โรสลอยซ์คันหรูจอดลงหน้าห้างสรรพสินค้าหรูพร้อมกับวิคเตอร์ที่ลงจากที่นั่งข้างคนขับมาเปิดประตูให้กับมิถุนาแทบจะทันที ตำแหน่งเด็กมาเฟียมันคงยิ่งใหญ่มากหรือไม่ก็กลุ่มบอร์ดี้การ์ดของเขามันสะดุดตามากเกินไป เพราะมิถุนาถูกแทบทุกสายตาทิ่มแทงเข้ามาทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้าง ไม่รู้ว่าผู้หญิงของจอมทัพคนอื่นๆพึงพอใจกับการเป็นเป้าสายตาแบบนี้ไหม แต่ถ้าถามมิถุนา เขาคงตอบได้คำเดียวว่าไม่...และไม่มีวันด้วย
วิคเตอร์เดินนำเขาไปตามทางเหมือนเดิม มิถุนาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิคเตอร์เพิ่มในอีกหลายๆเรื่องในระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน วิคเตอร์ดูอารมณ์ร้อน โหด เลือดเย็น และเย็นชา นั่นอาจจะจริงระหว่างการทำงาน วิคเตอร์บอกว่าการคุมคนมากๆทำให้เขาต้องเป็นคนแบบนั้น แต่ปกติวิคเตอร์ก็เป็นผู้ชายที่มีมุมอารมณ์ดีคนหนึ่ง มิถุนาสังเกตบ่อยๆว่าชายหนุ่มชอบแอบแหย่คู่หูอยู่บ่อยครั้งไป
งานเริ่มตอนหนึ่งทุ่มตรง แต่ก่อนหน้านั้นทั้งตะวันและเฌอปรางคงมาถึงแล้ว มิถุนาคุ้นเคยหลังเวทีของฮอลล์ที่ใช้สำหรับการเดินแบบเป็นอย่างดีเพราะเคยมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง นายแบบคนสวยยิ้มทักทายทีมงานบางคนเหมือนปกติ เขาชินเสียแล้วล่ะกับการมีชายชุดดำเดินตามเป็นขบวนแบบนี้ แต่คนอื่นคงไม่ชินไปด้วย
เขาหยุดลงที่หน้าประตูเมื่อแทนไทตะโกนเรียกชื่อเขาจากทางด้านหลัง ในมือมีสลัดผักสามสี่กล่อง ร้านโปรดของตะวันนั่นเอง มิถุนายิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อเจอพี่ชายคนสนิท แทนไทเองก็ดูจะอุ่นใจขึ้นมากเหมือนกันเมื่อเห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรและสบายดี
“มิ"
“คุณท็อป! มาด้วยเหรอครับ"
“อืม...เพิ่งลงไปซื้อข้าวเย็นมาให้ตะวันกับปรางน่ะ ไม่ได้เจอเราตั้งนาน...สบายดี...ใช่ไหม?” แทนไทเหมือนจะเอ่ยปากยากกว่าเดิมเล็กน้อยแต่มิถุนาก็ยิ้มออกมาให้อีกฝ่ายชื้นใจ
“ครับ เดี๋ยวแปปหนึ่งนะครับคุณท็อป" มิถุนาหันกลับไปหาวิคเตอร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา แทนไทเลิกคิ้วแล้วพยักหน้ารับเบาๆ
“คุณวิคเตอร์ครับ คุณไปเดินเล่นก็ได้นะครับ อีกสักชั่วโมงค่อยกลับมาก็ได้ ผมเจอเพื่อนแล้ว ไม่มีอะไรหรอกครับ" มิถุนาเอ่ยอย่างเกรงใจ
“ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องดูแลคุณ" มิถุนาถอนหายใจเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แต่วิคเตอร์ที่ดีกับเขามากๆขนาดนี้ มิถุนารู้สึกผิดเล็กน้อยที่อีกฝ่ายต้องคอยตามเขาไปไหนมาไหนตลอด
“คุณวิคเตอร์" มิถุนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ผมขอสั่งให้คุณไปพักผ่อนแล้วมาเจอกันอีกหนึ่งชั่วโมง ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยู่ดี แถมถ้าให้ลูกน้องคุณเข้าไปด้านใน เขาคงแตกตื่นกันทั้งหมดเหมือนคราวก่อน"
“โถ่ คุณมิถุนา คุณอย่าทำให้ผมลำบากใจสิครับ" มือซ้ายโอดเบาๆ
“ไปเถอะครับ ผมไม่บอกคุณจอมทัพหรอก ผมอยากให้คุณมีเวลาให้ตัวเองบ้าง"
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ"
“แต่นี่คือคำสั่งนะครับ" มิถุนาว่ายิ้มๆ "ไปเถอะครับ"
“โอเค...โอเค งั้นให้ลูกน้องผมเฝ้าหน้าประตู ส่วนคุณ ถ้าเกิดอะไรขึ้นต้องรีบโทรบอกผมนะครับ" วิคเตอร์ยื่นข้อเสนอกลับ
“ครับ"
“งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ"
มิถุนายิ้มให้มือซ้ายรูปหล่อนิดๆก่อนพยักหน้าให้แทนไทและเดินตามกันเข้าไปด้านใน รู้ดีอยู่หรอกว่าวิคเตอร์คงไม่ไปไหนจากบริเวณประตู แต่เขาก็อยากให้มือซ้ายมีเวลาส่วนตัวจริงๆ รวมถึงเขาด้วย มิถุนาไม่ได้คิดว่ามันแย่นะ ไม่ได้รำคาญกับการมีวิคเตอร์ด้วย บางครั้งมันก็ออกจะดี เพียงแต่มิถุนาก็ต้องการเวลาที่ส่วนตัวสุดๆบ้าง อย่างเช่นการมาเจอเพื่อนรักแบบนี้
“ตะวัน ปราง มีใครมาหาแหน่ะ" แทนไทเอ่ยยิ้มๆพลางอ้อมไปวางสลัดลงที่อีกฝั่งของโต๊ะ เผยให้เห็นมิถุนาที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเห็นเพื่อนสองคนของตนเองกำลังเงยหน้าขึ้นมาจากนิตยสารเล่มหนา
“มิ!!!”
เฌอปรางกับตะวันประสานเสียง พร้อมกับดีดตัววิ่งเข้าหาเพื่อนรักด้วยความดีใจ มิถุนารับทั้งสองเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมหัวเราะเบาๆ น้ำตาคลอหน่วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้เขาสุขใจแค่ไหนที่ตอนนี้ได้หายใจอยู่ข้างๆเฌอปรางและตะวัน
“โอ้ย มิ เป็นห่วงแทบแย่ ฮืออ ถึงจะรู้ว่ามิสบายดีก็เถอะ" ตะวันสูดจมูดเสียงดัง
“จะบ้าเหรอ ร้องไห้ทำไม? เดี๋ยวก็ตาบวมหรอก" มิถุนาหัวเราะเบาๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็สภาพไม่ต่างกันเลย
“มิไม่เป็นอะไรใช่ไหม เขาไม่ได้ทำอะไรมิใช่ไหม?” เฌอปรางดึงตัวเพื่อนมาสำรวจอย่างรวดเร็ว มิถุนาส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่...เราสบายดี...เดี๋ยวเราก็ได้กลับแล้ว"
“อีตาจอมทัพนั่นคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน มิออกมาตอนนี้เลยนะ ไม่ต้องกลับไปแล้ว พี่ท็อปจ้ดการได้ เชื่อเราสิ" ตะวันเอ่ยเสียงดัง มิถุนาชะงัก เหลือบมองหน้าแทนไทที่ยืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ แทนไทพยักหน้าเบาๆ แต่มิถุนาก็เห็นแววตากังวลของเขา
แม้ว่าพ่อของแทนไทจะเป็น สส. ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการไปงัดข้อเจ้าพ่อมาเฟียจะเป็นเรื่องที่ดีนัก จอมทัพเองก็มีเครือข่ายและความสัมพันธ์กับรัฐมนตรีที่มีอำนาจสูงกว่าพ่อของแทนไทอยู่หลายคน ไม่ใช่ว่าแทนไทจะจัดการไม่ได้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าจะต้องมีใครสูญเสียอะไรไปเท่าไหร่ แทนไทคงทั้งลำบากใจและไม่แน่ใจว่าเรื่องราวจะจบสวยหรือเปล่า แต่เขาเต็มใจช่วยมิถุนาอย่างแน่นอน
“ฉันรู้น่าตะวัน...แต่ฉันไม่อยากให้คุณท็อปต้องมาเอี่ยวด้วยหรอกนะ เขาน่ากลัวแค่ไหนตะวันอาจจะไม่รู้...ฉันกลัวว่าคุณท็อปจะเป็นอะไรไปแล้วตะวันจะม่ายนี่สิ" มิถุนาพยายามฝืนหัวเราะ
“จะบ้าหรือไง" ตะวันบ่นอุบ "มิ...”
“หืม?”
“ถ้าเขาร้ายขนาดนั้น ทำไมมิต้องทนอยู่กับเขาด้วยล่ะ หนีออกมาเถอะ พ่อพี่ท็อปต่อรองให้ได้แน่ๆ"
ใช่...ต่อรองได้ ก่อนหน้านี้น่ะนะ แต่การที่เจย์บอกว่าจอมทัพไม่มีวันปล่อยเขาไปง่ายๆ มิถุนาเริ่มรู้สึกว่ามันชักจะจริงอย่างไรก็ไม่รู้
“ไม่รู้สิ"
เพราะมิถุนาไม่รู้จริงๆ...
“มิ พี่ช่วยมิได้จริงๆนะ ถึงเขาจะมีอำนาจเยอะกว่าพี่ แต่พี่คงหาช่องโหว่ต่อรองให้ได้" แทนไทบอกด้วยความหวังดี
“แล้วบริษัทคุณท็อปล่ะครับ...จะต้องปิดตัวไปเลยหรือเปล่าหลังจากนั้น คุณท็อปจะโดนกีดกันการสร้างหนังหรือเปล่า ผมคงรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต"
“แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วมิไม่ต้องทุกข์ใจพี่ก็ยอม"
“แต่มิไม่ยอมหรอกนะครับ...ความฝันของพี่ท็อปก็คือความฝันของตะวันเหมือนกัน" มิถุนาเอ่ย "อย่าห่วงเลยครับ เขาเบื่อผมเมื่อไหร่ ผมก็จะเป็นอิสระเอง" มิถุนาพยายามบอกให้ทุกคนสบายใจ เขารับมือได้...
มือเล็กๆของเฌอปรางเอื้อมแตะแขนของเขาเบาๆ เพื่อนสาวคนสนิทมองใบหน้าหวานอย่างไม่สบายใจนัก มิถุนารู้ดีว่าเฌอปรางทุกข์ใจแค่ไหนที่ทำอะไรให้เขาไม่ได้เลย “มิ...เขาเอาตัวมิไปทำไป...เขาชอบมิเหรอ?” เฌอปรางเอ่ยถามออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก เป็นคำถามที่มิถุนายังไม่กล้าถามตัวเองเลยด้วยซ้ำ...มิถุนามองตาเพื่อนสาวนิ่งๆ แล้วยิ้มออกมา
“ไม่มีทางหรอก"
มิถุนายิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุด และเศร้าที่สุดเช่นกัน
ตารางงานของคุณชายมาเฟียยังคงแน่นแทบหายใจไม่ออกเหมือนเดิม ตามปกติแล้วจอมทัพไม่รู้สึกว่างานของเขาหนักเกินไปเท่าไหร่นัก แต่หลังจากการเข้ามาในชีวิตของใครคนหนึ่งนั้น ทำให้บางทีเขาหลุดสมาธิไปกับงานตรงหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จอมทัพยอมรับว่าเขาเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าในทิศทางไหนแต่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน แน่นอนกว่านั้นคือเจย์และวิคเตอร์รู้สึกแน่ๆ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละที่คงไม่รู้สึกรู้สาอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย...
มาเฟียหนุ่มกวาดตาอ่านกระดาษสัญญามาหลายนาทีแล้ว เสียงรินชาเออร์เกรย์ของมือขวาไม่รบกวนสมาธิเขาแต่อย่างใด เจย์ลอบมองเจ้านายของเขานิ่งๆ ไม่รู้ว่าจอมทัพคิดอะไรอยู่ จะคิดถึงผลประโยชน์การเซ็นต์สัญญาเปิดบ่อนใหม่หรือคิดถึงใครบางคนหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้
เจย์ ฟาน เหลือบมองแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับคาสิโนแห่งใหม่ที่วางอยู่บนโซฟา เขาตั้งใจจะเอามาให้จอมทัพ แน่นอนว่าอีกไม่ถึงนาทีมาเฟียหนุ่มต้องเรียกหามันแน่นอน เจย์เดาใจเจ้านายไม่เคยผิดหรอก
“เจย์"
“ครับ...ถ้าแฟ้มข้อมูล ผมนำมาให้แล้ว...” เจย์ละมือจากช้อนชา ก่อนเดินตรงไปหยิบแฟ้มขึ้นมา
แต่คราวนี้เจย์เดาผิด...
“ไม่ใช่...เรื่องสัญญาโอเคแล้ว เอื้อประโยชน์สองฝ่าย ทั้งเจ้าของที่ดิน ทั้งเรา...”
“ครับ?”
“มิถุนาอยู่ไหน?”
“ครับ?”
ฉงนใจยิ่งนัก แต่เจย์ไม่อุทานอะไรออกไปมากกว่านี้ จอมทัพดูชะงักนิดหน่อยที่โดนมือขวายอกย้อนด้วยคำสั้นๆ แต่มาเฟียหนุ่มผู้ไม่ชอบพูดซ้ำซากก็ยังคงนั่งนิ่งรอคำตอบ
เจย์เหลือบมองนาฬิกา...จะห้าโมงเย็นแล้ว ป่านนี้คงไปถึงงานแฟชั่นโชว์เรียบร้อยแล้ว
“น่าจะอยู่ที่ห้างX ครับ คุณมิถุนาไปหาคุณตะวันและคุณเฌอปราง คุณมิบอกว่าอาจจะกลับดึกหน่อย"
“อืม"
“นายท่านจะไปหาเธอไหมครับ?” เจย์เอ่ยถาม
จอมทัพเม้มปากเล็กน้อย เขาเหลือบมองนาฬิกาแล้วหมุนเก้าอี้หันออกไปยังกระจกบานกว้างที่มอบภาพมุมกว้างของเมืองกรุงสะท้อนเข้าสู่สายตา
“ไม่ล่ะ เย็นนี้มีนัดกับเสี่ยชัชชัย"
“ใช่ครับ"
“ให้เขาอยู่กับเพื่อนของเขาไป บอกวิคเตอร์ให้ดูแลให้ดี ฉันไม่ไว้ใจ"
“ทำไมล่ะครับ?” เจย์นิ่วหน้า ประหลาดใจว่าวิคเตอร์บกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน
“เมริสสาคงไม่พลาดเดินแบบงานนี้ด้วย"
“เดี๋ยวผมเช็คให้" เจย์รับปาก
“ไม่ต้อง" จอมทัพเอ่ย "หาบัตรให้ฉัน เสร็จจากเสี่ยชัชชัย เราค่อยไปที่งานกัน"
จอมทัพไม่พูดอะไรอีก แต่เจย์ก็รู้ดีว่านั่นคือสิ่งที่จอมทัพอยากทำมากที่สุด ณ ตอนนี้ เจย์รับคำก่อนเลี่ยงตัวออกไปโทรศัพท์ เขาปิดประตูลงก่อนเอนกายพิงบานประตูอย่างเงียบเชียบ ทันทีที่ปลดล็อคหน้าจอและกดลงไปที่รูปโทรศัพท์ ชื่อของใครบางคนก็ปรากฏสู่สายตา
เจย์ชั่งใจระหว่างการติดต่อฝ่ายพีอาร์ของแบรนด์หรือติดต่อวิคเตอร์ก่อน เขาเม้มปากแน่น ถอนหายใจเบาๆ เจย์ ฟาน ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน
หรือจะโทรหาวิคเตอร์ อ้างเรื่องงาน และแอบถามว่าหาอะไรใส่ท้องบ้างหรือยัง?
บางทีช่วงนี้ความรู้สึกที่เขามีให้วิคเตอร์มันอาจจะรุนแรงไปหน่อย เจย์ไม่ควรให้ความสนใจวิคเตอร์ไปมากกว่านายท่าน และคุณมิถุนาก็คงดูแลปากท้องวิคเตอร์ได้อย่างดีเยี่ยมอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีใครเอ่ยปากขอ
เอ๊ะ...
เจย์ไม่เข้าใจทำไมบางทีเขาจึงต้องนึกถึงมิถุนาและวิคเตอร์ด้วยอารมณ์แอบฉุนเฉียวเช่นนี้ หรือเพียงแค่เขาหึงหวง วิคเตอร์กับเขาแทบไม่เคยต้องแยกกันทำงานนานขนาดนี้
ช่างเถอะ ไม่สนก็ไม่สน...
เขาจะหลอกตัวเองอีกครั้ง มันไม่ยากหรอก ก็เหมือนที่เขาทำมาตลอดนั่นแหละ
เจย์มองเบอร์ของคู่หูครั้งสุดท้าย ก่อนตัดใจโทรไปยังอีกปลายสายหนึ่งแทน.
มิถุนานั่งอยู่ระหว่างแทนไทและวิคเตอร์ บนที่นั่งวีไอพีติดขอบเวที เพื่อรอดูเพื่อนรักทั้งสองที่ร่วมเดินแบบครั้งนี้
เสียงเพลงอิเล็คทรอนิกส์แดนซ์ดังลั่น เสียงเบสทุ้มหนักจนหัวใจเต้นตุบๆ คนในแวดวงและไฮโซบางคนแวะเวียนเข้ามาทักทายทั้งเขาและแทนไทอยู่เนืองๆ มิถุนายิ้มรับทุกคนที่เข้ามา สาวๆและที่ไม่สาวบางส่วนก็แอบลอบส่งยิ้มให้กับมือซ้ายรูปหล่อที่นั่งนิ่งอยู่ด้านข้างเขา มิถุนาแอบหัวเราะเบาๆเมื่อวิคเตอร์ทำหน้าปุเลี่ยนทันทีที่ดีไซเนอร์สาวประเภทสองแอบลูบกล้ามเขาผ่านร่มผ้า
งานเริ่มต้นขึ้นตรงเวลา ตะวันเปิดตัวออกมาพร้อมรอยยิ้มสดใส แม้เพื่อนรักของเขาจะบอกอยู่ตลอดว่าไม่ชอบแทนไท แต่รอยยิ้มที่แอบส่งให้คนที่อยู่ด้านล่างตลอดเวลาก็ยืนยันได้ดีว่าจริงๆแล้วเพื่อนของเขารู้สึกอย่างไร
มิถุนาแทบรอดูเฌอปรางในชุดฟินนาเล่ไม่ไหว เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าเพื่อนของเขาต้องสวยกว่าทุกๆคนเป็นแน่ มิถุนาพยายามเมินสายตาจิกกัดของเมนี่ที่ส่งตรงมาจากบนเวที เพราะเขามาดูเพียงแค่ตะวันและเฌอปรางเท่านั้น
เสียงปรบมือดังกึกก้องทันทีที่เฌอปรางเดินออกมา ชุดราตรีสีขาวยาวกรอมเท้ากรุลูกไม้ตั้งแต่หัวจรดปลายทำให้เพื่อนรักของมิถุนาดูสวยสง่ามากถึงมากที่สุด มิถุนาอดยิ้มออกมากว้างๆไม่ได้เมื่อเห็นเช่นนั้น ยิ่งพอเห็นทุกคนมองด้วยสายตาชื่นชม เขาก็อดดีใจแทนเฌอปรางไม่ได้จริงๆ
เมื่องานจบลง มิถุนาก็บอกวิคเตอร์ว่าจะเข้าไปด้านหลังเวทีอีกทีเพื่อแสดงความยินดีกับเฌอปราง มิถุนาไม่มีทั้งดอกไม้หรือการ์ดหรืออะไรทั้งนั้น เขาไม่ทันฉุกคิดจึงไม่ได้เตรียมมา แต่แน่นอนว่าเฌอปรางคงไม่ต้องการของพวกนี้หรอก เอาเป็นว่าเขาอาสาเป็นเจ้ามืออาหารเย็นมื้อนี้เอง
“ผมรอที่ประตูด้านหน้าเหมือนเดิมนะครับ"
“ครับ ขอบคุณนะครับ เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะครับ ผมเลี้ยงเอง แล้วก็...ลูกน้องของคุณด้วย"
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมไปดูแลคุณเอง ส่วนลูกน้องคนอื่นๆก็ให้เขาจัดการของเขาเองก็ได้ครับ"
“งั้นผมจะรีบมานะครับ"
วิคเตอร์พยักหน้ารับก่อนมองมิถุนาที่เดินตามแทนไทเข้าไปด้านใน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค หน้าจอสมาร์ทโฟนปรากฏเบอร์โทรเข้ามาหนึ่งสาย
เจย์...วิคเตอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เขาไม่รู้สึกถึงการสั่นของโทรศัพท์ วิคเตอร์กดโทรกลับ ปลายสายไม่รับ เขาจึงไม่เซ้าซี้ต่อ ถ้ามีอะไรรีบเร่ง เจย์คงโทรกลับมาเอง
จะว่าไป ช่วงนี้พวกเขาแทบไม่ได้คุยกันเลย
สามทุ่มกว่าแล้ว...
มิถุนาเดินตามแทนไทเข้าไปทางด้านหลังเวที บรรยากาศด้านในวุ่นวายพอกับตอนก่อนงานเริ่มจนมิถุนาอดคิดไม่ได้ว่าตนเองเป็นส่วนเกินหรือเปล่า ยังไม่ทันไปไหนได้ไกลฝ่ายคอสตูมก็เดินมาบอกว่าตะวันตามหาแทนไทอยู่เพราะฝากเสื้อนอกไว้กับแทนไท คนโดนตามตัวจึงหันมาบอกมิถุนาว่าให้รออยู่แถวๆนี้และจะรีบออกมาพร้อมกับนายแบบคนเก่ง
มิถุนาไม่อยากเกะกะคนอื่นจึงเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ฝ่ายเมคอัพหรือสตาฟฟ์งานบางส่วนที่เดินไปมาก็ทักทายเขาพร้อมรอยยิ้ม เขาหยิบเอาแมกกาซีนหัวนอกขึ้นมาอ่านแก้เบื่อ กายขาวเอนตัวลงพิงกับเก้ากี้ก่อนเปิดหน้านิตยสารขึ้น เพราะไม่ทันได้ดูปก การที่จะมีรูปจอมทัพกับตนเองขึ้นมาในหน้าข่าวสังคมก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด มิถุนาถอนหายใจเบาๆ ปลงไม่รู้จะปลงอย่างไร แต่ก็ยังพูดอะไรออกไปไม่ได้ มันแน่นอยู่เต็มอก เขาไม่พอใจ แน่นอน...แต่ในความไม่พอใจมิถุนาก็บอกไม่ถูกว่ามันเป็นอย่างไร เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรอีกแล้ว...
ยังไม่ทันจะได้พลิกไปหน้าถัดไป มิถุนาก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นว่ามีปลายเท้าของใครบางคนหยุดอยู่ตรงหน้า ส้นสูงสูงเกือบห้านิ้วสีดำหนังกลับราคาแพงระยับของลูบูแตงนั้นบ่งบอกได้ว่าคนสวมใส่อยู่ในระดับไหน นายแบบคนสวยชะงักกึกทันทีที่เห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า
เมนี่...
“นี่เขายังไม่เขี่ยนายทิ้งอีกเหรอ หืม?” ร่างระหงยืนกอดอก ท่าทางดูถูกและสายตาที่เหยียดหยามทำเอามิถุนาฉุนกึก แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ชอบหาเรื่องคนอยู่แล้ว เขาจึงเลือกนิ่งเป็นการตอบโต้
“อะไรกัน จ้องหน้าฉันอย่างนั้น แล้วไอ้ที่มองรูปตัวเองกับคุณจอมทัพแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นี่คืออะไร...ภูมิใจกับความสำเร็จหรือไง ฉันจับเขาได้แล้ว อะไรแบบนี้น่ะคะ หึ" เมนี่เหยียดยิ้ม "เธอไม่รู้หรอก สักวันเขาก็จะทิ้งเธอ"
“เหมือนที่เขาทำกับเธอใช่ไหม?” มิถุนาเอ่ยอย่างเหลืออด
“นี่!”
“ฉันไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้ดีใจ ถ้าเธอจะรู้อะไรบ้างสักนิดเธอจะไม่พูดแบบนี้"
“ทำไม...รับไม่ได้หรือไง?” นางแบบสาวยืดหลังตรงก่อนเอ่ยอย่างหาเรื่อง "ก็เอาตัวเข้าแลกมาแล้วนี่น่า เห็นลูกน้องจอมทัพเดินตามต้อยๆ เธอทำยังไงกันเหรอ ถึงได้อภิสิทธิ์พิเศษขนาดนี้"
“ฉันไม่ได้ทำอะไร" มิถุนาหลับตานิ่ง พยายามใจเย็น
“ตอแหลจริงนะ"
“เธอจะคิดอะไรก็คิดไปเถอะนะ ฉันพูดความจริง"
“อ้อเหรอ...” เมนี่เยาะหยัน "งั้นเวลาอยู่บนเตียงเธอทำยังไงเหรอ ร่านขนาดไหนลองบอกให้ฟังหน่อยสิ ถึงจับเขาได้อยู่หมัดขนาดนี้"
“พอได้แล้วเมนี่" มิถุนาเม้มปากแน่น
“ทำไมเหรอ...หรือว่ารับไม่ได้ คงจริงสินะ เป็นนายแบบมันคงไม่สบายเท่ามีเสี่ยเลี้ยงหรอก จริงไหม?”
มิถุนาจ้องใบหน้าสวยนิ่ง น่ารังเกียจ...หน้าตาสะสวยแต่จิตใจต่ำขนาดนี้ เขาเองก็ไม่คิดเลยจริงๆว่าสักวันจะได้เจอกับตัวแบบนี้ ไม่รู้จอมทัพไปบอกเลิกกันอีท่าไหน สาวเจ้าถึงได้คิดแค้นกับเขาขนาดนี้ เขาไม่ได้ก่อเรื่องอะไรเลยสักนิด มีแต่ต้องรับกรรมตลอดเวลา
มิถุนาถอนหายใจเบาๆ ก่อนโต้ตอบออกไปในที่สุด
“ก็คงคิดเหมือนเธอแหละ ตอนที่เป็นเด็กจอมทัพ เธอก็ดูสะดวกสบายดีนี่"
“อย่างนี้เธอก็ขายตัวเหมือนฉันใช่ไหม?”
มิถุนาเหยียดยิ้มออกมา เขาเกลียดตัวเองตอนนี้เหลือเกิน เขาได้ยินเสียงหวีดร้องของเมนี่ที่ดึงให้ทุกคนหันมาสนใจ มิถุนาไม่ทันตั้งตัวอะไรด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่จบประโยค เมนี่ก็ถลาเข้าหาเขาอย่างคลุ้มคลั่ง เล็บเจ้าหล่อนจิกแขนเขาจนเป็นรอย มิถุนาไม่ทันปัดป้อง เพราะรู้ตัวอีกที...
เพี๊ยะ!!!
ใบหน้าของเขาก็ชาไปเสียทั้งแถบแล้ว...
วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นเมื่อเสียงฝีเท้าของคนนับสิบที่คุ้นเคยดังขึ้น เขาเลิกคิ้วหน่อยๆเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เจ้านายของเขาและเจย์ พร้อมกับลูกน้องอีกกองทัพ วิคเตอร์คิดว่าวงการแฟชั่นโชว์คงต้องชินได้แล้วกับอะไรแบบนี้ เพราะดูท่าทางมาเฟียหนุ่มจะไม่ปล่อยให้นายแบบคนดังของวงการหลุดมือไปง่ายๆ จอมทัพเหลือบตามองเขานิดหน่อย วิคเตอร์รู้ว่าเจ้านายคงสงสัยว่าทำไมเขามาอยู่ตรงนี้
“คุณมิถุนาให้ผมยืนรอด้านนอกเพราะกลัวจะทำให้ด้านในแตกตื่นน่ะครับ"
มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ เจย์เดินไปเจรจากับสตาฟฟ์ตรงหน้าประตูสองสามคำ ยังไม่ทันที่มือขวาร่างขาวจัดจะผลักประตูเข้าไป ด้านในของประตูก็ถูกผลักออกมา เจย์ชะงักกึกเมื่อเห็นสตาฟฟ์คนหนึ่งถลาออกมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ยังไม่ทันที่มือขวาคนเก่งจะเอ่ยปากอะไรออกไป เจ้าหล่อนก็รีบตรงเข้าไปหาวิคเตอร์
“แย่แล้วค่ะ! คุณเมนี่อาละวาดใส่คุณมิ รีบเข้าไปเร็วค่ะ"
ไม่ทันต้องให้ใครได้พูดซ้ำ วิคเตอร์ก็รีบสาวเท้าเข้าไปด้านในแทบจะทันที แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันใครอีกคนที่เดินอาดเข้าไปก่อนตั้งแต่ยังไม่ทันจบประโยคแรก...ภายในห้องแต่งตัววุ่นวายไปหมด จอมทัพตรงไปยังฝูงชนที่ยืนมุงอยู่ กลางวงคือเมนี่ที่อาละวาดพยายามทำร้ายมิถุนาโดยมีสตาฟฟ์บางส่วนและแทนไทพยายามยื้อเอาไว้ ตรงมุมห้องนั้นเฌอปรางและตะวันกำลังวิ่งออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
มิถุนาไม่ตอบโต้อะไร เขาแค่พยายามปัดป้องและหลบฝ่ามือที่เมนี่พยายามประเคนให้ ไม่น่าเชื่อว่าเรี่ยวแรงของผู้หญิงตัวเล็กๆจะเยอะขนาดนี้ เมนี่ทั้งกรีดร้อง ด่าทอ และพยายามพุ่งตัวทำร้ายมิถุนาอย่างบ้าคลั่ง จนหลุดออกมาจากแทนไทที่พยายามรั้งเอาไว้ นางแบบสาวถลันเข้าหาจนมิถุนาล้มลงกับพื้น
มาเฟียหนุ่มไม่เห็นใครในสายตาอีกเลย แน่นอนว่าเขายังไม่ทันนึกแปลกใจตัวเองด้วยซ้ำ แค่เห็นใบหน้าสวยที่อิงแอบอกเขาทุกคืนแดงเป็นรอยมือเขาก็ใจหาย จอมทัพรีบแทรกกายเข้าไปในวงพร้อมดึงตัวมิถุนาเอาไว้ มันชุลมุนเสียจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เสียงกรีดร้องของเมนี่ลอยผ่านไปมาราวกับสายลม เขารัดมิถุนาไว้ในอ้อมกอด และไม่ทันตั้งตัว
เพียะ!!!
ใบหน้าคมคร้ามของมาเฟียหนุ่มหันไปตามแรงฝ่ามือ ทุกอย่างหยุดนิ่งลงแทบจะทันที เมนี่หอบฮั่กโดยมีวิคเตอร์และแทนไทช่วยกันรั้งเอาไว้ มิถุนาปลอดภัยอยู่ในอ้อมกอดของจอมทัพ ใบหน้าซีกขวาของมาเฟียขึ้นเป็นรอยแดงปื้น ทั้งๆที่มิถุนาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่หัวใจกลับอุ่นอย่างประหลาด ร่างในอ้อมกอดของจอมทัพสั่นไม่หยุด มาเฟียหนุ่มตวัดสายตามองนางแบบสาวที่อาละวาดจนกลายเป็นคนละคนกับที่เคยรู้จัก
“ค...คุณจอมทัพ"
“ทำอะไรมิถุนา?” เสียงเย็นเยียบเอ่ยถาม เมนี่นิ่งสนิท ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธและเอาจริง
“ปละ...เปล่านะคะ เมนี่ไม่ได้ทำ" ปฏิเสธ จอมทัพจ้องหน้าหล่อนนิ่ง ยังมีหน้ามาปฏิเสธทั้งๆที่มิถุนาอยู่ในสภาพนี้แล้ว
“ฉันถามว่าเธอทำอะไรมิถุนา?”
“เมนี่...เมนี่...” นางแบบสาวละลักละล่ำ "ก็มันแย่งคุณไปจากเมนี่ ฮึก...เมนี่แค่จะทวงของของเมนี่คืน เมนี่ผิดอะไรตรงไหนคะ จอมทัพ"
เมนี่ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร จอมทัพยังไม่พูดอะไร และก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเหมือนกัน
“ฉันจำไม่ได้ว่าเราคบกันเมื่อไหร่ และฉันไม่ใช่ของของเธอนะเมริสสา" จอมทัพเอ่ยเสียงเย็น "เธอทำแบบนี้ เธอคงไม่อยากอยู่ในวงการนี้แล้วใช่ไหม ฉันให้เธอได้นะ จะได้ไม่ต้องมาก่อเรื่องกับคนของฉันอีก"
“แต่...แต่มันมาทีหลังนะคะ มันด่าเมนี่ด้วย จอมทัพคะ...ฟังเมนี่ก่อน"
“เจย์...” มาเฟียหนุ่มเรียกคนสนิท
“ครับท่าน"
“ถ้านายจะลองจัดตารางงานใหม่ของเมริสสาดู จะยากเกินความสามารถนายไหม?”
เจย์เหลือบตามองนางแบบสาวเล็กน้อย ก่อนส่ายหน้า
“ไม่ครับ ไม่ยากเลยสักนิด"
“ดี...จัดการให้ฉันด้วย" จอมทัพพยักหน้ารับพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นร้องขอความเห็นใจจากเมนี่ดังขึ้น มาเฟียหนุ่มไม่สนใจ แน่นอนว่าตอนนี้คนในอ้อมกอดของเขาคือสิ่งที่ควรให้ความสนใจที่สุด จอมทัพค่อยๆประคองร่างบอบบางให้ลุกขึ้น แต่มิถุนากลับขืนตัวไว้
“อย่า...” เสียงหวานเอ่ยทั้งๆที่สั่นเครือ
“อะไร?”
“อย่าทำแบบนั้นกับเมนี่ ฮึก...อย่าทำแบบนั้นนะครับ" ดวงหน้าหวานเงยขึ้นมา หัวใจของมาเฟียหนุ่มกระตุกวูบ ใบหน้าแดงก่ำ ปากแตกยับ ทั้งๆแบบนั้นแล้วแต่มิถุนายังมีแก่ใจไปห่วงคนๆนั้น
“ทั้งๆที่เขาทำกับเธอขนาดนี้น่ะนะ?” จอมทัพเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
“ผมขอร้อง ฮึก...นะครับ" เสียงหวานอ้อนวอนอ่อนระโหย จอมทัพนิ่งงันไปชั่วขณะ ถ้ามีอะไรจะทำให้เขาประหลาดใจได้นั้น คงหนีไม่พ้นมิถุนา "เขาทำร้ายผม ไม่ได้ทำร้ายคุณ คุณอย่าทำแบบนี้กับเขา"
“......”
“ได้โปรด"
จอมทัพถอนหายใจเบาๆ เขาประคองใบหน้าหวานขึ้นมาก่อนกดจูบเบาๆที่มุมปากช้ำ มาเฟียหนุ่มพยักหน้าในที่สุด เขาประคองร่างแบบบางขึ้นมาก่อนถอดเสื้อสูทคลุมร่างที่ยังสั่นไม่หยุด
“เมริสสา ที่เธอตบหน้าฉัน ถือว่าเราหายกัน"
“นับจากนี้ถ้าเธอทำอะไรมิถุนา...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
มิถุนายอมที่จะอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟีย มันไม่เคยอุ่น และอาจจะไม่มีวันอบอุ่นสำหรับเขา เพียงแต่ ณ ตอนนี้เขาปลอดภัย น้ำตาที่ไหลถูกซับออก รอยจูบที่มุมปากยังรู้สึกได้ถึงมันราวกับถูกประทับลงไปเป็นรอยสัก
มิถุนาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร
แผ่นอกกว้างของจอมทัพคือที่พึ่งพิงของเขา ณ ตอนนี้
ไม่รู้จริงๆว่าควรจะรู้สึกอย่างไร
เขาอาจจะพูดคำว่าเกลียดไม่ได้เต็มปากอีกแล้ว...
tbc.
ยาวมากก โอ้ย ขอโทษจริงๆที่มาช้า

เร่งสุดๆแล้วค่ะ
จากนี้ไปเราจะยุ่งไปอีกสองอาทิตย์นะคะ อาจจะลงได้อาทิตย์ละตอน
รอหน่อยนะ พ้นสองอาทิตย์ชีวิตก็จะดี แล้วก็คงลงได้2ตอนต่ออาทิตย์เหมือนเดิม
เราพยายามไม่ใส่ฉากเรทลงไปเพราะอยากให้เห็นพัฒนาการตัวละครมากกว่านะคะ
แล้วก็วันนี้มีภาพ (มโน) คู่ มาให้ดู
เป็นแฟชั่นเซ็ตของคนที่เราเอามาเป็นอิมเมจป๋าจอมทัพ กับ นางเอกคนดังของเกาหลี (ไม่บอกชื่อเพราะจำไม่ได้55)
เห็นแวบแรกก้มโนไปเองแล้วว่านี่แหละ คือภาพเซ็ตพรีเวดดิ้งของจอมทัพ-มิถุนา
555 ใหญ่ไป คือถ้ามีโอกาส ในฐานะที่มิถุนาเป็นนายแบบข้ามเพศ ก็อยากให้ได้ถ่ายแฟชั่นเซ็ตแบบนี้กับป๋าบ้าง
ก็จะดูชุ่มชื่นหัวใจ
ตัวละครเริ่มมีมิติขึ้นแล้วนะคะ เราเริ่มโอเคและผูกพันกับมันแล้ว จากตอนแรกๆที่คิดว่าจะรอดไหมเพราะมันแบนเหลือเกิน
เราคิดว่าเราจะสามารถแต่งต่อได้ลื่นไหลจบแน่นอน
หรือถ้าไม่ไหลก็ต้องจบให้ได้

ขอบคุณคนอ่านนะคะ
have a good week



โอ้ยยย ตัดหัวมิถุนาใส่ลงไป หรือมโนว่านี่คือมิถุนาจริงๆ ฮี่ๆ
ผู้ชายคนนี้คือจอมทัพของเราจริงๆค่ะ อิมเมจจอมทัพหายากมาก พอเจอคนนี้แล้วแบบ55 โอเคเลย