุไปเลย! เดี๋ยวกูล่อตำรวจเอง! ไอ้เด็กเวรมึงมากับกู!”
เฟียสสั่งฟิลเตอร์เสร็จก็หันไปลากคอเด็กหนุ่มจากทะเลทรายขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ คาร์ลเปิดประตูเบาะข้างคนขับพร้อมโบกมือให้ออกรถ รถคนหรูพุ่งทะยานฝ่าป้ายโฆษณาออกสู่ถนน เซฟจับร่างโงนเงนไว้ด้วยความเป็นห่วง รถคันนี้ดูขับอันตรายเหลือเกิน
“ไปไหนดีล่ะ!” ฟิลเตอร์ถามเสียงดังทั้งยังเหยียบคันเร่งมิด
“ไปบ้าน” คิระตอบเสียงเรียบ
“คิระ! จะบ้าหรอนายควรไปโรงบาล!”
เซฟร้องเสียงหลงน้ำตานองหน้า
“ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนไง” คาร์ลบอก
“จะบ้าหรือไง! คิระบาดเจ็บ! ยังให้ไปเปลี่ยนเสื้ออีกงั้นหรอ!!” คนตัวเล็กแผดเสียง
“เสื้อมันเปื้อน” คิระเอ่ยอีกรอบ
“คิระ!!”
คนตัวเล็กปล่อยโฮหนัก ดวงตาฝ้ามองเลือดสีแดงที่ไหลเต็มมือตัวเอง คิระกำลังคิดอะไร จะแกล้งพูดตลกให้เขาหายเครียดหรืออย่างไรกัน!
“เลิกสำออยสาดดด นี่มาไกลล่ะ!” คาร์ลเอ่ยเสียงกวน
ฟิลเตอร์กับเซฟถึงกลับตีหน้างงแทบไม่ทัน ชายหนุ่มผู้ถูกแขวะว่าสำออยเลื่อนมือลงไปใต้เสื้อปลดถุงพลาสติกบรรจุเลือดออกมา
“รีบไปบ้าน ฉันเวียนหัว” คิระเอ่ย ใบหน้าเขาซีดลง
“กูบอกให้เอาน้ำแดง เฟียสแม่งเสือกเอาเลือดสัตว์!” คาร์ลส่ายหัว
ฟิลเตอร์รีบเบรกรถกะทันหันเล่นเอาคนเบาะหลังแทบกระโจนไปนั่งเบาะหน้า
“นี่เลือดปลอมหรอ! ไม่ได้โดนยิงจริงๆหรอกหรอ!” ฟิลเตอร์หันหลังมาถาม
“คิระ! นี่นายทำบ้าอะไร! ฉันเป็นห่วงนายนะไอ้บ้า!!”
ร่างเล็กเดือดดาลชกหมัดเข้าไปที่ใบหน้าหล่อเต็ม ๆ เซฟเม้มปากแน่น อารามตกใจที่เห็นคิระถูกยิงทำเอาเขาเกือบช็อกตาย หัวใจเหมือนถูกบดเป็นเสี่ยง ๆ ตอนนี้เรื่องที่เป็นห่วงสุดชีวิตกลับกลายเป็นเรื่องละครไปแล้ว
“เดี๋ยวเซฟ!” คิระร้องเมื่อเจ้าตัวเล็กทำท่าจะลงจากรถ
“ไอ้บ้า!”
เซฟง้างหมัดจะต่อยคิระอีกรอบ เขาลดมือลงเป็นกระโจนเข้าสวมกอดร่างสูงไว้
“ถ้านายเป็นอะไรไป! ฮือๆ ฉันคงทนไม่ได้”
คิระลูบผมคนตัวเล็กที่ร้องไห้ฟูมฟายด้วยความสำนึกผิด ใจจริงเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เซฟตกใจเพียงแต่หากบอกแผนการไปใครสองคนในนี้คงกระโตกกระตากเล่นละครได้ไม่เนียน
“ไอ้เชี่ย! ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนวะ! กูเป็นห่วงนะเว้ย!”
คำหยาบที่หลุดออกมาจากหนุ่มที่สุภาพที่สุดทำเอาคิระและคาร์ลสะดุ้ง หากฟิลเตอร์ไม่เหลืออดจริงๆต่อให้ด่าพ่อล่อแม่ฟิลเตอร์ก็จะไหลดพูดคำหยาบออกมาเด็ดขาด
“ขอโทษ” คิระพูดเสียงเบา
“น่าๆ อย่าไปด่ามันเลยนะ” คาร์ลชูมือท่าห้ามทัพ
“มึงด้วย! หลอกกู” ฟิลเตอร์ตะโกน
“เออๆ กูผิดมาด่ากูเลยด่าให้พอ! มาเดี๋ยวกูเล่าให้หมดเลย!”
