So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)  (อ่าน 767829 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Special Inside : เมล ฐาปกรณ์

ผมเคยมั่นใจในตัวเอง เคยหลงตัวว่าโดดเด่นและเป็นที่ต้องการของใครๆ ไม่เคยเลยสักครั้งในชีวิตที่จะรู้สึกว่าตัวผมนั้นด้อยค่าและไม่มีความสำคัญ

แต่...เมื่อผมได้รู้จักกับคนๆ หนึ่ง ผมกลับพบว่าโลกใบเดิมๆ ที่ผมเคยอยู่มันผิดเพี้ยนไป ความมั่นใจของผมลดหายไปแทบไม่เหลือเพราะคนเพียงคนเดียวที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ผมก็ต้องคอยวิ่งตามเขา

ทำไมผมถึงไม่เคยจำสักครั้ง ไม่เคยเข็ดหลาบเลยไม่ว่าเขาจะใจร้ายยังไง ผมก็ยังเอาแต่วิ่งตามเขาอยู่อย่างนั้น วิ่งไปเรื่อยๆ วิ่งไปจนกระทั่งผมแน่ใจแล้วว่าตัวเองได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ยังเห็นเพียงแผ่นหลังของเขา เขาที่ไม่เคยหยุดรอผมเลยไม่ว่าระหว่างเราจะใช้คำจำกัดความว่าอะไรก็ตาม

ผมกำไอโฟนในมือแน่น อยากจะขว้างทิ้งแต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่ของผม แต่รูปเท็นที่ยิ้มอยู่กับไอ้เวรที่ไหนไม่รู้นั่นสร้างความเจ็บปวดให้ผมมาสามวันแล้ว ไม่มีสักครั้งที่ผมได้เห็นรูปนี้แล้วผมจะไม่รู้สึกอยากฆ่าใครสักคน

“เมล ให้ฟิวโทรคุยกับเท็นให้มั้ย อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เมลคิดนะ ฟิวว่าเมลใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า” ผู้ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน สีหน้าของฟิวดูจะเป็นกังวลไปกับผมด้วยทุกครั้งเวลาผมทำหน้ากลุ้มใจแบบนี้

ใช่...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมกลุ้มใจเรื่องของเท็น คนเพียงคนเดียวที่ทำให้ผมกลายเป็นผู้ชายงี่เง่า น่ารำคาญและน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน

ผมไม่ได้นัดฟิวออกมาเจอ หรือเล่าอะไรให้ฟิวฟัง แต่ผมบังเอิญเจอฟิวนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่ร้านพี่เจ๋ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกตินักหากวัดจากนิสัยของฟิว เราสองคนต่างก็มีเรื่องกลุ้มใจเหมือนกัน ซึ่งผมไม่รู้ว่าฟิวมีเรื่องอะไร แต่ฟิวกลับรู้ทุกครั้งในเรื่องของผม

“กัสบอกเหรอ” ผมถามฟิวพลางยกเหล้าขึ้นดื่ม พี่เจ๋งเจ้าของร้านชำเลืองมองมาเล็กน้อยแล้วก็หันกลับไปเทคแคร์ลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ

“ถึงกัสไม่บอก ฟิวก็รู้ มีแค่เรื่องเท็นไม่ใช่เหรอที่ทำให้เมลเป็นแบบนี้” น้ำเสียงเศร้าๆ ของฟิวไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลย ผมกลับยิ่งรู้สึกแย่ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ฟิวก็ยังเจ็บปวดเพราะผม

“ไม่มีอะไรหรอกฟิว ไม่ต้องห่วง”

ผมรู้ว่าฟิวไม่เชื่อเพราะผมแน่ใจว่าตัวเองฝืนยิ้มได้ไม่ดีนัก มันเป็นอย่างนี้มาตลอดสามวันที่เท็นหายไป ผมเรียกว่าหายไปได้ใช่ไหม ในเมื่อเขาไม่ได้บอกผมเลยว่าเขาไปไหน ไม่มีโทรศัพท์สักสายหรือแม้แต่ข้อความสักฉบับ เขาไม่ยอมรับสายหรือตอบกลับข้อความผมเลยด้วยซ้ำ เขาแค่หายไปเฉยๆ หายไปแบบที่เขาเคยทำ

“อย่าเป็นแบบนี้เลยเมล พอแล้ว ฟิวไม่ให้ดื่มแล้ว”

แก้วถูกแย่งไปจากมือผม ฟิวจับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

“ไม่มีใครก็ยังมีฟิวนะ เมลลืมไปแล้วเหรอ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ฟิวก็พร้อมจะอยู่ข้างๆ เมล เพราะฉะนั้น ขอร้องล่ะนะ อย่าทำหน้าแบบนี้เลย”

ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงกับความรักที่ฟิวมีให้ ผมไม่เคยเจอใครที่ทำทุกอย่างเพื่อผมขนาดนี้ เวลาที่ผมเศร้าเสียใจหรือกลุ้มใจจนแทบบ้า ข้างกายผมทุกครั้งจะมีผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้นั่งอยู่ข้างๆ คอยกุมมือและพูดปลอบใจ

มันไม่เคยเป็นเท็นที่ผมรักเลยสักครั้ง...

“ฟิวรู้จักผู้ชายคนนั้นมั้ย...” ผมถามขึ้น แต่เมื่อเห็นฟิวทำหน้างงเล็กน้อย ผมเลยพูดต่อว่า “คนที่อยู่กับเท็นในรูป”

“ไม่รู้จักหรอก”

“เหรอ”

“ก็แค่รูป แค่รูปที่ใครก็ไม่รู้แท็คมา เมลอย่าใส่ใจเลย”

ผมจะไม่ใส่ใจก็ได้ถ้าในรูปนั้นไม่ได้มีคนที่ผมตามหามาตลอดสามวัน ผมจะไม่ใส่ใจก็ได้ถ้าคนในรูปนั้นไม่ใช่แฟนของผม ไม่มีเวลารับสายผมแต่มีเวลาไปเที่ยวกับไอ้บ้านั่น ไม่มีเวลาตอบกลับข้อความผมแต่มีเวลาไปอี๋อ๋อกับไอ้เวรนั่นน่ะเหรอ! ผมคงต้องไปบวชถ้าเห็นรูปบ้าๆ นั่นแล้วไม่รู้สึกรู้สาอะไร!

ผมนั่งดื่มโดยมีฟิวนั่งกุมมืออยู่ข้างๆ ไปสักพักกัสก็โผล่มาพร้อมกับน้องแนงที่สถานะยังคลุมเครือกันอยู่

“ปิดมือถือทำไมวะไอ้เมล” มาถึงก็ตั้งคำถามโลกแตกกับผมทันที

“ก็ไม่ทำไม”

“เออ ดีเนอะมึง อ้าว ไอ้ฟิว มีคนรอมึงอยู่ที่บ้านแหน่ะ”

ผมเห็นฟิวชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนฟิวจะตัดสินใจทำหูทวนลมมากกว่าจะรับรู้ในสิ่งที่กัสบอก

“แล้วรู้ได้ไงว่ากูอยู่นี่” ผมถามพลางยกมือบอกเด็กให้เอาแก้วมาเพิ่มให้กัส

“มีสายรายงานละกัน ว่าแต่ติดต่อเหี้ยเท็นได้รึยัง”

ผมเลือกจะยกเหล้าขึ้นดื่มเป็นคำตอบ การได้ยินชื่อเท็นในตอนนี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากเท่าไหร่

“แปลกใจนะที่มึงรับสาย เออ บอกกูว่าจะกลับตอนไหนมึงลืมไปรึยัง กวนตีนเท็น เออ อยู่ อยู่กับกูกับฟิว ใช่ ร้านพี่เจ๋ง เออน่ะ สั่งเก่งจริงมึง เดี๋ยวกูจัดการเอง จะคุยกับมันมั้ย”

หลังจากที่ละสายตาจากกัสไปได้สักพัก ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันกำลังคุยโทรศัพท์ และตอนนี้ก็ยื่นไอโฟนในมือมาให้ผม รูปเจ้าของเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้ผมไม่ยอมรับไอโฟนมาจากมัน

“กูไม่มีอะไรจะคุย” ผมปัดไอโฟนที่ยื่นมาจนเกือบจะทิ่มจมูกให้ออกห่าง แต่กัสก็ยังดันทุรังเอามันมาอยู่ตรงหน้าผม

“คุยหน่อย เร็วๆ เลย ค่าโทรกูแพง”

ผมทำไม่สนใจได้แค่สามนาทีก็ทนลูกตื้อของกัสไม่ไหว หรือไม่...ก็ทำใจแข็งกับรูปเท็นที่หน้าจอไม่ได้นาน ไม่รู้ว่ากัสถ่ายไว้ตอนไหน แต่เป็นรูปที่เท็นผมยาวกว่าเท็นคนปัจจุบัน นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ดูฉลาดหาตัวจับยาก ริมฝีปากมันฉีกยิ้มกวนๆ ผมยาวๆ ของมันทำให้หน้าที่หวานอยู่แล้วค่อนไปทางสวยมากกว่าหล่อ

ผมจ้องหน้าจอไอโฟนอยู่ชั่วครู่ เก็บซ่อนความคิดถึงที่มันแทบล้นอยู่ในอก เก็บทุกความรู้สึกที่จะทำให้ผมกลับไปใจอ่อนให้กับเท็นอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจรับไอโฟนจากกัสมาคุย

“มีอะไร”

(พรุ่งนี้กลับแล้ว)

เสียงเรียบเรื่อยของเท็นบอกมาแค่นั้นแล้วก็เงียบไปนานจนผมคิดว่าสายถูกตัดไปแล้ว แต่พอมองดูหน้าจอก็ยังเห็นเวลากำลังนับอยู่ และในเมื่อเท็นไม่พูด ผมก็คิดว่าผมควรจะเงียบเช่นกัน

(เมล เปิดมือถือหน่อย เดี๋ยวโทรหา)

“จะโทรมาทำไม”

สำหรับเท็น ผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยแล้ว ผมเจอมามากพอแล้วกับความใจร้ายของเท็น ก็เป็นแบบนี้ทุกทีเวลาที่เท็นรู้ว่ากำลังจะเสียผมไป เป็นแบบนี้ทุกครั้งถ้ารู้ว่าผมเหนื่อยมากและจะไม่ยอมวิ่งตามอีก

(คิดถึง)

“ไม่ช้าไปเหรอสำหรับคำนี้”

(เมล เปิดมือถือนะ ไม่ทำอย่างนี้)

“ทำอย่างไหน อย่างที่มึงทำน่ะเหรอ”

ผมไม่ได้อยากทะเลาะกับเท็น นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่ผมคิดจะทำ แต่ผมก็ลืมความทุรนทุรายตลอดสามวันที่ผ่านมาไม่ได้

ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อัดแน่นอยู่ในอก ปวดแปลบทุกครั้งกับจินตนาการต่างๆ นานาที่ผมคิดว่าจะเกิดกับเท็น ผมเป็นห่วง ผมอยากรู้ว่าเขาไปไหน อยู่ยังไง แต่สิ่งที่ผมได้รับก็คือการที่ได้เห็นรูปเขาอยู่กับคนอื่น ได้เห็นเขาหัวเราะ มีความสุขอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่รู้จัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะติดต่อมาหาผม

ไม่มีเลยแม้สักวินาทีที่เขาจะคิดถึงความรู้สึกของผม...

(เราต้องคุยกัน)

“ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วเท็น ทุกอย่างมันชัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

(หมายความว่าไงเมล)

“มึงก็รู้ว่ากูพูดถึงอะไร มึงเบื่อมึงก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องหายไปกับคนอื่นแบบนี้ กูเป็นคนนะเท็นกูพูดจารู้เรื่อง แค่มึงบอกว่ามีใครกูก็พร้อมจะปล่อยมึงไปอยู่แล้ว ทำแบบนี้กับกูทำไมวะ”

(พูดเรื่องอะไร)

น้ำเสียงเรียบๆ ของเท็นไม่ได้ทำให้ผมรู้เลยว่ามันกำลังทำหน้าแบบไหนตอนตั้งคำถาม

(เราต้องคุยกันเมล ไม่ใช่ทางโทรศัพท์)

“ไม่!”

(คืนนี้กลับไปนอนห้อง อย่าทำอะไรโง่ๆ ประชดกัน เข้าใจไหม แล้วพรุ่งนี้เราคุยกัน)

“เรื่องของมึง”

(พูดไม่สวย แต่ช่างเถอะ เปิดมือถือด้วย)

“จะเปิดหรือไม่ก็เป็นเรื่องของกู”

(เมล)

“อะไรล่ะ”

ผมอยากจะชกหน้าตัวเองที่เผลอถามเสียงอ่อนกับเท็นไป

“วางนะ เปลืองค่าโทรไอ้กัส”

(อือ งั้นเดี๋ยวโทรหานะ)

“จะโทรมากวนทำไม อยู่ร้านพี่เจ๋ง จะกินเหล้า”

ผมรู้ว่าผมพูดแรงไปเพราะเท็นเงียบอยู่นานเลยทีเดียว แต่ผมก็คิดไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก เพราะผมคนเดิม...ไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อเท็นเลย

(ไว้กลับห้องก็ได้)

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่กดตัดสายแล้วส่งไอโฟนคืนให้กัสที่ไม่ได้เดือดร้อนใจกับยอดค่าโทรที่มันจะต้องจ่ายในสิ้นเดือนนี้เลย

“จะเลิกเหรอวะ” กัสถามพลางเลิกคิ้ว

“คงงั้น”

“แน่ใจว่าไหว”

ผมยักไหล่แทนคำตอบ กัสอมยิ้มเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าผมอาจจะทำไม่สำเร็จ ส่วนฟิวแค่ส่งยิ้มเศร้าๆ มาให้

“อย่าลืมวันที่พวกมึงมีความสุขด้วยกัน กูบอกได้เท่านี้”

กัสยกแก้วขึ้นมาชนกับผมที่กำลังรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตด้วยคำพูดของมัน

ผมไม่ลืม...และไม่คิดว่าชีวิตนี้จะลืมมันได้ด้วย อยู่กับเท็นผมมีความสุขมาก เราไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ เลยตั้งแต่ที่เริ่มคบกัน อาจจะเพราะว่าเท็นตามใจผม ยอมในเรื่องที่จะทำให้ผมโกรธหรือไม่พอใจ ยอมจนพักหลังๆ ไม่เคยพูดหรือบอกอะไรผมเลย มันเป็นความห่างเหินเล็กๆ ที่ผมก็รู้สึกได้ ถึงเท็นจะยังคงทำตัวน่ารักกับผมแต่ไม่ได้ช่วยให้ช่องว่างที่เกิดขึ้นนั้นมันหดเล็กลงเลย...

แล้วผมต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปในทิศทางไหนถึงจะพอดีกับเท็น...เรื่องนี้ผมก็ยังไม่รู้

“ไม่ว่าเมลจะตัดสินใจยังไง ฟิวก็ขอให้เมลนึกถึงความสุขของตัวเองบ้างนะ ถ้าทำไปแล้วมันเป็นการทรมานตัวเอง เมลก็อย่าฝืนทำ เพราะเท็นน่ะ รักเมลมากเลยนะ” ฟิวบอกผมเสียงเบา ตาโตๆ แดงนิดๆ แถมยังวาววับเหมือนน้ำตาพร้อมจะหยดลงมาได้ทุกเมื่อ

“เมลเช็ดน้ำตาให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าร้องไห้เพราะเมลอีกเลยฟิว ฟิวควรจะมีความสุขกับใครสักคนที่รักฟิวได้อย่างที่ฟิวรัก”

“แค่เมลมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้ว แต่ถ้าวันไหนเมลไม่มีใคร อย่าลืมนึกถึงฟิวนะ เมลก็รู้ว่าฟิวจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้างๆ อย่างนี้”

ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เคยคิดจะตอบแทนความรักของฟิว คนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ให้ความรักและทำทุกอย่างให้ผมไม่เปลี่ยน แต่ความพยายามของผมไม่เคยสำเร็จพอๆ กับที่ผมไม่เคยเลิกรักเท็นได้

ในขณะที่ผมทุ่มเทความรักให้กับเท็น ฟิวก็คอยทุ่มเทให้กับผมเช่นกัน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่สามารถรู้สึกกับฟิวได้อย่างที่รู้สึกกับเท็น ผมรู้จักกับฟิวตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ได้เจอได้นั่งเรียนกับฟิว ได้รับสิ่งดีๆ ที่ฟิวคอยทำให้

ตรงกันข้ามกับเท็นที่ผมแค่รู้จักผ่านเรื่องเล่าของฟิวกับกัส ไม่เคยมีโอกาสได้เจอกันเลยจนกระทั่งขึ้นปีสอง และเหมือนมีใครสักคนเล่นตลกกับชีวิตผม ให้เท็นผ่านเข้ามาและไม่ให้ผ่านเลยไป ให้แฟนที่ผมคิดจริงจังกับเขาคนแรกเป็นผู้ชาย และให้คนๆ นั้นใจร้ายกับผมมากเหลือเกิน

“กลับห้องเลยมั้ย กูไปส่ง”

ผมเลิกคิ้วมองกัสอย่างแปลกใจ

“เพื่อ?”

“ไอ้เท็นสั่ง มันกลัวมึงเมาแล้วขับรถกลับไม่ไหว”

“ไม่ได้ดื่มจนขาดสติ”

“แต่หน้ามึงก็ไม่ค่อยมีสตินะไอ้เมล จะเอาไง ไหวมั้ย”

“ทำหน้ากวนตีนอีกกูจะบอกไอ้แต้มมาปล้ำมึง”

“เหี้ย พูดอะไรเกรงใจคนข้างตัวกูหน่อย”

น้องแนงที่สนใจนักร้องบนเวทีอยู่ตั้งแต่ก้นแตะโซฟาหันมาส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะพูดว่า “แนงไม่ถือหรอกค่ะพี่เมล คนอย่างพี่กัสนานๆ ทีให้โดนซะบ้างก็คงไม่เป็นไร”

“อ้าว พูดงี้เดี๋ยวมีเคลียร์ยาว”

น้องแนงหยิกแขนกัสแรงๆ จนมันเบ้หน้าแล้วยกมือทำท่ายอมแพ้

“เคลียร์อะไร เรื่องยัยแฟร์โรคจิตเด็กเก่าพี่รึไง เตรียมรับมือหลังจากมันออกจากโรงบาลได้ยังล่ะ”

“คงไม่ซ่าอีกนานล่ะน่า”

ผมนั่งดื่มต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับ ฟิวยังคงยืนยันว่าจะอยู่ต่อ กัสกับน้องแนงเลยอยู่เป็นเพื่อน

ผมกลับมาถึงคอนโดก็เกือบตีสองแล้ว พอเปิดมือถือหลังจากอาบน้ำเสร็จก็มีสายเข้าทันที ผมปล่อยให้มันสั่นอยู่อย่างนั้นจนสายตัดไป และก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นอยู่อย่างนี้ต่อไปสักครึ่งชั่วโมงได้โดยที่ผมได้แค่นั่งมอง จนสุดท้ายต้องตัดสินใจรับสาย

(จะนอนยัง)

“อือ”

(กวนรึเปล่า)

“อืม”

(เมาเหรอ)

“เปล่า”

(ไม่อยากคุยเหรอ)

“อืม”

(งั้นก็ฟังอย่างเดียว)

ผมเกือบหัวเราะออกมาแล้ว แต่ก็เก็บเสียงไว้ได้ทัน แถมในหัวยังมีแต่คำว่า คิดถึง คิดถึง คิดถึง ลอยอยู่เต็มไปหมด

(พรุ่งนี้มารับได้มั้ย เมลมีเรียนรึเปล่า)

“ตอนไปก็ไม่ได้ไปส่ง ตอนมาก็หาทางกลับเอง”

(อยากให้มารับ)

“ไม่ไป ไม่ว่าง วางได้รึยัง อยากนอน”

(ไม่วาง)

“เพื่ออะไรวะเท็น”

(ก็ไม่อะไร แค่อยากคุยด้วย)

ผมขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ถึงจะรู้สึกดีใจที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น แต่มันกลับยิ่งทำให้ผมจำความรู้สึกของสามวันที่ผ่านมาได้แม่น

“สามวันที่กูโทรหา มึงไม่แม้แต่จะรับสายหรือโทรกลับ แล้วตอนนี้มาบอกว่าอยากคุย หึ! กูต้องทำตามความอยากของมึงรึไง”

(ไม่ต้องก็ได้ แค่อย่าวางสายก็พอ)

“อะไรที่มึงขอ ต่อไปนี้กูจะไม่ทำ เข้าใจมั้ยเท็น”

ผมพูดจบก็กดตัดสายทิ้งทันที และคาดว่าอีกสามวินาทีเท็นต้องโทรกลับมา ซึ่งมันก็ตามนั้น แต่ผมตัดสินใจสอดมันไว้ใต้หมอนอีกใบที่เจ้าของมันอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ แล้วก็พลิกตัวนอนตะแคงไปอีกทาง

แค่ตัดสินใจเปิดมือถือตามคำขอร้องของมึงนี่ก็มากเกินไปแล้ว รู้มั้ยวะ -_-

.............................................To be continue.........................

เอ้า เรื่องราวชักจะไปกันใหญ่  :a5:

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ  :ruready

อ่า.. Special Inside เพิ่งเอาเมลออกมาพูดเป็นครั้งแรก เป็นไงกันบ้างคะ พ่อหนุ่มคนนี้ เขาน่ารักใช่ม้าาาาาา  :impress2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2013 18:33:10 โดย Snufflehp »

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ไม่นะๆๆๆๆๆๆ



จงคืนดีกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ความรักเป็นเรื่องของคน2คนนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว มีอะไรเคลียกันดีกว่า ถ้าคิดว่ามันไม่โอเคแล้ว

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เหนื่อยไหมเมลเท็น นอนพักสักคืนให้อารมณ์เย็นลง
กว่าจะรักและเป็นแฟนกันได้ แล้วหันหน้าคุยกันก่อน
ถ้ามันไม่เวิร์ค ก็ค่อยจบ

เอาใจช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ดูนิสัยสองคนนี้เเล้วรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้  :เฮ้อ:
แต่ก็เชียร์ 5555555
เอาใจช่วยให้จูนติดกันไวๆ ปรับความเข้าใจ ทำข้อตกลงที่โอเคกับทั้งสองฝ่าย  :katai2-1:

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เมลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลต่องเข้าใจเท็นนะเผื่อเท็นมีธุระต้องทำเลยบอกเมลไม่ได้ ค้างงงงงงงงงงงงอย่างแรง

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ทำไมรู้สึกเมลงี่เง่าจัง

ก็เมลบอกเองว่าเท็นยอมเมลทุกอย่าง

แล้วไหงงี่เง่างอนไม่เลิกราล่ะ

แถมจะเลิกอีก ไม่ไว้ใจเท็นเลย

ไม่ถามเท็นด้วยซ้ำ ไม่ฟังอะไรเลย

รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ


ป.ล.อยากบอกว่าเป็นแฟนคลับเท็น ฮิฮิ

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
อูยยยยย เค้าชอบเมลเวอร์ชั่นนี้อ่ะ   :katai2-1:
อย่างน้อยก็แข็งกับเท็นบ้าง เท็นจะได้รู้ว่าเมลรู้สึกยังไง
จะได้ทำอะไรนึกถึงจิตใจคนอื่น ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ
อยากไปไหนก็ไป ไม่อยากคุยก็ไม่คุย
เข้าใจว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แต่อย่างน้อยจะทำอะไรก็บอกเมลบ้าง
ไม่ใช่ว่าคนห่วงก็ห่วงไปเหอะ ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น
ใจแข็งให้นานๆ นะเมล เท็นจะได้รู้ว่าโลกก็ไม่ได่หมุนรอบตัวเท็นคนเดียว

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
บางทีต้องดัดนิสัยเท็นบ้างนะ

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
แล่ว แล่ว แล้ววววว เอาไงน้องเท็น น้องเมลโกรธแล้วนะ --"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
« ตอบ #249 เมื่อ: 13-09-2013 21:28:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เมลไม่เข้าใจเท็นเลย

เหนื่อยแทน

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ต่างคนต่างมีเหตุผลนะ แต่ยิ่งนานไป ทำไมรู้สึกว่าทั้งสองคนเข้ากันไม่ได้อะ :z3:
สงสัยต้องพบกันคนละครึ่งทาง ต่างคนต่างรัก อย่าทะเลาะกันเลย :mew6:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
เลิกไปก็ดีรู้สึกว่ายิ่งอ่านไป เหมือนเมลจะยิ่งใจเสาะ

เหมือนผู้หญิงขึ้นทุกวัน โทษว่าวิ่งตามไม่ทัน หรือไม่เอาใจใส่เหมือนฟิว ไม่ดีแบบฟิว

ถามหน่อยเหอะว่าไม่ชอบเท็นที่ตรงนี้หรือไง เท็นก็เป็นแบบนี้ตลอด ถ้าเท็นเอาใจใส่แบบคนอื่นจะชอบเท็นหรอ

ถ้าคิดว่าเท็นใจร้าย ก็อย่ามายุ่งเลยสิตั้งแต่แรก ไปชอบฟิวโน่น

ทำไมถึงไม่รู้จักแฟนตัวเอง ไม่เข้าใจเท็นบ้าง ว่าเท็นอัจฉริยะก็ทำให้ความคิด

การใช้ชีวิตต่างจากคนปกติ แต่เท็นก็พยาปรับเข้าหาเมลแล้ว ทำไมไม่ดูบ้าง

มีแต่ถามจุกจิก งอนไม่พอใจ ทำนิสัยเหมือนผู้หญิง ห่างกันแค่สามวัน ทำอย่างจะเป็นจะตาย

เห็นรูปแล้วไง คิดเองเออเองต่างๆนา โดยไม่คิดจะฟังเท็นบ้าง มีแต่ประชด ไม่รับโทรศัพท์ปิดเครื่อง

เท็นเลิกเหอะๆ ไม่ชอบเลยผู้ชายแบบนี้ หาใหม่คนดีๆมีเยอะแยะ คิดว่าตัวเองเป็นระบบสุริยะจักรวาลหรือไง

ที่ใครๆต้องสนใจ ต้องวิ่งตาม หล่อตายล่ะ ไม่แมนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2013 22:09:01 โดย jimmyFG »

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
 :jul3:สะใจจริง เมลเอาคืนซะบ้าง.เท็นตามใจตัวเองเกินไป. :a2:
มาต่ออีกนะ :ling1:มันค้าง :call:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ง่ะ  งานงอกกกก    :katai1:
รีบกลับมาเคลียร์ด่วยเลยเท็นนนนน    :z3:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
ห่างกันซักพักก็ดีนะ แต่ต้องคุยกัน

พี่ชายตาเท็นชักออกลาย

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
อึน  :hao5:

nuum

  • บุคคลทั่วไป
 :เหอะ1:  นับว่าเมล  เป็นคนที่ใจเย็นและรักเท็นจริง สงสารในความรู้สึกเมล
             เท็นทำตัวเองมากไป  เริ่มกลัวที่จะต้องสูญเสีย  เข้าใจว่ากำลังปรับตัว
             รักคนแต่ง  ใช้ภาษาในการแต่งดีครับ                                               :c4:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
 :กอด1:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 o22 ตัดสินคนอื่นเพียงแค่รูปถ่าย คิดงั้นก็ตามสบายไม่แคร์ ชิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
« ตอบ #259 เมื่อ: 14-09-2013 02:28:17 »





ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
เมลใจเด็ดแฮะ แต่ก็นะ เพื่อให้เท็นได้รู้ใจตัวเอง

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เท็นโดนซะบ้างก็ดี  แต่นะก่อนจะโดนอะไรแบบอย่างน้อยฟังเท็นมันก่อน  ก่อนที่จะโกรธ จะเลิก จะอะไรก็ได้ที่เมลตั้งใจไว้ ระวังเท็นมันตัดใจเมื่อไหร่ เมลจะอ้อนวอน เท็นจะไม่ทันมามองอีกเลย

ปล.อ่านตอนนี้ แล้วนึกถึงเพลง "ดีพอให้รอไหม"เลย  http://www.youtube.com/watch?v=3KCPBmDn2YQ

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
กดเล่นเพลงด้านล่าง อาจไม่เข้ากันแต่อยากให้ฟัง นะคะ  :กอด1:

ตอนที่ 21

“จะไปเรียนเหรอ”

คำถามของผมไม่ได้รับคำตอบ เมลเดินผ่านหน้าผมไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองหรือเอ่ยทักสักคำ

“เมล กินข้าวรึยัง กินก่อนไปเรียนดีมั้ย”

เป็นเช่นเดิมที่ทั้งห้องยังมีแต่ความเงียบ เมลแค่ยืนกลัดกระดุมเสื้อช็อป หน้าหล่อๆ ของมันขรึมอย่างที่ปกติไม่เคยเป็น

“ไปทำให้นะ”

“ไม่ต้อง จะมาลำบากอะไรกับกู ไม่กลับบ้านมึงไปล่ะ”

ผมไม่คุ้นกับเมลในโหมดนี้เท่าไหร่ เลยไม่มีคำตอบดีๆ กลับไปให้มัน

ถึงจะรู้ว่ากลับมาต้องเจอแบบนี้และเตรียมใจไว้แล้วระดับหนึ่ง ทว่าไม่คิดว่าจะทำให้รู้สึกแย่ขนาดนี้เลย แต่ผมทำผิดเองก็ต้องยอมรับ เมลมีสิทธิ์จะโกรธผม หรือแม้กระทั่งอยากเลิกกับผม...

ถ้าถามผมว่าในเมื่อรู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างนี้แล้วทำไมถึงทำน่ะเหรอ... บางทีในทุกการกระทำของผมก็ไม่เคยจำกัดเหตุผลไว้เลย ในอารมณ์นั้นผมแค่อยากอยู่ไกลๆ จากเมล อยากมีอิสระกับชีวิตเดิมๆ ของผม

แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตั้งแต่มีอีกคนเข้ามาในชีวิต มันก็ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว และผมต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับความเอาแต่ใจของตัวเองในราคาแพงเลยทีเดียว

“รอได้มั้ย เดี๋ยวไปเรียนด้วย”

“ทำไมกูต้องรอ”

เมลจ้องผมผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้ามัน ไม่ได้ดูมีความสุขเหมือนทุกครั้งที่ผมอยู่ใกล้ๆ

“เราห่างๆ กันบ้างก็ดีนะ จะได้มีเวลาทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง”

ผมได้แต่รับฟังโดยที่สมองไม่ทำการประมวลผลความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้นเลยสักนิด

“ออกไปแล้วก็ล็อคประตูให้ด้วย”

ประโยคฟังดูคุ้นๆ เหมือนครั้งหนึ่งผมเคยพูด ตอนพูดเองก็คิดว่าแค่ประโยคธรรมดา แต่พอเป็นคนฟัง ทำไมมันหน่วงหัวใจอย่างนี้ก็ไม่รู้!

.
.
.

“เดี๋ยวมันก็หายโกรธ คนคบกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง แล้วผู้ชายที่แท็ครูปมาให้มึงมันเป็นใคร”

ผมละสายตาจากเป็ดน้อยตรงหน้ามามองไอ้กัสที่ยืนดูดบุหรี่อยู่ใกล้ๆ มันบอกว่าวันนี้ไอ้ฟิวอนุญาตให้โดดเรียนมาอยู่เป็นเพื่อนผม

“เพื่อนเก่ากู ไม่รู้ถ่ายตอนไหน เป็นเรื่องขึ้นมาเลยเนี่ย เซ็งแม่งจริงๆ”

“ก็ถ้ามึงกลับมาตามกำหนดที่บอกกูไว้ มันจะเป็นเรื่องขึ้นมามั้ยล่ะ”

“ต่อให้กูกลับมาตามกำหนดมันก็ยังเป็นเรื่องอยู่ดีนั่นแหละ เพราะก่อนไปแม่งก็โกรธกูอยู่แล้ว”

ไอ้กัสแสยะยิ้มแล้วถามด้วยหน้าตากวนตีนว่า

“มึงทำหน้าอย่างนี้ก็เป็นด้วยเหรอวะ”

“อะไรของมึง”

ไอ้กัสหัวเราะเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

“ทำหน้าเหมือนว่าโลกกำลังจะแตก นี่แหนะไอ้เท็น อย่างแรกเลย มึงรู้ตัวรึยังว่าตัวเองผิด”

ผมเงียบมองเป็ดน้อยว่ายน้ำตามหลังแม่ไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ไอ้กัส

“ในเมื่อผิด ก็ต้องขอโทษ ถ้าขอโทษแล้วมันยังไม่หายโกรธ ก็ต้องขอโทษต่อไป แต่ถ้ามึงคิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว ต่างคนต่างกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง มึงก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น อยู่เฉยๆ มองไอ้เมลโดนหมาคาบไปแดก”

“...”

“ไม่เคยมีไม่ใช่รึไง คนที่มึงบอกว่าเป็นแฟนได้เต็มปากขนาดนี้น่ะ”

“...”

“คิดดีๆ นะเท็น”

“...”

“คนคบกันมันก็ต้องมีช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกันบ้าง กูกับแนงบางครั้งก็ยังเบื่อๆ กันเลย มีคู่ไหนบ้างที่คบกันแล้วจะหวานกันตลอดเวลาวะ มึงดูอย่างไอ้คิม เมียมันตามจิกเช้าจิกเย็น มันก็บ่นให้ฟังประจำแต่ก็ไม่เคยเลิกกับเมียมันสักทีไม่ใช่เหรอ”

“กัส”

ผมหันไปมองหน้าไอ้กัสที่ยิ้มกริ่มทำหน้าเป็นผู้เชี่ยวชาญกลับมาให้ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นอยากถีบผมตกน้ำเมื่อผมถามมันว่า

“ทำไมวันนี้มึงพูดมากจังวะ”

“เออ ไอ้ห่า เวรของกูจริงๆที่เป็นเพื่อนกับคนอย่างมึง”

“ทำโกรธไปได้สาวน้อย”

“สาวน้อยพ่องงงงงง!”

“หึหึ”

“มึง !@#$%@^#^*&$&^%#”

ผมปล่อยให้ไอ้กัสด่าต่อไปเท่าที่มันจะสามารถหาคำพูดมาด่าผมได้ ความจริงทฤษฎีเรื่องรักนี่มันก็เป๊ะนะ แต่ทำไมผมไม่เห็นมันจะเคยมีความรักดีๆ เหมือนคนอื่นเขาสักครั้งเลยวะ -_-

“แล้วจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ยนี่”

“มึงจะรู้ไปทำไม”

“เอ้า แล้วมึงจะตอบโดยไม่ตั้งคำถามไม่ได้รึไงวะ”

ผมชายตามองไอ้กัสก่อนจะลุกขึ้นปัดเศษใบไม้ใส่หน้ามัน เห็นมันโวยวายแล้วอารมณ์ผมก็ค่อยดีขึ้นหน่อย

เดินกลับมาที่คณะโดยมีไอ้กัสบ่นไปด้วยตลอดทางทำให้พอจะหายเซ็งได้บ้าง เพราะพักหลังมานี่ไอ้ฟิวไม่ค่อยเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมเท่าไหร่ เอาจริงๆ คือขนาดไอ้กัสยังแปลกใจที่มันไม่โดนบ่นโดนว่าเหมือนกัน จนตอนนี้พวกผมชักเริ่มเป็นห่วงมันขึ้นมาแล้วเพราะผิดปกติมากเกินไป

“โฮะ ตาย ใครออกแบบทรงผมให้มึงวะไอ้เต๋อ” ผมถามขึ้นทันทีเมื่อมาถึงโต๊ะหินอ่อนหน้าตึกภาค

จะไม่ให้ถามได้ไง ก็จากผมรากไทรเกาหลีทำสีของมัน ตอนนี้แม่งหยิกไปทั้งหัว แถมชี้ไปชี้มาไม่เป็นทรงอีกต่างหาก คือ...นี่แนว? หรือเทรน ณ ปัจจุบันเหรอ? -O-;

“ตามรอยไอดอลกูเว้ย เป็นไงวะ หล่อมากเลยเหรอ อืม ความจริงกูก็พอเข้าใจในรูปโฉมของตัวเองดีน่ะนะว่าทำทรงไหนก็เกิด มึงอย่าคิดจะมาพูดให้กูเปลี่ยนทรงผมเสียให้ยาก”

“ไอดอลมึงน่ะใคร”

นึกไม่ออกเลยว่ามีดารานักร้องที่ไหนที่ทำผมทรงเดียวกับมัน คือ ต้องมาเห็นเองอ่ะ แบบ...เหนือความเข้าใจของมนุษย์มาก

“อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ไอ้เต๋อทำหน้าเหมือนข้ารู้ ข้าเห็นใส่ผม ก่อนจะหันไปลอกโน๊ตจากชีทไอ้ฟิวต่อ

“ไม่มีใครห้ามมันเลยไงวะ” ผมถามอย่างแปลกใจ แต่ไอ้เต้กับไอ้คิมก็พร้อมกันทำหน้าละเหี่ยใจมาให้แทน

สงสัยกูได้เลิกคบมึงเพราะผมทรงนี้นี่แหละ -_-

“หน้าเหี้ยไม่พอเหรอมึง” ไอ้กัสถามขึ้นอีกคน แต่โดนไอ้เต๋อตบหัวเข้าให้มันเลยหุบปากที่กำลังจะพูดประโยคต่อไปทันที

ผมใช้ตีนเขี่ยไอ้แม็คให้ขยับพอให้มีที่นั่ง ก่อนจะนั่งลงมองพวกมันตั้งหน้าตั้งตาจดโน๊ต อาจจะเพราะใกล้ไฟนอลแล้วพวกมันถึงได้ขยันเหมือนไปอัพยามาอย่างนี้

ผมจมอยู่ในโลกของตัวเองอยู่สักพัก ไม่ได้ต่อบทสนทนากับใคร ก่อนที่ประโยคระคายหูจะดังลอยมาให้นึกอยากถือมีดไว้ในมือ

“ได้ข่าวว่าสามีขอหย่าเหรอคุณพะชอน ไม่ยอมเซ็นดีๆ ระวังโดนฟ้องหย่านะครับ หึหึ”

นอกจากทรงผมจะกวนตีนผมแล้ว คำพูดมันยังมาจี้เส้นประสาทให้ตีนกระตุกอีกต่างหาก

“พูดอีกทีกูจะบอกอีเชอร์รี่ให้อัดตูดมึง”

“ขอโทษคร้าบบบบบบ แต่ว่าก็ว่าเถอะมึง เป็นกูก็ไม่ทนอ่ะ อยู่ๆ แม่งเล่นหายหัวไป มึงไม่รู้หรอกว่าตอนที่ไอ้เมลมันวิ่งหน้าตั้งมาตามหามึงที่คอนโดกูน่ะ มันทำหน้ายังไง”

ผมมองหน้าไอ้เต๋ออย่างชั่งใจ เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้แรงขนาดไหนที่จะทำให้หัวมันโขกกับพื้นแล้วความจำเสื่อมไปซะ

“รู้มั้ยว่าทำไมมึงไม่มีเมียเหี้ยเต๋อ”

“มึงรู้เหรอวะ?” ไอ้เต๋อถามหน้าเหวอๆ ปนงงๆ ที่จู่ๆ ผมก็พูดคนละเรื่องกับมัน

“รู้ เพราะมึงเป็นผู้ชายพูดมากอย่างนี้ไง ผู้หญิงเขาเลยไม่เอา เขากลัวมึงไปแย่งเขาพูด”

“ห้ะ!”

“อ้อ หนังหน้ามึงด้วย”

“เหี้ยยยยยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนนนนนน!!”

“กูไปละ มัดหมาด้วยไอ้กัส”

ผมลุกออกจากโต๊ะ ดูเวลาแล้วเมลคงใกล้จะเลิกเรียน ไปชวนกินข้าวสักหน่อยดีกว่า

“มึงว่าใครหมาาาาาาาาาาาาาาา” เสียงไอ้เต๋อตะโกนตามหลังมา ผมเลยหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองมันที่มีไอ้กัสกับไอ้คิมช่วยกันดึงแขนไว้

“ต้องให้บอกอีกเหรอออออออ หืออออ ไอ้หมาเต๋อออออออออออออออ หึหึ” ผมตะโกนตอบกลับไปแล้วยกมือขึ้นบายๆ ให้มัน

มองดูไอ้เต๋อกระฟัดกระเฟียดจนพอใจแล้วผมก็หันหลังเดินจากมา

เฮ้อ ทำไมมันหน่วงอย่างนี้วะ ผมเพิ่งรู้ว่ากลัวการเจอเมลมากขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมไม่มีความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ไม่ใช่ข้อสอบหรือทฤษฏีความรู้อะไรที่ผมจะใช้สมองผมแก้ปัญหามันได้

เมลน่ะ...ซับซ้อนยิ่งกว่านั้น

ผมมาถึงหน้าตึกเลคเชอร์ของคณะด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ไอ้ตอนจะทำใจกล้าเดินเข้าตึกไปนี่ก็นานอยู่เหมือนกัน ผมตั้งใจไว้ว่าจะไปดักรอมันหน้าห้องเรียนเลย แต่ความตั้งใจก็เป็นอันล่มไปเมื่อพบกับห้องเรียนที่มันร้างผู้คน

อาจารย์ปล่อยก่อนเวลาหรือว่าเขาย้ายที่เรียนกันแน่วะ? -_-

โทรหาก็ไม่รู้ว่าจะรับรึเปล่า แต่ก็ต้องลองดูนั่นล่ะถึงจะรู้ เพราะวันสองวันมานี้มันไม่ค่อยรับโทรศัพท์ผม ต้องโทรจนเกือบห้าสิบสายนั่นแหละมันถึงจะรับ

และคราวนี้กว่ามันจะรับสายได้ผมก็สร้างสถิติใหม่อีกแล้ว ห้าสิบเก้าสายเป็นตัวเลขที่น่าเอ็นดูภูธรมาก โทรแม่งตั้งแต่สิบเอ็ดโมงยันเที่ยงล่ะครับ

“อยู่ไหนเมล กินข้าวยัง”

(กำลังจะกิน โทรมาทำไมนักหนา มีธุระอะไร)

“จะชวนไปกินข้าว”

เมลเงียบไปสักพัก ผมก็รอให้มันพูด แต่ผ่านไปสามนาทีแล้วมันก็ไม่พูดอะไร

“อยู่ไหนเหรอ ไปหาได้มั้ย”

(จะมาทำไม)

“อยากเจอ”

(รำคาญว่ะเท็น กูวางนะ จะกินข้าว)

แล้วมันก็กดตัดสายทิ้งทันที ผมได้แต่ฟังเสียงสัญญาณก่อนที่มือถือจะเข้าสู่การสิ้นสุดการโทรไปเอง ผมก็แค่อยากเจอเท่านั้น ไม่ได้จะไปทำให้รำคาญเลย ทำไมต้องพูดถึงขนาดนี้ด้วยวะ

ผมยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนมือถือจะสั่นเพราะมีข้อความเข้า เปิดอ่านก็เห็นเป็นไอ้เขตที่ส่งมา

‘อยู่โรงอาหารคณะ รีบมานะ เดี๋ยวมีเรียนต่อ’

และด้วยเหตุนั้นผมจึงมาถึงโรงอาหารคณะในอีกสิบนาทีต่อมา พักเที่ยงอย่างนี้คนเต็มโรงอาหาร แถมเสียงก็โหวกเหวกโวยวาย แต่มองหาได้ไม่ยากหรอกโต๊ะของพวกเมล แค่เดินตามสายตาของผู้หญิงไปก็คงเจอ

ผมชะงักเท้าไปนิดกับผู้หญิงที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างเมล น่ารักนะ โดดเด่นกว่าทุกคนรอบข้างที่ส่งสายตามาให้มัน แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมแค่อยากรู้ว่ามานั่งกับเมลทำไม

“อ้าว เท็น กินไรมายังวะ” ไอ้ลินทักเสียงร่าเริงเกินปกติ

“ยัง”

“ไปซื้อมาดิ มานั่งกินด้วยกัน”

ผมกำลังจะไปซื้อข้าวตามที่ไอ้ลินบอก แต่ก็ต้องหยุดเพราะเสียงทุ้มๆ ของเมล

“ตาบอดเหรอไอ้ลิน แค่นี้ก็เบียดกันจะตายอยู่แล้ว ชวนมาอีกคนไม่ต้องเกยตักกันเลยรึไง”

“ก็ยังเหลือที่ข้างๆ ไอ้เขต มึงน่ะหุบปากไป นั่งเขี่ยข้าวมาตั้งนานละไม่รู้จักแดก ไปซื้อข้าวเถอะเท็น” ไอ้แต้มบอกพลางทำหน้าหงุดหงิด แต่เพราะผมเห็นสายตาของเมล ผมเลยเปลี่ยนใจ

“ไม่เป็นไรว่ะแต้ม กูยังไม่หิว”

“เมลคะ นี่ใครเหรอ” เสียงใสๆ ที่สอดแทรกบทสนทนาขึ้นมาทำให้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ

ผมยังคงยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะเพราะไม่อยากไปเบียดที่นั่งกับไอ้เขต เพราะม้านั่งฝั่งมันก็มีไอ้แต้มกับไอ้ลินนั่งอยู่แล้ว คงว่างแต่ฝั่งของเมลเท่านั้นที่นั่งอยู่กับสาวหมวยอกอึ๋มแค่สองคน ไม่ปรากฎร่องรอยของไอ้มายด์แต่อย่างใด

ไม่มีคำตอบจากเมล เพราะมันคงหาคำจำกัดความมาให้ผมไม่ได้ ไอ้ลินเลยแก้สถานการณ์ให้แทน

“คนนี้ชื่อเท็นครับแพร เท็นวิดวะคอม ปีสอง”

“อ๋อ สวัสดีค่ะเท็น ชื่อแพรนะคะ พยาบาลปีสองค่ะ”

“ครับ”

สาวพยาบาลมากินข้าวไกลถึงนี่ คงต้องมีคนไปรับมาล่ะครับ แค่ดูกิริยาของฝ่ายหญิงก็รู้ว่ามากับใคร ผมไม่ต้องถามอะไรให้มากความ

“งั้นกูไปนะ มีธุระต้องไปทำ”

“เอ่อ...จะไปแล้วเหรอวะ กินข้าวก่อนดิเท็น” ไอ้เขตพูดขึ้น

“ไม่ดีกว่าว่ะ กูต้องรีบไป”

ผมเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนมามาก เหมือนมีอะไรถ่วงอยู่ในท้องชอบกล

คำว่าห่างกัน...มันหมายความว่าอย่างนี้เหรอวะเมล

.
.
.

ร้านพี่เจ๋งตอนสามทุ่มกับตอนเที่ยงคืนไม่ได้แตกต่างกันเลย ลูกค้าแม่งนั่งครบทุกโต๊ะอย่างกะนัดกันมาเช็คชื่อ ความจริงร้านนี้ตอนเปิดกิจการชื่อนั่งชิว แต่เด็กในมอเรียกติดปากว่าร้านพี่เจ๋ง หนึ่งเดือนหลังจากเปิดกิจการพี่แกเลยขึ้นป้ายใหญ่ๆ หน้าร้านว่า ‘ร้านพี่เจ๋ง’ ไปซะเลย เพราะเวลารุ่นพี่นัดรุ่นน้องไปเลี้ยงร้านนั่งชิว เด็กมักหากันไม่เจอ แต่ถ้าบอกว่าร้านพี่เจ๋ง พวกมันบอกว่าหลับตาเดินมาก็ยังถูก -_-

“ไงมึง ทำหน้าเป็นปลาน้ำจืดไปได้ ไอ้เต๋อโชว์กากอยู่ชั้นบน สนใจก็ขึ้นไป” พี่เจ๋งบอกพลางยื่นแก้วเบียร์มาให้ผม แกเป็นเจ้าของร้านนะแต่ชอบมาทำเนียนนั่งดื่มกับพวกผมอยู่เรื่อย -_-

“ไม่ว่ะพี่ เบื่อๆ”

“ทะเลาะกับแฟนไงมึง”

ผมดื่มเบียร์แบบไม่สนใจจะตอบคำถาม พี่เจ๋งเลยเปลี่ยนเรื่องไปหาน้องกัสจังของแก

“น้องกัสกูไปไหนอ่ะวันนี้”

“ไม่รู้ดิพี่ วันนี้มาไม่ได้นัดใคร”

“หน้าตาท่าทางเหมือนคนอกหัก ถ้ากูไม่เห็นกับตากูก็ไม่เชื่อนะว่าคนอย่างมึงจะมีมุมดราม่าแบบนี้”

“พูดมากว่ะพี่ ผมก็คน”

“ด่ากูซะงั้น”

พี่เจ๋งทำหน้าเอือมๆ แต่ก็นั่งดื่มเป็นเพื่อนผมต่อไป คุยเรื่องสัพเพเหระให้ฟังแต่ก็ไม่ได้เข้าหัวผมเลย เรื่องเมื่อกลางวันยังสะเทือนอารมณ์ผมอยู่ทุกขณะจิต หายใจเข้าก็เจ็บ หายใจออกก็ปวด ถุย! ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่รู้สึกหน่วงๆ เหมือนยืนอยู่ดีๆ ก็มีอะไรหนักๆ ใหญ่ๆ มาชนให้วูบไป

แต่ผมรู้ว่าเรื่องนี้ต้องใจเย็น เพราะที่เป็นอย่างนี้ผมเป็นคนก่อเอง

ครืดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ผมขมวดคิ้วกับเบอร์ที่หน้าจอ ก่อนจะกดตัดสายทิ้งและบล็อคเบอร์นี้ไว้ ทั้งงานวิจัยและเงินที่ตกลงกันไว้ก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว ผมก็ไม่มีธุระอะไรจะรับสายเพื่อนเก่าคนนี้อีก แม่งถ่ายรูปลงไอจีตอนไหนผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ก็รูปปกติล่ะนะ ไม่ได้จะกอดจูบกันถ่าย ลับหลังก็ไม่มีอะไร ผมไม่ได้ชอบผู้ชายมาโดยกำเนิดนะครับถึงจะได้มองเพศเดียวกันแล้วพิศวาสไปซะทุกคน แต่แฟนผมมันไม่ใช่คนคิดปกติไง มันเลยเป็นเรื่องเป็นราว แต่เอาเถอะ ผมก็มีส่วนผิดด้วยนั่นแหละ

ช่างมันละกัน ผ่านมาแล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ต่อให้ย้อนกลับไปผมก็จะทำตามนั้นอยู่ดี ก็คนมันไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากตอบคำถาม แล้วจะรับโทรศัพท์ให้มันโวยวายใส่ทำไมวะ -*-

สามทุ่มครึ่งไม่รู้เมลจะอยู่ไหน ผมยกเบียร์ดื่มอีกสองแก้วก่อนจะขอตัวพี่เจ๋งออกมาโทรศัพท์ ลังเลอยู่ชั่วอึดใจ นิ้วก็กดโทรหามันไปแล้ว แต่คราวนี้แปลกที่มันรับสายไว

(แบ็ตจะหมด รีบๆ พูด)

อ้อ อย่างนี้เอง แต่มันก็ทำให้ผมแน่ใจนะว่า ถึงมันจะปล่อยให้ผมกระหน่ำโทรหายังไงสุดท้ายมันก็จะรับสาย

“ชาร์ตสิ ไม่ได้อยู่ห้องเหรอ”

(อยู่ห้อง)

“กับใคร สาวพยาบาลคนนั้นรึเปล่า”

(หาเรื่องรึไง)

“อย่าเพิ่งหงุดหงิดเลยน่า ไปชาร์ตแบ็ตเร็ว”

(ขี้เกียจ)

“เร็วๆ เมล อยากคุยด้วย”

(แต่กูไม่อยากคุย)

“งั้นเดี๋ยวไปหา”

(ไม่ต้องมา)

“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”

(พูดไม่รู้เรื่อง)

“ก็คิดถึง อยากอยู่ด้วย ไม่ได้รึไง”

เมลไม่ตอบในทันที มันปล่อยให้ผมรออยู่สักพัก ก่อนจะพูดกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆ ว่า

(ถ้าเมาก็ไม่ต้องมาหากู)

“จ่ะ ไม่เมาแน่นอน”

ผมรีบเดินไปที่ลานจอดรถ ในระหว่างนั้นก็โทรหาไอ้เต๋อเพราะถ้าไปแบบไม่บอกใครเดี๋ยวไอ้พี่เจ๋งจะหาว่าผมชักดาบ เสียเครดิตเปล่าๆ

“เออ เหี้ยเต๋อ มึงแทงสนุ๊กอยู่ใช่มั้ย”

(ใช่ อยู่ร้านพี่เจ๋ง ทำไมวะ มึงจะมาเหรอ)

“กูต้องไปทำธุระ มึงจ่ายค่าเบียร์ให้กูด้วยนะ ร้านพี่เจ๋งนั่นแหละ สองทาว แล้วไปเอาเงินที่ไอ้กัส”

(อ้าว เหี้ยเท็น แดกกูก็ไม่ได้แดก)

“เออน่ะ แล้วเดี๋ยวกูบอกไอ้ตะนอยขอเบอร์น้องแจมให้”

(งั้นก็จัดไปครับเพื่อน จุ๊บๆ)

“จุ๊บพ่องงงง!”

จัดการค่าเบียร์เสร็จก็มาจัดการปัญหาชีวิตตัวเองต่อ ผมมาถึงคอนโดของเมลก็เกือบห้าทุ่มแล้ว คือครึ่งชั่วโมงที่บอกมันไว้ก็เลทมาอีกหนึ่งชั่วโมงเต็ม ผมไม่ได้เถลไถลที่ไหนเลยนะ เพราะมีอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนรั้วกั้นทางด่วนนั่นแหละ มันถึงได้ติดกันเป็นพรืดตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวเลยจริงๆ

ผมเปิดประตูเข้าไปด้วยคีย์การ์ดอีกใบที่เมลให้ไว้ ห้องชั้นล่างมืดสนิท ผมเดินเบาๆ ขึ้นไปชั้นบน ได้ยินเสียงทีวีดังลอดมาจากในห้องนอน และพอเปิดประตูเข้าไปก็เจอเมลนอนดูทีวีอยู่ที่เตียง มันหันมาสนใจผมแค่ไม่กี่วินาทีก็หันกลับไปดูทีวีต่อ

“อาบน้ำรึยัง”

คำถามของผมทำให้เมลยกรีโมทขึ้นมาเพิ่มเสียงทีวีให้ดังขึ้น

“คุยกันหน่อยได้ไหม”

เสียงจากในทีวีกลบเสียงของผมไปจนหมด

“เมล”

เมื่อเห็นความนิ่งเงียบจากคนตรงหน้า กับสายตาที่จ้องเขม็งอยู่ที่หน้าจอทีวี ผมก็จำใจยอมแพ้ เดินออกจากห้องมาแล้วปิดประตูเบาๆ

คงต้องใช้เวลาสักหน่อยล่ะมั้ง...กับเรื่องแบบนี้ แต่พูดจริงๆ นะ

หายใจไม่ออกเลยกับความเย็นชาของมัน...


...........................................To be continue...........................................

อืมมม เคยรึเปล่าคะ ที่เรื่องบางเรื่อง คำขอโทษก็คงไม่พอ  :z6:

ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ขอบคุณๆ ทุกๆ การติดตาม ต่อให้เรื่องจะดำเนินไปในทิศทางไหน ก็อย่าลังเลใจที่จะเข้ามาอ่านเลยนะคะ

ฟังเพลงที่คุณ sukie_moo ให้ลิ้งไว้แล้วรู้สึกหน่วงจังเลยค่ะ  :z3:


http://www.youtube.com/v/BtgdWlhPKOA
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2013 18:44:58 โดย Snufflehp »

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
>..................... :mew6:  ไม่มีคำตอบ

ออฟไลน์ Tun_Bow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ไม่ชอบเมลโหมดนี้เลย เยอะเกิน รำคาญอ่ะ ค้างงง  เป็นเราทนไม่ไหว ถ้าเมลเลือกแบบนี้เลิกกันเลยเถอะเท็น
//แหวกกระแส รึเพราะเราเป็นคนคิดคล้ายๆเท็น(บางเรื่อง) เราก็เลยไม่ค่อยเข้าใจความคิดเมลเท่าไหร่
ขอตอนต่อไปคร๊าบบบบ  จะหยุดดราม่า หรือจบๆไปเลย หงุดหงิด อินกะเรื่อง :katai1:

ออฟไลน์ KaeM_PonG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ตอนนี้หน่วงมากเลยค่ะ

อยากให้เมลกะเท็นคืนดีกันเร็วๆจัง


 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
ถ้าจะให้เมลหายโกรธ
คงต้องพยายามให้มากเท่าที่เมลเคยทำซินะ


ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
แง๊ๆๆๆๆๆๆๆ  หน่วงมากๆๆๆๆ :serius2:

ออฟไลน์ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เลิกไหม เหนื่อยและปวดใจแทนทั้งคู่  :เฮ้อ:

ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็เลิกเถอะ

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เมลเล่นตัวมากเกินไป ระวังเท็นจะเบื่อจริงๆ แล้วจะรู้สึก


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด