ตอนที่ 27“สอบเสร็จไปไหนดีวะ” ไอ้เต๋อเปิดประเด็นเมื่อทุกคนมานั่งเกือบครบองค์ในร้านพี่เจ๋งที่เวลานี้แน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ผมไม่คุ้นหน้าสักคนเพราะไม่นิยมจำหน้าใคร ผมจำได้เฉพาะคนที่ผมสนใจเท่านั้น เลยลำบากตอนที่เขาเข้ามาทักนี่แหละ -_-
“มึงไม่คิดจะให้เพื่อนกลับไปหาพ่อหาแม่บ้างรึไง คิดแต่หาที่เที่ยวตลอด” ไอ้ฟิวบ่นขึ้นมา ปกติไอ้นี่ก็ไม่เที่ยวหรอกครับ แต่พักหลังๆ ติดรถออกมากับไอ้มายด์ตลอด
“นั่นสิไอ้เต๋อ อย่าเพิ่งจัดทริปเลยว่ะ พ่อกูเรียกกลับบ้าน เห็นบอกว่าปิดเทอมนี้ไม่กลับจะให้กูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลคนสวนที่บ้านแล้ว” ไอ้คิมทำหน้าเซ็ง ครอบครัวมันอยู่เชียงใหม่แต่โดนพ่อเตะโด่งมาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มัธยม เหตุเพราะคุณปู่ระดับเจ้าสัวเจ้าของภัตตาคารที่ถึงจะไม่ชอบหน้าแม่มันและไม่ยอมรับการแต่งงาน แต่ก็ยังรักหลานที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล พ่อมันเลยส่งมาเป็นตัวแทนรับมรดกล่ะมั้งครับ ฮ่าๆๆ
“เออๆ เอาไว้ปิดเทอมใหญ่ก็ได้เว้ย” ไอ้เต๋อทำหน้าเซ็งอีกคน สงสัยมันขี้เกียจช่วยงานโรงน้ำแข็งของเตี่ยมันถึงได้หาเรื่องเที่ยว -_-
“วันนี้ไอ้กัสก็ไม่มาอีกแล้วไงวะ” ไอ้ลินถามขึ้น
“เห็นออกจากห้องสอบก็ขึ้นรถของที่บ้านกลับไปเลย กูว่าชีวิตมันชักหนักละ แล้วนี่ไอ้เต้หายหัวไปไหนอีกคน” ไอ้คิมตอบก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาไอ้เต้
ผมเหลือบมองไปทางไอ้แม็คก็เห็นมันนั่งเงียบเป็นบื้อมานานสองนานแล้ว เออนะ ปีชงของชีวิตรึไงนะพวกผม -_-
“นั่งเงียบเลย เหนื่อยเหรอ” เสียงทุ้มของเมลดังขึ้นข้างๆ ผมเลยเอนหัวไปพิงไหล่มัน
“คิดไรไปเรื่อยเปื่อย”
“มึงบอกปิดเทอมอยากไปเชียงใหม่?”
“อือ”
“วันเสาร์นี้เลยมั้ย”
ผมเกือบจะตอบตกลงกลับไป แต่ก็คิดเรื่องที่น่าตกใจขึ้นมาได้ฉับพลัน พูดถึงพ่อแม่...ผมไม่เคยรู้จักครอบครัวเมลเลย ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของมันเป็นใคร มีชีวิตครอบครัวแบบไหน ญาติพี่น้องมีบ้างมั้ย หรือแม้แต่บ้านมันอยู่ที่ไหน...ผมไม่รู้เลย และไม่เคยถามด้วย
มันแปลกมั้ยนะ...สำหรับคนที่เป็นแฟนกัน
“มึงไม่กลับบ้านเหรอ”
ผมเห็นเมลชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา
“ครั้งแรกเลยนะที่ถาม”
“ไม่ได้ลืมนะ จริงๆ แค่คิดไม่ถึง”
“ไม่เป็นไรน่า กูก็ไม่เคยพูดถึงด้วย ว่าแต่เอาไง ทริปเชียงใหม่เนี่ย”
“ยังไม่ไปดีกว่า ให้มึงกลับบ้านก่อน”
“เอ้า ทำไมอ่ะ”
“ก็อยู่แต่กับกู เดี๋ยวมึงเบื่อ กลับไปอยู่กับพ่อแม่บ้างดิ”
“เอางั้นเหรอ...จะไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“ทำไมอ่ะ บ้านมึงอยู่ไกลเหรอ”
“ก็นะ...”
คำตอบแบบนี้มันหมายถึงอะไร? ผมเห็นความกังวลบนใบหน้าหล่อๆ นั่นเพียงเล็กน้อย แต่พอรู้ว่าผมมองอยู่มันก็ยิ้มหวานมาให้ทันที
“กูอยู่กับมึงก่อน ไว้ก่อนเปิดเทอมสองสามวันค่อยไป”
ถึงผมจะสงสัย แต่ถ้าถามไปเมลคงไม่บอก เรื่องครอบครัวคงเป็นเรื่องเดียวที่เมลไม่อยากพูดถึง เพราะมันไม่เคยปิดผมสักเรื่องจริงๆ ตั้งแต่คบกันมา ผมเลยไม่อยากเซ้าซี้อะไร
คิดๆ ไปก็ไม่เคยเห็นเมลคุยโทรศัพท์กับพ่อหรือแม่ของมันเลย แล้วเรื่องที่ลูกชายคบกับผู้ชายด้วยกันนี่...พวกเขารู้หรือยังนะ
“คุยไรกันสองคน หน้าเครียดเชียวพวกมึง” เป็นครั้งแรกที่ผมไม่หงุดหงิดกับความเสือกของไอ้เต๋อ เพราะเสียงของมันทำให้ตัวตนของเมลกลับมาอยู่ข้างๆ ผมอีกครั้ง เมลคงไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหน
“ก็คุยเรื่องที่มึงพาเด็กสิบหกไปนั่งแดกไอติมที่ห้างเมื่อวันก่อน บอกตรงๆ นะเหี้ยเต๋อ เหมือนไอ้เฒ่าหัวงูเลยว่ะ แถมโรคจิตด้วย ^^”
จบประโยคของผมก็ต่อด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของชาวคณะและเสียงด่าของไอ้เต๋อที่ดังแข่งเสียงเพลง
“เฮ้ย กูกลับนะ พาเด็กไปนอนก่อน” ผมบอกก่อนจะดึงแขนเมลให้ลุกขึ้นตาม มันทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ขัดอะไร พวกห่านั่นแค่สะบัดมือไล่เป็นเชิงว่าจะไปไหนก็ไปอย่างโคตรกวนตีน
“จะกลับแล้ว?” เมลถามเมื่อเดินมาถึงรถ
“เปล่า ไปหาอะไรอย่างอื่นกินดีกว่าว่ะ”
“กินไร? กินตับป้ะ ^^”
“ทะลึ่งละมึง”
“หึหึ เขินอ่ะดิ”
“เปล่า อายแทนต่างหาก แม่งกล้าพูด”
“เหรออออออออ”
แค่มึงอารมณ์ดีขึ้นมากูก็ไม่ต้องการอะไรละ ^^
“ไอ้บ้า ขึ้นรถได้ละ ชักช้า”
“เร็วตลอด”
“พูดคนละเรื่องป่ะเนี่ย”
“มั้ง”
“กวนตีนว่ะเมล ไปๆ”
“^^”
ดูมัน มึงอารมณ์ดีไปป่ะเนี่ย -_-
แต่พอขึ้นรถมาได้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน ดีหน่อยที่ขับออกมาแล้วติดไฟแดงถึงได้มีเวลาคิดกัน จนสรุปแล้วว่าไปหานมกินดีกว่า ร้านนมหลังมอคงยังเปิดอยู่เพราะนี่ก็ยังไม่ดึกมาก
“นั่นไอ้เต้” เมลบอกพลางชี้ให้ผมดูผู้ชายที่นั่งเล่นไอโฟนอยู่ที่โต๊ะในสุดของร้าน
“โฮะ มันเป็นเด็กดีตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คงตั้งแต่ไอ้เต๋อหลุดปากล่ะมั้ง”
“เออว่ะ”
ความจริงหลังจากวันนั้นไอ้เต้ก็หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกผม ถ้าไอ้แม็คอยู่ไอ้เต้จะหาย ถ้าไอ้แม็คหายไอ้เต้ก็หายเหมือนกัน (พูดทำไม?) แล้วนี่มันคงคิดว่ามานั่งร้านนมจะไม่เจอพวกผมสินะครับ แหม โชคร้ายหน่อยล่ะนะที่คืนนี้อารมณ์อยากกินนมมันดันพุ่งขึ้นมา
“ไงมึง” ผมเดินเข้าไปทักในขณะที่เมลไปสั่งนมที่เคาท์เตอร์
“อ้าว...เออ เป็นไงวะมึง ไม่คิดว่าจะเจอ”
“อะฮะ”
ผมตอบแค่นั้นก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามมัน ไอ้เต้ดูอึดอัดเล็กน้อยแต่ผมไม่ได้สนใจ
“เอ้อ...มึงไม่กินเหล้าเหรอวะวันนี้ ไอ้เต๋อนัดไม่ใช่เหรอ”
“กูไปมาแล้ว แล้วมึงล่ะ”
“กูติดธุระ”
“แดกนม?”
“คือ...”
ผมเบือนหน้ามองออกไปนอกร้านอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ใช่เรื่องของผมที่จะถามว่าหลังจากคำว่า ‘คือ’ มันต้องการพูดอะไร ผมไม่ชอบบังคับให้ใครพูด เพราะสิ่งที่ได้ยินอาจจะเป็นเรื่องโกหก
“ไงไอ้เต้ เมื่อกี้ไอ้คิมยังบ่นถึงมึง” เมลกลับมาพร้อมนมร้อนสองแก้วกับขนมปังอีกหลายแผ่น
“เหรอวะ” หน้าไอ้เต้ตอนถามนี่แม่งเอ๋อได้ใจจริงๆ
“มึงเป็นไรวะ หลบหน้าหลบตาพวกกู”
“ไม่ได้หลบ แค่กูไม่ว่าง”
ผมเห็นเมลยักไหล่แล้วบทสนทนาก็จบลงแค่นั้น ไอ้เต้ทำหน้าอึดอัดใจมากขึ้นไปอีก
“คือ...เอ้อ...ไอ้แม็คเป็นไงมั่งวะ”
“ก็ไม่เป็นไง มันสบายดี” ผมตอบก่อนจะรับขนมปังที่เมลป้อนให้เข้าปาก
“ไม่ได้เจอกันเหรอพวกมึงน่ะ” เมลถามต่อ
“ก็ไม่นะ...”
“ทำไมวะ มึงหลบหน้ามัน?” ผมเลิกคิ้วมองไอ้เต้ สำรวจหน้าตามันดีๆ แล้วแม่งโทรมยิ่งกว่าผีดิบ
“กูยังไม่พร้อม”
“ไม่พร้อมอะไร?”
“ไม่พร้อมจะคุย”
“ยากอะไรแค่คุย”
“ก็กู...”
“มึง?”
“อย่ากดดันกูสิวะ”
“อ้าว กูทำงั้นเหรอวะเมล”
“เท็น ไม่เอาน่า”
ผมยักไหล่แล้วก็ซดนมของตัวเองต่อไป
“กูไม่แน่ใจ คือ...กูอาจจะไม่ได้รักไอ้แม็คก็ได้ จริงมั้ยวะ อาจจะแค่สนิทแล้วรู้สึกแบบว่าผูกพันธ์ ขาดไม่ได้ กูเลยอยากลองห่างๆ มันดู”
ผมมองสำรวจไอ้เต้อยู่สักพัก ก่อนความรู้สึกที่อยากถีบหน้ามันจะแล่นขึ้นมาจนจุก เมลเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรมันเลยยื่นมือมากุมไว้พลางส่ายหน้าเล็กน้อย
“ไปเถอะว่ะเมล ยิ่งฟังแม่งยิ่งไร้สาระ”
“เท็น”
“ไปรอที่รถนะ”
ผมเดินออกจากร้านมา เมลไม่ได้ตามมาทันที คงอยู่คุยอะไรกับไอ้เต้ แต่ไม่นานมันก็เดินหล่อออกมาพร้อมกับเดินเข้ามาผลักหัวผม
“มึงหงุดหงิดอะไร”
“กูแค่หมั่นไส้มัน”
“เพราะมันเคยทำอย่างที่มึงทำน่ะเหรอ”
“กูใจร้ายก็จริงแต่กูไม่เคยโกหกตัวเองว่าไม่รักมึงซะหน่อย”
“พูดดี”
“หึหึ เถียงไม่ได้ เรื่องจริง”
“ครับๆ กลับได้ละ เดี๋ยวคืนนี้จัดเต็มให้”
“อะไรๆ ใครขอ”
“ไม่?”
“เดี๋ยวเมลจะโดน”
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะโดน หึหึ”
เมลแม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ทำหน้าหื่นยังหล่อเลย T_T ชักหนักไปละผมเนี่ย
.
.
.
“เป็นไรของมึง” หลังจากเงียบอยู่เกือบชั่วโมงเต็มผมเลยเห็นสมควรว่าต้องถามเสียหน่อย ไอ้แม็คที่โทรมาปลุกผมตั้งแต่ตีห้ากำลังนั่งหน้าซึมอยู่บนโซฟาอีกตัว
“ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“เลยมาเป็น กขค ของกูกับไอ้เมลนี่นะ ไอ้ห่า จะจัดรอบเช้ากันสักหน่อยแม่งเสือก เออๆ ไม่ต้องมาทำหน้าตุ๊ดร้องไห้ใส่กู พูดความจริงก็รับไม่ได้ มนุษย์โลกนี่ชักแปลก”
“บ่นอะไรแต่เช้า เอ้า กินนี่ก่อนมึง ได้นอนมั่งป่ะเนี่ย” เมลโผล่ออกจากครัวมาพร้อมกับโจ๊กร้อนๆ สามถ้วย ปกติเมลไม่ชอบให้เอาอะไรมากินที่โซฟามันนะ แต่ตอนนี้คงกรณียกเว้นเพราะไอ้แม็คเหมือนคนที่แทบไม่มีแรงหายใจ
“ยังไม่ได้นอน”
“งั้นกินนี่เสร็จก็ไปนอน นอนซะหน่อย ให้สมองได้พักผ่อน จากนั้นจะเอายังไงค่อยว่ากัน”
ไอ้แม็คทำหน้าซาบซึ้งใส่เมลก่อนจะจัดการกินโจ๊กเข้าไปทีละคำ ผมเห็นรอยคล้ำใต้ตาบวมๆ ของมันแล้วก็ว่าอะไรต่อไม่ลง
“มึงมาไง”
“bts”
“bts บ้านมึงให้ขึ้นตอนตีห้าไง?”
“ทำไมต้องด่ากู T_T”
“นี่กูด่า?”
“เท็นเท็น”
ผมยักไหล่พลางยกแข้งขึ้นพาดขาเมล มันตีขาผมทีหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนไอ้แม็คแค่มองมาเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ากินโจ๊กในชามของมัน แอบเห็นน้ำตาร่วงใส่ชามด้วย ซึ่งผมก็ทำเป็นไม่เห็นไป
“พวกมึงเจอไอ้เต้บ้างป่ะวะ” ไอ้แม็คถามทั้งๆ ที่ยังก้มหน้า
“เจอ” ผมตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะขยายความไปเพื่ออะไร ไม่ใช่เพราะเห็นหน้าอยากรู้อยากเห็นของไอ้แม็คเลยอยากแกล้งมันหรอกนะ ^^
“เจอแล้วยังไงวะ?”
“ก็แค่เจอ จะให้แล้วยังไงวะ?”
“ไอ้เท็น”
“เค้าพูดไรผิดเหรอที่รัก” ผมหันไปถามเมลที่กำลังดูข่าวรอบเช้า สุดหล่อของผมเลยทำหน้าเอือมใส่ผมเล็กน้อยก่อนมือเรียวยาวขาวๆ ของมันจะผลักหัวผมสองทีติด
“ทำตัวดีๆ เท็นเท็น”
ผมแลบลิ้นใส่ก่อนจะรีบเอามือบังไว้เมื่อเมลทำท่าจะเข้ามากัด ไอ้แม็คกระแอมไอเสียงดังแต่ผมไม่สนใจ พอมันทำอีกคราวนี้แม่งสำลักจริงๆ เดือดร้อนเมลต้องรีบไปหาน้ำมาให้มันอีก -_-
ไอ้เต้อยู่ไหนวะ มาเอาเมียมันกลับไปทีเถอะ ไอ้ตุ๊ดนั่นก็เหลือเกิน จะมาไม่รู้ใจตัวเองทำหอกหักอะไรตอนนี้ครับ -*-
“เท็น มึงว่ากูไปหามันที่บ้านดีป่ะวะ” หลังจากที่ไอจนหน้าดำหน้าแดงเสร็จแล้ว ไอ้แม็คก็ถามเรื่องที่ผมคิดว่ามันอยากจะพูดออกมามากที่สุด
บางทีคนเราก็ต้องการแรงสนับสนุนในเรื่องที่อยากทำแต่ก็ยังลังเลล่ะมั้งครับ
“ไปหาทำไม?” แต่บังเอิญไอ้แม็คมาขอผิดคน
“ก็...”
“อยากเจอ? อยากคุย? อยากเคลียร์?”
“ไม่รู้”
“ไม่รู้แล้วจะไปเพื่อ?”
“แต่กูอยู่ไม่ได้”
“แล้วไอ้คนที่อยู่คุยกับกูนี่มันใครวะ”
“มึงไม่เข้าใจเท็น”
“ไม่เคยบอกว่าเข้าใจ”
“มึง...”
“กู?”
“ไอ้เพื่อนเวร ฮึก! ฮืออออออ มึงกวนตีน”
จู่ๆ ไอ้แม็คก็ร้องไห้ เอ่อ...ร้องไห้เลยนะ ร้องแบบเด็กที่เถียงไม่ได้เลยร้องไห้แม่ง -*- เมลทำหน้าอึ้งเล็กน้อย แถมยังทำหน้าไม่ถูกด้วย มันเลยจ้องเขม็งที่หน้าจอทีวีอย่างเดียว
“หน้ากูเหมือนไอ้เต้เหรอ มองหน้ากูแล้วร้องไห้ เพื่อไรครับประชาชน”
“ไอ้บ้า”
ไอ้แม็คแหกปากเสียงดังขึ้นไปอีก คือ กูพูดจริงๆ นะ ไม่คิดว่าจะเห็นมึงในโมเม้นนี้ -_-
“บางทีมึงแม่งก็ตุ๊ด แอ๊บแบ๊วเหมือนไอ้ฟิว”
“เท็น เพื่อนมันร้องไห้จะไปพูดให้ยิ่งร้องทำไม” เมลคงทนไม่ไหว มันปิดทีวีแล้วก็รีบหากล่องทิชชู่ยื่นให้ไอ้แม็ค
“ถามมันสิว่าร้องเพราะอะไร เพราะกูหรือเพราะคนอื่น หึหึ”
เมลส่ายหน้า ตีขาผมไปหนึ่งทีก่อนจะบอกให้ไอ้แม็คไปนอน ไอ้ผู้ชายเจ้าน้ำตานั่นก็เชื่อฟังแต่โดยดี แต่ก่อนไปมันขว้างหมอนอิงโซฟาใส่หน้าผมด้วย -*-
“ชอบแกล้งเพื่อน” เมลว่าเมื่อไอ้แม็คหายไปนอนที่ห้องนอนแขกแล้ว
“ไม่ได้แกล้ง”
“เออนะ ไม่แกล้ง แต่พูดจนมันร้องไห้นี่เรียกว่าอะไร”
“เรียกว่าช่วยต่างหาก”
“ช่วยยังไง”
“ช่วยให้ร้องไห้ไง ^^”
“จะกวนตีนกูอีกคนใช่มั้ยเนี่ย”
“ถ้าใช่?”
“เดี๋ยวจะโดน”
“ฮ่าๆๆ เอาดิ”
“แถวบ้านเรียกทอดสะพาน”
“งั้นจะไม่ข้ามเหรอ ^^”
“ข้ามสิครับ หึหึ”
ความสุข...บางทีก็เกิดขึ้นง่ายๆ เพียงเพราะใครอีกคนส่งยิ้มมาให้นะครับ ผมเชื่ออย่างนั้น ^_^
......................................................To be continue.............................................
ก่อนอื่นเลย ต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ค่ะ หน้าจอมืดค่ะ เพิ่งไปแบกหน้าจอมาจากพันธุ์ทิพย์ โคตรหนัก T_T เอามาต่อโน๊ตบุ๊ค จะเปลี่ยนหน้าจอโน๊ตก็ไม่มีปัญญา เลยว่าซื้อจอแยกดีกว่า แหะๆ
ตอนนี้ก็ยังงงงงงงงงงงงเรื่อยๆ เหมือนเดิมนะคะ อาจจะไม่สมกับที่รอคอยแต่ก็ นะะะะะะะะะะะะะะะ
ขอบคุณทุกคนที่ยังรอค่ะ 
ปล. เต้แม็ค โมเม้นเล็กๆ จากตอนอื่นๆ ก็อย่างเช่นตอนช่วงแรกๆ ตอนที่ 2 ที่เท็นบอกว่าเต้แม็คเป็นคู่หูกัน คือบ้านสองนางนี่อยู่ใกล้กันค่ะ ฮ่าๆๆ มีตอนที่เท่าไหร่หว่า วันเกิดของแฟนน้องเจภาควัสดุที่เต้หายไปกับผู้หญิงไงคะ
คู่นี้ไม่ใช่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นนะเอออออ อิอิ 
สุดท้ายนี้ 