คาร์ลเริ่มบรรยายฉากละครที่ถูกจัดขึ้น ตั้งแต่ให้โรงเรียนฝั่งตะวันตกไปพาตัวเซฟและเวสป้ามา แกล้งพูดกรอกหูซ้ำ ๆ ว่ารุ่นพี่ยอมเสียสละและรักรุ่นน้องมากขนาดไหน ปิดท้ายด้วยการให้คิระถูกยิงเพื่อตอกย้ำให้รุ่นน้องหัวรั้นรู้สึกผิด
“จิมกับเฟียสเป็นเพื่อนตอนเรียนประถมที่อเมริกา โรงเรียนเราก็เป็นพันธมิตรกับเขตตะวันตกจะร่วมมือกันแกตาคงไม่แปลก” คาร์ลเอ่ยยิ้มๆ
“แล้วเรื่องที่พวกนั้นจะแก้แค้นล่ะ! ที่เวสป้าไปก่อเรื่องไว้..” ฟิลเตอร์เอ่ยถาม
“เออ อันนั้นก็จริงเลยอนุโลมให้ฉากตะลุมบอลต่อยจริงไง มือขวาจิมหมัดหนักชิบ! แทนที่จะไปจับคู่กับไอ้เฟียสดันมาจับกับกู! ซวยชิบ!”
“แค่นี้เองหรอ”
ชายหนุ่มขี้เล่นชูนิ้วชี้ส่ายไปมาเป็นเชิงบอกว่า ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
“สุดท้ายก็แผนเกลี้ยกล่อม ไม่รู้จะรอดมั้ยนะ”
คาร์ลถอนหายใจ คนในรถก็พอจะรู้ว่าแผนช่วงสุดท้ายใครเป็นผู้ดำเนินการต่อ
รถมอไซค์คนใหญ่จอดลงริมท่าเรือ เวสป้าก้าวเท้าลงจากมอเตอร์ไซค์ยืนรอคนขับรถลงมาด้วยอีกคน ดวงตาสีเขียวสดเหลือบมองใบหน้าเคร่งเครียด เขารู้ตัวว่ารุ่นพี่ผู้นี้ไม่ชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไหร่
“จะไม่ขอบคุณแล้วเดินกลับบ้านไปเลยก็ได้นะ” เฟียสเอ่ยดัก
เวสป้านิ่วหน้าเล็กน้อยจ้องมองไปยังผู้ชายที่ยืนกินลมชมวิวแม่น้ำ
“ทำไมต้องมาช่วยฉัน” หนุ่มรุ่นน้องเอ่ย
“ฉันไม่ได้ช่วยแก”
เด็กหนุ่มก้มหน้าเหมือนรู้คำตอบล่วงหน้า
“แต่ถ้าพูดในฐานะรุ่นพี่ ฉันจะบอกว่าฉันมาช่วยเพราะแกเป็นรุ่นน้องฉัน”
“ฉันไม่ได้นับแกเป็นรุ่นพี่! ทำไมแก..!”
“เพราะฉันนับไง! ทั้งคิระ ฟิล คาร์ลและทุกคน! ตั้งแต่วันแรกที่พวกแกก้าวข้ามประตูเข้ามาในโรงเรียนพวกแกคือรุ่นน้องคนสำคัญของฉัน! คนสำคัญที่ฉันจะปกป้องไม่ยอมให้ใครมาทำร้าย! นั่นเป็นสิ่งที่พวกพี่ๆทำต่อกันมา เมื่อถึงตาฉัน! ฉันก็อยากทำให้ดีที่สุด!”
“ฉันไม่ได้อยากให้แกมารับผิดชอบแทนฉันเข้าใจมั้ย! ถึงมันจะเป็นกฎแกก็น่าจะบอกฉัน!”
“เพราะเป็นกฎที่จะให้รุ่นน้องรู้ไม่ได้ มันเหมือนดาบสองคม อยู่ที่พวกแกจะเลือกว่าจะหันคมออกหรือจะหันคมเข้าหารุ่นพี่”
ร่างสูงย่างก้าวออกไปที่ริมแม่น้ำ ทอดมองไปยังพื้นน้ำที่สะท้อนแสงไฟสีเหลืองทองอร่าม
“แกคงรู้ใช่มั้ยว่าแกหันคมดาบของแกไปทางไหน”
เด็กหนุ่มก้มหน้า ความรู้สึกผิดรอบด้านกำลังถาโถมเข้ามากดตัวเขาให้จมไปกับท้องน้ำ
“รุ่นน้องเนี่ย... เป็นภาระมากสินะ”
หนุ่มรุ่นน้องถามทำให้ใบหน้าคมสันกระตุกเหยียดมุมปาก
“ใช่..”
“หึ! แกก็คิดแบบนั้นนี่!”
“แต่ก็ละทิ้งไม่ได้”
“กำลังปั่นหัวฉันอยู่ใช่มั้ย! แกจะสื่ออะไรกันแน่!”
“แกไม่มีวันเข้าใจหรอก เพราะแกยังไม่ได้เป็นรุ่นพี่”
ร่างสูงหันหน้ากลับมาประจันกับหนุ่มรุ่นน้องชาวทะเลทราย มือหนายกขึ้นวางเบาๆบนไหล่กว้างก่อนจะเอ่ยพูดต่อ
“สายสัมพันธ์ของรุ่นพี่รุ่นน้องในโฮม่าไม่ใช่แค่คำว่ารุ่น แต่เราทุกคนเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน ในเวลาที่สู้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลข้างหลังเพราะทุกคนรู้ว่า...ข้างหลังพวกเขามีพี่น้องคอยคุ้มครองเราอยู่ พี่น้องที่พร้อม...จะตายไปด้วยกัน
แกรู้มั้ย ตั้งแต่แกเริ่มก่อเรื่องหาเรื่องตีกับคนอื่นไปทั่ว พวกฉันนั่งปวดหัวกันมากแค่ไหน ต้องเดินตรวจตราทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ บางวันก็ต้องเดินตั้งแต่หลังเลิกเรียนยันตีสามเพราะแม่งเสือกนัดตีกันตอนตีหนึ่ง ตีกันหาพ่อหาแม่แม่งหรือไง! ยังไม่พอผอ.กับสภานักเรียนที่ไม่ทำห่าอะไรเลยก็โยนเรื่องของมึงมาให้พวกกูประหนึ่งโยนขี้ไว้แล้วจากไปไม่มาตาม กูบอกตรงๆว่ากูโคตรเหนื่อย กูระอา กูบอกคิระว่าพอเถอะ! แต่มันไม่ยอมและเอาแต่ย้ำคำเดิม..”
เสียงทุ้มเว้นระยะก่อนจะกลั่นคำออกมาจากก้นบึ้ง
“...มันเป็นหน้าที่... แต่มึงรู้มั้ยในคำว่าหน้าที่ๆมันว่าคืออะไร”
ดวงตาสีเขียวส่ายระริกเล็กน้อย ไม่มีคำใดๆหลุดออกมาจากปากเขา
“หน้าที่ของพี่ไง กูก็ไม่เข้าใจนักหรอกว่าทำไมต้องไปกังวลอะไรนักหนา ให้แม่งยกเลิกไปกูก็จะได้ไม่เหนื่อยด้วย! แต่กูก็เสือกมาร่วมทำหน้าที่พี่ซะได้ เหอะๆ
คงเพราะกูอยากเห็นน้องของกูที่ผ่านประตูโรงเรียนเข้ามาวันนั้นได้ก้าวขึ้นมาอยู่จุดเดียวกับกูวันนี้ และให้น้องของกูได้ทำหน้าที่เป็นพี่...เป็นพี่...และเป็นพี่ ต่อไป
กูจะไม่ยอมให้มึงมาทำทำคำว่าพี่น้องหายไปเด็ดขาด! ต่อให้พวกมึงจะทำให้กูปวดหัวขนาดไหน!”
เฟียสพูดเสียงจริงจัง เวสป้าอ้าปากค้างชั่วครู่ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ ให้ตายสิ เกือบซึ้งแล้วนะเนี่ย”
“นี่มึง!”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอ้การเป็นรุ่นพี่มันสนุกขนาดไหน มันทำให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆหรอ”
“หึ”
ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มแค่นเสียงในลำคอเล็กน้อย
“ก้าวขึ้นมาอยู่จุดเดียวกับฉันให้ได้สิ แล้วแกจะรู้”
เด็กหนุ่มขยับยิ้มยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย
...มันจะรู้สึกภูมิใจขนาดนั้นเลยหรอ...
มันทั้งดูเหนื่อย และยากลำบาก รอยฟอกช้ำบนใบหน้า รอยแตกของเลือดที่หางตาและแผลเก่าที่ยังไม่หายดีปรากฏชัดบนใบหน้าคมสัน
..ถึงเป็นแบบนี้ ก็ยังไม่ยอมแพ้อีกงั้นหรอ...
“ถ้าฉันไม่รู้สึกแบบนั้นแบบที่แกว่า ฉันจะต่อยแก”
“ให้ล้างหน้ารอเลยก็ได้ หึ!”
รอยยิ้มบางๆฉาบลงบนใบหน้าบึ้งตึงเมื่อครู่ เป็นใบหน้าที่ดูดีกว่าเมื่อครู่ขึ้นมากเลยทีเดียว
...ทำไมถึงยิ้มออกมาแบบนั้น...
...การได้เป็นพี่มันมีความสุขขนาดนั้นเลยหรอ...
“ฉันจะลองเข้าใจมันดูหน่อยแล้วกัน”
..การเป็นน้องเนี่ย...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อารมณ์ลูกผู้ชายพุ่งพร่านมาก555+ วันหยุดไม่ค่อยได้อัพเลยอ่า
ไม่โน่นไปนี่ พอบอกอัพวันเว้นวันคนก็งงๆ อืมมมมมม
เอางี้แล้วกันนะคะ
UP! จันทร์-ศุกร์ เว้นวันหยุดและวันหยุดราชการถ้ามีอะไรแทรกก็อาจไม่ได้อัพนะคะ บางอย่างก็กระทันหัน
แต่ถ้าอันไหนมีในตารางล่วงหน้าจะแจ้งบอกว่าไม่อัพอะไรงี้ๆนะคะ
