ตอนที่ 17 : ฝนและฟ้า (30%)
สุดท้ายมิถุนาก็ตกลงสัญญากับต้นสังกัดที่ห้าปี...
เขาตีมึนทำเป็นไม่รู้เรื่องที่จอมทัพขู่ว่าให้ต่อสัญญาให้หกเดือน แม้กระทั่งตอนเซ็นต์สัญญาสมองก็ยังเบลอไปหมด ทั้งๆที่บอกกับตัวเองไว้แล้วแท้ๆว่าจะไม่แคร์การกระทำของคนๆนั้นแล้ว แต่สุดท้ายกลับรับคนๆนั้นเข้ามาในชีวิต และให้มีอิทธิพลต่อตัวเองอย่างเต็มที่
จอมทัพไ่ม่พูดอะไร และต่อให้มาเฟียหนุ่มมาหงุดหงิดใส่เขา เขาก็จะไม่สน...ไม่สนใจอย่างแน่นอน ก็ลองดูกันไปเลยว่าตอนนี้ใครจะร้ายได้มากกว่ากัน มิถุนาเดินลงจากชั้นสาม สวนทางกับเมษาด้วยซ้ำ อยากจะหนีไปไกลๆ แต่ก็จำต้องฝืนยิ้มให้อีกฝ่ายที่ส่งยิ้มมาให้อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เด็กนี่ไม่ผิดอะไร คนของเขา ต่างหาก ที่ผิดเต็มประตู ให้ตายเถอะ มิถุนาเกลียดที่ตัวเองเพ้อเจ้อจนน่ารำคาญ แต่เขาเก็บความรู้สึกไม่เก่ง...ไม่สิ จริงๆเคยเก่งมาก่อน แต่...ตอนนี้ไม่เลยสักนิด มันแย่ไปหมด
“รีบเดินไปไหน?” มิถุนาสะบัดมือแทบจะทันทีที่จอมทัพเอื้อมมือสอดมือเข้ามากอบกุม แต่มาเฟียหนุ่มไม่ละความพยายาม เขาดึงมือเล็กๆไปกุมจนได้ มิถุนาถอนหายใจเบาๆแล้วก็จึงยอมผ่อนฝีเท้า เดินตามแผ่นหลังกว้างไปยังขบวนรถที่จอดรออยู่ด้านหน้า
“ร้อน" ร่างเล็กตอบปัด ก่อนขยับตัวขึ้นนั่งบนเบาะหลังทันทีที่วิคเตอร์เปิดประตูรถ จอมทัพขยับตามขึ้นมา เครื่องปรับอากาศไม่มีประโยชน์เลยสักนิด มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกใจเย็นลงแต่อย่างใด
“หิวข้าวหรือยัง?” จอมทัพเอ่ยถาม เขาเอนกายนั่ง ปลดสูทออกด้วยท่าทางสบายๆ
“ไม่ครับ"
“งั้นไปไหนต่อ?” มาเฟียหนุ่มถามต่อ
“กลับคอนโด" วิคเตอร์ทำท่าจะเลี้ยวกลับรถแล้วเมื่อได้ยินคำตอบ แต่นายท่านของเขากลับขัดเสียก่อน
“ไม่ วิคเตอร์...เราจะไปเซฟเฮ้าส์กัน"
“เดี๋ยว ไหนเราตกลงกันแล้ว!” มิถุนาแย้งขึ้น ดวงตากลมโตฉายแววเอาเรื่อง
“ฉันมีงานต้องทำ นายไปรอฉันสักสองสามชั่วโมง" มิถุนาทำท่าจะปฏิเสธแล้วเชียว เพราะมันไม่ใช่คำถาม แต่มันคือการบังคับ แต่สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อเสียงทุ้มเอ่ยปลายประโยคออกมา "ได้ไหม?”
จอมทัพเอื้อมมือกุมมือเขาเอาไว้อีกครั้ง ครั้งนี้ลูบมันเบาๆราวกับจะปลอบประโลม พร้อมกับยกมันขึ้นแนบแก้ม มิถุนาแทบจะโอนอ่อนยอมอยู่แล้ว และ...และสุดท้าย......ก็ยอม
“ก็ได้ครับ แต่ผมจะไม่กลับไปอยู่เซฟเฮ้าส์"
“ก็แล้วแต่นาย"
มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้ม เขาไม่ยอมปล่อยมือแม้มิถุนาจะมีท่าทีฮึดฮัดก็ตามที รถเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้าเมื่อถึงบริเวณกลางเมือง มิถุนายอมโอนอ่อนจนกระทั่งตกอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียอย่างไม่รู้สึกตัว เขาเอนกายซุกซบไหล่กว้าง เหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่างด้วยรู้สึกง่วงงุน จอมทัพยกมือขึ้นลูบหัวกลมเบาๆ
“คิดอะไรอยู่?” เขาเอ่ยถามเบาๆ
“เปล่า"
“ถ้าโกหกอีก จะโดนลงโทษ"
มิถุนาถอนหายใจเบาๆ ส่ายหัว "เปล่าครับ ถึงคิดก็จะไม่บอก คุณรู้บางเรื่องเยอะไปแล้ว...บางเรื่องให้ผมเก็บไว้ ผมจะรู้สึกดีมากกว่านี้"
จอมทัพยกยิ้มมุมปากบางๆ "คนรักกันเขาไม่ปิดบังอะไรกันหรอกนะ"
“อะไรนะครับ" มิถุนาถึงกับคิ้วกระตุก และวิคเตอร์ก็เหยียบเบรคดังกึกจนเจ้านายมองอย่างเอาเรื่อง
“เปล่า ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษนี่"
มิถุนาได้แต่อมยิ้มบางๆ ถ้านี่คือยาแก้ปวด เขาก็คิดว่าจะใช้มันบรรเทาอาการต่อไปเรื่อยๆ
เรื่องในหัวยังเคลียร์ไม่ตก แต่ตอนนี้เขาก็กลับเข้าสู่เซฟเฮ้าส์ของจอมทัพในฐานะคนรักเสียแล้ว มิถุนายอมรับว่าว้าวุ่นใจ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่สนใจเพื่อที่จะมีสิทธิ์ในการต่อรองต่อไป...
เขาไม่เคยมาที่ออฟฟิศของจอมทัพ ลิฟท์สำหรับตึกสำนักงานและชั้นพักอาศัยสร้างแยกกันตรงชั้นหนึ่ง และเชื่อมต่อกันบนห้องทำงานของจอมทัพ ดังนั้นมาเฟียหนุ่มจึงสามารถกลับชั้นพักอาศัยได้ทั้งจากห้องทำงานและชั้นล่างสุด ซึ่งระบบความปลอดภัยสำหรับลิฟท์ทั้งหมดนั้นถูกดูแลอย่างเข้มงวด
อาจจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่มิถุนาเดินผ่านล็อบบี้ของสำนักงานในวันนี้ แต่ไหนแต่ไรเขาหลีกเลี่ยงที่จะขึ้นจากทางด้านหลัง การมีหลายสายตาจับจ้องมาทำให้ประหม่าไปเหมือนกัน แต่สุดท้ายเขาก็ถูกพาขึ้นไปจนได้
ห้องทำงานของจอมทัพมีขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีโต๊ะทำงานของเจย์ จอมทัพไม่มีเลขาคนอื่น เจย์เป็นทั้งมือขวาและเลขาผู้ฉลาดเป็นกรด ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว จริงๆแล้วจอมทัพไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในห้องทำงานทั้งวัน เขามีตารางงานอย่างเป็นระบบ พบปะคู่ค้า ตรวจเช็คโกดัง ซึ่งตารางงานทั้งหมดถูกจัดการโดยเจย์ โดยภายหลังมือขวาคนเก่งก็ต้องรับหน้าที่จัดการตารางงานของมิถุนาด้วยอีกคนหนึ่ง
เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน มาเฟียหนุ่มถอดสูทแขวนไว้กับพนักเก้าอี้ เขาคลายเนคไทด์ออกเล็กน้อย มิถุนายืนเก้ๆกังๆอยู่ในห้องสักพัก ก็ถูกจอมทัพเรียกให้เดินเข้ามาหาที่โต๊ะทำงาน นายใหญ่ส่งสายตาบอกให้เจย์และวิคเตอร์ออกไปด้านนอก ซึ่งมือขวาและมือซ้ายก็ไม่อิดออดที่จะทำตาม
“อะไรครับ?” มิถุนาเลิกคิ้ว เขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามที่จอมทัพนั่งอยู่
“มานี่"
“มีอะไรก็พูดตรงนี้เลย" มิถุนาดื้อแพ่ง เขาไม่แน่ใจนักว่าจริงๆแล้วถ้าในเวลาปกติ เขาจะยอมทำตามที่จอมทัพบอกหรือไม่ แต่ในเวลา เขาไม่ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแน่ๆ
“ก็ได้" สุดท้ายมาเฟียหนุ่มก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นแทน เขาเดินอ้อมโต๊ะมาที่ฝั่งตรงข้าม และไม่ทันที่มิถุนาจะได้ตั้งตัว จอมทัพก็ดึงร่างเล็กนั่นให้นั่งลงบนตักของตนเองทันที
“เดี๋ยว!” มิถุนาร้อง จะลุกก็ทำไม่ได้
“สักพักเดียวได้ไหม?” มาเฟียหนุ่มทอดเสียงออดอ้อน เขาซบใบหน้าลงกับไหล่ลาก กุมมือเล็กๆเอาไว้ "เวลานายทำหน้าไม่สบายใจแบบนี้...”
“ผมเปล่า"
“ฉันว่ามันไม่เวิร์คเท่าไหร่"
“......”
“ช่วยเลือกหน่อยสิ ฉันว่าจะบิวท์อินครัวบนเซฟเฮ้าส์" จอมทัพว่า เขาดึงไอแพดมาไว้ในมือ ก่อนสไลด์ปลดล็อคหน้าจอ เลือกแอพลิเคชันที่มิถุนาไม่คุ้นตา สักพักฉากจำลองสามมิติมากมายก็ปรากฏขึ้นมา
“เสียดายเงิน คุณไม่ทำอาหารสักหน่อย" มิถุนาบ่นอุบ เขาว่า แต่ก็ถูกห้ามลงด้วยการที่จอมทัพดึงมือเล็กๆไปสไลด์บนหน้าจอเล็กนั่น
“แต่นายชอบทำ"
“......” มิถุนานิ่ง
“ฉันคิดไว้สักพักแล้ว...คิดตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้านนาย แล้วก็อยากทำให้จริงๆ"
มิถุนาเม้มปากแน่น เขาถอนหายใจเบาๆ เลื่อนมือจะปิดหน้าจอ แต่จอมทัพกลับรั้งเอาไว้ "...คุณไม่จำเป็นต้องทำดีกับผมมากก็ได้นะครับ"
“ทำไมล่ะ?”
“ผมกลัว...”
“ฉันจะทำ จนกว่านายจะใจอ่อน" จอมทัพว่าเรียบๆ "ฉันร้ายกับนายมามากพอแล้ว มิถุนา...”
“......”
“นายลองร้ายกับฉันดูบ้างสิ"
“แล้วคุณ...จะทำยังไง?”
“ก็...ยอม"
มิถุนากำมือจอมทัพแน่น หัวใจดวงน้อยค่อยๆเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆเลื่อนภาพบนหน้าจออีกครั้ง มีรูปแบบครัวบิวท์อินเกือบสิบดีไซน์ จอมทัพคงจ้างอินทีเรียออกแบบด้วยเงินจำนวนมากโข ยังไม่นับกับงบการก่อสร้าง ซึ่งมีท่าทีว่าจะบานปลายอย่างแน่นอน...
“ผมอยากได้ครัวที่ติดกับระเบียง ถ้าเราได้ออกไปกินข้าวด้านนอกบ้าง น่าจะเป็นเรื่องที่ดี"
“อ่าฮะ"
“แล้วก็อยากได้ครัวที่ทอดได้โดยที่มันจะไม่ทำให้ห้องเหม็นกลิ่นควัน"
“อืม"
“แบบนี้...” มิถุนาจิ้มลงที่ภาพที่หก "ผมชอบแบบนี้"
“ฉันจะจัดการให้" จอมทัพรับปาก ไม่ได้หนักแน่นมาก แต่มิถุนารู้ดี อะไรที่มาเฟียหนุ่มลั่นวาจาไว้แล้ว มันจะเป็นไปตามนั้น "ไม่ต้องรีบคิดเรื่องที่จะกลับมาที่นี่"
“......”
“ถ้าจะไม่กลับ...คอนโดนายก็มีเตียงคู่ แล้วก็ครัวอยู่แล้วนี่"
มิถุนานิ่งไปสักพัก ก่อนพยักหน้าและยิ้มออกมาบางๆ เขาดันหน้าจอไอแพดวางลงบนโต๊ะทำงานของจอมทัพ นิ่งคิดอยู่เกือบนาที ซึ่งจอมทัพก็ให้เวลากับเขา ไม่เอ่ยปากขัดอะไรออกมาสักคำ...
มิถุนาถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาเลื่อนมือกุมมือจอมทัพ เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มสัมผัสจอมทัพก่อน และเป็นครั้งแรก ที่มิถุนารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะทำในสิ่งที่ตนเองควรทำ และเป็นสิ่งที่ตรงกับใจตัวเองมากที่สุดในเวลานี้...
“ผมไม่ได้...เกิดเดือนเมษานะ"
เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา แต่นั้นก็ทำให้จอมทัพชะงักไปชั่วครู่...
“ผมเกิดเดือนมิถุนา ชื่อมิถุนา...”
“เดือนเมษามันร้อนมาก แต่พอวันสงกรานต์ทีไร ทุกคนก็มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มีแต่ความสุข"
“ส่วนเดือนมิถุนาไม่มีอะไรเลย...จะมีก็แต่ฝนตก เฉอะแฉะ เปียกปอน...น่ารำคาญ"
“แต่...ผมก็ชอบฝนที่สุด"
จอมทัพพยักหน้ารับเบาๆ เขาจุมพิตที่ท้ายทอย ความรู้สึกบางอย่างแล่นปราดเข้าทั่วร่าง มิถุนาหลับตาลงช้าๆ...
“หน้าร้อนไม่ได้เรื่องหรอก"
“ตอนนี้ฉันก็ชอบหน้าฝนที่สุดเหมือนกัน"
tbc.
มาต่อสั้นๆก่อนนะคะ ขอโทษจริงๆ เดี๋ยวมาต่อยาวให้วันหลัง
ตาเรายังไม่หายดีเลย วันนี้คิดว่าดีแล้ว เลยใส่คอนแทกเลนส์ มันเลยกลับมาเจ็บๆตึงๆอีกละ สงสัยต้องพัก
จะกลับมาต่อให้ยาวๆในอาทิตย์นี้นะคะ ขอโทษและขอบคุณที่รอกันจ้า