ล่ารักหัวใจมาเฟีย | 011114 | ตอนพิเศษ : Falling Slowly | Page 124 |
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

สอบถามความต้องการในการจัดทำหนังสื่อนิยายเรื่อง 'ล่ารักหัวใจมาเฟีย'

ต้องการ (ถ้าทำหนังสือยังไงก็ซื้อแน่นอน)
364 (55.7%)
ยังไม่แน่ใจ (อาจจะซื้อหรือไม่ซื้อ)
269 (41.2%)
ไม่ต้องการ (ไม่ซื้อแน่นอน)
20 (3.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 588

ผู้เขียน หัวข้อ: ล่ารักหัวใจมาเฟีย | 011114 | ตอนพิเศษ : Falling Slowly | Page 124 |  (อ่าน 2269923 ครั้ง)

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ใกล้จบแล้วอ๊าย อยากรู้ว่าอาเมนจะให้เมษาทำจริงหรือไม่

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
รู้สึกเหมือนจะมีพายุลูกใหญ่เข้ายังไงไม่รู้   :ling3:



เตรียมตัวรับสงครามครั้งใหม่...   :katai1:



รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:



ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
อย่าทำแบบนี้อีกนะมิถุนา สงสารจอมทัพ
เพื่อมิถุนาแล้ว จอมทัพทำได้ทุกอย่าง

สงสารเมษา
ตอนนี้เมษาคงยอมทำทุกอย่าง เพื่อช่วยมิถุนาแล้ว
เรื่องมันเข้มข้นมาขึ้นทุกที
ไม่อยากให้เกิดการนองเลือด
ไม่อยากเสียใครไป แม้กระทั้งอาเมน

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ตอนต้นเรื่องแอบตกใจเบาๆ T^T

ออฟไลน์ แก้วเจ้าจอม

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
มิถุนา..ดีนะที่เป็นจอมทัพ ถ้าไม่ใช่ละก็... :katai1:
ส่วนเมษาก็น่าสงสาร อาเมนนะอาเมน เปลี่นยใจตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ..คิดถึงใจเมษาบ้างสิ! :z3:

ปล.เก็บท้องไว้รอกินมาม่าตอนต่อไป :monkeysad:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
เหมือนอาเมนจะคิดได้ หรือเปล่านะ 555

สงสารน้องเมษา

ออฟไลน์ white feather

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เหมือนอาเมนจะรู้สึกตัวว่าชอบเมษาแล้วเลย
ดูอ่อนโยนนะวันนี้ ตอนหน้าคงจัดหนักเลยสินะค่ะ
อยากให้จบด้วยดีทั้งสองคู่จิงๆ
จอมทัพเหมือนจะวางมือเพื่อน้องมิแล้ว
อาเมนก้อควรจะคิดได้แล้วจบมันด้วยดีเถอะค่ะ
ไม่อยากให้ดราม่าสักคู่เลย

ออฟไลน์ M_April

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หนูมิเกือบทำพ่อมาเฟียหัวใจวายนะ

สงสารเมษา  :mew2:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :hao5: สงครามใกล้บังเกิดแล้วสินะ
คนแต่งจ๋า ขอมุ้งมิ้งอีกนิสเต๊อะ อย่าพึ่งมาม่าเยอะเบย เดะอืดซะก่อน  :sad2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
เห็นอาเมนแบบนี้แอบมีความรู้สึกว่าก็เริ่มชอบน้องเมแล้วสินะ มาเฟียเป็นงี้ทุกคนเปล่า  :katai5:

zalapao14

  • บุคคลทั่วไป
อาเมนชอบน้องเมเหอะ อย่าไปยุ่งกะมิเลยยยยยย

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ ||toxic-love||

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตื่นเต้นนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มาจองที่หลบกระสุน ลุ้นลุ้นลุ้น อาเมนกะเมษา  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4



ตอนที่ 27 - Lost in Hong Kong III - Rise





วันนี้มิถุนาหัวหมุนนิดหน่อยเพราะวิ่งเข้าออกห้องแต่งตัวเป็นว่าเล่น พรุ่งนี้เป็นวันจริงแล้วสำหรับงานแฟชั่นวีคที่ฮ่องกง เขาพยายามทำทุกอย่างให้ผิดพลาดน้อยที่สุด แม้ว่าจะมีทั้งพี่เพลงและพี่นัชชาตามมาดูแลและกำกับหลายๆอย่างให้ชนิดข้ามน้ำข้ามทะเล แต่มิถุนาก็ยังกังวลใจในหลายๆเรื่องอยู่ดี

เช้าจรดเย็นที่ฝึกซ้อม เป็นเช่นนี้มาได้สองวันเต็มแล้ว ทั้งแก้ชุด ทดลองแต่งหน้าทำผม ทดลองเดิน ซ้อมคิวต่างๆ พอแบกรับความคาดหวังขนาดใหญ่ ทุกอย่างก็ดูจะยากขึ้น ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว คืนแรกเขาเหนื่อยมากจนถึงขั้นนอนละเมอ นั่นทำให้จอมทัพอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่พอเห็นแววตาสุกใสเต็มไปด้วยพลัง เขาก็ไม่อยากจะปริปากอะไรเป็นการตัดทอนกำลังใจคนรัก

มิถุนาก้มตัวถอดรองเท้าโดยมีเจย์ช่วยแก้เชือกให้ รอยแดงที่ข้อเท้าทำให้เจย์อดไม่ได้ที่จะยกมือแตะมันเบาๆ แต่เจ้าตัวกลับถอนหายใจแล้วส่ายหัวบอกไม่เป็นอะไร วันนี้จอมทัพก็ไปคุยงานอีกแล้ว วิคเตอร์ไปกับเจ้านาย มาเฟียหนุ่มจึงได้ส่งเจย์และเอเลนตามประกบมิถุนาไม่ห่างกาย


“เสร็จแล้ว เหนื่อยไหมครับ?” เจย์ถามอย่างอ่อนโยน เขาช่วยมิถุนาเก็บของ ห้องสตูดิโอด้านหลังเวทีสถานที่จริงที่ตั้งอยู่กลางแจ้งกรุกระจกรอบด้าน ทำให้เห็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า เย็นนี้จะติดตั้งเต้นท์บริเวณหลังเวทีสำหรับใช้แต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อย
“ก็...ครับ เหนื่อยอยู่" มิถุนาหัวเราะแหะ
“แล้วหิวไหม?” เจย์ถามต่อ เขานั่งมองมิถุนาดึงกระดาษเปียกสำหรับเช็ดเครื่องสำอางค์ออกมาทำความสะอาดใบหน้าของตนเองเงียบๆ
“หิว" มิถุนาหัวเราะเบาๆอย่างไม่ปิดบังความต้องการ เจย์พยักหน้าหงึกก่อนเอ่ย
“เอเลนกำลังโทรไปจองร้านอาหารให้ครับ ไม่รู้นายท่านจะเสร็จงานทันมาทานข้าวพร้อมพวกเราหรือเปล่า" เขาพูดถึงตารางที่เฉียดไปเฉียดมาของคนทั้งคู่ จอมทัพไม่ได้เตรียมใจจะต้องมารับงานหนักที่ฮ่องกงเช่นนี้ แต่เมื่อเขาเปิดปากกับบิดาว่าจะขอวางมือทุกอย่างของตระกูลหวังที่เป็นธุรกิจเถื่อนและมีความเสี่ยง หวัง หย่ง หมิน ไม่ได้ขัดข้องอะไร เขาก็เคยคิดถึงจุดนี้มาบ้างเหมือนกัน เขาอนุญาต แต่จอมทัพจะต้องขึ้นมาเป็นประมุขตระกูลแทนตนเอง เขาให้เวลาอย่างมากแค่สามปี ดังนั้นหากทุกอย่างเริ่มเร็วแค่ไหน ก็จะเป็นประโยชน์กับนายคนใหม่ของตระกูลเท่านั้น จอมทัพจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องออกไปทำความรู้จัก รวมถึงฝากเนื้อฝากตัวกับผู้หลักผู้ใหญ่ ลูกค้า เพื่อนสนิทของพ่อ และเรียนรู้ทุกอย่างให้ดีที่สุด

นั่นทำให้เขาไม่ค่อยได้ใช้เวลากับมิถุนามากเท่าไหร่นักอย่างที่ควร เขาเองก็รู้ผิด ทั้งที่เขาหอบเอามิถุนาจากบ้านเกิดล่วงหน้ามาเป็นอาทิตย์เช่นนี้


“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวเราก็ได้คุยกันคืนนี้" นายแบบหนุ่มยิ้มออกมาบางๆ เขาพยายามทำตัวไม่ให้เจย์เป็นห่วง มิถุนาสนิทกับเจย์ พอๆกับที่สนิทกับวิคเตอร์ เขารู้ดีว่าเจย์เป็นคนขี้กังวลแค่ไหน เขาจึงพยายามทำทุกอย่างให้เจย์กังวลใจน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“พรุ่งนี้แล้ว เรารีบไปหาอะไรกินแล้วกลับไปพักผ่อนเถอะครับ มิต้องตื่นเช้าอีก"
“เราน่ะไม่เป็นไรหรอกเจย์" มิถุนาส่ายหัว "แต่เอเลนกับเจย์ กลับไปก็ยังต้องไปทำงานต่ออีก จริงๆคนที่เหนื่อยกว่าเราคือเจย์กับเอเลนนะ ตื่นก็ต้องตื่นพร้อมกัน"
“ผมเต็มใจน่ามิ" เจย์ท้วง
“งั้นเดี๋ยวเราขอไปบอกพี่นัชชากับพี่เพลงก่อนนะ ไม่รู้สองคนนั้นจะไปกินข้าวด้วยกันไหม"
“เอาสิ"

มิถุนาดึงคาดิแกนสีดำสวมทับเสื้อเชิ้ตสีเทา เขาส่งรองเท้าคืนให้กับสไตลิสท์สาวที่เป็นคนดูแลเขาก่อนเอ่ยขอบคุณ ก่อนเดินไปหาพี่เพลงที่กำลังคุยงานอย่างเคร่งเครียดกับตัวแทนของแบรนด์ที่มิถุนาเดินให้ มิถุนาเอ่ยขอตัวพี่เพลงจากอีกฝ่าย ทางนั้นไม่ได้ว่าอะไร เขานึกเอ็นดูนายแบบหนุ่มจากประเทศไทยพอสมควร เอ็ดเวิร์ด ถัง เป็นจีเอ็ม (General Manager) ควบตำแหน่งดีไซเนอร์มือทองของแบรนด์ใหญ่ในฮ่องกงที่กำลังเติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ เขาเป็นหนุ่มทรานเจนเดอร์ที่นิสัยดีมาก แว่วๆมาว่าแฟนหนุ่มสุดหล่อดีกรีนายแบบลูกครึ่งของเอ็ดเวิร์ดก็ฮ็อตมากด้วย เอ็ดเวิร์ดเป็นคนมองโลกในแง่ดี การทำงานกับเขาสำหรับมิถุนาจึงไม่มีคำว่าอึดอักเลยสักนิด

พี่เพลินไม่ตอบรับหรือปฏิเสธมื้อค่ำของมิถุนา แต่กลับเอ่ยชวนให้มาร่วมโต๊ะด้วยกันทั้งหมดโดยบอกว่าตนเองมีนัดกินข้าวและสนทนากับเอ็ดเวิร์ดเรียบร้อยแล้ว คืนนี้จะไปเดินช็อปปิ้งสักหน่อย หลังจากที่ต้องทำงานตรากตรำแทบไม่ได้หยุดหายใจตั้งแต่วันแรกที่เท้าแตะสนามบินฮ่องกง มิถุนาหัวเราะเบาๆก่อนตอบตกลงร่วมโต๊ะกับพี่เพลิน

