ล่ารักหัวใจมาเฟีย | 011114 | ตอนพิเศษ : Falling Slowly | Page 124 |
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

สอบถามความต้องการในการจัดทำหนังสื่อนิยายเรื่อง 'ล่ารักหัวใจมาเฟีย'

ต้องการ (ถ้าทำหนังสือยังไงก็ซื้อแน่นอน)
364 (55.7%)
ยังไม่แน่ใจ (อาจจะซื้อหรือไม่ซื้อ)
269 (41.2%)
ไม่ต้องการ (ไม่ซื้อแน่นอน)
20 (3.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 588

ผู้เขียน หัวข้อ: ล่ารักหัวใจมาเฟีย | 011114 | ตอนพิเศษ : Falling Slowly | Page 124 |  (อ่าน 2270029 ครั้ง)

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4
:katai5:

คลานเข้ามาปูเสื่อรอแจ๊คกี้ & หนูมิ  :impress2:


วันนี้ยังลงให้ไม่ได้เหมือนกันนะคะ ยังปวดหัวอยู่นิดหน่อย (ไมเกรนขึ้น) จะรีบมาค่ะ คงไม่ได้ทิ้งหายเป็นอาทิตย์นะคะ

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4
:L2: :L2: :L2: :L2:หายเร็วๆน๊ารักษาสุขภาพมากๆนะ :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


วันนี้ยังลงให้ไม่ได้เหมือนกันนะคะ ยังปวดหัวอยู่นิดหน่อย (ไมเกรนขึ้น) ขอโทษทีนะคะ จะรีบมา ไม่ทิ้งหายเป็นอาทิตย์แน่นอนค่ะ

ออฟไลน์ ophena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เนื้อเรื่องสนุกมากเลยค่ะ  จะรอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แวะมาดัน เพราะคิดถึงจอมทัพและหนูมิ อิอิ

ออฟไลน์ Mrl●

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพิ่งอ่านทันค่าาาา ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
พอรักกันแล้วมุ้งมิ้งเว่อร์ ><
 รอติดตามค่าๆ

ออฟไลน์ VOODOO DOLL

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เพิ่งมาอ่าน หนุกเวอร์อ่ะ ชอบมิจัง! มาต่อเร็วๆนะ  :mew1:

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
เด็กใหม่ในเรื่องคับ  นามว่าแทยัง  จะติดตามต่อไปนะคับ

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ white feather

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนนี้ยังสบายๆเนอะ ดูน่ารักเหมือนคู่รักทั่วๆไปเลย
แต่ใกล้จะมีมาม่าแล้วสินะค่ะ แอบหวั่นๆเราเกรงกลัวมาม่า TT
ยังไงดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ หายไวๆนะ ^^

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4

ตอนที่ 24 : Hong Kong Crisis II : Bitter



วันนี้มิถุนาลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าจอมทัพก็ยังคงนอนอยู่ข้างกายกัน

โดยปกติแล้ว คุณมาเฟียกับลูกน้องบ้าพลังมักจะชอบแอบดอดกันไปว่ายน้ำ ฟิตเนส ตอนเช้าตรู่กันเป็นประจำในช่วงหลังๆ ซึ่งมิถุนาก็จะไม่ว่าอะไรหรอก ในเมื่อเป็นความสุขของจอมทัพ แต่ในบางเช้าที่ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกันก็เป็นเรื่องที่น่ารักดีเหมือนกัน

เหมือนเช้านี้ที่มิถุนาตื่นขึ้นมาแล้วหาววอดราวกับแมวอยู่บนเตียง เขาซุกหน้ากับอกจอมทัพ แล้วตั้งท่าจะหลับต่อ แต่ดูเหมือนคุณมาเฟียเองก็จะตื่นแล้วเหมือนกัน สุดท้ายไอ้ที่ว่าจะนอนต่อ ก็ต้องตื่นไปโดยปริยาย เพราะจริงๆก็นอนกันไปกว่าเจ็ดชั่วโมงแล้ว แถมเช้านี้ก็อากาศดีจนไม่น่าที่จะทิ้งตัวนอนต่อ

มิถุนาสวมเสื้อคลุมทับชุดนอนลวกๆ เขาเดินไปเปิดม่านในห้องนอน ก่อนยิ้มกว้างเมื่อเห็นใครอยู่ตรงริมสระ วิคเตอร์โผล่ขึ้นจากสระว่ายน้ำ เขาถอดแว่นตาออกก่อนโบกมือให้มิถุนา เจย์เองก็ถอดแว่นสายตาออกแล้ววางหนังสือในมือลงกับโต๊ะ

คนสนิทของจอมทัพทั้งคู่เป็นคนตื่นเช้า โดยเฉพาะวิคเตอร์ที่ตื่นเช้าเพื่อฟิตร่างกายตลอดเวลา มิถุนาเคยให้เขาเลือกระหว่าง ฟิตเนส การนอนหลับ และ เจย์ วิคเตอร์อึกอักๆจะตอบฟิตเนสเป็นอย่างแรก แต่พอเขาคาดโทษไป คำตอบก็เลยเปลี่ยนเป็นเจย์ในที่สุด

ในขณะที่เจย์นั้นค่อนข้างเป็นคนขี้เซากว่าวิคเตอร์ แต่เขาเป็นคนตรงเวลาเสียจนน่ากลัวใจ ดังนั้นต่อให้อยากนอนแค่ไหน เจย์ก็จะลงเอยด้วยการหอบสังขารและตาโหลๆมาเตรียมงานตอนเช้าต่อจนได้


“อรุณสวัสดิ์ครับ" มิถุนาเลื่อนประตูเปิดออก โผล่หน้าไปทักทาย
“เป็นไงมิ นอนหลับสบายไหม?” เจย์เอ่ยถาม เมื่อคืนพวกเขาทั้งคู่ก็นอนที่บ้านพักของจอมทัพในห้องรับรองแขกนั่นแหละ เพราะบ้านหลังไม่ได้ใหญ่มาก จึงต้องนอนด้วยกันในห้องเดียว
“ดีเลยฮะ" เขาตอบ พลางเหลือบไปมองหน้าคนที่มายืนคร่อมเขาเอาไว้ จอมทัพที่เดินตามมายกมือขยี้หัวคนตัวเล็กกว่าเบาๆ ก่อนหันไปถามคนสนิท
“เอเลนล่ะ?” จอมทัพถามถึงเพื่อนสนิทของตน วิคเตอร์มองหน้าเจย์นิดหน่อย ก่อนที่เจย์จะเป็นคนตอบแทน
“น่าจะยังไม่ตื่นน่ะครับ ตอนที่พวกผมตื่น ไฟห้องเอเลนเพิ่งดับไปเอง สักตีห้าได้"
“หมอนั่นชอบโหมงานแบบนี้ทุกที"
“เมื่อวานมัวแต่ตะลอนไปมาทั้งวัน คงไม่ได้ทำงานเลย" เจย์เปรย "เดี๋ยวผมอาจจะขึ้นไปช่วยช่วงบ่าย"
“เอาสิ" จอมทัพไม่ได้ว่าอะไร "อ้อ แล้วตอนบ่ายฉันต้องไปกับป๋า เขามีนัดออกรอบกับเพื่อนๆเขา วิคเตอร์ นายไปด้วยกันสิ"
“ครับ" มือซ้ายไม่อิดออดแต่อย่างใด เรื่องกีฬากลางแจ้งที่ของโปรดเขาอยู่แล้ว
“จะไปด้วยกันไหมมิ?” เขาไม่ลืมจะทันมาถามคนตัวเล็กที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหน้าเขา มิถุนาครุ่นคิดนิดหน่อยก่อนถามกลับ
“จำเป็นต้องไปไหมครับ"
“ไม่จำเป็นหรอก จริงๆฉันว่านายไปก็คงเบื่อ" เขาว่า "อยู่ที่นี่ให้เอเลนกับเจย์ดูแลไปก็แล้วกัน อยากไปไหนก็บอกเอเลนนะ"
“แบบนั้นก็ดีครับ" มิถุนาพยักหน้า เอเลนกว่าจะตื่นคงบ่าย เพราะนายท่านหวังปลดเกษียณตัวเองแล้ว เวลาทำงานของเอเลนเลยไม่เป็นเวลาไปด้วย เขาต้องแสตนท์บายเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ค่อยได้นอนหลับสนิทมากนัก แต่มิถุนาก็ว่าอย่างไรก็ดี เขายังมีเจย์ที่คงติดสอยห้อยตามไปไหนต่อไหนได้อยู่


หลังจากมื้อเช้าง่ายๆ มิถุนาก็รับสายตะวันที่บอกกับเขาว่า จะตามมาภายในวันพรุ่งนี้ หลังจากจิกหัวคุณแทนไทให้เคลียร์งานให้เสร็จให้ได้ภายในเร็ววัน เขาจึงบอกจอมทัพ ชายหนุ่มจึงเตรียมจะสั่งให้จัดห้องรับรอง แต่มิถุนารับห้ามเอาไว้ เพราะตะวันบอกว่าพวกเขาได้จองโรงแรมติดย่านการค้าเอาไว้แล้ว ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือหวังอีกนั่นแหละ ตะวันกล่าวอีกว่า ถ้าจะให้ดี จอมทัพควรจะยกห้องให้พักฟรีๆแทนการเปิดห้องรับรองในคฤหาสน์ นั่นดูจะเป็นเรื่องที่เข้าท่ากว่า ซึ่งจอมทัพก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ ก่อนตอบตกลงที่จะจัดการให้ตามนั้น

มื้อกลางวันนั้น หวังหย่งหมินสั่งยกซูชิบาร์พร้อมพ่อครัวมายืนปั้นกันสดๆในห้องอาหาร เนื่องในโอกาสอะไรไม่ต้องมีมาก แค่อยากกินเท่านั้นคงเพียงพอ มิถุนาเป็นเพื่อนคุยให้กับชายชราในยามบ่ายได้ดีทีเดียว ประมุขของบ้านนั้น จะเรียกว่าประทับใจลูกสะใภ้ของตนเองเป็นอย่างมากก็คงไม่ผิดนัก เพราะเขาถึงกับออกปากอีกครั้งให้จอมทัพย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ได้แล้ว น่าเสียดายที่บทสนทนาต้องยุติลงเมื่อใกล้ถึงเวลานัดออกรอบของเขา มิถุนายืนส่งจอมทัพที่หน้าบ้าน พร้อมสัญญาว่าจะทำตัวเป็นเด็กดีไม่ให้ต้องเป็นห่วงตลอดเวลาหลายชั่วโมงที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแน่นอน

เอเลนตื่นก่อนมื้อกลางวันไม่นานนัก และแน่นอนว่าเขาก็เตรียมพร้อมจะพามิถุนาออกไปเที่ยวอีกรอบอย่างไม่อิดออด วันนี้เขาขับรถด้วยตนเอง มีเจย์ไปด้วยอีกคน มิถุนานั่งคิดอยู่สักพักว่าจะไปไหนดี ก่อนสุดท้ายจะขอให้เอเลนพากลับไปที่ถนนนาธานอีกครั้ง เพราะเขาตั้งใจว่าจะซื้อกระเป๋าดีๆสักใบเป็นของขวัญวันเกิดสำหรับมารดาในเดือนหน้า ซึ่งเอเลนก็คิดว่าเป็นความคิดที่ดีทีเดียว

แม้ว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ หรือแม้กระทั่งไปกับคนสนิทของทั้งหย่งมินและจอมทัพ มิถุนาก็จำเป็นต้องมิบอร์ดี้การ์ดอีกขบวนตามไปอยู่ดี เขานึกแปลกใจอยู่หน่อยกับการที่ถูกดูแลราวกับผู้นำประเทศอะไรแบบนั้น มิถุนาสำรวจเครื่องแต่งกายตัวเอง วันนี้เขาสวมกางเกงผ้าขาสั้นสีขาวกับเสื้อยืดสีน้ำทะเล เขาสวมหมวกแก๊ป และรองเท้าแตะธรรมดา ซึ่งเอาจริงๆเขาไม่คิดว่าจะมีใครจำเขาได้หากเขาเดินออกไปข้างนอกโดยไม่มีจอมทัพข้างกาย แต่เอเลนและเจย์ต่างค้านสุดเสียง พวกเขายืนยันว่ามิถุนาเป็นที่รู้จักไปทั้งเกาะฮ่องกงอย่างแน่นอน ในฐานะของ แจ็คกี้ สวีทฮาร์ท แล้ว ไม่มีทางที่นักข่าวจะไม่แนะนำตัวเขาผ่านสื่อต่างๆ

มิถุนาคร้านจะเถียง สุดท้ายเขาก็ยอมที่จะทำทุกอย่างตามที่เอเลนบอก เอเลนใช้เบนซ์เอสคลาสคันสีดำสำหรับวันนี้ พวกเขาไม่ได้รีบร้อนอะไรมากนักกับบ่ายวันนี้ เอเลนชวนคุยตลอดทาง มิถุนาค้นพบว่าเขาเป็นคนที่น่ารักมากๆเลยทีเดียว เอเลนช่างเอาใจใส่ ใจเย็น อ่อนโยน แต่ก็เข้มแข็ง เขามีบุคลิคของความประนีประนอมแบบเพศหญิง ในขณะเดียวกันก็สามารถฟาดฟันกับผู้ชายเถื่อนๆอย่างจอมทัพหรือวิคเตอร์ได้อย่างสบายๆ

เกือบชั่วโมงกว่าจะมาถึงถนนนาธาน หรือย่าน จิม ซา จุ่ย ที่เมื่อคืนได้แวะเวียนมาแล้วครั้งหนึ่ง พอลงจากรถ เมฆฝนเริ่มตั้งเค้าทันที เอเลนชักชวนให้เดินเข้าอาคารอย่างรีบร้อน ส่วนเจย์เอง ในฐานะมนุษย์ที่เกลียดความไม่แน่นอน แน่ล่ะ เขาเกลียดช่วงมรสุมของฮ่องกงสุดๆ มันคาดเดาอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

โชคดีที่พวกเขาไม่เปียก เอเลนพาเลาะจากตัวตึกไปยังช็อปแบรนด์ไฮ-เอนที่มิถุนาเอ่ยปากว่าอยากจะไป คุณน้ำทิพย์ชอบกระเป๋าหนังทรงสวย มิถุนาเลยคิดว่าจะซื้อบาลองซิเอก้าให้เธอสักใบ เอาไว้ใช้ในเวลาที่เข้าเมืองไปคุยงาน หรือเข้าสำนักพิมพ์ไปเซ็นต์สัญญาหนังสือ

มิถุนาเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับเอเลนและเจย์ ซึ่งพอเอาเข้าจริงก็เป็นดังที่เจย์ว่า พนักงานสาวยิ้มให้เขาราวกับว่าเขาเป็นลูกค้าประจำมายาวนาน มิถุนาได้แต่ยิ้มเก้อๆให้ ก่อนขอตัวเข้าไปเลือกกระเป๋าใบที่ถูกใจ นายแบบหนุ่มเดินไล่ไปตามชั้นวางต่างๆ หางตาเหลือบมองเอเลนกับเจย์ที่เดินแยกไปอีกมุม เขาบอกให้แยกกันเดินเองแหละ คนพวกนั้นจะได้มีเวลาหายใจหายคอบ้าง ตัวเขาเองไม่อึดอัดหรอกที่มีคนอย่างเอเลนหรือเจย์ตามประกบ เอาเข้าจริงเขาค่อนข้างเกรงใจเสียด้วยซ้ำไป

พนักงานสาวปราดเข้ามาบริการ มิถุนายิ้มเล็กน้อยก่อนกวาดสายตามองหากระเป๋าใบที่ตนเองถูกใจ สุดท้ายเขาก็ปลงใจกับกระเป๋าหนังสีน้ำตาลอิฐใบหนึ่ง ทรงสวย ใบไม่ใหญ่มากนัก น่าจะถูกใจคุณน้ำทิพย์

“ตกลงรับเป็นรุ่น City สีนี้นะคะ" พนักงานสาวกล่าวยิ้มแย้ม มิถุนาพิจารณาอีกนิดหน่อยก่อนพยักหน้ารับ
“ครับ"
“ดูอะไรเพิ่มเติมไหมคะ"
“งั้นผมขอเดินดูอีกหน่อยนะครับ" เขายิ้ม ดูพนักงานสาวจะเขินอายเล็กน้อยที่เขายิ้มเสียหวานไปให้ มิถุนาอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ ก่อนที่เธอจะขอตัวไปจัดของ ปล่อยให้ลูกค้าคนดังเดินชมสินค้าไปก่อน


กายโปร่งหยุดอยู่ตรงหน้าตู้โชว์ใบใหญ่ก่อนที่จะกวาดสายตามอง ปกติเขาไม่ค่อยนิยมใช้แบรนด์เนมเท่าไหร่นัก แต่ก็มีติดตู้ไว้บ้าง เขามักจะใช้ถุงผ้าเสียมากกว่า ขนาดไปเดินแบบบางงานยังหิ้วถุงผ้าไปเลย ซึ่งบางทีมันก็ข้อดีแบบที่คิดไม่ถึงอยู่ อย่างเช่น เฌอปรางเคยโดนขโมยของจากกระเป๋าชาแนล บอย ที่ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง คนอื่นๆก็ด้วยเช่นกัน แต่มิถุนากลับไม่โดน เขาคิดว่าถุงผ้าลดโลกร้อนใบละสองร้อยของเขาคงไม่สะดุดตา อีกนัยนึงคือมันกระจอกไปจนโจรไม่คิดว่าในนั้นจะมีทรัพย์สินมูลค่าเป็นแสนอยู่ภายใน


เขามองดูกระเป๋าสตางค์สีดำสนิทปักหมุดสำเงิน ส่วนตัวแล้วมิถุนาเป็นคนที่ชอบอะไรไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาเสียเท่าไหร่ เขาชอบอะไรที่เป็นหมุดๆ รู้สึกมันเถื่อนๆดี พอบอกแบบนี้กับเฌอปราง สาวเจ้าผู้รักลายเสือดาวกับเมทาลิกเข้าสายเลือดก็เบ้ปาก แล้วมักจะบอกว่า มันดิบเกินไปสำหรับใบหน้าหวานๆของเพื่อนรัก

แต่มิถุนาก็สะสมของอะไรพวกนี้เป็นคอลเล็คชั่นอยู่ดี กระเป๋าสตางค์เป็นของไม่กี่อย่างที่นายแบบคนเก่งลงทุนซื้อในราคาที่สูงลิบ เพราะคิดว่ามันถูกหยิบใช้งานเป็นประจำ (ส่วนกระเป๋าก็อย่างที่บอก ว่าถุงผ้าดีที่สุดสำหรับเขา)

เขาเอื้อมมือหยิบกระเป๋าสตางค์ใบสวยลงมาดู ก่อนพลิกหน้า พลิกหลัง แล้วก็วางลงที่เดิม เขากวาดสายตามองบนชั้นอีกรอบ ก่อนเหลือบมองหาพนักงานสาวคนเดิม แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังจัดของไม่เสร็จ และคนในร้านก็เยอะในปริมาณที่ไม่เหลือพนักงานคนไหนให้มาช่วยแนะนำสักคน

มิถุนาตัดสินใจเอื้อมหยิบกระเป๋าใบที่อยู่ชั้นบนด้วยตัวเอง ความสูงระดับเขาไม่จำเป็นต้องเขย่งให้เมื่อยขบเลยสักนิด เขาคว้ากระเป๋าจะหยิบลงมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ฝ่ามือหนาของใครบางคนแทรกเข้ามาแตะลงบนกระเป๋าใบเดียวกับที่เขาสนใจพอดิบพอดี มิถุนาปล่อยมือทันทีตามมารยาท ก่อนเอ่ยขอโทษ


“โอ๊ะ...ขอโทษครับ" เขาบอก ก่อนเหลือบสายตามองเสี้ยวหน้าของอีกคน

ชายหนุ่มที่สวมหมวกแก้ปกับชุดลำลองสบายๆที่มองก็รู้ว่าเป็นแบรนด์เนมหัวจรดเท้าส่งยิ้มให้เขา มิถุนาชะงัก ก่อนก้าวถอยหลังออกมา

“ผมต่างหากต้องขอโทษ" เขากล่าวตอบเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงราวกับเจ้าของภาษา "เชิญคุณก่อนครับ" เขาส่งกระเป๋าสตางค์ใบสวยให้
“ขอบคุณมากครับ" มิถุนารับมาพลิกๆดู เขาถูกใจกระเป๋าใบนี้ และคิดว่าจะซื้อไปพร้อมๆกัน

มิถุนาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก่อนชะงักเมื่อเห็นสายตาของผู้ชายตรงหน้ายังจ้องหน้าเขาไม่ละไปไหน นายแบบหนุ่มเลิกคิ้ว ก่อนที่สัญชาตญาณจะสั่งให้รีบมองหาเจย์ เอเลน หรือบอร์ดี้การ์ดสักคนทันที ชายหนุ่มตรงหน้าชะงักก่อนรีบยกมือบอกเมื่อเห็นท่าทางตกใจของมิถุนาตรงหน้า


“โอ้ ขอโทษครับที่ทำให้คุณตกใจ" เขารีบควักนามบัตรขึ้นมา "ขอโทษที่เสียมารยาทด้วย พอดีผมคุ้นหน้าคุณ"
“เหรอครับ?” มิถุนาขมวดคิ้ว
“ครับ แจ็คกี้ หวัง สวีทฮาร์ท – เขาพาดหัวข่าวกันโครม" ชายหนุ่มยิ้ม เผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆ ใบหน้าเขาคมได้รูป จมูกโด่งสันตามแบบคนฮ่องกง "ผมเจอาร์ครับ เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์แอ็ปเปิล เดลี่ ขอโทษที่ทำให้ตกใจจริงๆ"
“อ้อ" มิถุนาพึมพำเบาๆ "มี...ธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"
“เปล่าหรอกครับ พอดีผมตั้งใจจะมาซื้อกระเป๋าเป็นของขวัญวันเกิดให้แฟน ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ ผมเพิ่งเขียนข่าวคุณกับคุณแจ็คกี้ไปเมื่อวานนี้เอง" เขาว่า มิถุนาได้แต่ยิ้มตอบบางๆ "ยินดีต้อนรับสู่เกาะฮ่องกงนะครับ" เขาเอ่ย มิถุนาพยักหน้ารับ
“ขอบคุณครับ"
“เชิญตามสบาย ผมขอตัว" เขาว่า มิถุนาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้ารับพอเป็นพิธี เป็นจังหวะเดียวกับที่ทั้งเจย์และเอเลนเดินเข้ามาพร้อมบอร์ดี้การ์ดอีกสี่คน มิถุนาจึงวางกระเป๋ากลับที่เดิม ก่อนยิ้มอ่อนใจ แล้วเดินเข้าไปหาคนพวกนั้น


“ตายแน่ แจ็คกี้ปาดคอผมแน่ๆ" เอเลนโอด ก่อนจับบ่ามิถุนาแล้วตั้งท่าจะหมุนตัวสำรวจ จนมิถุนาต้องดึงมือออก
“ทำไมล่ะครับ" เขาถามยิ้มๆ
“เมื่อกี้ใครเหรอ เขาไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?” เจย์เอ่ยถามต่อ
“ผมมัวแต่สูบบุหรี่ ไม่ทันเห็น"
“ไม่-ไม่มีอะไร" มิถุนาหัวเราะ "อย่าตื่นเต้นกันมากนักสิครับ เขาแค่ทักทายเฉยๆ"
“ให้ตาย" เอเลนโอดรอบสอง
“เขาบอกว่าเขาเป็นนักข่าวของ แอ็ป-”
“แอ็ปเปิล เดลี่!” เอเลนเอ่ยขึ้นทันที
“ถูกต้องครับ"
“หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์" เจย์ขมวดคิ้วยับ "มิต้องระวังตัวด้วยนะครับ นักข่าวน่ะ ตามเรื่องของพวกคุณอย่างกะหมาหิวเนื้อ ยิ่งนายท่านมีผลประโยชน์ต่างๆมหาศาลอีก นักข่าวพวกนี้จับโยงเต้าข่าวกันไปได้ทุกเรื่องแหละครับ" เจย์บอก
“ผมขอโทษนะครับ"
“ขอโทษทำไมล่ะครับ อย่าเครียดไปเลย แจ็คกี้ไม่รู้หรอก เราจะไม่บอก เงียบไว้ๆ" มิถุนาหัวเราะเสียงใส "แค่นักข่าวเอง เขามาซื้อของให้แฟนเขา แล้วบังเอิญเจอผม เลยมาทักเฉยๆ" มิถุนาว่า แต่เจย์และเอเลนยังไม่คลายคิ้วที่ขมวดตึงเครียดกันเลยสักคน
“แล้วได้ของครบหรือยังครับ?” เจย์เอ่ยถาม
“เดี๋ยวเอาใบนี้อีกใบ" มิถุนาว่า เอเลนจึงหันไปจัดการเรียกพนักงานให้แทบจะทันที

สุดท้ายหลังจากตีกันหน้าเคานท์เตอร์ไปหนึ่งยก ด้วยหัวข้อว่าใครจะจ่าย ระหว่างเจย์ที่มีบัตรเสริมของแจ็คกี้ กับมิถุนาที่ต้องการจะจ่ายให้ตัวเอง สุดท้ายก็ตกลงกันที่ว่า มิถุนาจะจ่ายกระเป๋าของคุณน้ำทิพย์ ส่วนเจย์ จะรูดในส่วนของมิถุนา ซึ่งก็ดูจะเป็นอะไรที่แฟร์ที่สุดแล้ว

มื้อกลางวันสำหรับวันนี้ เอเลนกับเจย์คุยกันอย่างเคร่งเครียดถึงยี่สิบนาที กับโจทย์ของมิถุนาที่อยากกินร้านอาหารที่ไม่หรูจนเกินไป อร่อย และพื้นเมืองอย่างแท้จริง สุดท้ายเลยเป็นร้านข้าวหมูทอดร้านโปรดของวิคเตอร์บนถนนเส้นเดียวกันนี้เอง ที่เจย์พอได้ยินชื่อก็บ่นตั้งแต่เดินไป ยันสั่งอาหาร แต่ก็อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ มิถุนาเองก็ชมไม่ขาดปากเช่นกัน

เจย์สั่งข้าวซี่โครงหมูทอดให้สำหรับมิถุนา หลังจากที่นายแบบหนุ่มบอกว่า อยากลองทานเมนูโปรดของวิคเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่า มันก็เป็นเมนูโปรดได้จริงๆ แต่วิคเตอร์ต้องไซส์Lเท่านั้น ส่วนมิถุนา- เจย์สั่งให้แค่Sก็คิดว่าพอแล้ว เขาจัดแจงสั่งของขึ้นชื่อร้านมาอีกสองสามอย่าง คือบะหมี่ฮ่องกง และเกี๊ยวน้ำ

สำหรับตอนนี้ มิถุนาคงพูดได้เต็มปากว่าชีวิตของเขา ดำเนินมาถึงจุดที่เรียกได้ว่า 'มีความสุข' อย่างแท้จริง

แต่ก่อนนั้นเขาคิดเสมอว่ากว่าที่ชีวิตจะลงตัว หรือมีความสุขกับมันไปได้ทุกวันนั้น คงต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีหลังเรียนจบสร้างมันขึ้นมา มันประกอบไปด้วยทั้ง เงิน ความสำเร็จ สังคมเพื่อน และคู่ชีวิต แน่นอนว่าจอมทัพให้เขาได้ทั้งหมด มิถุนาไม่เคยต้องการเงินของจอมทัพแม้แต่บาทเดียว เงินเก็บเขามีเยอะถึงขนาดเลี้ยงดูแม่และคุณตา คุณยาย ได้สะดวกสบาย ไม่ขัดสน หน้าที่การงานก็ประสบความสำเร็จ เป็นระดับท็อปของวงการ แต่สิ่งที่จอมทัพให้เขามันมากกว่านั้น ทั้งความสัมพันธ์ที่ทำให้นอนหลับฝันดีได้ตลอดคืน รวมถึงเพื่อนใหม่ อย่างเจย์ วิคเตอร์ และเอเลน ที่ไม่ต่างอะไรไปจากเฌอปราและตะวัน พวกเขาพร้อมจะซัพพอร์ทมิถุนาในทุกด้านเสมอ

ชีวิตที่เรียกได้ว่ามีความสุขของมิถุนามาถึงเร็วเกินกว่าจะคาดคิด แต่มันก็ดีเสมอในหลายๆแง่ มิถุนาคิดว่าเขายินดีที่จะตักตวงช่วงเวลาปัจจุบันไว้ให้ดีที่สุด จะช้า จะเร็ว มิถุนาเข้าใจดีว่าไม่มีใครสุขได้ตลอดไป แน่นอนว่า...ไม่มีใครจะทุกข์ได้ตลอดไป เช่นเดียวกัน







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2014 21:36:09 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4

เมษาลืมตาขึ้นอีกครั้งในเช้าวันใหม่ แสงแดดที่สาดเข้ามาในห้องสวีทสุดหรู บนชั้นบนสุดของโรงแรมห้าดาว อย่าง แมนดาริน โอเรียนทอล ปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากความอ่อนเพลีย

ดวงตากลมกระพริบถี่ๆเพื่อปรับให้เข้ากับแสงสว่างของดวงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน ประตูบานเลื่อนกระจกเผยให้เห็นร่างกายกำยำในชุดคลุมอาบน้ำของใครบางคนกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ริมระเบียง

ควันบุหรี่ลอยอ้อยอิ่งขึ้นสู่ม่านฟ้าเกาะฮ่องกง เมษาเสยผมตัวเองลวกๆก่อนหยิบเอาเสื้อคลุมมาคลุมร่างของตัวเอง ดวงตาของเขาจ้องมองเสี้ยวหน้าคมของอาเมนนิ่งๆ และรีบหลบสายตาเมื่ออีกฝ่ายหันมามอง

เขาพาร่างกายที่บอบช้ำของตัวเองไปที่ห้องน้ำหรู เมดโรงแรมคงเข้ามาเตรียมน้ำอาบเอาไว้ให้แล้ว เมษาค่อยๆถอดเสื้อคลุมออกจากร่างกายของเขา ร่องรอยมากมายปรากฏสู่สายตา เขามองมันอย่างเจ็บปวด อีกนัยก็คงปลง เพราะเขามีชีวิตที่วิ่งวนทับซ้อนไปมาเหมือนหนูติดจั่น ไม่เคยหนีออกไปไหนได้อยู่แล้ว

เขารวบผมตัวเองไว้อย่างลวกๆ ก่อนพาตัวเองลงแช่น้ำ กระแสน้ำอุ่นๆทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและสบายขึ้น เมษานิ่งคิด ทบทวนถึงชีวิตกว่าจะดำเนินมาได้ถึงจุดนี้ แล้วก็รู้สึกจุกในอกขึ้นมาแปลกๆ

สุดสัปดาห์นี้เขาจะได้เดินแบบในงานฮ่องกง แฟชั่น วีค ไม่ใช่ด้วยความสามารถ เขาไม่ได้หลงใหลอะไรกับวงการแฟชั่นอยู่แล้ว เมษาอยากเป็นครู นั่นคือความฝันของเขา แต่แน่นอน ด้วยอำนาจเงินของอาเมน และพันธมิตรของเขาอย่าง เจิ้งเสี้ยวชุน เมษาจึงได้มาเดินแบบงานใหญ่ยักษ์นี้

ไม่ดีเลยสักนิด เขาสกปรกไปหมด ทั้งร่างกาย ทั้งจิตใจ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น- ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น เมษาก็ทำอะไรไม่ได้ เขาจนใจยอมรับว่าเขาต้องทำ ทุกอย่างเพื่อคนในครอบครัวของเขา ค่ารักษาพยาบาลของแม่ ค่าเล่าเรียนของน้อง ลำพังวุฒิมอหกของเขา ไม่มีวันที่จะรับผิดชอบทั้งหมดนั้นได้อยู่แล้ว

เมษาจ้องมองฟองสบู่ที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่บนผิวน้ำ เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว ไม่รู้อาเมนได้ติดต่ออะไรกับพี่นัชชาหรือโมเดลลิ่งของเขาหรือเปล่า แต่จู่ๆ สองวันก่อน เขาก็โดนลากมาฮ่องกงโดยไม่มีใครบอกกล่าว มือถือแบตหมด ตอนนี้ก็ยังเปิดไม่ได้ ติดต่อใครก็ไม่ได้ เขาเบี้ยวงานทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะทำ คิดถึงความเดือดร้อนที่เกิดจากเขาแล้วก็ปวดใจ

สองวันที่แทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน เขาถูกกักตัวไว้ในห้องหรู กลางวันเป็นกลางคืน กลางคิืนเป็นกลางวัน เขาถูกทำรักซ้ำๆจนระบมไปทั้งร่าง อาเมนกอดเขาไม่ปล่อยยกเว้นเวลาที่หมอนั่นออกไปธุระด้านนอก เมษาถึงจะได้นอนเอาแรงหรือลุกขึ้นมาจัดการตัวเองบ้าง

ไม่รู้ว่าพวกเขาเริ่มต้นความสัมพันธ์บิดเบี้ยวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนายจ้างและลูกจ้าง กลายเป็นคู่นอนที่ขาดไม่ได้ เมษายังจำได้ถึงค่ำคืนแรกที่อาเมนบุกมาที่คอนโดของเขา ตอนนั้นเขาเพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพฯใหม่ๆ เพิ่งเริ่มงาน ถูกเทรนด์บนรันเวย์ทุกวัน อาเมนเมามาในตอนกลางดึกคืนหนึ่ง เขาทั้งกรีดร้อง ทั้งปัดป่าย แต่สุดท้ายก็ไม่สู้แรง ความเจ็บปวดในคืนนั้นยังจำได้ เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนยังดังก้องอยู่ในหู วินาทีที่อาเมนเสือกกายใหญ่โตเข้ามา เขาหลอนเสียงนาฬิกาอยู่หลายวัน และจากวันเป็นเดือน แต่พอมานั่งคิดดูทีหลัง บางทีเขาอาจจะถูก 'ซื้อ' มาด้วยเหตุผลนี้ด้วยก็ได้ คู่นอน-นางบำเรอ-ที่ระบายความใคร่ ถึงอย่างไร เมษาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องหรืออุทธรณ์อะไรอยู่แล้ว

เมษาเรียนรู้ที่จะยอมเพื่อสวัสดิภาพของชีวิตตัวเองและครอบครัว เขายอม ยอมหมดแล้วทุกอย่าง แม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตามที เมษาเกลียดอาเมน เขาอนุมานว่าเกลียดสุดหัวใจ เขาไม่เคยพูดดีด้วย จริงๆก็แทบไม่ได้พูดกันอยู่แล้ว เมษาตอบเฉพาะคำถามที่ต้องตอบ พูดในเวลาที่จำเป็น นอกจากนั้นในเวลาที่อยู่ในห้องเดียวกัน พวกเขาทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน ทั้งๆที่นอนร่วมเตียงกันตลอดค่ำคืน

หลังจากแช่น้ำจนพอใจ เขาก็ลุกขึ้นมาสวมชุดคลุมอาบน้ำ เสื้อผ้าไม่ได้ติดตัวมาสักชิ้น มีแค่ชุดที่สวมใส่มาเท่านั้น และได้ส่งซักไปเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกไปยังด้านนอกด้วยเส้นผมที่เปียกชื้น ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ต้องห่อตัวกับเสื้อคลุมอาบน้ำที่สวมใ่ส่อยู่ เขาทำเป็นมองไม่เห็นอาเมนที่เอนกายอยู่บนโซฟากลางห้องนั่งเล่น แล้วเดินไปยังส่วนห้องอาหารแทน

มันถูกกั้นออกจากกันไว้ด้วยตู้โชว์คริสตัลตู้ใหญ่ ถึงจะไม่อยากจะรับรู้ แต่เมษาก็รู้ดีว่าผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ตรงนั้น อาหารจากรูมเซอร์วิสคงมาส่งนานแล้ว มันดูเหมือนจะเย็นชืด แต่เขาไม่ใส่ใจนักหรอก มีให้กินก็ดีแค่ไหน อาหารไม่ตกถึงท้องมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น เขาถูกกักตัวไว้บนเตียงไม่ได้กระดิกไปไหน วินาทีที่กรีดร้องอย่างสุขสมนั้น ความเจ็บปวดก็ยังจุกอกอยู่ทุกครั้ง


“เดี๋ยวไปแต่งตัวด้วย"


เสียงจากพื้นที่ข้างห้องดังขึ้นทำให้เมษาชะงักส้อมที่อยู่ในมือ เขาเงยหน้าขึ้นมองผ่านกระจกคริสตัล


“ครับ?”
“บอกให้แต่งตัว จะออกไปข้างนอก" อาเมนพูดขึ้นเรียบๆ
“แต่ผมไม่มีชุด"
“กองอยู่ตรงนี้เป็นสิบ มาเลือกเอาเอง เร็วด้วยล่ะ ฉันให้เวลาแค่สิบห้านาที" อาเมนว่าอย่างเย็นชา นั่นทำให้เมษาต้องลุกจากโต๊ะอาหารเดินมายังห้องนั่งเล่น เป็นจริงดังที่อาเมนพูด ถุงและกล่องเครื่องแต่งกายจากแบรนด์ดังจำนวนมากวางกองสุมกันอยู่ข้างโซฟาตัวใหญ่ เมษาเดินมาเปิดถุงสามสี่ใบ ก่อนหยิบเอาเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์เดินกลับเข้าไปในห้อง เขาไม่อิดออดหรือต่อรองอะไรหรอก ไม่อยากเจ็บตัวกับอะไรทั้งนั้น

ไม่ถึงสิบห้านาที เมษาก็ปรากฏตัวอีกครั้งในชุดที่ใหม่เอี่ยม ผมที่ยาวเกือบเลยบ่าถูกเป่าจนแห้งสนิท เขาไม่พูดอะไร นั่งรอที่โต๊ะอาหารเงียบๆจนกระทั่งประตูห้องสวีทถูกเคาะ และเปิดออกโดยคนสนิทของอาเมน


“รถพร้อมแล้วครับ" ชายในชุดสูทสีดำเอ่ย เมษาไม่รู้ชื่อของเขาหรอก เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาเมนสักอย่างนั่นแหละ
“อืม" ร่างกำยำเดินผ่านหน้าเมษาไปอย่างเย็นชา เขาทำเพียงแค่ปรายตามอง นั่นทำให้เมษาต้องลุกเดินตามไปอย่างเสียมิได้

พวกเขาลงลิฟท์ไปพร้อมกัน มันเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ ลิฟท์เปิดออกอีกทีเมื่อถึงชั้นล็อบบี้ คนสนิทเดินนำไปยังเมอร์ซีเดสคันหรูที่จอดอยู่หน้าโรงแรม เมษาก้าวตามร่างใหญ่โตเข้าไปในรถหรู

พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกัน อาเมนคุยอะไรสองสามคำกับคนสนิทที่นั่งอยู่ด้านหน้า ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวผ่านถนนที่คลาคลั่งไปด้วยผู้คนและรถ ไม่ถึงสิบนาที ขบวนรถหรูก็หยุดลงตรงหน้าช็อปแบรนด์เนมราคาสูง เมษาจำได้ พี่นัชชาให้เขาเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับวงการแฟชั่น รวมถึงแบรนด์ไฮ-เอนด์ต่างๆด้วย

เขาก้าวตามอาเมนไปในร้านค้า พนักงานสาวปรี่มาต้อนรับอย่างรวดเร็ว เมษาเดินตามเข้าไปแล้วไอ้แต่ยิ้มเฝื่อนๆให้กับพนักงานที่พากันยิ้มแย้มต้อนรับเขา กายโปร่งสาวเท้าเข้าไปหยุดกลางร้าน มองอาเมนชี้นิ้วเลือกสินค้าหลายชิ้นเงียบๆ ก่อนเลือกที่จะไปนั่งรอที่โซฟาหนังสีดำกลางร้านแทน

เขานั่งมองพนักงานสาวเดินขวักไขว่ผ่านหน้าไปมา ก่อนเอ่ยขอบคุณเบาๆเมื่อหล่อนเดินเอาน้ำมาเสิร์ฟให้ เขาลืมไปด้วยซ้ำว่าเขายังไม่ได้ดื่มน้ำเลยสักหยดตั้งแต่เช้า รู้ตัวอีกทีก็เมื่อน้ำผ่านริมฝีปากที่แห้งผากเข้าไปนั่นแหละ

เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะกระจก ก่อนเดินไปอีกฟากหนึ่งของร้าน เหลือบตามองสินค้าเทียบกับป้ายราคาแล้วถอนหายใจ ราคาของบางชิ้น สำหรับครอบครัวเขา ใช้ได้เป็นปีๆหรือหลายปีเลยด้วยซ้ำ เขาไม่เข้าใจคนที่ซื้อสินค้าพวกนี้เลยสักนิด ไม่เข้าใจอาเมนนั่นแหละถึงจะถูก แต่การที่จะสอดเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่อง เมษาไม่อยากมีเรื่องอะไรทั้งนั้น

เขากวาดตามองกระเป๋าหนังราคาแพงก่อนที่บอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งจะเดินมาสะกิดเขา บอกว่าอาเมนเรียกให้ไปหา เมษาถอนหายใจเบาๆ รับคำก่อนเดินไปหาชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่กลางร้าน

อาเมนยืนกอดอกอยู่หน้าพนักงานสาวที่ยกเสื้อสองตัวเทียบกัน เขาเหลือบตามองก่อนเดินเข้าไปใกล้กับชายหนุ่มมากขึ้น อาเมนปรายตามองนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าเมษาหยุดยืนอยู่ข้างเขาเรียบร้อยแล้ว


“มีอะไรเหรอครับ?” เมษาเอ่ยถามเบาๆ อาเมนไม่ตอบก่อนพยักเพยิดไปยังเสื้อเชิ้ตสองตัวตรงหน้า
“ให้ผมเลือกเหรอครับ?” เมษาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“สีไหนดีกว่า" เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนไม่ใส่ใจเหมือนเดิม เมษามองเสื้อเชิ้ตตรงหน้าสลับกัน ตัวหนึ่งเป็นสีดำ อีกตัวเป็นสีเบจ
“ผมว่าตัวสีอ่อน" เมษาตอบ "แต่สำหรับคุณคงต้องไซส์ใหญ่กว่านี้" เมษาบอกไปตามใจคิด เขาชะงักเมื่อเห็นสายตาอาเมนจ้องมองมา
“ผม-ผมแค่แสดงความเห็น ขอโทษถ้าคุณไม่พอใจ" เมษารีบแก้ตัว อาเมนปรายตามองอีกครั้ง ก่อนหันไปคุยกับพนักงานสาวเป็นภาษาอังกฤษที่เมษาพยายามจะฟังแต่ก็ฟังไม่เข้าใจ สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะเดินจากออกไปอีกครั้ง


หลังจากซื้อของจากหลายๆร้านจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนสนิทก็เดินนำพาพวกเขาออกไปยังด้านนอกถนนพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองสามคน ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา พวกเขาเดินไปจนหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชายชุดดำพูดอะไรกับพนักงานต้อนรับสองสามคำก่อนที่บริกรสาวจะพาพวกเขาเดินเข้าไปในร้านอาหาร ภัตตาคารหรูราคาแพงทำเอาเมษารู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไรออกไป

โต๊ะที่จองเอาไว้อยู่มุมในสุดของร้าน ติดกับกระจกใส ร้านอยู่บนชั้นสองทำให้เห็นผู้คนเดินสวนกันมากมายบนถนนจนเหมือนตัวหนอน เมษาไม่กล้านั่งร่วมโต๊ะกับอีกฝ่าย จนกระทั่งอาเมนส่งสายตาดุมาให้ เขาจึงทรุดตัวลงตรงข้ามกัน

มันกระอักกระอ่วน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนได้ เมษาได้แต่ผินหน้ามองออกไปนอกกระจก ถ้าทำได้เขาแทบจะแนบหน้ากับกระจกไปแล้วด้วยซ้ำเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นหน้าใครบางคนที่เอาแต่ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน เมษารู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของตัวเองที่ปะทะกระจก เขาดึงตัวเองกลับมานั่งพิงพนักเก้าอี้เมื่อรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

อาหารมาเสิร์ฟในเวลาไม่นานมากนัก จานแรกเป็นออเดิร์ฟ เมษาไม่กล้าตักทานจนอาเมนนึกรำคาญใจจนต้องบอกให้กินได้แล้ว จะนั่งนิ่งไปถึงเมื่อไหร่ นั่นทำให้เมษาต้องจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเสียมิได้ อาหารอร่อยสมราคาที่แพงจนหูฉี่ แต่เมษารู้สึกว่ามันอึดอัดจนแทบกินอะไรไม่ลง ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเกลียดคนตรงหน้าได้ถึงขนาดนี้ ไม่อยากจะมองหน้าหรือร่วมโต๊ะด้วยซ้ำ

อาหารจานต่อไปถูกเสิร์ฟมาเรื่อยๆ ด้วยตัวพวกเขาสองคนนั้นกินไปได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ อาหารจานที่สี่เป็นเนื้อเป็ดผัดพริกไทยดำหอมฉุย กลิ่นของมันทำให้รู้สึกอยากอาหาร เมษาตักมาเพียงนิดหน่อยเท่านั้นด้วยความเกร็ง แต่พอลิ้มรสเข้าจริงๆ เขากลับรู้สึกพะอืดพะอมจนกลืนแทบไม่ลง


“สำออยอะไรอีก?” คำถามทำร้ายน้ำใจที่มาพร้อมกับรอยยิ้มเหยียดนั่นทำเอาเมษาชะงีกกึก อาเมนไม่เคยรักษาน้ำใจ พอๆกับที่ไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกดีทั้งนั้น

เมษาที่กลืนอาหารเข้าไปทั้งคำแล้วได้แต่ส่ายหัวพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก

“เปล่าครับ"
“จะกินไม่กิน"
“ผม-”
“น่ารำคาญ เรียกร้องความสนใจอยู่ได้ ไม่กินก็ไม่ต้องกิน" คำพูดเสียงแทงจากคนตรงหน้าทำเอาเมษาเม้มปากแน่น น้ำตาเหมือนจะไหลออกมาให้ได้ เขารู้สึกเจ็บใจจนพูดอะไรไม่ออก กำมือแน่น กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้อีกคนเห็นความอ่อนแอ

อาเมนไม่ได้ง้อหรือพูดอะไรเพื่อปลอบใจสักคำ เขาไม่ทำ-ไม่มีวันทำอยู่แล้ว เมษารู้ได้ ไม่ได้หวังลมๆแล้งๆแต่บางทีก็แค่อยากให้พวกเขาพูดจากันดีๆเท่านั้น แม้ว่าด้วยฐานะแล้วไม่มีวันที่มันจะเกิดขึ้น แต่เขาก็เคยคิด แอบคิดอย่างบ้าๆบอๆ

เมษานั่งนิ่งราวกับตุ๊กตา เขาแทบไม่มองคนตรงหน้า จนกระทั่งจบอาหารจานสุดท้าย อาเมนสั่งเช็คบิลพร้อมกับลุกออกไปโดยไม่รอใครอีกคน เมษาได้แต่พาตัวเองเดินตามไปอย่างช้าๆ เขารู้สึกสมองหนักอึ้งเล็กน้อย ท่าทางการนอนน้อยและการอดอาหารของเขาจะทำให้ร่างกายไม่ค่อยจะไหวเอาเสียแล้ว


หลังจบมื้อเที่ยง มาเฟียหนุ่มเดินเลือกของอีกสองสามร้าน ก่อนที่รถคันหรูจะมาจอดรับเพื่อขนของและพาเขาไปยังที่ต่อไป หลังจากจบมื้อเที่ยง ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากเมษาอีก เขานิ่ง เงียบ ไม่ต่อล้อต่อเถียง ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ อาเมนเองก็เช่นกัน เขาเอาแต่ปรายตามองแบบที่ชอบทำ และไม่ใส่ใจว่าเมษาจะไปไหนหรือจะทำอะไร

พวกเขาขึ้นนั่งข้างๆกันบนรถคันหรู เมอร์ซีเดสพาแล่นออกไปยังบริเวณนอกตัวเมือง เมษาหยีตาสู้กับแดดร้อนๆก่อนเอนหัวพิงกระจกนิ่ง เขารู้สึกหนักหัว หูอื้อ และปวดตาจนต้องหลับตาลง แสงแดดทำเอาตาพร่ามัว ในสมองมีประจุความคิดลอยกระจัดกระจาย เขามาทำอะไรที่นี่? กำลังทำอะไรอยู่? เขาคือใครกันแน่...เขายังหายใจอยู่...ใช่ไหม

จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาทั้งๆที่แทบไม่มีสติหลงเหลืออีกแล้ว เมษารู้สึกหนาวจากไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ เขาคิดถึงครอบครัว คิดถึงแม่ คิดถึงเมฆ คิดถึงม่อนแจ่ม-บ้านของเขา คิดถึงมิถุนา-มีอะไรต้องขอโทษอีกเยอะแยะ สัมผัสของฝ่ามืออุ่นๆที่แตะลงมาบนท่อนแขนทำให้เขาขดตัวเข้าหามันนิ่ง และจู่ๆศีรษะก็เหมือนโดนถ่วง หลังจากนั้น...เขาก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย...






เมษาเอียงใบหน้าหนีเมื่อไอเย็นของอะไรบางอย่างแนบลงบนหน้าผาก เขาปรือตาขึ้นอย่างยากลำบาก ฝ่ามือหนาที่บังการมองเห็นของเขาเอาไว้ทำให้เมษาต้องเบือนหน้าหนี เขายกมือแตะหน้าผาก ก่อนพบว่ามันเป็นความเย็นจากเจลลดไข้

ฝ้าเพดานคุ้นเคยของห้องที่ซุกหัวนอนมาสองวันสองคืนเต็มๆทำให้เขาหรี่ตามอง เมษาเหลือบมองไปข้างเตียง เขาเห็นแผ่นหลังของใครบางคนยืนอยู่และค่อยๆเดินห่างออกไป เขาไอแห้งๆออกมา สาบานได้ว่าไม่ได้เรียกร้องความสนใจแบบที่ใครตราหน้าเอาไว้ แต่ลำคอเหมือนจะแห้งเป็นผุยผงเสียแล้ว

ขวดน้ำแร่ราคาแพงของโรงแรมถูกโยนลงมาข้างตัว เมษามองไม่ค่อยชัดนัก ปวดหัวหนักจนไม่ค่อยจะรับรู้อะไร แต่ใบหน้าของคนๆนั้นก็เหมือนจะชัดเจนขึ้นทุกทีๆ เมษารับขวดน้ำมาเปิด แค่หยิบน้ำให้ เขาก็รู้สึกขอบคุณจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว


“กี่โมง...แล้วครับ" เมษาถามอย่างยากลำบาก เขาเห็นเจลเย็นอีกแผ่นวางอยู่ข้างหัวเตียง มองแล้วก็อดที่หัวใจจะเต้นแรงไม่ได้

อาเมนชะงักมือที่กำลังจะเปิดระเบียงออกก่อนปรายตามองนิ่งๆ

“หกโมง"
“คุณ...ไม่ทำธุระต่อเหรอ" เมษาจำได้ว่าพวกเขาไม่ได้จะกลับโรงแรม แต่ตอนนี้ เขากำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มในโรงแรม
“ยังมีหน้ามาถาม" เขาตอบอย่างเย็นชา เมษาปิดปากฉับ
“ขอโทษ"
“นอนซะ อย่าพูดมาก มันน่ารำคาญ" อาเมนว่า ก่อนเอื้อมมือเลื่อนเปิดประตูออก "เพราะฉันยังต้องใช้งานนายหรอกนะ ถ้านายหมดประโยชน์เมื่อไหร่ อย่าหวังเลยว่าฉันจะสนใจอะไรอีก"


คำพูดโหดร้ายเสมอ แต่เมษากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือเสียดแทงยอดอกเหมือนทุกๆครั้ง เขาเอนกายกับเตียงนุ่มอีกครั้ง หลับตานิ่งอย่างไม่ดื้อดึง ปลายจมูกแสบๆนิดหน่อยเพราะเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาอย่างไร้สาเหตุ เขาเพลียเหลือเกิน...แต่หัวใจก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ หยุดเต้นให้ช้าลงสักนิด



เมษาครึ่งหลับครึ่งตื่นในความรู้สึก เขาถูกโอบรั้งเอาไว้ ถูกลูบศีรษะอย่างเบามือ ในความฝันเขาคล้ายจะฝันดี เขานอนหลับอย่างมีความสุขเป็นคืนแรกในรอบหลายเดือน ความฝันกับความจริงเหมือนจะถูกคั่นออกจากกันไว้เพียงเส้นด้ายสีแดงบางๆเท่านั้น










tbc.



มาแล้วๆ ขอบคุณที่รอนะคะ มาช้าหน่อยอย่าว่ากันนะคะ ไม่ทิ้งแน่นอนเด้อ
หายป่วยหลังจากพักไปสามวันเต็ม และเคลียร์งานต่ออย่างบ้าคลั่งเพราะเตรียมจะออกแล้ว 555


สำหรับตอนนี้ถ้าใครอ่านแล้วจะกรีดร้อง ก็กรีดร้องได้ ด่าได้ แต่อย่าลืม "อย่าด่าไคลี่"  กรั่กๆๆๆๆ

ส่วนที่ถามกันว่า เมษาจะคู่กับอาเมนจริงหรือ, เมษาจะมีคู่ไหม ฯลฯ

บอกได้แค่ว่า ลุ้นกันต่อ ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่บทสรุปหรอกนะคะ เพราะไม่มีใครรู้ว่าบทสรุปของอาเมน จะเป็นยังไง 5555555555 

โอ้ย ชั่วร้ายๆ เจอกันตอนหน้าจ้า

ฝากแฟนเพจด้วยนะ พันกว่าคนแล้วจ้ะ มาอยู่ด้วยกันนะ ยินดีต้อนรับทุกคนค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2014 21:00:00 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
กรี๊ด มาแล้ว  :z13: :z13:

ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
โอ้ย รักมิ สงสารเมษา :mew2:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
สงสารเมษามากอะ

 ตาอาเมนเอ้ยยยยย  :angry2:

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
มาแล้วววววว
คิดถึงน้องมิมากๆ

แต่ตอนนี้สงสารน้องเมษาสุดๆ เมื่อไหร่จะหลุดพ้น และมีความสุขซะที โฮ่วววว

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คุณแจ็คกี้หายไปไหนเนี่ยย~~

_pairploy_

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ชักจะเห็นบางอย่างลางๆ  รวามรู้สึกแบบนี้  อิชั้นสัมผัวได้  แต่คนแบบอาเมนก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะจบแบบไหน  เพราะรู้สึกว่าชั่วเกิน  จอมทัพจะปล่อยไว้รึป่าวก็ไม่ณุ  แต่อาเมน...นายกำลังทำอะไร  หึหึ o3 

รีักคุณไคลี่จุงเบย :กอด1:  ที่แต่งนิยายดีๆให้ได้อ่าน :L1:

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
ในขณะที่่มิถุนากำลังมีความสุข
แต่อีกฝั่งนึง เมษากำลังเป็นทุกข์
อ่านแล้วสงสารเมษามากจริงๆ
หวังว่าคนที่ไม่ได้เลวร้ายอย่างเมษาคงจะพบความสุขในสักวันนึง
อยากให้เมษามีคู่บ้างเหมือนกัน แต่จะคู่ใครดีละ ก็อาเมนมันตัวร้าย 55555

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สงสารเมษาจริงๆ เหมือนมิ แต่มิโชคดีกว่ามากกกก :mew6:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
ในความสัมพันธ์ที่โคตรจะเลวร้ายระหว่างอาเมนและเมษา !!!!
มันเหมือนมีบางอย่าง  คือเป็นอะไรบางอย่างที่เราก็ยังไม่แน่ใจ  แต่ที่แน่ๆคือแค่รู้สึกได้   :mew2:

พาร์ทนี้สงสารเมษาไม่ไหวแล้ว TTTTTTT

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ว่ากันว่าความสงสารเป็นบ่อเกิดของความรัก.....
บางทีความใส่ใจเล็กๆน้อยแบบนี้ อาจจะลงเอยกันแบบจอมทัพกับมิก็ได้เนาะ ใครจะไปรู้(นอกจากไคลี่ 555)
มัวแต่ฟินนิดๆกับคู่เมษาจนลืมน้องมิไปซะได้ น่ารักเนาะ ตอนนี้ก็เรื่อยๆ แอบติดใจนักข่าวเจอาร์หน่อยๆ รอดูกันต่อไป

รอตอนต่อไปนะคะ ดีใจจังที่หายป่วยแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะ :กอด1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
สงสารเมษา มากกกก คือมันเหยียบย่ำความเป็นมนุษย?เลยสิ่งที่อาเมนทำ


แต่ถ้าคู่กันก็ดี นะคะ แต่ดูแล้วน่าจะยาก เพราะความเลวของอาเมน

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เมษาน่าสงสาร

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
สงสารเมษาสุดๆ

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
อยากให้อาเมนกับเมษาเป็นเหมือนกับจอมทัพกับมิถุนา....เริ่มต่นด้วยร้ายลงท้ายด้วยรัก แต่อาเมนก็ยังคงไม่ยอมเลิกลาการอาฆาตกับจอมทัพแน่ๆ

เฮ่อ....สงสารเมษา  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด