เล่ห์ลวงใจ - ตอนพิเศษ แสงแรกแห่งปีใหม่ โพสต์วันที่ 1/1/59 (p.101)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เล่ห์ลวงใจ - ตอนพิเศษ แสงแรกแห่งปีใหม่ โพสต์วันที่ 1/1/59 (p.101)  (อ่าน 1057569 ครั้ง)

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ยลุ้น คุณกฤตมาตามหา หรือไรอั้นมาดูกระเป๋า กันแน่


ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
น้องขลุ่ยไปหาเอาใหม่เหอะนะ นุ้งตี้เค้ามีเจ้าของจับจองแล้วจริงๆ

ที่สำคัญนุ้งตี้ไม่นิยมบริโภคเด็ก  นุ้งตี้ชอบแนวแก่ๆ เคี้ยวยากๆหน่อย 5555

ขอฟันธงว่าคนที่มาไม่ใช่คุณกฤตแน่นอนค่า  เพราะมันดูง่ายเกินไปที่จะตามน้องตี้เจอ

แต่ไม่แน่นะคะ คนนี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณกฤตก็ได้  ใครจะไปรู้

และคิดว่าผู้นี้แหละที่จะพาน้องตี้กลับกรุงเทพ  กลับไปเอาหัวใจที่น้องตี้ทิ้งเอาไว้

ปล.มโนล้วนๆไม่อิงเรื่องจริงแต่อย่างใด  ถ้าไม่ตรงสักข้อ หมอคงไม่รับเย็บเศษหน้า 55555




ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
ใครมากันหนอ
แล้วนี่คุณกฤตเขาตัดสินใจได้ยัง ว่าจะมาตามหาหรือไม่มา

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ขลุ่ยน่ารักอ่ะไม่อยากจะบอกว่าแอบแซบน้องอยู่  :hao6:   จะมีเรื่องของน้องเลยก็ไม่เกี่ยงนะคะ อิชั้นจะตามไปแน่นอนค่ะ   :mew1:

อยากรู้ ใครมาหาน้องตี้อ่ะ มาพากลับไปหาคุณกฤตหรือเปล่าหว่า เล่นมาบอกว่าเป็นลางสังหรณ์ไว้แบบนี้มันค้างนะ  :fire:   แม้จะแอบดีใจอยู่ลึก ๆ ว่าอย่างน้อยน้องตี้จะกลับมาให้คุณกฤตง้อแล้วก็ตาม   :katai5: 

รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ automaton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เปิดมาดูวันละ 2 รอบ ตอนเช้ากับตอนมืด
อยากอ่านแย่แล้วววววว คิดถึงน้องตี้ ตี้  ตี้ ตี้ ตี้  :hao7:

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ภาวนาให้เป็นตุณกฤต

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
รออยู่น้าา : )

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ใครมาง่าาาาาา

 :ling1:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เล่ห์ลวงใจ บทที่ 35



"ตี้! ฉันคิดถึงแกที่สุดเลยยยย!!!"

เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นทันทีที่ธีระก้าวเข้าไปในบ้าน จากนั้นเขาก็ถูกเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันมาตั้งแต่ปิดเทอมดึงตัวเข้าไปกอดแน่น

"ซันมาได้ยังไงเนี่ย? ทำไมไม่เห็นรู้เลยว่ากลับมาเมืองไทยแล้ว?"

ธีระถามอย่างดีใจเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนสนิทที่น่าน ศันสนีย์จึงถอยออกนิดหนึ่งแล้วก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์

"ฉันอยากให้เซอร์ไพรส์ไงเลยแอบบอกวันกลับกับอีเมธคนเดียว โชคดีที่แกเคยถ่ายรูปร้านพี่ปิ๊กแล้วส่งมาให้ดู อีเมธมันเลยเสิร์ชหาเบอร์ติดต่อแล้วก็โทรมาบอกพี่ปิ๊กไว้ว่าพวกฉันจะมาเยี่ยม แล้วก็ขอให้ช่วยกันปิดเรื่องนี้ไม่ให้แกรู้เด็ดขาด เซอร์ไพรส์ใช่มั้ยล่า"

"อ้าว เมธก็มาด้วยเหรอ โหยยย อะไรกัน พี่ปิ๊กปิดซะเงียบเลย"

ธีระเอ่ยเมื่อเห็นสุเมธยืนยิ้มอยู่หลังศันสนีย์ ส่วนปิยพลที่นั่งดื่มชาอยู่ที่โต๊ะกลางห้องนั่งเล่นหันมาหัวเราะ

"ช่วยไม่ได้นี่ เพื่อนๆ ตี้บอกว่าอยากมาเซอร์ไพรส์ พี่ก็ไม่อยากขัดน่ะสิ"

เด็กหนุ่มหัวเราะอีก พลันก็นึกขึ้นได้ว่าคเชนทร์เดินตามมาด้วย พอหันกลับไปด้านหลังก็เห็นเด็กหนุ่มร่างโย่งกำลังยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ จึงหันกลับไปแนะนำกับเพื่อนทั้งสองคน

"เอ้อ ทุกคน นี่ขลุ่ยนะ บ้านอยู่ใกล้ๆ กันนี่แหละ"

"สวัสดีครับ"

คเชนทร์ยกมือขึ้นไหว้เพื่อนๆ ของธีระ ทั้งศันสนีย์และสุเมธทำตาโตขณะยกมือขึ้นรับไหว้ ฝ่ายปิยพลที่ดื่มชาหมดแก้วแล้วก็ลุกขึ้นมาถาม

"ตี้หิวรึยัง? พอดีซันกับเมธบอกว่าอยากกินอาหารพื้นเมือง พี่ก็เลยว่าจะรอตี้กลับมาก่อนจะได้ออกไปด้วยกัน ไหนๆ ก็มีรถตู้ทั้งที"

"ก็ได้นะเพราะตี้ก็หิวแล้ว ถ้างั้นขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน จริงสิ ขลุ่ยจะไปด้วยกันมั้ย? ยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกันนี่นา"

"เอ๊ะ ให้ขลุ่ยไปด้วยได้เหรอ?"

"อื้ม เอาสิ ไปกันหลายๆ คนก็ดี จะได้สั่งกับข้าวมากินหลายๆ อย่าง"

ปิยพลพยักหน้าอย่างเห็นด้วย คเชนทร์จึงยิ้มอย่างดีใจ

"ถ้างั้นพี่ปิ๊กจะไปร้านไหน ขอขลุ่ยกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวค่อยขับมอเตอร์ไซค์ตามไปก็ได้"

"ฮื้อ แค่กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาที่นี่ก็พอ เดี๋ยวจะได้นั่งรถตู้ไปด้วยกันทีเดียว อีกอย่างพี่ว่าขลุ่ยน่าจะอาบเสร็จแล้วกลับมาถึงนี่ก่อนตี้จะอาบน้ำเสร็จแหงๆ"

"พี่ปิ๊กอ้ะ!"

ธีระทำหน้ามุ่ยจนเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง หลังจากนัดแนะกันเรียบร้อยแล้วเขาจึงขึ้นห้องไปอาบน้ำ เมื่อเสร็จก็แต่งตัวลงมาหาทุกคนที่นั่งรออยู่ชั้นล่าง โชคดีว่าคเชนทร์มาถึงหลังจากที่เขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะถูกเพื่อนๆ ล้อไม่หยุดตลอดทั้งคืนแน่

เนื่องจากรถตู้นั้นถูกเช่าแบบเหมาเอาไว้เพื่อให้สามารถพาไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา ปิยพลจึงบอกทางให้คนขับพาไปร้านอาหารริมแม่น้ำซึ่งเป็นคนละร้านกับที่แนะนำให้ณรงค์กับไรอันเมื่อสัปดาห์ก่อน มื้ออาหารนั้นเป็นมื้อที่ครึกครื้นที่สุดเท่าที่ธีระได้ร่วมโต๊ะมาในรอบหลายเดือน หลังจากเสร็จสิ้นมื้อค่ำแล้วศันสนีย์กับสุเมธก็คะยั้นคะยอให้เขาไปนอนที่รีสอร์ตด้วยกัน ดังนั้นหลังจากที่คนขับรถไปส่งปิยพลกับคเชนทร์ที่บ้าน พวกเขาสามคนก็แวะซื้อขนมกับเครื่องดื่มก่อนจะกลับที่พักซึ่งอยู่นอกตัวเมืองออกไปเล็กน้อย

รีสอร์ตแห่งนี้เป็นของญาติห่างๆ ของศันสนีย์ ลักษณะเป็นบังกะโลซึ่งตั้งแยกกันเป็นหลังๆ แต่ละหลังมีระเบียงพร้อมด้วยโต๊ะและเก้าอี้หวายสำหรับให้นั่งชมทิวทัศน์ของป่าและเทือกเขาที่ตั้งอยู่ห่างออกไป พอทั้งสามเก็บกระเป๋าเข้าห้องแล้วจึงชวนกันหิ้วถุงขนมกับเครื่องดื่มออกมานั่งเล่นที่ระเบียง ถึงแม้คืนนี้พระจันทร์จะไม่เต็มดวง แต่แสงดาวระยิบระยับท่ามกลางผืนฟ้าไร้เมฆหมอกก็ให้ความรู้สึกเย็นตาชวนมองไม่แพ้กัน

"อากาศเย็นดีเนอะแถวนี้ แถมไม่มียุงด้วย ไม่งั้นคงต้องเข้าไปนั่งคุยกันในห้อง อุดอู้ตายชัก"

สุเมธเอ่ยหลังจากทั้งสามออกมานั่งรับลมตรงระเบียงได้ครู่ใหญ่ เขาหันไปหยิบขวดค็อกเทลพร้อมดื่มออกจากถุงแล้วก็หันไปถามเพื่อนทั้งสองคน

"ยายซัน ตี้ จะดื่มรสอะไรกัน แต่ฉันจองรสสตรอเบอร์รี่แล้วนะ"

"ย่ะ! งั้นฉันเอารสองุ่นก็ได้ ตี้ล่ะจะเอาอะไร มีโค้กกับสไปรท์ด้วยนะ"

"เอ...เมื่อกี้เห็นเมธซื้อรสมะนาวมาด้วยนี่นา งั้นเราเอารสนั้นก็ได้"

เด็กหนุ่มเอ่ยพลางยิ้มอ่อนๆ ส่วนสุเมธกับศันสนีย์ได้แต่มองหน้ากัน ก่อนที่ศันสนีย์จะหยิบค็อกเทลรสมะนาวมายื่นให้เพื่อนอย่างแปลกใจ

"ตายละ ฉันรู้สึกเหมือนไม่เห็นแกดื่มแอลกอฮอลล์มานานมากเลย นี่พวกฉันมาทำแกใจแตกรึเปล่าเนี่ย?"

ธีระหัวเราะขณะรับขวดค็อกเทลมาเปิดฝา "แค่จู่ๆ ก็อยากดื่มขึ้นมาบ้างน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงตรงนี้ก็มีพวกเราอยู่กันแค่สามคนเองนี่นา"

เด็กหนุ่มเอ่ยพลางยกขวดเครื่องดื่มสีเขียวอ่อนขึ้นจิบนิดหนึ่ง จากนั้นนัยน์ตากลมโตก็หันไปทอดมองผืนฟ้าที่มีม่านดวงดาวทอแสงอยู่ลิบๆ แสงไฟสีส้มบริเวณระเบียงตกต้องลงบนใบหน้าของเขา เผยให้เห็นแววตาที่กระจ่างใส กระนั้นก็ยังดูคล้ายมีความนัยที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างลึกล้ำ

"จริงสิ น้องขลุ่ยนั่นไปยังไงมายังไงน่ะ? หน้าตาน่ากินอยู่นะแก"

สุเมธกระเซ้าพลางยื่นมือมาตีไหล่เพื่อนเบาๆ แต่เป็นเบาในความรู้สึกของเจ้าตัว เพราะธีระทำหน้ามุ่ยขณะยกมือขึ้นลูบบริเวณที่โดนตี

"ก็ไม่ยังไง พอดีคุยกันถูกคอก็เลยไปไหนมาไหนด้วยกันบ้างก็เท่านั้น"

"หืมมมม ฉันว่าไม่ใช่แค่นั้นละม้าง เห็นว่าก่อนกลับบ้านก็เพิ่งไปเล่นน้ำด้วยกันมาไม่ใช่เหรอ ร้ายนะยะ อายุสิบเจ็ดนี่กำลังกรุบกรอบเลย เดี๋ยวเข้ามหา'ลัยเมื่อไหร่ฉันว่าเนื้อหอมแน่ๆ"

"แต่เราไม่ได้คิดกับขลุ่ยอย่างนั้น..."

"วุ้ย! แกไม่คิดอยู่คนเดียวน่ะสิ ฉันเห็นเวลาเขามองแกก็รู้แล้ว ไม่คบเป็นแฟนซะเลยล่ะ มีแฟนเด็กก็กระชุ่มกระชวยดีออก"

"อีเมธ แกจะพูดถึงน้องเขาอีกนานมั้ย? ที่พากันมาถึงน่านเพราะอยากถามตี้เรื่องคุณกฤตไม่ใช่เหรอยะ?"

ศันสนีย์หันไปเอ็ดเพื่อนเมื่อเห็นว่าไม่ชวนเข้าประเด็นเสียที แต่ธีระเกือบจะทำขวดเครื่องดื่มในมือหล่นเมื่อได้ยินชื่อที่พยายามไม่นึกถึงมานาน เขารีบวางขวดลงบนโต๊ะแล้วถามเสียงแห้ง

"...ทำไมซันถึงรู้เรื่องคุณกฤตด้วยล่ะ?"

"ทำไมน่ะเหรอ ก็อีเมธถ่ายรูปข่าวในหนังสือพิมพ์ส่งไปให้ดูน่ะสิ แถมมันยังบอกอีกว่าหลังข่าวนั้นตีพิมพ์ได้ไม่กี่วันตี้ก็ขึ้นมาน่านเลย ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นน่ะ บริษัทที่ไปฝึกงานก็บริษัทของเขาไม่ใช่เหรอ?"

คำถามของศันสนีย์ทำให้ธีระยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างอ่อนใจ จริงอยู่ที่เมื่อตอนบ่ายเขาเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้คเชนทร์ฟัง กระนั้นก็มีรายละเอียดบางส่วนที่เขาตัดสินใจเก็บเงียบไว้ เพราะถึงแม้จะอยากระบายความอัดอั้นตันใจแค่ไหน เขาก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่กฤตภาสโดนยิงหรือว่าเรื่องข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์เลยสักคำ แต่เขารู้ว่าคงปิดเรื่องนี้กับศันสนีย์และสุเมธไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็เห็นภาพข่าวไปแล้ว

ถึงกระนั้น...กับเรื่องบางเรื่องที่ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งปวดใจ เขาก็อ่อนล้าเกินกว่าจะฟื้นฝอยมันขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้ว่าเพื่อนทั้งสองจะคอยอยู่เคียงข้างมาตั้งแต่ก่อนจะเจอกฤตภาสก็ตาม

"ไม่มีอะไรหรอกซัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่หรอก"

"หา? ถ้าไม่สำคัญจริงๆ แล้วทำไมจะต้องเลิกฝึกงานกลางคันด้วยล่ะ? หรือว่าคุณกฤตกลัวตัวเองจะเสียชื่อเสียงก็เลยบังคับให้แกเลิก?"

"เปล่า...เขาไม่ได้บังคับ"

ตรงกันข้ามด้วยซ้ำไป...เขายังจำได้แม่นว่าน้ำเสียงของกฤตภาสบ่งบอกว่าโมโหแค่ไหนตอนที่ได้คุยโทรศัพท์กันเป็นครั้งสุดท้าย

"ตี้ แกชักจะทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ เห็นอยู่ทนโท่ว่าเขาทำให้แกเสียศูนย์ขนาดนี้ แล้วทำไมถึงยังพูดเหมือนพยายามปกป้องเขาอยู่อีก?"

น้ำเสียงของศันสนีย์เริ่มมีกังวานไม่พอใจ สุเมธจึงรีบไกล่เกลี่ยเพราะเห็นท่าไม่ค่อยดี

"ใจเย็นๆ สิหล่อน! ถ้าเพื่อนไม่อยากเล่าแล้วแกจะไปง้างปากมันได้ยังไง นี่ตี้...ไม่ใช่ว่าพวกฉันอยากละลาบละล้วงนะ แต่มันแปลกที่ปกติแกมีอะไรก็จะเล่าให้พวกฉันฟัง แต่ครั้งนี้แกดันอมพะนำท่าเดียว ถ้าหากเป็นเพราะแกตั้งใจจะลืมเขาก็เลยไม่อยากพูดถึงก็แล้วไป แต่ฉันกลัวจะกลายเป็นว่ายิ่งแกเก็บเงียบไว้ แกจะยิ่งหยุดคิดถึงเขาไม่ได้มากกว่านะ"

"ไม่หรอกเมธ" ธีระนึกขอบคุณเพื่อนที่พยายามให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ถูกเซ้าซี้เรื่องนี้อีก "เราเคยลืมพี่รงค์ได้มาแล้ว ครั้งนี้เราก็ต้องลืมคุณกฤตได้ ซัน...ไม่ใช่ว่าเราอยากปกป้องเขาหรอกนะ เพียงแต่การพูดถึงเขาตอนนี้มันทำให้เราเหนื่อย เหนื่อยมาก เพราะฉะนั้นสู้ไม่พูดถึงเลยน่าจะดีกับสุขภาพจิตเรามากกว่า"

อย่างน้อยมันก็จะได้ทำให้เขามองไปข้างหน้ามากกว่าจ่อมจมกับความทรงจำที่ผ่านมาด้วย ใครจะรู้ว่าขณะที่เขากำลังปรับทุกข์กับเพื่อนๆ อยู่ตรงนี้ กฤตภาสอาจลืมเขาไปแล้วและกำลังฆ่าเวลาอยู่กับใครสักคนก็เป็นได้ ใครคนนั้นที่อาจไม่ยี่หระกับการเป็นเพียงคู่ขาบนเตียง ยิ่งตระหนักถึงความเป็นไปได้นี้...ธีระก็ยิ่งรู้สึกเหมือนความว่างเปล่าในจิตใจขยายพื้นที่จนอัดหัวใจให้เล็กลีบ

แววตากลมโตที่ทอดมองไปในความเวิ้งว้างยามค่ำทำให้ทั้งศันสนีย์และสุเมธเงียบไป พวกเขาเคยเห็นช่วงเวลาที่ธีระใช้น้ำตาระบายความช้ำใจตอนที่เลิกกับณรงค์มาก่อน หากเทียบกันแล้วครั้งนี้เจ้าตัวควบคุมอารมณ์ได้ราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ทว่าความราบเรียบของน้ำเสียงกับคำที่เลือกใช้กลับทำให้คนฟังสะท้อนใจยิ่งกว่า

"ตี้ เข้าใจแล้ว ฉันไม่ถามอีกก็ได้ ขอโทษนะ ถ้าแกไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ปล่อยให้มันเป็นอดีตแล้วก็ลืมๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว"

ศันสนีย์ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ แล้วก็ยื่นแขนมากอดเขา ฝ่ายสุเมธก็พยักหน้าเห็นด้วย

"จริงด้วย ไม่เป็นไรหรอกแก อายุแค่นี้ยังต้องเจอคนอีกเยอะ เอางี้ ต่อไปนี้ถ้าฉันเห็นหนุ่มคนไหนท่าทางดูดี ฉันจะพยายามไม่เข้าไปจีบแล้วยกให้แกพิจารณาก่อนก็แล้วกัน ถ้าไม่ใช่แกฉันไม่ยอมให้ขนาดนี้หรอกนะ"

ธีระหัวเราะออกเมื่อได้ยินคำปลอบใจของสุเมธ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาคิดว่าตนเองโชคดีที่มีเพื่อนสนิทที่มักจะรู้วิธีพูดให้เขาสบายใจได้เสมอ ไหนยังจะครอบครัวและญาติอย่างปิยพลที่ให้ความรักความเอ็นดูโดยไม่เคยดูถูกเขาอีก ด้วยกำลังใจจากคนเหล่านี้ ถึงแม้เขาจะพานพบเรื่องย่ำแย่แค่ไหนมา ไม่นานเขาก็คงเข้มแข็งพอที่จะก้าวผ่านมันไปได้

เขาเชื่อจริงๆ ว่าหากมีวันใดวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้ต้องโคจรไปพบกฤตภาสอีกครั้ง เขาจะมั่นคงพอที่จะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาของคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ และเมื่อวันนั้นมาถึง เขาก็คงจะไม่เกิดความรู้สึกโหยหาหรือเจ็บแสบในใจยามที่สบตากับนัยน์ตาสีนิลคู่นั้นได้อย่างแน่นอน

เขาเชื่อว่าสักวันเขาจะต้องทำได้



++------++

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
"นายรุ่งภพ อินประภัสร์"

กฤตภาสลุกขึ้นเมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่ประกาศชื่อคนที่เขามารอเยี่ยม ชายหนุ่มเดินเข้าไปยังห้องสำหรับเยี่ยมผู้ต้องขังภายในบริเวณทัณฑสถาน โดยก่อนจะเข้าไปนั้นต้องฝากของทุกอย่างให้กับเจ้าหน้าที่ เมื่อเขาเดินผ่านทางเดินไปจนถึงบริเวณเยี่ยมก็พบว่าคนที่เขามาหานั้นนั่งรออยู่อีกฝั่งของห้องยาวซึ่งมีกระจกและลวดตาข่ายกั้นไว้ บริเวณด้านข้างที่นั่งของรุ่งภพมีโทรศัพท์เช่นเดียวกับที่ฝั่งผู้มาเยี่ยมก็มีเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเคยมาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก แต่กฤตภาสก็รู้โดยไม่ต้องให้ใครบอกว่าต้องทำอย่างไร จึงเดินตรงไปนั่งลงบนเก้าอี้และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู

ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรอยู่ครู่ใหญ่

"แปลกดีนะที่คนมาเยี่ยมฉันคือแก อยากมาเห็นด้วยตาตัวเองล่ะสิว่าตอนนี้สภาพฉันเป็นยังไง"

หลังจากตั้งสติได้เมื่อความแปลกใจผ่านไป รุ่งภพก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะหยันทว่าแหบแห้ง ใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยสะอาดสะอ้านและดูเรียบร้อยอ่อนโยน บัดนี้หยาบกร้านและมีไรเคราที่ไม่สม่ำเสมอเนื่องจากการโกนอย่างลวกๆ ร่างกายที่เคยกำยำดูซูบผอมจากคืนที่ได้เจอกันที่ผับไปมาก

"แกจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ แต่ฉันไม่ได้มาถึงที่นี่เพื่อสมน้ำหน้าแกหรอกนะ เมฆ"

กฤตภาสรู้ว่าเขามีเวลาในการเยี่ยมจำกัดจนไม่ควรเสียเวลากับการต่อปากต่อคำ และสิ่งที่เขาเพิ่งเอ่ยก็เป็นความจริง จุดประสงค์ที่เขามาเยี่ยมรุ่งภพในวันนี้หาใช่เพื่อซ้ำเติม

รุ่งภพเงียบไป ชายหนุ่มชำเลืองมองผู้คุมที่อยู่ในบริเวณห้องเยี่ยมผู้ต้องขังด้วยแล้วก็ถอนหายใจ นัยน์ตาที่ลึกโหลคล้ายคนนอนไม่เต็มอิ่มสักคืนหลุบลงก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ

"ฉันรู้ความจริงทุกอย่างจากคุณลุงกับคุณโกเมทแล้ว ทำไมแกถึงไม่บอกฉันตั้งแต่ตอนแรกที่เนตรท้อง?"

"เพราะฉันรู้ว่าแกจะไม่เชื่อ ตอนนั้นสำหรับแกแล้วไม่มีคำพูดของใครมีน้ำหนักเท่ากับเนตร แต่เนตรก็รู้พอๆ กับที่ฉันรู้ว่าถ้าความแตกแกคงตามไปล่วงเกินพ่อของเด็กตัวจริงแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นตำแหน่งงานของคุณลุงจะได้รับผลกระทบและแกเองก็อาจจะโดนเก็บ เนตรเลยเลือกที่จะหักหลังฉันมากกว่าปล่อยให้พ่อกับแกเดือดร้อน เพียงแต่ไม่มีใครคิดว่าแกจะกล้าเอาปืนมาไล่ยิงฉันถึงที่บ้าน"

"กระทั่งหลังจากเนตรแท้งแกก็ยังไม่มาบอกความจริงกับฉัน ยอมให้ฉันหาเรื่องแกไปเรื่อยๆ จนแทบเปิดบริษัทไม่ได้?"

รุ่งภพยังคงไม่เหลือบตาขึ้นมองเขา กฤตภาสพลันรู้สึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาติดหมัด

"ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษหรืออยากเล่นบทพระเอกอะไรหรอก อีกอย่างตอนนั้นเนตรก็แท้งไปแล้ว การบอกว่าพ่อของเด็กไม่ใช่ฉันมีแต่จะทำให้แกคิดว่าฉันพยายามปัดความรับผิดชอบ อีกอย่างแกเองมีธุรกิจที่ต้องดูแล ฉันก็มีบริษัทของฉันที่ต้องพยายามสร้างให้เป็นรูปเป็นร่างเหมือนกัน ตอนนั้นฉันคิดว่าถ้าเวลาผ่านไปแกคงปล่อยวางแล้วเลิกตอแยฉันไปเอง แต่แกไม่เลิก...ฉันยอมรับว่าฉันโมโหมากตอนที่รู้ว่าพ่อคิดจะเทคโอเวอร์บริษัทของแก เพราะตอนที่กู้เงินพ่อมาทำบริษัทช่วงแรกๆ ฉันไม่เคยอาศัยชื่อพ่อในการหาลูกค้าเลย ฉันอยากให้แกรู้ว่าเคยทำให้ฉันลำบากไว้แค่ไหนกว่าจะลืมตาอ้าปากได้ก็เลยไปห้ามพ่อเอาไว้ แต่ฉันยอมรับว่าไม่ได้ติดตามข่าวของเนตร เลยไม่รู้เรื่องที่เธอป่วยจนสุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย สำหรับเรื่องนั้น...ฉันเสียใจ บางทีฉันอาจจะผิดเองตั้งแต่แรกที่ไม่บอกความจริงว่าพ่อของเด็กไม่ใช่ฉัน บางทีตอนนี้พวกเราคงไม่ต้องมานั่งคุยกันผ่านกระจกแบบนี้"

กฤตภาสเอ่ยจบก็ระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ นี่คือสิ่งที่เขาตั้งใจจะมาพูดกับรุ่งภพหลังจากใช้เวลาคิดมาหลายวันนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล จริงอยู่ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้ป่วยหนักหนาสาหัส แต่เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นลูกโซ่ทำให้กฤตภาสเริ่มคิดถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนรอบตัว และรุ่งภพคือปมแรกที่เขาต้องการจะคลาย

"ถ้าหากรู้ว่าพ่อของเด็กตัวจริงคือใครตั้งแต่ตอนนั้น ฉันคงผลีผลามทำอะไรจนโดนสั่งเก็บไปแล้วก็ได้ แกพูดถูก...ฉันหุนหันเกินไป ไม่ว่าเนตรพูดอะไรก็พร้อมจะเชื่อทั้งที่ส่วนลึกในใจก็สงสัยว่าแกน่ะเหรอจะหักหลังฉัน แต่เพราะแกไม่ปฏิเสธ ฉันก็เลยปักใจเชื่อว่ามันคือความจริง"

"ฉันรู้ว่าถึงพูดตอนนี้ก็คงสายเกินไปแล้วและแกอาจจะไม่อยากได้ยินคำนี้จากฉันก็ได้ แต่ว่า...ฉันขอโทษ"

รุ่งภพกะพริบตาปริบก่อนจะเหลือบมองกฤตภาสอย่างประหลาดใจ ตลอดช่วงเวลาที่รู้จักกันนั้นเขาไม่เคยได้ยินกฤตภาสเอ่ยคำว่าขอโทษกับใครโดยที่เต็มใจหรือหมายความตามที่พูดจริงๆ เลยสักครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงและแววตาของอีกฝ่ายล้วนสะท้อนความรู้สึกเดียวกับคำที่เอ่ยอย่างเต็มเปี่ยม

คนตรงหน้าเขายังคงเป็นกฤตภาส ศิตานนท์ที่รู้จักกันมาตลอดเวลาร่วมสิบกว่าปี แต่มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนของเขาได้เปลี่ยนไป และแม้แต่เจ้าตัวเองก็อาจไม่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เลยด้วยซ้ำ

"ช่างมันเถอะ พวกเราต่างคนต่างก็ทำตัวเอง ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปจะส่งผลยังไงต่ออนาคต แกเองก็คงไม่ทันคิดเหมือนกันว่าการปล่อยให้เนตรโกหกฉันจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ตามมา ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่ต้องก้มหน้าชดใช้สิ่งที่ทำลงไปเท่านั้น"

กฤตภาสไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เขารู้สึกคล้ายกับว่าในที่สุดความยอกแสยงในใจคล้ายมีหนามแหลมทิ่มแทงเพราะเรื่องของรุ่งภพและเนตรนภาก็ถูกยกออกไปเสียที และคำพูดของรุ่งภพในวันนี้ช่างคล้ายกับคำพูดที่พ่อของเขาเอ่ยเมื่อวันที่เข้าโรงพยาบาลไม่มีผิด


'เราไม่รู้หรอกว่าการตัดสินใจในวันนี้จะส่งผลต่อความสุขในอนาคตแค่ไหน'


ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังและรู้ว่าเวลาในการเยี่ยมใกล้จะหมดลงแล้ว ฝ่ายรุ่งภพไม่ได้หันไปมองตามแต่ก็พอจะเดาได้ คนที่อยู่อีกฝั่งของกระจกและลวดตาข่ายจึงเอ่ยขึ้น

"กฤต"

"หือ?"

กฤตภาสส่งเสียงรับในคอผ่านหูโทรศัพท์ เขาดึงสายตากลับมามองเพื่อนอีกครั้ง แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นนัยน์ตาลึกโหลของรุ่งภพมีรอยยิ้ม ถึงแม้ยิ้มนั้นจะไม่ได้แผ่ไปถึงส่วนอื่นของใบหน้าก็ตาม

"ขอบใจมากนะที่มาเยี่ยมวันนี้ ถึงแม้จะเสียใจที่ผู้หญิงที่ฉันรักจากไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่อย่างน้อยฉันก็ดีใจที่ได้เพื่อนกลับมา"

"อืม"

"ใกล้จะหมดเวลาเยี่ยมแล้ว ฉันรู้ว่าแกงานยุ่ง แกไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยมฉันบ่อยๆ หรอก เพียงแต่ฉันขอร้องอะไรสักอย่างได้ไหม?"

กฤตภาสสูดหายใจพลางกระชับมือที่ถือหูโทรศัพท์แน่นขึ้น "ว่ามาสิ"

"ฉันคงไม่มีวันได้พบเจอหรือรักใครอีก ฉันเคยฝันมาตลอดตั้งแต่ตอนที่หมั้นกับเนตรว่าสักวันฉันจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ให้ซ้ำรอยชีวิตตัวเองตอนเด็กที่บ้านแตกสาแหรกขาด ตอนนี้ฉันไม่มีวันที่จะทำความฝันนั้นให้เป็นจริงอีกแล้ว แต่ฉันยังมีแก...แกจะมีความสุขแทนฉันได้ไหม จะมีใครสักคนที่แกยินดีจะรักและทุ่มเทชีวิตให้เขา ทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขเหมือนที่ฉันเคยอยากทำให้เนตรได้ไหม"

"เมฆ..."

"ฉันรู้ ที่ผ่านมาแกไม่เคยรักใคร แต่ละคนที่เข้ามาก็อยู่กับแกได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น ยังไม่เคยมีใครเข้าถึงหัวใจแกได้ แต่แปลกนะ...ที่ฉันสังหรณ์ว่าการที่แกมาหาฉันวันนี้เพราะใครบางคนทำให้แกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่อย่างนั้นต่อให้นึกถึงมิตรภาพที่พวกเราเคยมีกันมาแค่ไหน คนอย่างคุณชายกฤตภาสก็ไม่มีวันจะยอมมาเหยียบเรือนจำแน่ๆ"

"นี่แกเห็นฉันแย่ขนาดนั้นเลยรึ"

กฤตภาสเอ่ยพลางหัวเราะเสียงต่ำในคอ ทว่ารอยยิ้มเบาบางที่อยู่บนริมฝีปากของเขาหาใช่รอยยิ้มหยัน และรอยยิ้มเดียวกันก็สะท้อนอยู่บนใบหน้าของรุ่งภพที่นั่งอยู่อีกฟากของกระจก

"สัญญาสิกฤต แกจะใช้ชีวิตข้างนอกนั่นแทนฉัน แกจะมีความสุขแทนฉัน แกไม่ต้องมาเยี่ยมฉันอีกหรือพาคนรักของแกมาหาฉันก็ได้ แต่อย่างน้อยแกจะรักใครสักคนและใช้ชีวิตเพื่อเขา...แทนในส่วนที่ฉันกับเนตรทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว สัญญาสิ"

หมดเวลาเข้าเยี่ยมแล้ว กฤตภาสมองแผ่นหลังของรุ่งภพที่เดินหายไปหลังประตูอีกฟาก จากนั้นก็ระบายลมหายใจยาวก่อนจะเดินออกมาจากห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง เขาเดินสวนผู้คนในทัณฑสถานออกมาจนกระทั่งถึงรถที่จอดเอาไว้ เมื่อเปิดโทรศัพท์ก็เห็นรายการมิสคอลโดยที่สายล่าสุดคือพ่อของเขาเอง จึงกดโทรกลับเผื่อว่าอีกฝ่ายมีธุระด่วน

"ฮัลโหล?"

"กฤตรึ ไปไหนมา พ่อโทรเข้าบริษัทก็เห็นเขาบอกว่าไม่อยู่"

"ผมมาเยี่ยมเมฆน่ะครับ"

ปลายสายอึ้งงันไป ก่อนที่ผู้สูงวัยจะทวนคำด้วยน้ำเสียงแปลกใจสุดขีด

"ไปเยี่ยมเมฆ? ไปทำไมกัน!?"

"มีบางเรื่องที่ผมอยากจะเคลียร์น่ะครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับพ่อ ตอนนี้ผมกับเมฆ...ไม่มีอะไรติดค้างในใจกันอีกแล้ว"

น้ำเสียงสงบนิ่งของกฤตภาสค่อยทำให้คู่สนทนาวางใจ โกเมทถอนหายใจยาวอย่างนึกปลง จากนั้นจึงค่อยวกกลับเข้าประเด็นที่โทรหาในตอนแรก

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว จริงสิ แล้วคุณมุกได้โทรมาหาหรือยัง?”

“แม่เหรอครับ? พอดีผมเพิ่งเปิดเครื่องเมื่อกี้แล้วเห็นมิสคอลล่าสุดมาจากพ่อก็เลยโทรมาก่อน สงสัยก็คงจะอยู่ในรายการมิสคอลล่ะมั้ง”

กฤตภาสตอบอย่างแปลกใจ แม่ของเขาไม่ค่อยได้โทรมาหาบ่อยนักยกเว้นว่าเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ และเท่าที่จำได้นั้นอีกฝ่ายไม่เคยโทรหาพ่อของเขาเลยนับตั้งแต่หย่าขาดจากกัน จึงค่อนข้างแปลกใจที่ครั้งนี้พ่อกลับรู้ว่าแม่โทรมาหาเขา

“ถ้าอย่างนั้นก็โทรกลับไปหน่อยก็แล้วกัน พอดีคุณยายของแกโทรมาถามพ่อว่าติดต่อแกได้รึเปล่า เพราะว่าคุณมุกกำลังจะกลับมาเมืองไทยอาทิตย์หน้า คงอยากจะนัดให้แกไปรับล่ะมั้ง"

“แม่จะกลับมาอาทิตย์หน้า? เข้าใจแล้วครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรหาแม่เอง”

ชายหนุ่มทวนคำอย่างแปลกใจ เพราะรู้ดีว่าปกติแล้วแม่ของเขาไม่ค่อยอยากกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดถ้าไม่มีธุระจำเป็น ครั้งสุดท้ายที่กลับมาก็เพื่อมาร่วมงานศพของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเมื่อสี่ปีก่อน ดังนั้นหากไม่ใช่เพราะมีเรื่องสำคัญจริงๆ คงไม่บินกลับมาปุบปับโดยไม่เกริ่นกับเขาล่วงหน้าเช่นนี้แน่

หลังจากวางสายแล้วกฤตภาสก็สตาร์ทรถ เขาพยายามครุ่นคิดว่ามีเรื่องใดที่ทำให้แม่ของเขาต้องกลับมาในช่วงนี้หรือไม่แต่ก็นึกไม่ออก สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจขับรถกลับบริษัทก่อน เพราะว่าด้วยสภาพอารมณ์ในตอนนี้...เขายังไม่อยากคุยกับผู้ให้กำเนิดอีกคนในเวลานี้เท่าไรนัก


   
++---TBC---++
 


A/N: ความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาหลังเขียนตอนนี้จบก็คือ...นี่เป็นนิยายที่ยาวที่สุดที่เคยเขียนมาเลยแฮะ แต่สำหรับคนอ่านคงอยากรู้มากกว่าว่าเมื่อไหร่ตากฤตกับน้องตี้จะได้เจอกันซักที  :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
 :z13: :z13: :z13:

จิ้มก่อนอ่านนนนนนนนน  :katai5:


...จริง เมื่อไหร่จะเจอกัน หรือยังไม่ต้องเจอก้ได้ แต่ให้มันมีอะไรรีเลทกันบ้างเห้ออออออออออ รู้สึกตัวอีกที ทั้งคู่ก็ต่างคนต่างใช้ชีวิตไปเงียบๆพร้อมทำใจจากลา (รีเปล่า?!?) กันไปล่ะ 555 แล้วก็รอว่าเมื่อไหร่อิกฤตมันจะได้กินมาม่าต้มแซ่บซะที ต้มน้ำมาซักพักล่ะ แลจะไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นะ ชิส์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2014 19:36:28 โดย ppoi »

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ เรื่องที่อยากรู้ว่าคุณกฤตกับน้องตี้จะได้เจอกันเมื่อไหร่  เพราะตอนที่แล้วก็ทำเอาลุ้นซะเกร็งไปหมด  พอมาก็ยังไม่เจอกัน  แถมน้องตี้ยังไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคุณกฤต  ซึ่งมันรู้สึก  ไม่คืบหน้ามาก ๆ ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้  ทำเอานอยด์เลยนะเนี่ย  แต่ที่เห็นชัดเจนก็คือความคิดที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นของคุณกฤต  อย่างที่เพ่ื่อนของเจ้าตัวว่า  ก็ถือเป็นการเปลี่ยนไปในทางบวก  เป็นกำลังใจให้ตามหาหัวใจตัวเองต่อไป

มาต่อไว ๆ น๊าาาา    :katai5: 


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2014 20:20:25 โดย Pam_ban »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เมื่อไหร่กฤตกะตี้จะเข้าใจกันล่ะ

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
สำหรับเรากฤตกับตี้จะได้เจอกันตอนไหนเรายังไม่สนใจและลุ้นเท่ากับว่า
กฤตมันจะได้รับกรรมที่มันเคยทำเลวที่ชั่วกับตี้ตอนไหนมากกว่า
เพราะยังๆสองคนนี้มันก็ต้องเจอกกันอยู่แล้ว แต่ไอกฤตมันจะสำนึกจะเจ็บปวดและได้รับกรรม
ตอนไหนและจะเจอกับอะไรบ้างนี่สิที่เราอยากรู้และก็ไม่รู้ว่าจะมีตอนนั้นด้วยรึเปล่าอ่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ไม่เจอกันก็ไม่เป็นไร เอาแบบตี้เจอคนใหม่ดีๆ ไปเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
นั่นสิ กฤตกับตี้จะได้เจอกันตอนไหนอ่าาา  :katai1:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
เหมือนจะค่อยๆคลายไปทีละปม
รอวันทั้งสองหวนพบกันอีกครั้ง

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
บวกหนึ่ง บวดเป็ด ค่ะ
รอตี้กับคุณกฤตเจอกัน
อยากรุ้ว่าคุณกฤตจะทำยังไงให้ตี้กลับมามีความรุ้สึกดีๆให้กันอีกครั้ง
และแม่ของคุณกฤตจะกลับมาทำไม มีเรื่องอะไรสำคัญ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
สำหรับเรากฤตกับตี้จะได้เจอกันตอนไหนเรายังไม่สนใจและลุ้นเท่ากับว่า
กฤตมันจะได้รับกรรมที่มันเคยทำเลวที่ชั่วกับตี้ตอนไหนมากกว่า
เพราะยังๆสองคนนี้มันก็ต้องเจอกกันอยู่แล้ว แต่ไอกฤตมันจะสำนึกจะเจ็บปวดและได้รับกรรม
ตอนไหนและจะเจอกับอะไรบ้างนี่สิที่เราอยากรู้และก็ไม่รู้ว่าจะมีตอนนั้นด้วยรึเปล่าอ่ะ  :katai1:

ต้องให้ถึงตายไหมคะถึงจะพอใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เจอแล้วต้องเมินน่ะตี้

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เมื่อไรจะได้เจอกันอ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณกฤตกำลังสางปมปัญหาชีวิต คุณนายแม่จะเข้ามาสร้างปมใหม่อีกหรือเปล่า
ส่วนน้องตี้รอก่อนนะ ให้อิตาคุณกฤตแกสำนึกให้หนัก ๆ ซะก่อน

ออฟไลน์ Kaewkaew

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
กรีดร้อง คุณกฤตตตตตต !!!!!  หวายยยยย ทำดีทำดี
รอที่จะเจอและเคลียร์กับน้องตี้อีกนะ ฮึบ!!!!!
อยากอ่านต่อแล้ววววว คนเขียนสู้ๆ นะครับ เป ้นก_ลังใจให้
รออยู่555555

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
อย่ายืดตอนให้ยาวเหมือนละครหลังข่าวช่องหลายสีนะคะ   :katai4:

มาเห๊อะ เจอกันได้แล้ว    :m16:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
ให้เวลาคนหนึ่งเพื่อลืม อีกคนเพื่อให้เข้าใจ
แต่ลืมยากแล้วก็เข้าใจยากเนอะ2คนนี้
หนีไปหาน้องขลุ่ยดีกว่า ใสใสใช่มั้ย  :man1:



ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
ต้องให้ถึงตายไหมคะถึงจะพอใจ
v
v
v
ไม่ต้องถึงตายเพราะถ้ามันตายคนที่จะเจ็บปวดและสงสารมันจะกลายเป็นตี้ทันที แค่นี้เราก็แทบจะร้องไห้ตามตี้แล้ว
แต่เอาให้มันเจ็บปวดพอๆกับตี้ให้คนอ่านได้รู้สึกสงสารจนสามารถให้อภัยมันได้
เพราะตอนนี้บอกเลยครับว่าเรายังไม่ได้รู้สึกว่ากฤตจะสำนึกกับสิ่งที่มันทำเลยซักนิด เหมือนกฤตมันไม่ได้รู้สึกว่า
สิ่งที่ตัวเองทำมันผิดอะไร ยังเฉยๆไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับการกระทำที่มันทำกับตี้
อย่าลืมนะครับว่าที่กฤตทำมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ทั้งบังคับข่มขู่แบล็คเมล์ แล้วยังมาทำร้ายจิตใจตี้
แบบว่าไม่แคร์ไม่สนใจความรู้สึกของตี้เลยเรื่องที่นักข่าวถ่ายรูปจูบกันอ่ะ
ถ้าจะไม่ให้เราโกรธหรือเสียความรู้สึกกับตัวละครตัวนี้เลย มันคงเป็นไปไม่ได้เลยแน่ๆ
ก็คุณแต่งให้มันเลวจะมาให้เรารักเราชอบหรือเชียร์สนับสนุนตัวละครมันคงเป็นไปไม่ได้นะครับอย่าลืมจุดนี้
แม้ความจริงกฤตมันอาจจะไม่ได้เลว ป่าเถื่อน โหดร้ายมากมายเหมือนพระเอกเรื่องอื่นๆ
แต่ก็อยู่ในหมวดเลวบริสุทธิ์อยู่ดี ยังไงก็ฝากคนแต่งจัดการมันให้ทีนะครับฝาก :beat:  :z6: มันซักทีสองที
จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง หรือไม่ก็หาผู้ชายแซ่บๆมาปนเปรอน้องตี้ของเรา
รอให้อีตากฤตมันได้รู้ใจตัวเองเร็วๆซักที กราบงามๆล่ะคราฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ :hao5:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น้องตี้ยังเจ็บลึกจนไม่อยากเล่าให้ใครฟัง เศร้าเนอะ
คุณกฤตดูจะเป็นคนดีขึ้น ใส่ใจอะไรมากขึ้น แต่คงไม่รู้สึกอะไร จนกว่าจะได้เจอน้องอีกครั้งมั้ง
ถึงจะรู้ตัวว่ารักเขา อยากให้เจอกันค่ะ แต่มันก็มีครรลองของมัน จะรอนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
ลุ้นๆๆๆๆๆ ทั้งสองต่างก็มีแผลใจ แต่ ณ จุดนี้เราเชียร์น้องตี้มากกว่านะ เนื่องจากหมั่นไส้คุณกฤตมาก  :katai5:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เจอกันซะทีสิตากฤตน้องตี้ คิดถึงแล้วนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด