29.2หน้าถนนทางเข้าโรงเรียนเซนต์โฮม่า มีกลุ่มนักเรียนชายสองฝั่งยืนประจันหน้ากัน ทั้งสองกำลังถกเถียงอะไรบางอย่างอยู่ ก่อนจะละสายตามายังร่างสูงใหญ่ของผู้ชายสามคนที่เดินเข้ามาใหม่
“โย่! ฉันนึกว่านายจะเริ่มฟัดรุ่นน้องฉันแล้วซะอีก”
อีริคกล่าวทักทายพระพาย หนุ่มน้อยร่างจิ๋วแต่แจ๋ว คิ้วโค้งมนเลิกขึ้นพร้อมกับคายไม้จิ้มฟันในปากออก
“ฉันไม่ลดตัวลงไปสู้กับเด็กหรอก” พระพายตอบกลับมา
“แม้ว่าเด็กนั่นจะสูงกว่านายน่ะหรอ” ครอสเปรยเหน็บ
“หุบปากไป!! ไอ้โย่ง!!”
เสียงตวาดเรียกรอยยิ้มมุมปากบนใบหน้าครอส เปโรหัวเราะแห้ง ๆ มองดูเจอจอมมาโซของเขา
“วันนี้คงต้องขอให้นายเก็บธงกลับบ้านไป” อีริคพูดต่อ
“อืม...ฉันต้องถามตามหรอ?”
พระพายทำหน้ายียวน อีริคเองก็เริ่มรู้สึกอยากจะเตะไอ้ลูกหมานี่ซักป้าบ
“ถ้าจะเอาธงฉันออก ก็ต้องออกกำลังกายหน่อยนะ!”
หัวหน้าฟอเทียกระดิกนิ้วเรียกรองหัวหน้ากลุ่มออกมาจัดการหัวหน้าฝ่ายตรงข้าม
..นี่แหละที่รอคอย...
เฟย์ชกหมัดสวนไปกลางหน้าอีริค แต่อีริครู้ทันจึงเบี่ยงหลบ หนุ่มฮ่องกงรัวหมัดซ้ายขวาใส่อย่างรวดเร็วจนแทบจะมองไม่ทัน กระนั้นอีริคก็ยังยืนยิ้มเอื้อมมือไปผลักหัวเฟย์หยอกเป็นครั้งคราวเท่าที่ช่องว่างจะเอื้ออำนวย
“กึด!”
หนุ่มหน้าสวยกัดฟันแน่น เจ้ายักษ์นี่คิดจะเล่นหยอกไก่กับเขาหรือไง ยิ่งโดนลอบเอานิ้วจิ้มแก้มเฟย์ยิ่งเดือดดาล ถลาตัวเข้าไปประชิดร่างสูงใหญ่ก่อนพิชิตชัยด้วยการจับอีริคทุ่มพื้น
“Knockout!”
“ยังหรอก”
ครอสหันไปดักคนที่กำลังยินดีกับชัยชนะ พระพายหรี่ตามองครอสอย่างไม่เป็นมิตร เขาไม่ชอบนักหากเวลาเขาพูดแล้วโดนคนขัด
ฟึ๊บ!
หมัดหนักหน่วงถูกเหวี่ยงใส่ครอส โชคดีที่เขายกมือรับไว้ทันไม่งั้นหน้าหล่อๆของเขาอาจช้ำเลือดได้
“ลอบกัดหรอ?”
“ฉันเห็นว่านายว่างอยู่ก็เลยอยากเล่นด้วย~”
น้ำเสียงกังวานเอ่ยอย่างสนุกสนาน แต่ใบหน้าละอ่อนเผยยิ้มไร้เดียงสา(?) แต่ดวงตากลับฉายแววเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก
“งั้นพี่จะเล่นกับน้องเองนะครับ”
“ใครน้องแกวะ!!”
ใบหน้าที่แอ๊บใสเปลี่ยนเป็นแยกเขี้ยวทันทีที่ได้ยินคำว่า “น้อง” สำหรับคนตัวเล็กอย่างเขา คำว่า “เตี้ย น้อง ตัวเล็ก” ถือเป็นคำต้องห้าม! อย่าเรียกเขาด้วยคำพวกนี้เด็ดขาดไม่งั้นล่ะก็!
พลั่ก!
ใบหน้าหล่อสะบัดไปตามมิศทางของแรง เขาลิ้มรสเค็มจางจากเลือดที่ไหนซึมในช่องปาก ผลจากการยั่วโทสะหัวหน้าฟอเทียทำโทษมาสู่ตัวเขาเสียแล้ว
“เฮ้! คิดบ้างมั้ยว่าเราควรเจรจากัน!”
อีริคที่เอาแต่หลบลูกเตะโพ่งออกมาเสียงดัง
“ไม่เว้ย!!”
เสียงตอบแววมาจากทางพระพาย แหงล่ะ เขารู้อยู่แล้วว่าหนุ่มมังกรของเขากำลังมุ่งมั่นล้มเขาอย่างเดียว ไม่มีทางที่จะตอบอะไรเขาหรอก
“ฉันคิดเกมดีๆได้ เรามาเล่นกันมั้ย!” อีริคตะโกนต่อ
“ฉันไม่ใช่เด็กนะเว้ย!!” พระพายว้ากกลับมา
“เลิกยั๊วะเจ้าเตี้ยนี่ซะที! มันบ้าใหญ่แล้ว!”
ครอสตะโกนกลับ ยิ่งไปยั่วโมโหพระพายเขายิ่งโดนต่อยหนักยิ่งกว่าเดิม
“แกน่ะแหละที่ยั๊วะฉัน!!”
“ฉันหรอ?”
ครอสทำหน้าไม่รู้เรื่อง
“ตำรวจมา!!!”
เสียงดังมาจากกลุ่มโฮม่า นักสู้สองคู่หยุดชะงักลง พระพายและเฟย์ถอยกลับไปที่กลุ่มเช่นเดียวกับอีริคและครอส
“ล้อเล่น~”
ตัวต้นเสียงยืนยิ้มยิงฟันขาว เขาผู้นั้นคือเปโรนี่เอง
“ตลกหรอไอ้เผือก!” พระพายตวาดอย่างโมโห
“นี่ด่าฉันหรอ? เผือก?” เปโรงงงันไปสามวินาที
“เออสิวะ! ไอ้เผือก! ไอ้ฝรั่ง!”
“ด่าเป็นผลไม้เลย ครีเอตชะมัด เริ่มจี๊ด ๆ แล้วแหะ ฮ่าๆ”
“แก!”
อีริคนึกอยากขอบคุณเปโรที่ช่วยทำให้พระพายนิ่งซะที แต่ตอนนี้เขาเริ่มอยากจะเตะเพื่อนตัวเองเสียแล้ว
...จะไปยั่วมันอีกทำไมวะ!...
“หยุดๆก่อน!”
อีริคเข้าไปขวางระหว่างพระพายกับเปโร เขาอยาจะใช้โอกาสตรงนี้พูดเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง
“ช่วยหยุดฟังฉันซักครู่..”
“ทำไมฉันต้องทำตาม!”
“ทำไมต้องถาม ก็บอกให้ฟังอยู่นี่ไง”
“แกเป็นพ่อฉันหรือไง!”
รอบนี้เปโรเป็นคนเข้ามาลากอีริคออกมาห่าง ๆ พระพายก่อนที่อีริคจะเส้นประสาทขาดผึ่งพุ่งไปเปิดศึกอีกรอบ
“ฉันว่าลองฟัง...”
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน! เฟย์!”
“ไม่ฟังก็ไสหัวไป รำคาญ! พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง ฉันก็พูดภาษาหมาไม่เป็นหรอกนะ!”
อีริคเอ่ยประชดหนัก เขามองใบหน้าสวยที่ดูซึมลงเพราะโดนตวาด น่าสงสารซะจนเขาอยากจะเข้าไปกอดปลอบเลย
“ว่ามา! ถ้าไร้สาระฉันจะกลับทันที!”
พระพายเอ่ยพลางกอดอกแน่น
“ฉันอยากให้เรามาเล่นเกมกัน”
“เกมไร!”
“PET’S GAME”
ทุกคนทำหน้างง อีริคกระแอมเล็กน้อยก่อนจะอธิบายต่อ
“คือ การจับอีกฝ่ายมาเป็นสัตว์เลี้ยง”
“อืม ฟังดูน่าสนใจ ว่าต่อไป!”
“เราจะใช้ปลอกคอสวมจับนักเรียนอีกฝ่าย คนที่ถูกจับจะอยู่ในสถานะสัตว์เลี้ยง ต้องรับใช้เจ้านาย”
“น่าสนุก เอาสิ! มีกติกาอะไรอีกมั้ย?”
“แค่จับมารับใช้ก็เท่านั้นแหละ”
“ระยะเวลาการเป็นสัตว์เลี้ยงล่ะ?”
“ตั้งแต่เริ่มจับจนถึงสิ้นสุดการเรียนปีสุดท้าย”
“น้อยไป! เอาจนกว่าเจ้านายจะเป็นฝ่ายปล่อย!”
อีริคยักไหล่เล็กน้อย คุยกับคนเอาแต่ใจเขาก็คงต้องตามใจ
“ตามนั้น!”
“งั้นฉันก็ตกลง! จะเริ่มเล่นเมื่อไหร่!”
“พรุ่งนี้”
“จัดไป! แล้วเจอกัน”
“เดี๋ยว เพิ่มกติกาอีกข้อก่อน!”
อีริครีบบอก ดูรูปการณ์แล้วคนที่พระพายจะจำคงเป็นเขาแน่ ๆ
“คนที่มีสถานะเป็นเจ้านายอยู่แล้ว จะเป็นสัตว์เลี้ยงคนอื่นอีกไม่ได้”
“ทำไมล่ะ!”
“เราจะกระจายให้ทุกคนได้เล่นเกมนี้ จับกันเป็นทอด ๆ ในวงจรก็มีแต่ผู้ล่า ต้องมาแย่งกันเป็นใหญ่ แล้วมันต่างอะไรกับที่เราเป็นตอนนี้ นายไปกลัวว่าใครคนหนึ่งในแก๊งนายจะจับเพทได้มาจนรวมกลุ่มมาโค่นนายหรือไง”
“ใคร? ใครจะกล้า?”
พระพายเหลือบมองไปทางเฟย์ ถ้าเทียบศักยภาพทางด้านฝีมือเขากับเฟย์อาจจะสู้สีกัน แต่ถ้าเทียบด้านสังคมตัวเขาอาจจะได้คะแนนติดลบ ที่เขาได้ขึ้นแท่นมานั่งบนจุดสูงสุดนี่ได้ก็เพราะรุ่นพี่เป็นคนเลือก ถ้าหากมีการเปิดโหวตจริงๆล่ะก็ ตำแหน่งนี้คงตกเป็นของเฟย์แน่นอน
“เอาตามนั้น! หมดแล้วใช่มั้ย!”
“จบหมดแล้ว กลับบ้านได้”
พระพายสะบัดตัวเดินกลับ ยังคงไม่ละสายตาจากเฟย์ เฟย์เองก็รู้ตัวว่าถูกมองอย่างไม่เป็นมิตรแต่ก็ทำได้เพียงก้มหน้าเดินตามโดยไม่ปริปากใด ๆ
“เฟย์!”
เฟย์หันไปตามเสียงเรียก เขาชักสีหน้าไม่พอใจทันทีเมื่อรู้ว่าอีริคเป็นคนเรียก
“พรุ่งนี้อย่าลืมมาเอานะ!”
อีริคโบกสร้อยที่ห้อยจี้หยกแผ่นขนาดเท้าปลายนิ้ว เฟย์เบิกตาเล็กน้อยรีบยกมือแตะไปตามเสื้อตรวจดูสร้อยตัวเองที่แขวนอยู่
..ไม่อยู่แล้ว..
เขาจิกตามองไปยังหัวขโมยมือดีที่แอบดึงไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว อีริคยืนยิ้มส่งจนร่างโปร่งเดินลับตาไป
ดวงตาสีใบไม้เหม่อมองท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆฝนบนท้องฟ้าพากันกลั่นตัวตกลงสู้พื้นดิน อีริคหยิบนาฬิกาพกข้างลำตัวขึ้นมาดู ตั้งแต่เลิกเรียนจนมานั่งรออยู่ตรงนี้เวลาก็ล่วงเลยไปถึงหกโมงเย็นแล้ว มองไปรอบตรอกแคบที่รายล้อมไปด้วยลูกกรง ที่นี่คือสนามชกมวยชันดีที่นักเลงย่านนี้ชอบมาปะลองกัน เขาจึงเลือกทำเลนี้เพื่อดักจับเจ้าของสร้อยหยกชิ้นนี้
“สงสัยจะแห้ว”
ไร้วี่แววเจ้าของดวงตาโฉบเฉี่ยวสีนิล อีริคถอนหายใจ หยกนี้อาจไม่สามารถเรียกร้องความสนใจได้ รู้อย่างงี้เขาควรจะคว้ามือถือที่กระเป๋าด้านหลังของเฟย์ ถ้าไม่ติดว่ากลัวควบคุมตนเองไม่อยู่ เผลอจับอย่างอื่นแทน
“ไปหลงทางอยู่ที่ไหนหรือเปล่าหว่า”
คว้ามือถือขึ้นมาเลื่อนดูเบอร์มือถือในเครื่อง สโตกเกอร์ระดับอีริคย่อมมีเบอร์เหยื่อไว้ในเครื่องอยู่แล้ว เมื่อพบหมายเลยที่ต้องการเขาก็กดโทรออกทันที ไม่กี่อึดใจปลายสายก็รับ
“ฮัลโหล นี่ฉันอีริค”
เขาพูด ปลายสายกลับเงียบ มีเพียงเสียงลมพัดและเสียงซ่าของสายฝนดังแทรกเข้ามา
“เฮ้?”
ปลายสายยังคงเงียบ สร้างความเป็นกังวลให้กับอีริคเป็นอย่างมาก เฟย์จะเป็นอะไรไปหรือเปล่า...หรือแค่ไม่อยากพูดกับเขา เหอะ ๆ แค่คุยโทรศัพท์ยังไม่ยักกะคุย หนทางอันสว่างไสวที่จะมีรักหวานชื่นของต้องดับมอดจนก่อไม่ติด
“ถ้าไม่ตอบฉันจะโยนสร้อยนายทิ้ง”
ตัดสินใจที่จะเอ่ยยั่วโมโหกลับไป
และมันก็ได้ผล เสียงปลายสายตอบกลับมาทันที
(ฉันจะฆ่านาย)
เสียงซ้อนดังแว่วอยู่ใกล้ ๆ หู อีริคขยับตัวหันหา มันทันที่จะหันคอครบ 180 องศาลำคอเขาก็รู้สึกแสบอย่างประหลาด เขาก้มมองมือสีขาวที่จับมีดกดข้างคอของเขา เส้นผมตรงเหยียดสีดำสนิทแผ่กระจายลงบนไหล่เขา ดวงตาสีเขียวตวัดมองใบหน้าเรียบนิ่งที่เลื่อนข้ามบ่าเข้ามา เขาจึงทราบได้ทันทีว่าคนที่เอามีดจ่อคอเขาคือใคร
คน ๆ นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก…เฟย์
+++++++++++++++++++++++++++
มาอย่างกับจูออน นั่งแต่งอยู่ดีๆก็รู้สึกเสียวสันหลัง
เผลอทำน้องริคคี้หลอนเฟย์ไปซะได้
