ล่ารักหัวใจมาเฟีย | 011114 | ตอนพิเศษ : Falling Slowly | Page 124 |
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

สอบถามความต้องการในการจัดทำหนังสื่อนิยายเรื่อง 'ล่ารักหัวใจมาเฟีย'

ต้องการ (ถ้าทำหนังสือยังไงก็ซื้อแน่นอน)
364 (55.7%)
ยังไม่แน่ใจ (อาจจะซื้อหรือไม่ซื้อ)
269 (41.2%)
ไม่ต้องการ (ไม่ซื้อแน่นอน)
20 (3.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 588

ผู้เขียน หัวข้อ: ล่ารักหัวใจมาเฟีย | 011114 | ตอนพิเศษ : Falling Slowly | Page 124 |  (อ่าน 2271145 ครั้ง)

ออฟไลน์ MRchai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ลุ้นมากเลย เมษาหลอก มิ เหรอ

ออฟไลน์ yakusa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ผิดหวังในตัวมิอ่ะ. สงสารจอมทัพเลย มิงี่เง่า :angry2:

ขอบคุณค่ะ. มาสองตอนติดเลย :L2:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
แล้วก็จนได้ ทำไมไม่ทำตามแผน
ถ้าทำตามแผนอาจมีใครต้องเจ็บตัวบ้าง
แต่ถ้าไม่แยกกับจอมทัพ อาจมีทางรอดมากกว่านี้
เมษาเองก็อาจไม่ได้หลอกมิ คงถูกใช้เป็นเครื่องมือเหมือนกัน
แต่มิเองไม่เอะใจเลยเหรอว่า ทำไมมีการจองตั๋วเครื่องบินของมิด้วย
มันดูจงใจเกินไป

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
โอ๊ยยยยยยยยยยย มันเครียดน๊าาาาาาาา ทำไมมิทำแบบนี้อีกแล้วอ่า
ตลอดๆๆๆๆๆเลย ชอบทำเหมือนเก่งสุดท้ายก็ไปต่อไม่รอดอะ!! พี่แจ็คกี้เราคงใกล้บ้าแล้ว  :ling3:

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ค้างงงงงงง

อย่างแรงเลยอ่ะ

ลุ้นตัวโก่งนึกว่าจะหนีทันแล้ว

เจย์เป็นยังไงบ้างงง

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ poopriow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
คือ อยากช่วยเมษา แลดูเป็นคนดีมากกกก

แต่ลูกน้องตัวเองโดนยิง ปล่อยนอนเจ็บตรงนั้น ไม่สนใจ

อืมมม แล้วไปสนิมเป็นพี่น้องตายด้วยกันได้กับเมษาตอนไหน

สนิทกับเจย์ แต่เลือกพาเมษาหนี ทั้งที่เมษาบอกว่าเป็นคนของศัตรู

เอาความเชื่อใจอันแสนมากล้นนั้นมาจากไหน

เราไม่ชอบตรงนี้ล่ะ

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
สงสารจอมทัพอ่ะ มีเมียแบบนี้ เฮ้อ....

อ่านถึงตอนนี้เรากลับรู้สึกว่ามิถุนาไม่เหมาะกับจอมทัพเลยอ่ะ

ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อ่านแล้วหงุดหงิดมิ มิตอนนี้น่าโมโหน่ารำคาญน่าเบื่อมาก
นี่มิทำอะไรไปรู้ตัวบ้างไหมเนี่ย  :ling1:
จอมทัพก็เคยเตือนแล้ว ยังจะดื้อจนได้ ขัดใจจริงๆ
ได้ความบ้าบิ่นจากจอมทัพแต่หารู้ไม่ว่าตัวเองไม่ได้เก่งจนเอาตัวรอดได้เลย
เป็นไงละ สาแก่ใจหรือยังมิ รอบข้างเธอหัวปั่นไปหมดแล้ว  :katai1:

ปล. ขอโทษที่อินจัด  :katai5:

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4




ตอนที่ 29 : Lose in Hong Kong V - Moonlight













เสียงใบพัดดังกรีดลมเป็นจังหวะอื้ออึงหูไปหมด มิถุนารู้สึกเจ็บที่ข้อมือที่ถูกบีบไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไปหมด มิถุนารู้สึกจนตรอกเข้าแล้วจริงๆเมื่อเขาถูกปืนจี้พาเดินออกไปยังลานกว้างของรันเวย์สนามบิน ชายชุดดำเกือบสิบคนที่เดินคุมเขาราวกับเครื่องจักรไม่เปิดทางให้เขาได้หนี เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ลอยตัวเหนือพื้นดินเพียงเล็กน้อยเตรียมขึ้นสู่น่านฟ้า เสียงท้องฟ้าคำรามดังครืนคราน เหมือนฝนจะตก มิถุนาเองก็ใกล้จะร้องไห้เต็มทีแล้ว

เมษาถูกรั้งให้เดินไปด้วยกันอยู่ไม่ห่าง มิถุนาไม่เข้าใจ ความเชื่อใจที่เคยมีเริ่มสั่นคลอน เมษามองเขาอย่างเว้าวอน ไม่รู้มันหมายถึงอะไรกันแน่ ขอให้ยกโทษให้ หรือขอให้เชื่อใจเหมือนเคย แล้วใครกันที่เขาควรเชื่อ นี่เขาพลาดไปแล้วใช่ไหม

พวกเขาถูกดันตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มิถุนาถูกปืนจ่อคอหอย ล็อคตัวไว้แน่นกับเก้าอี้ สัมภาระของเขาถูกโยนทิ้งไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ เมษาถูกผลักมานั่งข้างๆกัน ก่อนที่เจิ้ง เสี้ยวชุน ผู้ชายน่ารังเกียจในคราบชายหนุ่มแสนดีที่ตบตาคนทั้งโลกจะก้าวขึ้นมานั่งตรงข้ามมิถุนา

เขาแสยะยิ้ม แตะปลายปืนที่คางของมิถุนา ไล้มันอย่างแผ่วเบา มิถุนาเอียงหน้าหนี แต่กลับถูกบิดให้หันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง


“แจ็คกี้ หวัง จะต้องอกแตกตายแน่นอนถ้าได้รู้ข่าวนี้"
“แกต้องการอะไร!?” มิถุนาเค้นเสียงถามอย่างนึกขยะแขยง เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆลอยตัวขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เมษาน้ำตาอาบแก้ม ในขณะที่มิถุนาพยายามกลั้นไว้สุดหัวใจ

เขาเป็นคนรักของแจ็คกี้ หวัง เขาต้องเข้มแข็ง- มิถุนาบอกตัวเองเช่นนั้น

“กำจัดเสี้ยนหนามให้พ้นทางไง" เจิ้ง เสี้ยวชุนกดยิ้มมุมปากลึก "ฉันจะได้เลิกโดนรอบข้าง โดยเฉพาะพ่อของฉัน เปรียบเทียบฉันกับไอ้แจ็คกี้นั่นเสียที ขยะแขยงเป็นบ้า!”

มิถุนาขึงตาใส่อย่างไม่เกรงกลัว เขากำหมัดแน่น

“โดยมี แจ็คกี้ สวีทฮาร์ท เป็นข้อแลกเปลี่ยนไง เข้าท่าดีไหมล่ะ" ท่าทางกวนประสาททำเอามิถุนานึกสะอิดสะเอียน
“ไม่มีปัญญาแล้วหรือไง" มิถุนาเถียงกลับ เจิ้ง เสี้ยวชุนหน้าตึงขึ้นทันที แต่สักพักรอยยิ้มน่ารังเกียจนั่นก็กลับมาบนใบหน้า
“ทำให้ไอ้แจ็คกี้มันทรมานได้มากเท่าไหร่ ฉันก็ประทับใจมากเท่านั้น" เขาเอ่ย "แต่ก็เกือบไม่ได้ตัวนายมาแล้วล่ะ เพราะอะไรรู้ไหม หืม" เขาไล้มือไปยังกรอบหน้าของมิถุนา ก่อนเลื่อนมือไปยังใบหน้าของเมษา แล้วสัมผัสอย่างแผ่วเบา



เพียะ!


ใบหน้าของเมษาสะบัดไปตามแรงมือ มิถุนาอ้าปากค้าง หลุดร้องออกมาอย่างตกใจ แววตาเลือดเย็นของเสี้ยวชุนสะท้อนอยู่ตรงหน้า มันน่ากลัว มิถุนารู้ดีว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา ไม่ใช่คนปกติ เขามันโรคจิต!



“ก็เพราะเด็กหน้าโง่ของอาเมนมันทำแผนพังเสียฉิบ จะพานายหนีน่ะหรือ คิดว่าจะทำได้สำเร็จหรือไง" เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบ มันน่าขยะแขยง อึดอัดหัวใจจนแทบกระอัก "ดีที่ฉันไม่วางใจไอ้เด็กนี้ ไอ้อาเมนนั่นก็ด้วย ไม่ได้เรื่องสักคน ฉันถึงต้องให้คนบุกเข้าไปหลังเวที มือดีที่สุดของฉันเลยนะนั่น หึหึ นายเองก็ซนไม่ใช่เล่นนะ ยังหนีรอดไปได้"
"นายทำร้ายเพื่อนฉัน!” มิถุนาตวาดลั่น เสี้ยวชุนเลิกคิ้ว แล้วยิ้มยียวน
"แล้วไงต่อล่ะ จริงๆนัดนั้นน่ะ เป็นของนายด้วยซ่้ำ"
"สารเลว"
"ฉันชอบคำชมนี้มากเลยล่ะที่รัก" เขายิ้มเยาะมิถุนาที่ทำอะไรไม่ได้ "รู้อะไรไหม ฉันติดเครื่องติดตามไว้กับนาย...เมษา ตั้งแต่วันแรกเลย แต่น่าโง่แบบนาย คงไม่ฉุกใจคิดหรอก" เสี้ยวชุนโน้มใบหน้าเข้าใกล้เมษา ไล้มือไปบนสร้อยข้อมือบนข้อมือเล็ก เด็กหนุ่มตวัดสายตาสู้อย่างไม่เกรงกลัว นั่นทำให้เสี้ยวชุนเลือดขึ้นหน้า เขาตวัดมือเตรียมทำร้ายใบหน้าหวานนั่นอีกรอบ
“หยุดนะ! อย่าทำเขา" มิถุนาร้องลั่น "นายได้ตัวฉันแล้ว ปล่อยเมษาซะ" เขาต่อรอง แต่เสี้ยวชุนกับทำหน้าเหมือนมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ รอยยิ้มขยะแขยงปรากฏบนใบหน้า เขาไหวไหล่
“ฟังดูดีนี่ แต่ไม่ล่ะ" เสี้ยวชุนแสยะยิ้ม "ฉันถูกใจนายทั้งสองคนเลยล่ะ...ที่รัก"










กลิ่นอับชื้นของห้องเก็บของภายใต้เรือขนส่งลอยแตะจมูกทันทีที่มิถุนาถูกผลักเข้าไปในนั้น เครื่องยนต์ของเรือส่งเสียงการทำงานของมันอย่างหนักหน่วงเป็นจังหวะเสียดโสตประสาท เขาได้กลิ่นน้ำมันเครื่องฉุนจัด กล่องนับสิบใบซ้อนทับกันเป็นตั้งๆ ระเกะระกะไปด้วยอุปกรณ์ไร้ค่า ภายในห้องที่กักตัวเขาเอาไว้ไม่มีหน้าต่างสักบาน  มีเพียงบานเกล็ดแตกๆที่ยอมให้แสงน้อยนิดจากด้านนอกลอดเข้ามา หลอดไฟตะเกียบสีเหลืองนวลส่องสว่างติดๆดับๆ ตอนนี้มืดสนิทแล้ว ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆ เรือเหมือนโคลงเคลงไปมาด้วยแรงลมพายุ

เฮลิคอปเตอร์พาเขามายังน่านสมุทรที่ไม่รู้จัก เรือขนส่งของเจิ้ง กรุ๊ป ลอยอยู่กลางท้องสมุทร เฮลิคอปเตอร์ลงจอด มิถุนากับเมษาถูกจับมัดมือไว้แน่นด้วยเชือกหนากับเสาเหล็กที่ค้ำยันห้องเก็บของเอาไว้ มิถุนาพยายามถดตัวเขาหาเสา เขามองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง เขาถูกมัดมือมองไม่เห็นเวลาบนนาฬิกาข้อมือที่สวม ภายใต้ตัวเรือนราคาแพง มีสัญญาณไฟสีฟ้ากระพริบจางๆ เห็นได้จากหางตา

มิถุนาอยากจะปลอบใจตัวเองกับเมษา แต่ก็ไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี เขาเหงื่อซึม อากาศในนี้ร้อนมาก เขารู้สึกว่าตัวเองขาดน้ำ เมษาก็คงเช่นกัน เด็กนั่นคงอาการไม่รู้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้จึงคอพับคออ่อนคล้ายหมดสติไป มิถุนานั่งทบทวนความคิด เขาไม่อยากเชื่ออะไรง่ายๆแล้ว แต่เขาคิดว่าเมษาไม่ได้โกหกเขาจริงๆ แล้วอาเมนล่ะ...

เขาอยากจะเก่งเหมือนเจย์ กล้าหาญแบบวิคเตอร์ และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจอมทัพ แต่มันไม่ง่ายนัก เพราะเขาก็ยังเป็นเพียงแค่มิถุนา คนที่ยังคงต้องให้จอมทัพคอยปกป้อง คนที่วิคเตอร์ต้องคอยตามดูแล คนที่เจย์ต้องคอยตามเอาใจใส่ และเขาโง่มาก ที่ทำอะไรโง่ๆจนต้องโดนจับตัวมาที่นี่ จอมทัพต้องโกรธมาก อาจจะไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้ว แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็สมควร...

ไฟสีฟ้ายังกระพริบจางๆ มิถุนารู้สึกขอบคุณจริงๆที่เสี้ยวชุนไม่เห็นมัน มันคือเครื่องติดตาม เจย์เป็นคนติดตั้งมันไว้ใต้นาฬิกาของเขา ดวงหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองไฟเหนือหัว หอบหายใจเบาๆทางปาก สักพักก็รู้สึกได้ถึงฝ่ามือของใครอีกคนที่ขยับเบาๆ มิถุนาตื่นตัวทันที เขาพยายามเอี้ยวตัวไปหาเมษา แต่ก็ทำไม่ได้


“เม" มิถุนาเรียกชื่อรุ่นน้องแผ่วเบา เมษาปรือตาอย่างยากลำบาก มิถุนากระชับมือเล็กไว้แน่น เมษาตัวร้อนจัด
“พี่มิ...ขอโทษนะ" เสียงแหบแห้งทำเอามิถุนาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เขาเม้มปาก ส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นไร เมไหวไหม" มิถุนาถามกลับ เขารู้สึกได้ว่าเมษาพยายามเบียดตัวเข้าหาเขา ไหล่ของเด็กหนุ่มที่สัมผัสกับแผ่นหลังของเขาร้อนรุม
“เมยังไหว" เมษาตอบทั้งน้ำตา "ขอโทษนะครับที่ช่วยพี่มิไม่ได้" เมษาเอ่ยเสียงแหบแห้งแทบหายไปกับอากาศ
มิถุนาส่ายหน้า กระชับมือเมษาแน่น "ไม่เป็นไรเม เดี๋ยวคุณจอมทัพก็มา"
“แค่เมษาไม่ได้โกหกพี่อีกครั้ง"

เมษาส่ายหัวขวับ เขาเอ่ยเสียงสั่นพร่า "นอกจากเรื่องที่เมเป็นคนของอาเมน เมไม่เคยโกหกอะไรพี่มิเลย เมสาบานได้"

“เมไม่รู้จริงๆว่านี่คือแผนของอาเมนหรือเปล่า ไม่รู้จริงๆ" เมษาน้ำตานองหน้า เขาพูดอะไรไม่ถูก มันทั้งอึดอัดและทรมานอย่างเจ็บปวดกับการโดนหักหลัง "แต่เมเชื่อเขานะ เพราะอะไรไม่รู้ถึงได้เชื่อ แต่เม...”



เมษาส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนแรงและสิ้นหวัง ทั้งๆที่คิดว่าจะให้อภัยกันได้แล้ว ทั้งๆที่คิดว่าจะยอมเชื่อใจสักครั้ง



“เมอย่าร้องไห้สิ พักเถอะ เมตัวร้อนมากนะ" มิถุนาเอ่ยบอกเบาๆ เขาแตะปลายนิ้วรุ่นน้องเบาๆ "เราจะหาทางออกกัน มันต้องมีทางที่เราจะต้องออกไปจากที่นี้ได้"

มิถุนาพึมพำเบาๆ เขารู้ดีว่าจอมทัพจะต้องมาแน่ เขากำลังมา มาช่วยมิถุนา มาปกป้องเหมือนที่ทำมาตลอด อาจจะมาก่อนที่เสี้ยวชุนจะส่งสาส์นท้าไปด้วยซ้ำ

เขาไม่ยอมแพ้หรอก มิถุนาเองก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน







ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4



“สัญญาณขาดว่ะแจ็คกี้ เราตรวจจับอะไรไม่ได้เลย ไม่อยู่บนอากาศ ก็อยู่กลางน้ำ หรืออยู่ในหุบเขาลึก"


เอเลนเม้มปากแน่น ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของตึกสำนักงานตระกูลหวังที่สูงเสียดฟ้าเต็มไปด้วยนักแกะรอย ผู้เชี่ยวชาญด้านสัญญาณ โปรแกรมเมอร์ และผู้คนจากอีกหลายแขนงงานที่ถูกเรียกตัวมาจากทั่วทุกสารทิศ เพียงแค่เหตุผลเดียวคือคนรักของแจ็คกี้ หวัง โดนลักพาตัว จอมทัพจ่ายไม่อั้นเพียงเพื่อแกะรอยสัญญาณได้ จริงๆเขาอาจจะไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ แต่จู่ๆสัญญาณก็อ่อนจนแทบหายไป ติดๆดับๆจนจับแทบไม่ได้ เจย์ที่เป็นคนติดตั้งเครื่องติดตามไว้บนตัวมิถุนากับมือเองก็จนปัญญา มิถุนาน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งที่โดนคลื่นสัญญาณรบกวนอย่างรุนแรง แน่นอนว่าการหาเบอร์ส่วนตัวของเจิ้ง เสี้ยวชุน ไม่เกินความสามารถของเขา แต่จอมทัพรู้ดีว่าถ้าอีกฝ่ายมันเล่นสกปรกได้ถึงขนาดนี้แล้ว การเจรจาคงไม่มีวันได้ผล เพราะสิ่งเดียวที่มันต้องการคือความตายของเขา เขาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้ความเคลื่อนไหว  เขาจึงต้องชิงลงมือก่อนเพื่อความได้เปรียบ


“วันนี้มรสุมเข้าเกาะครับนายท่าน" เจย์เอ่ยด้วยริมฝีปากแห้งผาก เขายังมีผ้าพันแผลพันที่ท่อนแขนของเขา ดีที่เอเลนผลักเขาพ้นวิถีกระสุน ไม่เช่นนั้นคงโดนจุดสำคัญและไม่มีวันได้มานั่งเสนอหน้ารับความผิดอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน

เจย์อ่อนล้า แต่ก็ยังไล่ดวงตามองจอมอนิเตอร์นับร้อยที่ปกติใช้ในเหตุผลการทำงานอื่นๆ ซึ่งสำหรับตอนนี้มันทำหน้าที่เพียงแค่แกะรอยเท่านั้น เขาแทบบ้า รู้สึกผิด กดดัน และอยากจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้ แม้จอมทัพจะไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่เขาบกพร่องมาก มากที่สุดแล้ว เอเลนก็คงรู้สึกเช่นนั้นด้วย เขายังไม่เห็นเอเลนทำอะไรเลยนอกจากนั่งอยู่หน้าหน้าจอ ไม่ดื่มน้ำ ไม่ทานอาหาร ไม่ขยับไปไหน

พวกเขาไม่ได้ประมาท แต่นั่นก็น่าเจ็บใจที่สุด เพราะขนาดไม่ประมาทแล้ว ขนาดที่ว่ารัดกุมแค่ไหน ศัตรูยังบุกมากระตุกหนวดเสือใต้ปลายจมูกได้เช่นนี้ พวกเขาประมาทเองที่คิดว่าเจิ้ง เสี้ยวชุน จะไม่กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ แต่เขาคิดผิดถนัด ผิดสุดๆเลยด้วยซ้ำเพราะมันเอาจริง ไอ้บ้านั่นมันไม่กลัวอะไรด้วยซ้ำ มันเตรียมชิงตัวมิถุนาไป มันสับขาหลอกทำทีเป็นว่าจะขึ้นร่วมงานบนเวทีแต่สุดท้ายก็ไปปรากฏตัวที่หน้างานเพื่อให้พวกเขาที่จ้องแต่จะจับตามองที่หลังเวทีหัวหมุน มันถึงขนาดให้มือดีที่สุดของมันแฝงกายอยู่ในกลุ่มสตาฟฟ์หลังเวที ไอ้มือดีนั่นมันแตะตัวมิถุนาที่บันไดทางขึ้นแล้วด้วยซ้ำพวกเขายังไม่รู้สึกตัวเลย! และถึงแม้ว่าสุดท้ายเอเลนจะเล่นงานมันเสียแทบปางตาย แต่พวกเขาก็ช่วยมิถุนาไม่ได้

เจย์มองหน้าวิคเตอร์ หมอนั่นเองก็เครียดขึงจนดูโทรมไปถนัดตา ส่วนนายท่านของเขาแทบไม่ต้องพูดถึง แทบจะกลายร่างเป็นปีศาจร้ายได้ทุกวินาทีที่ต้องอดทนรอ

จอมทัพนึกถึงเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน เสียงของไอ้เสี้ยวชุนนั่น และเสียงของ...มิถุนาของเขา เขากำหมัดแน่น ตลอดคืนนี้เขาแทบไม่ได้พักเลยสักวินาที เขาโกรธมิถุนาที่ทำบ้าบิ่นแบบนั้น แต่ให้ตายเถอะ...โกรธแค่ไหนเขาก็อยากได้มิถุนามาอยู่ข้างๆเขาเหมือนเดิม เขาเดินไปเดินมา รอคอย...รอคอยอะไรก็ได้ที่ดูจะมีความหวังที่สุดสำหรับเขา


“รอพรุ่งนี้เช้ามรสุมคงหมด---” เอเลนพยายามช่วย
“ช้าไป ฉันรอถึงตอนนั้นไม่ได้หรอกนะเอเลน!” เสียงทุ้มตวาดลั่น ทั้งห้องเงียบงัน เขาหอบหายใจถี่รัว เขาอยากจะร้องไห้ อยากจะตายๆไปด้วยซ้ำจะได้ไม่ต้องทรมานกับการรอคอยหรือความสิ้นหวังเช่นนี้ เขาอ่อนแอจริงๆ จอมทัพรู้ตัวมานานแล้ว และยิ่งเวลานี้ เขารู้ดี...เขาไม่ใช่มาเฟียที่ยิ่งใหญ่อีกต่อไป ไม่ใช่อีกต่อไปโดยเฉพาะในเวลาที่ไม่มีมิถุนาอยู่ข้างๆเขาเช่นนี้
“ขอโทษจะแจ็คกี้ ฉันทำได้ไม่ดีพอ" เอเลนถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาหลุบตานิ่ง เป็นท่าทางของเพื่อนรักที่จอมทัพไม่ได้เห็นมานานแล้ว

มาเฟียหนุ่มถอนหายใจออกมายาวๆ เขาพยายามข่มจิตข่มใจให้สงบ...เข้าวันใหม่แล้ว พวกเขานั่งอยู่หน้าจอมาเกือบสี่ชั่วโมงและไม่ได้กินอะไรเลยทั้งนั้น



“ไม่มีทางเป็นที่บ้านมันแน่ คนอย่างเจิ้ง เสี้ยวชุน มันไม่ทำอะไรให้แปดเปื้อนตระกูลมันหรอก" จอมทัพกำหมัดแน่น
“โกดังสินค้าของมันล่ะ" เอเลนถามขึ้น
“เป็นไปได้ แต่ทั้งนายและคนของเราก็ไปตรวจดูโกดังของมันแทบทุกที่ตลอดหลายชั่วโมงนี้แล้วนะวิค ไม่มีวี่แววอะไรเลย" เจย์พึมพำ "แต่มันสารเลวและโรคจิตกว่านั่นแน่วิค มันต้องไปในสักที่ สักที่ที่มันคิดว่าจะล่อเราไปจนมุม ติดกับมัน ที่ๆมันจะได้เปรียบเราอย่างแน่นอน"
“แค่มันมีมิถุนามันก็ได้เปรียบเราที่สุดแล้วนะเจย์ ฉันยอมหมดทุกอย่างแล้ว ขอให้มิปลอดภัยเถอะ" วิคเตอร์กุมขมับนิ่ง เขาแทบเป็นบ้าแล้ว ทั้งๆที่เขาคือวิคเตอร์ที่คอยตามติดมิถุนาทุกฝีก้าวมาตลอด คอยปกป้อง คอยเป็นเพื่อนคุย จริงๆแล้วเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรเช่นนี้กับ 'งาน' ของเขาด้วยซ้ำ แต่มิถุนาคือ 'เพื่อน' คือคนที่เปิดใจให้กับเขาก่อน คนที่พร้อมจะฟังและทำสิ่งดีๆกับคนทุกคนรอบตัว

“เดี๋ยว!” เสียงเจย์ดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย "เจอแล้วครับ"


เสียงของเจย์ทำให้ทุกคนที่นั่งนิ่งอย่างอ่อนล้า ผุดลุกขึ้นทันที จอมทัพเป็นคนแรกที่ถลาเข้าหาคนสนิท เขากวาดตามองไปบนหน้าจอ เจย์เลื่อนแผนที่พิกัดบนหน้าจอก่อนขยายเจาะลงไป


“น่านน้ำฮ่องกง--- เรือขนส่ง ต้องเป็นเรือขนส่งของเจิ้งแน่ๆ" เอเลนร้องออกมา "เอาเลยไหมแจ็คกี้" เขาแสยะยิ้ม ไม่ได้รู้สึกดีใจขนาดนี้มานานแล้ว

จอมทัพไม่ตอบ เขาจ้องมองแผนที่บนหน้าจอนิ่ง หัวใจเต้นแรง เขารู้สึกเหมือนว่าปืนคู่ใจบนอกซ้ายของเขากำลังร่ำร้องและมีชีวิต


“เจย์ ตรวจสอบได้ไหมว่าเรือบรรทุกอะไร" จอมทัพถามนิ่งๆ
“ได้ครับ" เจย์รับคำทันที
“วิคเตอร์ เตรียมคนของเราให้พร้อม" หางคิ้วขวามาเฟียหนุ่มกระตุก ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในนั้นราวกับจะให้มันทะลุลงไป "ระเบิดมัน เผามันให้ราบเป็นหน้ากอง"













เนื้อตัวเหนียวเหนอะจนรู้สึกไม่สบายตัว มิถุนาตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวันด้วยอาการมึนหัว จริงๆก็ไม่ใช่เช้า ฟ้ายังมืด เขานอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เขาคอแห้งผาก ร้อนไปทั้งตัว มิถุนาเงยหน้าขึ้นพยายามโกยอากาศเข้าปอด เขามองไปด้านนอก ท้องฟ้ายังอมสีทองจางๆ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น อย่างน้อยก็อีกสองชั่วโมง

มิถุนาขยับตัวเล็กน้อย เจ็บข้อมือที่โดนเสียดสีไปหมด แรงขยับทำให้เมษาตื่นขึ้นบ้าง รุ่นน้องหนุ่มไอแห้งๆออกมา


“เป็นไงบ้างเม" มิถุนาถามเบาๆ เมษาไอจนตัวโยนก่อนส่ายหัว
“ยังไหวครับ"
“อดทนหน่อยนะ" มิถุนากระซิบบอก ก่อนที่จะชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังอยู่ด้านนอกห้อง เขาถัดตัวนั่งตรง เม้มปากแน่น ดวงตาจ้องไปที่ประตูเขม็ง

เสียงกุกกักดังอยู่ด้านนอก มิถุนาเกี่ยวมือเมษาไว้แน่น หลอดไฟตะเกียบบนหัวสว่างแวบๆไม่เสถียรเท่าไหร่นัก เขารอคอยจนกระทั่งลูกบิดประตูถูกหมุนออก ก่อนที่บานประตูจะถูกผลักเข้ามาเรื่อยๆ

รอยยิ้มน่ารังเกียจแสยะอยู่ตรงหน้า เจิ้ง เสียวชุน เดินเข้ามาด้วยท่าทีสบายๆพร้อมกับลูกน้องอีกสองคน เขากวาดตามองนักโทษสองคนตรงหน้า ล้วงกระเป๋ากางเกงทำท่ายียวน มิถุนาเงยหน้าจ้องตอบอย่างไม่หวาดกลัว ก่อนที่อีกฝ่ายจะย่อตัวลงมาตรงหน้า แล้วบีบปลายคางเขาเอาไว้


“อรุณสวัสดิ์ สวีทฮาร์ท" คำทักทายฟังดูน่าอาเจียน มิถุนาเม้มปากแน่น เบือนหน้าหนีสุดกำลัง "ดูท่าแจ็คกี้ หวัง จะทิ้งนายเสียแล้วกระมัง" น้ำเสียงกวนประสาททำเอามิถุนาแทบกระอัก
“เขามาแน่"
“งั้นหรือ" คิ้วข้างหนึ่งถูกเลิกขึ้น เจิ้ง เสี้ยวชุนยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ "ฉันกลัวว่านายจะตายไปเสียก่อนเลยเอาน้ำมาให้"
“......” มิถุนาเอียงหน้าหนี
“ขอร้องฉันสิ"
“ไม่!” มิถุนาแทบไม่ต้องคิดเลยสักนิด
“แน่ใจหรือ" เสี้ยวชุนหัวเราะเบาๆ
“ทุเรศ!” ริมฝีปากอิ่มก่นบริภาษออกไป นั่นทำให้เสี้ยวชุนชะงักกึก แววตาเขาลุกโชนเหมือนมีไฟปะทุอยู่ข้างไหน ไม่ทันให้มิถุนาได้ตั้งตัว เขาโน้มริมฝีปากเข้าบดขยี้ปากมิถุนาแทบจะทันที นายแบบหนุ่มดิ้นพล่าน ไม่ยอมแพ้ เขากัดปากเสี้ยวชุนไปแรงๆหนึ่งทีจนฝ่ายนั้นร้องลั่น มิถุนาได้กลิ่นคาวเลือดในปากเขา ในวินาทีเดียวกับที่ซีกแก้มซ้ายถูกฟาดอย่างแรงด้วยหลังมือของคนตรงหน้าจนหน้าหัน

หน้าชาทั้งแถบ แต่มิถุนาเจ็บน้อยเสียยิ่งกว่าที่โดนคนตรงหน้าทำเรื่องทุเรศด้วย


“เก่งนักก็ให้มันรู้ไป แล้วจะคอยดู" เจิ้ง เสี้ยวชุน ผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห เขาสะบัดตัวเดินออกไปอย่างเสียอารมณ์ ประตูเหล็กบานใหญ่ถูกปิดลงอีกครั้งดังโครมจนหลอดไฟและเพดานสั่นสะเทือน เขาได้ยินเสียงเหล็กกระทบกัน กลอนถูกลงแน่นหนาอีกครั้ง แน่นอนว่ามันต้องมีคนยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าแน่ๆ


“พี่ิมิเป็นอะไรไหม" เมษาเอ่ยถามอย่างตกใจ มิถุนากล้ำกลืนความเจ็บปวดนั่นก่อนปฏิเสธ
“เราต้องหนี"
“จะ...จะไปยังไง" เมษากวาดตามองรอบๆ เขาแทบไม่เห็นทางออกอะไรเลย แถมยังอยู่กลางน้ำอีกต่างหาก
“ไม่รู้ พยายามก่อน" มิถุนาน้ำตาคลอด้วยความโกรธ โกรธทั้งตัวเองที่ดื้อดึง โกรธทุกอย่าง เขาแค่พยายามจะไม่เป็นตัวถ่วงของจอมทัพ พยายามที่จะหาทางออกที่ดีที่สุดโดยลืมไปว่าเขาไม่มีกำลังมากพอที่จะทำเช่นนั้นได้ เขาคิดว่าตัวเองจะช่วยเรื่องนี้ได้ แต่เขากลับสร้างแต่เรื่องวุ่นวายให้กับจอมทัพ จอมทัพจะถอดใจกับเขาไหมนะ ถ้าเขายังอยากจะอยู่สร้างปัญหาให้มาเฟียหนุ่มไปเรื่อยๆตลอดชีวิตเช่นนี้

เขาไม่รู้อะไรเลย ทำไมเขาถึงได้คิดอยากช่วยเมษาเสียจนขนาดนี้กันนะ มิถุนาเกลียดความใจดีของตัวเองขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ เขาไม่ได้อยากอวดดี ไม่ได้อยากอวดฉลาด ไม่ได้อยากสร้างปัญหา เขาไม่อยากเอาแต่พึ่งพาจอมทัพไปเสียหมดทุกเรื่อง

แต่เพราะความใจดีของเขาไม่ใช่หรือไง ที่ทำให้เขายกโทษให้จอมทัพ ทั้งๆที่จอมทัพร้ายใส่เขาสารพัด เขายกโทษให้ เพื่อที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน


มิถุนานั่งคิด เขาขยับปลายเท้าไปมาเบาๆ ด้านนอกเริ่มมีแสงรองๆแล้ว ฟ้ากำลังสว่าง จะหนียังไงดี และจะหนีไปได้ยังไงกัน

แต่ระหว่างที่หยุดคิด เสียงเมษาก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา


“พี่มิจำได้ไหม"
"หืม"
"ตอนที่เมโทรไปหา ขอให้สละงานให้เมน่ะ เมไม่อยากให้พี่มิมาฮ่องกงจริงๆ" เมษาเสียงสั่นพร่า "แต่เมก็ไม่กล้าบอกความจริง ถ้าบอกไป พี่มิคงจะเกลียด ครอบครัวเมก็คงไม่ปลอดภัยแน่ๆ"
มิถุนาหัวใจหนักอึ้ง เขาหลับตาลงช้าๆ...
“จำได้สิ เพราะพี่คาใจมาตลอด ว่าทำไมเมษาทำแบบนั้น" มิถุนาตอบเบาๆ "แต่พี่ก็เชื่อว่าเมคงกำลังเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง พี่เลยพยายามติดต่อเม ตอนที่เห็นเมในฮ่องกง พี่ก็ลืมตัว วิ่งตามเมไป"
“......”
“น่าโมโหตัวเองชะมัด ทำไมพี่ถึงได้เป็นคนน่ารำคาญแบบนี้นะ"
“พี่มิใจดีเกินไปรู้ตัวไหม"
“ใครๆก็บอก" มิถุนาแค่นยิ้ม “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะที่ทำแบบนี้น่ะโง่ไหม ทำเรื่องบ้าๆ วิ่งออกจากที่ๆปลอดภัยกว่า ทำให้จอมทัพเป็นบ้าเป็นหลัง จนโดนจับตัวแบบนี้น่ะ มันอาจจะดูโง่นะ เรารู้จักกันไม่นานนัก แต่พี่เชื่อใจเมจริงๆ เหมือนที่พี่เคยคิดจะเชื่อใจคุณจอมทัพสักครั้งหนึ่งนั่นแหละ"

“พี่คงเป็นเด็กดื้อสำหรับเขาจริงๆ แต่พี่ก็คิดไว้แล้วแหละ รู้อะไรไหม ตอนที่โดนปืนจ่อน่ะ พี่กลัวนะ แต่มันไม่มากอย่างที่คิด อาจจะเพราะพี่คิดอยู่เสมอว่า ว่าถ้าพี่ตายไปแต่ขอให้จอมทัพยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่เป็นไร คิดแบบนี้มันเห็นแก่ตัวมากๆเลยสินะ"

“วินาทีที่วิ่งออกมานั่น พี่คิดตลอดนั่นแหละ ว่าจะอยู่รอความช่วยเหลือจากเอเลน หรือหนีออกมาให้ได้ ถ้าหนีออกมาได้ พี่จะไปหาจอมทัพให้ได้ แต่ถ้าหนีไม่รอด ก็คงโดนจับ" มิถุนาหัวเราะขื่นๆ "แต่ยังไงก็คง...ถูกจับอยู่ดี"

“พี่มิคิดไหมว่าจะถูกจับจริงๆน่ะ" เมษาถามทั้งน้ำตา เขารู้สึกผิดอยู่เต็มอกจนแทบไม่อยากจะถามอะไรอีกแล้วด้วยซ้ำ
“คิดสิ แต่พี่ก็คิดแบบโง่ๆที่สุดเลยนะ ว่าถ้าถูกจับมาจริงๆ พี่ก็อยากจะให้เป็นครั้งสุดท้าย และเรื่องทุกอย่างจะได้ยุติลงเสียที"


มิถุนานั่งนิ่ง รสชาติคาวเลือดปร่าๆยังอวลอยู่ในปาก เขายืดขาออก มีดสั้นที่เจย์ให้มายังอยู่ที่บู้ทข้างเดิม เขาพยายามตะแคงตัวเพื่อดันซิปออก ถ้ามีมีด อย่างน้อยเขาอาจจะตัดเชือกได้ เขาใช้ปลายขาอีกข้างพยายามดันมันลง แต่ก็ดูจะไร้ผล เขาเพิ่งสำนึกตอนนี้ว่าเขาอ่อนแอเหลือเกิน อ่อนแออย่างช่วยไม่ได้จริงๆ

เสียงปลายเท้าดังขึ้นที่หน้าประตูอีกครั้ง พร้อมกับเสียงกุกกักที่ลูกบิด มิถุนาหยุดการเคลื่อนไหวของเขาแล้วนั่งนิ่ง นิ่งจนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง กลิ่นน้ำมันเครื่องฉุนจมูก เขาจ้องที่บานประตูตาไม่กระพริบ ถ้าเสี้ยวชุนกลับมาอีก มันจะทำอะไรเขาอีกนะ มิถุนาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ

บานประตูถูกผลักออกอีกครั้ง เขาแทบหยุดลมหายใจ หลอดไฟตะเกียบเหนือหัวยังคงติดๆดับๆ และมันก็ดับลงไปในที่สุด ประตูถูกเปิดออกกว่าง และแสงด้านนอกก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก มิถุนาเริ่มถอดใจ แต่ในขณะนั้นเมื่อบานประตูถูกปิดลง ไฟสีเหลืองนวลจางๆก็สว่างวาบขึ้นอีกครั้ง มิถุนาเบิกตาโพลง หัวใจเขาเต้นแรง เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมาอีกครั้ง...




“วิคเตอร์!”










tbc.







(อ่านต่อด้านล่างนะคะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4




ตอนที่ 30 : Lost in Hongkong VI - Fire









ดวงตาของมิถุนาฉายแววดีใจอย่างปิดไม่มิด เขาเห็น...เห็นผู้ชายตัวโตร่างกำยำในชุดสูทคุ้นตายืนอยู่ตรงหน้า เขาสะพายปืนกระบอกใหญ่ ก่อนถอนหายใจออกมาสั้นๆเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าปลอดภัย มิถุนาครางชื่ออีกคนออกมาเบาๆ วิคเตอร์พยักหน้ารับก่อนยกนิ้วแตะริมฝีปาก เขาหยิบมีดสั้นออกมา แล้วตัดเชือกขาดภายในเวลาอันรวดเร็ว


“โอเคอยู่ใช่ไหมมิ เดินไหวนะ" วิคเตอร์ถาม มิถุนาพยักหน้า ก่อนที่วิคเตอร์จะก้มลงไปตัดเชือกให้เมษาอีกคน
“ไหว" มิถุนามีคำถามอยู่เต็มหัวไปหมด "วิครู้ได้ยังไงว่าเป็นที่นี่" มิถุนาถาม เขาถูกประคองตัวให้ลุกขึ้น
“ผมมาทางเรือ สอยพวกมันที่เฝ้าเวรอยู่ทางทิศตะวันออก แล้วก็ปีนขึ้นมา" วิคเตอร์ตอบเร็วๆ
“แล้วแจ็คกี้ล่ะ...”
“ไม่ต้องห่วง นายท่านจะมาถึงแล้ว" วิคเตอร์ยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่มิถุนาไม่ค่อยได้เห็น มันดูเหี้ยมโหดอย่างไรไม่รู้ "เราจะเอาคืนให้สาสมเลยล่ะครับไม่ต้องห่วง"
มิถุนาเม้มปากแน่น เขาช่วยดึงเมษาให้ลุกขึ้น วิคเตอร์หยิบปืนพกออกจากด้านในสูทแล้วส่งให้มิถุนา
“เก็บไว้กับตัวครับ"
“เดี๋ยว...แล้วเมษา พาไปด้วยกันได้ไหม" มิถุนาเอ่ยปาก เขาจ้องมองรุ่นน้องที่ยังคงยืนหน้าซีดอยู่ข้างๆ
วิคเตอร์นิ่งชะงัก ก่อนปรายตามองเด็กหนุ่ม เขากระชับข้อมือมิถุนาแน่น
“เราไม่รู้ว่าใครคือมิตร ใครคือศัตรู" วิคเตอร์เอ่ย แล้วปรายตามองเมษา "ต่อให้เขาถูกจับอยู่กับคุณแบบนี้ก็ยืนยันอะไรไม่ได้"


มิถุนาได้ฟังดังนั้นก็คอตก นั่นทำให้วิคเตอร์ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ


“คนของผมคงพอช่วยได้ แต่อย่าลืมว่าผมมีหน้าที่ปกป้องคุณคนเดียวเท่านั้น มิถุนา" เขาตอบ "คิดถึงตัวเองให้มากๆได้แล้วนะมิ"


มิถุนาไม่ตอบ แต่ความเงียบก็คือการยอมรับ วิคเตอร์ดึงมิถุนาประชิดตัว เขาผลักเมษาออกไปก่อนแล้วเปิดประตูบานใหญ่ออก ด้านนอกมีบอร์ดี้การ์ดอีกสามคน คนของเจิ้ง เสี้ยวชุน สองคน นอนเลือดนองอยู่หน้าประตู มิถุนาเมินหน้าหนี แต่ก็รู้ดีว่าไม่ใช่เวลามาเห็นอกเห็นใจใครแล้ว วิคเตอร์ค่อยๆพามิถุนาออกไปด้านนอก ทางเดินแคบๆภายใต้ท้องเรือเต็มไปด้วยกลิ่นเครื่องยนต์ สุดทางข้างหนึ่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่ด้านนอกยังคงสลัวๆอยู่ ปลายทางอีกข้างคือทางเดินเชื่อมต่อที่มองไม่เห็นทางสิ้นสุด วิคเตอร์พาเขาเดินไปทางนั้น ก่อนหยุดลงตรงหน้าบันไดเกรอะสนิมที่ต้องปีนขึ้นไป เขามองทางอย่างระแวดระวัง ก่อนแนบตัวเข้ากับกำแพงนิ่ง มีลูกเรือคนหนึ่งเดินตัดไปอีกทางพร้อมผิวปากหวือ วิคเตอร์รอจนมันเดินผ่านไปแล้วจึงโหนตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

มือซ้ายของจอมทัพส่งมือมาให้กับมิถุนาที่อยู่ด้านล่าง นายแบบหนุ่มเหนี่ยวตัวขึ้นแล้วปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว วิคเตอร์รับเขาเอาไว้ ตามด้วยคนอื่นๆ พวกเขาขึ้นมาอยู่บนชั้นที่เต็มไปด้วยห้องต่างๆมากมายและทางเดินที่ตัดกันไปมา กลิ่นน้ำมันเครื่องยังฉุนจัดอยู่ที่ปลายจมูก มิถุนาแสบจมูกไปหมด เขาเกี่ยวแขนวิคเตอร์ไว้แน่น สาวเท้าตามกันไปอย่างช้าๆ มือซ้ายหนุ่มกระซิบบอกเบาๆ

“เราต้องไปอีกฝั่ง เรือจอดรออยู่ที่นั่น" เขาบอก "นายท่านต้องการให้คุณปลอดภัยก่อน จะได้จัดการอะไรๆได้อย่างไม่กังวลใจ คุณต้องไปอยู่ในที่ปลอดภัย"
"แล้วแจ็คกี้จะเป็นอะไรไหม" มิถุนาละลักละล่ำถาม
"นายท่านไม่เป็นอะไรแน่ครับ" วิคเตอร์บอก ราวกับเดาใจมิถุนาได้ "แล้วมิก็เลิกคิดว่าตัวเองทำให้นายท่านต้องมาเสี่ยง มิต่างหากที่ตกอยู่ในอันตรายเพราะศัตรูของนายท่าน ทั้งๆที่มิก็เลือกชีวิตได้เองทั้งหมด แต่มิก็ยังเลือกนายท่าน เพราะงั้นเลิกโทษตัวเองเถอะครับ ไม่ว่าวันไหน จะเร็ว จะช้า พวกเราก็ต้องปะทะกัน" มิถุนาน้ำตาคลอก่อนพยักหน้ารับ หัวใจเต้นแรง เขาพยายามเรียกความกล้าให้ตัวเอง ทางเดินมืดสลัวไปหมด เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วิคเตอร์เยี่ยมหน้าออกไปจากมุมกำแพงเพื่อดูทางสะดวก เขาเล็งปืนพกออกไปจนสุดแขน ก่อนที่ร่างใหญ่จะรีบพลิกตัวกลับมา

“ไปครับ เร็ว" เขาดึงมิถุนาให้เดินตาม มิถุนารีบสาวเท้าตามไปอย่างไม่อิดออด พลันก็นึกถึงใครบางคนขึ้น เขาไม่รีรอจะเอ่ยปากถามวิคเตอร์แทบจะทันที

“เดี๋ยววิค...แล้วเจย์ล่ะ เจย์เป็นไงบ้าง" มิถุนาถาม หัวใจเต้นรัวถี่
“เจย์ปลอดภัยครับ อย่าห่วงเลย" มิถุนาได้ยินคำตอบดังนั้นก็โล่งใจ
“ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆวิคที่ผมดื้อดึงขนาดนี้ ถ้า...”
“ถ้าไม่ใช่เจย์ที่โดนยิง ก็เป็นคุณน่ะมิ" วิคเตอร์กระซิบตอบ "คุณไม่ผิดหรอก ไม่มีใครโกรธมิ เราแค่อยากให้มิปลอดภั---- บัดซบ!!!”




พวกเขายังก้าวไม่พ้นทางเดินหัวมุมเลยด้วยซ้ำ วิคเตอร์ก็เป็นอันต้องได้ชะงักและหยุดปลายเท้าเอาไว้ตรงนั้น เมื่อเขาพบว่าคนที่กำลังเดินมาพร้อมบอร์ดี้การ์ดชุดใหญ่คือใคร เขาสบถลั่น อะดรีนาลีนหลั่งอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นตระหนก มือซ้ายรีบดันตัวมิถุนาหลบด้านหลังตนเอง ก่อนยกอาวุธขึ้นเล็งตรงหน้าทันที เพียงแต่เขาก็ยั้งมือไว้ได้ทันก่อนลั่นไก หลังจากประเมินแล้วว่าพวกมันมีมากกว่า




ไอ้อาเมน!




ลูกน้องของฝ่ายตรงข้ามหยิบปืนขึ้นมาสวนแทบจะทันทีราวกับจะการันตีว่าหากมีกระสุนสักลูกหลุดรอดมา พวกเขาก็เตรียมจะตอบโต้อย่างสาสม อาเมนดูชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มยืนประสานสายตากับวิคเตอร์อย่างไม่ลดละ เขาหยุดอยู่ตรงหน้าวิคเตอร์ ห่างไปประมาณยี่สิบก้าวเท่านั้น ในมืออาเมนไม่มีอาวุธอะไร เขากวาดสายตามองอยู่อย่างนั้น ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่เมษา แต่ก็เพียงครู่เดียว แล้วก็ละสายตาออก

สักพักรอยยิ้มยียวนก็ปรากฏอยู่ที่มุมปาก ชายหนุ่มก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่วิคเตอร์ก็เร็วไม่น้อยไปกว่ากัน เขาเล็งปืนตามแล้วตั้งท่าจะกระโจนใส่ทันที นั่นทำให้อาเมนชะงัก เขายกมือขึ้นสวมกอดอกแล้วยิ้ม มิถุนามองทุกอย่างผ่านแผ่นหลังของวิคเตอร์ เขาแทบไม่กล้าขยับตัว เขาภาวนา ขอให้ลางสังหรณ์ของเขาถูกทีเถอะ มิถุนาไม่รู้จริงๆว่าเวลานี้ควรเชื่อใจใครกันแน่...


“ตามกลิ่นไวดีนี่" อาเมนเปรยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของสถานการณ์ที่เครียดเขม็ง เขาสาวเท้าเดินวนไปมาเล็กน้อย วิคเตอร์ก็ยังคงเล็งปืนตามอย่างไม่ลดละ อาเมนเลิกคิ้ว ก่อนที่วินาทีต่อมาเขาจะควักปืนของตนเองขึ้นมาขึ้นนก ก่อนเล็งออกไปทางวิคเตอร์บ้าง
“กวนประสาททำเหี้ยอะไร" วิคเตอร์สบถถาม เขาขบกรามแน่น จะหนียังไงดี ทำได้ก็แค่ฝ่าออกไป แต่ความปลอดภัยล่ะ...
“เวลานี้ควรจะร้องขอชีวิตไม่ใช่หรือไง" อาเมนยักคิ้วกวน วิคเตอร์รู้สึกโกรธจนเส้นเลือดเต้นตุบๆ พวกเขามองหน้ากันราวกับว่าใครจะช่วงชิงจังหวะได้ก่อนกัน ก่อนจะเป๋นมือซ้ายที่เบี่ยงปืนออกทางซ้ายก่อนตัดสินใจลั่นไกอย่างรวดเร็ว เสียงดัง ปัง! แต่ก็แค่ขู่ วิถีกระสุนพุ่งเฉียดสูทบอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนหันขวับไปมองกำแพงที่เป็นรอยบุบแทบจะทันที เสี้ยววินาทีถัดมาอีกฝ่ายขยับตัวตั้งท่าจะยิงสวนทันที มิถุนาได้ยินเสียงกริ๊กเบาๆของไกปืน วิคเตอร์กำข้อมือเขาเอาไว้แน่นเป็นสัญญาณว่าพวกเขาจะวิ่งฝ่าออกไป




“พอแล้ว!”




แต่เสียงของอาเมนก็ดังขึ้นในวินาทีถัดมา ทุกคนหยุดชะงัก อาเมนยกมือให้ฝ่ายตนเองลดปืนลง ลูกน้องของเขาลังเลแต่ก็ยอมทำตามในที่สุด เขาเองก็ด้วย ชายหนุ่มสอดปืนกลับเข้าไปในเสื้อสูท วิคเตอร์มองการกระทำน่าสงสัยนั้นไม่วางตา เขาไม่ลดปืนลงตาม และเล็งไว้เช่นนั้น


“จะตุกติกอะไรอีก"
“จะหนีก็รีบหนี ฉันไม่มีเวลามาคุยเรื่องปัญญาอ่อนนานนักหรอกนะ" อาเมนเหยียดริมฝีปากออก มิถุนาเงยหน้าขึ้นมองคนฝั่งตรงข้ามเต็มๆตา ในอกรัวแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“เป็นบ้าอะไร" วิคเตอร์ถามเสียงเข้ม แต่มิถุนากลับรั้งแขนเขาเอาไว้
“วิค ไปเถอะ เราต้องไปแล้ว" มิถุนาละลักละล่ำบอกก่อนดึงแขนเขาให้ออกเดิน วิคเตอร์ยังไม่วางใจเช่นเดียวกับคนของเขา พวกเขายังคงเล็งปืนไปตลอดทางที่เดินผ่านพวกของอาเมน


เมษาเองก็หัวใจเต้นรัว เขาไม่รู้จะทำสีหน้าเช่นไรดี ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้ายามเมื่อสาวเท้าผ่านหน้าเขาไป หัวใจเต้นแรงจนกระหน่ำ เขาจิกมือตัวเองแน่นจนเจ็บ อาเมนไม่แม้กระทั่งจะมองเขาด้วยซ้ำ แต่กระนั้นเมษาก็ยังดึงดันที่จะหยุดปลายเท้าไว้ข้างๆกัน



“คุณ---”


“คุณจะเป็นอะไรไหม"



คำถามแผ่วเบาจนแทบหายไปกับอากาศ อาเมนนิ่ง เขาไม่ตอบ ทั้งที่ในใจเองก็เบาหวิวอย่างประหลาดเหมือนมีหลุมกว้างๆผุดขึ้นในช่องอก เขาเลือกที่จะกดยิ้มมุมปากเหมือนรังเกียจโลกทั้งใบ ค่อนแคะคนทั้งโลกแบบที่เขาชอบทำ ก่อนเสือกไสเมษาด้วยคำตอบที่ร้ายกาจเช่นเคย



“เลิกพูดได้แล้ว รำคาญ!”


“ไปได้แล้ว ขวางหูขวางตาเป็นบ้า!”


“ไป!!!”




เมษายืนนิ่งแข็ง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รั้งรอเมื่อถูกกระชากแขนออกเดินอีกครั้ง เขาเดินผ่านหน้าอาเมนไปอีกครั้ง และเดินผ่านออกไปจริงๆ...เขายกมือปาดน้ำตาแรงๆ ไม่ใช่เพราะคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหล่านั้น แต่เพราะอะไรเมษาก็ไม่รู้จริงๆ มันติดแน่นอยู่ในอก ค้างคาอยู่ในใจ แทบไม่มีคำตอบใดๆในนั้น เขารู้สึกว่าเขาไม่มั่นคงอีกครั้ง และเป็นเช่นนั้นจริงๆ










ทางเดินอับกลิ่นน้ำมันเครื่อง มือสลัว และคับแคบ มือซ้ายหนุ่มพรูลมหายใจเบาๆก่อนผลักมิถุนาแนบกับกำแพงเมื่อเขาเดินมาจนสุดทางเดินเส้นหนึ่ง วิคเตอร์กดลงที่หูฟังไร้สายของตนเองบนใบหูซ้ายของตนเองแล้วกรอกเสียงลงไปเบาๆ เขาเหนี่ยวตัวมิถุนาไว้ใกล้ ใบหน้าหวานซึมเหงื่อไปหมด แต่มิถุนาไม่ปริปากอะไรสักคำ ขาเรียวก้าวตามวิคเตอร์ไปไวๆ พวกเขาหยุดเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า และรอจนมันเงียบหายไป ก่อนจะเดินเลี้ยวหัวมุมอีกที่ และพบว่าสุดท้ายทางนั้นมีแสงรำไรของท้องฟ้าวันใหม่ลอดเข้ามา

เงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้า วิคเตอร์ก้าวเท้าไวขึ้น หันมองด้านหลังเป็นระยะๆ ก่อนที่จะดึงมิถุนาวิ่งสุดแรงเมื่อหน้าต่างปรากฏอยู่ตรงหน้า มันถูกถอดบานเกล็ดออกตั้งแต่แรก วิคเตอร์ชะโงกหน้าลงไปแล้วงถอนหายใจเมื่อเรือสปีดโบ้ทคันเดิมยังจอดรอไว้อยู่โดยมีลูกน้องอีกสองคนประจำการไว้ที่ยานพาหนะนั้น เชือกยาวแข็งแรงถูกเหนี่ยวไว้กับขอบหน้าต่างด้วยเหล็กแหลมปลายห้าแฉกทรงกรงเล็บ วิคเตอร์สื่อสารผ่านหูฟังไร้สายของเขาอีกครั้ง เขาพูดอะไรบางอย่างกับปลายสายเป็นภาษาจีน


“มิ ผมจะลงไปก่อน ค่อยๆไต่ลงมา ไม่ต้องกลัวนะครับ" วิคเตอร์ว่า มิถุนาพยักหน้าหงึกอย่างแข็งขัน เขาขยับปืนกระบอกใหญ่ที่สะพายเอาไว้ ก่อนกระชับเชือกแน่นด้วยมือเปล่า แล้วเหวี่ยงตัวลงไป

ลูกน้องอีกสามคนยังคงระวังด้านหลังไว้ให้ มิถุนามองหน้าเมษาที่ยังดูตกใจไม่หายก่อนยิ้มบางๆ แล้วค่อยๆชะโงกมองลงไปหาวิคเตอร์ ระยะทางจากกรอบหน้าต่างเรือลงไปยังเรือสปีดโบ้ดสูงกว่าห้าเมตร เขานึกหวาดกลัวในใจ คลื่นทะเลแรงเพราะมรสุม ท้องฟ้าค่อยๆเรืองรองขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังส่องแสงเพียงสลัว

วิคเตอร์ยึดเชือกไว้ด้วยกำลังแขนของเขา สองขายันตัวเรือขนส่งลำใหญ่นิ่ง เขามองไปด้านล่าง แล้วค่อยๆเคลื่อนตัวลงไป มิถุนาจ้องมองไปยังเบื้องล่าง หัวใจเต้นตุบๆ ก่อนชะโงกหน้าออกไปมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ เขาเม้มปากแน่นก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า แล้วเอี้ยวตัวออกไปมองด้านบน เขาไล่จากกาบเรือขวา ไปฝั่งซ้าย ก่อนที่สายตาจะสะดุดกับเงาตะคุ่มสีดำที่ซ่อนตัวอยู่กับตู้คอนเทนเนอร์ มิถุนาอ้าปากค้าง เขาเห็นแสงเลเซอร์จากลำกล้องกวาดไปมา ก่อนหยุดที่วิคเตอร์



“วิค ระวัง!!!”




มิถุนาร้องลั่น วิคเตอร์ชะงัก เขามองไปทิศเดียวกับมิถุนาก่อนถีบตัวออกจากตัวเรือ ร่างเขาแกว่งออกไป กระสุนพลาด ลูกน้องของวิคเตอร์บนเรือชะงักอย่างตกใจก่อนที่จะชักปืนขึ้นมายิงตอบโต้ วิคเตอร์ลื่นพรืดออกจากเชือกเล็กน้อย เขาพยายามแกว่งตัวกลัวไปที่เดิม
“มิ หลบหลังขอบหน้าต่างก่อน" เขาตะโกนบอกอย่างยากลำบาก มิถุนาทำตามนั้น เขาพลิกตัวหลบอยู่ข้างๆหน้าต่าง ท่ามกลางเสียงกระสุนที่ดังขึ้น



ปัง! ปัง! ปัง!



พลันกระสุนนัดหนึ่งก็พุ่งผ่านออกจากหน้าต่างไป มิถุนาตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น บอร์ดี้การ์ดสามคนผลักเมษาเข้ากำแพง ก่อนกระชากประตูเหล็กแถวนั้นให้เปิดออกเพื่อเป็นเกาะกำบังสำหรับยิงสวน เสียงระเบิดดังขึ้น ตูม!!! มิถุนาแทบหยุดหายใจ  เขาย่อตัวลงตามสัญชาติญาณ มือขาวเกี่ยวขอบหน้าต่างไว้แน่น เหลือบมองออกไป ด้านล่างเหมือนเป็นทะเลเพลิงเมื่อเรือที่จอดอยู่ถูกระเบิดทิ้งจนไฟลุกท่วม วิคเตอร์ยังติดอยู่กลางอากาศ มือซ้ายพยายามปีนกลับขึ้นมาให้ได้

มิถุนาหัวใจเต้นโครมคราม เขาเห็นวิคเตอร์พยายามปีนขึ้นมาเรื่อยๆด้วยความยากลำบากด้วยทั้งเพลิงลุกโหม แต่กระสุนที่เฉียดตัวเขาไปมา ก่อนที่มิถุนาจะยื่นมือออกไปช่วยดึงเมื่อวิคเตอร์ใกล้จะถึงขอบหน้าต่าง วิคเตอร์จ้องมิถุนานิ่ง ก่อนยึดมือมิถุนาเอาไว้ข้างหนึ่ง มืออีกข้างเขารีบเหนี่ยวขอบหน้าต่าง มิถุนาออกแรงดึงสุดความสามารถ ก่อนที่วิคเตอร์จะดันตัวพุ่งเขามาจนหล่นกระแทกพื้น

มือซ้ายหนุ่มไม่เจ็บนักจากแรงกระแทก เขารีบยันตัวขึ้น เข้าแทรกอยู่หน้ามิถุนาก่อนหมุนปืนกระบอกใหญ่ให้อยู่ตรงหน้า ไรเฟิลกระบอกโตถูกยิงสวนออกไปจัดการกับศัตรูอีกฝั่ง วิคเตอร์สบถลั่น


“ไอ้เสี้ยวชุนมันรู้ตัวแล้ว" เขาว่า หมุนตัวพลิกแนบใกล้กับกำแพงก่อนขึ้นมา แล้วกดหูฟังของตนอีกครั้ง


“วีเรียกเจ เรือเราถูกระเบิด แผนสอง เราจะขึ้นไปดาดฟ้าแทน"





ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4
วิคเตอร์ตัดสินใจอยู่ไม่ถึงสามสิบวินาทีก่อนตัดสินใจวิ่งสวนออกไปจากทางเดินคับแคบนั่น โชคดีที่ตลอดทางมีห้องหับต่างๆเรียงรายอยู่มากมาย เขาใช้วิธีเอาตัวบังมิถุนา เปิดประตูไล่เป็นที่กำบังไปที่ละบานๆจนกระทั่งไปได้ถึงทางแยก เขาไม่สามารถรีรอไปมากกว่านี้จนกระทั่งกำลังเสริมของฝ่ายศัตรูแห่แหนกันเข้ามาได้ มิถุนาเกาะวิคเตอร์แน่น เสียงกระสุนแหวกอากาศทะลุเข้าใต้ผิวหนังดังขึ้นเรื่อยๆ เมษาอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน วิคเตอร์สบถออกมาเมื่อกระสุนแม็กซ์ในไรเฟิลหมด เขาหยิบปืนพกสองกระบอกกระชับไว้ในสองมือ ก่อนจะดึงข้อมือมิถุนาไว้แน่น


“เราต้องวิ่งไปขึ้นดาดฟ้า เฮลิคอปเตอร์กำลังมา" วิคเตอร์ตะโกนบอกเป็นภาษาไทยท่ามกลางเสียงกระสุน "พวกมันเหลือไม่มากแล้ว เราต้องรีบไปก่อนพวกมันจะแห่มาเพิ่ม ผมจะให้ลูกน้องจะยิงสกัดไว้ให้ คุณวิ่งไปกับผมเลยนะมิ ห้ามหยุด ห้ามหันกลังกลับ ห้ามห่วงใคร ห่วงแค่ตัวเองเท่านั้น"
“แล้ว---”
“คนของผมจะขึ้นไปเจอกันที่ดาดฟ้า พวกเขาจะพาเมษาไป แต่คุณต้องห้ามหยุดนะมิ ถึงผมโดนยิงก็ห้ามหยุดวิ่ง เลี้ยวขวา วิ่งไปที่บันไดให้ได้" วิคเตอร์หันไปบอกกับคนของตัวเองเร็วๆสองสามประโยค
“เราจะทำได้ใช่ไหม" มิถุนาถามเสียงสั่น
“คุณทำได้มิ" วิคเตอร์ว่า เขาโน้มตัวออกไปยิงสวน นัดเดียวเข้าเป้าอย่างสวยงาม มันคนนั้นค่อยๆหงายล้มตึงและสิ้นลม เขาดึงมิถุนาออก บอร์ดี้การ์ดร่างใหญ่คนหนึ่งออกวิ่งนำ วิคเตอร์กระชากมิถุนาออกวิ่งตามทันที เสียงรัวปืนยังดังขึ้นอยู่ไม่หยุด บอร์ดี้การ์ดอีกสองคนปิดท้าย มิถุนาวิ่งตามที่วิคเตอร์บอก เขาวิ่งสุดแรง เหนื่อยหอบ คอแห้งเป็นผุยผง ขาเริ่มจะไม่มีความรู้สึกแล้ว วิคเตอร์พาเขาเลี้ยวขวา มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นทางด้านหลัง วิคเตอร์เหนี่ยวบันไดขั้นเดียว เหวี่ยงตัวขึ้นเตะประตูที่ปิดไว้ออกไปด้วยความเร็ว ก่อนที่เขาจะรั้งใต้แขนมิถุนาเอาไว้แล้วออกแรงดึงขึ้นมาแทบจะทันที...

พวกเขาขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าเรือ ด้านบนมีคอนเทนเนอร์สินค้าต่างๆตั้งเรียงรายอยู่มากมายสองฝั่งของตัวเรือ ฟ้าเริ่มสว่างขึ้น ลมโกรกเพียงเล็กน้อย มีแสงสลัวจากเสาไฟตามขอบเรือ ลูกเรือและบอร์ดี้การ์ดในเสื้อถังจวงผ้าดิบสีดำเดินวนเวียนกันไปมา มือซ้ายผู้รอบจัดไม่รีรออะไรทั้งนั้น เขามองซ้ายมองขวาแล้วดึงมิถุนาออกวิ่งผ่านหลังลูกเรือคนหนึ่งที่ยืนเวรยามไป เขาแนบตัวเข้ากับตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนย่อตัวลงแล้วนั่งนิ่ง วิคเตอร์หอบหายใจเบาๆ เสียงฝีเท้านับสิบดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชะโงกหน้าออกไปจากมุมตู้ สบถอะไรออกมาเบาๆ เมื่อพบว่ามีผู้ชายพร้อมอาวุธวิ่งออกมาเต็มไปหมด

เสียงฝีเท้าดังมาจากทุกทิศทาง ไฟในเรือถูกเปิดให้สว่างขึ้น วิคเตอร์มองไปบนท้องฟ้า คุยกับเจย์ผ่านวิทยุอีกครั้ง สายตาเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขาลากมิถุนาให้ลุกขึ้น วิ่งลัดเลาะตามมุมคอนเทนเนอร์ไปเรื่อยๆ ลูกน้องของเสี้ยวชุนยังเดินค้นหากันไปมา วิคเตอร์ขบคิดหาทางออกอย่างเต็มกำลัง

จากด้านบน เรือขนส่งขนาดใหญ่บรรจุคอนเทนเนอร์ถ่วงความสมดุลของเรือไว้ที่ปลายสองฝั่ง ส่วนตรงกลางคือลานโล่งกว้างใช้สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ จากจุดนั้น ตอนนี้วิคเตอร์อยู่บริเวณท้ายเรือ ห่างจากลานตรงกลางประมาณยี่สิบเมตร คอนเทนเนอร์ต่างขนาดตั้งเรียงรายพอให้ซ่อนตัวได้ แต่เขาคิดไม่ออกเลยว่าจะออกไปตรงกลางอย่างไรดีโดยมีคนยืนคุมเชิงเต็มไปหมดเช่นนั้น พวกมันยังต้องการตัวมิถุนาอยู่

วิคเตอร์ผุดลุกขึ้น เขารั้งมิถุนาให้ลุกอีกครั้ง ตัวขาวๆของมิถุนาช้ำเป็นจ้ำตามท่อนแขน วิคเตอร์รั้งมิถุนาให้แนบกับตู้คอนเทนเนอร์ก่อนชะโงกหัวออกไปมองด้านนอก เบื้องหน้าเป็นลานโล่ง เขาเห็นร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อสูทดูดียืนสูบยาเส้นอยู่ท่ามกลางลูกน้องอารักขามากมาย มันคงรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น...ไอ้เสี้ยวชุน

วิคเตอร์เตรียมจะหมุนตัวกลับ แต่ทันทีที่เขาขยับตัว เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นใกล้ๆ ชายตัวใหญ่คนหนึ่งก็วิ่งผ่านบล็อกด้านหน้าเข้ามา มันชะงักปลายเท้าเมื่อเห็นใบหน้าของวิคเตอร์ก่อนยิ้มเหี้ยม มันยกปืนขึ้นเตรียมเล็ง วิคเตอร์ไม่มีทางอื่น เขาเอาตัวบังมิถุนาไว้ หมุนตัวอย่างรวดเร็วแล้วยิงแสกเข้ากลางหน้าก่อนทันที

มันล้มตึง แต่เสียงปืนที่ดังขึ้นนั่นยิ่งกว่าหายนะ วิคเตอร์กำปืนแน่น มือชื้นเหงื่อ พวกมันสามารถระบุตำแหน่งเขาได้จากเสียงปืน มิถุนายังคงตกใจกับภาพตรงหน้า เสียงฝีเท้ากรูกันเข้ามาในจุดที่เขายืนอยู่ วิคเตอร์ขบฟันแน่น เขาดึงมิถุนาให้ลุกวิ่งอีกครั้ง วิ่งไปด้านหน้าจนเกือบถึงลานกว้าง แนบตัวเข้ากับคอนเทนเนอร์อีกตู้หนึ่ง มิถุนาเองก็ใจเต้นรัว เขาสัมผัสได้ถึงชีพจรของคนตัวเล็กกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำงานด้วยความกดดันที่สุดในชีวิต เพื่อปกป้องมิถุนา เพื่อนของเขา

วิคเตอร์มองซ้ายมองขวา เขาย่อตัวลง เห็นฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งวิ่งสวนไปในทางตรงหน้า เขามองกลับไปที่คอนเทนเนอร์อีกที ก่อนผุดลุกขึ้นยืน เขาลั่นปืนใส่ล็อคประตูตู้หนึ่งนัด แล้วดันมันออก ขยับแรงๆอยู่สองสามครั้งมันก็เปิดออก วิคเตอร์ดันมิถุนาเข้าไป สอดตัวเองเข้าตาม เขาดึงประตูปิด ภายในตู้มืดสนิท เขาบอกให้มิถุนายืนนิ่งๆ ก่อนจะหยิบไฟฉายกระบอกเล็กออกมา

แสงไฟจากไฟฉายสว่างขึ้น วิคเตอร์ถอนหายใจโล่งออกมาเมื่อเห็นว่ามิถุนาปลอดภัยอยู่ตรงหน้า เขาส่องไฟฉายไปรอบๆ แล้วพบว่าตู้คอนเทนเนอร์นี้คือตู้สำหรับบรรทุกสารเคมี เขาดันให้มิถุนานั่งพักบนกล่อง พลิกกล่องลังออกช้าๆ


“น้ำมันสนนี่ครับ" มิถุนาพูดหลังอ่านข้างกล่อง เสียงแหบพร่า คงเพราะขาดน้ำและอ่อนแรงอย่างมาก
“ไหวไหมครับ" วิคเตอร์ถาม "เฮลิคอปเตอร์จะมาถึงแล้ว" เขาบอก หลังจากติดต่อกับเจย์อีกรอบ
“ไหว" มิถุนาพึมพำ "จอมทัพต้องโกรธผมมากแน่"
“โกรธแทบไฟลุกเลยล่ะ" วิคเตอร์เอ่ยติดตลก "แต่ห่วงมากเสียจนจะเป็นบ้า เขาไม่ขออะไรมาก ขอแค่คุณปลอดภัย"
“ผมขอโทษ"
“คุณมีเหตุผลเสมอแหละมิถุนา มันอาจจะบ้าๆบอๆ คุณเชื่อใจคนง่าย คุณใจดี" วิคเตอร์เอ่ย "แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้แจ็คกี้ หวัง รักคุณไม่ใช่หรือ?” มือซ้ายยิ้มบางๆ นั่นทำให้มิถุนาต้องยิ้มออกมาทั้งน้ำตาคลอ

วิคเตอร์พยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงเจย์ดังตอบกลับมาภายในสาย เขาหันกลับมามองมิถุนา แล้วพยักหน้าอีกครั้ง


“มาแล้ว...” วิคเตอร์พึมพำ มิถุนาล้าเสียจนไม่อยากลุกขึ้นยืน แต่เขาก็ฝืนตัวเองลุก อยู่นานกว่านี้ไม่ได้ ถ้าอยู่นานกว่านี้ อาจจะโดนจับได้

มิถุนาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เสียงฝีเท้าแห่กรูกันผ่านหน้าตู้คอนเทนเนอร์ที่เขาใช้ซ่อนตัว วิคเตอร์แนบตัวกับประตูคอนเทนเนอร์ เขายกนิ้วแตะริมฝีปาก แล้วดึงมีดพกที่สอดอยู่ด้านหลังส่งให้มิถุนา

“มิช่วยกรีดเปิดกล่อง แล้วส่งน้ำมันสนให้ผมหน่อย"
“จะทำอะไรน่ะวิค" มิถุนาถามวิคเตอร์พลางขมวดคิ้ว แต่ก็ยอมทำตามนั้นอย่างไม่อิดออด
“เดี๋ยวผมบอกครับมิ"








กลิ่นน้ำมันสนแสบจมูกไปหมด มิถุนาแทบกลั้นหายใจไม่อยู่ แต่เขาก็พยายามที่จะอดทนสุดความสามารถ เขาส่งน้ำมันสนกระปุกสุดท้ายในลังใบให้กับวิคเตอร์ที่แง้มประตูเปิดออกแล้วค่อยๆเทราดมันออกไปตามทางเดิน วิคเตอร์หันมาพยักหน้าให้กับเขาเป็นสัญญาณก่อนที่จะแง้มประตูออก ลูกน้องเสี้ยวชุนไม่ป้วนเปี้ยนเยอะเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะทุกคนคงเฮโลไปต้อนรับแจ็คกี้ หวัง ก่อนพวกเขาจะเดินเลี่ยงไปอีกฝั่งที่ไม่มีน้ำมันสน

สารเคมีไหลเทไปทางท้องเรือ ไปยังท้ายเรือ มันกระจายออกไม่มาก แต่ก็เป็นปริมาณมากพอสมควร วิคเตอร์พามิถุนาเดินเลาะออกไปเรื่อยๆพร้อมกับราดน้ำมันสนกระป๋องสุดท้ายไปตามทาง เฮลิคอปเตอร์ยังคงลอยอยู่บนฟ้าดังกรีดแก้วหู มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มิถุนาแหงนหน้ามองขึ้นไป แต่แสงไฟจากเฮลิคอปเตอร์ที่บินเข้ามาใกล้ขึ้นกลับบดบังทุกอย่างไปเสียหมด วิคเตอร์ฉวยโอกาสนี้พามิถุนาเดินเลาะไปเรื่อยๆจนแอบอยู่ด้านข้างตู้คอนเทนเนอร์ใบที่อยู่ใกล้ลานโล่งที่สุดได้ เขาเห็นแผ่นหลังของเจิ้งเสี้ยวชุนและลูกน้องของมันที่ยืนต้อนรับเป็นกองทัพ


“นั่นเมษา...” มิถุนาแทบยกมือปิดปากไม่ทันเมื่อเห็นว่าใครที่โดนจับอยู่ตรงหน้าเสี้ยวชุน เขาเม้มปากแน่น วิคเตอร์ไม่ตอบอะไร เขาดึงข้อมือมิถุนาเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้วหลบอยู่ที่ด้านหลังของตู้คอนเทนเนอร์ เขาชะงักปลายเท้าเมื่อแผ่นหลังของบอร์ดี้การ์ดของเสี้ยวชุนปรากฏอยู่ตรงหน้า จากมุมนี้เขาเห็นได้หมดแทบทุกอย่าง วิคเตอร์ย่อตัวต่ำแนบกับมุมของคอนเทนเนอร์ เขาสอดสายตาลอดออกไป เขากดที่หูฟังสื่อสารกับเจย์ เฮลิคอปเตอร์เคลื่อนตัวลงต่ำ ก่อนที่จะจอดนิ่งกับพื้นเรือ มีอีกสองลำคอยบินวนคุ้มกันไปมา บอร์ดี้การ์ดของแจ็คกี้ หวัง ปีนขึ้นจากด้านข้างของเรือหลายสิบคน ใบพัดค่อยๆหมุนช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งประตูถูกเปิดออก


เอเลนก้าวลงมา ตามด้วยจอมทัพ...มาเฟียหนุ่มใบหน้านิ่งขึง เยียบเย็นเสียจนเดาใจไม่ออก แต่นั่นทำให้เจิ้งเสี้ยวชุนหัวใจเต้นแรงและเลือดวิ่งพล่านอย่างนึกสนุกมากยิ่งขึ้น เขาแสยะยิ้มออกอย่างที่ชอบทำ

มิถุนาจ้องมองอยู่เช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าวิคเตอร์คิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้เขาอยู่ด้านหลังเจิ้ง เสี้ยวชุน อยู่ฝั่งตรงข้ามของจอมทัพ ทั้งกองทัพของเสี้ยวชุนยืนอยู่ตรงหน้า มิถุนาไม่รู้จริงๆว่าจะฝ่าไปได้เช่นไร ถึงเป็นวิคเตอร์ก็ตามทีเถอะ มันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะทำสำเร็จได้

มิถุนาหัวใจเต้นแรง วิคเตอร์ยังจ้องเขม็งไปตรงหน้า ซึ่งนั่นเปิดทางด้านหลัง มิถุนาแนบแผ่นหลังไว้กับตู้คอนเทนเนอร์ ใบหน้าผินมองออกไปด้านนอก แต่แล้วก็ต้องตัวชา มือชา และหัวใจเหมือนจะหยุดเต้น เมื่อมีอะไรสักอย่างกดลงมาที่ด้านหลังศีรษะ





กริ๊ก!






“อย่าส่งเสียง"







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2014 01:57:02 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4

“สวัสดี แจ็คกี้ หวัง"



เจิ้ง เสี้ยวชุนกระตุกยิ้ม




“พบกันอีกแล้ว"






จอมทัพเกลียดรอยยิ้มน่าสะอิดสะเอียนของมันมากที่สุดในโลกใบนี้แล้วกระมัง การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับไอ้บ้านี่มันทำให้เขาเสียประสาทที่สุดในโลก เขาพยายามนิ่งขรึม ทั้งๆที่ในใจเต้นแรงด้วยความโกรธแค้น เขารู้แล้วว่าตอนนี้มิถุนาปลอดภัยอยู่กับวิคเตอร์ แต่ก็ไม่วางใจจนกว่าจะเห็นตัวของคนรัก เขามาที่นี่เพื่อจัดการ เพื่อทำให้มันจบและสิ้นซากไปเสีย

ฟ้าเริ่มสว่างขึ้นจนมองเห็นอะไรได้ชัดขึ้น บอร์ดี้การ์ดของเขายืนประจำตำแหน่ง เอเลนยืนกอดอกอยู่ข้างๆเขา ใบหน้านิ่งสนิทไร้แววขี้เล่นดั่งเคย จอมทัพยืนตรงกลาง ปะทะกับเจิ้ง เสี้ยวชุน อย่างไม่กลัวเกรง มันไม่ต่างอะไรกับที่แล้วๆมามาก จอมทัพใช่จะไม่เคยจะอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นอะไรเช่นนี้ แต่ทุกครั้งเขาก็แค่จัดการให้สิ้นซากตามที่ลั่นวาจาไว้ เพียงแต่ครั้งนี้เขามีเดิมพันคือมิถุนา...

เขาโกรธที่มิถุนาทำอะไรบุ่มบ่าม แน่นอนว่าจอมทัพรู้ดีว่าความเชื่อใจและนิสัยของมิถุนาจะเป็นปัญหาให้เขาในสักวัน แต่แล้วอย่างไร...จะให้เขาเลิกรักมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเสียยังจะง่ายกว่า ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะชิงตัวมิถุนากลับมา ต่อให้ต้องล่าไปจนสุดขอบฟ้าก็ตามที



“จะเอาอย่างไรก็ว่ามา" จอมทัพเอ่ยขึ้นเสียงเย็น เขาแค่ต้องการมิถุนาแล้วในตอนนี้ ไม่ใช่การนองเลือดเหมือนในทีแรก หลังจากรู้ว่ามิถุนาหนีในคราแรกไม่สำเร็จ
“เอาอย่างไรงั้นหรือ" เสี้ยวชุนยิ้มลึก เขาเริ่มขยับตัว นั่นทำให้จอมทัพคิ้วกระตุก "ลูกน้องนายชิงตัวคนรักนายไปแล้ว"
“ฉันยังไม่เห็นตัวเขา" จอมทัพสวนกลับทันที "เลิกต่อรอง คืนเขามาให้ฉัน แล้วเราก็จบกัน"
“อา...เรื่องมันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ" เสี้ยวชุนหัวเราะขัน "ถึงอย่างไร วันนี้นายก็ต้องตาย แจ็คกี้"
“อย่าปากดี" จอมทัพสวนกลับไปนิ่งๆ นั่นทำให้เสี้ยวชุนชะงัก เขาปรายสายตามองจอมทัพอย่างมาดร้าย ระหว่างนั้นเองที่กองทัพบอร์ดี้การ์ดของเขาแหวกตัวออกพร้อมกับใครคนหนึ่งที่เดินเข้ามา สีหน้าของเสี้ยวชุนแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทบจะทันที


“ใครกันแน่ที่ปากดี"


เจิ้ง เสี้ยวชุนย้อนถาม เขาล้วงกระเป๋าเดินไปข้างหน้าอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้าเขา โดยมีปืนจ่อศีรษะอยู่เช่นนั้น มิถุนาถูกลากตัวออกมาให้ปรากฏตัวตรงหน้าท่ามกลางคนทั้งหมด มีปืนกระบอกสีเงินในมือของอาเมนจี้ตัวเอาไว้ วินาทีนั้นจอมทัพตัวชาไปทั้งร่าง เขาเหมือนถูกตรึงไว้บนไม้กางเขน หายใจแทบไม่ออก ดวงตาคมจ้องมองศัตรูทั้งสองของตนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ มาเฟียหนุ่มขบกรามกรอด เขาแทบกระอัก ทำไมกัน มิถุนาตกอยู่ในอันตรายอีกแล้ว!


“ต้องการอะไรว่ามา" จอมทัพถามเสียงพร่า เขาแทบหยุดหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ
“เป็นคำถามที่ดีนี่" เจิ้ง เสี้ยวชุน ยิ้มเยาะ ก่อนกรีดเสียงหัวเราะประสาทเสียออกมา "ชีวิตนายไงเล่า!” มันบอก

จอมทัพขบกรามแน่น เขาพยายามหาทางหนีทีไล่ แต่ดูจะมองไม่เห็น



“แต่ก่อนอื่น...” มันแสยะยิ้มลึกแล้วกระชากตัวมิถุนาจากอาเมนมายืนตรงหน้าแล้วดันกระบอกปืนใส่ จอมทัพจ้องมองคนรักไม่วางตา เขาแทบอยากกระโจนใส่เสี้ยวชุน ถ้าไม่ติดว่าปลายกระบอกปืนนั้นจ่อหัวมิถุนาไว้อยู่ "ฉันจะฆ่าหมอนี่ให้นายดูก่อน"





กริ๊ก!










“แต่ฉันว่า ปล่อยคนไม่เกี่ยวข้องไปจะดีกว่า"








แต่แล้วเสียงหนึ่งก็พูดขึ้น และอำนาจก็ไม่ได้อยู่ในมือเสี้ยวชุนอีกต่อไป ปลายกระบอกปืนสีเงินในมืออาเมนถูกหันเข้าหาท้ายทอยของเสี้ยวชุนแทน เขาจ้องจอมทัพตาไม่กระพริบ จอมทัพเองก็นิ่งเงียบราวกับจะวัดใจ เป็นไม่กี่วินาทีที่ยาวนานนัก เจิ้ง เสี้ยวชุน ยืนนิ่งอึ้งที่เขากำลังโดนตลบหลัง ตัวเขาชาดิก สั่นเทิ้มด้วยความโกรธแค้น

อาเมนไม่สนใจนัก เขาตัดสินใจแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าเมษาโดนจับตัวอีกครั้ง แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำให้คนๆนั้นได้


"อย่าตุกติก ฉันไม่ลังเลหรอกนะที่จะลั่นไกตอนนี้" อาเมนขู่เสียงเย็นเยียบ เสี้ยวชุนกัดฟันกรอด


“เอาตัวเมษาออกไป" เอาสั่งลูกน้องของตัวเอง ชายฉกรรจ์สามสี่คนรีบเข้าไปดึงตัวเมษาออกมาจากลูกน้องของเสี้ยวชุน พวกเขาพาเมษาเดินออกไปยังด้านข้างของตัวเรือ เมษามองหน้าเขานิ่ง พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ แต่อาเมนก็คิดว่านั่นมันดีที่สุดแล้ว


เมษาต้องไม่เกลียดเขาไปมากกว่านี้...






“ลดปืนลง" อาเมนสั่งเสียงเย็น หลังจากมั่นใจแล้วว่าสปีดโบ้ดของเมษาแล่นออกไปได้ไกลพอสมควรแล้วจริงๆ
“ว่าไงนะ!” เสี้ยวชุนกรีดเสียงถามอย่างคับแค้นใจ "นี่นาย---”
“ฉันบอกให้ลดปืนลงไงเล่า!" อาเมนตะคอกอีกครั้ง นั่นทำให้เสี้ยวชุนต้องค่อยๆลดปืนที่จ่อหัวมิถุนา จอมทัพแทบหยุดหายใจในวินาทีนั้นจริงๆ



"แล้วมาทำให้จบๆกันไปดีกว่า"





อาเมนจ้องตาจอมทัพนิ่ง วินาทีนั้นวิคเตอร์ก็รีบพุ่งตัวออกมาจากด้านหลังคอนเทนเนอร์พร้อมกับผลักมิถุนาไปด้านหน้า เร็วๆพอกับที่จอมทัพพุ่งออกมาคว้าตัวมิถุนาเอาไว้ในอ้อมแขน จอมทัพยกปืนยิงสวนออกไปหนึ่งนัดแบบไม่รีรอเมื่อเสี้ยวชุนยกปืนขึ้นอีกครั้ง จอมทัพและมิถุนากลิ้งหลุนๆไปกับพื้น มาเฟียหนุ่มกอดคนรักเขาเอาไว้แน่น พร้อมกับเปลวเพลิงที่คอยๆลามไล่มาจากด้านหลังท้ายเรือ ก่อนโหมลุกไหม้ขึ้นเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่พร้อมจะมอดไหม้เรือลำนี้ให้เป็นจุล












tbc.






อีกประมาณสองตอนจะจบแล้วนะคะ (อาจจะตอนเดียวถ้าไม่ตัดลง) ภายใน2-3วันนี้แหละค่ะ


จากตอนที่แล้วมิโดนด่าไปเยอะมาก รุนแรงชนิดที่ว่าตัวเราเองก็ไม่ได้คิดถึงขนาดนี้เลย5555 เอาจริงๆตอนแต่งเราก็คิดไว้แล้วว่าต้องโดนแน่ที่ให้มิเกรียนแตกขนาดนี้ แต่เราพยายามใส่ปม-หักมุมไว้เล็กๆน้อยๆ ซึ่งมันก็เลยทำให้มิต้องเกรียนแตก เพื่อดำเนินเรื่องไปจนถึงจุดจบ แต่ก็ไม่ได้เกรียนแตกแบบสมองกลวงนะคะ เราคิดว่าตอนร่างพล็อตเรามีเหตุผลอยู่แล้ว เดี๋ยวจะลองอธิบายเท่าที่ทำได้ดูนะคะ

น้อมรับทุกคำตินะคะ และขอบคุณที่ติดตามกันมาค่ะ ก่อนอื่นเลยไคลี่อาจจะรีไรท์บางตอนท้ายๆให้มิเกรียนแตกน้อยกว่านี้นะคะ (ในหนังสือ) เพราะดูหลายๆคนอาจจะพาลเกลียดมิเอาได้555 แต่ก็บอกตามตรงว่าคิดดีแล้วที่ให้มิทำอะไรแบบนี้ แม้ว่าจะคิดถึงคอมเม้นท์ไว้แล้วก็ตาม บอกตรงๆว่าไม่ได้คิดว่ามันจะสามารถฆ่าตัวละครตัวเองตายได้ในตอนท้ายเรื่องหรอกค่ะ เพราะเรายังเชื่อว่ามิก็ยังเป็นมิ

ขออธิบายบางส่วนนะคะ คือบางจุดอาจจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเพราะไคลี่ฝีมือไม่ดีพอก็เป็นได้ บางคนอาจจะโกรธ เบื่อ รำคาญ และคิดว่ามิถุนาอวดเก่งมาก แต่ตลอดการแต่ง ไคลี่ก็คิดเสมอว่า มิถุนาคือ 'ผู้ชาย' คนหนึ่งนะคะ แม้ว่าจะเขียนให้มิถุนาดูตุ๊ด ดูอ่อนแอ แต่นิสัยจริงๆของมิคือ ใจดี เข้มแข็ง และเป็นห่วงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ แม้ว่าการตัดสินใจบางอย่าง หรือลำดับความห่วงอาจจะดูเกรียนแตก ทำให้เกิดเรื่องมากมายก็ตามที

ถามว่าทำไมมิถึงหนีออกมา ไม่อยู่ดูเจย์ ทำเจย์เดือดร้อน ฯลฯ คือตอนนั้นปืนมันจ่ออยู่ข้างหน้าแล้วนะคะ ถ้าไม่เจย์โดนยิง คนโดนก็คือมิแทน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามิหาเรื่องเอง แต่ถึงยังไงถ้าไม่หาเรื่องเดินออกไปเอง ยังไงก็ต้องมีคนโดนยิงสักคน มิที่วิ่งหนีออกไปก็ไม่ได้เกรียนแตกจะหนีขึ้นแท็กซี่อย่างเดียวนะคะ มิตั้งใจจะไปหนีออกไปหาจอมทัพ หนีจากปืนนั่นแหละ แต่มีคนไล่ตามหลังมาก ถอยหลังกลับไปไม่ได้ (มันอาจจะเป็นปัญหาที่ไคลี่แต่งหรือสื่อสารได้ไม่ดีพอน่ะค่ะ คนอาจจะเข้าใจผิด)

ต่อมาเรื่องไปสนามบิน อันนี้คือจงใจจริงๆที่จะใช้นิสัยใจดีของมิ (มิคาใจเมษาตั้งแต่มาขอตำแหน่งแล้ว เลยตงิดว่าเมษาจะต้องมีปัญหาอะไร พอมันจนมุมก็เลยคิดไม่ทัน ฉวยทางออกสุดท้าย ลืมนึกถึงทางอื่น และไม่กล้าติดต่อจอมทัพเพราะอย่างที่บอก คือเราวางไว้ว่าพอเข้าตาจนจริงๆก็ไม่กล้าที่จะโทรหาเพราะกลัวโดนตามรอย หรือแวะหยุดโทรข้างทางเพราะแน่นอนว่ามีคนไล่ตามล่า) และแน่นอนว่ามิถุนาก็ไม่ได้ฉลาดไปทุกเรื่องเสียหมด มิอาจจะทันเมษา ทันอาเมน แต่ไม่ทันเสี้ยวชุน (อธิบายแบบนี้ไม่รู้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลไหมหรือมันจะดูแถไหม แต่นี่คือความตั้งใจจริงๆน่ะค่ะ)

เราไม่อยากให้ตัวละครแบน มิต้องฉลาดไปหมด ต้องรู้ทัน ต้องทำตัวถูกต้อง แต่ไอ้ความเกรียนแตกนี่ก็จงใจจริงๆ เพราะเราย้อนนึกถึงไปตอนแรกว่าตั้งแต่ที่มิโดนจอมทัพจับตัวไป มิก็พยศและดึงสุดๆขนาดไหน และต่อให้มาเป็นคนรักของจอมทัพ มิก็ไม่ได้คิดว่าเดียวเองอยู่ใต้จอมทัพหรืออยู่สูงกว่าจอมทัพแต่อย่างไร แต่มิก็คือมิ ที่ใจดีและให้โอกาสจอมทัพใหม่ แต่ก็ยังเกรียนแตกอยู่บ่อยๆ มิเป็นคนมีความมั่นใจสูงนะคะ ไม่งั้นคงปราบจอมทัพไม่ได้ ซึ่งบางทีความมั่นใจนี้ก็อาจจะทำให้ใครๆคิดว่ามิอวดฉลาด แต่จริงๆแล้วมิก็แค่พยายามหาทางทำอะไรให้ดีขึ้นในแบบของตัวเอง (ซึ่งมันเกรียนแตก)

มองในมุมเรา (ตอนแต่งตอนท้ายๆเราแทนตัวเป็นมิและเขียนลงไป) เรามองว่าถ้าเรารักใครสักคน หรือเราห่วงใครอีกคนพร้อมๆกัน เราก็ไม่อยากทำให้เขาเป็นห่วง หรือแม้กระทั่งเราอยากปกป้องคนรักของตัวเอง มิก็แคร์เจย์ แคร์จอมทัพค่ะ แต่วินาทีนั่นมันปะทะกันแล้ว ปืนก็อยู่ตรงหน้า ถ้าอยู่นิ่งๆในนั้นก็โดนจับแน่นอน เพราะมันตั้งใจยิงเจย์ก่อนเพื่อสร้างสถานการณ์อยู่แล้ว (ตามที่อธิบายไว้ในตอนนี้) มิถุนาก็อยากปกป้องจอมทัพ ไม่อยากเป็นตัวถ่วงด้วย จึงเกรียนแตกหนีเตลิดไป เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ยอมโดนจับเอาไปต่อรองกับจอมทัพแน่ๆ ซึ่งเราก็ให้มิถุนาตัดสินใจถูกเรื่องอาเมน จริงๆถ้าเสี้ยวชุนไม่ติดเครื่องตามตัวเมษา มิก็จะหนีได้ค่ะ เฉือนกันนิดเดียว (ตอนก่อนความเกรียนของมิเลยโดนถล่มยับจากทุกทิศทาง ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่คอมเม้นท์กันมา) (แต่ก็คิดอยู่แล้วว่าตอนก่อนทุกคนต้องคิดว่ามิตกหลุมพรางแน่นอน ซึ่งจริงๆก็50-50นะคะ ทุกอย่างส่วนใหญ่มันจะเฉลยมาในตอนนี้ มิรนหาเรื่อง50 ส่วนอีก50 คือไม่ทันเสี้ยวชุน ซึ่งเอาจริงๆใครจะไปรู้ว่ามันร่วมมือกัน หรือตอนนั้นจะไปรู้ว่าใครจะเป็นคนที่เชื่อได้ เมษาตั้งใจช่วยมิจริง อาเมนให้ตั๋วจริงเพราะคิดว่าจะจบเรื่องนี้ด้วยกันแค่สามคน อาเมน-จอมทัพ-เสี้ยวชุน และไคลี่ก็คิดว่ามันถึงเวลาที่อาเมนจะรู้สึกดีกับเมษามากๆแล้วล่ะค่ะ เลยตัดสินใจที่จะทำตามคำขอร้องเมษาที่ให้กันมิถุนาออกจากเรื่องนี้ แต่ก็ทำโจ่งแจ้งไม่ได้เพราะเดี๋ยวเสี้ยวชุนจะรู้ เลยทำได้แค่ให้ตั๋วมาแบบเสี่ยงวัดใจว่าเมษาจะรู้ไหมว่าในซองนั้นมีทางหนี ซึ่งเมษาก็ได้เปิดออก และตกใจเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด--- ประมาณนี้ค่ะ)

วิพากษ์ได้นะคะ ไม่ต้องดราม่าอะไรกัน ไคลี่รับได้ทั้งหมดค่ะ มีภูมิคุ้มกันดีอย่างยิ่ง ส่วนตัวไคลี่ว่าทั้งหมดมันสมเหตุสมผลในตอนนี้นะคะ แต่ถ้ามันไม่ดีพอหรือว่ามันห่วยแตกอะไรยังไงก็บอกกันได้ค่ะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ (แม้เวลากดเข้ามาจะหวั่นๆใจว่ามิหรือไคลี่จะโดนบอมบ์อะไรหรือเปล่า5555)



ส่วนหนังสือ พอลงจบแล้วก็จะเปิดโอนไล่ๆตอนจบเลยนะคะ มีภารกิจต้องทำต่อตามที่บอกไว้ในเพจเลย ขอบคุณที่คลิกมาอ่านกันค่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2014 02:02:42 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
 :z13:
อ๊ากกกกกก ตื่นเต้นอ่ะ อย่างน้อยๆ อาเมนก็ยังช่วยเมษาได้ คงรักเมษาเข้าแล้วล่ะ
ลุ้นตอนต่อไป  :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2014 02:06:40 โดย GintoniC »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
อาเมน มาดีเอาตอนท้าย หวังว่า อาเมนจะสมหวังในรักกับเมษานะ ลุ้นคู่นี้ :z10:

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
อ่านๆ ไปก็ยังไม่หายโกรธมิเลยอ่ะ
เข้าใจที่อธิบายนะ แต่แบบมันอินอ่ะ
แต่ตอนนี้ก็ยังโอเคขึ้นหน่อยตรงที่พอวิคเตอร์บอกว่าให้ห่วงแต่ตัวเองได้แล้ว แล้วมิก็ทำใจยอมรับได้ว่าควรจะเป็นแบบนั้น
แม้แต่ตอนที่พูดว่า ถ้ามิยังอยู่ตรงนั้นอาจจะต้องโดนยิงแทนเจย์ แต่ก็ยังแอบเคืองอ่ะ ก็ทุกคนบอกให้มิว่าหลังจบงานแล้วต้องกลับทันที มิก็ยังอ้อยอิ่ง ฮือออ
แต่ชอบประโยคที่มิพูดกับจอมทัพก่อนหน้านี้นะ ว่าถ้าหนีก็ต้องหนีตลอดไป สู้เผชิญหน้าไปเลยดีกว่า
ความดีมิยังมีอยู่ เราจะทำใจร่มๆ และรับกับความใจดีของมินะ

แต่สุดท้าย เราโครตเข้าใจความรู้สึกของจอมทัพเลยอ่ะ
ทั้งโกรธมากๆ จนอยากจะเลิกสนใจ แต่เพราะรักไปแล้วเลยยอมให้อภัยดีกว่า เพราะสู้ให้เค้าอยู่ให้เราโกรธ ดีกว่าอยู่โดยไม่มีเค้า

คนแต่งอย่าคิดมากนะคะ เราว่าเพราะทุกคนอินกับเนื้อเรื่องมากเลยโกรธมิกันเป็นแถบ
แสดงว่า เรื่องนี้คุณแต่งได้ดีมากๆ แล้วค่ะ และเราเชื่อว่า สุดท้ายคนอ่านก็จะกลับไปรักมิในตอนจบแน่นอน

ติดตามตอนต่อไป ~~  :L2:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เหมือนตัวเองวิ่งหลบกระสุนด้วย อ่านจบเหนื่อยเลย  :katai5:

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
แทบหยุดหายใจ......


รอๆๆๆๆๆ :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
มาทีละสองตอนงี้ รักตายเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ใจนี่ไม่อยู่กับมิอ่ะ อยู่ที่เมษาคนเดียว
อยากอ่านอาเมนเมษา
อาเมนตอนนี้เท่ห์มาก กรี๊ดสลบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
เชียร์อาเมนเมษา

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
แอบโมโหมิอยู่เหมือนกัน แต่ว่ามิเป็นคนใจดีใจอ่อนเกินไป

เราเข้าใจในจุดนี้นะ

ตอนนี้ลุ้นอยู่อย่างเดียวคืออาเมนอย่าเป็นอะไรนะ

เราเอฟซีนายนะ กลับไปหาเมษาให้ได้

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ FanGieTsFc

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :ling3: กรี้สสสสสสส อ่านแล้วมันลุ้นสุดๆหายใจแทบไม่ออกเลย  ชอบอาเมนไม่รู้ว่าทำไมถึงเดาออกว่าอาเมนต้องทำแบบนี้แน่ๆตั้งแต่ตอนที่เมษาได้ตั๋วมาแล้วแน่ๆ แต่ก็มันส์มากยิ่งรู้ว่าเดาถูกยิ่งมันส์    หนูมิตอนนี้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมากบอกอะไรก็เชื่อ ให้ทำไรก็ทำ แบบนี้นักอ่านปลื้มมากค่ะ รอตอนต่อไปนะคะรอวันที่จอมทัพจะระเบิดพวกมันให้ราบคาบ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เง้ยยยยยยยยย ลุ้นมากกกกก
หวังว่าอาเมนจะปลอดภัยและกลับไปหาเมนะ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :ruready ใช้เวลาอ่านนานมากกกกกก ลุ้นไปทุกบรรทัดเลย

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ยังหาเหตุผลจะด่ามิไม่ได้เลยนะ เพราะเป็นเราการที่เรารักใครเชื่อใจใครถึงจะเคยถูกหักหลังหรือโกหกเราก็พร้อมจะให้อภัยแล้วก็เชื่อเขาอีกได้ไม่ยาก อีกอย่างจะให้มิที่คิดว่าน้องสำนึกผิดแล้วหนีไปคนเดียวก็คงไม่ได้ถ้าอาเมนไม่ได้ปล่อยเมจริงๆล่ะ แค่มิหนีไปให้ได้อยู่ห่างจากจอมทัพได้ก็คงไม่ถูกจับเอาตัวไปเป็นข้อต่อรองหรอกจริงมั้ย ใครจะไปรู้ว่าไอ่เสี่ยวชุนมันจะฉลาดเดาแผนการไว้หมดแล้วมาจับมิที่สนามบินได้

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ลุ้นมากเลยค่ะ T^T
ถ้ารอดกลับไปแล้วขอหวานๆเลยนะคะ
3-4 ตอนนี้หัวใจจะวาย

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ได้แต่หวังว่าอาเมนกับเมษาจะได้คู่กับเหมือนคู่ของมิ
เป็นตอนที่ลุ้นม๊ากกกกก

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อาเมนจะตายมั้ยนั่นคือสิ่งที่ลุ้น

ส่วนมิ เกรียนแตกน้อยลงจะดีมาก หัวใจจะวาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด