
ชอบแบบไหน
วันพุธ เลิกเรียนตอนเย็น
ผมไม่ชอบเฮียปาน
หยาบคาย ไม่มีสมบัติผู้ดี
พูดคำด่าคำ
วันพฤหัส ทั้งวัน
ผมหมั่นไส้เฮียปาน
เหมือนวิญญานเร่ร่อน
เจอแก ทุกๆที่ ที่ผมอยู่
ไม่ว่าจะโรงอาหาร หอประชุม แปลงเกษตร แม้กระทั่งห้องน้ำ
(ได้ข่าวว่าแกอยู่รร.เดียวกะเขานะ)
วันศุกร์ รู้สึกตระหนก เริ่มหวาดระแวง
แกเหมือนคนโรคจิต ถ้ำมอง
ทุกครั้งที่หันไปเจอ แกจะมองจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว
หน้านิ่งๆ ไม่ยิ้ม ไม่ยักคิ้ว
สายตามองสำรวจทุกรูขุมขน
จนผมต้องกลับมาประเมินตัวเอง
ผมไปสะกิดตาปลาแกรึป่าว
วันเสาร์ วันหยุด
ไม่เจอแกค่อยยังชั่ว
สมองปลอดโปร่งสุดๆ ลั๊นลา
ไม่นานเกินรอ
เสียงแกตามมาหลอกมาหลอนผมถึงบ้าน
“หน่อย..รับโทรศัพท์”
นานๆที เสียงโทรศัพท์ที่บ้านจะดัง
“หวัดดีครับ”
“โหลครับ ใครพูดครับ”
“โหลๆ......2 โหล 24”
“ไม่พูดจะวางแล้วนะ”
พวกโรคจิตละมั๊ง
“มาร้านกู”
“ห๊ะ”
ร้านเปิดใหม่เหรอ
เชิญไปตัดริบบิ้นอ๊ะป่าว
“จะให้ไปรับมั๊ย”
เสียงห้วนๆ หยาบคายแบบนี้
ไม่ผิดแน่
ไอ้คนที่มันตามมาหลอกหลอนผมในช่วง2-3วันนี้
“ไปมัยอะครับ”
ใช้ความสุภาพเข้าข่ม
“รูปมึงอะ เกะกะร้านกู”
มันจะกินที่สักแค่ไหนว๊า
“ฝากปิงไว้ได้มั๊ยอะ ผมใช้วันจันทร์”
ค่ารูปไม่ต้องห่วง ไอ้ปิงมันตามเก็บไม่ตกหล่น
“บ้านมันก็บ้านกู”
รู้ตั้งแต่เกิดแล้วววววววว
“ไม่มากูทิ้ง”
มีแต่ทิ้งกูมึงตายอะ (แกๆ ตอนนั้นเจ๊เบียบ แกยังไม่ได้เป็นสว.)
“โห ไม่อยากไปอะ”
“....”
“งั้นผมขอคุยกับไอ้ปิงหน่อยครับ”
“มันขี้อยู่”
ไม่ต้องบอกผม ผมไม่อยากรู้ขนาดนั้น แค่ไม่ว่างก็พอ
“เออ...คือ...”
“กริ๊ก”
วางหูไปแล้ว
มารยาททราม
ตั้งแต่คุยกับแก ผมเริ่มรู้สึกปากจัด ถึงจะแค่ด่าในใจ
“เจ๊... เจ๊นิดครับ ช่วยไปรับรูปที่ร้านไอ้ปิงให้หน่อยครับ”
“ไม่ไป..ร้อน”
“โห......ไม่มีความเมตตา”
“เออ เพิ่งรู้เหรอ”
“ง่ะ”
“จะรีบไปเอาทำไมหล่ะ ใช้วันจันทร์โน่น”
“ก็รูปมันเสร็จแล้วอะ”
“จะไปทำไมให้เปลืองน้ำมัน วันจันทร์ให้ไอ้ปิงเอาไปให้ที่รร.”
“แต่...แต่เฮียปาน”
“ปานมันทำไม”
“เฮียปานแกว่า ถ้าไม่มาเอา แกจะเอารูปผมทิ้ง”
“ฮะ ฮะ ไอ้ปานมันกวนทีนไปงั้นแหละ ไม่ต้องสนใจ”
ไม่สนใจ (เจ๊สั่ง)
วันอาทิตย์
“เฮียหน่อย รับโทรศัพท์”
“เออๆ”
สะดุ้งโหยง
เจ้ากรรมนายเวรโทรมา
“เนื้อหอมเกิ๊น”
สายตามันจับผิดผม
ไอ้นิว มันเหมือนเลี้ยงกุมารทอง
“หวัดดีครับ”
ตาเขม่น มีลางสังหรณ์
“ท้าทายกูเหรอ”
“ป๊าว ผมป่าวท้าทาย”
“ไมไม่มา”
“เจ๊นิดบอกไม่ต้องไปอะครับ”
ขอโต๊ดครับเจ๊
“อย่าไปไหน จะไปรับ”
กริ๊ก วางหูทันที
ไม่มีใครสอนมารยาทการคุยโทรศัพท์รึไงนะ
ปิ๊นๆ ปิ๊นๆ
ผมนั่งรออยู่หน้าร้าน
ไม่ได้กลัวครับ แต่เกรงใจบ้านใกล้เรือนเคียง
กะว่าแกต้องทำเสียงดังแน่ๆ
“เฮียอะ บีบแตรทำไม ผมก็นั่งอยู่ตรงนี้”
“เออๆ กูรีบ”
“รีบ..รีบไรอะ”
งง รีบแล้วมาทำไม
“ขึ้นมา เสียเวลา”
“ง่ะ”
แกกระเถิบไปข้างหลังนิดนึง
ที่นั่งข้างหลังมีกล่องกระดาษ
เห็นแว๊บๆ..เหมือน พวกกล่องดับเบิ้ลเอ
“อยากนั่งหลังอะ”
“มีปัญญาก็ลอง”
เข้าไปใกล้ เหล่มองกล่องกระดาษ
มีเชือกรัดของเป็นยางลายๆรัดอยู่
“หึหึ..”
“ไม่ต้องหัวเราะเยาะผม”
นั่งตัวลีบหน้าคนขี่อีกครั้ง
เวสป้าสีขาวขับเคลื่อนช้าๆ
“รถไม่มีคันเร่งไง”
ขยับตัว เบี่ยงหน้าออกห่าง อย่างผู้มีประสบการณ์สดๆร้อนๆ
ไม่ได้แอ้ม (แก้ม) ผมหรอก
“เฮ๊ย..ทำบ้าอะไร เดี๋ยวรถล้ม”
โอเวอร์ชัดๆ รถแค่เอียงนิดเดียวเอง
เอ็ดผม เสียงดัง
แล้วปล่อยมือข้างนึงจากแฮนด์มาแตะที่เอว
เหมือนจะหวังดี
แล้วขี่รถมือเดียวไม่อันตรายกว่าเร้ออออ
“เฮีย เฮียปาน ปล่อยอะ”
“อยากตายไง”
เข็มไมล์อยู่ที่เลข 20
ช้าขนาดนี้ ตกรถถึงตายอะนะ
“ผมอาย”
“อายก็หลับตา”
“เฮ้อ...”
“ถอนใจบ่อยๆ ได้ผัวแก่นะมึง”
กระซิบใกล้ๆ
ใกล้จนกระทั่ง
รู้สึกมีลมร้อนๆกระทบใบหู
ขี่รถช้าแล้วยังขี่อ้อม
ช้าได้ช้าไป
รู้ตัวอีกทีรถจอดข้างสนามฟุตบอลของรร.
นั่งพิงอกคนข้างหลัง
ใจสงบ ผ่อนคลาย อบอุ่น
เสียงสะท้อนจากในอกคนข้างหลังเต้นแรง
วูบนึง เผลอคิดว่าเป็นคนไกล
มือข้างนึงตรงเอวกระชับขึ้น
กระซิบเสียงแผ่ว
“ชอบแบบไหน”
“อะไรอะ”
“หวานๆ เลี่ยนๆ นุ่มนวลชวนฝัน”
ผมแกะมือจากตรงเอวออก
เบี่ยงตัวออก
ถึงกระนั้น
ยังแนบชิดกันอยู่บนรถ
“พูดถึงอะไร”
มือกลับมาจับที่เดิม ครั้งนี้ใช้ทั้ง2มือ
รถตั้งหลักอยู่ได้ด้วยขาที่วางกับพื้น
ยิ้มสว่างไสว ไม่คิดว่าจะทำได้
สีหน้าจริงจัง
“หรือชอบแบบ”
“...”
“หล่อๆ แรงๆ”
ก้มลงมาหอมแก้ม
“เร้าใจ”

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คนหนึ่งเขาช่างดีกับฉัน
จะทิ้งเขาลงยังไง
คนหนึ่งเคยทิ้งไป
แต่รักไม่เคยจางหาย
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงจากไหน
ก็คงต้องเลือกสักทาง
-
-
ทางที่รักสามเศร้าต้องจบ