พวกเขาตกลงไปร้านอาหารที่เอเลนจองไว้ให้ตั้งแต่แรก ซึ่งมันไม่ไกลจากสถานที่จัดงานเท่าไหร่นัก จึงใช้วิธีเดินไปแทนการโดยสารรถยนต์

ร้านอาหารสไตล์เวสเทิร์นตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของตึกห้างสรรพสินค้าสูงระฟ้า มีเทอเรซยื่นออกมาสำหรับชมบรรยากาศยามค่ำคืนเกาะฮ่องกง พวกเขาสั่งไวน์และอาหารคนละจาน นั่งกินข้าวไปด้วยและคุยเรื่องจิปาถะไปด้วย


“ถ้าผมอยากได้มิถุนามาถ่ายแบบให้กับแบรนด์จะมีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ" เอ็ดเวิร์ดถามขึ้นยิ้มๆระหว่างมื้ออาหาร นั่นทำให้พี่เพลินยิ้มออกมา
“ดิฉันไม่มีปัญหาหรอกค่ะ" ส่วนเจ้านายมิถุนาก็เหล่มองเจ้าของชื่อยิ้มๆ ซึ่งมิถุนารู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไร "แต่คงต้องถามคุณแจ็คกี้ หวัง ดูน่ะค่ะ" เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะ นั่นทำให้มิถุนาอดส่ายหัวไปมาเบาๆไม่ได้
“พี่เพลงก็เกินไปครับ ถ้าผมจะทำแจ็คกี้ก็ห้ามไม่ได้หรอก" คำตอบของมิถุนาทำเอาทุกคนหัวเราะครืน
“รับปากแบบนี้ ถ้าผมเชิญคุณมิถุนามา คุณต้องมาให้ได้นะครับ"
“ไม่มีปัญหาหรอกครับ" มิถุนาว่ายิ้มๆ
“เอ้อ...ว่าแต่ วันนี้ทุกแบรนด์มากันครบหรือเปล่าคะ ดิฉันรู้สึกเหมือนว่าคนไม่เยอะเท่าไหร่เลย" พี่เพลงถามอย่างสงสัย เธอเสยผมทัดใบหูข้างหนึ่งด้วยท่าทางชวนน่ามอง
“ไม่ครบครับคุณเพลง ปีนี้เป็นปีแรกที่ทางผู้จัดเชิญแบรนด์นานาชาติเข้าร่วมด้วยเพื่อต้องการขยายสเกลงานให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงมีนางแบบนายแบบรับเชิญจากต่างประเทศอีกหลายคน ด้วยความที่มีหลายแบรนด์มากขึ้นที่เข้าร่วมงานในปีนี้ ทางผู้จัดจึงจำเป็นต้องแบ่งวันซ้อมเป็นสองวันและอีกสองวันน่ะครับ เพราะเกรงว่าถ้าวันเดียวทั้งหมดจะรันคิวยาวไม่ทัน แต่ปกติทุกปีซ้อมรวมกันหมดก็ไม่มีปัญหาครับเพราะคนไม่เยอะเท่าปีนี้ แต่พรุ่งนี้ช่วงเช้าที่นัดมาก็จะซ้อมเดินโชว์รวมตอนจบอีกทีน่ะครับ"
“หมายถึงซ้อมรวมทั้งหมดน่ะหรือคะ" พี่เพลงถามต่อ
“ครับ ทุกแบรนด์ ทุกโมเดลเลยครับ ส่วนงานจริงก็เริ่มตอนเย็นอย่างที่รู้กัน" เอ็ดเวิร์ดตอบ "อ้อ ผมได้ตัวอย่างสูจิบัตรมาแล้วนะครับ คุณมิถุนาอยากดูไหม" เขาเอ่ยถาม มิถุนาพยักหน้ารับ เอ็ดเวิร์ดจึงดึงสูจิบัตร หรือใบเพรสคิท ซึ่งใช้แจกหน้างานส่งให้มิถุนา มันถูกบรรจุในซองแก้วสีใสปั๊มชื่องานสีทองวาววับเป็นอย่างดี มิถุนาดึงสูจิบัตรเล่มสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่นักออกจากซอง ก่อนไล่เปิดไปตามหน้า

ในเล่มกล่าวถึงที่มาของงาน มีระบุถึงแบรนด์ต่างๆ แนะนำนายแบบนางแบบบางคน มิถุนาเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ทำเอาเขายิ้มเขินเมื่อเอเลนเอ่ยแซวว่าเขาชักจะดังใหญ่ในเกาะฮ่องกงแล้ว มิถุนาพลิกไปเรื่อยๆ ก่อนชะงักเมื่อสะดุดลงที่หน้าหนึ่งกลางเล่ม


“อ๊ะ" เขาร้องออกมาเบาๆเมื่อสายตาปะทะเข้ากับใบหน้าที่คลับคล้ายคลับคาว่าเคยพบกันที่ไหนมาก่อน
“มีอะไรหรือครับ" เอเลนเขยิบตัวเข้ามาใกล้มิถุนาทันที เขามองใบหน้าคนในหนังสือนิ่งๆก่อนชะงักกึก "คน...คนๆนี้"
“เอเลน ผมเคยเจอเขามาก่อน" มิถุนาละลักละล่ำบอก ภายในใจเต้นแรงจนอึดอัด รู้สึกได้ถึงอะไรไม่ชอบมาพากล
“ไหนครับ...” เอ็ดเวิร์ดเป็นอีกคนที่ขมวดคิ้วเรียวมุ่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น "เรย์มอนด์ เจิ้ง"


เขาเอ่ยชื่อออกมาทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบ ยกเว้นมิถุนา พี่เพลิน และพี่นัชชาเท่านั้นที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง


“มิเจอเขาที่ไหนครับ" เจย์ถาม น้ำเสียงเขาสั่นอย่างปิดไม่มิด
“ผม...คือ...” มิถุนาไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไรดี "มีอะไร...หรือเปล่าครับ" มิถุนาเม้มปากแน่น
“เรย์มอนด์ เจิ้ง...” เอเลนถอนหายใจหนักหน่วง "หรือชื่อจริงๆของเขา เจิ้ง เสี้ยวชุน"
“เจิ้ง เสี้ยวชุน...” มิถุนาทวนชื่อเหมือนละเมอ
“จริงๆผมก็ลืมบอกไปว่า เรย์มอนด์เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของงานปีนี้น่ะครับ และด้วยรูปร่างหน้าตาของเขา ผู้จัดเลยลงมติให้เขามาเดินแบบให้กับงานด้วย ปกติเรย์มอนด์ก็รับงานประเภทนี้เป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว" เอ็ดเวิร์ดอธิบายอย่างไม่ใคร่จะเข้าใจนัก "มีอะไรกันหรือเปล่าครับ"
“เปล่าหรอกครับ" เอเลนรีบแก้สถานการณ์ เขาไม่อยากกระโตกกระตากให้ใครหวาดกลัวไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะมิถุนา ทูนหัวของแจ็คกี้ หวัง ที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างๆกัน "เขาเป็นนักธุรกิจคู่แข่งกับนายท่านน่ะครับ คุณเอ็ดเวิร์ดน่าจะรู้ ก็เลยแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเขา"
“อ้อ...ครับ" เอ็ดเวิร์ดว่า "ถ้าพูดถึงนักธุรกิจหนุ่มฮ็อตยุคนี้ก็ไม่พ้นแจ็คกี้ กับเรย์มอนด์หรอกครับ" ดีไซน์เนอร์หนุ่มว่ายิ้มๆ เขาไม่ได้คิดลึกอะไรไปมากกว่านั้น เพราะในสังคมก็รู้กันดีว่า ชายหนุ่มทั้งสองคนคือคู่แข่งในทุกๆด้านกันอยู่แล้ว ด้วยความเพียบพร้อมในทุกๆอย่างของคนทั้งคู่

“แต่ไม่มีอะไรใช่ไหมครับ" เอ็ดเวิร์ดถามย้ำ
“ไม่ครับ...ไม่มี" เอเลนปดออกไปเช่นนั้น "ถ้าผมจะขอเพรสเล่มนี้สักเล่มจะเป็นไปได้ไหมครับ" เขาเปลี่ยนเรื่อง เอ็ดเวิร์ดไม่ปฏิเสธ เขาเลื่อนเล่มตรงหน้าให้ทันที
“เอาไปได้เลยครับ"


มื้อค่ำจบลงตอนหนึ่งทุ่มกว่า พี่เพลงกอดลาลามิถุนาโดยไม่ลืมเอ่ยทวนนัดหมายของวันพรุ่งนี้ ก่อนที่เธอจะขอตัวไปช็อปปิ้งต่อ มิถุนาจึงขอแยกย้ายกลับเพราะพรุ่งนี้เขายังคงมีงานใหญ่รออยู่ นายแบบหนุ่มยืนรอรถมารับอย่างเงียบๆที่หน้าห้างสรรพสินค้า เขาไม่รู้จะเอ่ยอะไรดี เพราะในใจก็มีทั้งความไม่มั่นใจระคนไม่สบายใจกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ เอเลนกับเจย์มีเรื่องที่จะต้องเค้นเขาแน่ และถ้าจอมทัพรู้

มิถุนาไม่อยากคิดเลยว่าหมอนั่นจะบ้าคลั่งแค่ไหน ถ้ารู้ว่า...เขาไม่ปลอดภัย...

เอเลนรับรถจากพนักงานก่อนเปิดประตูรถให้เขาขึ้นนั่ง ชายหนุ่มแทรกตัวขึ้นประจำที่คนขับโดยมีเจย์นั่งที่เบาะด้านข้าง เขากำชับลูกน้องขับประกบดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เลขาหนุ่มล็อครถทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนออกไปจากย่านการค้าช้าๆ

มิถุนากอดอก นั่งไขว่ห้างนิ่ง เขาเม้มปากแน่น ก่อนตัดสินใจพูดออกไป


“จำวันที่เราไปซื้อกระเป๋าให้คุณแม่ผมได้ไหมครับ" มิถุนาถามขึ้นมาน้ำเสียงคล้ายจะหายไปในลำคอ เจย์หันขวับกลับมามองมิถุนา ก่อนเอื้อมมือบีบมือขาวเบาๆ
“ครับ จำได้"
“ที่ผมเล่าให้ฟังว่าผมเจอนักข่าวคนหนึ่ง" มิถุนากลืนน้ำลายเอื้อก "เขาคือเจิ้ง เสี้ยวชุน ไม่ผิดตัวแน่ๆ ผมจำเขาได้" เสียงของมิถุนาตะกุกตะกักและพร่าสั่น
“วันนั้นมิบอกว่าเขาชื่ออะไรนะครับ" เจย์เอ่ยถาม ใจก็เต้นระรัวไม่แพ้กัน

มิถุนาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เหมือนจะเรียกขวัญกำลังใจให้กับตัวเอง เขาเม้มปากแน่น ก่อนเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก


เจอาร์--- ผมเพิ่งคิดได้เมื่อครู่นี้เอง เจ คือ เจิ้ง" มิถุนาแทบหยุดหายใจ "อาร์ คือ เรย์มอนด์"


คำตอบของมิถุนานำพาความเงียบมาสู่ห้องโดยสารแทบจะทันที ทั้งๆที่ยังไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ทั้งๆที่ไม่มีใครรู้ว่าเรย์มอนด์ต้องการอะไร จะกระทำอุจฉกรรจ์ ก่อเรื่องร้าย หรือไม่ก่อ ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบที่แน่ชัดได้ แต่ที่รู้ดีก็คือ ทุกคนต่างหวาดกลัว ประหวั่นพรั่นพรึงกับสิ่งที่ได้ยิน ศัตรูอยู่แค่ปลายจมูกแต่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำ เจิ้ง เสี้ยวชุน เข้าหามิถุนาด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ขนาดนี้แล้ว

เจย์จิกมือตัวเองแน่นจนแทบเลือดซึม ส่วนเอเลนก็กำพวงมาลัยแน่น เขาต่างพยายามประคองสติให้มั่นคงที่สุดเท่าที่จะทำได้ จอมทัพต้องโกรธมากแน่ ถ้าได้ยินเรื่องนี้...





มิถุนากลัวเหลือเกินว่าคนรักของเขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามจากเรื่องที่เกิดขึ้น เขากำชับเอเลนและเจย์ว่าจะบอกกับจอมทัพเอง แต่แน่นอนว่าทั้งเจย์และเอเลนคงรู้ว่าไม่มีอะไรรอได้อีกแล้ว ทั้งบ้านเหมือนระเบิดลง จอมทัพหัวเสียมาก เขาโกรธจนแทบทำลายข้าวของพังได้ทั้งบ้านถ้าวินาทีนั้นมิถุนาไม่รีบออกจากห้องน้ำมากอดปลอบประโลมผู้ชายตัวโตเอาไว้ เจย์ก้มหน้านิ่ง เอเลนเบือนหน้าหนีอย่างไร้คำแก้ตัว ส่วนวิคเตอร์แม้จะไม่เกี่ยวข้องด้วยยังนิ่งอึ้งดัวแข็งไปด้วย เขารู้ดีว่าเจ้านายของเขารักและทะนุถนอมมิถุนามากแค่ไหน เช่นเดียวกับที่เขาพยายามจะดูแลมิถุนาให้ปลอดภัยทุกวินาที

วิคเตอร์ไม่โทษใคร ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครสะกิดใจแม้กระทั่งตัวมิถุนาเอง ทุกคนต่างนิ่งค้างเหมือนพายุถล่มเมืองอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็เป็นเวลาที่ต้องคิดหาทางแก้ไขและป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้


“พรุ่งนี้เราจะกลับประเทศไทย ยกเลิกงานของมิถุนาให้หมด" จอมทัพลั่นวาจาออกมา เจย์ที่ก้มหน้าอยู่นั้นจึงเงยหน้าขึ้น และทำท่าจะตกปากรับคำ แต่มิถุนาฉวยจังหวะเอาไว้ได้ก่อน
“ไม่ได้นะครับ!” เขาเถียงสุดตัว
“เรื่องมันขนาดนี้แล้วนะมิถุนา ฉันเสียนายไปไม่ได้ นายก็รู้ดี!” มาเฟียหนุ่มขบกรามแน่น มือเล็กๆของมิถุนาก็ยังไม่สามารถดับอารมณ์คุกกรุ่นในใจได้แม้แต่น้อย
“แต่เราจะยกเลิกงานไม่ได้นะครับ งานมันพรุ่งนี้แล้ว" มิถุนาท้วง "ผมจะทำตัวไม่รับผิดชอบงานนี้ไม่ได้หรอกนะครับ"
“นายไม่รู้หรอกว่าหมอนั่นร้ายกาจขนาดนี้ ขนาดเอาตัวเข้าหานายแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆมิ"
“มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้"
“ก็เพราะเราไม่รู้ไงเล่า! ฉันถึงได้กลัวจนเป็นบ้าแบบนี้!” จอมทัพตวาดลั่น นั่นทำให้มิถุนาสะดุ้งไปทั้งตัว เขากำมือแน่น น้ำตาเอ่อดวงตา จอมทัพไม่ขึ้นเสียงกับเขามานานมากแล้ว

และเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองทำพลาดอะไรไป มาเฟียหนุ่มก็รีบรั้งร่างของอีกคนมาไว้ในอ้อมกอดทันที

“ฉันจะต้องทำยังไงให้นายปลอดภัยมิถุนา ทุกคนจ้องเล่นงานนายไม่ใช่ฉัน" จอมทัพกระซิบเสียงพร่า "และทุกคนคือศัตรูของฉัน"
“......” มิถุนาก็ไร้คำตอบ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ
“เราต้องเลิกกันไหม นายถึงจะปลอดภัย" คำถามนี้ทำเอามิถุนาชะงัก เขาดันตัวออกจากบ่ากว้างแล้วส่ายหัวขวับ
“ไม่นะครับ เราจะเลิกกันไปทำบ้าอะไร!”
“งั้นพรุ่งนี้เรากลับไทยกันเถอะ ฉันขอร้องล่ะ" จอมทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง เขาอ่อนแอจริงๆกับทุกเรื่องที่เป็นเรื่องของมิถุนา เขารู้ตัวเองดีในเรื่องนี้
แต่มิถุนากลับส่ายหัว "เรื่องมันไม่จบง่ายๆแค่เรากลับไปหรอกครับ"
“......”
“จำได้ไหมเรามาที่นี่ก็เพื่อหนีอาเมน" มิถุนาท้วงขึ้น "แล้วตอนนี้เรากำลังจะหนีอีกครั้ง"
“......ฉันจะต้องฆ่ามันให้หมดใช่ไหม นายถึงจะปลอดภัยน่ะ" จอมทัพรู้ดีว่าความเก่งกาจและความเข้มแข็งของเขามันหายไปหมด "ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้วพอเป็นเรื่องของนาย"
“เราไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ เราแค่ทำเหมือนเดิม" มิถุนากุมมือใหญ่นิ่ง "เราจำทำตามกำหนดการเดิมทุกอย่าง คุณเพิ่มกำลังคน คุณจะปกป้องผมได้คุณจอมทัพ คุณคือแจ็คกี้ หวังนะ จะมาคิดมากอะไรกับเรื่องแค่นี้"
“......”
“ปกป้องผมให้เขาเห็น ว่าเขาทำอะไรผมไม่ได้ คุณอาจจะหนีไปเรื่อยๆเพราะมีผม แต่เราหนีไปไม่ได้ตลอดชีวิตนะครับ และผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงของคุณ...” มิถุนาบอกอย่างหนักแน่น ดวงตากลมโตจ้องใบหน้าคมคร้ามนิ่ง "ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะยืนข้างๆคุณ ถ้าเราจะเจ็บ เราก็จะเจ็บด้วยกัน คุณไม่ต้องปกป้องผมฝ่ายเดียวหรอกนะแจ็คกี้ ให้ผมได้ปกป้องคุณบ้าง"

“เป็นแจ็คกี้ หวัง ที่บ้าบิ่นคนเดิมเถอะ จำได้ไหมว่าคุณเคยร้ายกาจแค่ไหนในวันที่ฉุดผมไปน่ะ คุณก็ต้องทำแบบเดียวกัน ร้ายให้ได้แบบนั้น อย่าให้ผมเป็นจุดอ่อนของคุณ"

มิถุนาประคองหน้าจอมทัพเอาไว้ ทุกคนในห้องเงียบ ไม่มีใครให้ความเห็นใดๆ เช่นเดียวกัน มาเฟียหนุ่มนิ่งเงียบ  ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างเชื่องช้า หัวใจหนักอึ้งไปหมด...


“นายบอกให้ฉันดาหน้าเข้าหามันใช่ไหม?”
“ครับ"
“นายจะไม่ยกเลิกงานด้วยหรือ?”
“ใช่" มิถุนาพยักหน้า
“แล้วอะไรจะการันตีว่านายจะไม่เป็นอะไร?” จอมทัพถามย้ำ "ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้วทั้งนั้นมิถุนา ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย"
“ตอนนี้ก็มีแค่คุณเท่านั้นที่จะการันตีว่าผมปลอดภัย"
“......”
“ผมเชื่อใจคุณนะแจ็คกี้"


มิถุนาบอกกับเขาเบาๆเช่นนั้น ก่อนกุมมือเขาไว้แน่น จอมทัพจ้องดวงตาสีเข้มของมิถุนานิ่งสนิท เขานิ่งคิด สมองประมวลผลอย่างยุ่งเหยิง เขายังจำบาดแผลลึกในใจและความเจ็บปวดระคนทรมาน ความรู้สึกที่เหมือนขาดอากาศหายใจในวันที่เขาเสียจุนไปได้ไม่เคยลืม ถ้าเขาเสียมิถุนาไปอีก...เขาจะทำอย่างไรดี เขาจะกลับมามีหัวใจได้อีกไหมนะ ถ้าเขาเสียมิถุนาไป เขาจะอยู่ได้อย่างไร...



“ตกลง...” จอมทัพเอ่ยออกมาในที่สุด "จบงานของนายฉันจะเผชิญหน้ากับเรย์มอนด์ เจรจากันให้รู้เรื่อง ถ้าฉันจะต้องเสียอะไรไป ก็เพื่อนายเท่านั้น"

“หลังจากนั้นเราจะกลับประเทศไทยทันที" จอมทัพลั่นวาจา มิถุนากระชับมือเขาแน่น
“ครับ"

มาเฟียหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาปลดไทด์หลวมๆ กวาดตามองเพื่อนสนิทและคนสนิทอย่างครุ่นคิด แต่รู้ดีว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาหมดความมั่นใจหรือกลัวอะไรใดๆ สิ่งเดียวที่เขากลัวในชีวิตนี้ก็คือการเสียมิถุนาไป ซึ่งเขาจะไม่มีวันให้มันเกิดขึ้น


“วิคเตอร์ นายเตรียมคนของเราให้พร้อม พรุ่งนี้ห้ามให้เกิดอะไรขึ้นเด็ดขาด" เขาสั่ง วิคเตอร์ที่รอคอยคำนี้มานานแล้วรีบรับคำทันที
“ครับ"
“เอเลน ฉันคงต้องพึ่งนายหลายเรื่อง ช่วยดูแลมิถุนาและทุกอย่างด้านหลังเวทีด้วย ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล บอกฉันทันที"
“ไม่ต้องห่วง ฉันทำให้นายมากกว่านั้นแน่นอน" เขารับปาก
“ส่วนเจย์ นายประกบมิถุนาทุกฝีก้าว ห้ามคลาดสายตาเข้าใจไหม ฉันประกบมิถุนาไม่ได้ ถ้าเสี้ยวชุนมันเห็น มันต้องรู้ว่าฉันรู้ว่ามันกำลังจะทำอะไร และคิดว่าฉันเปิดศึกกับมันแน่นอน เราจะตุกติกให้มันรู้ไม่ได้นะ"
“ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด มิจะไม่เป็นอะไร"
“ดี...” จอมทัพพยักหน้า "ฉันจะไปหาพ่อ เอเลนนายมาด้วยกันไหม?” เขาหันไปถามเพื่อนสนิท เอเลนพยักหน้าทันที
“ผมดูแลที่นี่ให้เอง" วิคเตอร์รับคำ เช่นเดียวกับเจย์
“ขอบใจมาก"



ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4




ทั้งๆที่ควรจะให้มิถุนาพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่จอมทัพก็กลับรั้งมิถุนาไว้ใต้ร่างของเขาเกือบตลอดทั้งคืน มิถุนานอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆเขา ผู้จัดงานนัดไว้ตอนสิบโมง ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งเองเท่านั้น ถาดอาหารเช้าถูกยกมาวางไว้ข้างเตียงตั้งแต่สิบนาทีก่อน แต่จอมทัพอยากให้มิถุนาพักผ่อนให้เยอะที่สุด

แต่มิถุนาก็ตื่นขึ้นมาในอีกไม่กี่นาทีถัดมา นายแบบหนุ่มหาววอดก่อนจมตัวลงกับหมอนขนเป็ดใบเขื่องแล้วพลิกตัวไปมาอย่างขี้เกียจ


“ตื่นได้แล้ว" จอมทัพกระซิบบอกคนในอ้อมกอด มิถุนาครางอือ
“ง่วงอยู่เลย~”
“ไหนว่าจะไปทำงานให้เสร็จไง" จอมทัพกระเซ้า ทั้งๆที่ใจไม่อยากให้ไปดั่งปากบอกเท่าไหร่หรอก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างที่มิถุนาบอก เขาหนีไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ใช่...เมื่อก่อนจอมทัพไม่เคยขี้ขลาดแบบนี้ เขาสู้ชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน เล่นงานศัตรูเสียจนหลาบจำ นับตั้งแต่มีมิถุนาเขาก็กังวลใจไปเสียทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งถูกตราหน้าว่าอ่อนหัด เขารู้ดี...ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่ามิถุนาอีกแล้วในชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา

จอมทัพนั่งดูข่าวเช้าพร้อมกับทานข้าวเช้าเงียบๆกับมิถุนาบนเตียง มื้อเช้าเป็น เอ้ก เบเนดิกต์ง่ายๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็อาบน้ำแต่งตัว และออกเดินทางตอนเก้าโมงพอดี ทั้งเอเลนรวมถึงคู่หูเตรียมตัวพร้อมแล้ว มิถุนาประหวั่นใจเล็กน้อยกับกองทัพบอร์ดี้การ์ดที่มากกว่าทุกวันเกือบห้าเท่า รถที่ใช้ก็เป็นแรงค์ โรเวอร์ คันใหญ่ยักษ์ติดกระจกกันกระสุนรอบด้าน

เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองหวั่น/ไหวขนาดนี้มานานนับตั้งแต่ได้ข่าวว่าจุนจากเขาไปแล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อน จอมทัพรู้ว่าในที่สุดแล้วเขาก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ต่อให้เย็นชาและแกร่งเป็นหินผาแค่ไหน เขาก็แค่นั้น เป็นมนุษย์ที่รู้จักรัก โลภ โกรธ หลง และกลัวการสูญเสียไม่ต่างจากคนอื่น

แม่ว่ามิถุนาจะอยู่ข้างๆเขาในตอนนี้ เขาก็รู้สึกอยู่ดีว่ามิถุนาเหมือนอยู่ในที่ๆเขาเอื้อมแตะต้องตัวบอบบางนั่นไม่ถึง ในใจตีกันวุ่นวายไปหมด มิถุนารู้จักเขาดี หมอนั่นจึงนั่งเอนตัวซบเขานิ่งราวกับจะให้กำลังใจกันและกัน

“คุณทำหน้าอย่างกับจะออกไปรบแหนะ" มิถุนาเหย้าแหย่ จอมทัพพยายามฝืนยิ้มให้ แต่ก็ยากเหลือเกิน
“ก็ไม่ต่างไปจากนั้นมากหรอก"
“มันไม่มีอะไรหรอกครับ" มิถุนายิ้มให้คนข้างตัวเบาๆก่อนยืดตัวหอมแก้มคนตัวโตกว่าเบาๆอย่างน่ารัก


ในใจมิถุนาก็คงไม่ได้เชื่อเช่นนั้นนักหรอก แต่ในเวลานี้สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่มั่นใจและเข้มแข็งเท่านั้น

รถจอดลงที่หน้าเต้นท์สีขาวใหญ่ยักษ์สร้างขึ้นชั่วคราวเพื่อใช้เป็นด้านหลังรันเวย์ที่จัดอยู่กลางแจ้ง จอมทัพจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมิถุนา เขาปล่อยให้มิถุนาลงไปพร้อมกับเจย์, เอเลน และบอร์ดี้การ์ดอีกหนึ่งกองทัพ มิถุนาไม่อยากให้มันเอิกเริกขนาดนี้ แต่ทำเช่นไรได้ ในเมื่อจอมทัพไม่วางใจอะไรสักอย่าง เขาโบกมือให้กับคนบนรถ จอมทัพบอกว่าจะอยู่ที่คาเฟ่ฝั่งตรงข้ามจนกว่างานจะเริ่ม มิวายกำชับเจย์และเอเลนว่าให้ดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด

มิถุนาก้าวเข้าไปด้านหลังเวทีท่ามกลางสายตาทุกคนที่จ้องมองมา คงแปลกใจกับกองทัพบอร์ดี้การ์ดที่ทำเหมือนจะมายึดสถานที่แห่งนี้ มิถุนาแสร้งไม่สนใจสายตาเหล่านั้น เขาเดินตามเอเลนไปยังจุดนัดหมายทันที

พี่เพลง พี่นัชชา และคุณเอ็ดเวิร์ดรออยู่แล้ว เอ็ดเวิร์ดแน่นอนว่ากำลังหัวหมุน เขากำลังแก้ชุดแซ็กตัวยาวอย่างเร่งรีบแต่ก็ไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมาทักทายมิถุนา มิถุนายิ้มบางๆตอบ ก่อนนั่งลงให้ช่างแต่งหน้าจัดการกับตนเองทันทีโดยไม่อิดออด

เขาได้ยินพี่เพลงถามกับเอเลนถึงบอร์ดี้การ์ดกองทัพใหญ่ที่ตบเท้ากันเข้ามาอารักขาคนรักของแจ็คกี้ หวัง เอเลนเลี่ยงไม่ตอบ เพียงบอกแค่ว่า หากจบงานนี้แล้ว เขาจะอธิบายทุกอย่างเอง

มิถุนาซ้อมเดินอีกรอบตอนบ่ายหลังจากใช้เวลาช่วงครึ่งเช้าเตรียมหน้าผมจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาไม่มีงานติดพันในวันนี้เหมือนนางแบบนายแบบคนอื่นๆจึงเป็นคนแรกๆที่เข้ามาในงาน หลังจากซ้อมคิวเรียบร้อยแล้วและนั่งพักเกือบชั่วโมง เขาก็ต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดแรกที่ใช้สำหรับเดินในวันนี้ มิถุนารับชุดจากเอ็ดเวิร์ด กล่าวขอบคุณ และเดินไปยังห้องแต่งตัวประจำของเขา

เจย์เดินตามมาด้วย เขาเปิดม่านแล้วดันตัวมิถุนาเข้าไปไวๆ โดยก้าวขาตามเข้าไปด้วย มิถุนาประหลาดใจแต่ก็ไม่ว่าอะไร เขาเลิกคิ้วฉงน แต่ก็ยอมให้เจย์แตะต้องตัวเขาแต่โดยดี

เจย์ย่อตัวลงตรงหน้ามิถุนา วันนี้เจ้านายอีกคนของเขาสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์และรองเท้าบู้ทหนัง รองเท้าบู้ทไม่ได้เหมาะกับหน้าร้อนแต่อย่างใด แต่เจย์ก็เป็นคนบอกให้มิถุนาใส่รองเท้าคู่นี้ด้วยตนเอง เขาเอื้อมมือดึงอะไรบางอย่างออกจากด้านหลังกางเกง

"อยู่นิ่งๆนะครับ" เจย์กระซิบ ก่อนที่มีดสั้นขนาดห้านิ้วถูกเสียบเข้าไปด้านในรองเท้าบู้ทด้านขวาอย่างพอดิบพอดี "อาจจะเดินไม่สะดวกหน่อย แต่เผื่อฉุกเฉิน" เจย์บอก
“เอาเข้ามาได้ยังไงน่ะเจย์" มิถุนาเบิกตากว้าง ในเมื่อประตูทางเข้ามีเครื่องแสกนอาวุธและตรวจจับโลหะอย่างเข้มงวด
“ผมมีทริคน่ะ" เจย์ว่ายิ้มๆ
“ขอบคุณนะเจย์" มิถุนารู้สึกเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก ในเมื่อเจย์ห่วงเขามากมายขนาดนี้
“ผมกับวิคคิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราเอาปืนใส่ในกระเป๋ามิแล้ว กระบอกเดียวกับที่ผมเคยสอนมิยิงที่เชียงราย จำได้ไหม?"
"อื้ม"
"แล้วเราก็เพิ่งจัดการกับรองเท้ามิเมื่อเช้า มันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่นะ" เจย์ว่า
“ไม่เป็นไรเจย์ แค่นี้ก็พอแล้ว มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก"
“ผมยังไม่เห็นเสี้ยวชุน" เจย์บอก "เอเลนไปเดินสำรวจห้องอื่นๆมาแล้ว ก็ไม่เจอ"
“เขาอาจจะไม่ได้มา"
“ขอให้เป็นแบบนั้น แต่เรายังวางใจไม่ได้รู้ไหม" เจย์ยิ้มให้กำลังใจ “แต่ผมจะปกป้องมิเอง ไม่ต้องห่วง ให้ผมช่วยแต่งตัวนะ" เจย์เอ่ยขออนุญาต ซึ่งมิถุนาไม่ขัดข้องอะไร
“เอาสิ" เขายิ้มให้เจย์บางๆ







ห้าโมงพอดิบพอดีที่จอมทัพเข้ามาในงานพร้อมกับวิคเตอร์และบอร์ดี้การ์ดอีกชุดใหญ่ที่เคลื่อนตัวไปประจำยังจุดต่างๆทันทีที่เข้ามาถึงในงาน เขาให้สัมภาษณ์นัดข่าวตามมารยาทเล็กน้อย ก่อนขอตัวไปนั่งประจำที่ของตนเองพร้อมกับวิคเตอร์

งานจัดกลางแจ้งในตอนเย็น เวทีใหญ่ถูกตั้งขึ้นกลางลานใหญ่ยักษ์ของศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนั้น ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่แห่งปีที่ผู้จัดลงทุนลงแรงไปเยอะจนแทบไม่อยากคิดถึงจำนวนเงิน เก้าอี้ถูกตั้งเรียงรายพร้อมกับพรมแดงยาวเหยียดที่ปากทางเข้างาน คนดังมากมายตบเท้าเข้าร่วมงานและเดินเฉิดฉายบนพรมแดงกันอย่างคับคั่ง

จอมทัพกวาดสายตาไปรอบๆและประเมินสถานการณ์ เขานั่งนิ่งและครุ่นคิด แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวลใจก็ตามที จอมทัพไม่แน่ใจว่าตนเองควรจะสบายใจดีไหมที่ยังไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ เขาเอนร่างพิงพนัก พลิกมองนาฬิกา งานจะเริ่มในอีกสิบห้านาทีข้างหน้า

พลันแสงแฟลชวูบวาบที่หน้างานก็ได้ดึงความสนใจจากคนในงานไปจนหมดสิ้น จอมทัพขมวดคิ้วยุ่งเหยิง เขาพยายามเพ่งมองคนที่อยู่ท่ามกลางกองทัพนักข่าว แต่ก็ไม่แน่ชัดนัก


“ใครน่ะ" เขากระซิบถามลูกน้อง ซึ่งวิคเตอร์เองก็ไม่มีคำตอบ


เขานั่งอดทนรอจนแสงแฟลชเริ่มสร่างซา จอมทัพเอนกายลงกับเบาะนั่งพยายามใจเย็น แต่ในจังหวะนั้นพลันสายตาเขาก็ถูกตรึงนิ่งไปกับบุคคลผู้มาใหม่ที่เดินมาที่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามของเขา เลือดในกายเย็นเฉียบ วิคเตอร์ซึ่งอยู่ข้างๆกันก็คงรู้สึกไม่ต่างกันไปสักเท่าไหร่ เขากำหมัดแน่น กัดฟันกรอด

เจิ้ง เสี้ยวชุน ควงแขนมากับนางเอกระดับเอลิสต์ของฮ่องกง เขายิ้มทักทายผู้ร่วมงานคนอื่นๆอย่างมืออาชีพ จอมทัพประหลาดใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ขึ้นไปอยู่บนรันเวย์แบบที่ควรจะเป็น แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจและเดือดดาลกว่านั้น คือคนที่มาพร้อมกับเสี้ยวชุน...ไม่ใช่ใครที่ไหน...อาเมน อมรคุปศิลป์ อีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจของเขา...


