สวัสดีค่ะ เขียดศรีกลับมาอีกครั้ง พร้อมตอนพิเศษ
ส่วนใครที่ยังรอรูปเล่ม รอเดี๋ยวนะคะ เขียดจะส่งตอนพิเศษทั้งหมดให้สำนักพิมพ์ภายในเสาร์นี้เด้อ
ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ให้กำลังใจเสมอมา
ตอนพิเศษ ยืนมองท้องฟ้าไม่เป็นเช่นเคย ฤดูร้อนไม่มีเธอ 1
“บลู... วันนี้พี่ทำโอ รถปูนมาตอนตีสอง พี่คงนอนไซต์งานเลย ไม่ต้องรอนะ”เฮียปั้นบอกขณะขณะที่เรากำลังจดจ่อกับมื้อเช้า
“อืม”ผมตอบรับแค่นั้น
“โห... น้องโปรทานข้าวกับมะม๊าสองคนอีกล่ะ”น้องโปรทำแก้มพองลม
ดีมากลูก พองมันเข้าไป พองให้ไอ้คนที่มันจ้องจะทำแต่โอทีจนปล่อยปะละเลยลูกเมียมันสำนึกผิดไปเลย
“อย่างอนน๊า...ปะป๊าก็ทำงานหาเงินมาซื้อของเล่นให้น้องโปรไงครับ”โปรตอนเบะปากก่อนจะตักข้าวต้มใส่ปากเงียบๆ
“น้องโปรทานข้าวเสร็จแล้วก็ดื่มนมให้หมดด้วยนะครับ”ผมบอกโปรตอนตัวน้อยสุดที่รักของผม
“คร้าบโผม”โปรตอนเอาหัวมาถูๆแขนผม... ลูกผมมันกระล่อนติดใครมาวะ “มะม๊า เลิกเรียนแล้วไปกินติมกันน๊า”มื้อเช้ายังไม่ทันจะหมดเลยลูกกู
“ดูก่อนนะ”ผมไม่อยากรับปาก เพราะเดี๋ยวงานงอกขึ้นมากะทันหันแล้วไปไม่ได้ โปรตอนจะงอแงขึ้นมาอีก
“คร้าบ”แล้วโปรตอนก็ยกแก้วนมมาดื่มจนหมด “มะม๊าปะป๊า โปรตอนไปเข้าห้องน้ำนะ ปวดฉี่”เจ้าตัวเล็กบิดไปบิดมาบนเก้าอี้เพื่อยืนยันว่า...กูปวดจริงๆ
“ครับ...ล้างมือแล้วก็ไปรอมะม๊าที่รถเลยนะ”ผมบอกก่อนจะวางช้อน แล้วเก็บชามของผมกับโปรตอน
“งื่อ”
“ไม่งื่อโปรตอน”คือเวลาโปรตอนครางตอบงื่อๆมันก็น่ารักน่าฟัดสุดตีน แต่ผมไม่อยากให้โปรตอนติดเป็นนิสัยอ่ะ...เสียบุคลิก
“ครับผม”ผมหัวเราะกับท่าทางขึงขัง
เมื่อโปรตอนวิ่งไปห้องน้ำแล้ว ผมก็กลับมาเผชิญหน้ากับไอ้เฮียที่นั่งมองผมอยู่เงียบๆ เวลาภาระหน้าที่มักทำให้คนเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมเองตอนนี้ก็เรียนจบมาสองปีมีรายได้รับงานฟรีแลนซ์เล็กๆน้อยๆ กับรับติวให้เด็กๆในวันเสาร์
ทำไมผมไม่ทำงานที่เดียวกับเฮีย ทั้งที่บริษัทก็เสนอเงินเดือนให้ผมมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวัน โปรตอนคือเหตุผลเดียวที่ผมมี ผมอยากอยู่กับลูก ถึงจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข แต่ผมก็ไม่อยากให้เขารู้สึกขาด...จริงๆนะ เหตุผลนี้จริงๆนะเว่ย ไม่ใช่เพราะงานมันหนัก แล้วกูขี้เกียจเลยนะเว้ยยย
ผมยืนล้างจานอยู่ในครัวสักพัก ก็มีชามอีกใบมาวาง ก่อนที่วงแขนแน่นๆของใครบางคนจะรัดเอวผมไว้ คางสากๆจากหนวดเคราที่เพิ่งขึ้น ทำให้ผมต้องหนีบคอเพราะความจั๊กจี้ ผมล้างจานเสร็จก็เช็ดมือให้แห้ง ก่อนจะพยายามแงะแขนไอ้เฮียออก
“งอนพี่หรอครับ”เชื่องอย่างกับลูกแมว
อย่าเพิ่งเข้าใจชีวิตคู่กูผิดกันนะครับ ที่จะเห็นมันออดอ้อนออเซาะแบบนี้ก็เฉพาะเวลามันทำห่าอะไรผิดสักอย่างเท่านั้นแหละครับ ปรากฏการณ์นี้มันไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน
“ปล่อยดิเฮีย บลูจะเก็บชาม”ผมบอกเสียงเรียบๆ... เดี๋ยวนี้เลิกงอนง๊องแง๊งแล้วเว่ย
โตแล้ว
ต้องงอนอย่างมีระดับ
“อย่างอนนะ พี่อยากทำโอที่ไหนกัน อยากกลับบ้านมาอยู่กับเมียใจจะขาด”เดี๋ยวปั๊ดเอาตีนนาบหน้า ตอแหลหน้าด้านๆ รถปูนตอนตีสอง มันจำเป็นต้องรอกันทั้งแผนกปะอิเฮียยยย... ถึงกูจะหล่อแต่กูก็ไม่โง่นะโว้ยย “งั้นพี่ไม่ทำโอก็ได้นะ”มามุขนี้อีกแล้วอิห่า
“ทำไปเถอะ”ผมหันไปยิ้มให้มัน... ทั้งที่ในใจกูอยากกระทืบให้ตาย
“พี่รักบลูนะ”ไอ้เฮียจูบหน้าผากผมก่อนจะหอมแก้มอีกที
“หวายๆ กิ๊วๆ มะม๊ากับปะป๊าสวีทกันไม่อายเด็กเลยอ่ะ”โปรตอนล้อไปก็ส่ายตูดกวนตีนผมไปด้วย... ว่าแต่ลูกกู มันกวนตีนติดใคร
ติดไอ้เฮียมาแน่ๆเลย...เพราะผมออกจากเรียบร้อย อ่อนโยนซะขนาดนี้
“แซวมะม๊าเดี๋ยวจะโดน”ไอ้เฮียมึงนั่นแหละที่จะโดน...ขู่ลูกแต่เสือกหอมแก้มกูเนี่ย
“ม่ายกลัว ม่ายกลัว”โปรตอนส่ายตูด แต่พออิเฮียทำท่าจะเข้าไปหา เจ้าตัวดีก็กรี๊ดลั่นก่อนจะโกยแน่บออกไปจากครัว
“บลูจะไปส่งโปรตอนแล้วนะ”ผมเช็ดชาม ก่อนจะเอาไปเก็บไว้ในตู้
“ขับรถดีๆนะ”ผมพยักหน้า “พี่รักบลูนะ”ไอ้เฮียพูดจบก็จุ๊บปากผมเร็วๆ
ผมเดินออกมาจากบ้าน เจ้าตัวดียิ้มหน้าระรื่นอยู่ในรถมินิคูเปอร์ของผม ทันทีที่ผมเข้ามาประจำที่คนขับ เจ้าตัวเล็กก็หัวเราะคิกคัก เห็นแล้วอดหมันไส้ไม่ได้ ผมเลยดึงแก้มยุ้ยๆนั่นไปที
“เอ็บอ่า”ผมปล่อยมือ ก่อนจะจรดจมูกหอมแก้มนิ่มแรงๆ
“ไปโรงเรียนกันดีกว่า”โปรตอนปีนมาหอมแก้มผม ก่อนหยิบรีโมทย์ไปกดเปิดประตูรั้ว
ผมส่งโปรตอนที่โรงเรียนเสร็จก็กลับมานั่งทำงาน ไอ้เอมเป็นคนคอยหางานมาให้ผม ส่วนมากก็เป็นงานที่มันทำไม่ทัน ... ถ้าทำทัน คิดว่ามันจะมาถึงกูหรอ
อยู่นอกบ้าน โปรตอนจะเรียกผมพี่บลู ไม่ใช่ว่าผมอายที่จะถูกเรียกว่ามะม๊า แต่เพราะผมรำคาญสายตาที่มองประหนึ่งว่ากูเป็นเกย์โรคจิต ที่มีมโนรมณ์อยากเป็นแม่ทั้งที่ไม่มีรังไข่
อีกทั้งไม่อยากให้ใครมองโปรตอนแปลกๆด้วย
ผมส่งแบบให้ไอ้เอมในเมล์เสร็จ ก็มาเล่นเฟสบุ๊คที่ยังยัดยืนคู่สังคมไทยมาชั่วนาตาปี ตอนแรกเล่นของตัวเอง แต่พอระลึกถึงพฤติกรรมแปลกๆของสาระมี ผมก็เลยล็อกเอาท์ของตัวเอง แล้วล็อกอินของอิเฮียแทน
ทันทีที่เข้ามา ผมก็ใจเต้นแปลกๆเมื่อเห็นแชทเฟสที่เด้งขึ้นมากระจุย ผมไล่ดูแล้วไม่ค่อยมีปัญหา เพราะอิเฮียมันถามคำตอบคำกับทุกคน... รู้สึกภาคภูมิใจในตัวสาระมีตัวเองจริงๆ
ติ้ง!!
ห๊า... ใครวะ รูปโปรดูแก่ฉิบหาย
‘มอร์นิ่งค่ะสุดหล่อ’ป้าเป็นใคร?
ถือนโยบายรักการอ่าน แต่ไม่ได้รักการตอบก็แล้วกัน... เผื่อเป็นญาติผู้ใหญ่เฮีย
หน้าวอลก็มีป้าแกมาโพสต์ด้วยนี่หว่า
‘เย็นนี้เจอกันนะคะ’เจอ...เย็นนี้หรอ
ด้วยความที่ผมถือคติว่าผู้หญิงอย่างหยุดสวย ผู้ชายอย่าหยุดเสือก ผมเลยดอดไปส่องเจ้แกทันที เห็นรูปเล็กว่าแก่แล้ว เจอรูปใหญ่ๆเข้าไปแก่ยิ่งกว่า...โบกหน้าซะหนาเชียว
หน้าวอลเจ้แกไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่เซ้นท์ผมแม่งดันบอกว่าน่าสงสัยฉิบหาย
ติ้ง!
วันจันทร์ซะที ดีใจจังได้เจอพี่ปั้นแล้ว...คิดถึง
ปรี๊ดเลยกู ปรี๊ดเลย รีบเข้าไปส่องอย่างไวว่ามันเป็นใครมาจากไหน สืบๆดูจึงรู้ว่าน้องเกย์สาวคิ้วหนาคนนี้เป็นเด็กฝึกงานที่แผนกอิเฮีย
ผมปิดเฟสบุ๊คเพราะได้เวลาไปรับโปรตอนที่โรงเรียน ตลอดทางที่ขับรถผมก็พยายามสงบสติอารมณ์ ทำใจเย็นๆ อย่าแรง อย่าใช้อารมณ์ กูเป็นนางเอก เป็นโสรญา... กูเป็นดาวพระศุกร์!!
“พี่บลู!!”โปรตอนเรียกเสียงดังก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผม ผมกอดโปรตอนแน่น ก่อนจะอุ้มโปรตอนมาเหน็บที่เอว “คิดถึงๆๆๆ”โปรตอนหอมแก้มผมรัวจนเหล่าแม่ๆกับคุณครูต่างพากันหัวเราะให้กับความน่าเอ็นดูของเด็กน้อยและหนุ่มหล่อ(กูเอง) “กินติม”กูว่าแล้ว ไอ้บอกคิดถึงๆเนี่ย
“ก็ได้ครับ”ผมหันไปยิ้มให้คุณครูที่มองอยู่ “ขอตัวนะครับ โปรตอนสวัสดีคุณครูเร็ว”
“สวัสดีครับ”โปรตอนยกมือไหว้อย่างว่านอนสอนง่าย
ผมขับรถไปคุยเรื่องไอติมกับโปรตอนไปก็สรุปได้ว่า เจ้าแก้มย้วยมันอยากจะกินไอศกรีมแมงโก้ เค้ก แต่กินสองคนคงไม่หมด จะให้เอาไปกินบ้านก็เบื่อบรรยากาศอีก
“ปะป๊าน่ามาด้วย”โปรตอนบ่นอุบอิบ
เอ๊ะ!! เหมือนกูจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ทำทีซื้อไอติมไปกินกับไอ้เฮียดีไหม จะได้แอบไปดูมันด้วยว่ารอรถปูนจริงหรือเปล่า
“โปรตอนอยากไปบริษัทปะป๊าไหม”โปรตอนตาพราวทันที เพราะว่าเจ้าเด็กซนมันไม่เคยไปไง
“ไปๆๆ”
“งั้นเดี๋ยวเราซื้อไอติมไปกินกับปะป๊ากันนะครับ”โปรตอนพยักหน้า นั่งกระดี๊กระด๊าโดยหารู้ไม่ว่า...กำลังโดนมะม๊าหลอกใช้อยู่
ซื้อแมงโก้เค้กขนาดสามปอนด์กับควอทมาอีกสองถัง(มันเรียกเป็นถังปะวะ) ผมเก็บไอติมลงกระเป๋าเก็บความเย็นที่อยู่ในรถ การมีโปรตอนอยู่ทำให้ผมเหมือนจะลืมเลือนอารมณ์โกรธไปจนเกือบหมด ผมขับรถมาถึงที่บริษัท พี่ยามที่ดูเหมือนจะจำผมได้ก็เข้ามาทัก
“เห็นพี่ปั้นบ้างไหมครับ”ผมถามสีหน้ายิ้มแย้ม
“อยู่ข้างในครับคุณ เพิ่งกลับจากไซต์งานเมื่อกี้เอง”ผมขอบคุณพี่ยามเสร็จ ก็สะพายกระเป๋าเก็บความเย็น ล็อกรถ แล้วจูงมือโปรตอนเข้าไปในตึก
ผมกดลิฟต์ขึ้นมาชั้นที่ต้องการ ทันทีที่ลิฟต์เปิด ผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้สี่โมงกว่าแล้วคนอยู่กันเต็ม แถมยังดูวุ่นๆ แสดงว่าวันนี้ทำโอทีกันจริงๆ... ว่าแต่ไอ้เฮียอยู่ไหนวะ
“อ้าว...น้องบลู”เสียงทักเมื่อผมออกมาจากลิฟต์ทำเอาโปรตอนตกใจจนต้องเกาะขาผมแน่น “แล้วนี่ลูกใครเนี่ย”
“หวัดดีครับพี่เอก มากับผมก็ต้องลูกผมสิ”ผมยกมือไหว้ผู้จัดการ
“มาเช็คหรอ”ตาลุงนี่มองออกด้วย
“ไม่เช็คหรอกพี่”ผมตอบอย่างยิ้มแย้ม “เห็นเฮียว่าวันนี้ทำโอกัน ผมเลยซื้อไอติมมาฝาก”พี่เอกหัวเราะ ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ผมว่าจะเดินไปรอที่ห้องรับรอง แต่อิเฮียก็ดันโผล่หัวออกมาพอดี พอเห็นผมมันก็ตกใจ ก่อนจะยิ้มออกมา ส่วนโปรตอนที่ดูตื่นคนก็เลิกเกาะขาผมแล้ววิ่งไปหาไอ้เฮียแทน
“ปะป๊า”โปรตอนร้องเสียงแหลม
“ว่าไงตัวแสบ วันนี้ดื๊อหรือเปล่า”เฮียปั้นอุ้มโปรตอนเหน็บข้างเอว
“ไม่ดื๊อเลย ปะป๊าทำงานเหนื่อยไหม”โปรตอนซบหัวกับไหล่ไอ้เฮีย “โปรตอนซื้อติมมาให้ปะป๊า ปะป๊าได้หายเหนื่อย”ไอ้เฮียยิ้มกว้าง
ซึ้ง ซึ้งสิมึง
ฮือออ กูยังซึ้งเลย
“เฮียยุ่งอยู่เปล่า”ผมถามแบบเกรงใจ๊เกรงใจ
“ไม่หรอก มีเวลาสักพักก่อนไปไซต์งาน”ไอ้เฮียปล่อยโปรตอนลงบนพื้นห้องรับรอง
ขอเท้าความหน่อยนะครับ บางคนอาจสงสัยว่า เฮ้ย กูจำได้ ผัวมึงเรียนเครื่องกล แต่ไฉนตอนนี้มาทำสายโยธา คือใช่ครับอิเฮียมันจบเครื่องกล แต่บ้านมันทำอสังหาริมทรัพย์อ่ะครับ มันก็เลยต้องมาเรียนรู้งานธุรกิจครอบครัว
“งั้นกินไอติมกับน้องโปรนะ”เฮียปั้นพยักหน้า ผมก็จัดการตัดเค้กมะม่วงใส่จาน ก่อนจะเอามาเสิร์ฟคุณชายทั้งสอง ในขณะที่สองคนกำลังเอร็ดอร่อยผมก็เอาไอ้ติมที่ซื้อมาทั้งหมดไปแช่ช่องฟรีซในโซนครัว
พอทั้งสองคนกินเสร็จผมก็เก็บจานมาล้าง ซึ่งก็มาป๊ะกับคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เหมือนเพิ่งจะเห็นในเฟซบุ๊ค
ผมยิ้มทักทายอิป้าไปหนึ่งที แต่อิป้าแม่งไม่ยิ้ม แถมเชิดใส่กูซะอีก
“ต้องตามมาเฝ้าเลยหรอคะ คนเขาจะทำงานทำการ ก็ต้องมาเกรงใจน้องกันใช่ไหมคะเนี่ย”ป้ากระแหนะหระแหน แต่ผมไม่ตอบโต้ว่ะ
“เอ่อ บลู นี่พี่เก๋นะ อยู่ฝ่ายบุคคล”ไอ้เฮียที่ตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เอ่ยแนะนำ
“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้อิป้า “แต่พ่อเฮียใช้งานคนคุ้มเลยนะเนี่ย ขนาดพี่เขาอยู่ฝ่ายบุคคลยังต้องมารอรถปูนด้วยเลย”ผมพูดขำๆแต่จริงๆเหน็บอิป้ามันอยู่
“แหะๆ”หัวเราะได้เหี้ยมากอิเฮีย
“บลูกลับเลยละกัน เย็นแล้วต้องพาโปรตอนไปทานข้าวก่อน เฮียก็กินข้าวด้วยนะ ไก่แก่ๆหนังเหนียวๆก็ไม่ต้องกระแดะไปกินล่ะ เดี๋ยวฟันจะหลุด”ประโยคสุดท้ายผมจ้องอิเฮียนิ่ง ก่อนจะผละไปจูงโปรตอนที่เหวี่ยงกระเป๋าเก็บความเย็นไปมาอย่างสนุกสนาน
“เดี๋ยวพี่ลงไปส่งนะ”
“ไม่ต้องหรอกเฮีย แค่นี้เอง”ผมฉีกยิ้มหวานสร้างภาพ
ผมไม่ใช่พวกระบอบเผด็จการ ที่แบบผัวข้าใครอย่าแตะใครอย่าต้อง คิดแย่งมีตบ คืออย่างแรกนะครับ ผมเป็นผู้ชาย ถึงจะมีผัว แต่สรีระร่างกายก็ยังเป็นผู้ชายแมนๆที่สูง178และเป็นอดีตกัปตันทีมคาราเต้มหาลัย ดังนั้นการตบตีแย่งชิงจึงดูเป็นอะไรที่น่าประณามฉิบหายถ้าผมทำลงไป
อย่างที่สอง ผมว่าการที่เราต้องมาหึงหวงตลอดเวลามันไม่ความสุขว่ะ เกิดมามีผัวหล่อก็ต้องทำใจ เพราะขนาดคนของเราถ้าเขาจะนอกใจนอกกายเรายังห้ามไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนภายนอก ที่เราไม่สามารถจะเอาอะไรไปห้ามใจห้ามความคิดเขา
ในอดีตผมยอมรับว่าผมอาจจะตอแหลปลิ้นปล้อนกระล่อนฉิบหาย แต่เดี๋ยวนี้คนเรามันต้องมีชั้นเชิงขึ้นเว้ย โตๆกันแล้วมุขดราม่าน้ำตานองเรียกร้องความสนใจมันใช้ไม่ได้ผลแล้วแน่นอน ดีไม่ดี ร้องไห้ไป มันจะรำคาญแล้วกระโดดถีบซ้ำเอาเสียด้วย
“กลับถึงบ้านเมื่อไหร่โทรบอกด้วย”ไอ้เฮียพูดเรียบๆ ผมก็พยักหน้า
“สู้ๆนะเฮีย”ผมจูงโปรตอนมาที่ลิฟต์
“บ๊ายบาย ปะป๊า”เมื่อลิฟต์เปิดเจ้าแก้มย้วยก็บอกลาเสียงใส
“บ๊ายบายครับ”อิเฮียโบกมือให้จนประตูลิฟต์ปิดลง
“มะม๊า...”โปรตอนกระตุกมือผม
“ครับ...”
“ปะป๊าไม่กลับบ้านบ่อยๆ...มะม๊าเหงาไหม”น้ำตาจะไหล ทำไมโปรตอนของผมถึงเป็นดีและอ่อนโยนขนาดนี้
“ไม่หรอกครับ ก็มะม๊ามีโปรตอนแล้วจะเหงาได้ไง”ผมยิ้ม เจ้าตัวดีก็ยิ้ม
ถ้าพูดตามตรง เวลาโปรตอนอยู่ด้วยผมก็ไม่เหงาหรอก แต่ทุกครั้งที่ลูกไปโรงเรียนหรือหลับไปแล้ว ผมก็เหงานะ แต่ด้วยเวลาภาระหน้าที่ที่เปลี่ยนไป จะให้ผมมางอแงดีดดิ้นมันก็ใช่เรื่อง ถึงจะเหงา จะเซ็งจะเศร้ายังไงก็แล้วแต่ ผมก็ทนได้ เพราะด้วยความรู้สึกที่ว่าถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด แต่เราก็ยังรักกันตลอด... มันยังคงล่อเลี้ยงใจผมอยู่
ผมพาลูกไปกินข้าวอาบน้ำทำการบ้านแล้วจบด้วยเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน ทุกอย่างเป็นเป็นไปเหมือนทุกวัน แต่จะมีที่ไม่เหมือนทุกวันก็ตรงที่วันนี้ผมมีกิจกรรมพิเศษในการจัดการปรสิตชีวิตรักให้เด็ดขาด
ให้ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการจัดการอิป้าหรืออิน้องฝึกงานเลยก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อันใด เพราะถึงขจัดสองตัวนี้ออกไป แต่เดี๋ยวก็มีรายใหม่เข้ามา ดังนั้นการจัดการที่คนของเราต้องได้ผลชะงัดกว่าแน่นอน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด... ตอนนี้ผมต้องมีสปาย
ผมเข้าเฟสอิเฮียแล้วก็ไล่ดูเพื่อนที่ทำงานมันไป พวกผู้ชายนี่น่าจะไม่หักหลังอิเฮียแน่นอน ดังนั้นควรจะเป็นพี่แอมกับน้องขวัญที่เป็นผู้หญิง แถมยังไม่เคยลงไซต์งาน ดังนั้นในกรณีที่เกิดการกระทำต่ำช้าซึ่งนำพามาซึ่งการทำร้ายจิตใจผม สองคนนี้ก็น่าจะไม่เกี่ยว เพราะไม่ได้ไปด้วย แต่คนเราทำงานด้วยกันครึ่งค่อนวัน ก็ต้องมีคนหลุดคุยกันแล้วมาถึงหูสองคนนี้แน่ๆ
ขึ้นออนไลน์อยู่ด้วยแฮะ
‘สวัสดีครับพี่แอม นี่บลูนะครับ วันนี้ได้ทานไอติมที่ซื้อไปฝากไหมเอ่ย’ผมเอ่ยทักอย่างสุภาพ
‘แอร๊ยย น้องบลูทักพี่ด้วย เขินจัง... อร่อยมากเลย ขอบคุณนะคะ’
‘วันนี้ไม่ได้เข้าไปทักพี่แอมเลย เห็นยุ่งๆกันอยู่’
‘ยุ่งสิคะ ก็น้องฝึกงานที่มาใหม่ พี่ให้เอาแบบแปลนไปวางไว้ที่โต๊ะพี่เอก แล้วน้องนางดันไปวางที่ไหนก็ไม่รู้ ไฟล์งานพี่ก็ไม่ได้เอามา โดนพี่เอกหัวเจ็ดแสนห้าหมื่น(เกือบล้าน)จวกยับ ยืนแทบไม่อยู่เลยค่ะ’ผมหัวเราะลั่น กูยังคิดไม่ได้เลยนะ มุขเจ็ดแสนห้าหมื่น
‘โห แล้วทำยังไงครับเนี่ย น้องเขาก็จำไม่ได้หรอครับ’
‘จำได้ค่ะ แต่นางลาครึ่งวันไปทำฟันค่ะ โทรก็ไม่ติด พี่ขอลากไอ้ขวัญเข้ามาได้ไหมคะ เพราะพี่เล่าคงมันส์ไม่เท่า’
’55 ลากมาเลยครับ’ดีเลย จะได้ไม่ต้องทักหลายหน้า ‘ดีครับน้องขวัญ พี่บลูเองนะ’ผมทักไปก่อนเมื่อน้องโดนลากเข้ามา
‘ดีค่ะสุดหล่อของน้อง เราก็ว่าแปลกๆ ทำไมวันนี้พี่ปั้นมันคุยกับพี่แอมกับขวัญได้วะ’ขวัญตอบ‘แล้วทำไมวันนี้ใช้เฟสซะมีอ่ะเคอะ เช็คหรอ ฮ่าๆๆๆ’
‘ไม่มีอะไรให้เช็คอ่ะดิ... พี่แค่เข้ามาส่งของในเกมส์’
‘คิดถึงจังเลย วันนี้สุดหล่อมาไวเคลมไวมากอ่ะ ตอนเค้าออกไปหา ตัวก็กลับไปแล้ว’น้องขวัญมันบ่น
‘อย่างอนนะคะคนสวยของพี่’ม่อบนหน้ากูเริ่มออก
‘ฉันไม่สนผู้ชายเรืองพ่วงค่ะเธอ...ฉันไม่มีปัญญาเลี้ยง’ขวัญมันบอก
‘แต่ฉันมีปัญญาเลี้ยงนะแก...น้องบลูคะ พี่เงินเดือนมากกว่าไอ้ปั้นห้าพันค่ะ’
‘555 เราไปตกลงธุรกิจในเฟสบลูดีกว่า ในนี้เดี๋ยวเฮียปั้นมันรู้ตัว’คิดถึงตอนไอ้เฮียมาอ่านผมก็ฮาล่ะ
‘ได้ค่ะ’น้องขวัญบอก
‘ถ้าสนใจมีเมียแก่ สปอร์ต ไม่ทำโอ โทรหาพี่นะคะ’ผมถึงกับฮาแตก พี่แอมที่เหน็บแนมเก่งสาดดดด
ผมล็อกเอาท์ของไอ้เฮียก่อนจะล็อกอินของตัวเอง ผมลากพี่แอมกับน้องขวัญมาคุยสนทนาโต้คารมณ์กันอีกครั้ง
‘พี่บลูมีไรจะถามขวัญกับพี่แอมเปล่า เราใจๆนะ’น้องขวัญเปิดประเด็น
‘พี่ก็กะจะถามเรื่องทำโอแหละ เห็นช่วงนี้ทำทุกวัน’
‘โอก็มีให้ทำค่ะ แต่จริงๆแค่แห่กันไปตั้งวงก๊งเหล้าที่ไซต์งานค่ะ’น้องขวัญตอบ ถ้าแค่กินเหล้าผมก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง
‘แต่น้องบลูคะ อย่าว่าพี่ยุอะไรเลยนะคะ ระวังอิพี่เก๋กับน้องนนท์มันหน่อยก็ดีนะคะ เดี๋ยวนี้วนเวียนรอบห้องไอ้ปั้นกันเป็นสัมภเวสีเลยค่ะ’อ่า... เป็นแบบที่ผมคิดจริงๆด้วย
‘พูดถึงอิน้องนนท์ แม่งกวนตีนค่ะ วันนี้ขวัญกับพี่แอมโทรกันโทรศัพท์แทบไหม้ มันไม่รับ พอสักพักมันโทรกลับมา แทนที่จะโทรมาเบอร์พี่แอมกับขวัญ มันเสือกโทรหาสะมีเธอค่ะ’มือสั่นเลยกู มือสั่น
‘ดีนะคะสามีพี่กลับบ้านเร็ว เลยส่งงานมาให้ทัน...ไม่งั้นมีหวังพี่โดนอิพี่เอกมันตัดหัวเสียบประจารหน้าบริษัทแน่ค่ะ’เรื่องก็ซีเรียส แต่ทำไมกูฮา
‘ดีแล้วครับที่พี่แอมไม่โดนเอาหัวไปเสียบน่าบริษัท บลูสงสารบริษัท’
‘ที่รักจะบอกว่า หัวพี่เป็นเสนียดใช่ไหมคะ’
‘กร๊ากกกกก’
‘เปล่าครับ บลูหมายถึงว่าน่าเสียดายคนเก่งๆอย่างพี่แอมตางหาก...จริงๆนะ’
‘จะไม่เชื่อก็เพราะไอ้จริงๆนะเนี่ยแหละ... จริงๆน้องบลูระวังแค่น้องนนท์คนเดียวก็ได้เนาะขวัญ เพราะพี่เก๋มันแก่แล้ว ตีนกามันเจริญแทนรอยหยักในสมองหมด’ผมเห็นด้วยนะตรงนี้ คนที่แสดงออกตรงๆน่ะรับมือไม่ยากหรอก
‘แต่อิน้องนนท์ต้องระวังนะคะ อินี่ท่าทางจะร้ายไม่เบา’ที่ขวัญว่ามันก็ใช่... แต่ที่ร้ายกว่านั้น มันเด็กกว่าผม ใสกว่า และดูจะแรดกว่าด้วย
ผมคุยสัพเพเหระกับไอ้เอมไอ้เฟาแล้วก็พวกสายลับจับเมียน้อยจนถึงสี่ทุ่มก็ต้องขอตัวไปนอนก่อน เพราะถ้านอนดึกหน้ามันจะไม่บริ้งค์อ่ะ เดี๋ยวสู้รบปรบมือกับเด็กไม่ไหว
เช้าวันอังคารผมตื่นมาตอนหกโมงเช้า ไอ้เฮียนอนหลับอยู่ ผมค่อยๆลุกจากเตียง ไปอาบน้ำแปรงฟัน ก่อนจะไปปลุกโปรตอนแล้วลงไปเตรียมมือเช้า เมื่อเข้าไปเช็คโปรตอนอีกครั้ง ผมก็เดินไปปลุกไอ้เฮีย
“เฮีย... ตื่น”ผมเปิดผ้าม่าน ไอ้เฮียก็พลิกตัวหลบแสง
“บลู พี่ปวดหัว” ผมก็นั่งขอบเตียง ไอ้เฮียก็เอาหัวมาหนุนตักผม “พี่ไม่สบาย”กูรูแล้วไอ้สัด... ก็เล่นแดกเหล้าแทบทุกวัน ไม่ป่วยก็ยอดมนุษย์แล้ว
“อืม เดี๋ยวโทรไปลางานให้”ผมลูบหัวไอ้เฮียอย่างอ่อนโยน ทั้งที่จริงๆอยากจะ จิกหัวมันขึ้นมาแล้วตบซ้ำให้สร่างไข้
“อือ”
“เฮียนอนพักนะ เดี๋ยวพาน้องโปรไปส่งแปป”ไอ้เฮีย แล้วมึงจะกอดกูแน่นกว่าเดิมเพื่อ...
“ต้องไปจริงๆหรอ”อ้อนตีนแต่เช้า “จูบก่อนแล้วจะปล่อย”แล้วถ้ามึงไม่ปล่อยกูจะจูบยังไง มึงนึกว่าเมียมึงเป็นนักกายกรรมเปียงยางรึไงสัด จะได้ก้มหน้าขนาดนั้นได้ กูคนนะเว่ย ที่สำคัญกูแก่ด้วย กูก้มไปทีเส้นกูไม่ยึดหรอห๊ะ
“บลูก็เขินเป็นนะเฮีย”ได้แต่คิดครับ ... หนูมิกล้า
ไอ้เฮียยิ้มตาเยิ้ม ก่อนจะพยายามหอบสารร่างให้ลุกขึ้นนั่ง มือเรียวเป็นเอกลักษณ์ลูบที่ข้างแก้มผมเบาๆ ก่อนจะประกบ สอดลิ้นเข้ารุกรานโพรงปากผมแต่เช้า แต่ยังไม่ทันที่สติผมจะหลุดลอยไปไกลเพราะริมฝีปากอุ่นๆของไอ้เฮีย...มารตัวน้อยก็โผล่มา
“หวายๆ กิ้วๆ”แล้วก็รีบวิ่งหนีไปเลย
“โปรตอนอย่าวิ่ง เดี๋ยวตกบันได”ผมตะโกนบอก อิเฮียก็ทิ้งตัวลงไปนอนยิ้ม
“บลูไปแล้ว”ผมแสร้งทำเขิน มโนว่ากูโมเอะฉิบหาย
ไอ้เฮียหัวเราะเบาๆ ผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปกินข้าวเช้า ก่อนจะออกไปส่งโปรตอนเฉกเช่นทุกวัน ขากลับผมแวะตลาด หาซื้อของกะว่าจะไปทำกับข้าวให้คนป่วย เลยทำให้กว่าจะถึงบ้านก็เก้าโมงกว่า
ผมจอดรถเสร็จก็เดินเข้าบ้าน แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อมีรองเท้าผ้าใบที่ผมไม่คุ้นตาจอดอยู่คู่หนึ่ง ผมเดินเข้าไปในบ้าน ก็เห็นเฮียปั้นนั่งกินข้าวต้มอยู่ โดยที่ข้างๆก็มีบุคคลที่ผมรู้จักหน้าค่าตาแต่ยังไม่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ
“บลู นี่น้องนนท์ น้องที่ฝึกงาน..”ไอ้เฮียแนะนำ เด็กน้อยวัยละอ่อนใส่ชุดเสื้อช้อปกางเกงยีนส์ให้ผมรู้จัก “นั่นพี่บลู แฟนพี่”น้องนนท์ยกมือไหว้ผมทั้งรอยยิ้ม
“สวัสดีครับพี่บลู”
“สวัสดีครับ”ผมรับไหว้งงๆ
“พี่เอกให้น้องมาเอางานอ่ะ”ไอ้เฮียเฉลย ผมก็พยักหน้า
“แล้วน้องนนท์มายังไง”ผมถามอย่างเป็นมิตร ทั้งที่จริงๆอยากจะถามว่า มึงมาทำไมมากกว่า
“มาแท็กซี่ครับ”
“เดี๋ยวตอนกลับพี่ไปส่งล่ะกัน”กลับเลยไหมล่ะ...กูพร้อม
“เดี๋ยวผมกลับแท็กซี่เองก็ได้ครับ”น้องก็ไม่ได้ออกสาวนะ แต่รูปในเฟสแม่งดูสาวจริงๆอ่ะ
“ไม่ต้องเกรงใจ”น้องนนท์ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำไมวะ กูแค่จะไปส่งไม่ได้พามึงไปฆ่าซักหน่อย
“เดี๋ยวพี่ไปส่งนนท์เอง บลูเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ”นี่ก็พ่อพระ...แต่ไหนว่ามึงป่วย
“ขอบคุณครับ เกรงใจจัง”เกรงใจไม่ทันแล้วมั้งมึง
“ก็ขับรถดีๆแล้วกัน”ผมพูดแค่นั้นก็หิ้วถุงพลาสติกเข้าไปในครัว อิเฮียก็เดินตามมา แถมดึงผมไปกอดต่อหน้าต่อตาน้องฝึกงานอีก... หึ สิ่งนี้แหละที่พี่ต้องการ
“รู้ว่าห่วง แต่บริษัทอยู่แค่นี้เอง”ผมก็พยักหน้า ก่อนจะเดินเอาของไปเก็บใส่ตู้เย็น
ไอ้เฮียมาไวเคลมไวอย่างที่คาดคิด เพราะถึงจะยังไง เฮียปั้นมันก็ไว้ใจได้ครับ แต่จะเสียก็ตรงที่มันไม่ค่อยระวังเนื้อระวังตัว ทิ้งระยะห่างกับใครไม่ค่อยเป็น
อิเฮียกลับมาก็เป็นตามที่กะไว้เลย พุ่งเข้าคลุกวงในทันที แล้วจบฉากตรงที่บลูรดา (เป็นญาติกับโสรญา) ผมโดนอุ้มขึ้นมาบนห้อง
“วันนี้พี่ไม่สบาย บลูเป็นพยาบาลนะ”ผมทำหน้างงๆ อิเฮียก็ไปรื้อตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดนางพยาบาลสไตล์นางเอกหนังเอวีที่มันซื้อมาให้ผมใส่เมื่อสองปีก่อนออกมา
ลมจะแดก ไอ้ชุดเหี้ยนี่อีกแล้ว เว้าหน้าเว้าหลังไม่พอ ยังสั้นจนปิดจวยกูไม่มิดด้วย ตอนที่มันซื้อแล้วผมใส่ครั้งแรก ผมแทบอยากเอาหัวโขกกำแพงตาย คือตอนนั้นผมโคตรล่ำอ่ะ เพราะฟิตหุ่น กล้ามขานี่เป็นลูกๆ หลังตีนก็เป็นเส้นเลือดขอด จะดีหน่อยก็ที่ช่วงนั้นซ้อมบ่อยเสียเหงื่อมากผิวเลยบริ้ง
ถึงตอนนี้ขากูจะเรียวไม่มีกล้าม หน้าใสผิวบริ้งเพราะการเทควิตามินเป็นกระบุง แต่เฮียครับ เฮียที่รัก...หลังตีนเมียมึงก็ยังคงเป็นเส้นเลือดขอดอยู่นะโว้ยยยย
แต่มีหรือที่สุดหล่อแสนดีอย่างผมจะมีปากมีเสียงทัดทานรสนิยมที่ไม่ถูกจริตของอิเฮียมันได้ อาบน้ำเตรียมตัว ล้างนอกล้างในเรียบร้อย ผมก็ใส่ชุด ลงแป้งทาลิปมัน โชคดีที่ผมเป็นคนไม่มีขนรักแร้ กูเลยไม่จะเป็นต้องลงทุนโกนเพื่อใคร
ผมจัดการตัวเองเสร็จ ก็ส่องกระจกอีกที คือไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่ไอ้ตัวกระผมมันก็น่ารักดูดีมากอยู่ ถ้าให้ใส่ชุดเมดหูแมว ยูกาตะ กิโมโน ฮันบก กูว่ากูเกิดอ่ะ แต่สำหรับไอ้สุดเชี่ยเนี่ยมันมีจุดประสงค์ให้โชว์นมเว่ย แล้วนมกูมันไม่มีไง มันก็เลยดูแห้งๆกรังๆแปลกๆ แถมชุดยังมาเป็นซีทรูอีก... ถุย!!
เอาเถอะ ยังไงก็เห็นกันแค่สองคน... คิดได้ดังนั้นผมก็ใส่สายผ้าที่รัดน่อง
“เสร็จแล้ว”ผมกระแทกเสียงอย่างเถื่อนก่อนจะเดินออกไป
“กร๊ากกกกกกกกก”ไอ้เฮียหัวเราะลั่น
“ทำไมต้องชุดพยาบาลด้วยวะ เปลี่ยนเป็นยูกาตะได้มะ”ผมหัวเสีย
“แบบนี้ก็น่ารักดีออก”ไอ้เฮียกลั้นขำหน้าดำหน้าแดง... ถ้าจะฝืนชมกูขนาดนั้นนะไอ้สัด
“แม่ง”ผมกรอกตา ไอ้เฮียก็กวักมือเรียก ผมก็เลยเดินเข้าไป
“เช็ดตัวให้หน่อยได้ไหมครับคุณพยาบาล”ผมทำท่าจะเดินกลับไปในห้องน้ำ “หมายถึงเช็ดด้วยลิ้นน่ะ”โอโห...มุขมึงล้ำมากอิเฮียยยยยยยยยยย
ผมคลานเชื่องช้าเข้าไปหาคนไข้ป่วยการเมือง ฉีกยิ้มหวานเล็กน้อย ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนหน้าท้องที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของเฮียปั้น
อยากเล่นคนไข้กับพยาบาลนักใช่ไหมมึง...ได้
แคว๊ก!!!!
ผมกระตุกคอเสื้อกล้ามอิเฮียจนขาดติดมือ
ผมแสยะยิ้ม ส่วนอิเฮียถึงกับหน้าซีด
“ยินดีต้อนรับสู่โรงพยาบาลโหดว่ะครับ”
-------
ตอนพิเศษเบาสมองจะตาย
เม้นท์บวกเป็นกำลังใจให้กันด้วยเน้อ
เด่ะวันสองวันเค้าจะมาต่อครึ่งหลังน๊า