ตอนที่ 35
สายลมเบาหวิวยามดึกในป่าที่เงียบสงัด ช่วยพัดพาเอาความหนาวเหน็บและสิ่งเร้นลับให้โลดแล่นไปทั่วผืนป่าจนกระทั่งถึงเวลาตี 4 ประตูปรโลกก็เปิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้เปิดให้พวกผีป่า ผีอาถรรพ์ ผีไร้บุญหรือผีกรรมหนักได้ออกมาล่องลอยเที่ยวเตร่บนโลกมนุษย์ แต่มันเปิดเพื่อต้อนรับการกลับไปยังที่ที่มีแต่ความมืดมิดว่างเปล่าเพราะหมดเวลาของการเล่นสนุกบนโลกมนุษย์แล้ว
“บ้าจริง...” วิญญาณชายหนุ่มบ่น และก่อนที่ร่างของมันจะถูกดูดเข้าไปยังหลังประตูปรโลก มันได้ลองเอานิ้วมือยื่นมาที่บริเวณปลายจมูก เมื่อเห็นว่ามนุษย์โชคร้ายผู้นั้นไม่มีลมหายใจแล้ว มันก็แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะดังลั่นจนกระทั่งร่างของมันหายวับไป
...เสียงหัวเราะของวิญญาณตนนั้นดังเข้ามาในระบบโสตประสาทของมิวส์ ทำให้มิวส์สามารถวิ่งไปตามต้นเสียงได้อย่างคล่องแคล่ว
ไม้ที่ไม่ได้ยินอะไรพอเห็นมิวส์ซึ่งยังคงสิงอยู่ในร่างของก้องวิ่งนำไปข้างหน้าก่อนที่จะเลี้ยวไปทางขวา เขาก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้มิวส์... มีอะไรวะ" ไม้ตะโกนถามเสียงดัง
“ผมได้ยินเสียง... มันเหมือนกับเสียงหัวเราะ...” มิวส์ตอบเพียงแค่นั้น แม้ไม่รู้ว่าเป็นเสียงหัวเราะของใคร แต่จากน้ำเสียงที่ได้ยินมันทำให้เขามีลางสังหรณ์ในด้านร้ายมากกว่าด้านดี
แม้ว่าเสียงหัวเราะจะหายไปแล้ว แต่ในที่สุดมิวส์ก็วิ่งไปถึงจุดนั้น... จุดที่มีใครบางคนนอนกองอยู่กับพื้น
“แม็กกี้" ไม้ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาร่างนั้นทันที เขาคุกเข่าลงข้าง ๆ พร้อมกับเขย่าร่างเพื่อที่จะให้แม็กกี้ตื่นจากการหลับใหล "แม็กกี้ แม็กกี้ มึงเป็นอะไร ตื่นสิวะ"
ไม้ตะโกนต่อไปเรื่อย ๆ ทว่าก็ไม่มีวี่แววว่าแม็กกี้จะตื่นขึ้นมาสักที
ไม้เปลี่ยนท่านั่งให้ก้นติดกับพื้นแล้วเขยิบไปที่ด้านหลังของร่างที่นอนหลับใหลแล้วช้อนร่างนั้นขึ้นมานอนแนบอก
“มึงเป็นอะไร" ไม้ยังพยายามพูดต่อไป เมื่อเห็นว่าคนรักของตนไม่ตื่นสักทีก็เลยลองเลื่อนนิ้วมือไปที่ปลายจมูกเพื่อจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง
...ไม่มีลมหายใจ ไม่มีอากาศที่ถูกพ่นออกมาจากรูจมูกนั่น...
“ไอ้แม็กกี้" ไม้ตะโกนเสียงดังก้อง "มึงเป็นอะไรของมึงกันแน่วะ ตื่นขึ้นมาสิ ตื่นขึ้นมาคุยกับกู ตื่นขึ้นมาเป็นคนรักของกู ตื่นขึ้นมาด่ากู ตื่นขึ้นมากอดกู จะตื่นขึ้นมาทำอะไรกับกูก็ตื่นขึ้นมาสักทีสิวะ"
คราวนี้ไม้เขย่าร่างนั้นแรงขึ้นเพื่อหวังที่จะให้เกิดปาฏิหาริย์กับคนที่สิ้นลมหายใจ
มิวส์ยืนมองการกระทำของไม้ด้วยความรู้สึกที่ปวดใจไม่ต่างกัน... แม้เขาไม่ได้สนิทสนมกับแม็กกี้แถมยังเคยคิดจะใช้แม็กกี้มาเป็นตัวตายตัวแทน ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้ และความจริงที่ปรากฏเรื่องของก้อง ได้ทำให้มิวส์สำนึกผิดในทุก ๆ สิ่ง
“เจ้านาย...” มิวส์อยากจะเข้าไปปลอบเหลือเกิน เจ้านายผู้ป่าเถื่อนและใจแข็งในทุก ๆ เรื่องกำลังร้องไห้และเสียน้ำตาอย่างหนักให้กับคนรักที่ได้สิ้นใจไปแล้ว ทว่ามิวส์ก็ไม่คิดที่จะเข้าไปห้าม ปล่อยให้เจ้านายของเขาแสดงความเสียใจออกมาให้หมด
ภาพที่ไม้ร้องไห้เจ็บปวดราวกับจะตายตามร่างที่นอนแน่นิ่งไปอีกคนนั้น ทำให้มิวส์อดนึกย้อนไปถึงในวันที่เขาสิ้นใจไม่ได้ว่าก้องจะเป็นอย่างไรบ้าง
นึกแล้วก็อดสงสารก้องขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันบีบบังคับให้ก้องต้องทำในสิ่งที่ทรมานใจที่สุด มิหนำซ้ำในคืนวันที่ก้องพูดจาทำร้ายจิตใจ ยังเป็นคืนสุดท้ายที่มิวส์มีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ ก้องคงจะเครียดและเอาแต่โทษตัวเองมาตลอดระยะเวลา 10 ปี
“ไอ้แม็กกี้... ตื่นขึ้นมาก่อน มึงจะทิ้งกูไปแบบนี้ไม่ได้นะ มึงต้องให้กูเป็นฝ่ายทิ้งมึงสิวะ... ฮือ..." ความเสียใจส่งผลให้ไม้กำลังเสียสติและบ้าคลั่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ที่ตัดสินใจคบกัน ไม้ยังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรตอบแทนความรักที่แม็กกี้มีให้อย่างจริง ๆ จัง ๆ สักเท่าไหร่
แล้วความผิดต่าง ๆ ที่ไม้เคยกระทำต่อแม็กกี้ก็ถาโถมเข้ามาในความคิด
“กูขอโทษที่กูชอบตวาดมึง กูขอโทษที่กูไม่สนใจมึง... กูขอโทษที่ปิดบังมึงเรื่องไอ้มิวส์..." เกิดมาไม่ว่าจะเจอปัญหาหนักหนาสาหัสแค่ไหน ไม้ไม่เคยรู้สึกถึงความผิดหวังหรือเสียใจเลยสักนิด แต่ในครั้งนี้มันไม่ใช่...
แม็กกี้สอนให้ไม้ได้รู้แล้วล่ะว่า 'ความเสียใจ' มันเป็นอย่างไร น้ำตามันมีคุณค่ามากแค่ไหนเมื่อมันต้องไหลรินลงมาเพื่อใครบางคนที่เขารัก
“กูรู้ว่ากูย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดไม่ได้" จู่ ๆ ไม้ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สะอึกสะอื้น ความบ้าคลั่งจากการร่ำไห้เมื่อครู่ก็หายไป เขาค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาปาดหยาดน้ำตาและค่อย ๆ วางร่างของแม็กกี้ลงกับพื้นดินในท่าที่นอนแน่นิ่ง "แต่ขอให้กูได้รับไออุ่นจากคนที่กูรักแล้วก็รักกูเป็นครั้งสุดท้ายหน่อยเถอะนะ"
สิ้นเสียง... ไม้ก็ค่อย ๆ ก้มหน้าไปยังใบหน้าของร่างที่ไร้ลมหายใจ น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลพอได้จ้องมองกับคนรักใกล้ ๆ ก็กับไหลรินลงมาอีกครั้ง ก่อนที่ท้ายที่สุดริมฝีปากของไม้จะไปประกบกับริมฝีปากของแม็กกี้ ...มิวส์ที่ก่อนหน้านี้ยืนมองการกระทำของเจ้านายมาโดยตลอดก็ต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่จะเดินหลบมุมเพื่อให้เจ้านายได้ร่ำลาคนรักเป็นครั้งสุดท้ายตามลำพัง
ไม้ใช้เวลาร่ำลาแม็กกี้อยู่นาน นานจนกระทั่งน้ำตาที่รินไหลลงมาอาบใบหน้าเหือดแห้ง
“ไปสู่สุคตินะแม็กกี้"
การร่ำลาครั้งสุดท้าย ไม้คงไม่รู้หรอกว่าร่างวิญญาณของผู้ที่สิ้นลมหายใจได้แอบมองการกระทำของเขาทุกอย่างอยู่ที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง
แม็กกี้รู้สึกอ่อนแอจนอย่างจะร้องไห้ตั้งแต่ตอนที่เห็นหน้าไม้วิ่งเข้ามาด้วยความตกใจแล้ว แต่ทว่าเขาก็ไม่มีน้ำตาให้ไหลลงมา... เขาไม่อยากเห็นหน้าของคนรักยามที่ร้องไห้ เพราะการฟูมฟายของไม้ทำให้หัวใจของเขาแทบแตกสลาย
แม็กกี้อยากจะเดินเข้าไปหา อยากจะเข้าไปกอดกับร่างนั้นเป็นครั้งสุดท้ายเหลือเกิน แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้เพราะกลัวว่าไม้จะมองเห็นและทุกข์ทรมานใจยิ่งกว่าเก่า
จนกระทั่งฉากสุดท้าย... การร่ำลาของไม้ที่มอบจูบให้กับศพของเขาอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจ รวมถึงน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มที่บอกให้เขาไปสู่สุคตินั้นมันสะเทือนใจจนทำให้น้ำตาที่อยากจะไหลออกมาตั้งนานได้ไหลออกมาสมใจสักที
หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ก็เกิดแสงสีขาวสว่างวาบรอบ ๆ แม็กกี้รู้สึกถึงความสุขที่สุดในชีวิตและความทุกข์ที่ได้ถูกปลดปล่อยหลังจากที่ได้ยินคำพูดและเห็นการกระทำของไม้ ...และเพราะสิ่งเหล่านั้นแหละที่ทำให้เขาพร้อมที่จะทิ้งความรู้สึกทุกอย่างเพื่อที่จะไปชดใช้กรรมในนรกหรือสวรรค์ต่อไป
'ขอบคุณสำหรับทุก ๆ สิ่งนะไอ้ไม้'
ในขณะที่ไม้กำลังจะอุ้มร่างของแม็กกี้เพื่อที่จะพาร่างนั่นกลับไปยังหอพัก ...สายลมเบา ๆ ก็พัดมาปะทะกับร่างของเขาจากทางด้านหลัง
ไม้หันหลังไปมองแต่ก็ไม่พบอะไร มีเพียงผืนป่าและต้นไม้สูงใหญ่เท่านั่น ทว่ากลิ่นกายอ่อน ๆ ของคนสำคัญที่พัดมากับสายลม ก็ทำให้ไม้รับรู้ว่า... แม็กกี้ต้องการจะบอกอะไรกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย
'ขอบคุณนะไอ้แม็กกี้ ขอบคุณจริง ๆ ที่ยกโทษให้กู'
หลังจากนั้นไม้กับมิวส์ที่อยู่ในร่างของก้องก็หาหนทางเดินออกจากป่าทันที แม้จะไม่รู้ว่าทิศทางไหนคือทางที่ถูกต้อง แต่ทั้งคู่ก็เดินไปด้วยใจที่หวังว่าจะเจอกับทางออก
ตลอดทางไม้กับมิวส์ไม่คุยอะไรกันสักคำ มิวส์รู้ว่าไม้ยังคงเสียใจเรื่องของคนรักที่จากไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงไม่อยากที่จะรบกวน
ไม่รู้ว่าเพราะมีปาฏิหาริย์หรือมีสิ่งเล้นลับนำทางมาหรืออย่างไร เพราะในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น พวกเขาก็มองเห็นหอพักอยู่บนยอดดอยซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าผืนป่าไม่มากนักรำไร
“ไอ้มิวส์ มึงเห็นนั่นไหม" ไม้คลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นจุดหมาย คืนนี้เป็นคืนที่เขาเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด เพราะนอกจากจะผจญภัยในป่าทึบทั้งคืนแล้ว เขายังต้องคอยแบกร่างที่ไร้ลมหายใจของคนรักกลับมายังที่พักอีกด้วย
“เห็นครับ" มิวส์ตอบออกมา โดยที่ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิดเพราะหลังจากที่ถึงห้องพัก หลักจากที่หมดห่วงก็ถึงเวลาของเขาที่จะต้องไปชดใช้กรรมบ้างแล้วเหมือนกัน ...ถึงเวลาที่เขาต้องทิ้งไม้ตามแม็กกี้ไปอีกคน และถึงเวลาที่เขาต้องจากก้องไปยังที่ที่ไกลแสนไกลไม่มีโอกาสได้พบได้เจอกันอีกเลย
ปล.แนะนำครับ อ่านจบต้องอ่านเพลงนี้ TT___TT เข้ากับอารมณ์และบรรยากาศสุดๆ >>
http://www.youtube.com/watch?v=8ijjrKPAkCY#t=164จบตอน TT___TT สำหรับเรื่องแม็กกี้ยังไม่มีใครรู้นะครับว่าจากไปเพราะเหตุใด... เหมือนมันยังเศร้าไม่สุดแฮะ...