เหมือนทุกครั้งที่จอมทัพจะรั้งกายบางไว้แนบตัวเมื่อออกสู่ที่สาธารณะ แสงแฟลชที่สาดเข้าใส่เวลาคนทั้งคู่ปรากฏตัวพร้อมกันนั้นก็ไม่เคยลดจำนวนลงไป กลับแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะข่าวของทั้งคู่นั้นขายได้เสียยิ่งกว่าข่าวการแต่งงานของนางเอกคนดังเสียอีก
วิคเตอร์และเจย์สวมชุดสูทปกติและคอยอารักขาเจ้านายอยู่ด้านหลังพร้อมกองทัพบอร์ดี้การ์ดเกือบสิบนาย วันนี้เป็นงานเลี้ยงสมาคมผู้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะเห็นว่ามีบอร์ดี้การ์ดหลายคนเดินว่อนไปมาอยู่ในงาน เพราะมีทั้งมิตรและศัตรู มิถุนาไม่เคยมางานเช่นนี้ ดังนั้นสัญชาติญาณจึงบอกว่าอย่าห่างจอมทัพจะเป็นการดีที่สุด เช่นเดียวกับที่จอมทัพบอกว่าอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะมิถุนาไม่มีทางดูออกว่าใครหวังดีหรือประสงค์ร้ายต่อตนเองอย่างแน่นอน
มีนักธุรกิจที่คุ้นหน้าคุ้นตาในวงสังคมหลายคนเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ รูปแบบงานเลี้ยงเป็นแบบค็อกเทลจึงไม่มีโต๊ะรับรองสำหรับให้นั่งสนทนาไปและคุยไป จึงได้เห็นว่ามีนักธุรกิจมากมายเดินเข้ามาทักทายและละออกไปทักทายคนใหม่ๆเรื่อยๆ เช่นเดียวกับมาเฟียหนุ่มที่ดูจะเป็นที่สนใจของคนอื่นๆมากพอดู เพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในงาน ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายตั้งแต่เริ่ม
มาดนักธุรกิจของจอมทัพนั้นทำให้มิถุนารู้สึกทึ่งในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จอมทัพยิ้มบางๆให้กับทุกคนที่เข้ามาและทักทายทุกคนที่เขาเคยพูดคุย ดูท่าที่เจย์บอกว่าจอมทัพคือนักธุรกิจที่ฉลาดเป็นกรดดูท่าว่าจะจริง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ผลประโยชน์ร่วมกันคือเป้าหมายสูงสุดในการทำธุรกิจ
ระหว่างที่จอมทัพกำลังเจรจาธุรกิจ เจย์ก็ชวนมิถุนาไปหาอะไรรับประทานรอบๆงานเลี้ยง เพราะคิดว่านายแบบหนุ่มคงเบื่อกับบทสนทนาที่ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่นัก มิถุนาจึงเดินตามเจย์ไปแต่โดยดีโดยที่เจย์ไม่ลืมที่จะบอกวิคเตอร์เอาไว้ว่าจะไปไหน ระหว่างทางเจย์ก็อธิบายถึงรูปแบบงานของมาเฟียหนุ่มคร่าวๆ รวมถึงนักลงทุนรายอื่นๆที่ทั้งเป็นมิตรและเป็นศัตรูกับเจ้านายของตนเอง
“แล้วเขาศัตรูเยอะขนาดนี้ ไม่เคยโดนตลบหลังบ้างเหรอครับ?” มิถุนาโพล่งถามขึ้นมาระหว่างเลือกแซนด์วิชหน้าตาน่าทาน เจย์พยักหน้าเบาๆ
“มีสิครับ เยอะแยะจะตาย ตั้งแต่โดนเผาโกดัง โดนใส่ร้ายจนชาวบ้านประท้วง ลูกน้องเราโดนทำร้ายก็มี"
“แล้วจะสร้างความสำเร็จไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะครับ แค่ที่มีก็ใช้ไม่หมดแล้วไม่ใช่หรือไง?” มิถุนาถามเรียบๆ เจย์ชะงัก เพราะเขาไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี มือขวาจึงเปลี่ยนเรื่องแทน
“ผมไปเอาเครื่องดื่มให้ ทานม็อกเทลแล้วกันนะครับ"
“ครับ ขอบคุณคุณเจย์มากนะครับ" มิถุนาพยักหน้ารับก่อนยืนจ้องมองอาหารตรงหน้าที่วางเรียงรายอย่างรู้สึกสนอกสนใจ ระหว่างที่กำลังตัดสินใจเลือกอยู่นั้น ใครบางคนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังเขา พร้อมเอ่ยทักทายออกมา
“สวัสดีครับ"
“อ๊ะ ขอโทษครับ" มิถุนาชะงัก นึกว่าตนเองยืนบังทัศนวิสัยของอีกฝ่าย แต่กลับกัน ทันทีที่เขาหมุนตัวกลับมา เขาก็เห็นชายหนุ่มใบหน้าคมคนหนึ่งยืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้ม เขาเป็นผู้ชายร่างสูง ใบหน้าคมเหมือนแขกขาวผสมยุโรป แต่งกายดูดีมีรสนิยม ท่าทางอัธยาศัยดีและดูเจ้าชู้
มิถุนาถอยหลังทันที
“ผมรบกวนหรือเปล่าครับ...เอ่อ คุณ...”
“ไม่ครับ...ผมมิถุนา" ร่างบางบอกออกไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก พยายามสอดสายตามองหาใครสักคนหนึ่ง
“ผมอาเมนครับ...คุณมิถุนาที่เป็นนายแบบใช่ไหมครับ"
“อ่า ครับ"
“โอ...ผมได้ยินชื่อคุณมากสักพักแล้ว เขาลือกันว่าคุณสวยมาก เท่าที่ผมเห็นนี่เหมือนท่าจะจริงนะครับ" ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มที่มิถุนารู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด "แต่น่าเสียดายที่คุณเป็นของคุณจอมทัพไปเสียแล้ว"
นายแบบคนสวยสะดุ้งวูบทันทีเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาแตะแก้มเขาเบาๆ มิถุนาถอยกรูดพร้อมทั้งปัดมืออีกฝ่ายออก เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในใจพร้อมนึกโมโหที่จอมทัพไม่ไยดีเขาเลยสักนิด แต่ไม่ทันไร เขาก็ถูกกระชากอย่างแรงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคน พร้อมกับวิคเตอร์ที่แทรกตัวเข้ามาขวางแทบจะทันที มิถุนาเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเป็นจอมทัพนั่นเองที่จ้องมองมาอย่างไม่พอใจ
“อ้าว...สวัสดีครับคุณจอมทัพ" อาเมนยิ้มยียวน เขาละมือออกไปทันทีที่วิคเตอร์ยกมือขึ้นกันเอาไว้ จอมทัพไม่ยอมให้มิถุนาห่างตัวแม้นิดเดียว พร้อมกันนั้น เจย์ก็สาวเท้าเดินเข้ามาไวๆเช่นกัน
รู้ตัวอีกที รอบตัวเขาก็เต็มไปด้วยชายชุดดำ ทั้งบอร์ดี้การ์ดฝ่ายจอมทัพ และบอร์ดี้การ์ดฝ่ายอาเมนที่เดินเข้ามาแทบจะทันทีที่ฝ่ายจอมทัพล่วงล้ำเข้ามา
“มีอะไรกับคนของผมรึเปล่า คุณอาเมน?” จอมทัพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดกระชาก แลดูไม่เป็นมิตร และมิถุนาก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นมิตรทางธุรกิจกันเลยสักนิดเดียว
“เปล่าหรอกครับ อย่าหวงไปหน่อยเลย ผมแค่เข้ามาทักทาย เห็นว่าคุณมิถุนาเธอน่ารักดี"
“ระวังคำพูดด้วยครับ" เจย์ชักสีหน้า พร้อมกับวิคเตอร์ที่ยกมือกันคู่หูไว้ไม่ให้วู่วามเกินกว่าเหตุ
“โอ้โห ลูกน้องคุณดุใช่เล่นนะครับคุณจอมทัพ"
“ปกติลูกน้องของผมสุภาพเสมอกับคนมีมารยาท" จอมทัพจ้องอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ "คุณคงเป็นกรณียกเว้นมั้งครับ"
ชายร่างสูงชักสีหน้าทันทีที่จอมทัพพูดจบ แต่แทนที่จะตอกกลับ เขากลับสูดหายใจและเปลี่ยนสีหน้าราวกับเป็นคนละคน "งั้นมั้งครับ ไม่เป็นไร ลูกน้องคุณคงไม่ชอบผมหรอก แต่ผมยืนยันจริงๆนะว่าคู่ควงคนล่าสุดของคุณนี่สวยจริงๆ"
“ไม่ใช่คู่ควง" จอมทัพแทรกขึ้นแทบจะทันที ทำเอามิถุนาเหลือบมองใบหน้านิ่งๆของอีกคนอย่างไม่เชื่อสายตา
“ฮ่าๆ ผมคงเข้าใจผิดไป...ได้ข่าวว่าคุณจะเปิดคาสิโนใหม่ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เป็นเรื่องน่ายินดีนะครับ สักวัน...” อาเมนมองมาเฟียหนุ่มด้วยสายตายียวน ก่อนเหลือบมองมิถุนาด้วยแววตาปรารถนาจนนายแบบหนุ่มนึกกลัวขึ้นมาจับใจ มันน่าขยะแขยงกว่าที่จอมทัพมองเขาในวันแรกที่เจอกันเป็นร้อยเท่าพันเท่า "เราคงได้ใช้อะไรร่วมกัน ผมหมายถึง...ใช้กำไรร่วมกันน่ะครับ"
มาเฟียหนุ่มฟังแล้วเส้นเลือดกระตุกแทบจะทันที เขารั้งเอวมิถุนาแน่นขึ้นอีกจนอีกฝ่ายชักจะเจ็บ "ผมไม่มีความคิดจะทำโครงการร่วมกันคุณครับ คุณอาเมน ขอตัว" จอมทัพไม่รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ เขาหมุนตัวเดินออกมาพร้อมกับมิถุนาในอ้อมแขนแทบจะทันที วิคเตอร์ยืนรอดูแลความปลอดภัยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินตามออกมา มิถุนาเหลือบกลับไปมองพร้อมกับขนลุกไปทั่วทั้งร่างกับสายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมา
จอมทัพฉุนเฉียวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเดินดุ่มๆออกไปพร้อมกับมิถุนาและทัพบอร์ดี้การ์ดอย่างไม่สนใจใครหน้าไหน งานเลี้ยงเพื่อผลประโยชน์ของเขามันไม่มีประโยชน์อีกแล้วนับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อครู่นี้เกิดขึ้น ไอ้อาเมน ลูกชายเสี่ยโต เสี้ยนหนามทางธุรกิจชิ้นใหญ่ของเขา พักหลังมานี้ไม่ว่าเขาจะลงทุนทำอะไร ไอ้อาเมนก็ต้องเข้ามาขัดขวางตลอด เพราะเหตุการณ์ขัดผลประโยชน์ล่าสุด แต่แน่นอน เขาก็จัดการมันไปได้ด้วยดี เขาไม่เคยนึกหงุดหงิดใจเลยสักนิด แต่กลับคิดว่าอุปสรรคคือด่านๆหนึ่ง และเขากำลังเล่นเกมส์เท่านั้น แต่มันกลับไม่ใช่ เมื่อครู่นี้มันเหมือนจริงจนเขาอารมณ์ขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ ไอ้อาเมนมันอยากได้มิถุนา ใครจะไม่รู้ มันรู้ว่าเขาต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแน่หากมันฉกมิถุนาไปจากอกเขาได้
“เดี๋ยว คุณจอมทัพ...คุณจอมทัพผมเจ็บ!” มิถุนาโอดขึ้นมาพร้อมกับบิดข้อมือเบาๆเมื่อพวกเขาออกมาถึงล็อบบี้โรงแรม จอมทัพหมุนตัวเผชิญหน้ากับใบหน้าหวาน เขามองเห็นแววตาเจ็บปวดฉายอยู่ในดวงตาคู่นั้น และแววตาของตนเอง ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของมิถุนา มันไม่ต่างกันเลย
จอมทัพไม่สนใจใครหน้าไหน เขาเชยคางมนขึ้นก่อนบดจูบลงไปอย่างหวงแหน ความรู้สึกตีกันยุ่งเหยิง ราวกับพาตัวเองย้อนกลับไปยังคืนที่บาร์อัลเทอร์เนทีฟร้อคที่นิวยอร์คอีกครั้ง ยิ่งมิถุนาไม่ต่อต้าน เขายิ่งดูดกลืนความหวานของคนตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง...
มาเฟียหนุ่มละริมฝีปากออกมา ทันทีที่เห็นดวงตากลมคลอไปด้วยน้ำตา เขาก็แนบริมฝีปากลงไปอีก รสจูบทั้งหวานทั้งขมอย่างบอกไม่ถูก จอมทัพคงปฏิเสธตัวเองไม่ได้แล้วว่ามิถุนาคือคนที่นำพาความรู้สึกครั้งแรกของเขากลับมา มิถุนาไม่ใช่ตัวแทนของจุน แต่เป็นมากกว่านั้น...
“ค...คุณ...คุณเป็นอะไร?” เสียงหวานหอบกระเส่า พลางถามอย่างไม่เข้าใจนัก มิถุนาถูกกุมมือแน่น จอมทัพยังคงหัวเสียไม่หยุด เขาทั้งลากทั้งจูงร่างบอบบางให้เดินตามมาจนหยุดอยู่หน้าประตูรถ ไม่ต้องรอให้คนขับรถมาเปิดให้ มาเฟียหนุ่มก็กระชากประตูให้เปิดออกพร้อมกับแทบจะช้อนตัวมิถุนาให้เข้าไปในนั้น
“โธ่เว้ย!”
หัวใจเข้าเต้นแรงจนหลุดสบถออกมา ยิ่งรู้สึกว่าของรักกำลังจะถูกแย่งไป เขายิ่งกระฟัดกระเฟียด มิถุนาเองก็ยินยอมที่จะอยู่ในอ้อมกอดรัดแน่นของมาเฟียอย่างไม่ปริปากบ่น หัวใจเขาก็คงเต้นแรงไม่แพ้กับจอมทัพ อ้อมกอดของจอมทัพไม่เคยรู้สึกอุ่นและปลอดภัยกับเขาได้มากขนาดนี้ มากขนาดที่มิถุนายังไม่เข้าใจตนเองเท่าไหร่นัก
“นายไม่ได้ชอบมันใช่ไหม ไอ้อาเมนอะไรนั่นน่ะ" จอมทัพโพล่งถามขึ้นมาเสียงดัง น่าตกใจขนาดที่วิคเตอร์แทบเบรครถกะทันหัน
“คุณหมายถึงยังไง?”
“นายชอบมันหรือยังไง"
“คุณจอมทัพ ใจเย็นๆก่อนได้ไหม!” มิถุนาหวีดเสียงแทรกขึ้นมา "คุณเห็นผมเป็นตัวอะไรน่ะ จู่ๆจะมายัดเยียดให้ผมชอบใครที่เพิ่งรู้จักงั้นเหรอ"
“ก็นายไม่ตอบ"
“ก็ผมไม่รู้จะตอบอะไร ผม...ผมก็ตกใจ คุณนั่นแหละไปอยู่ที่ไหน ทำไมคุณไม่มาหาผมให้เร็วกว่านี้!” ถ้อยคำบริภาษจากปากอิ่มทำให้มาเฟียหนุ่มชะงัก ความโกรธที่เดือดพล่านค่อยๆลดลงมาเมื่อเห็นว่านายแบบหนุ่มเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรงเหมือนพยายามกลั้นสะอื้น จอมทัพค่อยๆคลายอ้อมกอด ก่อนขยับกายและรัดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้ไปไหนคนเดียว"
“ผมไปกับคุณเจย์ คุณเจย์ไปหยิบเครื่องดื่มให้ผม คุณไม่ต้องโทษคนอื่นเลยนะ! คุณนั่นแหละ อยู่ๆก็พาตัวผมมา แล้วอยู่ๆก็มายัดเยียดผมให้กับคนอื่น คุณไม่สนใจผมสักนิดเดียว!!!!”
ความชื้นบนสูทนั้นจอมทัพสัมผัสมันได้ ความโกรธที่ครอบงำอยู่ค่อยๆคลายลงพร้อมกับอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้น สับสน...ต่างคนต่างสับสนไม่ต่างกัน ราวกับว่าหัวใจกำลังเต้นในจังหวะเดียวกันและประชดกันไปมาอย่างไรอย่างนั้น บางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลง บางสิ่งที่พวกเขาสัมผัสและรู้สึกได้
“นายห้ามไปไหนเด็ดขาดนะมิถุนา ใครก็เอาตัวนายไปจากฉันไม่ได้ เข้าใจไหม!”
ในเวลานี้ วิคเตอร์และเจย์ เหมือนมองเห็นเพียงคู่รักที่ปากแข็งและย้อนแย้งใส่กันไปมา...ก็เท่านั้น
มิถุนาหลับไปแล้ว ใบหน้าหวานยังแดงก่ำ ดวงตาก็บวมช้ำ คืนนี้มิถุนาไม่ดื้อเลยสักนิด เขาโอนอ่อนให้กับมาเฟียหนุ่มทำตามใจชอบอย่างที่ตัวเองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน...
จอมทัพลุกจากเตียง สวมเสื้อคลุมลวกๆ หยิบบุหรี่นอกรสหวานพร้อมกับซิปโป้จากหัวเตียงแล้วเดินออกไปที่ระเบียงบนชั้นเก้าสิบ ชั้นที่เขาพักอาศัย จอมทัพชอบความสูง ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกว่ามันทำให้เขาสูงกว่าคนอื่น เพียงแต่มันทำให้เขารู้สึกเป็นอิสระ บุหรี่นอกถูกจุด ปลายมวนเป็นสีส้มสด มาเฟียหนุ่มอัดบุหรี่เข้าปอดก่อนปล่อยควันออกมาเป็นรูปวงแหวน เขาสูบบุหรี่กับจุนบ่อยๆ เวลามองควันที่ลอยฟุ้งขึ้นฟ้า มันทำให้เขาสบายใจราวกับว่าได้ใช้เวลาอยู่กับตนเอง และได้พูดคุยและเปลี่ยนกับจุนในเวลาสั้นๆของความยาวบุหรี่หนึ่งมวน
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวันนี้เขาคิดถึงจุนได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของจุน ซึ่งตามปกติเขาจะนั่งดื่มไวน์คนเดียวกับแก้วสองใบ ไลฟ์สไตล์เขาและจุนคล้ายกันมากจนแยกไม่ออก แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น จอมทัพมั่นใจว่าเป็นเพราะมิถุนาที่อาจหาญดึงความรู้สึกเก่าๆของเขากลับคืนมา ความรู้สึกที่ทำให้หัวใจเต้นแรงเหมือนคืนวันก่อนๆ วันที่เขายังมีจุน
แต่วันนี้มีเพียงแค่มิถุนาเท่านั้น ไ่ม่มีวันที่จุนจะกลับมาได้ และจอมทัพก็ไม่เคยอยากได้จุนกลับมา คนที่จากไปแล้วก็คือจากไป ชีวิตคนที่เหลือก็ต้องเดินหน้าต่อไป จะไปเรียกร้องจากคนตายมันไม่มีอะไรดีขึ้นมาสักนิด
ก้นบุหรี่ถูกขยี้และทิ้งลงในที่เขี่ยบุหรี่แถวนั้น จอมทัพถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเดินกลับเข้ามาในห้อง เขารู้สึกคัดจมูกนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก มาเฟียหนุ่มทรุดตัวลงนอนข้างๆอีกคนหนึ่งก่อนเบียดกายแล้วสวมกอดร่างเล็กไว้แน่น...ช่างมันก่อนเถอะ เรื่องอื่นๆ วันนี้มีเรื่องไร้สาระให้ปวดหัวมากพอสำหรับเขาแล้ว...
กลับเป็นมิถุนาที่กำลังจะเคลิ้มหลับแต่กลับต้องลืมตาโพลงขึ้นมาในความมืดเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นของน้ำบางอย่าง กายขาวผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมเอื้อมมือเปิดไฟหัวเตียงแทบจะทันที จอมทัพที่หลับตาอยู่ต้องยกมือป้องแสง เขาเบือนหน้าหนีแต่มือเล็กๆกลับรั้งใบหน้าของเขาเอาไว้แล้วอุทานออกมา
“คุณจอมทัพ! คุณร้องไห้ทำไม?”
เสียงหวานร้องอย่างตกใจ วินาทีนั้นจอมทัพก็เพิ่งรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่อาบอยู่บนใบหน้าเขา จากนั้นอาการคันตาและคัดจมูกก็ลุกลามขึ้นมาจนเขาจามออกมาเสียยกใหญ่ มิถุนารีบยกมืออังหน้าผากมาเฟียหนุ่มทันที
"คุณไม่สบายเหรอ?"
"เปล่า" มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น ตาแดงก่ำ "มันคันตาแล้วก็คัดจมูกมาก"
"นี่คุณไปสูบบุหรี่มาใช่ไหม?"
"อืม" มิถุนาไม่รอฟังคำตอบต่อไป เขาควานหาเสื้อคลุมขึ้นสวมร่างกายก่อนเดินลิ่วไปยังอินเตอร์โฟน จากนั้นทั้งเซฟเฮ้าส์ก็โกลาหลแทบจะทันทีเมื่อนายเหนือหัวถูกรายงานอาการจากนายแบบคนสวยว่าแพ้เกสรดอกไม้
จอมทัพยังจามไม่หยุดจนหน้าแดงก่ำ มิถุนาจึงลากคนตัวโตกว่าไปที่ห้องน้ำเพื่อบ้วนปากและล้างมือ ตอนนี้มิถุนารู้สึกเหมือนมาเฟียหนุ่มเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่เชื่อฟังเสียจนน่ากลัวใจ ทันทีที่ออกมาจากห้องนอน อาเจียง วิคเตอร์ และเจย์ก็กรูกันเข้ามาแทบจะทันที
“นายท่านไม่เคยแพ้เกสรดอกไม้เลยนะครับ น่าแปลกแฮะ" พ่อบ้านเจียงพึมพำขึ้นเบาๆ เขาพิจารณาอาการและคิดว่าเป็นอาการแพ้เกสรแบบนี้มิถุนาบอก ตอนแรกจะถึงกับต้องเรียกหมอ แต่จอมทัพกลับยกมือห้ามเอาไว้ จึงแค่พ่นยาและทานยาแก้แพ้เท่านั้น
อาการไม่ดีขึ้นเท่าไหร่แต่ก็ทุเลาลง มาเฟียหนุ่มไล่ทุกคนออกจากห้องไปทันทีที่ปฐมพยาบาลเสร็จ จากนั้นทั้งห้องก็เงียบลงเมื่อเหลือเพียงแค่มิถุนากับจอมทัพเท่านั้น กายบางเดินไปสำรวจผ้าม่านก่อนพึมพำว่าพรุ่งนี้คงต้องส่งซัก เช่นเดียวกับผ้าปูที่นอนที่คงต้องเปลี่ยนก่อนกำหนด มิถุนาหมุนตัวกลับมาก่อนชะงักกับสายตาของมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองมา เขาถอนหายใจเบาๆก่อนเดินกลับไปที่เตียง
“นอนได้แล้วครับ"
เสียงหวานเอ็ด แต่จอมทัพกลับไม่ยอมเชื่อฟัง เขาตวัดร่างอีกคนขึ้นมานั่งบนตัก แนบใบหน้ากับแผ่นอกราบเรียบของอีกคนนิ่ง มิถุนาเองก็ปล่อยให้ใครอีกคนทำตามใจชอบ เขายอมเป็นหุ่นนิ่งๆให้จอมทัพรัดไว้จนแน่น มาเฟียหนุ่มดูอ่อนเพลียกับอาการแพ้ฉับพลันแต่กลับไม่ยอมนอนเสียที
“ฉันไม่เคยแพ้เกสรดอกไม้มาก่อน" จอมทัพพึมพำเบาๆ
“แต่วันนี้คุณแพ้ บางคนเขาก็แพ้แบบคุณนี่แหละ ไม่ได้แพ้โดยตรง แต่แพ้ผสมกับตัวกระตุ้นตัวอื่น คุณดื่มมาใช่ไหมในงานน่ะ"
“ใช่"
“หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะสารในบุหรี่ไปกระตุ้น"
“อืม"
มิถุนาถอนหายใจเบาๆ "คุณแม่ผมก็แพ้แบบคุณนี่แหละ ภาคเหนือเวลาหน้าหนาวก็มีแต่ลมหอบเกสรดอกไม้"
“......”
“เลิกสูบบุหรี่ได้แล้ว พอแพ้แล้วครั้งหนึ่ง จากนี้ไปคุณก็จะแพ้เรื่อยๆ"
“อืม...” จอมทัพครางอือกับแผ่นอกของอีกคน มิถุนาไม่รู้ว่านี่คือการออดอ้อนหรือเปล่า
"ยอมแพ้แล้ว"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา แม้ว่ามิถุนาจะไม่เข้าใจประโยคนั้นเด่นชัด แต่...แก้มของเขาก็แดงเรื่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่ผลักไสจอมทัพ แต่ก็ไม่รู้จะขยับตัวไปอยู่ตรงไหนให้มันน่าอายน้อยลงดี...
สุดท้ายก็ต้องยอมอยู่บนตักของอีกคนไปเงียบๆ มือบางค่อยๆเอื้อมแตะเรือนผมสีธรรมชาติของมาเฟียหนุ่มอย่างเบามือ จอมทัพหลับตานิ่งอยู่กับแผ่นอกของมิถุนา
“คุณ...แพ้ไฮเดรนเยียเหรอ?” มิถุนากลั้นใจถามขึ้นมาจนได้ "ไฮเดรนเยียมันสวยนะ น่าเสียดายออกถ้าจะแพ้มัน"
มาเฟียหนุ่มเหลือบตามองมิถุนานิดหน่อย ก่อนปิดเปลือกตาลง
“เปล่า...แพ้ดอกลิลลี่ต่างหาก"
มิถุนาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนเม้มปากแน่นเมื่อไม่เข้าใจคำตอบของอีกฝ่าย...
“แต่แพ้ก็ดี จะได้ไม่ต้องกลับไปหามันอีก"
มิถุนาไม่เข้าใจอย่างไร ก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น เขาปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้จอมทัพโอบกอดเขา ให้บรรยากาศโอบกอดเรา บางอย่างในใจเขากำลังก่อตัวขึ้น มิถุนากลัววันนั้นจะมาถึงเหลือเกิน...มิถุนาชักเริ่มเกลียดตัวเองที่เป็นพวกใจอ่อน ให้อภัยกับอะไรได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เจ็บใจมากนักกับตัวเอง บางทีอาจจะเป็นเพราะ...เขาไม่ชอบ
ดอกลิลลี่อยู่แล้วก็เป็นได้.
tbc.
ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเจ๊ถึงมาเร็วได้นะคะ 555555555 คือมันก็เป็นแค่ช่วงนี้แหละค่ะพี่น้อง
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานค่ะ แต่จากนี้ไป1เดือนงานจะเยอะมากกกกก ต้นเดือนหน้าลงให้ไม่ได้เลยนะคะ อาจจะได้อาทิตย์ละตอนหรือสองอาทิตย์ตอน
ตอนนี้อยากจิกรีดร้องงงงง คือแบบ เขินเองอ่ะ แต่งเองเขินเอง รู้สึกแบบ ก็อดแดม โอ้ยๆๆๆๆๆๆๆ

เราไม่คิดว่าเนื้อเรื่องเร็วไปเลยนะคะ เพราะจากนี้มันก็จะไม่ราบรื่น คำพูดคนน่ะ ยิ่งกว่าอากาศ พูดวันนี้ พรุ่งนี้แกล้งลืมก็มี
อิอิ (นี่เจ๊ขู่อะไรไปหรือเปล่า) ไม่หรอกค่ะ มันไม่มีอะไรหรอก อาจจะมีมาม่าชามโตนิดหนึ่งเพื่อความอิ่มท้อง แต่มันจะไม่มีอะไรกระแทกกระทั้นหัวใจสาววายมากไปกว่านี้ค่ะ สัญญา (อีฟไว้)
โอ้ย เดี๋ยวคนอ่านจะคิดมาก คืองี้ค่ะ จากนี้ไปสองคนนี้ก็ยังจะทะเลาะกัน ปากแข็งใส่กัน แต่จะรู้สึกดีต่อกันนั่นแหละ ประมาณนี้
(ไปลุ้นกันเอาเองตอนต่อๆๆๆไป)
มาถึงเนื้อเรื่องบ้าง ตอนนี้นะคะ ใช้ชื่อตอนว่าไฮเดรนเยีย เจ้าดอกไม่ชนิดนี้มีความหมายทั้งแง่บวกและลบ
ความหมายที่เรานำเสนอก็มีทั้งสองแง่ค่ะ เราคิดว่ามันแสดงถึงความรักของจอมทัพได้ดีเชียวแหละ
ใครอยากรู้ก็ลองเสิร์ชหาดู ความหมายจะหลากหลายมาก ตีความเอาเองนะคะ
ไม่บอกตรงๆหรอก มันไม่สนุก ผู้หญิงกับความลับเป็นของคู่กัน เผยไต๋ไป นิยายเรื่องนี้จะไม่มีอะไรเลยนอกจากเรท555
Secret makes women a women อ่ะค่ะ เคยได้ยินกันป่ะ55555

ค่อนข้างไปได้สวยแล้วนะคะ กับคู่หลัก ยังไงอีกสักพักจะเล่นคู่รองสักตอน ดูไม่ค่อยไปไหนไกลกันเล้ย เหอเหอ
เจอกันนะคะ ไม่บอกว่าวันไหนเดี๋ยวจะรอคอยกันกลายเป็นให้ความหวังอีก
ถ้าว่างและไม่ขี้เกียจ ก็เจอกันเร็วๆนี้ค่ะ แต่ถ้าไม่ว่างและขี้เกียจ ก็อาทิตย์หน้าเลยเนอะ