SENPAI:19
หลังจากที่ตีกันเสร็จ การรับน้องฐานสุดท้ายก็เป็นอันต้องยกเลิกไปแล้วพวกพี่ว้ากก็พากันจรลีไปที่ห้องของผมกับพี่ทศ…เพื่อทำแผล
=____________= แล้วทำไมต้องมาที่ห้องกูด้วยอ่ะเนี่ย
“แม่งไอ้พวกเหี้ย ต่อยกูปากแตกเลยไอ้สัส ถ้าหน้ากูเสียโฉมนะ กูจะเอาตีนไปยัดปากแม่งแน่” รู้มั้ยเสียงใคร…..
ก็เสียงของไอ้คนที่ผมกำลังทำแผลให้อยู่นี่ไง ในมือของผมมีสำลีชุบแอลกอฮอล์อยู่ ส่วนไอ้พี่ทศมันก็ไม่ได้สนใจคนที่ทำแผลให้มันเลยนะ มันเอาแต่นั่งส่องกระจบสำรวจรอยแผล
“โอ๊ยยยยยยย!! เจ็บนะคิง”
“นี่ พี่จะอะไรนักหนาเนี่ย เป็นตุ๊ดรึไงห่วงหน้าอยู่นั่นแหละ ส่องเข้าไปกระจกน่ะ ไม่ต้องทำแม่งแล้ว แผลเผลอเนี่ย” ผมพูดออกไปอย่างสุดทนแล้วก็ปากสำลีนั้นใส่หน้าพี่มันแล้วเดินไปนั่งบนเตียงของตัวเอง
“เฮ้ย ได้ไงอ่ะ คนอื่นมันยังมีคนทำแผลให้เลย…ดูดิคนอื่นแม่งก็มีเมียทำแผลให้ทั้งนั้นอ่ะ แล้วคิงจะไม่ทำให้พี่ได้ไงอ่ะ” มันก็เกือบจะใช่อ่านะ ที่ตอนนี้เค้าทำแผลให้กันเป็นคู่ๆเลยล่ะ ยกเว้นพี่เอก…ที่มีพี่สันทนาการที่เป็นกระเทยชื่อบิววี่ทำแผลให้เพราะพี่เอกกับพี่ซียังคงเข้าหน้ากันไม่ติด
“เดี๋ยวกูทำให้ก็ได้..” พี่ซีเห็นพวกผมตีกันล่ะมั้งเลยอาสามาทำแผลให้พี่ทศแทน ผมก็ไม่สนหรอกนะ เห็นแล้วแม่งหมันไส้ หน้าแม่งก็หล่ออยู่แล้ว ให้แม่งบุบสลายไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง อย่างน้อยแม่งจะได้มีพื้นที่ให้คนที่หล่อ(น้อยกว่ามัน)ยืนบ้างอะไรบ้าง
“นี่พี่ทำอะไรของพี่อะเนี่ย ทำไมมันไม่เรียบร้อยเลยอ่ะ” อยู่ๆไอ้ยูก็ร้องโวยขึ้นมา พอผมหันไปมองก็เห็นว่าไอ้ยูกำลังกวนตีนพี่บอมบ์โดยการบอกว่าพี่บอมบ์พันแผลที่แขนของมันเนื่องจากไปขูดอะไรซักอย่างนั้นไม่เรียบร้อย
“เออ งั้นคุณก็ไปให้ควายพันให้แล้วกันไอ้เด็กเหี้ย!!” พี่บอมบ์โมโหโวยขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปจนไอ้ยูต้องตามไปง้อ
“เสร็จแล้วมึง” พี่ซีพูดบอกเบาๆพร้อมกับเก็บกล่องปฐมพยาบาลจะเอาไปเก็บไว้ที่ชั้น ซึ่งมันต้องผ่านพี่เอกไป
“ขอบใจ”
“เหอะ…ไม่ต้องมาทำเพื่อนหรอ…ก็ว่ามึงไปทำให้ ‘ผัว’ ของมึงต่อนู่นไป”
“….” ไม่มีเสียงใดๆตอบโต้ออกมา มีแต่สายตาที่เจ็บปวดของพี่ซีที่ส่งไปแทนคำพูด
“อุ้ยตายห่าแล้ว! อีเอก มึงไปว่าซีซ่าของกูอย่างนี้ได้ยังไง ซีซ่ายังซิงเชื่อกูสิ….”
เอ่อ …ซีซ่านี่มันชื่ออาหารแมวป่ะวะ =____________=
“เหอะ!! มัน ‘ซิง’ หรือมัน ‘สวิง’ มึงเอาให้ถูกนะ เอาทีเป็น 10 ขนาดอริต่างคณะมันยังไปเอามาแล้วเลย….พลั๊ก!!” ทุกอย่างเกิดโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว รู้อีกทีพี่ต้นที่ทำแผลอยู่เงียบๆก็ลุกขึ้นมาต่อยพี่เอกซะเฉยๆ
“ไอเหี้ยต้น มึงทำเหี้ยอะไร”
“ก็จะทำห่าอะไรล่ะ ก็ต่อยเอาหมาในปากมึงออกมาซักสองสามตัวไงล่ะ เผื่อมึงจะเลิกปากหมาซักที”
“กูปากหมาแล้วไง…หรือว่ามันไม่จริงล่ะ ที่ไอ้เหี้ยซีไปเอากับไอ้สัสนนท์ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่พูดอย่างนั้นหรอกมั้ง…อ่อ…แล้วที่ออกมาปกป้องอย่างนี้หรือว่ามึงเล่นเพื่อนกับไอ้ต้นด้วยรึไง…ว่าไงล่ะไอ้ซี” พี่เอกตวัดสายตาไปที่พี่ซีพี่ยืนร้องไห้อยู่ ส่วนพี่ต้นก็ทำท่าจะวิ่งเข้าไปต่อยพี่เอกอีก แต่มีพี่ทศลุกขึ้นมาห้ามไว้
“มึงไปสงบสติอารมณ์ก่อนไปไอ้เหี้ยเอก แล้วพวกมึงสองคนน่ะเปิดอกคุยกันได้แล้ว!!” พี่ทศพูดขึ้นอย่างเหลืออด แล้วหลังจากนั้นก็ไล่ทุกๆคนออกไปจากห้องไห้หมด เพื่อหยุดการทะเลาะวิวาท
ในตอนเย็นพวกผมก็ลงมาทานอาหารกันที่ห้องอาหารของโรงแรม ยกเว้นพี่เอกกับพี่ซีที่หายไปไหนกันก็ไม่รู้
“ไปโดนอะไรกันมาเนี่ย” เสียงนี้รู้เลยว่าใคร ก็พ่อบังเกิดเกล้าของผมไง เดินมาพร้อมสามี(?)และใครก็ไม่รู้ที่ดูหล่อแบบแบดบอย แต่ดูท่าแล้วน่าจะอายุมากกว่าพ่อกับป๋า อ่อแล้วก็อีกคนน่าจะอายุประมาณ 25 มั้ง น่าตาจะว่าหล่อก็ไม่ใช่น่ารักก็ไม่เชิง
“เอ่อ พอดีเจออริน่ะครับเลยมีเรื่องนิดหน่อย”
“อ้าว นี่เจ้าทศ…”
“สวัสดีครับอาธาม” พี่ทศและคนอื่นๆบนโต๊ะ เริ่มไหว้คนที่ชื่อธาม
“พ่อมาทำที่นี่” เสียงพี่ต้นถามขึ้น ทำให้รู้ทันทีเลยว่าพวกเค้าเป็นพ่อลูกกัน
“ฉันก็แค่มาพักผ่อนบ้าง แล้วอาแกว่างก็เลยพามาด้วย….สวัสดีนะทุกๆคน ฉันเป็นพ่อของเจ้าต้นมัน”
“สวัสดีคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”
“แล้วนี่…นาวากับคีย์ เป็นเพื่อนของฉัน….แล้วก็ตัวโน้ทเป็นน้องเมียของฉันเอง” และแล้วพวกท่านก็มานั่งทานข้าวกับพวกผม ทำให้ผมรู้ว่าพ่อพี่ต้นน้ำอายุแค่ 35 เท่านั้นเอง นั่งทานกันไปคุยกันไปเรื่อยๆ พวกท่านก็ถามๆมาว่ามาทำอะไรกัน จนเวลาผ่านไปซักพักใหญ่ก็ต่างแยกย้ายไปพักผ่อน
“หื้ม….ว่าไงนะ…เหี้ยแล้ว ทำไมมันกะทันหันแบบนี้ล่ะวะ…เออๆๆจะกลับพรุ่งนี้เย็นๆแล้วกัน”
“ใครอ่ะพี่ทศ”
“ยัยบีนะสิ โทรมาบอกว่าอีก 3 วันจะมีการแข่งกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคณะ แล้วก็ต้องหาคนลงกีฬาประเภทต่างให้ครบด้วย”
“แล้วสแตนด์อ่ะพี่ เรายังไม่ได้ซ้อมอะไรกันเลยไม่ใช่หรอ” ผมแต่ยุ่งอยู่กับไอ้รับน้องอะไรเนี่ย แต่จะว่าไปพึ่งจะเปิดเรียนจะให้แข่งกีฬาแล้วหรอวะ
“งานนี้เป็นการแข่งเฉพาะกีฬา เพราะฉะนั้นจะไม่มีหลีดแล้วก็สแตนด์เชียร์ เป็นแค่กีฬาที่ให้แข่งเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคณะ แต่พี่ว่ายิ่งแข่งแต่ละคณะยิ่งเกลียดกัน เหมือนกับวิศวะกับนิติไง”
“ผมเคยเห็นแต่เค้าบอกว่าวิศวะไม่ถูกกับสถาปัตย์แต่ที่นี่วิศวะกลับไม่ถูกกับนิติซะงั้นอ่ะ”
“ที่อื่นเป็นยังไงก็ไม่รู้หรอกนะ แต่เดิมก็เพราะกีฬาเชื่อมสัมพันธ์นี่แหละถึงทำให้วิศวะกับนิติแตกคอกันเพราะต่างฝ่ายต่างอยากเอาชนะอีกฝ่าย….จริงๆ 2 คณะก็พึ่งจะเกลียดกันเมื่อ 4-5 ปีก่อนนี่แหละ”
“ทำไมอ่ะพี่….”
“ก็เมื่อ 4 ปีก่อนประธานคณะวิศวะที่ชื่อ พี่อัฐ เค้าชอบทะเลาะแล้วก็แกล้ง พี่คิวท์ ประธานคณะนิติศาสตร์อ่ะดิ แกล้งจนพี่คิวท์เกลียด แล้วก็พยายามชนะคณะเราอ่ะดิ”
“แล้วปีนั้นใครชนะอ่ะ” ผมถามด้วยความอยากรู้ เรื่องแม่งเหมือนนิยายเลย 555
“ปีนั้น….สถาปัตย์ชนะ”
=_____________=^
“ก็ต่างฝ่ายต่างอยากเอาชนะกันไง ก็เลยต่างฝ่ายต่างใช่วิธีโกงจนโดนจับได้แล้วโดนปรับแพ้...ดีที่โดนแค่ปีนั้นปีเดียว…แล้วต่อจากปีนั้นทั้งสองคณะก็ตีกันมาตลอด ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาตลอด”
“แล้วพี่ 2 คนนั้นก็คงเกลียดกันมาจนถึงตอนนี้เลยล่ะมั้ง…”
“ใครบอก…พอโดนปรับแพ้ไอ้พี่อัฐแม่งโมโหก็เลยจับพี่คิวท์ทำเมีย…แล้วแม่งก็เป็นผัวเมียกันมาจนถึงตอนนี้เลยล่ะ”
“….=[]=” เออ ดีเนอะ ตัวเองก็โกงเสือกไปโมโหเค้าแล้วจับเค้าทำเมียเฉยเลย
“แล้วที่นี่มีกีฬาอะไรให้แข่งบ้างอ่ะพี่…” เปลี่ยนเรื่องไปซะเฉยๆเลยผม…จะว่าไปผมก็ไม่ค่อยลงแข่งอะไรเท่าไหร่ เพราะว่ามันเหนื่อย แต่ว่างานนี้เด็กปี 1 จะต้องโดนบังคับทำอะไรแปลกๆแน่
“ก็มีฟุตบอล บาสเกตบอล แบดมินตัน ว่ายน้ำ กรีฑาแล้วก็วอลเลบอล”
“อืม….พี่ลงกีฬาป่ะ”
“คิดว่าพวกไอ้ห่าพีทน่าจะลงบอลกับบาส พี่ก็ว่าจะลงบอลกับบาสนั่นแหละ”
“อ่า…”
“แล้วลิงล่ะ เล่นกีฬาเป็นรึเปล่า”
“ไม่รู้อ่ะ ผมไม่ชอบเล่นกีฬามันเหนื่อย” ผมถ้าไม่จำเป็นหรือไม่ก็โดนบังคับล่ะก็ผมไม่ลงกีฬาเด็ดขาด แม่งเหนื่อยจริงๆ ปอดผมไม่เหมาะกับพวกกีฬา
“ไม่น่าล่ะ…ไม่ค่อยมีกล้าม เอวก็เล็กนิดเดียว…แต่ก็ดีแล้วล่ะผมชอบเอวเล็กๆๆ….” พี่ทศมันพูดหน้าหื่นแล้วก็ขยับมากระซิบข้างๆหูผม
(“เวลากระแทกแรงๆแล้วมันเหมาะมือพอดี…หึหึ”)
O//////O
“ไอ้พี่หื่น ผมจะลงไปซื้อขนมข้างล่างแล้ว”
ปั้ง!!
ด้วยความที่ผมหน้าแดงถึงขนาดไม่สามารถอยู่ให้มันล้อได้ ผมจึงรีบหนีออกจากห้องแล้วลงมาที่ร้านค้าที่มีขนม นม เนยขาย เมื่อมาถึงผมก็ซื้อขนม น้ำผลไม้ บลาๆๆ ไปซื้อถึงใหญ่ ถึงไอ้พี่ทศมันจะบอกว่าผมผอมแต่ผมเป็นพวกชอบกินขนมจุกจิกไปเรื่อย เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย ผมก็จะเดินกลับไปที่ห้องทันที
พลั่ก! ตุ้บ!
“เฮ้ย!! ขอโทษครับ เป็นอะไรมั้ยครับ” ผมพูดขึ้นด้วยความตกใจ เพราะขณะที่ผมกำลังเลี้ยวไปที่ลิฟท์ก็ชนเข้ากับคนๆหนึ่งอย่างแรง จนเค้าล้มลงไป….ผมจึงยื่นมือออกไปเพื่อช่วยให้เค้าลุกขึ้น
0__0
เค้าเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วก็นิ่งอึ้งไป ก่อนที่จะค่อยๆเอื้อมมือมาแล้วผมก็ช่วยดึงให้เค้าลุกขึ้น
“ขอบคุณ”
“อ่า ผมต้องขอโทษพี่จริงๆครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมเอ่ยขอโทษคนตรงหน้าที่ดูจากหน้าตาแล้ว น่าจะเป็นพี่ผมกับพี่ทศอีกมั้ง
“เอ่อ เราอยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน…ไม่ต้องเรียกว่าพี่หรอก…”
…(แดกจุดสิครับ)
O[]O
“เราชื่อสุครีพ เรียกครีบเฉยๆก็ได้ อยู่ปี 1 คณะนิติศาสตร์” สุครีพยิ้มให้ผมประมาณว่าหล่อสุดๆ(ประชด) แล้วก็เดินออกไปส่วนผมก็ยืนแดกจุดอยู่ที่เดิมนั่นแหละ….
ไอ้เหี้ย!! แม่งอายุเท่ากูได้ไง!!!
2 Be Con.
สุครีพมาแล้ว 55555 เม้นๆให้ด้วยนะ