[นิยาย] ณ แดนสรวง ปัจฉิมบท+แจ้งข่าวหน้า 1 up 10/04/13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยาย] ณ แดนสรวง ปัจฉิมบท+แจ้งข่าวหน้า 1 up 10/04/13  (อ่าน 38423 ครั้ง)

Makoto-sang

  • บุคคลทั่วไป
ขออนุญาตดันเล็กน้อย แจ้งข่าวเปิดจองหนังสือทำมือครับ ขณะนี้เปิดจองในเล้าเรียบร้อยแล้ว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39313.0

สำหรับเรื่องให้เฮสเลนกลับตัวกลับใจนั้น ท่าจะยากครับ ผ่านมาเป็นพันปี พี่ท่านยังไม่สำนึกเลย TT_TT

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
สนุกมาก อ่านแล้วหยุดอ่านต่อไม่ได้ ซ่อนเงื่อนเดาทางไม่ออกเลย เป็นนิยายที่ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมมากๆ ประทับเป็นที่สุดจริง และคิดว่าจะต้องกลับมาอ่านเรื่องอีกเป็นครั้งสองสามและอีกหลายครั้ง ใครที่ยังไม่ได้อ่าน ต้องอ่านเดี๋ยวนี้ สุดยอดครับ ขอบคุณมากๆด้วยใจจริง อาจจะมีเม้นท์ไม่เยอะอย่าท้อนะครับ เชื่อว่ามีคนอ่านชอบเยอะแน่ๆ แต่อาจไม่สะดวกบางประการ อย่างตัวเองอ่านผ่านโนเกียร์รุ่นเก่า อี63 แป้นพิมพ์ก็ถลอกจนดูตัวหนังสือไม่ออก จึงไม่ค่อยได้เม้นท์เท่ไหร่ รออ่านผลงานต่อๆไปนะครั

Makoto-sang

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนจะเริ่มโพสตอนพิเศษ ขอชี้แจงเล็กน้อยนะครับ เรื่องสั้นที่เอามาลงนี้เป็นฉากสั้นๆ ของนิยาย ณ แดนสรวง ซึ่งผมจัดเป็นชุด "ฉากที่หายไป" ครับ โดยส่วนใหญ่จะเป็นฉากที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะใส่ในเรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนที่เีขียนนั้นสมองอาจจะจินตนาการไปว่าถ้าหากว่าเกิดขึ้นจะเป็ยยังไง เป็นเสมือนฉากที่เติมเต็มจินตนาการอีกหนึ่งก็ได้ครับ ผมพยายามลำดับฉากแต่ละฉากออกมาให้ต่อกันมากที่สุด แต่อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่สลับกันบ้างนะครับ

-------

ตอนพิเศษ ฉากที่หายไป 1 บทที่ 8 ช่วงฉากที่ฮาธอสเปลี่ยนชุดและโดนไคซัสมัดมือชก

หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ฮาธอสก็รีบไปยังห้องทำงานส่วนตัวของมหาเทพสงครามอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงเขาก็เคาะประตูสามครั้งและร้องบอกคนข้างใน

"ข้าน้อยฮาธอสขอรับ"

"เข้ามาได้"

"ขออนุญาตขอรับ...!"

ขาดเสียงเจ้าของห้อง ฮาธอสเปิดประตูพร้อมกล่าวขออนุญาตตามความเคยชิน แต่เมื่อเข้าไปข้างในได้ เทพหนุ่มกลับต้องชะงักงันด้วยความตกใจ เมื่อเห็นไคซัสในร่างมนุษย์นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่งอยู่หน้าเตาผิง เรือนผมสีเทาจางแผ่สยายปรกบ่า ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยหมัดกล้ามอวดสายตาเขาอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ดูประหนึ่งรูปสลักที่ถูกเสกสรรอย่างประณีต ไม่ว่าจะมองตรงไหนก็สมบูรณ์ไร้ที่ติ รูปงามจนแม้แต่ฮาธอสที่เป็นบุรุษเหมือนกันยังอดหลงใหลมิได้

“มาพอดี ข้ากำลังอยากได้คนช่วยแต่งตัวเลย” ไคซัสพูดทำให้ฮาธอสที่กำลังจ้องแบบตาไม่กะพริบได้สติ และมองตามมือเขาที่ชี้ไปยังฉากบังตาทำจากหวายซึ่งตั้งอยู่ทางขวามือ ตรงนั้นมีชุดตัวยาวสีขาว รูปทรงแปลกตาพาดอยู่สองตัว ตรงส่วนหัวของฉากก็มีชุดที่น่าจะเป็นเสื้อคลุมตัวโคร่งสีดำขลิบลายทองแขวนอยู่อีกตัว

ฮาธอสมองชุดเหล่านั้นแล้วก็เลื่อนสายตามาหาไคซัสอีก นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรถึงอยู่ในร่างมนุษย์เช่นนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบก็ต้องรีบถลาไปพยุงตัวเทพอสูรไว้ เมื่อเจ้าตัวทำท่าจะลุกขึ้นยืนด้วยตนเอง

“อย่ารีบลุกพรวดพราดสิขอรับ” พูดแล้วก็ทำจมูกฟุดฟิด หลังได้กลิ่นน้ำปรุงบาง ๆ จากตัวไคซัส “มหาเทพไคซัสเพิ่งเช็ดตัวเสร็จหรือขอรับ แล้วท่านหญิงไคมีร่าไปไหน ทำไมปล่อยท่านอยู่คนเดียวล่ะ” ถ้าเกิดหน้ามืดล้มไปขึ้นมาจะทำอย่างไร...เขาคิดต่อในใจโดยไม่ได้พูดออกไป จากนั้นก็หยิบกางเกงขายาวสีขาวมาให้เจ้านายสวมก่อน ระหว่างนั้นก็ต้องคอยดูไม่ให้ไคซัสเสียหลักล้มไปด้วย พร้อมกันนั้นก็ต้องไม่เผลอมองอะไรต่อมิอะไรที่ชวนให้ใจสะท้านไปด้วย ช่างลำบากจริง ๆ

"ไคมีร่าไปเปลี่ยนน้ำน่ะ ปกตินางก็ไม่ได้ช่วยข้าแต่งตัวอยู่แล้วด้วย” พอสวมกางเกงได้อย่างปลอดภัย ไคซัสก็ปลดผ้าเช็ดตัวออก และยืนรอฮาธอสเอาเสื้อมาสวมให้ “ส่วนข้ากำลังจะไปประชุมสภาสวรรค์ ฟาเบียนเพิ่งส่งหมายเรียกมาเมื่อคืน”

"เอ๊ะ! แต่อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายไม่ใช่หรือ อย่าเพิ่งไปเลยขอรับ” ฮาธอสคัดค้านทันใด

เขาไม่เห็นด้วยหากไคซัสที่ยังไม่หายดีจะฝืนร่างกายไปเผชิญหน้ากับเสือสิงกระทิงแรดกลางสภาสวรรค์เช่นนั้น แต่ก็ยังไม่วายทำหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์แบบ ชายหนุ่มเอาเสื้อสีขาวตัวยาวแบบอาหรับมาสวมให้เจ้านาย ก่อนเดินอ้อมมาข้างหน้าเพื่อติดกระดุมให้ ตอนนี้เองที่เทพคนสวนช้อนตามองไคซัสอย่างเป็นห่วง อ้อนวอนให้อีกฝ่ายหยุดพักผ่อนจนกว่าจะหายดี

ไคซัสดูจะเข้าใจความหมายของสายตานั้นดี เทพอสูรยักยิ้มบางแล้วส่ายหัวอย่างอับจน “ไคมีร่าก็ห้ามข้าเหมือนกันนะ แต่น่าเสียดายที่ข้าทำไม่ได้ เพราะหัวข้อการประชุมวันนี้คือ เสาเขตแดนที่พัมกินซ์เพิ่งทำลายไปเมื่อวันก่อน ข้าต้องไปจัดการให้เสร็จเรียบร้อยและเจ้าก็ต้องไปกับข้าด้วย”

มือที่กำลังกลัดกระดุมเข้าด้วยกันพลันหยุดชะงัก ใบหน้าคมสันเงยขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจสุดขีด

“เอ๋! ให้ข้าไปด้วยหรือขอรับ” เทพคนสวนทวนอย่างไม่อยากเชื่อ แต่ไคซัสพยักหน้ายืนยัน ทำให้ความตกใจที่รุนแรงยิ่งกว่ารู้ว่าไคซัสจะออกไปข้างนอกระเบิดออกมา “ตะ...แต่ว่า...สะ...สถานที่ประชุมสภาสวรรค์อยู่ในวังหลวง ไม่ใช่สถานที่ที่เทพชั้นต่ำอย่างข้าควรจะเข้าไปนะขอรับ!”

"แต่ข้าจำเป็นต้องมีผู้ช่วย" ไคซัสบอกเสียงเนิบช้าและเริ่มติดกระดุมเสื้อเอง หลังเห็นฮาธอสนิ่งไปแล้ว "อัลวินไม่อยู่ มีแต่เจ้าที่พอจะทำงานในส่วนของเขาได้"

"มะ...ไม่ได้ขอรับ ข้าไปไม่ได้!" ฮาธอสค้านหัวชนฝา ให้ตายเขาก็จะไม่ไปตำหนักมหาเทพสวรรค์เด็ดขาด!

แต่ไคซัสก็รู้วิธีจัดการกับเทพคนสวนแล้ว มหาเทพสงครามขยับมาใกล้ตัวฮาธอส จับมือเจ้าตัวไว้ก่อนจะขยับหนีไปไหน ก่อนบรรจงวางมือบนแก้มเนียนนุ่มของคนตรงหน้า สะกดตรึงด้วยแววตาลึกล้ำที่เขย่าหัวใจให้สั่นคลอนอย่างรุนแรง ฮาธอสรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะระเบิดอยู่รอมร่อ นับวันมหาเทพอสูรตนนี้จะมีอิทธิพลกับเขามากขึ้นทุกที เทพคนสวนแทบไม่มีโอกาสขัดขืนเลยสักนิดและทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เขาก็ใจอ่อนยวบยาบ

"ถือว่าข้าขอร้องนะ ฮาธอส ไปประชุมสภาสวรรค์กับข้านะ"

---------------

ตอบคอมเมนต์นักอ่าน

คุณ abcee ขอบพระคุณสำหรับคอมเมนต์มากๆ ครับ เข้ามาแล้วเจอคอมเมนต์ของคุณ ผมรู้สึกดีใจมากจริงๆ ยิ่งได้อ่านคำชมยิ่งเหมือนตัวลอยไปถึงสวรรค์เลยล่ะครับ >w<

ส่วนเรื่องคอมเมนต์ ผมไม่ท้อแน่นอนครับ ผมถือว่าแค่ท่านผู้อ่านเข้ามาอ่านก็ดีใจมากแล้วล่ะครับ ส่วนคอมเมนต์ขอให้เป็นไปตามความสมัครใจและความเมตตาของท่านผู้อื่นดีกว่า แต่ทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเมนต์จากท่านผู้อ่านที่กรุณาติดตามกันมาตลอด ไม่ว่าจะคนละกี่คอมเมนต์ ผมก็มีความสุขเสมอครับ ^ ^

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ไคซัสเจ้าเล่ห์นักนะ!!  :hao6: :hao6:

Makoto-sang

  • บุคคลทั่วไป
   ฉากที่หายไป 2 ระหว่างบทที่ 10 กับ 11 เมื่อเทพรับใช้แห่งตำหนักซิมโฟเนียอาเรียไปแจ้งข่าวแผนการล้มเหลว

   แสงจันทร์สีเงินส่องผ่านหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้มายังเตียงสี่เสาที่ตั้งกลางห้อง ตกต้องดวงตาของเด็กหนุ่มที่นอนกรนฟี้อยู่บนนั้น ทำให้แพขนตางามงอนที่ทาบกับผิวใสขยับถี่ ๆ แล้วเบิกขึ้นด้วยอาการงัวเงียระคนงุนงง เขาจ้องมองเพดานสีฟ้าที่เข้มขึ้นในยามราตรีด้านบนนิ่ง สงสัยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ใช้เวลาสักพักใหญ่ถึงจะนึกเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้

   ...จริงสิ เรามากินเหล้ากับลูซิสนี่นา...

   ...ว่าแต่ไอ้หมอนั่นล่ะ

   ขุนพลเทพอันดับห้าคิดพลางยันตัวขึ้นมานั่ง คิดว่าน่าจะกลับตำหนักของตัวเองเสียที เพราะก่อนจะมาไม่ได้บอกพวกข้ารับใช้ว่าจะค้างที่นี่ ป่านนี้พวกนั้นคงจะตามหากันให้ควักให้แล้ว

   แต่ในตอนที่ก้มหน้าลงเพื่อขยี้ตาให้หายง่วงนั้น สายตาเจ้ากรรมก็เห็นลำแขนของชายตนหนึ่งวางพาดบนเอว เขาหันไปมองหน้าเจ้าของด้วยความตกใจ แล้วก็พบบุรุษรูปงามไว้ผมสีแพรตตินั่มกำลังหลับสนิทโดยกอดตัวของเขาแน่น!

   “ลูซิส...” นามนี้หลุดจากริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างยากลำบาก ร่างเล็กบางสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ “...ตื่นเดี๋ยวนี้นะว้อย ลูซิส!!”

   ข้าวของภายในห้องงามหรูรวมถึงขี้หูของลูซิสเต้นผ่าง หลังเซย์เรียโน่แผดเสียงด้วยความโมโห ร่างสูงสะดุ้งเฮือกแล้วกุมหูด้วยความตกใจ ถึงจะไม่ได้ใช้ได้เสียงมังกรดั่งเดิมของตนเอง แต่มันก็ยังทรงพลังทำลายล้างขนาดทำให้เขาหูอื้อ ตาลาย และได้ยินเสียงวิ้ง ๆ ในหัวสมองเลยทีเดียว

   “ทำอะไรของเจ้าเนี่ย เซย์เรียโน่ หูข้า...”

   “เจ้าต่างหาก มานอนเตียงเดียวกับข้าได้อย่างไร!” เซย์เรียโน่ก้มลงสำรวจตัวเองให้ชัด ๆ ก็พบว่าตนอยู่ในสภาพเกือบเปลือย สวมแค่เสื้อคลุมผ้าแพรลายผีเสื้อยาวถึงเข่าตัวเดียว เสียงโวยวายของเขาก็ดังขึ้นกว่าเดิม “ละ...แล้วเจ้าทำอะไรกับข้า เสื้อผ้าของข้าไปไหนหมด ลืมไปแล้วหรือไง ไอ้เฒ่าลามก!”

   ลูซิสรอจนขุนพลเทพอันดับหน้าแหกปากโวยวายจนเสร็จค่อยลุกขึ้นมาเผชิญหน้าด้วยสีหน้าละเหี่ยหน่อย ๆ ชี้นิ้วไปยังโต๊ะกลมใกล้ ๆ ที่เต็มไปด้วยขวดเหล้านานาชนิด ซึ่งพวกเขาขนมาดื่มด้วยกันในเย็นวานนี้

   “ดูท่าจะเมาจนลืมสินะ เจ้าซดเหล้าเอา ๆ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ข้าได้เหล้าใหม่มากี่ขวด เจ้าก็กวาดเรียบยกแผง สุดท้ายก็เมาปริ้นจนกลับตำหนักไม่ไหว ข้าก็เลยอุ้มมานอนที่เตียง แต่ระหว่างทางเจ้ากลับสำรอกของเก่าออกมาเปื้อนเสื้อผ้ากันทั้งคู่ ข้าก็เลยต้องถอดชุดเจ้าออกแล้วพอมานอนทั้ง ๆ แบบนี้แหละ” 

   คำอธิบายของลูซิสค่อย ๆ ดังความทรงจำที่ขาดหายไปของเซย์เรียโน่กลับมาอีกครั้ง เมื่อจำได้ทุกอย่าง เด็กหนุ่มก็ตบหน้าผากด้วยความไม่อยากเชื่อตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าอยู่กับผู้ชายคนนี้มีแต่อันตรายแท้ ๆ แต่ดันเผลอดื่มจนเมาปริบให้มันมาดูแลเสียได้ ต้องเป็นเพราะเหล้ามังกรแดงขวดแรกที่ดื่มเข้าไปแน่ ๆ ดื่มเข้าไปแค่จอกเดียวก็ตัวร้อนผ่าว ทว่ารสชาติอร่อยของมันทำให้เขาลืมตัวดื่มไม่มีหยุดจนหมดสภาพ

   ฝ่ายลูซิสเห็นเซย์เรียโน่ได้สติสตังแล้วก็เลื้อยมากอดด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความเอ็นดูยิ่ง และเปล่งเสียงหัวเราะออกมาในตอนที่เด็กหนุ่มเริ่มดิ้นขืน

   “หึ ๆ ได้ยินแบบนี้แล้วจะไม่พูดอะไรสักคำเลยหรือ หือ?” มหาเทพแสงสว่างเอานิ้วจิ้มแก้มนิ่มของเซย์เรียโน่เบา ๆ “ข้าอุตส่าห์ดูแลเจ้าตลอดทั้งคืนเชียวนะ คอยป้องกันไม่ให้ท่านพี่มาลักหลับด้วยน้า จะไม่ขอบคุณหน่อยเหรอ~”

   “หนวกหูน่า! ข้าไม่พูดเด็ดขาด ไม่ได้ขอให้มาดูแลสักหน่อย ปล่อยเซ่!” ขุนพลเทพอันดับหน้าพยายามดึงตัวเองออกมาจากพันธนาการกล้ามเนื้อนั้นเต็มที่ ทว่าอีกฝ่ายก็เกาะตัวเขาแน่นอย่างกับตุ๊กแก “ให้ตายสิ มือเจ้าจะเหนี่ยวไปไหนเนี่ย ข้าไม่ใช่ตุ๊กตาให้เจ้ามากอดเล่นนะเฟ้ย!”

   “แหม พูดจาโหดร้ายจริง ๆ ในเมื่อขอบคุณกันไม่ได้ก็ขอกอดแบบนี้เป็นรางวัลหน่อยน่า” ลูซิสคลอเคลียเซย์เรียโน่เหมือนเจ้านายขี้เห่อคลอเคลียแมวเหมียวขี้โมโห ซึ่งไม่สามารถกางเล็บและฝากรอยแผลไว้บนใบหน้าอีกฝ่ายได้

   “เรื่องสิฟะ! ข้าต้องกลับตำหนักแล้ว!”

   “ไม่เห็นต้องรีบร้อน ยังไงเราก็นอนด้วยกันมาเกือบทั้งคืนแล้ว วันนี้เจ้าก็ว่างไม่ใช่เหรอ” ลูซิสพูดอย่างอารมณ์ดีขณะซุกไซ้จมูกกับซอกคอขาวเนียนตรงหน้า

   “ไม่ว่างเฟ้ย ข้ายังต้อง...!” เด็กหนุ่มขนลุกเกลียวไปทั่วทั้งตัว เมื่อลูซิสล้วงมือเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้หน้าท้องแบนราบเบา ๆ ก่อนความโมโหจะพลุ่งพล่านขึ้นมา ขุนพลเทพอันดับห้าเตรียมจะศอกกลับแต่ถูกรวบแขนเอาไว้ข้างตัว “โธ่ว้อย! เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่จะทำยังไงก็ได้หรือไงฟะ!”

   “ข้ากำลังสั่งสอนเจ้าอยู่ต่างหาก” มหาเทพแสงพูดพลางหอมแก้มเด็กหนุ่มอีกหน

   “แบบนี้มันสอนตรงไหนฟะ ลวนลามกันมากกว่า ตาเฒ่าลามกปล่อย!”

   เซย์เรียโน่ดิ้นสุดแรงเกิดอีกครั้ง แต่กำลังของเทพเด็กน้อยหรือจะสู้เทพบรรพกาลที่มีอายุยืนยาวกว่าและมีพลังมากกว่าตัวเองได้ แค่อีกฝ่ายใช้อำนาจนิดหน่อยก็ยึดตัวขุนพลเทพอันดับห้าเอาไว้ได้แล้ว

   ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างเร่งร้อน ทำให้เทพทั้งสองต้องหยุดต่อสู้กันและมองไปยังประตูซึ่งเทพรับใช้ตนหนึ่งเดินก้มหน้าเข้ามาทำความเคารพด้วยท่าทางกลัว ๆ กล้า ๆ

   “ขอประทานอภัยที่ขัดจังหวะขอรับ มีเทพรับใช้จากตำหนักซิมโฟเนียอาเรียมาตามหาขุนพลเทพอันดับห้าขอรับ”

   “หา? ตามหาข้าเนี่ยนะ” เซย์เรียโน่ชี้หน้าตัวเองแล้วนึกสังหรณ์ร้ายขึ้นมาโดยพลัน ร่างเล็กกระโจนลงจากเตียงทั้ง ๆ ที่เสื้อผ้ายังหลุดลุ่ย ลูซิสก็ลุกขึ้นมานั่งตั้งใจฟังเช่นกัน “เขาบอกไหมว่าเป็นเรื่องอะไร”

   “เขาไม่ได้แจ้งรายละเอียดขอรับ บอกแค่ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ท่านขอไว้และให้รีบไปที่ตำหนักพาเทร่าโดยด่วนที่สุดด้วย ตอนนี้เขารออยู่ข้างนอกขอรับ”

   เด็กหนุ่มเบิ่งตากว้างด้วยความตกตะลึง ล่วงรู้ทันทีว่าปัญหานั้นคืออะไร แต่ก่อนเด็กหนุ่มจะทันขยับไปไหนก็มีชายสวมหน้ากากกับชุดขาวตามเข้ามาสมทบ ขุนพลเทพอันดับห้าหรี่ตาอย่างไม่ชอบใจทันที

   “เจ้ามาที่นี่ทำไม ไอ้เวรนั่นต้องการอะไรอีก!” เซย์เรียโน่กระชากเสียงพร้อมถอดเสื้อออกโดยไม่สนใจสายตาคนอื่นเลย ไม่สนแม้แต่เสียงผิวปากกระเซ้าของลูซิส เขาโบกมือครั้งเดียวชุดจีนผสมยุโรปสีขาวก็ปรากฏห่อหุ้มตัวของเขาอย่างมิดชิด

   “ท่านผู้นั้นทราบเรื่องแล้วและสั่งให้ข้ามาแจ้งว่า ‘จงทำทุกอย่างให้ถูกต้อง’ ขอรับ” ชายชุดขาวแจ้งด้วยน้ำเสียงสุภาพที่เห็นว่าไม่น่าจะสะกิดต่อมโมโหของเซย์เรียโน่ได้ กระนั้นขุนพลเทพอันดับห้าก็ยังแทบระเบิดอยู่ดี

   “รู้แล้ว ข้ากำลังจะไปอยู่นี่ไง!” เขาแผดเสียงอย่างโมโหพร้อมก้าวขาออกไป

   ทว่ามือข้างหนึ่งกลับคว้าแขนเขาจากข้างหลัง จากนั้นก็ดึงกลับไปหาลูซิสอีกรอบ เด็กหนุ่มสะดุ้งหน่อย ๆ เพราะใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่ใกล้จนน่ากลัว ดวงตาสีรุ้งยังคงดูทะเล้นและไร้แก่นสารเหมือนที่เคยเห็นประจำ กระนั้นเซย์เรียโน่ก็ยังสังเกตเห็นแววจริงจังที่แฝงเร้นอยู่ได้

   “ระวังตัวด้วยนะ เซย์เรียโน่ มหาเทพสงครามอาจจะเป็นมังกรลูกผสม แต่...เวลามังกรโกรธก็ยังน่ากลัวอยู่ดี”

   เซย์เรียโน่ฟังแล้วก็แยกริมฝีปากอวดเขี้ยวขาว “ถึงเจ้าไม่พูด ข้าก็รู้อยู่แล้วล่ะน่า ไปล่ะนะ”

   หนุ่มน้อยบอกลาอย่างจองหองตามแบบฉบับของตัวเองแล้วก็วิ่งออกไปพร้อมกับชายชุดขาว 


ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากอ่านคู่เซเรียโน่อ่ะ น่ารักดี > <

ออฟไลน์ Umiko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
ในที่สุดก็ตามอ่านจนจบ

เรื่องสนุกมากๆค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งติด สนุกมากๆเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

Makoto-sang

  • บุคคลทั่วไป
   คุยกันก่อน...

   สวัสดีปีใหม่ครับ นักอ่านทุกท่าน

   ตอนแรกคิดว่าในช่วงปีใหม่จะเขียนนิยายมาลงสักตอน แต่หลังจากติดปัญหานั่นนี่อยู่สักพักก็ต้องตัดใจและหันมาหาเรื่องสั้นแทนครับ เพราะเดิมทีตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องราวของเซย์เรียโน่อยู่แล้ว คิดอยู่นานสองนานก็นึกออกว่ามีคนอยากเห็นเซย์เรียโน่โดนตื๊บก็เลยลองเขียนออกมาดู แม้ว่าจะไม่ใช่การตื๊บแบบเต็ม ๆ เท้า แต่ทุกคนก็จะได้เห็นเจ้าเด็กน่าหมั่นไส้ตนนี้โดนเล่นงานจริง ๆ โดยคนที่เจ้าตัวยังเล่นงานคืนไม่ได้ด้วย >/////<

   สำหรับช่วงที่หยิบมานี้เป็นช่วงก่อนเกิดสงครามเทพ-ปีศาจที่ทำให้อดีตมหาเทพสงครามจะถูกสังหาร หรือก็คือเป็นช่วงเวลาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ในต้นฉบับนั่นเอง อัลเลนมีศักดิ์เป็นพ่อของเซย์เรียน/เซย์เรียโน่และจ้าวมังกรวารี มังกรวายุ และมังกรปฐพีของมิติดราโกเนียด้วย เพราะเขาเป็นคนสร้างจ้าวมังกรทั้งหมดนี้ขึ้นมาจากชิ้นส่วนร่างกายของตัวเองนั่นเองครับ

   แม้ว่าเซย์เรียน/เซย์เรียโน่จะเกือบเป็นผลงานที่ผิดพลาด เนื่องจากเกิดมามีดวงจิตสองดวงในร่างเดียวกัน แต่เขาและเธอก็เป็นลูกสาว/ลูกชายที่อัลเลนรักมากที่สุด (จนเคยก่อปัญหาที่เป็นเหตุให้ต้องเกรงใจลูกสาวไปชั่วชีวิตนับจากนั้นเลยทีเดียว) ผมหวังว่าทุกท่านจะสนุกกับการได้เห็นเซย์เรียโน่โดนเล่นงานรับปีใหม่กันนะครับ ^ ^


   Makoto-sang

   ----------------------------

   ดินแดนแห่งเทือกเขาอันสลับซับซ้อนและห่อหุ้มด้วยก้อนเมฆสีทองอย่างงดงาม สายลมอ่อนพัดพายไปทั่วขุนเขา สายน้ำไหลรินเกิดเสียงกังวานจากทุกหนแห่ง คลอเคล้าด้วยเสียงวิหคนานาชนิดที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้า ป่าไม้เขียวชอุ่มส่องประกายราวกับอัญมณีเลอค่า สรรพชีวิตแห่งสวรรค์ที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ต่างใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุขภายใต้การดูแลของ ‘อัลเลน’ เทพมังกรทองแห่งสวรรค์

   กาลเวลาของที่นี่ไหลผ่านไปอย่างสงบสุขมายาวนานหลายพันปีจวบจนกระทั่งวันที่สมาชิกใหม่ได้ขึ้นมาพำนักในตำหนักออเรเลียสที่เนรมิตตามแบบพระราชวังจีนโบราณที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงสุดของเขตนี้

   “เซย์เรียโน่!”

   เสียงทุ้มหวานแผดสนั่นจนตำหนักทั้งหลังแทบสั่นสะเทือน ข้ารับใช้ทุกตนในตำหนักรีบหมอบตัวคู้ด้วยความตกใจและหวาดกลัวอย่างยิ่ง ขณะประตูห้องอันเป็นที่มาของเสียงถูกผลักเปิดออกอย่างแรง ชายหนุ่มผมหยักศกสีทองแต่งชุดนอนสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อคลุมนอนตัวยาวสีทอง เขายืนนิ่งจับพลังเจ้าของชื่อที่พูดออกไปนิดหน่อยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของเด็กคนนั้นโดยพลัน

   “เซย์เรียโน่!”

   ชายหนุ่มตวาดอีกครั้งพร้อมผลักประตูไม้แกะสลักเข้าไปในห้อง ซึ่งเขาต้องตกใจเมื่อเห็นบรรดานางกำนัลหน้าตาสะสวยหมอบกราบอยู่ในห้องนั้นนับสิบคน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เด็กหนุ่มผมสั้นประบ่าแต่งชุดลำลองแบบจีนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยา เขาปรือตาสีแดงขึ้นมองคนที่เพิ่งเข้ามาด้วยสายตาเซื่องซึม ประหนึ่งเพิ่งรู้ตัวว่าพ่อมาถึงทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งตะโกนด้วยความโมโหไปเมื่อครู่ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะครั้งใหญ่หลังเห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม

   “ฮ่า ๆ นั่นท่านไปทำอะไรมาน่ะ” เขาถามพลางชี้ใบหน้าคมหวานที่มีรอยหมึกสีดำเขียนรูปวงกลมบ้าง กากบาทบ้าง เส้นตรงไม่ก็ยึกยือบ้าง แต่นั่นยังไม่ร้ายกาจเท่ากับตรงกลางหน้าผากมีอักษรจีนอ่านว่า ‘ทอง’ เขียนอยู่ด้วย

   “พวกเจ้าออกไปให้หมด” ชายหนุ่มผมทองอดทนข่มหลั้นอารมณ์และไล่นางกำนัลออกไปก่อน เขาเข่นเขี้ยวเล็กน้อยตอนได้ยินเสียงพวกนางกำนัลหัวเราะคิกคัก เมื่อทุกคนออกไปแล้ว เขาก็ตรงเข้าไปดึงใบหูเจ้าเด็กตัวแสบขึ้นมา

   “โอ๊ย ๆ อย่าทำข้า ๆ ท่านพ่อ!” เด็กหนุ่มอุทธรณ์ด้วยความเจ็บ แต่มือใหญ่ที่บิดหูนั่นก็ยังไม่ยอมปล่อย

   “ถ้ายังเห็นว่าข้าเป็นพ่อก็หัดเคารพกันบ้างสิ! มีอย่างเรอะแอบเข้ามาเขียนหน้าคนอื่นตอนกำลังหลับน่ะ”

   “คนที่หลับสนิทไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั่นแหละผิด ข้าไม่ได้เข้าห้องไปเงียบ ๆ สักหน่อย” เซย์เรียโน่เถียงคำไม่ตกฟากจึงถูกบิดาบิดหูเต็มแรงจนร้องจ๊าก

   “มาทำเรื่องไม่ดีกับคนอื่นแล้วยังเถียงอีกหรือ ข้าบิดหูนี่ออกไปเลยดีไหม? ข้าจำไม่ได้เลยว่าเคยสอนให้เจ้าแกล้งคนอื่นแบบนี้ด้วย” ผู้เป็นพ่อตำหนิอย่างฉุนเฉียว โกรธเจ้าลูกชายจอมก่อเรื่องมากจริง ๆ

   “ขอโทษ ข้าขอโทษ ข้าแค่อยากเห็นท่านทำหน้าแบบอื่นบ้างก็เท่านั้น” เซย์เรียโน่เจ็บจนตาสว่าง ยืดตัวตามมือพ่อไปหวังจะลดความเจ็บสักนิด

   “หน้าแบบอื่นเนี่ยนะ” อัลเลนเค้นเสียงและใส่แรงที่มือมากขึ้น ใบหูของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

   “ชะ...ใช่...ก็ท่านชอบทำหน้ายิ้มละไม แต่ไม่รู้คิดอะไรอยู่ในใจตลอด ข้าก็เลย...โอ๊ย!”

   สิ่งที่เซย์เรียโน่พูดมาไม่รู้จะเรียกว่าคำอธิบาย...หรือคำสารภาพบาปกันแน่ ทว่ามันน่าหงุดหงิดเสียจนคนเป็นพ่อหมดความอดทนและหยิกหมับเข้าที่หูอีกข้าง ทำให้เด็กหนุ่มร้องลั่นด้วยความเจ็บ ซึ่งภายในเสียงมนุษย์นั้นมีเสียงมังกรแซมแทรกมาด้วย ดูท่าคราวนี้จะเจ็บมากจริง ๆ

   “พอแล้ว ๆ อย่าหยิกหูข้า ข้าเจ็บแล้ว หยิกข้าก็เท่ากับหยิกเซย์เรียนด้วยนะ!” เพราะทนเจ็บไม่ไหวหรือไรไม่ทราบ เซย์เรียโน่ถึงยกชื่อของคนที่ทำให้พ่อชะงักได้ออกมา แต่อัลเลนก็รู้ทันจึงบิดแรง ๆ อีกทีก่อนจะปล่อย “โอย...เจ็บจัง”

   “สมควรโดนแล้ว ถ้าข้าไม่สั่งสอนซะบ้าง คนเขาจะว่าข้าเลี้ยงลูกไม่เป็น!” อัลเลนบ่นพลางเดินไปยังห้องอาบน้ำของห้องนี้เพื่อจะล้างหน้า ผู้เป็นลูกกุมหูรุดไปหยิบผ้าสะอาดและวิ่งตามเขาไปด้วย

   “ท่านก็เกือบ ๆ จะเลี้ยงลูกไม่เป็นอยู่แล้วล่ะ เล่นปล่อยให้เติบโตตามชะตากรรมของตัวเองเลยนี่นา” ทั้งที่ถูกดุไปขนาดนั้น แต่เทพมังกรไฟแห่งสวรรค์ยังไม่วายยอกย้อน ผู้เป็นพ่อถอนใจอย่างเอือมระอาเป็นที่สุด 

   “ข้าเคยพยายามฝืนเลี้ยงแบบพ่อคนอื่น ๆ แล้วนะ แต่มันไม่สำเร็จ ตัวเจ้ากับพี่สาวเองก็ไม่ได้มีชะตากรรมขึ้นอยู่กับใคร ข้าไม่อาจเอาวิถีของข้าไปยัดเหยียดให้เจ้าได้หรอก”

   อัลเลนพูดพลางก้มลงและกวักน้ำลูบหน้า เซย์เรียโน่ขยับมาใกล้คอยช่วยหยิบนั่นส่งนี้ให้ตามคำสั่ง อย่างไรเสียหน้าที่ปรนนิบัติผู้ให้กำเนิดก็เป็นงานของลูกอยู่แล้วและเขาเองก็เต็มใจทำเสียด้วย จะบอกว่าเป็นความดีความชอบเล็กน้อยที่เขามีก็ได้

   “ไม่อยากยัดเหยียด แต่กลับยอมให้ราชาเทพนิสัยเสียนั่นเรียกมาอยู่บนสวรรค์เนี่ยนะ” เด็กหนุ่มทำหน้าบูดบึ้งซึ่งหากมองด้วยสายตาคนนอกก็ดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่สายตาของอัลเลนภายใต้ใบหน้านั้นคืออารมณ์อันร้อนแรงที่หากไม่มีใครคอยฉุดรั้ง เซย์เรียโน่ก็อาจระเบิดมันออกมาอย่างง่ายดาย

   “ถ้าข้าคัดค้านแล้วปล่อยให้พวกเจ้าสองคนอยู่กันเองและก่อเรื่องไปเรื่อย ๆ ฟาเบียนก็อาจจะส่งกองทัพเทพไปจัดการก็ได้ ถึงตอนนั้นคนที่จะเดือดร้อนที่สุดก็คือประชาชน เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ‘เซย์เรียน’ เจ้าไม่อยากให้นางต้องลำบากใจใช่ไหม” ผู้เป็นพ่อเงยขึ้นมาถาม ตอนนี้ใบหน้าของเขากลับมาสะอาดจนเห็นถึงความงามอย่างชาวเทพเหมือนเดิมแล้ว

   เซย์เรียโน่ได้ยินชื่อของพี่สาวก็ทำหน้างอกว่าเก่า มือส่งผ้าเช็ดหน้าให้บิดาไปซับน้ำ “ถึงอย่างนั้นก็ไม่ชอบอยู่ดี เจ้านั่นดูถูกพวกข้า...”

   ความเงียบปรากฏอยู่ชั่วระยะที่อัลเลนทอดสายตามองบุตรชายที่สร้างมากับมือด้วยสายตาครุ่นคิด เขารู้อยู่แล้วว่าเซย์เรียโน่เป็นคนอย่างไร รู้ดีด้วยว่าเกลียดราชาเทพขนาดไหน แต่เพื่อความปลอดภัยเขาจำเป็นต้องให้เด็กหนุ่มมาอยู่ภายใต้อำนาจของฟาเบียนไปก่อนจนกว่าจะถึงเวลาเหมาะสม เจ้าตัวเองก็ดูจะเข้าใจสถานการณ์ดี ถึงจะบ่นกระปอดกระแปดอย่างไรก็ยังพยายามอดทนจนถึงที่สุด

   “เซย์เรียนเป็นอย่างไรบ้าง”

   ครั้นอัลเลนถามถึงเรื่องนี้ เซย์เรียโน่ก็เปลี่ยนสีหน้าจากงอง้ำอย่างหงุดหงิดเป็นสีหน้าไม่สบายใจ เขายกมือขึ้นวางตรงกลางอกราวกับกำลังสัมผัสใครบางคนที่อยู่ตรงนั้น

   “รอบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากจะไปมาค้างกับท่านหลายคืนหน่อย” 

   เนื่องจากเซย์เรียโน่กับพี่สาวเกิดจากพลังกับชิ้นส่วนร่างกายของอัลเลนเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ของมิติดราโกเนียโดยหลอมรวมเข้ากับพลังของธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นเทพมังกรเพียงตนเดียวที่เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณสองดวง ร่างกายที่มีเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขาจึงต้องดูดซับพลังของบิดาเป็นระยะ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและรักษาสมดุลของวิญญาณกับกายเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าของร่างตัวจริงล้มป่วย ถึงแม้พลังในส่วนของเซย์เรียโน่จะช่วยค้ำจุนร่างกายนี้ไว้ได้ ทว่าก็ยังไม่เพียงพอทำให้จิตวิญญาณของเซย์เรียนกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม ทั้งนี้ก็เพราะจิตของเธอถูกอำนาจจิตของเซย์เรียโน่กดข่มนั่นเอง

   “ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มต้นตั้งแต่คืนนี้เลย แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก” อัลเลนยื่นคำขาด

   “ขอร้าบบบ ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว อย่างน้อยก็ตอนที่ท่านหลับน่ะนะ”

   เซย์เรียโน่แยกเขี้ยวตอบด้วยรอยยิ้มทะเล้นจึงโดนมะเหงกเบา ๆ เข้าให้ เด็กหนุ่มหัวเราะชอบใจที่แหย่บิดาของตนได้ สีหน้าร่าเริงสดใสเหมือนกับเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง คงจะมีแต่ช่วงที่อยู่ต่อหน้าผู้สร้างตัวเองขึ้นมากเท่านั้นกระมังที่เขาจะแสดงท่าทางตามช่วงวัยนี้ออกมา

   ทว่าไม่กี่นาทีต่อมาสีหน้านั้นก็จางหายไปพร้อมกับใบหน้าของเด็กหนุ่มที่เบือนไปยังประตูที่เปิดค้างไว้ อัลเลนจับความผิดปกติได้จึงเดินนำลูกชายออกมายังระเบียงหน้าห้อง ซึ่งสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของสองพ่อลูกก็คือท้องฟ้าที่เคยสดใสก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นสีหม่นหมองของความโชคร้าย บรรยากาศหม่นหมองจนเทพทุกตนยังสัมผัสได้ ภาพที่เห็นนี้ทำให้อัลเลนไม่สบายใจเอาเสียเลย

   “เซย์เรียโน่กลับลาไซสิโอน่าเดี๋ยวนี้ หากคืนนี้ไม่มีคำสั่งเรียกตัวข้าจะไปหาเจ้าที่นั่นเอง”

   “ท่านพ่อสัมผัสอะไรได้อย่างนั้นหรือ” เซย์เรียโน่ถามพลางดีดนิ้วครั้งหนึ่ง ชุดลำลองที่สวมอยู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นชุดจีนประยุกต์ตัวเก่งที่ชอบใส่ออกข้างนอกเสมอในทันที

   “หายนะครั้งใหม่มาเยือนสวรรค์แล้ว” เทพมังกรทองแห่งสวรรค์เบือนหน้ามาหาลูกชายอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีอร่ามจริงจังไร้แววล้อเล่น “สงครามเทพ-ปีศาจกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งและเจ้าจะเป็นหนึ่งในคนที่ต้องเข้าร่วมครั้งนี้ด้วย”

   เด็กหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีแดงเลือดสดับเช่นนั้นก็ยืนนิ่ง ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่เชื่อในสิ่งที่บิดาพูดมา อัลเลนเป็นเทพมังกรทองที่มีญาณวิเศษแข็งแกร่งไม่แพ้มหาเทพีแห่งโชคชะตา ทว่าแทนที่เซย์เรียโน่จะอกสั่นขวัญแขวนกับอันตรายครั้งใหญ่ที่มาเยี่ยมเยือนสวรรค์ถึงที่ เทพมังกรไฟกลับเหยียดยิ้มอย่างสนุกสนานด้วยแววตาท้าทาย เมื่อได้รู้ว่าตนจะเป็นหนึ่งในวังวนแห่งความวุ่นวายนั้น

   “ดีสิ ข้านั่ง ๆ นอน ๆ ทั้งวันจนเบื่อจะแย่อยู่แล้ว คราวนี้ข้าจะสนุกให้เต็มที่เลย”

   เซย์เรียโน่ประกาศด้วยความมุ่งมั่นแล้วก็อันตรธานหายไป โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าชะตากรรมแท้จริงของตนจะเป็นอย่างไร

   อัลเลนได้แต่ส่ายศีรษะด้วยความเอือมระอากับลูกชายที่ไม่มีความกลัวคนนี้ ในฐานะของคนเป็นพ่อย่อมอดเป็นห่วงเซย์เรียโน่มิได้ เพราะเส้นทางที่อีกฝ่ายจะเลือกเดินเต็มไปด้วยอันตรายและดำมืดเกินกว่าที่เทพตนไหนจะกล้าเผชิญ แต่ถึงอย่างนั้นท่านเทพมังกรทองก็ยังเชื่อ...

   ...เชื่อว่าลูกชายกับลูกสาวของเขาทั้งสองตนต้องไม่เป็นไรอย่างแน่นอน...


ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
สนุกมากครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
สนุกมากๆเบยยยยยยย :heaven :heaven :heaven :katai3: :katai3: :katai3: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Cressent

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากๆเลยค่ะ เขียนได้ดีมาก ลื่นไกลน่าติดตาม

ป.ล. มีคำแปลกที่ไม่เคยเห็นหลายคำจนเราต้องแอบไปเปิดพจนานุกรมดูด้วยอ่ะ 55

ออฟไลน์ SWIM

  • ความทรงจำสีเทา
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบเรื่องนี้มากเลย เขียนได้ดีสุดๆ อ่านเพลินดี ขอบคุณนะจ้า

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
สนุกมากค่ะ จะมีภาค2รึเปล่าอ่ะ
ชอบคู่ฟาเบียนกับลูซิสมากๆๆๆๆ
ถึงแม้ว่าฟาเบียนจะร้ายแต่ก็ร้ายแบบไร้เดียงสามาก
คู่นี้มาแบบตอนเสริมแต่น่าติดตามมาก
จะรออ่านตอนพิเศษกับภาค2นะคะ

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังสนุกเหมือนเดิมเลย
ไม่มีตอนพิเศษอีกแล้วใช่ไหมอ่ะ
เสียดายๆ แต่จบแค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด