มิถุนานั่งๆนอนๆอยู่ในห้องทำงานของจอมทัพทั้งวัน หลังมื้อกลางวันที่ทานอะไรไม่ได้มากนัก เขาก็กลับขึ้นมาหลับอยู่บนห้องทำงานของมาเฟียหนุ่มอยู่เป็นชั่วโมง จนกระทั่งสี่โมงเย็น จอมทัพจึงปลุกให้ไปล้างหน้าล้างตา เพื่อไปร้านซาลอน เตรียมตัวไปงานเย็นนี้ ก่อนหน้านี้มิถุนาไม่มีอีเว้นท์อะไรมากนัก ไม่ชอบด้วยก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือเขาทำงานอย่างเดียวเวลาก็แทบหมดแล้ว แต่พักหลังๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีชื่อเสียงมากขึ้น พี่เพลงจึงต้องฝืนใจ เพราะการออกอีเว้นท์เป็นสิ่งสำคัญในการได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนหลัก ดังนั้นพักหลังๆ มิถุนาจึงมีงานอีเว้นท์ให้ไปปรากฏตัวบ่อยครั้ง
ร้านที่พี่นัชชานัดไว้ให้ไม่ไกลจากเซฟเฮ้าส์มากนัก ดังนั้นมิถุนาจึงมีเวลาเตรียมตัวหลายชั่วโมงก่อนเริ่มงาน จอมทัพ วิคเตอร์ และเจย์ ยกโขยงตามมาพร้อมด้วยบอร์ดี้การ์ดทำเอาเจ้าของและพนักงานร้านตกใจลนลาน ส่วนพี่นัชชาคงชินแล้ว มีแต่มิถุนานี่แหละ ที่พักหลังๆเห็นเป็นเรื่องตลกจนขำคิกคักอยู่คนเดียว
เพราะมิถุนาไม่ค่อยแต่งตัวเยอะมากนัก การออกอีเว้นท์ที่ต้องแต่งหน้าจัดเต็มหรือสวมเสื้อผ้ามีรสนิยมจึงปัดภาระให้มืออาชีพทั้งหมด พี่นัชชาเอาชุดมาให้ใส่ เป็นเดรสตัวยาวเปิดหลังสีขาว ช่างแต่งหน้าแต่งหน้าให้ด้วยสีโทนอ่อนแต่บล็อคตาเข้ม ทาปากสีนู้ดชมพู ผมยาวปะบ่าถูกรวบเป็นมวยสูง มิถุนาสวยมาก...มากจริงๆ เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยปากชมเหมือนที่วิคเตอร์กับเจย์ทำ แต่จอมทัพก็ยอมรับจริงๆว่าเขาตกหลุมรักมิถุนาครั้งแล้วครั้งเล่า...
“งานนี้น้องเราได้เดินด้วยนะ" พี่นัชชาบอกยิ้มๆ ระหว่างดูความเรียบร้อยให้มิถุนาเป็นครั้งสุดท้าย หล่อนจับจีบชายกระโปรงให้อย่างเบามือ
“ใครครับ เมษาเหรอ?” มิถุนาเลิกคิ้ว
“ใช่จ้า"
“โห จริงเหรอครับ งั้นผมหาดอกไม้ให้น้องเขาหน่อยดีกว่า" มิถุนาว่า ก่อนหันไปมองหน้าจอมทัพเป็นเชิงออดอ้อน มาเฟียหนุ่มเห็นดังนั้นก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากจะบอกให้วิคเตอร์ไปบอกตามที่มิถุนาร้องขอเอาไว้
สถานที่จัดงานเป็นห้างที่อยู่ถัดไปเพียงหนึ่งหัวมุมถนนเท่านั้น มิถุนาจึงมาถึงงานในเวลาหลังเริ่มงานเพียงนิดเดียว และการควงคู่มากับจอมทัพนั้น ก็เรียกให้ทุกสำนักข่าวกรูเข้าหานายแบบหนุ่มกับคุณมาเฟียจนแทบไม่ทันตั้งตัว พวกเขาไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแม้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการมานานแล้วก็ตาม การจู่โจมของนักข่าวทำเอามิถุนาได้แต่ยิ้มอย่างเดียว ตอบคำถามไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่เพราะไม่ค่อยจะถนัดนัก แต่สุดท้ายจอมทัพก็ช่วยเขาผ่านคำถามเหล่านั้นไปได้ในที่สุด
พวกเขาควงคู่กันเข้าไปในงาน มิถุนารับค็อกเทลให้กับตนเองและมาเฟียหนุ่มคนละแก้ว วิคเตอร์ยืนอยู่ข้างๆเจย์ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พวกเขานั่ง สักพักเดียวงานก็เริ่มขึ้น มิถุนานั่งดูเหล่านายแบบนางแบบที่รู้จักกันเดินโฉบกันอยู่บนรันเวย์ มีเมนี่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เจ้าหล่อนเดินผ่านมิถุนากับจอมทัพที่นั่งอยู่ด้วยกันแถมยังกุมมือกันเสียแน่น เหมือนหล่อนจะเห็น เลยทำหน้าไม่พอใจเหวี่ยงใสเต็มๆแล้วก็เดินสะดุดเซไปเล็กน้อย สงสัยจะได้เป็นข่าวลมเพ็ชรหึงขึ้นหน้าหนึ่งพรุ่งนี้แหง มิถุนาไม่รู้จะหัวเราะหรือโมโหดี แต่ก็เลือกที่จะมองหน้าคุณมาเฟียตัวปัญหาไปอย่างคาดโทษ ซึ่งคุณมาเฟียก็เอาแต่ลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้เรื่อง
หลังจากนั้นก็เป็นคิวของปราง มิถุนารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนรับงานของแบรนด์นี้ ส่วนที่มิถุนาไม่ได้รับเพราะช่วงที่เขาแคสติ้งกัน เป็นช่วงที่อยู่เชียงรายพอดี แม้ทางแบรนด์จะบอกว่าให้แคสติ้งทีหลังได้ แต่มิถุนาก็ปฏิเสธไป จริงๆแล้วจอมทัพนั่นแหละ ที่ไม่ให้เขารับงานอะไรเลยช่วงนั้น แต่ก็ช่างเถอะ...เขาไม่อยากจะเอาเรื่องเก่าเก็บมานั่งคิดไร้สาระอีกแล้ว
เฌอปรางขยิบตาให้เขาพร้อมโบกมือให้อย่างน่ารักที่สุดตอนเดินผ่านไป เธอมีเสน่ห์เสมอเมื่ออยู่บนรันเวย์ ก้าวเข้าสู่ปีที่สามของการทำงาน เฌอปรางเป็นทั้งไอดอลและแบบอย่างที่ดีให้กับนางแบบหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการ และหน้าที่การงานก็ก้าวหน้าไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดทางมิลานเรียกตัวไปแคสติ้งแล้ว โอกาสอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเธออยู่ไม่ไกลอีกต่อไป
อีกเพียงไม่กี่ลำดับ ก็เป็นคิวของน้องใหม่อย่างเมษา มิถุนาลืมตัวเสียจนแทบนั่งติดขอบเวที เขาเข้าใจว่างานแรกๆนั้นมันตื่นเต้นจนกังวลไปหมด แต่วูบแรกที่เห็นเด็กคนนั้นเดินออกมา มิถุนาก็แทบลืมความกังวลใจไปเลย เพราะเมษาทำได้ดีมาก ดวงหน้าสวยถูกแต่งแต้มด้วยสีสันฉูดฉาด ตัดกับชุดสีเอิร์ธโทนที่สวมใส่ การเดินบนส้นสูงสี่นิ้วที่มิถุนาขยาดมาตลอดสมัยเริ่มเดินแบบและทำความเคยชินกับมันอยู่นานกลับเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กคนนี้...
“เป็นอะไร ทำไมดูสนใจนักหนา?” จอมทัพกระซิบถาม เมื่อมิถุนาเอนตัวพิงพนักเหมือนเดิม นายแบบหนุ่มค้อนขวับทันทีที่ได้ยินคำถาม
“ก็ตื่นเต้นนี่น่า ได้เห็นน้องเดินครั้งแรก"
“นายเดินดีกว่าตั้งเยอะ"
“คุณนี่...” มิถุนาบ่นอุบ
“สวยกว่าด้วย"
“คุณจอมทัพ" นายแบบหนุ่มครางเสียงอ่อน ก่อนฟาดเบาๆที่ไหล่กว้างหนึ่งดี เขาถอนหายใจก่อนกลับไปสนใจแฟชั่นโชว์อีกครั้งหนึ่ง
งานเลิกเกือบๆสี่ทุ่ม มิถุนาจึงได้มีโอกาสเข้าไปหาเพื่อนรักที่กำลังยืนให้นักข่าวสัมภาษณ์และถ่ายภาพอยู่ เขารอจนนักข่าวสลายตัวไปจึงเข้าไปหานางแบบสาวคนเก่งที่กำลังจะก้าวออกไปจากบริเวณนั้นแทบจะทันที
“ปราง!”
“มิ!!! ดีใจจังเลยที่มา" เฌอปรางกระโดดกอดเพื่อนรักทันที
“จะไม่มาได้ไงล่ะ พี่เพลงกำชับเสียขนาดนั้น"
“เอาน่า...นี่ฉันเดินดีไหมอ่ะมิ ก่อนขึ้นรันเวย์นะ เกือบตบกะยัยเมนี่ อารมณ์เสียชะมัด ไม่รู้ไปก่อกรรมทำเข็ญอะไรกันไว้ ไม่สิ...แฟนเธอนั่นแหละมิ อ้าวววว...” ปากก็ด่าไป ตาก็เหลือบไปเห็นคุณมาเฟียยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังเพื่อนรัก มิถุนาได้แต่หัวเราะออกมา
“นั่นสิ สร้างวีรกรรมไว้เยอะเหลือเกิน" มิถุนาประชดอย่างน่ารัก
“ไม่มีแล้ว" มาเฟียหนุ่มก็ปฏิเสธเสียแข็ง "จะไปมีได้ยังไงกัน ที่มีอยู่นี่ก็ไปไหนไม่รอดแล้ว" เขาว่านิ่งๆ
“อู้วววว เหรอจ๊ะ...แล้วนี่มาทำอะไร ไม่ได้มาดูฉันเดินแน่ๆใช่ไหมแจ็คกี้ มาคุมเมียล่ะเซ่"
“ปราง!” มิถุนาเอ็ด
“ใช่"
“นี่พอแล้ว ทั้งคู่นั่นแหละ"
“ที่ท็อปกับตะวันก็มานะ เสร็จแล้วไปหาอะไรกินกัน ไปนะแจ็คกี้" เฌอปรางเอ่ยปากชวนทันที
“ก็ได้" เขาตอบรับ พอหันไปมามิถุนา รายนั้นก็ถูกสะกิดเรียกตัวเดินออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...
จอมทัพมองหาคนตัวเล็กของเขา ก่อนที่วิคเตอร์จะบุ้ยใบ้ไปทางซ้ายมือ แล้วพบว่ามิถุนากำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายร่างสูงใหญ่ผู้มีดวงตาสีฟ้าคนหนึ่ง เฌอปรางทำหน้าล้อเลียนคุณมาเฟียแทบจะทันที
“วู้ว ถ่านไฟเก่าหรือเปล่านะ?” ว่าแล้วก็สะกิดไหล่คุณมาเฟียเบาๆ
“พูดเรื่องอะไร"
“ไม่รู้จักหรือไง ออแลนโด้ เรคส์ นายแบบที่มีข่าวกะมิปีที่แล้วไง"
“ไม่รู้จัก" จอมทัพตอบอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
เฌอปรางจิ๊ปากทันที "โอ้ย นี่ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยเหรอ เอาเถอะ ถ้าจะมั่นหน้าว่ามิจะรักจะชอบตัวเองมากที่สุดในโลกก็ทำต่อไป แต่จะบอกอะไรดีๆให้นะ"
“อะไร?” จอมทัพเริ่มขมวดคิ้ว
“มิกับออแลนโด้เคยคุยกัน เกือบจะเป็นแฟนกันอยู่แล้ว หมอนั่นน่ะ ทั้งจิตใจดี นิสัยดี อบอุ่น น่ารัก แล้วก็ชอบมิ ม๊ากกกก มากกกก" จงใจลากเสียงยาวให้อีกฝ่ายรำคาญใจ "นี่ถ้าต่างคนต่างไม่มีงานเยอะ ป่านนี้เป็นแฟนกันไปแล้ว"
“โกหก"
“ฉันจะโกหกทำไมคะแจ็คกี้ถามหน่อย ฉันจะทั้งเชียร์ทั้งดันออแลนโด้ พูดแล้วก็เสียดายไม่หาย"
“ไร้สาระ" จอมทัพว่าอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในใจก็เริ่มร้อนรนขึ้นมาแล้ว
“นี่ ฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ จะได้ไปหาอะไรกินกัน วิคเตอร์กับเจย์ก็ต้องมาด้วยกันนะ ห้ามเบี้ยวล่ะ เข้าใจไหม?” แล้วเฌอปรางก็เดินหายลับไปกับฝูงชน จอมทัพมองดูมิถุนายืนยิ้มแย้มคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่นานสองนานแล้วก็เริ่มหงุดหงิดใจ กำลังจะเดินไปดึงตัวมิถุนากลับมาแล้ว แต่นายแบบหนุ่มร่างสูงคนนั้นกลับถูกเรียกตัวไปเสียก่อน มิถุนาจึงเดินกลับเข้ามา
“มีอะไรกันเหรอครับ?” มิถุนาเอ่ยถาม เมื่อเห็นทั้งเจ้านายและลูกน้องยืนไม่ติดกับที่กันทั้งหมด
“เปล่า" จอมทัพตอบปัด "จะไปหรือยัง?”
“เดี๋ยวผมไปหาเมษาก่อนครับ ว่าจะไปแสดงความยินดี...เอ่อ...ดอกไม้" นายแบบคนสวยเอ่ยปากขอช่อดอกไม้จากวิคเตอร์ที่ยืนอยู่ มือซ้ายก็รีบยื่นให้ทันทีไม่อิดออด
“ไปด้วยกันไหมครับ" ไม่วายที่จะหันกลับมาหามาเฟียหนุ่มที่ยืนทำหน้าโหดอยู่ มิถุนาส่ายหัวเบาๆก่อนเอื้อมมือกุมมือหนาเอาไว้ "เป็นอะไร ทำหน้าดุจัง ไม่ชอบคนเยอะเหรอครับ งั้นเดี๋ยวเราค่อยออกไปรอปรางด้านนอกนะ" ริมฝีปากบางว่า ก่อนเดินพาจอมทัพลัดเลาะไปหาเป้าหมาย รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าเมื่อเห็นว่าเมษายืนอยู่ท่ามกลางพี่ๆนักข่าว
มิถุนารอจนเมษาให้สัมภาษณ์เสร็จเขาจึงเดินเข้าไปหา เมษาดูตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าเป็นเขา มิถุนายื่นช่อดอกไม้ให้พร้อมเอ่ยชมเชยผลงานในวันนี้ รุ่นน้องมือใหม่เลยได้แต่ยิ้มเขิน
“ขอบคุณมากนะครับพี่มิ ผมตื่นเต้นมากเลย ไม่รู้พลาดอะไรไปบ้าง"
“เมทำดีมากแล้ว ดีกว่าเวทีแรกๆของพี่อีก"
“แต่ผมไปดูงานแรกๆของพี่มิมา พี่มิเหมือนมืออาชีพเลย"
“โห นั่นก็เว่อร์ไปน่าเม...” มิถุนาหัวเราะเบาๆ "งานต่อไปก็พยายามเข้านะ พี่เป็นกำลังใจให้นะ"
“ขอบคุณนะครับ" เมษายิ้มขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นคนที่กุมมืออยู่ข้างๆมิถุนา เขาจึงยิ้มเจื่อนๆไปให้มาเฟียหนุ่มที่ปั้นหน้ายากอยู่
“นี่เมจะไปไหนต่อหรือเปล่า ไปทานข้าวกับพวกพี่ไหม มีปรางกับตะวันด้วย" มิถุนาเอ่ยปากชวน เมษาทำหน้าลังเลอยู่สักพัก
“เอ่อ...ผมว่าคงไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ พรุ่งนี้มีงานเช้า แล้วก็นี่ยังไม่ได้เก็บของเลย แถมเครื่องสำอางคงต้องใช้เวลาลบอีกนานเลย" เด็กหนุ่มชี้ใบหน้าตัวเองแล้วยิ้มแหย
“โห เสียดาย...ไว้คราวหน้านะ"
“ได้เลยครับพี่มิ" เมษายิ้มให้อีกครั้ง ก่อนที่มิถุนาจะเอ่ยขอตัว เขาหันมาหาจอมทัพก่อนที่จะเดินกันออกไป จอมทัพคอยระวังชายกระโปรงให้คนตัวเล็กตลอดทาง ฝ่ามือหนาคอยกันไม่ให้คนอื่นมาเบียดมิถุนาล้มลงไป เพราะส้นสูงที่สวมอยู่นั้นก็สูงเอาการทีเดียว
เมษามองความใส่ใจเล็กๆน้อยๆนั้นจนลับสายตา เขาทอดถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนก้มลงมองช่อดอกไม้ในมือ ดวงตากลมโตฉายแวว ก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปที่หลังเวที
คอนโดเล็กๆใกล้กับออฟฟิศเอเจนซี่ตั้งตะหง่านอยู่ริมถนน เมื่อรถยนตร์อีโคคาร์จอดลง เมษาก็เอ่ยขอบคุณผู้จัดการส่วนตัวที่วันนี้มาส่งให้ด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เขาหอบสัมภาระลงจากรถ ฟังตารางานพรุ่งนี้จากผู้จัดการอีกนิดหน่อยพร้อมนัดแนะเวลาพรุ่งนี้เช้าอีกครั้ง เขาเอ่ยขอบคุณอีกครั้งและรอจนรถยนต์คันเล็กลับสายตาไป ขาเรียวจึงก้าวเข้าไปในตัวคอนโด
เมษาแตะบัตร เช็คกล่องจดหมาย มีจดหมายส่งมาหาเขาสองสามฉบับ ส่วนใหญ่เป็นบิลต่างๆ เขาพาตัวเองเข้าไปในลิฟท์ กดชั้นพักอาศัย ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักทำให้แทบหมดพลังงาน แถมกำลังใจที่มีก็ถดถอยลงไปเรื่อยๆ ลิฟท์แก้วกระจกใสเผยให้เห็นบรรยากาศด้านนอก เมษามองท้องฟ้ามืดมิดแล้วทอดถอนใจเบาๆ...
ในหัวคิดถึงภาพของมิถุนากับจอมทัพ บอกตามตรง หากเขาบอกว่าแทบไม่รู้สึกอะไรก็เหมือนจะโกหก เพราะจริงๆแล้วเขาทั้งอิจฉาและชื่นชมมิถุนาจากใจ รอยยิ้มแสนสดใสที่ทำให้ใครต่อใครหลงรัก ไม่แปลกเลยสักนิดที่คนอย่างจอมทัพจะยอมสบยอยู่ภายใต้มือเล็กๆของมิถุนา
ดวงตากลมโตเหม่อลอยจนแทบไร้แวว เมื่อลิฟท์มาถึงชั้นที่ต้องการ เสียงเตือนทำให้รู้สึกตัว ขายาวก้าวออกไป เมษาดึงคีย์การ์ดออกจากกระเป๋ากางเกง ปลายเท้าหยุดที่ประตูหน้าห้อง เขาแตะคีย์การ์ด เปิดประตูห้องออก เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไร เขาโยนสัมภาระไว้ที่พื้น หยิบรีโมตเปิดทีวีไม่ให้ห้องเงียบเหงาเกินไป ก่อนพาตัวเองไปหน้าตู้เย็นแล้วรินน้ำดื่ม
หน้าจอโทรทัศน์ปรากฏภาพรายการข่าวเม้าท์รอบดึกทุนต่ำ เสียงพิธีกรสาวทั้งสองแว่วมาเข้าหู ตอนแรกเมษาไม่ได้จะใส่ใจอะไรนัก แต่เนื้อข่าวก็ทำให้ต้องหันขวับไปมอง
ภาพหน้าจอปรากฏรูปของมิถุนาและจอมทัพยืนคู่กัน...
'จู่ๆก็ออกงานพร้อมกัน เล่นเอานักข่าวไม่ทันตั้งตัวเลยนะคะเนี่ย แหม...คู่นี้สื่อให้ความสนใจน้อยเสียเมื่อไหร่ แถมคุณจอมทัพเนี่ย ก็ดูแคร์น้องมิถุนามากเลยนะคะ'
'ใช่ค่ะ ปกติน้องมิเขาก็ไม่ค่อยชอบตอบคำถามสัมภาษณ์อยู่แล้ว ไม่ใช่สิ...ตอบไม่เก่งมากกว่า แต่เราก็เข้าใจนะ คือบางคนเขาก็ตื่นไมค์นะคะ น้องมิก็ไม่ได้เป็นดารา ทำงานแต่บนรันเวย์อะไรแบบนี้...แต่ที่สำคัญคือคุณจอมทัพดีกว่าค่ะ สมัยที่คบกับคนเก่าๆก็ไม่เห็นจะออกตัวอะไรเลยนะคะ แต่งานนี้ออกตัวแรงจริงๆค่ะ'
'อารมณ์ว่าขายเซฟเฮ้าส์จีบน้องมิเลยใช่ไหมคุณน้อง'
'ว้าย ตายแล้วคุณพี่ ไม่ใช่ค่ะ...แหม แต่ก็น่าสนอยู่นะคะ ฮ่าๆๆๆ เอาล่ะ ไปดูภาพกันดีกว่าค่ะ'
'ครับ ก็...คบกันอยู่น่ะครับ คบครับ คบกัน ไม่ใช่แค่ดูใจ'
'ตอนนี้น่ะเหรอครับ อยู่ที่คอนโดมิครับ มิทำงานสะดวกกว่า...ไม่ครับ ไม่กลัว ก็มีบอร์ดี้การ์ดเฝ้าอยู่รอบๆตลอดเวลาอยู่แล้ว'
'คนนี้เหรอ...จริงจังที่สุดเลยครับ'
'ก็ชอบเขาที่เขาเป็นแบบนี้ ไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน เขาน่ารักครับ คอยดูแล แล้วก็ทำอาหารเก่ง'
'ก็พอได้เจอก็ไปไม่เป็นเลยครับ ไปไหนไม่รอด...' เมษากดปิดทีวีทั้งๆที่ยังไม่ตัดจบ เขาโยนรีโมตทิ้งก่อนปิดไฟ แล้วหอบสัมภาระเข้าไปในห้องนอน ภายในห้องนอนมืดมิด...แต่กลิ่นนิโคตินที่ลอยอบอวลอยู่ในนั้นตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นกระตุก เปลวไฟสีแดงส่องสว่างอยู่ท่ามกลางความมืด เมษาเอื้อมมือสะเปะสะปะคว้าหาสวิชต์ไฟ เขากดเปิด ทันทีที่ไฟสว่างวาบ สองขาก็สั่งให้ถอยหลังแทบจะทันที
ใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมรอยยิ้มที่เมษาเกลียดแสนเกลียด...
หัวใจร้องไห้...ทั้งกลัว ทั้งหวาด ไร้ทางออก และ ไร้ทางหนี
“กลับดึกจังนะ...รู้ไหมว่าให้ฉันรอน่ะ มันไม่เป็นผลดีเท่าไหร่หรอกนะ เมษา...”tbc.
มาแล้ว มาต่อแล้ววววววว ขอโทษนะคะ หายไปเป็นเดือนเลย โอ้ย งานยุ่งมากค่ะ แทบไม่มีเวลาหายใจหายคอ
ตอนที่สิบเก้าแล้วนะคะ เป็นฤกษ์ดีที่จะบอกว่า จากแต่เดิมว่าจะจบ30ตอน ตอนนี้อาจจะแค่25ค่ะ ดูทรงแล้ว น่าจะไม่ยืดเยื้อไปกว่านั้น
แต่เรายังติดค้างวิคเตอร์-เจย์ สตอรี่ กันไว้อยู่เนาะ ยังไงก็ได้เจอกันอีกยาวแน่ อิอิ
โอ้ยใจหาย พอมันใกล้ๆจะจบก็ใจหาย (เว่อร์ ไม่ใกล้ขนาดนั้น)
เจอกันตอนต่อไปนะคะ จะรีบปั่นมาส่ง แวะมาทักทายและสวัสดีปีใหม่ค่ะ
หนูมิส่งจูบให้ทุกคน

ปล. ไม่รู้จะขอมากเกินไปไหม แต่อยากเห็น fan art ของเรื่องนี้จัง คือจริงๆภาพจอมทัพมันติดอยู่ในหัวเราแต่บรรยายไม่ได้น่ะค่ะ เลยอยากให้ใครก็ตามที่อยากวาด ลองวาดมาแชร์กันดูหน่อย ว่าตัวละครในเรื่องมีภาพในหัวเป็นยังไง จริงๆก็อยากวาดเองอยู่หรอก แต่ท่าทางจะไม่รอด (คือคนเขียนเป็นบ้า เขียนมาจะจบยังวาดคาแรคเตอร์พระเอกไม่ออก) วาดอะไรมาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะเอาไปลงในเพจเนาะ ไปโพสท์ในเพจก็ได้จ้า
เราเขียน Side Story ทิ้งไว้ในเพจสองสามเรื่อง ตามไปอ่านกันได้นะคะ ลิ้งค์ตามด้านล่างนี่เลยจ้าาาา