ไวปะล้า
KICK 15 l อยากจะจูบ ก็ได้แต่ห่วง ก็ได้แต่หวง..
“จะทำอะไรก็เรื่องของมึง แต่ตอนนี้กูจะทำงาน”ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ เริ่มลงมือเขียนงานภาษาไทยต่อ...กูล่ะเชื่อ เขียนมาเป็นชั่วโมงไม่เสร็จซะที
ถึง จะทำเป็นไม่สนใจ แต่ขอบอกเลยนะครับ ผมได้ยินทุกเสี้ยววินาทีที่เตียงขยับเนื่องจากการเคลื่อนตัวของใครบางคน ที่ตอนนี้มันก็น่าจะมายืนอยู่ข้างหลังผมแล้วล่ะ... กวนส้นตีนปั๊บ กูกระทืบยับเลยนะไอ้สัตว์
“งั้น... จะทำอะไรก็ได้งั้นดิ”พูดจบ ไอ้คิงก็วางมือลงบนไหล่ผม
“กูจะทำงาน อย่าให้พูดซ้ำ เพราะไม่งั้นครั้งต่อไปกูจะย้ำมึงด้วยตีน”ผมพูดเรียบๆ เก็บงานที่เพิ่งเขียนเสร็จเข้าแฟ้ม ก่อนจะเอางานที่ไอ้เฮียทำค้างไว้มาทำต่อ
The secret of moonacre ... เปลี่ยนเรื่องให้กูด้วยไอ้เจ็ทแม่ม
“ไอ้โหดนั่นเขียนหรอ แหม คิงล่ะคลื่นเหียนจริงๆ กูจะอ้วก”ไอ้คิงพูดพร้อมทำหน้าคลื่นไส้
“กูบอกว่าไง ถ้ากวนตีน กูจะย้ำมึงด้วยอะไร”ผมตัดบทมันไป ทั้งที่ในใจก็แอบคิดแบบมัน กูล่ะขนลุก
“แตะไม่ได้เลยนะ”แล้วไอ้คิงก็ลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆผม “ชักจะอิจฉาแล้วดิ...ไม่ใช่สิ ชักอยากแย่งขึ้นมาจริงๆแล้วดิ”แล้วไอ้คิงก็เริ่มเปลี่ยนไฟลั่มตัวมันเอง จากแมวเป็นแมงมุม... หยุดไต่กูเถอะไอ้เหี้ย กูจั๊กเดี๋ยม
“มึงจะแย่งกูไปจากเฮีย รึแย่งเฮียไปจากกูล่ะ”ผมถามกลับเสียงเรียบ
“โหยยย ก็ต้องแย่งบลูดิ ไอ้วัวคลั่งนั่นเอาไปให้มันกระทืบคิงรึไง”ไอ้คิงทำหน้าตื่น
“เออ ก็จริงของมึง”มีหวังไอ้ยอดคิงมันได้ใส่เฝือกไปเรียนแม่งทุกวัน
“ว่าแต่บลูไม่อยากลองอะไรใหม่ๆบ้างหรอ”ไอ้คิงพูดกระซิบของหูก่อนจะหายใจรดพอ เป็นพิธี...ไอ้เหี้ย ขนลุก “ท่าใหม่ๆกับคนใหม่ๆ”อย่ามาชวนกูเล่นท่ายาก แค่อิเฮียก็โลดโผนจนกูยอกล่ะ ขืนมียากกว่านั้นกูคงตายห่ากันพอดี
ผมกดปริ้นงาน ในขณะที่มือของใครอีกคนก็เริ่มลูปไล้ไต่แขนผมไปเรื่อยๆจนตอนนี้ลมหายใจอุ่น ที่รดอยู่ริมหูมันเริ่มเคลื่อนมาอยู่บริเวณซอกคอแทน ผมเขยิบตัวหนีเล็กน้อยด้วยความรำคาญ...ไอ้ควาย กูจะทำงาน
ผมเก็บงานที่ปริ้นออกมาใส่แฟ้มเก็บใส่กระเป๋า สะบัดหัวสองสามที แล้วกระโดดขึ้นเตียง แล้วซุกหัวนอน(แม่งสวรรค์ของกูจริงๆ) ผมนอนไปได้ไม่นานก็รับรู้ถึงเตียงที่ไหวยวบ ก่อนจะตามมาด้วยแขนใครบางคนที่รัดเอวผมซะแน่น... ชักจะเอาใหญ่แล้วเหี้ยนี่
ด้วยความอึดอัดและรำคาญผมเลยแกะมือมันออก พร้อมถีบตัวมันออกไปสุดแรง แต่คุณรู้ไหมครับ พอผมถีบมันออกไป สักพักมันก็จะกลับมากระแซะใหม่ ถีบไปได้สักสามสี่ทีผมแม่งก็เริ่มทนความเมื่อยตีนไม่ไหว เลยถีบมันค้างเอาไว้แม่งเลย...กูว่าไล่มันไปตั้งแต่ทีแรกก็จบแล้วล่ะ
“มึงรู้ไหมเฮียปั้นไปไหน”ผมถามมันท่ามกลางความมืด
“ไม่รู้ดิ ทำไมต้องรู้ด้วยอ่ะ”มันพูดจบผมก็ออกแรงถีบแบบเต็มตีน จนตอนนี้ไอ้คิงก็ได้ไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“กูไม่ได้แดกหญ้านะไอ้คิง คิดว่ากูไม่รู้หรอว่าหลินกับมึงร่วมมือกัน”ไอ้คิงฟังแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะคลานขึ้นมาบนเตียง
“สะพานพุทธ”มันบอกแล้วก็ถอนหายใจ
ฟังจบผมก็ลุกขึ้นจากเตียง หยิบกระเป๋าตังค์ คีบแตะฮิปโปสีม่วงเหลือง มองชุดนอนลายทางของตัวเองอีกที เปลี่ยนชุดดีไหมวะ อย่าเปลี่ยนเลยเสียเวลา ผมจับที่ลูกปิดประตู แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกไป แขนเสื้อผมก็โดนรั้งไว้โดยใครบางคน
“ถ้าคิงขอไม่ให้ไป”ฟังแล้วรู้สึกคุ้นๆว่ะครับ
“กูขอโทษ”เหล้าปั่นที่พานพุทธกำลังรอกูอยู่
“งั้นก็คิงขอโทษ”อะไรของมึงเนี่ย
“ห๊า ฮึก”แล้วคำถามที่ผมมีในใจก็ถูกตอบด้วยการกระทำ... มึงเอาผ้าเหี้ยอะไรมาปิดจมูกกูเนี่ย ไอ้เหี้ยเดี๋ยวสิวขึ้น
เวรเอ๊ย!!! นี่ผมกำลังโดนโปะยาหรอวะครับ สติผมเริ่มเลือนราง ขาที่เคยทรงตัวได้อย่างมั่นคงก็อ่อนยวบ มือที่เคยจับลูกปิดประตูไว้แน่นก็อ่อนแรงลง
ผมทิ้งตัวลงอย่างฝืนไม่ได้ ไอ้คิงเข้ามารับร่างผมไว้ ก่อนจะยัดอะไรบางอย่างเข้ามาในปากผม ไม่เคยคิดจริงเลยครับ ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าวันหนึ่งผมจะต้องมาง่อยเปลี้ยจนช่วยตัวเองไม่ได้ เจ็บใจ...น้ำตาไหลเลยแม่ง
“ไม่ต้องร้องนะครับ เด๋ยวก็ได้ไปสวรรค์แล้ว”เสียงไอ้เหี้ยคิงก็ฟังดูเลือนรางแปลกๆ
ผมค่อยๆปรือตาลงอย่างฝืนไม่ได้ ถ้ากูต้องเสียตัวให้ไอ้เหี้ยคิง ก็เป็นเพราะมึงแหละไอ้เฮีย ไอ้เหี้ย!!!
ในขณะที่ผมกำลังยอมรับชะตากรรมของตนเอง แสงสว่างที่เล็ดรอดจากประตูก็ขยายวงกว้างขึ้น จนตอนนี้มันทำผมแสบตาเหลือเกิน... อย่าบอกว่ากูตายแล้วนะ ไอ้เหี้ยคิง มึงให้กูแดกยาพิษเรอะ แล้วไอ้ที่บอกไปสวรรค์นี่คือ สวรรค์จริงๆ ที่มีเง็กเซี่ยน เหล่ากงเหล่าม่าใช่ไหม
****
แสงแดดที่สาดเข้ามาราวกับจะเผาหนังหน้าผมให้ไหม้ ทำให้ผมยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความล้า ผมจำได้รางๆว่าก่อนผมจะหลับไป ผมโดนไอ้คิงโปะยาสลบ แล้วยาแม่งก็คุณภาพดีซะด้วย กูก็สลบทันใจมันจริงๆ ว่าแต่ผมเป็นไรวะ เมื่อยชิบหาย
ผมขยับตัวเล็กน้อย ผมยังอยู่ในชุดนอนตัวเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคงมีแต่ความเมื่อยที่แล่นผ่านไปทั่วร่างกายนี่ล่ะ ผมขยับตัวอีกที แต่ก็ต้องพบก็ซากอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ผมแม่งอยากจะพุ่งหลาวลงไปเซิงกลับคอนกรีตให้สมองไหลแม่ง... กูเกลียดตัวเอง
ทำไมคอนดอมต้องสีชมพูวะ กูเกลียดสีชมพู... ไม่ใช่ล่ะ ผิดประเด็น
ซ่าาาา
เสียง น้ำกระทบพื้นที่ดังมาจากห้องน้ำ ทำให้ผมล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ถ้าคนที่อาบน้ำอยู่เป็นไอ้คิง แล้วมันทำอะไรต่อจากที่ผมหลับไป บางทีมันอาจว่างๆ เลยเอาถุงยางมาเคี้ยวเล่นก็ได้ แต่แม่งเอ๊ย!! กูก็เห็นว่าในถุงยางมันมีสารคัดหลั่งของสิ่งมีชีวิตเพศผู้นองอยู่... ผมหลอกตัวเองไม่ได้ว่ะครับ เครียด กูจะร้องแล้วนะเว้ย
ไม่รู้ผมมุดหัวอยู่ในผ้าห่มนานเท่าไหร่ แต่ก็คงจะนานพอที่จะทำให้คนที่เคยอยู่ห้องน้ำ อาบน้ำจนเสร็จ เสียงปลดกลอนยิ่งทำให้ผมประหม่า อย่าเป็นไอ้คิงเลย แต่จะให้เป็นไอ้เฮีย ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเฮียไปสะพานพุทธ แถมไม่มีกุญแจห้องผมอีกด้วย
“เฮ้ย!! ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ จะได้ไปกินข้าว กูหิว”น้ำเสียงยียวนกวนประสาทพร้อมฝ่าตีนที่สะกิด ... เป็นวันแรกเลยที่ผมดีใจที่ถูกมันถีบ
ผมถีบผ้าห่มออก พอเห็นไอ้เฮียยืนเช็ดผมอยู่ ผมก็แทบจะเหาะไปหามันเลยทันที ผมกอดไอ้เฮียแน่น ... ผมทำใจไม่ได้จริงๆ ถ้าจะมีผู้ชายคนอื่นมาจ้วงผม นอกจากไอ้เฮีย
ผมขยะแขยงจริงจัง
“เฮีย...มึงเข้ามาได้อย่างไง”และนี่คือคำถามแรกที่ผมถามมันครับ... กูล่ะเชื่อ
“ก็กูแอบเอากุญแจสำรองที่มึงซ่อนไว้ในกล่องรองเท้าไป”มันตอบแล้วก็ลูบหัวผม “มึงเป็นอะไรเนี่ย”
“เปล่า”ผมคลายมือออก เงยหน้ามองไอ้เฮีย “เฮ้ย เฮียปากแตก ไปทำอะไรมา”ผมเอียงคอถามทำตาบ๊องแบ๊ว แบบกะว่ากูน่ารักซะเต็มที่ล่ะ
“อ๋อ โดนต่อยมา แต่ไอ้คนที่ทำกูตอนนี้นอนอยู่โรงบาลแล้ว”ฟังแล้วขนลุกพรึบพั่บ ไอ้เฮียจะเป็นคนสุดท้ายของโลกใบนี้เลย ที่ผมจะสู้ตัวๆ(ถ้าหมาหมูก็ไม่แน่) “แล้วนั่นคอมึงเคล็ดรึไง”มันพูดจบผมเอียงคอกลับทันทีอย่างเซ็งๆ
แต่เดี๋ยวก่อน ถึงไอ้เฮียจะอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะรอดตัวจากการถูกไอ้คิงจ้วง แต่จะให้ถามตรงๆผมแม่งก็ไม่กล้า
“แล้วเฮียไปไหนมาเมื่อคืน”ผมถามทั้งที่ตัวผมก็รู้อยู่แล้ว
“ถ้าพูดกันตรงๆก็คือตามแผนของไอ้เหี้ยคิงกูก็ต้องไปสะพานพุทธ แต่ถ้าเอาตามความเป็นจริง กูก็อยู่ข้างห้องมึงนี่แหละ แล้วไอ้เหี้ยคิงก็นอนอยู่โรงบาล แต่กูแค่กระทืบมันไปนิดเดียวนะเว้ย ที่เหลือหลินเป็นคนทำ”หลินด้วยหรอ มันก็มาช่วยผมหรอ งั้นมันก็ไม่ได้ร่วมมือกะเหี้ยคิงดิ
“อ๋อ”กูช็อค... นี่ตกลงนี่มันรู้แผนตั้งแต่แรกแล้วหรอครับ
“กูอยากกระทืบมันมานานล่ะ แต่เมียกูแม่งใจดีไง จะให้กระทืบโดยไร้สาเหตุ เดี๋ยวก็จะโกรธกูขึ้นมาอีก”แล้วมันก็บจูบที่หน้าผากผมทีหนึ่ง... กูเขินนะเฮ้ย
“ไอ้บ้า ฟ้าผ่าตายห่า”ผมถูๆหน้าผาก ก้มหน้างุดบ่นงึมงำอย่างคนประสาทจะแดก
“รีบๆ ไปอาบน้ำ ก่อนที่กูจะทนหิวไม่ไหวแล่เนื้อมึงแดกแทนข้าว”ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วพุ่ง เข้าไปในห้องน้ำทันที...โหดชิบหาย “เออ ถึงเมื่อคืนมึงจะทำไปเพราะไม่รู้ตัว แต่กูขอพูดได้มะ ว่าเมียกูแม่งเอ็กซ์สัตว์”แม่งอ้วกแทบพุ่ง... เพราะไอ้ยาเหี้ยนั่นใช่ม้ายยยยยย (อิบลูกรีดร้องงงงงงงง)
ผม กับเฮียปั้นลงมากินข้าวที่ร้านแถวๆหอผมนั่นแหละ (ไปไกลไม่ได้ สารร่างไม่อำนวย) ตลอดเวลาที่ผมกินข้าวอยู่นั้น ไอ้เฮียมันก็ใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะพูดให้ผมเชื่อให้ได้ ว่าเมื่อคืนผมแม่งเอ็กซ์แตกขนาดไหน... ฟังแล้วกูรับตัวเองไม่ได้จริงๆ
“นี่มึงไม่เชื่อใช่ไหม”จริงๆกูรับตัวเองไม่ได้มากกว่า “งั้นมึงดูนี่”แล้วไอ้เฮียก็ถอดเสื้อยืดออก
ผมช็อคตาค้างอ้าปากน้ำลายยืด หุ่นล่ำๆที่ประกอบด้วยมัดกล้ามกำลังดี ของไอ้เฮียกำลังทำผมละลาย เฮ้ย!! บิดเบือนประเด็นล่ะกู ผมมองรอยแดง รอยฮ้อเลือดที่มีประปรายไปทั่วตัว อีกทั้งยังรอบกัดที่ไหล่ รอยข่วนที่หน้าอกและแผ่นหลัง ที่ไม่ว่าดูยังไงก็ฟันกูมือกูชัดๆนั่นอีก... กูรับ ไม่! ได้!
“ทีนี้เชื่อยัง”ผมพยักหน้าเบาๆพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้มันใส่เสื้อซะที “เมื่อคืนกูก็เพลี๊ยเพลีย แต่ก็ยังต้องลุกขึ้นมาสนองตัณหามึงจนเช้าอีก เฮ้อ”มันถอนหายใจอย่างน่าหมันไส้ “มึงแม่งอย่างกะจะข่มขืนกู”อย่ามาใส่ร้ายว่ากูข่มขืนมึง เพราะจากที่ฟังมา มึงก็จ้วงกูอยู่ดี... แถมจ้วงกูตั้งแต่ตีสามยันแปดโมงเช้าอีกตางหาก!!!
“อิ่มแล้ว”กินไม่ลงครับ... เครียด
“ก็ น่าจะอิ่มแหละ เล่นรีดน้ำกูไปซะเกือบหมดตัว”ไอ้เฮียพูดยิ้มๆ แล้วก็ใส่เสื้อ... มึงสงสารป้าที่กำลังผัดข้าวไปพร้อมๆกับการเงี่ยหูฟังกูกับมึงบ้างไหมบ้างไหม กูเห็นป้าแม่งทำตะหลิวตกไปหลายรอบแล้วเนี่ย
ป้าแม่งขี้เสือก
ผมพาลล่ะครับ ว่าแต่นี่ปาไปบ่ายโมงแล้ว... เหมือนกูจะลืมอะไรไปบางอย่าง บางอย่างที่ต้องส่งวันนี้ก่อนเที่ยง...ฮึ่ม! งานกู
“เดี๋ยว ไปอ้อนวอนเจ้ดากับอาจารย์ที่สอนอิ้งก่อนนะ ส่งงานเลท”ผมเดินหน้าเนือยสะโหรสะเหรออกจากร้านอย่างกับคนโดนสูบวิญญาณ... ใช่สิ กูโดนสูบวิญญาณ
และไอ้ตัวสูบวิญญาณ มึงจ่ายค่าข้าวให้กูด้วย=____=
ผม ลากสังขารมาได้ประมาณสามสี่เมตร ไอ้บ้าที่ไม่รู้วันนี้มันคึกอะไรนักหนา ก็วิ่งมาช้อนร่างผมแล้วพาวิ่งเข้าไปในตึก... มึงอายพี่วิน ป้าร้านข้าว ลุงยาม และไอ้เด็กหัวเกรียนพวกนั้นมันบ้างม้ายยยย
“ปล่อยเว้ยยย จะไปส่งงาน”ผมดิ้นพอเป็นพิธี
“มึงจะไปส่งยังไง งานมึงอยู่บนห้อง”จะว่าไปก็จริงของมัน“แล้วก็ไม่ต้องไปหรอก กูฝากไอ้ปินไปส่งให้มึงแล้ว”อ้าวว แล้วก็ไม่รีบบอกกู
ไอ้ เฮียอุ้มผมเข้ามาในห้อง ก่อนจะวางร่างผมลงบนเตียง เปิดแอร์ ห่มผ้าให้ผมเสร็จสรรพ มันก็ตามขึ้นมานอนจ้องผม... เอาวะ มึงจ้องกู กูก็จ้องกลับ
“กูรักมึงจัง”แล้วมันก็ฉีกยิ้มพิฆาตใจดวงน้อยๆของผม “แล้วมึงล่ะรักกูไหม”อย่ามาถามกูตรงๆ เพราะกูไม่รู้
“จะนอน”ผมหันหน้าหนีไปอีกทางทั้งที่หน้าร้อนผ่าว
“งั้นถือว่ามึงก็รักกูเหมือนกัน”แล้วจะถามกูหาพ่องมึงหรอ
“ถาม หน่อยดิเฮีย เฮียรู้ได้ไงว่าเฮีย.....”ทำไมมันพูดอยากจังวะ “ระ ระ ระ ระ ระ ระ ระ ระ ระ ระ ระ... ระเชี่ยไรเล่า หมดแรง”แล้วผมก็ซุกหน้าเข้าไปในหมอนด้วยความอับอาย...ไปตายซะตัวกู
“มึง หมายถึงรักเปล่าวะ”ผมพยักหน้า “ถ้าถามถึงสาเหตุกูก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ถ้าอาการ ก็เวลากูฟังเพลงรักกูก็มักนึกถึงมึง อยากเจอมึง จนหลังๆเริ่มหนักข้อ จนอยากได้มึงมาเป็นของกู แล้วตอนนี้กูก็หวง ไม่อยากให้มึงไปเป็นของใคร”แล้วคำตอบของไอ้เฮียก็จบลงด้วยการจูบที่ผมของผม เบาๆ...แหม กูก็ฟังเพลิน นึกว่าเพลง
“อ๋อ”อ๋อ นี่คือ อ๋อ งงชิบหายครับ
“นอนเถอะ เดี๋ยวเย็นๆไปเยี่ยมไอ้เหี้ยคิงกัน”มันพูดแล้วก็รัดรอบเอวผมแน่น
ไปทำไม ปล่อยให้แม่งตายไปเหอะ ผมล่ะแค้นจริงๆ ยัดยาเหี้ยนั่นให้ผมแดก จนต้องตกอยู่ในสภาวะเอ็กซ์แตก จนผมแม่งยังเซ็งไม่หาย ยังดีนะไอ้คนที่ผมเป็นซัมติงลองเป็นไรเฮีย ถ้าเป็นมันนี่ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน... ขนลุก
....
มาไวเคลไว
ช่วงนี้ไม่ได้ตอบคอมเม้นเลย
อยากตอบแต่ก็ถึงเวลานอนอีกแล้ว
รักนะคะ เค้าอ่านทุกคอมเม้นเลย ขอบคุณจริงๆค่ะ
ปล.ช่วยดันน้องบลูด้วยนะคะ