บรรเทาอาการคิดถึงเฮียครับ
ครึ่งเดียวก่อนนะครับ
พิมพ์เพิ่งเสร็จหมาดๆ
ต้องนอนแล้ว...เอาแรงครับ
พรุ่งนี้มีธุระครับผม

หยดน้ำในทะเล(ทราย)
กำหนดผ่าตัดของแม่อีก2อาทิตย์
ช่วงนี้ทุกคนจะรีบกลับบ้าน
ไม่เถลไถลไปไหน
ชวนแม่คุยเรื่องไร้สาระให้มากเข้าไว้
เจ้แจ๋มลูกกู๋จิวแกเดินเรื่องให้
แกเป็นพยาบาลอยู่ที่รพ.ที่แม่จะไป (แถวๆสภากาชาด)
วันนี้มารร.ด้วยใจที่หนักอึ้ง
เขม่นตายิบๆ
“วันนี้จะมีรุ่นพี่ที่สอบติดแพทย์มาแนะแนวน้องๆ..แพทย์เชียวนะโว๊ย”
“พลาดไม่ได้...เผื่อมีเคล็ดลับดีๆ ชั้นอาจจะได้เป็นหมอกะเค้ามั่ง”
ช่วงนี้รุ่นพี่ที่เอ็นติด ทยอยกันมาชี้แนะ อาชีพต่างๆให้รุ่นน้อง
เกือบๆจะครบทุกคณะแล้วมั๊ง
ไม่ค่อยได้เข้าฟังหรอก
บางครั้งฟังไปก็ไม่เข้าหู
เพื่อนมันชวนมาฟัง
ดีเหมือนกัน..หลบร้อน
ห้องประชุมแอร์เย็นดี
เผื่อความร้อนรุ่มในใจจะบรรเทาลง
“หน่อย..แกดูซิ..ใช่รุ่นพี่รร.เราเหรอวะ”
ชะเง้อคอมอง คนบนเวทีในชุดนักศึกษา
ชาวูบ หัวจรดเท้า
มือเย็นเฉียบ
โดดเด่นกว่าใคร
นานแล้วสินะ
ตั้งแต่งานที่ศาลเจ้า
“อ้าว..แกไม่รู้จักเหรอ..ลูกเถ้าแก่ที่ปั๊มข้างบ้านไอ้หน่อยไง”
เพื่อนอีกคนตอบแทน
“แกไม่ใช่เด็กรร.เรานี่หว่า”
“ก็ปีนี้รร.เราไม่มีใครติดแพทย์ แกเลยมาช่วย”
“เฮียแกอยากเป็นหมอ ตอนเตี่ยแกตายแกเลยฝังใจ”
เฮียมี่อยากเป็นหมอ
นี่ผมไม่รู้เลย
มีอะไรอีกมั๊ยเกี่ยวกับเฮียที่ผมไม่รู้
รึมีอะไรที่ผมรู้..จะง่ายกว่ามั๊ย
อยากออกไปจากที่นี่แล้ว
ไม่ใช่ที่ของผม
ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาเลย
ไม่มีใครสังเกต
จุดสนใจอยู่บนเวที
ผมหลบมาที่ห้องน้ำ ห้องน้ำที่ตึกเรียน
ห้องน้ำที่หอประชุมมันใกล้เกินไป
กลัวเสียงหัวใจตัวเองจะดังให้คนอื่นได้ยิน
ร้องไห้จนเหนื่อย
รอว่า..เมื่อไหร่รร.จะเลิก คาบสุดท้ายแล้วนี่
อีกแป๊บเดียว
ถือกระเป๋าออกมาเตรียมพร้อมจะกลับบ้าน
ประตูรร.เปิดได้ซะที
เดินมาเกือบถึงรถโกเข่ง
“นิด..กลับไปกับรถก่อน แฮก...แฮก...เดี๋ยวเฮียไปส่งหน่อยเอง”
หันขวับกลับไปทันที เสียงเฮีย
เหงื่อท่วมตัว คงวิ่งมาสินะ
กระเป๋าผมถูกดึงจากมือ ส่งไปให้เจ๊นิดที่ยืนรอ
แทนที่กระเป๋าด้วยมือเฮีย จับมือผมไว้แน่น
เจ๊นิดรับไป แล้วหันหลังกลับจะไปขึ้นรถประจำ
“ผมไม่ไป..เจ๊รอผมด้วย”
ทั้งแกะทั้งสะบัด
เจ๊เดินกลับมาลูบหัวผม
“ไปคุยกันให้รู้เรื่อง จบเป็นจบ”
เจ้มองหน้าเฮียนิดนึง พยักหน้าแล้วเดินกลับไปไม่เหลียวหลัง
ผมหยุดดิ้นรนแล้ว
เอาไงเอากัน
เดินไปให้สุดทางก่อนจะหันหลังกลับตลอดกาล
เฮียปล่อยมือผมแล้วเดินนำหน้า
มั่นใจว่าผมจะเดินตามหลังมา
มั่นใจขนาดนั้น
เฮียไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน
ไม่คิดเหรอว่าผมไม่รอแล้ว
ซ้อนรถมอเตอร์ไชค์ออกจากรร.
คนขี่ใส่ชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยม
ประสบความสำเร็จแล้วสินะ..ได้เป็นหมอ
อีกคนใส่ชุดนร.ม.ปลาย
ยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง
เฮียดึงมือผมข้างนึงให้มาเกาะเอว
(ถ้าดึง2ข้างหล่ะ..รถก็ล้มสิครับ...แป๊ก)
แล้วไม่ยอมปล่อย..กุมหลังมือผมไว้
พัฒนาไปอีกขั้นสินะ..ขี่รถมือเดียว
ทางไม่คุ้นเคย แต่ก็พามาถึงบ้านหลังโตของเฮียได้
“ทางเข้ารถยนต์หน่ะ ไม่ต้องผ่านหน้าร้าน”
อ้อ..ไม่อยากให้ใครรู้ใครเห็นสินะ
ผมสะบัดหน้าหันไปมองบ้าน..เงียบมาก
เฮียเดินนำเข้าไปในบ้าน
ตายละ มีคนนั่งอยู่..เจ๊วารึป่าว ผมไม่กล้า
“เจ๊อ๋อง มี่พาน้องมานะครับ”
ผมยกมือไหว้เจ๊คนที่นั่งอยู่
“เจ๊คนโต 3คน ถัดมาเจ๊อ๋องแล้วก็เฮีย”
เฮียมี่อธิบายให้ฟัง
“ตามสบายนะจ๊ะหน่อย เจ๊จะไปดูแม่ที่ร้าน”
ผมพยักหน้ายกมือไหว้ ขอบคุณแก
“ส่วนมี่..แกก็อย่าเสียงดังให้มันมากนะ..ฮ่ะ... ฮ่ะ....ฮ่า”
คุ้นๆนะ บุคลิกแบบนี้ เหมือนเจ๊นิดเลย
เฮียจูงมือผมเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
“เฮีย..คุยข้างล่างก็ได้”
“ไม่ได้ยินเหรอ เจ๊อ๋องบอกอย่าทำเสียงดัง”
เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย
“ผมรีบ จะกลับบ้าน”
เฮียทำหน้าล้อเลียนผม
“เฮียไม่รีบ มีเวลาทั้งคืน”

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พรุ่งนี้มาตอนบ่ายๆครับผม