“นายท่าน...” วิคเตอร์เองก็คอแหบแห้ง แม้จะเลือดร้อนแค่ไหน แต่พอนึกถึงเหยื่อของพวกมันอย่างมิถุนา แต่ละคำที่อยากจะเปล่งออกมาก็ยากเหลือเกิน
“บัดซบ" จอมทัพสบถ เขากำมือแน่น "งั้นที่มิถุนาเห็นเมษาเมื่อวันก่อนนั่น...”
“......”
“มิถุนายังไม่รู้ใช่ไหมว่าเมษาคือคนของอาเมน" จอมทัพถาม เขากัดฟันกรอด
“ครับ เจย์ไม่ได้บอก แม้ว่าจะสืบได้ตั้งนานแล้วก็ตาม"
“เราต้องเอาตัวมิถุนาออกมาก่อน"
วิคเตอร์พลิกนาฬิกาอย่างรวดเร็ว เสียงเพลงกระหึ่มดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของพิธีกร "ไม่ทันแล้วครับ งานเริ่มแล้ว"

จอมทัพนิ่ง เขาเงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองเสี้ยงวชุน ไอ้หมอนั่นนั่งหน้านิ่ง แต่ดูก็รู้ว่ากำลังจ้องมองเขาอยู่ มุมปากยกขึ้นราวกับจะท้าทาย เขานิ่ง...คิด...ถ้าเขาหายไปจากที่นั่งตอนนี้ ไอ้เสี้ยวชุนมันต้องรู้แน่ว่าเขาจะไปไหน


“ติดต่อเจย์เดี๋ยวนี้ อย่าบอกอะไรกับมิถุนา พองานจบเราจะเข้าไปเอาตัวมิถุนาทันที สั่งคนของเราไปปิดทางเข้าออกให้หมด"
“ครับ" วิคเตอร์รับคำหนักแน่น



tbc.


(ต่อกระทู้ด้านล่าง)

owo.balloon

  • บุคคลทั่วไป
 :katai1:อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4


ตอนที่28 - Lost in Hong Kong IV - Dust







ด้านหลังเวทีกำลังวุ่นวายเมื่อสตาฟฟ์กำลังเริ่มนับถอยหลังหกสิบวินาที กล้องวิดีโอตัวใหญ่เคลื่อนถ่ายทำบรรยากาศหลังเวทีที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานปนกดดัน นางแบบบางคนพยายามเต้นตามเพลงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เธอฉีกยิ้มให้กับกล้อง แม้ว่าในใจจะตื่นเต้นมากก็ตามเพราะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่งานเล็กๆเหมือนที่เคยผ่านมา

มิถุนาเป็นคนสุดท้ายที่เดินปิดให้กับแบรนด์ของเอ็ดเวิร์ด คิวของเขาเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของเอ็ดเวิร์ดที่ถูกใจเขาเป็นพิเศษเล็กน้อยก่อนหน้างานเพียงไม่กี่วัน ซึ่งมิถุนาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ถือว่าเอ็ดเวิร์ดไว้ใจในตัวเขา เขาเองก็ดีใจเช่นกัน การปล่อยตัวโมเดลจะปล่อยตัวจากบันไดทางขึ้นทั้งสองฝั่งของเวทีสลับกันไป แบรนด์ของเอ็ดเวิร์ดเป็นแบรนด์ท้ายๆ

เสียงนับถอยหลังเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จากสิบเป็นเก้า เป็นแปด เจ็ด...หก...ห้า...สี่...สาม...สอง และ หมายเลขแรกถูกเรียกขึ้นไปด้านบน เธอเป็นนางแบบยุโรปตัวสูงระหงผอมเพรียวในชุดบิกินีสีสดใสคลุมด้วยเสื้อคลุมตาข่ายถักเป็นลายดอกทานตะวัน เธอก้าวขึ้นเวทีอย่างมืออาชีพ เสียงปรบมือดังกึกก้อง

มิถุนายังคงนั่งอยู่แถวๆหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ให้ช่างแต่งหน้าเช็คเครื่องสำอางของตนเองเป็นรอบสุดท้าย เจย์กำลังคุยอะไรบางอย่างผ่านวิทยุสื่อสารเครื่องเล็กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนเอเลนยืนกระกบเขาไม่ห่าง พลางยิ้มให้กำลังใจผ่านกระจกเงา

“สู้ๆนะครับ"

เขาบอกกับมิถุนาเช่นนั้น มิถุนามองใบหน้าตัวเองที่ถูกแต่งแต้มบนกระจก ก่อนยิ้มบางๆตอบและเป็นการให้กำลังใจตนเองในอีกทางหนึ่ง

หลังเวทีที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความสูงเฉลี่ยกว่าร้อยเจ็ดสิบห้าเดินสับขาไปมา ในที่สุดก็ถึงคิวมิถุนาเสียที เขาลุกขึ้นยืนบนส้นสูงที่เหมือนเป็นอวัยวะที่สามสิบสามของเขา ก่อนเดินไปยืนเรียงคิวที่บันไดฝั่งซ้ายมือรวมกับนางแบบนายแบบคิวอื่นๆ ออแกไนเซอร์จัดการปล่อยตัวโมเดลตามคิว พวกเขาสื่อสารกันด้วยรหัสที่มิถุนาไม่เข้าใจนัก จนกระทั่งตีนบันไดจ่ออยู่ที่ปลายเท้าของเขา

มิถุนาหัวใจเต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเขาตื่นเต้นเรื่องงานหรือว่าเรื่องอะไรกันแน่ สตาฟฟ์คนหนึ่งช่วยเขารั้งชายผ้าขึ้นอำนวยความสะดวกในการเดิน มิถุนาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เป็นลมไปเสียตอนนี้ เอเลนกับเจย์ยังยืนอยู่ในจุดที่หางตาเขามองเห็น มิถุนารู้ดีว่าเมื่อขึ้นไปบนเวทีแล้วเขาไม่มีทางมองเห็นอะไรข้างล่างแน่นอน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปืนจะเล็งเข้าหัวเขาเมื่อไหร่ ที่ตรงไหน

แต่เมื่อตัดสินใจแล้วก็คงต้องทำ เขาก้าวขึ้นไปบันรันเวย์เมื่อสตาฟฟ์ชายหน้าตี๋ยื่นมือมารับเขาเอาไว้ มิถุนาก้าวขึ้นยืนบนส้นสูงพร้อมกับเสียงปรบมือกึกก้องดังขึ้น เขาอยู่ในชุดปิดของคอลเล็คชั่นสุดท้ายของเอ็ดเวิร์ด ชุดลูกปัดสีชมพูเหลือบทองส่องแสงระยับเมื่อต้องกับสปอร์ตไลท์ เส้นลูกปัดไหวไปตามการเคลื่อนตัวของมิถุนา เขาปั้นหน้านิ่งตามคาแรกเตอร์ มองเห็นแค่พื้นตรงหน้าเวที รอบด้านเกือบเป็นสีขาวโพลน เขาได้ยินเสียงเพลงอิเล็คโทนิคดังสะท้อนก้องในหู

ขายาวก้าวยืนบนจุดปลายเวที เสียงปรบมือดังกึกก้อง เขาพยายามมองหน้าจอมทัพ แต่ก็มองไม่เห็นอะไร มิถุนาเม้มปากแน่นก่อนคลายริมฝีปากออกแล้วฉีกยิ้มตามคิวที่ซักซ้อม แสงแฟลชลั่นวูบวาบตรงหน้า เขาถอนหายใจเบาๆก่อนหมุนตัวกลับ ชายกระโปรงพริ้วไปตามแรงเคลื่อนกาย ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะปรากฏตัวออกมาจากด้านหลังเวทีพร้อมกับโมเดลในแบรนด์ทั้งหมด พวกเขาโค้งขอบคุณผู้ร่วมงาน มิถุนาเดินควงแขนกับเอ็ดเวิร์ดไปยังปลายเวทีก่อนยืนให้ช่างกล้องถ่ายรูปเกือบหนึ่งนาที จากนั้นพวกเขาจึงหมุนตัวกลับ พร้อมกับนางแบบจากแบรนด์ถัดไปที่ก้าวขึ้นมาครองเวทีทันที มิถุนายิ้มก่อนแท็กมือกับนางแบบจากอีกแบรนด์ที่เดินสวนทางกลางเวทีเพื่อเป็นการเอนเตอร์เทนคนดู หล่นโน้มตัวหอมแก้มมิถุนาอย่างขี้เล่น มิถุนาหัวเราะเบาๆก่อนก้าวไปตามทางอย่างคล่องแคล่ว

เอ็ดเวิร์ดเดินนำเขาอยู่สามก้าวไปยังทางเข้าด้านในเวที มิถุนายังคงอ้อยอิ้งกับเสียงปรบมือจากคนดูที่ยังไม่หมดไปง่ายๆ และเขาไม่อยากเสียมารยาทกับผู้ชมจึงได้แต่โบกมือให้รอบทิศทาง ก่อนที่จะเชิดหน้าตรงแล้วก้าวเดินอีกครั้ง ขาเรียวก้าวฉับๆเพื่อกลับไปยังหลังเวที เป็นจังหวะเดียวกับที่โมเดลจากอีกฝั่งถูกปล่อยตัวออกมา

ในวินาทีนั้นมิถุนาชะงักแทบเสียหลัก เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาคือใคร เหมือนโชคชะตาเล่นตลก มิถุนาแทบก้าวขาไม่ออกแต่ก็รู้ว่าเขาจะล้มลงตรงนี้ไม่ได้ เขาจำได้ดี แม่นยำ ไม่ผิดตัวแน่ๆ เขาคือคนที่มิถุนาเห็นเมื่อสามวันก่อน...เมษา...เมษาไม่ผิดตัวแน่!

มิถุนาอยากเอื้อมมือไปรั้งตัวเมษาเอาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ เขากลืนก้อนที่จุกคอ กลั้นใจเดินไปจนสุดทาง เจย์กับเอเลนยืนรอรับเขาอยู่ด้านหลังเวที มิถุนาตาพร่า หูอื้ออึง จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรก่อนอะไรหลัง ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เมษามีเหตุผลอะไรที่หายตัวไปจากพวกเขา แล้วจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นบนรันเวย์ เดินสวนทางกับเขา


“มิ เปลี่ยนชุดเลย เราต้องไปแล้ว" เสียงเจย์เหมือนจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เอ็ดเวิร์ดยืนอยู่ข้างๆด้วยสายตาเต็มไปด้วยความกังวลใจ "มิได้ยินไหม"
“เจย์ ผม...” เขาพูดอะไรไม่ออก
“เราต้องไปแล้ว เดี๋ยวนี้เลย" ทุกอย่างผิดแผนไปหมด ตั้งแต่เสี้ยวชุนปรากฏตัวพร้อมกับอาเมนแล้ว ถึงจะเป็นจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะรับมือได้หรือไม่

มิถุนาถูกผลักเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด ผู้ดูแลเครื่องแต่งกายคนหนึ่งเข้ามาช่วยเขาถอดชุดสำคัญออก มิถุนากล่าวขอบคุณระหว่างส่งชุดคืนแล้วรับเสื้อผ้าพร้อมกระเป๋าของตนเองมา เขาลงมือเปลี่ยนชุดด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักผิดจังหวะ เขาสวมเสื้อ กางเกงยีนส์ รองเท้าบู้ทคู่เดิมพร้อมหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ได้ยินเสียงเจย์คุยกับเอ็ดเวิร์ดแว่วๆแบบจับใจความไม่ได้ มิถุนาแง้มม่านออก เขาเห็นเจย์ยืนหันหลังให้อยู่ มิถุนาเอ่ยขอโทษเจย์ในใจ เขาขอเวลาแค่นาทีเดียวเท่านั้น เขาต้องการพบเมษา และจากนั้นเขาจะไปตามทีเจย์บอกทันที

มิถุนาแทรกตัวออกจากม่านแล้วย่องออกมาอย่างเงียบเชียบ เจย์ยังไม่เห็นเขา เขารู้ว่านี่มันบ้ามาก เจย์กับเอเลนกังวลใจจนเนื้อเต้นเขารู้สึกได้ แต่เขาคงได้เลือดบ้ามาจากจอมทัพเยอะพอสมควร มิถุนาเดินไปตามห้องแต่งตัวที่เรียงราย แน่นอนว่าไม่มีใครใช้ห้องแต่งตัวนี้ตอนนี้หรอก งานยังไม่จบลง แต่เขาก็หวังว่าเมษาจะเดินเตร็ดเตร่อยู่แล้วนี้

จู่ๆก็มีมือหนึ่งเอื้อมแทรกออกมาจากห้องแต่งตัวถัดจากเขาไปสามห้องดึงตัวมิถุนาเอาไว้ มิถุนาเกือบหลุดเสียงร้องออกมาดีที่ยั้งตัวเองไว้ทัน เขาถูกดึงหลุดเข้ามาในห้องแต่งตัว ในนั้นมืดเกือบสนิท มีแสงลอดตามผ้าม่านมาเล็กน้อย มีคนอีกคนหนึ่งอยู่ในนั้น มิถุนารู้สึกไม่ปลอดภัยนัก ความกลัววิ่งเข้าครอบงำจิตใจ แต่เขาก็ทำใจแข็งเอาไว้ ก่อนเอ่ยถามออกไปด้วยเสียงสั่นพร่า






“เมษา--- เมษาใช่ไหม?










ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ไฟที่สว่างขึ้นมาก็ให้คำตอบมิถุนาได้อย่างชัดเจน เมษาในชุดลำลองเหมือนกับเขา ใบหน้ายังไม่ได้ลบเครื่องสำอางออกมองตรงมาที่เขา ดวงตากลมคลอน้ำตา


“พี่มิ เมขอโทษ" เมษาเอ่ยในถ้อยคำที่มิถุนาไม่แน่ใจนัก มิถุนาขมวดคิ้วฉงน
“เมขอโทษพี่ทำไม เมเป็นอะไร" มิถุนาถามอย่างเป็นห่วง เขากุมหัวไหล่เมษาแน่น
“พี่มิต้องหนีออกไปจากที่นี่" เมษาละลักละล่ำบอก "หนีไปจากฮ่องกง เดี๋ยวนี้"
“เดี๋ยว พี่ไม่เข้าใจ" มิถุนาขมวดคิ้วมุ่น "เกิดอะไรขึ้น เมเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้"
“เม---” เมษานิ่งงัน ตกอยู่ในห้วงความรู้สึกผิด เขาเม้มปากแน่น ไม่อยากพูด แต่รู้ว่าถ้าไม่บอกไปตอนนี้ มิถุนาคงไม่มีวันทำตามที่เขาบอกแน่ "เมทำงานให้อาเมน"

คำสารภาพที่หลุดออกมาทำให้มิถุนายืนนิ่งอึ้งเหมือนกับถูกแช่แข็ง เขาจ้องหน้าเมษาเหมือนไม่เชื่อ มือไม้สั่นไปหมด แต่มิถุนาก็ยังดึงดันอย่างบ้าๆ


“เม...เมล้อพี่เล่นใช่ไหม"
“เมขอโทษ เมไม่ได้ตั้งใจ เมไม่อยากทำแบบนี้" น้ำตาเมษาไหลพราก เขาเจ็บปวดเหลือเกิน "อาเมนร่วมมือกับคนที่ชื่อเสี้ยวชุนตั้งใจจะกำจัดคุณจอมทัพ พวกเขาต้องการตัวพี่มิเพื่อต่อรอง พี่มิต้องไป ไปเดี๋ยวนี้ หนีไปจากฮ่องกงซะ" เมษาบอกด้วยน้ำเสียงสั่น
“เขา...เขาให้เมทำอะไร" มิถุนาถามเสียงสั่น เมษาหลบตามิถุนานิ่ง “ตอบพี่ก่อนเม เขาต้องการให้เมทำอะไร"
“เขา--- เขาให้เมพาพี่มิไปหาพวกเขา"
“......”
“แต่เมทำไม่ได้พี่มิ พี่มิต้องหนีไปตอนนี้ เดี๋ยวนี้!” เมษาบีบมือมิถุนาแรงขึ้น มิถุนาเริ่มจะจับต้นชนปลายได้มากขึ้น เขารู้สึกหัวใจบีบตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“แล้วเมล่ะ" มิถุนาถามออกมาในที่สุด เมษาไม่ตอบ เขาปิดปากเงียบ
“เมตอบ! ถ้าไม่ตอบพี่ พี่ก็จะไม่ไปไหน" มิถุนาถามเสียงพร่า "ถ้าเมพาตัวพี่ไปไม่ได้ เขาจะทำอะไรเม"
“......”
“เมตอบพี่เดี๋ยวนี้!” มิถุนาเร่งเร้าอย่างร้อนใจ เขามองใบหน้าอาบน้ำตาของเมษา
“เมไม่รู้...ไม่รู้จริงๆพี่มิ"
“เมต้องไปกับพี่" มิถุนาลั่นวาจาในที่สุด เมษาเงยหน้าสบตามิถุนานิ่งอึ้ง
“ปะ---ไปไหน"
“ไปหาคุณจอมทัพกับพี่ เราจะกลับไปด้วยกัน"
“ไม่-- ไม่ได้"
“ทำไมจะไม่ได้ เมเป็นน้องพี่ แค่เมเล่าให้พี่ฟัง แค่เมยอมบอกทั้งหมด พี่จะปกป้องเมเอง เมแค่--- แค่ห้ามโกหกพี่อีก พี่ขอร้อง...” มิถุนาจ้องหน้าเมษาอย่างเว้าวอน เมษาน้ำตาคลอ
“เม---”




ปัง!




เสียงปืนดังขึ้นขัดบทสนทนาพร้อมกับเสียงกรีดร้องจากด้านนอกดังขึ้น มิถุนาสะดุ้งสุดตัวเช่นเดียวกับเมษา จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังโกลาหลจากด้านนอก มิถุนาทำอะไรไม่ถูก เขาได้ยินเสียงเอเลนตะโกนเรียกชื่อเจย์ดังลั่น มิถุนารีบแหวกผ้าม่านออกไปมอง ก่อนยกมือปิดปากแน่น เมื่อเห็นเจย์นอนกุมสีข้างอยู่หน้าห้องแต่งตัวของเขา เอเลนกำลังชักปืนออกมายิงตอบโต้ มิถุนาตกใจมาก เขาไม่คิดว่าเสี้ยวชุนหรืออาเมนจะบ้าบิ่นสั่งยิงกลางงานได้เช่นนี้ จอมทัพเคยบอกกับเขาว่าเสี้ยวชุนเลือดเย็น จอมวางแผน เขาทำทุกอย่างไม่ให้มีอะไรสาวถึงตัวเขาได้ งานนี้ก็ด้วย...เขาสั่งคนของเขาทำเช่นนั้นจริงๆ

มิถุนาตั้งท่าจะเปิดม่านออกไปเผชิญหน้า เป็นจังหวะเดียวกับห้องแต่งตัวของมิถุนาถูกกระชากผ้าม่านจนล้มกระจาย เสียงปืนยิงตอบโต้ดังสนั่นหลังเวที ผู้บริสุทธิ์มากมายวิ่งหนีตายอลหม่าน บ้างก็ก้มตัวหลบอยู่ใต้โต๊ะ เมษาดึงมิถุนาเอาไว้ไม่ให้ทำเช่นนั้น


“พี่มิอย่าออกไป!”
“แต่--”
“อย่าออกไปตอนนี้ พี่มิจะโดนจับตัวไปแน่"
แต่เจย์---”
“เราต้องหนี" เมษาบอกเสียงสั่น "ออกไปข้างนอกให้ได้ พี่มิต้องไปหาคุณจอมทัพ"
มิถุนาน้ำตาคลอเบ้า เขาพยายามรวบรวมสติและพบว่าการทะเล่อทะล่าออกไปในตอนนี้ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแน่นอน เขาทิ้งเมษาไปไม่ได้ เมษาคือน้องของเขา และเขาต้องรอด เขายังต้องมีชีวิตอยู่เพื่อจอมทัพ


มิถุนาน้ำตาริน เขาห่วงเจย์เสียจุกอก เขาไม่อยากเสียเจย์ไป แต่หากเขาตายไปอีกคนก็ย้อนเวลากลับไปทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เขานึกถึงเจย์ ฝ่ามืออุ่นๆที่ช่วยเขาแต่งตัวเมื่อครู่นี้ พลันนึกถึงอะไรบางอย่างที่เจย์ให้ไว้กับเขา มิถุนาเบิกตากว้าง เขาก้มตัวลง ค่อยๆดึงมีดสั้นออกมาอย่างทุกลักทุเล มิถุนามองไปรอบๆ ก่อนพบว่าห้องแต่งตัวรวมถึงกำแพงห้องเต้นท์ติดแอร์หลังนี้ เป็นเพียงแค่ผ้าใบชนิดหนาเท่านั้นเอง

เสียงปืนยังคงดังสนั่นไปทั่ว มันคงจงใจยิงเจย์เพื่อให้ทุกอย่างเหนือการควบคุม เลือกเวลาที่โชว์ยังไม่จบเพื่อที่การอารักขาจะได้ทำได้ไม่เต็มที่ บอร์ดี้การ์ดส่วนหนึ่งยังอยู่ด้านนอกเพื่อลาดตระเวนรอบๆด้วยซ้ำ มิถุนาคิดอะไรไม่ออก ตื้อในหัวไปหมด แต่เขาจะต้องไม่เป็นอะไร เขาสัญญากับจอมทัพไว้แล้ว กระสุนลูกหนึ่งทะลุเข้ามาในห้องแต่งตัวข้ามหัวไป มิถุนากลัวจับใจ เขากลั้นลมหายใจ มือบางปีกมีดลงกับผ้าใบก่อนกรีดมันออกเป็นทางยาวจรดพื้น มันขาด เหลืออีกชั้นหนึ่งที่เป็นชั้นกำแพง มิถุนาปักมีดเข้าไปอีกรอบ เขาใช้สองมือกุมด้ามจับ ก่อนออกแรงกดลงช้าๆ เสียงแหวกม่านห้องแต่งตัวดังเข้ามาเรื่อยๆ มิถุนาเหงื่อแตกพลั่ก ใจเต้นแรงจนมือสั่น อีกนิด-- อีกนิดเท่านั้น เขาดึงมีดออก เสียบมันไว้ในกระเป๋าสะพายลวกๆไม่ใส่ใจว่ากระเป๋าราคาแพงของเขาจะถูกกรีดหรือไม่ เขาใช้สองมือแหวกผ้าใบออก ผ้าใบหนาบาดมือเขาเป็นรอยเลือดซิบ มิถุนาไม่มีแม้แต่เวลาจะร้องด้วยซ้ำ เขาผลักเมษาออกไป ก่อนก้าวขาตามออกไปอีกคน เขาอยู่ด้านข้างของเต้นท์ คนละมุมกับประตูทางเข้าที่คงมีคนดักเอาไว้ มิถุนามองไปรอบๆ ไม่ค่อยมีคน ตรงหน้าคือรั้วกั้น เลยออกไปคือถนนที่มีรถวิ่งและเริ่มติดจากเหตุการณ์จราจล มิถุนาดึงข้อมือเมษาเอาไว้ เขาต้องหนีไปไหนสักที่ แล้วค่อยติดต่อจอมทัพ มิถุนาฉุดมือเมษาออกวิ่งทันที


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2014 22:40:10 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4
ปลายหางตาเหลือบเห็นผู้ชายตัวโตสองสามคนกระโจนออกมาจากรอยแยกที่เขาทำเอาไว้ มิถุนาวิ่งออกไปยังที่หน้างานที่รถติดแน่นขนัด เขาวิ่งพาเมษาไปยังอีกถนนเส้นหนึ่งที่ตัดกันไว้ เขากระโจนลงไปบนถนนอย่างบ้าบิ่น แท็กซี่สีแดงคันหนึ่งเบรกดังเอี๊ยดจนเสียงลั่นถนน เสียงนั้นดังสนั่นจนทำให้ทุกคนต้องหันมาหยุดมอง เช่นเดียวกับผู้ชายตัวโตที่กำลังไล่ล่ามิถุนานั่นด้วย แต่มิถุนาไม่มีเวลาแล้ว เขาควานหาอะไรสักอย่างในกระเป๋า...อะไร...หายไปไหน มิถุนาเม้มปากแน่น ก่อนที่หัวใจจะกระตุกวาบเมื่อสัมผัสความเย็นเยียบของวัตถุบางอย่าง

เขาหยิบปืนขึ้นมา ปืนที่เจย์ใส่เอาไว้ให้เขา มิถุนารู้สึกว่าเขาบ้ามาก บ้าสุดๆและงี่เง่าสุดๆที่กำลังทำอะไรเช่นนี้ แต่เขาต้องทำ มือเขาสั่น น้ำตาเขาก็กำลังจะไหลแล้วด้วยซ้ำ แต่เขาก็ประคองปืนไว้ในมือ ดันเมษาขึ้นไปที่เบาะหลัง เล็งปืนไว้ที่คนขับ เขาสอดตัวเองขึ้นไป ปิดประตูและล็อคมัน มิถุนาพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด


“ขับไป"


ชายวัยกลางคนผู้เป็นคนขับพยักหน้าเหงื่อตก เขาออกรถตามคำสั่งด้วยความกลัว มิถุนาไม่กล้าพิงเบาะ จริงๆแล้วเขาไม่ควรกล้าทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ เมษานั่งอยู่ข้างๆเขา มิถุนาเม้มปากแน่น หันไปมองด้านหลัง เขาเห็นคนพวกนั้นห่างออกไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...แต่แน่นอนว่าอีกไม่นานพวกมันต้องตามมาแน่ มิถุนาไม่รู้จะทำยังไง เขาต้องทำอะไรสักอย่าง

เขาควรกลับไปตระกูลหวัง แต่ระยะทางมันไม่ใกล้เลยสักนิด พวกมันต้องดักอยู่ที่นั่นด้วยถ้ามิถุนาคาดเดาไม่ผิด เขาต้องโดนจับตัวไปก่อนถึงบ้านแน่นอน แล้วเขาควรจะไปไหนดี ไปไหนสักที่ที่เขาจะติดต่อจอมทัพได้ และพวกเขาจะปลอดภัย

จู่ๆเมษาก็ดึงซองอะไรสักอย่างออกมาจากเสื้อแจ็คเก็ต เขาแกะซองออก มิถุนานั่งเงียบจ้องมองดูนิ่งๆ จนกระทั่งเมษาเทของในมือออกมา

เงินดอลล่าร์ฮ่องกงปึกใหญ่ไหลออกมาพร้อมกับสมุดเงินฝาก พาสปอร์ต และกระดาษสีขาวทรงยาว เมษาอ้าปากค้าง...เขาพลิกกระดาษสองใบนั้นขึ้น



“พี่มิ...” เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายเหมือนละเมอ มิถุนารีบดึงกระดาษสองใบนั้นออกมาทันที
“ตั๋วเครื่องบิน...” มิถุนาเม้มปากแน่น "อันนี้ของเม...อ๊ะ...ทำไมมีชื่อพี่ล่ะ" มิถุนาอุทานออกมา เมษารีบชะโงกหน้ามาดูด้วย
“เมเอามาจากไหน" มิถุนาถามละลักละล่ำ เมษาน้ำตาคลอเบ้า
“ก่อนเริ่มงาน อาเมนให้ผมมา" เมษาเสียงสั่น "เขาบอกว่าผมจะเป็นอิสระทันทีที่งานจบ"

มิถุนามึนตึ้บ ชื่อเขาบนบอร์ดดิ้งพาส เขากำลังต้องเดิมพันกับอะไรหรือนี่ กับความเชื่อของเมษาหรือไร...


“เม...เมเชื่อใจเขาไหม"
“อะไรนะครับ...”
“พี่ถามว่า เมเชื่อใจอาเมนไหม" มิถุนาหลับตานิ่ง คลับคล้ายคลับคลาสถานการณ์นี้ เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เหมือนรับรู้ได้ว่าเมษากำลังอยู่ในสถานะอะไรกันแน่ มันเหมือนเขา ย้อนกลับไปในวันวานที่จอมทัพลักพาตัวเขาเอาไว้ มันเหมือนเป็นแค่ความรู้สึกจางๆ แต่เขารู้สึกว่ามันมีพลังรุนแรง ราวกับ...โจรร้าย ที่ตกหลุมรักเหยื่อของตนเอง

“ผม...”

“เมแค่ตอบพี่...” เมษานั่งนิ่ง ก่อนที่จะพยักหน้าออกมาในที่สุด

“มันอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากจะไถ่โทษให้กับผม"


มิถุนาถอนหายใจออกมา เขาลดปืนลง เมื่อคนขับเห็นดังนั้น เขารีบตาลีตาลานหยุดรถตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่มิถุนาไวกว่า เขารั้งไหล่ของคนขับเอาไว้ ยื่นข้อต่อรองอย่างบ้าดีเดือดทันที


“พาผมไปสนามบิน" มิถุนาบอกละลักละล่ำ "ได้โปรด นะครับ ได้โปรด"



ชายวัยกลางคนเหลือบตามองอย่างไม่มั่นใจนัก เขาตั้งท่าจะดิ้นหนีอีกครั้ง แต่มิถุนารู้ดีว่านี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเขา เขาตัดสินใจวัดใจในที่สุด มือบางโยนปืนลงบนเบาะข้างคนขับ เขาปล่อยมือจากตัวคนขับ แล้วเอ่ยเสียงพร่า


“ผมให้ปืนคุณ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณ แต่ผมโดนคนร้ายตามล่า ผมไม่ใช่คนร้าย ได้โปรด เราตกอยู่ในอันตราย" มิถุนาอ้อนวอนอย่างสุดกำลัง "แค่พาเราไปส่งสนามบิน ผมขอแค่นี้ ถ้าคุณอยากได้เงิน" มิถุนาเปิดกระเป๋าเงิน หยิบแบงค์ดอลล่าร์ฮ่องใบใหญ่ที่สุดออกมาสามใบ วางลงบนตักคนขับชรา
“ผมให้ได้มากกว่านี้ ได้โปรด"


ชายวัยกลางคนมองหน้ามิถุนาอย่างชั่งใจ ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา เขาขยับมืออีกครั้ง มิถุนาใจเต้นระส่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้ดีว่าถ้าคนขับแท็กซี่หนีไป เขาจะหมดหนทางอย่างแน่นอน

มือหยาบกร้านวางลงบนเกียร์กระปุกอีกครั้ง ก่อนรถจะกระชากตัวออกสู่ท้องถนน มิถุนายิ้มกว้าง เขาละลักละล่ำขอบคุณแทบไม่เว้นหายใจ กายบางเอนตัวพิงเบาะอีกครั้ง เขาบีบมือเมษาแน่น จ้องตาคนอ่อนวัยกว่า ราวกับให้สัญญาว่าพวกเขาจะต้องปลอดภัย










รถแท็กซี่สีแดงแล่นไปบนท้องถนนมุ่งหน้าไปยังสนามบิน ผู้โดยสารทั้งสองคนยังคงนั่งอยู่ตรงเบาะหลัง พลขับจอดรถลงเมื่อสัญญาณจราจรปรากฏไฟแดงอยู่ตรงหน้า ผู้โดยสารที่เบาะหลังเฝ้ามองไฟแดงอย่างใจจดใจจ่อและร้อนใจ อีกไม่นานนักพวกเขาก็จะถึงสนามบินแล้ว สัญญาณไฟนับถอยหลังลงเรื่อยๆ คนขับออกตัวรถอีกครั้งให้ผู้โดยสารได้ใจชื้น แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถยนตร์สีดำคันใหญ่เบียดแซงคันอื่นข้ามเลนมาปาดหน้าแท็กซี่สีแดงด้วยความเร็ว ชายชราเจ้าของรถเบรคเอี้ยด เสียงปะทะดังก้องกลางสี่แยก ชายชุดดำเดินอาดๆลงจากรถคันใหญ่ มันกระชากประตูเบาะหลังออก เสียงหวีดร้องตกใจดังขึ้นเมื่อปืนถูกจ่อแสกกลางหน้า

คู่รักชาวสวิสเซอร์แลนด์วัยกลางคนตัวเย็นเยียบเมื่อถูกมาเฟียฮ่องกงคุกคาม พวกเขาตัวแข็งทื่อ จับต้นชนปลายไม่ถูก ได้แต่ร้องชีวิตเป็นพัลวัน เช่นเดียวกับคนขับแท็กซี่ที่แทบจะหัวใจวายตาย หลังจากเจอปืนจ่อหัวมาถึงสองครั้งในวันเดียวกัน

ชายชุดดำสบถลั่นเมื่อคนบนรถไม่ใช่คนที่พวกเขาตามหา มันปิดประตูดังโครมแล้วล่าถอยออกมาพร้อมตะโกนสั่งการผ่านวิทยุสื่อสารกันให้วุ่นวาย คนขับแท็กซี่ชราฉวยโอกาสเร่งเครื่องหนีอีกครั้ง พลางสวดภาวนาในใจ เพื่อตัวเอง และเพื่อเด็กหนุ่มสองคนที่เพิ่งกระโจนลงจากรถของเขาไม่เมื่อไม่กี่นาทีก่อน

รถบัสสายA21จอดสนิทหน้าอาคารผู้โดยสาร มิถุนาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เรียกขวัญตัวเองก่อนพาเมษาลงจากรถด้วยความระแวดระวัง โชคดีที่เขาจงใจวิ่งตัดถนนอีกเส้น โชคดีที่ถนนเส้นนั้นโล่งพอที่จะพาเขาหนีจากไอ้พวกนั้นได้ โชคดีที่เมื่อผ่านมาครึ่งทางแล้วสายตาเขาเหลือบไปเห็นรถบัสตามหลังมาอยู่ จอแอลอีดีหน้ารถบอกปลายทางคือสนามบิน เช็ก แล็บ ก็อก มิถุนารีบบอกให้แท็กซี่จอดตรงป้ายรถเมล์ถัดไป เขาพาเมษาปะปนผู้เปลี่ยนขึ้นรถบัส ยอมจ่ายแบงค์ใหญ่สำหรับค่าโดยสารเพราะเขาไม่มีแบงค์ย่อยใดๆ มิถุนาเข้ามาภายใจสนามบิน เขาพอจะจำภายในสนามบินได้บ้าง เคาน์เตอร์ของสายการบินที่เขาใช้เดินทางอยู่ชั้นสองตามป้ายบอกทาง เขาพลิกบอร์ดดิ้งพาสเช็คอีกรอบ ก่อนพบว่าเครื่องกำลังจะออกภายในสามสิบนาทีนี้

มิถุนารีบไปต่อแถวที่ตู้สำหรับเช็คอินออนไลน์ของสายการบินประจำประเทศ ปลายทางบนบอร์ดดิ้งพาสระบุกรุงเทพฯ เขารู้สึกได้ถึงโทรศัพท์ในกระเป๋าที่สั่นอยู่ตลอดเวลา เขาไม่กล้ารับตอนนี้ เขากลัวทั้งการดักฟัง กลัวทั้งจะกระโตกกระตากให้ใครผิดสังเกต มิถุนาปิดระบบอินเนอร์เน็ตทั้งหมด เหลือเพียงแค่สำหรับโทรเข้าโทรออก มือถือเขาโรมมิ่งเพื่อใช้ในต่างประเทศ มันไม่ยากเลยสักนิดที่จะแกะรอยเขาหากมีการเชื่อมต่อเกินสิบห้าวินาทีขึ้นไป เขารู้ข้อนี้ดี เจย์คอยสอนเขาในหลายๆเรื่องที่เป็นเรื่องจำเป็นต่อชีวิตการเป็นคนรักของมาเฟียเสมอ

นึกถึงเจย์ก็น้ำตาคลอเบ้า มิถุนาหยิบมือถือพลิกขึ้นมาดูหน้าจอ เบอร์ของจอมทัพ...เขาอยากรับสายใจจะขาด อยากถามว่าเจย์เป็นอะไรไหม พวกเขาปลอดภัยกันใช่ไหม เขารู้ดีว่าที่เขากำลังทำมันเสี่ยง แต่มิถุนาก็ไม่รู้ว่าจะมีทางไหนที่เขาจะปกป้องคนที่เขาแคร์ได้ดีมากไปกว่านี้ เขาคิดไม่ออกเลย ทำไมกันนะ ทำไมตอนนั้นต้องมีเสียงปืนดังขึ้นด้วย ไม่อย่างนั้น เขาคงวิ่งไปหาจอมทัพ ลากเมษาไปด้วยกัน พวกเขาจะปลอดภัย ถ้าจะมีใครบาดเจ็บ หรือใครต้องตาย มันก็จะไม่ใช่พวกเขา

ไม่ใช่เขาหรือใครๆที่เขารักที่กำลังเอาชีวิตตัวเองมาแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้

มิถุนาพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อส่งบอร์ดดิ้งพาสให้กับพนักงานประจำสายการบินคีย์ลงเครื่อง พนักงานกดสัมผัสหน้าจออยู่สักพักก่อนส่งตั๋วคืนให้มิถุนา พวกเขาไม่มีสัมภาระ การเช็คอินออนไลน์จึงไม่มีปัญหาอะไร พนักงานบอกทางไปยังเกทผู้โดยสารขาออก เขาต้องเดินไปสุดปลายทางของชั้นเดียวกันนี้ ไม่ไกลหรอก อย่างน้อยขอให้เขาได้เข้าเกท

มือถือมิถุนาสั่นอีกครั้ง มิถุนารั้งข้อมือเมษาให้เดินตามกันมา ใบหน้าของรุ่นน้องซีดเผือด มิถุนาเองก็รู้สึกบีบคั้นจนไม่รู้จะทำเช่นไรดี เขากำโทรศัพท์ไว่้แน่น ก่อนตัดสินใจกดรับ เขาดึงให้เมษายืนหยุดตรงหน้าเกท เขามีเวลาสิบห้าวินาทีเท่านั้น แต่นั่นก็อาจจะไม่เป็นไรนัก เพราะเขากำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว ต่อให้พวกนั้นดักฟัง ก็อาจจะตามไม่ทัน


“ฮัลโหล...” มิถุนากรอกเสียงไปตามสาย
(มิ นายปลอดภัยใช่ไหม!? ฉันไม่คิดว่ามันจะกล้ายิงกลางงานแบบนี้ ไอ้เหี้ยนั่น บ้าเอ๊ย! นายไปทำบ้าอะไรที่สนามบินตอนนี้!)
“แจ็คกี้ ผมไม่มีเวลามาก ผมปลอดภัย เราหนีมาได้ ตอนนี้ผมกำลังจะบินกลับกรุงเทพฯ---” มิถุนาละลักละล่ำบอก
(ฉันรู้ ให้ตายเถอะ! ฉันไม่รู้ว่านายจะปลอดภัยไหมบนเครื่องบินนั่น! ฉันกำลังรีบไป---)
“ผมต้องขึ้นเครื่อง ผมมั่นใจ ผมจะปลอดภัย คุณอย่าห่วง" มิถุนาเอ่ยอย่างปลอบประโลม แต่นั่นไม่ทำให้จอมทัพใจเย็นขึ้นเลยสักนิด
(นายได้ตั๋วมาจากไหนกัน!?) จอมทัพถามอย่างเครียดขึง
“เมมีบอร์ดดิ้งพาสระบุชื่อผมกับเขา อาเมนให้มาเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะปล่อยเมษาเป็นอิสระ คุณรู้ใช่ไหมว่าเมษาเป็นคนของอาเมน---” มิถุนาคิดว่ามาเฟียฉลาดเป็นกรดแบบเขาต้องรู้มากกว่าตนเองแน่ เพียงแต่เลือกที่จะไม่พูด
(ฉันรู้! นี่มันบ้าไปแล้ว มันอันตรายเกินไป นายไม่คิดหรือไงว่านี่เป็นแผน ออกห่างจากเมษาซะ)
“แต่ผมเชื่อใจเมษานะแจ็คกี้" มิถุนาท้วงขึ้นทันที รู้ดีว่าในเวลานี้มันเสี่ยงมากๆ "เขาจะไม่ทรยศผมอีกครั้ง"
(มิถุนา นายจะบ้าหรือไง!)
“ถ้าเมษาต้องการล่อตัวผมไปให้พวกนั้น คงไม่ต้องลงทุนมาถึงสนามบินหรอกนะแจ็คกี้ แค่ครึ่งทางผมก็โดนจับตัวไปแล้ว" มิถุนาแย้ง เขาจ้องตาเมษานิ่ง เหมือนต้องการให้เมษาได้ยินทุกคำพูด หัวใจเขาเต้นตึกตัก มิถุนกลัว-- กลัวเช่นกัน แต่ก็อยากจะเชื่อ...เชื่ออีกสักครั้ง
“เชื่อใจผมได้ไหม เหมือนที่ผมเชื่อใจคุณไงแจ็คกี้"
(บัดซบเอ๊ย!) จอมทัพสบถลั่นมาตามสาย (ฉันจะรีบไปกรุงเทพฯตอนนี้เลย ที่สนามบิน นายต้องปลอดภัยเข้าใจไหมมิถุนา!)
“ครับ ผมจะปลอดภัย---”




“พี่มิ!”




กริ๊ก!





ทั้งๆที่เขารับปากจอมทัพไปเช่นนั้นแล้วก็ตามที แต่ตอนนี้มิถุนากลับต้องตัวชาวาบและเย็นเยียบไปทั่วร่าง เมื่อวัตถุสีดำมะเมื่อมถูกจ่อแนบลงกับสะบั้นเอวเขา มิถุนารู้ดีว่านี่ไม่ใช่จอมทัพที่เคยตลบหลังเขากลางจิม ซา จุ่ย ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอะไรใดๆ เสียงกระซิบเย็นเยียบน่ารังเกียจดังขึ้นข้างหูเหมือนต้องการให้จอมทัพที่ปลายสายได้ยินไปด้วย นี่คือของจริง ปืนของจริง




“Hi, Jacky's sweet heart”


“See you again”




...จากศัตรูตัวจริง...








tbc.


สองตอนนะคะ ไม่ได้เช็คคำผิดถี่ถ้วน เหลืออีกสองตอนจะจบแล้ว เดี๋ยวมาต่อให้ค่ะ
ไคลี่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่า


ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
 :z13: :z13: :z13:

จิ้มแล้วไปอ่านโลดดดดดดดดดดดด  :oni1:


โอยยยย อ่านจบแล้วลมจะใส่ แทบต้องกลั้นหายใจอ่านนนนนนนนนนนนนนน
มันค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง

คิดว่าเมไม่ได้หักหลัง อาเมนก็ไม่ได้หักหลังเม แต่อินี่มันสามารถถถถถถถ  :serius2:

แต่มินี่แบบ... ไม่จำเนอะ คราวที่แล้วก็วิ่งไปจนหลง ยังดีจอมทัพมาเจอ คราวนี้อีกรอบ เจอของจริงเลยไง คือไม่เห็นค่าความเป็นห่วงของคนอื่นหรือยังไง ทั้งจอมทัพที่แทบคลั่ง ทั้งเจย์ที่แทบตายแทน เอาจริงๆนะ ไม่ใช่ว่าติดกล้ามาจากจอมทัพหรอก แต่ไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่นนะแบบนี้ ทำไรไม่นึกถึงผลที่ตามมา ว่าจะทำให้ทั้งตัวเองทั้งคนที่รักที่ห่วงเดือดร้อน...หรือถึงตาย...  :เฮ้อ:

กราบงามๆขอบคุณ 2 ตอนรวด... แต่จบตอนแบบนี้ ฆ่ากันเลยเห้อออออออออออ   :z3: :z3: :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2014 21:37:00 โดย ppoi »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มาแล้วมาแล้วไปอ่านก่อนนะ :pig4: :pig4: มาลงให้

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ใครจะช่วยใครกันมิหรือเม :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
มิถุนาทำตัวเอง
ไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญอะไรเลย อ่านมาตลอด เหมือนจะฉลาด รู้วิธีรับมือจัดการอะไรๆ
แต่สุดท้าย ทำไมดูไม่เข้าใจอะไรเลย ทั้งๆที่รู้สถานการณ์ทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่เคารพข้อตกลง ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตามแผน

กลายเป็นเหมือนนางเอกนิยายที่ชอบพาตัวเองเข้าไปหาเรื่อง

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ตอนนี้ลุ้นมากเลยค่ะ อ่านไปหัวใจจะวาย :sad4: :sad4:
ฮืือออออ ขอให้คุณจอมทัพมาช่วยทันนะคะ :sad4: :sad4:

เครียดอ่ะ :z3: :z3:

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
โอ้ยยยยยยยยยยยยยย
ลุ้นนนนนน
มิกับเมอย่าเป็นไรนะ ขอร้องงงงง

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ทำไมมิไม่เชื่อจอมทัพ    :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2014 21:23:40 โดย kongxinya »

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
จิบ้าตายแล้วววววววววว

2 ตอนรวดเดียว แบบว่า มันสั้นไปนะ สั้น ไปปปปปป
คือมันมาก ขนาดไม่ใช่ช่วงบู๊สบั้นหั่นแหลก

อยากอ่านต่อแล้ววววววว

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ akira334

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
รู้สึกหมั่นไส้มิแปลกๆ ทั้งๆที่จอมทัพเตือนแล้ว แต่รู้สึกมิจะมั่นใจในความคิดตัวเองตลอด

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด