So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)  (อ่าน 767835 ครั้ง)

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
แอบหวีดนะช่วงนี้

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 13

“เดทบ้านมึงสิเท็น หลอกกูมาหิ้วของให้ชัดๆ” ไอ้เมลบ่นทำนองนี้มาสักสามรอบแล้ว ผมเลยละสายตาจากสมุดแค็ตตาล็อคตรงหน้ามายิ้มให้มัน

“ไม่ได้หลอก ก็ชวนมาซื้อของด้วยกัน ไม่เรียกว่าเดทไงวะ”

ไอ้เมลทำหน้าบึ้งพร้อมกับผลักหัวผม ผมเลยดึงมือมันให้นั่งลงข้างๆ

“ช่วยเลือกหน่อย เอาแบบไหนดีเมล”

ผมพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ ตอนแรกไอ้เมลมันก็เล่นตัวให้รู้ว่าเคืองแต่หลังๆ มามันก็ช่วยเลือก มันบอกว่าถ้าจะทำเป็นทางเดินเอาเป็นแผ่นหินดีกว่า แข็งแรงกว่าด้วย ผมเลยให้ไอ้เมลมันจัดการไป ตกลงราคากับทางร้านพร้อมกับเขียนที่อยู่สำหรับให้ไปส่งของแล้ว ก็ลากไอ้เมลออกจากร้านมา

“หนักป้ะ กูช่วยถือมั้ย” ผมถามยิ้มๆ มันตวัดตามามองแล้วก็ทำหน้าบึ้ง

“ไม่ต้อง มือมึงเจ็บ จะถือได้ไง เดินไปเฉยๆ เถอะ”

ก่อนมาที่นี่เราไปแวะที่ร้านขายต้นไม้มาแล้ว ต้นไม้ที่จะเอาไปทำรั้วผมสั่งให้ไปส่งที่บ้านก็จริง แต่ต้นดอกแก้วกับกระถางนี่จะซื้อไปปลูกที่คอนโดไอ้เมลเลยว่าเอากลับเองดีกว่า เพราะยังไงวันนี้ผมก็จะค้างกับมันอยู่แล้ว ไอ้เมลเลยต้องเดินหิ้วกระถางกับต้นดอกแก้วเองไงล่ะ

“ไปไหนต่อ หรือกลับ” ไอ้เมลถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถ หน้ามันแดงนิดๆ เพราะเดินตากแดดมาตลอดช่วงเช้า

“ไปกินข้าวก่อน มึงจะกินไร” ผมบอก เดินเข้ามานั่งในรถ ไอ้เมลเร่งแอร์จนเย็นเฉียบ คือมึงจะเปิดให้หมีขั้วโลกมาทำรังอยู่รึไง

“แล้วแต่มึงอ่ะ”

“แดกไก่ดีมั้ย ไม่รู้จะกินไร”

“พักเที่ยงคนจะไม่เยอะเหรอวะ”

“งั้นเอาไงล่ะ”

คิดอะไรไม่ออกไอ้เมลเลยขับรถกลับมาตั้งหลักที่บ้านผม มันบอกว่าไอ้ฟิวน่าจะทำอาหารไว้ และก็ตามมันว่า ไอ้ฟิวกำลังเข้าครัวทำมักกะโรนีไก่สำหรับมื้อเที่ยงนี้

“อ้าว เมล ไปไหนกันมาเหรอ” ไอ้ฟิวถาม มองผมกับไอ้เมลด้วยสีหน้าเหมือนอยากร้องไห้ผสมกับเจ็บใจอยู่หน่อยๆ

“ไปเป็นเพื่อนเท็นซื้อของอ่ะ หิวข้าวเลยแวะมาที่นี่ ฟิวไม่ว่าไรใช่ป่ะถ้าจะมาขอกินด้วย”

โอ้ย แค่มึงยิ้มหล่อให้มัน มันก็ไม่ว่าอะไรแล้ว

“ไม่ว่าหรอก ดีใจด้วยซ้ำ เมลไปนั่งดูทีวีรอก็ได้”

“ไม่มีไรให้ช่วยเหรอ”

“อืมมมม งั้นช่วยล้างแครอทให้หน่อยละกันนะ”

ผมเดินหลบฉากออกมาจากห้องครัว ไม่อยากอยู่เป็นก้าง เห็นผมเดินมากับไอ้เมลแต่ไม่ทักผมสักคำ เอาเถอะ ช่วงก่อนหน้าที่ผมจะหายไปทำสวนมันก็ทำตัวแปลกๆ กับผมอยู่แล้วไอ้ฟิวน่ะ ชอบทำหน้าหงุดหงิดใส่เหมือนผมไปเหยียบหัวแม่ตีนมัน

ผมเดินมาหาไอ้กัสที่นั่งจิ้มเครื่องคิดเลขอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

“ทำไรวะ”

“การบ้านแคลสองดิ กูเอฟเทอมที่แล้วจำไม่ได้ไง เลยต้องมาลงเรียนเทอมนี้ เซ็งจริง”

“เออ แค่ดูหน้ามึงก็รู้ละ”

“หน้ามึงก็เซ็ง ไปไหนมาวะ”

“ซื้อของ”

ไอ้กัสมองผมพลางเลิกคิ้ว ก่อนมันจะก้มหน้าลงทำการบ้านต่อ ผมเลยล้มตัวนอนลงบนโซฟา เอาจริงๆ คือช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยไหว ปวดไปทั้งตัว ยิ่งหลังกับคอนี่ปวดมากเพราะต้องก้มๆ เงยๆ ทั้งวัน

ไอ้กัสหันมามองผมอย่างสงสารเมื่อได้ยินผมร้องโอดโอยตอนกำลังหาท่านอนสบายๆ

“มาๆ เดี๋ยวกูไปเอายามานวดให้”

มันรีบวิ่งไปเอายามานวดให้ผม ส่วนผมก็นอนคว่ำ เปลือยท่อนบนให้มันนวดหลังให้

“ซี้ดดดดดดดดด เบาดิวะ มือหนักนะมึงเนี่ย” แต่ไหนแต่ไรมาไอ้กัสจะเป็นคนสุดท้ายเลยที่ผมจะยอมให้ทำแผลให้ มือหนักอย่างกะตีนตั้งแต่สมัยมันยังนุ่งกระโปรงแล้วล่ะ

“แลกกัน มึงทำการบ้านให้กูเลย” ผมขมวดคิ้ว นึกอยู่แล้วว่าคนอย่างมันคงไม่ทำให้ฟรี

“เออ เอามาๆ ซี้ดดดดดด เหี้ย เบาๆ”

“โห เท็น ไม่ได้อาบน้ำด้วยกันแค่ไม่กี่ปี ผิวสวยว่ะไอ้ห่า นุ่มลื่นมือ”

“อย่าหน้ามืดปล้ำกูนะเว้ย หึหึ เออออ ตรงนั้นแหละ เน้นหน่อยมึง อื้มมมม นั่นแหละๆ ใช้ได้ๆ”

“เหี้ยเท็นเอวเล็กกว่ากูอีก” ไอ้กัสแม่งเล่นเอาเสียววูบเลยครับ

“ห่ากัส ให้นวดไม่ใช่ให้ลูบ กูเสียว ของขึ้นแล้วมึงจะซวย”

“ไอ้เวร เพื่อนก็ไม่เว้น”

ผมยื่นมือไปผลักหัวมัน แต่ไอ้กัสรู้ทันเลยเบี่ยงหลบ

“ทำไรกัน” เสียงเข้มๆ ดังขึ้น แรงบีบจากมือของไอ้กัสหยุดชะงักลง มันก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า งานเข้า

“ทำเสร็จแล้วเหรอวะ” ผมลุกขึ้นนั่งช้าๆ หันไปถามไอ้เมลที่ยืนหน้าบึ้งคิ้วชนกันอยู่ตรงหน้า ไอ้กัสแม่งเผ่นหนีเข้าครัวไปแล้ว

“กูถามว่าทำไรกัน”

เอ้า ไอ้นี่ ตาบอดไงวะ มันก็คงเห็นว่าไอ้กัสนวดให้ผม แต่ไอ้คนที่เห็นแล้วถามนี่ล่ะ คือคนกำลังจะหาเรื่อง

“นวดไง กูปวดหลัง ไอ้กัสเลยนวดให้”

ไอ้เมลทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้แดกเข็มพันเล่ม มันเตะหน้าแข้งแล้วก็ผลักหัวผม

“เมล เจ็บนะเว้ย”

ไอ้ห่านี่ใบ้แดกไม่พอยังหูหนวกอีก กูบอกว่าเจ็บก็ยังไม่หยุด แล้วจะผลักหัวไปถึงไหน

“หยุด มึงไม่พอใจไรก็พูดมา ไอ้เหี้ย กระดูกคอกูจะเคลื่อนมั้ยเนี่ย”

ไอ้เมลหยุดผลักหัวผมก็จริงแต่มันเปลี่ยนมาล็อคตัวผมไว้แทน

“โอ้ย เมล อะไรของมึง”

“กูโมโหมากนะเท็น มึงไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่นิ่งๆ”

เพราะน้ำเสียงที่จริงจังของมันทำให้ผมหยุดดิ้น

“มึงจะโมโหทำไมวะเมล ไอ้กัสมันก็เพื่อนกู”

“ก็กูไม่ชอบ ทำไมต้องให้คนอื่นจับตัวมึงง่ายๆ ด้วยวะ”

“นั่นเพื่อนสนิทกูนะ ไม่ใช่คนอื่น”

พอผมพูดอย่างนี้ไอ้เมลก็เหมือนจะอ่อนลงมาหน่อย แต่มันก็ยังหน้าบึ้งยืนกรานคำเดิมๆ ว่า “กูไม่ชอบ”

“ไว้คุยกันทีหลังได้มั้ยวะ มึงลืมแล้วไงว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เรา ไอ้ฟิวไอ้กัสก็อยู่”

ไอ้เมลมองผม สายตามันเจ็บปวดจนผมทำอะไรไม่ถูก

“เมื่อไหร่มึงจะเลิกใจร้ายกับกูซะทีวะเท็น” มันถามเบาๆ แล้วเดินหนีเข้าครัวไป

ผมคว้าเสื้อขึ้นมาใส่ ยืนเรียกสติตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะนั่งลงดูทีวี สักพักไอ้ฟิวก็เรียกให้ไปกินมักกะโรนีไก่ที่มันเพิ่งทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ มันมองหน้าผมแปลกๆ แว๊บหนึ่งที่ผมคิดว่ามันอยากต่อยหน้าผมมาก คงได้ยินที่ผมทะเลาะกับไอ้เมลแน่ เพราะเถียงกันเสียงดังขนาดนั้น

ผมนั่งลงที่หัวโต๊ะ กินไปเงียบๆ ฟังพวกมันสามคนคุยกันเรื่องเรียนบ้าง เรื่องสถานที่เที่ยวบ้าง ไอ้เมลมันคุยปกติกับไอ้กัสไอ้ฟิว แต่มันไม่มองมาทางผมเลย

“เท็น ไปช่วยกูยกจานขนมกับผลไม้หน่อย” ไอ้ฟิวพูดขึ้นหลังจากที่มันเห็นผมกินจนหมดจานแล้ว

ผมเดินตามมันเข้ามาในครัว ไอ้ฟิวหยุดอยู่หน้าตู้เย็น ผมเลยยืนพิงเครื่องล้างจานที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ มีไว้ประดับครัวเฉยๆ รอว่ามันจะพูดอะไร ผมรู้ว่าไอ้ฟิวมันต้องมีเรื่องจะพูดกับผม เพราะร้อยวันพันปีมันไม่เคยให้ผมเข้ามายุ่งในครัว

“มึงกับเมล เป็นไรกัน” ไอ้ฟิวถามเสียงสั่นน้อยๆ

“เพื่อนกัน”

“ทำไมมึงต้องโกหกกูด้วยวะเท็น มึงเห็นกูโง่มากรึไง”

ผมขมวดคิ้วมองแผ่นหลังไอ้ฟิว มันคงกำลังเข้าใจอะไรผิดสักอย่าง

“กูไม่ได้โกหก”

“มึงโกหก!”

“แล้วกูจะโกหกมึงทำไม”

ไอ้ฟิวหันมามองหน้าผม น้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้างของมัน สายตาที่มองผมเต็มไปด้วยความโกรธ

“มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูชอบเมล มึงถึงไม่บอกกูว่าพวกมึงคบกัน แต่กูไม่ได้โง่นะเท็น กูรู้ทุกอย่างนั่นแหละแค่กูไม่พูด กูรอให้มึงเป็นคนบอกกูเอง แต่มึงก็ไม่พูดอะไรเลย มึงยังโกหกกูว่าเป็นเพื่อน กูอยากอดทนให้มากกว่านี้แต่กูไม่ไหวแล้ว กูไม่อยากเห็นมึงทำร้ายเมลอีกแล้ว”

ผมยืนนิ่งมองไอ้ฟิว เพื่อนสนิทที่เมื่อวานยังหายามาใส่แผลให้ผมดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคน เป็นอีกคนที่ผมหาความห่วงใย ความเข้าใจ จากสายตามันไม่เจอ

“มึงเล่นอะไรของมึงอยู่กันแน่ ไม่รักแล้วทำไมไม่ปล่อยเมลไป มึงบอกกับทุกคนว่าเมลเป็นแค่เพื่อน แต่การกระทำมึงมันไม่ใช่เลยเท็น มึงนอนกับคนที่เป็นเพื่อนมึงด้วยเหรอวะ เมลไม่ใช่ของเล่นของมึงนะ ที่พออยากเล่นมึงก็ทำดี พอมึงเบื่อมึงก็ทำร้าย กูพยายามแทบตายเพื่อให้เมลมีความสุข แต่มึงเป็นใครวะถึงได้กล้าทำร้ายคนที่กูรักได้ขนาดนี้”

ไอ้ฟิวทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ ส่วนผมอยากจะหัวเราะ ไอ้ฟิวที่อยู่กับผมมาตั้งแต่จำความได้กำลังถามว่าผมเป็นใครถึงได้กล้าทำร้ายคนที่มันรัก

“มึงกำลังเสียใจเรื่องอะไรกันแน่ฟิว เสียใจที่กูไม่บอกมึงเรื่องกูกับไอ้เมล เสียใจที่กูทำร้ายไอ้เมล หรือเสียใจที่คนที่ไอ้เมลเลือกไม่ใช่มึง”

ไอ้ฟิวกรีดร้อง สภาพมันเหมือนนกที่ถูกยิงให้ร่วงตกจากฟ้า มันสะอื้นจนตัวโยนแต่ผมก็ทำแค่ยืนมอง ไอ้กัสถลาเข้ามาในห้อง มันมองผมทีไอ้ฟิวทีแล้วก็นั่งลงไปกอดไอ้ฟิวไว้

“พอไอ้เท็น! ไอ้ฟิวมันเจ็บจะตายอยู่แล้วไม่เห็นรึไง”

ก็ร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตายจริงๆ แต่ไหนๆ ก็เป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว ผมก็ไม่อยากให้ค้างคาอะไรอีก

“กูเห็น แต่มันต้องฟัง มึงก็รู้จักกูดีนะฟิวว่ากูไม่ใช่คนที่จะโกหกเพื่อความสบายใจของใคร กูรู้ว่ามึงชอบไอ้เมล แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่กูบอกมึงว่ามันเป็นแค่เพื่อน เป็นเรื่องของกูที่พอใจจะคบกับมันในสถานะนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับใคร กูมีปัญหาของกูเอง กูไม่ได้โกหกหรือเห็นว่ามึงโง่หรอกนะ ไม่เคยคิดเลยจริงๆ”

ผมหวังว่าไอ้ฟิวจะเข้าใจในเรื่องที่ผมพูด ไม่ได้อยากจะใจร้ายอะไรกับมัน แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับมันเลย ผมไม่ได้ให้มันเป็นตัวแปรหลักในเรื่องของผมกับไอ้เมล มันจะชอบหรือไม่ชอบไอ้เมล ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน

“ขึ้นไปคุยกับกูข้างบน” ผมบอกไอ้เมลที่ยืนอยู่นอกห้องครัวเงียบๆ มันคงลำบากใจน่าดูกับสิ่งที่ได้ยิน

ไอ้เมลเดินตามผมเข้ามาในห้อง มันยืนกอดอกพิงประตู ส่วนผมทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา เงยหน้ามอง ก็ยังเห็นมันทำหน้านิ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

“มึงชอบว่ากูใจร้าย แต่ทำไมมึงถึงยังทนวะ” หลังจากที่ปล่อยให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอยู่นาน ผมก็ตัดสินใจพูดกับมันก่อน

ผมถามแต่ไอ้เมลไม่ยอมตอบ

“ทำไมถึงไม่ไปคบกับคนที่เขารักมึง คนที่เขาให้ความชัดเจนกับมึงได้ อย่างไอ้ฟิวที่มันรักมึงมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ถ้าเป็นมันมึงอาจจะมีความสุขกว่านี้”

“กูพยายามแล้วเท็น แต่กูก็กลับมาที่เดิม” ไอ้เมลยกมือขึ้นปิดหน้า ผมจับน้ำเสียงได้ว่ามันเหนื่อยใจแค่ไหนกับเรื่องนี้

“มึงคงยังพยายามไม่พอ”

ไอ้เมลลดมือลง มันมองมาทางผมแล้วสืบเท้าเข้ามาใกล้

“มึงอยากให้กูไปจากมึงนักเหรอเท็น มึงทนได้รึไงถ้าไม่มีกู ถ้ามึงทนได้มึงก็พูดออกมาเลยว่าไม่ได้รัก ไม่ได้รู้สึกอะไร แล้วกูจะไปจากมึงทันที” สีหน้ามันจริงจังไม่ต่างจากน้ำเสียง

ไอ้เมลยิ้มกับความเงียบของผม มันยิ้มแบบที่ผมเห็นแล้วอยากจะร้องไห้ออกมา

“เพราะแบบนี้ไงกูถึงได้บอกว่ามึงใจร้าย มึงไม่ยอมปล่อย...แต่มึงก็ไม่รัก”

“ถ้ามึงจะสรุปเอาเองอย่างนี้ ทำไมมึงไม่ไปซะเลยล่ะ”

“ไม่ให้สรุปเอาเองมึงก็พูดมาสิว่ารู้สึกยังไง หลายครั้งแล้วนะที่ชอบพูดเหมือนว่ามึงคิดอะไร แต่สุดท้ายก็เอาคำว่าเพื่อนมาอ้างกับกู! มึงช่วยชัดเจนหน่อยได้มั้ยวะ! จะปั่นหัวกูไปถึงไหน! เหี้ยเอ้ย!”

ผมสะดุ้งกับเสียงตวาดของไอ้เมล จับมือมันมันก็ปัดออก ผมเลยไม่รู้จะทำยังไง กลัวมันจะเดินหนีเลยจับชายเสื้อมันไว้

“ก็มึงจะให้กูทำยังไง ถ้าคบกันกูก็กลัวมึงจะทนกูไม่ได้แล้วต้องมาขอเลิกเหมือนครั้งนั้นอีก เมล กูยังอยากมีอิสระนะ กูไม่อยากต้องมานั่งรายงานใครว่ากูจะไปไหน ไปทำอะไร จะกลับเมื่อไหร่ กูมีอะไรที่อยากทำหลายอย่างซึ่งบางครั้งอาจจะไม่มีเวลาให้มึง กูไม่อยากต้องรู้สึกผิดที่ดูแลมึงไม่ดี อยู่กับมึงเท่าที่มึงต้องการไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่กู ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราคบกันไม่วันใดก็วันหนึ่งมึงต้องทนไม่ไหวแล้วทิ้งกูไปแน่ แต่ถ้าเป็นเพื่อนกัน กูจะทำอะไรก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกับใคร”

ผมรู้ว่าผมเห็นแก่ตัว แต่ผมก็ไม่อยากให้อิสระที่ผมเคยมีมันหายไป ผมอยากใช้ชีวิตของผมให้เต็มที่ ไม่อยากต้องมานั่งระแวงว่าแฟนที่ผมไม่มีเวลาให้เขาจะนอกใจผมรึเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากให้ไอ้เมลอยู่ข้างๆผม ไม่ว่าผมจะเดินไปไกลแค่ไหนก็อยากให้เวลาที่หันกลับไปมองก็ยังเห็นมัน

“กูรักมึงนะเมล แต่ไม่อยากคบกับมึง”

ไอ้เมลทำหน้าอึ้งแบบจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก จะร้องไห้ก็ร้องไห้ไม่ได้

“มึงกวนตีนกูมากไปแล้วไอ้เท็น”

“กูพูดจริงๆ นะ ไม่ได้กวนตีน อย่างน้อยก็ตอนนี้อ่ะ กูยังเป็นวัยรุ่นนะเว้ย กูมีกิจกรรมในชีวิตให้ทำอีกเยอะแยะ”

“กูก็ไม่ได้บอกว่าถ้าคบกันแล้วจะห้ามทำนั่นทำนี่ กูไม่ใช่ไอ้บ้าที่ล่ามคอแฟนไว้ในห้องนะเว้ย มึงอยากทำไรก็เรื่องของมึง กูไม่ก้าวก่ายอยู่แล้ว แค่ว่าอย่านอกใจกันก็พอ”

ก่อนเป็นแฟนใครก็พูดได้ทั้งนั้นแหละแบบนี้ แต่พอเป็นจริงๆ ก็เยอะกันทุกคน ผมอาจจะไม่เคยมีแฟน แต่ก็เห็นตัวอย่างจากคู่อื่นๆ

“ก็นั่นไง ถ้าวันไหนกูเกิดพอใจอยากไปกินข้าวกับผู้หญิงน่ารักๆ สักคนล่ะ ก็ต้องมานั่งทะเลาะกับมึงอีก”

“เหตุผลจริงๆ ของมึงคืออย่างนี้ใช่มั้ย”

นี่ดูนะครับ ขนาดยังไม่ได้คบกันมันยังดุอย่างกะหมาขนาดนี้

“โอ้ย เหี้ยเมล มึงจะเอายังไงว่ามาเลย จะหยุดมั้ย หรือจะเป็นเพื่อนกันต่อ”

ไอ้เมลแสยะยิ้มมองหน้าผม มันใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมจนหน้าผมเกือบหงาย

“กูพอแล้วกับคำว่าเพื่อนของมึงไอ้เท็น ถ้ามึงไม่คบ เราก็จบกัน”

โหว ไอ้ห่า มึงคิดว่ามึงเท่มากที่พูดประโยคนี้ เท่มากเลยไอ้ควายกับทางเลือกของมึงเนี่ย ให้กูเลือกแต่ไม่บอกรักกูสักคำ

“มึงข้ามขั้นแล้วเหี้ยเมล” ผมว่ามันอย่างเคืองๆ

“ข้ามขั้นอะไร กูคงไม่ต้องไปสู่ขอมึงกับทางบ้านหรอกใช่มั้ย”

“เมื่อกี้ยังตวาดถามกูว่ารู้สึกยังไง ทีตัวเองนี่กลับเงียบ” ผมลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับไอ้เมล มันผงะถอยหลังไปนิดหน่อย ผมเลยขึ้นไปยืนบนโซฟาเพื่อไม่ต้องเขย่งเท้าในการกระชากคอเสื้อมัน

“ว่าไงไอ้เหี้ยฐาปกรณ์ มึงรู้สึกยังไงก็พูดออกมาดังๆ ให้มันแมนสมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อย”

จนถึงวันนี้ ต่อให้มันจะแสดงออกมากแค่ไหน ก็ไม่เคยเลยที่จะพูดให้ผมฟัง คำๆ เดียวที่ผมอยากได้ยินจากมัน

“หึ กวนตีนไอ้สัด”

มึงจะยิ้มก็ยิ้ม จะเขินก็เขิน แล้วก็พูดมาสักที อย่ามาทำลีลา

“ไม่พูดกูก็ไม่คบ แถมจะไม่ยอมจบด้วย เอาดิ”

“เออๆ กูรักมึง”

“ดูทำหน้า กูบังคับมึงพูดเหรอ”

ไอ้เมลขมวดคิ้วใส่ ผมเลยแกล้งตีหน้าขรึมใส่มัน

“เปล่า รักมึงจริงๆ รักมานานแล้วด้วย เป็นแฟนกูนะ”

ไอ้เมลหน้าแดงหูแดงเลย

“ก็ไม่ขัดข้อง”

ไอ้เมลยิ้มกว้าง ผมเลยต้องยิ้มตาม ก็ไม่ได้จะดีใจอะไรมากหรอกนะครับ(หราาาา) ก็แค่คบกัน มันจะต่างจากที่ผ่านมาเท่าไหร่เชียว แล้วอยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไมถึงอยากใช้นัก ไอ้คำว่าแฟนเนี่ย มีแล้วดอกเบี้ยในธนาคารขึ้นเหรอครับ หึ!

.........................................To be continue...................................

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เขินอ่ะๆๆๆๆ เปนแฟนกันแว๊วๆๆๆๆ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
กว่าจะเป็นแฟนกันได้ ลุ้นตัวโกร่ง
รอแค่เมลบอกรัก  :กอด1:

แล้วฟิวล่ะจะทำยังไงต่อ :mew4:
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
โลกไม่ได้หมุนรอบเท็นตลอดเวลาหรอกนะ
ยังคงเป็นตัวเอกที่ให้ความรู้สึกอึมครึมไม่ชัดเจนอยู่สม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะคบกันด้วยเหตุผลอะไรแต่เราแน่ใจว่าเสี้ยวเล็กๆ เท็นกลัวว่าเมลจะไปหาฟิว
เราอาจจะไม่ได้รู้สึกดีกับฟิวมาก แต่ตอนนี้เราสงสารฟิวจริงๆ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
คึคึคึคึคึ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
แว้กกกก  คบกันแล้วอ่ะๆ   :m3:
รอตอนต่อไปฮะ  :')

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
ไม่ชอบฟิวอ่ะ เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน อะไรจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ฟิวเปนไร ???

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
เพื่อไรว่ะฟิว!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
« ตอบ #99 เมื่อ: 29-08-2013 04:22:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
 เป็นแฟนกันแล้วๆๆๆ

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 14

“ไปถึงไหนแล้ววะ สวนในฝันมึงน่ะ” ไอ้กัสถามพลางยกแก้วขึ้นชนกับแก้วผม

ผมดื่มเบียร์เข้าไปสองอึกก่อนจะทบทวนสิ่งที่ยังต้องทำ

“ก็เหลือแค่ทำน้ำตก น้ำพุล้อมสวน แล้วก็จัดไฟ กับลงต้นกุหลาบตามทางเดินอีกนิดหน่อย”

“เออ ถือว่าเสร็จก่อนกำหนดเร็วกว่าที่คิดนะ อย่างนี้ก็มีเวลาเตรียมงานหลายวันดิ”

“อือ แล้วไอ้ฟิวเป็นไงบ้าง”

หลังจากวันที่มีเรื่องต้องตะโกนใส่กันผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย ไม่ได้โกรธอะไรมันนะ ผมต้องเร่งทำสวนเลยไม่ได้กลับบ้านหรือไปมหาลัย

“มันก็ซึมๆ ตามประสาคนผิดหวังนั่นแหละ แต่กูว่ามันคงอยากขอโทษมึงมากกว่าว่ะ” ไอ้กัสบอก พลางรินเบียร์ใส่แก้วให้ผม

“ขอโทษทำไม ที่มันว่าก็มีส่วนถูกอยู่ กูไม่ได้เก็บมาคิด แค่ทุกวันนี้ก็เหนื่อยจะตายห่า”

“ก็ใครใช้ให้มึงทำคนเดียวล่ะวะ ออกแบบไว้ซะใหญ่”

“นี่ไง กูถึงบอกว่ากูกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

“เออ มันคนละใหญ่ล่ะมั้งมึง ว่าแต่ปวดหลังนักก็มีคนนวดให้แล้วนิ ยังจะกลัวไร ทั้งนวดทั้งนาบ ครบวงจร หึหึ”

ไอ้กัสนี่มันต้องมีแซวนิดกัดหน่อยทุกที ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟังนะ คือที่จริงผมก็ทำตามปกติ ใครจะถามหรือไม่ถาม ถ้าผมไม่มีอารมณ์จะพูดพวกมันก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี ไม่เห็นจำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้ซะหน่อยว่าคบกันแล้ว

อืมมม หลังจากคบกันน่ะเหรอ คบมาได้สี่วันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนนะ ผมกับไอ้เมลเราก็เลยเถิดกันมาตั้งแต่ใช้คำว่าเพื่อนอยู่แล้ว ตอนเป็นแฟนก็แค่มันกล้าพูดมากขึ้นว่าชอบไม่ชอบให้ผมทำอะไร ก็ดีครับ ผมก็ยังมีอิสระเหมือนเดิม มันไม่ได้ล่ามคอผมไว้กับห้องอย่างที่มันบอกจริงๆ หึหึ

“แล้ววันนี้พวกเหี้ยเต๋อไปไหน” ตั้งแต่มายังไม่เห็นเงาหัวพวกมัน ปกติถ้านัดกันไอ้พวกนี้ไม่มีพลาดนะครับ นอกจากมันจะป่วยจริงๆ หรือที่บ้านเรียกตัวด่วนเท่านั้นแหละ

“เห็นบอกมีประชุมกลยุทธ์ที่สบายตังค์ แต่ที่จริงพวกเหี้ยนี่ไปงานวันเกิดเมียไอ้เจมัน”

“แล้วงานที่ผู้หญิงเยอะอย่างนี้มึงพลาดได้ไง”

“อย่างน้อยสามคนที่เป็นเพื่อนเมียไอ้เจ ก็เด็กเก่ากูล่ะ จบกันไม่สวยเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยอยากเจอ”

“กูก็ไม่เห็นแฟนคนไหนของมึงจะจบกันดีๆ สักคน” อย่างน้องแนงน้องรหัสของมันนี่ก็คุยกันดีๆ ไม่ได้เลยครับ เจอหน้ากันจะต้องแขวะตลอด

“อืม ชีวิตรักกูมันอาภัพ ไม่เหมือนมึงเนอะ โสดมาได้ตั้งเกือบยี่สิบปี แต่พอจะมีแฟนทั้งทีแม่งเล่นของสูง”

“ไอ้เหี้ยเมลมันของสูงตรงไหน”

“หึหึ ยอมรับล่ะสิว่าคบกันแล้ว”

ผมยักไหล่ให้ไอ้กัส “ก็คบกันแล้ว แปลกตรงไหน”

“เออ ห่า ไม่แปลกเว้ย กูล่ะเบื่อกับคำว่าแปลกตรงไหนของมึงจริงๆ แล้วนี่ กูจะบอกให้ ผัวมึงคนนี้นี่มึงอาจจะคิดว่ามันเดินตามมึงต้อยๆ ทำตัวเป็นของตายให้มึงไม่เห็นค่ามาได้ตั้งนานนะ แต่ไอ้อย่างนี้ล่ะอันตราย มึงก็รู้ไอ้เหี้ยเมลมันหล่อระดับเทพเจ้า มีผู้หญิงคนไหนมองตามันแล้วไม่หลงเสน่ห์บ้าง ไม่มี ถ้ามึงยังทำเป็นทิ้งๆ ขว้างๆ มันเหมือนที่ผ่านมานี่มึงได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ มีคนอยากเป็นผู้โชคดีแทนมึงอีกเป็นพันๆ คน”

“มึงไซโคกูป่ะวะเหี้ยกัส” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ คือผมก็ไม่ได้ทิ้งๆ ขว้างๆ มันนะ แค่ผมก็มีเรื่องที่ตัวเองก็ต้องทำอยู่ ในหนึ่งวันเราอาจจะได้โทรคุยกันแค่สามนาทีก่อนนอนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก...มั้ง

“จริงงงง มึงไม่รู้อะไร ไอ้เหี้ยเมลนี่มีแฟนเพจ บอร์ดแฟนคลับส่วนตัวมันด้วยนะ เฟซบุ๊คมันนี่คนติดตามหลักแสนเลยนะมึง ผัวมึงไม่ใช่จะธรรมดานะเหี้ยเท็น มึงต้องหัดสนใจโลกภายนอกบ้าง เฟซบ้งเฟซบุ๊คอะไรก็ต้องสมัครเล่นซะ จะได้ตามทัน เดี๋ยวนี้กิ๊กในช่องแชทมันเยอะ”

ผมรู้สึกว่าแค่มีไอจีก็พอแล้วนะ เฟซบุ๊คถึงมีได้ผมก็อาจจะไม่มีเวลาเล่น

“กิ๊กในช่องแชทนี่ประสบการณ์ตรงของมึงเหรอ”

“หึ ไอ้เหี้ย รู้ทัน”

“เขาจับมึงได้หรือมึงจับเขาได้”

“ทั้งสอง กูเลยโสดอยู่ ณ บัดนาวไง”

ผมส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจกับชีวิตรักของไอ้กัส ก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกับมัน นั่งดื่มกันสองคนก็งี้ล่ะครับ คุยปัญหาชีวิตกันแล้วก็ชนแก้ววววว

ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ผมทำมือบอกไอ้กัสว่าจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก เมื่อมันพยักหน้าผมเลยรีบเดินออกมาหน้าร้านหามุมสงบๆ ไอ้เหี้ยเมลนี่ไปแดกเหล้ายังไงของมันถึงมีเวลาโทรมา

“ว่าไงเมล”

(อยู่ไหนอ่ะ)

“ร้านพี่เจ๋งไง ก็บอกก่อนออกมาแล้ว”

(อ้าว ก็เจอพวกไอ้เต๋ออยู่สบายตังค์เนี่ย แล้วมึงนั่งกินกับใคร)

“กับไอ้กัส”

(เออๆ งั้นวางละ)

“อะไรของมึง เสียเวลากูเดินออกมาหน้าร้าน”

(บ่นๆ ก็นึกว่านั่งอยู่คนเดียว ว่าแต่มาที่นี่มั้ย เดี๋ยวไปรับ)

“ไม่อ่ะ มึงวางไปได้ละ แล้วเที่ยงคืนก็รีบๆ มา ห้ามไปที่อื่น”

(ครับๆ // โทรเช็คเมียไงว้า // พ่อมึงไอ้มายด์ เท็นห้ามเถลไถลนะมึง วางละ)

แล้วสายก็ตัดไป ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง เดินเข้ามานั่งก็โดนไอ้กัสกัดเล็กน้อย

“สักเกมมั้ยมึง” ไอ้กัสถาม ชี้ขึ้นชั้นบน

“จัดไป พี่เจ๋ง ฝากโต๊ะด้วยนะพี่”

“ได้ๆ ค่าฝากกูรวมกะค่ามิกเซอร์นะเว้ย”

“อย่ามามึนพี่ วันนี้กูแดกเบียร์”

จากที่คิดว่าเล่นกันเกมเดียวมันก็ดันเพลินเป็นสองสามสี่ เล่นกันเกือบเที่ยงคืนก็ลงมานั่งจิบเบียร์ที่โต๊ะตามเดิม ไอ้กัสตอนนี้เริ่มสอดส่องสายตาหาเหยื่อแล้ว ประมาณเที่ยงสิบนาทีไอ้เมลก็พาเพื่อนมันยกโขยงมา มีไอ้เต๋อกับไอ้แม็คตามมาด้วย

“เหงาปากกันมั้ยพวกเหี้ยยยยย ไม่มีกูเนี่ย หึหึ” ไอ้เต๋อมาถึงก็แรดทันที ผมพยักหน้าทักทายไอ้เขต ไอ้ลิน ไอ้มายด์ พวกมันนั่งกระจัดกระจายโซฟาละคนสองคน ส่วนไอ้ห่าเมลเนี่ยถ้ามันสิงผมได้มันคงทำ

“กูรู้สึกโล่งใจกว่าตอนมึงอยู่อีกไอ้สัด แล้วนี่ไอ้เต้ไอ้คิมไปไหน พวกมึงก็ไม่ครบองค์นิ หายไปไหนคน” ไอ้กัสว่าไอ้เต๋อ ก่อนจะกวาดมองไปทั่วโต๊ะ

“มึงไม่ต้องถามถึงพวกมัน พวกห่านั่นตอนนี้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วมั้ง” ไอ้แม็คบอกหน้าบึ้ง สงสัยอารมณ์เสียที่คู่หูอย่างไอ้เต้หายไป
“พวกมันตาย?” ไอ้กัสถามต่อ

“มึงคิดเหรอว่าอย่างพวกมันถ้าตายแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ หึหึ พาสาวไปแดกตับเว้ย เพื่อนเมียไอ้เจน่ารักๆ ทั้งนั้นมึง ถ้าไม่ติดว่าต้องมาหาพวกมึงที่นี่กูก็คงไม่พลาด” ไอ้เต๋อตอบ มันทำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง

“กูว่าที่มึงพลาดไม่ใช่เพราะพวกกูหรอกเหี้ยเต๋อ แต่เป็นเพราะหนังหน้ามึง หึหึ”

“เออไอ้เหี้ยเท็น ไอ้หน้าตาดี ไอ้อัปปรีย์ส่องแสง แดกๆ ไปเลยมึง พูดมาก”

ผมยักไหล่ยักคิ้วให้ไอ้เต๋อ มันกระทืบตีนทำหน้างอแงขัดใจ หึ ว่าใครก็ไม่สะใจเท่าว่าไอ้เต๋อ ไอ้เหี้ยนี่เป็นพวกยอมรับความจริงไม่ได้ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยนะถ้ามีการจัดอันดับ ฮ่าๆๆ

“เท็นๆ กูมีไรจะฟ้อง” ไอ้ลินยิ้มกริ่ม ส่งสายตาไปหาไอ้เมลที่นั่งพิงโซฟาโอบเอวผมอยู่

“ว่า”

“ตอนอยู่สบายตังค์ไอ้เมลออกไปเต้นกับผู้หญิงด้วยนะ นัวเนียกันกลางฟลอร์ไม่อายใครเลยนะมึง กูเห็นมากับตา” ไอ้ลินทำหน้าเจ้าเล่ห์ แต่ผมว่าไอ้ห่านี่โม้มากกว่า อย่างไอ้เมลถ้าจะทำจริงๆ มันลากผู้หญิงเข้าห้องน้ำไปเอาให้ถึงใจยังดีกว่าไปโชว์ใครให้เรตติ้งตก

“เออ แล้วไงวะ”

“มึงไม่เชื่อล่ะสิ”

ผมหันไปมองไอ้เมลก็เห็นมันนิ่งๆ ไม่มีจะแก้ตัวหรืออะไร นั่งจิบเบียร์สบายๆ ของมันไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ถ้ามันร้อนตัวบ้างกูก็จะเชื่ออยู่หรอกนะ”

“ไอ้ห่านี่มันทำจนเป็นนิสัยแล้ว มันไม่มีพิรุธให้มึงจับได้ เชื่อกูสิ”

“เออๆ เอาเป็นว่ากูเชื่อมึงแล้วกัน” ผมบอกแล้วยกแก้วชนกับไอ้ลิน มันทำหน้าเซ็งๆ ควักกระเป๋าตังค์ออกมา

“จ่ายมาห้าร้อยไอ้ลิน กูบอกแล้วว่าไอ้เท็นมันไม่โมโหหรอกเว้ย หึหึ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะคร้าบบบบบ” ไอ้มายด์รับตังค์จากไอ้ลินแล้วก็เอามาโบกไปมา

ผมเลิกสนใจมันสองคน คนหนึ่งก็โง่ คนหนึ่งก็บ้า เพื่อนไอ้ห่าเมลจะมีใครใกล้ความเป็นคนบ้างมั้ยวะ เออ แต่ว่ามันก็ไม่ได้เต็มปาก เพราะไอ้เต๋อกับไอ้แม็คนี่ก็เป็นพวกหลุดโลกเหมือนกัน ตอนนี้พวกมันทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเกาะแข้งเกาะขาไอ้ลินกับไอ้มายด์ไม่ยอมปล่อย

“ทำไมเหรอมึง ทำไมไอ้เท็นต้องโกรธวะ มันมีซัมธิงรองอะไรอย่างงั้นเหรอระหว่างไอ้เมลกับไอ้เท็น บอกกูมาเลยนะพวกมึง” ไอ้เต๋อลงทุนไปนั่งเขย่าขาไอ้ลินกับพื้นเลยครับ อย่าไปบอกใครล่ะว่าเป็นเพื่อนกู

“นี่มึงยังไม่รู้เหรอวะ หืมมมมมม เอาไงดีวะ อืมมมมม ห้าร้อยสำหรับค่าข่าว” โหว ไอ้เหี้ยลินมันคิดถอนทุนคืน

ว่าแต่ไอ้พวกนี้มันเอาเรื่องของผมไปเล่นสนุกปากเลยนะครับ นี่มึงไม่เกรงใจกูกับไอ้เมลที่นั่งหัวโด่อยู่นี่เลยใช่มั้ยวะ

“แพงว่ะมึง ลดหน่อยไม่ได้ไงวะ ไอ้มายด์ มึงบอกมาฟรีๆ เลย เมื่อกี้มึงก็ได้ห้าร้อยจากไอ้ลินไปแล้ว” ไอ้แม็คต่อรองราคา ดีหน่อยที่มันยังนั่งอยู่บนโซฟา

“กูว่ามึงไปถามไอ้เท็นเองดีกว่านะ ข่าวชัวร์กว่า หึหึ”

เมื่อไอ้ห่ามายด์โยนไม้มาทางผม ผมไม่รับไว้ไม้คงตกใส่หัว แถมไอ้ลินก็ยักไหล่แบบไม่สนใจตังค์ห้าร้อยแล้ว ผมเลยต้องจำใจเผชิญหน้ากับไอ้หมาสองตัวที่หูตั้งหางกระดิกพร้อมรับฟัง

เฮ้อ ผมก็ไม่เคยต้องแนะนำแฟนให้เพื่อนรู้จักเลยไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เอาเป็นว่า

“ก็คบกัน”

“แบบไหน” พูดพร้อมกันเลยนะพวกมึง ตอนเตะบอลไม่มีจะสามัคคีอย่างนี้บ้าง

ผมถอนหายใจ ก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัดว่า “แฟน”

“เอ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววว ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย มึงสอยเดือนร่วงเหรอวะ แน่จริงๆ เพื่อนกู มาๆๆๆ ชนแก้วววววววววววววววววว”

ผมยกแก้วขึ้นดื่ม มองไอ้พวกบ้าที่ชนแก้วกันเคร้งคร้างเสียงดังไม่เกรงใจโต๊ะข้างๆ ไอ้กัสยักคิ้วกวนตีนมาให้ผม ผมเลยเตะหน้าแข้งมันไปหนึ่งที

“หน้าแดงเป็นด้วยเหรอ หึหึ” ไอ้ห่าเมลนี่ก็กวนตีนกูจริง

“พูดมากไอ้ห่า”

ไอ้เมลหัวเราะพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ

“นอนไหนคืนนี้”

“บ้านใหญ่ดิ พรุ่งนี้ต้องคุมคนงานทำรั้ว”

“กว่ามึงจะขับรถไปถึงคงไม่ได้นอนกันพอดี ไปนอนห้องกูมั้ย”

“ไปกับมึงกูก็ไม่ได้นอน”

“ทำไมจะไม่ได้นอน มึงคิดว่ากูจะทำอะไร หืมมม ว่าไงเท็นเท็น”

หน้ายิ้มๆ ของมึงนี่น่าเอาขวดเบียร์ช้างฟาดหัวให้แตกอีกสักรอบ

“เออๆ ไปห้องมึงก็ได้ แต่ตีห้าต้องไปส่งกู”

ไอ้เมลพยักหน้าก่อนจะก้มลงมาจูบปากผม ได้ยินเสียงไอ้พวกสัมภเวสีร้อง อู้ววววววว กวนตีน ผมเลยยกนิ้วกลางเจริญพรพวกมันไป

ประมาณตีสองก็แยกย้ายกันกลับไปนอน ไอ้เต๋อแซวไม่หยุดปากเมื่อเห็นไอ้เมลเอากุญแจรถให้ไอ้เขตขับกลับ ผมเลยเดินไปตบหัวมันแทนคำว่าฝันดีไปสองทีติด ในขณะที่ไอ้เมลก็บอกลาเพื่อนมันพร้อมกับรับปากว่าจะไม่หักโหม ถุย! กูคงยอมมึงหรอกไอ้เหี้ย

“เมล ไอ้บ้า เดี๋ยวก่อน อ๊ะ” เหมือนไอ้เมลมันคิดไว้แล้วว่ากลับถึงห้องมันจะทำอะไรเพราะตั้งแต่ประตูปิดลงมันก็นัวเนียผมไม่หยุด
ให้กูถอดรองเท้าก่อนก็ไม่ได้ ไอ้บ้า -*-

“คิดถึงกูมั้ยเท็น” เสียงไอ้เมลแหบพร่า มันไซ้ไปตามซอกคอผมในขณะที่นิ้วก็เขี่ยเล่นที่ยอดอก ผมพยักหน้าให้มัน แต่มันคงไม่เห็นเพราะมัวแต่ดูดคอผมอยู่นั่น

“คนหรือปลิงเนี่ย อื้อ ไม่เจอแค่ไม่กี่วันมึงอดอยากขนาดนี้เลย”

ไอ้เมลไม่ตอบแต่ล้วงมือเข้าไปในกางเกงผม นิ้วยาวๆ ของมันเริ่มลุกล้ำแบบไม่ทันตั้งตัว ผมมองหน้ามันเคืองๆ แต่คนอย่างมันหรือจะสำนึก ยิ้มหล่อใส่ตาผมไม่พอยังมาแลบลิ้นทำหน้าทะเล้นให้อีก

“ให้ทำมั้ย หรืออยากนอน” มาถึงขนาดนี้แล้วมันจะมาถามผมทำเพื่ออะไร ให้นอนตอนนี้น้องชายกูได้อึดอัดตายแน่

“มึงกวนตีนกูเหรอเมล”

“ก็มึงเหนื่อยมาทั้งวัน คงอยากพักผ่อน”

“อ้ะ อื้ออออ ไอ้บ้า ถ้าจะไม่ทำก็ถอนนิ้วออกไปสิวะ”

“ว้า หงุดหงิดซะแล้ว หึหึ”

มันหัวเราะแล้วอุ้มผมเดินขึ้นบันไดเข้ามาในห้องนอน อารมณ์ไอ้เมลดีซะจนผมที่โกรธที่เหวี่ยงใส่มันดูเหมือนเป็นคนบ้าไปเลย

“กูดีใจนะที่มึงกล้าบอกกับเพื่อนว่าเราเป็นอะไรกัน” มันบอกพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของผมออก

“ถ้ากูไม่บอกก็ต้องมานั่งทะเลาะกับมึงอีก”

“นอนทะเลาะต่างหาก กับคนที่ชอบทำลืมว่าเป็นของกูน่ะ ต้องย้ำบ่อยๆ ถึงจะจำ”

“อื้ออออ เมล อ้ะ โอ้ยยยย เมล เจ็บ เหี้ย พ่อมึงตาย กูเจ็บ เอาออกก่อน”

อยู่ๆ ก็แทงพรวดเข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว ไม่มีจะส่งนิ้วมานำล่องอะไรเลย ผมฟาดมือลงบนไหล่มัน แต่ไอ้เมลก็จับมือผมไว้ได้ทันแล้วก้มลงมาจูบ มันขบริมฝีปากล่างผมเบาๆ ก่อนจะส่งลิ้นของมันเข้ามาทักทายกับลิ้นผม มือที่คิดจะตีมันเลยต้องโอบรอบคอมันไว้ ตาคู่สวยของไอ้เมลที่มองมาทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“ผ่อนหน่อยเท็น กูแตกก่อนไม่รู้ด้วยนะ”

“ยังมีหน้ามาพูด มึงลองมาเป็นกูมั้ยล่ะ”

ผมกระตุกนิดๆ เมื่อไอ้เมลก้มลงเลียยอดอก นิ้วของมันก็เขี่ยส่วนหัวของน้องชายผมเล่นทำเอาผมต้องเชิดหน้าอ้าปากร้องไม่เป็นภาษา

“ดีมั้ยเท็น”

“อื้อ ที่สุด อ้ะ อ้ะ อ๊าาาาาาห์ ขยับหน่อยเมล”

ไอ้เมลเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ บางทีก็เร่งเร็วจนลืมหายใจ ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังมัน ข่มอารมณ์แปลกๆ ที่ทำให้สมองไม่ค่อยสั่งงาน

“เมล เมล อ้ะ ไม่ไหวแล้วเมล อื้อออออ อ้ะ อ่าาาาาาาห์”

ผมยกขาโอบรอบเอวไอ้เมลไว้ หน้ามันแดงก่ำไปด้วยแรงอารมณ์ กระตุกอีกสามสี่ทีมันก็หยุดปล่อยให้น้ำทะลักอยู่ในร่างกายผม

“ชอบกัดนะมึง เป็นหมาไง” ผมถามเมื่อรู้สึกแปล๊บๆ ที่ไหล่ ไอ้เมลมันชอบกัดเวลาใกล้จะเสร็จ ผมบอกไม่รู้กี่ครั้งว่าเจ็บแต่มันก็ยังทำ

“งั้นมึงก็เมียหมา”

“เดี๋ยวมึงโดน”

“กลัวจังเลย โอ้ยยยย เท็น ทำไมชอบดึงผมกูวะ อยากมีผัวหัวล้านไงมึง”

“ถึงตอนนั้นกูคงมีผัวใหม่ไปแล้วมั้ง”

เพียะ!

ไอ้เมลตบปากผม ผมเลยทึ้งหัวมัน เอาดิ กูสู้คนนะมึง

“ปากดีอย่างนี้มึงก็ไม่ต้องนอน”

อ้าว ซะงั้นเลย พูดเล่นพูดจริงแยกไม่ออกแล้วแฟนกู -*-

..................................To be continue.....................................

อีกสามวันเจอกัน
  :bye2:


ออฟไลน์ pilar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-14
 :oo1:  กันทุกตอนเลยนะ!!

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เท็นโดนจัดหนักเลยจ้า ตี5จะได้กลับไม๋เนี่ย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เมลไม่ค่อยหื่นเลยนะ :oo1:

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
บรรยากาศดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ทะเลาะกันงุ้งงิ้ง มุ้งมิ้ง  :katai2-1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เมลหื่นจริงๆ
พออะไรๆมันชัดเจนนี่มุ้งมิ้งกันจังนะคู่นี้

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :hao6:2คนนี้ตกลงใครหื่นกว่ากัน แต่ที่แน่ๆคนอ่านอ่ะหื่นกว่า55+

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ไม่ต้องนอน5555

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เรียน"แฟน"ได้เต็มปากมากเท็น  ชอบๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
« ตอบ #109 เมื่อ: 31-08-2013 03:43:09 »





ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao6:

เอะอะ ย้ำๆ ตลอด

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
โว๊ะ คู่นี้รักกันรุนแรงเหลือเกิน :hao7:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
รักรุนแรงกันจิงจิ๊ง ง ง ง    :hao6:
รอนะฮะ  :')

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 15

“เอ้า เมล พร้อมนะ วันทู!”

ไอ้เมลพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมเมื่อเจอผมยิ้มให้

“เธอเชื่อไหมความรักเหมือนทำให้เราหลับตา
ปล่อยหัวใจช้าช้า ล่องลอยข้ามคืนแห่งฝัน
หมอกดูคล้อยลอยผ่าน ใจดวงนี้ก็มีแต่เธอเท่านั้น
ทุกๆ คำรำพันเอ่ยผ่านใจ”


“ให้เธอรู้ ให้เธอรู้ อยากให้เธอรู้ คือความรัก
จะกอดเธอไปจนเช้า แสงดาวกระทบที่ข้างฉัน
ให้ไออุ่นกายเราผูกกัน ฉันนั้นรักเธอเหลือเกิน
จะกอดเธออยู่อย่างนี้ ข้ามคืนผ่านพ้นราตรีนี้
จวบจนสิ้นแสงแห่งชีวี ก็ยังรักเธอเหลือเกิน...”


“ต่อไปจากนี้ทุกคืนที่เธอตื่นมา
จะมีมือฉันคนนี้นั่งกุมหัวใจเอาไว้
ไกลสุดฟ้าแสนไกล ใจดวงนี้ก็จะไม่ลอยไปไหน
ขอให้เธอเชื่อใจ...ฉัน”

“ให้เธอรู้...”

“ว่าเธอมีค่าแค่ไหน”

“ให้เธอรู้...”

“ทั้งชีวิต หัวใจ”

“อยากให้เธอรู้”

“จะมอบให้เธอเท่านั้น”

“คือความรัก...”

ไอ้เมลหยุดร้อง ผมหยุดเล่นกีต้าร์ เราสบตากันชั่วครู่ ก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายหลบไป

“จะกอดเธอไปจนเช้า แสงดาวกระทบที่ข้างฉัน
ให้ไออุ่นกายเราผูกกัน ฉันนั้นรักเธอเหลือเกิน
จะกอดเธออยู่อย่างนี้ ข้ามคืนผ่านพ้นราตรีนี้
จวบจนสิ้นแสงแห่งชีวี ก็ยังรักเธอเหลือเกิน”

            (ทราย – วัชราวลี)

ไอ้เมลเงียบไปชั่วอึดใจ มันหน้าแดงนิดๆ ผมเลยยื่นมือไปผลักหัวมัน

“เขินเหรออออ”

“ใครเขินมึง กูแค่ไม่ชอบร้องเพลงเว้ย”

“เสียงออกจะเพราะ ทำไมไม่ชอบ เอาอีกเพลงดิ๊”

“มึงร้องบ้างดิ อยากฟัง”

“เมื่อกี้ก็ร้องไง ฟีชเจอริ่งกับมึงไปแล้วง่ะ”

“แค่นั้นอ่ะนะ”

ผมหัวเราะ ไอ้เมลเลยเข้ามาล็อคคอจากข้างหลัง มันก้มลงงับหูผมเบาๆ

“เหี้ย เสียว”

“หึหึ”

“อากาศดีว่ะวันนี้ ไปว่ายน้ำกันมั้ยเมล”

“กูทำงานเสร็จค่อยไป”

“ก็รีบๆ ทำดิ”

“เออๆ อย่ากวนละกัน”

ผมยักไหล่ ไอ้เมลเลยปล่อยตัวผมแล้วคลานกลับไปที่ใบงานของมัน

วันนี้ผมสั่งงานคนงานไว้แล้วเลยมีเวลาว่างมานั่งปูเสื่อเล่นกีต้าร์อยู่ใต้ร่มไม้หน้าบ้าน ไอ้เมลมันก็หอบงานมาทำด้วย แต่เพิ่งจะได้ทำเพราะผมบังคับให้มันร้องเพลงให้ฟัง

ผมก็นั่งร้องเพลงเล่นกีต้าร์ของผมไป ไอ้เมลมันก็เขียนอะไรไม่รู้ของมันไป เห็นมันอย่างนี้มันขยันนะครับ ไม่เคยปล่อยให้งานค้างเหมือนผม ฮ่าๆ

“อยากบอกเธอว่าฉันอยากเป็นคนนั้นของเธอ
อยากอยู่ในสายตาเธอ เวลาเธอไม่มีใคร
อยากทำให้เธอยิ้ม ปลอบเธอยามทุกข์ใจ
อยากเป็นอะไรมากมาย...
ที่ฉันเป็นแล้วทำให้เธอ...รู้สึกดี”

      (อยากเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกดี – โตโน่)

“รู้สึกดีป้ะเมล”

ไอ้เมลเงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนมันจะยิ้มหล่อ ยักคิ้วให้

“ก็ดีมั้ง”

“มีมั้งด้วยยยย จริงง่ะะะะ แล้วแบบนี้ล่ะ”

ผมก้มลงไปจูบปากไอ้เมล ดูดลิ้นมันเล่นจนมันครางเสียงแผ่ว งับริมฝีปากล่างของมันเบาๆ แล้วผละออกมา

“ดีมั้ย”

“หึ จนได้นะเท็น งานกูจะเสร็จมั้ยเนี่ย”

“นั่นเป็นปัญหาของมึง ฮ่าๆ”

ไอ้เมลชี้หน้าคาดโทษ ก่อนมันจะจมลงสู่วิชาเซอกิตหนึ่งของมัน ผมก็เบื่อจะแกล้งมันแล้วเลยล้มตัวลงนอนมองท้องฟ้ายามบ่ายที่มีเมฆอยู่เล็กน้อยแต่ก็เป็นสีฟ้าอ่อนสวย

“เท็น คุยกับฟิวบ้างยัง” คำถามของไอ้เมลเรียกสติที่กำลังล่องลอยของผมให้กลับเข้าที่

“มีไรต้องคุย”

“กูไม่สบายใจเลยนะเท็นที่พวกมึงต้องทะเลาะกันเพราะกู มึงไม่โกรธฟิวไม่ได้เหรอวะ”

ผมเลิกคิ้ว ไม่รู้จะบอกไอ้เมลยังไงว่าผมไม่ใส่ใจสักนิดเรื่องไอ้ฟิว ผมก็ยังเหมือนเดิม ผมเคยทะเลาะกับไอ้ฟิวแรงกว่านี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผม แต่สำหรับไอ้ฟิวผมไม่รู้

“ฝ่ายที่โกรธไม่ใช่กู เลิกคิดมากแล้วทำงานของมึงไป”

“แต่เท็น ถ้ามึงเริ่มคุยกับฟิวก่อน อะไรๆ มันอาจจะดีขึ้น”

“เมล กูไม่ใช่คนผิด ทำไมกูต้องเริ่มคุยก่อน มันโกรธเพราะมึงเลือกกู ไม่ใช่โกรธเพราะกูไม่ได้บอกมันเรื่องเรา”

“มันสำคัญที่ใครผิดไม่ผิดเหรอเท็น มึงก็รู้ว่าฟิวโกรธเรื่องอะไร แล้วทำไมไม่พยายามเข้าใจความรู้สึกมัน”

“งั้นมึงก็เลิกกับกูซะ มันจะได้ไม่โกรธ แค่นี้ก็หมดปัญหา”

ผมว่าอย่างเหลืออด ไอ้เมลบีบปากผมทันที

“อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ กูโมโหจริงๆ นะเท็น”

ผมปัดมือมันออก ไม่อยากจะพูดอะไรตอนนี้ ผมขี้เกียจทะเลาะกับไอ้เมลเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อกี้แค่พลั้งปากไปเท่านั้น

“โกรธเหรอวะ”

“......”

“เท็นเท็นครับ”

“......”

ผมขมวดคิ้วมองหน้าไอ้เมลที่ขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้ หน้ามันโน้มเข้ามาใกล้จนผมต้องเบี่ยงหลบ ไอ้เมลเลยกดจมูกโด่งของมันลงบนแก้มผมแทนริมฝีปากที่มันพลาดไป

“เหี้ยเมล ออกไป” ผมว่าเสียงแข็ง แต่ไอ้เมลไม่ขยับเขยื้อน

“ดูทำหน้า ยิ้มเดี๋ยวนี้”

“พ่องงงง! มึงคิดว่ากำลังสั่งใคร”

“สั่งเมียกูไง”

“_วย!”

“อยากได้ไง เอายัดปากซะดีมั้ยเนี่ย ดื้อนัก”

ไอ้เมลทำท่าจะรูดซิบกางเกงยีนมันลง ผมเลยรีบจับข้อมือมันไว้ ไอ้ห่านี่กะจะล่วงละเมิดทางเพศกูหน้าบ้านเลยไงวะ

“จะทำอะไร”

“หึ อยากรู้ก็ปล่อยมือ”

ผมมองมันอย่างเคืองๆ แต่ไอ้เมลก็ยิ้มหล่อไม่สะทกสะท้าน ก่อนมันจะก้มหน้าลงมาจูบปากผมได้สำเร็จ แลกลิ้นกับมันอยู่นาน ทั้งดูดทั้งขบจนผมเคลิ้ม

“อะแฮ่ม! นี่หน้าบ้านนะพวกมึงงงงง ช่วยเกรงใจสถานที่กันหน่อย” เสียงไอ้กัสลอยมาให้ได้ยิน ผมเหลือบตาไปมองก็เห็นมันนั่งอยู่ที่ระเบียง ทำหน้าสนอกสนใจใหญ่

ผมดูดปากไอ้เมลต่ออีกหน่อยก่อนจะถอนริมฝีปากออก ไอ้เมลยิ้มนิดๆ ส่วนผมลุกขึ้นนั่งแล้วยักคิ้วให้ไอ้กัส

“ไม่มีอายเลยนะมึง” ไอ้กัสบ่นผมเบาๆ

“อายทำไมวะ พวกกูเอากันให้มึงดูยังได้เลย หึหึ”

“เออไอ้เหี้ย หน้าไม่มียางจริงๆ ไอ้เมล มึงก็เป็นไปกับมันด้วย พวกมึงนี่พอกัน”

“ก็เมียกูน่ารัก” ไอ้เมลตอบยิ้มๆ

“ผัวกูก็น่าเอา” ผมโน้มคอไอ้เมลลงมาจูบโชว์ไอ้กัสอีกรอบ

“ไอ้พวกบ้า! พอเลยๆ” ต่อให้มีเมียมาไม่รู้กี่คนแต่ไอ้กัสมันก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี

ผมขยับที่ให้ไอ้กัสนั่ง มันคว้ากีต้าร์ขึ้นมาตั้งท่าจะเล่น

“พวกมึงมานานยัง” ไอ้กัสถาม มือก็เปิดดูหนังสือเพลง

“ตั้งแต่มึงยังไม่ตื่น”

“ไอ้ฟิวล่ะ”

“ออกไปข้างนอกตั้งแต่กูเดินเข้าบ้านมาแล้ว”

ไอ้กัสพยักหน้ารับรู้ มันไม่ได้เข้ามายุ่งเรื่องระหว่างผมกับไอ้ฟิว หลังจากที่มันบอกเรื่องไอ้ฟิวให้ฟังที่ร้านพี่เจ๋งวันนั้น มันก็ไม่พูดถึงอีกเลย

“อ้าว อย่างนี้ข้าวเที่ยงกูจะทำไงอ่ะ” ไอ้นี่ก็ห่วงกินตลอด

“มีมือมีตีนก็หาแดกเองดิ”

“มึงจะไม่รับผิดชอบหน่อยรึไง”

ผมมองหน้าไอ้กัสนิ่ง มันเลยยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้

“โอเคๆ กูหาแดกเองได้ ไอ้เมลทำไรวะ” ไอ้กัสเปลี่ยนพิกัดไปที่ไอ้เมลที่กำลังทำตัวเป็นบุคคลตัวอย่าง มันยังไม่เลิกความพยายามที่จะทำการบ้านครับ เป็นพ่อที่ดีได้เลยนะมึงเนี่ย

“มีตามั้ย” ไอ้เมลถามกลับ

“มี กูไม่ได้พิการนะมึง”

“แล้วถามทำไม”

โวะ เจ๋ง ไอ้เมลมันก็ปากใช่ย่อย ผมหัวเราะใส่หน้าไอ้กัส มันเลยทำท่าจะยกกีต้าร์ขึ้นฟาดหัวผม

“ของขวัญวันเกิดจากป๋ากูนะมึง มีรอยนิดเดียวมึงเจ็บ”

“เออ ไอ้พวกบ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ” ทำหน้างอนเหมือนผู้หญิงไม่พอ ยังมาพูดประโยคโบราณใส่อีก

ระหว่างรอไอ้เมลทำงานของมัน ผมกับไอ้กัสก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย มีไอ้เมลแทรกบทสนทนามาบ้างเป็นครั้งคราว นั่งโม้กันจนถึงเย็น ไอ้กัสก็ทนความหิวไม่ไหว ขอตัวออกไปหาเห็บหาหมัดกินกับแฟนสาวคนล่าสุด

“คืนนี้กูไปร้านพี่เจ๋งนะ” ผมพับเสื่อเสร็จ เงยหน้าขึ้นบอกไอ้หน้าหล่อที่ยืนสะพายเป้ค้ำหัวอยู่

“ไปอีกแล้วเหรอวะ ไม่เบื่อมั่งไง”

“เออน่ะ ถ้าเลิกไม่ดึกมากกูจะแวะไปหา”

ไอ้เมลทำหน้าแบบที่ผมเดาไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไร

“พวกไอ้เขตนัดกูที่สบายตังค์ ห้าทุ่มมึงก็มาหากูละกัน”

“กูไม่รับปากนะว่าจะไป”

ไอ้เมลคว้าคอผมดึงเข้าไปใกล้แล้วก้มลงมาจูบอยู่นาน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป ไม่รู้โมโหอะไรของมัน -_-

.
.
.

“เอ้า! ชนแก้วววววววววววววววว ไว้อาลัยแด่คะแนนมิดเทอมสุดยอดแย่ของพวกเรา เหี้ยเท็น มึงห้ามชน มึงมันไม่ใช่ปุถุชนคนอย่างพวกกู ไป๊ ขับออกจากกลุ่มแล้ววววว ผ่านคนเดียวไม่พอยังมาฉุดมีนให้สูงอีก ไอ้สาดดดดดดด” ไอ้เต้ตัดพ้อต่อว่า แถมยังส่งสายตาชิงชังรังเกียจมาให้ผม

ผมยักไหล่พร้อมกับยกเบียร์ขึ้นดื่ม ไอ้พวกเพื่อนบ้ามันก็ชนแก้วกันกวนประสาทผมต่อไป เออนะ ทำไปเหอะ เพื่อความสบายใจของพวกมึง กูไม่แคร์

“เหี้ยกัส มึงอย่าเศร้าใจไปเลยเพื่อน อย่างน้อยดาต้าสตรัคมึงก็ได้มากกว่ากูวะ” ไอ้เต๋อตบไหล่ปลอบใจไอ้กัสที่อาการห่อเหี่ยวเข้าคุกคามจิตใจมันตั้งแต่คะแนนออกมาได้สามชั่วโมงแล้ว

“แค่ศูนย์จุดสองห้ากูคงดีใจมากกกกกกกกกกกก มึง ไปดร็อปวิชานี้กันดีมั้ยวะ ถ้าเอฟอีกกูแม่งไทร์แน่อ่ะ” ไอ้กัสชักชวนไอ้เต๋อ

“เราต้องสู้ต่อไปนะมึง!!!! ต้องสู้ให้ถึงที่สุด สู้เพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา!” ไอ้เต๋อฮึกเหิม ชูแก้วเบียร์ขึ้นสูง หน้าตาเหมือนคนถือดาบเตรียมออกรบ

คือ...กูก็ไม่อยากขัดหรอกนะ แต่เรียนจบไปมึงก็ต้องรับช่วงกิจการโรงน้ำแข็งของเตี่ยมึงอยู่ดีไม่ใช่เหรอวะ?

“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!” เสียงเฮดังลั่น เรียกขวัญกำลังใจกลับมา ผมมองพวกมันยิ้มๆ เพราะดูเหมือนไม่ต้องมีใครมาปลอบใจ พวกมันก็ลุกขึ้นมากันได้เอง

“วันนี้กูเลี้ยง อยากแดกไรก็สั่ง” ผมบอก เลยทำให้ไอ้เต้ที่เคยตัดพ้อต่อว่าผมพลิกลิ้นกลับมาประจบทันที

“เพื่อนผู้ประเสริฐเลิศเลอเพอร์เฟ็คของกู หน้าตาดีไม่พอ มึงยังใจดีอีก เหี้ยเต๋อ จัดไปครับมึงครับ เปิดบลู แบล็ค เร้ด จัดเต็มมิกเซอร์ ไฮเนเก้นจัดมาอีกสี่กล่อง แล้วบอกพี่เจ๋งว่าเอาอาหารที่แพงที่สุดในร้านมาเลย!”

ผมอ้าปากค้าง ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คือ มึงเกรงใจกูบ้าง กูบอกว่าเลี้ยงก็จริง แต่ไม่ได้ให้พวกมึงถล่ม ผมแอบปาดเหงื่อ ควักกระเป๋าตังค์ออกมาดู เออ เงินสดกูพกไม่เยอะ ร้านไอ้พี่เจ๋งมันมีให้รูดบัตรป่ะวะ ออกจะลูกทุ่งขนาดนี้

“สั่งมาแล้วแดกให้หมดนะไอ้พวกเหี้ย ถ้ากูได้ยินใครบอกไม่ไหว เจอตีน” ผมชี้หน้าขู่เรียงตัว แต่พวกมันก็ยิ้มกริ่มหาได้สะทกสะท้านไม่

หลังจากนั้นก็เป็นมหกรรมร้องรำทำเพลง ใครมีปัญญากินก็กินให้เต็มที่ ไอ้กัสอาการหนักสุด เล่นของหนักไม่พอแม่งยังแดกผสมอีก คือแค่เบียร์สี่กล่องนี่ก็เดินกันไม่ตรงแล้ว ยังมีเหล้าดีกรีแรงราคาแพงเหงื่อตกอีกสามกลม

“เอื้อกกกกกกก กูอิจฉาเมิงงงงเจงๆ อ้ายยยเทนนนน ทามมายยยยยกูม่ายยยยเกิดมาชาหลาดอย่างเมิงบ้างว้าาาาา” กว่าไอ้กัสจะพูดจบประโยคผมก็นั่งลุ้นจนเยี่ยวแทบเล็ด

“เหี้ยคิม พอ ไม่ต้องเอาให้มันแล้ว มันจะไม่เป็นคนอยู่แล้วเนี่ย” ผมร้องบอกไอ้คิมที่กำลังหยิบแก้วเปล่าของไอ้กัสไปเติมน้ำแข็ง

“ม่ายยยยยยยยย กูยางม่ายมาววววว กูจะอาวววอีกกกกกก อึ่กกก”

“ตายๆๆๆๆ ใครมอมน้องกัสจังของกูวะ เอ้าไอ้เท็น สาวโต๊ะนู้นฝากมาให้” ไอ้พี่เจ๋งโผล่มาจากตรงไหนก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้มันยืนหน้าเป็นส่งเหล้าไฟมาให้ผม

ผมมองไปทางที่พี่เจ๋งชี้ให้ดู เห็นน้องนางอกอึ๋มส่งสายตาเชื้อเชิญมา ผมเลยรับแก้วจากพี่เจ๋งมาดื่มเข้าไปรวดเดียว

“ฝากบอกขอบคุณด้วยพี่”

“เอ้า ไมมึงไม่ไปบอกเองวะ”

ผมส่ายหน้า แค่นึกหน้าไอ้เมลตอนโมโหขึ้นมาก็พาลหมดอารมณ์จะเกี้ยวสาวแล้วล่ะ

“มันมีแฟนแล้วเฮีย อย่าหาเรื่องให้มันเลย หึหึ” ไอ้แม็คที่คอแข็งสุดในกลุ่มบอกพี่เจ๋งพลางยิ้มกริ่มมาทางผม

“เอ้า จริง มึงไปตกร่องปล่องชิ้นกับใครที่ไหนวะ อยากเห็นหน้าจริงๆ คนที่เอามึงอยู่เนี่ย” หน้าตาที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของพี่เจ๋งฉายแววเสือกออกมาฉับพลัน

“ระดับเดือนครับพี่ พี่ก็รู้อย่างไอ้เท็นมันเคยเล่นของธรรมดาซะที่ไหน คุคุ” ไอ้เต๋อเสือกเข้ามาด้วยอีกคน

ผมไม่ได้สนใจว่าไอ้พวกบ้านั่นจะพูดจะแซวอะไร ปล่อยให้พูดกันไปถึงยังไงผมก็ไม่สึกหรอ แถมตอนนี้ไอ้กัสเริ่มทำตัวไม่มีกระดูกสันหลังแล้ว ถ้าไม่ดูมันให้ดีคงได้หนีไปทำความรู้จักกับพื้นกระเบื้องแน่

“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้เต้ เอามันขึ้นมานั่งบนโซฟา” หน้าไอ้กัสเกือบจูบกับรองเท้าไอ้คิมอยู่แล้วตอนที่ผมเห็น ก็รู้ว่าตัวเองแดกผสมไม่ได้ก็ยังจะทำเก่ง เดี๋ยวเบียร์เดี๋ยวเหล้า ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่แฮงค์กูให้เอามีดมาฟันคอได้เลย

“เฮ้ย เท็น นั่นพวกไอ้เมลนี่หว่า พาใครมาด้วยวะ”

ผมหันไปมองตามคำบอกกล่าวของไอ้เต๋อ พวกไอ้เมลกำลังเดินเข้าร้านมาจริงๆ แต่ที่มากับพวกมันด้วยคือคนที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืน...ไอ้ฟิว

“เหลือเชื่อ ไอ้ฟิว มันเมาด้วยนี่หว่า เฮ้ย เท็น มึงโอเคนะ” ที่ไอ้เต้ถามแบบนี้เพราะไอ้ฟิวกำลังกอดแขนไอ้เมลอยู่ ถ้าเข้าสิงกันได้คงทำไปแล้ว

ไอ้เมลกับเพื่อนมันครบองค์ และตัวแถมอย่างไอ้ฟิวเดินมาถึงโต๊ะพวกผม ทักทายกันพอเป็นพิธีก็ขยับขยายที่ให้พอที่ไอ้พวกที่มาใหม่จะนั่งได้

“ฟิว เมลพามาหาพวกเท็น เดี๋ยวฟิวกลับกับกัสเลยนะ” ไอ้เมลบอกเสียงอ่อนโยนกับไอ้ฟิวที่ตอนนี้นั่งโดยไม่มีกระดูกสันหลังพิงอกมันอยู่

“ไม่เอา เมลพาฟิวมาที่นี่ทำไม ฟิวจะกลับบ้าน เมลไปส่งฟิวนะ” เสียงอ้อแอ้ของไอ้ฟิวทำให้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ

“ฟิว เมลไปส่งฟิวไม่ได้นะ ถึงต้องพามาหากัสนี่ไง”

“ทำไมล่ะ เมลอยู่กับฟิวไม่ได้เหรอ คืนนี้อยู่กับฟิวนะ”

อื้อหือ เพื่อนสนิทกู เพิ่งรู้ว่ามึงแรดเงียบ จะด้วยความเมาหรืออะไรก็ช่างที่ทำให้มันกล้าพูดอย่างนี้ แต่บอกตามตรงว่าผมหงุดหงิดอย่างที่ถ้าลุกขึ้นถีบพวกมันออกจากกันได้ผมคงทำ ไม่ติดว่าจะทำให้วงแตกล่ะก็ กูคงได้บู๊สักตั้งล่ะคืนนี้

“แม่จ้าวววววววว นี่พวกมึงไปรวยมาจากไหน เปิดบลูเลยเหรอเนี่ย กูขอสักแก้วเพื่อเป็นเกียรติแห่งวงศ์ตระกูลได้รึเปล่า” ไอ้ลินพูดขึ้นด้วยเสียงที่ร่าเริงเกินปกติ มันทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลงได้เล็กน้อย

“ท่านเท็นเขาเปิดเลี้ยงปลอบใจพวกกู ถ้าแคลสามมึงตกมีนเหมือนกันกูก็จะให้ชิมนะ แต่ถ้าไม่ กูให้แค่เบียร์ขวดเดียว ว่าไงล่ะ” ไอ้เต๋อช่วยเสริมไอ้ลินขึ้นอีกคน

“ระดับกูมีหรือจะผ่าน ใช่มั้ยมึง พวกกูมีแค่ไอ้เมลกับไอ้มายด์เท่านั้นที่ผ่าน มาๆ จัดมาแก้เครียดหน่อย” ไอ้ลินตอบ หันไปชักชวนไอ้แต้มกับไอ้เขตให้เออออตาม

“เมล กลับกันเถอะ” แต่แค่เสียงใสๆ อ้อนๆ ของไอ้ฟิวดังขึ้น บรรยากาศก็กลับสู่โหมดเงียบแดกอีกครั้ง

“เท็น เท็นพาฟิวกลับได้มั้ย” ไอ้เมลหันมาคุยกับผม แต่ผมไม่ได้สนใจมัน อย่ามาทำให้เหล้าแพงๆ ของกูจืดไปมากกว่านี้เลยว่ะ

“ไม่เอาเท็น ไม่เอา เมลเข้าใจมั้ย!”

“ฟิว! เมาแล้วพูดไม่รู้เรื่องเลยนะ”

เพล้ง! ผมไม่ได้ตั้งใจแต่มือดันไปปัดแก้วของไอ้กัสตกจากโต๊ะเอง ไอ้คิมรีบยกตีนไอ้กัสที่สลบไปแล้วขึ้นพาดขามันเพราะกลัวจะโดนเศษแก้ว แต่แค่เสียงแก้วแตกก็เรียกสายตาคนทั้งร้านให้มารวมอยู่ที่โต๊ะพวกผมแล้ว พี่เจ๋งเดินเข้ามาถามว่ามีเรื่องไรกัน แต่พอรู้ว่าแค่แก้วตกแตกใบเดียวแกก็กลับไปเทคแคร์ลูกค้าต่อ ไม่ลืมที่จะเข้ามากระซิบข้างหูผมว่า ถ้าเครียดนักก็ออกไปดูดบุหรี่ข้างนอก อย่าก่อเรื่อง ฮ่าๆ หน้าผมมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่

“มึงจะไปไหนก็ไปเมล พาไอ้ฟิวไปด้วย ส่งมันให้ถึงบ้านซะ หรือจะถึงเตียงก็ตามใจมึง แต่อย่ามาขวางตีนกู” ผมบอกเสียงเรียบ ไอ้เต๋อกระตุกเสื้อให้ผมนั่งลง

“เท็น มึงพูดอย่างนี้หมายความว่าไงวะ! ฟิวมันเมากูเลยพามาที่นี่ ไม่ได้มีอะไรอย่างที่มึงคิดนะ แล้วมันก็เมามาก พูดอะไรออกมาคงไม่ทันได้คิด มึงจะโกรธคนเมาไปทำไม” ไอ้เมลลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับผม มีไอ้เขตกับไอ้แต้มดึงมือไว้คนละข้าง

“เพราะมันคิดอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ ตอนที่สติมันคุมไม่ได้ถึงได้พ่นออกมา มึงอย่ามาพูดว่าคนเมาจะทำเหี้ยไรก็ไม่ควรถือสาหน่อยเลยเมล เพราะถ้าอย่างนั้นกูไปเอาใครตอนเมามึงก็อย่ามาว่าละกัน”

“นี่มันคนละเรื่องนะเท็น! ฟิวนี่ก็เพื่อนมึง กูไปเจอมันนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่สบายตังค์เลยพามาที่นี่ มึงไม่ห่วงเพื่อนมึงเลยเหรอวะ”

“กูต้องห่วงเพื่อนที่เห็นผู้ชายอย่างมึงดีกว่ากูด้วย เหอะ ตลกแดกไอ้สัด เป็นเพราะมันรักมึงมากไม่ใช่ไง ถึงได้โกรธกูเป็นฟืนเป็นไฟอยู่อย่างนี้น่ะ เหี้ยเอ้ย ปล่อยกูไอ้เต๋อ อารมณ์เสียแม่ง”

ผมสะบัดแขนให้หลุดจากมือไอ้เต๋อ ก่อนจะเดินออกจากร้านมาหามุมสงบๆ ดูดบุหรี่

ไอ้เหี้ยเมลสมองคงมีปัญหา มันคิดว่าผมเป็นคนใจกว้างมากนักรึไงถึงได้นั่งให้ไอ้ฟิวซุกซบมันอย่างนั้น

“เท็น”

ผมอัดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นออกมาใส่หน้าไอ้เมลที่ยืนขวางตรงหน้า

“มึงตามมาทำไม ไม่อยู่ให้มันซุกไซ้ซะให้พอใจล่ะวะ”

“อย่าพูดอย่างนี้เท็น มึงก็รู้ว่ากูตามมาทำไม”

“มึงมีอะไรก็รีบๆ พูดมา”

“เราไม่ทะเลาะกันได้มั้ยวะ ทำไมต้องทะเลาะกันเพราะคนอื่นด้วย”

“คนอื่นที่มึงนั่งให้เขากอดให้เขาซบนั่นเหรอ มึงแน่ใจเหรอว่าคนอื่น”

“เท็น! กูกับฟิวเป็นแค่เพื่อนกันนะ”

“มึงย้ำให้กูฟังหลายรอบแล้วไอ้ควาย แต่การกระทำมึงเพื่อนนักนี่ กูบอกมึงแล้วนะว่าถ้าไม่คิดอะไรก็อย่าไปทำดีกับมัน มึงคิดว่ามึงทำอย่างนี้พ่อพระมากงั้นสิ”

ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้วตอนนี้ ถ้ามีอะไรที่ทำให้ไอ้เมลเจ็บได้ผมก็จะทำ ผมโกรธหน้าหล่อๆ ที่มีแต่คนหลงใหลของมัน ผมโกรธความใจดีที่เผื่อแผ่ไปทั่วของมัน ผมโกรธที่มันทำให้ไอ้ฟิวต้องโกรธผม

และที่โกรธที่สุดคือไอ้เพื่อนไม่มีสมองนั่น มันเห็นผู้ชายดีกว่าผมที่อยู่กับมันมาตั้งแต่จำความได้ได้ยังไง

เพราะผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมถึงหลับหูหลับตาทำตัวเป็นคนดีไม่โกรธการกระทำของไอ้ฟิวคืนนี้ไม่ได้

“ฟิวดีกับกูมาตลอดนะเท็น ทำทุกอย่างเพื่อกูมาตลอด แล้วมึงจะให้กูใจร้ายกับมันได้ยังไงวะ”

“ในเมื่อมีคนที่ทำทุกอย่างเพื่อมึงขนาดนั้น แล้วมึงมาคบกับกูทำไม”

“......”

“แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะเมล”

ไอ้เมลหน้าซีดเผือด แต่ผมก็ไม่อยู่มองนานให้เสียสายตา เลยรีบเดินกลับเข้าไปในร้าน

..............................To be continue...........................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L1:
ดูแลตัวเองด้วยค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน  :pig4:

ออฟไลน์ pilar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-14
ถึงจะเข้าใจฟิวว่าแอบรักเมลมานาน ยังทำใจไมไ่ด้
แต่เคืองว่ะ แรดเงียบจริงๆ

ออฟไลน์ nan53

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หึ เมลนิสัยอ่ะ เลิกอีกสักรอบแล้วตลอดไปเลยก็ดีนะทั้งแฟนทั้งเพื่อน 555
ปล. ค้างมาก ช่วยต่อเลยได้มั้ยคะผู้แต่ง please!!!!

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
จบบทสนทนาได้เจ๋งมากค่ะ เท็น

ฟิว.....นางแรงนะ เมาแล้วอ่อย

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อะไรกัน!!! เพิ่งหวานกันได้ไม่นานก็มาทะเลาะกันอีกแล้ว

แต่เราก็แอบเข้าข้างเท็นนะ

ก็จริงอ่ะทั้งที่เท็นเป็นเพื่อนแต่ฟิวกลับโกรธเท็นเพราะเมลไม่เลือกตัวเอง

เหมือนอิน ฮิฮิ รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ :mew1:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ไม่ชอบฟิวจริงๆนะ

เมลก็อย่าใจดีเกินไปเลย

ออฟไลน์ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
“ในเมื่อมีคนที่ทำทุกอย่างเพื่อมึงขนาดนั้น แล้วมึงมาคบกับกูทำไม”

“......”

“แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะเมล”


ถูกใจมากค่ะ  :angry2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด