◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)  (อ่าน 120804 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
 :m11: เย้ อ่านทันแล้ว แรก ๆ ยังอ่านไปขำไปอยู่เลย พอตอนหลังนี่แบบ  :hao5: มิวส์น่าสงสารมาก ๆ เลยอะ
สนุก น่าติดตามมาก ๆ มีปริศนาหลายอย่างเลย ไหนจะอดีตของมิวส์ทั้งครอบครัว ทั้งเรื่องก้องที่สำนึกผิดจริงรึเปล่า
แล้วเรื่องที่มิวส์ชอบกลิ่นตัวของไม้เนี่ย เกี่ยวกับที่ไม้มองเห็นมิวส์ได้ด้วยรึเปล่า
ถ้าเรื่องผ่านมาซัก 20 กว่าปี คงคิดว่าไม้เป็นก้องกลับมาเกิดล่ะ
ส่วนแม็กกี้ก็หายไปเลย ปล่อยให้มิวส์แทะโลมไม้อยู่คนเดียว
ดีนะไม้ดูรักเดียวใจเดียว (รึเปล่า) ถึงจะดูผูกพันกะมิวส์แต่คงไม่หันมาชอบมิวส์หรอกมั่ง
เพราะถึงมิวส์จะน่าสงสารแต่ก็ไม่อยากให้มาแย่งไม้ไปจากแม็กกี้อะ
กดบวก แปะเป็ด เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า :L2: แล้วมาต่อไว ๆ น๊า  :mew1:

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แม่เป็นอะไรไปอ่า

น่าสงสารฟิิวส์นะ และ มิวส์นะ  :hao5:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ผีหน่อมแน้มน่าสงสาร หวังว่าฟิวส์คงไม่ได้ทำอะไรก้องนะ ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นไม่คู่ควรกับน้องชายที่น่ารักของมิวส์

ส่วนคุณแม่ .... เป็นปริศนาต่อไป

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 10




          กว่าจะใช้เวลาเดินทางกลับถึงห้องก็ปาไปบ่ายโมงกว่าแล้ว... อากาศในฤดูร้อนก่อนจะย่างเข้าฤดูฝนนี่มันช่างร้อนอบอ้าวเสียจริง และนั่นทำให้ไม้ต้องถอดเสื้อออกทันทีที่มาถึงห้อง

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระเส่า พอเห็นร่องกล้ามและเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นอยู่บนร่างบึกบึนนั้นอาการหื่นกามมันก็กำเริบขึ้นมาทันที

   “อะไร" ไม้ขานรับอย่างไม่สนใจเท่าไรนัก เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากยิ่งกว่าตอนนี้คือเทปบันทึกภาพฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษคู่ระหว่างทีมโปรดของเขาเชลซีกำลังปะทะกับทีมที่มีขวัญใจทั่วโลกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะรู้ผลแล้วว่าเสมอกันไปสองประตูต่อสอง แต่เลือดเชลซีมันอยู่ใจนี่นายังไงก็ขอดูย้อนหลังหน่อยละกัน

   “ผมขอทวงสัญญา...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

   “สัญญาอะไร" ไม้เอ่ยขึ้นเรียบ ๆ พอหันไปพบกับสายตาที่เร่าร้อนของดวงวิญญาณเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเจ้านี่มันกำลังหมายถึงเรื่องอะไร “เออ! มึงอยากทำไรกับกูก็ทำไปเถอะ ขออย่างเดียว เงียบ ๆ อย่าพูดอะไรขึ้นมาอีกจนกว่าฟุตบอลจะจบ"

   สิ้นเสียงของไม้ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่จอโทรทัศน์ ผิดกับมิวส์ที่คลี่ยิ้มสุดหื่นออกมา แล้วปฏิบัติการลูบไล้อวัยวะต่าง ๆ ของเจ้านายสุดหล่อก็พร้อมที่จะเริ่มขึ้น

   แต่ทว่าก่อนที่จะทำอะไร เสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ขัดจังหวะของวิญญาณสุดหื่นเอาซะก่อน

   “ว่าไงที่รัก" ไม้ทักทายด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ส่วนมิวส์ได้แต่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่ามารผจญจะโทรมาขัดจังหวะทำไม

   “อยู่ไหน" ปลายสายเอ่ยถาม

   “ห้อง" ไม้ตอบกลับ

   “มาหาหน่อยได้ไหม" ปลายสายเอ่ยถามอีกครั้ง

   “ที่ไหน" ไม้ถามกลับ หลังจากที่ได้ยินคำตอบของแม็กกี้เสร็จสรรพเขาก็ตอยตกลงทันที "ได้ ๆ เดี๋ยวกูจะรีบไป"

   หลังจากที่วางโทรศัพท์ ไม้ก็หยิบเสื้อตัวที่เพิ่งถอดมาใส่อีกครั้งก่อนจะปิดทีวีทันที

   “เจ้านายจะไปไหน" มิวส์เอ่ยถามอย่างขัดใจ ก็ไหนเมื่อกี้บอกให้ไม่ต้องพูดมากจะได้มีสมาธิดูบอล แต่พอแม็กกี้โทรมาเท่านั้นแหละ ทำไมถึงได้รีบร้อนออกไปข้างนอกขนาดนี้

   “ไปข้างนอก" ไม้ตอบปัด ๆ

   “ไปทำอะไร" มิวส์เอ่ยถามอีกรอบ แต่คราวนี้ไม้ไม่ได้ตอบเขาเพียงเดินจ้ำอ้าวลงลิฟท์และตัดสินใจก้าวออกจากรั้วประตูหอพักทันทีโดยที่ไม่สนใจคำถามต่าง ๆ นานาที่มิวส์พยายามถามอีกเลย อย่างเช่น ไปทำอะไร ที่ไหน กับใคร จะกลับกี่โมง ฯลฯ

   เจ้านายสุดโหดของเขาเพียงตะโกนให้หลังว่า "อยู่ที่หอก็เป็นเด็กดีล่ะ อย่าไปเที่ยวหลอกหลอนใคร"

   “ตอบไม่ตรงคำถามสักนิด" มิวส์ทำแก้มป่องอย่างขัดใจก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมา

   หลังจากที่ร่างของเจ้านายสุดโหดลับสายตา ท่านเจ้าที่ที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ความเป็นไปบริเวณศาลพระภูมิมนานก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าของมิวส์

   “เจ้านี่ชักจะยังไงแล้วนะ พ่อหนุ่มนั่นจะไปที่ไหนแล้วมันธุระกงการอะไรที่เจ้าต้องถามฮะ" ท่านเจ้าที่เอ่ยขึ้น

   “ก็... เขาเป็นเจ้านายผมนี่ท่านลุง" มิวส์ตอบ

   “แน่ใจนะว่าเป็นแค่เจ้านาย... ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น" ชายชราในชุดขาวเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่เข้าใจว่าลูกน้องประสาอะไรทำไมต้องถามจู้จี้จุกจิกกับเจ้านายของตัวเองมากมายขนาดนี้ อีกอย่างหอพักแห่งนี้มีคู่รักชาย ๆ หรือหญิง ๆ เดินเข้า ๆ ออก ๆ บ่อยเลยทำให้ท่านเจ้าที่เห็นจนชินแล้วล่ะกับรสนิยมของเด็กสมัยนี้

   “คิดอะไรล่ะท่านลุง ไม่ได้คิดหรอกน่า" มิวส์ตอบปัด ๆ ทำไมนะ... พอท่านเจ้าที่ถามคำถามนี้ขึ้นมามิวส์ถึงได้รู้สึกแปลก ๆ ถ้าจะถามว่าคิดอะไรไหม ถ้าตอบตรง ๆ เขาก็คงชอบกับความป่าเถื่อนและความจริงใจของเจ้านายอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่า...

   “ก็ดีแล้ว เจ้าน่ะเป็นอะไร ส่วนพ่อหนุ่มนั่นน่ะเป็นอะไร ข้าหวังว่าเจ้าคงจะรู้สถานภาพตัวเองดี" พูดจบท่านเจ้าที่ก็หายวับกลับเข้าไปอยู่ในศาลพระภูมิตามเดิม

   “ครัับ" มิวส์ยืนตอบบริเวณหน้าศาลด้วยเสียงเอื่อย ๆ

   สำหรับเรื่องสถานภาพน่ะมิวส์รู้ดีเสมอว่าตัวเองเป็นแค่วิญญาณติดที่ แต่ความโดดเดี่ยวที่ไม่มีโอกาสได้พูดได้คุยกับใครมานานนับ 10 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งมีใครบางคนยื่นมือเข้ามาแล้วทำให้เขาหลุดพ้นจกาความเหงา มันจะผิดไหมถ้าเขาจะรู้สึกดีกับคน ๆ นั้น

   มิวส์ได้แต่ย้ำกับตัวเองหลังจากที่ได้ยินคำเตือนของท่านเจ้าที่ ...ใช่! เขาเป็นเพียงแค่วิญญาณ จะไปคิดอะไรเกินเลยกับสิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจอยู่ได้ยังไง มันไม่เหมาะสมกันสักนิด เมื่อคิดได้ดังนั้น มิวส์ก็หายตัววับไปนั่งหลบมุมอยู่บนห้อง




   ทางด้านของไม้... หลังจากที่นั่งรถประจำทางเข้าสู่ตัวเมืองจนกระทั่งไปถึงสถานีขนส่ง พอเดินไปที่จุดนัดพบก็ไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของคนที่นัดเขามาที่นี่

   ...ไหนบอกว่ารออยู่ที่นี่วะ... ไม้กดเบอร์โทรศัพท์ของคนที่นัดเขาออกมาที่นี่ทันที

   “แม็กกี้ มึงอยู่ไหน" ไม้เอ่ยขึ้นทันที "กูมาถึงแล้วนะ"

   เสียงลมพัดจากปากสายที่ดังขึ้นทำให้ไม้รู้สึกหงุดหงิดนิด ๆ สงสัยว่าหมอนั่นคงกำลังจะนั่งรถสามล้อเครื่องมาจากที่ไหนสักแห่งสินะ ความจริงไม้น่าจะเอะใจตั้งแต่แรกแล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไรมาก็โดนแม็กกี้หลอกประจำเรื่องเวลานัด ทำไมถึงไม่จำสักทีนะว่าชอบหลอกให้มาก่อนเวลาเสมอ คอยดูนะถ้ามาถึงจะจับทำโทษเสียให้เข็ด

   ในขณะที่ไม้กำลังยืนหันหลังใหักับถนนตรงจุดพักรอญาติมารับสำหรับผู้โดยสารอยู่นั้น เสียงเรียกที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงมอเตอร์ไซค์ก็ทำให้ไม้ต้องหันหลังกลับไปมองทันที

   “ไอ้ไม้ทางนี้" แม็กกี้โบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณ เขาสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสามส่วนเหมือนกับไม้เป๊ะ ๆ

   ไม้ที่เห็นร่างที่เล็กกว่ากำลังส่งยิ้มแพรวพราวกพร้อมกับโบกไม้โบกมืออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ก็รีบวิ่งเข้าไปหา รอยยิ้มแห่งความประหลายใจผุดขึ้นบนใบหน้าทันที

   “เอารถใครมาขับ" ไม้เอ่ยถาม พอคิดไปถึงเหตุผลต่าง ๆ นานาใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่ก็มีอันต้องถมึงทึงทันที "เฮ้ย! ไปหลอกเสี่ยที่ไหนมาหรือเปล่าวะ"

   ไม่ว่าเปล่าคนสุดโหดยังเอื้อมมือไปกระชากคอเสื้อของคนที่ตัวเองเรียกว่า 'ที่รัก' นี่ถ้าไม่ใช่ที่รักมีหวังแม็กกี้คงโดนต่อยไปแล้วล่ะ

   “จะบ้าเรอะ" แม็กกี้ตวาดกลับ "รถกูเนี่ยแหละ ตอนก่อนปิดเทอมกูบ่นให้แม่ฟังว่าหออยู่ไกลจากมหาลัยอยากได้มอเตอร์ไซค์ กูแค่พูดเล่น ๆ นะเว้ยแต่พอกลับไปถึงบ้านแม่กูดันเอาจริงซะงั้น"

   “เออ! กูดีใจด้วย" ไม้เอ่ย มือที่เคยกระชากคอเสื้อก็ต้องชักกลับมา "แล้วมึงกลับมาที่นี่อีกทำไม ไหนว่าจะมาตอนเปิดเทอมวะ เอามอเตอร์ไซค์มาอวดกูว่างั้น"

   พูดจบก็พ่นลมหายใจใส่ ตั้งแต่รู้จักกันมา 6 ปี ไม่ยักรู้ว่าหมอนี่เป็นคนขี้อวดตั้งแต่เมื่อไหร่

   “ไอ้เชี่ย มึงมองกูติดลบขนาดนั้นเลยเหรอวะ" แม็กกี้พูดก่อนจะยักคิ้วกวน ๆ หนึ่งทีแล้วประโยคถัดไปก็ทำเสียงอ้อนเสียจนคนฟังอยากจะโผกอดเข้าให้ "แม่กูโอนตังค์เข้าบัญชีแล้วให้กูมาซื้อรถที่นี่ กูก็เลยกลับมาซื้อและกะจะทิ้งไว้ให้มึงขับเล่นรอเปิดเทอมนั่นแหละ"

   “เฮ้ย! จริงเหรอ" พูดจบก็ตาลุกวาว การมียานพาหนะเป็นของตัวเองเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเด็กมหาลัยที่มาเรียนไกลบ้าน

   “จริงสิครับ" พูดจบก็ยิ้มให้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่สาธารณะไม้คงให้รางวัลหนัก ๆ ไปหนึ่งยกแล้ว "ซ้อนท้ายเร็วเข้า"

   “ครับผม" ไม้ตอบรับด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ...ก็แหมคนจะได้มอเตอร์ไซค์ขับเล่นทั้งทีก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา เอาอกเอาใจเจ้าของมอเตอร์ไซค์หน่อยจะเป็นไรไป

   ทันทีที่มือบิดคันเร่ง มือแกร่งทั้งสองข้างก็จับเข้าที่สีข้างของคนขับทันที จากนั้นไม้ก็เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กับใบหูก่อนจะกระซิบเบา ๆ ว่า... “มึงนี่น่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ มีไรมาเซอร์ไพรซ์กูตลอด"

   “ก็กูรักมึงไง" แม็กกี้ตอบกลับ

   หากจะเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของไม้กับแม็กกี้ คนภายนอกคงไม่มีใครดูออกจริง ๆ ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันในฐานะแฟน เพราะการแสดงออกต่าง ๆ รวมทั้งการพูดจาที่ป่าเถื่อนของคนสองคนทำให้ใครต่อใครต่างคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ ก็เท่านั้น ซึ่งนั่นมันก็จริงสำหรับตอนที่ไม้กับแม็กกี้กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมปลาย




   ...ย้อนกลับไปในสมัยมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในวันปิจฉิมนิเทศ... ในขณะที่นักเรียนหลายคนกำลังเริงร่าอยู่ในหอประชุมเพื่อรับฟังคำอวยพรสอนสั่งต่าง ๆ นานาของเหล่าอาจารย์ แต่ก็มีเด็กส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมงานแล้วมานั่งรอเพื่อน ๆ ตามมุมต่าง ๆ ในโรงเรียน ซึ่งไม้กับแม็กกี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

   “ไอ้ไม้" แม็กกี้เอ่ยขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังนั่งรอเพื่อน ๆ อยู่ที่ห้องโฮมรูม

   “อะไร" ไม้ตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งเป็นปกติของหมอนี่ที่ไม่ค่อยจะแสดงอารมณ์ออกทางน้ำเสียงสักเท่าไหร่ยกเว้นเวลาไม่พอใจ

   “คือกูไม่รู้นะว่าเราจะสอบติดมหาลัยไหนกัน... กูกลัวไม่มีโอกาสได้เจอกับมึงอีกแล้วว่ะ" แม็กกี้เอ่ย... ตลอดเวลาที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายก็มีแต่ไม้นี่แหละที่เป็นเพื่อนสนิทเขา ไม่ว่าเขาจะไปไหน ทำอะไร หรือมีงานอะไร ไม้ก็จะช่วยเสมอ ส่วนหมอนั่นน่ะเหรอ... ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก หน้าตาหล่อ ๆ นิสัยแบดบอยของมันแถมยังเล่นฟุตบอลเก่งอีกต่างหาก ใคร ๆ ต่างก็อยากคบมันเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นแหละ

   “แล้วไง" ไม้พูดโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด

   “ก็... มึงไม่กลัวที่จะต้องแยกกับกูบ้างเหรอวะ ไม่รู้สึกแปลก ๆ บางเหรอถ้าเราจะไม่ได้เรียนด้วยกัน" แม็กกี้เอ่ยถามตรง ๆ

   “กลัวสิ" คราวนี้น้ำเสียงของไม้แผ่วเบาลง ไม่รู้ว่าแม็กกี้คิดไปเองหรือเปล่าว่าสีหน้าที่แข็งเป็นหินราวกับถูกฉาบด้วยปูนสิบชั้นของหมอนี่กำลังแสดงออกถึงความกังวลอะไรบางอย่าง

   “แล้วถ้าเราสอบติดคนละที่ เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหมวะ เราจะยังสนิทกันอยู่หรือเปล่า แล้วมึงจะยังคอยโทรมาปลุกกูทุกเช้าเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วตกดึงมึงจะโทรมาถามกูว่ามีการบ้านอะไรที่ค้างอยู่เหมือนเดิมไหมวะ" พอคิดถึงระยะเวลาสามปีที่เรียนอยู่ด้วยกัน มันก็ทำให้แม็กกี้รู้สึกหวิวแปลก ๆ พอจะต้องแยกจากกันกับเพื่อนสนิท

   “อืม" ไม้รับคำ "กูก็ไม่รู้ว่ะว่าจะเป็นเหมือนเดิมไหม แต่ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู"

   “เฮ้ย... ได้ไงวะ มึงต้องรู้อะไรบ้างดิ" ได้ยินคำตอบที่เหมือนไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร แม็กกี้ก็เลยรีบประท้วงออกมาด้วยความฉับไว "มึงไม่รู้... แต่กูนี่สิจะลงแดงตายอยู่แล้ว"

   “ก็กูไม่รู้จริง ๆ นี่หว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต" ไม้ตอบออกมาตรง ๆ เขาเป็นพวกใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ค่อยคิดถึงอนาคตสักเท่าไหร่หรอก
   “งั้นเอางี้...” แม็กกี้เอ่ยขึ้นก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ "มึงมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักคนยังวะ"

   “ยัง!” ไม้ตอบออกมา "มึงก็รู้เรื่องกูดีที่สุดไม่ใช่เหรอว่ากูไม่เคยสนใจจะคบกับใครจริง ๆ จัง ๆ หรอก มันน่ารำคาญจะตายไปที่ต้องโดนตามจู้จี้จุกจิกถามว่าอยู่ไหนทำอะไรตลอดเวลา กูยังไม่พร้อมจะเป็นแบบนั้น"

   “เหรอ" แม็กกี้พูด คราวนี้น้ำเสียงของเขาเริ่มแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด "แล้วถ้าเป็นกูล่ะ... มึงคบกับกูได้ไหม"

   “เฮ้ย! ไอ้เชี่ย มึงพูดไรของมึงเนี่ย" พูดจบก็ทำท่าถอยห่างราวกับเพื่อนที่คบกันมาสามปีเป็นตัวอะไรที่น่ารังเกียจที่สุดในชีวิต

   “ไอ่ห่า... กูก็ถามมึงว่าคบกับกูได้ไหมไง" แม้การแสดงออกจะเป็นปกติ แต่ความรู้สึกข้างในลึก ๆ กำลังวิตกกังวลสุดฤทธิ์ ไม่รู้ว่าหมอนั่นจะคิดอย่างไรกับสิ่งที่เขาพูด "กูไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับมึงกันแน่ แต่ถ้ากูได้คบกับมึงในฐานะแฟน มันจะทำให้กูมั่นใจได้ว่า... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มึงจะไม่ทิ้งกูแน่นอน"

   “แต่มึงกับกูเป็นผู้ชายเหมือนกันนะโว้ย" ไม้ยังคงพยายามเลี่ยงคำตกลงต่อไป

   “แล้วไงวะ" แม็กกี้ตบโต๊ะเสียงดัง 'ปั้ง' เพื่อแก้อาการขัดเขิน "สมัยนี้ผู้ชายคบกันมีถมเถไป"

   “แต่มันต้องไม่ใช่มึงกับกู" ไม้ยังคงปฏิเสธ

   “งั้นมาทดสอบกันไหม" มิวส์เอ่ยถาม

   “ยังไง" ไม้ถามกลับอย่างรวดเร็วเช่นกัน

   “กอด" เป็นคำตอบสั้น ๆ ที่เล่นเอาทั้งคนฟังและคนพูดต่างต้องชะงักขึ้นมากะทันหัน

   “เออ" แล้วคนที่พยายามปฏิเสธการขอคบมาตลอดก็ดันตอบตกลงเสียด้วย

   จากนั้นทั้งไม้กับแม็กกี้ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วหมุนตัวหันหน้าเข้าหากัน สายตาที่จับจ้องกันอย่างไม่กะพริบทำให้ทั้งคู่รู้สึกแปลก ๆ แล้วน้ำลายของคนทั้งคู่ก็ถูกกลืนลงคออึกใหญ่สังเกตได้จากเสียงที่ดัง 'อึก ๆ' ไม่ขาดสาย

   แทนที่จะเป็นคนขอคบอย่างแม็กกี้ที่เป็นฝ่ายจู่โจมโอบกอดกลับเป็นไม้ที่ยกมือขึ้นมาแล้วสวมกอดคนที่อยู่ตรงหน้าก่อน

   “ไอ้หมาน้อย กอดแบบนี้ใช่ไหมวะ" ขณะกอด ไม้ก็พูดอะไรขึ้นมาเพื่อปิดบังอาการเขิน

   “เออ" หลังจากที่ตอบรับ แม็กกี้ก็ยกมือขึ้นมากอดตอบบ้าง

   และอ้อมกอดหลวม ๆ ในทีแรกก็ชักจะแน่นขึ้น ๆ จนกระทั่ง...

   “ไอ้เชี่ย มึงกะจะรัดกูให้ตายเลยรึไงวะ" ได้ยินคำบ่นของแม็กกี้ไม้ก็ผ่อนแรงลงทันที ไม้รู้ตัวเองดีว่าเป็นพวกชอบความรุนแรงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้าได้กอดหรือได้โจมตีใครเขาจะเผลอออกแรงเต็มที่จนลืมยั้งมือเลยล่ะ

   “ขอโทษ" ไม้กระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู "มึงรู้สึกยังไงล่ะที่กอดกับกู"

   “กูชอบว่ะ... มั้ง... ก็คงจะอย่างงั้น" แม็กกี้ตอบเบา ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดว่าเขาจะชอบผู้ชายได้สักนิด แต่ในระหว่างที่อยู่โรงเรียนแห่งนี้... การที่มีหมอนี่มาวุ่นวายและคอยช่วยเหลือกันและกันในหลาย ๆ เรื่องจนกลายเป็นเพื่อนสนิท มันก็ทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป และพอวันหนึ่ง วันที่ต้องแยกจากกันเพื่อไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ความกลัวว่าจะไม่เจอหน้า ไม่มีไอ้หมอนี่วุ่นวายอยู่ใกล้ ๆ มันทำให้แม็กกี้ต้องหาวิธีทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้วคามสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้ยังคงดำเนินต่อไป

   “แล้วมึงล่ะรู้สึกยังไง" แม็กกี้เอ่ยถามขึ้นบ้าง

   “เฉย ๆ" คำตอบของไม้แทบจะทำให้คนฟังใจสลาย และเพราะคำตอบนี้แหละที่ทำให้แม็กกี้ผละอ้อมกอดของไม้ออกไปแรง ๆ ทันที

   “กูขอโทษละกันที่คุยเรื่องนี้กับมึง" แม็กกี้ก้มหน้าก้มตาตอบ ในเมื่อเขาสารภาพความจริงทุกอย่างให้ไม้ฟัง แต่คำตอบของการกระทำที่ได้กลับมากลับไม่เป็นอย่างที่คิด จะให้เขากล้าสู้หน้ากับหมอนี่อีกได้อย่างไร

   “เชี่ย... ว่าที่แฟนกูขี้งอนเป็นบ้า" คำพูดของไม้ทำให้คนฟังดวงตาเบิกโพลง หน้าตาที่เคยเศร้าสร้อยกับมามีความหวังอีกครั้ง

   “มึงว่าไงนะ" แม็กกี้เอ่ยถาม ใจของเขาตอนนี้กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับว่าคำพูดตรงหน้าคือคำพิพากษาอนาคตของเขาว่าจะอยู่หรือตายอย่างไรอย่างนั้น

   “กูพูดยังไม่จบ เมื่อกี้กูจะบอกว่า ถ้ากูเฉย ๆ กูก็คงผลักมึงออกจากอ้อมกอดนานแล้วล่ะ" พูดจบก็ยกมือขึ้นมาขยี้ศีรษะของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแรง ๆ "เข้าใจไหมไอ้หมาน้อย กูยินดีจะคบกับมึงนะ.. แต่..."

   “แต่อะไร" แม็กกี้คาดคั้น แค่ได้ยินไม้ตอบตกลงมันก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดแล้วล่ะ

   “แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดกูมีคนที่กูรู้สึกดีจริง ๆ กูอาจจะเลิกคบกับมึงในฐานะแฟนนะ... เพราะถึงยังไงตอนนี้กูก็ยังไม่มีใคร และมึงก็เป็นเพื่อนที่ดีของกูเสมอมา แต่ถ้ามึงทำให้กูรักมึงตลอดไปได้ กูก็อาจจะคบกับมึงตลอดไปได้เหมือนกัน...”

   “เออ...” แม็กกี้ตอบ อนาคตความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้จะเป็นอย่างไรก็ช่างเถอะ แค่ตอนนี้ได้ความมั่นใจว่าไม้จะยังไม่หายไปจากชีวิตมันก็เป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดแล้ว





   หลังจากที่แวะทานข้าวเสร็จ แม็กกี้ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับไปยังสถานีขนส่งจังหวัด

   “อีกครึ่งชั่วโมงกูต้องกลับบ้านแล้วนะ" แม็กกี้บอก แม้ว่าเขาจะอยากอยู่ที่นี่ต่อแต่ทว่าเขาเป็นคนพูดเองนี่นาว่าจะกลับไปที่หอนั่นอีกครั้งตอนเปิดเทอม ถ้าเขากลับมาก่อนเดี๋ยวไม้ก็จะได้ใจและไม่กลัวคำขู่อะไรอีกต่อไป เขาเลยต้องทำแบบนี้

   “ใจร้ายว่ะ" ไม้ต่อว่า และในวินาทีต่อมามือทั้งสองข้างที่จับแค่สีข้างของคนขับรถก็เปลี่ยนเป็นโอบกอดอย่างแนบแน่น โดยไม่อายสายตาผู้คนที่อยู่ข้างถนนสักนิด "กูขอโทษนะที่คืนนั้นทิ้งมึงไว้บนห้องคนเดียว"

   “อืม ไม่เป็นไร" กำลังจะง้อให้กูอยู่ต่อล่ะสิ หึหึ ...แม็กกี้รับคำพลางแสยะยิ้มออกมา เขากำลังคิดว่าถ้าหมอนี่ขอร้องให้เขาอยู่ที่นี่ต่อเขาจกยกเลิกการเดินทางกลับบ้านและกลับไปที่หอพักกับหมอนี่ทันที แต่ทว่า... เขาก็คิดผิด

   “กลับมาอีกทีก็ซื้อขนมมาฝากกูเยอะ ๆ ด้วยนะ เข้าใจไหม" สิ้นเสียงของไม้ ใบหน้าของคนที่เพิ่งแสยะยิ้มก็มีอันต้องเปลี่ยนเป็นขมวดมุ่นอย่างขัดใจ

   ...ทำไมหมอนี่ถึงไม่ง้อเขาสักนิด ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม้จะรู้ว่าคำตอบสุดท้ายว่าถึงอย่างไรก็จะต้องปฏิเสธอยู่ดี แต่ไม้ก็จะพยายามพูดเกลี้ยกล่อมและขอโทษจนวินาทีสุดท้ายที่เขาสามารถทำได้เลยล่ะ แต่ในครั้งนี้มันไม่ใช่

   “ไอ้สัส ไอ้เชี่ย ไอ้ซื่อบื้อ ว้อยยยย....” คำต่อว่าที่ตะโกนก้องออกมาจากปากของแม็กกี้ทำให้ไม้ตกตะลึงและรีบผละอ้อมกอดออกจากร่างของหมอนั่นทันที

   “มึงเป็นอะไรของมึงวะที่รัก...” ไม้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หวาดระแวงสุดทน ไม่รู้เขาไปทำอะไรผิดใจอีกหรือเปล่า แม้ว่าไม้จะโหดร้ายป่าเถื่อนกับคนอื่น ๆ แค่ไหน แต่ก็มีคนหนึ่งที่เขาต้องยอมศิโรราบให้ซึ่งนั่นก็คือแม็กกี้คู่หูสุดที่รักของเขานั่นเอง

   “หึ...” แม็กกี้พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะขับรถไปเงียบ ๆ ตลอดทางจนกระทั่งถึงจุดหมาย

   และนี่... ก็เป็นการจากลาที่ไม่สวยงามของแม็กกี้อีกครั้ง แต่ทว่ากับไม้ มันคือการจากลาที่สวยงามเลยล่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าแม็กกี้เป็นอะไร แต่การที่ได้มอเตอร์ไซค์มาขับมันทำให้เขาเดินทางสะดวกขึ้นเยอะเลย








จบตอน มีตัวเอก 3 คน มันก็ต้องมีคนที่เจ็บนั่นแหละ แต่จะเป็นใคร... หรือจะให้สุขทั้งสามดีน๊อ... ดูกระแสก่อน ไม้ถูกจิ้นกับใครมากกว่า >.<
-------------------


คุยกับนักอ่านที่น่ารักครับ

คุณ ชะรอยน้อย ::  :hao6: ความคิดเห็นน่าสนใจนะครับ แม่ตามไปฆ่าก้อง *0*

คุณ Fujoshi :: ไม่กลับมาจ้า แม็กกี้รักไม้จะตาย... อิอิ ส่วนเรื่องแม่เป็นปริศนาต่อไป

คุณ aloney :: เรื่องของแม่ยังถูกเก็บเอาไว่ต่อไปครับ T^T

คุณ Lily teddy :: ^^ ขอบคุณนะครับที่หลงกดเข้ามาอ่าน ดีใจมากๆเลยที่อ่านตามทันและเม้นท์ให้ด้วย (ขอบคุณครับ) มีการวิเคราะห์ที่น่าสนใจเลยที่เดียวครับ แต่เรื่องกลิ่นตัว คิดว่าน่าจะเป็นความหื่น ความชอบของมิวส์เฉยๆมากกว่าครับ เอิ้กๆๆ แล้วก็เรื่องความสัมพันธ์ ^^ เป็นการวิเคราะห์ที่่น่าสนใจเลยทีเดียวครับ คิคิ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ

คุณ​ มยอนฮวา :: นั่นสิครับ แม่เป็นอะไร T^T ตอนล่าสุดก็ไม่กล่าวถึงเลย T^T

คุณ  iamnan :: >.< ครับผม ได้แต่หวังว่าฟิวส์จะไม่ทำอะไร พ่อก็ไม่อยู่แล้ว T^T เฮ้ออ ครอบครัวพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2013 20:13:58 โดย gugzabb »

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
งั้นไม้ก็มีสิทธิ์เลิกกับแม็กกี้อะดิ เยสสสสสสสส~

(ออกตัวเชียร์มิวส์สุดฤทธิ์ 555 เอ๊ะ!! หรือจะ 3p ดี)

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
อ้าวตัดกลับมาที่ห้องซะละ แล้วฟิวส์ว่าไงต่อล่ะเนี่ยเรื่องแม่ เรื่องก้อง
ตอนนี้มาย้อนจุดเริ่มต้นความรักของไม้กะแม็กกี้
เหมือนเป็นการคบกันแบบมีเงื่อนไขด้วย
อย่างนี้มิวส์ก็มีสิทธิ์เป็นคนที่ใช่ของไม้อะดิ
ถึงไม้จะเห็นแม็กกี้สำคัญ แต่กว่าจะเปิดเทอมไม้จะเปลี่ยนใจไหม
ยังไงก็สงสารแม็กกี้อะถึงมิวส์จะน่าสงสารด้วยแต่ยังไงก็มาทีหลังนะ
ถ้ามีความสุขได้ทั้ง 2คนกะ1ตนก็ดีอะดิ รอติดตามค๊า :mew1:


ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ขอเชียร์แมกกี้แล้วกันเพราะมิวส์มาทีหลัง ขอให้มิวเจอคนดีๆคนอื่นเถอะ

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เชียร์ มิวส์ กับ ไม้

ผีติ๊กต๋อง+หื่น อย่างมิวส์ ต้อง เจอ กับเจ้านายหน้าโหดๆ อย่างไม้ อิอิ  :impress2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ถ้าไม้จะคู่มิวส์ จะคู่กันยังไงหว่า ?
แต่เราเชียร์นะ อิอิ

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
จากการสันนิฐานขั้นต้น คาดว่า ไม้กับมิว น่าจะคู่กัน จิตถึงเชื่อมกันได้ แต่ปัญหาคือ คนกับผี เฮ้อออ

แม็กกี้เองก็น่าสงสารอ่ะนะ แต่จากตรงนี้เหมือนสองคนนี้คบกันไม่ได้เริ่มมาจากรักอ่ะ ถ้าจบด้วยการหาคู่ให้แม็กกี้ก็คงดี

สงสัยวิญญาณโคนันเข้าสิงเราซะล่ะ คิคิ  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
อ่านแล้วชอบมากกกก
คือมิวส์เป็นผีขี้เหงาที่หื่นไปนะ555
น่าเอ็นดูแต่ก็น่ากระทืบ
ส่วนคุณลูกพี่ไม้ทำดีอยู่แล้ว(?).
.ขอให้ทำดีต่อไปนะคะ
สุดท้ายคือแม็กกี้ 55 เอาไว้มีบทกว่านี้จะรักละกัน :katai2-1:

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อยากให้ไม้คู่กับมิวส์


แต่มิวส์เป็นวิญญาณไปแล้วนี่สิ  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ตามอ่านทันจนได้ หุหุ
อยากรุ้ว่าแม่ของมิวส์เป็นอะไรง่ะ

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่  11  :ling2:


         กว่าที่ไม้จะกลับไปถึงหอพัก พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มทน

   ก่อนที่จะขึ้นไปบนห้องพัก ไม้ไม่ลืมที่จะทักทายกับท่านเจ้าที่ เพราะถึงอย่างไรท่านเจ้าที่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับเหนือธรรมชาติ อย่างน้อยทำตัวสนิทสนมเอาไว้ก็น่าจะเป็นผลดีมากกว่า

   “ท่านเจ้าที่ อยู่ไหมครับ" ไม้เอ่ยทักที่หน้าศาลพระภูมิ และเพียงชั่วครู่ร่างของชายชราชุดขาวก็ปรากฏตรงหน้า

   “อยู่... ว่าไง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ท่านเจ้าที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ท่าทีสะลึมสะลือแบบนี้สงสัยเพิ่งจะตื่นจากการนอนกลางวัน
   “ไก่นึ่งกับหมูอบท่านเจ้าที่จะกินอะไรครับ" ไม้เอ่ยถามพลางยกถุงของให้ท่านเจ้าที่ดู

   “ทั้งสองเลยไม่ได้เรอะ" เห็นถุงที่หิ้วมาท่านเจ้าที่ก็ตาลุกวาว แต่คนที่ดูจะตาลุกวาวยิ่งกว่าเห็นจะเป็นร่างของวิญญาณอีกตนที่มาปรากฏอยู่ด้านหลังของไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมมันยังเอาจมูกดมกลิ่นถุงหิ้วที่ไม้ซื้อมาราวกับเป็นน้องหมาที่มีสัมผัสพิเศษทางการดมดีเลิศอีกด้วย นี่ถ้ามีน้ำลายสงสัยน้ำลายของมิวส์คงจะเยิ้มเป็นกะละมังแล้วมั้ง

   ไม้ที่เพิ่งสังเกตเห็นมิวส์ว่ายืนอยู่ด้านหลังเลยฉีกยิ้มทักทายออกไป มันเป็นรอยยิ้มที่แสดงว่าในตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีสุด ๆ เลยล่ะ แต่ทว่าพอมิวส์คิดถึงเรื่องที่ไม้ทิ้งให้อยู่หอพักคนเดียว ทิฐิของวิญญาณก็ดันพุ่งพล่านออกมา

   “ซื้อมาฝากเหรอ ไม่กินหรอก" พูดจบก็หายวับไปทันทีปล่อยให้เจ้านายสุดโหดกับท่านเจ้าที่คุยกันกระหนุงกระหนิงสองต่อสองต่อไป

   “เป็นไรของมันเนี่ย" ไม้บ่นอุบอิบ ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับท่านเจ้าที่ต่อ "ช่างมันเถอะ ว่าแต่ท่านเจ้าที่อยากกินอะไร เลือกได้ยังครับ"

   “ข้าชอบกินหมูว่ะ แต่ก็อยากลองกินไก่เหมือนกัน เอาอย่างละครึ่ง ๆ ไม่ได้เหรอพ่อหนุ่ม" สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ไม้ก็ผงกหัวรับทันที

   “งั้นเดี๋ยวไปเอาใส่จานมาถวายให้ รอแป๊บนึงนะครับ"
   ไม่นานมากนัก ไม้ก็เอาหมูอบกับไก่นึ่งที่จัดใส่จานมาสองชุดมาถวายที่ศาลพระภูมิ โดยจานหนึ่งเป็นของท่านเจ้าที่ อีกจานหนึ่งเป็นของไอ้วิญญาณหน่อมแน้ม

   “ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม" ท่านเจ้าที่เอ่ยหลังจากที่ได้รับอาหารสุดอร่อย

   “ไว้วันหลังถ้าได้ออกไปตลาดจะหาของอร่อย ๆ มาให้กินอีกนะครับ" พูดจบก็วิ่งขึ้นหอพักทันที เพราะอยากเห็นว่าสีหน้าที่งอนเป็นผีซังกะตายของไอ้วิญญาณหน่อมแน้มหลังจากที่ได้กินของอร่อย ๆ ว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่ทว่าทันทีที่เปิดห้องเข้าไป ไม้ก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็น...

   มิวส์เลียริมฝีปากด้วยความเอร็ดอร่อย จานที่ถืออยู่ในมือก็ไม่มีหมูอบหรือไก่นึ่งให้เห็น เหลือเพียงแต่เศษกระดูกเท่านั้น พอเห็นเจ้านายกำลังยืนหน้าเหวอ ผีขี้งอนก็ยิ้มแหย ๆ ให้

   “อร่อยจังเลยเจ้านาย" มิวส์เอ่ยแก้เขิน

   “อร่อยก็ดี" ไม้ว่าก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแล้วเหยียดแข้งขาด้วยความเหน็ดเหนื่อย "กูงีบแป๊บ อย่าทำเสียงดังอะไรรบกวนกูนะ"

   “ครับ" มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยความสุภาพ ทั้งที่เมื่อครู่ยังโกรธอยู่เลยแท้ ๆ ที่เจ้านายออกไปข้างนอกไม่บอกไม่กล่าวสักคำ แต่ก่อนที่ไม้จะหลับ ขอถามให้รู้เรื่องก่อนละกัน "วันนี้เจ้านายออกไปไหนมา"

   ทันทีที่ได้ยินคำถาม คนที่นอนอยู่ก็ลุกพรวดขึ้นมาอยู่ในท่านั่งจนมิวส์ที่กลัวว่าจะโดนประทุษร้ายต้องรีบวิ่งไปซ่อนหลังตู้เสื้อผ้า “ทำไม กูจะไปไหนเกี่ยวไรกับมึง มีปัญหารึไงวะ"

   “ปะ... เปล่าครับ ใครจะกล้ามีปัญหากับเจ้านายล่ะ" มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริก พอเห็นร่างหล่อ ๆ ของเจ้านายสุดโหดล้มตัวลงไปกับที่นอนอีกครั้งก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าโล่งอกสุดฤทธิ์ ...แม้จะไม่มีลมหายใจก็เถอะ แต่มันก็รู้สึกอย่างนั้นนี่นา

   “ไว้เดี๋ยวสามทุ่มปลุกกูด้วยละกัน" ไม้สั่ง พอหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็ปรากฏว่าขณะนี้เป็นเวลา 18.25 น. “จะพาไปเที่ยว"
   “เที่ยว?" มิวส์ทวนคำพลางทำสีหน้าฉงน ...จากนั้นก็ตบศีรษะตัวเองแรง ๆ หนึ่งที "โอ๊ย... ไม่ได้ฝันนี่หว่า"

   “ก็เออสิวะ กูจะพามึงไปขับรถเล่น อย่ากวนกูล่ะ จะนอนละ" พูดจบก็หลับตาลงทันที ปล่อยให้วิญญาณหน่อมแน้มนั่งมอง ยืนมองตามแต่สะดวกต่อไป

   มิวส์นอนรออยู่ในห้องอย่างเงียบเชียบที่สุด ...ใช่แล้ว ที่ต้องบอกว่านอนรอก็เพราะเขากำลังนอนอยู่ข้าง ๆ เจ้านายสุดหล่อ แถมยังเอาศีรษะไปหนุนหัวไหล่ของคนที่กำลังหลับไหลอยู่ด้วย โชคดีที่ไม้ไม่รู้สึกตัว ไม่เช่นนั้นมิวส์อาจจะโดนฆาตกรรมจนกลายเป็นวิญญาณที่ตายซ้ำสองก็ได้

   เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง มันเป็นหนึ่งชั่วโมงที่นานแสนนานสำหรับวิญญาณที่รอคอยการได้ออกไปเที่ยวข้างนอกกับเจ้านายสุดหล่อเลยล่ะ

   มิวส์เปลี่ยนมาอยู่ในท่านั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะไม่รู้จะทำอะไรดี ง่วงก็ไม่ง่วง ขืนรออย่างนี้ต่อไปมีหวังลงแดงตายก่อนแน่ ๆ ...ก็ตายไปแล้วนี่หว่า

   มิวส์หันไปมองนาฬิกาอีกรอบ ตอนนี้ที่หน้าปัดนาฬิปรากฏเวลา 19.30 น. พอคิดอะไรดี ๆ ออกเขาก็แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบนาฬิกาแล้วปรับเวลาให้เป็นเวลา 21.00 น. ซึ่งก็คือเวลาที่ไม้สั่งให้ปลุกนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอ นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาโทรศัพท์มือถือ มิวส์ก็จัดการแก้ไขให้เป็นเวลาเดียวกันหมด จากนั้นก็...

   “เจ้านาย... ตื่นได้แล้วครับ" มิวส์ตะโกนด้วยน้ำเสียงกระดี๊กระด๊าเกินเหตุ พอเห็นว่าไม้ยังไม่ลุกเขาก็ถือวิสาสะเอานิ้วจิ้มที่หัวไหล่เบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะโดนลูกเตะพิฆาตเหมือนครั้งก่อน แม้จะสัมผัสไม่โดนโดยตรงแต่แรงลมที่ปะทะก็น่าจะทำให้รู้สึกตัวบ้างล่ะนะ แต่ทว่าไม่ว่าจะจิ้ม จะสัมผัสอย่างไรก็ไม่ยอมตื่นสักที ท้ายที่สุดมิวส์ก็เลยตัดสินใจอ้าปากแล้วขบลงไปที่หัวไหล่อย่างแรง คิดว่าจะขบเล่น ๆ ให้กระปรี้กระเปร่่าหัวใจเฉย ๆ นะ แต่ทำไมถึงได้...

   “โอ๊ยยย...” ไม่รู้ว่าพระเจ้าเล่นตลกหรืออย่างไร การขบเมื่อครู่ของมิวส์ดันสัมผัสโดนหัวไหล่เข้าจริง ๆ จนคนที่นอนอยู่ต้องสะดุ้งตื่นพร้อมกับร้องโวยวายเสียงดังลั่น และไม่ต้องคิดอะไร ไม้ก็ลุกขึ้นมาเตะไอ้วิญญาณกล้าดีแรง ๆ หนึ่งทีเท่านั้นไม่พอยังกระทุ้งศอกเข้าที่แก้มอีกครั้งให้หายแค้นอีกด้วย

   “เจ้านาย... โอ๊ยยย... ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ" พอจะโดนทำร้ายแรง ๆ ทีไรร่างกายก็ดันโดนสัมผัสได้ทุกที และก่อนที่จะโดนต่อยเข้าไปที่ใบหน้าอีกรอบ ไอ้วิญญาณกลัวตายก็รีบก้มหัวลงแทบเท้าของเจ้านายสุดหล่อทันที "ผมเจ็บแล้วครับ ฮือ... อย่าทำผมอีกเลยนะ"

   แต่่ทว่าอย่าคิดนะว่าคนอย่างไม้จะใจอ่อน เมื่อก้มหัวอยู่แบบนี้ รัศมีที่ใกล้เคียงกับเท้า เขาก็เลยซัดลูกเตะไปที่หน้าท้องจนไอ้วิญญาณหน่อมแน้มกระเด็นไปติดกับผนังห้องอีกรอบเพื่อเป็นการแก้แค้นที่มันบังอาจมาขบหัวไหล่ของเขา

   “คราวหลังปลุกกูดี ๆ ก็ได้ เข้าใจไหม" ไม้ว่าด้วยน้ำเสียงดุก่อนจะมองดูนาฬิกาแล้วหยิบเสื้อผ้ามาใส่ พอเห็นวิญญาณที่เพิ่งโดนทารุณกรรมกำลังนั่งตัวสั่นงก ๆ อยู่ใกล้ ๆ กับตู้เสื้อผ้าไม้ก็จ้องเขม็งก่อนที่จะตวาดเสียงดังลั่น "กูถามไม่ได้ยินหรือไง เข้าใจไหม!!!”

   “ขะ... เข้า เข้าใจคะ... ครับ" แล้วความหวาดผวาก็ทำให้วิญญาณหน่อมแน้มกลายเป็นวิญญาณติดอ่างไปซะอย่างนั้น

   “เออ... เข้าใจก็รีบตามกูลงมา" พูดจบก็ปิดประตูเสียงดังปั้ง จนวิญญาณติดที่อย่างมิวส์ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเกิดความลับเรื่องเวลาแตกขึ้นมาเขาจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน เพราะขนาดแค่เผลอขบที่หัวไหล่แค่นี้เขายังโดนไม้จัดการจนน่วมแบบนี้




   ก่อนจะออกจากหอพัก ไม้ไม่ลืมที่จะไปแวะทักท่านเจ้าที่ที่ศาลพระภูมิก่อน

   “ท่านเจ้าที่ครับ" เสียงเรียกของไม้ทำให้ท่านเจ้าที่ปรากฏตัวออกมาให้ไม้เห็น

   “ว่าไง...” พูดจบก็เรอออกมา สงสัยอาหารที่ถวายมาให้จะเยอะเกินไปท่านเจ้าที่เลยท้องป่องกลายเป็นบอลลูนไปแล้ว    มิวส์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของไม้ได้แต่แอบด่าในใจว่า 'เจ้าที่อะไรตะกละเป็นบ้า' อย่าให้มีสอบคัดเลือกเป็นเจ้าที่มาจัดที่หอนี้นะ ไม่งั้นเขาจะเข้าสอบคัดเลือกและโค่นบัลลันก์ท่านลุงแน่ ๆ ...ว่าแต่เป็นเจ้าที่เขามีสอบด้วยเหรอเนี่ย!?...

   “ผมจะขออนุญาตพามิวส์ไปข้างนอกครับ" ไม้ตอบ

   “อืม ไปเถอะ... แต่อย่ากลับเกินเที่ยงคืนล่ะ เพราะเที่ยงคืนถึงตีสี่เป็นเวลาที่พวกวิญญาณเร่ร่อนออกอาละวาด อาจจะเกิดอันตรายกับไอ้หน่อมแน้มนั่นได้” สิ้นเสียง ท่านเจ้าที่ก็ทำท่าว่าจะกลับเข้าไปในศาลพระภูมิ

   “อันตราย?” ไม้ทวนครับก่อนที่จะร้องเรียกท่านเจ้าที่ "อย่าเพิ่งครับ หมายความว่ายังไง อันตราย...”

   ได้ยินคำถามของไม้ ท่านเจ้าที่ก็หันหน้ากลับมาอธิบายข้อสงสัยให้คนหน้าหล่อฟังอีกครั้ง "ก็เวลาเที่ยงคืนน่ะมันเป็นเวลาที่ประตูปรโลกเปิด พวกวิญญาณเร่ร่อนที่ยังไม่โดนยมบาลจับไปทำโทษจะออกอาละวาดตามสถานที่ต่าง ๆ ที่พวกมันตาย ถ้าเจอวิญญาณดีก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเจอวิญญาณร้ายล่ะก็ ไอ้หน่อมแน้มอาจจะโดนพวกนั้นจับตัวและนำร่างไปยังอีกโลกที่เจ้าอาจจะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับไอ้หน่อมแน้มนั่นได้อีกตลอดชีวิต"

   “หยึย... เจ้านาย ผมไม่ไปแล้วดีกว่า" ได้ยินที่ท่านเจ้าที่ขู่มิวส์ก็ชักจะรู้สึกกลัว ถ้าให้เขาเลือก เขาขอเลือกจะอยู่ในหอแล้วทำอะไรต่อมิอะไรกับเจ้านายในห้องพักต่อไปดีกว่าจะต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงแบบนั้น

   “แล้วพอจะมีวิธีแก้ไม่ให้วิญญาณพวกนั้นกล้าที่จะมาจับตัวของไอ้มิวส์ไหมครับ" ไม้คุยกับท่านเจ้าที่โดยที่ไม่สนใจคำเรียกร้องของมิวส์เลยสักนิด

   “เจ้ากับไอ้หน่อมแน้มต้องอยู่ใกล้ ๆ กันตลอดเวลา ถ้าไอ้หน่อมแน้มเจอวิญญาณตัวอื่นก็ต้องให้มันกอดกับเจ้า พลังความอบอุ่นและความห่วงใยในร่างกายของมนุษย์จะทำให้เจ้านั่นปลอดภัย และยิ่งห่วงใยมากแค่ไหน พลังก็จะยิ่งแรงมากขึ้นจนพวกวิญญาณไม่กล้าเข้ามายุ่งเลยล่ะ"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่วิญญาณที่เพิ่งประท้วงว่าอยากอยู่หอพักต่อหยก ๆ ก็ยิ้มตาแป๋ว

   “งั้นก็รีบไปกันเถอะเจ้านาย" แถมยังกระตุกแขนเสื้ออีกต่างหาก

   “งั้นผมไม่ไปดีกว่าครับ" ผิดกับไม้ที่พอได้ยินวิธีป้องกันพวกวิญญาณร้ายจากท่านเจ้าที่ทำให้เขาไม่อยากจะออกไปไหนทั้งนั้น ให้หมอนี่ลวนลามในห้องยังรู้สึกดีกว่าไปกอดกับมันท่ามกลางสายตาประชาผี

   “เจ้านาย!!! เจ้านายจะไม่รักษาคำพูดเหรอ” มิวส์ตะโกนด้วยความขัดใจทันที พอเห็นสายตาออดอ้อนคล้ายกับจะร้องไห้ของไอ้ผีตอแหลไม้ก็พ่นลมหายใจแรง ๆ หนึ่งทีก่อนจะขยี้ศีรษะตัวเองด้วยความเอือมระอา

   “เออ! ก็ได้" สุดท้ายไม้ก็ต้องยอมจำนน แม้ว่าจะไม่อยากไปแต่เขาก็ไม่ยอมให้ผีมาด่าว่าไม่รักษาคำพูดหรอกนะ

   “งั้นข้าไปงีบก่อนนะ" หลังจากที่ฟังหนึ่งคนกับอีกหนึ่งวิญญาณเถียงกันจบ ท่านเจ้าที่ก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง แต่ทว่า...

   “เดี๋ยวครับ!” ไม้เอ่ยขัด "ผมต้องถวายธูปเทียนดอกไม้และอาหารให้ท่านเจ้าที่อีกใช่ไหมครับ เพราะผมจะพาเจ้านี่ไปข้างนอก"

   ที่ต้องเอ่ยถามเพราะทุกครั้งที่พามิวส์ออกไปข้างนอกท่านเจ้าที่จะสั่งให้หาของอร่อย ๆ มาให้ทุกที แต่ในครั้งนี้กลับไม่ใช่

   “เอาแค่ธูปเทียนมาขอก็ไปได้แล้วล่ะพ่อหนุ่ม ข้าไปล่ะนะ" พูดจบก็หายวับเข้าไปในศาลพระภูมิ

   “หมายความว่ายังไง" ไม้บ่นอุบอิบ พอนึกอะไรขึ้นได้เขาก็ตะโกนถามท่านเจ้าที่ "งั้นต่อไปถ้าจะออกไปไหนผมก็ไม่ต้องเอาอาหารมาถวายก็ได้ใช่ไหม แค่เอาธูปเทียนมายกมือไหว้หน้าศาลแล้วขออธิษฐานก็พอใช่ไหม ท่านเจ้าที่หลอกผมมาตลอดใช่ไหมเนี่ย!!!"

   ได้ยินดังนั้น ท่านเจ้าที่ก็เหงื่อท่วมตัวไม่กล้าหันไปสู้หน้าจึงหาเหตุผลที่เข้าท่าแล้วตะโกนตอบออกไปว่า... "ไม่ใช่นะ! ก็ตอนเจ้ากลับมาเมื่อเย็นเจ้าเอาอาหารมาถวายข้าตั้งเยอะแล้วไง ถ้าเกิดยังถามมากข้าจะไม่ให้ไอ้หน่อมแน้มนั่นออกไปข้างนอกจริง ๆ ด้วย"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ผู้ที่รู้ตัวว่าเป็นเจ้าของฉายา 'หน่อมแน้ม' ก็สะกิดแขนเจ้านายของเขาเบา ๆ "ไปกันเถอะเจ้านาย ท่านเจ้าที่จะได้พักผ่อน"

   “มึงกล้าสั่งกูเหรอ!" เสียงตวาดของไม้ทำให้มิวส์รีบวิ่งถอยหลังไปหลับอยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่ที่ขึ้นอยู่ใกล้ ๆ กับศาลพระภูมิเพราะกลัวจะโดนทารุณกรรมอีกรอบ

   “ไม่กล้าครับ... ฮือ...” มิวส์ว่าพลางนึกน้อยใจในโชคชะตา ทั้ง ๆ ที่กะจะหาคนมาตายแทนที่ทั้งทีแต่ทำไมต้องเป็นเจ้านายสุดหล่อและโหดของเขาที่มาพักอยู่ห้องที่เขาเคยอยู่ด้วยนะ เพราะความโหดของไม้เลยทำให้มิวส์ไม่กล้าแหยมอะไรเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

   พอเห็นเจ้านายเดินกลับเข้าไปที่หลังหอมิวส์ที่แอบมองตามก็คอตกพลางคิดว่าจะไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกแล้ว แต่ทว่าไม่นานมากนักเสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่ดังขึ้นกับร่างหล่อ ๆ ของเจ้านายที่ขับออกมาก็ทำให้มิวส์เบิกตาโพลง

   “มัวยืนจ้องอยู่นั่นแหละ ขึ้นมาสิวะ" ไม้สั่ง

   “ครับ" มิวส์ผงกหัวรับก่อนพลางก้าวขาออกจากหลังต้นไม้ด้วยความกลัวก่อนจะก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เพื่อซ้อนท้ายในทันที







จบตอน
------------------------

คุยกับนักอ่านที่น่าฮักครับ ^^

คุณ sang som :: ก็มีสิทธิ์ครับ แต่จะเลิกหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง คิคิ
คุณ Lily teddy :: ขอบคุณครับ ^^ มีสิทธิ์ทั้งสองครับ
คุณ ชะรอยน้อย :: เย่!! มีคนเชียร์แม็กกี้แล้ว ^^
คุณ มยอนฮวา :: อันนี้เข้า่ทาดีนะครับ ผีติ๊งต๊อง+หื่น กับ เจ้านายโหด ๆ 555
คุณ iamnan :: เชียร์หนูมิวส์อีกคนแล้ว ^^ ถ้าจะคู่กันมันก็ต้องมีวิธีน่า แต่ถ้าไม่คู่กันก็... ฝากติดตามตอนต่อด้วยนะครับ
คุณ oumpatta :: 555++  ครับผม ยังไม่เฉลย แต่เป็นไปได้ทั้งสองทางเลยครับ ต้องรอดูว่าดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ^^ (นึกว่าจะมีแต่คนเชียร์มิวส์ เริ่มมีเชียร์แม็กกี้แล้ว) เย่ๆ
คุณ BBChin JungBB :: 555++ วิญญาณโคนัน ^^ ขอบคุณที่อ่านและเม้นท์นะครับ
คุณ mukmaoY :: ขอบคุณที่ตามอ่านจนทันนะครับ แถมยังชอบด้วย ดีใจมากๆ ครับ ^^ ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะครับ
คุณ mindmaru :: นั่นสิครับ เป็นวิญญาณไปแล้ว ถ้าจะมาคู่กันจะมีวิธีไหนหนอ T^T
คุณ mentholss :: ^^ ขอบคุณและยินดีมากๆครับที่เข้ามาอ่านจนทัน แถมยังเม้นท์ให้ด้วย เรื่องแม่ของมิวส์... ยังเป็นปริศนาต่อไปครับผม ^^ แหะๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2013 20:07:30 โดย gugzabb »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
กอดดด เข้าทางหน่อมแหน่ม เชียยววว  :กอด1: :กอด1: ไอ้ผีหื่นนน

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
สงสารมิวส์อ่ะ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
มิวส์นี่น๊า นอกจากจะหื่นและยังเจ้าเล่ห์ด้วยอะโกงเวลาแบบนี้ถ้าไม้รู้ล่ะก้อ   :sad3:
แล้วมิวส์กลายเป็นซินเดอเรล่าไปซะแล้วต้องกลับก่อนเที่ยงคืนด้วย
แต่พอดีคราวนี้ไปกะเจ้าชายไม้อะนะ  อยากรู้จังวิธีแก้ของท่านเจ้าที่เนี่ยเรื่องจริงรึเปล่า
หรือรู้เห็นเป็นใจให้มิวส์ลวนลามไม้ง่ายขึ้นน๊า  :m18:
สงสารแม็กกี้ ให้รถไม้ไว้ใช้ก็พากิ๊กผี(มิวส์) ไปเที่ยวซะงั้น
หรือจะให้มิวส์เจอผีหล่อ ๆ ซะตนนึงดี ไม้จะได้คู่แม็กกี้ต่อไป
ถึงมิวส์น่ารัก น่าสงสาร แต่ก็สงสารแม็กกี้มากกว่านะเพราะไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ยังคงอยากให้มีความสุขทุกฝ่ายทั้ง 2คน กะ 1 ตน จ้า
 :pig4: รอติดตามค๊า  :mew1:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
แม่เป็นอะไรอ่ะ
ทำไมฟิวส์ไม่บอกไป
หรือว่าแม่บวชชี! (โดนตบ 555+)
แล้วก้องมาสารภาพว่าอะไร ว่าเรื่องที่ตัวเองก่อเป็นเรื่องจริงหรือแค่เพียงล้อเล่น
งานนี่กลัวดราม่า พอเห็นพ่อของมิวส์ไปสู่สุขติแล้วก็หันมาดูมิว คิดว่าสักวันมิวก็ต้องไป แต่ว่ามันก็ขึ้นอยู่ที่จะมีใครมาแทนที่มิว คงจะไม่ใช่ไม้หรือแม็กกี้หรอกนะ
เฮ่อ~ แค่คิดก็หนักใจ ไม่อยากจะเดาว่าตอนจบจะเป็นยังไง แต่ก็จะติดตามตอนต่อไปค่าาา

ปล.เค้าจิ้นฟิวส์กับก้อง (กับพระกับเจ้าหล่อนก็ยังไม่เว้น//โดนตบ) 555+ เอาจริงนะ! คิดจริงๆ นะคะคนเขียน~

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
ทำไมพระเอกรุนแรงจังเลย  :mew2:

ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
มิวส์ทำไมนายเป็นผีที่หื่นที่สุดในโลกเลยอะ(เท่าที่อ่านมานะ 555)แถมเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก :laugh:
อ่านแล้วสงสารนะ ไม่รู้ว่าจะสงสารใครดีตนนึงก็ผีอีก อีกคนก็เป็นแฟนที่ไม้รักมาก :hao5:
แต่สุดท้ายก็คิดว่ายังไงผีก็ต้องอยู่ส่วนผีอะนะ :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ไอ้คุณไม้กล้าดีมาทำร้ายร่างกาย?นู๋มิวส์ได้ไงฟ่ะ

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
แอบคิดลึกเบาๆนะ ตอนที่สัมผัสตัวกันได้ถ้าใส่แรงเยอะๆน่ะ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แหมๆ มิวส์นี่ไม่ค่อยจะหื่นเลยนะ
ได้โอกาศทะโลม เข้าหน่อยนะ
 o13

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
บทมิวกับไม้มันเยอะกว่า แม๊กกี้ก็จริงอยู่
แต่ มิวตายไปแล้วนะครับ ซึ่งถ้าคู่กันจริงๆ ไม้ต้องตายด้วยสิถึงจะได้อยู่ด้วยกัน แค่คิดก็ :mew5: ให้คู่กับแม๊กกี้เหอะแฮปปี้สุดๆละ
ผีไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนปกติได้นะครับตามหลักอะ   เว้นพี่มากพระโขนงละกันเห็นพาแม่นาคไปซ่อมหลังคาโบถส์ อยู่นิฮ่าๆ

แต่ยังไงก็ ไม้ต้องคู่กับแม๊กกี้อยู่แล้วละ(มั้ง)ถ้าคนเขียนไม่เล่นตลก ถึงไม้มันจะเกินเลยกับผีติ้งต๋องไปซึ่งมันจะมีบทนั้นหรือเปล่าขึ้นอยู่กับคนเขียนนั่นแหละ ฮ่าๆ   มาไวๆสิเค้าจะได้อ่านต่อ

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ทำไมอ่านตอนที่ แม็กกี้มาหาไม้ แล้วมันจี๊ดๆล่ะเนี่ย พอนึกถึงว่าต้องมีคนเจ็บ แล้วมันจี๊ดๆเลย

คนเขียนขอ 3p ดีกว่า  o18

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เอามอไซค์แฟนมาพาผีออกเที่ยว เอ๊ะยังไง ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
ไม่ต้องเลือกให้มันวุ่นวาย 3P. ไปเลยค่ะ
ยังไงมิวส์ก็เคยเล่นปูไต่แม็กกี้มาแล้วนี่คะ :katai2-1:

ว่าแต่ เรื่องคุณแม่ล่ะ มันค้างนะคะเนี่ย :katai1:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ตาย ตาย ตาย กว่ามิวส์จะได้ตัวตายตัวแทน
สงสัยจะตายรอบสองก่อนจริงๆ

darkeyes1

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ  ไม่รู้จะบรรยายอะไรให้เรื่องนี้  เพราะตอนนี้ความสนใจอยู่ที่ทางบ้านมิวมากกว่า
ก็นะ  ถ้าให้บรรยายนิสัยตัวละครที่อยากพูดถึงตอนนี้  ก็เริ่มสงสัยว่า  เอ...  นายไม้นี่  ถึงจะดูห่วงมิว  แล้วก็ดูเอาใจแฟน
แต่รู้สึกหมอนี่เป็นพวกคิดถึงตัวเองเป็นหลักแฮะ  ไม่สิ  น่าจะเรียกว่าเอาแต่ใจนิดๆมากกว่ามั้ง  อึมก็ยังไม่ใช่
เป้นตัวละครที่การกระทำขัดกันหลายอย่าง  เดาทางไม่ถูกเลยแฮะ

ส่วนมิว  นับวันยิ่งเอาแต่ใจ  คิดอยากให้โดนอะไรซะบ้าง  แต่พอโดนไม้ทำร้ายเข้าจริงๆ  ก้รู้สึก
น่าสงสารเหมือนกันแฮะ

ส่วนคนสุดท้าย...  เฮ้อ...  จะรักแฟนคนนี้ได้ดีแค่ไหนนะ  รู้สึกเรื่องนี้ยังมีความทุกข์ตามมาอีกมาก

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 12  :z6:




          บนท้องถนนในยามนี้ หากเป็นมหานครที่ไม่เคยหลับไหลอย่างเช่นเมืองหลวงของประเทศไทยคงมีรถราแล่นให้เห็นอยู่เต็มไปหมด แต่มันไม่ใช่กับที่นี่มหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้เทือกเขาแถมยังอยู่ห่างจากตัวเมืองอีกด้วย ทำให้สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้มีเพียงแสงไฟริบหรี่ที่สาดส่องลงมาให้เห็นสลัว ๆ เท่านั้น

   “มึงทำอะไรของมึง" เมื่อรู้สึกว่าร่างของวิญญาณที่ซ้อนท้ายชักจะกอดแน่นขึ้น ไม้จึงต้องบ่นออกมา

   “ซ้อมไงเจ้านาย... เผื่อเจอไอ้พวกวิญญาณดุร้ายจะมาเอาผมไปอยู่ด้วยจะได้ฝึกให้ชิน ๆ" พูดไปก็ยิ้มไปแถมยังซุกหน้าเข้าที่แผ่นหลังอันแข็งแกร่งของเจ้านายสุดหล่ออีกด้วย มิหนำซ้ำแขนทั้งสองข้างตั้งแต่ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์มาก็ยังไม่ปล่อยออกจากเอวของคนขับรถเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

   “แต่กูว่าถ้าขืนรัดกูแน่นกว่านี้ มีหวังกูได้ตายเป็นผีแล้วไปอยู่กับมึงแน่ ๆ" ไม้ต่อว่า เพราะอ้อมกอดของมิวส์ชักแน่นจนเขาหายใจจะไม่ออกอยู่แล้ว อีกอย่างเกิดมีรถขับปาดหน้าหรือเจอทางคดเคี้ยว ไม้อาจจะหักรถหลบไม่ทันก็เป็นได้ "จะกอดก็กอดเบา ๆ ไม่ต้องกอดจนเว่อร์ได้ปะไอ้ผีหื่น"

   “โถ่เจ้านาย...” มิวส์พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อก่อนที่จะคลายอ้อมกอดให้หลวมขึ้น "ผมไม่ใช่ผีนะ ผมเป็นวิญญาณ"

   “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ" ไม้เถียง ...มิวส์ที่กำลังอ้าปากพะงาบ ๆ จะเถียงกลับก็มีอันต้องหยุดชะงักเพราะประโยคถัดมาของเจ้านายช่างน่ากลัวเหลือเกินสำหรับวิญญาณหน่อมแน้มอย่างเขา

   “หุบปากซะ!!! ถ้ามึงไม่อยากโดนไอ้พวกวิญญาณข้างทางจับตัวไป" สิ้นเสียงของไม้ ความเงียบก็เข้าปกคลุมในการเดินทาง มีเพียงเสียงมอเตอร์ไซค์ที่ดังเป็นสัญญาณให้รู้ว่ายังมีคนอยู่ในละแวกนั้น

   ไม่นานมากนักไม้ก็ขับรถมาถึงจุดหมาย... เขาทอดสายตาไปยังตึกสูงใหญ่ภายในรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความรู้สึกประหลาด ๆ เพราะเหลืออีกเพียงปีเดียวเท่านั้น เขาก็จะเรียนจบปริญญาตรีจากรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว แต่ที่ดูเหมือนจะเศร้ายิ่งกว่าเห็นจะเป็นมิวส์ที่บัดนี้กำลังนึกถึงเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อนที่เขาเคยศึกษาอยู่ที่นี่

   “เจ้านายมาที่นี่ทำไม" มิวส์เอ่ยถามหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมสักพัก

   “ก็... มึงอาจจะคิดถึงก็ได้...” ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ "ขนาดกูแค่คิดว่าเหลือเวลาที่จะเรียนอยู่ที่นี่อีกเพียงปีเดียว กูยังใจหายเลยว่ะ...”

   “ครับ" มิวส์เอ่ยตอบ พอได้ยินคำพูดของไม้ความรู้สึกประหลาด ๆ ก็รุมเร้าในจิตใจของมิวส์ขึ้นมาทันที

   ใช่! เหลือเวลาอีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นที่มิวส์จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเจ้านายสุดหล่อและโหดคนนี้ และถ้าวันที่ต้องจากกันมาถึง เขาก็ต้องอยู่ในห้องพักตามลำพัง รอเจ้าของห้องพักรายใหม่ที่จะเข้ามาอาศัยอย่างนั้นน่ะหรือ คิดแล้วมันก็เศร้าใจชะมัด หรือเขาควรจะหาตัวตายตัวแทนมาแทนที่เขาเพื่อที่เขาจะได้ไปชดใช้กรรมสักทีและจะได้ไม่ต้องทนเหงาอีกต่อไป

   ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้น แม้ว่าในตอนแรกหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้ไม้หรือไม่ก็แม็กกี้กลายมาเป็นวิญญาณติดที่แทน แต่ทว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับไม้เพียงไม่กี่วันกลับทำให้มิวส์รู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ จนล้มเลิกความคิดที่อกุศลเช่นนั้น

   “เป็นอะไรมึง" ไม้เอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มตลอดเวลากลับเศร้าสลดลง แถมยังเงียบลงไปเสียดื้อ ๆ

   “เปล่าครับ" มิวส์ตอบออกไป ทั้ง ๆ ที่เขาอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจให้ไม้ฟังเหลือเกิน แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปแล้วมันจะทำให้เจ้านายของเขาลำบากใจ และไม่แน่ว่าเขาอาจจะโดนประทุษร้ายร่างกายอีกก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไม่พูดน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

   “อืม... ไปใต้ตึกกันเถอะ" ไม้เอ่ยชวน เพราะตั้งแต่ที่เข้ามายังรั้วมหาวิทยาลัยพวกเขาก็ยังไม่ได้เดินไปที่ไหนเลยนอกจากหน้าตึกหนึ่งซึ่งเป็นจุดที่ไม้จอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้

   ตามทางเดินเข้าไปยังตัวตึกมีแสงไฟสาดส่องพอให้เห็นสลัว ๆ แต่พอเข้าไปใต้ตึกยังจุดนั่งพักสำหรับนักศึกษาไฟก็สว่างวาบจนมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

   เป็นปกติสำหรับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่จะเปิดไฟให้นักศึกษาและคณาจารย์ทำงานกันจนดึก ๆ ดื่น ๆ ทุกวันไม่เว้นแม้แต่ช่วงปิดเทอม เพราะมีนักศึกษาหลายคนที่ลงเรียนภาคฤดูร้อน ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ตัวเองเรียนจบไวขึ้น และอีกส่วนก็เพราะต้องตามมาเรียนทีหลังเนื่องจากเรียนไม่ทันหรือไม่ผ่านในภาคปกติ

   พอเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลา 21.30 น. เนื่องจากหอพักแห่งนี้อยู่ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยจึงทำให้ไม่เสียเวลาเดินทางมากนัก ขับมอเตอร์ไซค์แค่ 5 นาทีก็มาถึง แต่ที่มาช้าก็เพราะมัวแต่คุยกับท่านเจ้าที่ต่างหาก

   “น่าแปลก" ไม้เอ่ยขึ้นหลังจากที่พลิกนาฬิกาข้อมือดูอีกรอบ นอกจากบนตัวอาคารจะมีแสงไฟสว่างวาบแล้ว ใต้ตึกบางตึกยังมีการจัดซุ้ม จัดป้ายต่าง ๆ เพื่อเตรียมงานรับนอกอีกด้วย ทำให้มหาวิทยาลัยในช่วงนี้ดูจะคึกคักมากเป็นพิเศษ

   “อะไรแปลกเหรอครับเจ้านาย" มิวส์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “สามทุ่มครึ่งแล้วทำไมคนยังเยอะอยู่เลย" ไม้ตอบโดยที่ไม่ว่านาฬิกาของเขานั้นโดนไอ้วิญญาณหน่อมแน้มแกล้งปรับเวลาให้มันเดินเร็วกว่าเวลาปกติชั่วโมงครึ่ง

   “กะ... ก็... ก็...” พอเห็นเจ้านายสงสัย วิญญาณผู้มีความผิดติดตัวก็ติดอ่างขึ้นมาเลยทีเดียว "ก็ใกล้ช่วงรับน้องแล้วมั้งครับ ดูสิ เห็นทำป้าย ทำซุ้มต่าง ๆ กันเยอะเลย"

   “เออ... ก็คงจะจริง เด็กปีนี้มันขยันแฮะ เดินไปตึกคณะบ้างดีกว่า" พูดจบก็เดินลัดเลาะตามอาคารไปโดยมีมิวส์เดินตามเงียบ ๆ จนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หน้าตึกหลังหนึ่ง

   ตึกหลังนี้เป็นอาคารสูง 4 ชั้น หน้าตึกมีตัวอักษรแปะเอาไว้ว่า ...คณะศิลปศาสตร์...  ตัวอาคารมีลักษณะเป็นรูปตัว U โดยพื้นที่ใต้ตึกที่อยู่ในจุดกึ่งกลางของตัว U นั้นจะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับรับน้องในวันแรกก่อนที่จะแยกไปรับตามสาขาวิชา

   “เจ้านายเรียนสาขาอะไรครับ" ตึกที่คุ้นตาแต่ทว่าในยามนี้กลับถูกทาสีใหม่ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น มิวส์ยังจดจำสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างเขากับก้อง

   “ภาษาอังกฤษ" คำตอบของไม้ตอกย้ำให้มิวส์ยิ่งคิดถึงความทรงจำในอดีตเข้าไปใหญ่ เพราะก้องก็เรียนสาขาวิชาภาษาอังกฤษเหมือนกัน "แล้วมึงล่ะ"

   “ตี๋ตาโตแบบนี้ก็ต้องภาษาจีนสิครับ" มิวส์ตอบทีเล่นทีจริง ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลับรู้สึกเจ็บปวดแปลก ๆ ...ก็แหงล่ะ สถานที่เก่า ๆ มันย้ำเตือนให้นึกถึงคนรักเก่าที่เคยทำร้ายให้เขาต้องกลายมาเป็นวิญญาณติดที่แบบนี้

   “พี่ไม้คะ พี่ไม้ใช่ไหมคะ สวัสดีค่ะ" ในขณะที่ไม้กำลังพูดคุยกับมิวส์ เสียงทักทายเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากใต้ตึกคณะบริเวณที่กำลังจัดซุ้มรับน้อง

   “น้อง...” ไม้ขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าหญิงสาวผิวขาวหน้าตาสะสวยผมยาวถึงกลางหลังผู้นี้เป็นรุ่นน้องที่คณะ แต่ทว่าหากนับรวมรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่สามแล้วก็มีไม่ต่ำกว่าร้อยคนเขาคงจำชื่อได้ไม่หมดหรอก

   “หนิงค่ะขึ้นชั้นปีที่สอง" เธอตอบออกมา ก่อนที่จะหันไปตะโกนเรียกเพื่อน ๆ อีกหกคนที่กำลังสาละวนกับการจัดซุ้ม "พวกเรา ๆ พี่ไม้ชั้นปีสี่มาให้กำลังใจพวกเราจัดซุ้มด้วย"

   สิ้นเสียงของหนิง ชายหนุ่มหญิงสาวอีกหกคนก็หันมาทักทายและสวัสดีกับรุ่นปีที่สี่ "สวัสดีครับ/ค่ะ"

   “สวัสดีครับ" ไม้ตอบกลับด้วยความสุภาพ เขารู้สึกตงิดใจแปลก ๆ ที่โดนหาว่ามาให้กำลังใจทั้ง ๆ ที่เขาแค่กะจะมาเดินเล่นเฉย ๆ แต่รุ่นน้องกลุ่มนี้กลับคิดเองเออเองไปได้...

   “แล้วนี่จะจัดซุ้มกันถึงเมื่อไหร่เนี่ย" ไม้เอ่ยถาม

   “สามทุ่มเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะพี่ไม้" คำตอบของหนิงทำให้ไม้ขมวดคิ้วด้วยความฉงน ส่วนไอ้วิญญาณตัวดีที่รู้ชะตากรรมตัวเองกำลังยิ้มแห้ง ๆ อยู่ด้านหลัง นี่ถ้าไม่กลัวว่าจะไม่ได้กลับหอกับเจ้านายเขาคงวิ่งไปหลบอยู่ในถังขยะแล้วล่ะ

   “สามทุ่ม?” ไม้ทวนคำพลางมองดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง ...ตอนนี้มันสามทุ่มสี่สิบแล้วนี่นา... พอเริ่มจับพิรุทธิ์ได้เขาก็หันหลังกลับไปมองมิวส์ที่กำลังตัวสั่นงก ๆ ด้วยตาขวางสุดฤทธิ์ "ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ พอดีนาฬิกาพี่มันตายน่ะ"

   ไม่รู้ว่ามิวส์คิดไปเองหรือเปล่าถึงได้รู้สึกว่าสายตาของไม้ในยามนี้ไม่ต่างอะไรกับอสุรกายเลยสักนิด

   “สองทุ่มสิบนาทีค่ะ" ได้ยินคำตอบของหนิง ไม้ก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

   “อีกห้าสิบนาที... แล้วนี่ทานข้าวกันยัง" ไม้เอ่ยถามอีกครั้งเพราะดูสีหน้าน้อง ๆ แต่ละคนอิดโรยเกินกว่าเหตุ และถ้ารุ่นน้องเหล่านี้บอกว่ายัง เขาก็จะอาสาออกไปซื้อของกินมาเลี้ยงน้อง ๆ ...เหนือสิ่งอื่นใด ที่ไม้อยากปลีกตัวออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุดก็เพราะถ้าเขาไม่ได้อาละวาดไอ้วิญญาณเจ้าเล่ห์ให้ไวที่สุด เพราะถ้าเขาไม่ได้ทำโทษมันมีหวังต้องอกแตกตายแน่ ๆ

   “ยังค่ะ" และคำปราถนาของไม้ก็เป็นผล ทันทีที่ได้ยินคำตอบของหนิงไม้ก็เอ่ยต่อว่า...

   “งั้นรออยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่ไปซื้ออะไรมาให้ทาน...” พูดจบก็กลับหลังหันและก้าวขาเพื่อที่จะไปยังจุดจอดมอเตอร์ไซค์ทันที และไม่ลืมที่จะตะโกนบอกเหล่ารุ่นน้องให้หลังว่า "อย่าปฏิเสธนะ รอพี่อยู่นี่แหละ แป๊บเดียว...”

   “ค่า... คร้าบ...” เหล่ารุ่นน้องต่างส่งเสียงตะโกนตอบกลับด้วยความดีใจ ...ไม่ใช่เพราะแค่เพียงได้กินของฟรีหรอก แต่พี่ไม้คนนี้น่ะเป็นรุ่นพี่ที่พวกเขาแอบปลื้มมานานแล้ว เพราะผู้ชายหน้าตาหล่อ ๆ นิสัยเถื่อน ๆ โดนใจวัยโจ๋แบบนี้มีน้อยนักที่จะตัดสินใจมาเรียนคณะศิลปศาสตร์สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู และถ้าเป็นเกย์ 99.99% ก็จะเป็นเกย์เพศรับทั้งหมด




   ตลอดทางที่เดินไปยังหน้าตึกที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ไม้ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ มีเพียงหน้าตาที่ถมึงทึง คิ้วที่ขมวดมุ่น ดวงตาที่ราวกับมัจจุราชและเสียงพ่นลมหายใจแรง ๆ ที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาในยามนี้

   ส่วนมิวส์ก็ได้แต่เดินคอตกตามไปเงียบ ๆ นี่ถ้าเขามีหางเหมือนสุนัข ป่านนี้หางคงจะหดจนไม่รู้จะหดยังไงแล้ว เพราะรู้ชะตากรรมของตัวเองในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

   และลางสังหรณ์ของมิวส์ก็ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน เพราะทันทีที่ไปถึงจุดจอดรถ ไม้ที่พอหันซ้ายแลขวาแล้วไม่พบใครอยู่ในละแวกนั้นก็ตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง

   “ไอ้ผีนรก!!!”

   พอได้ยินพลังเสียงอันน่ากลัวและทรงพลังที่สุดตั้งแต่ที่เกิดมาลืมตาดูโลก มิวส์ก็ตั้งการ์ดขึ้นมาป้องกันตัวรอไว้ทันที “อย่านะเจ้านะ ผมขอโทษ ก็อยู่ห้องมันน่าเบื่อ"

   “หันหลัง" เห็นท่าทางน่าสมเพชของวิญญาณหน่อมแน้มก็ยิ่งทำให้ไม้โมโหเข้าไปใหญ่

   “หันหลัง?” มิวส์ทวนคำด้วยความสงสัย ในใจก็หวาดกลัวสุดฤทธิ์ "เจ้านายจะทำอะไร... กลางที่สาธารณะเลยนะครับ"

   ได้ยินดังนั้น ไม้ก็ได้แต่ขยี้ศีรษะตัวเองด้วยความขัดใจ ไม่รู้จะด่าจะว่าไอ้ผีหน่อมแน้มนี่ยังไงแล้ว คดีเก่ายังไม่จบมันก็ก่อคดีใหม่ด้วยการคิดอะไรที่อกุศลไปได้

   “กูบอกให้หันหลัง" ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น... สำหรับคนปกติจะรู้สึกว่าพวกที่อยู่ในอารมณ์กรุ่นโกรธแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแบบนี้น่ากลัวกว่าพวกที่โกรธแล้วตะคอกเสียอีก แต่ทว่าเหมือนจะไม่ใช่กับมิวส์ ...ก็มิวส์ไม่ใช่คนปกตินี่นา

   “คะ... ครับ" มิวส์ตอบตะกุกตะกักพลางรู้สึกสับสนไม่คิดว่าบทลงโทษจะเป็นอะไรที่เขาปราถนารอคอยมานานแบบนี้ ถ้ารู้ว่าทำผิดแล้วโดนเข้าข้างหลังแบบนี้ ต่อไปเขาจะทำผิดให้บ่อย ๆ เลยล่ะ

   หลังจากที่กลับหลังหันตามคำสั่ง มิวส์ก็ฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะยกมือขึ้นมายืนกอดอก ตัวก็ยืนเกร็งด้วยความตื่นเต้นเพื่อรอการจู่โจมอันดุเด็ดเผ็ดร้อนของเจ้านายสุดโหด แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้จินตนาการถึงฉากที่ปราถนา แรงกระแทกที่บั้นท้ายจากปลายเท้าของไม้ที่วิ่งมาแต่ไกลก็ทำให้สติของมิวส์กลับมาสู่ความเป็นจริงพร้อมกับร่างที่ลอยละลิ่วปลิวไปตามลมจนอัดกระแทกกับต้นไม้ ...นี่แหละหนาโทษของการไม่มีร่างกายทำให้ปลิวไปตามลมได้ง่าย ๆ

   “โอยยย... เจ้านายทำอะไร" วิญญาณสุดหื่นร้อนด้วยน้ำเสียงอดครวญก่อนที่ร่างจะค่อย ๆ ไหลลงไปตามลำต้นของต้นไม้จนนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ...เกิดดวงดาวระยิบระยับหลายดวงผลัดกันเปล่งแสงอยู่บริเวณขมับของมิวส์ทันที ทั้ง ๆ ที่วันนี้ฟ้าปิดนี่นา ไม่รู้ว่าดาวพวกนี้ลอยไปลอยมาอยู่ใกล้ ๆ กับใบหน้าของเขาได้อย่างไร

   “หึ...” ไม้พ่นลมหายใจใส่หลังจากที่เดินไปดูร่างไอ้วิญญาณทะลึ่งที่นอนหงายหน้าจะตายมีตายแหล่อยู่ใต้ต้นไม้ "คราวหลังอย่าริอาจมาทำนิสัยเจ้าเล่ห์กับกูอีกเพราะกูไม่ใช่เพื่อนเล่นเข้าใจไหม....”

   เหมือนว่าสติสตังค์ของวิญญาณที่โดนทำโทษจะยังไม่กลับมา เพราะไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ไม้เลยขมวดคิ้วอย่างขัดใจก่อนที่จะตะคอกออกมาเสียงดังอีกหนึ่งที "กูถามว่าเข้าใจไหม!!!”

   “ขะ... เข้าใจครับ" มิวส์ขยับปากตอบรับด้วยความยากลำบากโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เจ้านายพูดอะไรออกมาบ้าง แต่ที่ต้องรีบตอบรับเพราะไม่อยากจะโดนลงโทษแบบนี้อีกแล้ว

   'โอยยย... เจ้านายใจร้ายที่สุด' มิวส์บ่นในใจ และความเจ็บในคืนนี้จะทำให้มิวส์พึงระลึกจดจำไปอีกนานว่าเขาจะไม่ปรับนาฬิกาให้เจ้านายมั่วซั่วอีกแล้ว...





จบตอน
----------------
คุยกับนักอ่านที่น่ารัก

คุณ nunnan :: แน่นอนครับ กอดกันจะได้จิ้นกันง่าย ๆ ฮ่าๆ เข้าทางมิวส์เลย
คุณ mukmaoY :: ตอนที่แล้วว่าน่าสงสารแล้ว ตอนนี้น่าสงสารกว่าอีก T^T แต่กระผมฮา แหะๆ
คุณ Lily teddy :: เห็นด้วยครับว่าแม็กกี้น่าสงสารมากกว่า T^T
คุณ Chichi Yuki :: มีจิ้นฟิวส์กับก้องด้วยเหรอเนี่ย งั้นตอนหลัง ๆ ให้ฟิวส์กับก้องโผล่มาคู่กันบ้างดีกว่า สักนิดก็ยังดี แฮ่ๆ
คุณ ชะรอยน้อย :: T^T เพราะคนเขียนชอบความรุนแรงครับ ...เอ้ยย ไม่ใช่ละครับ ล้อเล่นเน่อ ฮ่าๆ
คุณ Satanza321 :: ประโยคสุดท้าย 'ผีก็ต้องอยู่ส่วนผี' เจ็บจี๊ดๆมากเลยครับ T^T
คุณ iamnan :: ตอนนี้ก็ทำร้ายอีกแล้วครับ T^T ไม้จะโดนแบนไหมน๊อ
คุณ mindmaru :: ง่า คิดลึกๆ ยังไงครับเนี่ย 55555
คุณ มยอนฮวา :: โอกาสมา ก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า คิคิ
คุณ เกเร :: ขอบคุณครับที่แวะมาอ่านแถมยังเม้นท์ให้ด้วย ^^ ดีใจที่สุดเลย ส่วนบทสรุปจะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อ ๆ ไปนะครับ
คุณ shabushabu4 :: 3p คืออะไรหนอ T^T เข้าใจว่ามีตัวเอง 3 คน เป็นรักสามเส้าเหรอครับ หรือว่าสุขสมหวังทั้ง 3 คน
คุณ naruxiah :: 555 นั่นสิ ยังไง ๆ แม็กกี้รู้คงเสียใจแย่เลย T^T
คุณ Fujoshi ::  3p คืออะไรหนอ T^T เรื่องคุณแม่ยังเป็นปริศนาต่อไปครับ
คุณ mentholss :: 2 รอบอาจจะไม่พอ อาจจะตายอีกสัก 3-4-5-6 รอบได้เลยครับถ้ายังอยู่กับไม้ 555
คุณ darkeyes1 :: ใช่เลยครับ ไม้เป็นพวก ร้าย โหด เถื่อน การแสดงออกรุนแรง แต่ในใจเดายากครับว่าคิดยังไง



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด