[fic Singular] ใจฉันอยู่ที่นาย my Bodyguard || เปิดจอง [12/12/56]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [fic Singular] ใจฉันอยู่ที่นาย my Bodyguard || เปิดจอง [12/12/56]  (อ่าน 54276 ครั้ง)

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
กรี๊ดดดดดดด มันค้างงงงง ไม่ดราม่าแล้วได้มั๊ยอ่า น้ำตาจะท่วม  :hao5:

Eucalyp

  • บุคคลทั่วไป
28

((แถลงข่าว))


            "เราคบกันอยู่ครับ"

            เสียงที่ดังมาจากด้านหลังห้องทำให้ทุกสายตาหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน รวมทั้งผมด้วย ในเมื่อเสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...เขา

            เสียงนี้ที่แสนคิดถึง

            เสียงนี้ที่เฝ้าฝันถึงมาตลอด

            เสียงนี้ที่อยากได้ยินแทบตายแต่ก็จำใจต้องห่าง

            ใบหน้าที่แสนคุ้นเคยแหวกบรรดาช่างภาพเข้ามา ก่อนจะเดินมาทางนี้ ตามด้วยพี่โอ๊ตที่ตามหลังมาติดๆ ใบหน้าหวานซูบซีดกว่าที่เคย ดวงตากลมที่เคยฉายแววสดใสก็เต็มไปด้วยความกังวล ไม่มีแววร่าเริงอยู่เลย ได้พักผ่อนบ้างหรือเปล่านะ คิดมากใช่มั้ย ร้องไห้เพราะฉันใช่มั้ย นาย...สบายดีหรือเปล่าซิน

            ผมค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆเมื่อซินมาหยุดลงตรงหน้าผมพอดี เสียงฮือฮาดังไปทั่วห้องเมื่ออยู่ๆซินก็ปรากฎตัว ทางบรรดาผู้ใหญ่เองก็ลุกขึ้นยืนอย่างตกใจเช่นกัน

            แต่เมื่อกี้เขาว่าไงนะ ใคร...คบใคร

            “คุณซินคะคุณซิน!! จริงหรือเปล่าคะที่ว่าคุณทั้งสองคนคบกัน!!” เสียงดังอื้ออึงขึ้นมาทันทีเมื่อทุกคนลุกฮือขึ้นมา ช่างภาพก็กรูกันเข้ามาเพื่อจะถ่ายรูป บรรยากาศโกลาหลวุ่นวายไปหมด แต่ผมไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นเลยนอกจากซินที่กำลังยืนมองหน้าผมอยู่ตรงนี้ เขาเองก็ไม่ได้สนใจจะหันไปมองนักข่าวคนไหนเลยเช่นกัน

            สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และไม่เข้าใจ ปากบางเผยอปากขึ้นนิดๆเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็หยุดไปซะเฉยๆ เม้มปากเข้าหากันก่อนที่ซินจะหันหน้าหนีผมไปทางอื่น ผมเองก็มีอะไรหลายๆอย่างอยากจะบอกเขา

            แต่เดี๋ยว... ซินมาที่นี่ทำไม

            แล้วเมื่อกี้ได้ยินแว่วๆว่าอะไรนะ เราคบกัน ใครคบใครครับ บอกตรงๆตอนนี้สมองไอ้นัทงอกสุดๆ คิดอะไรไม่ทันแล้วจริงๆ

            “ทุกคนอยู่ในความสงบก่อนนะครับ! เรากลับเข้าสู่งานแถลงข่าวกันต่อนะ พี่น้องนักข่าวกลับเข้าที่นั่งตัวเองก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีการตอบคำถามเกิดขึ้นเด็ดขาด” คุณโอ๊ตตะโกนขึ้นเสียงดัง ทำให้เสียงอื้ออึงโดยรอบซาลงไปบ้าง หลายคนกลับไปนั่งที่ของตัวเอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่กำลังอ้อยอิ่งยืนถ่ายรูปกันอยู่

            “นี่มันเรื่องอะไรกันซิน” ทางผู้ใหญ่ของบริษัทเดินเข้ามาถามซินทันที น้ำเสียงบ่งบอกชัดว่าสถานการณ์ตรึงเครียดถึงขีดสุดแล้ว

            “เรื่องนี้ขอซินจัดการเองนะครับ ไม่ว่ามันจะมีผลออกมายังไง ขอให้ซินเป็นคนตัดสินใจเอง ถ้าทุกอย่างมันจะจบซินก็จะยอมรับ แต่ซินมั่นใจว่าทุกๆคนและทุกๆฝ่ายมีเหตุผลมากพอ”

            “อะไรนะ แต่เรื่องนี้มัน”

            “ถ้าอนาคตซินจะดับเพราะซินมีคนรักก็ให้มันรู้ไป”

            ถึงกับพูดไม่ออกกันไปเลยทีเดียว ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งผม.... ผมยืนนิ่ง มองซินก้าวขึ้นมาบนเวที นั่งลงบนเก้าอี้ที่ทางทีมงานจัดมาให้อีกตัว นี่มันอะไรกันครับ ซินกำลังจะทำอะไร

            แต่... ทุกคนลืมใครไปคนหนึ่งหรือเปล่า คนที่ตอนนี้ใบ้กินไปแล้วเรียบร้อย ยืนตัวสั่นนิ่งเงียบอยู่ข้างๆผมนี่เอง ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ กำลังกลั้นใจไม่ให้ตัวเองกรี๊ดออกมาอยู่ ดูจากท่าทางสติใกล้แตกเต็มทีแล้วครับ เดาได้จากตาที่จ้องซินอยู่กำลังจะถลนออกมาแล้ว แต่เจ้าตัวเขาก็นั่งไขว่ห้างหน้านิ่งไม่ได้สนใจ ผมเองจึงจำต้องนั่งลงตามเดิม

            “เอาล่ะครับ คราวนี้เชิญถามคำถามต่อได้เลย” ตอนนี้คุณโอ๊ตกลายเป็นคนควบคุมงานแทนทีมงานคนเก่าแล้ว

            “จริงหรือเปล่าคะที่ว่าคุณซินกับคุณนัทคบกันอยู่”

            “จริงครับ/ไม่จริงค่ะ!!” เสียงเนิบช้าเป็นของซิน กับเสียงที่แทบจะกรีดร้องอยู่แล้วเป็นของโอลีฟ เล่นเอานักข่าวมึนตึ้บเมื่อทั้งสองคนตอบไม่เหมือนกัน หลายคนเริ่มมองหน้ากันเอง ส่วนผมเหรอ....

            มองซินจนตาจะถลนออกมาอีกคนแล้วครับ เมื่อกี้ซินบอกว่าผมกับเขาคบกันเหรอ ซินบอกทุกคนว่าผมกับเขาคบกัน!! นั่นนักข่าวนะ ไหนจะกล้องพวกนั้นอีก เก็บภาพกันอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำเลยนะ จะมาบอกทีหลังว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดไม่ได้แล้วนะ! ทำไมซินบอกแบบนั้น

            “สรุปยังไงกันแน่คะ เรื่องนี้มันยังไงกันแน่ สรุปว่าคุณนัทกำลังคบกับใครอยู่คะ”

            ทุกสายตาหันมามองทางผมทันที กรรมมาลงที่กูแล้วครับ... แล้วผมควรจะตอบว่ายังไงล่ะ สรุปว่าสคริปที่จำมาทั้งหมดนั่นโยนทิ้งไปเลยใช่มั้ย ผมหันมองคนข้างตัว ฝั่งซินนะครับไม่ใช่ฝั่งโอลีฟ แต่เขาไม่ได้มองผม กำลังทอดสายตาออกไปทางนักข่าว แต่ผมรู้ว่าเขาเองก็รอฟังคำตอบของผมอยู่เหมือนกัน

            “ผมกับซิน.....”

            “เราคบกันอยู่ครับ” ไม่ต้องรอให้ผมพูดจบ คู่กรณีของผมเขาก็ต่อให้ เรียกเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง กล้องนี่กดกันรัวเลยครับ

            “ทำไมพี่ซินพูดแบบนั้นล่ะคะ โอลีฟต่างหากที่เป็นแฟนพี่นัท” เอาแล้ว นางร้ายเริ่มออกโรงอีกแล้ว คราวนี้มาพร้อมน้ำตาคลอหน่วย ไปเรียกมาตอนไหนวะน่ะ! เมื่อกี้ยังสติหลุดอยู่เลย

            แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มเลวร้ายแล้วครับเมื่อคนสองคนพูดไม่เหมือนกัน ไอ้ผมที่เป็นคนกลางก็ได้แต่นิ่งเงียบ แล้วนี่ผมควรจะตอบว่ายังไงดีวะครับ ห่วงซินก็ห่วง แต่เขามาตอบแบบนี้ แล้วผมควรจะทำยังไงดี...

            “ยังไงกันแน่คะเนี่ย พวกพี่งงไปหมดแล้ว สรุปว่าใครคบใครกันแน่คะ”

            “ซินกับนัทเรารู้จักกันมานานมากแล้วครับ ก่อนที่ซินจะเข้าวงการซะอีก ตอนนั้นเราทำเพลงด้วยกัน ตั้งใจว่าจะออกอัลบั้มด้วยกัน แต่นัทเขาต้องกลับไปดูแลกิจการที่บ้านต่อ เรื่องนั้นก็เลยต้องล้มเลิกไป เราก็ห่างๆกันมาช่วงนึง จนตอนนี้ที่นัทมาเป็นบอดี้การ์ดของผม เราก็เลยเริ่มคุยๆกันใหม่อีกครั้งครับ”

            “สรุปแล้วนัทคบกับซินใช่มั้ยคะ แล้วอย่างนี้ทั้งสองคนก็เป็นคู่เกย์กันอย่างที่มีข่าวจิ้นกันจริงๆใช่มั้ย”

            “เราก็ไม่อยากให้ทุกคนใช้คำจำกัดความไหนเรียกเราทั้งสองคนหรอกนะครับ เอาเป็นว่าเราสองคนรักครับ”

            “ไม่จริง! นายจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้นะ นายน่ะ แย่งเขาไปจากฉัน!” สติหลุดไปแล้วเรียบร้อยครับโอลีฟ

            “เอ่อ....” นักข่าวที่ถือไมค์ถามอยู่ถึงกับพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว

            “ฉันต่างหากที่เป็นแฟนเขา นัทไม่มีทางชอบผู้ชายอย่างนายหรอก หัดละอายซะบ้างนะ!”

            “ใครกันแน่ที่ต้องละอาย รู้ตัวดีอยู่แก่ใจแล้วยังจะทำแบบนี้อีก” ได้เห็นซินสู้คนก็วันนี้แหละครับ เพียงแต่ซินเลือกที่จะใช้น้ำเสียงเรียบเฉย แทนที่จะวิ่งเต้นไปตามโอลีฟ

            “นัทคะ! บอกไปสิคะ บอกทุกคนเขาไปว่านี่มันเรื่องเข้าใจผิด!” นี่ก็จะให้เข้าใจผิดอย่างเดียวเลย มันมาถึงขั้นนี้แล้วนะ ยังจะเข้าใจผิดอะไรกันอีก

            ผมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด

            “ผมกับซิน เราคบกันอยู่จริงๆครับ”

            “อะไรนะ!!” เสียงถามอย่างไม่พอใจดังมาจากทางโอลีฟ ผู้ใหญ่ที่นั่งฟังเราอยู่เองก็มองมาทางผมอย่างตกใจเช่นกัน อย่าหาว่าผมกลืนน้ำลายตัวเองเลยนะครับ แต่ที่ซินลงทุนมาถึงที่นี่ ยอมประกาศออกสื่อขนาดนี้ก็เพื่อเรา ทั้งๆที่ผมคิดว่าเขาจะเลือกความฝันของเขา แต่เขากลับเลือกผม...

            แล้วจะให้ผมนิ่งเฉยได้ยังไง จะให้มองข้ามสิ่งที่เขาทำเพื่อเราขนาดนี้เลยเหรอครับ

            ผมเองตอนนี้ก็กำลังช็อกมากเหมือนกัน เรื่องนี้มันเกินกว่าที่คาดไว้มากจนเกินไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปตอนนี้ มาจากความรู้สึกล้วนๆ

            “ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ย นัทพูดบ้าอะไรเนี่ย มันไม่ใช่แบบนี้”

            “มาถึงขั้นนี้แล้วคุณจะยังต้องการอะไรอีก พูดความจริงได้แล้วโอลีฟ” ผมหันไปพูดกับเธอตรงๆอย่างเหลืออด บางทีเธอก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้บ้างนะ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะเอาแต่ความต้องการของตัวเอง โลกนี้ไม่ได้หมุนโคจรรอบตัวเธอหรอกนะ

            “ทำไมทำแบบนี้ล่ะคะ ทำไมทำกับโอลีฟแบบนี้” ในเมื่ออารมณ์โวยวายใช้ไม่ได้ผล น้ำตาจึงถูกเรียกกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันมากกว่าเดิม ถึงขนาดไหลออกมาเลยทีเดียว เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกละรอกเมื่อโอลีฟเริ่มต้นร้องไห้

            “น้ำตาไม่ได้ช่วยลบล้างความผิดได้หรอกนะ” ซินพูดขึ้นอีกครั้งพลางเหลือบมองไปทางโอลีฟอย่างไม่พอใจ ผมไม่เคยเห็นซินเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ เพราะปกติซินจะเป็นคนเงียบๆ ใครจะร้ายมา ซินก็จะเงียบตอบ จนฝ่ายนั้นเงียบหายไปเอง ไม่มีเลยสักครั้งที่จะลุกขึ้นมาตอบโต้แบบนี้

            “ทุกคนดูสิคะ ดูพวกเขาทำร้ายหัวใจของโอลีฟ”

            นี่มันกลายเป็นมหากาพย์ดราม่าอะไรกันไปแล้ว นี่มันงานแถลงข่าวไม่ใช่หรือไง ทุกอย่างมันควรจะจบสิ ไม่ใช่วุ่นวายแบบนี้ และก่อนที่เรื่องมันจะเลยเถิดไปกันใหญ่ ประตูห้องแถลงข่าวก็เปิดขึ้นอีกครั้ง สองคนที่ก้าวเข้ามาทำเอาผมต้องรีบยืนเพื่อมองให้ถนัดตาทันที หลายคนมองตามสายตาผมไป แต่ไม่มีใครรู้จักสองคนนั้นนอกจากผม

            พ่อกับแม่...

            มาทำอะไร?

            “พอได้แล้วล่ะโอลีฟ ลุงขอให้เราหยุดแค่นี้เถอะ” เสียงพ่อพูดขึ้น ทำให้กล้องหลายตัวเบนไปทางนั้น โอลีฟที่นั่งอยู่ข้างผมลุกขึ้นยืนอย่างตกใจทันที   

            “คุณลุง”

            “พอได้แล้วล่ะ ให้ทุกอย่างมันจบเถอะ ลุงยอมแพ้แล้ว”

            “ไม่ได้นะคะ คุณลุงจะยอมแพ้อย่างนี้ไม่ได้ ถ้าคุณลุงยอม! โอลีฟก็แพ้ด้วยนะ! โอลีฟไม่ยอม!!” ดูเหมือนว่าเธอจะลืมไปว่าสิ่งที่พูดออกมานั้น ทุกคนในห้องนี้ก็กำลังฟังอยู่ด้วย

            “ยอมแพ้อะไรกันเหรอคะ” นักข่าวที่อยู่ใกล้พ่อผมที่สุดยื่นไมค์เข้าไปใกล้ท่านทันที

            พ่อหันมามองทางผม ส่งยิ้มมาให้นิดๆ ก่อนจะหันกลับไปตอบ

            “เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผมเอง ผมเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน ไม่เข้าใจความรู้สึกของลูก ไม่ยอมรับการตัดสินใจของเขา เผลอทำร้ายเขาไปโดยไม่รู้ตัว”

            “พ่อ....” เมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อกำลังพูดออกมา ทำเอาผมชาดิกไปทั้งตัว นี่พ่อเข้าใจผมแล้วเหรอ ทำไม...           

            “คุณเป็นคุณพ่อของคุณนัทเหรอคะ” นักข่าวก็ยังคงทิ่มไมค์ใส่หน้าพ่อผมอยู่

            “ใช่ ผมเป็นพ่อเขาเอง”

            “แล้วเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงคะ ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้มั้ยคะ”

            “ไม่นะ ไม่ๆๆๆ มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ! แบบนี้มันไม่สนุกเลยนะ!” แทนที่พ่อจะได้ตอบ กลับมีเสียงโอลีฟแทรกขึ้นมาแทน “คุณลุงจะลากหนูเข้ามาแล้วถีบหัวส่งแบบนี้ไม่ได้นะ หนูลงทุนเอาชื่อเสียงของหนูเข้าแลกเพื่อลูกชายของคุณลุงนะคะ!! คุณลุงมาพูดแบบนี้ก็ไม่สวยสิ”

            “อะไรกันคะ นี่มันเรื่องอะไรกัน” นี่ก็เสียงนักข่าว

            “โอ๊ย เอายาดมให้ฉันที” นี่ก็เสียงผู้ใหญ่ของทางค่าย

            ปั่นป่วนกันไปหมดแล้วครับ แต่ตอนนี้สมองผมคลี่คลายเรียบร้อยแล้ว.... ถ้าในเมื่อพ่อยอมรับ ก็ไม่มีใครคิดที่จะทำร้ายซินอีก นั่นแปลว่าผมคบกันซินได้ใช่มั้ย เราคบกันออกสื่อได้แล้วจริงๆใช่มั้ยครับ

            “ทุกคน ช่วยฟังทางนี้หน่อยได้มั้ยครับ” ถึงตาพระเอกอย่างผมออกโรงบ้างแล้ว

            ทุกสายตาหันมาทางผมรวมทั้งซินด้วย สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความสงสัย มือเรียวคว้าแขนผมดึงให้นั่งลงตามเดิม แต่ผมขืนไว้ เอื้อมมืออีกข้างวางลงบนมือข้างนั้น บีบเบาๆเพื่อให้เขามั่นใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันก่อนจะยอมปล่อยมือข้างนั้นออก

            “ผมกับซิน เราคบกันอยู่จริงๆครับ ส่วนโอลีฟ.... ผมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ที่เธอคิดและพูดบอกทุกคนออกไป มันคือเรื่องที่เธอคิดและพูดเองคนเดียว ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลยแม้แต่น้อย ผมรักซิน และก็รักซินแค่คนเดียว ไม่เคยมองใครที่ไหนอีก ส่วนภาพและข่าวของผมกับโอลีฟที่มีออกไปล้วนแล้วแต่เป็นงานทั้งสิ้น ในฐานะบอดี้การ์ดผมจำเป็นต้องดูแลนายจ้างให้ดีที่สุด อาจจะมีบ้างบางครั้งที่จำเป็นต้องใกล้ชิด แต่นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง ผมไม่เคยคิดเกินเลยกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากนายจ้างแล้ว ผมไม่เคยคิดกับเธอในฐานะไหนอีกเลย”

            “แล้วข่าวที่ว่าไปทานข้าวดูหนังด้วยกันล่ะคะ” นักข่าวก็ยังคงถามต่อไป

            “นอกจากทำงาน ผมก็ไม่มีเวลากระดิกตัวไปทำอย่างอื่นแล้วครับ ผมไปรับไปส่งเขาในฐานะบอดี้การ์ด นอกเหนือจากนั้นแล้วผมไม่เคยไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสองเลยสักครั้งเดียว”

            “นัท!”

            “พอได้แล้วโอลีฟ! ทุกสิ่งทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมดก็เพราะคุณ แค่นี้ยังอับอายไม่พออีกหรือไง จะป่าวประกาศความร้ายกาจของคุณให้ผู้คนเขารู้กันไปถึงไหน ลองมองไปรอบๆดูสิว่าทุกคนเขามองคุณยังไง ชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่าให้มันต้องมาพังลงเพราะความเอาแต่ใจบ้าๆของคุณเลยนะ ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น ซินไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าร้ายคุณเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีแต่คุณ! ที่เอาแต่พูดเรื่องโกหกจอมปลอมใส่ร้ายเขา พอได้หรือยัง... ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”

            ปากสวยแดงสดเม้มเข้าหากันแน่น มองไปรอบตัวอย่างไม่พอใจ แต่สายตาหลายคู่ที่มองเธออยู่นั้นก็ทำให้เธอต้องหลบหน้าไม่กล้าสบสายตาใคร ทั้งหมดนั่นมันก็เป็นเพราะเธอทำตัวของเธอเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำลงไปมันเป็นเครื่องยืนยันคำพูดของผมได้ดี

            ตลอดเวลาซินไม่ได้ลุกขึ้นโวยวายเลยสักครั้ง มีแต่โอลีฟที่โหวกเหวกโวยวายอยู่คนเดียว

            “ให้มันจบสักทีเถอะนะ อย่าให้คนอื่นต้องมองคุณแย่ไปกว่านี้เลย นั่นก็เพื่อตัวคุณเองนะ”

            โอลีฟมองมาทางผมอย่างชั่งใจ ก่อนจะหันมองรอบห้องอีกครั้ง สายตาของทุกคนคราวนี้ชัดเจนกว่าครั้งแรก ทุกสายตาทิ่งแทงไปยังเธอ เพราะสิ่งที่เห็นและได้ยินมันชัดเจนจนไม่มีใครต้องมาอธิบายเพิ่มอีกแล้ว เจ้าตัวกระทืบเท้าลงพื้นอย่างขัดใจอีกครั้ง ก่อนจะรีบเดินหนีออกจากห้องนี้ไป           

            “อ้าว! เดี๋ยวสิคะคุณโอลีฟ! การแถลงข่าวยังไม่จบเลย อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหนสิคะ สรุปแล้วเรื่องทั้งหมดคุณเป็นคนกุขึ้นมาเองใช่มั้ยคะ”

            “โอ๊ยย อย่ามายุ่งกับฉัน!” เสียงโอลีฟโวยวายขึ้นมาเมื่อโดยนักข่าวตีวงล้อมเธอเอาไว้ “อย่ามายุ่งกับฉันนะ ถอยออกไปให้หมด! ฉันจะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น” แล้วเธอก็โดนนักข่าวบางส่วนไล่ต้อนออกจากห้องไปโดยที่ไม่มีบอดี้การ์ดข้างกายสักคน

            ทีนี้ในห้องจึงเหลือแค่ ผม ซิน คุณโอ๊ต พวกผู้ใหญ่ในค่ายและนักข่าวอีกบางส่วนเท่านั้น เสียงถอนหายใจเฮือกดังมาจากคุณโอ๊ตอย่างโล่งอกไปเปราะหนึ่ง นี่เรื่องจบแล้วใช่มั้ยครับ เรื่องบ้าบอทั้งหมดนี่มันจบลงแล้วใช่มั้ย...

            ยัง ผมตอบให้เลย เพราะพวกผู้ใหญ่ทางค่ายกำลังพูดคุยกันเสียงเบาอย่างเคร่งเครียด นักข่าวที่เหลืออยู่ก็กำลังรอฟังอยู่เช่นกัน

            “เอ่อ... เอาเป็นว่าทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นงานแถลงข่าววันนี้ถือว่าจบลงเพียงเท่านี้นะครับ ขอเชิญพี่น้องนักข่าวทุกคนกลับกันได้แล้วครับ ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์สละเวลามากันในวันนี้ ขอบคุณมากๆครับ”

            “เอ่อ....”

            “พอแล้วนะครับ วันนี้ขอให้ศิลปินของเรากลับไปพักผ่อนด้วยนะ ถ้ายังไงช่วยกรุณาเขียนข่าวเกี่ยวกับพวกเราดีๆด้วยนะครับ” คุณโอ๊ตรีบเอ่ยปฏิเสธก่อนที่จะมีคำถามไหนโพล่งขึ้นมาอีก

            “ถ้าอย่างนั้นรบกวนขอถ่ายรูปคุณซินกับคุณนัทคู่กันหน่อยนะคะ” เพราะคำขอนั้นทำให้ซินต้องลุกขึ้นยืนข้างผม ใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมเองเมื่อไม่รู้ว่าควรจะทำหน้าอย่างไหน จึงตีหน้านิ่งเอาไว้ก่อน หลังจากที่ถ่ายรูปกันจนนักข่าวพอใจ คุณโอ๊ตก็เชิญทุกคนออกไป จนภายในห้องเหลือแต่พวกเรากับผู้ใหญ่เท่านั้น ความตรึงเครียดเริ่มกลับมาอีกครั้ง

            “อธิบายมาให้หมด ทั้งสองคน” คำถามพุ่งตรงมาที่คุณโอ๊ตและซินทันที

            “เรื่องนี้พี่โอ๊ตไม่เกี่ยวหรอกครับ ซินคิดเองทั้งหมดแล้วก็ไปขอให้พี่เขาช่วย ถ้ามีใครต้องรับผิดชอบก็ขอให้เป็นซินคนเดียว”

            “ทำแบบนี้ทำไมซิน เรื่องทุกอย่างมันกำลังจะลงตัวอยู่แล้วนะ”

            “มันไม่มีทางลงตัวหรอกครับ เพราะทุกอย่างที่ทุกคนกำลังจะทำในวันนี้ ไม่มีใครปรึกษาซินเลย ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องของซินโดยตรง”

            “แต่ทุกคนที่นี่ทำทุกอย่างก็เพื่อซินนะ”

            “ทำเพื่อซิน แล้วถามซินบ้างมั้ย ซินอยากทำเพลงก็จริง ซินรักแฟนคลับซินมากนั่นก็จริง อยากจะทำเพลงให้ทุกคนได้ฟัง แต่ถ้าทุกคนยอมรับในสิ่งที่ซินเป็นไม่ได้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ทุกวันนี้ซินทำตามความฝันของตัวเองจนสามารถพูดได้ว่ามันสำเร็จลุล่วงไปหมดแล้ว ซินมีเพลง มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง ทุกคนร้องเพลงตามซินได้ ทุกคนมีความสุขที่ได้ร่วมร้องเพงไปด้วยกัน แค่นี้ก็เกินกว่าฝันแล้ว ซินรับผิดชอบความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ถ้าทุกอย่างมันจะต้องจบลงเพราะทุกคนรับตัวตนของซินไม่ได้ ซินก็จะยอมรับ ไม่เปนไร ซินถือว่าซินทำทั้งหมดมาดีที่สุดแล้ว”

            “จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะให้ข่าวมันออกไปแบบนี้”
            “ในเมื่อมันเป็นความจริง มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นครับ”

            “ถ้าอย่างนั้นซินก็ต้องยอมรับผลที่ตามด้วยแล้วกัน ทางค่ายจะไม่ตามแก้ข่าวหรือแก้ตัวอะไรให้อีกแล้วนะ เราทุ่มให้คุณไปมากก็จริง แต่หลายๆอย่างที่คุณคืนให้เรามามันก็มากเหมือนกัน ครั้งนี้เราจะยอมรับการตัดสินใจของคุณ” เสียงถอนหายใจเฮือกดังมาจากทางคุณโอ๊ตทันทีที่ได้ยินประโยคหลัง ก่อนจะสะดุดไปเมื่อได้ยินคำต่อมา

            “แต่....” ณ ขณะนี้ เกลียดคำนี้มากจริงๆครับ

            “ยกเลิกอัลบั้มใหม่ เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด งดการโปรโมททุกช่องทาง จนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลายออกมาในทางที่ดี นี่คือสิ่งที่คุณต้องรับผิดชอบสำหรับสิ่งที่คุณทำลงไป”

            “ครับ ผมยอมรับ”

            “งั้นวันนี้ก็พอเท่านี้”

            ผู้ใหญ่ท่านนั้นหันมามองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร จบแล้วใช่มั้ย! ทุกอย่างๆเลย ทั้งเรื่องพ่อแม่ผม และเรื่องค่าย จบแล้วใช่มั้ย ...เออแล้วว่าแต่พ่อกับแม่ผมหายไปไหนแล้ว ช่างเถอะ กลับมาสนใจคนที่อยู่ข้างกันตอนนี้ก่อนดีกว่า คิดว่าเราน่าจะมีเรื่องคุยกันมากมายทีเดียว โดยเฉพาะผม กับสิ่งที่ผมเลือกจะทำลงไป

            “ซิน....”

            แต่เขากลับไม่รอฟังสิ่งที่ผมกำลังจะพูด ร่างบางหันหลังหนีเดินตรงออกจากห้องไปทันทีก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร ซินต้องโกรธมากอยู่แล้วครับ เพราะถ้าเป็นผมก็โกรธเหมือนกัน แต่ใครจะคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ ใครจะคิดว่าเขาเลือกจะทิ้งความฝันเพื่อผม.... ขามันแข็ง ไม่กล้าที่จะตามเขาออกไปจริงๆ ผมมันโง่เองที่คิดเองเออเองไปคนเดียว ดูถูกความรักของซินที่มีให้ ทำทุกอย่างลงไปโดยพลการ เขาจะโกรธจะเกลียดก็ไม่แปลก

            “เอ้าเฮ้ย! เฉยอยู่ทำไม ไม่รีบตามไปวะ” เสียงคุณโอ๊ตที่อยู่ในห้องเรียกสติผมให้กลับคืนมา

            “ผมควรจะตามไปเหรอ...?”

            “อ้าวไอ้ห่า! พูดแบบนี้ขอกูถีบสักทีได้มั้ยครับ นี่กูยอมเอาเงินเดือนอันน้อยนิดของกูเป็นประกันเพื่อพวกมึงสองตัวเลยนะเนี่ยย กูเนี่ยซวยสุด!! ตกงานขึ้นมากูไม่ได้อะไรเลยนะ ความฝงความฝันอะไรก็ไม่ใช่ ปากท้องตัวเองกูก็ต้องเลี้ยง ปวดหัวกระบาลจะแยกเพื่อความรักของพวกมึงสองคนเนี่ย ไปเลยนะ... มึงรีบไปเลย ง้อมันให้ได้ด้วย ให้สมกับที่กูต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง!” แหมพี่ ที่งี้มายาวยืดเลยนะครับ

            “ผมควรใส่เสื้อเกราะไปมั้ย”

            “กลัวตายทำห่าไร เป็นบอดี้การ์ดไม่ใช่ไง๊ ไปเลยไป เอามันกลับไปส่งบ้านด้วย”

            อดขำออกมาไม่ได้จริงๆเมื่อเห็นท่าทางของคุณโอ๊ต แต่ก็ต้องขอบคุณเขามากๆครับที่ช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลาย ขอบคุณที่เข้าใจเราทั้งสองคน ผมเองซะอีกที่เกือบจะต้องปล่อยมือซินไปเสียแล้ว หันหลังเตรียมเดินออกจากห้อง แต่ตุณโอ๊ตกลับรั้งผมเอาไว้อีกครั้ง

            “ซินน่ะ.... เป็นคนที่เข้าถึงยาก สร้างกำแพงเอาไว้รอบตัวเสมอ ยากนะที่ใครจะพังกำแพงนั้นเข้าไป ฉันเองบางวันมันก็ยอมให้ฉันเข้าไป บ้างวันมันก็ไล่ฉันออกมา ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา ฉันไม่เคยเห็นมันกระวนกระวายเรื่องใครมากเท่าเรื่องนายเลย มันเป็นเอามากนะตอนที่นายเลือกจะทิ้งมัน ฉันเองก็ขอโทษด้วยที่ตอนแรกสนับสนุนให้ทำแบบนั้น จนมันโทรมาหาฉัน คุยกันไปคุยกันมาจนมันร้องไห้ บอกตรงๆไม่เคยเห็นซินเป็นแบบนี้มากก่อนเลย มันรักนายมากนะ มันแคร์นายมากจริงๆ มือที่จับกันเอาไว้อยู่น่ะจับให้แน่นๆ อย่าปล่อยกันไปไหนอีก กว่าโลกจะเหวี่ยงคนที่ใช่มาให้ มันยากเย็นแค่ไหนนายน่าจะรู้ ....ดีแค่ไหนแล้วที่วันนี้ได้เจอ”

            ผมหันกลับมามองพี่แกช้าๆ ยิ้มตอบรอยยิ้มที่มอบมาให้

            “ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากจริงๆ”

            “ไปได้แล้ว ก่อนที่หัวใจนายจะหนีหายไปซะก่อน” ได้ยินแบบนั้นผมจึงรีบหันหลังกลับวิ่งตามซินออกไปทันที

            รอฉันก่อนนะซิน ฉันกำลังไปทวงหัวใจนายคืนแล้ว

            ความรักของฉัน อย่าเพิ่งหนีหายไปไหนนะ   



พบกันกับตอนส่งท้ายตอนหน้านะคะ :)
.....
แท่นแท๊นนน เสียงคนคนนี้นี่เองงง
เป็นยังไงกันบ้างหนอ ตอนหน้าจบแล้วนะคะ T^T

ขอบคุณทุกคนมากจริงๆที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้
ขอบคุณคอมเม้นน่ารักๆที่อ่านไปขำไป ^^ มีความสุขมากจริงๆค่ะ
รักทุกคนเลยนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะเคยคุยกันบ้าง หรือไม่เคยคุยกันเลย

แต่ไม่เป็นไรเพราะเราได้รู้จักกันแล้ว ผ่านตัวอักษรที่ร้อยเรียงกันเป็นข้อความส่งผ่านถึงกัน
ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ไม่มีทุกคน คุณการ์ดของเราคงมาไม่ถึงวันนี้
ปล.ปาดน้ำตา ดราม่าทำไม ยังไม่จบสักหน่อย ฮ่าๆๆๆ

พบกันใหม่ในตอนสุดท้ายนะคะ
ด้วยรัก.     

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คุณนักร้องน่ารักที่สุด
อ่านแล้วเรายิ้มอ้ะตอนนี้
ว่าจะจบแล้วหรอออออ

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เย้!!!!!!!!!!!!!!!สุดท้ายก็แฮปปี้!!คุณพ่อคุณแม่ก็ยอมรับแล้ว ยัยโอลีฟก็โดนรุม เหลือแต่ซินที่งอนนัทง้อซินให้ได้นะ

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
รักหนูซินที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดด....
มันต้องแบบนี้ซิ...คนของเรานี่นา
แต่อยาก.. :z6:...เจ้านัทมากที่ซู๊ดดดด..
เหมือนกัน...มันจะเอ๋อไปถึงไหน......
ต้องให้หนูซินงอนนาน ๆ มั๊ยนี่?...


Eucalyp

  • บุคคลทั่วไป
29

(( นิรันดร์ (ไม่มีวันสิ้นสุด) ))


 

            หลังจากที่เคลียร์ทุกสิ่งทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบลงมาข้างล่างทันที โผล่ออกมาจากลิฟต์ก็เห็นหลังบางไวๆเดินออกไปด้านนอกแล้ว ใส่เกียร์วิ่งสี่คูณร้อยตามออกไปหาทันที แต่ลิฟต์กับประตูทางออกมันไกลกันเกินไป จะทันมั้ยนะ ซินจะกลับยังไง ไปกับใครนะ

            “ซิน ซิน! รอก่อน!” ได้ยินฉันมั้ย ถ้าได้ยิน...ได้โปรดหยุดรอฉันที

            วิ่งออกมาด้านนอกก็เห็นร่างบางโบกแท็กซี่แล้วเรียบร้อย เตรียมตัวจะขึ้นไป

            “ซิน!! เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป! ซิน…” ผมมั่นใจว่าเขาได้ยิน แต่เขาเลือกที่จะไม่ฟัง โธ่เว้ย! ขึ้นรถไปแล้ว

            ขับรถตามไปดักหน้ายังทัน! คิดได้แบบนั้นจึงรีบวิ่งกลับไปที่รถทันที โชคดีที่วันนี้จอดรถไว้ด้านนอก ทันทีที่สตาร์ทรถได้ก็เหยียบเต็มที่เลยครับ ไม่รออะไรทั้งสิ้น ขอให้ทันทีเถอะ...

            หลังจากปาดซ้ายปาดขวาให้ผู้คนบนท้องถนนด่าพ่อผมเล่นๆก็เจอแท็กซี่สีเขียวเหลืองอยู่ห่างไปไม่ไกล รีบขับตามไปจี้ตูดเขาไว้ และอาศัยช่วงที่รถน้อยขับปาดหน้าเขาและจอดรถลงทันที สาธุ...ขอให้อย่าเจอแท็กซี่ขาโหดเลยด้วยเถิ้ดดด เดี๋ยวนี้ข่าวยิงกันตายเพราะเรื่องขับรถปาดหน้ากันบ่อยซะด้วย

            เสียงแตรดังลั่นถนนเมื่ออยู่ๆรถแท็กซี่ก็เหยียบเบรคอย่างกระทันหัน รถที่ตามหลังอยู่จึงต้องจอดตามไปด้วย ทีนี้มหกรรมการบีบแตรก็เกิดขึ้น ผมรีบก้าวลงจากรถทันที คนขับแท็กซี่เองก็เหมือนกัน

            “เห้ย! ขับรถแบบนี้ก็สวยสิวะ อยากมีปัญหารึไงไอ้น้อง”

            “ผมไม่ได้อยากมีปัญหากับพี่หรอกครับ แต่ขอคุยกับผู้โดยสารพี่หน่อย” พูดจบก็ไม่รอช้า ตรงเข้าไปเปิดประตูรถแท็กซี่ทันที ซินที่มองมาอย่างงงๆก่อนจะเบิกตากว้างตกใจทันทีที่เห็นผม

            “ลงมาซิน”

            “ทำบ้าอะไรเนี่ย!”

            “ลงมาก่อนนะ ไปกับฉัน”

            “ไม่...” ใบหน้าหวานเรียบตึงขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะหันหนีไปทางอื่น งานใหญ่จริงๆแหละคราวนี้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาเขาลงมาจากรถก่อนล่ะครับ

            “ซิน...” ก่อนที่ผมจะได้ทันพูดอะไร เจ้าของแท็กซี่ก็เข้ามาคว้าแขนผมออกห่างจากผู้โดยสารของเขาซะก่อน

            “เห้ย ทำบ้าอะไรอยู่ได้วะเนี่ย เห็นบ้างมั้ยว่ารถมันติด! ถอยรถออกไปได้แล้ว เสียเวลาทำมาหากิน!! หรือว่าอยากจะมีเรื่อง”

            “เอายังไงซิน ถ้านายไม่ลงมาฉันก็จะจอดรถอยู่อย่างนี้ ให้คนอื่นเขาเดือดร้อนอยู่แบบนี้แหละ”

            “ทำบ้าอะไรวะนัท!! ทำแบบนี้ทำไม”

            “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

            “แต่เราไม่มี!! ไปซะ!”

            “งั้นก็จอดรถอยู่แบบนี้”

            เสียงบีบแตรก็ยังคงดังอยู่เรื่อยๆ พร้อมกับเสียงสรรเสริญมาเป็นระยะๆ คนขับแท็กซี่ก็เริ่มหัวเสียมากแล้วด้วย อีกไม่นานจะมีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นแล้วครับ ซินสบถออกมาอย่างขัดใจ ก่อนจะยอมลงมาจากรถอย่างเสียไม่ได้ หยิบเงินยื่นให้คนขับแท็กซี่และเดินผ่านผมไปเพื่อขึ้นรถผมด้านหน้า ผมจึงรีบวิ่งตามเขาไป

            “จะไปง้อกันที่ไหนก็ไปเลยไป! แม่ง...เสียเวลาทำมาหากิน ว่าแต่หน้าคุ้นๆนะ” เสียงพี่แท็กซี่ดังงึมงำๆตามหลังมาแต่ผมไม่ได้สนใจ รีบกลับขึ้นรถตัวเองและขับออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

            “ใช่เรื่องป่ะ!ทำแบบนี้ ดีเขาไม่ลงมาต่อยหน้าเอา”

            “ให้เจ็บตัวแลกกับนายยอมมาขึ้นรถฉัน ฉันก็ยอม”

            ซินเลือกที่จะเงียบและหันหน้าหนีไปทางอื่น เขาไม่ได้นั่งอยู่ข้างผมหรอกนะครับ นั่งไขว่ห้างหน้านิ่งอยู่เบาะด้านหลัง

            “ซิน คุยกันดีๆก่อนได้มั้ย ....ฉันขอโทษ”

            “.......” กะอยู่แล้วแหละครับว่าเขาต้องเลือกที่จะเงียบ เพราะสิ่งที่ผมทำลงไปมันผิดมากจริงๆ อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ดีกว่า รอให้จอดรถได้พูดกันตรงๆต่อหน้าน่าจะดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นผมถึงได้ตัดสินใจขับรถไปอย่างเงียบๆ มีที่ที่จะไปอยู่ในหัวแล้วครับ และเขาเองก็น่าจะจำเส้นทางนี้ได้ดี

            สวนสาธารณะที่เรามาด้วยกันประจำ ตอนนี้ซินกำลังเดินทิ้งห่างนำผมไปไกลแล้ว ผมที่เดินตามหลังไปเงียบๆกำลังคิดทบทวนกับสิ่งที่จะต้องพูดกับเขาในวันนี้ เขาจะยอมอภัยให้ผมมั้ย...

            แต่ซินบอกนักข่าวไปว่าเราคบกัน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องกลับไปคบกันได้อยู่แล้ว

            หรือว่าที่ซินพูดไปเพื่อจะหักหน้าโอลีฟ และให้ทุกอย่างมันจบอย่างที่ควรจะจบ แล้วค่อยมาประกาศที่หลังว่าเราเลิกกันแล้ว

            ขาเรียวหยุดชะงักลงเมื่อเดินมาถึงเก้าอี้ที่เรามักจะชอบนั่งด้วยกัน เป็นเพราะมันอยู่ใต้เงาไม้พอดี และที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นัก แถมลมยังพัดผ่านตลอดเวลา

            “ซิน...” ผมเรียกชื่อเขาออกไป เจ้าของชื่อเขาจึงหันกลับมามองหน้าผมนิดๆก่อนจะนั่งลง

            “มีอะไรก็ว่ามา เราไม่ได้มีเวลามากนัก อยากกลับไปพักผ่อน” น้ำเสียงเหินห่างถูกหยิบยกขึ้นมาใช้อีกครั้ง

            “โกรธเหรอ” เป็นคำถามโง่ๆใช่มั้ยครับ แต่นั่นก็เพราะว่าไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี

            “........”

            “ฉันรู้ว่าฉันผิด ทำอะไรลงไปโดยที่ไม่ยอมปรึกษา ไม่สนใจความรู้สึกนาย ....ฉันขอโทษ”

            “........”

            “อย่าเงียบแบบนี้ได้มั้ยซิน จะด่าจะว่าฉันยังไงก็ได้ แค่อย่าเงียบแบบนี้สิ ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่ที่ทำลงไปทั้งหมดนี่ก็เพื่ออนาคตของนายนะ ฉันไม่อยากให้นายเดือดร้อนเพราะฉัน ไม่อยากให้ชื่อเสียงของนายต้องมาป่นปี้เพราะฉัน ตลอดเวลาฉันทำให้นายต้องเจอเรื่องแย่ๆมาโดยตลอด ถ้าไม่มีฉัน...นายก็คงจะดีกว่านี้”

            “ใครเป็นคนบอก”

            “อะไรนะ”

            “ใครเป็นคนบอกแบบนั้น” ดวงตาคมตวัดมามองกันอย่างไม่พอใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน “ใครเป็นคนบอกว่าถ้านายถอยไปแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ผู้ใหญ่เหรอ? คนรอบข้างเหรอ? แล้วคนพวกนั้นใช่ฉันมั้ย ได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างมาจากปากฉันหรือไงถึงได้ตัดสินใจเอาเอง!”

            “ซิน”

            “เป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้ามีอะไรจะต้องคุยกันก่อน เป็นคนบอกเองกับปากไม่ใช่เหรอว่าอย่าตัดสินใจแทนกัน! เป็นคนพูดไม่ใช่หรือไงว่าให้เชื่อใจ!! แล้วทำไมทำแบบนี้!!! ทำไมไม่เชื่อใจ ทำเหมือนไม่รู้จัก ทำเหมือนไม่รู้ใจฉันว่าคิดยังไง! ไหนบอกว่าเข้าใจ คนถูกทิ้งมันรู้สึกยังไง...เข้าใจไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงได้ทำ!!!”

            “มันไม่ใช่แบบนั้นนะซิน”

            “หรือคิดว่าเราไม่มีหัวใจ! คิดอยากจะมาเมื่อไหร่ก็มา คิดว่าอยากจะไปเมื่อไหร่ก็ได้เหรอ! แล้วเอาความรู้สึกเราไปทิ้งไว้ที่ไหน! ไหนว่ารักไหนว่าแคร์ ไหนว่าสำคัญ!! นายทำกับคนสำคัญของนายอย่างนี้เหรอนัท.... ทิ้งขว้างกันอย่างนี้เหรอ”

            “ซิน... ฉันไม่ได้ทิ้งขว้างนะ ไม่เคยเลย ไม่เคยคิดเลย” เสียงหวานที่ติดจะสั่นทำเอาหัวใจกระตุกวูบไปในทันที อย่าร้องนะซิน... อย่าร้องเพื่อผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้เลย โกรธฉัน ด่าฉันสิ ไม่เอาแบบนี้...

            “รู้บ้างมั้ยว่าเรารู้สึกยังไง.... กังวลใจแทบตายว่านายจะทำอะไร เป็นยังไงบ้าง ติดต่อก็ไม่ได้ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ ปิดโทรศัพท์หนี เราออกจากบ้านไม่ได้ ไปดูนายที่บ้านไม่ได้ เราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอ!! รออยู่เฉยๆโดยที่ไม่รู้อะไร รอให้นายมาบอก รอให้นายมาถาม....แต่นายก็ไม่มา จนเรารู้ว่านายกำลังจะทำอะไร รู้จากปากคนอื่น รู้จากคำบอกเล่าของคนอื่นที่ไม่ใช่นาย คิดบ้างมั้ยว่าเราจะรู้สึกยังไง! เสียใจแค่ไหนเคยรู้บ้างมั้ย!!”

            “ซิน...” ยิ่งเดินเข้าไปหา เขาก็ยิ่งถอยห่างออกไป ดวงตาสวยคลอหน่วยไปด้วยน้ำใส ผมพูดอะไรมากกว่านี้ได้อีกมั้ย ทำไมมันถึงจุกอกไปหมด เจ็บ... ผมเองก็เจ็บเหมือนกัน “ขอโทษ...” มีแค่คำนี้จริงๆ

            “ไหนบอกว่าแค่อยู่ข้างกันทุกๆอย่างก็จะผ่านไป ไหนบอกว่าจะไม่ปล่อยมือ ไหนบอกว่าจะมีแค่เรา แล้วทำไมยอมเชื่อคำพูดของคนอื่นมากกว่า ในวันที่อ่อนล้านายหายไปไหน ....ทำไมถึงทิ้งเราไปในวันที่เราต้องการนายมากที่สุด” น้ำหยดใสไหลรินจากดวงตากลม เพียงแค่หยดเล็กหยดเดียวที่ทำให้ผมเจ็บร้าวไปทั้งใจ ผมทำบ้าอะไรลงไปวะ... ทำร้ายซินลงได้ยังไง

            “ขอโทษซิน...ฉันขอโทษ” พยายามจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เขา แต่มือเล็กกลับปัดออกไปซะก่อน

            “ในเมื่อคิดที่จะทิ้งกันแล้ว อยากจะไสหัวไปไหนก็ไป ไปเลย! ไม่ต้องใส่ใจเรื่องให้สัมภาษณ์วันนี้ เราก็แค่อยากให้เรื่องบ้าๆมันจบ เรื่องจริงยังไงมันก็ต้องปรากฎในสักวันอยู่แล้ว ทำแบบนี้โอลีฟจะได้เลิกยุ่งกับเราสักที”

            “ไม่ซิน... ฉันไม่ได้อยากจะไป ฉันไม่ได้อยากจะไป....”

            “ไปซะ ไปให้ไกลๆ”

            “ไม่เอา” ผมปฏิเสธพร้อมกับเดินเข้าไปคว้าเขามากอดเอาไว้ทั้งตัว ท่ามกลางสวยสวนและเสียงนกร้องสดใส บรรยากาศเก่าๆที่มันควรจะเต็มไปด้วยความสุข แต่ ณ เวลานี้มันไม่ใช่ ผมทำอะไรลงไป ทำไมผมทำร้ายหัวใจของเราได้ลง ผมเองน่าจะเข้าใจดีที่สุดว่าการถูกทิ้งมันเป็นยังไง มันทรมานมากแค่ไหน กับการที่ถูกกีดกั้นในทุกๆทาง แล้วทำไมผมถึงทำกับซินได้ลงคอ...

            “ไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆซิน จะคอยดูแลไปตลอด สัญญา...ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่ปล่อยมือจากนายอีกแล้ว อภัยให้ฉันนะ ยกโทษให้ผู้ชายโง่ๆคนนี้ได้มั้ย ขอโอกาสให้ฉันอีกสักครั้ง ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายให้ดี” ร่างบางในอ้อมแขนสั่นน้อยๆจากแรงสะอื้น ยิ่งทำให้ผมกอดเขาแน่นขึ้น เพราะกลัวว่าเขาจะหายไป

            อีกแล้ว ผมทำเขาร้องไห้อีกแล้ว ทำไมวะ! ทำไมผมถึงได้โง่แบบนี้ ทำไมต้องเป็นผมทุกทีที่ทำทุกอย่างพังลงไปหมด ทำไม!!!

            “เราเสียใจ”

            “ฉันรู้.....ฉันรู้ ฉันขอโทษ”

            “เรานึกว่าเราสำคัญที่สุด เรานึกว่านัทจะมา เราเฝ้ารอในทุกๆวัน โทรศัพท์อยู่ข้างตัวไม่เคยห่างเลย เพราะนัทไม่เคยยอมแพ้ เพราะนัทสัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือ เราตื่นเช้าเพราะกลัวว่าถ้านัทมาแล้วเราจะไม่เห็น นอนดึกเพราะกลัวว่าถ้านัทมาแล้วจะไม่เจอ แต่ก็ไม่มี ทุกอย่างเงียบหาย ราวกับว่าจะจากไปจริงๆ เราไม่เชื่อพี่โอ๊ตว่านายจะไป ไม่อยากจะเชื่อ...แต่นายก็ไม่มา”

            เป็นผมเองที่ผิดสัญญา เป็นผมในทุกๆอย่างเลย แต่ผมไม่อยากเสียเขาไป ขอโอกาสสุดท้ายได้มั้ย ผมสัญญาว่าผมจะทำมันให้ดี ใครก็ได้ช่วยผมที อย่าให้เขาไป ผมไม่อยากให้เขาไป... 

            “ฉันเองก็เสียใจ ไม่ได้อยากทิ้งไปจริงๆนะ แต่เพราะข่าว เพราะอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ฉันกลัว กลัวว่านายจะไม่ได้ร้องเพลงอย่างที่นายรัก กลัวว่าใบหน้าสวยต้องหม่นหมอง กลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงร้องเพลงของนายอีก ฉันอยากให้นายมีความสุขนะซิน...”

            “แล้วเราจะมีความสุขได้ยังไงถ้าไม่มีนัท! อยากให้เรามีความสุขแบบไหน เป็นตัวเราหรือไงถึงได้รู้ดีนัก ทั้งๆที่เราบอกว่าเรารัก ...ก็ยังจะไป”

            “ซิน”

            “เราเกลียด....”

            “ไม่เอานะซิน ไม่เอา ขอร้อง อย่าเกลียดฉัน อย่าไล่ฉันไปไหนเลยนะ ฉันอยู่ไม่ได้....”

            “เราเกลียดตัวเอง... ที่ให้อภัยนัทได้ทุกที” เสียงสั่นเครือปนเสียงสะอื้นทำให้ผมต้องคลายอ้อมแขนออกเพื่อจะฟังสิ่งที่ซินพูดได้ชัดๆ ดวงตากลมสวยแดงช้ำจากการร้องไห้ สองข้างแก้มเต็มไปด้วยน้ำตา

            “ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่นัททำให้เราเสียใจ ทำไมถึงยังรักอยู่ ทำไมไม่อยากให้ไปไหน ทำไมถึงยังอยากให้อยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่คอยมองหา แค่รู้ว่ายังอยู่ข้างๆก็อุ่นใจ ต่อให้เจอเรื่องร้ายๆแค่ไหนก็ยิ้มให้กันเสมอ นิสัยไม่ดี... กระเทาะกำแพงเราจนพังไม่มีชิ้นดี แล้วแบบนี้เราจะเอาอะไรป้องกันตัวเอง”

            ซินของผม เปราะบางถึงขนาดนี้เลยหรือไง

            "ขอโทษ ไม่ไปไหนแล้ว จะไม่ไปไหนอีกแล้ว อยู่ตรงนี้แล้วนะ นัทอยู่ตรงหน้าซินแล้ว เห็นใช่มั้ย มองเห็นนัทมั้ย อย่าร้องเลยนะคนดี ฉันจะไม่ไปไหนอีกแล้ว จะอยู่ดูแลหัวใจนาย ...หัวใจของนายขอฉันคืนได้มั้ย เอามาฝากไว้กับฉัน ฉันสัญญาว่าจะดูแลมันให้ดี"

            พูดไปพร้อมกับเช็ดน้ำตาจากแก้มใสไปด้วย ดวงตาสวยที่บัดนี้แดงช้ำมองตอบกลับมา ก่อนที่น้ำหยดใสจะไหลลงมาอีกครั้ง

            "หัวใจเรา มันไม่ได้อยู่ที่เราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ใครบางคนขโมยมันไป แล้วเรายังไม่ได้รับคืน"

            "ซิน..."

            "เพราะเราคิดว่าเขาจะดูแลมันได้ดี แต่อยู่ดีๆเขาก็ทิ้งขว้างมันไปซะเฉยๆ"

            “ไม่... ไม่ได้ทิ้ง ฉันไม่ได้ทิ้ง”

            “ไม่ได้ทิ้ง แล้วมาทวงอะไรจากเรา”

            “ก็....”

            “มันอยู่ที่นายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก ....คนนิสัยไม่ดี” รอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าสวยอีกครั้ง ทั้งๆที่ดวงตาใสยังคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา พาเอาไอ้คนนิสัยไม่ดีอย่างผมมองภาพด้านหน้าพร่ามัวไปด้วยอีกคน

             เขาว่ากันว่า น้ำตาไม่ได้แปลว่าเสียใจเสมอไป แต่มันยังแสดงถึงการมีความสุขอย่างสุดหัวใจด้วยเช่นกัน เหมือนอย่างตอนนี้ ที่เรากำลังยิ้มให้กันตรงนี้ ท่ามกลางสวนสวยและนกตัวน้อยที่ร้องเพลงปลอบประโลมให้เรา สายลมบางเบาพัดพาความเจ็บปวดให้ผ่านพ้นไป

            ท้องฟ้ามืดหม่นกลับมาสดใสอีกครั้ง 

            ยิ้มทั้งน้ำตาเป็นยังไง เพิ่งเข้าใจก็วันนี้นี่เองครับ

            "ขอบคุณนะซิน ขอบคุณจริงๆ"

            สองมือยกขึ้นประคองใบหน้าสวยเอาไว้ ก้มลงแนบหน้าผากลงไปใกล้ชิดกัน สัมผัสอุ่นวาบพาให้ใจที่หนาวเหน็บเริ่มอุ่นขึ้นอีกครั้ง เสียงหัวใจที่เต้นแค่ให้ผ่านไปวันๆเริ่มกลับมามีชีวิตชีวา ซินคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตผมจริงๆ...

            “นัทรักซินนะ รู้ใช่มั้ย”

            “อือ”

            “รักมาก”

            “รู้แล้ว”

            “รักมากที่สุดในโลก”

            “ทุเรศ แล้วเอาพ่อเอาแม่ไปไว้ที่ไหน” มือเรียวยกขึ้นดันหน้าผมออกห่างจากหมั่นไส้ กลีบปากสวยแย้มรอยยิ้มหวานที่ผมแสนจะคิดถึง กลับมาแล้ว... ซินคนเก่ากลับมาแล้ว

            “อย่าเพิ่งขัดได้มั้ยเนี่ย คนกำลังหวาน”

            “ไม่ได้อยากหวานด้วยเลย โทษหนักนะคุณคราวนี้ รับโทษกันยาวนะครับ ไม่ประหารชีวิตก็ดีแล้ว

            “ยอมรับโทษไปจนตายเลย ถ้าคนทำโทษคือซิน”

            “ปากดี.... เก่งให้ตลอดแล้วกัน”

            “แน่นอนอยู่แล้วครับผม”

            “หึ”

            ในที่สุดผมก็ได้เขากลับคืนมา ขอบคุณมากนะครับ ใครก็แล้วแต่ที่ส่งเขามา ให้ผมได้มีเขาเข้ามาในชีวิต ทำให้ผู้ชายคนนี้ที่ไม่เอาไหนเรียนรู้ที่จะได้รักใครสักคน เรียนรู้ที่จะดีพอเพื่อเขา ชีวิตที่ผ่านไปวันๆกลับมามีค่าอีกครั้ง การตื่นขึ้นในทุกๆเช้าไม่ได้ไร้ค่าอีกต่อไป เพียงเพราะมีซินอยู่ข้างๆกัน ไม่ว่าจะอะไรผมยอมแลกได้เสมอ เพียงเพื่อรอยยิ้มของซิน

            “แต่เดี๋ยวนะ” คนสวยปาดน้ำตาออกจากสองข้างแก้มจนหมด สูดน้ำมูกสองสามครั้งเพื่อตั้งสติ ก่อนจะยกสองมือขึ้นกอดอก สายตาคาดโทษมาอีกแล้วครับ เรื่องอะไรกันอีกล่ะนี่

            “อะไร”

            “ขามา มายังไง”

            “มาไหน”

            “มาที่บริษัท”

            “ก็ขับรถมาสิ”

            “ขับรถมายังไง”

            “ก็ขับรถมาปกติ”

            “แน่ใจนะว่ามาปกติ” น้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับสายตาจ้องจับผิดกันแบบนี้ แสดงว่าต้องไปรู้อะไรมาอีกแน่ๆ ผมทำอะไรมาวะครับ ก็ขับรถมาดีๆไม่ใช่หรือไง ไม่ได้แวะบ้านใครที่ไหน....

            อ้อ.... หรือว่า....

            “ก็.....”

            “ก็?” ไม่ชอบสายตาไล่ต้อนกันแบบนี้เลยจริงๆนะ มันเหมือนรู้ทันกันไปซะหมดทุกเรื่องจริงๆ

            “ก็ มีอุบัติเหตุนิดหน่อย”

            “นิดหน่อยเหรอ! แน่ใจเหรอว่านิดหน่อย”

            “ก็.....”

            “ไม่ต้องมาก็! ทำไมขับรถไม่รู้จักระวังนัท เป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”

            “สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่”

            “อย่ามาพูดอย่างนี้นะ!” กำปั้นเล็กสองกำปั้นทุบลงมาบนอกผมเต็มแรง ไอ้คนที่ไม่ได้ตั้งตัวอย่างผมก็จุกไปสิครับ

            “แล้วถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าขับรถเร็ว จะรีบไปไหนฮะ คิดว่าจะไม่ได้มาหารึไงแม่โอลีฟนั่นน่ะ อยากจะรีบตายไปถึงไหน หรือว่าอยากจะรีบหนีไปจากเรา! ถ้าเกิดว่ารถเบรคไม่ทัน... ถ้าเกิดว่านัทมาไม่ถึง....ถ้าเกิด....”

            ยิ่งกำปั้นนั้นทุบลงมาแรงมากเท่าไหร่ ยิ่งสั่นไปถึงใจผมมากเท่านั้น ผมไม่รู้ว่าซินไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร อาจจะเป็นทีมงานสักคนที่เล่าให้ฟัง หรือไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่

            แต่ว่า.... ซินเป็นห่วงผมมากขนาดนี้เลยเหรอ ผมทำให้เขากังวลใจมากขนาดนั้นเลยหรือไง ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากไปใช่มั้ยว่าเขาก็ให้ความสำคัญกับผมมากที่สุดเหมือนกัน

            อาจจะเป็นเพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นผมที่พยายามปรับเข้าหาเขามาโดยตลอด เป็นผมที่วิ่งไล่ตามแสงไฟแสนสวยของซิน ไขว่ขว้า ปกป้อง ประคับประคองแสงสีสวยนั้นไว้ไม่ให้หายไปไหน จนบางครั้งผมก็ลืมไปว่าแสงไฟแสนสวยนั้นก็ส่องแสงมายังผมเสมอเช่นกัน ความอบอุ่นนั้นไม่เคยห่างหายไปไหนเลย ยังคงอยู่ใกล้ๆ และเมื่อไหร่ที่ผมเหนื่อยล้าจนไปต่อไปไหว แสงไฟนั้นก็ยังคงหยุดรอ และประคับประคองผมลุกขึ้น

            หรือในบางครั้งที่ผมเดินไปยืนอยู่หน้าแสงไฟนั้น ปกป้องเขาจากสิ่งมัวหมองด้านหน้า ปัดป้องสิ่งเหล่านั้นทิ้งไป เพื่อให้ทางที่เราจะจับมือกันไปนั้นราบรื่น

            เราต่างคนต่างประคับประคองกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้

            .....เราทั้งสองคน.....

            แล้วผมนี่มัวคิด มัวสงสัยอะไรเขา

            ในเมื่อซินรักผมมากขนาดนี้

            “ถ้าเราไม่ได้เจอกันอีกจะทำยังไง” น้ำเสียงน้อยใจถามขึ้นพร้อมกับน้ำใสที่คลอหน่วยในดวงตากลมอีกครั้ง

            “เจอสิซิน ยังไงก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว”

            “แล้วถ้าไม่ได้เจอ”

            “ตายไปยังไงก็ต้องเป็นผีมาหานายอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหรอก”

            เพี๊ยะ!!!

            ชาวาบ.... ทุกส่วนในร่างกายหยุดทำงานไปในทันที คำพูดเล่นที่คิดไว้หายไปจนหมดสิ้น

            ไม่เคยเลยสักครั้ง ไม่เลยสักครั้งเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ซิน .....ตบหน้าผม

            ตบลงมาเต็มแรงจนทำให้ใบหน้าของผู้ชายตัวใหญ่กว่าคนนี้หันไปตามแรงมือ

            ผมผิด ผิดที่ล้อเล่นไม่ดูเวล่ำเวลา

            “พูดแบบนี้คิดหรือยัง” น้ำเสียงเรียบนิ่งกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับสายตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจ

            “หรือสักแต่ว่าพูด นึกอยากจะพูดอะไรก็พูดได้งั้นเหรอ”

            “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่...”

            “หรือคิดว่าเราไม่ได้เป็นห่วง หรือคิดว่าเราไม่ได้รู้สึกอะไร หรือคิดว่าถ้านัทเป็นอะไรไปแล้วเราจะไปหาใครมาแทนที่นัทได้”

            “ไม่ใช่แบบนั้นนะซิน”

            “แล้วยังไง!”

            “ไม่ยอมให้ใครมาแทนที่ฉันได้ทั้งนั้น ฉันนี่แหละที่จะดูแลนายเอง ฉันผิดที่ขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่ยอมมองสัญญาณไฟจราจรให้ดี ต่อไปนี้จะระวังให้มากกว่านี้ จะยอมตายได้ยังไงเล่า แบบนั้นแล้วใครจะเป็นบอดี้การ์ดให้นายล่ะ สัญญาเอาไว้แล้วนี่ว่าจะดูแล ยังไงฉันก็ไม่ยอมตายง่ายๆหรอกน่า”

            “แค่คำพูดนั่นน่ะ มันไม่พอหรอกนะ”

            “ไม่ต้องเชื่อคำพูดฉันก็ได้ ขอแค่นายอยู่ข้างๆฉัน ฉันจะทำให้นายรู้เองว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันพูดมันคือเรื่องจริง อยู่ข้างๆฉันนะ”

            “หึ”

            “อยู่ข้างๆนัทนะซิน”

            “.......”

            “นะครับ” พูดไปพร้อมกับกอดเอวบ้างเอาไว้ด้วย ประกอบกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆให้เขาถอยหนีไปด้านหลัง แต่จะไปไหนได้ไกลครับ ก็อยู่ในอกกันนี่แหละ จมูกโด่งสวยย่นอย่างนึกหมั่นไส้

            ผมคิดว่างั้นนะ ^^

            “พอแล้วน่า ไม่ต้องพูดแล้ว ก็เคยบอกไปแล้วไง ....ว่าถ้าไม่อยู่ตรงนี้ ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนแล้ว แต่จำไว้ด้วยแล้วกันว่าตัวเองพูดว่าอะไร”

            จะจำไปจนวันตายเลยครับ จะเอาวันนี้ย้ำเตือนในทุกๆวันว่าวันนึงที่ผมกำลังจะเสียเขาไป แต่สุดท้ายเขาก็ยังให้โอกาสผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้ และจะทำทุกวันต่อจากนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับโอกาสครั้งนี้ที่เขามอบให้ ไม่ว่ายังไงใจผมก็จะมีแค่ซินคนเดียว แค่นักร้องของผมคนนี้แค่คนเดียว

            “เจ็บมั้ย” มือสวยยื่นขึ้นแตะข้างแก้มผมที่คาดว่าน่าจะเป็นรอยมือเขาไปแล้วเรียบร้อย

            “นิดหน่อย”

            “จะได้ซ้ำอีกที” ไม่พูดเปล่านะครับ ง้างมือเตรียมจะทำจริงๆซะด้วย ทำเอาผมรีบตะครุบมือเล็กของเขาเอาไว้แทบไม่ทัน

            “ไม่เอาแล้วๆๆ เจ็บครับเจ็บ”

            “ทีหลังก็อย่าพูดอีกนะว่าจะตาย”

            “รู้แล้ว ไม่ยอมตายง่ายๆหรอก ....ฉันรักนายนะ”

            “ได้ยินแล้วน่า พูดอะไรกันบ่อยๆ”

            “ฉันรักนาย” คนสวยหรี่ตาแดงๆมองผมก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากกันไว้ ที่ไม่อยากได้ยินนี่เพราะเขินหรือเพราะอะไรกันแน่ครับ อยากรู้ซะแล้วสิ

            “ฉันรักนาย” พูดมันทั้งๆที่โดนปิดปากอยู่นี่แหละ เพราะรอยยิ้มที่กว้างขึ้นในทุกครั้งที่ผมบอกออกไป มันทำให้อยากพูดไปเรื่อยๆ อยากจะรู้นักว่ารอยยิ้มนั้นจะกว้างได้มากเท่าไหร่ด้วยคำพูดของผม

            “ฉัน....”

            “ฉันก็รักนายเหมือนกัน”

            คราวนี้เป็นผมเองที่ต้องยิ้มแก้มแทบแตก เพียงเพราะคำบอกรักของซินแค่คำเดียว

            “ซินก็รักนัทเหมือนกัน”

            แค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วจริงๆ ด้วยแรงดึดดูดของโลก แรงดึงดูดแห่งรัก หรือไม่ว่าจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่น มันทำให้ใบหน้าเราเคลื่อนเข้าหากันช้าๆ ท่ามกลางต้นไม้และนกตัวน้อยรายล้อมรอบตัวเป็นพยาน สัมผัสแห่งรักที่เราพากเพียรมอบให้กัน รสจูบหอมหวานนุ่มนวลมากกว่าทุกที เพราะครั้งนี้ ณ ที่แห่งนี้ ....ความรักของเรากลับมาประสานกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว

            นับตั้งแต่นี้ไป รักกันให้มากขึ้นทุกๆวันนะซิน

            ค่อยๆรักกัน ให้มันมากกว่านี้

            ให้มันดีกว่านิรันดร์

            …..

            เพราะคำว่านิรันดร์ มันไม่มีวันสิ้นสุด



THE END.
...

จบแล้ววววววว T^T จบแล้วค่ะ จบจริงๆ

ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ร่วมเดินทางกันมาจนถึงตอนนี้
มีความสุขมากจริงๆค่ะ ตลอดระยะเวลาที่แต่งก็มีท้อบ้างฮึดบ้าง
แต่เพราะได้กำลังใจจากทุกคน แยมถึงแต่งได้จบ

ขอบคุณมากๆนะคะที่อยู่ด้วยกัน ถ้ามีผิดพลาดไปตรงไหนแยมต้องขอโทษด้วยนะคะ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่แต่งฟิค -/\-
ดีใจที่ได้พบเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเพราะฟิคเรื่องนี้ เป็นมิตรภาพที่ดีมากๆเลยค่ะ
เรื่องนี้จบแล้วก็ยังไม่ได้หายไปไหนน้า ใครคิดถึงก็แวะไปอ่านคุณนักฆ่านะคะ >.< 555 ขายของๆ

สุดท้ายนี้รักทุกคนมากๆนะคะ รักมากจริงๆ แล้วพบกันใหม่นะคะ
ขอบคุณค่ะ :)
แยม.

******เปิดจองรวมเล่ม คุณบอดี้การ์ดแล้วจ้าาาา  ใครสนใจ >> คลิก http://my.dek-d.com/eucalyp/writer/viewlongc.php?id=943531&chapter=33 << เลยย

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เย้!!!!!!!!!!ดีกันแล้ววววววววว ซินน่ารักที่สุดเลย

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
จบแล้ว ลุ้นซะเหนื่อยเลย  :mew2:
ปล. รักน้องซิน  :o8:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

จบแล้วววว  :mew1:

จะไม่มีตอนพิเศษหน่อยเหรอออออออ  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ในที่สุดก็แฮปปี้ เย้ๆ
อยากได้ตอนพิเศษเหมือนกันอ้ะๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ฟิคเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ ตอนจบก็มีหลายอารมณ์ ชอบมากๆๆๆๆๆ  :กอด1:  :katai2-1: o18

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 ขอบคุณน้องแยมนะ รอติดตามเรื่องใหม่นะ

tw.choco

  • บุคคลทั่วไป
น่าร๊ากกกกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

Eucalyp

  • บุคคลทั่วไป
เปิดจอง My Bodyguard ค่า





รายละเอียดหนังสือ


หนังสือ              ขนาด A5

จำนวน               1 เล่ม

หน้าปก              พิมพ์ 4 สี เคลือบด้าน

เนื้อกระดาษ        กระดาษถนอมสายตา

จำนวนหน้า           ประมาณ 350 หน้า

ตอนพิเศษ           3 ตอน

          - กาลครั้งหนึ่งความรัก

          - เชียงใหม่

          - เถียงกันทำไม


ราคา          360    (รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน)

**พร้อมที่คั่น 1 อัน**

ระยะเวลาเปิดจอง ตั้งแต่วันนี้   ถึง   31 ธันวาคม 2556


 

วิธีสั่งจอง

สั่งจองได้ทาง Email : black-devil_deathอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com

ระบุหัวข้อว่า 'สั่งจอง My Bodyguard'

1. ชื่อผู้จอง

2. จำนวน…..เล่ม

แล้วเดี๋ยวแยมจะส่งรายละเอียดการโอนเงินให้ไปทางเมล์นะคะ

ใครที่ไม่ได้รับเมล์ตอบกลับภายในสองวัน รบกวนส่งกลับมาใหม่อีกรอบนะคะ


ขอบคุณทุกคนมากๆเลยค่ะ 
แยม.

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมากค่ะ มีทุกอารมณ์ ในที่สุดก็อยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ Anong2013

  • พ่อค้าขนหวาน Versions 1
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • www.thaiboyslove.com
อ่านตอนจบร้องไห้หนักมาก   สุดท้ายก็รักกันอย่างมีความสุข

สะใจแม่ดาราคนนั้น. เกียดพ่อของนัทเอาแต่ใจตัวเอง

ขอบคุณนักเขียนนะค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
สนุกมากเรื่อง ครบรสเลย

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Guy_BLove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด