เล่ห์ลวงใจ - ตอนพิเศษ แสงแรกแห่งปีใหม่ โพสต์วันที่ 1/1/59 (p.101)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เล่ห์ลวงใจ - ตอนพิเศษ แสงแรกแห่งปีใหม่ โพสต์วันที่ 1/1/59 (p.101)  (อ่าน 1058007 ครั้ง)

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
พี่กฤตก็สนุกไปเถอะนะคะ เล่นกับความรู้สึกคนมันไม่ตลกเลย :z6:
เดี๋ยวน้องตี้ได้ใจอ่อนให้อีกแน่ๆ

ออฟไลน์ skynotebook

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
โถ น้องตีตี้ พี่ว่าหนูหลงรักคุณกฤษตเข้าให้แล้วละค่ะ เอาจริงๆก็อยากให้ตีตี้ลองไปหาคุณกฤษตนะแล้วลองถามคำถามที่ว่าตีตี้มีความสำคัญกว่าคนอื่นบ้างไหม
อยากรู้ว่าคุญกฤษตจะแกล้งน้องยังไงบ้างอ

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
คือแบบอีคุณกฤตแอบเหนแก่ตัวอะ  คิดแจ่ว่าอยากได้ยังสนุกอยุ่ ไม่คิดถึงความรุ้สึกตี้เล้ยยยยย สงสารน้องมันจัง
ยิ่งตอนที่หยิบดิกนะเรานี่กลั้นหายใจเลยอะลุ้นตามมน้องตี้ ครึครึ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
 :sad4:รอตอนต่อไป :3123:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ตาเฒ่านี่จะทรมานกันไปถึงไหน?  :beat:


รอตอนต่อไปครับ  :L2:

ออฟไลน์ Minerva

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
//นึกถึงเรื่องมาเฟียที่รักของอ.ชินโจ
พวกเลี้ยงต้อยมันเป็นอย่างนี้เองสินะ  :o8:
น้องตี้เขาก็น่ารักดีนะ เข้าใจความรู้สึกเลยล่ะ
เพลาๆมือลงบ้าง น้องเขาซ้ำหมด  :hao7:

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
คือ ตี้อ่ะน่าจะเข้าใจหัวใจตัวเองไม่ยาก
แต่อีตาพระเอกนี่สิ มันต้องไม่รู้จักคำว่ารักแน่นอน มันเลยยังคงไม่รู้ตัวว่าไออาการที่เป็นอยู่นี่คือเริ่มรักน้องตี้ไปแล้ว
ชั้นหมั่นไส้อีตาพระเอกจังไว้ตอนมันขาดน้องไม่ได้ มันจะรู้สึก ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
เอาแล้วไง สับสนละดิ อิอิ

pupapeeranat

  • บุคคลทั่วไป
ใจแข็งไว้นะตี้ อิเฮียก็ช่างแกล้งน้องเสียจริง น่าตีจริงๆ

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ถ้าน้องตี้ยอม เสี่ยแกจะเบื่อมั้ย คำถามง่ายๆเลยนะเสี่ยนะ  :mew2: :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ความกังวลใจไม่หยุดหย่อน

ออฟไลน์ Verona

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตี้เอ๊ยยย ลูกไก่ในกำมือชัดๆ คุณกฤตจะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด..
ว่าแต่เมฆนี่ใครหนอ....

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เมฆ คือใครกันหนอ :m28:
แต่ตี้น้อยเริ่มมีใจให้ลุงแก่ๆอยากเลี้ยงเด็กแล้วล่ะมั้ง :z1:
ป้าบ! โดนคุณกฤตโบกหัว เรียกซะเสียเลย :pigha2:

ออฟไลน์ tpaibull

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ว่าดูๆไปคุณกฤตก็อ่อนให้น้องตี้กว่าตอนแรกนะ...
ลองเปิดใจมองอะไร...นอกจากพี่ณรงค์...ก็จะดี

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อิตาคุณกฤต ร้ายกาจจิงๆ
น้องตี้ สู้ๆนะลูกกกกกกกกกกกกกกก

ปล.เป็นกำลังใจให้คนแต่งมาอัพบ่อยๆ อิอิ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
คุณกฤตพูดตรงถูกใจเจ้จริง ๆ อิอิ
แต่ว่าเมฆนี่เป็นใครรึ

ต้นสน

  • บุคคลทั่วไป
 :katai4: รออยู่น้า คิดถึงตี้

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
ขออ่านด้วยคนนะคะ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
รอมาเฉลย เมฆคือ????????????????? :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ YJism

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ในที่สุดก็ตามอ่านจนทัน ขอสมัครเป็นแฟนคลับนิยายเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ แอบสงสารน้องตี้ บางตอนอ่านไปแอบน้ำตาซึม
คุณกฤตใจร้านกับน้องมาก ขนาดน้องไม่สบายก็ยังรังแก
ทำตัวให้ดีกับน้องตี้กว่านี้หน่อยซิ บางทีถ้าน้องมีคงามมั่นใจมากขึ้น
น้องอาจจะยอมคุณกฤตเองโดยที่คุณกฤตไม่ต้องเหนื่อยก็ได้นะ
คนอ่านรอลุ้นจนเหนื่อยแล้วค่ะเนี่ย 55555555 กลัวใจน้องตี้จริง ๆ
แต่ก็ดูเริ่มหวั่นไหวบ้างแล้วละนะ ขอให้คุณกฤตเอาชนะใจน้องตี้ให้ได้ในเร็ววัน
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

 :mew1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
หมั้นไส้คุณกฤตจังค่ะ

น้องตี้ขาอย่าเพิ่งหวั่นไหวลูก เล่นตัวไว้เยอะๆ  :laugh:

หนุกหนาน

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวสนุกมาก ชอบมาก มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ปูเสื่อรอ ด้วยใจจดจ่อออออ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog

A/N: เนื่องในโอกาสที่มาฆบูชา + วาเลนไทน์มาบรรจบกัน แต่เราเขียนตอนใหม่ของน้องตี้กับตากฤตไม่ทันจริงๆ เลยขอเอาเรื่องสั้นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่โพสต์ไว้ที่แฟนเพจมาลงให้อ่านกันก่อนนะคะ เรื่องนี้จะฉีกแนวจากที่เคยเขียนมาเลยเพราะอยากลองคอมิดี้วัยมัธยมดูมั่ง ตั้งใจให้อ่านแล้วเบาสมอง + มีอารมณ์กิ๊วก๊าวสมวัยใส ขออภัยที่มีคำหยาบมั่งประปรายเพราะอยากให้สมวัยตัวละครจริงๆ ว่าแล้วก็ขอถือโอกาสนี้อวยพรให้ทุกคนสุขสันต์วันหยุดยาวด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับตอนใหม่ของน้องตี้กับตากฤตในครั้งต่อไปค่า >.<



**************************************



ยั่วใจให้เจอรัก

ภายในห้องนอนที่ปิดประตูมิดชิดในบ่ายวันหนึ่ง อากาศในห้องเย็นกำลังดีจากเครื่องปรับอากาศที่จ่ายอุณหภูมิสม่ำเสมอ ทว่าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงกลับมีเหงื่อซึมตามต้นคอและแผ่นหลัง สองตาของเขาจับจ้องอัลบั้มภาพบนจอโน้ตบุ๊คที่ตั้งค่าให้แสดงต่อกันเป็นสไลด์โชว์อย่างจดจ่อ มือข้างหนึ่งก็กระทำการปรนเปรอส่วนล่างของตัวเองเป็นระวิง
 
"ฮึก...อะ...อื้อ....ฮ้า...นะ...โน้ต"
 
ทันทีที่ชื่อนั้นหลุดพ้นริมฝีปาก ความวาบหวามอันรุนแรงก็ผุดพลุ่งจนขนลุกชัน มือของเด็กหนุ่มเร่งจังหวะถี่ขณะที่อีกมือรีบหยิบกระดาษทิชชู่มารองหยาดหยดที่กำลังจะหลั่งทะลัก
 
"ฮ้า...."
 
เมื่อคลื่นแห่งความวาบหวิวสร่างซาเหมือนน้ำแข็งที่ละลาย กวินท์จึงค่อยรู้ตัวว่าเหงื่อออกจนเสื้อแนบติดแผ่นหลัง เขามองสิ่งที่เลอะอยู่กลางแผ่นกระดาษทิชชู่เนื้อนุ่ม จากนั้นก็เหลือบตาอันหรี่ปรือขึ้นมองภาพบนหน้าจอโน้ตบุ๊คอีกครั้ง รูปอันเย้ายวนที่กระแทกสายตาทำให้บริเวณท้องน้อยร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกระลอก
 
เฮ้ย! พอ! นี่มึงจะเกิดอารมณ์อะไรนักหนากับผู้ชายด้วยกันวะ! ไอ้กอล์ฟ!

.
.
.
.
.
 
ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน...
 
วันนั้นเป็นวันหลังจากขึ้นปีใหม่หมาดๆ โรงเรียนยังหยุดการเรียนการสอน บริษัทส่วนใหญ่ก็ยังไม่เริ่มทำงาน กวินท์ซึ่งเพิ่งไปฉลองวันขึ้นปีใหม่กับเพื่อนฝูงที่หอพักของเพื่อนถูกแม่โทรเรียกให้กลับมาเฝ้าบ้าน เขาจึงต้องพยายามปลุกตัวเองที่สะโหลสะเหลขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็หอบสังขารเดินออกจากซอยมาเรียกแท็กซี่
 
การจราจรที่โปร่งโล่งทำให้เขานั่งหลับๆ ตื่นๆ ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงหน้าบ้าน เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋าสตางค์มาจ่ายค่าแท็กซี่ให้คนขับซึ่งเป็นชายวัยกลางคน ระหว่างที่รอเงินทอนก็เหลือบไปเห็นอะไรสีดำชิ้นเล็กๆ หล่นอยู่ใกล้เท้าจึงหยิบขึ้นมาดู
 
"ลุงครับ สงสัยมีคนทำไมโครเอสดีหล่นไว้แน่ะ ใช่ของคนที่ลุงรับมาก่อนผมรึเปล่า?"
 
"หือ? ถ้าใช่ก็คงเป็นผู้โดยสารของคนที่เอารถไปวิ่งเมื่อคืนน่ะน้อง ของเช้านี้ผมเพิ่งไปรับรถแล้วก็รับน้องมาคนแรกนี่แหละ มันคืออะไรเรอะ?"
 
คนขับแท็กซี่หันมามองแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กจิ๋วกลางฝ่ามือของกวินท์แล้วขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มจึงเกาหัวขณะพยายามอธิบาย
 
"มันเอาไว้เก็บรูปหรือวิดีโอในมือถือน่ะลุง ถ้าเปิดดูไฟล์ที่เซฟไว้ก็คงพอรู้หรอกว่าเป็นของใคร เผื่อเอาคืนเจ้าของได้"
 
"งั้นน้องลองเปิดดูได้ไหมล่ะ ผมจะได้เอากลับไปบอกคนที่ขับรถเมื่อคืนถูก เผื่อเขาจะจำได้ว่ารับผู้โดยสารไปส่งแถวไหน"
 
"ก็ได้อยู่ งั้นแป๊บนะฮะลุง"
 
กวินท์หยิบโทรศัพท์มือถือแบบหน้าจอใหญ่เท่าฝ่ามือออกจากกระเป๋า จากนั้นก็ถอดฝาเอาไมโครเอสดีการ์ดที่เก็บได้ใส่เข้าไปในช่องเหนือแบตเตอรี เขาลองกดเข้าไปดูข้อมูลในโฟลเดอร์เผื่อว่าจะมีรูปถ่ายที่บ่งบอกตัวตนของเจ้าของ แต่พอรูปแรกปรากฏแก่สายตาก็เลิกคิ้วสูง พอเลื่อนนิ้วดูภาพถัดไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าผิวหน้าร้อนไม่หยุด คนขับเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรสักทีก็เร่งถาม
 
"ตกลงว่าไงน้อง? เห็นอะไรที่น่าจะบอกตัวเจ้าของได้มั้ย?"
 
"หา? อ๋อๆ มีฮะมี บังเอิญมากเลยลุง นี่มันของเพื่อนโรงเรียนเดียวกับผมเอง สงสัยเพื่อนลุงเมื่อคืนคงรับเพื่อนผมไปส่งบ้านแหงๆ เลย เดี๋ยวผมเอาไปคืนให้เองก็ได้"
 
"จริงเรอะ! งั้นก็โชคดีนะเนี่ยที่น้องเป็นคนเก็บได้ ถ้างั้นฝากเอาไปคืนเจ้าของเขาด้วยล่ะ เอ้านี่เงินทอน โชคดีนะน้อง"
 
"ขอบคุณครับลุง ขอให้ได้ผู้โดยสารเยอะๆ ครับ"
 
คนขับแท็กซี่หัวเราะร่วนขณะที่เด็กหนุ่มก้าวลงจากรถด้วยใจระทึก สองมือของเขาชุ่มเหงื่อจนต้องป้ายกับกางเกงยีนส์ ได้แต่หวังว่าผิวหน้าคงไม่แดงจนผิดสังเกต พอเปิดประตูเข้าบ้านได้แล้วเห็นว่าพ่อกับแม่ยังไม่กลับจากไปทำธุระ กวินท์ก็รีบวิ่งขึ้นห้องแล้วล็อกประตูทันที
 
เด็กหนุ่มเปิดลิ้นชักรื้อหาสายเชื่อมข้อมูล จากนั้นก็เปิดโน้ตบุ๊คแล้วเสียบสายเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เขาขยับเมาส์ไปมาเพื่อเปิดหาอัลบั้มภาพของไมโครเอสดีการ์ดที่เก็บมาได้ เมื่อได้ดูรูปบนหน้าจอขนาดสิบสี่นิ้วชัดๆ เขาก็ไม่เหลือข้อกังขาว่านี่คือรูปเพื่อนร่วมโรงเรียนจริงๆ ด้วย
 
"แม่เจ้าโว้ย...เห็นหงิมๆ ทำแบบนี้เป็นด้วยเหรอวะ"
 
รูปที่อยู่ในอัลบั้มล้วนแล้วแต่เป็นรูปของนฤชา เด็ก ม.5 ห้องคิงโรงเรียนเดียวกัน พวกเขาเคยเรียนห้องเดียวกันอยู่หนึ่งเทอมเพราะฝ่ายนั้นย้ายโรงเรียนมาตอน ม.3 เทอมสอง แต่ตั้งแต่ขึ้น ม.ปลายก็ไม่เคยได้คุยกันอีกเพราะเลือกแผนการเรียนต่างกัน ทว่าสิ่งที่ตรึงสายตาของเขาให้จ้องหน้าจอดุจมีพลังงานดึงดูดนั้นไม่ใช่เพียงเพราะนี่เป็นรูปของนฤชา แต่เพราะว่าแต่ละรูปที่ดูมุมกล้องแล้วน่าจะถ่ายด้วยตัวเองนั้นล้วนแต่เป็นรูปในอิริยาบถยั่วยวนที่ไร้เสื้อผ้าปิดบังทั้งสิ้น!
 
แสดงว่าพวกเด็กหัวกะทิก็ทำอะไรห่ามๆ แบบนี้ลับหลังคนอื่นเหมือนกันนี่นา รูปนี้...เอ่อ...ไม่นึกว่าจะมีน้องชายขนาดเกินตัวแบบนี้วุ้ย ว่าแต่หมอนี่ขาวไม่ใช่เล่นนะเนี่ย...ก้นก็งอนเชียว...แล้วนั่น...เฮ่ย! เอาจริงเด้ะ! มีดิลโด้เข้าฉากด้วยเรอะ!!
 
"ชิบเป๋ง!"
 
เด็กหนุ่มสบถเมื่อเลือดกำเดาไหลพรวดจนหยดเข้าปาก เขารีบลุกไปหากระดาษทิชชู่แล้วเอามาอุดจมูกไว้ ขณะเดียวกันก็ถอดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นที่ใส่อยู่ออกเพราะกลัวเลอะ แต่ความอยากรู้อยากเห็นยังไม่หมดไปเพราะรูปในอัลบั้มมีเยอะเหลือเกิน แถมยิ่งดูก็ยิ่งเจอแต่รูปที่ชวนให้หน้ามืดมากขึ้นเรื่อยๆ
 
ความอึดอัดจากกึ่งกลางร่างกายทำให้เด็กหนุ่มต้องเลื่อนมือไปแกะกระดุมกางเกงยีนส์และรูดซิปลง ความรุ่มร้อนที่เพิ่มขึ้นตามดีกรีความร้อนแรงของรูปดึงมือของเขาให้กุมความตื่นตัวของตัวเองไว้ การได้รูดรั้งส่วนนั้นไปมาขณะที่สองตามองภาพของนฤชาไปด้วยทำให้เด็กหนุ่มคลุ้มคลั่ง
 
ฮึ่ม...นี่กูมีอารมณ์เพราะรูปผู้ชายโป๊เหรอวะ แต่ว่า...เป็นใครจะทนไหว ไอ้โน้ตทั้งขาวทั้งเนียนแบบนี้ เห็นเวลาปกติชอบทำหน้านิ่งๆ แต่พอเวลาทำหน้าเซ็กซี่แล้วแม่ง...ยั่วยิ่งกว่านางแบบหนังโป๊อีก

ยิ่งคิดอารมณ์ของกวินท์ก็ยิ่งพลุ่งพล่าน เขาหยิบทิชชู่ออกจากจมูกเมื่อรู้สึกว่าเลือดหยุดไหล จากนั้นก็ใช้สองมือปรนเปรอแก่นกายของตัวเองอย่างจริงจัง เด็กหนุ่มมองรูปของเพื่อนร่วมชั้นที่กำลังใช้ริมฝีปากและปลายลิ้นกับ 'ของเล่น' ที่ทำเลียนแบบของจริงได้เหมือนจนน่าตกใจ แค่คิดว่าถ้าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเล่นสนุกคือของจริงของเขา กวินท์ก็หูอื้อตาลาย คลื่นความสุขอันหวานแหลมวิ่งปราดจากศีรษะจรดปลายเท้าในชั่วอึดใจ
 
เด็กหนุ่มถึงจุดสุดยอดในเวลาเพียงไม่ถึงสองนาที...ด้วยรูปของเพื่อนชายที่กำลังช่วยตัวเอง นี่เป็นสถิติใหม่ที่กวินท์ต้องจำไว้ขึ้นใจเลยทีเดียว
 
 
 
++------++
 
 
 
พวกเขาอายุเท่ากัน กวินท์จำได้เลาๆ ว่าเขาน่าจะแก่เดือนกว่านฤชานิดหน่อย แต่ก็จำไม่ได้ว่ากี่เดือนแน่
 
ตอนที่นฤชาย้ายมาโรงเรียนของเขาตอน ม.3 เทอมสอง เด็กหนุ่มสายตาสั้นมากจนต้องสวมแว่นหนาเตอะตลอดเวลา รูปร่างหรือก็ผอมเหมือนคนขาดสารอาหาร แต่เนื่องจากเป็นคนฉลาดหัวไวจึงทำให้อาจารย์เอ็นดู พวกเพื่อนๆ ผู้หญิงก็ชอบเพราะเจ้าตัวไม่หวงความรู้เวลาถูกถามการบ้าน ความที่ฝ่ายนั้นอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงเสมอทำให้เข้ากับพวกผู้ชายในห้องไม่ค่อยได้ หลายครั้งหลายคราที่โดนล้อว่าเป็นตุ๊ดถึงแม้จะไม่ได้ทำตัวกรีดกราย แต่เมื่อไหร่ที่มีคนล้อนฤชา พวกผู้หญิงในห้องก็จะออกโรงมาปกป้องกันประหนึ่งแม่นกปกป้องลูกนกเสมอ ทำเอาหมอนั่นยิ่งโดนเพื่อนผู้ชายหมั่นไส้เข้าไปใหญ่
 
พวกเขามาแยกห้องกันตอนขึ้น ม.ปลายเพราะทางโรงเรียนกำหนดให้ต้องสอบวัดคะแนนและเลือกแผนการเรียน นฤชาที่เลือกสายวิทย์และทำข้อสอบได้คะแนนสูงลิ่วถูกจัดเข้าห้องคิงโดยปริยาย ส่วนกวินท์ที่เลือกสายศิลป์คำนวนนั้นสอบได้คะแนนที่เรียกว่าคาบเส้น ถ้าไม่ได้โควต้าศิษย์เก่าช่วยไว้ก็อาจจะต้องระเห็จไปเรียนที่อื่นแล้วด้วยซ้ำ แต่เพราะอย่างนี้ พวกเขาสองคนจึงยิ่งเหมือนอยู่กันคนละโลกเข้าไปอีก
 
หลังจากปิดเทอมใหญ่จบลงและทุกคนได้พบหน้าเพื่อนๆ ในวันแรกของชีวิตมัธยมปลาย นฤชาก็ทำให้เพื่อนเก่าพากันประหลาดใจโดยถ้วนหน้า เพราะว่าภาพของเด็กผอมแกร็นแว่นหนาถูกแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อเพรียวกระชับและใบหน้าเกลี้ยงเกลาจากการใส่คอนแท็คต์เลนส์ ผมที่ยาวขึ้นเพราะตัดรองทรงต่ำช่วยขับให้ใบหน้ารูปไข่ยิ่งชวนมอง เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครจำภาพเด็กเนิร์ดที่มักถูกห้อมล้อมด้วยบรรดาเจ้าแม่ตอน ม. 3 ได้สักคน เพราะตอนนี้พวกผู้หญิงต่างก็อยากจะเข้าใกล้นฤชาเพราะบุคลิกที่ดูดีและมันสมองชั้นหัวแถวของโรงเรียนมากกว่า
 
ถ้าหากนับจากตอนที่รู้จักกันครั้งแรกก็เกือบจะสองปีแล้ว ว่าแต่พวกเขาเคยคุยกันเกินสามประโยครึเปล่านะ...

กวินท์คิดขณะเตะบอลส่งให้เพื่อนในสนามหลังกินข้าวกลางวันเสร็จ นี่ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้วตั้งแต่เขาเก็บไมโครเอสดีการ์ดได้และได้เห็นอัลบั้มภาพในนั้น ตอนแรกเขาก็เคยคิดเหมือนกันว่าจะเอาคืนให้นฤชายังไงดีถึงจะไม่อิหลักอิเหลื่อ เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ได้สนิทกัน แต่ถ้าฝ่ายนั้นรู้ว่าเขาเห็นรูปในอัลบั้มแล้วก็คงมองหน้ากันไม่ติดแน่
 
ว่าแต่...สรุปแล้วหมอนั่นคงจะชอบผู้ชายจริงๆ สินะ แถมดูจากในรูปแล้วก็ท่าทางจะอยากเป็นฝ่ายโดนทำซะด้วยสิ...
 
"เฮ่ย! ไอ้กอล์ฟ! มึงเตะบอลไปไหนวะ!!"
 
"ว้าย!"
 
เสียงตะโกนของเพื่อนและเสียงกรี๊ดจากนักเรียนหญิงแถวขอบสนามฉุดสติของกวินท์กลับมา เขามองตามทิศทางที่ตนเพิ่งเตะบอลไปและพบว่ามีเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังรุมล้อมใครสักคน จึงรีบวิ่งหน้าเริดเข้าไปดูเพราะกลัวว่าจะเป็นอาจารย์
 
"ขอโทษครับ! เป็นอะไรรึเปล่า?"
 
เสียงท้ายประโยคของเด็กหนุ่มหายลงไปในคอเมื่อเห็นว่าคนที่พวกนักเรียนหญิงกำลังช่วยกันประคองคือนฤชา สายตาหลายคู่ที่จ้องมายังเขาอย่างทิ่มแทงทำเอากวินท์อยากจะขุดรูหนี แต่นั่นก็ยังไม่กรีดหัวใจเท่าแววตาตัดพ้อจากคนที่โดนฤทธิ์ลูกบอลของเขาเข้าไปจนตัวงอ
 
"ไม่เป็นอะไร..."
 
"ว้าย! โดนลูกบอลอัดเข้าไปแรงขนาดนั้นจะไม่เป็นอะไรได้ยังไง! ไปห้องพยาบาลดีกว่านะโน้ต!"
 
"จริงด้วย อย่าเพิ่งขึ้นห้องเลย เดี๋ยวพวกเรานั่งเป็นเพื่อนจนกว่าโน้ตจะหายจุกก็ได้"
 
“โน้ตเดินช้าๆ นะ ไม่ต้องรีบหรอกจ้ะ”
 
อู๊ยยยยยย ยายพวกนี้เป็นเพื่อนหรือเป็นแม่วะ!? กวินท์คิดแม้ว่าในใจจะรู้สึกผิด เขามองคนที่เดินเอามือกุมท้องไปยังม้านั่งขอบสนามอย่างช้าๆ แล้วก็หันไปเตะบอลส่งให้เพื่อนๆ ก่อนจะแหวกพวกผู้หญิงเข้าไปหานฤชาที่นั่งอยู่ตรงกลาง
 
"ไปห้องพยาบาลกัน ไหนๆ เราเป็นคนทำก็ต้องรับผิดชอบ ยังเดินไหวใช่รึเปล่า?"
 
กวินท์ถามพลางยกแขนข้างหนึ่งของนฤชาขึ้นพาดบ่า อีกฝ่ายกะพริบตาปริบขณะมองเขาด้วยแววตางุนงง พลันเสียงออดเข้าเรียนภาคบ่ายก็ดังขึ้น นฤชาจึงหันไปหาเพื่อนๆ ที่ต่างกำลังมองมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง
 
"ทุกคนขึ้นไปเรียนเถอะ ฝากบอกอาจารย์ก็แล้วกันว่าเราอาจตามไปช้าหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วงนะ"
 
เอ่ยจบแล้วคนพูดก็ยิ้มหวานให้พวกสาวๆ แต่กวินท์เห็นแล้วกลับคันยุบยิบในหัวใจพิกล จึงหันไปตะโกนบอกเพื่อนๆ บ้างว่าจะพาคนเจ็บไปห้องพยาบาล จากนั้นก็พยุงนฤชาออกเดินด้วยความระมัดระวังที่สุดเพราะกลัวอีกฝ่ายจะกระเทือน
 
หมอนี่...ตัวอุ่นจัง...ผมก็หอม...ใช้แชมพูกลิ่นผลไม้เหรอ...

ส่วนสูงของทั้งคู่ไม่ได้ต่างกันมากแม้ว่านฤชาจะผอมเพรียวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นทำให้กวินท์ลอบหันไปสูดกลิ่นแชมพูจากเรือนผมของอีกฝ่ายได้อย่างถนัดถนี่ แต่ไม่นานก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ คนที่เอาแต่เดินกุมท้องเงียบๆ ก็เอ่ยขึ้น
 
"แค่จุกนิดหน่อย ไม่ได้ขาหัก เดินช้าอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะถึงห้องพยาบาล?"
 
"เอ่อ...ก็จริง โทษทีลืมไป"
 
นัยน์ตาวาวๆ ของคนที่เขาแอบหอมผมไปหลายทีทำให้กวินท์ต้องยอมเร่งฝีเท้า พอเดินไปถึงห้องพยาบาลเขาก็ผลักประตูเข้าไปด้านใน แต่เมื่อเห็นว่าอาจารย์ประจำห้องพยาบาลไม่อยู่ก็เลยพานฤชาไปนั่งที่เตียง
 
"งั้นเดี๋ยวรออาจารย์มาก่อนก็แล้วกัน นี่หายจุกมั่งรึยัง?"
 
กวินท์ย่อตัวลงถามอย่างเป็นห่วง คนที่ยังนั่งตัวงอเล็กน้อยเพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆ
 
"ก็ยังเจ็บนิดหน่อย แต่นายนี่ฝีเท้าแรงเอาเรื่องนะ เมื่อกี้เราถึงกับล้มลงบนพื้นเลย"
 
ทั้งที่คำพูดเอาเรื่องแต่กลับมีแววยั่วล้อในน้ำเสียง แถมริมฝีปากของคนที่ช้อนสายตาขึ้นมองเขายังผุดรอยยิ้มให้เห็นจางๆ ทำเอากวินท์ตาพร่าพรายไปหมด
 
หมอนี่...ยิ้มให้เรา...แถมยัง...นั่งอยู่บนเตียงด้วย...
 
"เฮ้ย! กอล์ฟเป็นอะไร!? เลือดกำเดาไหลโจ๊กเลย!"
 
"หา!?"     
 
กวินท์ยกมือขึ้นกุมจมูกด้วยความตกใจ ส่วนคนที่นั่งอยู่บนเตียงรีบกระโดดลงมาดันเขาขึ้นไปนอนแทน จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาให้เขาซับเลือด
 
"เป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมจู่ๆ ก็เลือดกำเดาพุ่งอย่างนั้นล่ะ?"
 
"เอ่อ...ไม่รู้ดิ สงสัยอากาศร้อนมั้ง"
 
เด็กหนุ่มตอบพลางยิ้มแหยๆ ขณะเดียวกันอาจารย์ประจำห้องพยาบาลก็เปิดประตูเข้ามา พอเห็นกวินท์นอนเลือดกำเดาไหลจึงมาช่วยดูแลต่อและให้นฤชากลับไปเรียน เขาจึงได้แต่มองตามคนที่เดินออกไปตาละห้อย ตกลงว่านี่ใครพาใครมาให้อาจารย์ช่วยรักษากันแน่ แล้วทำไมคนที่ตอนแรกยังเดินตัวงอๆ เหมือนเจ็บท้องถึงเดินปร๋อได้ไวแบบนั้นล่ะ
 
ว่าแต่...เมื่อกี้หมอนั่นเรียกชื่อเขาใช่ไหมนะ?
 
 
 
++------++
 
 
 
"เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะกอล์ฟ ตั้งแต่กลับมาจากห้องพยาบาลก็ยิ้มเอาๆ กูเห็นแล้วขนลุก"

"เออ รอยเลือดแม่งก็เปรอะเต็มเสื้อ ใครไม่รู้มาเห็นคงนึกว่าแม่งไปปาดคอใครมา"
 
"ถ้าพวกมึงเงียบมั่งกูก็ไม่ด่าว่าใบ้นะ คนกำลังอารมณ์ดีๆ ทำเสียมู้ดหมด"
 
พวกเพื่อนๆ ทำหน้าเหวอหลังได้ยินสิ่งที่กวินท์พูด แต่ก็แซวต่อไม่ได้เพราะอาจารย์หันมาเขม่นเมื่อพบว่าเจ้าพวกลิงหลังห้องไม่ตั้งใจฟังสิ่งที่สอน จึงรีบพากันก้มลงทำท่าสนใจโคลงกลอนของสุนทรภู่ในหนังสือ แต่กวินท์กลับเอาแต่ยิ้มด้วยความครึ้มอกครึ้มใจเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพยาบาลก่อนที่เขาจะกลับขึ้นมาเรียนภาคบ่าย
 
ปัญญาอ่อนชิบเป๋งเลยกู ทำไมแค่โดนจำชื่อได้จะต้องดีใจขนาดนี้ด้วยวะ...
 
หลังจากเลิกเรียนแล้วกวินท์ก็นั่งรถเมล์กลับบ้าน พอแม่เห็นเสื้อเขาและได้รู้สาเหตุที่มีรอยเลือดเลอะเทอะก็บ่นซะเด็กหนุ่มหูแทบไหม้ เขารีบถอดเสื้อกับส่งผ้าเช็ดหน้าให้แม่ซักแล้วก็ขึ้นห้องล็อคประตู จากนั้นก็ไม่ลืมเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อดูอัลบั้มรูปของนฤชาเช่นที่ทำจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
 
แต่วันนี้กวินท์พบว่าเขาไม่เกิดอารมณ์กับรูปพวกนั้นอีกแล้ว
 
เด็กหนุ่มหวนนึกไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ ทั้งตอนที่ได้เข้าไปช่วยพยุงนฤชาไปห้องพยาบาล ทั้งกลิ่นผมและกลิ่นตัวหอมๆ ที่ได้สูดยามอยู่ใกล้ น้ำเสียงหยอกล้อและรอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้เขา พอนึกถึงตัวจริงของคนในภาพ กวินท์ก็ไม่อยากใช้รูปพวกนี้เป็นเครื่องมือในการบำบัดความใคร่อีก
 
พอกันทีความสุขอันว่างเปล่ากับภาพที่จับต้องไม่ได้ เขาอยาก...สนิทสนมกับหมอนั่นมากกว่านี้ แล้วก็อยากเห็นรอยยิ้มแบบที่ได้รับวันนี้บ่อยๆ มากกว่า
 
เขายังจำท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของนฤชาตอนที่เห็นเขาเลือดกำเดาไหลได้ดี สีหน้าตื่นตกใจเช่นนั้นทำให้กวินท์ยิ้ม คลื่นความอบอุ่นอันไม่คุ้นเคยไหลเวียนในอกอย่างเข้มข้น และแล้วท่ามกลางความรู้สึกอ่อนหวานที่เอ่อท้นในใจ เขาก็คิดตกถึงเรื่องที่ควรจะทำมาตั้งแต่วันแรกที่เก็บไมโครเอสดีการ์ดแผ่นนี้ได้เสียที
 
 
++------++

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ถึงคิดได้แล้วว่าจะคืน...แต่จะคืนท่าไหนล่ะหว่า จู่ๆ ก็เดินเอาไปให้เลยเรอะ? หรือจะใส่ซองแล้วแอบไปวางใต้โต๊ะช่วงที่โน้ตไม่อยู่...ไม่ดีๆ เกิดมีคนอื่นทะลึ่งเอาไปเปิดดูจะทำยังไง คงไม่มีใครหรอกที่เห็นรูปพวกนั้นแล้วจะปิดปากเงียบได้เหมือนเราน่ะ
 
แต่ถ้าหากเอาไปคืนกับเจ้าตัวเอง ก็ต้องหาวิธีแยกโน้ตออกมาจากพวกสาวๆ ที่ชอบล้อมหน้าล้อมหลังก่อนน่ะสิ แต่ไม่กี่วันก่อนเราเพิ่งเตะบอลโดนหมอนั่นไป ถ้ายายพวกนั้นเห็นเราเข้าไปใกล้โน้ตคงได้พากันจูงมือวิ่งหนีแหงๆ โอ๊ย...เอาไงดีโว้ยยยยย!!
 
กวินท์หมกมุ่นครุ่นคิดมาจนล่วงเข้าวันศุกร์ เขาเอาแต่คิดตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านจนมาถึงโรงเรียน กระทั่งเข้าแถวเคารพธงชาติก็ยังได้แต่จดๆ จ้องๆ ไปทางแถวของห้องคิงด้วยความสองจิตสองใจ ไอ้อยากคืนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจก็อยาก หากแต่อีกใจก็บอกตัวเองว่าเจ้าของเขาไม่รู้สักหน่อยว่าใครเป็นคนเก็บได้ ดังนั้นถึงไม่คืนก็ไม่มีใครมาว่าเขาแท้ๆ
 
เด็กหนุ่มนั่งเรียนคาบเช้าอย่างกระสับกระส่ายเพราะความคิดที่ขัดแย้งกัน พอพักเที่ยงเขาก็เดินออกจากห้องเพื่อไปโรงอาหารกับเพื่อนๆ พลันฝีเท้าที่กำลังจะก้าวลงบันไดก็ชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นนฤชากำลังเดินมากับเพื่อนร่วมห้องอีกสามคน แต่ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งเพราะเพื่อนที่รายล้อมล้วนเป็นผู้ชาย คนหนึ่งเดินเอาแขนคล้องไหล่เจ้าตัวด้วยท่าทางสนิทสนม ส่วนอีกสองคนก็หันไปพูดคุยหยอกล้อด้วยสีหน้าออกรสเช่นกัน ภาพนั้นทำให้คลื่นพลังงานร้อนๆ แล่นจี๊ดขึ้นสมองของคนเห็นทันที
 
หรือความจริงแล้วรอยยิ้มที่เคยให้เขาเมื่อวันก่อน...ก็ไม่ได้ต่างจากเวลาที่ยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นเลยสินะ
 
กวินท์มองเจ้าของมือที่กำลังกอดไหล่นฤชาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง และแล้วโดยไม่สนใจเพื่อนฝูงที่เดินตามมา เขาก็สาวเท้าเข้าไปหานฤชาเหมือนมองไม่เห็นคนที่ยืนอยู่รอบๆ เจ้าตัว
 
"โน้ต เรามีของจะคืนให้ ทีหลังจะทำอะไรแบบนี้ก็ระวังคนอื่นเห็นหน่อยนะ"
 
"เอ๊ะ?"
 
กวินท์ยัดผ้าเช็ดหน้าที่ห่อไมโครเอสดีการ์ดลงในมือของนฤชาโดยไม่สนใจสีหน้างุนงง เขาไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมก็หมุนตัวเดินจากมา หูได้ยินเสียงเพื่อนของนฤชาถามแว่วๆ ว่า "อะไรเหรอโน้ต?" จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ที่วิ่งตามมาจากด้านหลัง ก่อนที่ใครบางคนจะกระชากเขากลับไปแล้วซัดหมัดลุ่นๆ เข้ามาเต็มปลายคาง

"เฮ้ย! โน้ต!!! / ไอ้กอล์ฟ!!!"
 
เพื่อนฝูงของเด็กหนุ่มทั้งสองร้องออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นนฤชาต่อยกวินท์จนล้มลงบนพื้น และท่าทางเจ้าตัวจะอยากเข้ามาซ้ำถ้าไม่ใช่เพราะถูกเพื่อนๆ ช่วยกันรั้งตัวไว้
 
"ทำไม! ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย!! แกล้งกันแบบนี้สนุกมากใช่มั้ย!?!"
 
ทุกคนในเหตุการณ์ยิ่งงงเป็นไก่ตาแตกในเมื่อเห็นชัดๆ ว่าคนพูดทำร้ายกวินท์ก่อน เสียงตะคอกของนฤชาทำให้อาจารย์ณวัฒน์ที่กำลังอยู่ในห้องพักยื่นหน้าออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นกวินท์นั่งเอามือข้างหนึ่งกุมแก้มอยู่บนพื้นแถมบนมุมปากมีเลือดไหลซึม ส่วนคนรอบๆ ก็พากันยืนมุงโดยไม่ทำอะไรจึงรีบก้าวเข้ามาทันที
 
"พวกเธอทำอะไรกัน! กวินท์ ใครต่อยเธอ!?"
 
เด็กหนุ่มหันไปอีกทางเพราะไม่ต้องการจะตอบ ทว่าสายตาของคนอื่นๆ ที่มองไปยังนฤชาเป็นตาเดียวก็ช่วยบอกใบ้ได้เป็นอย่างดี อาจารย์หนุ่มกวาดสายตามองคู่กรณีทั้งสองแล้วก็จับแยกออกมา
 
"คนอื่นจะไปกินข้าวหรือไปเรียนก็ไป แต่สองคนนี้ต้องไปห้องปกครองกับครูเดี๋ยวนี้!"
 
กวินท์กับนฤชามองหน้ากันแล้วก็เดินตามอาจารย์ไปโดยไม่มีทางเลือก หลังจากส่งตัวพวกเขาให้อาจารย์เกรียงไกรซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองและเล่าเรื่องคร่าวๆ แล้ว อาจารย์ณวัฒน์ก็ขอตัวกลับไปเตรียมการสอนวิชาต่อไป ปล่อยให้สองหนุ่มโดนสอบสวนกันตามลำพัง
"ชกต่อยกันงั้นรึ เฮ้อ...พวกเธอจะทำอะไรให้มันพัฒนากว่าสามสิบปีที่แล้วมั่งไม่ได้รึไง เอ้า! ตกลงว่าเรื่องเป็นมายังไง?"
 
อาจารย์เกรียงไกรถามหลังจากหันไปหรี่เสียงโทรทัศน์ ฝ่ายนฤชายืนก้มหน้านิ่งโดยไม่เอ่ยอะไร ทว่าขอบตาเริ่มแดงขณะที่ริมฝีปากเม้มสนิท กวินท์เหลือบไปเห็นก็รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คงไม่ยอมปริปากแน่ จึงตัดสินใจตอบคำถามของอาจารย์เอง
 
"ผมไปยั่วโมโหเขาก่อนครับอาจารย์ นฤชาโกรธก็เลยเข้ามาต่อยผม ผมผิดเองครับ"
 
คนที่ยืนก้มหน้านิ่งหันขวับมามองเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจ กวินท์มองเห็นทางหางตาแต่ก็บังคับตัวเองไม่ให้หันไปหา อาจารย์เกรียงไกรจึงหันไปถามคู่กรณีบ้าง
 
"นฤชา ที่หมอนี่เล่ามาถูกต้องมั้ย?"
 
"ผม...เอ้อ...ก็ไม่เชิงครับอาจารย์ ผมอารมณ์ร้อนเองถึงยั้งมือไม่อยู่ คนที่ผิดคือผมคนเดียว อย่าทำโทษกวินท์เลยครับ"
 
"เฮ่ย! ไม่ได้สิเพราะเราทำให้โน้ตโมโห โน้ตจะเป็นคนผิดได้ยังไง!"
 
"แต่เมื่อกี้เราต่อยกอล์ฟ..."

อาจารย์เกรียงไกรได้แต่ยกมือขึ้นนวดขมับพลางคิดว่าช่างเป็นการเสียเวลาพักเที่ยงที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี คราวหลังเขาคงต้องหาโอกาสเตือนอาจารย์ณวัฒน์ว่าอย่าตื่นตูมจนเกินเหตุเวลาพวกเด็กๆ ทะเลาะกัน เพราะไอ้พวกนี้ก็ดีแต่ฮอร์โมนพลุ่งพล่านให้ผู้ใหญ่เวียนหัว
 
"เอาล่ะๆ สรุปว่าต่างคนต่างอยากจะรับผิด ถ้างั้นก็ไปขอโทษกันเองก็แล้วกัน เรื่องวันนี้ครูจะไม่ลงบันทึกไว้เพราะถือว่าเป็นความผิดสถานเบาครั้งแรก แต่ถ้ามีครั้งต่อไปจะโดนหักคะแนนและเรียกผู้ปกครองแน่ๆ เข้าใจมั้ย?"
 
"ครับ!"
 
ทั้งคู่ตอบเป็นเสียงเดียวกันก่อนจะเดินออกจากห้องฝ่ายปกครอง หลังจากกวินท์สวมรองเท้าแล้วก็เดินกลับขึ้นอาคารเรียน นฤชาที่เห็นดังนั้นจึงเดินตาม
 
"กอล์ฟ ไม่ไปกินข้าวเหรอ?"
 
"หือ? ไม่อะ กะจะโดดเรียนบ่ายนี้ จะไปด้วยกันมั้ย?"
 
"หา!? แต่เมื่อกี้อาจารย์เพิ่งบอกนะว่าถ้าทำผิดอีกจะหักคะแนนแล้วเรียกผู้ปกครองด้วย ยังจะโดดอีกเหรอ?"
 
กวินท์ใช้นิ้วโป้งถูจมูก ถึงแม้คำขู่ของหัวหน้าฝ่ายปกครองเมื่อครู่จะมีน้ำหนักอยู่บ้าง แต่เขาก็พอจะนึกวิธีเอาตัวรอดได้จึงยักไหล่
 
"ก็อย่าให้โดนจับได้ก็สิ้นเรื่อง ถ้าสนใจจะโดดด้วยกันก็ตามมา เพราะถ้าขืนไม่รีบไปแล้วคนอื่นมาเห็นเข้าจะลำบาก"
 
พอเห็นว่านฤชายังทำท่าอึกอัก กวินท์จึงหันหลังแล้วซอยฝีเท้าขึ้นบันได แต่แล้วก็ต้องหันกลับไปเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมาด้านหลัง นฤชาเห็นสีหน้าข้องใจเช่นนั้นก็ย่นจมูก
 
"ไหนๆ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่ ถ้ากอล์ฟโดดเราก็โดด"
 
 
 
++------++
 
 
 
พวกเขานัดเจอกันที่มุมตึกหลังต่างฝ่ายต่างแยกกันไปเอากระเป๋าที่ห้อง จากนั้นก็ลอดรั้วลวดหนามบริเวณกำแพงโรงเรียนที่ยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมออกไปด้านนอก กวินท์เรียกแท็กซี่แล้วก็พานฤชาไปกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งในตลาดซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนพอสมควร จากนั้นก็ไปเดินเล่นต่อที่ห้างแล้วแลกเหรียญเล่นเกมตู้ด้วยกัน พอเบื่อก็ไปเข้าห้องคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญแล้วร้องเพลงแข่งกันจนเสียงแห้ง กระทั่งเย็นย่ำแล้วพวกเขาก็กินข้าวเย็นที่ศูนย์อาหารก่อนจะชวนกันกลับบ้าน
 
"กอล์ฟ ไม่เจ็บที่โดนเราต่อยเหรอ?"
 
จู่ๆ นฤชาก็ถามขึ้นระหว่างที่พวกเขาเดินออกจากห้างไปยังป้ายรถเมล์ กวินท์จึงเอาลิ้นดุนๆ ด้านในริมฝีปากแล้วยักไหล่
 
"ก็ยังเจ็บเหมือนกันแต่ไม่มาก ว่าแต่เห็นเงียบๆ อย่างนี้หมัดหนักเอาเรื่องนะเรา"
 
กวินท์เอ่ยแล้วก็ตบหลังนฤชาด้วยแรงตามปกติที่เล่นกับเพื่อน แต่พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเบ้ก็ตกใจจนต้องรีบเอามือลูบหลัง
 
"ขอโทษๆ เจ็บมากมั้ย? ไอ้เราก็ชินมือเวลาเล่นกับพวกไอ้ธี ลืมไปว่าเล่นกับโน้ตแรงๆ แบบนี้ไม่ได้"
 
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อนฤชาเม้มปากแล้วมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ เด็กหนุ่มได้แต่ยกมือเกาหัวแล้วก็หลบตา เพิ่งจะตระหนักได้ว่าคำพูดของตนตอกย้ำว่ารู้รสนิยมของอีกฝ่ายผ่านรูปที่เคยเห็นได้เป็นอย่างดี
 
"กอล์ฟ ตอบมาตรงๆ นะ นายขโมยโทรศัพท์เราไปช่วงก่อนปีใหม่ใช่มั้ย?"
 
คราวนี้กวินท์หันขวับกลับมาราวกับคอติดสปริง "ห้ะ!? อย่างเราเนี่ยนะ! ถึงจะเกเรยังไงที่บ้านก็ไม่เคยสอนให้ขโมยของใครนะเว่ย! อีกอย่างโน้ตใช้โทรศัพท์รุ่นไหนเรายังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ แล้วจะไปขโมยได้ยังไง!?"
 
ต้องบอกว่าตั้งแต่ก่อนจะได้เห็นรูปวาบหวิวพวกนั้นนี่เขาไม่เคยสนใจอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ แล้วเรื่องเสียศักดิ์ศรีอย่างลักขโมยของคนอื่นเนี่ยนะ ฮึ! ให้โดนตัดนิ้วก็ไม่ลดตัวลงไปทำหรอก!
 
นฤชาฟังแล้วก็ถอนหายใจ นัยน์ตาทอดต่ำลงวูบหนึ่งก่อนจะก้าวออกไปโบกมือเรียกแท็กซี่ จากนั้นก็หันมาดึงแขนกวินท์ให้เข้าไปนั่งในรถด้วยกัน
 
"ถ้างั้นไปแวะบ้านเราก่อน เดี๋ยวจะช่วยทำแผลให้ ถือว่าขอโทษที่เราปรักปรำแล้วก็ทำให้กอล์ฟเจ็บตัว"
 
ไม่ว่านฤชาจะมีเจตนาอะไรก็ตาม แต่กวินท์ได้ฟังคำเชิญก็ทั้งตื่นเต้นทั้งกระสับกระส่าย ระหว่างที่นั่งในรถแท็กซี่นั้นพวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ แต่กวินท์ก็เห็นว่าคนข้างตัวเอาแต่ยกมือขึ้นกัดเล็บเหมือนมีเรื่องอะไรให้ต้องคิดตลอดทาง
 
เมื่อรถมาจอดที่จุดหมายปลายทาง กวินท์ก็ตื่นเต้นอีกครั้งที่พบว่านฤชาไม่ได้อาศัยอยู่ใน 'บ้าน' แต่เป็นคอนโดหรูหราใจกลางกรุงที่พ่อแม่ของเขาคงไม่คิดจะซื้อ เมื่อขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันก็ได้พบว่าห้องที่นฤชาอาศัยนั้นเป็นห้องใหญ่ที่มีสองห้องนอนในตัว แต่เมื่อมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นใครจึงถามอย่างสงสัย
 
"โน้ตอยู่คนเดียวเหรอ?"
 
"เปล่า เราอยู่กับพี่สาวสองคน เขาเป็นครูสอนโยคะที่ฟิตเนสก็เลยจะกลับดึกทุกวัน ส่วนพ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศทั้งคู่ ปีนึงก็จะกลับมาเยี่ยมพวกเราสองสามครั้ง"
 
นั่นมันชีวิตอิสระในฝันของเขาเลยนะนั่น...กวินท์คิดเพราะที่บ้านของเขาอยู่กันห้าคน มีทั้งพ่อ แม่ พี่ชาย เขา แล้วก็น้องชายที่เป็นลูกหลงมาเพราะเพิ่งเข้าเรียนชั้นประถม แต่พอสังเกตเห็นแววตาเหงาๆ ของคนพูดจึงตัดสินใจไม่เอ่ยสิ่งที่กำลังคิดออกไป
 
"กอล์ฟรอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวไปเอากล่องพยาบาลมาทำแผลให้"
 
"อื้อ"
 
กวินท์ตอบรับแล้วก็มองไปรอบห้องรับแขก การตกแต่งโดยรวมของที่นี่เน้นสีฟ้าอ่อน ชมพูอ่อนแล้วก็ครีม ลักษณะที่บ่งบอกว่าผู้หญิงเป็นเจ้าของชัดเจนก็คือหมอนอิงลายคิตตี้และตุ๊กตาขนฟูหลากสีหลายไซส์ เขาได้แต่คิดว่าถ้าตัวเองโดนจับให้มาอยู่ท่ามกลางของน่ารักอย่างนี้ทุกวันคงไม่แคล้วเป็นโรคประสาทแน่
 
"มาแล้วกอล์ฟ นั่งสิ"
 
"อ้อ ได้ๆ"
 
เด็กหนุ่มรับคำพลางเดินไปนั่งบนโซฟายาวตัวเดียวกับนฤชา อีกฝ่ายยังคงอยู่ในชุดเครื่องแบบเรียบร้อยคือเสื้อสอดชายเข้าในกางเกงและถุงเท้าเรียบตึงถึงหน้าแข้ง ส่วนตัวเขาน่ะดึงชายเสื้อออกแล้วก็ร่นถุงเท้าลงไปถึงข้อเท้าตั้งแต่ตอนที่พ้นรั้วโรงเรียนแล้ว

ดูแล้วเหมือนเจ้าชายกับนายกระจอกพิก๊ล...ตอนคนอื่นเห็นพวกเขาเดินด้วยกันวันนี้ก็คิดแบบนั้นรึเปล่าหว่า
 
กวินท์คิดขณะมองนฤชาเปิดกล่องพยาบาลแล้วหยิบสำลีมาเทแอลกอฮอลล์ใส่ แล้วก็ต้องหลุดปากร้องซี้ดเมื่อถูกแนบสำลีบนแผลที่แตกตรงมุมปาก
 
"เจ็บเหรอ!? ขอโทษๆ ไม่เป็นไรนะ"
 
ไม่รู้ว่านฤชาลืมไปว่าคนตรงหน้าเป็นเพื่อนวัยเดียวกันแถมยังถึกบึกบึนหรืออย่างไร เด็กหนุ่มจึงโน้มหน้าเข้ามาเป่าปากเบาๆ บนมุมปากที่เป็นแผลของกวินท์ราวจะช่วยปลอบโยน ลมหายใจอุ่นๆ ที่กลิ่นคล้ายน้ำผึ้งทำให้คนถูกเป่านั่งตัวแข็ง ท่าทางผิดปกติเช่นนั้นทำให้นฤชามุ่นคิ้ว
 
"กอล์ฟ? เป็นอะไรรึเปล่า?"
 
"โน้ต นาย...คิดอะไรกับเรามั่งมั้ย?"
 
พอคำถามนั้นหลุดจากปาก กวินท์จึงเพิ่งพบว่าตนไม่ได้เพียงแค่คิดคำถามนั้นในหัวเสียแล้ว เขาทำตาโตด้วยความตกใจเช่นเดียวกับคนถูกถาม แต่พอเห็นใบหน้าของนฤชาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เด็กหนุ่มก็รับรู้ถึงความฮึกเหิมที่ลุกโชนขึ้นในใจ
 
"ที่ถามแบบนี้เพราะได้ดูรูปที่เราถ่ายแล้วสินะ คงคิดว่าเราน่าขยะแขยงล่ะสิ"
 
น้ำเสียงสั่นเครือและนัยน์ตาที่มีหยาดน้ำคลอทำเอากวินท์แทบวางมือไม้ไม่ถูก เขาไม่นึกเลยว่าคำถามพื้นๆ ของตัวเองจะไปจี้ต่อมเซ้นสิทีฟของอีกฝ่ายเข้าอย่างจังแบบนี้
 
"เฮ้ย! ไม่ใช่นะ! รูปพวกนั้นเซ็กซี่ออก! คือ...เราไม่เคยขยะแขยงโน้ตเลยนะ แค่แปลกใจนิดหน่อยตอนที่รู้ว่าชอบแบบนี้ แล้วก็...ถึงก่อนหน้านี้จะไม่เคยคิดอะไรกับโน้ต แต่พอเห็นรูปพวกนั้น เรา...เรา..."
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2014 17:36:16 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
กวินท์ละล่ำละลักตอบ แล้วก็เกิดอาการติดอ่างเมื่อไม่รู้จะอธิบายต่ออย่างไรดี ถ้าบอกว่าเขาสนใจนฤชาเพราะได้เห็นรูปพวกนั้นก็ช่างดูฉาบฉวยเหลือเกิน ถึงแม้มันจะเป็นความจริงว่านั่นคือสิ่งที่จุดประกายให้เขามักจะมองหาเจ้าตัวเวลาอยู่ที่โรงเรียน แล้วก็อยากจะเข้าใกล้เพื่อทำความสนิทสนมมากขึ้นก็เถอะ
 
เขาไม่เคยสนใจใครในแง่นี้มาก่อนจนอายุจะสิบเจ็ดอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ใจจดจ่อถึงใครคนเดียวติดต่อกันได้นานขนาดนี้ก็น่าจะเป็นก้าวแรกของคำว่า 'ชอบ' ไม่ใช่เหรอ?
 
แต่นฤชายังคลางแคลงใจกับคำสารภาพที่ได้รับ เพราะเด็กหนุ่มเพียงแต่มุ่นคิ้วเข้าหากันแล้วก็สูดน้ำมูก
 
"กอล์ฟก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้นแหละ เราไม่รู้จริงๆ ว่าใครขโมยโทรศัพท์เราไปแล้วดันแกะการ์ดทิ้งไว้จนกอล์ฟไปเจอ แต่ก็ขอบคุณมากนะที่เอามาคืน ไม่ต้องลำบากใจหรอกถ้าอยากจะเรียกเราว่าตุ๊ด แต๋ว เกย์หรืออะไรก็ตามแต่ เราก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้แต่ว่ามันเป็นไปแล้ว"
 
ปลายจมูกแดงเรื่อของอีกฝ่ายขณะลุกหนีกระตุกหัวใจของกวินท์อย่างจัง เด็กหนุ่มรีบลุกตามแล้วก็เข้าสวมกอดนฤชาจากด้านหลัง เขาสัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อทุกมัดของร่างในอ้อมแขนแข็งทื่อ
 
"กอล์ฟ..."
 
"อาจเป็นความอยากรู้อยากเห็นก็ได้ แต่การที่เราอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนที่รู้สึกดีด้วยก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ? เราอยากสนิทกับโน้ตให้มากกว่านี้นะ แล้วเราก็ไม่เคยคิดรังเกียจอย่างที่โน้ตพูดออกมาเมื่อกี้ด้วย"
 
เด็กหนุ่มจับคนที่ส่วนสูงแทบไม่ต่างแต่ผอมเพรียวกว่าให้หันกลับมาหา จากนั้นก็ดึงหน้าเข้ามาจูบอย่างแรงจนหลุดเสียงครางด้วยความเจ็บออกมาทั้งคู่
 
"ห้องโน้ตห้องไหน?"
 
กวินท์ถามพลางจ้องตาเขาตรงๆ นฤชาจึงตอบเสียงแผ่วแม้จะรับรู้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง
 
"ห้องเราอยู่ฝั่งนั้น เฮ้ย! กอล์ฟจะทำอะไร?"
 
"จะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้รังเกียจโน้ตไง"

กวินท์จูงมือนฤชาแล้วก็เดินเร็วๆ เข้าไปยังห้องของเจ้าตัว พอถึงแล้วก็กดอีกฝ่ายให้เอนหลังบนเตียงแล้วตามขึ้นทาบทับทั้งชุดนักเรียน เขาแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากอันแสนนุ่มของคนในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยนขึ้นกว่าเมื่อครู่ จากนั้นก็เริ่มแหย่ปลายลิ้นเข้าไปด้านในโพรงปากอบอุ่น เทคนิคอะไรก็ตามที่เคยเก็บเกี่ยวจากแผ่นหนังโป๊ของพี่ชายล้วนถูกนำมาใช้กับบทรักครั้งแรกในชีวิต หวังแค่ว่าจะสร้างความประทับใจให้อีกฝ่ายลืมไม่ลงเต็มที่
 
"ฮ้า...กอล์ฟ พอก่อน หายใจไม่ทันแล้ว"
 
นฤชาดันอกของคนที่นอนคร่อมออกเพราะสูดอากาศไม่ทันจริงๆ ร่างผอมเพรียวหอบหายใจแรงจนอกกระเพื่อม ปลายลิ้นสีชมพูที่ไล้ออกเลียคราบน้ำลายบนริมฝีปากทำให้กวินท์แทบคลั่ง
 
"โน้ต ทำไมน่ารักจังเลย ตัวก็หอม"
 
เด็กหนุ่มก้มลงไซ้จมูกไปมาบนซอกคอของนฤชาโดยที่มือก็แกะกระดุมเสื้อให้ กระทั่งเห็นแผ่นอกขาวๆ ลอยอยู่ตรงหน้า เขาก็ก้มลงดูดยอดอกสีชมพูอย่างแรงจนคนด้านล่างแอ่นกายขึ้นสูงอย่างเสียวซ่าน
 
"เดี๋ยวก่อน กอล์ฟ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ถึงเราจะ...จะถ่ายรูปแบบนั้นเก็บไว้ แต่เรายังไม่เคยนอนกับใครมาก่อนนะ"
 
นฤชาเอ่ยเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์ชักจะก้าวไปเร็วกว่าที่ตั้งใจขึ้นเรื่อยๆ แต่นอกจากกวินท์จะไม่ฟังแล้วก็ยังก้มหน้าก้มตาถอดกางเกงของเขาต่อ
 
"งั้นก็ดีเลยเพราะเราก็ยังไม่เคย มาเปิดซิงด้วยกันเลยละกัน"
 
นฤชาอ้าปากค้าง เขามองกวินท์ที่ผละไปจากตัวเพื่อถอดชุดนักเรียนบ้าง ท่าทางรีบร้อนราวกับกลัวเสียเวลาทำให้เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงดังจนอีกฝ่ายขมวดคิ้วมุ่น
 
“ขำอะไรโน้ต?”
 
"ก็กอล์ฟ...ไม่โรแมนติกเลยอะ"
 
"หา? หมายความว่าไง?"
 
กวินท์ซึ่งเอี้ยวตัวไปด้านข้างเพื่อจะถอดกางเกงยังหันมาถามอย่างไม่เข้าใจ นฤชาจึงส่ายหน้ายิ้มๆ
 
"ก็ที่พูดว่าให้มาเปิดซิงด้วยกันเมื่อกี้ไง ไม่โรแมนติกเลย"
 
คนถูกท้วงกลอกตา เขาเหวี่ยงกางเกงกับเสื้อลงจากเตียงแล้วก็หันมานั่งคร่อมคนที่ตัวเปลือยเปล่าขาวโพลนรออยู่อีกครั้ง
 
"เราก็พูดเป็นแต่อะไรทื่อๆ แบบนี้แหละ ถ้าโน้ตอยากให้เราโรแมนติกก็คงต้องช่วยสอนแล้วล่ะ"
 
นฤชาหน้าแดงซ่านเมื่อกวินท์ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง ฝ่ามือที่ฟอนเฟ้นไปมาทั่วร่างอย่างไม่ประสีประสาแต่หนักแน่นแสดงออกถึงความปรารถนาอันชัดเจนและรุนแรง ร่างเพรียวผวาเฮือกเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นพรมจูบไปทั่ว ปลายลิ้นร้อนที่ไล้เล็มบนจุดชีพจรเรียกเสียงครางที่ยิ่งปลุกสัญชาตญาณดิบของคนเล้าโลมให้เตลิด ทั้งคู่ต่างใช้ร่างกายปรนเปรอความสุขให้แก่กันและกันอย่างไม่สนใจเวลา เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดเมื่อสองกายเริ่มสอดประสานค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยเสียงแห่งความสุขสม และไม่ช้าพวกเขาก็ขยับร่างเป็นท่วงทำนองเดียวกันราวกับต่างก็เฝ้ารอเวลานี้มานาน ไม่มีร่างกายส่วนใดของอีกฝ่ายที่เป็นอิสระจากการสัมผัสของกันและกันเลย   

จวบจนผืนฟ้าภายนอกกลายเป็นสีน้ำหมึกและดวงจันทร์ทรงกลดลอยเด่น ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองที่เพิ่งจะได้ผละจากกันก็ต่างหอบหายใจแรงโดยไม่มีใครลุกขึ้นจากเตียง ครู่หนึ่งก็มีเสียง 'ติ๊ง' ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
 
"โน้ต ใช่เสียงโทรศัพท์ของโน้ตรึเปล่า?"
 
"อือ น่าจะเสียงจากไลน์"
 
นฤชาเอ่ยเสียงแห้งเพราะความเหนื่อยขณะก้มลงไปหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง เขาอ่านข้อความแล้วก็หันหน้าจอมาให้กวินท์อ่านด้วย
 
'คืนนี้พี่จะไปปาร์ตี้กับเพื่อน คงกลับพรุ่งนี้เลยนะจ๊ะ ล็อกห้องด้วยล่ะ'
 
"จากพี่สาวของโน้ตเหรอ งั้นก็แปลว่า...คืนนี้เราก็มีเวลากันทั้งคืนเลยน่ะสิ?"
 
กวินท์อ่านจบก็ทำเสียงตื่นเต้น แต่คนฟังกลับทำหน้ามุ่ย "ไม่เอาแล้วกอล์ฟ ไม่ถนอมกันเลย เราครั้งแรกนะ เล่นใส่เข้ามาแล้วกระแทกเอาๆ แบบนี้มันเจ็บรู้มั้ย"
 
กวินท์หน้าแดงเมื่อโดนต่อว่าด้วยคำที่เห็นภาพชัดราวกับกดรีเพลย์ ก็แหม...เขาได้แต่ดูรูปของนฤชาแล้วช่วยตัวเองมาทั้งเดือนแล้ว พอได้ทำกับตัวจริงแทนที่จะเป็นจินตนาการ มันก็เลย...เมามันจนเผลอไปหน่อยน่ะสิ
 
"ขอโทษนะโน้ต กอล์ฟดีใจมากไปหน่อยก็เลยลืมตัว อย่าโกรธกอล์ฟเลยนะครับที่รัก"
 
"หา?"
 
นฤชาทำตาโตเหมือนได้ยินภาษาต่างดาว กวินท์เห็นสีหน้าประหลาดใจสุดขีดของหวานใจก็เกาหัวแล้วหัวเราะแหะๆ
 
"อ้าว ก็โน้ตยอมให้เราทำตั้งหลายที แบบนี้ก็แปลว่าเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมล่ะ? ถ้าเราจะเรียกโน้ตว่าที่รักก็ถูกแล้วนี่ หรือว่าอยากให้เรียกด้วยคำอื่นมากกว่าก็ได้นะ แต่ถ้าเค้ากับตัวเองคงไม่ชินปากเท่าไหร่ เว้นว่าโน้ตชอบแบบนั้นก็จะลองดู"
 
นฤชายิ่งฟังก็ยิ่งสงสัยว่าตัวเองหูเฝื่อนรึเปล่าเข้าไปทุกที ตกลงกวินท์จอมปากเสียที่เขาเคยรู้จักหายไปไหนเสียแล้วนี่ เด็กหนุ่มได้แต่คิดขณะปล่อยให้อีกฝ่ายดึงตัวเข้าไปกอด อ้อมแขนที่แสนจะอบอุ่นค่อยๆ ละลายความสงสัยในใจ และแล้วเด็กหนุ่มก็เอนตัวเข้าหนุนไหล่คนข้างกายแต่โดยดี
 
"ตอนนั้นน่ะ"
 
"หือ?"

กวินท์ที่กำลังเคลิ้มๆ จะหลับส่งเสียงตอบรับ นฤชาจึงเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
 
"ตอนที่เรารู้ตัวว่ามีรสนิยมแบบนี้ เราก็แอบถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เล่นๆ เวลาพี่ไม่อยู่ แต่ไม่เคยคิดจะเอาไปโพสต์ที่ไหนหรอกนะ มีหลายครั้งเหมือนกันที่คิดว่าอยากลบทิ้งเพราะกลัวใครมาเปิดดู แต่ยังไม่ทันจะได้ทำแบบนั้นก็โดนขโมยโทรศัพท์คืนที่เราไปเค้าท์ดาวน์ปีใหม่กับพี่ ช่วงอาทิตย์แรกๆ เรากินไม่ได้นอนไม่หลับเลย ได้แต่กลัวว่าคนที่ขโมยไปจะเปิดดูรูปพวกนั้นแล้วเอาไปประจานในเน็ต แล้วถ้ามีคนรู้จักไปเห็นแล้วเอาไปพูดต่อๆ กัน เราคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
 
คำอธิบายของนฤชาทำให้กวินท์ตาสว่างขึ้นทันที เขาคิดย้อนกลับไปว่าวันที่เก็บไมโครเอสดีการ์ดได้คือวันหลังจากวันเคาท์ดาวน์ ดังนั้นก็เป็นไปได้สูงว่าคนที่ขโมยไปคงมัวยุ่งกับการแกะส่วนประกอบของมือถือจนเผลอทำการ์ดหล่นในรถ หรือไม่อย่างนั้นก็...ได้เปิดดูรูปแล้วแต่ไม่คิดอยากเก็บไว้
 
ความคิดที่ว่าใครคนอื่นอาจได้เห็นรูปพวกนั้นเช่นกันทำให้ความรู้สึกหวงแหนพุ่งปรี๊ด กวินท์กระชับอ้อมแขนรอบตัวนฤชาแน่นขึ้นแล้วก็กดริมฝีปากลงบนหน้าผากที่มีผมชื้นๆ แนบ
 
"ไม่ต้องห่วงนะโน้ต เราว่าไอ้คนที่ขโมยไปคงยังไม่ทันได้ดูรูปพวกนี้หรอก หรือต่อให้เกิดกรณีเลวร้ายอย่างที่ว่าขึ้นมาจริงๆ เราก็จะอยู่ข้างโน้ตเอง ดูซิว่าใครจะว่าอะไรได้ ในเมื่อแฟนของโน้ตยังไม่แคร์เลย"
 
คำพูดให้กำลังใจที่ไม่ได้กลั่นกรองให้สวยหรู แต่เต็มเปี่ยมด้วยความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้นฤชารู้สึกแน่นหน้าอกเพราะความปลื้มใจ เขาหันไปกอดตอบกวินท์แล้วก็ซุกหน้าลงบนซอกคอของอีกฝ่าย
 
"ขอบคุณนะกอล์ฟ เรารักกอล์ฟที่สุดเลย"
 
"เราก็รักโน้ต...ฮะ...เมื่อกี้โน้ตพูดว่าอะไรนะ? ขอฟังอีกทีได้มั้ย?"
 
"โน้ตง่วงแล้วอะกอล์ฟ คืนนี้พี่แนทไม่กลับ ถ้างั้นกอล์ฟนอนเป็นเพื่อนโน้ตนะครับ นะ"
 
เจอลูกอ้อนที่มาเป็นคอมโบแถมด้วยริมฝีปากนุ่มๆ ที่กดลงบนแก้ม ทำเอากวินท์ได้แต่จำยอมราวถูกร่ายมนตร์สะกด ลางสังหรณ์บอกเขาเลาๆ ว่าต่อไปมีหวังคงโดนตราหน้าว่า 'หลงเมีย' เป็นแน่
 
แต่ว่า...เอ้า ถ้าเมียน่ารักขนาดนี้ก็น่ายอมให้กระแนะกระแหนอยู่นะ ทำไงได้ เขาเองก็ดูเหมือนจะถลำตัวถลำใจไปเกินจะถอยเสียแล้วด้วย
 
"งั้นแป๊บนะโน้ต ขอกอล์ฟไลน์หาแม่นิดนึงว่าคืนนี้จะไม่กลับ แม่เขาชินแล้วล่ะถ้ากอล์ฟบอกว่าไปค้างหอกับไอ้ธี"
 
"อื้อ"
 
นฤชายอมให้อีกฝ่ายลุกไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความหาคนที่บ้าน เสร็จแล้วก็อ้าแขนรับคนตัวหนากว่าที่กุลีกุจอกลับขึ้นมานอนข้างเขา เด็กหนุ่มกอดกันด้วยร่างกายเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่ม ก่อนที่กวินท์จะหลับก่อนในเวลาไม่นานเพราะความอ่อนเพลีย

ทั้งๆ ที่เขาก็เหนื่อยเช่นกันเพราะเป็นฝ่ายโดนกระทำ แต่นฤชากลับตาสว่างจนหลับไม่ลง เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าเรื่องโชคร้ายอย่างการถูกขโมยโทรศัพท์จะทำให้ได้สมหวังในรักที่เก็บไว้ข้างเดียวมาตั้งเกือบสองปี แต่พอคิดแล้วก็ต้องขอบคุณเจ้าคนที่ขโมยโทรศัพท์ไป แม้เขาจะเสียดายเครื่องรุ่นใหม่เอี่ยมที่พ่อเพิ่งซื้อให้ก็ตาม

"ต่อให้เกิดกรณีเลวร้ายอย่างที่ว่าขึ้นมาจริงๆ เราก็จะอยู่ข้างโน้ตเอง ดูซิว่าใครจะว่าอะไรได้ ในเมื่อแฟนของโน้ตยังไม่แคร์เลย"

หัวดื้อแล้วก็รักความถูกต้องไม่เคยเปลี่ยนไปจากตอน ม.3 เลย นฤชาคิดพลางวาดนิ้วเป็นวงกลมบนอกของคนตรงหน้าเบาๆ กวินท์อาจจะลืมไปแล้วก็ได้ แต่มีครั้งหนึ่งที่เขาเคยถูกเพื่อนๆ ผู้ชายแกล้งหลังวิชาพละที่ต้องว่ายน้ำ ถึงแม้ปกติเขาจะมีเพื่อนผู้หญิงที่คอยช่วยเป็นเกราะป้องกัน แต่ครั้งนั้นเขามีแต่ตัวเองคนเดียวในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชาย และก็ถูกคนอื่นๆ แกล้งเอาแว่นสายตาของเขาส่งต่อกันไปมาเพื่อไม่ให้มองเห็นล็อคเกอร์ที่เก็บเสื้อผ้าของตัวเองไว้ ตอนนั้นเขาไม่รู้จะขอให้ใครช่วยจนแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
 
"เฮ้ย! ไม่มีอะไรจะเล่นกันแล้วรึไงวะ! แกล้งคนอื่นเขาอยู่นั่น พวกมึงจะไม่ไปเรียนกันใช่มั้ย กูจะได้บอกอาจารย์ให้ล็อคพวกมึงไว้ในนี้ให้หมด!"
 
"แหม ก็แค่แหย่เล่นหน่อยเดียวเอง มึงก็ทำตัวเป็นพระเอกหนังน้ำเน่าไปได้น่ะไอ้กอล์ฟ"
 
"ก็กูเห็นแล้วรำคาญ อีกอย่างกูโดนอาจารย์สั่งให้เป็นคนล็อคห้องแต่งตัวหลังพวกมึงใช้เสร็จด้วย ถ้าพวกมึงมัวแต่เล่นกูก็ไม่ได้คืนกุญแจสักทีสิวะ"
 
พอได้ยินดังนั้นพวกเพื่อนๆ จึงยักไหล่แล้วแยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนกวินท์ฉวยแว่นจากมือเด็กคนหนึ่งแล้วเอามายื่นส่งให้เขา นฤชารับมาใส่ก่อนจะมองผ่านเลนส์แว่นไปยังเรือนร่างสมส่วนแบบเด็กชายที่กำลังจะโตเป็นชายหนุ่มของอีกฝ่าย กล้ามเนื้อที่เห็นเป็นมัดนูนทั่วร่างกายจากการออกกำลังกับเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้กำยำเหมือนอาจารย์พละ กระนั้นก็ยังดึงดูดสายตาพอจะทำให้หน้าเขาร้อนวูบวาบ
 
"ความจริงนายก็หน้าตาดีนะ เสียดายใส่แว่นซะหนา ทีหลังก็ระวังอย่าให้ไอ้พวกนั้นเล่นพิเรนทร์แบบนี้อีกก็แล้วกัน"
 
"อะ ขอบใจ"
 
ตอนนั้นกวินท์เพียงแต่หันหลังกลับไปหาล็อคเกอร์ของตัวเองโดยไม่สนใจเขาอีก แต่นฤชาจำเหตุการณ์นั้นได้ไม่เคยลืม เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ และเป็นครั้งแรกที่เขาตกหลุมรักด้วย
 
นับแต่นั้นเขาก็ปรึกษาพี่สาวเรื่องปัญหาหัวใจเพราะไม่เห็นใครที่เป็นที่พึ่งได้อีก พี่แนทแสนดีจึงแนะนำให้เริ่มจากการปรับเปลี่ยนบุคลิกที่ไม่มั่นใจในตัวเองก่อน ความที่อีกฝ่ายเป็นครูสอนโยคะอยู่แล้วจึงใช้สิทธิ์พาเขาไปเข้าเรียนด้วย จากนั้นก็แนะนำให้ใส่คอนแท็คต์เลนส์แทนแว่นตาอันแสนเทอะทะ รวมไปถึงช่วยดูแลเสื้อผ้าหน้าผมในวันที่ไม่ต้องไปโรงเรียน การเทรนอย่างเข้มข้นนั้นทำให้นฤชาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อเปิดเทอมตอนมัธยมปลาย แต่น่าเศร้าที่นอกจากเขาจะอยู่คนละห้องกับกวินท์แล้ว ฝ่ายนั้นยังดูเหมือนจะลืมไปเสียสนิทว่าเคยรู้จักเขา เพราะกระทั่งเวลาที่เดินสวนกันหรือนั่งกินข้าวใกล้กันในโรงอาหาร สายตาคู่นั้นก็ไม่เคยเหลือบแลมาทางเขาสักแวบ
 
นฤชาเคยคิดจนปวดหัวว่าจะหาโอกาสเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างไรไม่ให้ดูน่าเกลียดจนกระทั่งวันที่โดนเตะบอลใส่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว กวินท์เป็นคนที่เสนอตัวเข้ามาหาเขาก่อน นอกจากนี้ยังแสดงความต้องการในตัวเขาและทำท่าทางเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ สิ่งที่เคยได้แต่จินตนาการไปข้างเดียวยามถ่ายรูปตัวเองแล้วคิดว่ากำลังถูกกวินท์โอบกอด บัดนี้ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปเพราะร่างกายเขายังจดจำสัมผัสเหล่านั้นได้อยู่เลย
 
เขาเป็นของกวินท์แล้ว กวินท์ก็เป็นของเขาเหมือนกัน พอคิดได้เช่นนี้ นฤชาก็ยิ้มจนเมื่อยแก้ม
 
เด็กหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองคนที่นอนหลับและกรนเบาๆ อยู่ข้างกายด้วยแววตาหวานเชื่อม ต่อจากนี้ก็อยู่ที่ความสามารถของเขาเองแล้วว่าจะทำให้ความหลงใหลของกวินท์คงอยู่ตลอดไปได้หรือเปล่า เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายชอบเขามากเท่าที่เขาชอบเจ้าตัวไหม แต่ดูจากการแสดงความรักอย่างเร่าร้อนที่เขาได้รับไปสามชั่วโมงติดกัน นฤชาก็คิดว่าตนคงยังไม่ต้องปวดหัวกับประเด็นนั้นไปอีกพักใหญ่ๆ
 
ขอแค่เขาได้อยู่ใกล้กวินท์ ได้กอดกวินท์เอาไว้เหมือนตอนนี้ นฤชาก็มั่นใจว่าเขามีสารพัดวิธีที่จะทำให้ 'สุดที่รัก' คนนี้หนีไปไหนไม่รอดได้อย่างแน่นอน
 
 
 
++---End---++


 :mew3:  :mew3:  :mew3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2014 17:46:04 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ มะลิลา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทจะสมหวังก็ง่ายดายเหลือเกินนะโน๊ต
ยินดีด้วยจ้า

เขียนแนววัยรุ่นแบบนี้ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
^^

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น่ารักจริงน๊าคู่นี้

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอร๊ยยยยยย

เป็นรักสมหวังแบบน่ารักๆ รับวันนี้มากๆ เลยค่ะ

เป็นความโชคดีในความโชคร้ายสินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด